The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือสมุนไพรใกล้มือบุญเรือง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by thitichaya380, 2021-06-01 04:26:13

คู่มือสมุนไพรใกล้มือบุญเรือง

คู่มือสมุนไพรใกล้มือบุญเรือง

ค่มู ือส่งเสรมิ สขุ ภาพผูส้ งู อายุ

สมุนไพรใกลม้ อื

School of Traditional and Alternative Medicine

คานา

คู่มือส่งเสริมสุขภาพผูส้ ูงอายุเล่มน้ี มีวตั ถุประสงคจ์ ดั ทาํ ข้ึนเพื่อเป็นการใหค้ วามรู้เก่ียวกบั
สมุนไพรใกลม้ ือที่สามารถนาํ มาใช้ทาํ การรักษาบาํ บดั อาการเจ็บป่ วยในเบ้ืองตน้ ดว้ ยตนเองได้
โดยสมุนไพรส่วนใหญ่ท่ีทาํ การแนะนาํ เป็ นสมุนไพรที่ใชใ้ นการรักษาบรรเทาอาการเจ็บป่ วยใน
โรคกระดูกและขอ้ โรคเลือดลม โรคทอ้ งไส้ โรคทางเดินหายใจและโรคผิวหนงั ซ่ึงภายในคู่มือ
ส่งเสริมสุขภาพผูส้ ูงอายุเล่มน้ีมีเน้ือหาประกอบไปดว้ ยความรู้ต่างๆ เช่น ช่ือเรียกตามทอ้ งถิ่น
ส่วนท่ีใช้ สรรพคุณ วธิ ีและปริมาณที่ใช้ ขอ้ ควรระวงั และแหล่งท่ีมาของขอ้ มูลสมุนไพร

โดยผูจ้ ดั ทาํ หวงั เป็นอย่างยง่ิ ว่าคู่มือส่งเสริมสุขภาพผสู้ ูงอายเุ ล่มน้ีจะสามารถใหป้ ระโยชน์
และความรู้แก่ผูอ้ ่านทุกๆ ท่าน ซ่ึงหากมีขอ้ แนะนาํ เพิ่มเติมหรือมีขอ้ ผิดพลาดประการใด ผูจ้ ดั ทาํ
ขอนอ้ มรับไวแ้ ละขออภยั มา ณ ท่ีน้ี

ผจู้ ดั ทาํ

สมุนไพรใกลม้ อื ก

สารบัญ

เรื่อง หน้า

คานา ก

สารบัญ ข
1. กระเทียม 1
2. ขมิ้นชนั 2
3. ขิง 3
4. ข่า 4
5. ตะไคร้ 5
6. บอระเพด็ 6

7. เสลดพงั พอนตวั เมีย (พญายอ) 7
8. มะกรูด 8
9. กลว้ ยน้าํ วา้ 9
10. ฟ้าทะลายโจร 10
11. มะนาว 11
12. ยอ 12
13. ตาํ ลึง 13
14. หอมแดง 14
15. กะเพรา 15
16. ไพล 16

สมุนไพรใกลม้ อื ข

1.กระเทียม

ท่ีมาของรูปภาพ : https://www.disthai.com/16488280/กระเทียม

ชื่อท้องถิน่ : หวั เทียม (ภาคใต)้ , หอมเตียม (ภาคเหนือ), กระเทียมขาว หอมขาว (อุดรธานี), ปะเซ้วา (กะเหร่ียง),
ผกั หมี่ขาว ผกั หมี่หอ (ไทยใหญ่)
ส่วนทใี่ ช้ : หวั หรือกลีบ
สรรพคุณ : ใช้ภายในเป็ นยาขบั ลม แกล้ มจุกเสียด แกท้ อ้ งอืดทอ้ งเฟ้อ แกธ้ าตุพิการ อาหารไม่ยอ่ ย ขบั เสมหะ
และใชภ้ ายนอกเป็นยารักษาแผลเร้ือรัง รักษากลากเกล้ือน แกโ้ รคผวิ หนงั
วธิ ีและปริมาณทใี่ ช้ :

1) สําหรับใชเ้ ป็ นยารักษาอาการทอ้ งอืดทอ้ งเฟ้อแน่นจุกเสียดให้นาํ กระเทียมประมาณ 5-10 กลีบ
มาซอยละเอียดแลว้ รับประทานหลงั อาหารหรือพร้อมอาหาร

2) สาํ หรับใชร้ ักษากลากเกล้ือนใหฝ้ านหรือตาํ กระเทียมแลว้ นาํ มาทาบริเวณที่มีอาการ วนั ละ 2 คร้ัง
โดยก่อนจะทาแนะนาํ ใหใ้ ชไ้ มบ้ างๆ เล็กๆ ที่ฆ่าเช้ือโรคแลว้ ดว้ ยการแช่ในแอลกอฮอล์ 70% หรือตม้ ในน้าํ เดือด
10-15 นาที ขดู บริเวณที่เป็นใหผ้ วิ หนงั แดงๆ ก่อน เพอื่ ใหต้ วั ยาซึมลงไปไดด้ ีข้ึน ซ่ึงเมื่อหายแลว้ ควรทายาต่ออีก
ประมาณ 7-10 วนั เพอ่ื ใหส้ ามารถฆา่ เช้ือราไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ
ข้อควรระวงั มกั จะไม่ก่อให้เกิดอนั ตรายแก่ผูบ้ ริโภค แต่อาจก่อให้เกิดผลขา้ งเคียงในบางราย เช่น มีกลิ่นปาก
มีกล่ินตวั รู้สึกแสบร้อนในปาก ช่องทอ้ ง กลางอก หรือเกิดอาการแพร้ ะคายเคืองอยา่ งรุนแรงที่ผวิ หนงั
ทม่ี าของข้อมูล : ฐานขอ้ มูลเคร่ืองยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั อุบลราชธานี

สมุนไพรใกลม้ อื 1

2.ขม้นิ ชัน

ที่มาของรูปภาพ : http://www.thaicrudedrug.com/main.php?action=viewpage&pid=34

ชื่อท้องถ่ิน : ขมิ้น, ขมิ้นแดง, ขมิ้นหยวก, ขมิ้นหัว,ขมิ้นแกง (เชียงใหม่), ข้ีมิ้น (ภาคใต)้ , ตายอด (กะเหรี่ยง
กาํ แพงเพชร), สะยอ (แม่ฮอ่ งสอน) หมิ้น (ตรัง)
ส่วนทใี่ ช้ : เหงา้ สดและเหงา้ แหง้
สรรพคุณ : ใชภ้ ายในช่วยเจริญอาหาร แกท้ อ้ งอืดเฟ้อ แน่น จุกเสียด รักษาอาการทอ้ งมาน แกท้ อ้ งเสีย แกบ้ ิด
และใชภ้ ายนอกช่วยลดอาการฟกช้าํ บวม สมานแผลสดและแผลถลอก แกโ้ รคผวิ หนงั ผน่ื คนั รักษาฝี แผลพุพอง
ลดอาการแพ้ อกั เสบจากแมลงสัตวก์ ดั ต่อย
วธิ ีและปริมาณทใี่ ช้ :

1) สาํ หรับใชเ้ ป็ นยาภายในใหน้ าํ เหงา้ ขมิ้นลา้ งหน่ั เป็ นแวน่ ชิ้นบางๆ ไปตากแดดใหแ้ ห้ง แลว้ นาํ มา
บดใหล้ ะเอียด ผสมกบั น้าํ ผ้ึงแลว้ ป้ันเป็ นเม็ดเล็กๆ เท่าปลายนิ้วกอ้ ยรับประทานวนั ละ 3 คร้ัง คร้ังละ 2-3 เม็ด
หลงั อาหารและช่วงก่อนนอน หรืออาจจะนาํ มาขูดเปลือกออกลา้ งน้าํ ให้สะอาดตาํ ค้นั เอาแต่น้าํ รับประทาน
คร้ังละ 2 ชอ้ นโตะ๊ วนั ละ 3-4 คร้ัง

2) สาํ หรับใชภ้ ายนอกให้ใชเ้ หงา้ ขมิ้นแก่สดฝนกบั น้าํ สุก ทาบริเวณที่เป็ นฝี แผลพุพอง หรืออกั เสบ
จากแมลงสัตวก์ ดั ตอ่ ย, ใชเ้ หงา้ แก่แหง้ บดเป็นผงละเอียดทาบริเวณที่เป็ นเมด็ ผนื่ คนั
ข้อควรระวัง : ห้ามใช้ในผูป้ ่ วยท่ีมีการอุดตนั ของท่อน้าํ ดีและห้ามใช้ในหญิงมีครรภ์ ร่วมถึงไม่ควรใช้ใน
ปริมาณท่ีมากเกินไป เน่ืองจากจะทาํ ให้เกิดแผลในกระเพาะ และควรระมดั ระวงั ใช้ร่วมกบั ยาตา้ นการแข็งตวั
ของเลือด เน่ืองจากอาจทาํ ใหเ้ ลือดแขง็ ตวั ชา้ และหยดุ ไดย้ าก
ทม่ี าของข้อมูล : ฐานขอ้ มูลเคร่ืองยา คณะเภสชั ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั อุบลราชธานี

สมุนไพรใกลม้ อื 2

3.ขิง

ท่ีมาของรูปภาพ : https://www.disthai.com/ขิง

ชื่อท้องถ่ิน : ขิงแดง, ขิงแกลง (จนั ทบุรี) ขิงบา้ น, ขิงแครง, ขิงป่ า, ขิงเขา, ขิงดอกเดียว (ภาคกลาง), ขิงเผือก
(เชียงใหม)่ , สะแอ (แมฮ่ อ่ งสอน-กระเหรี่ยง), เกีย (จีนแตจ้ ๋ิว)
ส่วนทใ่ี ช้ : เหงา้
สรรพคุณ : ช่วยขบั ลมในลาํ ไส้ใหผ้ ายลมและเรอ รักษาอาการทอ้ งอืด เฟ้อ เสียดทอ้ งอาหารไม่ยอ่ ย แกค้ ลื่นไส้
อาเจียน ขบั เหง่ือ แกไ้ อ ขบั เสมหะ รักษาอาการหวดั
วธิ ีและปริมาณทใ่ี ช้ : สาํ หรับบรรเทาอาการทอ้ งอืด ขบั ลม จุกเสียด แน่นทอ้ ง คลื่นไส้ อาเจียน ให้นาํ ขิงแก่สด
ขนาด 2 หวั แม่มือ หรือน้าํ หนักประมาณ 5 กรัม มาลา้ งให้สะอาดแล้วทุบให้แตกไปตม้ เอาน้าํ ด่ืมคร้ังละ 1/3
ถว้ ยแกว้ วนั ละ 3 คร้ังหลงั อาหาร หรือสามารถใชจ้ ิบบอ่ ยๆ แทนน้าํ เพอ่ื บรรเทาอาการหวดั ก็ได้
ข้อควรระวงั : หากรับประทานเขา้ ไปในปริมาณที่มากก็จะสามารถทาํ ใหเ้ ยื่อบุภายในช่องปากเกิดการอกั เสบ
จนเป็ นอาการร้อนในได้
ทมี่ าของข้อมูล : ฐานขอ้ มูลเคร่ืองยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั อุบลราชธานี

สมุนไพรใกลม้ อื 3

4.ข่า

ที่มาของรูปภาพ : https://www.baania.com/th/article/ข่า-สมนุ ไพรคูบ่ า้ นปลูกง่ายไดป้ ระโยชน์-5ef810ff159c3b4f39ffdd2e

ช่ือท้องถิน่ : ขา่ หยวก ข่าหลวง (ภาคเหนือ) กฎุกกโรหิณี (ภาคกลาง) เชียงง่าว (ปะหล่อง) สะเอเชย (กะเหร่ียง)
หวั ข่า(ไทยใหญ่)
ส่วนทใ่ี ช้ : เหงา้
สรรพคุณ : เป็ นยารสเผด็ ร้อนสามารถช่วยขบั ลม บาํ รุงธาตุ เป็ นยาระบายอ่อนๆ แกไ้ อ ช่วยยอ่ ยอาหาร แกบ้ ิด
แกป้ วดทอ้ งจุกเสียด กินแกโ้ รคปวดขอ้ และโรคหลอดลมอกั เสบ
วธิ ีและปริมาณทใี่ ช้ :

1) ยาพ้ืนบา้ นอีสานจะใชเ้ หงา้ บดเป็นผงละลายน้าํ หรือตม้ น้าํ ด่ืมเป็นยาขบั ลม แกท้ อ้ งอืดทอ้ งเฟ้อ
2) ใชเ้ หงา้ แก่สดแกโ้ รคน้าํ กดั เทา้ โดยใช้ 1-2 หวั แม่มือ ตาํ ให้ละเอียดแลว้ เติมเหลา้ ให้พอท่วม ทิ้งไว้
ประมาณ 2 วนั จึงใชส้ าํ ลีชุบทาวนั ละ 3-4 คร้ัง หรือทาลมพษิ บ่อยๆจนกวา่ จะดีข้ึน
ข้อควรระวัง : ผปู้ ่ วยนิ่วในถุงน้าํ ดีควรหลีกเลี่ยง เน่ืองจากข่ามีฤทธ์ิในการขบั น้าํ ดี และไม่ควรรับประทานใน
ปริมาณมากเกินไป เน่ืองจากอาจมีผลทาํ ใหห้ วั ใจเตน้ เร็วผิดปกติ โดยเฉพาะในหญิงต้งั ครรภอ์ าจทาํ ให้แทง้ ได้
ร่วมถึงในบางรายอาจมีอาการแพเ้ กิดข้ึน เช่น ผนื่ แดงตามตวั วงิ เวยี นศีรษะ เป็นตน้
ทม่ี าของข้อมูล : ฐานขอ้ มูลเคร่ืองยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั อุบลราชธานี

สมุนไพรใกลม้ อื 4

5.ตะไคร้

ท่ีมาของรูปภาพ : https://puechkaset.com/ตะไคร้

ช่ือท้องถิ่น : จกั ไคร (ภาคเหนือ), คาหอม (ไทใหญ่แม่ฮ่องสอน), ไคร (ภาคใต)้ , สิงไคร, หวั สิงไคร (อีสาน),
ห่อวอตะโป่ (กะเหรี่ยงแมฮ่ อ่ งสอน), เชิดเกรย, เหลอะเกรย (เขมร)
ส่วนทใ่ี ช้ : เหงา้ และลาํ ตน้
สรรพคุณ : ช่วยขบั ลม ลดอาการทอ้ งอืดทอ้ งเฟ้อแน่นจุกเสียด แกโ้ รคทางเดินปัสสาวะ แกอ้ าการขดั เบา
วธิ ีและปริมาณทใี่ ช้ :

1) กรณีใชร้ ักษาอาการขดั เบา ให้นาํ เหงา้ และลาํ ตน้ สดหรือแห้ง 1 กาํ มือ หรือน้าํ หนกั สด 40-60 กรัม
แห้ง 20-30 กรัม ทุบตม้ กบั น้าํ พอควร แบ่งดื่ม 3 คร้ัง คร้ังละ 1 ถว้ ยชา (75 มิลิลิตร) ก่อนอาหาร หรือจะห่ัน
ตะไคร้ควั่ ดว้ ยไฟอ่อนๆ พอเหลือง ชงด้วยน้าํ เดือด ปิ ดฝาทิ้งไว้ 5-10 นาที ดื่มแต่น้าํ 3 คร้ัง คร้ังละ 1 ถว้ ยชา
ก่อนอาหาร

2) กรณีใชร้ ักษาทอ้ งอืดทอ้ งเฟ้อแน่นจุกเสียด ใหน้ าํ เหงา้ และลาํ ตน้ สด 1 กาํ มือ น้าํ หนกั 40-60 กรัม
ทุบพอแตกตม้ กบั น้าํ 2 ถว้ ยแกว้ เดือด 5-10 นาที ดื่มแต่น้าํ คร้ังละ 1/2 แกว้ วนั ละ 3 คร้ังหลงั อาหาร
ข้อควรระวัง : คนที่กาํ ลงั ต้งั ครรภจ์ ึงไม่ควรกินตะไคร้เด็ดขาด เนื่องจากจะทาํ ให้กลา้ มเน้ือมดลูกบีบตวั อยา่ ง
รุนแรงจนเสี่ยงตอ่ การแทง้ ได้ เน่ืองจากตะไคร้มีฤทธ์ิทาํ ใหก้ ลา้ มเน้ือเรียบบีบตวั
ทมี่ าของข้อมูล : ฐานขอ้ มูลเคร่ืองยา คณะเภสชั ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั อุบลราชธานี

สมุนไพรใกลม้ อื 5

6.บอระเพด็

ท่ีมาของรูปภาพ : httpshttps://www.disthai.com/16913475/บอระเพด็

ช่ือท้องถิ่น : จุง้ จาลิง, จุ่งจิง, เครือเขาฮอ (ภาคเหนือ), เจตมูลหนาม (หนองคาย), หางหนู (อุบลราชธานี),
เถาหวั ดว้ น, ตวั เจตมูลยาน (สระบุรี)
ส่วนทใ่ี ช้ : เถา
สรรพคุณ : แก้ไขท้ ุกชนิด เป็ นยาขมเจริญอาหาร ช่วยยอ่ ย บาํ รุงน้าํ ดี แกโ้ รคกระเพาะอาหาร บาํ รุงร่างกาย
แกร้ ้อนใน แกท้ อ้ งเสีย
วธิ ีและปริมาณทใ่ี ช้ :

1) กรณีใชร้ ักษาอาการไขแ้ ละอาการเบ่ืออาหารจะใชเ้ ถาที่โตเตม็ ท่ียาวประมาณ 1-1 1/2 ฟุต (2.5 คืบ)
น้าํ หนกั 30-40 กรัม มาตาํ เติมน้าํ เล็กนอ้ ย ค้นั เอาน้าํ หรือตม้ กบั น้าํ 3 ส่วน เคี่ยวใหเ้ หลือ 1 ส่วน หรือบดเป็ นผง
ทาํ ใหเ้ ป็นลูกกลอนรับประทานวนั ละ 2 คร้ัง ก่อนอาหาร เชา้ เยน็

2) กรณีใชแ้ กโ้ รคกระเพาะอาหารดว้ ยการใชบ้ อระเพด็ 5 ส่วน / มะขามเปี ยก 7 ส่วน / เกลือ 3 ส่วน /
น้าํ ผ้งึ พอควร นาํ มาคลุกเคลา้ ใหเ้ ขา้ กนั แลว้ รับประทานก่อนอาหาร 3 เวลา
ข้อควรระวงั : หากใชใ้ นปริมาณมากและเป็นระยะเวลานาน อาจทาํ ใหเ้ กิดอาการผดิ ปกติของการทาํ งานของตบั
และไตได้ ดงั น้นั จึงหา้ มใชใ้ นผทู้ ี่มีภาวะเอนไซมต์ บั บกพร่อง หรือผปู้ ่ วยท่ีมีประวตั ิเป็ นโรคตบั หรือโรคไต
ทม่ี าของข้อมูล : ฐานขอ้ มูลเคร่ืองยา คณะเภสชั ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั อุบลราชธานี

สมุนไพรใกลม้ อื 6

7.เสลดพงั พอนตวั เมยี (พญายอ)

ท่ีมาของรูปภาพ : https://www.disthai.com/16913677/เสลดพงั พอนตวั เมีย

ช่ือท้องถ่นิ : เสลดพงั พอนตวั เมีย, พญาปลอ้ งทอง พญาปลอ้ งดาํ (ภาคกลาง), พญาปลอ้ งคาํ (ลาํ ปาง), ผกั มนั ไก่,
ผกั ลิ้นเขียด (เชียงใหม่), โพะโซ่จาง (กะเหรี่ยง), ชิงเจ้ียง หนิ่วซิ้วฮวา (จีนกลาง)
ส่วนทใ่ี ช้ : ใบและรากสด
สรรพคุณ : ใช้ถอนพิษโดยเฉพาะพิษแมลงสัตวก์ ดั ต่อย ตะขาบ แมลงป่ อง รักษาอาการอกั เสบ งูสวดั ลมพิษ
แผลน้าํ ร้อนลวก ปรุงเป็นยาขบั ปัสสาวะ ขบั ประจาํ เดือน แกป้ วดเมื่อยบ้นั เอว
วธิ ีและปริมาณทใี่ ช้ : รักษาอาการอกั เสบ ถอนพษิ รักษาแผลร้อนในในปาก เริม งูสวดั

1) ใชใ้ บเสลดพงั พอน 10-20 ใบ (เลือกใบสีเขียวเขม้ สดเป็นมนั ไม่อ่อนไม่แก่จนเกินไป)นาํ มาตาํ ผสม
กบั เหลา้ หรือน้าํ มะนาว ค้นั เอาน้าํ ด่ืมหรือเอาน้าํ ทาแผลและเอากากพอกแผล

2) ใชใ้ บเสลดพงั พอน 1,000 กรัม หมกั ใน alcohol 70 % 1,000 ซีซี. หมกั ไว้ 7 วนั นาํ มากรองแลว้ เอา
ไประเหยให้เหลือ 500 ซีซี. เติม glycerine pure ลงไปเท่ากับจาํ นวนท่ีระเหยไป (500 ซีซี.) นําน้ํายา
เสลดพงั พอนกรีเซอรีนที่ไดท้ าแผลเริม งูสวดั แผลร้อนในปาก ถอนพิษต่างๆ
ข้อควรระวงั : สตรีมีครรภห์ ้ามรับประทานสมุนไพรชนิดน้ี และหากใชแ้ ลว้ แผลไม่ดีข้ึน หรือมีการติดเช้ือเป็ น
หนองจนลุกลามไปยงั บริเวณอื่นควรรีบไปพบแพทย์
ทมี่ าของข้อมูล : https://www.disthai.com/16913677/เสลดพงั พอนตวั เมีย,
https://www.komchadluek.net/news/agricultural/242917

สมุนไพรใกลม้ อื 7

8.มะกรูด

ท่ีมาของรูปภาพ : https://www.disthai.com/16913718/มะกรูด

ชื่อท้องถ่นิ : มะขดู , มะขนุ (ภาคเหนือ), ส้มมว่ั ผ,ี ส้มกรูด (ภาคใต)้ , โกร้ยเชีด (เขมร), มะขู (แม่ฮอ่ งสอน)
ส่วนทใ่ี ช้ : ผล
สรรพคุณ : เป็นยาขบั ลมในลาํ ไส้ แกแ้ น่น ขบั ระดู ขบั ผายลม บาํ รุงหวั ใจ และทาํ ใหเ้ ส้นผมดกดาํ เป็นเงางาม
วธิ ีและปริมาณทใี่ ช้ :

1) กรณีใช้ขับลมในลําไส้ แก้แน่น แก้เสมหะ ให้ฝานผิวมะกรูดสดเป็ นชิ้นเล็กๆ 1 ช้อนแกง
เติมการบูรหรือพิมเสน 1 หยิบมือ ชงดว้ ยน้าํ เดือดแช่ทิ้งไว้ ดื่มแต่น้าํ รับประทาน 1-2 คร้ัง ถา้ ยงั ไม่ทุเลาให้
กินติดต่อกนั 2-3 วนั

2) กรณีใชส้ ระผมใหด้ กดาํ เงางามและรักษาชนั นะตุ ใหใ้ ชผ้ ลสดผา่ เป็ น 2 ชิ้น นาํ ไปยีบนผมหลงั จาก
สระผมเสร็จแลว้ (น้าํ มะกรูดเป็ นกรดจะทาํ ให้ผมสะอาด) และลา้ งเอาสมุนไพรออกให้หมด หรือจะนาํ ผลไป
เผาไฟก่อนค่อยนาํ มาใชส้ ระผมก็ได้
ข้อควรระวัง : ควรระวงั การใชม้ ะกรูดในปริมาณที่มากเกินไป เนื่องจากอาจทาํ ใหผ้ ปู้ ่ วยโรคเบาหวานมีระดบั
น้าํ ตาลในเลือดลดลงมากกวา่ ระดบั ปกติ และอาจทาํ ใหไ้ ปลดระดบั โพแทสเซียมในเลือดได้ ส่งผลให้เกิดอาการ
ปวดกลา้ มเน้ือและอาการกลา้ มเน้ือกระตุกได้
ทม่ี าของข้อมูล : http://www.thaicrudedrug.com/main.php?action=viewpage&pid=99

สมุนไพรใกลม้ อื 8

9.กลว้ ยน้าว้า

ท่ีมาของรูปภาพ : http://otop.dss.go.th/index.php/en/knowledge/interesting-articles/183-2018-06-04-06-37-52

ช่ือท้องถิ่น : กลว้ ยใต้ (ภาคเหนือ) กลว้ ยตานีออ่ ง, กลว้ ยอ่อง (ภาคอีสาน) กลว้ ยมะลิอ่อง (ภาคตะวนั ออก), ปิ ซงั
(มาเลเซีย, อินโดนีเซีย) ซาจิง (ฟิ ลิปปิ นส์), เง็กเปาตี (พมา่ ) ซิกนมั วา (กมั พชู า)
ส่วนทใ่ี ช้ : ผล
สรรพคุณ : รักษาโรคกระเพาะ แกท้ อ้ งเสีย ยาอายวุ ฒั นะ แกโ้ รคบิด รักษาแผลไฟไหม้ น้าํ ร้อนลวก แกร้ ิดสีดวง
วธิ ีและปริมาณทใ่ี ช้ :

1) กรณีใชแ้ กท้ อ้ งเดินทอ้ งเสียใหน้ าํ กลว้ ยน้าํ วา้ ดิบหรือห่ามมาปอกเปลือก หน่ั เป็นชิ้นบางๆ ใส่น้าํ พอ
ท่วมยา ต้มนานคร่ึงชั่วโมง ดื่มคร้ังละ 1/2 - 1 ถ้วยแก้ว โดยให้ดื่มทุกคร้ังที่ถ่าย หรือทุกๆ 1-2 ชั่วโมง
ใน 4-5 ชว่ั โมงแรก หลงั จากน้นั ใหด้ ่ืมทุกๆ 3-4 ชวั่ โมง หรือวนั ละ 3-4 คร้ัง หรืออาจจะใชเ้ น้ือกลว้ ยน้าํ วา้ ห่าม
รับประทาน หรือใชก้ ลว้ ยน้าํ วา้ ดิบฝานเป็นแวน่ ตากแหง้ รับประทานกไ็ ด้

2) กรณีใช้แก้ทอ้ งผูก ให้รับประทานกล้วยน้าํ วา้ สุกงอม คร้ังละ 2 ผล วนั ละ 3 คร้ัง ก่อนอาหาร
1/2 ชว่ั โมง เวลารับประทานควรเค้ียวใหล้ ะเอียดที่สุด

3) กรณีใช้แก้โรคกระเพาะให้นาํ กล้วยน้าํ วา้ ดิบ (ถ้าเป็ นกล้วยกกั มุกดิบจะดีกว่า) มาปอกเปลือก
แลว้ นาํ เน้ือมาฝานเป็ นแผ่นบางๆ ตากแดด 2 วนั ให้แห้งกรอบ บดเป็ นผงให้ละเอียดใช้รับประทาน คร้ังละ
1-2 ชอ้ นโตะ๊ ละลายน้าํ ขา้ ว น้าํ ผ้งึ (น้าํ ธรรมดาก็ได)้ รับประทานก่อนอาหารคร่ึงชว่ั โมง และก่อนนอนทุกวนั
ข้อควรระวงั : ไม่ควรรับประทานกลว้ ยน้าํ วา้ ที่ห่ามหรือสุกในปริมาณมาก และติดต่อกนั ในปริมาณมากเกินไป
ทมี่ าของข้อมูล : http://www.rspg.or.th/plants_data/herbs/herbs_13_1.htm

สมุนไพรใกลม้ อื 9

10.ฟ้ าทะลายโจร

ที่มาของรูปภาพ : https://www.disthai.com/16941261/ฟ้าทะลายโจร

ช่ือท้องถ่ิน : น้าํ ลายพงั พอน, ขุนโจรห้าร้อย (ภาคกลาง,กรุงเทพ), สามสิบดี (ร้อยเอ็ด), ฟ้าสาง (สกลนคร),
เขยตายายคลุม (ราชบุรี), หญา้ กนั งู (สงขลา), ฟ้าสะทา้ น (พทั ลุง), เมฆทะลาย (ยะลา), ชวนซิน, เจ๊กเก้ียงฮ้ี,
โขวเ่ ซ่า, ซีปังฮี (จีน)
ส่วนทใี่ ช้ : ใบสดหรือท้งั ตน้
สรรพคุณ : รักษาไข้ ไขห้ วดั ดบั พิษร้อน ระงบั อกั เสบในอาการไอ เจบ็ คอ ช่วยขบั เสมหะ ทาํ ให้เจริญอาหาร
แกก้ ระเพาะอาหารอกั เสบ หรือการติดเช้ือท่ีทาํ ใหม้ ีอาการปวดทอ้ ง ทอ้ งเสีย บิด
วธิ ีและปริมาณทใ่ี ช้ :

1) แกห้ วดั มีไข้ ปวดหวั ทอ้ งเสีย ใชต้ น้ แหง้ บดเป็นผง ผสมน้าํ สุก กินคร้ังละ 1 กรัม วนั ละ 3 คร้ัง
2) แกค้ ออกั เสบ ใชต้ น้ สดเค้ียวกลืนชา้ ๆ ใหฆ้ ่าเช้ือที่บริเวณลาํ คอ
3) แกบ้ ิดจากแบคทีเรีย (บิดไม่มีตวั หรือบิดชิเกลล่า) ลาํ ไส้อกั เสบ ให้ใชใ้ บสดประมาณ 10-15 กรัม
ตม้ น้าํ ผสมน้าํ ผ้งึ กิน
4) แกบ้ ิดจากแบคทีเรียอย่างเฉียบพลนั ลาํ ไส้อกั เสบ กระเพาะอกั เสบ ให้ใช้ตน้ แห้ง 10-15 กรัม
ตม้ น้าํ กินวนั ละชุด แบ่งกินเป็น 2 คร้ัง เชา้ -เยน็
5) บรรเทาอาการทอ้ งเสียไม่ติดเช้ือใชท้ ้งั ตน้ แหง้ หน่ั ชิ้นประมาณ 1-3 กาํ มือ (3-9 กรัม) ตม้ เอาน้าํ ด่ืม
ข้อควรระวงั : หากใชต้ ิดตอ่ กนั เป็นเวลานาน อาจทาํ ใหแ้ ขนขามีอาการชาหรืออ่อนแรง
ทมี่ าของข้อมูล : https://www.disthai.com/16941261/ฟ้าทะลายโจร

สมุนไพรใกลม้ อื 10

11.มะนาว

ท่ีมาของรูปภาพ : https://www.disthai.com/16941374/มะนาว

ชื่อท้องถิ่น : ส้มมะนาว (ภาคกลาง), ส้มนาว (ภาคใต)้ , สีมานีปี ห์ (มลายู),หมากฟ้า (ไทยใหญ่), โกรยชะมา้
(เขมร), มะเนา้ เลย,์ มะนอเกละ, ปะนอเกล (กะเหรี่ยงแม่ฮอ่ งสอน), ปะโหน่งกลยาน (กะเหรี่ยง กาญจนบุรี)
ส่วนทใี่ ช้ : ผล
สรรพคุณ : ช่วยลดอาการไอ ขบั เสมหะ กระตุน้ ใหม้ ีการขบั น้าํ ลาย ช่วยระบาย แกเ้ บ่ืออาหาร
วธิ ีและปริมาณทใี่ ช้ :

1) กรณีมีอาการไอ ระคายคอจากเสมหะให้ใชน้ ้าํ จากผลท่ีโตเต็มท่ีจิบบ่อยๆ โดยอาจเติมเกลือและ
น้าํ ตาลเล็กใส่ลงผสมลงไปเลก็ นอ้ ยดว้ ยก็ได้ หรือใชม้ ะนาวฝานบางๆ จิม้ เกลือกินช่วยขบั เสมหะแทนกไ็ ด้

2) กรณีมีอาการทอ้ งอืดทอ้ งเฟ้อ แน่นจุกเสียดให้ใชเ้ ปลือกผลสด 1/2-1 ผล ฝานเป็ นชิ้นเล็กๆ บางๆ
ชงดว้ ยน้าํ เดือด ปิ ดฝาทิง้ ไว้ 5-10 นาที ด่ืมแตน่ ้าํ ขณะมีอาการ หรือหลงั อาหาร 3 เวลา
ข้อควรระวงั : หากรับประทานมากเกินไปอาจทาํ ให้เกิดทอ้ งเสียหรือทอ้ งร่วงได้ หรือทาํ ใหส้ ารเคลือบฟันตาม
ธรรมชาติหลุดส่งผลทาํ ใหฟ้ ันผรุ ่อนได้
ทมี่ าของข้อมูล : https://www.disthai.com/16941374/มะนาว

สมุนไพรใกลม้ อื 11

12.ยอ

ท่ีมาของรูปภาพ : https://puechkaset.com/ลกู ยอและใบยอ

ช่ือท้องถิ่น : ยอบา้ น (ภาคกลาง), มะตาเสื่อ (ภาคเหนือ), แยใหญ่ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), Noni (ฮาวาย),
Meng kudu (มาเลเซีย), Ach (ฮินดู)
ส่วนทใี่ ช้ : ใบ รากและผล
สรรพคุณ : เป็นยาระบาย แกท้ อ้ งผกู ช่วยขบั ลมในลาํ ไส้ ขบั ผายลม บาํ รุงธาตุ ทาํ ใหเ้ จริญอาหาร แกไ้ ข้ ปวดขอ้
วธิ ีและปริมาณทใี่ ช้ :

1) แกอ้ าเจียนท่ีเกิดจากธาตุไม่ปกติ ใหใ้ ชผ้ ลดิบหรือห่าม(ยงั ไมส่ ุก) ฝานเป็ นชิ้นบางๆ ยา่ ง หรือควั่ ไฟ
ออ่ นๆ ใหเ้ หลือง โดยใชค้ ร้ังละ 2 กาํ มือ น้าํ หนกั ประมาณ 10-15 กรัม ตม้ หรือชงน้าํ ดื่มจิบแต่น้าํ บ่อยๆ ขณะที่มี
อาการ แตถ่ า้ ด่ืมคร้ังละมากๆ จะทาํ ใหอ้ าเจียนเพราะเน้ือผลมีรสเผด็ ร้อนจากสาร asperuloside

2) นาํ รากมาตม้ หรือดองเหลา้ รับประทานเป็นยาระบาย แกก้ ระษยั ช่วยเจริญอาหาร
3) นาํ ในยอประมาณ 4-5 ใบ มาขย้าํ กบั น้าํ โซดา ( ประมาณ 50cc ) ไปเรื่อยๆ ใหน้ ้าํ ยางของใบยอเป็ น
สีเขียวเขม้ จากน้นั กรองเอาใส่ขวดหรือภาชนะท่ีเก็บรักษาน้าํ ยาใบยอไดไ้ ปใชท้ าบริเวณที่ปวดขอ้ กระดูกต่างๆ
ติดต่อกบั ไปเรื่อยๆ ประมาณ 15 วนั อาการกจ็ ะเริ่มทุเราลง
ข้อควรระวัง : ผูป้ ่ วยโรคไตไม่ควรดื่มน้าํ ลูกยอ เพราะมีเกลือโปแตสเซียมสูงอาจทาํ ให้เกิดภาวะหวั ใจวาย
เฉียบพลนั ได้ และในสตรีมีครรภไ์ มค่ วรบริโภคลูกยอ เพราะผลยอมีฤทธ์ิขบั โลหิต อาจทาํ ใหแ้ ทง้ บุตรได้
ทม่ี าของข้อมูล : https://www.disthai.com/16941411/ยอ,
http://www.thai-explore.net/search_detail/result/3454

สมุนไพรใกลม้ อื 12

13.ตาลงึ

ที่มาของรูปภาพ : https://www.komchadluek.net/news/agricultural/233673

ชื่อท้องถิน่ : ผกั แคบ(ภาคเหนือ), ผกั ตาํ นิน(ภาคอีสาน), แคเด๊าะ(กะเหร่ียง)
ส่วนทใ่ี ช้ : ใบ
สรรพคุณ : แกป้ วดแสบปวดร้อน ดบั พษิ ร้อน ถอนพษิ ท้งั ปวง แกค้ นั แกแ้ มลงกดั ตอ่ ย แกโ้ รคผวิ หนงั
วธิ ีและปริมาณทใี่ ช้ :

1) หากใชแ้ กพ้ ิษคนั จากใบไมค้ นั หรือหนอนคนั (ตวั บุง้ ) โดยนาํ ใบตาํ ลึงสดสัก 4-5 ใบ มาขย้ีเอาน้าํ
ชโลมหรือทาบริเวณท่ีคนั หรือใชใ้ บสด 1 กาํ มือ (ใชม้ ากนอ้ ยตามบริเวณที่มีอาการ) ลา้ งใหส้ ะอาดตาํ ให้ละเอียด
ผสมน้าํ เลก็ นอ้ ยแลว้ ค้นั เอาน้าํ มาทาบริเวณท่ีมีอาการ พอน้าํ แหง้ แลว้ ทาซ้าํ บ่อยๆ จนกวา่ จะหาย

2) หากใชแ้ กเ้ ริม งูสวดั ใหใ้ ชใ้ บตาํ ลึงลา้ งน้าํ ตม้ สุกให้สะอาด ตาํ ให้ละเอียด ค้นั แลว้ กรองเอาแต่น้าํ
ผสมกบั ดินสอพองสะตุ (เผาจนสุก) ทาผวิ บริเวณท่ีเป็ นให้เปี ยกช้ืนอยเู่ สมอ อาการแสบร้อนจะทุเลาลง แต่หาก
ทาแลว้ ไม่รู้สึกเยน็ กแ็ ปลวา่ ยาไม่ถูกโรคควรเลิกใช้
ข้อควรระวัง : การทาน้าํ ตาํ ลึงเพื่อแกค้ นั หรือรักษาโรคผิวหนงั ต่างๆไม่ควรถูแรงจนเกินไปในบริเวณที่เป็ น
ผวิ บอบบาง เพราะอาจทาํ ใหเ้ กิดอาการแพห้ รือการอกั เสบข้ึน
ทมี่ าของข้อมูล : https://www.disthai.com/17105219/ตาํ ลึง

สมุนไพรใกลม้ อื 13

14.หอมแดง

ท่ีมาของรูปภาพ : https://www.disthai.com/16941469/หอมแดง

ชื่อท้องถ่ิน : หอมไทย, หอมเล็ก,หอมหวั หอมแดง (ภาคกลาง), หอมป่ัว, หอมแดง (ภาคเหนือ), หวั หอมแดง
(ภาคใต้), ฝักบว่ั (ภาคอีสาน), ปะเซ้ส่า (กะเหร่ียง-แม่ฮ่องสอน), ปะเซอก่อ (กะเหร่ียง-ตาก), ผกั หม่ีแดง
(ไทยใหญ่) ซงั , ตงั ซงั (จีน)
ส่วนทใ่ี ช้ : หวั
สรรพคุณ : เป็ นยาขบั ลมในลาํ ไส้ แกป้ วดทอ้ ง แกห้ วดั คดั จมูก แกพ้ ิษแมลงกดั ทาแกอ้ าการปวดบวมตามขอ้
ทาํ ใหร้ ะบบยอ่ ยอาหารดี เจริญอาหาร
วธิ ีและปริมาณทใี่ ช้ :

1) ใชห้ วั หอมสดประมาณ 15-30 กรัม นาํ มาตม้ เอาน้าํ ดื่ม เป็ นยาแกท้ อ้ งอืดแน่น แกบ้ วมน้าํ ขบั พยาธิ
ปวดหลงั บริเวณเอว ปวดประจาํ เดือน แกไ้ ข้ ขบั ลม ทาํ ใหร้ ่างกายอบอุน่

2) ใชห้ วั ประมาณ 1 หวั ขย้หี รือตาํ ใหแ้ หลกแลว้ นาํ มาทาแกพ้ ิษแมลงสตั วก์ ดั ตอ่ ย
ข้อควรระวัง : ไม่ควรรับประทานมากเกินไปหรือเป็ นประจาํ เนื่องจากอาจทาํ ให้ประสาทเสีย หลงลืมไดง้ ่าย
ทาํ ใหม้ ีกลิ่นตวั ตาฝ้ามวั ไม่แจ่มใส ทาํ ใหแ้ สบตา แสบจมูก และผวิ หนงั บริเวณที่บอบบางมีอาการระคายเคืองได้
ทม่ี าของข้อมูล : https://www.disthai.com/16941469/หอมแดง

สมุนไพรใกลม้ อื 14

15.กะเพรา

ที่มาของรูปภาพ : https://rositacorrer.com/สรรพคุณ-กะเพรา

ชื่อท้องถิ่น : กาํ กอ้ ขาว, กาํ กอ้ ดาํ , กาํ กอ้ ดง (ภาคเหนือ), กะเพราแดง, กะเพราขาว, กะเพราขน (ภาคกลาง),
อีตูไ่ ทย อีตูข้ า้ (ภาคอีสาน), ห่อกวอ่ ซู, ห่งตูป้ ลู (กะเหร่ียง – แม่ฮ่องสอน), อิมคิมหลาํ (เง้ียว - แมฮ่ ่องสอน)
ส่วนทใ่ี ช้ : ใบ ยอดหรือท้งั ตน้
สรรพคุณ : ช่วยลดอาการทอ้ งอืดเฟ้อ ขบั ลม ปวดทอ้ ง แกอ้ าการคลื่นไส้อาเจียน แกโ้ รคผวิ หนงั
วธิ ีและปริมาณทใ่ี ช้ :

1) ใช้ลดอาการทอ้ งอืดเฟ้อ ขบั ลม ปวดทอ้ ง โดยใชใ้ บสด 1 กาํ มือ (น้าํ หนกั สดประมาณ 25 กรัม
หรือใบแห้ง 4 กรัม ตม้ ให้เดือด เอาแต่น้าํ ด่ืม หรือจะใชใ้ บกะเพราแห้งชงกบั น้าํ ด่ืมเป็ นยาขบั ลม ถา้ ป่ นเป็ นผง
ให้ชงกบั น้าํ รับประทาน ส่วนในเด็กอ่อนใชใ้ บสดใส่เกลือเล็กนอ้ ยบดใหล้ ะเอียดผสมน้าํ ผ้งึ หยอดให้เด็กอ่อน
เพง่ิ คลอด 2-3 หยด เป็นเวลา 2-3 วนั จะช่วยขบั ลมและถ่ายข้ีเทา

2) ใชแ้ กอ้ าการคลื่นไส้อาเจียน (เกิดจากธาตุไม่ปกติ) ใชใ้ บและยอดสด 1 กาํ มือ (ประมาณ 25 กรัม)
ตม้ เอาน้าํ ด่ืมหรือใชก้ ะเพราท้งั 5 ท้งั สดหรือแห้งชงน้าํ ด่ืมรับประทาน เด็กอ่อนใชใ้ บสด 3-4 ใบ ส่วนผใู้ หญ่ใช้
ใบแหง้ 1 กาํ มือ หรือใบสด 25 กรัม หรือผงแหง้ 1 ชอ้ นโตะ๊ หรือ 2 ชอ้ นแกง

3) ใชเ้ ป็ นยารักษากลากเกล้ือนใชใ้ บสด 15-20 ใบ ตาํ หรือขย้ีใหน้ ้าํ ออกมา ใชท้ าถูตรงบริเวณที่เป็ น
วนั ละ 2-3 คร้ัง จนกวา่ จะหาย

4) ใชเ้ ป็นรักษาลมพิษใชใ้ บกะเพราประมาณ 1 กาํ มือนาํ มาตาํ ผสมเหลา้ ขาวแลว้ นาํ มาทาบริเวณท่ีเป็น
ข้อควรระวัง : ควรระวงั การใชก้ ะเพราในขนาดสูงในหญิงต้งั ครรภ์ หรือในผูป้ ่ วยเบาหวานรายท่ีมีการคุม
น้าํ ตาลในเลือดอยู่
ทมี่ าของข้อมูล : https://www.disthai.com/16963298/กะเพรา

สมุนไพรใกลม้ อื 15

16.ไพล

ที่มาของรูปภาพ : https://medthai.com/ไพล

ช่ือท้องถนิ่ : ปูเลย (ภาคเหนือ), วา่ นไฟ (ภาคกลาง), วา่ นปอบ (ภาคอีสาน), มิน้ สะล่าง (รัฐฉาน-แมฮ่ ่องสอน
ช่ือวทิ ยาศาสตร์ : Zingiber montanum (J.Koenig) Link ex A.Dietr.
วงศ์ : Zingiberaceae
ส่วนทใ่ี ช้ : หวั หรือเหงา้
สรรพคุณ : แกเ้ คล็ดขดั ยอก ฟกบวม เสน้ ตงึ ปวดเม่ือย เหนบ็ ชา ชว่ ยลดอาการอกั เสบ แกป้ วด
วธิ ีและปริมาณท่ีใช้ : สําหรับแกฟ้ กบวม เคล็ดขดั ยอก ให้ใช้หัวไพลฝนทาหรือใชเ้ หงา้ ไพล ประมาณ 1 เหงา้
ตาํ แลว้ ค้นั เอาน้าํ ทาถูนวดบริเวณที่มีอาการ หรือตาํ ให้ละเอียดผสมเกลือเล็กนอ้ ย คลุกเคลา้ แลว้ นาํ มาห่อเป็ น
ลูกประคบ องั ไอน้าํ ให้ความร้อน ประคบบริเวณปวดเม่ือย และบวมฟกช้าํ เชา้ -เยน็ จนกวา่ จะหาย หรือทาํ เป็ น
น้าํ มนั ไพลไวใ้ ชก้ ็ได้ โดยเอาไพลหนกั 2 กิโลกรัม ทอดในน้าํ มนั พืชร้อนๆ 1 กิโลกรัม ทอดจนเหลืองแลว้ เอา
ไพลออก ใส่ผงกานพลูประมาณ 4 ชอ้ นชา ทอดต่อไปดว้ ยไฟอ่อนๆประมาณ 10 นาที กรองแลว้ รอจนน้าํ มนั
อุ่นๆ ใสการบูรลงไป 4 ชอ้ นชา ใส่ในภาชนะปิ ดฝามิดชิด รอจนเยน็ จึงเขยา่ การบูรใหล้ ะลาย โดยน้าํ มนั ไพลน้ี
ใชท้ าถูนวดวนั ละ 2 คร้ัง เชา้ -เยน็ หรือเวลาปวด (สูตรน้ีเป็นของนายวบิ ูลย์ เขม็ เฉลิม อาํ เภอสนามชยั เขต จงั หวดั
ฉะเชิงเทรา)
ข้อควรระวงั : อาจทาํ ใหเ้ กิดการระคายเคืองผวิ หนงั และเกิดอาการแพไ้ ด้
ทม่ี าของข้อมูล : https://www.disthai.com/16488307/ไพล

สมุนไพรใกลม้ อื 16


Click to View FlipBook Version