แผนจัดการเรียนรู้ วิชา IS1

แผนการจัดการเรียนรู้

วชิ าการศกึ ษาค้นคว้าดว้ ยตนเอง1 ( IS1 )

2ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี

จดั ทำโดย

นำงสำวนำงสำวศิริลักษณ์ สดุ ลำเลิศ เลขท่ี 16
รหสั นักศกึ ษำ 6321159009 สำขำกำรวดั ประเมินและวิจัยทำงกำรศกึ ษำ

รายงาน
เร่ือง แผนการจัดการเรยี นรู้
รายวชิ าการศึกษาค้นควา้ ด้วยตนเอง1 ( IS1 ) สาระการเรียนรู้เพมิ่ เติม
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 รหสั วชิ า I22201

เสนอ
อาจารย์ ผศ.ดร.พชั รีภรณ์ บางเขียว

จดั ทาโดย
นางสาวศิรลิ กั ษณ์ สุดล้าเลศิ
รหัสนกั ศึกษา 6321159009 เลขที่ 16 หมเู่ รยี น D5
สาขาการวดั ประเมนิ และวิจยั ทางการศึกษา ( คบ.4ป)ี คณะครศุ าสตร์
มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั บ้านสมเดจ็ เจา้ พระยา

รายงานฉบบั นเี้ ปน็ ส่วนหน่งึ ของการศกึ ษารายวิชา วทิ ยาการจัดการเรียนรู้
ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565

ก

คำนำ
รำยงำนฉบบั นเ้ี ป็นสว่ นหน่ึงของกำรศกึ ษำรำยวชิ ำ วิทยำกำรจดั กำรเรียนรู้ ซึ่งเนือ้ หำ
ภำยในแผนกำรจัดกำรเรียนร้วู ิชำกำรศึกษำคน้ ควำ้ ด้วยตนเอง1 ( IS1 ) ช้ันมธั ยมศกึ ษำปีท่ี 2
จัดข้นึ เพ่ือเปน็ แนวทำงในกำรจดั กำรเรียนกำรสอนท่ีเน้นผเู้ รยี นเป็นสำคญั ตำมหลักสตู รแกน
แกนกลำงกำรศึกษำข้ันพน้ื ฐำนพทุ ธศกั รำช 2551
แผนกำรจดั กำรเรียนรเู้ ลม่ นี้ ประกอบไปดว้ ย แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้รำยปี และแผนกำร
จดั กำรเรยี นรู้รำยหน่วย มีท้งั หมด 2 หน่วย ไดแ้ ก่ หนว่ ยท่ี 1 เริม่ ต้นจำกควำมสงสัย และหน่วยที่
2 กำ้ วไปสกู่ ำรคน้ หำและแสวงหำควำมรู้ควบคู่กำรบันทึก
ผจู้ ดั ทำหวงั วำ่ รำยงำนเลม่ นจ้ี ะเปน็ ส่งิ ท่ีมอบใหท้ ้ังควำมรู้ และวธิ กี ำรที่จะนำไป
ประยุกต์ใช้ได้ และเกดิ ประโยชนแ์ ก่ผทู้ ีศ่ ึกษำและผู้อ่ำนทุกทำ่ น หำกมิขอ้ ผดิ พลำดประกำรใด
ผจู้ ดั ทำน้อมรบั ทกุ คำติชมของผูท้ ่สี นใจหรอื ผ้อู ่ำน เพอ่ื นำมำปรับปรงุ ในคร้งั ตอ่ ไป

ศริ ลิ กั ษณ์ สุดลำ้ เลศิ
1 ธันวำคม 2565

สำรบญั ข

หนว่ ยที่ หน้ำ
คำนำ ก
สำรบัญ ข
แผนกำรจดั กำรเรยี นรรู้ ำยปี 1
คำอธบิ ำยรำยวิชำ 5
โครงสร้ำงตำรำงแผนรำยปี 6
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ 1 8
แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ 2 22
บรรณำนุกรม 38

1

แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้รำยปี

สำระกำรเรยี นร้เู พม่ิ เติม รำยวชิ ำกำรศกึ ษำคน้ ควำ้ ด้วยตนเอง1( IS)
ชน้ั มัธยมศึกษำปที ่ี 2 ภำคเรยี นที่ 1
ครผู ู้สอน นำงสำวศริ ลิ กั ษณ์ สุดล้ำเลิศ ปีกำรศกึ ษำ2565 เวลำ 40 ชว่ั โมง

1. มำตรฐำนกำรเรยี นร้/ู ตัวชวี้ ดั /ผลกำรเรียนรู้
ผลกำรเรียนรู้
1. ต้งั ประเด็นปัญหา โดยเลอื กประเดน็ ที่สนใจ เรมิ่ จากตนเอง ชมุ ชนท้องถิ่น ประเทศได้
2. ตั้งสมมตฐิ านประเดน็ ปัญหาท่ีตนเองสนใจได้
3. ออกแบบ วางแผน โดยใชก้ ระบวนการรวบรวมข้อมลู อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพได้
4. ศึกษา ค้นควา้ แสวงหาความรเู้ ก่ียวกบั ประเดน็ ท่ีเลือก จากแหลง่ เรยี นรทู้ ่หี ลากหลายได้
5. ตรวจสอบความนา่ เชอ่ื ถอื ของแหลง่ ท่มี าของข้อมลู ได้
6. วิเคราะห์ขอ้ คน้ พบด้วยสถิติท่ีเหมาะสมได้
7. สังเคราะหส์ รุปองคค์ วามรดู้ ้วยกระบวนการกลุ่มได้
8. เสนอแนวคิด การแกป้ ัญหาอยา่ งเปน็ ระบบดว้ ยองค์ความรจู้ ากการค้นพบได้
9. เหน็ ประโยชน์และคณุ ค่าของการศึกษาค้นควา้ ดว้ ยตนเองได้

2. จุดประสงค์กำรเรยี นรู้
หนว่ ยท่ี 1 เรมิ่ ตน้ จำกควำมสงสยั
1. ตั้งประเด็นปญั หา โดยเลือกประเด็นท่ีสนใจ เริม่ จากตนเอง ชมุ ชนท้องถ่ิน ประเทศได้
1.1 นกั เรยี นสามารถสรปุ การต้ังประเด็นปญั หา โดยเลือกประเด็นทีส่ นใจ เรม่ิ จากตนเอง ชุมชน

ท้องถ่ินประเทศไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ( K )
1.2 นกั เรยี นสามารถตงั้ ประเดน็ ปัญหา โดยเลือกประเด็นที่สนใจ เรม่ิ จากตนเอง ชุมชนทอ้ งถนิ่

ประเทศได้ ( P )
1.3 นกั เรยี นเห็นคณุ คา่ การเลือกปัญหาท่ีตนเองสนใจ ( A )
2. ตงั้ สมมตฐิ านประเด็นปัญหาทต่ี นเองสนใจได้
2.1 นักเรยี นสามารถอธิบายการตัง้ สมมตฐิ านประเด็นปัญหาทตี่ นเองสนใจได้ ( K )
2.2 นักเรยี นสามารถตงั้ สมมติฐานประเด็นปัญหาท่ีตนเองสนใจได้ ( P )
2.3 นกั เรยี นตระหนกั ถึงความสาคัญของการตง้ั สมมติฐานประเด็นปญั หาทีต่ นเองสนใจ ( A )

2

หนว่ ยท่ี 2 กำ้ วไปสกู่ ำรค้นหำและแสวงหำควำมรู้ควบคู่กำรบนั ทึก
1. ออกแบบ วางแผน โดยใช้กระบวนการรวบรวมข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพได้
1.1 นักเรียนสามารถอธิบายการออกแบบ วางแผน โดยใช้กระบวนการรวบรวมข้อมูลอย่างมี

ประสิทธภิ าพไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง ( K )
1.2 นกั เรียนสามารถเลอื กใชก้ ารออกแบบ วางแผน โดยใช้กระบวนการรวบรวมข้อมลู อยา่ งมี

ประสทิ ธภิ าพได้อย่างถกู ตอ้ ง ( P )
2. ศกึ ษา คน้ ควา้ แสวงหาความรู้เกี่ยวกับประเดน็ ทีเ่ ลือก จากแหลง่ เรยี นรทู้ ่หี ลากหลายได้
2.1 นักเรียนสามารถสรุปศึกษา ค้นควา้ แสวงหาความรู้เกี่ยวกับประเดน็ ท่ีเลือก จากแหล่งเรียนรู้ท่ี

หลากหลายได้ ( K )
2.2 นักเรียนสามารถยกตัวอย่างศึกษา ค้นคว้า แสวงหาความรู้เกี่ยวกับประเด็นท่ีเลือก จากแหล่ง

เรียนรู้ทหี่ ลากหลายได้ ( P )
2.3 นกั เรียนเห็นความสาคญั ของการศกึ ษา คน้ ควา้ แสวงหาความรเู้ ก่ียวกบั ประเด็นทเี่ ลอื ก จาก

แหลง่ เรยี นร้ทู ห่ี ลากหลาย ( A )
หน่วยที่ 3 กำรจดั หมวดหมแู่ ละสรปุ ขอ้ คน้ พบ
1. วิเคราะห์ขอ้ ค้นพบด้วยสถิตทิ ี่เหมาะสมได้
1.1 นกั เรยี นสามารถอภปิ รายการวิเคราะหข์ อ้ คน้ พบดว้ ยสถติ ิท่เี หมาะสมได้ ( K )
1.2 นกั เรยี นสามารถยกตัวอย่างการวเิ คราะห์ข้อค้นพบด้วยสถติ ทิ ่ีเหมาะสมได้ ( P )
1.3 นกั เรยี นเหน็ ประโยชนข์ องวิเคราะหข์ อ้ ค้นพบดว้ ยสถิติทเี่ หมาะสม ( A )
2. สังเคราะหส์ รุปองค์ความรู้ด้วยกระบวนการกลมุ่ ได้
2.1 นกั เรยี นสามารถอธบิ ายการสงั เคราะหส์ รุปองคค์ วามร้ดู ว้ ยกระบวนการกลุ่มได้ ( K )
2.2 นกั เรยี นสามารถสงั เคราะหส์ รปุ องค์ความรดู้ ว้ ยกระบวนการกลมุ่ ได้ ( P )
2.3 นกั เรยี นตระหนกั ถงึ ความสาคญั ของสังเคราะห์สรุปองค์ความรูด้ ว้ ยกระบวนการกล่มุ ( A )
3. ตรวจสอบความน่าเชอื่ ถอื ของแหล่งทีม่ าของขอ้ มูลได้
3.1 นักเรยี นสามารถอธิบายการตรวจสอบความนา่ เช่ือถอื ของแหลง่ ทีม่ าของข้อมลู ไดถ้ กู ต้อง (K)
3.2 นกั เรยี นสามารถเลอื กใชก้ ารตรวจสอบความนา่ เชอื่ ถอื ของแหลง่ ท่ีมาของข้อมลู ได้ ( P )
หนว่ ยท่ี 4 เรียนรกู้ ำรจัดกำรปัญหำเพื่อพัฒนำกำรนำเสนอ
1. เสนอแนวคดิ การแกป้ ญั หาอย่างเป็นระบบดว้ ยองคค์ วามร้จู ากการค้นพบได้
1.1 นักเรียนสามารถอธิบายการเสนอแนวคิด การแก้ปญั หาอย่างเปน็ ระบบด้วยองค์ความรู้จากการ

ค้นพบได้ ( K )
1.2 นักเรยี นสามารถเสนอแนวคิด การแกป้ ัญหาอยา่ งเป็นระบบดว้ ยองค์ความรจู้ ากการค้นพบ (P)

3

1.3 นักเรียนเห็นคุณค่าการเสนอแนวคิด การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบด้วยองค์ความรู้จากการ
คน้ พบ ( A )

2. เห็นประโยชน์และคุณค่าของการศึกษาค้นควา้ ด้วยตนเองได้
2.1 นักเรียนสามารถอธิบายการเห็นประโยชน์และคุณค่าของการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองได้อย่าง
ถกู ต้อง ( K )
2.2 นกั เรยี นสามารถยกตัวอยา่ งการเห็นประโยชน์และคุณคา่ ของการศึกษาคน้ คว้าด้วยตนเอง (P)
2.3 นักเรยี นเหน็ ประโยชนแ์ ละคณุ คา่ ของการศกึ ษาค้นคว้าดว้ ยตนเอง ( A )

3. สำระสำคัญ
การศกึ ษาอสิ ระ หรอื การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองนับเปน็ วธิ กี ารทมี่ ปี ระสิทธิภาพวธิ หี นึ่งท่ใี ช้กันอย่าง

กวา้ งขวางในการพฒั นาผเู้ รียน เพราะเปน็ การเปิดโลกกว้างใหผ้ ู้เรยี นได้ศกึ ษาคน้ ควา้ อยา่ งอิสระในเร่อื งหรือ
ประเดน็ ทต่ี นสนใจ เรม่ิ ต้งั แตก่ ารกาหนดประเดน็ ปัญหา ซงึ่ อาจเป็นจะเปน็ ปัญหาของสาธารณะ ปญั หาระดับโลก
และดาเนินการคน้ ควา้ แสวงหาความรู้จากแหล่งข้อมลู ทหี่ ลากหลาย มีการวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ การอภปิ ราย
แลกเปลยี่ นความคิดเห็น เพอ่ื นาไปสู่การสรปุ องค์ความรู้ จากน้ันกห็ าวธิ ีการท่เี หมาะสมในการสือ่ สารนาเสนอให้
ผ้อู นื่ ได้รบั ทราบ และสามารถนาความรทู้ ีไ่ ดจ้ ากการศกึ ษาคน้ คว้าไปทาประโยชน์แก่สาธารณะ

4. สำระกำรเรียนรู้
หนว่ ยที่ 1 เรม่ิ ตน้ จำกควำมสงสัย
- การต้ังประเด็นปัญหา ทม่ี าของประเด็นปญั หา แนวทางการเลอื กประเด็นปัญหา
- ลักษณะของประเดน็ ปัญหาทด่ี ี รูปแบบการเขยี นของประเดน็ ปัญหา
- การเขยี นทม่ี าและความสาคัญของประเดน็ ปญั หา
- การต้ังสมมตฐิ าน ทมี่ าของสมมตฐิ าน แนวทางการต้งั สมมตฐิ าน
- ลกั ษณะของสมมตฐิ านที่ดี ประเภทของสมมติฐาน
หนว่ ยที่ 2 กำ้ วไปส่กู ำรคน้ หำและแสวงหำควำมรู้ควบคกู่ ำรบันทกึ
- การออกแบบวางแผนเพื่อรวบรวมข้อมูล
- การวางแผนในการเกบ็ รวบรวมข้อมูล องคป์ ระกอบของการวางแผน ขั้นตอนการวางแผน
- ความสาคญั ของการแสวงหาความรูแ้ ละคุณลักษณะท่ีพงึ มีของผูก้ ารแสวงหาความรู้
หนว่ ยท่ี 3 กำรจดั หมวดหมแู่ ละสรปุ ข้อคน้ พบ
- เคร่อื งมือในการบันทกึ
- การบันทึกขอ้ มลู

4

- ความสาคัญและขั้นตอนของการจดั หมวดหมู่ขอ้ มูล
- รูปแบบการจดั หมวดหมู่และการสรุปผลการจัดหมวดหมู่
- วิธีการสรุปขอ้ ค้นพบ และลกั ษณะของขอ้ คน้ พบทด่ี ี
- การเรียบเรยี งข้อคน้ พบ ตรวจสอบของข้อคน้ พบและจดั การขอ้ คน้ พบ
หน่วยที่ 4 เรยี นรกู้ ำรจดั กำรปญั หำเพ่ือพฒั นำกำรนำเสนอ
- ความหมายและวธิ กี ารแกไ้ ขปญั หา
- กระบวนการแก้ไขปญั หาและลักษณะของการแกป้ ัญหาอย่างเป็นระบบ
- แนวทางการแก้ไขปญั หาและการสรา้ งทางสร้างเลอื ก
- ความหมาย และจุดประสงค์ของการนาเสนอ
- รูปแบบนาเสนอ เทคนิคการนาเสนอและวิธีการนาเสนอ

รำยวิชำกำรศึกษำคน้ คว้ำดว้ ยตนเอง1 ( IS1 ) คำอธบิ ำยรำยวิชำ 5
ช้นั มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 2
รหสั วชิ ำI22201 สำระกำรเรียนรเู้ พมิ่ เติม
ปีกำรศกึ ษำ2565 จำนวน40ชัว่ โมง1 หน่วยกติ

ศกึ ษา วเิ คราะห์ ต้ังประเดน็ /คาถามเกี่ยวกับสถานการณป์ จั จุบนั และสังคมโลก การตง้ั สมมตฐิ าน การ
คน้ ควา้ การแสวงหาความร้ขู อ้ มลู การออกแบบ การวางแผนรวบรวมขอ้ มูล การใชก้ ระบวนการกลุ่ม การ
วิเคราะหข์ อ้ มูลโดยใช้ค่าสถติ ิ การสงั เคราะห์ การสรปุ องคค์ วามและการเสนอวธิ คี ดิ แก้ปญั หาที่เปน็ ระบบ

ฝึกทักษะต้งั ประเด็นปัญหา/ตั้งคาถามเกย่ี วกบั สถานการณป์ ัจจุบนั และสงั คมโลก ตัง้ สมมตฐิ านและให้
เหตผุ ลท่ีสนบั สนุนหรอื โตแ้ ยง้ ประเด็นความรู้ โดยใชค้ วามรู้จากศาสตรส์ าขาต่าง ๆ และมีทฤษฎรี องรับ คน้ คว้า
แสวงหาความรู้เก่ยี วกับสมมตฐิ านท่ีต้ังไวจ้ ากแหลง่ เรยี นรทู้ ัง้ ปฐมภมู ิและทตุ ิยภูมิ ออกแบบวางแผนรวบรวม
ขอ้ มูลและสารสนเทศ วิเคราะหข์ อ้ มูลโดยใชว้ ธิ กี ารท่เี หมาะสม สังเคราะหส์ รปุ องค์ความรแู้ ละรว่ มกนั เสนอ
แนวคิด วิธกี ารแก้ปัญหาอย่างเปน็ ระบบ ด้วยกระบวนการคดิ กระบวนการสืบคน้ ข้อมลู กระบวนการแกป้ ญั หา
กระบวนการปฏบิ ตั แิ ละกระบวนการกลุ่มในการวพิ ากษ์

เพ่อื ให้เกิดทกั ษะในการค้นคว้าแสวงหาความรู้ สังเคราะหส์ รุป อภปิ รายผลเปรยี บเทียบเช่ือมโยงความรู้
ความเป็นมาของศาสตร์ หลกั การและวธิ ีคิดในสิง่ ท่ศี ึกษา และมที กั ษะในการนาเสนอผลการศึกษาคน้ ควา้ ใน
รูปแบบการเขยี นรายงานและอ้างองิ แหลง่ ที่มาของข้อมูลทนี่ ่าเช่อื ถือ นาองคค์ วามรไู้ ปแกป้ ัญหาได้อยา่ งเป็น
ระบบ เห็นประโยชน์และคุณคา่ ของการศกึ ษาคน้ ควา้ ด้วยตนเอง

ผลกำรเรยี นรู้
1. ตง้ั ประเดน็ ปญั หา โดยเลอื กประเดน็ ทส่ี นใจ เร่มิ จากตนเอง ชุมชนท้องถนิ่ ประเทศได้
2. ตั้งสมมติฐานประเดน็ ปญั หาทต่ี นเองสนใจได้
3. ออกแบบ วางแผน โดยใช้กระบวนการรวบรวมขอ้ มลู อยา่ งมีประสิทธภิ าพได้
4. ศึกษา ค้นคว้า แสวงหาความรู้เกี่ยวกบั ประเด็นท่ีเลือก จากแหล่งเรยี นรู้ทีห่ ลากหลายได้
5. ตรวจสอบความน่าเชือ่ ถือของแหล่งทม่ี าของขอ้ มูลได้
6. วิเคราะห์ขอ้ คน้ พบดว้ ยสถิติทเี่ หมาะสมได้
7. สังเคราะหส์ รุปองค์ความรู้ด้วยกระบวนการกลุ่มได้
8. เสนอแนวคดิ การแกป้ ญั หาอย่างเปน็ ระบบดว้ ยองค์ความรู้จากการคน้ พบได้
9. เห็นประโยชนแ์ ละคณุ คา่ ของการศกึ ษาคน้ คว้าดว้ ยตนเองได้

6

รำยวิชำกำรศึกษำค้นควำ้ ด้วยตนเอง1 ( IS1 ) โครงสร้ำงรำยวชิ ำ สำระกำรเรยี นรู้เพมิ่ เติม
ชน้ั มัธยมศึกษำปที ่ี 2 จำนวน40ชัว่ โมง1 หน่วยกิต
รหสั วิชำI22201
ปกี ำรศึกษำ2565

หนว่ ยท่ี ชอื่ หนว่ ยกำรเรยี นรู้ ผลกำรเรยี นรู้ เวลำ (ชว่ั โมง)

1 เริ่มต้นจากความสงสยั - ต้ังประเด็นปัญหา โดยเลือกประเด็นท่ีสนใจ เริ่ม 8 ชั่วโมง
จากตนเอง ชมุ ชนทอ้ งถ่นิ ประเทศได้
-ตั้งสมมตฐิ านประเด็นปญั หาทตี่ นเองสนใจได้

1.1 การตั้งประเด็นปญั หา - ต้ังประเด็นปัญหา โดยเลือกประเด็นท่ีสนใจ เริ่ม 4 ชั่วโมง
จากตนเอง ชุมชนทอ้ งถนิ่ ประเทศได้

1.3 การตงั้ สมมตฐิ าน -ตัง้ สมมติฐานประเด็นปญั หาทีต่ นเองสนใจได้ 4ช่วั โมง

-ออกแบบ วำงแผนโดยใช้กระบวนกำรรวบรวม

2 ก้ำวไปสู่กำรค้นหำและแสวงหำควำมรู้ ข้อมลู อยำ่ งมีประสทิ ธิภำพได้ 8 ช่ัวโมง

ควบคกู่ ำรบันทกึ -ศกึ ษำคน้ ควำ้ แสวงหำควำมรู้เกีย่ วกบั ประเด็น

ท่ีเลือกจำกแหล่งเรยี นร้ทู ่ีหลำกหลำยได้

2.1 การออกแบบวางแผนเพือ่ รวบรวมขอ้ มูล - ออกแบบ วางแผน โดยใช้กระบวนการรวบรวม 4ชว่ั โมง
ข้อมูลอยา่ งมีประสิทธิภาพได้

2.2 ความสาคญั ของการแสวงหาความรู้ - ศึกษา ค้นคว้า แสวงหาความรู้เก่ียวกับประเด็นท่ี 4ชวั่ โมง
เลอื กจากแหลง่ เรียนรู้ทหี่ ลากหลายได้

-วเิ ครำะหข์ อ้ ค้นพบดว้ ยสถติ ทิ ่ีเหมำะสมได้

-สังเครำะหส์ รุปองค์ควำมรู้ดว้ ยกระบวนกำร

3 กำรจัดหมวดหม่แู ละสรปุ ขอ้ คน้ พบ กล่มุ ได้ 12 ช่วั โมง

-ตรวจสอบควำมนำ่ เชือ่ ถือของแหลง่ ที่มำของ

ข้อมลู ได้

3.1 เครอ่ื งมอื ในการบนั ทกึ - ตรวจสอบความน่าเชื่อถอื ของแหล่งทมี่ าของ 4ช่วั โมง
ขอ้ มลู ได้

3.2 การจัดหมวดหมู่ -วเิ คราะห์ขอ้ ค้นพบดว้ ยสถติ ทิ ี่เหมาะสมได้ 4ชว่ั โมง

3.3 การสรุปข้อคน้ พบ -สงั เคราะห์สรปุ องค์ความรู้ด้วยกระบวนการกลุ่ม 4 ชั่วโมง
ได้

7

-เสนอแนวคิด กำรแกป้ ัญหำอย่ำงเปน็ ระบบดว้ ย

4 เรียนรกู้ ำรจัดกำรปัญหำเพอื่ พฒั นำกำร องค์ควำมรู้จำกกำรค้นพบได้ 12ช่วั โมง

นำเสนอ -เห็นประโยชน์และคุณคำ่ ของกำรศกึ ษำค้นคว้ำ

ดว้ ยตนเองได้

4.1 การแก้ไขปัญหา -เสนอแนวคดิ การแกป้ ัญหาอย่างเป็นระบบดว้ ย 4ช่วั โมง
องคค์ วามรู้จากการค้นพบได้

4.2 แนวทางการนาเสนอ -เสนอแนวคิดการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบดว้ ย 4ชว่ั โมง
องค์ความรู้จากการค้นพบได้

4.3 การนาเสนอ -เหน็ ประโยชน์และคณุ ค่าของการศกึ ษาคน้ ควา้ 4ชว่ั โมง
ด้วยตนเองได้

รวม 40ช่ัวโมง

8

1แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี

เรม่ิ ต้นจากความสงสยั

9

แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้

สำระกำรเรยี นรเู้ พิม่ เตมิ ภำคเรียนท่ี 1 รำยวชิ ำกำรศกึ ษำค้นควำ้ ด้วยตนเอง1( IS1)
ชั้นมธั ยมศึกษำปที ี่ 2 ปีกำรศกึ ษำ2565
เรอ่ื ง เร่ิมตน้ จำกควำมสงสัย เวลำ 8 ชัว่ โมง
หนว่ ยกำรเรียนรูท้ ่ี 1

1. มำตรฐำนกำรเรยี นร/ู้ ตัวชวี้ ดั /ผลกำรเรยี นรู้
ผลกำรเรยี นรู้
1. ตง้ั ประเด็นปญั หา โดยเลอื กประเดน็ ที่สนใจ เรม่ิ จากตนเอง ชุมชนทอ้ งถนิ่ ประเทศได้
2. ตัง้ สมมติฐานประเดน็ ปัญหาท่ีตนเองสนใจได้

2. จุดประสงค์กำรเรียนรู้
หนว่ ยที่ 1 เรม่ิ ตน้ จำกควำมสงสัย
1. ต้ังประเดน็ ปัญหา โดยเลอื กประเด็นที่สนใจ เริ่มจากตนเอง ชุมชนท้องถิ่น ประเทศได้
1.1 นักเรยี นสามารถสรปุ การตัง้ ประเดน็ ปัญหา โดยเลอื กประเดน็ ทีส่ นใจ เรม่ิ จากตนเอง ชมุ ชน

ท้องถิน่ ประเทศได้อย่างถกู ตอ้ ง ( K )
1.2 นกั เรยี นสามารถตั้งประเดน็ ปัญหา โดยเลือกประเดน็ ทีส่ นใจ เรมิ่ จากตนเอง ชุมชนทอ้ งถ่ิน

ประเทศได้ ( P )
1.3 นกั เรยี นเหน็ คณุ คา่ การเลอื กปัญหาทต่ี นเองสนใจ ( A )
2. ต้งั สมมตฐิ านประเด็นปัญหาท่ตี นเองสนใจได้
2.1 นักเรยี นสามารถอธิบายการตั้งสมมตฐิ านประเดน็ ปญั หาทีต่ นเองสนใจได้ ( K )
2.2 นกั เรยี นสามารถต้ังสมมติฐานประเด็นปญั หาท่ตี นเองสนใจได้ ( P )
2.3 นกั เรยี นตระหนักถงึ ความสาคัญของการตัง้ สมมตฐิ านประเดน็ ปัญหาทตี่ นเองสนใจ ( A )

3. สำระสำคญั
การตัง้ ประเด็นปัญหาท่ีชัดเจน โดยเลือกประเดน็ ท่ีสนใจ เรม่ิ จากตนเอง ชุมชน ท้องถิ่น ประเทศ

และ การต้ังสมมติฐาน โดยใช้ความรจู้ ากศาสตรต์ า่ ง ๆ อย่างมปี ระสิทธภิ าพจะชว่ ยให้การศกึ ษาค้นควา้ แสวงหา
คาตอบประสบผลสาเร็จ

10

4. สำระกำรเรยี นรู้
หน่วยที่ 1 เริ่มตน้ จำกควำมสงสยั
- การต้งั ประเดน็ ปัญหา ที่มาของประเด็นปัญหา แนวทางการเลอื กประเดน็ ปัญหา
- ลกั ษณะของประเดน็ ปัญหาท่ีดี รปู แบบการเขียนของประเด็นปญั หา
- การเขียนทมี่ าและความสาคญั ของประเดน็ ปญั หา
- การตงั้ สมมติฐาน ท่มี าของสมมติฐาน แนวทางการต้งั สมมตฐิ าน
- ลักษณะของสมมติฐานท่ีดี ประเภทของสมมติฐาน

5 สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน (เฉพำะทเ่ี กดิ ในหนว่ ยกำรเรยี นรู้น)ี้

 ความสามารถในการสื่อสาร
 ความสามารถในการคิด
 ความสามารถในการแก้ปญั หา
 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
1. ทักษะของผู้เรยี นในศตวรรษที่ 21 (3R 8C + 2L) (จดุ เนน้ สกู่ ารพฒั นาคณุ ภาพผูเ้ รียน)
 ทกั ษะการอ่าน (Reading)
 ทักษะการ เขียน (Writing)
 ทักษะการ คดิ คานวณ (Arithmetic)
 ทักษะด้านการคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา (Critical thinking and
problem solving)
 ทักษะดา้ นการสร้างสรรคแ์ ละนวตั กรรม (Creativity and innovation)
 ทักษะด้านความร่วมมือ การทางานเป็นทีม และภาวะผู้นา (Collaboration , teamwork
and leadership)
 ทักษะดา้ นความเข้าใจต่างวฒั นธรรม ต่างกระบวนทศั น์ (Cross-cultural understanding)
 ทักษะดา้ น การสอื่ สาร สารสนเทศ และรูเ้ ทา่ ทันสอื่ (Communication information and
media literacy)
 ทกั ษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สาร (Computing)
 ทักษะอาชีพและทกั ษะการเรยี นรู้ (Career and learning self-reliance, change)
 ทกั ษะการเปล่ียนแปลง (Change)

11

 ทักษะการเรียนรู้ (Learning Skills)
 ภาวะผนู้ า (Leadership))

7. ช้ินงำนหรือภำระงำน ( หลกั ฐำน / ร่องรอยแสดงควำมรู้ )

- ใบงานสรุป
- ใบงานท่ี 1
- ใบงานที่ 2

8. กำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้

เรือ่ ง เร่ิมตน้ จำกควำมสงสยั จำนวน 8 ชั่วโมง

หนว่ ยที่ 1 กำรต้งั ประเดน็ ปญั หำ จำนวน 4 ช่วั โมง

ใชร้ ปู แบบกำรเรียนรู้แบบค้นพบ ( Discovery Method)

ขั้นนำสู่เขำ้ บทเรียน

1.1 ครูผูส้ อนทกั ทายนกั เรยี น แจง้ จุดประสงค์ทีจ่ ะเรียนวันน้ี จากนน้ั เลน่ เกมเพื่อเป็นการเช็ค

ชื่อ และเพ่อื ละลายพฤติกรรม

1.2 ครสู นทนากับนักเรียนเกี่ยวกับสง่ิ ทีส่ นใจ ขอ้ สงสัย หรอื เรื่องทีน่ ักเรยี นยงั ไม่ทราบคาตอบ

และถามคาถามวา่ “นกั เรยี นจะตง้ั ประเดน็ ปญั หาทส่ี นใจไดอ้ ยา่ งไร” นกั เรียนตอบคาถามวิธกี ารตงั้

ประเด็นปญั หาของตนเอง

ขั้นสอน

2.1 . ครใู ห้นกั เรียนศึกษาตวั อยา่ งประเดน็ ความร้จู ากสาระการเรียนรทู้ ี่เปน็ รายวิชาพ้ืนฐาน

และชว่ ยกันวเิ คราะห์ประเดน็ ความรู้

2.2 นกั เรยี นฝกึ การตง้ั ประเดน็ ปญั หาในเร่ืองทส่ี นใจ โดยเรม่ิ จากตนเอง ชมุ ชน ทอ้ งถนิ่ และ

ประเทศ ครแู ละนักเรียนชว่ ยกันตรวจสอบการตงั้ ประเด็นปัญหา

2.3 ครถู ามคาถาม “การตงั้ สมมติฐานประเดน็ ปญั หาที่สนใจมวี ธิ กี ารอย่างไร” นกั เรยี นตอบ

คาถามและฝึกต้ังสมมตฐิ านและข้อสนั นิษฐานของประเด็นความรู้

2.4 ครใู ช้การตัง้ คาถามกระตุ้นใหน้ กั เรยี นให้เหตุผล ความคดิ ต่างมมุ เพือ่ แกไ้ ขปญั หาโดยใช้

สาขาวิชาต่าง ๆ โดยใชว้ ิธีการโต้แยง้ สนับสนุนและโตแ้ ยง้ คัดคา้ น

2.5 แบ่งนักเรยี นเปน็ กลมุ่ ศกึ ษาใบความรูพ้ ้นื ฐานเก่ียวกับประเดน็ ต่อไปนี้

- การกาหนดประเด็นความรู้

- ธรรมชาตขิ องความรู้

- ลกั ษณะของความรู้

12

- แหล่งเรยี นรู้
- วธิ ีการสร้างความรู้
- ทฤษฎีของกลุม่ สาระการเรยี นรู้ 8 กล่มุ สาระ
- ศาสตร์ / สาขาวชิ าของความรู้
- นักคดิ / บิดาศาสตร์ของแตล่ ะสาระการเรยี นรู้
- หลกั การตงั้ วตั ถุประสงค์และสมมตุ ฐิ าน
- วิธีการนาเสนอ

ขัน้ สรุป
3.1 นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มนาเสนอผลการศกึ ษาใบความรแู้ ละรว่ มกนั อภปิ รายสรปุ ความรู้
3.2 นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มนาเสนอโครงรา่ งการศกึ ษาคน้ คว้าเก่ียวกับประเด็นทสี่ นใจสมมตฐิ าน

และวิธีการรวบรวมข้อมลู
3.3 ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั อภิปรายเก่ยี วกับแผนการศกึ ษาค้นควา้ และช่วยกันปรับปรงุ โครง

รา่ งฯ ให้สมบรู ณ์

หนว่ ยท่ี 2 กำรตง้ั สมมติฐำน จำนวน 4 ชั่วโมง

ใชร้ ปู แบบกำรเรยี นรแู้ บบคน้ พบ ( Discovery Method)

ข้นั นำส่เู ข้ำบทเรียน

1.1 ครูทบทวนความรู้เดิมเร่ืองการต้ังประเด็นปัญหา การต้ังสมมติฐาน เพ่ือเชื่อมโยง กับ

เนื้อหา การออกแบบ การวางแผน และการใชก้ ระบวนการรวบรวมขอ้ มูลอย่างมปี ระสิทธภิ าพ

ขัน้ สอน

2.1 ครตู ั้งคาถาม ให้กับนักเรียนว่าจะออกแบบวางแผน ใชก้ ระบวนการรวบรวมข้อมูลทมี่ ี

ประสิทธิภาพได้อย่างไร “ นกั เรยี นตอบคาถาม” ครแู ละนักเรียนร่วมกันอภปิ รายสรปุ เก่ยี วกับการ

วางแผนใชก้ ระบวนการรวบรวมข้อมลู และแบ่งนักเรียนนัง่ ตามกลุม่ เดิม เพอ่ื ฝกึ วางแผนในการใช้

กระบวนการรวบรวมขอ้ มูลเพ่ือหาคาตอบประเด็นปญั หาที่ตนเองสนใจและค้นคว้าข้อมูลเพมิ่ เติมจาก

แหล่งการเรียนรสู้ าขาวิชาต่าง ๆ

2.2 นกั เรยี นศกึ ษาใบความรเู้ รอื่ ง ออกแบบ วางแผน และ กระบวนการรวบรวมขอ้ มูล

2.3 นกั เรยี นเขยี นแผนผงั ความคดิ (Mind Map ) การออกแบบ วางแผน ใชก้ ระบวนการ

รวบรวมขอ้ มลู ของกล่มุ ตนเอง

13

2.4 ครแู ละนกั เรยี นร่วมตรวจสอบการออกแบบ วางแผน ใชก้ ระบวนการรวบรวมขอ้ มูลของ
แตล่ ะกลุม่ และวิพากย์การออกแบบ วางแผน ใชก้ ระบวนการรวบรวมขอ้ มูลของแต่ละกล่มุ

2.5 นกั เรยี นนาขอ้ วพิ ากษม์ าปรบั ปรุงผลงานของกลมุ่

ขน้ั สรุป
3.1 นกั เรยี น ครู รว่ มกนั สรปุ และนกั เรยี นนาแนวทางการออกแบบ วางแผน ใช้

กระบวนการรวบรวมขอ้ มลู มาจดั ทาเปน็ โครงร่างการศกึ ษาค้นควา้ เป็นลาดับต่อไป

9. สอ่ื กำรสอน
1. ตัวอย่างประเดน็ ความรู้
2. ใบความรพู้ ื้นฐานเกยี่ วกบั ประเด็นตา่ ง ๆ ทีเ่ ก่ยี วข้อง เชน่ การกาหนดประเดน็ ความรู้ วธิ ีการสร้าง
ความรู้ หลักการต้งั วตั ถปุ ระสงค์และสมมตุ ฐิ าน ฯลฯ

3. สอ่ื การสอน canva

10. แหลง่ เรยี นรใู้ นหรอื นอกสถำนท่ี
1. ห้องสมดุ
2. หอ้ งคอมพวิ เตอร์

14

11. กำรวัดและประเมินผล

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ วิธีวดั เครอื่ งมอื วดั เกณฑ์การให้ เกณฑก์ ารประเมิน
หรอื สิง่ ท่ตี ้องการจะวดั และ - ตรวจใบงานสรุป คะแนน

ประเมนิ ผล -ตรวจใบงานที่ 1 - ใบงานใบงาน ได้ถกู ตอ้ ง -รอ้ ยละ60ผ่านเกณฑ์
- ตรวจใบงานสรุป
นกั เรยี นสามารถสรปุ การตัง้ ประเดน็ -ตรวจใบงานที่ 2 สรุป เรยี บร้อยส่งภายใน
ปัญหาโดยเลือกประเดน็ ท่ีสนใจเริ่ม
จากตนเองชมุ ชนทอ้ งถิ่นประเทศได้ เวลาที่กาหนด
อย่างถกู ต้อง(K)
นักเรยี นสามารถตั้งประเด็นปัญหา - ใบงานใบงาน ทาถูกตอ้ งได้ขอ้ ละ -รอ้ ยละ60ผา่ นเกณฑ์
โดยเลือกประเด็นท่สี นใจเร่มิ จาก สรุป 2คะแนน
ตนเองชุมชนทอ้ งถ่ินประเทศได้ (P)
นกั เรียนสามารถอธบิ ายการ - ใบงานใบงาน ได้ถกู ตอ้ ง -รอ้ ยละ60ผ่านเกณฑ์
ต้งั สมมติฐานประเด็นปญั หาท่ีตนเอง
สนใจได้ (K) สรุป เรยี บร้อยสง่ ภายใน

นักเรยี นสามารถตัง้ สมมตฐิ าน เวลาที่กาหนด
ประเด็นปญั หาท่ีตนเองสนใจได้(P)
-ใบงานท่ี 1.1 ทาถกู ตอ้ งไดข้ ้อละ -รอ้ ยละ60ผา่ นเกณฑ์

2คะแนน

สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน วิธีวดั เครือ่ งมือวัด เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารประเมิน

ความสามารถในการสือ่ สาร -ประเมนิ การนาเสนอ -แบบประเมนิ การ 12 -15 = ดี -ระดับคณุ ภาพดี
8 – 6 = พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ผลงาน/ผลการทา นาเสนอผลงาน

กจิ กรรม ตา่ กวา่ 8=ปรับปรุง

ความสามารถในการคิด -สงั เกตพฤติกรรม -แบบสังเกต 12 -15 = ดี -ระดบั คุณภาพดี
8 – 6 = พอใช้ ผ่านเกณฑ์
การทางานรายบคุ คล พฤติกรรม

การทางาน ต่ากวา่ 8=ปรบั ปรุง

รายบคุ คล

15

ความสามารถในการใช้ทกั ษะ - สังเกตพฤติกรรม -แบบสงั เกต 12-15=ดี -ระดบั คณุ ภาพดี
ชีวิต ผา่ นเกณฑ์
การทางานกลุ่ม พฤตกิ รรม 8–6=พอใช้

การทางานกลมุ่ ตา่ กวา่ 8=ปรับปรุง

แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน

คาช้ีแจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องทีตรง

กบั ระดบั คะแนน

ลาดับที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1
32

1 เนอ้ื หาละเอยี ดชัดเจน  

2 ความถูกต้องของเนือ้ หา  

3 ภาษาทใี่ ชเ้ ข้าใจง่าย  

4 ประโยชนท์ ่ีได้จากการนาเสนอ  

5 วธิ กี ารนาเสนอผลงาน  

รวม

ลงชือ่ ...................................................ผ้ปู ระเมิน
............/................./................

เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมินสมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคลอ้ งกับรายการประเมนิ เป็นสว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมินบางส่วน

เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ

12-15 ดี

8-11 พอใช้

ตา่ กวา่ 8 ปรับปรุง

16

แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคล

คาชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ตรง

กบั ระดบั คะแนน

ลาดบั ที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1
32

1 การแสดงความคดิ เหน็  

2 การยอมรบั ฟงั ความคดิ เห็นของผู้อน่ื  

3 การทางานตามหนา้ ท่ที ี่ไดร้ ับมอบหมาย  

4 ความมีน้าใจ  

5 การตรงตอ่ เวลา  

รวม

เกณฑ์การให้คะแนน ลงชอ่ื ...................................................ผ้ปู ระเมิน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่าเสมอ ............../.................../................
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครง้ั
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางคร้งั ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน

เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ

12-15 ดี

8-11 พอใช้

ตา่ กว่า8 ปรบั ปรุง

17

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม

คาชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในชอ่ งท่ีตรง
กบั ระดบั คะแนน

ลาดบั ที่ ช่อื – สกุล การแสดง การยอมรับ การทางาน ความมี การมสี ว่ น รวม
ของนกั เรยี น ความ ฟังคนอ่ืน ตามท่ีไดร้ บั นา้ ใจ ร่วมในการ 15
คิดเห็น มอบหมาย ปรับปรุง คะแนน
ผลงานกลมุ่

321321321321321

ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../...............

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้ัง ให้ 1 คะแนน
ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั

เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

12-15 ดี

18

8 - 11 พอใช้
ตา่ กวา่ 8 ปรับปรุง

13. บันทกึ ผลหลังกำรสอน

สรปุ ผลการเรียนการสอน

นกั เรยี นท้ังหมดจานวน.....................คน

จดุ ประสงค์การเรยี นรขู้ อ้ ท่ี จานวนนกั เรียนท่ผี ่าน จานวนนกั เรียนท่ีไม่ผา่ น

จานวนคน ร้อยละ จานวนคน รอ้ ยละ

1

2

3

15. ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข

...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
16. ข้อเสนอแนะ

...............................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

ลงช่อื ........................................................................
()

ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ .......................................
ลงชือ่ ................................................................ หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้

()

ลงชือ่ .......................................................... รองผอู้ านวยการกลุม่ บริหารวิชาการ

19

(………………………………………..)

ควำมเหน็ ของหัวหนำ้ สถำนศกึ ษำ

ไดท้ าการตรวจแผนการเรยี นรู้ของนางสาวกุณฑลี โคนโท แลว้ มคี วามคิดเห็นดังนี้

1. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ที่

 ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ

2. การจัดกิจกรรมไดน้ าเอากระบวนการเรียนรู้

 เน้นผู้เรียนเปน็ สาคญั มาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม

 ยังไมเ่ น้นผู้เรียนเปน็ สาคญั ควรปรับปรงุ พัฒนาต่อไป

3. ข้อเสนอแนะอื่นๆ

........................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................

ลงชอื่ ...............................................................................................
( ………………………………………………… )

ผูอ้ านวยการโรงเรยี น…………………………………………………………..

20

ใบงำนที่ 1 ต้งั ประเด็นปัญหา

รำยวิชำ กำรศกึ ษำคน้ ควำ้ ดว้ ยตนเอง1 ( IS1) รหสั I2201 ชั้นมัธยมศกึ ษำปที ่ี 2

คำช้แี จง ให้นกั เรยี นตงั้ ประเด็นปญั หา โดยเลือกประเดน็ ทส่ี นใจ เร่มิ จากตนเอง ชุมชน ทอ้ งถิ่น ประเทศ มา 5

ประเดน็ ปัญหา และเรยี งลาดบั ความสาคญั โดย 1 นอ้ ยท่ีสดุ จนถงึ 5มากทส่ี ุด

ลำดบั ประเดน็ ปญั หำ ลำดบั
ควำมสำคัญ

1.

2
3
4

5

21

ช่ือ-สกุล................................................................................................... ชนั้ ม.2/.......... เลขที่ ...............

22

ใบงำนท่ี 2 ตั้งสมมตฐิ านประเดน็ ปัญหา
รำยวิชำ กำรศกึ ษำค้นควำ้ ด้วยตนเอง1 ( IS1) รหสั I2201 ชน้ั มธั ยมศึกษำปที ี่ 2
คำช้แี จง ให้นกั เรียนตง้ั สมมติฐานประเดน็ ปญั หาท่ตี นเองสนใจจากขอ้ ที่ 1มา 5ประเด็นปัญหา และเรียงลาดับ
ความสาคัญ โดย 1 น้อยทส่ี ดุ จนถึง 5มากทีส่ ุด

ลำดับ
ลำดับ สมมตฐิ ำนประเดน็ ปญั หำ

ควำมสำคัญ
1

2

3

4

5

ชือ่ -สกลุ .................................................................................................. ชั้น ม.2/.......... เลขที่ ...............

23

2แผนการจัดการเรียนรู้ที่

เรมิ่ ต้นจากความสงสัย

24

แผนกำรจดั กำรเรียนรู้

สำระกำรเรยี นรูเ้ พ่มิ เติม รำยวิชำกำรศกึ ษำค้นคว้ำดว้ ยตนเอง1( IS1)
ช้ันมัธยมศึกษำปีที่ 2
ภำคเรยี นท่ี 1 ปกี ำรศึกษำ2565
หนว่ ยกำรเรียนรทู้ ี่ 2
เรื่อง กำ้ วไปสู่กำรค้นหำและแสวงหำควำมรู้ควบคู่กำรบันทึก เวลำ 8 ชั่วโมง

1. มำตรฐำนกำรเรยี นรู/้ ตวั ชว้ี ัด/ผลกำรเรียนรู้
ผลกำรเรยี นรู้
1. ออกแบบ วางแผน โดยใชก้ ระบวนการรวบรวมขอ้ มูลอย่างมปี ระสิทธภิ าพได้
2. ศกึ ษา ค้นคว้า แสวงหาความรู้เก่ียวกบั ประเด็นท่เี ลือก จากแหล่งเรียนรทู้ หี่ ลากหลายได้

2. จุดประสงค์กำรเรยี นรู้
หน่วยท่ี 2 กำ้ วไปสู่กำรคน้ หำและแสวงหำควำมรคู้ วบคกู่ ำรบันทึก
1. ออกแบบ วางแผน โดยใช้กระบวนการรวบรวมขอ้ มูลอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพได้
1.1 นักเรียนสามารถอธิบายการออกแบบ วางแผน โดยใช้กระบวนการรวบรวมข้อมูลอย่างมี

ประสทิ ธิภาพไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ( K )
1.2 นกั เรยี นสามารถเลอื กใชก้ ารออกแบบ วางแผน โดยใชก้ ระบวนการรวบรวมข้อมลู อยา่ งมี

ประสทิ ธภิ าพไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ( P )
2. ศึกษา คน้ คว้า แสวงหาความรเู้ ก่ียวกับประเด็นทเ่ี ลือก จากแหล่งเรยี นรทู้ ่ีหลากหลายได้
2.1 นักเรียนสามารถสรุปศึกษา ค้นควา้ แสวงหาความรู้เกี่ยวกับประเดน็ ที่เลือก จากแหล่งเรียนรู้ที่

หลากหลายได้ ( K )
2.2 นักเรียนสามารถยกตัวอย่างศึกษา ค้นคว้า แสวงหาความรู้เกี่ยวกับประเด็นที่เลือก จากแหล่ง

เรยี นรู้ที่หลากหลายได้ ( P )
2.3 นักเรียนเหน็ ความสาคญั ของการศึกษา คน้ ควา้ แสวงหาความรเู้ กย่ี วกับประเด็นทีเ่ ลือก จากแหล่งเรยี นรู้

ท่ีหลากหลาย ( A )

3. สำระสำคัญ
การออกแบบวางแผนใชก้ ระบวนการรวบรวมขอ้ มูลโดยใชค้ วามรู้จากศาสตร์ต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ

จะชว่ ยให้การศึกษาคน้ ควา้ แสวงหาคาตอบประสบผลสาเร็จ การศึกษา คน้ คว้า จากแหล่งเรียนรู้ทีห่ ลากหลายจะ
ทาใหไ้ ด้รับขอ้ มูลท่ีชดั เจนและถกู ต้องมากขนึ้ และน่าเชือ่ ถือ

25

4. สำระกำรเรยี นรู้
หนว่ ยที่ 2 ก้ำวไปสกู่ ำรค้นหำและแสวงหำควำมร้คู วบคกู่ ำรบันทกึ
- การออกแบบวางแผนเพือ่ รวบรวมข้อมลู
- การวางแผนในการเก็บรวบรวมข้อมลู องคป์ ระกอบของการวางแผน ข้นั ตอนการวางแผน
- ความสาคัญของการแสวงหาความรูแ้ ละคณุ ลกั ษณะท่พี งึ มีของผกู้ ารแสวงหาความรู้

5 สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน (เฉพำะทเี่ กิดในหนว่ ยกำรเรยี นรนู้ ี้)

 ความสามารถในการสือ่ สาร
 ความสามารถในการคิด
 ความสามารถในการแกป้ ญั หา
 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
2. ทกั ษะของผู้เรยี นในศตวรรษที่ 21 (3R 8C + 2L) (จดุ เน้นสกู่ ารพัฒนาคณุ ภาพผู้เรยี น)
 ทกั ษะการอา่ น (Reading)
 ทกั ษะการ เขยี น (Writing)
 ทกั ษะการ คิดคานวณ (Arithmetic)
 ทกั ษะด้านการคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณและทกั ษะในการแก้ปัญหา (Critical thinking and
problem solving)
 ทกั ษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and innovation)
 ทักษะดา้ นความร่วมมอื การทางานเป็นทีม และภาวะผนู้ า (Collaboration , teamwork
and leadership)
 ทกั ษะด้านความเขา้ ใจต่างวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural understanding)
 ทักษะด้าน การสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เทา่ ทนั สื่อ (Communication information and
media literacy)
 ทกั ษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร (Computing)
 ทกั ษะอาชีพและทักษะการเรยี นรู้ (Career and learning self-reliance, change)
 ทักษะการเปลย่ี นแปลง (Change)
 ทกั ษะการเรียนรู้ (Learning Skills)
 ภาวะผู้นา (Leadership))

26

7. ชิน้ งำนหรอื ภำระงำน ( หลักฐำน / ร่องรอยแสดงควำมรู้ )

- ใบงานสรปุ
- ใบงานที่ 3
- ใบงานที่ 4

8. กำรจดั กิจกรรมกำรเรียนรู้

เร่อื ง ก้ำวไปสกู่ ำรคน้ หำและแสวงหำควำมรคู้ วบคกู่ ำรบันทึก จำนวน 8 ชั่วโมง

หน่วยที่ 1 กำรออกแบบวำงแผนเพ่อื รวบรวมข้อมูล จำนวน 4 ชวั่ โมง

ใช้รปู แบบกำรเรยี นรู้แบบค้นพบ ( Discovery Method)

ขน้ั นำสู่เขำ้ บทเรยี น

1.1 ครูผสู้ อนทกั ทายนกั เรียน แจ้งจดุ ประสงค์ทีจ่ ะเรยี นวนั นี้ จากน้ันเลน่ เกมเพือ่ เป็นการเช็ค

ชื่อ และเพอ่ื ละลายพฤติกรรม

1.2 ครทู บทวนความรู้เดมิ เรื่องการตง้ั ประเดน็ ปญั หา การต้ังสมมติฐาน เพือ่ เชอ่ื มโยงกบั

เน้อื หา การออกแบบ การวางแผน และการใช้กระบวนการรวบรวมข้อมลู อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ

ข้ันสอน

2.1 . ครตู ้ังคาถาม ให้กบั นกั เรียนว่าจะออกแบบวางแผน ใช้กระบวนการรวบรวมข้อมูลทมี่ ี

ประสิทธิภาพไดอ้ ย่างไร “ นกั เรยี นตอบคาถาม” ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั อภปิ รายสรุปเกย่ี วกับการ

วางแผนใชก้ ระบวนการรวบรวมขอ้ มูลและแบง่ นักเรียนนง่ั ตามกลุ่มเดมิ เพอื่ ฝกึ วางแผนในการใช้

กระบวนการรวบรวมข้อมลู เพือ่ หาคาตอบประเดน็ ปัญหาท่ตี นเองสนใจและค้นคว้าขอ้ มลู เพิม่ เติมจาก

แหล่งการเรยี นรสู้ าขาวชิ าต่าง ๆ

2.2 นกั เรยี นศกึ ษาใบความรเู้ รอ่ื ง ออกแบบ วางแผน และ กระบวนการรวบรวมขอ้ มลู

2.3 นกั เรยี นเขยี นแผนผงั ความคดิ (Mind Map ) การออกแบบ วางแผน ใชก้ ระบวนการ

รวบรวมข้อมูล

2.4 ครูและนกั เรยี นร่วมตรวจสอบการออกแบบ วางแผน ใชก้ ระบวนการรวบรวมขอ้ มลู ของ

แต่ละกลมุ่ และวิพากย์การออกแบบ วางแผน ใช้กระบวนการรวบรวมขอ้ มลู ของแต่ละกลมุ่

2.5 นกั เรยี นนาขอ้ วพิ ากษ์มาปรบั ปรุงผลงานของกลุม่

ขัน้ สรุป

3.1 นกั เรยี น ครู รว่ มกนั สรปุ และนกั เรยี นนาแนวทางการออกแบบ วางแผน ใช้

กระบวนการรวบรวมขอ้ มลู มาจดั ทาเป็นโครงร่างการศกึ ษาค้นคว้าเป็นลาดบั ตอ่ ไป

27

หน่วยที่ 2 ควำมสำคญั ของกำรแสวงหำควำมรู้ จำนวน 4 ชวั่ โมง
ใช้รูปแบบกำรเรยี นร้แู บบคน้ พบ ( Discovery Method)
ข้ันนำสเู่ ข้ำบทเรียน

1.1 ครูผู้สอนทักทายนักเรียน แจ้งจุดประสงค์ที่จะเรียนวันน้ี จากนั้นเล่นเกมเพ่ือเป็นการเช็ค
ช่ือ และเพ่ือละลายพฤติกรรม

1.2 ครตู ง้ั ประเดน็ คาถาม นกั เรยี นมวี ิธกี ารศกึ ษา ค้นควา้ แสวงหาความร้ไู ดจ้ ากทใ่ี ดบ้าง
1.3 นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มบอกวธิ ใี นการคน้ ควา้ แสวงหาความรู้ ขอ้ มูลจากแหลง่ เรียนรูต้ ่างๆ
ข้ันสอน
2.1 . นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มบอกวธิ ใี นการคน้ ควา้ แสวงหาความรู้ ข้อมูลจากแหล่งเรยี นรตู้ ่างๆ
2.2 นกั เรยี นชว่ ยกนั วางแผนในการสบื คน้ ขอ้ มลู ออกแบบการเลอื กแหลง่ ขอ้ มลู โดยกาหนด
เป็นปฏทิ นิ การปฏบิ ัตงิ าน
2.3 เตรยี มเอกสารสาคญั ต่างๆ ท่ีจาเป็นและเกี่ยวข้องเมื่อต้องมีการสัมภาษณ์บคุ คล เชน่ ออก
แบบฟอร์มการสมั ภาษณ์
2.4 นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มรวบรวมขอ้ มลู จากประเดน็ ท่ีกลมุ่ สนใจในรปู แบบตา่ งๆ โดยสมาชิกแต่
ละคนนาขอ้ มูลทีไ่ ด้จากการศกึ ษาคน้ ควา้ มาแลกเปลยี่ นเรยี นรู้รว่ มกนั และสรา้ งองคค์ วามรู้
ขน้ั สรปุ
3.1 นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มนาเสนอขอ้ มลู ทีไ่ ดจ้ ากการรวบรวมหนา้ ชน้ั เรยี น
3.2 ครูและนักเรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ และเสนอแนะในสว่ นทย่ี ังบกพรอ่ ง

9. สอื่ กำรสอน
1. . ตวั อยา่ งการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลทีเ่ ป็นระบบ

2. สอื่ การสอน canva

10. แหลง่ เรียนรใู้ นหรือนอกสถำนท่ี
1. หอ้ งสมดุ
2. ห้องคอมพวิ เตอร์

28

11. กำรวัดและประเมนิ ผล

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ วธิ วี ัด เคร่ืองมือวดั เกณฑ์การให้ เกณฑก์ ารประเมิน
คะแนน
หรอื ส่ิงทต่ี อ้ งการจะวดั และ

ประเมินผล

นักเรียนสามารถอธบิ ายการออกแบบ -ตรวจใบงานสรุป - ใบงานใบงาน ไดถ้ กู ตอ้ ง -ร้อยละ60ผา่ นเกณฑ์

วางแผนโดยใชก้ ระบวนการรวบรวม สรปุ เรยี บร้อยสง่ ภายใน

ข้อมูลอย่างมีประสทิ ธิภาพไดอ้ ย่าง เวลาที่กาหนด

ถูกตอ้ ง(K)

นักเรียนสามารถเลอื กใช้การ -ตรวจใบงานท่ี 1 - ใบงานใบงาน ทาถกู ตอ้ งได้ขอ้ ละ -ร้อยละ60ผ่านเกณฑ์
สรปุ 2คะแนน
ออกแบบ วางแผน โดยใช้กระบวนการ

รวบรวมขอ้ มลู อยา่ งมีประสิทธิภาพ

ไดอ้ ย่างถกู ต้อง(P)

นักเรยี นสามารถสรุปศึกษาคน้ คว้า - ตรวจใบงานสรุป - ใบงานใบงาน ไดถ้ ูกตอ้ ง -ร้อยละ60ผ่านเกณฑ์
แสวงหาความรู้เกี่ยวกับประเด็นที่
เลือกจากแหล่งเรยี นรู้ทหี่ ลากหลาย สรปุ เรียบร้อยส่งภายใน
ได้ (K)
เวลาทีก่ าหนด

นกั เรยี นสามารถยกตัวอย่างศึกษา -ตรวจใบงานที่ 2 -ใบงานที่ 1.1 ทาถกู ต้องได้ข้อละ -รอ้ ยละ60ผา่ นเกณฑ์
2คะแนน
ค้นควา้ แสวงหาความรู้เกี่ยวกับ

ประเดน็ ท่เี ลอื กจากแหลง่ เรียนรู้ท่ี

หลากหลายได้ (P)

29

สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน วธิ ีวัด เครอ่ื งมอื วดั เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารประเมิน
ความสามารถในการส่อื สาร - ประเมินการนาเสนอ -แบบประเมนิ การ 12 -15 = ดี - ระดับคุณภาพ ดี
ผลงาน/ผลการทา นาเสนอผลงาน 8 – 6 = พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ความสามารถในการคิด กจิ กรรม ตา่ กวา่ 8=ปรบั ปรงุ
-สงั เกตพฤตกิ รรม -แบบสงั เกต 12 -15 = ดี -ระดับคณุ ภาพดี
ความสามารถในการใช้ทกั ษะ การทางานรายบคุ คล พฤติกรรมการทางาน 8 – 6 = พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ชวี ติ รายบุคคล ตา่ กว่า8=ปรบั ปรงุ
- สังเกตพฤติกรรม 12 -15 = ดี - ระดับคุณภาพ ดี
การทางานกลุม่ -แบบสงั เกต 8 – 6 = พอใช้ ผ่านเกณฑ์
พฤตกิ รรม ต่ากวา่ 8=ปรับปรงุ
การทางานกลมุ่

30

แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน

คาชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องทีตรง

กับระดับคะแนน

ลาดบั ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1
32

1 เนอ้ื หาละเอยี ดชดั เจน  

2 ความถูกตอ้ งของเน้อื หา  

3 ภาษาท่ีใชเ้ ข้าใจง่าย  

4 ประโยชนท์ ี่ไดจ้ ากการนาเสนอ  

5 วิธกี ารนาเสนอผลงาน  

รวม

ลงชือ่ ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............/................./................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมนิ สมบรู ณช์ ัดเจน ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ เป็นส่วนใหญ่ ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ บางสว่ น

เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

12-15 ดี

8-11 พอใช้

ตา่ กว่า8 ปรบั ปรงุ

31

แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคล

คาช้ีแจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ตรง

กบั ระดบั คะแนน

ลาดบั ที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 1
32

1 การแสดงความคิดเหน็  

2 การยอมรบั ฟงั ความคดิ เห็นของผู้อื่น  

3 การทางานตามหน้าทท่ี ี่ได้รับมอบหมาย  

4 ความมนี ้าใจ  

5 การตรงตอ่ เวลา  

รวม

เกณฑ์การให้คะแนน ลงชอ่ื ...................................................ผ้ปู ระเมิน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ............../.................../................
ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้ัง
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน

เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ

12-15 ดี

8-11 พอใช้

ตา่ กวา่ 8 ปรบั ปรุง

32

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม

คาช้ีแจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในชอ่ งที่ตรง
กับระดับคะแนน

ลาดบั ท่ี ช่อื – สกุล การแสดง การยอมรับ การทางาน ความมี การมีส่วน รวม
ของนกั เรยี น ความ ฟังคนอน่ื ตามทไ่ี ด้รบั นา้ ใจ ร่วมในการ 15
คดิ เห็น มอบหมาย ปรบั ปรุง คะแนน
ผลงานกล่มุ

321321321321321

ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมิน
............../.................../...............

เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบอ่ ยครงั้ ให้ 1 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั

เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

12-15 ดี

8-11 พอใช้

ตา่ กวา่ 8 ปรับปรุง

33

13. บนั ทกึ ผลหลังกำรสอน
สรุปผลการเรียนการสอน
นกั เรยี นทง้ั หมดจานวน.....................คน

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ข้อที่ จานวนนักเรียนท่ีผา่ น จานวนนักเรียนท่ไี มผ่ ่าน

จานวนคน รอ้ ยละ จานวนคน ร้อยละ

1

2

3

15. ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแกไ้ ข

...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
16. ขอ้ เสนอแนะ

...............................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

ลงช่อื ........................................................................
()

ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ .......................................
ลงชือ่ ................................................................ หัวหน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้

()

ลงชอื่ .......................................................... รองผอู้ านวยการกล่มุ บริหารวิชาการ
(………………………………………..)

34

ควำมเหน็ ของหัวหน้ำสถำนศึกษำ

ได้ทาการตรวจแผนการเรยี นรู้ของนางสาวกณุ ฑลี โคนโท แลว้ มคี วามคดิ เหน็ ดังนี้

4. เป็นแผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่

 ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรุง

5. การจัดกจิ กรรมไดน้ าเอากระบวนการเรยี นรู้

 เนน้ ผู้เรยี นเปน็ สาคญั มาใช้ในการสอนได้อยา่ งเหมาะสม

 ยังไมเ่ นน้ ผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรับปรงุ พฒั นาต่อไป

6. ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ

........................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................

ลงชื่อ...............................................................................................
( ………………………………………………… )

ผูอ้ านวยการโรงเรยี น…………………………………………………………..

35

ใบงำนที่ 4 . การออกแบบและวางแผน
รำยวชิ ำ กำรศึกษำค้นควำ้ ดว้ ยตนเอง1 ( IS1) รหสั I2201 ช้นั มัธยมศกึ ษำปที ี่ 2
คำช้ีแจง ใหน้ กั เรยี นแบ่งกลุ่ม 3คน ชว่ ยกันออกแบบและวางแผนในการโครงงาน โดยเลือกประเด็นปญั หาที่
สนใจจากใบงานที่1 ของสมาชิกในกลุ่ม
บันทกึ กำรวำงแผนกำรทำงำน (ID Plan)
สมำชิก
ชอ่ื -สกลุ .................................................................... ชน้ั ม.2/.......... เลขท่ี ...............
ชื่อ-สกลุ .................................................................... ช้ัน ม.2/.......... เลขท่ี ...............
ชื่อ-สกุล.................................................................... ช้ัน ม.2/.......... เลขท่ี ...............
ครูท่ปี รึกษำกำรทำงำน
ชอ่ื -สกลุ .................................................................... กลมุ่ สาระการเรยี นรู้…………………………………………….
ชื่อ-สกลุ .................................................................... กลุ่มสาระการเรยี นรู้…………………………………………….
ช่ือ-สกุล.................................................................... กลุ่มสาระการเรยี นรู้……………………………………………
ครูผสู้ อน
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
ประเดน็ ปญั หำ
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
สมมตฐิ ำน
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................

36

กำรเก็บรวบรวมขอ้ มูล

.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................

เครอื่ งมอื เกบ็ ข้อมูล

.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................

แหลง่ เรียนรู้เกย่ี วกบั ประเด็นปัญหำ

.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................

37

ใบงำนท่ี 3 . การศึกษาค้นควา้ และตรวจสอบความน่าเชอื่ ถือ
รำยวชิ ำ กำรศึกษำคน้ ควำ้ ดว้ ยตนเอง1 ( IS1) รหัส I2201 ชน้ั มัธยมศึกษำปที ี่ 2
คำชีแ้ จง ให้นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ 3คน(กลุ่มเดิม) ช่วยกนั ศกึ ษาค้นควา้ แสวงหาความร้เู ก่ียวกบั ประเดน็ ท่เี ลอื ก จาก
แหลง่ เรยี นรู้ทหี่ ลากหลาย และตรวจสอบความน่าเชอื่ ถอื ของแหลง่ ทีม่ าของขอ้ มูล

แบบบันทกึ กำรค้นคว้ำ

ชือ่ -สกลุ ................................................ ช้นั ม……../.... เลขท่ี.......
ชอ่ื -สกลุ ................................................ ชนั้ ม……../.... เลขที่.......
ชื่อ-สกุล................................................ ชั้นม……../.... เลขท่ี.......

ชอ่ื ประเดน็ ปัญหำ :
..........................................................................................................................................................
.......................... ............................................................................................................

สิ่งท่ีไดจ้ ำกกำรคน้ ควำ้ แหลง่ ทม่ี ำ
วันเดอื นปี สงิ่ ท่ีได้

38

ตรวจสอบควำมน่ำเชื่อถือของแหล่งท่มี ำของขอ้ มูล
วิเครำะห์แหล่งที่มำที่ 1
[ ] นา่ เช่ือถอื เพราะ
......................................................................................................................................................................
[ ] ไมน่ า่ เชื่อถือ เพราะ
......................................................................................................................................................................
วเิ ครำะห์แหลง่ ท่ีมำท่ี 2
[ ] น่าเชอ่ื ถือ เพราะ
......................................................................................................................................................................
[ ] ไม่น่าเชื่อถอื เพราะ
......................................................................................................................................................................
วิเครำะห์แหลง่ ทมี่ ำท่ี 3
[ ] นา่ เชื่อถอื เพราะ
......................................................................................................................................................................
[ ] ไมน่ ่าเชอ่ื ถือ เพราะ
......................................................................................................................................................................
วเิ ครำะห์แหล่งทีม่ ำท่ี 4
[ ] น่าเชอ่ื ถือ เพราะ
......................................................................................................................................................................
[ ] ไมน่ า่ เชือ่ ถอื เพราะ
......................................................................................................................................................................
วิเครำะหแ์ หลง่ ท่ีมำท่ี 5
[ ] นา่ เชือ่ ถอื เพราะ
......................................................................................................................................................................
[ ] ไมน่ ่าเชอ่ื ถอื เพราะ
......................................................................................................................................................................

39

บรรณำนกุ รม

กณุ ฑีรา บญุ เลย้ี ง และคณะ./().//หนงั สือเรยี น รายวชิ าเพมิ่ เตมิ การศึกษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง 1 (IS 1)
ระดับชัน้ ม.1-3/(พิมพค์ ร้งั ที่).//สถานท่ีพมิ พ:์ /สานกั พมิ พ์.