The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอนเทอม ๑ หน่วยที่ ๑ ภาษาในวรรณคดีไทย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

แผนการสอนเทอม ๑ หน่วยที่ ๑ ภาษาในวรรณคดีไทย

แผนการสอนเทอม ๑ หน่วยที่ ๑ ภาษาในวรรณคดีไทย

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย
รายวชิ า ภาษาไทย ระดับชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี ๓ จำนวน ๖ ชวั่ โมง
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๑ เรือ่ ง ภาษาในวรรณคดีไทย
เรอื่ ง สมบัตวิ รรณคดี เวลาเรยี น ๑ ช่วั โมง

๑. สาระการเรยี นรู้และมาตรฐานการเรยี นรู้
สาระท่ี ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม
มาตรฐานการเรยี นรู้ ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วจิ ารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรม

ไทยอย่างเห็นคุณคา่ และนำมาประยุกต์ใชใ้ นชีวติ จรงิ
๒. สาระสำคญั

วรรณคดีไทยมีประวัติความเป็นมายาวนานกวา่ ๗๐๐ ปี มีบทบาทสร้างความบันเทิงใจและความจรรโลง
ใจ สามารถกล่อมเกลามนุษย์ ให้รูจ้ ักความงาม ความดแี ละความเป็นจริงของชีวิต เราควรอนรุ กั ษแ์ ละหวงแหน
๓. ตวั ชี้วดั

ม ๓/๒ วเิ คราะห์และวิถีไทยและคุณคา่ จากวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน
๔. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

๔.๑ ดา้ นความรู้
นกั เรยี นบอกความแตกต่างระหว่างวรรณคดแี ละวรรณกรรมได้

๔.๒ ด้านทกั ษะและกระบวนการ
นักเรยี นวิเคราะห์คุณค่าที่ปรากฏในวรรณคดี วรรณกรรมได้

๔.๓ ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
นกั เรยี นเห็นคุณค่าและซาบซ้ึงในการอ่านวรรณคดีและวรรณกรรมไทย

๕. สาระการเรยี นรู้ / เนอื้ หา
ความหมาย ความแตกต่าง และคณุ ค่าของวรรณคดีและวรรณกรรม

๖. กิจกรรมการเรียนรู้
๖.๑ ข้นั นำเขา้ สูบ่ ทเรียน
๑. ครนู ำหนงั สอื วรรณคดเี ร่ืองพระอภัยมณีและหนงั สือเรือ่ งสามีตีตรามาให้นักเรียนดู แล้วใช้

คำถามเพื่อคำถามกระต้นุ ความคิดของนักเรยี น ดังน้ี
- นักเรียนเคยอา่ นวรรณคดหี รอื ไม่
- นักเรียนคิดวา่ วรรณคดกี บั หนังสอื ในปัจจบุ ันมีความแตกต่างกนั หรอื ไม่ อย่างไร
- นักเรียนคดิ ว่าวรรณคดีกับหนังสอื ในปัจจบุ ันมีความคล้ายกนั หรือไม่ อยา่ งไร

๖.๒ ขน้ั การจดั กจิ รรมการเรยี นรู้

๒. ครสู อนเร่ืองคณุ ค่าท่ีปรากฏในวรรณคดี ไดแ้ ก่ รสวรรณคดี โวหารภาพพจน์ คุณคา่ ดา้ น

วรรณศิลป์ คุณค่าด้านวถิ ีชวี ติ คุณค่าด้านสังคมและวฒั นธรรม โดยครูต้องชีแ้ จงใหน้ ักเรียนทราบดว้ ยว่าคุณค่าที่

ปรากฏในวรรณคดนี นั้ สามารถปรากฏอยู่ในวรรณกรรมได้ด้วยโดยเฉพาะโวหารภาพพจน์

๖.๓ ขั้นสรปุ ความรู้

๓. ครแู ละนกั เรียนชว่ ยกันสรุปบทเรยี น

๗. สื่อการเรียนรู้/แหล่งเรยี นรู้

๗.๑ ส่อื การเรยี นรู้

- สอื่ มัลติมีเดยี (Power Point)

- หนงั สอื วรรณคดีเร่อื งพระอภัยมณีและวรรณกรรมเร่ืองสามตี ตี รา

๗.๒ แหลง่ เรียนรู้

-

๘. การวัดผลและประเมนิ ผลการเรียนรู้

ส่ิงทวี่ ัดผล วธิ วี ัดผล เครอื่ งมือวัดผล เกณฑ์การประเมนิ

๑. ความร(ู้ K)

นกั เรยี นบอกความ สงั เกต แบบฝึกเสริมทักษะ รอ้ ยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์

แตกต่างระหวา่ งวรรณคดี

และวรรณกรรมได้

๒. ทกั ษะและกระบวนการ (P)

นกั เรียนวิเคราะห์คณุ ค่าท่ี สงั เกต แบบฝึกเสริมทักษะ ร้อยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์

ปรากฏในวรรณคดี

วรรณกรรมได้

๓. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)

นักเรยี นเห็นคุณคา่ และ สงั เกต แบบประเมิน ๓ ดีมาก

ซาบซึง้ ในการอ่าน พฤติกรรมการเรียนรู้ ๒ ดี

วรรณคดีและวรรณกรรม ๑ ปรบั ปรงุ

ไทย

ลงช่ือ

( นาย ทศพล ลาภจรสั แสงโรจน์)
ครผู สู้ อน

ความคดิ เหน็ ของผ้บู รหิ าร
 อนุญาต ให้ใชแ้ ผนการจัดการเรยี นรู้
 ไม่อนุญาต ให้ใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้ เน่ืองจาก ……………………………………………………
ลงชื่อ
(นายเอกบรรจง บุญผ่อง)
ผ้อู ำนวยการโรงเรียนบ้านบงึ “อุตสาหกรรมนเุ คราะห์”

บนั ทึกผลการสอน
๑. ผลการจดั การเรียนรู้
๑.๑ ด้านความรู้

............................................................................................................................
๑.๒ ดา้ นทักษะและกระบวนการ

....................................................................................................... .....................
๑.๓ ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

............................................................................................................................
๒. ปัญหาตา่ งๆ ทพ่ี บจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้

............................................................................................................................
๓. ขอ้ เสนอแนะเพ่ือปรบั ปรงุ แกไ้ ขในการจดั การเรยี นรู้คร้ังต่อไป

................................................................................................. ...........................
ลงช่อื
( นาย ทศพล ลาภจรสั แสงโรจน์)
ครูผ้สู อน

ความคิดเห็นของรองผู้อำนวยการโรงเรียนกล่มุ บริหารงานวชิ าการ
ทราบ
ข้อเสนอแนะ

............................................................................................................................
ลงชือ่
(นางรุศดา บุญกระพอื )
รองผู้อำนวยการโรงเรยี นกลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ

ความคดิ เห็นของผู้บริหารสถานศกึ ษา
ทราบ
ขอ้ เสนอแนะ

............................................................................................................................

ลงชอื่
(นายเอกบรรจง บญุ ผ่อง)

ผู้อำนวยการโรงเรียนบา้ นบึง “อุตสาหกรรมนุเคราะห์

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๒

รายวิชา ภาษาไทย ระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย

หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เร่ือง ภาษาในวรรณคดีไทย จำนวน ๖ ชวั่ โมง

เรื่อง สมบตั ิวรรณคดี เวลาเรียน ๑ ช่วั โมง

๑. สาระการเรยี นรแู้ ละมาตรฐานการเรียนรู้
สาระที่ ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม
มาตรฐานการเรยี นรู้ ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรม

ไทยอย่างเหน็ คุณค่าและนำมาประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตจริง
๒. สาระสำคัญ

วรรณคดีไทยมีประวัติความเป็นมายาวนานกวา่ ๗๐๐ ปี มีบทบาทสรา้ งความบันเทิงใจและความจรรโลง
ใจ สามารถกล่อมเกลามนษุ ย์ ให้รู้จักความงาม ความดแี ละความเปน็ จริงของชีวติ เราควรอนุรกั ษแ์ ละหวงแหน
๓. ตวั ชวี้ ดั

ม ๓/๒ วเิ คราะหแ์ ละวิถีไทยและคุณคา่ จากวรรณคดแี ละวรรณกรรมที่อา่ น
๔. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

๔.๑ ด้านความรู้
นกั เรียนบอกความแตกตา่ งระหว่างวรรณคดแี ละวรรณกรรมได้

๔.๒ ดา้ นทักษะและกระบวนการ
นักเรียนวเิ คราะห์คุณค่าที่ปรากฏในวรรณคดี วรรณกรรมได้

๔.๓ ดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
นักเรียนเหน็ คุณคา่ และซาบซ้ึงในการอ่านวรรณคดีและวรรณกรรมไทย

๕. สาระการเรยี นรู้ / เนือ้ หา
ความหมาย ความแตกต่าง และคุณคา่ ของวรรณคดีและวรรณกรรม

๖. กจิ กรรมการเรียนรู้
๖.๑ ขน้ั นำเขา้ สูบ่ ทเรยี น
๑. ครทู บทวนความรู้เดิมในชั่วโมงทีผ่ า่ นมา
๖.๒ ขั้นการจดั กจิ รรมการเรียนรู้
๒. ครูสอนเรอ่ื งคุณค่าที่ปรากฏในวรรณคดี ได้แก่ รสวรรณคดี โวหารภาพพจน์ คุณค่าดา้ น

วรรณศิลป์ คณุ ค่าด้านวิถชี วี ติ คุณคา่ ด้านสังคมและวฒั นธรรม โดยครตู ้องช้ีแจงใหน้ ักเรียนทราบด้วยวา่ คณุ คา่ ที่
ปรากฏในวรรณคดนี ้นั สามารถปรากฏอยู่ในวรรณกรรมได้ด้วยโดยเฉพาะโวหารภาพพจน์

๖.๓ ขั้นสรุปความรู้
๓. นกั เรยี นทำใบงานเรอื่ งภาษาในวรรณคดีไทย

๗. สอื่ การเรียนร/ู้ แหลง่ เรียนรู้

๗.๑ สอื่ การเรียนรู้

- สื่อมัลติมเี ดีย (Power Point)

- หนังสอื วรรณคดีเรอื่ งพระอภยั มณีและวรรณกรรมเรอ่ื งสามตี ตี รา

๗.๒ แหล่งเรยี นรู้

-

๘. การวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้

สิง่ ทวี่ ัดผล วิธีวัดผล เครือ่ งมอื วดั ผล เกณฑ์การประเมิน

๑. ความรู(้ K)

นกั เรยี นบอกความ สังเกต แบบฝึกเสริมทักษะ รอ้ ยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์

แตกตา่ งระหว่างวรรณคดี

และวรรณกรรมได้

๒. ทักษะและกระบวนการ (P)

นกั เรียนวิเคราะห์คณุ ค่าท่ี สังเกต แบบฝึกเสริมทักษะ ร้อยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์

ปรากฏในวรรณคดี

วรรณกรรมได้

๓. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)

นกั เรียนเห็นคณุ คา่ และ สังเกต แบบประเมนิ ๓ ดมี าก

ซาบซง้ึ ในการอ่าน พฤติกรรมการเรียนรู้ ๒ ดี

วรรณคดแี ละวรรณกรรม ๑ ปรบั ปรงุ

ไทย

ลงชอ่ื

(นาย ทศพล ลาภจรัสแสงโรจน์)
ครผู สู้ อน

ความคิดเห็นของผูบ้ รหิ าร
 อนุญาต ให้ใชแ้ ผนการจัดการเรยี นรู้
 ไมอ่ นุญาต ใหใ้ ชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้ เน่ืองจาก ……………………………………………………
ลงชือ่
(นายเอกบรรจง บญุ ผ่อง)
ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบึง “อุตสาหกรรมนเุ คราะห์”

บนั ทึกผลการสอน
๑. ผลการจดั การเรียนรู้
๑.๑ ดา้ นความรู้

............................................................................................................................
๑.๒ ดา้ นทักษะและกระบวนการ

....................................................................................................... .....................
๑.๓ ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

............................................................................................................................
๒. ปัญหาตา่ งๆ ทพ่ี บจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้

............................................................................................................................
๓. ขอ้ เสนอแนะเพ่ือปรบั ปรงุ แกไ้ ขในการจดั การเรยี นรู้คร้ังต่อไป

................................................................................................. ...........................
ลงช่อื
( นาย ทศพล ลาภจรสั แสงโรจน์)
ครูผ้สู อน

ความคิดเห็นของรองผู้อำนวยการโรงเรียนกล่มุ บริหารงานวชิ าการ
ทราบ
ข้อเสนอแนะ

............................................................................................................................
ลงชือ่
(นางรุศดา บุญกระพอื )
รองผู้อำนวยการโรงเรยี นกลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ

ความคดิ เห็นของผู้บริหารสถานศกึ ษา
ทราบ
ขอ้ เสนอแนะ

............................................................................................................................

ลงชอื่
(นายเอกบรรจง บญุ ผ่อง)

ผู้อำนวยการโรงเรียนบา้ นบึง “อุตสาหกรรมนุเคราะห์

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๓ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย
รายวิชา ภาษาไทย ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๓ จำนวน ๖ ช่ัวโมง
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ เรื่อง ภาษาในวรรณคดีไทย เวลาเรียน ๑ ชั่วโมง
เรอื่ ง เรยี งรอยวรรณคดีไทย

๑. สาระการเรยี นรแู้ ละมาตรฐานการเรียนรู้
สาระที่ ๔ หลักการใชภ้ าษา
มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปล่ยี นแปลง

ของภาษาและพลังของภาษา ภมู ิปญั ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เป็นสมบตั ิของชาติ
๒. สาระสำคัญ

คำประพันธ์ประเภทกลอนสุภาพหรือกลอนแปดเป็นกลอนที่นิยมแต่งมากที่สุดมีจำนวนคำในแต่ละวรรค
๘ คำ หนึ่งบทมี ๔ วรรคหรือ ๒ บาท บาทที่ ๑ เรียก บาทเอก บาทที่ ๒ เรียก บาทโท มีสัมผัสบังคับ ๓ ตำแหน่ง
เปน็ สัมผัสสระทัง้ หมด และต้องมสี มั ผสั ระหว่างบทเป็นสัมผัสบังคบั อกี ด้วย
๓. ตวั ช้ีวดั

ม ๓/๖ แต่งบทร้อยกรอง
๔. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

๔.๑ ด้านความรู้
นักเรยี นรูแ้ ละเข้าใจหลักการแตง่ คำประพนั ธ์ประเภทกลอนสุภาพ

๔.๒ ด้านทกั ษะและกระบวนการ
นกั เรียนแตง่ คำประพันธป์ ระเภทกลอนสุภาพได้

๔.๓ ดา้ นคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
นกั เรียนมีมารยาทในการเขยี น

๕. สาระการเรียนรู้ / เนือ้ หา
ประเภทของบทร้อยกรอง

๖. กิจกรรมการเรยี นรู้
๖.๑ ขน้ั นำเข้าสบู่ ทเรียน
๑.ครทู บทวนเรอื่ งภาษาในวรรณคดเี พือ่ ทบทวนความรู้ของนักเรยี น
๖.๒ ขั้นการจัดกิจรรมการเรยี นรู้
๒. ครูสอนเรือ่ งบทรอ้ ยกรอง ประเภทของบทร้อยกรอง บทร้อยกรองประเภทกลอน ฉันทลกั ษณ์

ของกลอน

๓. นกั เรียนทำแผนผังมโนทัศน์เรื่องกลอนสุภาพพร้อมกับให้นักเรียนแตง่ กลอนสภุ าพเพ่ือแนะนำ

ตนเองมาอยา่ งน้อย ๓ บทลงไปในแผนผงั มโนทศั น์ด้วย ครูเลือกสอนเร่ืองกลอนสภุ าพเนื่องจากนักเรียนจะเรียน

เร่อื งพระอภยั มณตี ่อในช่ัวโมงถดั ไป

๖.๓ ขั้นสรปุ ความรู้

๔. ครูและนกั เรยี นช่วยกนั สรปุ บทเรียน

๗. สอื่ การเรียนรู/้ แหลง่ เรยี นรู้

๗.๑ สอื่ การเรียนรู้

- สอ่ื มัลติมเี ดยี (Power Point)

๗.๒ แหลง่ เรยี นรู้

-

๘. การวดั ผลและประเมนิ ผลการเรยี นรู้

สิ่งทีว่ ดั ผล วธิ ีวัดผล เคร่อื งมอื วัดผล เกณฑ์การประเมนิ

๑. ความร้(ู K)

นกั เรยี นรูแ้ ละเข้าใจ สังเกต แบบฝึกเสรมิ ทักษะ รอ้ ยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์

หลักการแตง่ คำประพนั ธ์

ประเภทกลอนสภุ าพ

๒. ทักษะและกระบวนการ (P)

นกั เรียนแต่งคำประพันธ์ สังเกต แบบฝกึ เสริมทักษะ รอ้ ยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์

ประเภทกลอนสภุ าพได้

๓. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (A)

นกั เรียนมมี ารยาทในการ สงั เกต แบบประเมนิ ๓ ดีมาก

เขยี น พฤติกรรมการเรยี นรู้ ๒ ดี

๑ ปรบั ปรงุ

ลงช่อื
( นาย ทศพล ลาภจรสั แสงโรจน์)

ครูผู้สอน

ความคดิ เห็นของผูบ้ ริหาร

 อนุญาต ให้ใชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้

 ไม่อนุญาต ให้ใช้แผนการจดั การเรยี นรู้ เนื่องจาก ……………………………………………………

ลงชอื่

(นายเอกบรรจง บญุ ผ่อง)

ผู้อำนวยการโรงเรยี นบา้ นบงึ “อุตสาหกรรมนเุ คราะห์”

บนั ทกึ ผลการสอน
๑. ผลการจัดการเรียนรู้
๑.๑ ด้านความรู้

............................................................................................................................
๑.๒ ด้านทักษะและกระบวนการ

....................................................................................................... .....................
๑.๓ ด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์

............................................................................................................................
๒. ปัญหาตา่ งๆ ที่พบจากการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้

............................................................................................................................
๓. ข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงแก้ไขในการจดั การเรียนร้คู ร้ังต่อไป

................................................................................................. ...........................
ลงช่ือ
( นาย ทศพล ลาภจรัสแสงโรจน์)
ครูผู้สอน

ความคิดเหน็ ของรองผ้อู ำนวยการโรงเรียนกลมุ่ บริหารงานวชิ าการ
ทราบ
ข้อเสนอแนะ

............................................................................................................................
ลงชอ่ื
(นางรุศดา บุญกระพอื )
รองผู้อำนวยการโรงเรียนกลุม่ บริหารงานวิชาการ

ความคิดเห็นของผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษา
ทราบ
ข้อเสนอแนะ

............................................................................................................................

ลงชือ่
(นายเอกบรรจง บุญผ่อง)

ผู้อำนวยการโรงเรยี นบ้านบงึ “อุตสาหกรรมนเุ คราะห์

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๔ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย
รายวิชา ภาษาไทย ระดับชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๓ จำนวน ๖ ชัว่ โมง
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๑ เร่ือง ภาษาในวรรณคดีไทย เวลาเรยี น ๑ ชว่ั โมง
เรอ่ื ง เรียงรอยวรรณคดีไทย

๑. สาระการเรยี นรู้และมาตรฐานการเรยี นรู้
สาระที่ ๔ หลักการใช้ภาษา
มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปลย่ี นแปลง

ของภาษาและพลังของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบตั ิของชาติ
๒. สาระสำคัญ

คำประพันธ์ประเภทกลอนสุภาพหรือกลอนแปดเป็นกลอนที่นิยมแต่งมากที่สุดมีจำนวนคำในแต่ละวรรค
๘ คำ หนึ่งบทมี ๔ วรรคหรือ ๒ บาท บาทที่ ๑ เรียก บาทเอก บาทที่ ๒ เรียก บาทโท มีสัมผัสบังคับ ๓ ตำแหน่ง
เปน็ สัมผสั สระทง้ั หมด และต้องมีสมั ผสั ระหว่างบทเป็นสัมผสั บงั คบั อีกดว้ ย
๓. ตัวช้วี ดั

ม ๓/๖ แต่งบทร้อยกรอง
๔. จดุ ประสงค์การเรียนรู้

๔.๑ ดา้ นความรู้
นกั เรียนรูแ้ ละเขา้ ใจหลกั การแต่งคำประพันธ์ประเภทกลอนสภุ าพ

๔.๒ ด้านทกั ษะและกระบวนการ
นกั เรยี นแต่งคำประพันธ์ประเภทกลอนสภุ าพได้

๔.๓ ดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
นักเรยี นมมี ารยาทในการเขียน

๕. สาระการเรียนรู้ / เนือ้ หา
ประเภทของบทร้อยกรอง

๖. กิจกรรมการเรยี นรู้
๖.๑ ขั้นนำเข้าสู่บทเรยี น
๑.ครใู ห้นักเรียนเตรียมตวั เพอื่ นำเสนอบทร้อยกรองของตนเอง
๖.๒ ข้ันการจดั กิจรรมการเรยี นรู้
๒. ครจู บั สลากสุ่มนักเรยี นออกมา ๕ คนเพ่ือนำเสนอบทรอ้ ยกรองของตนเอง หลงั จากนัน้ ครูกับ

นกั เรยี นชว่ ยกันอภิปรายว่าบทร้อยกรองของเพ่ือนทค่ี รูสมุ่ มาน้นั ถกู ต้องหรือไม่ อยา่ งไร
๖.๓ ข้ันสรปุ ความรู้
๓. ครูและนกั เรียนชว่ ยกนั สรุปบทเรยี น

๗. สอ่ื การเรียนร้/ู แหลง่ เรียนรู้

๗.๑ สอ่ื การเรียนรู้

- ส่อื มัลตมิ ีเดีย (Power Point)

๗.๒ แหล่งเรยี นรู้

-

๘. การวดั ผลและประเมินผลการเรียนรู้

สงิ่ ทว่ี ัดผล วธิ ีวัดผล เครอื่ งมือวดั ผล เกณฑ์การประเมนิ
แบบฝกึ เสริมทักษะ รอ้ ยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์
๑. ความร(ู้ K)
แบบฝกึ เสริมทักษะ ร้อยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์
นกั เรียนรู้และเขา้ ใจ สงั เกต

หลักการแต่งคำประพันธ์

ประเภทกลอนสภุ าพ

๒. ทกั ษะและกระบวนการ (P)

นกั เรยี นแตง่ คำประพันธ์ สงั เกต

ประเภทกลอนสุภาพได้

๓. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A) แบบประเมนิ ๓ ดมี าก

นักเรยี นมีมารยาทในการ สังเกต พฤติกรรมการเรียนรู้ ๒ ดี
เขียน

๑ ปรับปรงุ

ลงชือ่

( นาย ทศพล ลาภจรัสแสงโรจน์)
ครูผู้สอน

ความคิดเหน็ ของผู้บรหิ าร
 อนุญาต ให้ใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้
 ไมอ่ นุญาต ให้ใช้แผนการจัดการเรียนรู้ เนอ่ื งจาก ……………………………………………………
ลงชอ่ื
(นายเอกบรรจง บุญผ่อง)
ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นบา้ นบงึ “อุตสาหกรรมนเุ คราะห์”

บนั ทึกผลการสอน
๑. ผลการจดั การเรียนรู้
๑.๑ ดา้ นความรู้

............................................................................................................................
๑.๒ ดา้ นทักษะและกระบวนการ

....................................................................................................... .....................
๑.๓ ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

............................................................................................................................
๒. ปัญหาตา่ งๆ ทพ่ี บจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้

............................................................................................................................
๓. ขอ้ เสนอแนะเพ่ือปรบั ปรงุ แกไ้ ขในการจดั การเรยี นรู้คร้ังต่อไป

................................................................................................. ...........................
ลงช่อื
( นาย ทศพล ลาภจรสั แสงโรจน์)
ครูผ้สู อน

ความคิดเห็นของรองผู้อำนวยการโรงเรียนกล่มุ บริหารงานวชิ าการ
ทราบ
ข้อเสนอแนะ

............................................................................................................................
ลงชือ่
(นางรุศดา บุญกระพอื )
รองผู้อำนวยการโรงเรยี นกลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ

ความคดิ เห็นของผู้บริหารสถานศกึ ษา
ทราบ
ขอ้ เสนอแนะ

............................................................................................................................

ลงชอื่
(นายเอกบรรจง บญุ ผ่อง)

ผู้อำนวยการโรงเรียนบา้ นบึง “อุตสาหกรรมนุเคราะห์

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๕ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย
รายวชิ า ภาษาไทย ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๓ จำนวน ๖ ชั่วโมง
หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๑ เร่ือง ภาษาในวรรณคดีไทย เวลาเรียน ๑ ชว่ั โมง
เร่อื ง เรียงรอยวรรณคดไี ทย

๑. สาระการเรยี นรู้และมาตรฐานการเรียนรู้
สาระท่ี ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม
มาตรฐาน ท ๕.๑ เขาใจและแสดงความคิดเห็น วจิ ารณวรรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอยางเหน็

คุณคาและนาํ มาประยุกตใชในชวี ิตจรงิ
๒. สาระสำคัญ

ภาษาในวรรณคดี คือ ศิลปะการประพันธที่ปรากฏในวรรณคดีไทย ไดแก โวหารภาพพจน คือ กลวิธีการ
นําเสนอสารโดยการพลิกแพลงภาษาที่ใชพูด หรือเขียนใหแปลกออกไปจากภาษาตามตวั อักษรทําใหผูอานเกิดภาพ
ในใจ เปนการเปรยี บเทยี บใหเห็นภาพอยางชดั เจน และรสวรรณคดี คือ รสของความไพเราะในการใชถอยคําใหเกิด
ความงดงามและเกดิ อารมณแบงเปน ๔ รส การใชภาษาในวรรณคดีเชนน้ีจะทําใหวรรณคดี มคี ุณคาดานวรรณศิลป
ทาํ ใหผอู านเกิดจนิ ตภาพไดดี

๓. ตวั ชี้วัด
ม. ๓/๒ วเิ คราะหวถิ ีไทยและคุณคาจากวรรณคดีและวรรณกรรมที่อาน

๔. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
๔.๑ ดา้ นความรู้
นกั เรยี นบอกรปู แบบการประพนั ธของวรรณคดีได
๔.๒ ด้านทักษะและกระบวนการ
นกั เรียนอธบิ ายรสวรรณคดีได
๔.๓ ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
นกั เรยี นมมี ารยาทในการเขียน

๕. สาระการเรียนรู้ / เนื้อหา
รสวรรณคดี (เสาวรจนี นารปี ราโมทย พโิ รธวาทัง สัลลาปงคพสิ ัย)

๖. กิจกรรมการเรยี นรู้
๖.๑ ข้ันนำเข้าสู่บทเรียน
๑. ครูใหนกั เรียนอานบทประพันธจากเร่อื งพระอภัยมณี
“พระโยคีชี้หนาวาอเุ หม ยังโวเววนุ วายอีตายโหง
เพราะหวงผวั มวั เมาเฝาตะโกรง วากูโกงมงึ กต็ กนรกเอง

อียกั ษาตาโตโมโหมาก รปู ก็กากปากกเ็ ปราะไมเหมาะเหมง
นมสองขางอยางกระโปรงดโู ตงเตง ผวั ของเอ็งเขาระอาไมนาชม”
๒. ครูใหนักเรียนอธบิ ายรปู แบบของคาํ ประพันธ และบอกความรูสกึ ของตัวละครจากบทประ
พันธขางตน
๖.๒ ข้นั การจดั กจิ รรมการเรยี นรู้
๓. ครสู นทนากับนักเรียนเรื่องรูปแบบการประพนั ธท่นี ักเรียนเคยอานจากวรรณคดีเรื่องตาง ๆ
โดยครูจะเพิ่มเตมิ ความรูเปนระยะ
๔. ครูใหความรูเรอ่ื ง รปู แบบของคําประพันธ รสวรรณคดี โดยใชหนังสือวรรณคดวี ิจักษ
ประกอบการอธบิ าย
๕. ครูใหนกั เรียนทํากจิ กรรม “เรยี นรูรสวรรณคดี พาทีผานภาษา”
- นักเรยี นแบงกลุม กลุมละ ๕-๖ คน
- ตกลงกติกาการทาํ กิจกรรม โดยครูจะมีบทประพันธใหนักเรยี นชวยกนั วเิ คราะหภายในกลุม วาบทประ
พนั ธดังกลาวเปนรสวรรณคดีใด หลงั จากนัน้ ใหนักเรยี นตอบคาํ ถามวาเปนรสวรรณคดีใด โดยการชแู ผนปายในการ
ตอบ กาํ หนดเวลาการปรกึ ษาและตอบขอละ ๓๐ วินาที วิธีเลนคอื ในการตอบคาํ ถามจะตองตอบดวยจํานวนเงิน
๑๐๐ บาท นักเรียนสามารถเลือกตอบไดทกุ ขอ โดยในแตละขอตองใชเงนิ ใหหมด หากนักเรียนกลุมไหนตอบผดิ
จะโดนหกั เงนิ ตามจาํ นวนเงนิ ในขอทตี่ อบผิด หากนักเรียนกลุมไหนตอบผิด จะโดนหกั เงนิ จะมีคาํ ถามท้ังหมด ๑๐
ขอ กลุมไหนบริหารเงินแลวเหลือมากท่ีสุด จะไดรบั ของรางวัล
๖. ครูใหนักเรยี นทาํ ใบกจิ กรรม “ภาษาในวรรณคดี”
๖.๓ ขัน้ สรปุ ความรู้
๗. ครแู ละนักเรียนรวมกันสรปุ ความรูที่ไดรับ

๗. สอื่ การเรยี นร/ู้ แหลง่ เรียนรู้
๗.๑ สือ่ การเรียนรู้

- สือ่ มลั ตมิ ีเดีย (Power Point)
๗.๒ แหล่งเรยี นรู้

-

๘. การวัดผลและประเมินผลการเรยี นรู้

สิ่งท่วี ดั ผล วิธีวดั ผล เคร่ืองมอื วดั ผล เกณฑ์การประเมิน
แบบฝึกเสรมิ ทักษะ ร้อยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์
๑. ความร(ู้ K)

นักเรียนบอกรปู แบบการ สงั เกต

ประพนั ธของวรรณคดีได

๒. ทกั ษะและกระบวนการ (P)

นักเรียนอธิบายรส สงั เกต แบบฝึกเสริมทักษะ รอ้ ยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์

วรรณคดไี ด

๓. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) แบบประเมิน ๓ ดีมาก

นกั เรียนมีมารยาทในการ สังเกต พฤติกรรมการเรยี นรู้ ๒ ดี
เขยี น

๑ ปรบั ปรงุ

ลงชอ่ื

( นาย ทศพล ลาภจรสั แสงโรจน์)
ครูผู้สอน

ความคิดเห็นของผบู้ ริหาร
 อนุญาต ให้ใช้แผนการจดั การเรียนรู้
 ไม่อนุญาต ให้ใช้แผนการจดั การเรยี นรู้ เน่ืองจาก ……………………………………………………
ลงชอื่
(นายเอกบรรจง บญุ ผ่อง)
ผ้อู ำนวยการโรงเรยี นบ้านบึง “อุตสาหกรรมนเุ คราะห์”

บันทกึ ผลการสอน
๑. ผลการจดั การเรยี นรู้
๑.๑ ด้านความรู้

............................................................................................................................
๑.๒ ด้านทกั ษะและกระบวนการ

............................................................................................................................
๑.๓ ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

............................................................................................................................
๒. ปญั หาตา่ งๆ ทพ่ี บจากการจดั กิจกรรมการเรียนรู้

............................................................................................................................
๓. ขอ้ เสนอแนะเพ่ือปรับปรุงแกไ้ ขในการจดั การเรยี นรูค้ รั้งต่อไป

............................................................................................................................
ลงชือ่
( นาย ทศพล ลาภจรสั แสงโรจน์)
ครูผ้สู อน

ความคิดเหน็ ของรองผู้อำนวยการโรงเรยี นกลุ่มบริหารงานวชิ าการ
ทราบ
ข้อเสนอแนะ

......................................................................................................................... ...
ลงชื่อ
(นางรศุ ดา บุญกระพือ)
รองผู้อำนวยการโรงเรยี นกลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ

ความคดิ เหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษา
ทราบ
ข้อเสนอแนะ

............................................................................................................................

ลงช่ือ
(นายเอกบรรจง บญุ ผอ่ ง)

ผู้อำนวยการโรงเรยี นบ้านบงึ “อุตสาหกรรมนุเคราะห์

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๖ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย
รายวชิ า ภาษาไทย ระดับชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ ๓ จำนวน ๖ ชวั่ โมง
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ เรื่อง ภาษาในวรรณคดีไทย เวลาเรียน ๑ ชวั่ โมง
เรือ่ ง เรยี งรอยวรรณคดีไทย

๑. สาระการเรียนรแู้ ละมาตรฐานการเรียนรู้
สาระที่ ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม
มาตรฐาน ท ๕.๑ เขาใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณวรรณคดีและวรรณกรรมไทยอยางเหน็

คณุ คาและนาํ มาประยุกตใชในชีวิตจรงิ
๒. สาระสำคัญ

ภาษาในวรรณคดี คือ ศิลปะการประพันธที่ปรากฏในวรรณคดีไทย ไดแก โวหารภาพพจน คือ กลวิธีการ
นาํ เสนอสารโดยการพลิกแพลงภาษาท่ีใชพดู หรือเขยี นใหแปลกออกไปจากภาษาตามตวั อักษรทําใหผูอานเกิดภาพ
ในใจ เปนการเปรยี บเทยี บใหเหน็ ภาพอยางชัดเจน และรสวรรณคดี คอื รสของความไพเราะในการใชถอยคําใหเกิด
ความงดงามและเกิดอารมณแบงเปน ๔ รส การใชภาษาในวรรณคดเี ชนน้จี ะทําใหวรรณคดี มคี ณุ คาดานวรรณศิลป
ทําใหผอู านเกิดจนิ ตภาพไดดี

๓. ตวั ช้วี ัด
ม. ๓/๒ วเิ คราะหวิถีไทยและคุณคาจากวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอาน

๔. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
๔.๑ ดา้ นความรู้
นกั เรียนบอกรูปแบบการประพันธของวรรณคดีได
๔.๒ ด้านทกั ษะและกระบวนการ
นักเรียนอธิบายรสวรรณคดีได
๔.๓ ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์
นักเรียนมีมารยาทในการเขียน

๕. สาระการเรยี นรู้ / เนอื้ หา
รสวรรณคดี (เสาวรจนี นารปี ราโมทย พิโรธวาทัง สัลลาปงคพสิ ยั )

๖. กจิ กรรมการเรียนรู้
๖.๑ ขนั้ นำเข้าส่บู ทเรยี น
๑. ครูทบทวนเร่ืองภาษาในวรรณคดีตอจากคาบเรยี นทแี่ ลว
๖.๒ ข้นั การจัดกิจรรมการเรียนรู้
๒. ครซู กั ถามนักเรียนเกีย่ วกบั เร่ืองโวหารภาพพจนทเ่ี คยไดเรยี นมาแลว

๓. ครูใหความรูเพ่ิมเติมเรื่องโวหารภาพพจน
๔. ครใู หนักเรียนแบงกลุม (กลุมเดมิ ) แลวทํากิจกรรม “ชวนคดิ พินจิ โวหาร”

- ตกลงกตกิ าการทํากิจกรรม โดยครจู ะมีบทประพนั ธใหนักเรยี นชวยกันวเิ คราะหภาย
ในกลมุ วาบทประพันธดงั กลาวใชโวหารภาพพจนชนิดใด หลังจากน้นั ใหนกั เรยี นตอบคําถาม โดยการชแู ผนปายใน
การตอบกําหนดเวลาการปรึกษาและตอบขอละ ๓๐ วินาที วิธเี ลนคือในการตอบคําถามจะตองตอบดวยจาํ นวนเงิน
๑๐๐ บาท นกั เรียนสามารถเลือกตอบไดทกุ ขอ โดยในแตละขอตองใชเงินใหหมด หากนักเรียนกลุมไหนตอบผิด
จะโดนหกั เงินตามจํานวนเงนิ ในขอท่ีตอบผิด จะมีคําถามท้ังหมด ๑๐ ขอ กลุมไหนบริหารเงนิ แลวเหลือมากที่สดุ
จะไดรบั ของรางวัล๖. ครใู หนักเรียนทําใบกิจกรรม “ภาษาในวรรณคด”ี

๖.๓ ข้ันสรุปความรู้
๕. ครูและนักเรยี นรวมกนั สรปุ ความรูท่ีไดจากการเรียนเรอ่ื งโวหารภาพพจน์

๗. สือ่ การเรียนร/ู้ แหลง่ เรียนรู้
๗.๑ สื่อการเรียนรู้

- ส่อื powerpiont กจิ กรรม “เรียนรูรสวรรณคดี พาทผี านภาษา”
- ใบกิจกรรม “ภาษาในวรรณคด”ี
- สอื่ powerpiont เรอ่ื งภาษาในวรรณคดี
- สอ่ื powerpiont กิจกรรม “ชวนคดิ พนิ ิจโวหาร”

๗.๒ แหลง่ เรียนรู้
-

๘. การวัดผลและประเมินผลการเรยี นรู้

สิ่งท่วี ดั ผล วธิ ีวดั ผล เคร่ืองมอื วัดผล เกณฑ์การประเมิน

๑. ความร(ู้ K)

นักเรียนบอกรปู แบบการ สังเกต แบบฝกึ เสรมิ ทักษะ รอ้ ยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์

ประพนั ธของวรรณคดีได

๒. ทกั ษะและกระบวนการ (P)

นักเรียนอธิบายรส สงั เกต แบบฝกึ เสรมิ ทักษะ รอ้ ยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์

วรรณคดไี ด

๓. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) แบบประเมิน ๓ ดมี าก

นกั เรียนมีมารยาทในการ สงั เกต พฤติกรรมการเรยี นรู้ ๒ ดี
เขยี น

๑ ปรบั ปรงุ

ลงชอื่

( นาย ทศพล ลาภจรสั แสงโรจน์)
ครูผู้สอน

ความคิดเห็นของผ้บู ริหาร
 อนุญาต ให้ใชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้
 ไม่อนุญาต ใหใ้ ชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้ เนอ่ื งจาก ……………………………………………………
ลงชอื่
(นายเอกบรรจง บญุ ผ่อง)
ผู้อำนวยการโรงเรยี นบ้านบึง “อตุ สาหกรรมนุเคราะห์”

บันทกึ ผลการสอน
๑. ผลการจัดการเรียนรู้
๑.๑ ดา้ นความรู้

............................................................................................................................
๑.๒ ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ

....................................................................................................... .....................
๑.๓ ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์

............................................................................................................................
๒. ปัญหาต่างๆ ทีพ่ บจากการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

............................................................................................................................
๓. ขอ้ เสนอแนะเพ่ือปรบั ปรงุ แก้ไขในการจัดการเรยี นรคู้ ร้ังตอ่ ไป

............................................................................................................................
ลงชอ่ื
( นาย ทศพล ลาภจรสั แสงโรจน์)
ครูผสู้ อน

ความคิดเหน็ ของรองผูอ้ ำนวยการโรงเรียนกลุ่มบริหารงานวชิ าการ
ทราบ
ข้อเสนอแนะ

............................................................................................................................
ลงชื่อ
(นางรุศดา บุญกระพอื )
รองผูอ้ ำนวยการโรงเรียนกลุม่ บริหารงานวชิ าการ

ความคิดเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษา
ทราบ
ข้อเสนอแนะ

............................................................................................................................

ลงช่ือ
(นายเอกบรรจง บญุ ผอ่ ง)

ผอู้ ำนวยการโรงเรียนบา้ นบงึ “อตุ สาหกรรมนุเคราะห์


Click to View FlipBook Version