The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานผลปฏิบัติงานปี 1 2564 นายนรินทร์ อนงค์ชัย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

รายงานผลปฏิบัติงานปี 1 2564 นายนรินทร์ อนงค์ชัย

รายงานผลปฏิบัติงานปี 1 2564 นายนรินทร์ อนงค์ชัย

คำนำ

แบบรายงานผลการปฏิบัติงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน
ครั้งที่ 2 (1 เมษายน 2564 – 30 กันยายน 2564) ของ นายนรินทร์ อนงค์ชัย ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ
ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทพอุดมวิทยา อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
มัธยมศึกษา สุรินทร์ เล่มนี้ จัดทำขึ้นเพื่อรวบรวมข้อมูลผลการปฏิบัติงานในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา เพื่อใช้
ประกอบการพิจารณาการประเมินผลการปฏิบัติงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โรงเรียน
เทพอุดมวิทยา

ทั้งน้ี ข้าพเจ้า ขอรับรองวา่ ผลงานทุกดา้ นทป่ี รากฏในเอกสารฉบับน้ี เปน็ ผลงานของขา้ พเจ้าที่เกิดจาก
การปฏบิ ตั งิ านในหนา้ ที่ ครู ดว้ ยความซ่ือสัตย์ สุจริต รักและศรทั ธาในวชิ าชีพ รวมถึงช่วยเหลือ สง่ เสริม และ
ใหโ้ อกาสแก่สงั คม ชุมชน อย่างเตม็ ความสามารถ

นายนรินทร์ อนงคช์ ยั
8 กันยายน 2564



สารบัญ

หน้า

คำนำ ก
สารบญั ข
ตอนท่ี 1 ข้อมูลพนื้ ฐาน 1
ตอนท่ี 2 การประเมินประสิทธภิ าพและประสิทธิผลการปฏบิ ัตงิ าน 2
2
2.1 ดา้ นการจัดการเรียนการสอน 13
2.2 ด้านการบรหิ ารจัดการชนั้ เรยี น 16
2.3. ดา้ นการพัฒนาตนเองและพฒั นาวิชาชีพ 2
ตอนที่ 3 การประเมินการปฏิบตั ติ นในการรักษาวนิ ัย คุณธรรม จริยธรรม
และจรรณยาบรรณวิชาชีพ 26
3.1 มคี วามซ่ือสัตย์ สจุ ริต รักษาประโยชนส์ ่วนรวม ไม่อาศัย
26
หรอื ยนิ ยอมใหผ้ ู้อน่ื ใชอ้ ำนาจและหน้าทีข่ องตน
เพือ่ แสวงหาประโยชน์ 27
3.2 การปฏิบตั ติ ามระเบยี บ กฎหมาย นโยบาย และคำส่ัง 28
ของผบู้ ังคับบัญชา
3.3 มคี วามวริ ิยะ อุตสาหะ ตรงตอ่ เวลา และอทุ ศิ เวลาให้แกท่ างราชการ 29
3.4 การมีจติ สำนกึ ที่ดี มุ่งบริการต่อกล่มุ เป้าหมายผู้รับบริการ 30
โดยไมเ่ ลอื กปฏิบัติ
3.5 การรักษาคณุ ภาพตามมาตรฐานวิชาชพี และจรรยาบรรณวิชาชีพ 34
3.6 การรักษาภาพลักษณ์และความสามคั คใี นองค์กร ชุมชน และสังคม 46
ภาคผนวก 47
- การจัดทำโครงสรา้ งหลักสูตรและออกแบบหนว่ ยการเรียนรู้ 50
- ความกา้ วหนา้ ในการจดั ทำรายงาน PLC ผ่าน Google Classroom 52
- คำส่ังคณะวจิ ัยจัดทำนโยบายเชิงพ้นื ท่ี สพม.สุรนิ ทร์ 53
- คำสั่งคณะทำงานอบรมออนไลน์ DLIT Webinar
- คณะกรรมการบริหารวงเงินเลอื่ นขัน้ สพม.สุรินทร์
- สำเนาเกยี รตบิ ตั รผ่านการอบรมฯ

แบบรายงานผลการปฏบิ ัตงิ านของข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา
สายงานการสอน : โรงเรยี นเทพอดุ มวิทยา

สำนักงานเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษามธั ยมศกึ ษาสุรินทร์

 ครัง้ ที่ 1 (1 ต.ค. 2563 – 31 ม.ี ค. 2564) ✓ครง้ั ที่ 2 (1 เม.ย. 2564 – 30 ก.ย. 2564)

ตอนท่ี 1 ข้อมูลพ้ืนฐาน

1.1 ชอ่ื – สกุล ผู้รับการประเมิน นายนรนิ ทร์ อนงค์ชยั อายุ 46 ปี

ตำแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ เงนิ เดือน บาท

เกษยี ณอายุราชการวนั ท่ี 30 เดือนกันยายน พ.ศ.2578

1.2 ไดร้ บั มอบหมายให้ปฏิบตั ิหนา้ ทก่ี ารสอน

12.1 รายวิชาวิทยาการคำนวณ 1 รหสั วชิ า ว21103 ช้นั ม.1 จำนวน 2 ชั่วโมง

1.2.2 รายวชิ าพืน้ ฐานการเขียนโปรแกรม 1 รหสั วชิ า ว21201 ชัน้ ม.1 จำนวน 2 ชั่วโมง

1.2.3 รายวชิ าวิทยาการคำนวณ 2 รหัสวิชา ว22103 ชั้น ม.2 จำนวน 2 ชัว่ โมง

1.2.4 รายวชิ าพนื้ ฐานการเขยี นโปรแกรม 2 รหัสวิชา ว 22103 ช้ัน ม.2 จำนวน 2 ชวั่ โมง

1.2.5 รายวชิ าภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน รหัสวชิ า อ23101 ชัน้ ม.3 จำนวน 6 ช่ัวโมง

1.2.6 รายวิชาภาษาอังกฤษเพ่ิมเติม รหัสวิชา อ31201 ช้ัน ม.4 จำนวน 4 ช่ัวโมง

1.3 ได้รับมอบหมายใหป้ ฏิบัติหน้าท่ีกจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น

1.3.1 กิจกรรมชุมนมุ โครงงานคอมพิวเตอร์ จำนวนนักเรยี น 20 คน จำนวน 1 ชัว่ โมง

1.3.2 กิจกรรมลดเวลาเรียนเพมิ่ เวลารู้ จำนวนนักเรียน 20 คน จำนวน 2 ชวั่ โมง

1.3.4 กิจกรรม Homeroom ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2/2 จำนวนนักเรยี น 29 คน จำนวน 1 ชั่วโมง

1.3.3 กจิ กรรมอบรมจริยธรรม จำนวน 1 ชว่ั โมง

1.4 งานอืน่ ๆ

1.4.1 กิจกรรมโรงเรียนสวยดว้ ยมอื เรา จำนวน 3 ชัว่ โมง

1.4.2 กิจกรรมชุมชนการเรียนรูท้ างวิชาชีพ จำนวน 2 ช่ัวโมง

1.5 รวมชั่วโมงการสอนและช่ัวโมงหน้าทพ่ี ฒั นาผเู้ รยี น ใน 1 สัปดาห์ ทัง้ สน้ิ 28 ช่ัวโมง

2

1.6 จำนวนวันลาในรอบการประเมนิ ดงั นี้

 ลาปว่ ย จำนวน - ครง้ั - วัน

 ลากจิ ส่วนตัว จำนวน - ครง้ั - วนั

 ลาคลอด จำนวน - ครัง้ - วัน

 ลาอุปสมบท จำนวน - ครั้ง - วนั

 มาสาย จำนวน - ครง้ั - วัน

ตอนที่ 2 การประเมินประสทิ ธภิ าพและประสิทธิผลการปฏิบตั งิ าน

2.1 ด้านการจัดการเรยี นการสอน(45 คะแนน)
2.1.1 การสรา้ งหรอื การพัฒนาหลกั สูตร(5 คะแนน)
(1) หลกั สูตรในรายวชิ าท่สี อน
ข้าพเจ้าได้วิเคราะห์หลักสูตร มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด จัดทำคำอธิบายรายวิชา

โครงสร้างรายวิชา หน่วยการเรียนรู้ รายวิชาวิทยาการคำนวณ 1 รายวิชาพื้นฐานการเขียนโปรแกรม 1
รายวิชาวิทยาการคำนวณ 2 รายวิชาพื้นฐานการเขียนโปรแกรม 2 รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน รายวิชา
ภาษาอังกฤษเพิ่มเติม โดยครอบคลุมเนือ้ หาของหลักสูตร และนำไปใช้กับผู้เรียนและบริบทของสถานศึกษาได้
อยา่ งเหมาะสม (เอกสารอา้ งองิ หน้าที่ 33- 44 )

(2) การจัดการเรยี นรู้ ( 25 คะแนน)
(2.1) การออกแบบหน่วยการเรยี นรู้ (5 คะแนน)
ข้าพเจ้าออกแบบหน่วยการเรียนรู้ รายวชิ าวทิ ยาการคำนวณ 1 รายวชิ าพื้นฐานการเขียน

โปรแกรม 1 รายวิชาวิทยาการคำนวณ 2 รายวิชาพื้นฐานการเขียนโปรแกรม 2 รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน
รายวิชาภาษาองั กฤษเพ่ิมเติม โดยครอบคลมุ เน้ือหาของหลักสูตร สอดคลอ้ งกับผู้เรียน บริบทของสถานศึกษา/
ผลการประเมินคุณภาพผู้เรียนและจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่มีวิธีการปฏิบัติที่หลากหลาย ตลอดจนพัฒนา
กจิ กรรมการเรยี นรู้สอดคลอ้ งกับธรรมชาติของสาระการเรียนรู้ (เอกสารอ้างอิงหนา้ ที่ 33- 44 )

(2.2) การจัดทำแผนการจดั การเรยี นรู้ (5 คะแนน)
ข้าพเจ้าทำการวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคลและจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา

วิทยาการคำนวณ 1 รายวิชาพื้นฐานการเขียนโปรแกรม 1 รายวิชาวิทยาการคำนวณ 2 รายวิชาพื้นฐานการ
เขยี นโปรแกรม 2 รายวชิ าภาษาอังกฤษพนื้ ฐาน รายวิชาภาษาองั กฤษเพม่ิ เติม ทส่ี อดคลอ้ งกบั หน่วยการเรียนรู้
และผู้เรียน โดยแผนการจัดการเรียนรู้มีองค์ประกอบครบถ้วนตามรูปแบบที่สถานศึกษากำหนดและสามารถ
นำไปจัดการเรียนรูไ้ ดจ้ ริง กิจกรรมการเรยี นร้ดู งั กล่าวท่สี อดคล้องกับธรรมชาตขิ องสาระการเรียนรู้และผู้เรียน
ตลอดจนทำการบนั ทึกหลังการจัดการเรยี นร้แู ละนำผลมาพัฒนาแผนการจดั การเรยี นรู้ให้มีประสทิ ธภิ าพสูงข้นึ

ดงั ต่อไปน้ี 3

1) วิเคราะห์พหุปัญญานักเรียน (พหุปัญญา (Multiple Intelligences) ได้รายละเอียด

• ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 1/1 จำนวน 26 คน (อ้างองิ URL https://bit.ly/2Vo3mUa)
• ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 1/2 จำนวน 27 คน (อา้ งอิง URL https://bit.ly/3zQQwNg)
• ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 2/1 จำนวน 29 คน (อ้างอิง URL https://bit.ly/3E2iQyW)
• ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 2/2 จำนวน 29 คน (อา้ งอิง URL https://bit.ly/2Vo3mUa)
• ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3/1 จำนวน 30 คน (อา้ งอิง URL https://bit.ly/3hb5N4o)
• ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3/2 จำนวน 30 คน (อ้างองิ URL https://bit.ly/3DYxSWh)
• ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4/1 จำนวน 20 คน (อา้ งอิง URL https://bit.ly/3l4kIhF)
• ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4/2 จำนวน 10 คน (อา้ งองิ URL https://bit.ly/2WVeCYF)

2) จัดทำแผนการจดั การเรยี นรู้ทเี่ น้นผ้เู รยี นเป็นสำคญั ตามรูปแบบการจัดการเรยี นรู้

แบบเชงิ รุก (Active Learning) รายละเอยี ดดงั ต่อไปนี้

• รายวชิ าวทิ ยาการคำนวณ 1 จำนวน 4 หน่วยการเรียนรู้

• รายวิชาพน้ื ฐานการเขยี นโปรแกรม 1 จำนวน 4 หนว่ ยการเรียนรู้

• รายวิชาวทิ ยาการคำนวณ 2 จำนวน 4 หนว่ ยการเรียนรู้

• รายวชิ าพน้ื ฐานการเขยี นโปรแกรม 2 จำนวน 4 หน่วยการเรียนรู้

• รายวชิ าภาษาอังกฤษพนื้ ฐาน จำนวน 3 หนว่ ยการเรยี นรู้

• รายวิชาภาษาองั กฤษเพ่ิมเติม จำนวน 4 หน่วยการเรียนรู้

ตวั อย่างแผนการจดั การเรียนรู้ (เอกสารอา้ งอิง URL https://bit.ly/3njXaZb )

4

(2.3) กลยทุ ธใ์ นการจัดการเรียนรู้ (5 คะแนน)
ข้าพเจ้าได้เข้าร่วมกิจกรรมชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ(PLC) ได้ออกแบบนวัตกรรม

แก้ปัญหา คือ รูปแบบการพัฒนาทักษะกระบวนการคิดขั้นสูงของนักเรียนด้วยการจัดการเรียนรู้ที่ยึดหลัก
ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงร่วมกบั รูปแบบการสอน IDPRS – Model ดงั นี้

1) ขั้น Inspiration คือ ขั้นแรงบันดาลในใจการเรียนรู้ โดยครูผู้สอนควรใช้คำถามเพื่อ
การเรียนรู้ (Question to learn) ในขั้นนี้ เช่น มีปรากฏการณอ์ ะไรเกิดขึ้นท่ีน่าสนใจ เราเกี่ยวขอ้ งกับเรือ่ งน้ัน
อย่างไร ทั้งมิติทางเศรษฐกิจ มิติทางสังคม มิติทางสิ่งแวดล้อม และ มิติทางวัฒนธรรม แล้ วเราจะทำอะไร
ทำไมจงึ ต้องทำ เป็นตน้

2) ขั้น Define คือ ขั้นสถานการณ์ที่ท้าทาย โดยครูผู้สอนควรใช้คำถามเพื่อการเรียนรู้
(Question to learn) ในข้ันนี้ เช่น ความร้ทู ตี่ ้องใช้ คือเรอ่ื งอะไรบ้าง มีคณุ ธรรมเร่ืองใดบา้ งท่ีเกี่ยวขอ้ ง ช้นิ งาน
นมี้ ีผลในมิติทางเศรษฐกิจ มติ ทิ างสังคม มติ ทิ างส่ิงแวดลอ้ ม และ มิตทิ างวัฒนธรรมอยา่ งไรบา้ ง เปน็ ตน้

3) ข้นั Pratice คอื ขั้นฝึกฝน โดยใชค้ ำถามเพอ่ื การเรียนรู้ โดยครูผสู้ อนควรใชค้ ำถามเพื่อ
การเรียนรู้ (Question to learn) ในขั้นนี้ คือ ลงมือทำงานอย่างไรให้สำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มเทคนิค
การสอนตามรูปแบบ High-Impact Practices: HIP และเทคนิคการสอนแบบต่างๆ เช่น เทคนิค Group 4
เทคนคิ Gallery walk เทคนคิ Think-Pair-Share เทคนคิ Exit ticket รวมทง้ั เทคนคิ การตง้ั คำถาม (Question
to Learn) เป็นตน้

4) ขั้น Result คือ ขั้นผลลัพธ์จากการเรียนรู้ โดยครูผู้สอนควรใช้คำถามเพื่อการเรียนรู้
(Question to learn) เช่น สิ่งใดที่นักเรียนทำได้ดี สิ่งใดที่นักเรียนยังต้องปรับปรุง สิ่งใดที่นักเรียนควรเรียนรู้
อะไรเพ่ิมเตมิ เปน็ ต้น

5) ขั้น Share คือ ขั้นสะท้อนผลการเรียนรู้ โดยครูผู้สอนควรใช้คำถามเพื่อการเรียนรู้
(Question to learn) เช่น ชิ้นงานมีคุณค่าต่อสังคมและผู้อื่นอย่างไร ข้อเสนอแนะในการทำงานต่อไปมี
อะไรบา้ ง

โดย มีทฤษฏีการเรียนรู้หรือหลักการของการจัดการเรียนรู้ที่นำมาใช้หลากหลาย ในการ
พัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ และคิดสร้างสรรค์
โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ผ่านกลยุทธ์ IDPRS Model” ของโรงเรียนเทพอุดมวิทยา ได้ศึกษา
ทฤษฏีการเรียนรู้หรอื หลักการของการจัดการเรียนรูท้ ีน่ ำมาใช้หลากหลาย ดงั นี้

- หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาชี้ถึงแนวการดำรงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุก
ระดับ ตั้งแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดำเนินไป
ในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัตน์ ความพอเพียง หมายถึง
ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจำเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีพอสมควร ต่อการ
กระทบใดๆ อันเกิดจากการเปล่ยี นแปลงท้ังภายในภายนอก ทัง้ น้ี จะตอ้ งอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และ
ความระมัดระวังอย่างยิ่งในการนำวิชาการต่างๆ มาใช้ในการวางแผนและการดำเนินการ ทุกขั้นตอน และ

5

ขณะเดียวกัน จะต้องเสริมสร้างพ้นื ฐานจติ ใจ ให้มสี ำนึกในคุณธรรม ความซ่ือสตั ยส์ จุ ริต และให้มีความรอบรู้ท่ี
เหมาะสม ดำเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มสี ติ ปัญญา และความรอบคอบ เพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อ
การรองรบั การเปล่ียนแปลงอยา่ งรวดเรว็ และกว้างขวาง ทัง้ ด้านวัตถุ สงั คม สงิ่ แวดล้อม และวฒั นธรรมจากโลก
ภายนอกได้เปน็ อย่างดี

- การจัดการเรยี นแบบเชงิ รุก (Active Learning)
การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active learning) คือ การเรียนที่เน้นให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์

กับการเรียนการสอนกระตุ้นให้ผู้เรยี นเกิดกระบวนการคดิ ขั้นสูง (Higher-Order Thinking) ด้วยการวเิ คราะห์
ประเมินค่า และสร้างสรรค์ ไม่เพียงแต่เป็นผู้ฟัง ผู้เรียนต้องอ่าน เขียน ตั้งคำถาม และถาม อภิปรายร่วมกัน
ผู้เรียนลงมือปฏิบัติจริงโดยต้องคำนึงถึงความรู้เดิมและความต้องการของผู้เรียนเป็นสำคัญ ทั้งนี้ผู้เรียนจะถูก
เปลย่ี นบทบาทจากเป็นผ้รู บั ความรู้ไปสู่การมีส่วนรว่ มในการสร้างความรู้

- คุณลกั ษณะของผ้เู รยี นในศตวรรษท่ี 21
ปัจจุบันโลกแห่งการศึกษาได้ก้าวหน้าและพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ รูปแบบการเรียนรู้ก็ต้อง
ปรบั ปรุงเพ่ือให้เข้ากับยุคสมัย โดยผ้เู รยี นจะมกี ารเรยี นรู้ท่ียืดหย่นุ สร้างสรรค์ และท้าทาย มองเห็นปัญหาเป็น
โจทยใ์ หผ้ เู้ รยี นได้เรยี นร้วู ธิ กี ารแก้ไข ซงึ่ ทักษะท่จี ำเป็นในการเรยี นร้ใู นศตวรรษท่ี 21 คือ 3R8C
- แนวปฏิบตั ิสู่ผลสมั ฤทธข์ิ นั้ สงู High Impact Practice
HIP เป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมการสร้างองค์ความรู้ ทักษะ
กระบวนการคิดขั้นสูง รวมทั้งเน้นพัฒนาผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนให้สูงขึ้น โดยมีการส่งเสริมให้นักเรียนเรียนรู้
ด้วยตนเองและทํางานกลุ่ม มีการวัดประเมินผลอย่างต่อเน่ือง ซึ่งแนวปฏิบัติสู่ผลสัมฤทธ์ิขั้นสูงประกอบดว้ ย 7
แนวทางปฏิบัติ ดังนี้ 1) การออกแบบบทเรียนที่ส่งผลต่อการเรียนรู้ 2) การมอบหมายงานให้เหมาะสมกับ
ระดบั การรคู้ ิด 3) การให้ทํางานเป็นกลุ่มหรือทํางานเป็นคู่ตามความเหมาะสม 4) การประเมินผลระหว่างเรียน
เพื่อปรับการสอนให้เหมาะสมกับสภาพการเรียนรู้ 5) การเอื้อให้มีการสนทนาและการอภิปรายที่มีนักเรียน
เป็นศูนย์กลาง 6) การเขยี นอย่างเป็นกจิ วตั รทั้งในและนอกหอ้ งเรยี น 7) การสืบเสาะหาความรู้
มีรปู แบบการเรยี น/กระบวนการเรียนรู้ทีจ่ ะนำมาใชส้ ามารถแกป้ ัญหาไดต้ รงตามเปา้ หมาย
โดยมี กรอบแนวคิดในการพัฒนา ดังน้ี

หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การจดั การเรยี นรเู้ พอ่ื พัฒนาทักษะ ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ของ
การคดิ วิเคราะห์ คดิ อยา่ งมี นักเรียน
การจดั การเรยี นแบบ Active Learning
วิจารณญาณ และคดิ สรา้ งสรรค์ ทักษะคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ
คณุ ลักษณะของผู้เรยี นในศตวรรษที่ 21 โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ ของนักเรยี น
พอเพยี ง ผา่ นกลยทุ ธ์ IDPRS Model
ทกั ษะการคดิ ระดบั สูง (คดิ วิเคราะห์ ทักษะการคิดสร้างสรรค์ของ
คดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ และ คิด นักเรยี น

สรา้ งสรรค์)
High Impact Practice

6

ผลงานงานเชิงประจกั ษด์ า้ นกลยุทธ์ในการจัดการเรียนรู้
(1) ไดร้ ับรางวลั ครผู ้สู อนดเี ด่น ประจำปีการศึกษา 2564 ของ สหวิทยาเขต 8 สพม.สุรินทร์

(3) ได้รับเกียรติจาก สสวท. นำเสนอการจัดการสอนแก่ผู้เข้าอบรม หลักสูตร “การจัดการ
เรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์และเทคโนโลยี ทส่ี ง่ เสรมิ ทกั ษะการคดิ และแกป้ ัญหา รปู แบบออนไลน์” รุ่น 3
เมอ่ื วนั ที่ 17 กรกฎาคม 2561 ผ่าน โปรแกรม ZOOM

7

(3) โรงเรียนเทพอุดมวิทยา ได้รับรางวัล เหรียญเงิน เรื่อง กระบวนการจัดการเรียนรู้เพ่ือ
พัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ และคิดสร้างสรรค์ โดยใช้ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียงด้วยรูปแบบ IDPRS Model ผ่านกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ ในการคัดสรรผลงาน
“หนง่ึ โรงเรียนหนึ่งนวตั กรรม” ประจำปี 2564 ระดับภูมภิ าค

8

(4) คุณภาพผ้เู รยี น (10 คะแนน)
- ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน (5 คะแนน)
-ยังไมส่ น้ิ ภาคเรียน กำลงั ดำเนนิ การ ที่ https://bit.ly/3tlY2gN -
- คณุ ลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ของผู้เรยี น (5 คะแนน)
-ยงั ไม่ส้ินภาคเรยี น กำลังดำเนนิ การ ที่ https://bit.ly/3tlY2gN -

2.1.3 การสรา้ งและพัฒนาส่ือ นวัตกรรม เทคโนโลยที างการศึกษาและแหล่งเรยี นรู้ (5 คะแนน)
(1) ส่อื /นวตั กรรม
ข้าพเจ้าได้สร้างและพัฒนาสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยีทางการศึกษาและแหล่งเรียนรู้ นำไปใช้ใน

การจัดการเรียนรู้ เหมาะสมกับผู้เรียน สอดคล้องกับเนื้อหาสาระมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด หรือผลการ
เรียนรู้และจุดประสงค์การเรียนรู้ ประเมินผลการใช้สื่อนวัตกรรม เทคโนโลยีทางการศึกษา และแหล่งเรียนรู้
และนำผลการประเมนิ ไปปรบั ปรุงพัฒนาใหม้ ีคุณภาพสูงข้ึน สามารถนำส่อื นวตั กรรม เทคโนโลยีทางการศึกษา
และแหล่งเรียนรู้ ไปปรับประยุกต์ใช้ในสถานศึกษาที่มีบริบทใกล้เคียง เป็นแบบอย่างที่ดี เป็นผู้นำ เป็นท่ี
ยอมรับจากบคุ คลและหนว่ ยงานอื่น ที่ไดเ้ ชญิ ใหเ้ ปน็ วิทยากรหลายรายการ

1) วิทยากรในการอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตรการจัดการเรียนรู้ สำหรับวิทยากรแกนนำ
(Coding Core Trainer: CCT) สสวท. ระหวา่ งวันที่ 10 - 16 พฤษภาคม 2564

2) คณะกรรมการอบรมเชงิ ปฏิบัติการจัดการเรยี นรรู้ ปู แบบออนไลน์สำหรับครสู ักัดสำนักงาน
คณะกรรมการการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน สพฐ. (อ้างอิง https://webinar.dlit.ac.th/about)

3) วิทยากรGoogle Educator Group Thailand ในงาน GEG Thailand LIVE EVENT
2021 หัวข้อ "ระบบสบื คน้ เกียรติบตั ร จากคลงั ออนไลน์ ด้วย google Apps Script" สพฐ.

4) กำหนดการอบรมครูวทิ ยาการคำนวณเพ่อื การออกแบบการจัดการเรียนร้แู ละ
การวดั และประเมินผลตามสภาพจริงในหอ้ งเรียน ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 รปู แบบออนไลน์ สพม.สงขลา

(2) เทคโนโลยีทางการศึกษา (ICT/DLIT/DLTV)
ข้าพเจ้าได้จัดออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้สำหรับการเรียนการสอนในสถานการณ์การแพร่

ระบาดของไวรสั โคโรนา่ (COVID19) ในรูปแบบ Online / On Hand โดยได้ศึกษารปู แบบ เนอื้ หาการจดั กการ
เรียนรู้จากเว็บไซต์ DLIT https://dlit.ac.th/site/classroom.php และเว็บไซต์อื่นๆ เพื่อเป็นต้นแบบใน
การออกแบบการเรียนรู้และเป็นเครื่องมือการสอนออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพ ผลจากการศึกษา ข้าพเจ้าได้นำ
เครื่องมื่อออนไลน์ต่าง ๆ ไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนแบบ On line เช่น Google Classroom, Google
form, Edpuzzle, Kahoot, Quizizz’ Padlet, Quizwhiser, Vender Go, Scratch, WheelofName,
Menti.com, โปรแกรม Zoom, โปรแกรม Google Meet เวบ็ ไซต์ facebook.com โปรแกรม Line สง่ ผลให้
การเรียนมีประสิทธิภาพตามรูปแบบ Active Learning นักเรียนได้รับความรู้ ทักษะ คุณลักษณะที่ดีตาม
จุดประสงค์การเรียนร้ทู ่ีวางไว้

9

1) ตัวอยา่ ง คลปิ วีดโี อการสอน ของ นายนรนิ ทร์ อนงค์ชัย
https://www.youtube.com/watch?v=lUfE7j_wfgg&t=2923s

2) ตวั อย่าง คลปิ วีดีโอการสอน ของ นายนรนิ ทร์ อนงค์ชยั
https://youtu.be/iifpMJuI1u8

2) ตัวอย่าง คลปิ วีดโี อการสอน ของ นายนรินทร์ อนงคช์ ัย
https://www.youtube.com/watch?v=NoimZp4kHdM

(3) แหลง่ เรยี นรภู้ ายในและภายนอก
1) เวบ็ ไซต์ครนู รินทร์ ที่ URL https://bit.ly/3c5NvP9
2) หอ้ งเรยี น Google Classroom https://classroom.google.com/h
3) หอ้ งเรียน Edpuzzle https://edpuzzle.com/

10

ผลงานเชงิ ประจักษ์ด้านการสรา้ งและพฒั นาส่ือ นวตั กรรม เทคโนโลยีทางการศึกษาและแหลง่
เรยี นรู้

1) เกียรติบัตร ครูผู้สอนดีเด่นในการนำเทคโนโลยีดิจิทัล มาประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการ
สอน ผา่ นกระบวนการนเิ ทศชน้ั เรียนดว้ ยระบบออนไลน์ โดย สำนกั งานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์
20/08/2564

2.1.4 การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ (5 คะแนน)
(1) การออกข้อสอบและแนวทางการวัดผล
ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า (COVID19) ข้าพเจ้าใช้การวัดและประเมินผล

การเรียนรู้ ท่ีเน้นการประเมนิ ตามสภาพจรงิ โดย มีแนวทางดงั น้ี
1) การประเมินการแสดงออกและกระบวนการ (performance and process) โดยการ

สังเกตพฤติกรรมเป็นรายบุคคล และสังเกตความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มจากพฤติกรรมที่แสดงออกในขณะท่ี
ผูเ้ รยี นเรียน หรือปฏิบัตกิ จิ กรรมตา่ ง ๆ สิ่งทสี่ งั เกตประกอบด้วย การสงั เกตสหี น้า ทา่ ทางในการแสดงออก การ
พดู โต้ตอบ ความเข้าใจเรอื่ งราวในเรื่องทีเ่ รียน เป็นต้น

2) การประเมินกระบวนการและผลผลติ (process and products) ประเมินดว้ ยแฟ้มสะสม
งาน (portfolio assessment) ให้ผูเ้ รยี นเก็บรวบรวมผลงานจากการปฏบิ ัติจริงท้ังในชั้นเรียนหรือในชีวิตจริงท่ี
มีจดุ ประสงค์เพอ่ื สะทอ้ นให้เห็นความ พยายาม เจตคติ แรงจูงใจ พัฒนาการ และผลสมั ฤทธิ์ของการเรียนรู้ของ
ผ้เู รียนและการวางแผนดำเนนิ งาน

11

(2) การตัดสนิ ผลการเรียนรู้
-ยังไมส่ ิน้ ภาคเรียน-

2.1.5 ศึกษาวิเคราะห์ สังเคราะห์ และหรือวิจยั เพื่อแก้ปัญหา หรอื พฒั นาการเรยี นท่ีส่งผลตอ่ คณุ ภาพ
ผู้เรยี น (5 คะแนน)

(1) ช่ือเรื่องวิจัยในชน้ั เรยี น
การพัฒนาทักษะการคิดและทักษะแก้ปัญหาของนักเรียนผ่านกระบวนการเรียนรู้แบบใช้

คำถามเปน็ ฐานทีย่ ึดหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งด้วยรูปแบบ IDPRS model

(2) บทคัดย่อ
การพัฒนาทักษะการคิดและทักษะแก้ปัญหาของนักเรียนผ่านกระบวนการเรียนรู้แบบใช้

คำถามเป็นฐานที่ยึดหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้วยรูปแบบ IDPRS model มีจุดประสงค์เพื่อ 1) เพื่อ
ศึกษาผลพฒั นาทักษะการคิดขั้นสงู โดยยดึ หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงร่วมกับรปู แบบการสอน IDPRS –
Model ในรายวิชาวิทยาการคำนวณ 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษา
ปีที่ 2 ก่อนและหลังเรียนด้วยการพัฒนาทักษะการคิดขั้นสูงโดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงร่วมกับ
รูปแบบการสอน IDPRS – Model ในรายวิชาวิทยาการคำนวณ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ที่มี
ต่อ การเรียนโดยใช้รูปแบบการพัฒนาทักษะการคิดขั้นสูงโดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงร่วมกับ
รูปแบบการสอน IDPRS – Model ในรายวิชาวิทยาการคำนวณ กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย สําหรับนักเรียนช้ัน
มัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทพอุดมวิทยา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 58 คน เครื่องมือที่ใช้ใน
การวิจัย คือ 1) แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิดและทักษะแก้ปัญหาของนักเรียนผ่าน
กระบวนการเรยี นรู้แบบใชค้ ำถามเป็นฐานท่ียึดหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงดว้ ยรูปแบบ IDPRS model
2) ขอ้ สอบกอ่ นพฒั นาและพลังพัฒนา

ผลการวิจยั
1) นกั เรยี นมพี ฤติกรรมที่แสดงใหเ้ ห็นว่ามีทักษะการคดิ เป็น คดิ ดว้ ยตนเอง อย่างเป็นขั้นตอน

ผ่านกระบวนการคิดมากยิ่งขึ้น ผ่านเทคนิคการเรียนรู้แบบ Think-Pair-Share เทคนิคการตั้งคำถาม
(Question to Learn) ในแต่ละขัน้ การสอน

2) นักเรียนได้เรียนรู้จากการปฏิบัติผ่านกระบวนการกลุ่ม ที่มีการวางแผน บทบาทอย่าง
ชดั เจน ผา่ นเทคนิค Group of 4 เทคนิคเกมเสริมทักษะ และเทคนิคบทบาทสมมตุ ิ เป็นต้น

3) นักเรียนได้ผลิตผลงานสะท้อนถึงทักษะการเขียน การวิเคราะห์ คิดเชื่อมโยง คิด
สร้างสรรค์ มที กั ษะการส่ือสารเพ่ิมข้ึน ผา่ นเทคนคิ การเรียนรู้แบบ Gellery Walk เทคนคิ Exit ticket รวมท้ัง
เทคนิคการตั้งคำถาม (Question to Learn) เปน็ ต้น

12

4) ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นของนักเรยี นช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ท่ีไดร้ ับพัฒนาทักษะการคิดข้ัน
สูงโดยยึดหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงร่วมกับรปู แบบการสอน IDPRS - Model หลังเรียน สูง กว่าก่อน
เรยี น

5) ความพงึ พอใจของนักเรยี นช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2 ทีม่ ตี ่อการเรยี นรเู้ พอื่ พัฒนาทกั ษะการคิด
ขั้นสงู โดยยึดหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงรว่ มกบั รูปแบบการสอน IDPRS – Model ในรายวชิ าวทิ ยาการ
คำนวณ สําหรบั นกั เรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 2 โรงเรยี นเทพอดุ มวิทยา อยูใ่ นระดับ ดีมาก

ผลงานเชงิ ประจักษ์ด้านศึกษาวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ และหรอื วิจัย เพอื่ แก้ปัญหา หรือ
พัฒนาการเรียนท่สี ่งผลต่อคุณภาพผเู้ รียน

13

2.2 ดา้ นการบรหิ ารจดั การชั้นเรยี น(10 คะแนน)
2.2.1 การบริหารจดั การชัน้ เรียนและจัดทำข้อมูลสารสนเทศ (5 คะแนน)
(1) การบริหารจัดการชัน้ เรียนดา้ นการเรียนการสอน
ข้าพเจ้าจัดสภาพแวดล้อมของห้องเรียนออนไลน์ ให้มีง่ายต่อการเข้าถึง โดยใช้ห้องเรียนที่

โรงเรียนได้ระบุในตารางไว้ สร้างระบบใช้งานที่ เอื้อต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน บริหารจัดการชั้นเรียนโดยการมี
สว่ นร่วมของผเู้ ก่ยี วข้องและผเู้ รยี นมคี วามสุข อีกทง้ั ส่งเสรมิ ผู้เรยี นให้เกิดกระบวนการคิด มที ักษะชวี ติ และการ
ทำงาน เช่น การจัดห้องย่อย ใน Google meet นอกจากนี้ยังส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมและคุณลักษณะอัน
พึงประสงค์ แก่ผู้เรียนทุกครั้งที่จัดการเรียนการสอน และมีการจัดรวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำสารสนเทศและ
เอกสารประจำวชิ าอยา่ งถูกตอ้ ง สามารถเข้าถงึ และใช้ระบบสารสนเทศในการเสรมิ สร้างและพัฒนาผู้เรยี น

(2) การจดั ทำข้อมูลสารสนเทศด้านการเรยี นการสอน
1) จดั ทำข้อมูลคะแนนของนกั เรยี นโดยใช้ ปพ.5 ออนไลน์ ท่ีโรงเรยี นจัดไวใ้ ห้ ที่

https://drive.google.com/drive/folders/1dk_mKa9gxU4A9TwLrsd6IcrUP5Q6s_4Q
2) จดั ทำแบบวเิ คราะห์ข้อมูลนักเรยี นในด้านตา่ งๆ ที่ ประกอบด้วย
• การวิเคราะห์พหุปัญญาของนักเรียน (MI)
• การวิเคราะหร์ ูปแบบการเรยี นของนักเรยี น (LSA)
• การวิเคราะห์ BMI ของนักเรยี น
• การวิเคราะห์ EQ ของนักเรยี น

https://sites.google.com/thepudom.ac.th/children-counseling/home

14

2.2.2 การจัดระบบดูแลช่วยเหลอื นกั เรียน (5 คะแนน)
(1) การดูแลชว่ ยเหลือนักเรียนในวชิ าทส่ี อน
ข้าพเจา้ ได้ตดิ ตามงานนักเรยี นท่ีสอน ผ่านกลุ่ม facebook และ แอปพลเิ คชนั่ ไลน์ LINE เปน็ ต้น

(2) การดูแลช่วยเหลือนักเรียนในหนา้ ทีค่ รทู ปี่ รึกษา
ข้าพเจ้าจัดทำฐานข้อมูลของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 ตามระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรียน

บริหารจัดการข้อมูลในระบบสารสนเทศ โดยใช้เว็บแอปพลิเคชั่น care4u โดย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
มธั ยมศึกษาสรุ นิ ทร์ http://care4u2564.secondary33.go.th/login.php

15

นอกจากนี้ ข้าพเจ้ามีห้องแชท เพื่อสนทนา ติดตาม กับนักเรียน ในช่วงภาวการณ์แพร่ระบาด
ของไวรัสสายพันธ์ใหม่ (COVID-19) เพื่อติดตามแก้ปัญหาหรือพัฒนาผู้เรียนสอดคล้องกับปัญหาหรือความ
ต้องการจำเป็นที่จะต้องดูแลช่วยเหลือผู้เรียนอย่างสร้างสรรค์และหลากหลาย ให้ได้เช่นเดียวกับสถานการณ์
ปกติ

16

2.3. ด้านการพฒั นาตนเองและพัฒนาวิชาชพี (10 คะแนน)
2.3.1 การพฒั นาตนเอง(5 คะแนน)

ครัง้ ท่ี วนั เดอื น ปี เรื่องท่ีรับการอบรม/พฒั นา สถานท่จี ัดอบรม หน่วยงานทจี่ ัด จำนวนชั่วโมง

1 28 เม.ย.2564 ผา่ น การอบรมสมั มนา ระบบออนไลนผ์ ่าน โครงการ 6 ชม.

Growth & Good Mindset โปรแกรม zoom โรงเรียนศีล 5 15 ชม.

พฒั นาเยาวชนอยา่ งไรใหม้ ี 6 ชม.
6 ชม.
Mindset แหง่ ความสำเรจ็ 6 ชม.

โครงการโรงเรียนรกั ษาศลี 5

เชิงคุณภาพ ครอบครัว

อบอุ่น

2 27 ม.ิ ย. 2564 ไดผ้ ่านการอบรมครู ระบบออนไลน์ สสวท.

หลักสูตรการจดั การเรียนรู้ ผ่านโปรแกรม

วทิ ยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ zoom

และเทคโนโลยี ทสี่ ่งเสริม

ทักษะการคิดและแก้ปัญหา

รปู แบบออนไลน์ ระดับ

มธั ยมศกึ ษา

2 30 ม.ิ ย.2564 อบรมการใชง้ านบอร์ด ระบบออนไลน์ผ่าน NECTEC

Corgi dude for AI รุ่นที่ 2 โปรแกรม Cisco

WebEx

3 16 ก.ค. 2564 อบรมเชิงปฏิบัตกิ ารใน โปรแกรม Cisco มหาวิทยาลัย

รปู แบบออนไลน์ หลกั สูตร WebEx ราชภฏั สรนิ ทร์

"การใชง้ านโปรแกรม Cisco รว่ มกบั สพม.

WebEx" สุรนิ ทร์

4 17 ก.ค.2564 อบรมครูและบคุ ลากร ระบบออนไลน์ผา่ น สหวิทยาเขต 8

ทางการศกึ ษา เพ่ือขอ โปรแกรม zoom

และเลอ่ื วทิ ยฐานะตาม

หลักเกณฑใ์ หม่

17

ครัง้ ท่ี วัน เดอื น ปี เร่อื งท่รี ับการอบรม/พฒั นา สถานท่จี ดั อบรม หนว่ ยงานท่ีจดั จำนวนชว่ั โมง

5 17 - 18 ก.ค. ผา่ นการอบรม หลักสูตร ระบบออนไลนผ์ ่าน สสวท. 12 ชม.
18 ชม.
2564 อบรมออไนลน์ Scratch ขน้ั โปรแกรม zoom 6 ชม.
15 ชม.
พน้ื ฐาน สำหรบั การจัดการ
12 ชม.
เรียนรวู้ ทิ ยาการคำนวณ

ระดับมธั ยมศึกษา

6 31 ก.ค. - 2 "การสง่ เสรมิ จดั การเรยี นรู้ โปรแกรม Cisco มหาวทิ ยาลยั

ส.ค. 2564 วิทยาการคำนวณและทักษะ WebEx ราชภฏั สรินทร์

โคด้ ดงิ้ เพื่อการสรา้ งสรรค์ รว่ มกับ สพม.

นวัตกรรมของครจู งั หวัด สรุ ินทร์

สุรนิ ทร"์

7 5 ส.ค.2564 อบรมออนไลน์ เร่ือง “การ ระบบออนไลน์ผ่าน จฬุ าลงกรณ์

พฒั นาการคิดสรา้ งสรรค”์ THAI MOOC มหาวทิ ยาลัย

8 14-15 ส.ค. ไดผ้ ่านการอบรมเชงิ ระบบออนไลนผ์ า่ น สพฐ.

2564 ปฏบิ ตั ิการพัฒนาทกั ษะการ Youtube OBEC

จดั การเรยี นรูร้ ูปแบบ Channel

ออนไลน์

สำหรับครูสงั กดั สำนกั งาน

คณะกรรมการการศกึ ษาขั้น

พน้ื ฐาน

9 17 - 18 ส.ค. การอบรมพัฒนาสมรรถนะ ระบบออนไลน์ผ่าน สพม.สุรนิ ทร์

2564 ครดู า้ นการขับเคลื่อน โปรแกรม Google

สถานศกึ ษาในการจัด meet

กจิ กรรมการเรยี นรบู้ ูรณา

การเรยี นรตู้ ามหลกั ปรัชญา

ของเศรษฐกจิ พอเพยี งเพ่ือ

เปน็ ต้นแบบท่มี ุ่งสร้างผูเ้ รียน

ใหเ้ กิดกระบวนการคดิ ข้ันสงู

สู่เป้าหมายการพัฒนาท่ี

ยั่งยนื (SEP for SDGs)

18

คร้งั ที่ วัน เดอื น ปี เรื่องที่รบั การอบรม/พฒั นา สถานท่ีจดั อบรม หน่วยงานทีจ่ ัด จำนวนช่วั โมง
6 ชม.
10 30 ส.ค.2564 การอบรมเชงิ ปฏบิ ตั ิการ โปรแกรม Cisco มหาวิทยาลยั
เสริมสร้างการเรียนรู้เพ่ือ WebEx ราชภฏั สรินทร์
พัฒนาทกั ษะการคิดเชิง ร่วมกับ สพม.
คำนวณของครผู สู้ อน
วชิ าการคำนวณและโค้ดดงิ้ สุรินทร์
ของครูในจังหวดั สรุ ินทร์

สรุปผลการอบรม/พัฒนา 10 ครั้ง 108 ชั่วโมง

2.3.2 การพฒั นาชมุ ชนการเรียนรูท้ างวชิ าชีพวชิ าชพี (5 คะแนน)
ข้าพเจา้ ได้เห็นความสำคัญของกะบวนการชุมชนแห่งการเรยี นรทู้ างวชิ าชีพ (Professional Learning

Community : PLC) การรวมตัว รวมใจ รวมพลัง ร่วมมือกันของคณะครู ผู้บริหาร และนักการศึกษา ใน
โรงเรียน เพื่อการเรียนรู้ ในสิ่งที่เป็นภารกิจสำคัญของวิชาชีพครู ปฏิสัมพันธ์" ลด "ความโดดเดี่ยว " การสอน
ของครู ร่วมกันเรียนรู้แนวทางแก้ปัญหาไปประยุกต์ใช้ ในชั้นเรียนอย่างสร้างสรรค์ร่วมกัน ข้าพเจ้าจึงได้
ดำเนินการดังนี้

(1) ขา้ พเจ้าปฎิบัติอย่างต่อเนื่อง
1) มีการรวมกลุ่มวางแผน เรียนร้ใู นเร่อื งเดียวกัน ตามปัญหา หรอื เปา้ หมายของกลุ่ม
ข้าพเจ้า ได้ร่วมจัดประชุมชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ ( Professional Learning

Community: PLC) เพื่อวางแผน เรียนรู้ในเรื่องเดียวกัน ตามปัญหา หรือเป้าหมายของกลุ่ม คือ การค้นหา
แนวทางการปฏบิ ตั งิ านทางวชิ าชีพ สู่การปฏบิ ัตกิ ารสอนของตนเอง บนพ้นื ฐานความสมั พนั ธ์แบบ กัลยาณมิตร
เพ่ือผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี นให้สงู ข้นึ ของผูเ้ รียน โดยความร่วมมือกนั บนองค์ประกอบพื้นฐาน คอื

2) มกี ระบวนการกจิ กรรมจากการรวมกลุ่ม ที่แสดงถงึ พฤติกรรมการสะท้อนผล ปรบั ปรุง และ
นำไปใชใ้ หม่

หลังจากได้เข้าร่วมกลุ่มชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ และได้ดำเนินการเยี่ยมชั้นเรียนแล้ว
ข้าพเจ้าและสมาชิกกลุ่ม จะนำผลการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนมาพิจารณาร่วมกัน เพื่อพิจารณา
ปรบั ปรุงหรอื พัฒนากิจกรรมต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพมากยงิ่ ขึน้ โดยมีขอ้ พจิ ารณา ดังน้ี

3) มกี ารชว่ ยกนั คิด ปรับปรุง และพัฒนาอยา่ งต่อเนื่อง
ด้วยโรงเรียนมีการกำหนดปฏิทินปฏิบัติงานของ ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional

Learning Community: PLC) เครอื ขา่ ยโรงเรยี นเทพอดุ มวทิ ยา ทกุ คนใหม้ ีการประชุม เป็นลายอกั ษร

19

(PLC) ของแต่ละกลุ่ม ซึ่งทำให้การดำเนินงานมีกำหนดเวลาที่ชัดเจน ส่งผลให้เกิดการ
รว่ มด้วยชว่ ยคิด ปรับปรงุ และพัฒนาตามกระบวนการ Plan – Do – See – Reflect อย่างต่อเนื่อง อย่างเห็น
ผลชัดเจน

(2) การบันทึก Log book
ข้าพเจ้ามีการบันทึกการปฏิบัติ Professional Learning Community : PLC ในรูปแบบ Log

book มีเนื้อหาสาระชัดเจนครอบคลุมประเด็น PLC โดยในการดำเนินงานในปีการศึกษา 2564 มีการบันทึก
ข้อมูลและอัพโหลดชิ้นงานจากกระบวนการ PLC ผ่านระบบ Google Classroom ที่มีลำดับเนื้อหา เป็น
ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั ิชัดเจน และมีแจง้ เตอื น

(3) มนี วัตกรรม
1) ในการดำเนนิ การตามกระบวนการ PLC ข้าพเจา้ ไดร้ ่วมกำหนดวิสัยทศั น์ เป้าหมาย และพนั ธกิจ

ที่สอดคล้องกับบริบทของโรงเรียน และเลือกกลุ่มเป้าหมายเพื่อการพัฒนา เพื่อให้การดำเนินงานได้สำเร็จได้
และมีการออกแบบนวัตกรรม ที่กลุ่ม PLC ได้เลือก โดยมีวัตถุประสงค์เป้าหมายสอดคล้องกับสภาพปัญหา
ความต้องการพัฒนา จากการศึกษาวิเคราะห์สภาพการดำเนนิ งาน วิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส อุปสรรค
ของตนเอง ผ่านการเก็บรวบรวมขอ้ มูลสำหรับศึกษาวิเคราะห์ แยกแยะนักเรียน เพื่อหาความแตกต่างระหว่าง
บุคคล ความพร้อมดา้ นความรพู้ ืน้ ฐาน และประสบการณ์เดิมทม่ี ีอยูก่ อ่ น ตลอดทัง้ ศกึ ษาวิเคราะห์เก่ียวกับความ
พรอ้ มดา้ นพฤตกิ รรม และองค์ประกอบความพร้อมด้านต่าง ๆ

2) มีแนวคิดทฤษฎีที่ระบุมีความเป็นไปได้ในการพัฒนานวัตกรรมให้สัมฤทธ์ิผล โดย ข้าพเจ้าได้
ศึกษาและวิเคราะห์เอกสาร งานวิจัยและผลงานทางวิชาการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ มาตรฐานทางวิชาชีพครู การ
ดำเนนิ งานชุมชนแห่งการเรยี นรู้ทางวิชาชีพ (PLC) และวิธกี ารเปิดชนั้ เรยี น (Lesson Plan) ทกั ษะที่สำคัญของ
ผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 กระบวนการสอนแบบ Active Leaning กระบวนการจดั การเรยี นรู้ท่ปี ระสบผลสำเร็จ
หลักการและแนวคิดในการจัดการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ และ หลักปรัชญาของเศษรฐกิจพอเพียงใน
กระบวนการปฏิบัติงานของครูและนักเรียน เพื่อวางรูปแบบที่เหมาะสมกับบริบทของโรงเรียน และความ
เปน็ ไปไดใ้ นการพฒั นานวตั กรรม

3) นวัตกรรมมีประสิทธิภาพ มีความสมบูรณ์ และมีความแปลกใหม่ สร้างสรรค์ รูปแบบกลยุทธ์
การจัดการเรียนรู้(Learning Management Strategy) ให้ได้นวัตกรรมที่จะนำไปพัฒนาทักษะการคิดขั้นสูง
โดยยึดหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงของในรายวิชาวิทยาการคำนวณ สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่
2 โรงเรียนเทพอุดมวิทยา โดยนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ นี้ มี 3 ลักษณะ คือ เทคนิคการสอน วิธีการสอน
และรูปแบบการสอน และมีความสัมพันธ์กัน โดย ได้กำหนดรูปแบบการสอน เพื่อการพัฒนาทักษะ
กระบวนการคิดขั้นสูงของนักเรียน ด้วยการจัดการเรียนรู้ที่ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงร่วมกับ
รปู แบบการสอน IDPRS – Model 5 ขน้ั ตอน ประกอบด้วย

1. ขัน้ Inspiration คือ ขน้ั สร้างแรงบนั ดาลในใจการเรยี นรู้ โดยครผู สู้ อนควรใชค้ ำถามเพ่ือ
การเรียนรู้ (Question to learn) ในขั้นนี้ เช่น มีปรากฏการณอ์ ะไรเกิดขึ้นท่ีน่าสนใจ เราเกี่ยวข้องกับเรือ่ งน้นั

20

อย่างไร ทั้งมิติทางเศรษฐกิจ มิติทางสังคม มิติทางสิ่งแวดล้อม และ มิติทางวัฒนธรรม แล้ว เราจะทำอะไร
ทำไมจงึ ต้องทำ เปน็ ต้น

2. ขั้น Define คือ ขั้นสถานการณ์ที่ท้าทาย โดยครูผู้สอนควรใช้คำถามเพื่อการเรียนรู้
(Question to learn) ในข้ันนี้ เชน่ ความรู้ทตี่ อ้ งใช้ คอื เร่อื งอะไรบ้าง มคี ุณธรรมเรือ่ งใดบา้ งท่เี กีย่ วขอ้ ง ชิน้ งาน
น้ีมีผลในมิตทิ างเศรษฐกจิ มิตทิ างสงั คม มิติทางส่ิงแวดล้อม และ มิติทางวฒั นธรรมอยา่ งไรบ้าง เปน็ ตน้

3. ขั้น Pratice คือ ขั้นฝึกฝน โดยใช้คำถามเพื่อการเรียนรู้ โดยครูผู้สอนควรใช้คำถามเพ่ือ
การเรียนรู้ (Question to learn) ในขั้นนี้ คือ ลงมือทำงานอย่างไรให้สำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มเทคนิค
การสอนตามรูปแบบ High-Impact Practices: HIP และเทคนิคการสอนแบบต่างๆ เช่น เทคนิค Group 4
เทคนิค Gallery walk เทคนคิ Think-Pair-Share เทคนิค Exit ticket รวมทง้ั เทคนคิ การตั้งคำถาม (Question
to Learn) เปน็ ต้น

4. ขั้น Result คือ ขั้นผลลัพธ์จากการเรียนรู้ โดยครูผู้สอนควรใช้คำถามเพื่อการเรียนรู้
(Question to learn) เช่น สิ่งใดท่นี ักเรียนทำได้ดี สง่ิ ใดท่นี ักเรียนควรเรียนรอู้ ะไรเพม่ิ เติม เปน็ ตน้

5. ขั้น Share คือ ขั้นสะท้อนผลการเรียนรู้ โดยครูผู้สอนควรใช้คำถามเพื่อการเรียนรู้
(Question to learn) เช่น ชิ้นงานมีคุณค่าต่อสังคมและผู้อื่นอย่างไร ข้อเสนอแนะในการทำงานต่อไปมี
อะไรบา้ ง

ผลงานงานเชงิ ประจักษด์ า้ นการพฒั นาชมุ ชนการเรยี นรู้ทางวชิ าชีพวิชาชีพ
(1) ชนะเลิศเหรยี ญทอง ครูผู้สอนยอดเยีย่ ม ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้ ส่งเสรมิ การใช้

นวตั กรรม PLC การประกวดรางวัลหนว่ ยงานและผมู้ ผี ลงานดเี ด่นประสพผลสำเร็จ ด้านเทคโนโลยีเพ่อื การ
เรยี นการสอน ครงั้ ที่ 10 ปกี ารศึกษา 2563 สำนักงานเขตพน้ื ทกี่ ารศึกษามัธยมศึกษา

21

(2) รองชนะเลิศอนั ดับ 2 เหรียญทอง ครูผสู้ อนยอดเยย่ี ม ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ สง่ เสรมิ
การใช้นวตั กรรม PLC การประกวดรางวลั หน่วยงานและผู้มีผลงานดีเดน่ ประสพผลสำเรจ็ ด้านเทคโนโลยเี พือ่
การเรียนการสอน ครง้ั ท่ี 10 ปกี ารศกึ ษา 2563 ระดบั ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ

22

2.4 งานอ่นื ที่ไดร้ ับมอบหมาย (5 คะแนน)
2.4.1 งานทไ่ี ด้รับมอบหมายตามโครงสร้างโรงเรียน
1) หวั หน้างานกจิ การนักเรยี น
2) หวั หนา้ งานป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมไมพ่ ึงประสงค์ งานกจิ การนักเรยี น
3) ครทู ป่ี รึกษานักเรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2/2
5) งานเวรประจำวนั
6) งานเวรยามกลางคนื
7) หัวหนา้ โครงการตามแผนปฏบิ ตั ริ าชการประจำปีงบประมาณ 2564 จำนวน 7 โครงการ
8) หัวหน้า โครงการกระบวนการชมุ ชนแหง่ การเรียนรทู้ างวิชาชพี (PLC)

2.4.2 งานทไ่ี ดร้ ับมอบหมายพิเศษจากโรงเรียน หรือจากหน่วยงานภายนอก
(1) คำส่งั คณะทำงานพฒั นาแนวการจดั การเรียนร้ตู ามโครงการอารยเกษตร สืบสาน รกั ษา ตอ่ ยอด

ตามแนวพระราชดำรเิ ศรษฐกิจพอเพียง ด้วย "โคก หนอง นา แหง่ นำ้ ใจและความหวัง" ระดับการศกึ ษาข้นั
พ้ืนฐาน ปีการศึกษา 2564

(2) วิทยากรในการอบรมเชิงปฏิบัติการ หลกั สตู รการจดั การเรยี นรู้ สำหรับวทิ ยากรแกนนำ
(Coding Core Trainer : CCT) 10 - 16 พฤษภาคม 2564

23

(3) คณะกรรมการอบรมเชิงปฏบิ ตั ิการจัดการเรียนรู้รูปแบบออนไลน์สำหรับครสู กั ัดสำนักงาน
คณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน สพฐ. (อ้างองิ https://webinar.dlit.ac.th/about)

(4) วิทยากรGoogle Educator Group Thailand ในงาน GEG Thailand LIVE EVENT 2021
หวั ขอ้ "ระบบสบื ค้นเกยี รตบิ ัตร จากคลังออนไลน์ ดว้ ย google Apps Script"

24

(5) วทิ ยากร ประชุมอบรมเชงิ ปฏิบัตกิ ารเพื่อพัฒนาบคุ ลากร "การจดั เกบ็ ข้อมูลสารสนเทศและ
เผยแพร่ผลงาน ตามมาตรฐานวชิ าชีพครู ผ่านระบบอเิ ล็กทรอนิกส์ ดว้ ย Google Sites" วันที่ 24-25 เดอื น
พฤษภาคม พ.ศ. 2564 ณ ห้องโสตทศั นศึกษา โรงเรียนเทพอุดมวิทยา

(6) วทิ ยากร การอบรมออนไลน์ OBEC 2021 Webinar "การจัดการเรียนการสอนออนไลน์ยุคปกติ
ใหม่ : มมุ มองของผู้บริหาร นักวิชาการ และ คร"ู ระหวา่ งวันที่ 17 - 21 พฤษภาคม 2564 โดย สำนกั งาน
คณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ร่วมมือกับหนว่ ยปฏิบตั ิการวิจัยส่ิงประดษิ ฐ์และวตั กรรมการศึกษา
ภาควิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศกึ ษา คณะครศุ าสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั

(6) วทิ ยากรศึกษานิเทศก์
(7) นำเสนอผลงาน Active
(8) วทิ ยากร ดิจิทลั แพลตฟอร์ม

(8) คณะกรรมการพฒั นาหลักสูตรภาษาเขมรเพื่อการสื่อสารท่ีเช่ือมโยงกับหลักสตู รเพื่ออาชีพมี
งานทำในศตวรรษท่ี 21

25

(9) วทิ ยากร อบรมปฏบิ ตั กิ ารสรา้ งและประยุกตใ์ ช้เทคโนโลยี และแพลตฟอร์มดจิ ทิ ัลเพื่อบริหาร
จัดการศึกษา ผา่ นระบบออนไลน์ 2-3 กนั ยายน 2563

(10) นำเสนอผลงานโรงเรียนท่มี ผี ลการดำเนนิ งานโครงการวจิ ยั และพฒั นานวตั กรรมการ
เรียนรู้Active Learning ร่วมกบั ภาคเี ครือขา่ ย ระดบั เขตพื้นท่ี สพม. สรุ ินทร์

(11) เป็นคณะวจิ ัย โครงการส่งเสรมิ การทำวิจยั เชิงพนื้ ทเี่ พือ่ การจดั ทำนโยบายการจัดการเรยี นรวู้ ถิ ี
ชวี ิตใหม่ : ขอ้ เสนอเชิงนโยบายการจดั การศึกษาในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เช้อื ไวรัสโคโรนา
COVID-19 ของโรงเรยี นในสังกดั สำนักงานเขตพืน้ ทกี่ ารศกึ ษามัธยมศึกษา 2564 (เอกสารอ้างอิงหนา้ 48 -50)

(12) เร่ือง แตง่ ต้ังคณะกรรมการบริหารวงเงินการเล่ือนเงินเดือนขา้ ราชการระดบั สำนักงานเขต
พ้ืนทก่ี ารศึกษา (เอกสารอา้ งอิงหน้า 51.)

26

ตอนท่ี 3 การประเมนิ การปฏบิ ัตติ นในการรกั ษาวนิ ัย คุณธรรม จรยิ ธรรม
และจรรณยาบรรณวิชาชีพ (30 คะแนน)

3.1 มคี วามซื่อสตั ย์ สุจริต รักษาประโยชน์ส่วนรวม ไมอ่ าศยั หรือยนิ ยอมใหผ้ ู้อื่นใชอ้ ำนาจและหนา้ ท่ี
ของตน เพ่ือแสวงหาประโยชน์ (5 คะแนน)

ขา้ พเจา้ ได้ปฏบิ ัตงิ านดว้ ยความซ่ือสัตย์ สุจริต รกั ษาประโยชนส์ ่วนรวม ไม่อาศยั หรือยินยอมใหผ้ ู้อืน่ ใช้
อำนาจและหน้าที่ของตน เพ่ือแสวงหาผลประโยชน์ โดยมแี นวทางในการปฏบิ ัตดิ งั นี้

• ปฏิบตั ิงานดว้ ยความซ่อื สัตยส์ ุจริต เทยี่ งตรงและ เที่ยงธรรมได้รบั การยอมรับจากเพื่อนร่วมงาน
และผู้บงั คับบัญชา ปฏิบตั ิหนา้ ทีด่ ้วยความซื่อสตั ยส์ จุ ริต รักษาผลประโยชน์ของทางราชการ ไมม่ ี
ผลประโยชน์ ทบั ซอ้ น ใชท้ รัพย์สนิ ของทางราชการอย่างคุ้มค่า ไมใ่ ชช้ อ่ งวา่ งทางระเบียบและกฎหมายเพื่อ
ประโยชน์สว่ นตนและผอู้ ืน่ ไม่แสวงหาผลประโยชนท์ ่เี กิดจากช่องว่างทางระเบยี บกฎหมายจากผปู้ กครองและ
นักเรียน ในงานท่เี กย่ี วกบั บทบาทหนา้ ท่ี และภารกิจที่ตนรับผดิ ชอบ

3.2 การปฏบิ ตั ติ ามระเบียบ กฎหมาย นโยบาย และคำสง่ั ของผู้บงั คบั บัญชา (5 คะแนน)
ขา้ พเจา้ เป็นผู้ปฏบิ ตั ิตามระเบียบ กฎหมาย นโยบาย และคำสง่ั ของผ้บู งั คับบญั ชา โดยมแี นวทางใน

การปฏบิ ตั ดิ ังน้ี
• มคี วามรู้ และปฏบิ ตั ิตามระเบยี บกฎหมายทีเ่ กยี่ วขอ้ ง ปฏิบตั ิงานตามคำส่ัง หรือนโยบายทช่ี อบ

ดว้ ยกฎหมายของผูอ้ ำนวยการโรงเรียน หรอื หนว่ ยงานต้นสังกัด

27

• ไมใ่ ชช้ ่องว่างทางระเบยี บ และกฎหมายกลน่ั แกลง้ ผู้อืน่
3.3 มคี วามวริ ยิ ะ อตุ สาหะ ตรงต่อเวลา และอุทศิ เวลาให้แกท่ างราชการ (5 คะแนน)

ขา้ พเจา้ ได้ปฏิบตั งิ านด้วยความวริ ิยะ อุตสาหะ จนงานสำเรจ็ บรรลุตามเป้าหมาย โดยมีแนวทางในการ
ปฏบิ ตั ิดังน้ี

• มกี ารพฒั นาตนเองและงานโดยใหห้ ลักการพัฒนาแบบมุ่งสัมฤทธ์ิ

• มที กั ษะการสอนงาน(Coaching)

• เป็นผตู้ รงต่อเวลา มคี วามรบั ผิดชอบตอ่ งาน ตามบทบาท หนา้ ที่ ภารกิจทไ่ี ดร้ บั มอบหมายมี
ความพร้อมในการปฏบิ ตั งิ านตามบทบาทหนา้ ที่ ภารกจิ ที่ไดร้ บั มอบหมาย และอุทิศเวลาโดยมีจติ สำนกึ และ
ความรบั ผิดชอบ

28

3.4 การมจี ิตสำนกึ ที่ดี มุ่งบริการต่อกล่มุ เป้าหมายผ้รู บั บริการโดยไมเ่ ลอื กปฏิบัติ (5 คะแนน)
ข้าพเจา้ เปน็ ผู้มจี ิตสำนึกท่ีดี ม่งุ บริการต่อกลมุ่ เปา้ หมายผู้รับบรกิ ารโดยไมเ่ ลือกปฏิบัติ โดยมแี นวทาง

ในการปฏิบัติดงั นี้
• มุง่ มั่นในการใหค้ วามรู้และวิธีปฏบิ ัตทิ ่ีถกู ต้องกบั กลมุ่ เป้าหมายผู้รับบริการ

• ใหบ้ รกิ ารกบั กล่มุ เป้าหมายผรู้ ับบรกิ ารในประเด็นทเี่ ก่ยี วข้องกบั การเรียนการสอนโดยไมเ่ ลอื ก
ปฏบิ ัติ

• ให้บริการกบั ผปู้ กครองในประเดน็ ท่ีเกยี่ วข้องกับการเรียนการสอนของผู้เรยี นในความปกครอง
โดยไม่เลือกปฏิบตั ิ

29

• ให้ความรว่ มมือกับประชาชน ชุมชนในประเด็นทเี่ ก่ียวข้องกับการพฒั นาผ้เู รียน โดยไมเ่ ลอื ก
ปฏบิ ัติ

3.5 การรกั ษาคณุ ภาพตามมาตรฐานวชิ าชีพและจรรยาบรรณวิชาชพี (5 คะแนน)
ข้าพเจ้าไดร้ ักษาคุณภาพตามมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณวชิ าชีพ โดยมแี นวทางในการปฏิบตั ิดังน้ี
• มีการเข้าร่วมกิจกรรมของวิชาชพี หรือองค์กรวชิ าชีพเพอื่ พฒั นาความเช่ียวชาญทางวิชาชีพของ

ตนเองอยา่ งสม่ำเสมอ (เอกสารอ้างอิงหน้าท่ี 45 )

• ใหค้ ำปรึกษาหรือช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายผูร้ ับบรกิ ารด้วยความเมตตากรณุ าอยา่ งเต็มกำลัง
ความสามารถและเสมอภาค

30

• ดำรงชีวิตตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

• ป้องกันความเส่ียงในการดำเนินชีวิตภายใตค้ วามร้แู ละคุณธรรมอนั ดี

• ไมเ่ ป็นปฏิปักษ์ตอ่ ความเจริญทางกาย สติปัญญา จิตใจอารมณ์ และสังคมของกลุ่มเปา้ หมาย
ผ้รู บั บริการบุคลากรทางการศึกษา และผูร้ ่วมงาน

3.6 การรกั ษาภาพลักษณแ์ ละความสามัคคใี นองคก์ ร ชุมชน และสังคม (5 คะแนน)
ข้าพเจา้ รักษาภาพลกั ษณ์และความสามคั คีในองค์กร ชมุ ชน และสงั คม โดยมีแนวทางในการปฏิบัติดังน้ี

• เขา้ ร่วมกจิ กรรมที่สง่ เสริมวัฒนธรรม ขนบธรรมเนยี มประเพณีอันดงี าม ขององค์กร สงั คม และ
สถานศึกษาอยา่ งสมำ่ เสมอ

31

• เข้าร่วมกจิ กรรมด้านสิง่ แวดล้อมและประโยชน์สาธารณะ

• ปฏบิ ตั ิตอ่ กลมุ่ เป้าหมายผูร้ ับบรกิ าร เพ่อื นร่วมงานและประชาชน อย่างเสมอภาคเท่าเทียมกนั

• เสรมิ สรา้ งความสามัคคี ช่วยเหลือเกื้อกูลในการทำงานหรือ อยรู่ ่วมกบั ผู้อื่น รวมทงั้ ปลูกฝังแก่
กล่มุ เปา้ หมายผรู้ บั บริการ

32

ขา้ พเจ้าขอรับรองวา่ ข้อมูลทไี่ ดป้ ระเมนิ ตนเองท้ังหมดถูกต้องตรงตามเอกสารหลักฐานท่ีมอี ยูจ่ ริง

ลงช่ือ ผรู้ ายงาน
( นายนรินทร์ อนงคช์ ยั )

ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพเิ ศษ
วนั ที่ 8 กันยายน 2564

33

ภาคผนวก

คาํ อธบิ ายรายวชิ า

รายวชิ า วิทยาการคาํ นวณ 1 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปท ่ี 1/1

รหสั วิชา ว21103 เวลา 20 ชวั่ โมง

ศกึ ษาแนวคดิ เชงิ นามธรรม การคดั เลือกคณุ ลักษณะทีจ่ าํ เปนตอการแกป ญ หา ขน้ั ตอนการแกปญหาการเขยี นรหสั ลาํ ลอง
และผงั งานการเขียนออกแบบและเขยี นโปรแกรมอยางงา ยท่มี ีการใชงานตวั แปร เง่อื นไข และการวนซํ้า เพือ่ แกปญ หาทาง
คณิตศาสตรหรือวทิ ยาศาสตรการรวบรวมขอ มลู ปฐมภมู ิ การประมวลผลขอ มลู การสรา งทางเลือกและประเมนิ ผลเพือ่ ตดั สินใจ
ซอฟตแ วรแ ละบรกิ ารบนอินเทอรเน็ตท่ใี ชใ นการจดั การขอ มลู แนวทางการใชงานเทคโนโลยสี ารสนเทศใหปลอดภยั การจดั การ
อตั ลกั ษณ การพจิ ารณาความเหมาะสมของเนอ้ื หา ขอ ตกลงและขอ กําหนดการใชส ือ่ และแหลงขอ มูล

นาํ แนวคดิ เชงิ นามธรรมและขน้ั ตอนการแกป ญหา ไปประยุกตใชใ นการเขียนโปรแกรม หรอื การแกปญหาในชวี ิตจรงิ รวบรวม
ขอ มูลและสรา งทางเลอื ก ในการตดั สนิ ใจไดอ ยางมปี ระสทิ ธิภาพและตระหนักถงึ การใชง านเทคโนโลยีสารสนเทศอยางปลอดภัย

เพอื่ สามารถการแกปญหาประยกุ ตใ ชความรูในการแกป ญ หาในชวี ติ จรงิ และทํางานรว มกนั อยางสรา งสรรคใช
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารอยางปลอดภยั รเู ทาทัน มีความรบั ผิดชอบ มีจริยธรรม

ตวั ชีว้ ดั

มาตรฐานการเรยี นรู ว. 4.2 เทคโนโลยี (วิทยาการคํานวณ)
1. ออกแบบอัลกอริทมึ ที่ใชแนวคดิ เชงิ นามธรรมเพ่ือแกป ญ หาหรอื อธบิ ายการทํางานทีพ่ บในชวี ิตจริง
2. ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอยา งงาย เพ่อื แกปญหาทางคณิตศาสตรหรือวทิ ยาศาสตร
3. รวบรวมขอ มูลปฐมภมู ิ ประมวลผล ประเมินผล นาํ เสนอขอ มูลและสารสนเทศ ตามวัตถปุ ระสงค
โดยใชซ อฟตแวรห รือบรกิ ารบนอนิ เทอรเ น็ตทีห่ ลากหลาย
4. ใชเทคโนโลยสี ารสนเทศอยา งปลอดภัย ใชส่อื และแหลงขอมลู ตามขอกาํ หนดและขอตกลง

รวมทง้ั หมด 4 ตัวช้ีวัด

โครงสรา งรายวิชา วทิ ยาการคาํ นวณ 1 รหสั วิชา ว21103

อัตราสว นคะแนนระหวา งเรยี น : สอบปลายภาค 70 : 30

ชั้นมธั ยมศกึ ษาปท่ี 1/1 จาํ นวน 20 ช่ัวโมง
จาํ นวนชั่วโมง
หนวยการเรียนรู ช่อื หนวย มาตรฐานการเรยี นรู/ ตัวชวี้ ดั ชั้นป นํ้าหนักคะแนน 3
10
1 การใชเทคโนโลยอี ยาง - ใชเทคโนโลยีสารสนเทศอยา งปลอดภัย ใช 5 3

ปลอดภยั สื่อและแหลง ขอ มูลตามขอ กําหนด 10 3

และขอตกลง

2 ขอมลู และการประมวล - รวบรวมขอมลู ปฐมภมู ปิ ระมวลผลประเมิน

ผล นาํ เสนอขอ มลู และสารสนเทศตาม

วตั ถุประสงคโดยใชซ อฟตแวรห รอื บรกิ าร

บนอนิ เทอรเนต็ ท่ีหลากหลาย

3 แนวคดิ เชงิ นามธรรม - ออกแบบอลั กอริทึมทีใ่ ชแ นวคดิ นามธรรม

เพื่อแกปญ หา หรืออธิบายการทาํ งานทพ่ี บ

ในชวี ิตจรงิ

สอบกลางภาค 15 1
15 3
4 การแกป ญหา - ออกแบบอัลกอริทมึ ที่ใชแ นวคิดนามธรรม
30 6
เพือ่ แกปญ หา หรืออธบิ ายการทํางานทพ่ี บ

ในชวี ติ จริง

- ออกแบบและเขียนโปรแกรมอยา งงายเพอื่

แกปญหาทางคณติ ศาสตรหรอื วิทยาศาสตร

5 การออกแบบอลั กอรทิ ึม - ออกแบบอัลกอรทิ ึมที่ใชแ นวคดิ นามธรรม

เพ่ือแกป ญ หา หรืออธบิ ายการทํางานทพ่ี บ

ในชวี ิตจริง

- ออกแบบและเขียนโปรแกรมอยา งงายเพื่อ

แกป ญหาทางคณิตศาสตรห รือวิทยาศาสตร

รวมคะแนนระหวางเรยี น 85
สอบปลายภาค 15 1
รวมคะแนน 100 20

คําอธิบายรายวชิ า

รายวิชา พน้ื ฐานการเขยี นโปรแกรม 1 ช้นั มัธยมศึกษาปท ี่ 1/1

รหัสวิชา ว21201 เวลา 20 ชั่วโมง

ศึกษาขั้นตอนการแกป ญหา การเขยี นรหัสลําลองและผงั งาน การเขยี นออกแบบและเขียนโปรแกรมอยา งงา ยท่ีมี
การใชง านตวั แปร เง่ือนไข และการวนซ้าํ เพอ่ื แกป ญหาทางคณิตศาสตรหรือวทิ ยาศาสตรซ อฟตแวรท ี่ใชใ นการเขียนโปรแกรม
เชน Scratch, python, java, c

โดยใชน าํ แนวคิดเชิงนามธรรมและขัน้ ตอนการแกปญ หา ไปประยกุ ตใ ชในการเขยี นโปรแกรม หรอื การแกปญ หาในชวี ติ จรงิ
เพ่ือสามารถการแกปญหาประยุกตใ ชความรใู นการแกป ญ หาในชีวิตจรงิ และทาํ งานรวมกันอยางสรางสรรค

ผลการเรยี นรู

มาตรฐานการเรยี นรู ว. 4.2 เทคโนโลยี (วทิ ยาการคํานวณ)
1. ออกแบบอลั กอรทิ มึ ทใี่ ชแนวคดิ เชิงนามธรรมเพอื่ แกปญ หาหรืออธบิ ายการทาํ งานทพ่ี บในชวี ิตจรงิ
2. ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอยางงาย เพ่ือแกปญหาทางคณติ ศาสตรห รอื วิทยาศาสตร
รวมทัง้ หมด 2 ตัวชว้ี ดั

โครงสรา งรายวชิ า พ้ืนฐานการเขียนโปรแกรม 1 รหัสวิชา ว21201

อตั ราสว นคะแนนระหวา งเรยี น : สอบปลายภาค 70 : 30

ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท่ี 1/1 จํานวน 20 ช่วั โมง
จาํ นวนชั่วโมง
หนว ยการเรยี นรู ชื่อหนว ย มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ช้ีวัดช้นั ป นา้ํ หนักคะแนน 3
ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอยางงายเพื่อ 10
1 ออกแบบและเขยี น แกปญ หาทางคณติ ศาสตรหรอื วทิ ยาศาสตร

โปรแกรมอยางงาย

2 ตัวแปรในการเขยี น ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอยางงายเพอื่ 5 3

โปรแกรม แกป ญหาทางคณิตศาสตรหรอื วิทยาศาสตร

3 การเขยี นโปรแกรมแบบ ออกแบบและเขียนโปรแกรมอยางงายเพื่อ 10 3
วนซ้าํ แกปญ หาทางคณิตศาสตรห รือวทิ ยาศาสตร

สอบกลางภาค 15 1
15 3
5 การเขยี นโปรแกรมแบบ ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอยางงา ยเพอ่ื

แบบมเี งอ่ื นไข แกปญหาทางคณติ ศาสตรหรอื วิทยาศาสตร

6 การแกป ญหาและเขียน ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอยางงายเพอ่ื 30 6
โปรแกรมและประยุกต แกปญ หาทางคณติ ศาสตรห รอื วทิ ยาศาสตร
ใชง าน

รวมคะแนนระหวางเรียน 85
สอบปลายภาค 15 1
รวมคะแนน 100 20

คําอธิบายรายวชิ า

รายวชิ า วทิ ยการคาํ นวณ 2 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปท่ี 2/1

รหสั วชิ า ว22103 เวลา 20 ชว่ั โมง

ศกึ ษาแนวคิดเชิงคาํ นวณ การแกป ญ หาโดยใชแ นวคิดเชงิ คาํ นวณ การเขียนโปรแกรมทม่ี ีการใชตรรกะและ ฟงกชัน
องคประกอบและหลักการทาํ งานของระบบคอมพวิ เตอร เทคโนโลยีสื่อสาร แนวทางการปฏิบตั ิเม่ือพบเน้ือหาทีไ่ มเ หมาะสม
การใชเทคโนโลยีสารสนเทศอยางมคี วามรับผดิ ชอบ วธิ กี ารสรา งและกําหนดสทิ ธคิ วามเปนเจา ของผลงาน

นาํ แนวคิดเชงิ คาํ นวณไปประยุกตใชในการเขียนโปรแกรมหรือการแกปญ หาในชวี ติ จริง สรางและกาํ หนดสทิ ธ์ิ
การใชขอมูล ตระหนกั ถึงผลกระทบในการเผยแพรขอมลู

เพื่อสามารถการแกป ญหาประยุกตใชความรูใ นการแกป ญ หาในชวี ิตจรงิ และทาํ งานรว มกันอยา งสรางสรรค
ใชเ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สารอยา งปลอดภัย รูเทาทัน มีความรับผดิ ชอบ มีจรยิ ธรรม

ตวั ช้ีวดั

มาตรฐานการเรยี นรู ว. 4.2 เทคโนโลยี
1. ออกแบบอลั กอรทิ ึมท่ใี ชแ นวคดิ เชงิ คํานวณในการแกปญหา หรอื การทาํ งานที่พบในชวี ติ จรงิ
2. ออกแบบและเขยี นโปรแกรมทใี่ ชต รรกะและฟง กช ันในการแกป ญ หา
3. อภิปรายองคป ระกอบและหลักการทํางานของระบบคอมพิวเตอร และเทคโนโลยกี ารสือ่ สารเพื่อประยุกตใ ช

งานหรือแกปญ หาเบื้องตน
4. ใชเ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา งปลอดภัย มีความรบั ผดิ ชอบ สรางและแสดงสทิ ธิใ์ นการเผยแพรผ ลงาน
รวมท้ังหมด 4 ตัวช้ีวัด

โครงสรา งรายวิชา วิทยการคาํ นวณ 2 รหสั วิชา ว22103

อัตราสวนคะแนนระหวางเรยี น : สอบปลายภาค 70 : 30

ช้ันมัธยมศกึ ษาปที่ 2/1 จาํ นวน 20 ชัว่ โมง
จํานวนชั่วโมง
หนวยการเรียนรู ชื่อหนว ย มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ช้วี ัดช้นั ป น้าํ หนักคะแนน 2
ว 4.2/4 5
1 การใชเ ทคโนโลยี

สารสนเทศอยางมี

ความรบั ผิดชอบ

2 หลกั การทาํ งานของ ว 4.2/3 10 2
ระบบคอมพิวเตอร

3 เทคโนโลยกี ารสือ่ สาร ว 4.2/3 10 2

สอบกลางภาค 15 1
4 แนวคิดเชงิ คาํ นวณ ว 4.2/1 15 4

5 การแกปญ หาดว ย ว 4.2/1 4.2/2 30 8
การเขยี นโปรแกรม

รวมคะแนนระหวางเรยี น 85
สอบปลายภาค 15 1
รวมคะแนน 100 20

คําอธิบายรายวชิ า

รายวชิ า พื้นฐานการเขยี นโปรแกรม 2 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปท ่ี 2/1

รหัสวชิ า ว22103 เวลา 20 ชัว่ โมง

ศึกษาขั้นตอนการแกป ญ หา การเขียนรหสั ลาํ ลองและผังงาน การเขยี นออกแบบและเขยี นโปรแกรมอยางงา ยท่มี ี
การใชงานตัวแปร เงอ่ื นไข และการวนซํ้า เพ่อื แกปญ หาทางคณิตศาสตรหรอื วิทยาศาสตรซ อฟตแ วรท่ีใชในการเขียนโปรแกรม
เชน Scratch, python, java, c

โดยใชนําแนวคิดเชิงนามธรรมและขน้ั ตอนการแกปญ หา ไปประยุกตใชในการเขียนโปรแกรม หรือการแกปญ หาในชวี ติ จริง
เพ่อื สามารถการแกปญหาประยุกตใ ชความรูในการแกป ญ หาในชวี ิตจรงิ และทํางานรว มกันอยางสรางสรรค

ผลการเรียนรู

มาตรฐานการเรยี นรู ว. 4.2 เทคโนโลยี
1. ออกแบบอลั กอริทมึ ที่ใชแนวคดิ เชิงนามธรรมเพ่ือแกปญ หาหรอื อธบิ ายการทํางานทีพ่ บในชีวติ จริง
2. ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอยางงา ย เพ่อื แกปญ หาทางคณติ ศาสตรหรือวทิ ยาศาสตร
รวมท้ังหมด 2 ตัวชีว้ ดั

โครงสรา งรายวชิ า พนื้ ฐานการเขียนโปรแกรม 2 รหัสวิชา ว22103

อัตราสวนคะแนนระหวางเรยี น : สอบปลายภาค 70 : 30

ชัน้ มธั ยมศึกษาปท ่ี 2/1 จาํ นวน 20 ชว่ั โมง
จาํ นวนช่วั โมง
หนว ยการเรียนรู ช่ือหนวย มาตรฐานการเรยี นร/ู ตัวชีว้ ดั ชน้ั ป นา้ํ หนักคะแนน 2
ออกแบบและเขียนโปรแกรมอยางงา ยเพื่อ 5
1 บอรดอเิ ลก็ ทรอนกิ ส แกป ญหาทางคณิตศาสตรห รอื วิทยาศาสตร

2 การกาํ หนดตวั แปร ออกแบบและเขียนโปรแกรมอยางงายเพือ่ 10 2
เพือ่ การเขยี นโปรแกรม แกป ญหาทางคณติ ศาสตรห รอื วิทยาศาสตร

3 การเขียนโปรแกรมแบบ เขยี นโปรแกรมอยา งงา ย เพ่อื ประยกุ ตใชง าน 10 2
มีเงือ่ นไข

สอบกลางภาค 15 1
15 4
4 การเขยี นโปรแกรมแบบ ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอยางงายเพ่อื
วนซํา้ แกปญหาทางคณิตศาสตรหรือวทิ ยาศาสตร

5 การแกป ญหาดวยการ ออกแบบและเขียนโปรแกรมอยา งงายเพอ่ื 30 8
เขยี นโปรแกรมบนบอรด แกปญหาทางคณิตศาสตรหรอื วทิ ยาศาสตร
อเิ ล็กทรอนกิ ส

รวมคะแนนระหวา งเรียน 85
สอบปลายภาค 15 1
รวมคะแนน 100 20

คําอธิบายรายวชิ า

รายวิชา ภาษาอังกฤษพ้ืนฐาน ชนั้ มัธยมศกึ ษาปท ่ี 3/1

รหสั วิชา อ23101 เวลา 60 ชั่วโมง

เขาใจคําแนะนาํ อานออกเสียงขอความ และบทรอยกรองส้นั ๆ ถูกตอ งตามหลกั การอา น ระบุ/เขยี นสอ่ื ทีไ่ มใ ช
ความเรยี งรูปแบบตา งๆ สัมพนั ธก บั ประโยคและขอ ความท่ีฟง และอาน เลอื ก/ระบุหวั ขอ เรอื่ ง ใจความสาํ คญั รายละเอยี ด
สนบั สนุน และแสดงความคดิ เห็นเก่ยี วกบั เร่ืองทฟี่ ง และอา น สนทนาและเขียนโตตอบขอ มลู เก่ยี วกับตนเองและเรอ่ื งตางๆ ใกลตัว
สถานการณ เร่อื งทอ่ี ยใู นความสนใจของสังคม ใหค ําแนะนําอยางเหมาะสม พดู และเขยี นเพอ่ื ขอและใหขอ มูล บรรยายความรสู กึ
และความคิดเห็น บรรยายเกย่ี วกับตนเอง ประสบการณ ขาว/เหตกุ ารณ/เรอ่ื ง/ประเดน็ ตา งๆ ทีอ่ ยใู นความสนใจของสังคม
สรุปใจความสาํ คญั /แกน สาระ เลอื กใชภาษา นา้ํ เสียง และกริ ยิ าทาทางเหมาะกบั บุคคลและโอกาส ตามมารยาทสงั คมและ
วัฒนธรรมของเจา ของภาษา อธิบายเกีย่ วกบั ชีวิตความเปนอยู ขนบธรรมเนยี มและประเพณีของเจา ของภาษา เขารว ม/จดั กิจกรรม
ทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ เปรียบเทยี บ
และอธิบายความเหมือนและความแตกตางระหวา งการออกเสยี งประโยคชนิดตา งๆ
และการลําดับคําตามโครงสรา งประโยคของภาษาตา งประเทศและภาษาไทย เปรียบเทยี บและอธบิ ายความเหมือนและความแตกตาง
ระหวางชีวติ ความเปนอยแู ละวฒั นธรรมของเจา ของภาษากับของไทย
โดยใชกระบวนการ คน ควา รวบรวม และสรุปขอมูล/ขอ เทจ็ จรงิ ทีเ่ กย่ี วของกบั กลุมสาระการเรยี นรูวทิ ยาศาสตร สงั คมศึกษา
ศาสนา และวฒั นธรรม (ภมู ิศาสตรแ ละประวตั ศิ าสตร) จากแหลง การเรยี นรู และนําเสนอดวยการพดู และการเขยี น ใชภ าษาสื่อสาร
ในสถานการณจ รงิ /สถานการณจําลองท่เี กิดข้นึ ในหองเรยี น ใชภาษาตา งประเทศในการสบื คน /คน ควา รวบรวม และสรุปความร/ู
ขอ มูลตา งๆ จากสอื่ และแหลง การเรยี นรูต างๆ ในการศกึ ษาตอ และประกอบอาชีพ เผยแพร/ ประชาสัมพนั ธขอมูล
ขาวสารของโรงเรยี น
ชุมชน และทองถนิ่ เปนภาษาตางประเทศ
เพื่อใหม ที กั ษะการใชภ าษาตา งประเทศ (เนน การฟง-พดู -อา น-เขยี น) ส่อื สารตามหัวเร่ืองเก่ียวกบั ตนเอง ครอบครัว โรงเรียน

สิ่งแวดลอม อาหาร เครื่องดมื่ เวลาวา งและนันทนาการ สขุ ภาพและสวสั ดิการ การซือ้ -ขาย การศึกษาและอาชีพ สถานที่ และ
วิทยาศาสตรและเทคโนโลยี มีความใฝเรยี นรู มงุ มั่นในการทาํ งาน และอยอู ยางพอเพียง

ตัวช้ีวดั

ต 1.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4 ต 1.2 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/4, ม.3/5
ต 1.3 ม.3/1, ม.3/2 ต 2.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3
ต 2.2 ม.3/1, ม.3/2 ต 3.1 ม.3/1
ต 4.1 ม.3/1 ต 4.2 ม.3/1, ม.3/2
รวม 19 ตัวชว้ี ดั

โครงสรางรายวชิ า ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน รหสั วชิ า อ23101

อัตราสว นคะแนนระหวางเรยี น : สอบปลายภาค 70 : 30

ชนั้ มัธยมศึกษาปที่ 3/1 จํานวน 20 ชว่ั โมง
จาํ นวนชว่ั โมง
หนวยการเรยี นรู ชอื่ หนว ย มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวชีว้ ัดชน้ั ป นํ้าหนกั คะแนน 10
ต 1.1 ม.2/2, ต 1.1 ม.2/3, ต 1.1 ม.2/4 13
1 Eating Out ต 1.2 ม.2/1, ต 1.2 ม.2/5, ต 1.3 ม.2/1
ต 1.3 ม.2/3, ต 2.2 ม.2/1

2 Shopping Experiencesต 1.1 ม.2/1, ต 1.1 ม.2/2, ต 1.1 ม.2/3 12 10
ต 1.1 ม.2/4, ต 1.2 ม.2/1, ต 1.2 ม.2/2
ต 1.2 ม.2/5, ต 1.3 ม.2/1, ต 2.1 ม.2/1
ต 2.2 ม.2/1, ต 3.1 ม.2/1

3 Meet the Natural ต 1.1 ม.2/2, ต 1.1 ม.2/3, ต 1.1 ม.2/4 10 9
World ต 1.2 ม.2/1, ต 2.1 ม.2/1, ต 4.1 ม.2/1

สอบกลางภาค 15 1
13 10
4 That’s Entertainment! ต 1.1 ม.2/2, ต 1.1 ม.2/4, ต 1.2 ม.2/1
ต 1.2 ม.2/3, ต 1.3 ม.2/1, ต 2.1 ม.2/1
ต 4.1 ม.2/1

5 Talented Teens ต 1.1 ม.2/2, ต 1.1 ม.2/3, ต 1.1 ม.2/4 12 10
ต 1.2 ม.2/1, ต 1.3 ม.2/1, ต 3.1 ม.2/1

6 Family Relationships ต 1.1 ม.2/2, ต 1.1 ม.2/4, ต 1.2 ม.2/1 10 9
ต 1.3 ม.2/1, ต 2.1 ม.2/1, ต 4.1 ม.2/1

รวมคะแนนระหวา งเรยี น 85
สอบปลายภาค 15 1
รวมคะแนน 100 60

คาํ อธบิ ายรายวชิ า

รายวิชา ภาษาอังกฤษเพิม่ เตมิ ชั้นมธั ยมศึกษาปที่ 4/1

รหัสวชิ า อ31201 เวลา 60 ชั่วโมง

ฝก ทักษะการอานเพอ่ื จับใจความสาํ คญั วเิ คราะหค วาม สรุปความ จากเรื่องประเภทสารคดีและบนั เทิงคดี
ฝก ทกั ษะการพดู และเขยี นเพอ่ื ขอและใหขอมูล แสดงความคดิ เห็น พรอ มใหเหตุผลเก่ียวกับเร่ืองตา งๆ เชน การสรุปขาว เหตุการณ
ที่เกิดขึ้นท้งั ในระดบั ทอ งถิ่น ระดบั ภมู ภิ าค และระดบั ประเทศไดอ ยางเหมาะสม ใชภาษาส่ือสารในสถานการณจริง สถานการณจ าํ ลอง
ท่เี กิดขึ้นในหอ งเรยี น และนอกหอ งเรียน รวมถึงใชความรูทางภาษาในการศึกษาคนควา สบื คนขอมูล ความรูจากแหลง การเรียนรูตางๆ
เชน แหลงขอ มลู สารสนเทศ และหองสมุด

เพอื่ ใหผ ูเ รียนพฒั นาทกั ษะการวิเคราะห และการคดิ อยางมีวิจารณญาณ โดยการต้งั คําถามและ การใหเหตผุ ล
ตลอดจนเสริมสรางคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงคเพอื่ ใหผูเ รยี นสามารถใชภาษาในการสอื่ ความหมายในสถานการณตา งๆ
ไดอยางคลอ งแคลว ถกู ตอง และเหมาะสม

ผลการเรยี นรู
1. จบั ใจความสําคัญ วิเคราะหความ สรุปความ และแสดงความคดิ เหน็ จากการอา นเรอ่ื งที่เปน สารคดี
และบันเทิงคดี
2. ใชภ าษาเพอ่ื การสอื่ สารในการขอและใหขอมูล และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเร่ืองตาง ๆ อยา งเหมาะสม

รวมทงั้ หมด 2 ผลการเรียนรู

โครงสรางรายวชิ า ภาษาอังกฤษเพ่ิมเติม รหัสวชิ า อ31201

อัตราสวนคะแนนระหวา งเรียน : สอบปลายภาค 70 : 30

ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 4/1 จาํ นวน 20 ชว่ั โมง
จํานวนชว่ั โมง
หนวยการเรยี นรู ชือ่ หนว ย มาตรฐานการเรยี นร/ู ตัวช้วี ดั ชัน้ ป นาํ้ หนักคะแนน 7
ขอ 1, ขอ 2 13
1 Acting Coach

2 Fixer ขอ 1, ขอ 2 12 7

3 3 Solo Photographer ขอ 1, ขอ 2 12 6

สอบกลางภาค ขอ 1, ขอ 2 15 1
4 Barber 10 6

5 Dental Receptionist ขอ 1, ขอ 2 74

6 Nail Salon ขอ 1, ขอ 2 84
Receptionist

7 Thai Traditional ขอ 1, ขอ 2 84
Masseuse

รวมคะแนนระหวา งเรียน 85
สอบปลายภาค 15 1
รวมคะแนน 100 40




Click to View FlipBook Version