ผู้ประพันธ์ 1
แนะนำตัวละคร 2
เรื่องย่อ 5
ลักษณะคำประพันธ์ 6
คุณค่าด้านวรรณศิลป์ 7
คุณค่าด้านเนื้อหาและสังคม 8
คุณค่าด้านข้อคิด 10
ผู้ประพันธ์
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชมีพระนามเดิมว่า "ด้วง"
พระชนก คือ หลวงพินิจอักษร กับพระชนนี คือ ดาวเรือง ทรงขึ้นครองราชย์หลังจาก
สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีเสด็จสวรรคต เป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ตลอด
รัชกาลพระองค์ทรงทำสงครามทั้งกับพม่าและปราบหัวเมืองต่าง ๆ ทรงสร้างระเบียบ
การปกครอง ฟื้นฟูพระพุทธศาสนา ศิลปะศาสตร์ และอักษรศาสตร์ รวบรวมชำระ
กฎหมายตราสามดวงจนสมบูรณ์ และพระองค์ยังเป็นกวีโดยทรงพระราชนิพนธ์
วรรณคดีไว้หลายเรื่อง ได้แก่ รามเกียรติ์ ดาหลัง อุณรุท และกลอนนิราศ เรื่องรบ
พม่าที่ท่าดินแดง
**รามเกียรติ์ ตอนนารายณ์ปราบนนทก (นับเป็นฉบับที่สมบูรณ์ที่สุด)
พระอิศวร แนะนำตัวละคร
เทวดาผู้เป็นใหญ่ในสวรรค์ มีกายสีขาว แต่พระศอเป็น
สีดำ เพราะเคยดื่มยาพิษ มีพระเนตรถึง ๓ ดวง ดวงที่ ๓ อยู่
กลางพระนลาฏ ซึ่งตามปกติจะหลับอยู่ เนื่องจากพระเนตรดวงที่
๓ นี้ มีอานุภาพร้ายแรงมาก หากลืมขึ้นเมื่อใดจะเผาผลาญทุก
อย่างให้มอดไหม้ได้พระอิศวร มีนาคเป็นสังวาล มีพระจันทร์เป็น
ปิ่น อาวุธประจำพระองค์ คือ ตรีศูส(หลาวสามง่าม พาหนะของ
พระองค์ คือ โคอุศุภราช พระอิศวรมีชื่อเรียกอีกหลายชื่อ เช่น
พระศุลีพระศิวะ พระภูเตศวร เป็นต้น
ลักษณะนิสัย
มีความเมตตา ซื้อสัตย์ รักษาคำพูด มีอำนาจน่เกรงขาม
เหล่าเทวดาที่ไปเขาเฝ้าพระอิศวรอยู่เขาไกรลาส เทวดา
และมักจะกลั่นแกล้งนนทกเป็นประจำ โดย ลูบ หัว ดึง
ผม ตบหัวบ้าง ก่อนที่จะขึ้นไป
ลักษณะนิสัย
ชอบทำให้คนอื่นเดือดร้อน ขี้กลั่นแกล้ง ไม่เอาใจเขามา
ใส่ใจเรา
แนะนำตัวละคร
เป็นเทวดาผู้เป็นใหญ่ฝ่ายปราบปราม มีกายสีดอกตะแบก มี 4 กร ซึ่ง
กรทั้ง 4 นั้นถืออาวุธต่ง ๆ กัน คือ คฑา ตรี จักร สังข์ประทับอยู่กลางเกษียร
สมุทรบนหลังพญานาค ชื่อ อนันตนาคราช พระมเหสีของพระองค์คือ พระ
ลักษมี ทรงใช้ครุฑเป็นพาหนะพระนารายณ์มีชื่อเรียกอย่างอื่นอีก เช่น พระทรง
ครุฑ พระสี่กร พระทรงสังข์ พระวิษณุ พระธราธร พระสังขกร เป็นต้น
ลักษณะนิสัย
เฉลียวฉลาด มีความเก่งกาจ รู้จักวางแผน และมีไหวพริบที่ดี
พระนารายณ์
นนทก
เป็นยักษ์ที่ทำหน้าที่ล้างเท้าเทวดาอยู่ที่เชิงเขาไกรลาส ถูกพวกเทวดา
แกล้งจนนนทกมีความแค้นมาก จึงเข้าเฝ้าพระอิศวรทูลขอพรให้มีนิ้วเป็นเพชร
สามารถชี้ให้ผู้ใดตายก็ได้ จากนั้นนนทกก็ใช้นิ้วเพชรชี้ให้เทวดา พญาครุฑ
คนธรรพ์ ตายเกสื่อนกลาด พระอินทร์เห็นจึงนำเรื่องไปทูล พระอิศวรจึงสั่งพระ
นารายณ์ไปปราบ
ลักษณะนิสัย
มีความน่าสงสาร น่าเห็นใจ แต่คิดเจ้าแค้น อิจฉาริษยา ใช้อำนาจ
โดยขาดสติ ลุ่มหลงในกาม ใจง่าย
แนะนำตัวละคร
เป็นนางฟ้าจำแลงของพระนารายณ์ เป็นนางฟ้าที่สวยที่สุด เป็นผู้ที่มีทั้ง
ความงามและความสามารถในการร่ายรำได้อย่างสวยงามน่าหลงใหล โดยการ
ร่ายรำท่าต่าง ๆ ปัจจุบันเรียกท่ารำแม่ (เทพนมปฐมพรหมสี่หน้า ) มีหมดทั้ง ๑๙ ท่า
ลักษณะนิสัย
มีความนุ่มนวลอ่อนช้อย กิริยาทางมีเสน่ห์น่าหลงใหล เป็นที่รัก
ของผู้ที่พบเห็น
นางอัปสร
เทวดาผู้เป็นใหญ่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ กายสีเขียว มีพระเนตรถึงพันดวง ใช้ พระอินทร์
วัชระ (สายฟ้า) เป็นอาวุธ มีช้างเอราวัณป็นพาหนะ พระองค์มีมเหสี ๔ องค์ คือ
สุจิตรา สุธรรมา สุนันทา และสุชาดา พระอินทร์เป็นผู้ดูแลทุกข์สุขของมนุษย์โลกยาม
ใดที่มีเรื่องเดือดร้อนขึ้นบนโลกมนุษย์ อาสนะของพระองค์ที่เคยอ่อนนุ่มก็จะแข็ง
กระด้างหรือบางครั้งก็ร้อนจนไม่สามารถประทับอยู่ได้ พระอินทร์มีชื่อเรียกอย่างอื่น
เช่น ท้าวสหัสนัยน์ ท้าวโกสีย์ ท้าวสักกะ เทวราช อมรินทร์ ศักรินทร์ มัฆวา เพชร
ปาณี
ลักษณะนิสัย
มีความเมตตา มีความเป็นผู้นำ มีดวามรัก และปกป้องคนอื่นเสมอ
เรื่องย่อ
นนทกมีหน้าที่ล้างท้าวเทวดาอยู่ที่เชิงเขาไกรลาส เมื่อเทวดาพากันไปเฝ้าพระอิศวร
พวกเทวดาชอบข่มเหงนนทกอยู่เป็นประจำด้วยการลูบหัวบ้าง ตบหัวบ้างจนกระทั่งผมร่วงหมดน
นทกแค้นใจเป็นอันมาก จึงไปเฝ้าพระอิศวร กราบทูลว่าตนได้รับใช้มานาน ยังไม่เคยได้รับสิ่ง
ตอบแทนเลย จึงทูลขอให้นิ้วเป็นเพชร มีฤทธิ์ชี้ผู้ใดก็ให้ผู้นั้นตายได้ พระอิศวรก็ประทานให้
ตามขอ เมื่อเทวดามาลูบศีรษะเล่นเช่นเคย นนทกก็ชี้ให้ตายลงเป็นจำนวนมาก จึงทำให้
พระอินทร์เห็น และนำเรื่องไปทูลพระอิศวร พระอิศวรทรงทราบก็กริ้ว โปรดให้พระนารายณ์ไป
ปราบ พระนารายณ์แปลงเป็นนางฟ้ามายั่วยวน นนทกนักรักจึงเกี้ยวนาง นางแปลงจึงชวนให้
นนทกรำตามนางก่อนอนจึงจะรับรัก นนทกตกลงรำตามไปจนถึงท่ารำที่ใช้นิ้งเพชรชี้เข่าตนเอง
นนทกล้มลงก่อนตายนนทกเห็นนางแปลงปรากฎร่างเป็นพระนารายณ์ จึงต่อว่าพระนารายณ์มี
อำนาจ มึถึง - กร เหตุใดจึงต้องทำอุบายมาหลอกลวงตน พระนารายณ์จึงให้นนทกไปเกิด
ใหม่ให้มีถึง ๒๐ มือ แล้วพระองค์จะตามไปเกิดเป็นมนุษย์มีเพียง ๒ มือลงไปสู้ด้วย นนทกจึง
ไปเกิดเป็นทศกัณฐ์ ส่วนพระนารายณ์ก็อวตารลงมาเป็นพระราม
ลักษณะคำประพันธ์
กลอนบทละคร แต่งขึ้นเพื่อใช้แสดงละคร มีลักษณะคำประพันธ์คล้าย
กลอนแปด แต่สิ่งที่ต่างออกไปคือ วรรคสดับ
(วรรคแรก)
มาจะกล่าวบทไป ถึงนนทกน้ำใจกล้าหาญ
ตั้งแต่พระสยมภูวณ ประธานให้ล้างเท้าเทวดา
อยู่บันไดไกรลาสเป็นนิจ สุราฤทธิ์ตบหัวแล้วลูบ
หน้า
บ้างให้ตักน้ำล้างบาทา บ้างถอนเส้นเกศาวุ่น
คุณค่าด้านวรรณศิลป์
๑. การดำเนินเรื่องได้รวดเร็ว อย่างกระชับ แต่สามารถทำให้ผู้อ่านได้
เข้าใจถึงลักษณะของตัวละครได้อย่างชัดเจน ดังตัวอย่างตอนที่เปิดเรื่อง
กล่าวถึงนนทกเพียง ๓ คำกลอน สามารถทำให้ผู้อ่านรู้จักนนทกว่าทำหน้าที่
อะไร อยู่ที่ไหน ดังบทกลอนที่ว่า
"มาจะกล่าวบทไป
ถึงนนทกน้ำใจกล้าหาญ
ตั้งแต่พระสยมภูวญาณ
ประทานให้ล้างเท้าเทวา
อยู่บันไดไกรลาสเป็นนิจ
สุราฤทธิ์ตบหัวแล้วลูบหน้า
และเหตุใดจึงมีรูปลักษณะที่น่าเกลียด ทั้งยังทำให้เห็นภาพที่ชัดเจน
ดังบทกลอนที่ว่า
"...จนผมโกร์นโล้นเกลี้ยงถึงเพียงหู..."
ตอนที่นนทกดีใจที่ได้นิ้วเพชร เมื่อกลับมาทำหน้าที่ตรงบันได
ไกรลาส ดังบทกลอนที่ว่า
"...บัดสมาธินั่งยิ้มริมอ่างใหญ่... "
คุณค่าด้านวรรณศิลป์
๒.การใช้คำหลากเพื่อให้เห็นถึงความรุ่มรวยของศัพท์ในวรรณคดีไทย
พระศุลี เป็นต้น หรือเมื่อจะกล่าวถึงเหล่าเทวดา ก็ใช้คำต่าง ๆ เช่น สุรา
ฤทธิ์ สุรารักษ์ สุราลัย เป็นต้น
๓.การใช้คำซ้ำ ซึ่งก่อให้เกิดจินตนาการ และภาพพจน์ ในบทชมโฉม
ความงามของนางเทพอัปสรที่พระนารายณ์ได้แปลงกายมา โดยกวี (ผู้แต่ง)
ใช้คำว่า "งาม" ซ้ำ ๆ กัน เพื่อย้ำให้เห็นความงามอย่างยิ่งของนางเทพอัปสร
และยังท้ายด้วยความว่า "..งามอ่อนทั้งกายา" เพื่อบ่งบอกว่าเป็นความงามของ
สตรีเพศที่สมบูรณ์ปราศจากที่ดี จนทำให้นนทกนั้นมีความหลงใหลและยอมทำ
ตามทุกอย่าง
๔.การเปรียบเทียบ เพื่อให้ผู้อ่านได้เห็นภาพพจน์และเข้าใจถึง
ความรู้สึกของตัวละคร กวีก็ได้ใช้ภาพพจน์ง่ายๆ เช่น เปรียบเทียบอาการโกรธ
ของนนทุกว่า "ตาแดงดั่งแสงไฟฟ้า" เปรียบฤทธิ์ของนิ้วเพชร "ดั่งพิษอสุนีไม่
ทนได้" เปรียบความงามของนางรำที่เป็นนารายณ์แปลงว่า "งามองค์ยิ่งเทพ
อัปสร"
คุณค่าด้านเนื้อหาและสังคม
๑. การให้ความรู้เกี่ยวกับท่ารำ โดยสอดแทรกกับเนื้อเรื่องอย่าง
กลมกลืน ใช้ตัวละครในเรื่องอธิบาย ลักษณะของท่ารำต่าง ๆ ที่เรียกว่า
"รำแม่บท" หมายถึง ท่าที่เป็นหลักของการรำหรือแม่ท่าเป็นตำราท่ารำไทย
๒. ความสัมพันธ์ระหว่างคนต่างฐานะ โดยให้ยึดหลักที่ว่าสังคมจะสงบ
สุขอยู่ได้ หากคนเรามีน้ำใจต่อกัน ช่วยเหลือเกื้อกูล ไม่ข่มเหงน้ำใจกัน
เรื่องระหว่างนนทกกับเหล่าก็จะไม่เกิดขึ้น
๓. ความโกรธและความอาฆาตรุนแรง ทำให้นนทกขอนิ้วเพชร
แล้วนำมาใช้สังหารผู้ที่กลั่นแกล้งตน เป็นเหตุให้เทวดาล้มตายเป็นจำนวนมาก
สร้างความปั่นป่วนให้เทวสังคม พระอิศวรจึงต้องจัดการเรื่องราวให้คืนสู่สันติ
โดยเร็ว และนนทกต้องถูกสังหารเพราะความอาฆาตแค้น ของตน ซึ่งทำให้
ผู้อ่านเห็นว่า ความโกรธและความอาฆาตแค้นไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์
แก่ผู้ใดเลย แต่สุดท้ายแล้วก็กลับมาทำร้ายตนเอง
๔. สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อในเรื่องการกลับชาติมาเกิด ซึ่งเป็นความ
เชื่อของคนไทยตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน
๕. พฤติกรรมของการจองเวร ก่อให้เกิดการล้างแค้นที่ไม่สิ้นสุด
๖. คติธรรมจากเรื่องนี้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการดำรงชีวิต
ประจำวันได้ เช่น การถูกรังแก จากผู้อำนาจทำให้เกิดการแก้แค้น เมื่อผู้นั้น
หมดความอดทนหรือแก้แค้นเมื่อมีโอกาส ทั้งยังสะท้อนให้เห็นว่าการลุ่มหลงในสตรีเพศอาจ
ทำให้ขาดสติได้
คุณค่าด้านข้อคิด
๑. อำนาจตกอยู่ในมือของคนที่ลืมตัว จะเกิดผลร้ายตามมาได้
๒. เมื่อคนมีอำนาจ จะตัดสินใจด้วยความรู้สึกก้าวร้าวรุนแรงได้ง่ายเมื่อคิดว่าถูก
รังแก
๓. คนเราควรใช้อำนาจเพียงเพื่อป้องกันตัวไมให้รับพิบัติเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อ
ทำลายผู้อื่นเพื่อแก้แค้น
๔. เมตตาต่อผู้อื่นจึงจะทำให้สังคมร่มเย็นเป็นสุข
๕. การใช้สติปัญญาสำคัญกว่าการใช้กำลัง