The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ริชาร์ด พี.ฟายน์แมน คือชื่อของนักฟิสิกส์เจ้าของรางวัลโนเบลปี 1965 จากผลงานในการพัฒนาทฤษฎีสนามควอนตัม และเป็นศาสตราจารย์สาขาฟิสิกส์เชิงทฤษฎีที่สถาบันเทคโนโลยีแห่งแคลิฟอร์เนีย (คาลเทค) นอกจากจะเป็นปูชนียบุคคลในแวดวงวิทยาศาสตร์แล้ว ฟายน์แมนยังเป็นที่รักของสาธารณชนแห่งคริสต์ศตวรรษที่ 20 บุคลิกอันโดดเด่นของฟายน์แมนที่เป็นคนสนุกสนานและพร้อมจะเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา ทำให้เขากลายเป็นขวัญใจของผู้คนที่ได้ร่วมงานและได้พบปะกับเขา หนังสือของฟายน์แมนที่รวบรวมความเรียงว่าด้วยชีวิตเปี่ยมสีสัน และประสบการณ์การทำงานในฐานะนักฟิสิกส์อย่าง Surely You Are Joking Mr.Feynman! และ What do You Care What Other People Think? เป็นหนังสือติดอันดับขายดีทั่วโลก ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับหนุ่มสาวมากมาย ใน The Pleasure of Finding Things Out ซึ่งเรียบเรียงจากบทสัมภาษณ์ของฟายน์แมนในรายการฮอไรซัน (Horizon) ของสถานีโทรทัศน์บีบีซี ในปี 1981 ซึ่งออกอากาศในสหรัฐอเมริกา ชีวิตของฟายน์แมนดำเนินมาไกลพอสมควรแล้วในตอนนั้น ดังนั้น เขาจึงสามารถเล่าถึงประสบการณ์และความสำเร็จด้วยมุมมองชนิดที่ผู้ผ่านโลกมาน้อยกว่าไม่อาจทำได้ หนังสือเล่มนี้จะเผยให้เห็นชีวิตและความคิดอันน่าทึ่งของเขา และทำให้เราตกหลุมรัก “ริชาร์ด พี.ฟายน์แมน” นักวิทยาศาสตร์ผู้เรียนรู้นอกขนบและสร้างแรงบันดาลใจให้คนทั่วโลกอย่างแน่นอน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Kanyarat T., 2022-09-15 03:02:39

ความสนุกอยู่รอบตัวเรา: THE PLEASURE OF FINDING THINGS OUT

ริชาร์ด พี.ฟายน์แมน คือชื่อของนักฟิสิกส์เจ้าของรางวัลโนเบลปี 1965 จากผลงานในการพัฒนาทฤษฎีสนามควอนตัม และเป็นศาสตราจารย์สาขาฟิสิกส์เชิงทฤษฎีที่สถาบันเทคโนโลยีแห่งแคลิฟอร์เนีย (คาลเทค) นอกจากจะเป็นปูชนียบุคคลในแวดวงวิทยาศาสตร์แล้ว ฟายน์แมนยังเป็นที่รักของสาธารณชนแห่งคริสต์ศตวรรษที่ 20 บุคลิกอันโดดเด่นของฟายน์แมนที่เป็นคนสนุกสนานและพร้อมจะเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา ทำให้เขากลายเป็นขวัญใจของผู้คนที่ได้ร่วมงานและได้พบปะกับเขา หนังสือของฟายน์แมนที่รวบรวมความเรียงว่าด้วยชีวิตเปี่ยมสีสัน และประสบการณ์การทำงานในฐานะนักฟิสิกส์อย่าง Surely You Are Joking Mr.Feynman! และ What do You Care What Other People Think? เป็นหนังสือติดอันดับขายดีทั่วโลก ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับหนุ่มสาวมากมาย ใน The Pleasure of Finding Things Out ซึ่งเรียบเรียงจากบทสัมภาษณ์ของฟายน์แมนในรายการฮอไรซัน (Horizon) ของสถานีโทรทัศน์บีบีซี ในปี 1981 ซึ่งออกอากาศในสหรัฐอเมริกา ชีวิตของฟายน์แมนดำเนินมาไกลพอสมควรแล้วในตอนนั้น ดังนั้น เขาจึงสามารถเล่าถึงประสบการณ์และความสำเร็จด้วยมุมมองชนิดที่ผู้ผ่านโลกมาน้อยกว่าไม่อาจทำได้ หนังสือเล่มนี้จะเผยให้เห็นชีวิตและความคิดอันน่าทึ่งของเขา และทำให้เราตกหลุมรัก “ริชาร์ด พี.ฟายน์แมน” นักวิทยาศาสตร์ผู้เรียนรู้นอกขนบและสร้างแรงบันดาลใจให้คนทั่วโลกอย่างแน่นอน

Keywords: ความรู้ทั่วไป

ความสนกุ อย่รู อบตัวเรา

THE PLEASURE OF FINDING THINGS OUT
รชิ ารด์ ฟายนแ์ มน: เขียน
นรา สุภคั โรจน:์ แปล

ราคา 385 บาท

TPAOEChdrlorliianipgrtiotiyigentrrrhd’iaasgtlnsilhinynstrtletpa©rhosuteiedbo1ruUn9lvics9nerht9iidigtoee.bhnddty,b©ScMytha2iaPct0ephe2stere2slolreebfuinyAFstemrGPoyyeudnprbumisclciaysatinh.oPiPnanuusngb,bdliPalsiCusnhhbdainelrigflsdoFhoCseetionymd.no,ubmtLelyttasadBnnc.aeosopiucysrBliygohiontk©C, Aa1n9Ma9de9mab.byeJreofffrtehyeRPoebrsbeinuss Books Group

© ขอ้ ความและรปู ภาพในหนงั สอื เลม่ น้ี สงวนลิขสทิ ธ์ติ ามพระราชบัญญัติลขิ สทิ ธ์ิ (ฉบบั เพ่ิมเติม) พ.ศ. 2558
การคัดลอกส่วนใดๆ ในหนังสือเลม่ นไ้ี ปเผยแพร่ไมว่ า่ ในรปู แบบใดต้องไดร้ บั อนุญาตจากเจา้ ของลขิ สิทธก์ิ อ่ น
ยกเวน้ เพอื่ การอ้างองิ การวจิ ารณ์ และประชาสัมพนั ธ์

ข้อมลู ทางบรรณานุกรมของส�ำ นักหอสมดุ แห่งชาติ
National Library of Thailand Cataloging in Publication Data
ฟายน์แมน, ริชาร์ด.

ความสนุกอยู่รอบตัวเรา = The pleasure of finding things out.-- กรุงเทพฯ : ยิปซี กรุ๊ป, 2565.
328 หน้า.
1. ความรู้ทั่วไป. I. นรา สุภัคโรจน์, ผู้แปล. II. ชื่อเรื่อง.
030
ISBN 978-616-301-760-4

บรรณาธิการอ�ำ นวยการ : คธาวฒุ ิ เกนุ้ย
บรรณาธกิ ารบรหิ าร : สุรชยั พงิ ชัยภมู ิ
ทปี่ รึกษาฝ่ายตา่ งประเทศ : ศิริธาดา กองภา
บรรณาธิการเลม่ : ปรสิ นา บญุ สินสขุ
บรรณาธิการพเิ ศษ : ดร.ภาณุ ตรัยเวช
กองบรรณาธิการ : คณติ า สตุ ราม พรรณกิ า ครโสภา วนั วิสา เขตรดง ณฎั ฐิภ์ ทั ร์ ศิรพง่ึ เงิน
เลขากองบรรณาธิการ : กันยารตั น์ ทานะเวช
พิสจู น์อักษร : ยุพดี ตันตทิ วโี ชค
รูปเลม่ : คีย์ ริชเนสส์
ออกแบบปก : Rabbithood Studio
ผูอ้ �ำ นวยการฝา่ ยการตลาด : นุชนนั ท์ ทักษณิ าบัณฑิต
ผูจ้ ัดการฝา่ ยการตลาด : ชติ พล จนั สด
ผจู้ ัดการทว่ั ไป : เวชพงษ์ รตั นมาลี
พมิ พท์ ี่ : บรษิ ัท วิชัน่ พรีเพรส จำ�กดั โทร. 0 2147 3175-6
จดั พิมพ์และจดั จ�ำ หน่ายโดย : บริษัท ยิปซี กรุป๊ จำ�กัด เลขท่ี 37/145 รามคำ�แหง 98
แขวง/เขตสะพานสูง กรงุ เทพฯ 10240
โทร. 0 2728 0939 โทรสาร 0 2728 0939 ต่อ 108
www.gypsygroup.net
www.facebook.com/gypsygroup.co.ltd
LINE ID: @gypzy
เครดิตภาพปก : Richard Feynman, 1988 California Institute of Technology Professor Richard Feynman
https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Richard_Feynman_1988.png?fbclid=IwAR26D1
vaa44PrfRJo4a0pgn8KysubzRBbp2EV26H85BH4lAHyBGSDxPdVQ#/media/File:Richard_
Feynman_1988.png

สนใจสัง่ ซือ้ หนงั สอื จำ�นวนมากเพอ่ื สนับสนนุ ทางการศึกษา ส�ำ นกั พมิ พ์ลดราคาพิเศษ ตดิ ตอ่ โทร. 0 2728 0939

THE PLEASURE OF FINDING THINGS OUT

ความสนุกอย่รู อบตวั เรา

ริชาร์ด ฟายน์แมน

ค�ำนิยม
THIS SIDE IDOLATRY

ผู้ที่ข้าบูชา

โดย ฟรีแมนเจ. ไดสัน

“ขา้ ฯ รกั ชายผนู้ จี้ นถงึ ขน้ั เกอื บจะหลงใหลบชู าเหมอื นกบั คนอนื่ ๆ” เบน
จอนสัน นกั เขียนบทละครสมยั พระนางเจา้ อลิซาเบธที่ 1 เขยี นไว้ และ
“ชายผู้นี้” ของเขาก็คือ วิลเลียม เชคสเปียร์ เพื่อนและครูของเขา ทั้ง
จอนสันและเชคสเปียร์เป็นนักเขียนบทละครที่ประสบความส�ำเร็จ
จอนสนั เปน็ ปราชญผ์ รู้ อบคอบ คงแกเ่ รยี น สว่ นเชคสเปยี รเ์ ปน็ อจั ฉรยิ ะ
ทที่ ำ� อะไรผลผี ลาม ทง้ั สองไมเ่ คยอจิ ฉารษิ ยาหรอื ชงิ ดชี งิ เดน่ กนั  เชคส-
เปยี รแ์ ก่กว่าจอนสนั แปดปี และมีผลงานระดบั ชิ้นโบวแ์ ดงบนเวทีละคร
ในลอนดอนแลว้ กอ่ นทจี่ อนสนั จะเรมิ่ เขยี น จากคำ� บอกเลา่ ของจอนสนั
เชคสเปียรเ์ ป็นคนที่ “ซอื่ สตั ย์ เปดิ ใจ และอิสระ” และได้ใหก้ �ำลงั ใจและ
ความช่วยเหลือท่ีมปี ระโยชน์กับเพอ่ื นผ้อู อ่ นวัยกว่า ความช่วยเหลือที่
ส�ำคัญทสี่ ุดของเชคสเปียรค์ ือรบั บทดาราน�ำคนหนึ่งใน “Every Man in
His Humour” บทละครเรอื่ งแรกของจอนสนั ซง่ึ นำ� ออกแสดงในปี 1598
ละครเรื่องนี้ประสบความส�ำเร็จและเป็นจุดเริ่มต้นอาชีพนักเขียนบท
ละครมอื อาชพี ของจอนสนั  ตอนนน้ั จอนสนั อายุ 25 สว่ นเชคสเปยี ร์ 34
หลงั ป ี 1598 จอนสนั ยงั คงเขยี นกวแี ละบทละคร ซงึ่ หลายเรอ่ื งถกู นำ� ไป
แสดงโดยคณะละครของเชคสเปียร์ จอนสันเป็นกวีและปราชญ์ท่ีมีช่ือ
เสียงด้วยตนเองในเวลาต่อมาโดยเม่ือเสียชีวิตได้รับเกียรติให้ฝังร่างใน

มหาวหิ ารเวสตม์ นิ สเตอร ์ แตเ่ ขาไมเ่ คยลมื บญุ คณุ เพอื่ นเกา่  เมอื่ เชคส-
เปียรเ์ สียชีวิต เขาไดเ้ ขยี นบทกวีช่ือ “To the Memory of My Beloved
Master, William Shakespeare” อนั โดง่ ดัง

“เขาไม่ได้เปน็ คนในยคุ นี้ แตข่ องทกุ ยคุ ทกุ สมยั ”
“และแม้ท่านรู้ลาตินน้อยนิดและกรีกยิ่งน้อยกว่า ดังนั้น
เพอ่ื เทดิ เกยี รติ ขา้ ฯ จะไมเ่ อ่ยนาม
แต่กู่เรียกผู้ย่ิงใหญ่ เอสเคลัส, ยูริปิดิสและซอฟโฟคลีส
คืนชพี อกี คร้ัง เพอ่ื สดบั ฟังฝีเท้าอนั หนกั แนน่ ของทา่ น”
“ธรรมชาติน้ันภาคภูมิในการออกแบบของเขา และยินดี
สวมใสอ่ าภรณ์แห่งกวขี องเขา...กระน้ันข้าฯ จะไมม่ อบให้
ธรรมชาติท้ังหมด ศิลปะของท่าน เชคสเปียร์ ผู้อ่อนโยน
ของขา้  ตอ้ งไดร้ บั สว่ นหนงึ่ เพราะแม้ ธรรมชาติ จะสำ� คญั
ต่อกวีผู้นี้ หากศิลปะของท่านคือผู้ให้ก�ำเนิดรูปแบบ
และผู้ที่ท�ำให้งานเขียนมีชีวิตขึ้น ต้องตรากตร�ำ ด้วยกวีท่ี
ดีน้นั  ดโี ดยกำ� เนิด และโดยผลงาน
จอนสันและเชคสเปียร์เกี่ยวข้องกับริชาร์ด ฟายน์แมนอย่างไร
เรื่องเป็นเช่นน้ี ผมสามารถพูดอย่างท่ีจอนสันพูดว่า “ผมรักชายผู้น้ี
เกอื บจะถงึ ขนั้ หลงใหลบชู าเหมอื นกบั คนอนื่ ๆ” ผมโชคดมี ากทมี่ ฟี ายน์
แมนเป็นครู ผมเป็นนักศึกษาผู้คงแก่เรียนจากอังกฤษที่มาเล่าเรียนที่
มหาวิทยาลัยคอร์แนลล์ในปี 1947 และทึ่งกับความเป็นอัจฉริยะและ

การท�ำอะไรอย่างผลีผลามไม่ต้องคิดมากของฟายน์แมนในทันที
ปมเขอ่ื งของเดก็ หนมุ่ ทำ� ใหผ้ มคดิ วา่ ผมสามารถรบั บทของจอนสนั ขณะ
ท่ีฟายน์แมนเป็นเชคสเปียร์ได้ แม้ผมจะไม่คาดว่าจะได้เจอเชคสเปียร์
บนแผน่ ดินอเมรกิ าแต่ผมรู้ทันทีเม่ือพบเขา

ก่อนพบกับฟายน์แมน ผมมีงานคณิตศาสตร์ท่ีได้รับการตีพิมพ์
จำ� นวนหนง่ึ งานของผมเตม็ ไปดว้ ยลกู เลน่ อนั ชาญฉลาดแตข่ าดซงึ่ ความ
ส�ำคัญอย่างส้ินเชิง เม่ือพบกับฟายน์แมน ผมรู้ทันทีว่าได้เข้าไปในอีก
โลก ฟายน์แมนไม่สนใจการตีพิมพ์รายงานวิชาการสวยๆ แต่ด้ินรน
พยายามมากกว่าทุกคนท่ีผมเคยพบเจอในการเข้าใจการท�ำงานของ
ธรรมชาติจากการสร้างฟิสิกส์ข้ึนใหม่ตั้งแต่รากฐาน ผมโชคดีท่ีเจอเขา
ตอนใกล้จะสิ้นสุดช่วงแปดปีแห่งการดิ้นรน ในท่ีสุดฟิสิกส์ใหม่ที่เขา
จนิ ตนาการตง้ั แตเ่ ปน็ ลกู ศษิ ยข์ องจอหน์ วลี เลอรเ์ มอื่ เจด็ ปกี อ่ นหนา้ นนั้
ก็เชื่อมต่อเป็นความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับธรรมชาติได้อย่างสอดคล้อง
กัน เขาเรียกความเข้าใจนี้ว่า “วิธีพื้นท่ี-เวลา” (the space-time ap-
proach) ในปี 1947 นนั้ ความเขา้ ใจดงั กลา่ วนยี้ งั ไมเ่ สรจ็ สมบรู ณ์ ยงั เตม็
ไปดว้ ยความบกพรอ่ งเลก็ ๆ นอ้ ยและความไมส่ อดคลอ้ งกนั แตผ่ มเหน็
โดยทันทีว่ามันถูกต้อง ผมฉวยทุกโอกาสที่มีในการฟังฟายน์แมนพูด
และเรยี นรทู้ จี่ ะแหวกวา่ ยไปในสายธารความคดิ ของเขา ฟายนแ์ มนเปน็
คนชอบพูดและต้อนรับผู้ฟังอย่างผมด้วยความยินดี ด้วยเหตุน้ีเราจึง
กลายมาเป็นเพอื่ นรกั กนั

เป็นเวลาหน่ึงปีที่ผมเฝ้ามองฟายน์แมนขัดเกลาวิธีการบรรยาย
ถึงธรรมชาติของเขาด้วยภาพและผัง จนกระท่ังสามารถแก้ไขความ
บกพร่องและความไม่สอดคล้องทั้งหมดได้ จากน้ันฟายน์แมนก็เริ่ม
คำ� นวณตวั เลขโดยใชผ้ งั ของเขาเปน็ แนวทาง  เขาสามารถคำ� นวณตวั เลข

ทางฟสิ กิ สเ์ ปรยี บเทยี บกบั การทดลองไดด้ ว้ ยความเรว็ อนั นา่ ทง่ึ  และผล
การทดลองสอดคล้องกับตัวเลขของเขา จากนั้นในปี 1948 เรากไ็ ด้เห็น
ค�ำของจอนสนั ท่วี า่ “Nature herself was proud of his designs, and
joyed to wear the dressing of his lines” (ธรรมชาติเองภาคภูมใิ นการ
ออกแบบของเขา และยนิ ดสี วมใสอ่ าภรณแ์ หง่ กวขี องเขา) กลายเปน็ จรงิ

ในปีเดียวกันกับท่ีผมพูดคุยและมักไปเดินเล่นกับฟายน์แมนนั้น
ผมได้ศึกษางานของชวิงเกอร์และโทโมนากะ สองนักฟิสิกส์ซึ่งศึกษา
ค้นคว้าตามแบบแผนดั้งเดิมมากกว่า แต่ได้ผลลัพธ์แบบเดียวกัน ชวิง-
เกอร์และโทโมนากะต่างประสบความส�ำเร็จด้วยวิธีการค�ำนวณที่ยาก
และซบั ซอ้ นกวา่ ขณะทฟ่ี ายนแ์ มนสามารถไดม้ าจากผงั ของเขาโดยตรง
ท้ังสองไม่ได้สร้างฟิสิกส์ใหม่แต่ใช้ความรู้ฟิสิกส์ท่ีมีอยู่แล้ว เพียงแต่ใช้
วธิ ใี หมท่ างคณติ ศาสตรใ์ นการนำ� เอาตวั เลขออกจากฟสิ กิ ส์ ผมตระหนกั
เม่ือเห็นชัดเจนว่าผลของพวกเขาตรงกับของฟายน์แมนว่า ผมได้รับ
โอกาสหน่ึงเดียวในการรวมทฤษฎีทั้งสามเข้าด้วยกัน และได้เขียน
รายงานวชิ าการชอื่ “The Radiation Theories of Tomonaga, Schwinger
and Feynman” (ทฤษฎีการแผ่รังสีของโทโมนากะ, ชวิงเกอร์, และ
ฟายน์แมน) เพ่ืออธิบายว่าท�ำไมทฤษฎีทั้งสามจึงดูต่างกันแต่โดย
พ้ืนฐานแล้วเหมือนกัน บทความวิชาการของผมได้รับการตีพิมพ์ใน
นติ ยสารฟสิ กิ ส์ Physical Review ในปี 1949 และเปน็ จดุ เรม่ิ ตน้ เสน้ ทาง
อาชพี ของผมเฉกเช่นท่ี “Every Man in His Humour” เป็นจดุ เริ่มต้น
อาชพี ของจอนสนั  ตอนนน้ั ผมอายุ 25 เทา่ จอนสนั สว่ นฟายนแ์ มน 31
ออ่ นกวา่ เชคสเปยี รใ์ นปี 1598 สามป ี ผมตอ้ งระมดั ระวงั อยา่ งยง่ิ ในการ
เขียนถึงตัวเอกท้ังสามของผมด้วยความเคารพและให้เกียรติเท่าๆ กัน
แต่ลึกๆ ในใจผมรู้ว่าฟายน์แมนยอดที่สุดในสามคน และจุดประสงค์

หลักในบทความวิชาการของผมคือท�ำให้นักฟิสิกส์ท่ัวโลกสามารถเข้า
ถงึ ไอเดยี ปฏวิ ตั โิ ลกของเขา ฟายนแ์ มนสนบั สนนุ ใหผ้ มตพี มิ พไ์ อเดยี ของ
เขาอย่างเต็มท่ีโดยไม่เคยโอดครวญแม้แต่คร้ังเดียวว่าผมขโมยซีนของ
เขา เขาคือพระเอกในบทละครของผม

หนง่ึ ในสมบตั ทิ มี่ คี า่ ทส่ี ดุ ทผ่ี มนำ� ตดิ ตวั จากองั กฤษมาอเมรกิ าคอื
หนงั สอื “The Essential Shakespeare” โดย เจ. โดเวอร์ วิลสนั อันเป็น
ชีวประวัติของเชคสเปียร์ซึ่งเป็นท่ีมาของข้อความส้ันๆ ของจอนสันท่ี
ผมหยบิ ยกมาในทน่ี  ี้ หนงั สอื ของวลิ สนั ไมใ่ ชน่ ยิ ายหรอื ประวตั ศิ าสตรแ์ ต่
กำ้� กงึ่ กนั ระหวา่ งทงั้ สองโดยมาจากคำ� บอกเลา่ ของจอนสนั และคนอนื่ ๆ
และวิลสันได้ใช้จินตนาการของเขาร่วมกับเอกสารทางประวัติศาสตร์ที่
มีน้อยนิดในการชุบชีวิตเชคสเปียร์ข้ึนมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักฐาน
แรกสดุ ท่วี า่ เชคสเปียรเ์ คยรับบทในละครของจอนสันมาจากเอกสารใน
ปี 1709 หลังจากผ่านไปแล้วกว่าร้อยปี เราทราบกันว่าเชคสเปียร์เป็น
นักแสดงทม่ี ีชอื่ เสยี งพอกบั การเป็นนักเขยี น และผมไมเ่ หน็ เหตผุ ลใดๆ
ทีจ่ ะสงสยั เร่ืองทวี่ ลิ สันเขยี นไว้

โชคดีที่บันทึกให้หลักฐานเก่ียวกับชีวิตและความคิดของฟายน์-
แมนไม่ได้หายากเหมือนเชคสเปียร์ หนังสือเล่มนี้เป็นการรวมการ
บรรยายและงานเขียนจ�ำนวนหน่ึงของเขาอันเป็นการให้เสียงท่ีแท้จริง
ของฟายน์แมนแก่เรา บันทึกเหล่านี้ไม่เป็นทางการและเป็นการพูดกับ
ผู้ฟังทั่วไปมากกว่าเพื่อนในวงการวิทยาศาสตร์ ในบันทึกเหล่านี้เราจะ
ได้เห็นฟายน์แมนอย่างท่ีเขาเป็น คือ เล่นกับไอเดียของเขาอยู่เสมอ
และจริงจังกับส่ิงท่ีส�ำคัญส�ำหรับเขา..ซึ่งก็คือความซื่อสัตย์ การมีอิสระ
ความพร้อมที่จะยอมรับความเขลาของตน ฟายน์แมนเกลียดการแบ่ง
แยกชนชน้ั และยนิ ดเี ปน็ เพอื่ นกบั คนทกุ ประเภท และเชน่ เดยี วกบั เชคส-
เปียร์ เขามีพรสวรรคใ์ นเรอื่ งตลกขบขนั

นอกจากความหลงใหลในวทิ ยาศาสตรอ์ ยา่ งเหลอื ลน้ แลว้ ฟายน-์
แมนยงั กระหายเรอ่ื งตลกขบขนั และเรอื่ งสนกุ สนานอยา่ งชาวบา้ นทวั่ ไป
หน่ึงสัปดาห์หลังจากที่ผมได้รู้จักเขา ผมเขียนจดหมายไปเล่าให้คุณ
พ่อคุณแม่ท่ีอังกฤษฟัง โดยพูดถึงฟายน์แมนว่าเขาเป็น “ครึ่งอัจฉริยะ
คร่งึ ตัวตลก” เวลาท่วี ่างจากการตอ่ สูด้ นิ้ รนอย่างกล้าหาญเพอื่ เขา้ ใจถงึ
กฎของธรรมชาติ ฟายน์แมนชอบสรวลเสเฮฮากับเพื่อนฝูง เล่นกลอง
บองโก และสรา้ งความบนั เทงิ ใหก้ บั เพอ่ื นดว้ ยการเลน่ ตลกและเลา่ เรอ่ื ง
สารพัดสารเพ นี่ก็เช่นกันท่ีเขาเหมือนเชคสเปียร์ ซ่ึงผมขอยกค�ำบอก
เลา่ ของจอนสนั จากหนังสือของวลิ สนั ดงั น้:ี

“เมอ่ื เขาตง้ั ใจวา่ จะเขยี น เขาจะผกู กลางวนั เขา้ กบั กลางคนื กดดนั
ตวั เองไมป่ ลอ่ ย ไมส่ นใจอะไรจนกระทงั่ เปน็ ลม แตเ่ มอ่ื เลกิ เขยี น เขาจะ
หันเข้าหากีฬาทุกชนิดและเร่ืองบันเทิงท้ังหลายทั้งปวง แทบสิ้นหวังที่
จะฉดุ เขากลบั หาหนงั สอื อกี แตเ่ มอ่ื ใดทที่ ำ� ได้ เขาจะยงิ่ แกรง่ และจรงิ จงั
ขึน้ หลังจากการได้พกั ผอ่ น”

นัน่ คือเชคสเปียร์ และนัน่ ก็คือฟายน์แมนท่ีผมไดร้ ู้จกั ได้รกั และ
บชู า

ฟรแี มน เจ.ไดสนั
สถาบนั การศึกษาข้นั สงู
มหาวิทยาลยั พรนิ ซ์ตนั

นิวเจอรซ์ ยี ์



1

ความสนกุ ในการค้นหา

Richard P. Feynman

บทนี้มาจากการถอดและเรียบเรียงค�ำสัมภาษณ์ของฟายน์แมนใน
รายการฮอไรซนั  (Horizon) ของสถานโี ทรทศั นบ์ บี ซี  ี ในป ี 1981 ซงึ่ ออก
อากาศในสหรฐั อเมรกิ าในตอนหนง่ึ ของรายการโนวา (Nova) ชวี ติ ของ
ฟายน์แมนด�ำเนินมาไกลพอสมควรแล้วในตอนนั้น (เขาเสียชีวิตใน
ป ี 1988) ดงั นนั้ จงึ สามารถเลา่ ถงึ ประสบการณแ์ ละความสำ� เรจ็ ดว้ ยมมุ
มองชนดิ ทผ่ี ผู้ า่ นโลกมานอ้ ยกวา่ ไมอ่ าจทำ� ได ้ ผลคอื การพดู คยุ ทส่ี บายๆ
เป็นธรรมชาติ ตรงไปตรงมา และเป็นส่วนตัวในเรื่องที่เขาให้ความ
ส�ำคัญเช่น ท�ำไมการรู้แต่ช่ือของอะไรสักอย่างจึงเท่ากับการไม่รู้อะไร
เลย ท�ำไมเขาและเพื่อนนักวิทยาศาสตร์ในโครงการแมนฮัตตันจึง
สามารถดม่ื ฉลองความสำ� เรจ็ ในการสรา้ งอาวธุ ทเี่ ลวรา้ ยในขณะทใี่ นอกี
ฟากของโลก ท่ีเมืองฮิโรชิมา เพื่อนมนุษย์ด้วยกันต้องเสียชีวิตลงหรือ
ก�ำลังเสียชีวิต และท�ำไมการได้หรือไม่ได้รางวัลโนเบลจึงมีค่าเท่ากัน
สำ� หรบั การท�ำงานของเขา

THE PLEASURE OF FINDING THINGS OUT

ความงามของดอกไม้
ผมมีเพ่ือนศิลปินคนหน่ึง บางคร้ังเขาก็มีมุมมองซึ่งผมไม่ค่อยเห็นด้วย
นัก เช่น เขาจะหยิบดอกไม้ข้ึนมาแล้วก็บอกว่า “ดูสิ ช่างสวยงาม” ถูก
ต้อง อันนี้ผมเห็นด้วย แต่เขาพูดต่อว่า “ในฐานะศิลปิน ฉันมองเห็น
ความงามของมนั  แตน่ ายซงึ่ เปน็ นกั วทิ ยาศาสตรจ์ ะชำ� แหละมนั ออกมา
เปน็ ชน้ิ เลก็ ชน้ิ นอ้ ย ทำ� ใหม้ นั กลายเปน็ ของนา่ เบอ่ื ” ผมคดิ วา่ มนั พดู บา้
อะไรของมัน ประการแรก ความงามท่ีเขาเห็นน้ัน คนอื่นก็เห็นเหมือน
กัน และผมก็ด้วย..ผมเช่ืออย่างนั้น ถึงผมจะไม่ได้มีอารมณ์สุนทรีมาก
เท่าเขาก็ตาม แต่ผมเชื่อว่าผมสามารถชื่นชมกับความงามของดอกไม้
และยังเห็นอะไรต่อมิอะไรของมันมากกว่าด้วย เพราะผมสามารถ
จินตนาการถึงเซลล์และปฏิกิริยาอันซับซ้อนภายในของมัน และ
โครงสร้างภายในน้ีก็มีความงดงามเช่นกันในมิติท่ีเล็กกว่า แล้วก็ยังมี
กระบวนการต่างๆ ของดอกไม้อีก เช่น วิวัฒนาการสีสันของดอกไม้
เพื่อดึงดูดแมลงให้เข้ามาผสมพันธุ์ซึ่งน่าสนใจมาก เพราะหมายความ
ว่าแมลงสามารถเห็นสีได้ เร่ืองนี้ท�ำให้มีค�ำถามตามมาว่า ส่ิงมีชีวิตชั้น
ต่�ำสามารถสัมผัสถึงความสุนทรีด้วยหรือไม่ และท�ำไมมันจึงสุนทรี
ค�ำถามที่น่าสนใจท้ังหลายท้ังมวลนี้ล้วนแสดงให้เห็นว่าความรู้ทาง
วิทยาศาสตร์ช่วยเพิ่มความต่ืนเต้น ความลึกลับอันน่าทึ่งให้กับดอกไม้
วิทยาศาสตรม์ ีแต่เพม่ิ ความงาม ผมไม่เข้าใจว่า มันจะไปลดได้ยังไง

24

ความสนุกอยู่รอบตัวเรา

หนคี วามเปน็ มนษุ ย์
ผมเปน็ คนท่ีมดี า้ นเดยี วเสมอ คือมีแต่วทิ ยาศาสตร ์ สมัยหนุ่มๆ ผมจะ
ทุ่มพลังแทบท้ังหมดกับวิทยาศาสตร์ ไม่มีเวลาและความอดทนมาก
พอที่จะไปเรียนรู้สิ่งที่เรียกกันว่า..มนุษยศาสตร์ แม้มหาวิทยาลัยจะ
บงั คบั ใหเ้ รยี นวชิ าดา้ นนดี้ ว้ ยกต็ าม แตผ่ มจะคอยหนตี ลอด ไมเ่ รยี น ไม่
คน้ ควา้  หรอื อะไรทงั้ นนั้  ตอนหลงั  เมอื่ อายมุ ากขน้ึ  ผมจงึ ยอมผอ่ นปรน
ลงบา้ ง และเรมิ่ เรยี นรดู้ า้ นอน่ื ๆ อยา่ งวาดรปู  อา่ นหนงั สอื  แตก่ ย็ งั เปน็
คนด้านเดียวอยู่ดี ไม่ค่อยรู้เรื่องอื่น ผมมีสติปัญญาจ�ำกัด และผม
ต้องการใชม้ นั กับสงิ่ ๆเดียว

ไทรันโนซอรัสที่หน้าต่าง
ท่ีบ้านผมมีสารานุกรมบริเเทนนิกา  พ่อจะจับผมนั่งตักและอ่านให้ฟัง
ตง้ั แตต่ วั กะเปย๊ี ก เราสองคนจะอา่ นเรอ่ื งอยา่ ง..ไดโนเสาร ์ พวกบรอน-
โทซอรัส ไทรันโนซอรัสเร็กซ์หรืออะไรประมาณน้ัน หนังสือจะบอก
ท�ำนองว่า “มันสูงยี่สิบห้าฟุต มีหัวใหญ่กว้างหกฟุต” และพ่อผมหยุด
และบอกวา่  “เอาละ่  มาดกู นั วา่ หมายความวา่ อะไร ความหมายกค็ อื ถา้
เจา้ ไดโนเสารต์ วั นยี้ นื อยทู่ สี่ นามหนา้ บา้ น มนั จะสงู พอทจี่ ะเอาหวั ลอด
เข้ามาในหน้าต่างได้ แต่ก็ไม่เสียทีเดียวหรอก เพราะหัวของมันโตกว่า
หน้าตา่ ง มันจะทำ� หน้าตา่ งพงั ได้”

25

THE PLEASURE OF FINDING THINGS OUT

ทุกส่ิงที่ผมกับพ่ออ่านจะถูกแปลให้อยู่ในโลกความจริงเท่าที่
สามารถ ดงั นน้ั ผมจงึ ไดเ้ รยี นรวู้ ธิ กี ารน ี้ ผมจะพยายามนกึ ถงึ ความหมาย
ท่ีแท้จริงของทุกสิ่งที่ผมอ่าน และท�ำความเข้าใจว่ามันพยายามบอก
อะไรกับเราด้วยการแปล พูดได้ว่าผมอ่านสารานุกรมมาตั้งแต่เด็ก..แต่
ด้วยการแปล (หัวเราะ) และมันน่าตื่นเต้นและน่าสนใจมากเมื่อคิดว่า
โอโ้ ห มสี ตั วต์ วั มหมึ าขนาดนน้ั เชยี ว ผมไมย่ กั กลวั วา่ มนั จะโผลเ่ ขา้ มาทาง
หนา้ ตา่ ง เพราะไมไ่ ดค้ ดิ ถงึ เรอื่ งนนั้  คดิ แตว่ า่ มนั นา่ ตน่ื เตน้ มากๆๆๆๆ
และพวกมนั ลม้ หายตายไปจากโลกโดยไมม่ ใี ครรูส้ าเหตใุ นสมยั นนั้

ครอบครัวของเราจะไปพักร้อนกันบนเขาแคตสคิล เราเป็นชาว
นวิ ยอรก์  และแคตสคลิ คอื ทที่ ค่ี นจะไปกนั ในฤดรู อ้ น ในวนั จนั ทรถ์ งึ ศกุ ร์
พวกพอ่ ๆ จะกลบั เขา้ ไปทำ� งานในเมอื ง และกลบั มาในวนั เสาร-์ อาทติ ย์
เวลาทพี่ อ่ ผมกลบั มา แกจะพาผมไปเดนิ ปา่  ระหวา่ งทเ่ี ดนิ กเ็ ลา่ เรอื่ งราว
น่าสนใจที่เกิดขึ้นในป่า..ไว้เด๋ียวผมจะเล่าให้ฟัง แน่นอนว่า พวกแม่ๆ
คนอื่นท่ีเห็นเราสองคนย่อมคิดว่าพ่อลูกคู่นี้น่ารักจริง แล้วก็พยายาม
เค่ียวเข็ญให้พวกพ่อๆ คนอ่ืนๆ พาลูกไปเดินบ้าง แต่ไม่ได้ผล ดังน้ัน
พวกเขาจงึ มาขอใหพ้ อ่ ผมเปน็ คนพาเดก็ ไปทง้ั โขยง แตพ่ อ่ ผมไมเ่ อาดว้ ย
เพราะพ่อมีความสัมพันธ์พิเศษกับผม เราสองคนมีบางอย่างเป็นส่วน
ตวั  สรปุ วา่ สดุ ทา้ ยพวกพอ่ ๆ ตอ้ งพาลกู ของตวั เองไปเดนิ ในสดุ สปั ดาห์
ที่จะมาถึง เม่ือถึงวันจันทร์ พวกพ่อๆ กลับเข้าไปท�ำงานในเมือง และ
เด็กทุกคนเล่นกันในทุ่ง เด็กคนหนึ่งพูดกับผมว่า “เห็นนกนั่นไหม นก
อะไรรเู้ หรอปา่ ว” และผมบอกวา่  “ไมร่ สู้  ิ ไมม่ ไี อเดยี เลยแมแ้ ตน่ อ้ ย” และ
เด็กนั่นบอกว่า “นกธรัชคอน้�ำตาลไง” หรืออะไรบางอย่าง “พ่อนายไม่
ได้บอกอะไรนายเลยเหรอ” แต่ตรงข้ามเลย พ่อผมสอนอะไรผมมาก
มาย เวลาทเ่ี ราดนู กกนั  พอ่ จะบอกวา่  “รไู้ หม วา่ นนั่ นกอะไร มนั คอื นก

26

ความสนุกอยู่รอบตัวเรา

ธรัชคอน�้ำตาล แต่ภาษาโปรตุเกสเรียกว่า... ภาษาอิตาเลียนเรียกว่า...
ภาษาจีนเรียกว่า.. ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า..” และอ่ืนๆ “เอาล่ะ ทีน้ีถึงแก
จะรวู้ า่ นกนนั่ เรยี กวา่ อะไรในทกุ ภาษา แตแ่ กไมไ่ ดร้ อู้ ะไรเลยเกย่ี วกบั นก
แกรแู้ คว่ า่ มนษุ ยใ์ นทตี่ า่ งๆ เรยี กนกนนั่ วา่ อะไร” พอ่ วา่  “เรามาดนู กกนั
ดกี วา่ ”

พอ่ สอนใหผ้ มสงั เกตสง่ิ ตา่ งๆ วนั หนงึ่ ขณะทกี่ ำ� ลงั เลน่ กบั สงิ่ ทเ่ี รา
เรียกกันว่าเกวียนด่วน ซ่ึงก็คือเกวียนเล็กๆ มีรางรอบๆ ให้เด็กลากไป
ในเกวยี นมลี กู บอลหนง่ึ ลกู ..ผมจำ� ได ้ มลี กู บอล และผมลากเกวยี น แลว้
ก็สังเกตว่ามีอะไรบางอย่างในการเคล่ือนที่ของลูกบอล ดังนั้นผมจึงไป
หาพ่อและบอกว่า “พ่อฮะ ผมสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง คือเวลาลาก
เกวยี น ลกู บอลจะกลง้ิ ไปดา้ นหลงั ของเกวยี น แตพ่ อเวลาลากแลว้ หยดุ
กึกลง มันจะกล้งิ มาข้างหน้า” แล้วผมก็ถามวา่  “ท�ำไมถงึ เป็นอยา่ งนน้ั ”
และพ่อบอกว่า “ไม่มีใครรู้หรอก” พ่อว่า “แต่หลักท่ัวไปก็คือ ของที่
เคลื่อนที่จะพยายามเคลื่อนไปเร่ือยๆ และของท่ีหยุดนิ่ง ก็มักจะหยุด
นงิ่  นอกจากเราจะผลกั มนั แรงๆ” แลว้ พอ่ กบ็ อกวา่  “แนวโนม้ นเ้ี รยี กวา่
แรงเฉ่ือย แต่ไม่มีใครรู้ว่าท�ำไมมันถึงเป็นแบบนั้น” ส่ิงที่พ่ออธิบายน่ัน
คอื ความเขา้ ใจอยา่ งลกึ ซงึ้  แกไมไ่ ดบ้ อกแตช่ อื่ เรยี ก เพราะแกรถู้ งึ ความ
แตกต่างระหว่างการรู้ช่ือของอะไรบางอย่างกับการรู้เกี่ยวกับอะไรบาง
อยา่ ง นคี่ อื สงิ่ ทผี่ มเรยี นรตู้ งั้ แตย่ งั เดก็  แลว้ พอ่ พดู ตอ่ วา่  “ถา้ ดใู กลๆ้  แก
จะเห็นว่าลูกบอลไม่ได้กลิ้งไปข้างหลัง แต่เพราะแกดึงเกวียนไปคนละ
ทางกับลูกบอลต่างหาก พูดก็คือลูกบอลอยู่น่ิงๆ ที่จริงแล้วแรงต้าน
ทำ� ใหม้ นั กลงิ้ ไปขา้ งหนา้ ดว้ ยซำ้�  ไมไ่ ดก้ ลง้ิ ถอยหลงั เลย” ดงั นน้ั ผมจงึ วง่ิ
กลบั ไปทเี่ กวยี นวางลกู บอลลงไปอกี ครงั้  แลว้ ลากเกวยี น ตามองดา้ นขา้ ง
แลว้ กเ็ หน็ วา่ ถกู ของพอ่  คอื  ลกู บอลไมไ่ ดก้ ลงิ้ ไปดา้ นหลงั ของเกวยี นเมอ่ื

27

THE PLEASURE OF FINDING THINGS OUT

ผมดึงมันมาข้างหน้า มันกล้ิงไปด้านหลังเมื่อเทียบกับเกวียน แต่เมื่อ
เทยี บกบั ฟตุ พาทแลว้ มนั กลงิ้ มาขา้ งหนา้ เลก็ นอ้ ย เพยี งแตว่ า่ เกวยี นเดนิ
หน้าทันกับที่มันกล้ิง น่ีแหละคือวิธีที่พ่อสอนผม พ่อสอนด้วยตัวอย่าง
และการถกกัน ไม่มกี ารกดดนั  แค่ถกกนั สนุกๆ และนา่ สนใจ 

  

พีชคณติ ส�ำหรบั ผอู้ ยใู่ นโลกความจรงิ

ลกู พล่ี กู นอ้ งของผมคนหนงึ่ ซง่ึ แกก่ วา่ ผมสามปแี ละเรยี นมธั ยมปลายอยู่
ในตอนน้ันมีปัญหาอย่างมากกับวิชาพีชคณิต และต้องจ้างคนมาสอน
พิเศษท่ีบ้าน โดยผมได้รับอนุญาตให้นั่งท่ีมุมห้อง (หัวเราะ) ขณะท่ีคน
สอนพิเศษติวพีชคณิตประเภท 2X บวกไอ้โน่นไอ้นี่ คร้ังหน่ึงผมได้ยิน
พวกเขาพดู อะไรเกย่ี วกบั  X และถามพวกเขาวา่  “พวกนายพยายามทำ�
อะไรกนั อยเู่ หรอ” และพผี่ มบอกวา่  “-2X+7 เทา่ กบั  15 ฉนั ตอ้ งหาวา่  X
เท่ากับเท่าไหร่ แกไม่รู้เรื่องหรอกน่ะ” ผมบอกว่า “เท่ากับ 4” และเขา
บอกวา่  “ใช ่ แตแ่ กไดม้ าดว้ ยวธิ ขี องเลขคณติ  แกตอ้ งใชว้ ธิ แี บบพชี คณติ
สิ” น่ีแหละคือเหตุที่พี่ผมไม่เคยเข้าใจพีชคณิต เขาไม่รู้ว่าต้องท�ำยังไง
เพราะฉะน้ันไม่มีทางเลย โชคดีที่ความรู้เรื่องพีชคณิตของผมไม่ได้มา
จากการเรียนในโรงเรียน ผมรู้ว่าจุดประสงค์คือการหาค่าของ X จะได้
มายงั ไงไมส่ ำ� คญั  ไมม่ หี รอกเรอื่ งทว่ี า่ จะตอ้ งหาดว้ ยวธิ แี บบเลขหรอื พชี ฯ
น่ันคือส่ิงผิดๆ ที่พวกเขาคิดข้ึนในโรงเรียนเพ่ือให้เด็กที่เรียนพีชคณิต
สอบกัน พวกเขาคิดกฎข้ึนชุดหน่ึงซึ่งถ้าหากท�ำตามไปโดยไม่ต้องคิดก็
จะได้ค�ำตอบ เช่น ลบ 7 จากทั้งสองข้าง ถ้ามีตัวคูณก็หารท้ังสองข้าง

28


Click to View FlipBook Version