ชดุ ท่ี 3 เร่อื ง เซลล์พชื และเซลลส์ ตั ว์
ชุดที่ 3 เรื่อง เซลลพ์ ืชและเซลล์สตั ว์ ก
คาํ นํา
เอกสารชดุ กจิ กรรมการเรยี นรูช้ ุดท่ี 3 เรือ่ ง เซลลพ์ ชื และเซลลส์ ตั ว์ เปน็ ส่วนหนึง่ ของหนว่ ย
การเรยี นรู้ เรอ่ื ง หนว่ ยของสง่ิ มีชวี ิตและการดํารงชีวิตของพชื วชิ าวิทยาศาสตร์พ้นื ฐาน (ว21101)
ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 1 จัดทําขึ้นเพอื่ ใช้เปน็ สอ่ื การเรียนการสอน พฒั นาผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียน
และสรา้ งเจตคติทีด่ ีต่อการเรียนวิทยาศาสตรข์ องนักเรยี นช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 ครผู สู้ อนพยายามสร้าง
และพฒั นาสื่อนวตั กรรมให้มปี ระสิทธิภาพและเหมาะสมสาํ หรบั นกั เรียนช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 1
ประกอบดว้ ยเนื้อหา จากง่ายไปยาก มีคําชีแ้ จงการใช้ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ บัตรคําส่งั
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน แบบทดสอบก่อนเรยี น บัตรเนื้อหา บตั รกิจกรรม แบบทดสอบหลังเรยี น
การประเมนิ ผล บตั รเฉลย โดยเน้นนกั เรยี นเปน็ สาํ คญั และสอดคลอ้ งกับหลักสูตรการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน
แกนกลาง พ.ศ. 2551 โดยมีจํานวนท้ังหมด 9 ชดุ ดังน้ี
ชุดที่ 1 เรอื่ ง รจู้ ักและใชง้ านกลอ้ งจลุ ทรรศน์
ชุดท่ี 2 เร่ือง สง่ิ มชี วี ติ เซลล์เดียวและส่งิ มชี ีวติ หลายเซลล์
ชดุ ท่ี 3 เรอื่ ง เซลลพ์ ชื และเซลลส์ ัตว์
ชุดท่ี 4 เร่ือง การแพรแ่ ละออสโมซสิ
ชุดที่ 5 เรอ่ื ง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
ชดุ ท่ี 6 เรื่อง การลาํ เลยี งในพืช
ชดุ ที่ 7 เรอ่ื ง การสืบพนั ธขุ์ องพชื
ชดุ ที่ 8 เรอื่ ง การตอบสนองของพชื
ชดุ ที่ 9 เร่ือง เทคโนโลยชี วี ภาพเพอ่ื เพิ่มผลผลติ ของพชื
ครผู ู้สอนหวังเปน็ อย่างยิ่งว่าชดุ กจิ กรรมการเรียนรนู้ ี้ จะเป็นประโยชน์สําหรับนักเรยี นและ
ครผู ู้สอนในกลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ทา่ นอ่นื ๆ ขอขอบคณุ ผู้เชยี่ วชาญและผเู้ ก่ียวขอ้ งทกุ ทา่ น
ทใี่ ห้คาํ แนะนํา คําปรกึ ษาในการตรวจสอบ ปรบั ปรงุ และแก้ไขจนได้ชดุ กิจกรรมการเรยี นร้ทู ่ีสมบูรณ์
มีประสิทธิภาพและเปน็ ประโยชน์ตอ่ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
พสิ มัย ภมู ยิ งิ่
ชดุ ที่ 3 เรือ่ ง เซลล์พืชและเซลลส์ ตั ว์ ข
สารบญั หน้า
เนื้อหา ก
ข
คาํ นํา 1
สารบัญ 2
คําชแี้ จงสําหรับครู 3
บัตรคําสั่ง 4
แผนผังแสดงขน้ั ตอนการใชช้ ุดกจิ กรรมการเรียนรู้ 5
มาตรฐานการเรียนรู้ ตวั ชี้วัด จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ 6
เกณฑ์การให้คะแนน 9
แบบทดสอบก่อนเรยี น 10
กระดาษคําตอบแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 14
บัตรเนอ้ื หาที่ 3.1 16
บัตรกจิ กรรมที่ 3.1 17
บตั รเนือ้ หาที่ 3.2 22
บัตรกิจกรรมท่ี 3.2 25
บัตรกจิ กรรมที่ 3.3 26
สรปุ ตอนทา้ ย 29
แบบทดสอบหลงั เรยี น 30
กระดาษคําตอบแบบทดสอบหลังเรียน
บรรณานุกรม 33
ภาคผนวก 34
แบบบนั ทกึ คะแนนรวม 35
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน 36
บัตรเฉลยกจิ กรรมที่ 3.1 38
บตั รเฉลยกจิ กรรมที่ 3.2 40
บตั รเฉลยกจิ กรรมที่ 3.3 41
เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น
เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ
ชดุ ท่ี 3 เรอื่ ง เซลล์พชื และเซลล์สตั ว์ 1
คําชแ้ี จง
สําหรบั ครู
การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้โดยใชช้ ดุ กิจกรรมการเรยี นร้ชู ุดท่ี 3 เร่ือง เซลล์พืชและเซลล์สัตว์
ครคู วรเตรยี มความพรอ้ มและปฏิบัตติ ามคาํ แนะนาํ ดังต่อไปนี้
1. ศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการใช้ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ และเตรียมสื่อการเรยี นรู้ที่ใช้
2. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ครูจะต้องจดั กจิ กรรมใหค้ รบตามทร่ี ะบุไว้ในแผนการจดั การ
เรยี นรู้ เพอ่ื ใหก้ จิ กรรมเป็นไปอยา่ งต่อเนื่องและบรรลตุ ามวตั ถุประสงค์
3. กอ่ นทํากจิ กรรมทกุ ครัง้ ครตู อ้ งอธิบาย ชแี้ จง วธิ กี ารปฏิบตั ิใหช้ ดั เจน ให้นกั เรยี นเข้าใจ
ตรงกนั จงึ จะทาํ ให้การจัดการเรียนรบู้ รรลเุ ป้าหมายและมปี ระสิทธิภาพ
4. ครคู วรกระตนุ้ ใหน้ ักเรยี นทกุ คนมีส่วนรว่ มในการทาํ กิจกรรม เพอื่ เป็นการฝกึ ให้นกั เรียน
ร้จู กั การทาํ งานร่วมกนั ช่วยเหลือซ่ึงกันและกนั รับผิดชอบตอ่ หนา้ ทแ่ี ละกล้าแสดงออก
สังเกตพฤตกิ รรมขณะทีท่ าํ กจิ กรรมและใหค้ วามชว่ ยเหลอื นักเรยี นดูแลอย่างใกลช้ ิด
ชดุ ท่ี 3 เร่อื ง เซลลพ์ ชื และเซลลส์ ตั ว์ 2
บตั รคาํ สงั่
สาํ หรับนักเรยี น
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรชู้ ุดที่ 3 เร่ือง เซลลพ์ ืชและเซลลส์ ตั ว์ ใชเ้ วลา 3 ชั่วโมง
ใหน้ ักเรยี นปฏิบัติ ดงั น้ี
1. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 4-5 คน คละเพศ คละความสามารถ และแบง่ หนา้ ท่ี
คือ ประธานกลมุ่ รองประธานกล่มุ เลขานกุ ารกลมุ่
2. นกั เรียนรับชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้จากครผู สู้ อน ดังต่อไปน้ี
2.1 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชุดท่ี 3 เท่ากับจํานวนสมาชกิ ในกลุ่ม
2.2 วสั ด-ุ อุปกรณส์ ําหรบั ทํากจิ กรรม กลมุ่ ละ 1 ชดุ
3. นักเรียนศกึ ษาบตั รคําสัง่ ใหเ้ ขา้ ใจอยา่ งละเอยี ด และปฏิบัตติ ามขัน้ ตอนท่ีกําหนดให้
4. นกั เรยี นอ่านมาตรฐานการเรยี นรู้ ตัวชี้วัด จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ และ
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนในแตล่ ะกิจกรรม
5. นกั เรยี นทําแบบทดสอบกอ่ นเรียนดว้ ยความซอ่ื สตั ยไ์ มเ่ ปิดดเู ฉลยกอ่ น จาํ นวน 10 ข้อ
(เวลา 10 นาท)ี ลงในกระดาษคําตอบ
6. ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี นด้วยตนเอง และเขียนคะแนนไวใ้ นช่องคะแนนกอ่ นเรียน
7. นักเรียนศึกษาบัตรเนอ้ื หา ทําบตั รกิจกรรม แล้วทําตามคาํ ช้แี จงตามลาํ ดับด้วยความตั้งใจ
และดว้ ยความซอ่ื สตั ย์ไมเ่ ปดิ ดเู ฉลยกอ่ น
8. เมื่อเสรจ็ ทกุ ขั้นตอน ให้เปิดดูบตั รเฉลยและตรวจสอบ หากตอบผิดหรอื ไมแ่ น่ใจใหก้ ลบั ไป
ศึกษาใหมอ่ กี ครั้งและบนั ทกึ คะแนนการทํากจิ กรรมในชอ่ งบนั ทกึ คะแนน
9. นักเรยี นทําแบบทดสอบหลังเรียนดว้ ยความซื่อสตั ย์ไม่เปิดดูเฉลยก่อน จํานวน 10 ข้อ
(เวลา 10 นาที) ลงในกระดาษคาํ ตอบ
10. ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียนดว้ ยตนเอง และเขยี นคะแนนไว้ในช่องคะแนนหลังเรยี น
11. ประเมินผลและเปรียบเทียบความกา้ วหนา้ ของตนเอง
12. สง่ เอกสารชดุ การเรียนรูใ้ หค้ รผู สู้ อนเพื่อตรวจคําตอบอกี ครง้ั และตรวจสอบคะแนน
ก่อนเรียน ระหวา่ งเรยี น และหลงั เรียน
13. หลังทาํ กิจกรรมทุกอยา่ งเสร็จส้ินนกั เรยี นต้องจัดเก็บวัสดุ สื่อ ทําความสะอาด
อุปกรณ์ท่ีใช้ในการทดลองและเก็บเข้าท่ีใหเ้ รียบรอ้ ย
ชุดที่ 3 เร่ือง เซลลพ์ ชื และเซลลส์ ตั ว์ 3
แผนผังแสดงขนั้ ตอนการใช้ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้
อ่านคําช้แี จง /บตั รคําสั่ง
ศึกษาตวั ช้ีวดั และจุดประสงค์การเรียนรู้
ทาํ แบบทดสอบกอ่ นเรียน
ศกึ ษาบัตรเน้อื หา ทาํ กจิ กรมตามบัตรกิจกรรม
ทําแบบทดสอบหลงั เรียน ไมผ่ ่านเกณฑ์
ผ่านเกณฑ์ 60 %
ศึกษาชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ชดุ ต่อไป
ชดุ ท่ี 3 เรอื่ ง เซลลพ์ ชื และเซลล์สตั ว์ 4
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ว 1. 1 เขา้ ใจหนว่ ยพนื้ ฐานของสิง่ มีชีวิต ความสัมพันธข์ องโครงสรา้ ง และหนา้ ทข่ี องระบบ
ตา่ งๆ ของสง่ิ มชี ีวิตทท่ี าํ งานสมั พนั ธก์ ัน มกี ระบวนการสบื เสาะหาความรู้ สอ่ื สารสง่ิ ท่เี รียนรู้
และนาํ ความรไู้ ปใช้ในการดํารงชวี ิตของตนเองและดแู ลส่ิงมีชีวิต
ตวั ช้วี ดั
ว 1.1 ม.1/2 สงั เกตและเปรยี บเทียบส่วนประกอบสาํ คัญของเซลล์พืชและเซลลส์ ัตว์
ว 1.1 ม.1/3 ทดลองและอธิบายหน้าทขี่ องส่วนประกอบที่สาํ คัญของเซลล์พชื และเซลลส์ ตั ว์
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายส่วนประกอบท่ีสําคัญของเซลลพ์ ชื และเซลลส์ ตั ว์
2. ทดลองและเขียนแผนภาพแสดงสว่ นประกอบทสี่ าํ คญั ของเซลลพ์ ชื และเซลลส์ ตั ว์
3. สรา้ งแบบจาํ ลองเซลลพ์ ชื และเซลลส์ ตั ว์
4. เปรยี บเทยี บลกั ษณะรปู รา่ งของเซลลพ์ ชื และเซลล์สัตว์
สาระการเรียนรู้
1. โครงสรา้ งและหน้าทข่ี องเซลล์
1.1 โครงสรา้ งและหนา้ ท่ีของเซลล์พืชและเซลลส์ ัตว์
1.2 โครงสรา้ งและหนา้ ทท่ี พ่ี บเฉพาะเซลลพ์ ชื
1.1 โครงสรา้ งและหนา้ ทท่ี พี่ บเฉพาะเซลลส์ ัตว์
2. เปรยี บเทียบโครงสรา้ งและส่วนประกอบของเซลล์พชื และเซลลส์ ัตว์
สาระสาํ คญั
นิวเคลียส ไซโทพลาซึม และเย่อื หุ้มเซลล์ เปน็ ส่วนประกอบสาํ คัญของเซลล์ที่มีเหมือนกนั
ทงั้ ในเซลลพ์ ืชและเซลลส์ ตั ว์ สว่ นผนังเซลลแ์ ละคลอโรพลาสตเ์ ปน็ ส่วนประกอบทพ่ี บไดใ้ นเซลล์พชื เทา่ นนั้
และเซลลแ์ ต่ละชนิดมลี ักษณะรปู ร่างท่ีแตกตา่ งกนั เพือ่ ทาํ หนา้ ท่ีเฉพาะอย่าง
ชุดที่ 3 เรอื่ ง เซลลพ์ ืชและเซลล์สัตว์ 5
เกณฑ์การใหค้ ะแนน
1. เกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบทดสอบก่อนเรียนและแบบทดสอบหลังเรียน ท่เี ปน็ แบบปรนัย
เลือกตอบ 4 ตวั เลือก มเี กณฑใ์ หค้ ะแนนดงั น้ี
1.1 ตอบถูก ไดข้ ้อละ 1 คะแนน
1.2 ตอบผิด ได้ 0 คะแนน
(หมายเหตุ ทดสอบหลังเรียนต้องผ่านเกณฑ์ 60 % ขนึ้ ไป คอื ต้องทาํ ถกู 6 ข้อขนึ้ ไป)
2. เกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบอัตนยั หรือเติมคํา ขอ้ ความในชอ่ งวา่ ง มเี กณฑใ์ ห้คะแนนดังน้ี
ระดบั คะแนน
ตัวช้วี ดั
1 0.5 0
1. การเขียนสอื่ ความหมาย เขียนสอ่ื ความหมาย เขียนสอ่ื ความหมายได้ตรงตาม เขยี นไมถ่ ูกต้อง
และการตอบคําถาม ได้ตรงตามจุดประสงค์ จุดประสงคโ์ ดยมผี ู้อื่นแนะนาํ เขยี นไม่ชัดเจน
ถูกตอ้ งและชัดเจน หรอื เขยี นส่อื ความหมาย ไมเ่ ขยี น
ได้ถกู ต้องและชัดเจนเป็นบางสว่ น
3. เกณฑก์ ารให้คะแนนบนั ทึกผลกจิ กรรมการทดลอง มีเกณฑใ์ ห้คะแนนดงั นี้
ระดับคะแนน
ตวั ช้ีวดั 4 3 21
1. การบันทึก บนั ทึกผลเปน็ ระยะ บันทึกผลเปน็ ระยะ บันทกึ ผลเป็นระยะ บันทกึ ผลถูกตอ้ ง
ผลการทดลอง อย่างถูกต้องมีระเบยี บ อย่างถกู ตอ้ ง ชัดเจน แต่ไม่เปน็ ระเบียบ เปน็ บางสว่ น
มีการอธบิ ายขอ้ มูลชดั เจน แต่ไม่มกี ารอธบิ าย ถกู ต้องแตไ่ มช่ ดั เจน แตไ่ มค่ รบ
ถูกตอ้ งมีความเชอื่ มโยง ขอ้ มูลให้เห็นถงึ และไมม่ ีการอธบิ าย ไม่มีระเบยี บ
เปน็ ภาพรวม เป็นเหตุ ความสัมพนั ธเ์ ป็นไป ขอ้ มูลใหเ้ หน็ ถงึ และไม่เป็นไปตาม
เปน็ ผล และเปน็ ไปตาม ตามการทดลอง ความสมั พนั ธข์ อง การทดลอง
การทดลอง การทดลอง
4. เกณฑ์การให้คะแนนสรปุ ผลกจิ กรรมการทดลอง มีเกณฑใ์ หค้ ะแนนดงั น้ี
ระดบั คะแนน
ตวั ชีว้ ดั 3 2 10
2. สรปุ ผล สรุปผลการทดลอง สรปุ ผลการทดลองได้ สรุปผลการทดลองได้ สรุปผลการทดลอง
การทดลอง ไดอ้ ย่างถกู ต้อง กระชบั ถกู ตอ้ งแต่ยังไม่ โดยมคี รหู รอื ผอู้ ่นื แนะนาํ ไม่ถกู ต้อง
ชัดเจน และครอบคลุม ครอบคลุมขอ้ มลู จาก บา้ ง จึงสามารถสรปุ ได้ หรอื ไม่สรุปผลการ
ขอ้ มูลจากการวิเคราะห์ การวเิ คราะหท์ ัง้ หมด ถกู ต้อง ทดลอง
ท้งั หมด
ชดุ ที่ 3 เรือ่ ง เซลล์พืชและเซลล์สตั ว์ 6
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
เร่ือง เซลลพ์ ืชและเซลล์สตั ว์
คําชีแ้ จง 1. ในแตล่ ะขอ้ ใหน้ ักเรยี นทําเคร่อื งหมายลงบนตวั เลอื ก ก –ง ที่ถูกทสี่ ุดเพยี งคาํ ตอบเดียว
ลงบนกระดาษคําตอบ
2. แบบทดสอบปรนัยทัง้ หมด 10 ขอ้ (10 คะแนน) เวลา 10 นาที
*****************************************************************************
1. เซลลข์ องสิง่ มีชวี ติ ทุกชนิดมีส่วนประกอบพืน้ ฐานเหมือนกันตามขอ้ ใด
ก. ผนังเซลล์ ไซไทพลาซึม นวิ เคลยี ส
ข. เยอ่ื ห้มุ เซลล์ ไซโทพลาซมึ นิวเคลยี ส
ค. เย่อื หุ้มเซลล์ โครโมโซม นวิ เคลียส
ง. ผนงั เซลล์ นวิ เคลียส คลอโรพลาสต์
2. ส่วนประกอบทีส่ าํ คญั ทีพ่ บในเซลล์พืชแต่ไมพ่ บในเซลลส์ ตั ว์ คือขอ้ ใด
ก. เยื่อหมุ้ เซลล์ ผนงั เซลล์
ข. ผนงั เซลล์ ไซโทพลาซึม
ค. นวิ เคลียส คลอโรพลาสต์
ง. ผนงั เซลล์ คลอโรพลาสต์
3. สว่ นประกอบพ้ืนฐานท่ีถือว่ามีความสําคัญมากทสี่ ุดของเซลล์ คอื ข้อใด
ก. ผนังเซลล์
ข. นิวเคลียส
ค. เย่อื หุ้มเซลล์
ง. คลอโรพลาสต์
ชดุ ท่ี 3 เรือ่ ง เซลลพ์ ชื และเซลล์สตั ว์ 7
4. สว่ นประกอบในนเิ คลยี สมีหนา้ ที่อะไร
ก. เป็นแหล่งสงั เคราะห์สารพนั ธุกรรม
ข. เกบ็ และสะสมของเสียภายในเซลล์
ค. เพมิ่ ความแขง็ แรงให้เซลล์
ง. ควบคมุ การคายนาํ้
5. ข้อใดกล่าวถูกต้องทีส่ ุด
ก. เซลลพ์ ชื มรี ูปรา่ งเป็นเหลยี่ ม เพราะไมม่ ีผนงั เซลล์
ข. ท้ังเซลลพ์ ชื และเซลล์สัตว์มสี ิง่ ทีเ่ หมือนกันคอื คลอโรฟลิ ล์
ค. เซลลพ์ ชื มแี วควิ โอลขนาดใหญ่ สว่ นเซลล์สัตว์มแี วคิวโอลขนาดเลก็
ง. เซลลส์ ตั ว์มลี กั ษณะอ่อนนมุ่ เพราะผนังเซลล์ประกอบด้วยสารโปรตีน
6. สว่ นประกอบใดทท่ี ําหนา้ ทีเ่ กย่ี วขอ้ งกบั การคายนํา้ ของพชื
ก. เซลล์คมุ
ข. ไรโบโซม
ค. แวควิ โอล
ง. ไมโทคอนเดรยี
7. เพราะเหตุใดจงึ จัดให้เย่ือห้มุ เซลล์มคี ณุ สมบตั เิ ปน็ เย่ือเลอื กผา่ น
ก. ยอมให้โมเลกลุ ของสารทกุ ชนิดผ่านได้
ข. ยอมใหโ้ มเลกลุ ของสารบางชนดิ เท่านน้ั ผ่านได้
ค. ยอมให้โมเลกลุ ของสารผา่ นออกมาได้ แตผ่ า่ นเขา้ ไมไ่ ด้
ง. ยอมให้โมเลกุลของสารทกุ ชนดิ ผ่านเข้าไปได้ แต่ผ่านออกมาไมไ่ ด้
ชดุ ที่ 3 เร่อื ง เซลลพ์ ชื และเซลลส์ ตั ว์ 8
8. ขอ้ ใดกลา่ วไมถ่ ูกตอ้ ง
1. ทัง้ เซลล์พชื และเซลลส์ ตั ว์มผี นงั เซลล์
2. เซลล์พชื สว่ นมากมีความแข็งแรงมากกว่าสัตว์
3. สว่ นทถี่ ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมของเซลล์สัตวอ์ ยู่ในนวิ เคลยี ส
4. ส่วนประกอบนอกสดุ ของเซลล์พืชและเซลลส์ ัตว์คือเย่อื ห้มุ เซลล์เหมอื นกนั
ก. เฉพาะขอ้ 2.
ข. เฉพาะข้อ 3.
ค. ทั้งข้อ 2. และ ข้อ 3.
ง. ท้ังข้อ 1. และข้อ 4.
9. เซลลส์ ตั ว์ ไม่มีสว่ นประกอบทเี่ รยี กว่า“คลอโรพลาสต”์ จงึ ทําใหเ้ ซลลส์ ตั วไ์ มส่ ามารถทําหน้าท่ี
ในข้อใดได้
ก. การหายใจ
ข. การขบั ถ่าย
ค. การสบื พนั ธ์ุ
ง. การสงั เคราะหด์ ว้ ยแสง
10. ขอ้ ใดเรียงลําดบั ส่วนประกอบของเซลลพ์ ืชจากดา้ นนอกไปดา้ นในได้ถกู ต้อง
ก. ผนังเซลล์ นิวเคลยี ส เยอื่ หุม้ เซลล์
ข. ผนังเซลล์ นิวเคลียส ไซโทพลาซึม
ค. ผนงั เซลล์ เยอื่ หุ้มเซลล์ ไซโทพลาซมึ
ง. เย่อื หมุ้ เซลล์ ผนังเซลล์ ไซโทพลาซมึ
ชดุ ที่ 3 เรอื่ ง เซลล์พืชและเซลล์สตั ว์ 9
กระดาษคําตอบ
แบบทดสอบก่อนเรียน
เร่ือง เซลลพ์ ชื และเซลล์สตั ว์
ชื่อ................................................................................ชน้ั ........................เลขท.ี่ ...............................
ขอ้ ก ข ค ง
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
ลองตรวจดูกบั เฉลยกันดกี วา่ ค่ะ
เย้ !คะแนนท่ีเราทําได้ คอื ...........
ชุดที่ 3 เร่ือง เซลลพ์ ืชและเซลล์สัตว์ 10
บตั รเนอื้ หาท่ี 3.1
เรอื่ ง โครงสร้างหนา้ ทข่ี องเซลลพ์ ชื และเซลลส์ ตั ว์
คาํ ชี้แจง นักเรยี นศกึ ษาบตั รเนือ้ หาที่ 3.1 ใหเ้ ขา้ ใจแลว้ ทาํ บตั รกิจกรรมท่ี 3.1
*********************************************************************************************
1. โครงสร้างของเซลล์
เซลลพ์ ืชเซลลส์ ัตวจ์ ะมีลกั ษณะรปู ร่างแตกตา่ งกัน แตก่ ม็ โี ครงสรา้ งพืน้ ฐานหรือสว่ นประกอบที่
สําคัญภายในเซลลค์ ล้ายคลงึ กัน ดังภาพที่ 3.1
ภาพท่ี 3.1 ส่วนประกอบเซลลส์ ตั ว์และเซลล์พืช
ทม่ี า : ประดับ นาคแก้วและดาวลั ย์ เสริมบญุ สขุ , 2553 : 13
รู้หรือไม่
ส่วนประกอบท่ีพบในเซลลพ์ ชื และเซลลส์ ัตว์เหมอื นกัน
คือ เยอื่ หุม้ เซลล์ ไซโทพลาซึม นิวเคลยี ส
วา...สว นประกอบใดบา งนะ
ทีพ่ บเฉพาะในเซลลพืช ???
ลองศกึ ษาหนา ตอไปกันดกี วา
ชุดท่ี 3 เรือ่ ง เซลล์พืชและเซลลส์ ตั ว์ 11
1.1 โครงสรา้ งและหน้าทที่ ่พี บเซลลพ์ ชื และเซลลส์ ตั ว์
โครงสร้างเซลล์ รูปร่าง ลกั ษณะสําคญั และหน้าท่ี
ลักษณะสาํ คญั เป็นเยือ่ บางๆและเหนียว
1. เย่อื หุ้มเซลล์ สรา้ งจากโปรตีนและไขมัน
(Cell membrane) มีสมบตั ิเป็นเยอื่ เลือกผา่ น มรี เู ล็กๆสามารถ
จํากดั ขนาดของสารทีผ่ ่านเขา้ ออกได้
ภาพที่ 3.2 เยื่อหุม้ เซลล์ ทําหนา้ ที่ หอ่ หมุ้ เซลล์ และควบคุมการเข้าและ
ทมี่ า : สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และ ออกของสารผ่านเซลล์
เทคโนโลย,ี 2556 : 77
ลักษณะสําคญั เป็นของเหลว กึ่งแขง็ ก่ึงเหลว
2.ไซโทพลาซึม ทําหนา้ ที่ เป็นแหลง่ เกิดปฏิกริ ยิ าเคมตี า่ งๆและ
(Cytoplasm) การดาํ เนนิ กจิ กรรมตา่ งๆของเซลล์
3.นิวเคลียส ภาพท่ี 3.3 ไซโทพลาซมึ ลกั ษณะสาํ คญั เป็นกอ้ นกลมอยู่ในไซโทพลาซึม
(Nucleus) ท่มี า : http://image.dekd.com/25/ มีหน้าที่ ควบคมุ การทาํ งานเซลล์และการ
3124057/111038312 ถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรม เป็นแหลง่
4. แวคิวโอล สงั เคราะห์สารพันธุกรรมหรอื DNA
(Vacuole) ภาพท่ี 3.4 นวิ เคลยี ส
ทม่ี า : สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละ ลกั ษณะสาํ คญั เปน็ ช่องว่างภายในเซลล์
เทคโนโลย,ี 2556 : 78 มีของเหลวอยบู่ รรจภุ ายใน
ทาํ หนา้ ที่ เกบ็ สะสมของเสยี ภายในเซลล์
ภาพที่ 3.5 แวคิวโอล ในเซลลพ์ ชื แวคิวโอลจะมขี นาดใหญ่กว่า
ทีม่ า : http://www.ipecp.ac.th/ipecp/cgi- เซลลส์ ตั ว์
binn/BP1/Program/chapter3/image1/tt23.
ชดุ ที่ 3 เรื่อง เซลล์พชื และเซลล์สัตว์ 12
1.2 โครงสรา้ งและหน้าทท่ี ่พี บเฉพาะเซลลพ์ ชื
โครงสร้างเซลล์ รปู ร่าง ลกั ษณะสาํ คญั และหน้าท่ี
1. ผนงั เซลล์
(Cell wall) ลกั ษณะสาํ คญั อย่ชู นั้ นอกสุด
ของเซลล์พชื สร้างมาจากเซลลโู ลส
2.คลอโรพลาสต์ ทาํ ใหเ้ ซลล์พชื แข็งแรงและคงรปู
(Chloroplast) หน้าที่ เพม่ิ ความแขง็ แรงและปอ้ งกัน
อันตรายให้กบั เซลล์พืช
ภาพที่ 3.6 ผนังเซลล์ของพชื
ท่ีมา : สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละ
เทคโนโลยี, 2556 : 76
ลกั ษณะสําคญั เป็นเม็ดกลมๆสเี ขยี ว
มเี ย่อื หุ้ม 2 ช้นั อยใู่ นไซโทพลาซมึ
มีสารสเี ขียวอยภู่ ายในเรียกว่า
คลอโรฟลิ ล์
หน้าที่ รับพลงั งานแสงเพือ่ ใช้ใน
กระบวนการสงั เคราะหด์ ้วยแสง
ภาพที่ 3.7 คลอโรพลาสต์
ที่มา : http://www.scimath.org/images/uploads/
chloroplast.gif
เซลล์คมุ หรือ Guard cell เป็นชื่อเรยี กเซลล์
ทพ่ี บในพชื ซ่ึงเปลี่ยนแปลงมาจากเซลลเ์ นื้อเย่ือผิว
ทาํ หนา้ ท่ี ควบคุมการเขา้ ออกของนํ้า (การคายนาํ้ )
และสารอาหาร
ชดุ ท่ี 3 เรื่อง เซลลพ์ ืชและเซลล์สตั ว์ 13
1.3 โครงสรา้ งและหนา้ ทที่ ่ีพบเฉพาะเซลลส์ ัตว์
โครงสรา้ งเซลล์ รปู ร่าง ลกั ษณะสําคญั และหนา้ ท่ี
1.ไลโซโซม ลักษณะสําคญั เปน็ ถุงเลก็ ๆ
( Lysosome) ภาพที่ 3.8 ไลโซโซม มีเยอ่ื หมุ้ ช้ันเดียว
ทีม่ า : http://www.ipecp.ac.th/ipecp/cgi- ทาํ หนา้ ท่ี บรรจเุ อนไซม์ทมี่ สี มบตั ิ
2. เซนทรโิ อล binn/BP1/Program/chapter3/image1/tt21.gif ในการยอ่ ยสารต่าง ๆและ
(Centriole) ทาํ หนา้ ทย่ี อ่ ยเช้อื โรคและย่อย
ภาพท่ี 3.9 เซนทรโิ อล ตัวเองเม่ือเซลลต์ าย
ทมี่ า : http://www.myfirstbrain.com/thaidata/
image.asp?ID=473056 ลักษณะสําคญั
คล้ายท่อทรงกระบอก 2 อัน
ต้ังฉากกนั แตล่ ะอนั ประกอบดว้ ย
หลอดเล็ก ๆ
หน้าท่ี ชว่ ยดึงและจดั โครโมโซม
ในระยะเซลล์แบง่ ตวั
รู้หรอื ไม่
องคป์ ระกอบพ้นื ฐานของเซลลป์ ระกอบด้วย 3 สว่ น คือ
1.ส่วนท่ีหอ่ หมุ้ เซลล์ 2.นวิ เคลยี ส 3.ไซโทพลาซึม
ลองทดสอบความร้โู ดยการทาํ กจิ กรรมที่ 3.1 ดกี ว่า..ฮิ....ฮิ......
ชุดท่ี 3 เรอื่ ง เซลล์พชื และเซลลส์ ตั ว์ 14
บัตรกจิ กรรม ที่ 3.1
เรือ่ ง โครงสร้างหน้าทขี่ องเซลลพ์ ชื และเซลลส์ ตั ว์
วนั ที่ทาํ กิจกรรม ……/……….../………..…..ชื่อ…………….………………………..ช้ัน……..……เลขท…ี่ ….……
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
อธบิ ายสว่ นประกอบท่สี ําคญั ของเซลลพ์ ืชและเซลลส์ ตั ว์
คาํ ชแี้ จง ขอ้ 1-10 ใหน้ ักเรียนโยงเสน้ เพอื่ จบั คู่แสดงความสัมพนั ธ์ของส่วนประกอบของเซลล์
ให้ถูกต้อง (ขอ้ ละ 1 คะแนน)
1. แวคิวโอล ก. ควบคุมการทํางานของเซลลม์ ักพบกลางเซลล์
2. คลอโรพลาสต์ ข. รเู ล็กๆ ทส่ี ามารถกําจัดขนาดของสารผา่ นเข้าออก
3. ผนังเซลล์ ค. ห่อหุม้ เซลล์และควบคมุ การผา่ นเขา้ ออกของสาร
4. เย่อื เลือกผา่ น ง. รูปร่างทรงกระบอก ตั้งฉากกนั
5. ไลโซโซม จ. ช่วยในกระบวนการสงั เคราะห์ดว้ ยแสง
6. เซนทรโิ อล ฉ. เกีย่ วกบั การคายนํา้ ของพืช
7. ไรโบโซม ช. มีเอนไซมย์ อ่ ยสง่ิ แปลกปลอมที่เขา้ มาในเซลล์
8. เซลลค์ ุม ซ. มีลักษณะกึง่ แข็งกงึ่ เหลว
9. นิวเคลียส ฌ. เกบ็ ของเสยี ท่ีเกิดจากการทํางานของเซลล์
10. เย่อื หุ้มเซลล์ ญ. ทําใหเ้ ซลล์คงรปู อยูไ่ ด้ พบในเซลลพ์ ชื
ชดุ ท่ี 3 เร่อื ง เซลล์พชื และเซลลส์ ัตว์ 15
2. เกมตารางปริศนา (ข้อละ 1 คะแนน)
คําช้ีแจง 2.1 นักเรียนอ่านคาํ ถามข้างลา่ ง
2.2 หาคาํ ตอบในตารางปริศนา
2.3 วงลอ้ มรอบคําตอบทีถ่ กู ตอ้ งแล้วเขียนหมายเลขขอ้ ขา้ งหน้าคําตอบนนั้ ๆ
ไมโ ทร มนเ ไ คําถาม
นิ ว เ ค ลี ย ส ยื่ ล
ว เ ซ ล ล์ ผ ซ อ โ 1. หนวยทเ่ี ลก็ ที่สดุ ของส่ิงมชี ีวิต
เ ยื่ ห อ ผ นั ง หุ้ ซ 2. เม็ดกลมๆ ภายในมีสารสเี ขยี ว
ล แ ไ โ ลี ย ส ม โ 3. เปน กอ นกลมเกีย่ วขอ งกบั การถายทอดลกั ษณะ
ซ ว ค ร นิ ว เ นิ ซ
บ คิ ล พ โ ย ส ว ม ทางพนั ธุกรรม
ฟิ ว อ ล ก บ พ เ อ 4. ทําหนา ทเี่ ก่ยี วกบั การสังเคราะหโปรตนี
ลโ โ า อ อ โ ล า 5. มีของเหลวอยภู ายในและสะสมของเสยี
ล์ อ ร ส ล ค เ ซ ล
ว ล ฟิ ต์ จิ อ ม บ ม
บันทกึ คะแนน คะแนนเตม็ 15
คะแนนท่ีทําได้ คือ.............................
ชดุ ท่ี 3 เรอ่ื ง เซลล์พชื และเซลล์สตั ว์ 16
บตั รเนือ้ หา ที่ 3.2
เร่ือง เปรียบเทยี บโครงสร้างและส่วนประกอบของเซลล์พืชและเซลลส์ ตั ว์
คําชี้แจง นกั เรียนศกึ ษาบัตรเนื้อหาที่ 3.1 ใหเ้ ข้าใจแล้วทําบตั รกิจกรรมท่ี 3.1
*********************************************************************************************
ภาพที่ 3.10 เปรยี บเทยี บส่วนประกอบเซลลส์ ัตว์
ก. เซลล์สตั ว์ ข. เซลลพ์ ืช
ท่มี า : www.sema.go.th/k4/0015/cell/sec03p01.html
ตารางแสดงการเปรียบเทยี บส่วนประกอบของเซลลพ์ ชื และเซลลส์ ตั ว์
สง่ิ เปรียบเทยี บ เซลล์พชื เซลล์สัตว์
1. ผนังเซลล์ มี ไม่มี
2. เยือ่ ห้มุ เซลล์ มี มี
3. นวิ เคลยี ส มี มี
4. ไซโทพลาซึม มี มี
5. คลอโรพลาสต์ มี ไม่มี
6. แวคิวโอล มขี นาดใหญ่ มีขนาดเล็ก
7. เซนทรโิ อล ไม่มี มี
8. ไลโซโซม ไมม่ ี มี
6. รปู ร่างของเซลล์ รูปเหล่ยี ม ค่อนขา้ งกลม
7. ความแข็งของเซลล์ แข็งแรง คงรปู ไดน้ าน ออ่ นนุ่ม
ชุดท่ี 3 เรื่อง เซลล์พชื และเซลลส์ ัตว์ 17
บตั รกจิ กรรมท่ี 3.2
เรื่อง ลกั ษณะรูปร่าง ส่วนประกอบของเซลลพ์ ชื และเซลล์สัตว์
วันทีท่ ํากจิ กรรม ………/…………/…………ชือ่ …………….………………………………ชน้ั …………เลขท…ี่ ……..…
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. ทดลองและเขียนแผนภาพแสดงสว่ นประกอบท่ีสําคญั ของเซลลพ์ ชื และเซลลส์ ัตว์
2. เปรียบเทยี บลักษณะรปู รา่ งของเซลล์พชื และเซลล์สตั ว์
คําชแี้ จง ใหน้ กั เรียนทําการทดลอง สรุปผลการทดลอง และตอบคาํ ถามให้ถกู ต้อง
วัสดุและอุปกรณ์ (ตอ่ 1 กลุ่ม )
1. สาหรา่ ยหางกระรอก 1 ช่อ
2. หวั หอมแดง 1 หวั
3. กลอ้ งจุลทรรศน์ 1 ตวั
4. สไลดแ์ ละกระจกปิดสไลด์ 3 ชุด
5. มีดโกนมีด้าม 1 เล่ม
6. ไมจ้ ้มิ ฟนั ชุบแอลกอฮอล์ 1 อนั
7. หลอดหยด 1 อัน
8. ปากคบี 1 อัน
9. เขม็ เขี่ย 1 อนั
10. กระดาษทชิ ชู 1 ม้วน
11. สารละลายไอโอดนี 1 ขวด
12. สารละลายโซเดยี มคลอไรด์ 0.85 % 20 cm3
13. น้าํ กลั่น 100 cm3
ชดุ ที่ 3 เร่ือง เซลล์พชื และเซลล์สตั ว์ 18
วิธีการทดลอง
ตอนท่ี 1 ลกั ษณะรปู ร่างและส่วนประกอบเซลลพ์ ืช
1. การเตรียมสไลด์สดเซลล์พชื (เซลลห์ วั หอมแดง) ตามขน้ั ตอนดงั นี้
1.1 หยดน้าํ บนสไลด์ 1 หยด
1.2 ใช้ปากคบี ลอกเย่อื หรือผิวดา้ นในของหวั หอมแดง
ตดั เป็นชิ้นเลก็ ๆ วางบนหยดนํ้าบนสไลด์ ระวงั ไม่ให้เนอ้ื เยื่อพับซอ้ นกนั
1.3 หยดสารละลายไอโอดีน 1 หยด บนเยอื่ หัวหอม
ปิดดว้ ยกระจกปดิ สไลด์จากน้นั ใช้กระดาษทิชแตะข้างๆกระจกปิดสไลด์
เพอ่ื ซบั ของเหลวท่ีเกนิ ออก
1.4 นาํ ไปส่องดดู ว้ ยกล้องจุลทรรศน์
โดยใช้เลนส์ ใกลว้ ัตถุกาํ ลังขยายตาํ่ และสงู ตามลาํ ดับ
สงั เกตและบันทกึ ภาพที่เหน็ ภายใต้กล้องจุลทรรศน์
ภาพที่ 3.11 การเตรียมเยือ่ หัวหอมแดง
ทมี่ า : สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลย,ี 2556 : 67
2. การเตรียมสไลดส์ ดเซลลพ์ ชื ( เซลลข์ องสาหร่ายหางกระรอก )
2.1 ใช้ปากคบี เด็ดใบของสาหรา่ ยหางกระรอก บรเิ วณใกล้สว่ นยอด 1 ใบ วางบนหยดน้าํ
บนสไลดป์ ิดด้วยกระจกปิดสไลด์
2.2 นาํ ไปส่องดูดว้ ยกล้องจุลทรรศน์โดยใชเ้ ลนส์ ใกลว้ ัตถุกาํ ลังขยายต่าํ และสูงตามลาํ ดับ
สังเกตและบันทึกภาพท่ีเหน็ ภายใตก้ ลอ้ งจลุ ทรรศน์
ภาพท่ี 3.12 การเด็ดสาหร่ายหางกระรอก
ทม่ี า : สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย,ี 2556 : 67
ชุดท่ี 3 เรื่อง เซลล์พชื และเซลลส์ ตั ว์ 19
ตอนที่ 2 ลักษณะรปู ร่างและสว่ นประกอบเซลลส์ ัตว์
1. การเตรียมสไลด์สดเซลล์สตั ว์ (เซลลเ์ ยอื่ บุข้างแก้ม)
1.1 บว้ นปากใหส้ ะอาดแลว้ ใชไ้ มจ้ ้ิมฟนั ด้านท่ีฆ่าเชอื้ แล้วขดู เบา ๆ ท่ีดา้ นในของกระพุ้งแกม้
แล้วนําไปแตะลงในหยดนํ้าเกลือ 0.85 % บนสไลด์ จากนัน้ หยดสารละลายไอโอดนี ลงบนหยดนํ้าเกลอื
1 หยดแล้ว ปดิ ด้วยกระจกปิดสไลด์
1.2 นาํ ไปส่องดูด้วยกลอ้ งจุลทรรศน์โดยใช้เลนสใ์ กลว้ ตั ถกุ าํ ลงั ขยายต่าํ และสูงตามลาํ ดับ
สงั เกตและบันทกึ ภาพท่ีเห็นภายใต้กล้องจลุ ทรรศน์
ภาพที่ 3.13 วิธีขูดเยือ่ บขุ ้างแก้ม
ที่มา : สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย,ี 2556 : 69
การเตรียมสไลด์เซลลพ์ ืช
ต้องหยดน้าํ ลงบนสไลด์ 1-2 หยด
ส่วนการเตรยี มสไลดเ์ ซลลส์ ตั ว์ ต้องหยดนํ้านํ้าเกลือ
0.85% ลงบนสไลด์ 1-2 หยด เพื่อป้องกันไมใ่ หเ้ ซลล์
แห้งและรูปรา่ งของเซลลเ์ ปลยี่ นไป
ตารางบนั ทกึ ผลการทดลอง ( 4 คะแนน) ชดุ ท่ี 3 เรื่อง เซลล์พืชและเซลลส์ ตั ว์ 20
ส่วนประกอบ
เซลลท์ นี่ ํามาศกึ ษา ภาพของเซลล์
1. เซลลเ์ ยื่อหอม
2. เซลล์
สาหรา่ ยหางกระรอก
3. เซลล์เย่อื บุขา้ งแก้ม
สรปุ ผลการทํากจิ กรรม ( 3 คะแนน)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ชดุ ที่ 3 เร่อื ง เซลลพ์ ืชและเซลลส์ ตั ว์ 21
คําถามหลังทาํ กจิ กรรม ( ขอ้ ละ 1 คะแนน)
1. สว่ นประกอบใดบ้างที่พบในเซลลท์ ุกเซลล์
ตอบ………………………………………………………………………………………………………………………………
2. เซลลท์ ีศ่ กึ ษามีลักษณะเหมอื นกันหรือแตกต่างกันอย่างไร
ตอบ………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ส่วนประกอบใดทพ่ี บเฉพาะในเซลล์พืช
ตอบ………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
คะแนนเต็ม 10
คะแนนทีท่ ําได้ คอื .......................
เฮ้ ! กําลังสนกุ เลย !
ไปสรา้ งแบบจําลองเซลล์พืชและเซลล์สัตว์
ดว้ ยดนิ น้ํามนั ดีกว่า
ชดุ ท่ี 3 เร่อื ง เซลล์พชื และเซลล์สตั ว์ 22
บตั รกิจกรรมที่ 3.3
เร่อื ง การสร้างแบบจาํ ลองเปรียบเทยี บเซลล์พืชและเซลลส์ ตั วโ์ ดยใชด้ ินนาํ้ มัน
วันทท่ี าํ กจิ กรรม .......................................................................................................................................
ผ้ทู ํากจิ กรรม 1...................................................................ทาํ หน้าท.่ี ...................................................
2...................................................................ทําหน้าที่...................................................
3...................................................................ทาํ หนา้ ท.ี่ ...................................................
4...................................................................ทําหน้าท่ี....................................................
5...................................................................ทาํ หน้าท่.ี ...................................................
คาํ ช้ีแจง ใหน้ ักเรยี นศกึ ษา วางแผนสรา้ งแบบจําลอง และตอบคาํ ถามให้ถูกตอ้ ง
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. สร้างแบบจาํ ลองเซลล์พชื และเซลลส์ ตั ว์
2. เปรยี บเทียบลกั ษณะรูปรา่ งของเซลล์พชื และเซลล์สตั ว์
วัสดแุ ละอปุ กรณ์ (ต่อ 1 กลุ่ม)
1. ดนิ นํ้ามันคละสี 5 กอ้ น 5. แผ่นฟวิ เจอร์บอรด์ ขนาด 45x60 ซม. 1 แผน่
2. ไม้จม้ิ ฟนั 5 อัน 6. กระดาษสี 2 แผน่
7. กรรไกร 1 อัน
3. กาวกระปุกเลก็ 1 กระปุก 8. ภาพโครงสร้างเซลล์พืชเซลล์สตั ว์ 3 แผน่
4. เทปตเี ส้น 1 มว้ น
วธิ ที าํ กิจกรรม
1. นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ ออกเปน็ กลุ่มๆละ 4 – 5 คน โดยแตล่ ะกลุ่ม คละนกั เรยี นเกง่ ปานกลาง
และออ่ น
2. นกั เรียนศกึ ษาภาพที่ 3.14 เรือ่ ง โครงสรา้ งเซลล์
3. สมาชิกในกลุ่มชว่ ยกันออกแบบ และวางแผนการสร้างแบบจาํ ลองโครงสร้างเซลลพ์ ชื และ
เซลลส์ ตั ว์ดว้ ยดนิ นํา้ มัน
4. นกั เรียนสร้างแบบจําลองพรอ้ มเขยี นและตดิ ส่วนประกอบโครงสรา้ งเซลล์พชื และเซลล์สัตว์
ภาพที่ 3.14
ท่มี า : สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ
ชดุ ท่ี 3 เร่อื ง เซลลพ์ ชื และเซลลส์ ตั ว์
4 โครงสร้างเซลล์
ทยาศาสตร์และเทคโนโลย,ี 2552 : 55
23
ชดุ ท่ี 3 เร่ือง เซลล์พืชและเซลล์สตั ว์ 24
คาํ ถามหลงั กจิ กรรม
คําชแ้ี จง นักเรยี นตอบคําถามตอ่ ไปนี้ให้ถูกต้อง
1. โครงสร้างพ้ืนฐานของเซลลป์ ระกอบด้วยส่วนสําคญั กสี่ ว่ น อะไรบา้ ง (1 คะแนน)
ตอบ………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………….………………………………………………………………………………………………………………………
2. นักเรยี นศึกษาภาพเซลลส์ ตั ว์และเซลล์พชื ทน่ี กั เรยี นสรา้ งแบบจําลอง แล้วให้นกั เรียนเปรียบเทียบ
โครงสร้างระหว่างเซลลพ์ ชื และเซลลส์ ตั วด์ ังต่อไปนี้ ( ข้อย่อยละ 1 คะแนน)
เซลล์พชื เซลล์สตั ว์
1. 1. เซลลส์ ตั วม์ รี ปู รา่ งกลมหรอื รี
2. มีผนงั เซลลอ์ ยู่ด้านนอก 2.
3. 3. ไม่มีคลอโรพลาสต์
4. ไม่มีเซนทรโิ อล 4.
5. แวควิ โอลมขี นาดใหญ่ มองเหน็ ได้ชดั เจน 5.
6. ไมม่ ไี ลโซโซม 6.
3. เซลล์พืชและเซลลส์ ตั ว์ มีลกั ษณะแตกตา่ งกันอยา่ งไร และมอี งคป์ ระกอบใดแตกตา่ งกันบา้ ง
(1 คะแนน)
ตอบ………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………….……………………………………………………………………………………………………………………………
4. เย่อื หุ้มเซลล์ (Cell membrane) มีสมบัติเปน็ เยอ่ื เลอื กผ่าน หมายความวา่ อยา่ งไร ( 1 คะแนน)
ตอบ………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
5. นวิ เคลยี ส ( Nucleus) มคี วามสาํ คญั อย่างไรต่อเซลล์ ( 1 คะแนน)
ตอบ………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
คะแนนเตม็ 10
คะแนนท่ที ําได้ คอื .....................
ชดุ ที่ 3 เร่อื ง เซลลพ์ ืชและเซลลส์ ตั ว์ 25
สรุปตอนท้าย
เร่อื ง เซลลพ์ ชื และเซลลส์ ตั n ว์
ส่วนประกอบทเี่ ปน็ โครงสร้างพืน้ ฐานของเซลลพ์ ชื และเซลลส์ ตั ว์ คอื เย่อื หุ้มเซลล์
ไซโทพลาซึม และนวิ เคลียส
สว่ นประกอบที่พบเฉพาะในเซลล์พชื คือ ผนงั เซลล์ และคลอโรพลาสต์
ส่วนประกอบทพ่ี บเฉพาะในเซลลส์ ัตว์ คือ ไลโซโซม และเซนทริโอล
เซลล์แตล่ ะชนดิ มลี กั ษณะรปู รา่ งท่แี ตกตา่ งกันเพื่อทาํ หนา้ ทเ่ี ฉพาะอย่าง
ชดุ ท่ี 3 เรือ่ ง เซลล์พชื และเซลล์สัตว์ 26
แบบทดสอบหลงั เรียน
เรื่อง เซลล์พชื และเซลล์สัตว์
คําชแ้ี จง 1. ในแตล่ ะข้อใหน้ ักเรยี นทาํ เคร่ืองหมายลงบนตวั เลือก ก –ง ทถี่ ูกทส่ี ุดเพียงคําตอบเดียว
ลงบนกระดาษคําตอบ
2. แบบทดสอบปรนยั ทง้ั หมด 10 ขอ้ (10 คะแนน) เวลา 10 นาที
*****************************************************************************
1. ส่วนประกอบพนื้ ฐานท่ถี อื ว่ามคี วามสาํ คญั มากทสี่ ุดของเซลล์ คือข้อใด
ก. นิวเคลียส
ข. ผนังเซลล์
ค. เยือ่ หุม้ เซลล์
ง. คลอโรพลาสต์
2. สว่ นประกอบในนิวเคลียสมีหน้าทอ่ี ะไร
ก. ควบคมุ การคายนํ้า
ข. เพมิ่ ความแขง็ แรงให้เซลล์
ค. เกบ็ และสะสมของเสียภายในเซลล์
ง. เปน็ แหล่งสงั เคราะหส์ ารพันธุกรรม
3. สว่ นประกอบท่สี ําคัญทีพ่ บในเซลลพ์ ชื แต่ไมพ่ บในเซลล์สตั ว์ คอื ข้อใด
ก. เยื่อหมุ้ เซลล์ ผนงั เซลล์
ข. ผนงั เซลล์ ไซโทพลาซึม
ค. ผนังเซลล์ คลอโรพลาสต์
ง. นวิ เคลียส คลอโรพลาสต์
ชดุ ที่ 3 เร่อื ง เซลล์พชื และเซลลส์ ตั ว์ 27
4. เซลลข์ องส่ิงมีชวี ติ ทุกชนดิ มีส่วนประกอบพ้นื ฐานเหมอื นกันตามขอ้ ใด
ก. ผนงั เซลล์ ไซไทพลาซึม นวิ เคลยี ส
ข. เย่อื หมุ้ เซลล์ โครโมโซม นวิ เคลียส
ค. ผนังเซลล์ นวิ เคลยี ส คลอโรพลาสต์
ง. เยือ่ หมุ้ เซลล์ ไซโทพลาซมึ นิวเคลียส
5. ข้อใดกล่าวถกู ต้องท่สี ดุ
ก. เซลลส์ ตั วม์ ลี ักษณะออ่ นนมุ่ เพราะผนังเซลล์ประกอบด้วยสารโปรตีน
ข. เซลลพ์ ชื มแี วควิ โอลขนาดใหญ่ ส่วนเซลล์สัตวม์ แี วคิวโอลขนาดเล็ก
ค. ท้งั เซลล์พชื และเซลลส์ ัตวม์ ีสิง่ ทเี่ หมือนกันคอื คลอโรฟลิ ล์
ง. เซลล์พืชมรี ปู รา่ งเปน็ เหลีย่ ม เพราะไมม่ ผี นงั เซลล์
6. เพราะเหตุใดจึงจดั ให้เย่อื หมุ้ เซลลม์ คี ณุ สมบตั เิ ปน็ เยือ่ เลือกผา่ น
ก. ยอมใหโ้ มเลกุลของสารทกุ ชนดิ ผ่านเข้าไปได้แต่ผา่ นออกมาไมไ่ ด้
ข. ยอมให้โมเลกุลของสารผา่ นออกมาได้แต่ผา่ นเข้าไมไ่ ด้
ค. ยอมให้โมเลกลุ ของสารบางชนดิ เทา่ น้นั ผา่ นได้
ง. ยอมใหโ้ มเลกุลของสารทกุ ชนดิ ผา่ นได้
7. ข้อใดกลา่ ว ไม่ ถูกตอ้ ง
1. ทง้ั เซลล์พชื และเซลลส์ ตั วม์ ผี นงั เซลล์
2. เซลลพ์ ชื ส่วนมากมีความแข็งแรงมากกวา่ สตั ว์
3. ส่วนทถี่ ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมของเซลล์สตั วอ์ ยูใ่ นนวิ เคลียส
4. สว่ นประกอบนอกสดุ ของเซลลพ์ ืชและเซลล์สตั วค์ ือเยื่อหุ้มเซลล์เหมอื นกนั
ก. ทั้งข้อ 1. และข้อ 4.
ข. ทงั้ ขอ้ 2. และ ขอ้ 3.
ค. เฉพาะข้อ 2.
ง. เฉพาะขอ้ 3.
ชุดท่ี 3 เรอ่ื ง เซลล์พืชและเซลลส์ ัตว์ 28
8. ข้อใดเรียงลําดับส่วนประกอบของเซลลพ์ ืชจากดา้ นนอกเข้าดา้ นในไดถ้ กู ต้อง
ก. เยอ่ื หุ้มเซลล์ ผนงั เซลล์ ไซโทพลาซมึ
ข. ผนังเซลล์ เย่ือหมุ้ เซลล์ ไซโทพลาซึม
ค. ผนงั เซลล์ นวิ เคลียส ไซโทพลาซมึ
ง. ผนังเซลล์ นวิ เคลยี ส เยือ่ หุม้ เซลล์
9. เซลลส์ ตั วไ์ ม่มีสว่ นประกอบทีเ่ รยี กว่า “คลอโรพลาสต”์ จงึ ทาํ ใหเ้ ซลลส์ ตั ว์ไมส่ ามารถทาํ หนา้ ท่ี
ในข้อใดได้
ก. การสังเคราะหด์ ว้ ยแสง
ข. การสืบพันธ์ุ
ค. การหายใจ
ง. การขบั ถ่าย
10. สว่ นประกอบใดท่ีทําหนา้ ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั การคายนาํ้ ของพชื
ก. ไมโทคอนเดรยี
ข. แวควิ โอล
ค. ไรโบโซม
ง. เซลลค์ ุม
ชดุ ที่ 3 เรอ่ื ง เซลล์พชื และเซลล์สตั ว์ 29
กระดาษคําตอบ
แบบทดสอบหลงั เรยี น
เรอ่ื ง เซลลพ์ ชื และเซลลส์ ัตว์
ชื่อ...............................................................................ชนั้ ........................เลขท.่ี ...............................
ข้อ ก ข ค ง
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
ลองตรวจดกู บั เฉลยกันดกี ว่าค่ะ
เย้ ! คะแนนทเ่ี ราทาํ ได้ คือ......................
ต้องผา่ นเกณฑ์ 60 % กอ่ น (ทาํ ถูก 6 ขอ้ ข้ึนไป)
ถึงจะทํากิจกรรมตอ่ ไปได้นะคะ
ชดุ ที่ 3 เรอื่ ง เซลลพ์ ชื และเซลลส์ ตั ว์ 30
บรรณานุกรม
ถนดั ศรีบญุ เรอื ง และคณะ. วิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 เฉลยสําหรบั ครู. พิมพค์ ร้งั ที่ 8. กรงุ เทพฯ :
อักษรเจริญทศั น,์ ม.ป.ป.
ประดบั นาคแก้ว และดาวลั ย์ เสรมิ บุญสขุ . วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1. กรงุ เทพฯ :
แม็ค, 2553.
พชั รินทร์ แสนพลเมอื ง. แบบวดั และบนั ทกึ ผลการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ม.1. กรงุ เทพฯ :
อักษรเจริญทศั น,์ ม.ป.ป.
ยพุ า วรยศ และคณะ. หนังสอื เรียนสาระการเรยี นรพู้ นื้ ฐาน กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์
วิทยาศาสตร์ ม.1. พมิ พค์ รั้งที่ 2. กรงุ เทพฯ : อักษรเจริญทัศน,์ 2546.
วชิ าญ เลิศลพ และคณะ. ชดุ ปฏริ ปู การเรยี นร้กู ิจกรรมวทิ ยาศาสตร์ ชว่ งชัน้ ท่ี 3 (ม.1-ม.3).
กรงุ เทพฯ : ประสานมิตร, 2545
ศริ ิลักษณ์ ผลวัฒนะ และคณะ. วิทยาศาสตร์ชว่ งช้นั ท่ี 3(ม.1-ม.3). กรุงเทพฯ : นิยมวิทยา, 2545.
สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย,ี สถาบนั . วทิ ยาศาสตร์ 2 ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 1 เลม่ 2.
พมิ พค์ รัง้ ท่ี 4. กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พ์ สกสค.ลาดพรา้ ว, 2556.
, สถาบัน. หนงั สอื เรยี นสาระการเรยี นรู้ ชีวติ กบั สงิ่ แวดลอ้ ม สง่ิ มีชวี ิตกบั กระบวนการ
ดาํ รงชวี ติ . พมิ พค์ รั้งที่ 5. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ สกสค.ลาดพรา้ ว, 2552.
, สถาบนั . หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพน้ื ฐานชวี วทิ ยา ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4-6. พมิ พค์ รงั้ ท่ี 3.
กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ สกสค.ลาดพรา้ ว, 2555.
, สถาบัน. หนงั สอื เรยี นรายวชิ าเพิ่มเติม ชีววิทยา เล่ม 1. พมิ พค์ รั้งที่ 4. กรุงเทพฯ :
โรงพิมพ์ สกสค.ลาดพรา้ ว, 2556.
Campbell, N. A. and Reece, J. B. Bilogy. 8th sd. San Francisco : Pearson Education inc.,
2008.
ชุดท่ี 3 เรื่อง เซลล์พืชและเซลล์สตั ว์ 31
บรรณานุกรม (ต่อ)
แหล่งข้อมลู จากเว็บไซต์
เซลลพ์ ชื เซลลส์ ตั ว์. [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ได้จาก : http://www.slideshare.net/WannRattiya/
2-36830860. สืบค้นข้อมูลเมือ่ วันท่ี 25 มีนาคม 2556.
เซลล์ของพืชและสตั ว.์ [ออนไลน์]. เข้าถงึ ไดจ้ าก : http://www.myfirstbrain.com/student_
view.aspx?ID=71878. สืบคน้ ข้อมลู เมอ่ื วนั ท่ี 25 มีนาคม 2556.
เปรียบเทียบเซลลพ์ ืชเซลลส์ ตั ว.์ [ออนไลน]์ . เขา้ ถงึ ได้จาก : https://sites.google.com/site/
learncell/home/different. สืบคน้ ข้อมลู เม่ือวนั ที่ 25 มนี าคม 2556.
ไซโทพลาซมึ . [ออนไลน์]. เข้าถึงไดจ้ าก : http://image.dekd.com/25/3124057/111038312.
สืบค้นข้อมูลเมอ่ื วันท่ี 26 มนี าคม 2556.
แวคิวโอล. [ออนไลน์]. เข้าถึงไดจ้ าก : http://www.ipecp.ac.th/ipecp/cgibinn/BP1/Program/
chapter3/image1/tt23. สบื ค้นขอ้ มูลเมอ่ื วันที่ 26 มนี าคม 2556.
ไลโซโซม. [ออนไลน]์ . เขา้ ถงึ ได้จาก : http://www.ipecp.ac.th/ipecp/cgi-binn/BP1/
Program/chapter3/image1/tt21.gif. สบื คน้ ข้อมูลเมื่อวนั ที่ 26 มีนาคม 2556.
เซนทริโอล. [ออนไลน์]. เขา้ ถึงได้จาก : http://www.myfirstbrain.com/thaidata/
image.asp?ID=473056. สืบคน้ ข้อมลู เมื่อวนั ท่ี 26 มีนาคม 2556.
เปรยี บเทยี บสว่ นประกอบเซลลส์ ตั ว.์ [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.sema.go.th/k4/0015/
cell/sec03p01.html. สบื คน้ ขอ้ มลู เม่ือวนั ที่ 27 มนี าคม 2556.
คลอโรพลาสต์. [ออนไลน]์ . เข้าถงึ ไดจ้ าก : http://www.scimath.org/images/uploads/
chloroplast.gif. สืบคน้ ขอ้ มลู เม่ือวนั ที่ 27 มีนาคม 2556.
ชดุ ที่ 3 เรือ่ ง เซลล์พืชและเซลลส์ ัตว์
ภาคผนวก
ชุดที่ 3 เรอื่ ง เซลลพ์ ืชและเซลลส์ ัตว์ 33
แบบบันทกึ คะแนนรวม
ชุดที่ 3 เร่อื ง เซลล์พชื และเซลลส์ ตั ว์
รายการประเมิน คะแนนเตม็ คะแนนทไี่ ด้ หมายเหตุ
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 10
บัตรกิจกรรม ที่ 3.1 15
บตั รกจิ กรรม ท่ี 3.2 10
บัตรกิจกรรม ท่ี 3.3 10
แบบทดสอบหลงั เรียน 10
รวมคะแนนท้งั หมด
ลงชื่อ............................................................ช้นั ........................เลขท.่ี ...........................
(ผูท้ าํ กจิ กรรม)
ลงช่อื ……………………………………………………………………………
( นางพสิ มยั ภูมิยิ่ง )
ครผู สู้ อน
ชดุ ท่ี 3 เร่อื ง เซลลพ์ ชื และเซลลส์ ตั ว์ 34
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น
เรือ่ ง เซลล์พืชและเซลล์สัตว์
1. ข
2. ง
3. ข
4. ก
5. ค
6. ก
7. ข
8. ง
9. ง
10. ค
ชดุ ที่ 3 เรอ่ื ง เซลล์พืชและเซลล์สตั ว์ 35
บตั รเฉลยกจิ กรรม ที่ 3.1
เรือ่ ง โครงสรา้ งและหน้าท่ขี องเซลล์
1. ใหน้ ักเรยี นโยงเสน้ เพ่อื จบั คู่แสดงความสัมพันธข์ องสว่ นประกอบของเซลล์ให้ถูกตอ้ ง
(ขอ้ ละ 1 คะแนน)
1. แวคิวโอล ก. ควบคมุ การทํางานของเซลล์มกั พบกลางเซลล์
2. คลอโรพลาสต์ ข. รูเล็กๆทสี่ ามารถกาํ จดั ขนาดของสารผา่ นเข้าออก
3. ผนังเซลล์ ค. หอ่ หมุ้ เซลลแ์ ละควบคุมการผา่ นเข้าออกของสาร
4. เย่อื เลือกผา่ น ง. รปู ร่างทรงกระบอก ต้ังฉากกนั
5. ไลโซโซม จ. ชว่ ยในกระบวนการสังเคราะหด์ ว้ ยแสง
6. ไซโทพลาซมึ ฉ. เกีย่ วกบั การคายน้ําของพืช
7. เซนทริโอล ช. มีเอนไซมย์ อ่ ยสิ่งแปลกปลอมทีเ่ ข้ามาในเซลล์
8. เซลลค์ มุ ซ. มลี ักษณะกงึ่ แขง็ ก่งึ เหลว
9. นิวเคลียส ฌ. เกบ็ ของเสียที่เกิดจากการทํางานของเซลล์
10. เยอื่ หุ้มเซลล์ ญ. ทําใหเ้ ซลล์คงรปู อยูไ่ ด้ พบในเซลล์พืช
2. เกมตารางปริศนา ( ขอ้ ละ 1 คะแนน )
คําช้ีแจง 2.1 นักเรียนอ่านคาํ ถามข้างลา่ ง
2.2 หาคําตอบในตารางปริศนา
2.3 วงลอ้ มรอบคาํ ตอบที่ถูกต้องแล้วเขยี นหมายเลขข้อขา้ งหน้าข้อความนั้นๆ
ไ ม โ ท ร ม น เ ไ เฉลย
นิ ว เ ค ลี ย ส ยื่ ร
1. หน่วยท่ีเลก็ ทสี่ ดุ ของสิง่ มชี วี ิต
ว เ ซ ล ล์ ผ ซ อ โ ตอบ เซลล์
เ ยื่ ห อ ผ นั ง หุ้ บ 2. เมด็ กลมๆ ภายในมีสารสเี ขียว
ล แ ไ โ ลี ย ส ม โ ตอบ คลอโรพลาสต์
ซ ว ค ร นิ ว เ นิ ซ 3. เป็นกอ้ นกลมเกย่ี วขอ้ งกับการถา่ ยทอด
บ คิ ล พ โ ย ส ว ม ลักษณะ ทางพันธุกรรม
ฟิ ว อ ล ก ซ พ เ อ ตอบ นิวเคลียส
ล โ โ าออโลา 4. ทําหนา้ ท่ีเกี่ยวกบั การสงั เคราะห์โปรตีน
ล์ อ ร ส ล ค เ บ ล ตอบ ไรโบโซม
ว ล ฟิ ต์ จิ อ ม บ ม 5. มขี องเหลวอย่ภู ายในและสะสมของเสยี
ตอบ แวควิ โอล
ชดุ ท่ี 3 เร่อื ง เซลล์พืชและเซลลส์ ัตว์ 36
บัตรเฉลยกจิ กรรมที่ 3.2
เรื่อง ลกั ษณะรปู รา่ ง สว่ นประกอบของเซลล์พืชและเซลล์สตั ว์
ตารางบนั ทกึ ผลการทดลอง ( 4 คะแนน )
เซลลท์ น่ี าํ มาศกึ ษา ภาพของเซลล์ ส่วนประกอบ
1. เซลลเ์ ย่ือหอม มนี ิวเคลยี สขนาดใหญ่
ไม่พบคลอโรพลาสต์
2. เซลล์ มีคลอโรพลาสต์จาํ นวนมาก
สาหรา่ ย
หางกระรอก
3. เซลลเ์ ยือ่ บุ มีเยือ่ หุ้มเซลล์ นวิ เคลียส
ข้างแกม้ ไซโทพลาซมึ
ไมพ่ บคลอโรพลาสต์
สรุปผลการทํากจิ กรรม ( 3 คะแนน )
จากการทํากจิ กรรม สังเกตพบว่าเซลล์พชื ตา่ งชนิดกันจะมีรูปร่างตา่ งกนั เล็กน้อย แต่สว่ นใหญ่
จะมรี ปู ร่างเป็นรปู เหลี่ยม ในเซลล์เย่อื หอมมนี วิ เคลียสขนาดใหญเ่ ห็นไดช้ ดั เจนแต่ไม่พบคลอโรพลาสต์
ส่วนเซลลส์ าหรา่ ยหางกระรอกพบคลอโรพลาสตจ์ าํ นวนมาก เซลลเ์ ย่ือบุขา้ งแกม้ มีรูปรา่ งค่อนข้างกลม
พบนวิ เคลยี สภายในเซลล์ แตไ่ ม่พบคลอโรพลาสตเ์ หมอื นในเซลล์พืช
ชดุ ท่ี 3 เรอื่ ง เซลลพ์ ืชและเซลลส์ ตั ว์ 37
คาํ ถามหลงั ทาํ กจิ กรรม ( ข้อละ 1 คะแนน )
1. สว่ นประกอบใดบ้างท่พี บในเซลล์ทกุ เซลล์
ตอบ เยอ่ื หมุ้ เซลล์ ไซโทพลาซมึ และนิวเคลียส
2. เซลล์ท่ศี ึกษามีลกั ษณะเหมอื นกันหรือแตกต่างกนั อย่างไร
ตอบ เซลล์เยอื่ หอมและเซลลส์ าหร่ายหางกระรอกมลี กั ษณะค่อนข้างเหลยี่ มและมผี นงั เซลล์
สว่ นเซลลเ์ ย่ือบขุ ้างแกม้ มลี ักษณะคอ่ นขา้ งกลม และไม่มผี นงั เซลล์
3. สว่ นประกอบใดทพ่ี บเฉพาะในเซลลพ์ ชื
ตอบ ผนงั เซลล์และคลอโรพลาสต์
ชดุ ที่ 3 เรอ่ื ง เซลล์พืชและเซลลส์ ตั ว์ 38
บตั รเฉลยกจิ กรรมท่ี 3.3
เร่อื ง การสรา้ งแบบจําลองเปรียบเทยี บเซลล์พชื และเซลล์สตั ว์โดยใชด้ ินนา้ํ มนั
ตวั อยา่ งการสร้างแบบจําลองเซลลพ์ ชื และเซลล์สัตวโ์ ดยใชด้ นิ นํา้ มัน
ชุดที่ 3 เรือ่ ง เซลลพ์ ชื และเซลลส์ ตั ว์ 39
เฉลยคําถามหลงั กิจกรรม
คาํ ชแี้ จง นักเรียนตอบคําถามต่อไปนีใ้ ห้ถกู ต้อง (ข้อละ 1 คะแนน)
1. โครงสรา้ งพื้นฐานของเซลลป์ ระกอบดว้ ยสว่ นสําคัญกส่ี ว่ น อะไรบ้าง
ตอบ โครงสร้างพนื้ ฐานของเซลลป์ ระกอบ 3 สว่ น ได้แก่ ส่วนที่หอ่ หุม้ เซลล์ นวิ เคลยี ส
และไซโทพลาซึม
2. นกั เรียนศึกษาภาพเซลล์สตั วแ์ ละเซลล์พชื ท่นี กั เรียนสรา้ งแบบจาํ ลอง แล้วให้นกั เรยี นเปรยี บเทียบ
โครงสรา้ งระหวา่ งเซลล์พชื และเซลลส์ ัตวด์ งั ตอ่ ไปนี้ ( ขอ้ ย่อยละ 1 คะแนน)
เซลลพ์ ชื เซลลส์ ตั ว์
1. เซลลพ์ ืชมีรปู รา่ งเปน็ เหลย่ี ม 1. เซลลส์ ตั วม์ รี ปู ร่างกลม หรอื รี
2. มีผนงั เซลลอ์ ยดู่ ้านนอก 2. ไมม่ ีผนงั เซลล์ แต่มสี ารเคลือบเซลล์อยู่ดา้ นนอก
3. มีคลอโรพลาสตภ์ ายในเซลล์ 3. ไมม่ ีคลอโรพลาสต์
4. ไมม่ เี ซนทรโิ อล 4. มเี ซนทริโอลใช้ในการแบ่งเซลล์
5. แวควิ โอลมีขนาดใหญ่ มองเหน็ ไดช้ ดั เจน 5. แวคิวโอลมีขนาดเลก็ มองเห็นได้ไม่ชัดเจน
6. ไม่มไี ลโซโซม 6. มีไลโซโซม
3. เซลลพ์ ชื และเซลลส์ ัตว์ มลี กั ษณะแตกตา่ งกันอย่างไร และมอี งค์ประกอบใดแตกต่างกนั บ้าง
ตอบ รปู รา่ งของเซลลพ์ ืชมีลกั ษณะรูปร่างทแี่ น่นอนเป็นเหล่ยี ม เนอื่ งจากมีผนังเซลล์
เป็นโครงสรา้ งช้นั นอกทที่ ําหนา้ ที่ปอ้ งกนั และใหค้ วามแขง็ แรงแกเ่ ซลลพ์ ชื สว่ นเซลลส์ ัตว์ไมม่ ีผนงั เซลล์
เซลล์จงึ มรี ปู ร่างไมแ่ น่นอน ส่วนประกอบทพ่ี บในเซลล์พชื แต่ไมพ่ บในเซลลส์ ตั ว์ ไดแ้ ก่ ผนังเซลล์ และ
คลอโรพลาสต์ และส่วนประกอบท่พี บในเซลลส์ ัตวไ์ มพ่ บในเซลล์พืช ได้แก่ เซนทริโอล ไลโซโซม
4. เยอ่ื หุม้ เซลล์ (Cell membrane) มสี มบัตเิ ป็นเย่อื เลอื กผา่ น หมายความว่าอยา่ งไร
ตอบ เป็นเยือ่ บาง ๆ ทีท่ าํ ใหเ้ กิดการลาํ เลยี งสารผ่านเขา้ และออก ซึ่งยอมให้สารบางชนดิ ท่มี ี
โมเลกุลขนาดเล็กผ่านได้ แตส่ ารบางชนิดท่ขี นาดโมเลกลุ ใหญไ่ มส่ ามารถผา่ นได้
5. นวิ เคลยี ส ( Nucleus) มคี วามสําคญั อยา่ งไรตอ่ เซลล์
ตอบ นวิ เคลยี สมีความสาํ คญั ตอ่ เซลล์ เนือ่ งจากเป็นท่อี ยู่ของสารพนั ธุกรรม และมีหนา้ ที่
ควบคุมการทาํ งานต่างๆของเซลล์โดยทํางานรว่ มกบั ไซโทพลาซึม
ชดุ ท่ี 3 เร่อื ง เซลลพ์ ชื และเซลลส์ ตั ว์ 40
เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น
เรือ่ ง เซลล์พืชและเซลลส์ ัตว์
1. ก
2. ง
3. ค
4. ง
5. ข
6. ค
7. ก
8. ข
9. ก
10. ง
ชดุ ที่ 3 เรอื่ ง เซลลพ์ ืชและเซลลส์ ัตว์ 41
ทุกกจิ กรรมต้องผ่านเกณฑ์ 60 %
จงึ จะเรยี นในชดุ ตอ่ ไปได้นะคะ
กิจกรรมที่/คะแนนเตม็ เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ
3.1 คะแนนเต็ม 15 ผ่านเกณฑ์ 60% (คะแนน) ไม่ผ่านเกณฑ์ 60%(คะแนน)
3.2 คะแนนเตม็ 10
3.3 คะแนนเตม็ 10 9-15 คะแนน ต่ํากว่า 9 คะแนน
ทดสอบหลงั เรียน/10
6-10 คะแนน ต่ํากว่า 6 คะแนน
6-10 คะแนน ตาํ่ กวา่ 6 คะแนน
6-10 คะแนน ตํา่ กว่า 6 คะแนน