คู่มอื เผดจ็ การ
HOW TO BE A DICTATOR
ฟรงั ค์ ดเี คทิ เทอร:์ เขยี น
ภก.กิตติชาติ บุณยะภกั ดิ์: แปล
ราคา 390 บาท
ALL RIGHTS RESERVED.
Copyright © Frank Dikötter, 2019
Thai translation right © 2021 by Gypsy Publishing Co., Ltd.
© ขอ้ ความและรูปภาพในหนังสอื เลม่ น้ี สงวนลิขสิทธติ์ ามพระราชบัญญัตลิ ขิ สทิ ธิ์ (ฉบับเพิ่มเตมิ ) พ.ศ. 2558
การคัดลอกส่วนใดๆ ในหนงั สือเลม่ น้ีไปเผยแพรไ่ มว่ ่าในรปู แบบใดตอ้ งไดร้ ับอนุญาตจากเจา้ ของลิขสทิ ธกิ์ อ่ น
ยกเวน้ เพอื่ การอ้างองิ การวิจารณ์ และประชาสมั พันธ์
ข้อมลู ทางบรรณานกุ รมของส�ำ นักหอสมดุ แหง่ ชาติ
National Library of Thailand Cataloging in Publication Data
ดีเคิทเทอร์, ฟรังค์.
คู่มือเผด็จการ ลัทธิบูชาตัวบุคคลในศตวรรษที่ 20 = How to be a dictator: the cult of personality in the
twentieth century.-- กรุงเทพฯ : ยิปซี กรุ๊ป, 2565.
412 หน้า.
1. เผด็จการ--ชีวประวัติ. 2. ผู้นำ�ของรัฐ--ชีวประวัติ. 3. กษัตริย์และผู้ครองนคร--ชีวประวัติ. I. กิตติชาติ บุณยะภักดิ์,
ผู้แปล. II. ชื่อเรื่อง.
321.90922
ISBN 978-616-301-753-6
บรรณาธกิ ารอำ�นวยการ : คธาวุฒิ เกนุ้ย
บรรณาธกิ ารบริหาร : สรุ ชยั พิงชยั ภูมิ
ที่ปรกึ ษาฝา่ ยต่างประเทศ : ศิรธิ าดา กองภา
คณะบรรณาธิการ : กวา่ ชืน่ บางคมบาง วีรวรรณ ศริ วิ ัฒน์ จิรชั ฌา จงอุดมเลิศ
กองบรรณาธิการ : คณิตา สตุ ราม พรรณิกา ครโสภา วนั วิสา เขตรดง
เลขากองบรรณาธิการ : กนั ยารัตน์ ทานะเวช
พิสจู น์อักษร : รีดเดอร์ปาร์ตี
รปู เล่ม : Evolution Art
ออกแบบปก : Rabbithood Studio
ภาพปก : YYONG
ผ้อู ำ�นวยการฝา่ ยการตลาด : นชุ นันท์ ทักษิณาบัณฑิต
ผจู้ ัดการฝ่ายการตลาด : ชติ พล จนั สด
ผูจ้ ดั การทั่วไป : เวชพงษ์ รตั นมาลี
พิมพท์ ี่ : บริษัท วิช่นั พรีเพรส จำ�กัด โทร. 0 2147 3175-6
จัดพิมพแ์ ละจัดจำ�หนา่ ยโดย : บรษิ ทั ยิปซี กรุป๊ จำ�กัด เลขที่ 37/145 รามคำ�แหง 98
แขวง/เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ 10240
โทร. 0 2728 0939 โทรสาร 0 2728 0939 ตอ่ 108
www.gypsygroup.net
www.facebook.com/gypsygroup.co.ltd
LINE ID : @gypzy
สนใจส่งั ซ้ือหนงั สอื จำ�นวนมากเพ่ือสนับสนุนทางการศกึ ษา ส�ำ นักพิมพล์ ดราคาพิเศษ ตดิ ต่อ โทร. 0 2728 0939
HOW TO BE
A DICTATOR
The Cult of Personality in the
Twentieth Century
คมู่ อื เผดจ็ การ
ลัทธิบชู าตัวบุคคลในศตวรรษท่ี 20
ฟรงั ค์ ดีเคทิ เทอร์ เขยี น
ภก.กติ ตชิ าติ บณุ ยะภักด์ิ แปล
ค�ำน�ำสำ� นักพิมพ์
เผด็จการจงพินาศ!
เราอาจไดย้ นิ ประโยคนซ้ี ำ�้ ๆ ยำ�้ ๆ มาหลายยคุ สมยั เสมอื นกงลอ้
ประวัติศาสตร์หมุนวนกลับมาย่�ำรอยซ�้ำแล้วซ�้ำเล่า ในโลกนี้เรารู้จัก
เผด็จการก่ีคนกันนะ แล้วประวัติศาสตร์แห่งเผด็จการน้ันเร่ิมต้นเป็น
อยา่ งไร และจบลงเชน่ ไร เราตง้ั ค�ำถามนไี้ ด้ใช่ไหม
ค�ำตอบคอื ใช่ มนุษย์ยอ่ มมีสิทธใ์ิ นการสงสัยและตงั้ ค�ำถาม
ค่มู ือเผดจ็ การ: ลัทธิบูชาตัวบุคคลในศตวรรษที่ 20 ของฟรังค์
ดีเคทิ เทอร์ เลม่ น้ีอาจคอื คำ� ตอบของคำ� ถามทั้งหมด
นกั เขียนไดเ้ รม่ิ ต้นจากเผด็จการจากอิตาลี เยอรมนี รสั เซยี จีน
เกาหลี เฮติ โรมาเนีย และเอธิโอเปีย จากประเทศท่ีเราร้จู กั กันดีจนถงึ
ประเทศท่เี ราไมค่ ุ้นเคย ผอู้ ่านจะคอ่ ยๆ ไดก้ ้าวเข้าส่โู ลกแหง่ การสรา้ ง
ตัวตนของลทั ธิบชู าบคุ คล เรียนร้วู ธิ กี ารสร้างอำ� นาจ ไดเ้ หน็ แงม่ มุ ของ
เลห่ ร์ า้ ยและเกมการเมอื งทง้ั แบบนมุ่ นวลและแบบเหยี้ มโหด ไดม้ องเหน็
ความส�ำเร็จสูงสุดท่ีไม่อาจมีพลังใดต้านได้ และจะได้ติดตามถึงความ
ร่วงหล่นจากอำ� นาจไปส่ชู ะตากรรมสดุ ทา้ ยของชวี ติ
ในทางประวตั ศิ าสตร์ การเรยี นรจู้ ากประวตั ศิ าสตร์ คอื การสรา้ ง
อนาคต หนังสือเล่มนี้คือประวัติศาสตร์การเมืองแห่งจอมเผด็จการ ที่
มคี ณุ ค่าสำ� หรับมนษุ ย์ทุกคน ท่ีจะไดล้ อกเปลือกอดตี ออก เผยให้เห็น
บทเรียนที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและทุกข์ยาก ก่อนจะคลี่คลายสู่
พฒั นาการของประเทศเพ่อื อนาคต
ไมม่ สี งิ่ ใดจรี งั แมจ้ ะเหนย่ี วรงั้ ไวเ้ พยี งใด- อำ� นาจเผดจ็ การกเ็ ชน่ กนั
ส�ำนกั พิมพย์ ิปซี
ค�ำนำ� ผูแ้ ปล
ในทส่ี ดุ หนงั สอื เลม่ นก้ี ไ็ ดอ้ ยใู่ นมอื ผอู้ า่ น หนงั สอื คมู่ อื เผดจ็ การ:
ลัทธิบูชาตัวบุคคลในศตวรรษที่ 20 เล่มนี้ได้พาเราไปท�ำความเข้าใจ
กับการปกครองแบบเผด็จการอย่างถึงพริกถึงขิง และสอนให้เรารู้จัก
กลเมด็ ตา่ งๆ ทพ่ี วกเขาใชเ้ พอื่ ใหต้ นและครอบครวั ไดส้ บื ทอดอำ� นาจ ซงึ่
บางกรณอี าจยาวนานหลายชว่ั รนุ่ ทง้ั ชกั ใย ทำ� ตวั อยเู่ หนอื ความขดั แยง้
กลั่นแกล้ง สร้างศตั รรู ่วม ปิดปากผู้เห็นต่าง สร้างหน่วยสืบราชการลบั
สอดส่องกิจกรรมต่างๆ บังคับให้สูญหาย ฯลฯ เวียนวนในลักษณะนี้
หากแต่เปลี่ยนสถานที่และตัวละคร อาจเรียกได้ว่าเป็นเหล้าเก่าใน
ถว้ ยใหม่
ในฐานะผู้แปล การท�ำงานกับเล่มน้ีไม่ใช่งานง่ายเพราะฟรังค์
ดีเคิทเทอร์จะพาเราไปเยือนหลากหลายประเทศทั่วโลกซ่ึงปกติมักไม่
ค่อยปรากฏบนพื้นท่สี อ่ื ของประเทศไทยนัก จึงตอ้ งใชเ้ วลาในการถอด
เสยี งและเรยี นรภู้ มู ริ ฐั ศาสตร์ รวมถงึ พน้ื หลงั ของทกุ ประเทศไปพรอ้ มๆ
กบั การแปล ตอ้ งขอบคณุ คณุ กวา่ ชื่น บางคมบาง บรรณาธิการท่ีช่วย
ฟนั ฝา่ มาจนส�ำเร็จด้วยดี ขอบคณุ คุณเมทนิ ี บญุ ยนื ทีช่ ่วยอยู่เคยี งข้าง
ผู้แปลมาตลอดไม่ว่าจะในสถานการณ์ใด และคุณพ่อที่คอยปลูกฝัง
ความรู้ทางรัฐศาสตร์จนสามารถน�ำมาประยุกต์ใช้กับการแปลหนังสือ
เลม่ น้ี ท้ายทสี่ ุด ผแู้ ปลหวังอยา่ งยิง่ ว่าเน้ือหาจะชว่ ยใหเ้ ราเรียนรู้ เขา้ ใจ
การปกครองแบบเผดจ็ การและรจู้ กั ทจี่ ะตงั้ คำ� ถามกบั สงิ่ ตา่ งๆ ทเ่ี กดิ ขนึ้
รอบตัว
ภก.กติ ติชาติ บุณยะภกั ด์ิ
สารบัญ 11
23
บทน�ำ 69
1 Mussolini : มุสโสลิน ี 117
2 Hitler : ฮติ เลอร ์ 159
3 Stalin : สตาลนิ 203
4 Mao : เหมา 235
5 Kim Il-sung : คมิ อลิ ซุง 265
6 Duvalier : ดวู าลีเย 297
7 Ceauşescu : เชาเชสกู 325
8 Mengistu : เมนกิสตู 331
บทส่งท้าย 333
หอจดหมายเหต ุ 409
เชงิ อรรถ 412
กติ ตกิ รรมประกาศ
เกีย่ วกับผู้เขียน
‘ในตอนแรกผมเช่ือว่าธรรมชาติของมนุษย์น่ันต่างกระหาย
อ�ำนาจที่มากขึ้นเร่ือยๆ ซ่ึงมีเพียงความตายเท่านั้นท่ีหยุดความอยาก
ลงได้ เหตุผลไม่ใช่การที่มนุษย์ต้องการความสุขมากกว่าที่เคยได้รับ
หรือไม่พอใจกับอ�ำนาจครึ่งๆ กลางๆ หากแต่เป็นเพราะพวกเขา
ไม่สามารถวางใจได้ว่าอ�ำนาจและทรัพย์สินที่มีในปัจจุบันนั้นเพียงพอ
เขาจงึ อยากได้อยากมมี ากย่ิงขนึ้ ’
THOMAS HOBBES,
The Essential Leviathan: A Modernised Edition
‘ถกู รกั ยอ่ มดกี วา่ ถกู กลวั หรอื ถกู กลวั จะดกี วา่ เปน็ ทร่ี กั ? คำ� ตอบ
คอื คนเราอยากไดท้ ้ังสองแบบ แต่มันไม่ไดไ้ ปด้วยกันง่ายขนาดนัน้ ถ้า
คุณต้องเลือก ทางเลือกท่ีปลอดภัยกว่าคือการถูกกลัวมากกว่าถูกรัก
เราจะกงั วลนอ้ ยกวา่ หากเราทำ� ใหค้ นทรี่ กั ผดิ หวงั มากกวา่ คนทเี่ รากลวั
ความรกั จะเกดิ ขนึ้ กเ็ มอื่ บางคนอยากทำ� สงิ่ ดๆี ใหก้ บั เรา แตเ่ มอ่ื สว่ นใหญ่
มนุษย์จะตกอยู่ในทุกข์ ความกตัญญูก็เหือดหายไปในความยากเข็ญ
แต่ความกลวั คือ การกลัวการลงโทษ ซง่ึ นนั่ คอื สงิ่ ทผี่ ู้คนไมอ่ าจลืม’
NICCOLO MACHIAVELLI
The Prince, a modern translation by Tim Parks
viii
W.M. Thackeray, The Paris Sketch Book, London: Collins’ Clear-Type Press, 1840.
บทนำ�
ปี 1840 นักประพันธเ์ ชิงเสยี ดสี (และนกั วาดภาพประกอบ) วลิ เลียม
เมคพซี ธกั เคอราย (William Makepeace Thackeray) โดง่ ดงั จากการ
วาดการต์ นู ล้อเลยี นพระเจ้าหลุยส์ท่ี 14 ว่าเป็นชนช้ันสูงบา้ อำ� นาจ ทาง
เบอื้ งซา้ ยเปน็ หนุ่ แขวนฉลองพระองค์ พระแสงดาบ ผา้ คลมุ ขนเออรม์ นิ
ลายเฟลอร์เดอลีส์ และวิกผมม้วนเป็นลอน รองเท้าส้นสูงแบบชนช้ัน
ปกครอง ตรงกลางคือพระองค์เอง ลโู ดวิคสุ (Ludovicus) ผนู้ า่ สงสาร
ในชดุ ช้นั ใน ขาเก้งก้าง หนา้ ท้องยว้ ยโย้ ศีรษะล้าน ใบหนา้ โล่งเลย่ี น
ฟันหลอหมดปาก แต่ทางเบื้องซ้ายพระองค์ปรากฏในฉลองพระองค์
เต็มยศ พระเจ้าลูโดวิคุสผู้ภาคภูมิทรงเครื่องราช ธักเคอรายได้ถอด
หัวโขนของจอมกษัตริย์ เผยให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์ผู้อ่อนแอ น่า
ทเุ รศ ไรเ้ ครอื่ งประดบั แหง่ อำ� นาจ : ‘ดงั นนั้ ชา่ งตดั ผมและชา่ งทำ� รองเทา้
คือผู้สรา้ งพระเจ้าท่ีเราบูชา’1
‘L’Etat C’Est Moi’ กษัตริย์จากศตวรรษท่ี 17 ตรัสไว้อย่าง
12 คู่มือเผดจ็ การ
อวดอ้าง: รฐั คอื ตัวขา้ ตามพระราชวนิ จิ ฉยั ของพระเจ้าหลุยส์ พระองค์
คอื ผเู้ ดยี วทสี่ ามารถทำ� ตามบญั ชาสวรรค์ พระเจา้ หลยุ สป์ กครองดว้ ยระบอบ
สมบรู ณาญาสทิ ธริ าชยน์ านกวา่ 70 ปี พระองคใ์ ชอ้ ำ� นาจเบด็ เสรจ็ ในการ
ลดทอนอำ� นาจขนุ นาง ดงึ อำ� นาจสศู่ นู ยก์ ลาง และขยายดนิ แดนดว้ ยการ
ทำ� ศกึ พระองคย์ งั ยึดโยงตวั เองว่าเปน็ สุรยิ กษตั รยิ าธริ าชผ้ไู ร้พา่ ยและ
เปน็ ศนู ย์กลางให้ทกุ อยา่ งตอ้ งโคจรรอบ พระองค์ยงั ทำ� ให้มนั่ ใจด้วยวา่
จะได้รับการเคารพนับถือ มีการผลิตท้ังเหรียญตรา ภาพวาด รูปปั้น
ครงึ่ ตวั อนสุ าวรยี ์ เสาหนิ และประตชู ยั ปรากฏอยทู่ วั่ ราชอาณาจกั ร กวี
นกั ปราชญ์ นกั ประวตั ศิ าสตรท์ างการตา่ งเขยี นแซซ่ อ้ งความสำ� เรจ็ เลา่
ถงึ พระองคว์ า่ เปน็ ผทู้ รงความรแู้ ละทรงอำ� นาจ พระองคเ์ ปลยี่ นบา้ นพกั
ล่าสัตว์ของราชวงศ์ซ่ึงอยู่ทางทางตะวันตกเฉียงใต้ของปารีสให้เป็น
พระราชวังแวร์ซายซึ่งมีขนาดมหึมา มีห้องมากถึงขนาด 700 ห้อง
พรอ้ มกบั ทด่ี นิ กวา้ งใหญไ่ พศาล ซงึ่ พระองคม์ อี ำ� นาจสงู สดุ บบี บงั คบั ให้
บรรดาขุนนางต่อสกู้ นั เพ่ือความพึงพอใจของเขา2
พระเจ้าหลุยส์ท่ี 14 คือนายใหญ่แห่งโรงมหรสพการเมือง แต่
นักการเมืองมีเป้าหมายบางอย่างท่ีมักยึดโยงกับภาพลักษณ์ พระเจ้า
หลยุ สท์ ่ี 16 ผสู้ บื ทอดแหง่ สรุ ยิ กษตั รยิ าธริ าชถกู สง่ ไปเขา้ เครอื่ งประหาร
กิโยตินพร้อมแนวคิดเทวสิทธิราชย์ หลังการปฏิวัติเม่ือปี 1789 ฝ่าย
ปฏิวัติยึดถือว่า สิทธิประชาธิปไตยมอบให้แก่ประชาชนหาใช่พระเจ้า
ซงึ่ ในการปกครองแบบประชาธปิ ไตยซง่ึ คอ่ ยๆ ปรากฏชดั ขน้ึ ในอกี สอง
ศตวรรษตอ่ มา ผนู้ ำ� ตา่ งเขา้ ใจแลว้ วา่ พวกเขาตอ้ งรอ้ งขอจากผมู้ สี ทิ ธลิ์ ง
คะแนนทจี่ ะสามารถถอดถอนเขาออกได้จากการกาบตั รเลือกต้งั
แน่นอนว่ามีหนทางแสวงหาอ�ำนาจด้วยวิธีอ่ืนเช่นกันนอกจาก
บทน�ำ 13
การเลือกต้ัง อ�ำนาจอาจได้มาจากการรัฐประหารหรือเล่นกลกับระบบ
ปี 1917 เลนินกับพรรคบอลเชวิกบุกเข้าพระราชวังฤดูหนาวแล้วตั้ง
รัฐบาลใหม่ ภายหลังพวกเขาเรียกการรัฐประหารของตัวเองว่าเป็น
‘การปฏิวัติ’ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์ปี 1789 ไม่กี่ปี
ถดั มา ปี 1922 มสุ โสลินีเดนิ ขบวนสโู่ รมเพ่อื บีบให้สภามอบอำ� นาจให้
กระนั้นเขากับจอมเผด็จการรายอื่นๆ ก็พบว่าอ�ำนาจเปล่าๆ น้ันมีวัน
หมดอายุ อำ� นาจทไี่ ดม้ าดว้ ยความรนุ แรงตอ้ งรกั ษาไวด้ ว้ ยความรนุ แรง
แม้ว่าความรุนแรงคือเคร่ืองมือทางการเมืองแบบท่ือๆ จอมเผด็จการ
ต้องอาศัยอ�ำนาจทางทหาร ต�ำรวจลับ กองก�ำลังอารักขา สายข่าว
สายสืบ นักทรมาน แต่ท่ีดีที่สุดคือต้องแสร้งว่าการบีบบังคับท้ังหลาย
น้ันได้รับความยินยอม จอมเผด็จการจึงต้องค่อยๆ สร้างความกลัว
ให้ประชาชน แต่ถ้าเขาสามารถบีบให้ประชาชนสรรเสริญเยินยอได้
การปกครองกอ็ าจจะยาวนานขน้ึ ความยอ้ นแยง้ ของผนู้ ำ� เผดจ็ การยคุ ใหม่
กค็ อื จะตอ้ งสรา้ งภาพวา่ ตนไดร้ บั การสนบั สนนุ จากมวลมหาประชาชน
ตลอดศตวรรษที่ 20 มีคนหลายร้อยล้านเทใจสนับสนุนผู้น�ำ
เผด็จการ แม้ว่าพวกเขาถูกต้อนไปสู่ความเป็นทาส ดาวโลกอันกว้าง
ใหญ่ถูกโอบล้อมด้วยภาพใบหน้าของจอมเผด็จการท่ัวทุกหนแห่ง ทั้ง
อาคาร ภาพบนผนัง ภาพถา่ ยเดย่ี วที่โรงเรียน สำ� นกั งาน และโรงงาน
สามัญชนต้องก้มค�ำนับน้อมให้กับภาพ เวลาเดินผ่านรูปปั้น ท่องจ�ำ
ผลงาน กลา่ วยกย่อง สรรเสริญเยนิ ยอความฉลาด เทคโนโลยสี มัยใหม่
นบั ตง้ั แตว่ ทิ ยุ โทรทศั นไ์ ปจนถงึ ใบปดิ ทผี่ ลติ ออกมาจำ� นวนมาก เหรยี ญ
ตราและรูปสลักครึ่งตัว ส่ิงเหล่าน้ีท�ำให้จอมเผด็จการขยายอำ� นาจไป
ไดข้ จรขจายเกินกว่าคนในยุคพระเจ้าหลยุ สท์ ่ี 14 จะเคยคดิ ฝัน กระท่งั
14 ค่มู ือเผดจ็ การ
ในประเทศขนาดค่อนข้างเล็กอย่างเฮติ ประชาชนหลายหม่ืนชีวิตถูก
บงั คบั ใหท้ ำ� ความเคารพผนู้ ำ� จนเปน็ กจิ วตั ร เดนิ ขบวนตบเทา้ สวนสนาม
หน้าท�ำเนียบประธานาธิบดีจนงานที่พระราชวังแวร์ซายจัดดูเล็กไป
ถนัดตา
เม่ือปี 1956 นีกีตา ครชุ ชอฟโจมตโี จเซฟ สตาลนิ โดยใหร้ าย
ละเอียดว่าเป็นยุคสมัยของความกลัวและความโหดร้าย เขาเอ่ยถึง
อดีตผู้น�ำของตนว่า ‘ถูกประจบจนน่าขยะแขยง’ และ ‘เสพติดความ
ยิ่งใหญ่’ เรียกมันว่า ‘ลัทธิบูชาผู้น�ำ’ หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า
‘Cult of Personality’ หรือ ‘ลัทธบิ ูชาตวั บคุ คล’ มันอาจไม่ได้พฒั นา
เป้าหมายตามหลักการท่ีชัดเจนนักตามอย่างนักสังคมศาสตร์บอกไว้
แต่นักประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่คิดว่าน่ีคือค�ำที่อธิบายส่ิงท่ีเกิดข้ึนได้
อยา่ งหมดจด3
สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ยังทรงพระเยาว์ แผ่นดินฝร่ังเศส
สน่ั คลอนจากการกบฏอยา่ งตอ่ เนอื่ ง เหลา่ ขนุ นางพยายามจำ� กดั อำ� นาจ
ของกษัตริย์ พวกเขาล้มเหลว แต่ก็ส่งผลให้ยุวกษัตริย์กลัวการกบฏ
ฝังพระทัย พระองค์ย้ายศูนย์กลางอ�ำนาจจากปารีสไปยังพระราชวัง
แวร์ซาย บังคับให้ชนช้ันสูงใช้เวลาอยู่ในท้องพระโรง อยู่ในพระเนตร
พระกรรณและแข่งกันสนองพระทยั ขององค์กษตั ริย์ เชน่ เดียวกัน ผนู้ ำ�
เผด็จการก็กลัวประชาชนของตัวเอง แต่ส่ิงท่ีพวกเขากลัวกว่าน้ันคือ
บรรดาบรวิ าร จอมเผดจ็ การตา่ งออ่ นแอ ถา้ พวกเขาแกรง่ จรงิ กค็ งจะไดร้ บั
เลือกต้ังจากเสียงส่วนใหญ่ ดังน้ันพวกเขาจึงเลือกทางลัด มักเป็น
เสน้ ทางทตี่ ้องยำ่� เหยยี บศพคแู่ ข่งทางการเมอื ง แตถ่ ้าพวกเขาสามารถ
กุมอำ� นาจสำ� เรจ็ คนอืน่ กส็ ามารถทำ� ได้ อาจรอโอกาสแทงขา้ งหลังเขา้
บทนำ� 15
สักวันหนึ่ง พวกเขาแขง่ กนั และสว่ นใหญ่ต่างโหดเห้ยี มไร้ความปรานี
มุสโสลินีคือหนึ่งในผู้น�ำฟาสซิสต์รุ่นก่อตั้งเพียงไม่ก่ีรายท่ีเหลือและ
เคยพบกับการแข็งข้อในพรรคก่อนหน้าท่ีเขาจะเดินขบวนสู่กรุงโรม
เมื่อปี 1922 สตาลินดูไม่มีราศีเท่าทรอตสกี เหมาถูกคู่แข่งหลายคน
สกัดดาวรงุ่ หลายครงั้ ช่วงทศวรรษท่ี 30 คิม อลิ ซงุ โดนโซเวยี ตโจมตีว่า
ไม่เป็นที่นิยมในหมู่ประชาชนเมื่อปี 1945 อีกทั้งแวดล้อมด้วยบรรดา
แกนน�ำคอมมิวนสิ ตซ์ ึ่งมผี ลงานใต้ดินทีโ่ ดดเดน่ มากกว่า
มหี ลากหลายกลยทุ ธท์ ผ่ี นู้ ำ� เผดจ็ การใชก้ รยุ ทางขน้ึ สอู่ ำ� นาจและ
ก�ำจัดคู่แข่ง มีการกวาดล้างนองเลือด มีการยักย้ายจัดการ แบ่งแยก
แล้วปกครอง นแ่ี ค่บางส่วน แต่ในระยะยาว การสร้างลัทธิบชู าบคุ คล
ดูจะเป็นส่ิงท่ีประสบผลส�ำเร็จมากท่ีสุด ลัทธินี้จะใช้ทั้งมิตรและศัตรู
ให้เป็นประโยชน์ บังคับให้ท้ังสองฝ่ายท�ำงานร่วมกันภายใต้ผู้น�ำคน
เดียวกัน ก่อนอื่นใด เริ่มด้วยการบังคับให้เริ่มกล่าวสรรเสริญเยินยอ
ต่อหนา้ สาธารณชน ผู้นำ� เผด็จการเปลี่ยนทกุ คนใหเ้ ปน็ คนโกหก และ
เมอ่ื ทกุ คนโกหกกันหมด กไ็ มม่ ใี ครรวู้ า่ คนไหนโกหก การหาเพอ่ื นร่วม
ขบวนการเพอ่ื ก่อรฐั ประหารซ้อนจงึ กลายเปน็ เรื่องยากไปโดยปรยิ าย
ใครเป็นสร้างลัทธิข้ึน? มีท้ังนักเขียนชีวประวัติ ช่างภาพ นัก
ประพันธ์บทละคร คีตกวี กวี บรรณาธิการ และนักออกแบบท่าเต้น
รฐั มนตรกี ระทรวงโฆษณาการมอื ทอง และบางครงั้ กร็ วมกลมุ่ อตุ สาหกรรม
ทั้งหมด แต่คนท่ีมีส่วนมากที่สุดคือจอมเผด็จการเอง ‘การเมืองใน
ระบอบเผดจ็ การเรม่ิ จากบคุ ลกิ ภาพของเผดจ็ การ’ แพทยป์ ระจำ� ตวั ของ
เหมา เจ๋อตุงระบุไว้ในบันทึกความทรงจ�ำระดับขึ้นหิ้ง4 จอมเผด็จการ
ทัง้ แปดในหนังสอื เล่มนีต้ ่างมีอุปนิสัยแตกต่างกนั โดยสิน้ เชงิ แตท่ กุ คน
16 คมู่ ือเผดจ็ การ
ต่างมีเป้าหมายชัดเจนคือการขึ้นสู่อ�ำนาจ บางรายพยายามมากกว่า
ผู้อ่ืน มีรายงานหนึ่งอ้างว่ามุสโสลินีทุ่มเวลาคร่ึงหน่ึงของตนในการ
สรา้ งภาพของเขาในฐานะผรู้ แู้ จง้ ผรู้ แู้ จง้ ซง่ึ เปน็ ผปู้ กครองอนั อติ าลขี าด
ไม่ได้ – อีกทัง้ ยงั ควบเก้าอร้ี ัฐมนตรคี รึ่งโหล สตาลินหมนั่ ขัดเกลาลัทธิ
ของตัวเองอยู่เสมอ ตัดค�ำเชิดชูท่ีเขาคิดว่ามากเกินออก เฝ้ารอคอย
โอกาสในอีกหลายปีให้หลังเม่ือเขาคิดว่าถึงแก่เวลาอันควร เชาเชสกู
ขยนั สรา้ งภาพลกั ษณใ์ หก้ บั ตวั เอง เชน่ เดยี วกบั ฮติ เลอรท์ ใ่ี หค้ วามสำ� คญั
กบั การทกุ รายละเอยี ดของการสรา้ งภาพในชว่ งแรก แมว้ า่ ชวี ติ การงาน
ของเขาในช่วงหลังจะมอบหมายให้คนอื่นออกหน้ามากกว่าปกติเมื่อ
เทยี บกบั ผนู้ ำ� เผดจ็ การคนอน่ื พวกเขาทง้ั หมดตา่ งใชท้ รพั ยากรประเทศ
อย่างเตม็ ท่เี พือ่ สรา้ งฐานอำ� นาจให้กับฝา่ ยตน พวกเขาคือรัฐ
ไมใ่ ชน่ กั ประวตั ศิ าสตรท์ กุ คนจะใหค้ า่ กบั เผดจ็ การ เอยี น เคอรช์ อว์
(Ian Kershaw) นักประวัติศาสตร์ผู้โด่งดัง บรรยายถึงฮิตเลอร์ว่า
เป็น “คนไร้ราคา” คนสามัญที่อุปนิสัยต่างกับภาพจ�ำชนิดฟ้ากับเหว
เขาเชอื่ ว่า สงิ่ ที่ควรจดจ�ำคือ ‘ประชาชนเยอรมนั ’ และภาพทีพ่ วกเขา
มองฮิตเลอร์5 แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าประชาชนคิดอย่างไรกับผู้น�ำ
ของตน เพราะเสรีภาพในการออกความเห็นคือส่ิงแรกทจ่ี ะตอ้ งสูญเสยี
ในการปกครองระบอบเผดจ็ การ? ฮติ เลอรไ์ มไ่ ดม้ าจากการเลอื กตง้ั แต่
ภายในปเี ดยี วทขี่ นึ้ สอู่ ำ� นาจ นาซกี โ็ ยนประชาชนธรรมดาราวหนง่ึ แสน
คนเขา้ คา่ ยกกั กนั พวกเกสตาโป เชติ้ นำ้� ตาล และศาลลว้ นไมล่ งั เลจะจบั
คนท่ีไมเ่ ทดิ ทนู ผู้น�ำตามทคี่ วรจะเป็นเข้าคุก
หลายครง้ั ทกี่ ารแสดงความบชู าตอ่ ผนู้ ำ� เผดจ็ การดจู ะเปน็ เรอื่ งที่
ออกมาอยา่ งเปน็ ธรรมชาติ เมอ่ื มองจากสายตาคนนอก – เชน่ เดยี วกบั
บทน�ำ 17
นกั ประวตั ศิ าสตรร์ นุ่ หลงั – ทค่ี ดิ วา่ สง่ิ เหลา่ นเ้ี กดิ จากความรสู้ กึ ทแ่ี ทจ้ รงิ
หน่ึงในนักประวัติศาสตร์ท่ีเชี่ยวชาญด้านสหภาพโซเวียตกล่าวถึงลัทธิ
สตาลนิ วา่ ‘ตัวลัทธิได้รบั การยอมรบั นบั ถอื อย่างลึกซง้ึ ในวงกวา้ ง จาก
ประชาชนโซเวียตหลายล้านคนจากทุกชนช้ัน ทุกช่วงอายุและอาชีพ
โดยเฉพาะคนในสังคมเมือง’6 ทว่ามันเป็นเรื่องคลุมเครือ ไม่สามารถ
บอกไดว้ า่ จรงิ หรอื หลอก กลา่ วคอื มปี ระชาชนโซเวยี ตหลายลา้ นคนจาก
ทุกระดบั ช้ันทีไ่ มเ่ ชอ่ื ในลทั ธิบูชาสตาลนิ โดยเฉพาะแถบชนบท กระท่ัง
ผทู้ ส่ี นบั สนนุ ยงั รสู้ กึ วา่ ตนไมร่ จู้ กั ความคดิ ของผนู้ ำ� ไมร่ วมถงึ การสำ� รวจ
ความคดิ เห็นของคนอกี หลายลา้ นท่ถี กู รฐั บาลกดข่ี
จอมเผดจ็ การทอี่ ยนู่ านมหี ลากหลายทกั ษะ หลายคนเกง่ ในการ
ซ่อนความรู้สึก มุสโสลินีมองตัวเองว่าเป็นนักแสดงชั้นน�ำของอิตาลี
ฮติ เลอรก์ เ็ ชน่ กนั มบี างคราวทผี่ อ่ นคลายกเ็ ผลอเรยี กตวั เองวา่ เปน็ ดารา
เอกแห่งยุโรป แต่ในระบอบเผด็จการสามัญชนหลายคนก็เรียนรู้ว่าจะ
ตอ้ งทำ� ตวั อยา่ งไร พวกเขาฉกี ยมิ้ ไดต้ ามสงั่ ทอ่ งหลกั การของพรรคแบบ
นกแกว้ นกขนุ ทอง ตะโกนคำ� ขวญั และสดดุ ตี อ่ ผนู้ ำ� โดยสรปุ ประชาชน
ต้องสร้างภาพว่าพวกเขาเห็นชอบในตัวผู้น�ำ ใครท่ีไม่สามารถเล่นบท
ไปตามนัน้ ได้จะถกู ปรบั จบั ขัง และบ่อยครัง้ จบด้วยการยงิ เป้า
การท่ีมีคนเพียงหยิบมือที่รักเผด็จการน้ันกลับไม่ใช่เร่ืองใหญ่
ทว่าเป็นการท่ีไมม่ ใี ครรู้ว่าจรงิ ๆ แล้วใครจะคดิ อย่างไร เป้าหมายของ
ลัทธิไม่ใช่การเกล้ียกล่อมหรือโน้มน้าว แต่เป็นการสร้างความเคลือบ
แคลง ทำ� ลายสำ� นกึ พนื้ ฐาน กดหวั ใหเ้ ชอ่ื งเชอ่ื โดดเดยี่ ว และยำ่� ยศี กั ดศิ์ รี
ผู้คน ประชาชนต้องเซ็นเซอร์ตัวเอง และในทางกลับกันก็คอยจับผิด
ผอู้ นื่ ประจานคนทไี่ มส่ ามารถแสดงความจงรกั ภกั ดตี อ่ ผนู้ ำ� ภายใตภ้ าพ
18 คมู่ อื เผดจ็ การ
แห่งความสมัครสมานสามคั คที ุกภาคส่วนมีความแตกตา่ งหลากหลาย
ผันแปรไปตามแนวคิด ต้ังแต่ฝ่ายท่ีเช่ือม่ันในผู้น�ำอย่างสุดหัวใจ –
กลมุ่ ผู้เชื่ออยา่ งแทจ้ รงิ นักฉวยโอกาส อันธพาล – คนทีเ่ ฉอื่ ยชา หรือ
กระทั่งฝ่ายตรงข้าม
ผู้น�ำเผด็จการหลายคนนอกจากจะได้รับความนิยมในประเทศ
แล้วก็ยังได้รับความยอมรับนับถือจากต่างชาติ ซ่ึงรวมถึงปัญญาชน
คนดงั และนกั การเมอื งชอ่ื กอ้ ง กระทง่ั นกั วชิ าการแหง่ ศตวรรษท่ี 20 เอง
ก็ยอมที่จะเอาหูไปนาเอาตาไปไร่หรือถึงข้ันเห็นดีเห็นงาม อ้างว่าการ
กระท�ำของผู้น�ำเผด็จการน้ันชอบแล้วเพราะเป็นไปเพ่ือส่วนรวม แถม
ชว่ ยรบั รองจอมเผดจ็ การคนโปรด คนเหลา่ นจ้ี ะปรากฏในหนงั สอื เลม่ นี้
เพียงชั่วขณะเดียวเพราะพวกเขาเป็นวัตถุดิบชั้นดีส�ำหรับงานศึกษา
หลายชิน้ ไม่แพง้ านของพอล ฮอลแลนเดอร์ (Paul Hollander)7
เนื่องจากลัทธิตอ้ งแสดงภาพว่าได้รบั ความนยิ มจากใจจริง จึงมี
เรือ่ งของความเช่ือหรอื เวทมนตเ์ ขา้ มาเกย่ี วขอ้ ง ส�ำหรบั บางประเทศท่ี
เครง่ ศาสนาอาจมองว่าการบชู าฆราวาสนั้นเป็นสง่ิ พลิ ึกเต็มทน แต่ทกุ
กรณดี ำ� เนนิ ไปในทางเดยี วกนั วา่ ลทั ธเิ กดิ จากการบม่ เพาะจากเบอื้ งบน
ฮิตเลอร์ชูภาพว่าตนเป็นพระผู้ไถ่ หยิบยืมต�ำนานและความเชื่อก่ึง
ศาสนามาผสม ฟร็องซัว ดูวาลีเยไปไกลกว่าน้ันด้วยการแอบอ้างว่า
เปน็ หมอผีวดู แู ละเสรมิ ข่าวลอื เกีย่ วกับอำ� นาจคณุ ไสย
ในระบอบการปกครองแบบคอมมิวนสิ ต์นนั้ โดยจ�ำเพาะเจาะจง
จะมีการแทรกสอดวัฒนธรรมที่ปรุงแต่งขึ้นใหม่เข้าไป เหตุผลน้ันง่าย
นิดเดียว: น้อยคนนักในประเทศห่างไกลอยา่ งรสั เซีย จีน เกาหลี หรือ
เอธิโอเปียจะเข้าใจลัทธิมาร์กซ์-เลนิน การเคารพผู้น�ำในฐานะศาสดา
บทนำ� 19
ประสบความส�ำเร็จมากกว่าบทคัดย่อของทฤษฎีวัตถุนิยมวิภาษวิธีที่
ยากเกนิ ทปี่ ระชาชนซง่ึ อา่ นไม่ออกเขยี นไม่ได้ในชนบทจะเข้าใจ
ความจงรักภักดีต่อผู้น�ำเพียงผู้เดียวคือสิ่งที่ส�ำคัญท่ีสุดในการ
ปกครองแบบเผด็จการสว่ นใหญ่ ส�ำคญั มากเสียยิ่งกวา่ การซอ่ื สตั ย์ต่อ
ลัทธิความเช่ือ ในท้ายที่สุดอุดมการณ์ก็เป็นสิ่งที่สามารถแยกออกมา
เนื้อหาของแนวคิดถูกตีความออกไปได้หลากหลาย และเป็นปัจจัย
ส�ำคัญที่จะน�ำไปสู่การแบ่งพรรคออกเป็นหลายขั้ว ศัตรูตัวฉกาจท่ีสุด
ของบอลเชวิกคอื เมนเชวกิ ซง่ึ ทง้ั คยู่ ดึ ลัทธมิ ารก์ ซเ์ ปน็ สรณะ มสุ โสลนิ ี
ปฏิเสธอุดมการณ์และยึดมั่นในฟาสซิสต์อย่างเจตนาให้ไม่ชัดเจน เขา
ไม่ใช่คนเดียวที่ถูกครอบไปดว้ ยชุดของความคดิ ท่ตี ายตวั เขาภาคภมู ิ
ในตัวเองท่ีหยั่งรู้ เชื่อมั่นในสัญชาติญาณมากกว่ายอมรับหลักการ
ของสากลโลก ฮิตเลอร์ก็เหมือนมุสโสลินีท่ีนอกจากเรื่องชาตินิยมกับ
นโยบายต่อต้านชาติพันธุ์แล้วก็ขายแต่ภาพลักษณ์ของตัวเอง
กรณขี องระบอบคอมมวิ นสิ ตน์ น้ั ซบั ซอ้ นมากกวา่ เพราะพวกเขา
ควรจะเป็นมาร์กซิสต์ แต่คงเป็นการไม่ฉลาดนักที่ประชาชนธรรมดา
และสมาชิกพรรคจะใช้เวลามากมายมาวิเคราะห์งานของคารล์ มารก์ ซ์
จนสมองบวมเป่ง ประชาชนควรจะเป็นสตาลนิ สิ ต์ภายใตก้ ารปกครอง
ของสตาลนิ เมาอิสต์ภายใต้เหมา คมิ มสิ ต์ภายใตต้ ระกูลคมิ
ส�ำหรับกรณีของเมนกิสตู การยึดม่ันต่อทฤษฎีสังคมนิยมนั้น
ไมไ่ ดม้ อี ะไรมากไปกวา่ ดาวแดงและธงทวิ ทวั่ ทง้ั เอธโิ อเปยี ปรากฏใบปดิ
ของตรีเอกานุภาพ มาร์กซ์ เอ็งเงิลส์ และเลนิน แต่ส�ำหรับเมนกิสตู
เขาสนใจเพียงแค่เลนิน ไม่ใช่มาร์กซ์ มาร์กซ์มอบแนวคิดเร่ืองความ
เท่าเทียม แต่เลนินมอบเคร่ืองมือในการครองอ�ำนาจ: กองหน้าของ
20 ค่มู ือเผด็จการ
การปฏิวัติ แทนที่จะรอเวลาให้กรรมาชนรับรู้ถึงความกดข่ีของชนชั้น
และลงมือล้มล้างทุนนิยม มาร์กซ์แนะว่าให้ตั้งกลุ่มแกนน�ำเลียนระบบ
ของกองทัพซ่ึงจะมีหน้าที่น�ำการปฏิวัติและสถาปนาการปกครองโดย
ชนชั้นกรรมาชพี เปลย่ี นผา่ นจากทนุ นยิ มเปน็ คอมมวิ นิสต์ โหมก�ำจัด
ศัตรูตามรายทาง ส�ำหรับเมนกิสตู การใช้ระบบรวมอ�ำนาจการผลิต
กบั ชนบทอาจเปน็ มารก์ ซสิ ต์ แตม่ นั หมายถงึ การรดี ผลติ ผลออกมาจาก
ชนบทได้มากย่ิงขึ้นเพือ่ นำ� มาใช้สร้างเสรมิ กองทัพ
ผู้น�ำเผด็จการคอมมิวนิสต์ได้เปลี่ยนโฉมหน้าลัทธิมาร์กซ์เสีย
จนจำ� ไมไ่ ด้ มารก์ ซเ์ คยเสนอวา่ แรงงานทว่ั โลกควรจบั มอื กนั ปฏวิ ตั โิ ดย
ชนชั้นกรรมาชพี แตส่ ตาลินกลบั เทไปยงั แนวทาง ‘สังคมนิยมประเทศ
เดียว’ ยึดว่าสหภาพโซเวียตต้องสร้างกองทัพของตนให้แข็งแกร่ง
ก่อนจะส่งออกการปฏิวัติไปทั่วโลก เหมาเองก็อ่านงานของมาร์กซ์
แต่กลับเปล่ียนความคิดให้เขาใช้ชาวนาแทนกรรมกรส�ำหรับการเป็น
หวั หอกในการปฏวิ ตั ิ แทนทจ่ี ะยดึ มน่ั วา่ สถานการณค์ อื พลงั หลกั ในการ
เปลย่ี นแปลงประวตั ศิ าสตร์ คมิ อลิ ซงุ หนั หนา้ ไปในทางตรงขา้ ม บอกวา่
ประชาชนจะเขา้ ถงึ แกน่ แหง่ สงั คมนยิ มกด็ ว้ ยการมจี ติ วญิ ญาณแหง่ การ
เชื่อม่ันในตนเอง ในปี 1972 ความคดิ ของผนู้ �ำสงู สุดได้รับการบัญญตั ิ
ไว้ในรัฐธรรมนญู ส่วนลัทธิมารก์ ซ์กลบั สูญพันธ์จุ ากเกาหลีเหนอื จนสนิ้
กระนั้นในทุกกรณี แนวคิดเรอ่ื งกองหน้าของการปฏวิ ัตนิ ้ันกลับไม่เคย
ผันแปร
บอ่ ยครงั้ ทอี่ ดุ มการณน์ นั้ ไมต่ า่ งอะไรกบั ความเชอื่ ทำ� หนา้ ทเี่ ปน็
บททดสอบความจงรักภักดี น่ีไม่ได้หมายความว่าผู้น�ำเผด็จการไม่มี
โลกทศั น์ ชดุ ความเชอ่ื มสุ โสลินีเชอ่ื ในเศรษฐกจิ แบบพง่ึ พาตนเองและ
บทนำ� 21
อัดฉีดเงินให้มหาศาล เมนกิสตูหมกมุ่นกับจังหวัดท่ีก่อการกระด้าง
กระเดื่องอย่างเอริเทรีย และเลือกใช้สงครามเป็นหนทางแก้ไข แต่สิ่ง
ท่ีศักด์ิสิทธ์ิสูงสุดของจอมเผด็จการคือวาจา และบัญชาจากเผด็จการ
เปล่ียนแปลงได้เสมอ เขาสร้างอ�ำนาจส่วนบุคคล ท�ำให้ค�ำพูดกลาย
เป็นกฎหมาย
ผู้น�ำเผด็จการไม่เพียงแต่โกหกประชาชน แต่พวกเขายังโกหก
ตวั เองด้วย ส่วนหนึ่งหลงระเริงอย่ใู นโลกท่ีพวกเขาสรา้ งขึน้ เช่อื ว่าตน
ฉลาดล�้ำ หลายคนวิตกจริตกับคนรอบตัว ทุกรายต่างห้อมล้อมด้วย
เหล่าบริวารข้ีประจบ อารมณ์แล่นสลับไปมาระหว่างความอหังการ
กับหวาดระแวง และสุดท้ายก็น�ำไปสู่ผลลัพธ์ร้ายแรงฉกาจฉกรรจ์ท่ี
สามารถกลนื ชวี ติ ประชาชนหลายลา้ นคน บางคนหลดุ จากโลกแหง่ ความ
เป็นจริงแบบเดียวกับฮิตเลอร์ระหว่างช่วงท้ายของชีวิต ไม่ต้องพูดถึง
เชาเชสกู แตห่ ลายคนกส็ ามารถยนื หยดั ในอำ� นาจไดอ้ กี นาน สตาลนิ กบั
เหมาเสียชีวิตด้วยโรคชราหลังจากสร้างภาพชูมาตลอดหลายทศวรรษ
ว่าเป็นทร่ี ัก ดวู าลีเยสามารถถ่ายอ�ำนาจให้ลูกชายสำ� เร็จ ตอ่ ลมหายใจ
ลัทธิของเขาไปอีกยี่สิบปี และส�ำหรับลัทธิท่ีแปลกประหลาดมากที่สุด
เท่าที่เคยมีมา ตระกูลคิมแห่งประเทศเกาหลีเหนือสามารถสืบอ�ำนาจ
มาไดน้ านถึงสามร่นุ
รายการชื่อผู้น�ำท่ีถูกจัดเป็นผู้น�ำเผด็จการสมัยใหม่ต่อท้ายยาว
ได้นับร้อยชื่อ บางคนเรืองอ�ำนาจเพียงไม่กี่เดือน บางคนหลายสิบปี
ส่วนหน่ึงในรายชื่อที่สามารถเอาเข้ามาแทรกในหนังสือเล่มนี้ได้อย่าง
ไม่ติดขัด อาทิ ฟรังโก (Francisco Franco), ตโิ ต (Josip Broz Tito),
ฮอจา (Enver Hoxha), ซกู ารโ์ น (Sukarno), คาสโตร (Fidel Castro),
22 คู่มอื เผดจ็ การ
โมบตู ู (Mobutu Sese Seko), บอกาซา (Jean-Bédel Bokassa),
กัดดาฟี (Muammar Gaddafi), ซัดดัม (Saddam Hussein),
อซั ซาด (Assad ทงั้ คนพอ่ Hafez al-Assad และลกู Bashar al-Assad),
โคมยั นี (Ruhollah Khomeini) และมูกาบี (Robert Mugabe)
ส่วนใหญ่ต่างสร้างลัทธิบูชาบุคคลไม่ทางใดก็ทางหน่ึง เป็น
เหล้าเก่าในถ้วยใหม่ แต่หลายคนไม่ท�ำเช่นน้ัน เช่น พอลพต (Pol
Pot) ตลอดสองปีทีเ่ ขาครองปกครองกลับแทบไมม่ คี นรจู้ กั ถงึ การมอี ยู่
ของเขาเลย ประชาชนกัมพูชาต้องเช่ือฟังอังการ์ หรือ ‘องค์กร’ แต่
นักประวัติศาสตร์ เฮนรี โลคาร์ด (Henri Locard) ให้ความเห็นถึง
เรอื่ งนว้ี า่ การเลอื กทจี่ ะไมส่ รา้ งลทั ธบิ ชู าตวั บคุ คลกลบั สรา้ งผลเสยี หาย
ร้ายแรงกับเขมรแดง การหลบอยู่ในเงามืดขององค์กรและถอนราก
ถอนโคนศตั รจู นเหยี้ นกลบั สง่ ผลยอ้ นกลบั ‘ลม้ เหลวทจ่ี ะทำ� ใหค้ นสรรเสรญิ
หรือศิโรราบ อังการ์สร้างได้แค่ความเกลียดชัง’8 กระทั่งบิ๊กบราเธอร์
ในวรรณกรรม 1984 ของจอร์จ ออร์เวลล์ยังมีใบหน้าที่คอยจับจ้อง
ประชาชนอย่ทู ุกหวั มมุ ถนน
เผด็จการที่เหลือรอดมักอาศัยเคร่ืองมือทางอ�ำนาจสองชนิด:
การสร้างลัทธิกับความหวาดกลัว อย่างไรก็ตาม บ่อยครั้งท่ีลัทธิบูชา
ตัวบุคคลนั้นด�ำเนินไปอย่างวิปลาส เป็นที่จงชังทว่าก็ได้รับความนิยม
ในระดบั ทจี่ ำ� กดั หนงั สอื เลม่ นไ้ี ดจ้ ดั ลทั ธบิ ชู าตวั บคุ คลไวใ้ นทที่ เ่ี หมาะสม
คือ ณ จดุ ศูนยก์ ลางของความเผดจ็ การ
1
Mussolini
มสุ โสลินี
เขต EUR นับเปน็ เขตทีม่ คี วามส�ำคัญทางประวตั ิศาสตร์ หน่ึงในเขตท่ี
มีความเป็นระเบยี บท่สี ดุ ของโรม ถนนสายกวา้ งตัดตรง วัสดุที่บพุ ้ืนผิว
อาคารหลังโตท�ำจากหินอ่อนทราเวอร์ทีนสีขาวขัดมัน วัสดุเดียวกับ
ท่ใี ชร้ งั สรรคโ์ คลอสเซียม EUR ยอ่ มาจาก Esposizione Universale
Roma งานเวลิ ด์แฟรท์ ่ีเบนโิ ต มสุ โสลินี (Benito Mussolini) หมาย
จดั ให้ย่งิ ใหญเ่ พอ่ื ฉลองใหก้ ับวาระครบรอบ 20 ปขี องการเดนิ ขบวนสู่
โรมในปี 1942 หัวหน้าสถาปนิก มารเ์ ชลโล ปอิ าเซนตนิ ี (Marcello
Piacentini) อ้างว่าโครงการน้ีจะแสดงให้เห็นอารยธรรมนิรันดร์แบบ
ใหม่ ‘อารยธรรมฟาสซิสต์’ แม้ว่างานเวิลด์แฟร์จะไม่เคยเกิดข้ึนจริง
เน่ืองจากภาวะสงครามโลกคร้ังที่ 2 อาคารหลายหลังสร้างไม่เสร็จ
จนกระท่ังทศวรรษที่ 50 หนึ่งในอาคารที่โดดเด่นมากท่ีสุดใน EUR
คือหอจดหมายเหตุที่สร้างบนฐานยกสูงเหมือนวิหารโรมันโบราณและ
รายล้อมดว้ ยต้นสนรม่ สูงตระหงา่ นคอยใหร้ ม่ เงา1
24 คู่มอื เผด็จการ
ด้านในห้องอ่านหนังสือขนาดใหญ่ที่อัดแน่นไปด้วยเอกสาร
มากมายนนั้ มซี องจดหมายสเี หลอื งฝนุ่ จบั ทสี่ ง่ ถงึ ดเู ช ในชว่ งเรอื งอำ� นาจ
ทสี่ ดุ เขาไดร้ บั จดหมายถงึ วนั ละ 1,500 ฉบบั ทกุ ฉบบั ไดร้ บั การคดั กรอง
โดยเลขานกุ ารสว่ นตัวซ่ึงมรี าว 50 คน จนเหลอื หลกั ร้อยฉบับกอ่ นจะ
ให้มุสโสลินีอ่าน เม่ือมุสโสลินีเส่ือมอ�ำนาจลงในฤดูร้อนปี 1943 หอ
จดหมายเหตกุ ็มเี อกสารกว่าครง่ึ ล้านฉบบั 2
วนั ที่ 28 ตุลาคม ปี 1940 หนงึ่ ในวนั ส�ำคัญบนปฏทิ ินฟาสซิสต์
โทรเลขจากทุกมุมของประเทศก็หลั่งไหลเข้ามา มีบทกวีสรรเสริญถึง
‘ทา่ นผนู้ ำ� สงู สดุ ผเู้ จดิ จรสั ชชั วาลย’์ ซาลสุ ตรี จอบบี (Salustri Giobbe)
เชิดชู ‘ผู้มีปัญญาประเสริฐอยู่เหนือหมู่มวลความขัดแย้งท้ังโลกา’
เจ้าหน้าท่ีจากเมืองตริเอสเต (Trieste) เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ส่ง
ขอ้ ความแทนวา่ ประชาชนตา่ งแซซ่ อ้ งในอจั ฉรยิ ภาพของผนู้ ำ� ในขณะที่
เมืองอเลสซานเดรีย (Alessandria) สรรเสริญเขาว่าเป็นสุดยอด
ผ้สู รรคส์ รา้ ง3
อย่างไรก็ตาม เหนืออื่นใด เหล่าสาวกที่หลงใหลในตัวดูเชต่าง
ต้องการภาพถ่ายพร้อมลายเซ็น ดูเชได้รับค�ำขอมาจากคนทุกวงการ
ตั้งแต่นักเรียนที่เขียนขอเป็นของขวัญคริสต์มาสไปจนถึงมารดาที่
เสียลูกชายไปในสงคราม ส่วนมากมุสโสลินีก็ไม่ได้ขัดศรัทธา เม่ือ
ฟรานเชสกา คอรเ์ นอร์ (Francesca Corner) ผรู้ บั บำ� นาญวยั 95 ปจี าก
เวนสิ ไดร้ บั จดหมายตอบกลบั หวั ใจของเธอกเ็ ปย่ี มลน้ ไปดว้ ย ‘ความสขุ
อย่างหาท่ีสุดไม่ได้’ เพอร์เฟ็กต์ (prefect–เจ้าหน้าท่ีรัฐของอิตาลี)
เจ้าหน้าท่ที อ้ งถิน่ ทเ่ี หน็ เหตุการณ์บันทึกลงในรายงาน4
มุสโสลินีเหมือนผู้น�ำเผด็จการส่วนใหญ่ที่ใช้แนวคิดว่าเขาคือ
มสุ โสลนิ ี 25
คนของประชาชน ทกุ คนสามารถเขา้ ถงึ เขาได้ เดือนมีนาคม ปี 1929
ระหว่างการประชุมระดับแกนน�ำ เขาคุยว่าตนได้ตอบค�ำร้องของ
ประชาชนไปแล้วกว่า 1,887,112 เร่ือง ที่เลขานุการส่วนตัวคัดกรอง
มาให้ ‘ทุกครั้งที่ราษฎรที่แม้จะอยู่ในหมู่บ้านไกลปืนเท่ียงท่ีสุดส่งเร่ือง
มาให้ผม พวกเขาจะได้รับจดหมายตอบ’5 นับเป็นค�ำอวดโวใหญ่โต
ทว่าจ�ำนวนเอกสารในหอจดหมายเหตุก็ยืนยันถึงเรื่องน้ีได้ นับได้ว่า
เขากม็ คี ณุ ความดอี ยบู่ า้ ง มรี ายงานฉบบั หนงึ่ เลา่ วา่ มสุ โสลนิ ใี ชเ้ วลากวา่
ครึง่ หนึ่งในการรักษาภาพลกั ษณ6์ เขาเปน็ เจ้าแห่งโฆษณาการ ทกั ษะ
ทตี่ ิดตวั มาต้งั แตเ่ ป็นนักแสดง ผจู้ ดั การ ผู้ก�ำกบั เวที นักปราศรัย และ
นกั สร้างภาพมือทอง
มีน้อยคนที่คิดว่าเขาจะขึ้นมามีอ�ำนาจได้ มุสโสลินีในวัยหนุ่ม
ลองเส่ยี งดวงเป็นนักขา่ วใหพ้ รรคสังคมนิยมอติ าลี (Italian Socialist
Party) ทวา่ ก็ไม่ไดร้ ับความนยิ มในหมสู่ หายรว่ มอุดมการณ์ เนอ่ื งจาก
เขาสนับสนุนให้อิตาลีเข้าร่วมสงครามโลกครั้งท่ี 1 เขาถูกเกณฑ์เข้า
กองทัพและได้รับบาดเจ็บจากอบุ ัติเหตลุ ูกปนื ครกระเบิดเม่ือปี 1917
หลังสงครามโลกสิ้นสุด สงครามท�ำให้เกิดความไม่สงบในกลุ่ม
ผใู้ ชแ้ รงงานทวั่ ทง้ั ยโุ รป หลงั จากถกู เชอื ดมาตลอดหลายปที ง้ั ในสนามรบ
และจากข้อบังคับเข้มงวดในโรงงาน พวกเขาก็เร่ิมนัดหยุดงานจน
ท�ำให้เศรษฐกิจเป็นอัมพาต เทศบาลต่างๆ ได้รับแรงบันดาลใจจาก
การชิงอ�ำนาจของเลนินในปี 1917 เทศบาลหลายแห่งมีความคิดเป็น
สงั คมนยิ มและเริม่ ชกั ธงแดงขึ้นประดบั ประกาศตนเองว่านิยมอ�ำนาจ
เผด็จการโดยชนชนั้ กรรมาชพี นค่ี ือปีทองของฝา่ ยคอมมิวนสิ ต์ (Red
Years) จำ� นวนสมาชกิ ของพรรคสงั คมนยิ มพงุ่ ขน้ึ มากกวา่ 200,000 คน
26 ค่มู อื เผดจ็ การ
ในปี 1920 ในขณะทพ่ี รรคสหภาพแรงงาน (General Confederation
of Labour) คุยว่าตนมสี มาชกิ เกินสองลา้ นคน7
ปี 1919 มุสโสลินีเร่ิมจัดต้ังขบวนการที่จะกลายมาเป็นพรรค
ฟาสซสิ ต์ แนวคดิ ครอบคลมุ ทง้ั เสรนี ยิ ม ชาตนิ ยิ ม รวมถงึ กลมุ่ ทต่ี อ่ ตา้ น
สถาบันศาสนา มีการลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ Popolo d’Italia
(ประชาชนแหง่ อติ าล)ี ของมสุ โสลนิ อี ยา่ งแพรห่ ลาย ทวา่ พรรคฟาสซสิ ต์
ไมส่ ามารถไดร้ บั คะแนนมากพอทจ่ี ะครองเกา้ อสี้ ภาแมแ้ ตต่ วั เดยี วในการ
เลือกตัง้ ทว่ั ไป มีสมาชกิ พรรคลาออกไปมาก ทงั้ ประเทศเหลือสมาชกิ
ไม่ถึง 4,000 คน คู่แข่งทางการเมืองต่างดูถูกเหยียดหยัน มุสโสลินี
กลา่ วอยา่ งขมขน่ื วา่ ‘ลทั ธฟิ าสซสิ ตม์ าถงึ ทางตนั เสยี แลว้ ’ เขาเผยวา่ อาจ
วางมอื ทางการเมืองแลว้ หันไปเอาดที างการแสดงแทน8
มุสโสลินีเสียศูนย์ได้ครู่เดียว เดือนกันยายน ปี 1919 กวีชื่อ
กราบิเอเล ดานนนุ ซโิ อ (Gabriele d’Annunzio) กบั ฝ่ายแบ่งแยกอีก
186 คนได้บุกปล้นเมืองฟียูเม (Fiume) เมืองท่ีอิตาลีเพ่ิงได้มาหลัง
ราชวงศอ์ อสโตร-ฮงั การลี ม่ สลายเมอ่ื ตน้ ปกี อ่ น มสุ โสลนิ ตี ระหนกั ไดว้ า่
อ�ำนาจที่เขาไม่อาจได้จากการเลือกตั้งนั้นสามารถได้มาด้วยการใช้
ความรนุ แรง แตด่ านนนุ ซโิ อกใ็ หแ้ รงบนั ดาลใจอกี เรอ่ื งหนงึ่ กบั มสุ โสลนิ ี
ในฟยี เู ม กวสี ถาปนาตนเองขึ้นเป็นดูเช ค�ำทเี่ อามาจากภาษาละตนิ ว่า
dux แปลว่า ผนู้ �ำ ต้องใช้เวลานานกว่า 15 เดือนกว่าทีก่ องทพั จะปราบ
ลงได้ ดานนุนซโิ อเข้าปกครองเมอื งทา่ (อสิ เตรีย) อยา่ งกดข่ี เขามัก
ปรากฏตวั ตรงหนา้ มขุ เพอ่ื ปาฐกถาใหบ้ รรดาสาวกทแ่ี ตง่ กายดว้ ยเชต้ิ สดี ำ�
ซึ่งทักทายผู้น�ำของตนด้วยการเหยียดแขนชูข้ึน มีการเดินพาเหรด
แสดงวงโยธวาทิต มอบเหรียญตราและการพดู ปลุกใจไม่เว้นแตล่ ะวนั
มุสโสลนิ ี 27
นักประวัตศิ าสตร์รายหน่งึ กล่าวว่า ฟาสซิสต์ไม่ไดห้ ยิบเอาลทั ธิ
การเมอื งของดานนนุ ซโิ อมาใชไ้ ดม้ ากเทา่ กบั วธิ กี ารทางการเมอื ง ความ
ต่ืนรู้ของมุสโสลินีว่าประชาชนสนใจในความเอิกเกริกและพิธีรีตอง
มากกวา่ บทบรรณาธกิ ารถึงลกู ถึงคน9
อุดมการณ์ของลัทธิฟาสซิสต์ยังคงไม่ชัดเจน แต่มุสโสลินีก็
ตระหนกั ไดว้ า่ มนั จะเปน็ รปู เปน็ รา่ งในอนาคต: เขาจะเปน็ ผนู้ ำ� หนง่ึ เดยี ว
ทช่ี ะตากำ� หนดมาเพื่อกชู้ าติบ้านเมอื ง เขาเรมิ่ เขา้ เป็นศิษยก์ ารบินในปี
1920 แสดงตนเป็นคนรุ่นใหม่ท่ีมีวิสัยทัศน์และแรงขับหวังให้เกิดการ
เปล่ียนแปลงใหญ่ อีกทั้งยังเป็นนักข่าวท่ีประสบความส�ำเร็จ เขารู้วิธี
การรวบรัดค�ำ ยิงตรง ไร้การใช้ค�ำสวยหรูเพ่ือถ่ายทอดสารด้วยความ
จรงิ ใจแนว่ แน่; เขาเร่มิ ซกั ซ้อมทกั ษะการแสดง รูจ้ กั การใช้ท่าทางให้ดู
ทรงอ�ำนาจประกอบค�ำท่ีกระชับเพื่อให้ตัวเองดูเป็นผู้น�ำท่ีท�ำงานหนัก:
เชดิ คอ กัดกรามขึงขงั สองมือเท้าท่เี อว10
ปี 1921 รฐั บาลเรมิ่ ท่จี ะประจบพรรคฟาสซิสต์ออกหน้า หวังใช้
พรรคชว่ ยทำ� ใหฝ้ า่ ยซา้ ยขวั้ ตรงขา้ มออ่ นกำ� ลงั ลง กองทพั เองกใ็ หค้ วาม
รว่ มมอื อนั ธพาลฟาสซสิ ตท์ ี่บางครัง้ ได้รบั การค้มุ ครองโดยข้าราชการ
ทอ้ งถิน่ เร่ิมออกมาระรานท�ำรา้ ยรา่ งกายฝ่ายตรงขา้ มบนทอ้ งถนน บุก
เข้าศูนย์สหภาพแรงงานและที่ท�ำการพรรคสังคมนิยม เมื่อประเทศ
เดินหน้าเข้าสู่สงครามกลางเมือง มุสโสลินีปลุกปั่นว่าประเทศก�ำลัง
ประสบภยั บอลเชวกิ เปลยี่ นเปา้ หมายของพรรคฟาสซสิ ตใ์ หเ้ ปน็ ศตั รกู บั
ฝ่ายสังคมนิยม เขาบันทึกว่า อิตาลีต้องการผู้น�ำเผด็จการเพื่อกอบกู้
ประเทศจากการลุกฮือพวกคอมมิวนิสต์ เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิปี 1922
ในเวลานั้นพวกอันธพาลฟาสซิสต์ก็แข็งแกร่งมากพอที่จะเข้าควบคุม
28 คู่มือเผด็จการ
ส่วนใหญ่ของประเทศ มุสโสลินีขู่ว่าจะส่งกองก�ำลังฟาสซิสต์กว่า
300,000 คนไปยังเมอื งหลวง แมว้ ่าความจรงิ แล้วจะมีพลพรรคเชติ้ ด�ำ
ไม่ถึง 30,000 คนเทา่ นั้นท่พี รอ้ มก่อการ สว่ นใหญ่ไมไ่ ด้รับอาวธุ ท่ดี พี อ
ไม่มีทางเทียบได้กับทหารกองประจ�ำการในโรม แต่การเกทับก็ส�ำเร็จ
ฟาสซิสต์เริ่มเข้าควบคุมท่ีท�ำการรัฐบาลในมิลาน ฯลฯ ตลอดคืนวันที่
27-28 ตลุ าคม พระเจา้ วคิ ตอร์ เอมมานเู อล (Victor Emmanuel) ทรง
ทราบถึงชะตากรรมราชวงศ์โรมานอฟหลังปี 1917 ดี พระองค์เรยี กให้
มสุ โสลินีเขา้ เฝา้ ทโี่ รม และแตง่ ตั้งให้เปน็ นายกรฐั มนตรพี ระราชทาน11
การได้รับแต่งต้ังจากวังน้ันเป็นเร่ืองหนึ่ง ภาพลักษณ์ต่อ
สาธารณชนก็เป็นอกี เรือ่ ง มุสโสลนิ ีทย่ี ังอยใู่ นมลิ านตอ้ งการจะใชค้ วาม
เช่อื เรื่องการเดินขบวนสูโ่ รม เขาจะข่มี ้าเข้าเมืองหลวง นำ� หนา้ กองทัพ
ส่วนตัวข้ามแม่น�้ำรูบิคอนเพื่อไปประกาศเจตนารมณ์ต่อสภาที่อ่อนแอ
กระทั่งที่เขาต้องจัดต้ังรัฐบาล ในโรมก็มีฟาสซิสต์เพียงไม่กี่พันคน
เทา่ นนั้ การเดนิ ขบวนถกู จดั ตง้ั ขนึ้ อยา่ งรบี เรง่ เหลา่ เชต้ิ ดำ� เดนิ ทางเขา้
เมืองหลวง ค�ำส่ังแรกที่ได้รับคือให้ท�ำลายแท่นพิมพ์ของหนังสือพิมพ์
ขั้วตรงข้ามเพื่อให้ม่ันใจได้ว่าฟาสซิสต์จะมีชัยเร่ืองการข่าว มุสโสลินี
เดนิ ทางมาถึงทางรถไฟในเช้าวนั ท่ี 30 ตุลาคม กษตั รยิ ์ออกตรวจพล
กองทหารฟาสซิสต์ก่อนจะถูกส่งกลับภูมิล�ำเนาในอีกวัน 7 ปีต่อมา
มกี ารสรา้ งอนสุ าวรยี ด์ เู ชขมี่ า้ สงู 5 เมตรเพอื่ เฉลมิ ฉลองในวาระครบรอบ
ของการเดนิ ขบวนสโู่ รม สายตาดเู ชทท่ี อดมองไปยงั อนาคต มอื ขา้ งหนง่ึ
กุมบังเหียน อกี มอื ถือธงชยั 12
ในเวลานัน้ มสุ โสลนิ ีเพิ่งมีอายุได้ 39 ปี รปู รา่ งเต้ียลำ�่ แต่เขาท�ำ
ตวั เองใหด้ โู ตขนึ้ จากทา่ ทางการยนื เหยยี ดหลงั ตรงและชว่ งอกทแ่ี ขง็ แรง
มุสโสลนิ ี 29
‘ใบหนา้ เหลอื งซดี ผมสดี ำ� ศีรษะล้านคร่ึงซกี พระจันทร์ คว้ิ ดมู ีราศี ริม
ฝปี ากใหญ่ ขากรรไกรขนาดใหญ่ ตรงกลางใบหนา้ คอื ดวงตาขนาดใหญ่
คมกริบสีด�ำสนิทท่ีดูราวกับว่าจะถลนออกมา’ ท่ีส�ำคัญที่สุดคือทักษะ
การปราศรัยและท่าทางเล่นใหญ่ – ศีรษะเอนไปด้านหลัง แก้มตอบ
แหลมมาด้านหน้า ดวงตากลอกไปมา – ทุกอย่างถูกค�ำนวณมาเพ่ือ
แสดงถงึ การมอี �ำนาจและความแขง็ แกรง่ หากรูจ้ ักเขาเปน็ การสว่ นตวั
กจ็ ะเหน็ ด้านอ่อนโยนและทรงเสน่ห์ นกั ข่าวองั กฤษ จอร์จ สโลคอมบ์
(George Slocombe) ทเี่ คยพบมสุ โสลนิ เี มอื่ ปี 1922 สงั เกตวา่ ทา่ ทขี อง
เขาเปลยี่ นไปชนดิ พลกิ ฝา่ มอื เมอื่ ไดค้ ยุ ตวั ตอ่ ตวั ไมม่ กี ารเกรง็ กลา้ มเนอื้
กรามทีแ่ ข็งดอู ่อนยวบ และน�้ำเสียงก็ดจู รงิ ใจ สโลคอมบบ์ ันทกึ วา่ ชวี ิต
ของมสุ โสลินตี ้องเปน็ ฝา่ ยรบั มาตลอด ‘ตอนน้ีเขาพลิกกลบั มาเปน็ ผลู้ า่
เขาจงึ ไมส่ ามารถสลดั สญั ชาตญาณไม่ไว้ใจคนแปลกหนา้ ออกไปได้’13
ความไมไ่ วเ้ นอ้ื เชอื่ ใจผอู้ นื่ รวมถงึ รฐั มนตรกี บั บรรดาแกนนำ� จะ
ติดตวั เขาไปชว่ั ชีวติ เชน่ ทีอ่ ิโวน เคิรค์ แพทริค (Ivone Kirkpatrick)
นักวิเคราะห์ประจ�ำสถานทูตอังกฤษกล่าวถึงเรื่องนี้ไว้ ‘เขาเป็นคนท่ี
อ่อนไหวเร่ืองการมีคนมาแข่งบารมี และเขามองทุกคนด้วยสายตา
เคลอื บแคลงแบบคนไม่ไดร้ บั การอบรม’14
มคี ู่แขง่ มากมายให้กงั วล ในขณะท่ีเขาพยายามขายภาพว่าเป็น
ผู้นำ� ทแ่ี ข็งกรา้ ว ฟาสซสิ ตก์ ็ไมไ่ ด้เปน็ ปึกแผน่ หากเพยี งเปน็ ขบวนการ
ของผู้น�ำท้องถิ่นท่ีเกาะกลุ่มกันอย่างหลวมๆ เพียงราวหนึ่งปีก่อน
มสุ โสลนิ กี พ็ บกบั แกนนำ� ทแี่ ขง็ ขอ้ บางคนเปน็ ฟาสซสิ ตร์ ะดบั สงู รวมทงั้
อติ าโล บลั โบ (Italo Balbo) โรแบรโ์ ต ฟารนิ ชั ชี (Roberto Farinacci)
และดโิ น กรนั ดิ (Dino Grandi) พวกเขาตำ� หนดิ เู ชทเี่ อาใจเขา้ หารฐั สภา
30 คมู่ อื เผดจ็ การ
โรมมากเกินไป กรันดิ ผนู้ �ำฟาสซสิ ต์ในโบโลญญา (Bologna) ที่นยิ ม
ความรุนแรงได้เคยพยายามโค่นมุสโสลินีลง บัลโบ ชายหนุ่มร่างเล็ก
ท่ีมีผมกระเซอะกระเซิงได้รับความนิยมอย่างสูงและจะกลายเป็น
เส้ียนหนามใหญ่ในอีกหลายทศวรรษข้างหน้า มุสโสลินีตอบโต้ด้วย
การต้ังรัฐบาลผสมทไ่ี ม่มีผ้นู ำ� ฟาสซสิ ตค์ นสำ� คญั เลย ในการปรากฏตวั
คร้ังแรกในฐานะนายกรัฐมนตรี เขากดข่มรัฐสภาท่ีท�ำทีเป็นปฏิปักษ์
และยกยอวฒุ ิสภาที่เปน็ พนั ธมิตร เหนอื อืน่ ใด เขาบอกวา่ ตนจะเคารพ
รฐั ธรรมนญู หลงั ไดย้ นิ คำ� มนั่ เสยี งสว่ นใหญก่ ม็ อบอำ� นาจเบด็ เสรจ็ ให้ มี
บางรายทก่ี ระทั่งกล้าลุกขอให้มุสโสลนิ ีใชก้ ารปกครองแบบเผดจ็ การ15
มสุ โสลนิ ปี รากฏตวั สน้ั ๆ ในกจิ การตา่ งประเทศ เขาเดนิ ทางไปยงั
โลซาน (Lausanne) และกรงุ ลอนดอนเพอ่ื หาพนั ธมติ ร เขากบั คณะได้
รบั การตอ้ นรบั อย่างสมเกียรติท่ีสถานวี คิ ตอเรีย สองข้างทางมี ‘ฝูงชน
มหาศาลส่งเสียงต้อนรับ’ แสงแฟลชจากช่างภาพแยงตาจนแทบมอง
ไม่เห็น ภาพของมุสโสลินีในเวลาน้ันยังยึดโยงกับการเดินขบวนสู่โรม
ส่ือต่างต้ังฉายาให้เขาท้ังครอมเวลล์แห่งอิตาลี นโปเลียนแห่งอิตาลี
การบิ ลั ดี (Garibaldi) เชต้ิ ดำ� แมว้ า่ ภาพลกั ษณข์ องเขาในนานาชาตจิ ะ
มนั่ คงมากขน้ึ ทกุ วนั มสุ โสลนิ กี ไ็ มไ่ ดอ้ อกนอกชายแดนอติ าลอี กี เลยจน
กระทงั่ ในอกี 16 ปตี อ่ มา16
มีน้อยคนในบ้านเกิดจะเคยเห็นดูเช มุสโสลินีร่ายมนต์กล่อม
ประชาชนดว้ ยการเดนิ สายเยอื นทวั่ ประเทศ มกี ารไปเยย่ี มเยยี นหมบู่ า้ น
มากมาย การประชมุ กบั แรงงานและพธิ เี ปดิ ของโครงการสาธารณะ ไม่
นานมุสโสลินีก็มีขบวนรถไฟส่วนตัวและสั่งไว้ว่าให้ชะลอฝีจักรเมื่อมี
ประชาชนจ�ำนวนมาก เขาจะออกไปยืนตรงหน้าต่างรถ: ‘ทุกคนควร
มุสโสลนิ ี 31
มีสิทธ์ิได้เห็นผม’ เขาบอกกับคนรับใช้ท่ีได้รับหน้าท่ีไปดูต้นทางว่า
ประชาชนจะอยู่ฝั่งซ้ายหรือขวา ส่ิงที่จ�ำเป็นทางการเมืองในระยะแรก
แปรสภาพกลายเป็นความหมกมนุ่ 17
มสุ โสลนิ ผี กู้ งั วลเรอ่ื งคแู่ ขง่ ทางการเมอื งสง่ั จบั กมุ มติ รใกลช้ ดิ ทส่ี ดุ
ท่ีดูแลส่ือคากระทรวงกิจการภายในซ่ึงเขาน่ังเป็นรัฐมนตรีว่าการเอง
งานของเชซาเร รอสซี (Cesare Rossi) คอื การโฆษณาใหก้ บั ฟาสซสิ ต์
โดยอัดฉีดงบลับให้กับส่ือส�ำนักต่างๆ ที่เป็นผลดีกับมุสโสลินีรวมถึง
ดึงสื่ออิสระให้เข้ามาอยู่ในอิทธิพลของรัฐบาล รอสซียังส่งเงินให้กับ
กองกำ� ลงั ตดิ อาวธุ ลบั ของฟาสซสิ ตเ์ พอ่ื ใชก้ ำ� จดั ศตั รขู องรฐั บาล หนง่ึ ใน
นนั้ คอื อแมรโิ ก ดมู นิ ี (Amerigo Dumini) หนมุ่ นกั ผจญโชคทร่ี จู้ กั ในชอื่
‘มือสังหารของดูเช’ เดือนมิถุนายน ปี 1924 เขากบั ลูกนอ้ งอ้มุ จาโคโม
มัตเตโอติ (Giacomo Matteotti) ผู้น�ำฝ่ายสังคมนิยมและเป็นคนท่ี
วิจารณ์มุสโสลินีแบบถึงลูกถึงคน ก่อนจะแทงเหยื่อด้วยตะไบจนพรุน
แล้วเอาศพไปทง้ิ ในท่อน�้ำนอกโรม18
การฆาตกรรมท�ำใหเ้ กิดกระแสตีกลับอยา่ งมาก เสยี งประชาชน
หนั ไปตอ่ ตา้ นมสุ โสลนิ ที ต่ี อนนข้ี าดเสยี งสนบั สนนุ เปน็ ทนุ เดมิ เขาวงิ วอน
ขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบซ่ึงย่ิงเป็นการโดดเด่ียวผู้สนับสนุน
ของตนทีก่ ำ� ลังถกู สภากบั สอื่ โจมตี ดว้ ยความกลัวว่าจะถกู หักหลงั เขา
กห็ ันมาใช้ไมแ้ ข็ง ท�ำตัวเผดจ็ การด้วยการใช้วาจารุนแรงระหว่างกล่าว
ในรฐั สภาเม่ือวันที่ 3 มกราคม ปี 1924 มสุ โสลินปี ระกาศอย่างไม่สน
หน้าอินทร์หน้าพรหมว่าความพยายามท่ีจะตั้งรัฐบาลผสมเป็นส่ิง
ไรส้ าระ และเวลานเ้ี ขากำ� ลงั ทำ� ใหพ้ รรคฟาสซสิ ตเ์ ปน็ ใหญแ่ ตเ่ พยี งผเู้ ดยี ว
เขาโดดเดี่ยว เขาประกาศกร้าวว่าจะรบั ผดิ ชอบกับทุกอย่างด้วยตัวเอง