แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๒๖ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย
รายวิชา ภาษาไทย ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๓ จำนวน ๖ ช่ัวโมง
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๕ เรื่อง เชา้ ฮาเยน็ เฮ เวลาเรียน ๑ ชวั่ โมง
เร่อื ง การอา่ นจับใจความสำคัญ
๑. สาระการเรียนร้แู ละมาตรฐานการเรยี นรู้
สาระท่ี ๑ การอ่าน
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรแู้ ละความคดิ เพอื่ นำไปใชต้ ัดสินใจ
แก้ปัญหาในการดำเนนิ ชีวิต และมีนิสัยรกั การอ่าน
๒. สาระสำคัญ
การอา่ นเพ่ือจบั ใจความสำคญั เป็นพน้ื ฐานท่จี ำเปน็ ในการศึกษาหาความรู้ จงึ ควรฝึกฝนใหเ้ กิดความ
ชำนาญจนสามารถจับใจความสำคัญในงานเขยี นทุกประเภท
๓. ตัวช้วี ัด
ม.๓ / ๓ ระบใุ จความสำคัญและรายละเอยี ดของข้อมูลท่สี นับสนนุ จากเรื่องทอ่ี ่าน
๔. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
๔.๑ ดา้ นความรู้
นกั เรยี นสามารถบอกหลักในการอ่านในใจทถ่ี ูกต้องได้
๔.๒ ด้านทักษะและกระบวนการ
นกั เรียนสามารถจบั ใจความสำคญั แสดงความคดิ เหน็ เชงิ วิเคราะห์ ได้อย่างมเี หตุผล
๔.๓ ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
มมี ารยาทในการอา่ น
๕. สาระการเรยี นรู้ / เน้อื หา
การอ่านในใจ อ่านจบั ใจความบทเรยี นเรอ่ื ง เชา้ ฮาเยน็ เฮ
๖. กจิ กรรมการเรียนรู้
๖.๑ ข้นั นำเข้าสู่บทเรยี น
๑. ครนู ำภาพโฆษณา “จน...เครยี ด...กนิ เหล้า” และแผน่ ปลวิ โฆษณา “รวยไมต่ อ้ งลุ้น”
ของสำนักงานกองทนุ สนบั สนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มาใหน้ ักเรยี นดู แลว้ สนทนากับนกั เรียนเรอื่ ง
“เชา้ ฮาเยน็ เฮ”
๒. นกั เรียนทุกคนทำแบบทดสอบก่อนเรยี นบทท่ี ๔ “ เชา้ ฮาเย็นเฮ” เสร็จแลว้ นำสง่
ครตู รวจสอบความถูกต้องและประกาศผลโดยทย่ี ังไม่ต้องเฉลย
๖.๒ ขัน้ การจดั กจิ รรมการเรยี นรู้
๓. นักเรยี นแบง่ กลมุ่ ออกเป็น ๓ กลุ่ม ให้ออกมาอ่านเรื่อง “เชา้ ฮาเย็นเฮ” จากหนังสอื
ววิ ธิ ภาษา โดยใหก้ ลมุ่ ๑ อา่ นบทบรรยาย กลมุ่ ๒ อ่านบทของสุพจน์ และกลุม่ ที่อา่ นบทของ ศรนั ย์
๖.๓ ข้ันสรปุ ความรู้
๔. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรปุ ใจความสำคญั ของเรื่อง สรุปเกีย่ วกบั พฤติกรรมดา้ น
ความพอเพียงของนักเรียนทกุ คน
๗. สื่อการเรียนร้/ู แหลง่ เรียนรู้
๗.๑ สอ่ื การเรียนรู้
ใบความรู้
หนังสอื ภาษาไทย วิวธิ ภาษา ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๓
ใบงาน
แบบฝึกหัดภาษาไทย
๗.๒ แหล่งเรยี นรู้
-
๘. การวัดผลและประเมินผลการเรยี นรู้
ส่ิงที่วดั ผล วิธีวัดผล เครือ่ งมือวดั ผล เกณฑ์การประเมนิ
๑. ความร(ู้ K)
นักเรียนสามารถบอก สงั เกต - พฤติกรรมการเรียน รอ้ ยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์
ของนักเรยี น
หลกั ในการอา่ นในใจท่ี - การซักถาม และ
การตอบคำถาม
ถูกต้องได้
๒. ทกั ษะและกระบวนการ (P) - ใบงาน ร้อยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์
นกั เรยี นสามารถจับ ตรวจ - แบบทดสอบ
ใจความสำคัญ แสดง
ความคดิ เหน็ เชงิ วเิ คราะห์ แบบประเมิน ๓ ดมี าก
ไดอ้ ย่างมเี หตุผล
๓. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A)
มีมารยาทในการอ่าน สงั เกต
พฤติกรรมการเรียนรู้ ๒ ดี
๑ ปรบั ปรงุ
ลงชือ่
(นาย ทศพล ลาภจรัสแสงโรจน์)
ครูผูส้ อน
ความคดิ เหน็ ของผูบ้ รหิ าร
อนุญาต ให้ใชแ้ ผนการจัดการเรยี นรู้
ไม่อนุญาต ใหใ้ ช้แผนการจดั การเรียนรู้ เนอ่ื งจาก ……………………………………………………
ลงชอื่
(นายเอกบรรจง บญุ ผ่อง)
ผู้อำนวยการโรงเรียนบา้ นบงึ “อุตสาหกรรมนุเคราะห์”
บนั ทึกผลการสอน
๑. ผลการจดั การเรียนรู้
๑.๑ ดา้ นความรู้
............................................................................................................................
๑.๒ ดา้ นทักษะและกระบวนการ
....................................................................................................... .....................
๑.๓ ด้านคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
............................................................................................................................
๒. ปัญหาตา่ งๆ ทพ่ี บจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
............................................................................................................................
๓. ขอ้ เสนอแนะเพ่ือปรับปรงุ แก้ไขในการจัดการเรยี นรู้คร้ังตอ่ ไป
................................................................................................. ...........................
ลงช่ือ
( นาย ทศพล ลาภจรสั แสงโรจน์)
ครูผ้สู อน
ความคิดเห็นของรองผู้อำนวยการโรงเรียนกลุ่มบริหารงานวชิ าการ
ทราบ
ข้อเสนอแนะ
............................................................................................................................
ลงช่ือ
(นางรุศดา บุญกระพอื )
รองผู้อำนวยการโรงเรยี นกลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ
ความคดิ เห็นของผู้บริหารสถานศกึ ษา
ทราบ
ขอ้ เสนอแนะ
............................................................................................................................
ลงชอื่
(นายเอกบรรจง บญุ ผ่อง)
ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนบา้ นบึง “อุตสาหกรรมนุเคราะห์
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๒๗ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย
รายวชิ า ภาษาไทย ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๓ จำนวน ๖ ช่วั โมง
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๕ เร่อื ง เชา้ ฮาเย็นเฮ เวลาเรยี น ๑ ชั่วโมง
เร่อื ง การอา่ นจบั ใจความสำคัญ
๑. สาระการเรยี นรูแ้ ละมาตรฐานการเรยี นรู้
สาระท่ี ๑ การอ่าน
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรู้และความคิดเพือ่ นำไปใช้ตัดสินใจ
แกป้ ัญหาในการดำเนนิ ชีวิต และมนี สิ ัยรกั การอ่าน
๒. สาระสำคญั
การอา่ นเพื่อจบั ใจความสำคัญ เป็นพน้ื ฐานท่ีจำเป็นในการศึกษาหาความรู้ จงึ ควรฝึกฝนใหเ้ กิดความ
ชำนาญจนสามารถจับใจความสำคญั ในงานเขยี นทุกประเภท
๓. ตวั ชวี้ ดั
ม.๓ / ๓ ระบใุ จความสำคัญและรายละเอียดของข้อมลู ทสี่ นบั สนุนจากเรือ่ งทีอ่ ่าน
๔. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
๔.๑ ด้านความรู้
นักเรยี นสามารถบอกหลักในการอ่านในใจท่ถี ูกต้องได้
๔.๒ ด้านทกั ษะและกระบวนการ
นกั เรียนสามารถจับใจความสำคญั แสดงความคิดเหน็ เชงิ วิเคราะห์ ไดอ้ ย่างมีเหตผุ ล
๔.๓ ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
มมี ารยาทในการอา่ น
๕. สาระการเรยี นรู้ / เน้ือหา
การอ่านในใจ อ่านจบั ใจความบทเรยี นเรื่อง เชา้ ฮาเยน็ เฮ
๖. กจิ กรรมการเรียนรู้
๖.๑ ขน้ั นำเขา้ สู่บทเรยี น
๑. ครูทบทวนความรู้เดิมจากชั่วโมงทผ่ี ่านมาโดยการให้นักเรยี นช่วยกันอ่านเร่ืองเชา้ ฮาเย็น
เฮ
๖.๒ ขัน้ การจดั กจิ รรมการเรยี นรู้
๒. เม่ือฟังการอ่านเร่ืองเช้าฮาเย็นเฮจบแล้ว ให้นกั เรียนตอบคำถามจากกจิ กรรมใบงาน
เมื่อทำเสรจ็ แล้วให้แตล่ ะกลุ่มออกมานำเสนอ ถา้ ข้อใดทำผิดให้แก้ไขแล้วนำมาส่งครูตรวจอีกคร้ังหน่ึง
๓. ครแู จกใบความรู้ เร่ือง “ เศรษฐกิจพอเพยี ง” ให้นักเรียนอ่านและตอบคำถาม
เมอื่ เสรจ็ แลว้ ให้ออกมานำเสนอหน้าช้ันเรยี น เสร็จแล้ว สง่ ครตู รวจ
๖.๓ ขั้นสรปุ ความรู้
๔. นกั เรียนทำแบบฝึกเสรมิ ทกั ษะ ชุดตอบคำถาม เสร็จแล้ว นำส่งครูตรวจสอบ
ประเมินผลและประกาศผลการประเมนิ พร้อมทง้ั แนะนำแกไ้ ขข้อบกพร่องเปน็ รายๆ
๗. ส่อื การเรยี นร/ู้ แหล่งเรยี นรู้
๗.๑ สื่อการเรียนรู้
ใบความรู้
หนังสือภาษาไทย วิวธิ ภาษา ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๓
ใบงาน
แบบฝกึ หดั ภาษาไทย
๗.๒ แหลง่ เรียนรู้
-
๘. การวดั ผลและประเมินผลการเรียนรู้
สิ่งทว่ี ดั ผล วิธีวัดผล เครอ่ื งมอื วัดผล เกณฑ์การประเมนิ
๑. ความร(ู้ K)
นักเรยี นสามารถบอก สังเกต - พฤติกรรมการเรยี น รอ้ ยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์
หลักในการอ่านในใจที่ ของนักเรียน
ถูกต้องได้ - การซักถาม และ
การตอบคำถาม
๒. ทกั ษะและกระบวนการ (P)
นกั เรยี นสามารถจบั ตรวจ - ใบงาน ร้อยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์
ใจความสำคญั แสดง - แบบทดสอบ
ความคดิ เหน็ เชงิ วเิ คราะห์
ได้อย่างมีเหตผุ ล
๓. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
มีมารยาทในการอ่าน สังเกต แบบประเมิน ๓ ดมี าก
พฤติกรรมการเรยี นรู้ ๒ ดี
๑ ปรบั ปรุง
ลงช่ือ
(นาย ทศพล ลาภจรัสแสงโรจน์)
ครผู ้สู อน
ความคดิ เหน็ ของผ้บู รหิ าร
อนุญาต ให้ใชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้
ไม่อนุญาต ให้ใชแ้ ผนการจัดการเรยี นรู้ เนื่องจาก ……………………………………………………
ลงช่ือ
(นายเอกบรรจง บุญผ่อง)
ผอู้ ำนวยการโรงเรียนบ้านบึง “อตุ สาหกรรมนุเคราะห์”
บนั ทึกผลการสอน
๑. ผลการจดั การเรียนรู้
๑.๑ ดา้ นความรู้
............................................................................................................................
๑.๒ ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ
............................................................................................................................
๑.๓ ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
............................................................................................................................
๒. ปญั หาตา่ งๆ ท่พี บจากการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
............................................................................................................................
๓. ขอ้ เสนอแนะเพื่อปรับปรงุ แก้ไขในการจดั การเรียนรคู้ ร้ังตอ่ ไป
............................................................................................................................
ลงชื่อ
( นาย ทศพล ลาภจรัสแสงโรจน์)
ครูผสู้ อน
ความคดิ เห็นของรองผูอ้ ำนวยการโรงเรียนกล่มุ บริหารงานวิชาการ
ทราบ
ข้อเสนอแนะ
............................................................................................................... .............
ลงชือ่
(นางรศุ ดา บญุ กระพือ)
รองผู้อำนวยการโรงเรียนกลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ
ความคดิ เหน็ ของผู้บริหารสถานศกึ ษา
ทราบ
ขอ้ เสนอแนะ
............................................................................................................................
ลงชอ่ื
(นายเอกบรรจง บญุ ผอ่ ง)
ผ้อู ำนวยการโรงเรียนบา้ นบึง “อุตสาหกรรมนุเคราะห์
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๒๘
รายวิชา ภาษาไทย ระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๓ กลุม่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ ๕ เรือ่ ง เชา้ ฮาเย็นเฮ จำนวน ๖ ช่ัวโมง
เร่ือง การพูดแสดงความคิดเห็น เวลาเรยี น ๑ ชัว่ โมง
๑. สาระการเรยี นรแู้ ละมาตรฐานการเรยี นรู้
สาระที่ ๓ การฟัง
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟงั และดูอย่างมีวจิ ารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด
และความรสู้ ึกในโอกาสตา่ งๆ อยา่ งมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์
๒. สาระสำคญั
การพดู การฟงั เชิงวิเคราะห์ วิจารณ์ หมายถงึ การฟังสารด้วยความเอาใจใส่พิจารณาไตร่ตรอง
แยกแยะสารออกเปน็ สว่ น ๆ อยา่ งถี่ถว้ น เพอ่ื ใหเ้ ข้าใจเร่ืองในหลายแง่หลายมมุ โดยแยก ขอ้ เท็จจริงและ
ขอ้ คิดเหน็ ออกจากกนั แลว้ ติ – ชม หรือประเมินคา่ สง่ิ ทไ่ี ด้ฟังนัน้ เพื่อนำไปใชใ้ น ชีวิตประจำวัน
๓. ตัวช้วี ัด
ม.๓ / ๓ พดู รายงานเร่ืองหรอื ประเดน็ ท่ีศึกษาคน้ คว้าจากการฟัง การดู และการสนทนา
๔. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
๔.๑ ด้านความรู้
นกั เรยี นรูแ้ ละเข้าใจการพูดแสดงความคิดเหน็
๔.๒ ด้านทกั ษะและกระบวนการ
นกั เรียนสามารถพดู แสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกบั เร่อื งที่อ่านได้ และพดู อยา่ งมีเหตุผล
๔.๓ ด้านคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
มีมารยาทในการพูด
๕. สาระการเรยี นรู้ / เนือ้ หา
การพูดแสดงความคิดเห็น
๖. กจิ กรรมการเรยี นรู้
๖.๑ ขนั้ นำเขา้ สบู่ ทเรียน
๑. ครสู นทนากบั นักเรียน เร่ือง “เช้าฮาเยน็ เฮ” เพ่ือเปน็ การทบทวนเนอ้ื เร่ือง ๖.๒
ขั้นการจดั กิจรรมการเรียนรู้
๒. ครูแจกใบความรู้ เรอ่ื ง “การพดู อภปิ รายกลมุ่ ” ให้นกั เรียนศกึ ษาถึงขนั้ ตอนต่าง ๆ
ในการจัดอภปิ ราย
๓. แบง่ นักเรียนออกเป็น ๕ กลุ่ม ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มจัดการอภิปรายกลุ่มในหวั ขอ้ ต่อไปนี้
กล่มุ ๑ เช้าฮาเยน็ เฮสอดคลอ้ งกับเศรษฐกิจพอเพยี งอยา่ งไร
กลมุ่ ๒ เมาไม่ขบั ชวี ิตไมด่ ับสญู
กลมุ่ ๓ ด่มื นมปลอดภัย ร่างกายแขง็ แรง
กลุม่ ๔ ด่ืมน้ำผลไม้ สดใสเปล่งปลง่ั เพ่มิ พลังแข็งแรง
กลมุ่ ๕ ควรห้ามโฆษณาสรุ าในส่ือทุกชนดิ หรอื ไม่ เพราะเหตุใด
๔. ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมาจัดอภปิ รายกลุ่มหนา้ ชั้นเรียนใหเ้ พอ่ื น ๆ กล่มุ อ่ืนฟงั โดยใชเ้ วลากล่มุ ละ
ประมาณ ๑๐ นาที
๕. ครสู รปุ ผลการอภิปรายของนักเรยี นแตล่ ะกลุ่ม ว่าจัดการอภปิ รายไดเ้ นื้อหาสาระอย่างไร และ
นำ เรอื่ ง เชา้ ฮาเย็นเฮไปปฏิบัติอย่างไร
๖.๓ ข้นั สรปุ ความรู้
๖. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรุปใจความสำคัญของเร่ือง สรปุ เกีย่ วกับพฤติกรรมดา้ น
ความพอเพียงของนักเรยี นทุกคน
๗. นักเรียนทำแบบฝึกเสริมทักษะ ชดุ ตอบคำถาม เสร็จแล้ว นำสง่ ครูตรวจสอบ
ประเมนิ ผลและประกาศผลการประเมนิ พร้อมท้งั แนะนำแกไ้ ขข้อบกพรอ่ งเป็นรายๆ
๗. สื่อการเรยี นรู้/แหลง่ เรียนรู้
๗.๑ สื่อการเรยี นรู้
ใบความรู้
หนงั สือภาษาไทย ววิ ิธภาษา ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ ๓
ใบงาน
แบบฝกึ หดั ภาษาไทย
๗.๒ แหล่งเรยี นรู้
-
๘. การวัดผลและประเมินผลการเรยี นรู้
สิ่งทีว่ ดั ผล วิธีวัดผล เคร่ืองมอื วัดผล เกณฑ์การประเมนิ
๑. ความร(ู้ K)
นักเรยี นรู้และเข้าใจการ สังเกต - พฤตกิ รรมการเรียน ร้อยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์
ของนักเรยี น
พดู แสดงความคดิ เห็น - การซักถาม และ
การตอบคำถาม
๒. ทักษะและกระบวนการ (P) - ใบงาน รอ้ ยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์
นกั เรียนสามารถพูดแสดง ตรวจ - แบบทดสอบ
ความคดิ เหน็ เก่ยี วกับ
เร่อื งที่อา่ นได้ และพูด แบบประเมนิ ๓ ดีมาก
อยา่ งมเี หตุผล
๓. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A)
มีมารยาทในการพดู สังเกต
พฤติกรรมการเรียนรู้ ๒ ดี
๑ ปรบั ปรงุ
ลงช่ือ
(นาย ทศพล ลาภจรัสแสงโรจน์)
ครผู ู้สอน
ความคดิ เห็นของผูบ้ รหิ าร
อนุญาต ให้ใช้แผนการจัดการเรียนรู้
ไม่อนุญาต ใหใ้ ช้แผนการจัดการเรียนรู้ เนอ่ื งจาก ……………………………………………………
ลงชือ่
(นายเอกบรรจง บุญผ่อง)
ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนบา้ นบงึ “อุตสาหกรรมนุเคราะห์”
บนั ทึกผลการสอน
๑. ผลการจดั การเรียนรู้
๑.๑ ดา้ นความรู้
............................................................................................................................
๑.๒ ดา้ นทักษะและกระบวนการ
....................................................................................................... .....................
๑.๓ ด้านคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
............................................................................................................................
๒. ปัญหาตา่ งๆ ทพ่ี บจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
............................................................................................................................
๓. ขอ้ เสนอแนะเพ่ือปรับปรงุ แก้ไขในการจัดการเรยี นรู้คร้ังตอ่ ไป
................................................................................................. ...........................
ลงช่ือ
( นาย ทศพล ลาภจรสั แสงโรจน์)
ครูผ้สู อน
ความคิดเห็นของรองผู้อำนวยการโรงเรียนกลุ่มบริหารงานวชิ าการ
ทราบ
ข้อเสนอแนะ
............................................................................................................................
ลงช่ือ
(นางรุศดา บุญกระพอื )
รองผู้อำนวยการโรงเรยี นกลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ
ความคดิ เห็นของผู้บริหารสถานศกึ ษา
ทราบ
ขอ้ เสนอแนะ
............................................................................................................................
ลงชอื่
(นายเอกบรรจง บญุ ผ่อง)
ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนบา้ นบึง “อุตสาหกรรมนุเคราะห์
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๒๙
รายวชิ า ภาษาไทย ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย
หน่วยการเรียนร้ทู ่ี ๕ เรอื่ ง เชา้ ฮาเยน็ เฮ จำนวน ๖ ชั่วโมง
เร่อื ง คำประพันธป์ ระเภทอกลอนหก เวลาเรียน ๑ ชั่วโมง
๑. สาระการเรียนรแู้ ละมาตรฐานการเรียนรู้
สาระที่ ๓ การฟัง
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟังและดอู ยา่ งมวี ิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด
และความรสู้ กึ ในโอกาสต่างๆ อย่างมีวิจารณญาณและสรา้ งสรรค์
๒. สาระสำคัญ
๑. การอา่ นบทรอ้ ยกรองได้ถูกต้องไพเราะสละสลวย และเข้าใจสาระการเรยี นรู้
ทำให้เหน็ ความงาม และคณุ ค่าของภาษาไทย เป็นการส่งเสรมิ ศิลปวฒั นธรรมทางภาษาของชาติ
๒. การเขียนบทรอ้ ยกรองโดยเข้าใจลกั ษณะฉนั ทลักษณ์ของคำประพนั ธ์ และเขียน
สาระการเรยี นรู้ไดเ้ หมาะสม จะทำให้ผู้อ่านเกิดความซาบซึ้ง และเหน็ คณุ คา่ ของภาษาไทยมากขนึ้
๓. ตัวชีว้ ดั
ม.๓ / ๓ พูดรายงานเรือ่ งหรอื ประเด็นท่ีศึกษาคน้ คว้าจากการฟัง การดู และการสนทนา
๔. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
๔.๑ ดา้ นความรู้
นักเรียนอ่านบทร้อยกรอง และเขียนบทร้อยกรองประเภทกลอนหกได้
๔.๒ ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ
นกั เรยี นสามารถสรปุ ใจความสำคญั และข้อคิดจากเร่ืองท่ีอ่านได้
๔.๓ ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
มีมารยาทในการพดู
๕. สาระการเรียนรู้ / เน้อื หา
๑ การอ่านบทร้อยกรอง
๒ การฝกึ แตง่ กลอนหก
๖. กจิ กรรมการเรียนรู้
๖.๑ ขัน้ นำเขา้ ส่บู ทเรยี น
๑. ครูสนทนากับนกั เรียนถึงบทร้อยกรองทนี่ ักเรยี นคนุ้ เคยและรู้จักว่ามีอะไรบ้าง
๒. ครเู ขียนคำประพันธ์ต่อไปนบ้ี นกระดานดำ
๏ ทกุ วันสีนนุ่ สดใส ตง้ั ใจใฝ่งานอานเขยี น
สนุกยิง่ นักรกั เรียน ความรแู้ ปลกเปล่ยี นเวยี นมา
๏ ครถู ามส่ิงใดไม่ขัด ตอบไดแ้ นช่ ดั นกั หนา
รอบรู้เรอื่ งราวนานา เพอ่ื นตา่ งปรกึ ษาหารือ
๏ สีนนุ่ แนะนำคำตอบ เพราะฉนั นัน้ ชอบหนงั สือ
เร่ืองราวมากมายในมอื เม่อื ถือเปิดอ่านสราญใจ
๖.๒ ข้นั การจัดกิจรรมการเรียนรู้
๓. นักเรียนอา่ นคำประพนั ธข์ า้ งต้นพรอ้ ม ๆ กนั แลว้ สนทนากบั นักเรยี นเรอื่ ง กลอน
สุภาพ (กลอนหก)
๔. นกั เรยี นศกึ ษา คน้ ควา้ เกี่ยวกับ กลอนสภุ าพ ( กลอนหก ) จากเอกสาร ตำรา หรอื
ใบความรู้ท่ีครแู จกให้
๕. นกั เรียนแบง่ กลุ่ม ให้นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ แตง่ กลอนหก “รณรงค์เกย่ี วกับการนำ
หลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใช้” มีความยาว ๓ บท
๖. เมื่อทุกกลมุ่ แตง่ เสรจ็ แล้ว ใหน้ ำเสนอหนา้ ชน้ั เรยี น พร้อมท้งั สง่ ผลงานให้ครูตรวจ
๖.๓ ขัน้ สรุปความรู้
๗. นกั เรียนและครูช่วยกันสรปุ บทเรยี น เรื่อง การอ่านบทร้อยกรองให้เป็นทำนอง
เสนาะ และสรุปหลักเกณฑ์ในการแตง่ บทรอ้ ยกรองประเภทกลอนสุภาพ ( กลอนหก ) ทงั้ ยงั สรุปถึง
พฤติกรรมความพอเพยี งท่ีนกั เรยี นต้องให้ความสำคญั และนำมาใช้ในชวี ิตประจำวนั
๘. นักเรียนทำแบบฝึกเสรมิ ทกั ษะ ชดุ ที่ ๕ – ๖ ชุดตอบคำถาม เสร็จแลว้ นำสง่ ครู
ตรวจสอบประเมินผลและประกาศผลการประเมนิ พรอ้ มทง้ั แนะนำแก้ไขขอ้ บกพร่องเป็นรายๆ
๗. ส่อื การเรียนร/ู้ แหลง่ เรยี นรู้
๗.๑ สือ่ การเรยี นรู้
๑. หนงั สือเรยี นภาษาไทย ชุดววิ ธิ ภาษา ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๓
๒. แบบประเมนิ การอา่ นบทร้อยกรอง (สำหรับประเมนิ ตนเองและเพ่ือน)
๓. ใบงาน
๔. แผนผังกลอนหก
๕. ใบความรู้
๖.แบบฝกึ หดั ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๓
๗.๒ แหลง่ เรียนรู้
-
๘. การวัดผลและประเมนิ ผลการเรยี นรู้
สงิ่ ท่วี ดั ผล วธิ ีวดั ผล เครื่องมือวดั ผล เกณฑ์การประเมนิ
๑. ความร(ู้ K)
นกั เรยี นอา่ นบทร้อยกรอง และ สงั เกต - พฤตกิ รรมการเรยี น ร้อยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์
ของนักเรยี น
เขยี นบทร้อยกรองประเภทกลอน - การซักถาม และ
การตอบคำถาม
หกได้
๒. ทกั ษะและกระบวนการ (P)
นกั เรยี นสามารถสรปุ ใจความ ตรวจ - ใบงาน ร้อยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์
- แบบทดสอบ
สำคญั และข้อคิดจากเร่ืองที่
อา่ นได้
๓. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A)
มีมารยาทในการพดู สงั เกต แบบประเมนิ ๓ ดมี าก
พฤติกรรมการเรยี นรู้ ๒ ดี
๑ ปรับปรงุ
ลงชือ่
(นาย ทศพล ลาภจรสั แสงโรจน์)
ครูผูส้ อน
ความคิดเหน็ ของผ้บู ริหาร
อนุญาต ให้ใช้แผนการจัดการเรยี นรู้
ไมอ่ นุญาต ใหใ้ ช้แผนการจดั การเรยี นรู้ เน่ืองจาก ……………………………………………………
ลงชอ่ื
(นายเอกบรรจง บุญผ่อง)
ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นบ้านบึง “อตุ สาหกรรมนเุ คราะห์”
บันทึกผลการสอน
๑. ผลการจัดการเรยี นรู้
๑.๑ ดา้ นความรู้
............................................................................................................................
๑.๒ ด้านทักษะและกระบวนการ
............................................................................................................................
๑.๓ ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
............................................................................................................................
๒. ปัญหาตา่ งๆ ทีพ่ บจากการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
............................................................................................................................
๓. ข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรงุ แก้ไขในการจดั การเรียนร้คู รั้งต่อไป
............................................................................................................................
ลงช่ือ
( นาย ทศพล ลาภจรัสแสงโรจน์)
ครผู สู้ อน
ความคดิ เห็นของรองผูอ้ ำนวยการโรงเรียนกลุม่ บริหารงานวิชาการ
ทราบ
ขอ้ เสนอแนะ
............................................................................................................................
ลงช่ือ
(นางรศุ ดา บุญกระพอื )
รองผอู้ ำนวยการโรงเรียนกลุม่ บริหารงานวชิ าการ
ความคิดเห็นของผบู้ ริหารสถานศึกษา
ทราบ
ข้อเสนอแนะ
............................................................................................................................
ลงชื่อ
(นายเอกบรรจง บญุ ผอ่ ง)
ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนบ้านบงึ “อุตสาหกรรมนุเคราะห์
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๓๐
รายวิชา ภาษาไทย ระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๕ เรอื่ ง เช้าฮาเยน็ เฮ จำนวน ๖ ช่วั โมง
เรื่อง ภาษาปาก เวลาเรยี น ๑ ชว่ั โมง
๑. สาระการเรียนรแู้ ละมาตรฐานการเรียนรู้
สาระท่ี ๓ การฟัง
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอยา่ งมวี จิ ารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด
และความรสู้ ึกในโอกาสต่างๆ อย่างมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์
๒. สาระสำคญั
ภาษาปาก หมายถงึ “ภาษาพดู ที่แสดงความคนุ้ เคย ไม่เหมาะสม ท่จี ะใชเ้ ปน็ พธิ ีการ”
๓. ตวั ชว้ี ัด
ม.๓ / ๓ พดู รายงานเรอ่ื งหรอื ประเด็นที่ศึกษาค้นควา้ จากการฟัง การดู และการสนทนา
๔. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
๔.๑ ด้านความรู้
นักเรียนรแู้ ละเข้าใจความหมายของคำทเี่ ปน็ ภาษาปากได้
๔.๒ ด้านทักษะและกระบวนการ
นกั เรียนสามารถบอกความหมายของคำท่ีเปน็ ภาษาปากได้
๔.๓ ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
มีมารยาทในการพูด
๕. สาระการเรยี นรู้ / เนอื้ หา
ภาษาปากหรือภาษาท่ีไม่เปน็ ทางการ
๖. กิจกรรมการเรยี นรู้
๖.๑ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน
๑. ครูสนทนากับนักเรียนเก่ยี วกับคำทน่ี ักเรยี นมักพูดกนั เช่น คำว่า
“ จ๊ิบจ๊อย” “เขา้ โลง” “ชิวๆ”
๖.๒ ขั้นการจดั กจิ รรมการเรยี นรู้
๒. ครูแจกใบความรู้ เรอ่ื ง “ภาษาปาก” ให้นักเรยี นศกึ ษา
๓. นักเรยี นแบ่งกลมุ่ ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกล่มุ เลือกคำภาษาปากจากใบความรู้ มาแต่ง
ประโยคกล่มุ ละ ๑๐ คำ แตง่ เสรจ็ แล้วนำมาสง่ ครตู รวจ
๔. ให้นกั เรียนทกุ คนทำแบบทดสอบ เร่ือง “เชา้ ฮาเย็นเฮ” ทำเสร็จแลว้ ส่ง
กระดาษคำตอบที่ครู
๖.๓ ขัน้ สรุปความรู้
๕. ครสู รปุ ผลการแต่งประโยค และการทำแบบทดสอบของนักเรียน
นอกจากนีค้ รูยังสรุปถึงพฤตกิ รรมความพอเพียงที่นักเรยี นได้จาการเรียนในช่ัวโมงนี้ เพอื่ ให้นกั เรียนเกดิ ความ
ตระหนัก เห็นคุณคา่ และนำไปปฏบิ ัติในชวี ิตประจำวนั
๖. นกั เรียนทำแบบฝกึ เสริมทกั ษะ ชดุ ที่ ๗ – ๘ ชุดตอบคำถาม เสรจ็ แล้ว นำส่งครู
ตรวจสอบประเมนิ ผลและประกาศผลการประเมนิ พรอ้ มท้งั แนะนำแก้ไขข้อบกพร่องเป็นรายๆ
๗. สอื่ การเรียนร/ู้ แหล่งเรียนรู้
๗.๑ สื่อการเรยี นรู้
- ใบงาน
- หนงั สือเรียนภาษาไทย ชุดวิวธิ ภาษา ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๓
๗.๒ แหลง่ เรยี นรู้
๘. การวดั ผลและประเมนิ ผลการเรียนรู้
สิง่ ที่วดั ผล วธิ วี ัดผล เคร่ืองมือวัดผล เกณฑ์การประเมนิ
๑. ความรู(้ K)
นักเรียนรแู้ ละเข้าใจความหมาย สงั เกต - พฤติกรรมการเรียน รอ้ ยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์
ของคำท่ีเปน็ ภาษาปากได้ ของนักเรยี น
- การซกั ถาม และ
การตอบคำถาม
๒. ทกั ษะและกระบวนการ (P)
นกั เรยี นสามารถบอกความหมาย ตรวจ - ใบงาน ร้อยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์
ของคำท่ีเป็นภาษาปากได้ - แบบทดสอบ
๓. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
มีมารยาทในการพดู สงั เกต แบบประเมิน ๓ ดีมาก
พฤติกรรมการเรียนรู้ ๒ ดี
๑ ปรบั ปรงุ
ลงชื่อ
(นาย ทศพล ลาภจรสั แสงโรจน์)
ครผู ูส้ อน
ความคดิ เหน็ ของผบู้ รหิ าร
อนุญาต ให้ใช้แผนการจัดการเรียนรู้
ไมอ่ นุญาต ให้ใชแ้ ผนการจัดการเรยี นรู้ เนอ่ื งจาก ……………………………………………………
ลงชื่อ
(นายเอกบรรจง บุญผ่อง)
ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนบ้านบงึ “อุตสาหกรรมนุเคราะห์”
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๓๑
รายวชิ า ภาษาไทย ระดับชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๓ กลุม่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๕ เรื่อง เชา้ ฮาเย็นเฮ จำนวน ๖ ชั่วโมง
เรือ่ ง การเขยี นแผนภมู ิ เวลาเรยี น ๑ ชว่ั โมง
๑. สาระการเรียนรแู้ ละมาตรฐานการเรียนรู้
สาระท่ี ๓ การฟัง
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟังและดอู ย่างมีวจิ ารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด
และความรสู้ กึ ในโอกาสต่างๆ อยา่ งมีวิจารณญาณและสรา้ งสรรค์
๒. สาระสำคญั
การเล่าเรอ่ื งและการเขยี นแผนภาพความคดิ ทำให้จำเน้ือเรอื่ งได้แมน่ ยำ อีกทั้งยงั เป็นการ
ช่วยฝึกทักษะ และพัฒนาในด้านการเขียน การพูดต่อไป
๓. ตัวชวี้ ัด
ม.๓ / ๓ พดู รายงานเรื่องหรือประเดน็ ท่ีศึกษาค้นคว้าจากการฟัง การดู และการสนทนา
๔. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
๔.๑ ด้านความรู้
นักเรยี นรู้และเขา้ ใจหลกั การเขียนแผนภูมไิ ด้
๔.๒ ดา้ นทักษะและกระบวนการ
นกั เรยี นสามารถเขยี นแผนภมู ิได้
๔.๓ ด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
มมี ารยาทในการเขยี น
๕. สาระการเรียนรู้ / เน้ือหา
การเขยี นแผนภมู ิ
๖. กจิ กรรมการเรียนรู้
๖.๑ ข้ันนำเข้าสูบ่ ทเรียน
๑. ครูนำตวั อยา่ งการทำแผนภมู ิแบบตา่ ง ๆ มาใหน้ ักเรียนดู แล้วสนทนากับนกั เรียนเรอื่ ง
”การทำแผนภมู ิ”
๖.๒ ขัน้ การจัดกิจรรมการเรียนรู้
๒. ครูแจกใบความรเู้ รื่อง “การทำแผนภมู ิ” ใหน้ ักเรยี นศึกษา พร้อมครูอธิบายประกอบ
๓. นกั เรียนแบง่ กลุม่ ให้แต่ละกลมุ่ ทำแผนภมู ิแสดงถึงโทษ หรือพิษภยั ของสรุ า หรอื
แผนภมู ิเศรษฐกิจพอเพยี ง โดยครแู จกวสั ดุอปุ กรณท์ ี่ใช้ในการทำแผนภูมใิ ห้ เช่น กระดาษสชี นดิ ตา่ ง ๆ
ริบบิน้ เชือก ด้าย กรรไกร เข็มหมดุ กาว เครื่องเขียน
๔. เมือ่ ทำเสรจ็ แลว้ ใหน้ ำเสนอหนา้ ชนั้ เรียนและสง่ ครตู รวจ
๕. ครสู รุปผลการทำแผนภมู ิของนักเรยี นแต่ละกลุ่ม พร้อมทัง้ คัดเลือกแลงานดเี ด่นไปตดิ ไวท้ ่ี
ป้ายนิเทศ
๖.๓ ขน้ั สรปุ ความรู้
๖ . ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรุปการเขียนแผนภมู ิพฤติกรรมความพอเพยี งท่ไี ด้จากการเรียน
๗. นกั เรียนทำแบบฝึกเสริมทักษะ ชดุ ที่ ๙ – ๑๐ ( ทา้ ยแผน ) ชดุ ตอบคำถาม เสร็จแลว้
นำสง่ ครตู รวจสอบประเมนิ ผลและประกาศผลการประเมนิ พร้อมทง้ั แนะนำแก้ไขข้อบกพร่องเปน็ รายๆ๗. สอ่ื
การเรยี นรู้/แหล่งเรยี นรู้
๗.๑ สือ่ การเรยี นรู้
ตัวอยา่ งผงั มโนภาพหรือแผนท่คี วามคิด
ใบความรเู้ รอ่ื งการเขยี นแผนภมู ิ
ใบงาน
หนงั สอื เรยี นภาษาไทย ชุดววิ ิธภาษา ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๓
แบบฝึกหัดภาษาไทย ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๓
๗.๒ แหล่งเรยี นรู้
-
๘. การวัดผลและประเมนิ ผลการเรยี นรู้
สิง่ ทีว่ ัดผล วธิ ีวัดผล เครื่องมอื วดั ผล เกณฑ์การประเมิน
๑. ความรู้(K)
นกั เรียนรู้และเข้าใจหลกั การ สังเกต - พฤติกรรมการเรียน ร้อยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์
ของนักเรยี น
เขียนแผนภมู ิได้ - การซักถาม และ
การตอบคำถาม
๒. ทักษะและกระบวนการ (P) - ใบงาน ร้อยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์
นักเรียนสามารถเขียนแผนภูมิได้ ตรวจ - แบบทดสอบ
๓. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
มมี ารยาทในการเขียน สงั เกต แบบประเมิน ๓ ดมี าก
พฤติกรรมการเรยี นรู้ ๒ ดี
๑ ปรบั ปรงุ
ลงชอ่ื
(นาย ทศพล ลาภจรัสแสงโรจน์)
ครผู ูส้ อน
ความคิดเหน็ ของผูบ้ ริหาร
อนุญาต ให้ใชแ้ ผนการจัดการเรยี นรู้
ไม่อนุญาต ใหใ้ ชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้ เน่ืองจาก ……………………………………………………
ลงชือ่
(นายเอกบรรจง บญุ ผ่อง)
ผอู้ ำนวยการโรงเรียนบ้านบงึ “อุตสาหกรรมนุเคราะห์”
บนั ทึกผลการสอน
๑. ผลการจดั การเรียนรู้
๑.๑ ดา้ นความรู้
............................................................................................................................
๑.๒ ดา้ นทักษะและกระบวนการ
....................................................................................................... .....................
๑.๓ ด้านคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
............................................................................................................................
๒. ปัญหาตา่ งๆ ทพ่ี บจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
............................................................................................................................
๓. ขอ้ เสนอแนะเพ่ือปรับปรงุ แก้ไขในการจัดการเรยี นรู้คร้ังตอ่ ไป
................................................................................................. ...........................
ลงช่ือ
( นาย ทศพล ลาภจรสั แสงโรจน์)
ครูผ้สู อน
ความคิดเห็นของรองผู้อำนวยการโรงเรียนกลุ่มบริหารงานวชิ าการ
ทราบ
ข้อเสนอแนะ
............................................................................................................................
ลงช่ือ
(นางรุศดา บุญกระพอื )
รองผู้อำนวยการโรงเรยี นกลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ
ความคดิ เห็นของผู้บริหารสถานศกึ ษา
ทราบ
ขอ้ เสนอแนะ
............................................................................................................................
ลงชอื่
(นายเอกบรรจง บญุ ผ่อง)
ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนบา้ นบึง “อุตสาหกรรมนุเคราะห์