คมู่ อื สำหรบั หนว่ ยงำนทส่ี มัครขอรบั กำรรับรองมำตรฐำน
กำรให้บรกิ ำรของศูนย์รำชกำรสะดวก (GECC) ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖4
ระยะเวลำกำรรบั สมัคร : ต้งั แตว่ ันท่ี ๑ มกรำคม - ๒8 กุมภำพนั ธ์ ๒๕๖4
ผ่ำนระบบ Online ที่ www.psc.opm.go.th เท่ำนัน้
ระระบบสมัคร Online
-2-
๑. ขั้นตอนกำรสมัครขอรับกำรรับรองมำตรฐำนกำรให้บริกำรของศูนย์รำชกำรสะดวก
ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖4
1.1 หน่วยงานสามารถเข้าสู่หน้าเวบ็ ไซตก์ ารสมัคร GECC Online ได้ 2 วธิ ี
1) ผ่านเวบ็ ไซต์สานกั นายกรฐั มนตรี ท่ี www.opm.go.th
1. คลกิ หน่วยงานภายใน
สปน.
2. เลือก ศนู ยบ์ ริการประชาชน
หน้ำเวบ็ ศูนยบ์ รกิ ำรประชำชน เลื่อนหน้าจอลงมาจะเหน็ หนา้ เพจ
ศนู ย์ราชการสะดวก
ระระบบสมคั ร Online
-3-
2) ผ่านเว็บไซต์ศนู ย์บรกิ ารประชาชน ที่ www.psc.opm.go.th และคลิกปุ่ม GECC Online เพ่อื เขา้ สู่ระบบ
การย่นื ใบสมัคร Online
หนำ้ เวบ็ ศนู ยบ์ ริกำรประชำชน
เลอ่ื นหนา้ จอลงมาจะเหน็ หน้าเพจ
ศนู ย์ราชการสะดวก
ระระบบสมคั ร Online
-4-
1.๒ ระบบจะแสดงหน้าจอ GECC Online ใหค้ ลกิ ลงทะเบียน เพ่ือขอ User และ Password เขา้ สูร่ ะบบการสมัคร
ออนไลน์
คลกิ ลงทะเบียน
* สาหรบั หนว่ ยงานท่เี คยลงทะเบยี นไวแ้ ลว้ สามารถใช้ User & Password เดิม เขา้ สรู่ ะบบการสมัครได้
-5-
1.๓ กรอกข้อมลู ผปู้ ระสานงานของหนว่ ยงาน
1.กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน
(Email/Password คอื
User และ Password)
เขำ้ ส่รู ะบบกำรสมคั ร
คลกิ ลงทะเบยี น
ระบบจะแสดงข้อควำม
ยนื ยันกำรลงทะเบียน
1.4 ใส่ Email และ Password ท่ลี งทะเบยี นไว้เพ่อื เข้าสรู่ ะบบ GECC และกดเขา้ ส่รู ะบบ
๑. กรอก E-mail
๒. กรอก Password
๓. คลิก เขำ้ สรู่ ะบบ
-6-
1.5 คลกิ สรา้ งใบสมัครศูนย์ราชการสะดวก
คลิกสรำ้ งใบสมัคร
1.6 กรอกแบบฟอร์มใบสมคั รขอรับการรับรองมาตรฐานศูนย์ราชการสะดวก
จดุ น้ี คือการคัดแยกใบสมัครออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่
๑. หนว่ ยงานได้รบั การรับรองมาแลว้ (ลูกค้ำเกำ่ ) และ ๒. หน่วยงานท่ีขอรับการรับรองเป็นปแี รก (ลกู คำ้ ใหม่)
-7-
1.6.1 กรณีหน่วยงำนได้รับกำรรับรองมำตรฐำนมำแล้ว ให้เลือก “เคย” จำกน้ันจะปรำกฏกรอบสีเหลือง
ใหเ้ ลือกช่ือศูนย์รำชกำรสะดวกของหน่วยงำนตนเองหลังจำกบนั ทึกข้อมูลแล้ว ระบบจะสร้ำงใบสมัครแบบ “ลกู ค้ำเกำ่ ”
2.เลอื กชอื่ 1. เลอื ก เคย
ศูนยร์ ำชกำรสะดวก (ไดร้ บั กำรรบั รองมำแล้ว)
กรณีที่ชือ่ หน่วยงำนซ้ำ
สำมำรถเลือกอยำ่ งใดอย่ำงหน่ึงได้
3. กด บนั ทึกข้อมูล
-8-
1) หลังจากบันทกึ ข้อมลู แลว้ ระบบจะสร้างใบสมคั ร จากน้ันใหห้ นว่ ยงานคลิกเพอ่ื เข้าไปกรอกข้อมลู ใบสมัคร
1. G64XXXX 3. คลกิ กรอกข้อมูลใบสมัคร
2. ชือ่ ศนู ยร์ ำชกำรสะดวก
จุดสังเกตใบสมัครแบบ “ลูกคำ้ เก่ำ”
2) กรอกขอ้ มูลใบสมคั รให้ครบถว้ น แล้วคลิก บนั ทกึ ข้อมูล ทง้ั นี้ หน่วยงานสามารถแก้ไขขอ้ มูลได้จนกว่าจะคลกิ
สง่ ใบสมคั ร โดยข้อมูลทีห่ น่วยงานจะต้องกรอก มีดงั น้ี
2.1) เกณฑ์ด้ำนกำยภำพ แบบประเมินตนเอง (Self–Checklist) หน่วยงานจะต้องดาเนินการให้ครบถว้ น
โดยใหเ้ ลอื ก มี หรือ ไม่มี
๑. คลิก ๒. เลือก มี หรอื ไม่มี
-9-
2.2) เกณฑ์ดำ้ นคณุ ภำพ ประกอบดว้ ย เกณฑ์ขนั้ พน้ื ฐาน () ท้งั หมด 30 ข้อ เกณฑ์ขัน้ สูง (☺) ทั้งหมด 20 ข้อ
- หนว่ ยงานประเมินตนเอง (Self-Checklist) ในข้อ เกณฑ์ข้นั พืน้ ฐำน ()
- หน่วยงานจะต้องกรอกข้อความคาอธิบาย (ส้ัน กระชับ และชัดเจน) โดยข้อความจะต้องไม่เกิน
3,000 ตัวอักษร ในขอ้ เกณฑ์ขัน้ สูง (☺)
- หน่วยงานจะต้องแนบไฟล์เพ่ืออัพโหลดเอกสารท่ีเก่ียวข้องกับหลักเกณฑ์ด้านคุณภาพที่พิจารณาได้
ในเชิงประจักษ์ โดยไฟล์จะต้องมีขนาดไม่เกิน ๕ MB (สามารถแนบเอกสารประกอบได้เฉพาะไฟล์สกุล PDF
และไฟลส์ กลุ รูปภาพ)
๑. คลิกเกณฑ์พน้ื ฐำน : ด้ำนคุณภำพ
2. เลอื ก มี หรอื ไม่
มี
๑. คลิกเกณฑ์ขน้ั สูง : ดำ้ นคุณภำพ
2. เลอื ก มี หรอื ไม่มี 3. กรอกคำอธิบำย
4. แนบไฟล์หลักฐำน
-10-
5. เลอื กไฟล์
6. บันทกึ
ทงั้ นี้ เกณฑ์คุณภาพ ข้อ 2.1 สามารถแนบไฟล์ไดร้ ายการละ 1 ไฟล์ เทา่ น้ัน
1. เลอื กรำยกำรสิง่ อำนวยควำมสะดวก
2. แนบไฟล์หลักฐำน
3. กด บนั ทกึ
2.3) เกณฑด์ ้ำนผลลพั ธ์ มี ๓ ขอ้ รวม ๓๐ คะแนน
- หนว่ ยงานจะตอ้ งกรอกข้อความคาอธิบาย (สัน้ กระชบั และชัดเจน) โดยขอ้ ความจะต้องไม่เกนิ 3,000 ตัวอักษร
- หน่วยงานจะต้องแนบไฟล์เพ่ืออัพโหลดเอกสารที่เกี่ยวข้องกับเกณฑ์ด้านผลลัพธ์ที่พิจารณาได้
ในเชิงประจักษ์ โดยไฟล์จะต้องมีขนาดไม่เกิน ๕ MB (สามารถแนบเอกสารประกอบได้เฉพาะไฟล์สกุล
PDF และไฟลส์ กลุ รูปภาพ) ๑. คลกิ
๒. กรอกคำอธบิ ำย
๓. แนบไฟลห์ ลกั ฐำน
-11-
2.๔) แบบประเมนิ ควำมพร้อม (ต้องแนบไฟล์กอ่ นส่งใบสมคั ร)
หน่วยงานจะตอ้ งแนบไฟลแ์ บบประเมนิ ความพร้อมในการเขา้ สู่มาตรฐานศูนย์ราชการสะดวก จงึ จะสามารถ
ส่งใบสมัครได้ โดยผู้ประเมินควำมพร้อมในกำรเข้ำสู่มำตรฐำนศูนย์รำชกำรสะดวก ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖4 จะแบ่ง
ตำมพ้นื ท่ีตั้งของหน่วยบริกำรประชำชน ดงั นี้
๑. หน่วยบรกิ ารประชาชนท่ีต้ังอยู่ในพน้ื ท่ีจังหวดั ใหเ้ สนอ ผวจ./ร.ผวจ. ที่ได้รบั มอบหมาย
๒. หนว่ ยบริการประชาชนท่ีตั้งอยู่ในพน้ื ท่ีกรงุ เทพมหำนคร ใหเ้ สนอดงั นี้
๒.๑ หน่วยงานราชการ ใหเ้ สนออธบิ ดี/รองอธบิ ดีขน้ึ ไป
๒.๒ หนว่ ยงานรัฐวสิ าหกิจหรอื หนว่ ยงานอนื่ ใดของรฐั ให้เสนอผบู้ ริหารระดบั สงู ของหน่วยงาน
๕. คลกิ บนั ทึกข้อมลู
๓. เลอื ก มี ๑. คลกิ
หรือ ไม่มี
๒. ดำวน์โหลดเอกสำร
เสนอผ้ปู ระเมนิ
๔. หำกเลือก “ม”ี ขอให้แนบไฟล์แบบประเมินทล่ี งนำมแล้ว
-12-
1.6.2 กรณีหน่วยงำนขอรับรองมำตรฐำนเป็นปีแรก ให้เลือก “ไม่เคย” หลังจำกบันทึกข้อมูลแล้ว
ระบบจะสร้ำงใบสมคั รแบบ “ลกู ค้ำใหม่”
1. เลือก ไม่เคย
(ขอรับรองเปน็ ปีแรก)
2. กด บนั ทกึ ข้อมูล
-13-
1) หลังจากบนั ทึกข้อมูลแล้ว ระบบจะสร้างใบสมคั ร จากน้ันให้หน่วยงานคลิกเพอ่ื เขา้ ไปกรอกขอ้ มูลใบสมัคร
1. G64XXXX 3. คลกิ กรอกข้อมลู ใบสมคั ร
2. ชอ่ื ศนู ย์รำชกำรสะดวก
จดุ สังเกตใบสมคั รแบบ “ลูกค้ำใหม่”
-14-
2) กรอกข้อมูลใบสมัครให้ครบถว้ น แลว้ คลกิ บนั ทกึ ข้อมูล ทง้ั น้ี หนว่ ยงานสามารถแก้ไขข้อมลู ไดจ้ นกวา่ จะคลกิ
สง่ ใบสมัคร โดยข้อมลู ทหี่ น่วยงานจะต้องกรอก มีดังน้ี
2.1) เกณฑ์ด้ำนกำยภำพ แบบประเมินตนเอง (Self–Checklist) หน่วยงานจะต้องดาเนินการให้ครบถ้วน
โดยให้เลือก มี หรือ ไม่มี
๑. คลิก
๒. เลอื ก มี หรือ ไม่มี
-15-
2.2) เกณฑ์ดำ้ นคณุ ภำพ ประกอบด้วย เกณฑข์ ้นั พนื้ ฐาน () ทงั้ หมด 30 ขอ้ เกณฑข์ น้ั สูง (☺) ทงั้ หมด 20 ข้อ
- หน่วยงานจะต้องกรอกข้อความคาอธิบาย (สั้น กระชับ และชัดเจน) โดยข้อความจะต้องไม่เกิน
3,000 ตัวอกั ษร
- หน่วยงานจะต้องแนบไฟล์เพ่ืออัพโหลดเอกสารท่ีเก่ียวข้องกับหลักเกณฑ์ด้านคุณภาพท่ีพิจารณาได้
ในเชิงประจักษ์ โดยไฟล์จะต้องมีขนาดไม่เกิน ๕ MB (สามารถแนบเอกสารประกอบได้เฉพาะไฟล์สกุล PDF
และไฟล์สกุลรูปภาพ)
๑. คลิก
๒. เลอื ก มี หรือ ไม่มี 3. กรอกคำอธิบำย
3. แนบไฟลห์ ลกั ฐำน
4. เลือกไฟล์
5. กด บันทึก
-16-
ทงั้ นี้ เกณฑ์คณุ ภาพ ขอ้ 3.2 สามารถแนบไฟล์ไดร้ ายการละ 1 ไฟล์ เทา่ นนั้
1. กด แนบไฟล์
2. เลือก รำยกำรสง่ิ อำนวยควำมสะดวก
3. แนบไฟลห์ ลักฐำน
4. กด บันทึก
2.๓) เกณฑ์ดำ้ นผลลัพธ์ มี ๓ ข้อ รวม ๓๐ คะแนน
- หน่วยงานจะตอ้ งกรอกข้อความคาอธบิ าย (สั้น กระชับ และชดั เจน) โดยข้อความจะตอ้ งไม่เกนิ 3,000 ตวั อักษร
- หน่วยงานจะต้องแนบไฟล์เพื่ออัพโหลดเอกสารที่เกี่ยวข้องกับเกณฑ์ด้านผลลัพธ์ท่ีพิจารณาได้
ในเชิงประจักษ์ โดยไฟล์จะต้องมีขนาดไม่เกิน ๕ MB (สามารถแนบเอกสารประกอบได้เฉพาะไฟล์สกุล
PDF และไฟลส์ กุลรปู ภาพ) ๑. คลิก
๒. กรอกคำอธิบำย
๓. แนบไฟล์หลกั ฐำน
-17-
2.๔) แบบประเมินควำมพร้อม (ตอ้ งแนบไฟล์ก่อนส่งใบสมัคร)
หน่วยงานจะต้องแนบไฟล์แบบประเมินความพร้อมในการเขา้ สู่มาตรฐานศูนยร์ าชการสะดวก จงึ จะสามารถ
ส่งใบสมัครได้ โดยผู้ประเมินควำมพร้อมในกำรเข้ำสู่มำตรฐำนศูนย์รำชกำรสะดวก ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖4 จะแบ่ง
ตำมพื้นที่ต้ังของหน่วยบรกิ ำรประชำชน ดงั นี้
๑. หนว่ ยบริการประชาชนที่ต้ังอยใู่ นพน้ื ท่ีจังหวัด ใหเ้ สนอ ผวจ./ร.ผวจ. ที่ไดร้ ับมอบหมาย
๒. หนว่ ยบรกิ ารประชาชนท่ีตั้งอย่ใู นพน้ื ท่ีกรุงเทพมหำนคร ใหเ้ สนอดงั นี้
๒.๑ หนว่ ยงานราชการ ให้เสนออธบิ ดี/รองอธบิ ดีขน้ึ ไป
๒.๒ หนว่ ยงานรฐั วิสาหกิจหรอื หน่วยงานอื่นใดของรฐั ให้เสนอผบู้ ริหารระดับสูงของหน่วยงาน
๕. คลิก บันทึกข้อมลู
๓. เลือก มี ๑. คลกิ
หรือ ไมม่ ี
๒. ดำวนโ์ หลดเอกสำร
เสนอผู้ประเมิน
๔. หำกเลอื ก “ม”ี ขอให้แนบไฟล์แบบประเมินท่ีลงนำมแลว้
1.6.3 เมื่อกรอกข้อมูล ๑) เกณฑ์ด้ำนกำยภำพแบบประเมินตนเอง (Self– Checklist) ๒) เกณฑ์ด้ำนคุณภำพ
๓) เกณฑด์ ำ้ นผลลัพธ์ และ ๔) แนบไฟลแ์ บบประเมินควำมพร้อมฯครบถ้วน เรียบรอ้ ยแล้ว คลกิ ยืนยนั บันทึกข้อมูล
๑. คลิกยนื ยันบันทึกข้อมูล
-18-
และระบบจะแจ้งเตือนการยืนยันบันทึกข้อมูล (เป็นเพียงการบันทึกข้อมูลไว้เท่านั้น มิใช่การส่งใบสมัคร)
ดงั ภาพ
๒. ระบบแจ้งเตอื นกำรบันทึกข้อมลู
มิใช่กำรส่งใบสมคั ร
1.6.4 เมอื่ ต้องการสง่ ใบสมคั รท่ีได้กรอกข้อมูลครบถว้ นแลว้ ให้คลิกปมุ่ “ส่งใบสมัคร” และระบบจะแจง้ เตือน
เพอ่ื ยนื ยันส่งใบสมัคร หำกคลกิ ปมุ่ “ยนื ยันส่งใบสมคั ร” แล้ว จะไม่สำมำรถแกไ้ ขข้อมูลไดอ้ ีก
๑. คลกิ ส่งใบสมัคร
๒. คลกิ ยนื ยันส่งใบสมคั ร
-19-
๓. กด ยนื ยนั
ระบบแจ้งเตอื น
กำรส่งใบสมัครเสร็จสมบูรณ์
และพิมพ์ใบสมคั ร
๑.6.5 หน้ำจอกำรสง่ ใบสมัครสมบูรณ์ และกำรตรวจสอบสถำนะใบสมคั ร
หน่วยงานสามารถตรวจสอบสถานะใบสมัครของตนเองได้ท่ีแถบคาว่า “สถานะใบสมัคร” หากระบุ
คาว่า “ส่งใบสมัครแล้ว” คือระบบได้จัดเก็บข้อมูลใบสมัครของท่านเพ่ือเข้าสู่กระบวนการตรวจประเมินเรียบร้อยแล้ว
ทัง้ นี้ หน่วยงานสามารถพมิ พ์ใบสมัครของตนเองได้
สถำนะคือ : สง่ ใบสมคั รแล้ว พิมพ์ใบสมคั รได้
เมอ่ื วนั ท่ี 15 ธนั วำคม ๒๕๖3 เวลำ 9:45:07 น.
-20-
๒. เงื่อนไขกำรพิจำรณำเกณฑแ์ ต่ละดำ้ น
หน่วยงำนทไี่ ดร้ บั กำรรบั รองมำตรฐำนแลว้ หนว่ ยงำนที่ขอรับกำรรบั รองมำตรฐำนครัง้ แรก
(ลูกคำ้ เกำ่ ) (ลกู คำ้ ใหม่)
1. ประเมนิ ตัวเองตาม Check list ดา้ นกายภาพ 13 ขอ้ 1. เกณฑด์ า้ นกายภาพ 13 ข้อ
หน่วยงานจะต้องดาเนนิ การประเมนิ ตัวเองตาม Check list
2. ประเมินตัวเองตาม Check list ด้านคณุ ภาพ ดา้ นกายภาพ 13 ข้อให้ครบถว้ น
(เกณฑพ์ ื้นฐาน) จานวน 30 ขอ้ ข้อละ 1 คะแนน
รวม 30 คะแนน 2. ประเมินตามเกณฑ์ด้านคุณภาพ (เกณฑ์พื้นฐาน)
3. ประเมนิ ตามเกณฑด์ ้านคุณภาพ (เกณฑ์ขนั้ สงู ) จานวน 30 ข้อ ข้อละ 1 คะแนน รวม 30 คะแนน
จานวน 20 ขอ้ ข้อละ 2 คะแนน รวม 40 คะแนน หนว่ ยงานจะตอ้ งดาเนนิ การให้ครบถ้วน
หน่วยงานจะตอ้ งดาเนนิ การอยา่ งน้อยให้ได้ 24 คะแนน
4. ประเมินตามเกณฑด์ ้านผลลัพธ์ จานวน 3 ข้อ 3. ประเมินตามเกณฑด์ ้านคุณภาพ (เกณฑ์ขัน้ สงู )
รวม 30 คะแนน จานวน 20 ขอ้ ข้อละ 2 คะแนน รวม 40 คะแนน
หน่วยงานจะตอ้ งดาเนินการอย่างน้อยให้ได้ 16 คะแนน หนว่ ยงานจะต้องดาเนินการอยา่ งน้อยให้ได้ 24 คะแนน
5. ไมร่ ับเอกสารเพิม่ เติมภายหลังการตรวจคัดกรองเอกสาร
และการตรวจประเมนิ ในพน้ื ท่ี 4. ประเมนิ ตามเกณฑ์ด้านผลลัพธ์ จานวน 3 ขอ้
รวม 30 คะแนน
หน่วยงานจะตอ้ งดาเนินการอยา่ งน้อยให้ได้ 16 คะแนน
5. ไมร่ บั เอกสารเพ่ิมเติมภายหลงั การตรวจคดั กรองเอกสาร
และการตรวจประเมนิ ในพน้ื ที่
-21-
3. คำอธบิ ำยแนวทำงกำรดำเนินกำร เกณฑท์ ้งั 3 ดำ้ น
3.1 แบบประเมินตนเอง (Self-Checklist) หนว่ ยงานจะตอ้ งดาเนนิ การใหค้ รบถ้วน หากหน่วยงาน
ดาเนนิ การได้ไม่ครบทัง้ ๑4 ข้อ ถอื วา่ ไมผ่ ่านการประเมินตนเอง
ข้อ กำรดำเนนิ กำร มี ไมม่ ี
ท่ี (รบั พจิ ำรณำต่อ) (ไม่พิจำรณำตอ่ )
1. มกี ารใหบ้ รกิ ารนอกเวลาราชการ หรือตามเวลาทสี่ อดคลอ้ งกบั ผลการสารวจความต้องการของ
ผรู้ ับบริการในแตล่ ะพนื้ ที่ เช่น
- วนั จันทร์-ศกุ ร์ ในวันเวลาราชการ แตเ่ พม่ิ เวลาพักเท่ยี งหรือเวลา 17.00 – 19.00 น.
- วันเสาร์-อาทติ ย์ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๒.๐๐ น. เป็นตน้
2. มรี ะบบการขนสง่ สาธารณะท่เี ข้าถงึ สถานทบี่ ริการเพอื่ ใหส้ ะดวกตอ่ การเดนิ ทาง โดยสามารถเขา้ ถงึ
สถานทด่ี ้วยรถสาธารณะ
3. มปี า้ ย/สญั ลักษณ์ บอกทิศทางหรือตาแหน่งในการเข้าถึงจุดใหบ้ ริการได้อยา่ งสะดวกและชดั เจน
(ให้อนกุ รรมการฯ พิจารณาจากปา้ ยบอกทศิ ทางหรอื ตาแหนง่ จดุ ใหบ้ รกิ ารภายในหนว่ ยงาน)
4. มีการออกแบบสถานทคี่ านึงถงึ ผู้พกิ าร สตรีมคี รรภ์ และผสู้ งู อายุ เชน่ จุดใหบ้ รกิ ารอยชู่ ้นั ๑
(กรณีไมม่ ลี ฟิ ต)์ มที างลาดสาหรบั รถเข็น มีพ้นื ทวี่ ่างใต้เคานเ์ ตอรใ์ หร้ ถเขน็ คนพกิ ารสามารถเขา้ ได้
โดยไม่มสี ่ิงกีดขวาง เปน็ ตน้ (หมายเหตุ ควรพิจารณาในเรอื่ งการใช้ไดจ้ ริงของสถานทโ่ี ดยให้
อนุกรรมการฯ ทดสอบดว้ ย)
5. มีการออกแบบผงั งาน และระบบการให้บรกิ ารระหวา่ ง “จดุ ก่อนเขา้ ส่บู รกิ าร” และ “จดุ ใหบ้ รกิ าร”
ที่อานวยความสะดวกท้ังสาหรบั เจา้ หนา้ ที่และประชาชน เพื่อให้สามารถให้บริการประชาชนได้
อย่างรวดเรว็ โดยคานงึ ถงึ ลักษณะและปรมิ าณงานที่ให้บรกิ าร (หมายเหตุ ต้องโลง่ โปร่ง ไมแ่ ออดั
และคานึงถึงการใหบ้ ริการผู้มาใช้บริการได้อย่างตอ่ เนื่อง)
6. มีขนาดและพน้ื ท่ใี ช้งานสะดวกตอ่ การเออื้ มจบั (พื้นที่ว่างดา้ นขา้ งสาหรบั การเคลอ่ื นไหวรา่ งกาย
ทส่ี บาย) และออกแบบจดั วางเอกสารใหส้ ามารถให้บรกิ ารไดอ้ ย่างรวดเร็ว
7. ในจุดท่สี าคญั หรืออนั ตรายมีการออกแบบหรอื จัดใหส้ ามารถมองเหน็ ไดช้ ัดเจนตามหลกั สากล
ทัง้ ขณะยนื หรือรถล้อเลอื่ น (เช่น ตดิ แถบเตือนใหร้ ะมดั ระวงั บรเิ วณจุดพน้ื ทีต่ ่างระดบั )
8. มีการจัดใหม้ ีแสงสวา่ งอย่างเพียงพอทีจ่ ะไม่ทาใหเ้ กดิ อันตราย และไมเ่ ป็นอปุ สรรคตอ่ การให้บรกิ าร
9. มกี ารจัดสรรสิง่ อานวยความสะดวกทสี่ อดคลอ้ งกับผลสารวจความตอ้ งการของผ้รู บั บรกิ าร และ
ความพร้อมของทรพั ยากรทมี่ ี เชน่ นา้ ดืม่ เกา้ อ้นี งั่ พกั รอ เป็นต้น
10. มหี ้องนา้ ที่สะอาด และถูกสุขลักษณะ (กรณที ี่ห้องน้าไมอ่ ยู่ในอานาจการบริหารจัดการของหนว่ ยงานเอง
ใหพ้ ิจารณาจากการมสี ่วนร่วมในการบริหารจดั การ)
11. มีการจดั ใหม้ รี ะบบควิ เพอ่ื ใหบ้ รกิ ารไดอ้ ยา่ งเป็นธรรม
12. มีจดุ แรกรับ ในการช่วยอานวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น คดั กรองผู้รบั บริการ ใหค้ าแนะนาในการ
ขอรบั บริการ หรอื ชว่ ยเตรยี มเอกสาร กรอกแบบฟอรม์ ตา่ ง ๆ เพ่อื เพม่ิ ประสทิ ธิภาพในการบรกิ าร
และ
ลดระยะเวลารอคอย
13. มีจดุ ประเมนิ ผลความพึงพอใจ ณ จุดให้บรกิ ารในรูปแบบทง่ี า่ ยและสะดวกต่อผูใ้ ช้บริการ
1๔. มกี ารกาหนดพนื้ ท่ีเขตปลอดบหุ ร่ี และ/หรอื จัดใหม้ เี ขตสบู บหุ รเ่ี ป็นการเฉพาะได้ในบรเิ วณท่ี
เหมาะสม
-22-
3.2 คำอธบิ ำยเกณฑ์คุณภำพ
หวั ขอ้ กำรดำเนนิ งำน แนวทำงกำรพจิ ำรณำ คะแนน
1. กอ่ นเข้ำสูจ่ ุดใหบ้ รกิ ำร
1. การศึกษา 1.1 มีการสารวจ เพ่ือให้ทราบความต้องการ หน่วยงานต้องมกี ำรสำรวจควำมต้องกำรของผูร้ บั บริการ
ความตอ้ งการ () ของผู้รับบริการกลุ่มเป้าหมายในแต่ละ โดยใช้เทคนิคหรือวิธีการเพ่ือให้ทราบความคาดหวังของ
และความ พ้ืนท่ีให้บริการซึ่งต้องครอบคลุมประเด็น ผู้รับบริการ โดยกลุ่มตัวอย่างมีขนาดท่ีเหมาะสม และ
คาดหวงั ของ
ผู้รับบรกิ าร ดังน้ี ตอ้ งกำหนดครอบคลมุ ท้งั ๖ ประเด็น ดังนี้
2. งานบรกิ าร - ประเภทงานบรกิ าร ประเภทงานบรกิ าร
- วนั และเวลาเปดิ ใหบ้ ริการ วนั และเวลาเปิดให้บรกิ าร
- สถานท่ใี ห้บริการ สถานท่ีให้บริการ
- ความยาก-ง่ายในการเข้าถงึ จุดบริการ ความยาก-ง่ายในการเขา้ ถงึ จดุ บรกิ าร
- สิ่งอานวยความสะดวกทสี่ าคญั ส่ิงอานวยความสะดวกท่ีสาคัญ
- การรับรู้ข้อมลู ขา่ วสารเกี่ยวกับการ การรับรู้ขอ้ มลู ข่าวสารเกย่ี วกับการใหบ้ รกิ าร
ใหบ้ รกิ าร -ผลการสารวจทีไ่ ดร้ ับคอื อะไร(ผลการสารวจไมค่ วรนานกว่า ๒ป)ี
* ใหพ้ จิ ารณาแบบสารวจของหน่วยงานว่าครบท้งั 6 ประเด็น
หรอื ไม่ และแบบสารวจของหน่วยงานทาให้ทราบความตอ้ งการ
ของผู้รับบริการหรือไม่
1.2 มีการวิเคราะห์ผลการสารวจและ มรี ายงานผลการวิเคราะห์ตามขอ้ ๑.๑
() นาไปใช้ในการออกแบบระบบการใหบ้ ริการ สามารถนามาออกแบบการให้บรกิ าร
(มเี อกสารยืนยนั หรอื อาจปรากฏในรปู ข้อมูลอิเลก็ ทรอนิกส)์
2.1 มีงานบริการ ณ ศูนย์ราชการสะดวก งานบริการตามภารกิจของหนว่ ยงาน
() ครอบคลมุ ประเภทงานดงั น้ี งานบริการข้อมูลข่าวสารของหน่วยงานภาครัฐ
- งานบรกิ ารตามภารกจิ ของหนว่ ยงาน ทุกหน่วยงาน (รูปแบบในการให้บริการข้อมูลดังกล่าว
- งานบริการข้อมูลข่าวสารของหน่วยงาน สามารถนาขอ้ มูลไปแสดงบนเว็บไซตข์ องหน่วยงาน และ
ภาครัฐทุกหน่วยงาน
ประชาสัมพันธ์ใหป้ ระชาชนทราบและเข้าถงึ สบื ค้นเองได)้
- งานด้านการรบั เรอื่ งราวร้องทกุ ข์
งานด้านการรบั เร่ืองราวรอ้ งทุกข์
* ต้องมีงานบรกิ ารครอบคลมุ ท้ัง ๓ ประเภทงานบริการ
2.2 มี งานบริ การที่ไม่ ร้ องขอส าเนา ทุกงานบริการ ณ ศูนย์ราชการสะดวก ตามข้อ 2.1
() บัตรประชาชนและสาเนาทะเบียนบ้าน ไมร่ ้องขอสาเนา
จากผูม้ ารบั บรกิ าร หน่วยงานเป็นผู้ถ่ายสาเนาให้ผู้รับบริการ
มีติดประกาศยกเลิกการใช้สาเนา
อาจยังยกเลกิ ไม่ครบถ้วน เนือ่ งจาก .........................
.........................................................................................
2.3 มีงานบริการท่ีเหมาะสม/งานบริการ 1 คะแนน = มีการปรับปรุงงานบริการหลักของ
() อ่ืน ๆ ที่สอดคล้องกับผลสารวจความ หน่วยงานตามผลการสารวจในขอ้ 1.1
ตอ้ งการฯ
2 คะแนน = มีการปรับปรุงงานบริการหลักของ
หน่วยงานตามผลการสารวจในข้อ 1.1 และมีการ
ให้บริการอื่นที่ไม่ใช่ภารกิจหลักของหน่วยงานซึ่งเป็นผล
จากการสารวจในข้อ 1.1
-23-
หัวข้อ กำรดำเนนิ งำน แนวทำงกำรพจิ ำรณำ คะแนน
๓. สถานที่ 3.1 มีการดาเนินการเพ่ือลดความเส่ียง ดาเนินการตามประกาศกรมอนามัย เรื่อง หลักเกณฑ์
บริการ () จากการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรนา วิธีการ และมาตรการการป้องกันความเส่ียงจากโรคติดเชื้อ
2019 ให้กับประชาชนท่ีมาติดต่อ และ ไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 สาหรับสถานที่
เจา้ หน้าทีผ่ ู้ปฏิบตั ิงานในสถานท่ีให้บริการ ราชการ สถานท่ีทางานเอกชน และสถานประกอบกิจการ
พ.ศ. 2563 ตามความเหมาะสม ประกอบด้วย
การควบคุมเกี่ยวกับสุขลักษณะอาคารและ
อปุ กรณ์เครอื่ งใชท้ ี่มีอยู่ในอาคาร
การจัดอุปกรณ์ทาความสะอาดเพื่อป้องกัน
การแพรก่ ระจายเชื้อโรค
การปอ้ งกนั สาหรบั เจ้าหนา้ ทผี่ ู้ปฏิบตั งิ าน
การเวน้ ระยะห่างทางสังคม (Social distancing)
3.๒ มีการจัดภูมิทัศน์ให้เอ้ืออานวยต่อการ มีการออกแบบอาคารหรือสถานท่ีให้มีอุปกรณ์ส่ิงอานวย
() พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน และ ความสะดวกหรอื บริการเพือ่ ใหค้ นพิการสามารถเขา้ ถงึ ไดอ้ ย่างนอ้ ย
ออกแบบอาคารหรือสถานที่ให้มีอุปกรณ์ 11 รายการ (ตามกฎกระทรวงกาหนดลักษณะหรือการจัดให้มี
สิ่งอานวยความสะดวก หรือบริการเพ่ือให้ อุปกรณ์ส่ิงอานวยความสะดวกหรือบริการในอาคารสถานท่ี
คนพิการสามารถเข้าถึงได้อย่างน้อย 11 หรือบริการสาธารณะอื่นเพ่ือให้คนพิการสามารถเข้าถึงและใช้
รายการ ตามข้อ ๕ ของกฎกระทรวงการพัฒนา ประโยชน์ได้ พ.ศ. ๒๕๕๕ ให้ไว้ ณ วนั ท่ี ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๕)
สงั คมและความมนั่ คงของมนษุ ย์ ทีจ่ อดรถสาหรับคนพกิ าร*
ทางลาด*
สถานทต่ี ดิ ตอ่ หรือประชาสมั พันธส์ าหรบั คนพิการ*
ป้ายแสดงอปุ กรณห์ รือสงิ่ อานวยความสะดวกสาหรบั คนพิการ*
ห้องน้าสาหรบั คนพกิ าร*
ประตสู าหรบั คนพกิ าร*
ทีน่ ่ัง/พน้ื ท่จี อดรถเข็นสาหรับคนพิการ
โทรศัพทส์ าธารณะ
จดุ บรกิ ารนา้ ดื่ม
ลิฟท์สาหรบั คนพกิ าร
สญั ญาณเสียงและแสงขอความชว่ ยเหลือ
พ้นื ท่สี าหรบั หนภี ัยสาหรับคนพกิ าร
การประกาศเตือนภัยสาหรับคนพิการทางการเห็น และ
ตวั อกั ษรไฟวิ่งหรือสญั ลักษณส์ าหรับคนพิการทางการได้ยินหรือ
สื่อความหมาย
เจ้าหน้าที่ซ่ึงผ่านการอบรมและมีคุณสมบัติตรงกับ
ความต้องการของคนพิการอย่างน้อย 1 คน เพ่ือให้บริการ
สาหรับคนพกิ าร
ทางลาดเลือ่ นหรือทางเลื่อนในแนวราบ
ราวกนั ตกหรือผนังกนั ตก
พ้นื ผิวตา่ งสัมผสั สาหรับผ้พู กิ ารทางการเหน็
บนั ไดเลอ่ื นสาหรบั คนพกิ าร
ต้บู ริการเงนิ ดว่ น (ATM) สาหรบั คนพกิ าร
ทางสัญจรสาหรับคนพิการ
ตู้ไปรษณยี ์สาหรบั คนพิการ
-24-
หัวข้อ กำรดำเนินงำน แนวทำงกำรพิจำรณำ คะแนน
๔. การ ถงั ขยะแบบยกเคล่ือนทไ่ี ด้
ออกแบบ
ระบบงาน 1 คะแนน = สามารถใชไ้ ดจ้ รงิ ตง้ั แต่ 6-10 รายการ
(โดยต้องประกอบด้วย 6 รายการท่มี ี*)
2 คะแนน = สามารถใช้ได้จรงิ ต้งั แต่ 11 รายการขนึ้ ไป
(โดยต้องประกอบดว้ ย 6 รายการทีม่ *ี ) และ
ต้องสรา้ งภูมิทัศนใ์ ห้เอ้อื อานวยต่อการพกั ผอ่ นหย่อนใจ
ของประชาชน โดยจัดใหม้ พี ้ืนทส่ี ีเขยี วสาธารณะ รม่ ร่ืน
สวยงามตามธรรมชาติ เช่น สวนสาธารณะ สวนหย่อม
เป็นต้น
4.1 มีการจัดลาดับข้ันตอนการบริการที่ง่าย มีผังภาพหรอื ขัน้ ตอนแสดงการใหบ้ รกิ ารที่ชดั เจน
() ต่อการให้บริการและรับบริการ เพื่อให้
ประชาชนไมต่ อ้ งรอคอยรบั บริการนาน
4.2 มีการกาหนดผู้รับผิดชอบ ผู้ประสานงาน/ มีป้ายชื่อผู้รับผิดชอบ เบอร์โทรติดต่อ แสดงให้
() เจ้าของงาน เบอร์โทรติดต่อ และช่องทาง ผรู้ บั บรกิ ารเห็นไดอ้ ย่างชัดเจน
การติดตอ่ ไวอ้ ย่างชัดเจน กรณที ่ีผู้รบั บรกิ ารมีปัญหาสามารถติดต่อผู้ให้บริการ
ไดโ้ ดยตรง
4.3 มีการจัดทาคู่มือการปฏิบัติงานสาหรับ มีคู่มือการปฏิบัติงานสาหรับเจ้าหน้าท่ีท่ีอธิบาย
() เจ้าหน้าที่ท่ีครอบคลุม ถูกต้อง และทันสมัย การปฏิบัติงานในปัจจุบัน ซ่ึงอาจอยู่ในรูปแบบระบบ
โดยมีการระบุข้ันตอน ระยะเวลาค่าธรรมเนียม ออนไลนก์ ็ได้ (แตไ่ ม่ใชค่ ูม่ ือการให้บริการประชาชน)
และข้อมูลจาเป็นสาหรับการปฏิบัติงาน หน่ วยงานมี แนวทางหรื อคู่ มื อการให้ บริ การ
ไว้ในคมู่ ือฯ อยา่ งชดั เจน
ไปในทิศทางเดียวกนั เช่น คู่มอื คาถาม – คาตอบ (FAQ)
4.4 มีระบบแจ้งเตือนการให้บริการ 1 คะแนน = มีระบบการแจ้งเตือนการให้บริการ
() และระบบการติดตามสถานะผรู้ บั บริการ เช่น และระบบการติดตามสถานะผู้รบั บริการโดยช่องทางปกติ
การติดตามรอบเวลาการต่อใบอนุญาต เช่น หนงั สอื แจ้งเตอื น โทรศพั ท์
โดยการสง่ ข้อมลู แจ้งเตอื นใหม้ าต่อใบอนญุ าต 2 คะแนน = มีระบบการแจ้งเตือนการให้บริการ
หรือออกแบบระบบสารสนเทศให้ผู้รบั บรกิ าร และระบบการติดตามสถานะผู้รับบริการโดยช่องทางดิจิทัล
เข้าตรวจสอบข้ันตอนสถานะ การรับบริการ
ในงานทไี่ มแ่ ลว้ เสร็จในทันที เป็นต้น เชน่ SMS E-mail Application
4.5 มีระบบการให้บริการประชาชน 1 คะแนน = มีระบบการใหบ้ ริการประชาชนแบบออนไลน์
() แบบออนไลน์ ด้วยการยื่นคาขอผ่านแบบฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ (e-Form)
และแนบเอกสารทเี่ ก่ยี วขอ้ งได้
2 คะแนน = มีระบบการให้บรกิ ารประชาชนแบบออนไลน์
เพิ่มเตมิ จากข้างต้น เช่น การใช้ระบบจ่ายเงนิ อเิ ล็กทรอนิกส์
(e-Payment) หรือการใช้ลายมือช่ืออิเล็กทรอนิกส์
(Electronic Signature)
4.6 มีแบบฟอร์มการขอรับบริการต่าง ๆ 1 คะแนน = ผู้รับบริการไม่ต้องกรอกข้อมูลบุคคล
() ที่ง่ายและไมซ่ ้าซ้อน หรอื ใช้แบบฟอร์มทาง (เช่น ชื่อ นามสกุล ท่ีอยู่ในทะเบียนราษฎร์) ในแบบฟอร์ม
อิเล็กทรอนกิ ส์
ยกเวน้ ขอ้ มูลทเ่ี ป็นการเฉพาะ
-25-
หัวขอ้ กำรดำเนนิ งำน แนวทำงกำรพิจำรณำ คะแนน
2 คะแนน = ขอ้ มูลท่ผี รู้ บั บรกิ ารเคยกรอกไปแลว้
ตามขา้ งต้น ไม่ต้องกรอกซ้าในการใชบ้ ริการครั้งถัดไป
5. การจดั สรร 5.1 มีการวิเคราะหป์ ระเมนิ ความตอ้ งการ มกี ารวิเคราะหค์ วามตอ้ งการกาลังคนของหน่วยงาน
บุคลากร () ดา้ นกาลงั คนท่จี าเปน็ และจัดสรรบคุ ลากร ทเ่ี หมาะสมกับปริมาณงานโดยจดั ทาเปน็ แผนกาลงั คน
ให้เหมาะสมในการให้บริการในช่วงพักทาน มีการเสนอความต้องการกาลังคนให้ผู้บริหารที่มี
อาหาร หรอื ชว่ งเวลาทม่ี ผี ้รู บั บรกิ ารเข้ามาใช้ อานาจพิจารณา
บรกิ ารมาก
มีคาสั่งหรือตารางงานการให้บริการที่สอดคล้องกับ
ผลสารวจ หรือในช่วงพักทานอาหารหรือช่วงเวลา
ที่มีผู้รับบริการเข้ามาใช้บริการมาก
5.2 มกี ารสร้างสิง่ จูงใจแก่บุคลากรปฏบิ ตั งิ าน มีวิธีการ หรือแนวทางในการพิจารณาให้สิ่งจูงใจ
() นอกเหนือจากการประเมินเลื่อนข้ันเงินเดือน เช่น ผลการสารวจความพึงพอใจจากประชาชน หรือ
ตามปกติ ผู้บังคับบัญชา พนักงานดีเดน่ ประจาเดอื น เปน็ ต้น
เช่น
กปภ. = มอบใบประกาศเกยี รตคิ ณุ พรอ้ มของทรี่ ะลึก
สรรพสามิต = มีการประกาศเจ้าหน้าที่ดเี ด่นในแตล่ ะเดือน
กฟภ. = คดั เลือกพนกั งานดเี ด่น
2. ระบบจุดให้บริกำร
6. บุคลากรด้าน 6.1 มีการเพ่ิมศักยภาพและทักษะในการ มี บั น ทึ ก / รู ปภ า พ กา ร อ บร ม ห รื อ ให้ ค วา ม รู้
ปฏิบัติงานท่ีจาเป็นและทันสมัยให้กับ ด้านการให้บริการ สาหรับเจ้าหน้าท่ีผู้ให้บริการ
การบรกิ าร () เจ้าหนา้ ท่ี เช่น จัดฝกึ อบรม สมั มนาระดมสมอง หลักสตู ร เนอื้ หาการอบรมด้านการบรกิ าร
ศึกษาดูงาน เป็นต้น อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ พิจารณาความสอดคลอ้ งกับขอ้ 5.1
เจ้าหน้าที่สามารถให้บริการได้อย่างถูกต้อง
รวดเรว็ และมีจิตบรกิ าร
6.2 มีการประเมินสมรรถนะของบคุ ลากร 1 คะแนน = เจ้าหน้าที่ผ่านการฝึกอบรมและ
() ดา้ นบริการ มีผลการประเมินสมรรถนะเก่ียวกับการบริการ เช่น
คะแนนสอบ คะแนนการประเมิน ใบประกาศนียบัตร
เป็นตน้
2 คะแนน = ผลคะแนนเฉลี่ยของความพึงพอใจ
ประชาชนต่อเจา้ หนา้ ท่ผี ู้ให้บริการไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ 80
6.3 เจ้าหน้าที่มีทักษะในการให้บริการ เจ้าหนา้ ท่ีมที กั ษะในการใหบ้ ริการ ดงั น้ี
() ครอบคลุมเรอื่ งสาคัญ ดงั นี้
-สามารถตอบคาถามพน้ื ฐานใหก้ บั ผูร้ ับบริการได้ สามารถตอบคาถามพืน้ ฐานได้
- สามารถแก้ไข/รับมือกับสถานการณ์ท่ี สามารถแก้ไขและรับมอื กับสถานการณ์ทเ่ี กดิ ขึน้ ได้
เกิดขึน้ ได้ตามมาตรฐานการใหบ้ ริการ
การสอื่ สารและช่วยเหลอื ผ้รู บั บริการดว้ ยไมตรีจติ
-การส่ือสารและช่วยเหลือผู้รับบริการ ** คณะอนกุ รรมการฯ อาจพูดคยุ กับเจ้าหนา้ ท่ผี ้ใู หบ้ รกิ าร**
ด้วยไมตรจี ิต
-26-
หวั ขอ้ กำรดำเนินงำน แนวทำงกำรพจิ ำรณำ คะแนน
6.4 เจ้าหน้าท่ีสามารถริเร่ิมและพัฒนา เจ้าหน้าที่สามารถริเริ่มหรือพัฒนางานบริการที่เกิดจาก
การให้บริการจนเกิดความประทับใจแก่ ประสบการณ์การให้บริการ และนาปัญหามาพัฒนาแก้ไข
() ผู้รับบรกิ าร ซ่ึงเปน็ สิ่งท่ีนอกเหนือจากภารกจิ ของหนว่ ยงาน เช่น
- รพ.พนมสารคามได้มีบริการประสานหน่วยงานท้องถ่ิน
ของผู้รับบริการฟอกไตเพ่ือช่วยเหลือในการจัดรถรับ-ส่ง
มาฟอกไตและตั้งกองทุนให้ผู้ป่วยเพ่ือให้ได้รับการดูแล
ฟอกไตอย่างตอ่ เน่ืองได้
1คะแนน = มีการพัฒนาการให้บริการครบถ้วน
ตามนโยบายจนเกิดความประทบั ใจแกผ่ ้รู บั บริการ
2 คะแนน = เจา้ หนา้ ทส่ี ามารถรเิ ร่ิมและพัฒนา
การให้บรกิ ารขึน้ เพม่ิ เติมจากนโยบายจนเกดิ ความประทบั ใจ
แก่ผู้รับบริการ
6.5 เจ้าหน้าท่ีสามารถปฏิบัติงานได้ตาม 1 คะแนน = มีการกาหนดมาตรฐานในทุกช่องทาง
() มาตรฐานที่กาหนดไว้ในแต่ละช่องทางของ ของการให้บริการระบบ online
ระบบ online ที่พัฒนาขน้ึ
2 คะแนน = เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติได้ตามมาตรฐาน
ในทุกช่องทางของการใหบ้ รกิ ารระบบ online
** คณะอนกุ รรมการฯ อาจใหเ้ จ้าหน้าท่ีสาธติ ให้ชม**
7. ระบบการ 7.1 มีการนาผลสารวจมาปรับปรุงงาน มีผลประเมินความพึงพอใจอย่างน้อยเป็นรายเดือน
ประเมินความ () บริการอยา่ งต่อเน่ือง หรือไตรมาส
พงึ พอใจ นาผลการประเมินความพึงพอใจมาปรับปรุงงานบริการ
ใหเ้ หน็ อย่างชัดเจน ตวั อย่าง เชน่
.........................................................................................
.........................................................................................
7.2 เ กิด ผ ล ลัพธ์ค วาม พึงพอใจของ ผลลัพธ์ความพึงพอใจ โดยได้จากการสารวจของหน่วยงานเอง
() ผรู้ บั บรกิ ารไมน่ ้อยกว่าร้อยละ ๘๐ หรือหนว่ ยงานภายนอก (third party) ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐
รอ้ ยละความพงึ พอใจคอื ..........................................
8. คณุ ภาพการ 8.1 วธิ กี ารปฏิบัตงิ านท่ีรวดเรว็ ถกู ตอ้ งตามท่ี มีคู่มือการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการให้บริการและ
() กฎหมายกาหนด (เจ้าหน้าท่ีปฏิบัติงานตาม การจัดการข้อร้องเรยี น
ให้บรกิ าร และ มาตรฐานการให้บริการที่กาหนดไว้ในคู่มือ เจา้ หนา้ ที่ผู้ปฏบิ ัตงิ านทราบแนวทางการปฏิบตั ิงานน้ัน
การจัดการ การปฏบิ ัติงาน)
ข้อร้องเรยี น
8.2 มีกลไกการรับฟังและตอบสนอง มีการจัดการข้อร้องเรียน การจัดให้มีวิธีการรับฟัง
() ข้อร้องเรียนของผู้รับบริการ รวมท้ังระบบ ข้อร้องเรียน ท่ีเป็นการจัดระบบหรือกระบวนการ และ
การติดตามและแก้ไขปญั หาทชี่ ดั เจน วิธีการรับฟังจากประชาชน เพ่ือเป็นช่องทางที่ทาให้
ทราบและชีแ้ จงทาความเขา้ ใจกับประชาชน
มกี ารกาหนดช่องทางการรบั เร่อื ง ขน้ั ตอนการดาเนนิ การ
ผู้รับผิดชอบเร่ืองร้องเรียน และมีระบบการติดตาม
ความคบื หนา้
-27-
หวั ข้อ กำรดำเนนิ งำน แนวทำงกำรพจิ ำรณำ คะแนน
8.3 กรณีเกิดข้อรอ้ งเรียนในการให้บรกิ าร 1คะแนน = ขอ้ ร้องเรยี นในการให้บรกิ ารจะตอ้ งได้รับ
() ข้อรอ้ งเรยี นนนั้ ได้รบั การแกไ้ ขจนเป็นที่ยุติ การแก้ไขจนเป็นที่ยุติ ตามเวลาท่ีกาหนดไว้ ไม่น้อยกว่า
ไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ 80
ร้อยละ 80
2 คะแนน = หน่วยงานมีองค์ความรู้ท่ีเป็นแนวทาง
การปฏิบัติงานอันเกิดจากประสบการณใ์ นการแก้ไข
ข้อร้องเรียน
*ในกรณที หี่ น่วยงำนแสดงผลวำ่ ไมม่ กี ำรรอ้ งเรยี น*
ให้พิจารณาช่องทางในการรับเรื่องร้องเรียน หากมีความเหมาะสม
และมปี ระสิทธิภาพเพยี งพอ จงึ จะให้ 1 คะแนน
9. ช่องทางการ 9. 1 มี กา ร พัฒนา เ พ่ิม ช่ องทา งกา ร 1 คะแนน = มีการพัฒนาเพิ่มช่องทางการให้บริการ
() ให้บริการ การให้คาปรึกษา รวมท้ัง การให้คาปรึกษา และการรับเรื่องร้องเรียน 4 ช่องทาง
ให้บรกิ าร ช่องทางการรับเรื่องร้องเรียนผ่านทาง (เช่น อีเมล์ โทรศัพท์ จดหมาย และการติดต่อเจ้าหน้าที่
โทรศัพท์หรือ ศูนย์ Hotline หรือช่องทาง ทีห่ น่วยงาน)
อื่น ๆ ท่ีสอดคล้องกับความต้องการของ
2 คะแนน = มีการพัฒนาเพ่ิมช่องทางการให้บรกิ าร
ผรู้ บั บริการ
และการให้คาปรึกษา และรับเร่ืองร้องเรียนที่หลากหลาย
และเหมาะสมกับกลุ่มผู้รับบริการ มากกว่า 4 ช่องทาง
(เพมิ่ เติมจากทีร่ ะบไุ วข้ า้ งตน้ )
3. ระบบสนบั สนุนกำรใหบ้ ริกำร
๑0. ระบบการ 10.1 มี ก า ร จั ด ท า แ ผ น ก า ร ติ ด ต า ม มกี ารจัดทาแผนการดาเนินการเพ่ือใหส้ ามารถตดิ ตามผล
ตดิ ตามผลการ () ผลการดาเนินการของศนู ยร์ าชการสะดวก การดาเนินการของศูนย์ราชการสะดวกได้อย่างชัดเจน
ดาเนนิ งาน ทช่ี ัดเจน ซ่ึงประกอบดว้ ย หัวข้อเรอ่ื งที่ตดิ ตาม ซง่ึ ต้องประกอบดว้ ย
ผูร้ บั ผิดชอบ ระยะเวลาดาเนนิ การ ผลดาเนนิ การ
และข้อเสนอการปรับปรุงพัฒนาให้ดขี ้ึนอย่าง หัวขอ้ เรอ่ื งท่ตี ิดตาม
ผู้รบั ผดิ ชอบ
ตอ่ เน่อื ง ระยะเวลาดาเนินการ
ผลดาเนินการ
ข้อเสนอการปรบั ปรงุ พัฒนาให้ดีข้ึนอย่างตอ่ เนอื่ ง
10.2 มีระบบการติดตามปัญหาท่ีเกิดจาก มีระบบการติดตามปัญหาที่เกิดจากการให้บริการ
ทชี่ ัดเจน (monitoring) ซึง่ เปน็ ไปตามแผนในข้อ 10.1
() การใหบ้ รกิ ารทชี่ ดั เจน กรณีท่ีเกิดปัญหา มีการแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงที
(take action) เช่น การจัดชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่แก้ปัญหา
ตามความเหมาะสม ตวั อยา่ งเช่น
- กปภ. ติดตามการติดต้ังมิเตอร์น้า การยื่นคาขอติดต้ัง
มิเตอร์ ณ จุดให้บริการ
- ร พ . กรณีคนไข้ร้องเรียนผ่าน Facebook โรงพยาบาล
ทีมไกล่เกล่ียของโรงพยาบาลประสานข้อมูลไปที่ผู้ร้อง
และผู้ที่เกี่ยวข้องในชุมชนและลงไปสืบหาข้อเท็จจริง
แ ล้ ว น า ข้ อ มู ล ม า เ ข้ า สู่ ก ร ะ บ ว น ก า ร ไ ก ล่ เ ก ล่ี ย แ ล ะ
การจัดการข้อรอ้ งเรียนของโรงพยาบาล
-28-
หัวข้อ กำรดำเนนิ งำน แนวทำงกำรพจิ ำรณำ คะแนน
๑1. การแกไ้ ข 11.1 มีการค้นหาปัญหา/อุปสรรคของ 1 คะแนน = มีการค้นหาปัญหา/อุปสรรคของ
ปัญหาท่ีทา้ ทาย () การให้บริการที่เกิดข้ึนและคาดว่าจะเกิดข้ึน การให้บริการที่เกิดข้ึนและคาดว่าจะเกิดข้ึน และนาไป
และนาไปแกไ้ ขปรบั ปรงุ ให้การบรกิ ารดีย่ิงขน้ึ แก้ไขปรบั ปรุงใหก้ ารบริการ อยา่ งนอ้ ย 1 เร่อื ง
2 คะแนน = มีการค้นหาปัญหา/อุปสรรคของการ
ให้บริการที่เกิดขึ้นและคาดว่าจะเกิดขึ้น และนาไป
ถอดบทเรียนเพื่อเป็นแนวปฏิบัติท่ีดี เพื่อป้องกันปัญหา
ทจ่ี ะเกิดขึ้นในอนาคตดว้ ย
๑2. การ 12.1 มีการนาผลจากการติดตามงาน มีบันทึก/ผลการประชุมการติดตามปรับปรุงงาน
ทบทวน () มาดาเนินการปรับปรุงงานจนเกดิ ผลลัพธ์ท่ีดี หรือปญั หาทเี่ กิดขนึ้ กบั หนว่ ยงาน
ปรบั ปรงุ การ
ดาเนินงาน อย่างต่อเนื่อง และการให้บริการได้ถูกต้อง สามารถแก้ไขปัญหาหรือปรับปรุงงานบริการได้
รวดเร็ว สามารถลดต้นทุน ลดการสูญเสีย ตามเปา้ หมาย
และเกิดคุณคา่ ทเี่ ป็นประโยชนต์ ่อผ้รู ับบรกิ าร พิจารณาวิธีการจัดเก็บข้อมูลท่ีสะท้อนให้เห็นถึง
การลดระยะเวลา หรอื ลดต้นทนุ
12.2 มีการปรับปรุงคู่มือการปฏิบัติงาน มคี มู่ ือท่ที ันต่อสถานการณ์ปจั จบุ นั และสบื ค้นได้งา่ ย
เช่น อยู่บนระบบออนไลน์ เป็นต้น ท้ังนี้ อาจไม่เป็นต้อง
() ใหท้ นั สมยั และคน้ หาข้อมลู ไดง้ า่ ย มกี ารปรับปรุงตลอดเวลาก็ได้
กรณมี ีการปรับปรุง ประเด็นการปรับปรุง ได้แก่
คู่มือเกา่ คือ
.......................................................................................
คู่มือใหม่ คือ
.......................................................................................
๑3. การ 13.1 มีการแลกเปล่ียนเรยี นรู้เก่ียวกับปัญหา มีบันทึก/รูปภาพการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การใช้
แลกเปลี่ยน () ในการปฏิบัติงาน และการปรับปรุงงาน องค์ความรู้ เพ่ือแก้ไขปัญหาในการปฏิบัติงาน หรือ
รวมถึงการร่วมกันทบทวน ระบบงาน เพื่อออกแบบหรือสร้างนวัตกรรมในการให้บริการ เช่น
เรียนรู้ ของ เพื่อออกแบบงานใหม่ /สร้างนวัตกรรม .........................................................................................
เจ้าหน้าที่ และ .........................................................................................
ผู้เก่ียวข้อง ในการให้บรกิ าร
ตัวอย่างเช่น การเกิดปัญหาไฟฟ้าดับในพ้ืนที่สูงที่ไม่
สามารถแจ้งผ่านสัญญาณโทรศัพท์ได้ กฟภ. จึงได้มีการ
ประชุมหารือเพ่ือแลกเปล่ียนเรียนรู้และนาองค์ความรู้
ท่ี ไ ด้ ม า ป รั บ ป รุ ง แ ล ะพั ฒ น าจ น เกิ ดก าร คิ ด ค้ นระบบ
การแจ้งเตอื นไฟฟา้ ดับอัตโนมัติเพื่อแกไ้ ขเม่อื เกิดไฟฟา้ ดับ
ในบรเิ วณดงั กลา่ ว
-29-
หัวข้อ กำรดำเนินงำน แนวทำงกำรพิจำรณำ คะแนน
๑4. บคุ ลากร 1 คะแนน = มกี ารแลกเปลย่ี นเรยี นรเู้ ก่ียวกับปัญหาใน
ดา้ นเทคนคิ การปฏิบัติงาน และการปรับปรุงงาน รวมถึงการร่วมกัน
ทบทวนระบบงานเพื่อออกแบบงานใหม่/สร้างนวัตกรรมใน
15. ระบบ การให้บริการอย่างสม่าเสมอ และมีระบบสารสนเทศของ
ฐานข้อมูล การจัดการความรเู้ พอ่ื ให้บุคลากรสามารถเขา้ ถงึ ได้
16. ระบบ 2 คะแนน = มีการนากระบวนงานท่ีถูกออกแบบใหม่/
เทคโนโลยี นวัตกรรมในการให้บริการที่เกิดจากการแลกเปล่ียนเรียนรู้
สารสนเทศ มาใชจ้ ริงจนเกิดผลการพัฒนาอยา่ งเปน็ รปู ธรรม
14.1 เจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคได้รับการอบรม มีบันทึก/ใบประกาศ ให้เจ้าหน้าท่ีด้านเทคนิคของ
() หลักสูตรท่ีเกี่ยวข้องกับการติดต้ังระบบปฏบิ ัตกิ าร หน่วยงานหรอื ส่วนกลางท่ีไดเ้ ขา้ รบั การอบรมเกยี่ วกับการติดต้งั
และโปรแกรมประยกุ ต์ การซ่อมบารงุ ฮาร์ดแวร์ ระบบ โปรแกรมประยกุ ต์ การซ่อมบารุงฮาร์ดแวรพ์ ้นื ฐาน ฯลฯ
พืน้ ฐาน และมคี วามสามารถในการตอบคาถาม (ไม่ใชค่ ุณวฒุ ิวิชาชพี ตามวุฒิการศกึ ษา)
และแก้ปญั หาพน้ื ฐานเก่ยี วกับระบบ ตลอดจน เจ้าหน้าทดี่ ้านเทคนคิ มีการตอบคาถาม แก้ไขปญั หา
อธิบายลกั ษณะปัญหาระบบเครือข่ายตอ่ เชอ่ื ม เกยี่ วกับระบบ และสามารถประสานงานกบั ผ้ทู เี่ กีย่ วข้อง
เมอื่ ประสานงานกบั บรษิ ัทผูใ้ ห้บริการ
กรณเี กดิ ปญั หาได้
*คณะอนุกรรมการฯ สอบถามกบั เจ้าหนา้ ที่
15.1 มรี ะบบจัดเกบ็ ข้อมลู และระบบวเิ คราะห์ มีการรวบรวม วิเคราะห์ และจัดทาข้อสังเกต
() ฐานข้อมูลสอดคล้องกับความต้องการใช้งาน เก่ยี วกบั การใชง้ านเสนอสว่ นกลางใหท้ ราบ
เพ่ืออานวยความสะดวกในการปฏิบัติงาน
และพัฒนาปรบั ปรุงการให้บริการ - กรณีส่วนกลางเป็นผู้ออกแบบระบบ และหน่วยงาน
ระดับสาขาเป็นผู้ใช้งานระบบ (User)
มรี ะบบจัดเกบ็ ข้อมลู ตา่ ง ๆ เพื่อส่งให้สว่ นกลาง
วิเคราะหห์ รือดาเนนิ การต่อ
15.2 มีการรวบรวมข้อมูลจากผู้ปฏิบัติงาน - กรณีส่วนกลางเป็นผู้ออกแบบระบบ และหน่วยงาน
() ผู้รับบริการและผู้ท่ีเก่ียวข้อง เข้าระบบ ระดบั สาขาเป็นผใู้ ช้งานระบบ (User)
ฐานข้อมูลได้อย่างครอบคลุม ถูกต้อง และ เจ้าหน้าท่ีสามารถนาเข้าข้อมูลได้ และสามารถ
ทันสมัย รวมถึงการนาผลการวิเคราะห์ ใช้ประโยชน์จากฐานขอ้ มลู ดังกลา่ วได้
ข้อมูลไปใช้ปรับปรุงระบบฐานข้อมูลและ มีการนาผลมาวิเคราะห์เพ่ือพัฒนาการให้บริการ
ของหน่วยงานหรือเสนอแนะปรับปรุงระบบฐานข้อมูล
พัฒนาระบบการใหบ้ รกิ ารต่อไป ต่อสว่ นกลาง
16.1 มีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให้ หนว่ ยงานมรี ะบบเทคโนโลยสี ารสนเทศให้สามารถใชง้ าน
() สามารถใช้งานในส่วนที่จาเป็นได้อย่าง ไดอ้ ยา่ งตอ่ เนือ่ งและปลอดภยั
ต่อเนื่อง และปลอดภัย โดยการปฏิบตั ติ าม
แผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการ - กรณีส่วนกลางเป็นผู้ออกแบบระบบ และหน่วยงาน
สือ่ สาร หรือแผนอืน่ ทีก่ าหนด
ระดับสาขาเป็นผใู้ ช้งานระบบ (User)
มีการรวบรวม วิเคราะห์ และจัดทาข้อสังเกต
เก่ียวกบั การใชง้ านทนั ต่อสถานการณ์ เสนอส่วนกลางใหท้ ราบ
หน่วยงานระดับสาขามีการปฏิบัตติ ามแผนแม่บท
ทีเ่ กยี่ วข้อง
-30-
หวั ขอ้ กำรดำเนินงำน แนวทำงกำรพจิ ำรณำ คะแนน
16.2 มีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให้ หน่วยงานมีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให้สามารถค้นหา
() ผู้ปฏิบัติงานหรือผู้เกี่ยวข้องสามารถค้นหา ขอ้ มูลการให้บรกิ ารได้อย่างสะดวก รวดเรว็
ข้อมูลการให้บริการได้อย่างสะดวก รวดเร็ว - กรณีส่วนกลางเป็นผู้ออกแบบระบบ และหน่วยงานระดับ
โดยเฉพาะเรื่องคาถาม คาตอบ และวิธีการ สาขาเปน็ ผใู้ ช้งานระบบ (User)
แก้ไขปัญหาในแต่ละสถานการณ์เพื่อช่วย เจ้าหน้าทีส่ ามารถใช้ประโยชนจ์ ากระบบไดส้ ะดวก
รวดเร็ว
สนับสนนุ การปฏิบตั งิ านของเจ้าหน้าที่ มีเรื่องคาถาม-คาตอบ (FAQ) ในระบบ online
ของหน่วยงาน ที่เกี่ยวกับภารกิจด้านการให้บริการ
ของหนว่ ยงานดว้ ย
16.3 มีระบบเทคโนโลยีท่ีมีความม่ันคง หน่วยงานมีกระบวนการกากับดูแล นโยบาย
() ปลอดภยั และน่าเชอื่ ถอื การป้องกันความเส่ียงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และ
ความเส่ียงด้านภัยคุกคามไซเบอร์ ท่ีสามารถระบุ
ความเสี่ยง (identify) ป้องกัน (protect) ตรวจพบ (detect)
รับมือ (respond) กู้ระบบคืนสู่สภาวะปกติ (recover)
และสามารถดาเนินธรุ กจิ ไดอ้ ย่างตอ่ เนื่อง
1 คะแนน = มีแผนการกากับดูแลการป้องกัน
ความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Governance)
และความเส่ียงด้านภัยคุกคามไซเบอร์ (Cyber risk) และ
ปฏิบัติตามแผนอย่างเคร่งครัด
2 คะแนน = มีการประเมินประสิทธิภาพ กากับดูแล
การป้องกันความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT
Governance) และความเสย่ี งด้านภยั คกุ คามไซเบอร์ (Cyber
risk) อย่างน้อยปีละ 1 คร้ัง หรือเมื่อมีการเปล่ียนแปลงท่ีมี
ผลกระทบตอ่ การรกั ษาความปลอดภยั ของหนว่ ยงาน
ทั้งนี้ การประเมินประสิทธิภาพ หน่วยงานสามารถกระทาได้
โดยหน่วยตรวจสอบภายในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
ของหน่วยงานเอง (IT Audit) หรือผู้ตรวจสอบภายนอก
เพอ่ื ปรับปรงุ แกไ้ ขข้อบกพร่องของการรักษาความปลอดภัย
ของระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศของหน่วยงาน
17. การบรู ณา 17.1 มีการบูรณาการการทางานระหว่าง หน่วยงานมกี ารบูรณาการการทางานระหวา่ งหนว่ ยงาน
การวางแผน () หน่วยงานที่เกีย่ วข้อง สอดคล้องกบั ทรัพยากร ภายนอกท่ีเกยี่ วขอ้ ง ไดแ้ ก่
ระบบ ที่มีจากัด โดยมีการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่าง
หน่วยงาน เพ่ือลดความซ้าซ้อนและความ - กฟภ./กปภ. มีการบูรณาการเชื่อมโยงข้อมูลกับ
ผิดพลาดในการกรอกข้อมูล รวมท้ัง การใช้ กรมการปกครอง กรมชลประทาน
ทรัพยากรร่วมกนั อยา่ งคุ้มค่า - สานักงานขนส่ง มีการบูรณาการทางานร่วมกับสานักงาน
ตารวจแห่งชาติ
-31-
18. การ 18.1 มีการพัฒนาระบบการให้บริการ 1 คะแนน = มีแนวทางการพัฒนาและปรับปรุง
พัฒนาระบบ
การใหบ้ ริการ () ซ่ึงอาจรวมถึงระบบการร้องเรียน ผ่านช่องทาง การใหบ้ รกิ ารในระบบ Online
online ที่เป็นระบบ online และมีการกาหนด
มาตรฐานการให้บริการในแต่ละช่องทาง 2 คะแนน = มีการพัฒนาและปรับปรุงการให้บริการ
19. การ ท่ีได้เปิดให้บริการไว้อย่างชัดเจนและ ในระบบ Online อย่างต่อเนื่อง โดยแสดงให้เห็นว่า
พฒั นาระบบ เหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการของ ปรบั ปรุงแลว้ ดขี ึ้นอย่างไร
Call center
ผรู้ ับบริการ เชน่
- การติดต่อผ่านอีเมล์ มีการตอบกลับ
ภายใน ๒๔ ชั่วโมง
- การติดต่อผ่านระบบ Chat หรือ Line
มีการตอบกลบั ภายใน 15 นาที
- การติดต่อผ่าน Facebook มีการตอบกลบั
ภายใน 1 ช่ัวโมง เปน็ ตน้
19.1 มีการพัฒนาและดูแลรักษาระบบ มีการพัฒนาและดูแลรักษาระบบของ Call center
โทรศพั ท์ของ Call center ใหม้ ีคณุ สมบัติ ดงั น้ี ต้องมคี ณุ สมบตั ิครบทัง้ ๓ ข้อ ดังน้ี
() - สามารถเลือกติดต่อกับเจ้าหน้าท่ีได้หรือ - สามารถประสานแจง้ เจา้ หนา้ ทที่ เี่ ก่ียวข้องได้
ประสานสง่ ตอ่ - มรี ะบบเกบ็ ขอ้ มลู ของผูร้ บั บรกิ ำร
- มีระบบเก็บข้อมูลของผู้รบั บริการ เพื่อช่วย - มกี ารจัดทาฐานข้อมลู ผรู้ ับบริการ และมีการปรบั ปรงุ ขอ้ มลู
ในการสืบคน้ ข้อมลู ประวัติการขอรับบริการ ให้เปน็ ปัจจบุ ัน
- มีการจดั ทาฐานขอ้ มลู ครอบคลมุ ข้อมูล 1 คะแนน = มีการพัฒนาและดูแลรักษาระบบของ
ทีผ่ รู้ บั บริการสอบถาม และมีการปรบั ปรุง Call center ตามคณุ สมบตั ิทีก่ าหนดอย่างนอ้ ย 2 ข้อ
ข้อมูลใหเ้ ปน็ ปจั จุบนั
2 คะแนน = มีการพัฒนาและดูแลรักษาระบบของ
Call center ครบคุณสมบตั ิทง้ั ๓ ข้อ
19.2มีการกาหนดมาตรฐานในการให้บริการ 1 คะแนน = มีมาตรฐานการให้บริการของ Call Center
() ของ Call Center ไวอ้ ย่างชัดเจน เช่น ท่ีชดั เจนและเจา้ หน้าที่รับทราบมาตรฐานทกี่ าหนด
- โทรศพั ท์ดังไมเ่ กิน ๓ ครัง้ 2 คะแนน = มีการปรับปรุงและพัฒนามาตรฐาน
- อัตราสูงสุดท่ียอมให้สายหลุดไปไม่สามารถรับ ในการให้บริการของ Call Center โดยแสดงให้เห็นว่า
ปรับปรุงแล้วดขี ้นึ อยา่ งไร
ได้ในการติดตอ่ ครั้งแรก ไม่เกนิ ๕%
- การให้บรกิ ารไดส้ าเร็จในการติดต่อคร้งั แรก
19.3 เจา้ หน้าที่ Call center สามารถ 1 คะแนน = มีรายงานหรือสถิติการปฏิบัติงาน
() ปฏิบตั ิงานไดต้ ามมาตรฐานท่กี าหนด ร า ย บุ ค ค ล ส า ม า ร ถ แ ส ด ง ใ ห้ เ ห็ น ว่ า ไ ด้ ป ฏิ บั ติ ง า น
ตามมาตรฐานท่กี าหนด
2 คะแนน = เจ้าหน้าที่ Call center มีการรายงาน
ปั ญ ห า ห รื อ แ ล ก เ ป ล่ี ย น ข้ อ มู ล ร ะ ห ว่ า ง เ จ้ า ห น้ า ท่ี
เพือ่ นามากาหนดเป็นมาตรฐานในการให้บริการ
-32-
๒0. การ 20.1 มีแผนการบริหารความต่อเนื่องใน มีแ ผ นกา ร บ ริ ห า รค วา มต่ อเ น่ือง (Business
บรหิ ารความ () การให้บริการกรณีที่เกิดภาวะฉุกเฉิน หรือ Continuity Plan: BCP) กรณีเกิดภาวะฉุกเฉินต่าง ๆ
ตอ่ เนื่องในการ ภัยพิบัติ โดยเตรียมทรัพยากรท่ีสาคัญ โดยเน้นเร่ือง
ให้บริการท่ี
จาเปน็ เช่น สถานท่ีให้บริการสารอง บุคลากร ข้อมูลการให้บรกิ าร
ข้ อ มู ล ส า ร ส น เ ท ศ คู่ ค้ า ห รื อ ผู้ มี ส่ ว น ไ ด้
ส่วนเสยี วัสดุอุปกรณต์ ่าง ๆ เปน็ ต้น สถานที่
บคุ ลากร
วสั ดุอุปกรณ์
20.2 มีการฝกึ ซ้อมตามแผนอยา่ งต่อเนื่อง มีก า ร ฝึก ซ้อ ม แผนการบริหารความต่อเนื่อง
() (อย่างน้อยปลี ะ 1 ครัง้ )
20.3 มีการสร้างความเข้าใจ และ มีการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับแผนการบริหาร
() สื่อสารข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้เจ้าหน้าที่ ความตอ่ เนอ่ื งให้เจา้ หนา้ ที่ภายในหนว่ ยงานได้ทราบ
ผู้รับบริการ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ได้รับทราบ มีการเผยแพร่ ส่ือสารข้อมูลต่าง ๆ ให้ผู้รับบริการ
และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้รับทราบผลกระทบในการ
ให้บริการของหนว่ ยงานเมือ่ เกดิ ภาวะฉุกเฉินหรือภัยพบิ ัติ
เช่น รูปแบบอินโฟกราฟฟิค คลิปวิดีโอ เป็นต้น
20.๔ มีการทบทวนแผนบริหารความ ม ีการทบทวนแผนบริหารความต่อเนื่องให้
() ต่อเนอ่ื งของหน่วยงาน ครอบคลมุ ประเดน็ ต่าง ๆ ดงั น้ี
มีความเปน็ ปัจจุบัน
สามารถรองรับสถานการณ์ COVID 19
มุ่ง เ น้นกา ร นา ระ บ บ e-service ร ว ม ทั้ง
เ ท ค โ น โ ล ย ีด ิจ ิท ัล ม า ใ ช ้ใ น ก า ร บ ร ิห า ร ง า น แ ล ะ
ให้บริการประชาชน
*แผน BCP ไม่ได้มีกรอบระยะเวลา แต่เป็นแผนที่ต้องมี
การทบทวนปรับปรุงอยู่เสมอเมื่อมีปัจจัยต่าง ๆ ท่ี
เปล่ียนแปลงไป เช่น ภารกิจ บุคลากร เพื่อว่าเมื่อเกิด
เหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งข้ึน หน่วยงานจะได้สามารถ
พร้อมดาเนินภารกิจได้อย่างต่อเน่ือง ไม่สะดุดหยุดลง
แมเ้ กดิ สภาวะวิกฤต หรอื หากเกดิ การหยุดชะงัก จะสามารถ
กลับมาดาเนินการไดภ้ ายในเวลาเทา่ ใด เพอื่ ไมใ่ หก้ ระทบ
กบั ประชาชนหรอื งานในภาพรวมของรฐั
-33-
4. เงื่อนไขพิเศษเพม่ิ เติม
21. การ คดิ คน้ และแสวงหาวิธีการ หรอื แนวทางใหม่ ๆ 1 คะแนน = หน่วยงานนานวัตกรรม วิธีการ หรือ
ขบั เคล่อื นการ () ทาให้เกิดผลในการปรับปรุงและออกแบบ แนวทางใหม่ ๆ ในการให้บริการจากที่อ่ืนมาพัฒนาต่อยอด
ให้บรกิ ารด้วย การให้บริการสาธารณะให้สามารถ ในการปรับปรุงและออกแบบงานบริการของหน่วยงาน
นวัตกรรม ตอบสนองปัญหาความต้องการของ เพ่อื อานวยความสะดวกในการให้บรกิ าร
ประชาชนไดอ้ ยา่ งมีคุณภาพ
2 คะแนน = หน่วยงานมีการคิดค้น และแสวงหา
วิธีการ หรือแนวทางใหม่ ๆ ทาให้เกิดการปรับปรงุ และออกแบบ
การให้บริการของหน่วยงานเพื่ออานวยความสะดวก
ในการให้บริการ สามารถตอบสนองความต้องการของ
ประชาชนได้อย่างมีคุณภาพ
๒2. การปรบั - ให้บริการเช่ือมโยงแบบเรียลไทม์ 1 คะแนน = มีการจัดทาฐานข้อมลู ในการให้บริการ
เข้าสู่ระบบอิเล็กทรอนิกส์แบบเรียลไทม์ หรือภายใน
เข้าส่คู วามเปน็ () ในทกุ เวลาและสถานที่
ดิจิทลั (เกณฑ์ - วิเคราะห์ข้อมูลท่ีซับซ้อนเพ่ือช่วยการบริการ 24 ชั่วโมง
เพื่อรองรับไทย ให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการ 2 คะแนน = มีการวิเคราะห์ แบ่งปันข้อมูล และใช้
แลนด์ ๔.๐) ประชาชนได้ทุกท่ี ทุกเวลา ทุกช่องทาง ประโยชน์จากฐานขอ้ มลู ผู้รับบรกิ าร
ทุกอุปกรณ์
23. การพัฒนา ระบุถึงลักษณะความโดดเด่นของศูนย์ราชการ 2 คะแนน = ศูนย์ราชการสะดวกมีความโดดเด่น
ศนู ยร์ าชการ () สะดวกที่มีความพิเศษมากกว่าศูนย์ราชการ ทีม่ คี วามพิเศษมากกว่าศูนย์ราชการแหง่ อ่นื
สะดวกสู่ความ
เป็นเลศิ แห่งอื่น
3.3 เกณฑ์ด้ำนผลลัพท์
แนวทำงกำรดำเนนิ งำน คะแนนเตม็
1. ความพึงพอใจของประชาชนในการรับบรกิ าร 10
10
2. ความสะดวกในการติดตอ่ ราชการ โดยพิจารณาจากความรวดเร็ว ข้ันตอนสน้ั เขา้ ถงึ บรกิ ารไดห้ ลายช่องทาง 10
3. การนาเทคโนโลยีมาช่วยในการให้บริการประชาชน จนทาให้สามารถใช้บริการได้จากทุกท่ีทุกเวลา การติดตาม 30
สถานะงานบรกิ ารได้ ระบบการร้องเรยี นทีม่ ีประสทิ ธิภาพ
รวม
-34-
คำอธบิ ำยเกณฑก์ ำรประเมนิ ด้ำนผลลพั ธ์
แนวทำงกำรดำเนินงำน (คะแนน) เกณฑ์กำรประเมนิ คะแนน
1. ความพึงพอใจของประชาชนในการรับ ประเมินจาก
บรกิ าร (10 คะแนน) 1.1 พิจารณาจากวิธีการสารวจและความน่าเช่ือถือในการจัดเก็บแบบสอบถาม
ความพึงพอใจของประชาชนในการรับบริการท่ีทางศูนย์ราชการสะดวกจัดทาข้ึน เช่น
สัดส่วนของกลุ่มตัวอย่างกับผู้มารับบริการทั้งหมด ความถี่ในการจัดเก็บข้อมูล เป็นต้น
(๖ คะแนน)
1 คะแนน หน่วยงานจัดเก็บข้อมูลเอง แต่กลุ่มตัวอย่างไม่มีความครอบคลุม
และเพียงพอกับการเป็นตัวแทนกลุ่มประชากร
2 คะแนน หน่วยงานจัดเก็บข้อมูลเอง และกลุ่มตัวอย่างมีความครอบคลุม
และเพียงพอกับการเป็นตัวแทนกลุ่มประชากร
3 คะแนน จัดเกบ็ ขอ้ มลู โดย third party แต่กลมุ่ ตวั อยา่ งไมม่ ีความครอบคลมุ
และเพียงพอกับการเป็นตัวแทนกลุ่มประชากร
4 คะแนน จัดเก็บข้อมลู โดย third party และกลุม่ ตัวอย่างมีความครอบคลุม
และเพียงพอกับการเป็นตัวแทนกลุ่มประชากร
5 คะแนน จดั เกบ็ ข้อมลู ด้วยระบบอิเลก็ ทรอนิกสท์ ่นี า่ เชื่อถือ และกลมุ่ ตวั อย่าง
มีความหลากหลายครอบคลุมและเพียงพอกับการเป็นตัวแทน
กลุ่มประชากร
๖ คะแนน จัดเกบ็ ข้อมลู มากกว่า ๑ ชอ่ งทางที่น่าเช่ือถอื และกลมุ่ ตัวอยา่ ง
มีความหลากหลายครอบคลุมและเพียงพอกับการเป็นตัวแทน
กลุ่มประชากร
หมายเหตุ :
- การดาเนินการโดย third party หมายถึง การสารวจโดยหน่วยงานภายนอก หรือ
หนว่ ยงานส่วนกลางสารวจให้สาขาก็ได้
- ความครอบคลุมและเพียงพอให้คณะอนุฯพิจารณาจากหลักฐานการจัดเก็บข้อมูล
โดยใหห้ นว่ ยงานเป็นผนู้ าเสนอ
1.2 คณะอนุกรรมการฯ ส่มุ สัมภาษณ์ผรู้ บั บริการ (Spot Check) เกี่ยวกับความคาดหวงั
และความพงึ พอใจ อยา่ งนอ้ ย 3 คน และใหค้ ะแนนตามตาราง (๔ คะแนน)
1 คะแนน ไม่พึงพอใจ 2 ใน 3
2 คะแนน ไม่พึงพอใจ 1 ใน 3
3 คะแนน พึงพอใจท้ังหมด
4 คะแนน พึงพอใจท้ังหมด และ ได้รับคาชื่นชม
-35-
แนวทำงกำรดำเนนิ งำน (คะแนน) เกณฑ์กำรประเมิน คะแนน
2. ความสะดวกในการติดต่อราชการ 2.1 ระยะเวลา (5 คะแนน) (ใช้งานบริการหลัก หรืองานบริการท่ีมีผู้ใช้บริการมากท่ีสุด)
โดยพิจารณาจากความรวดเร็ว ข้ันตอนสั้น พิจารณาจากระยะเวลาท่ีหน่วยงานกาหนดไว้ในคู่มือประชาชน หรือมาตรฐาน
เข้าถึงบรกิ ารได้หลายชอ่ งทาง (10 คะแนน) ที่หน่วยงานกาหนด โดยสุ่มสมั ภาษณ์อยา่ งน้อย 3 คน และลงคะแนนท้ัง 3 คน จากน้ันให้
ทาการหาคา่ เฉลย่ี ของคะแนนทั้ง 3 คน
1 คะแนน ลดระยะเวลาในการให้บริการได้ตั้งแต่ 0-๑๐% จากที่ระบุไว้ใน
2 คะแนน คู่มือประชาชน หรือมาตรฐานที่หนว่ ยงานกาหนด
3 คะแนน
4 คะแนน ลดระยะเวลาในการให้บริการได้ตั้งแต่ ๑๑-๒๐% จากที่ระบุไว้ใน
5 คะแนน คู่มือประชาชน หรือมาตรฐานที่หนว่ ยงานกาหนด
ลดระยะเวลาในการให้บริการได้ตั้งแต่ ๒๑-๓๐% จากที่ระบุไว้ใน
คู่มือประชาชน หรอื มาตรฐานที่หน่วยงานกาหนด
ลดระยะเวลาในการให้บริการได้ตั้งแต่ ๓๑-๔๐% จากที่ระบุไว้ใน
คู่มือประชาชน หรือมาตรฐานทห่ี น่วยงานกาหนด
ลดระยะเวลาในการใหบ้ รกิ ารไดม้ ากกวา่ ๔๐% ขึ้นไป จากท่รี ะบไุ ว้ใน
คู่มือประชาชน หรือมาตรฐานที่หน่วยงานกาหนด หรือสามารถ
ให้บริการน้อยกว่า ๑๐ นาที (Single Minute) ในกรณีที่ไม่สามารถ
ลดข้ันตอนลงได้อกี
โปรดระบุการคาดประมาณผลทจ่ี ะไดร้ ับจากการลดระยะเวลา
วธิ กี ารคานวณ
1. คานวณความแตกต่างของระยะเวลาการให้บริการที่เปล่ียนแปลง เช่น
จากเดิมระบใุ นค่มู ือไว้ที่ 1 วนั แต่ข้อมลู ท่ีได้จากการสมั ภาษณ์เหลือ 0.5 วัน
2. นาข้อมูลทแ่ี ปลงแลว้ เป็นหน่วยวัน คูณกับ 300 (อัตราค่าแรงขนั้ ตา่ ต่อ 1 วัน
(8 ช่วั โมง)) เพื่อแปลงเปน็ หนว่ ยบาท
3. นาคา่ ทีไ่ ด้คณู กบั จานวนธุรกรรมทีเ่ กิดข้นึ ท้ังหมดในรอบ 1 ปี
สตู ร
(ระยะเวลาทีล่ ดลง (วัน) x 300) x จานวนธุรกรรมใน 1 ปี (ครัง้ ) = จานวนเงินที่หน่วยงาน
ประหยัดได้ (บาท)
ตัวอย่างเช่น
ลดระยะเวลาการใหบ้ รกิ ารได้ 0.5 วัน มจี านวนธุรกรรมท้ังปจี านวน 1,000 ครง้ั
เท่ากับหน่วยงานสามารถประหยัดคา่ ใชจ้ ่ายได้ (0.5 x 300) x 1,000 = 150,000 บาท
(............................x 300) x ............................................ = ……………………..………………………………… บาท
-36-
แนวทำงกำรดำเนนิ งำน (คะแนน) เกณฑก์ ำรประเมนิ คะแนน
2.2 จานวนช่องทางการให้บริการ (5 คะแนน) (ใช้งานบริการหลักหรืองานบริการ
ท่ีมีผู้ใช้บริการมากท่ีสุด) ช่องทางหลัก หมายถึง ช่องทางการให้บริการปกติ เช่น ช่องทาง
walk-in ช่องทางการให้บริการอ่ืน ๆ เช่น e-service การยื่นเอกสารทาง online หรือ
e-payment เป็นตน้ (ยกเวน้ คูม่ ือประชาชน)
1 คะแนน 1 ช่องทาง (หมายถึงชอ่ งทางหลัก)
2 คะแนน
3 คะแนน 2 ชอ่ งทางขึน้ ไป
4 คะแนน
3 ช่องทางขน้ึ ไป
5 คะแนน
เพมิ่ ช่องทางการให้บรกิ ารในเชงิ รกุ ตามความเหมาะสมของงาน
บรกิ าร อย่างน้อย 1 เร่อื ง (เชน่ เดลิเวอรส่ี ่งตรงถึงบ้าน เป็นตน้ )
เพิ่มช่องทางการให้บริการในเชิงรุกตามความเหมาะสมของงาน
บรกิ าร อย่างนอ้ ย 2 เร่อื ง
หมายเหตุ : คณะอนุฯ ต้องพิจารณาว่าช่องทางการใหบ้ ริการต้องเป็นช่องทางที่มีความต่อเนอื่ ง
และสมา่ เสมอ
3. การนาเทคโนโลยีมาช่วยในการ ประเมินจาก
ให้บริการประชาชน จนทาให้สามารถใช้ 3.1 การมีระบบเพื่อให้บริการได้จากทุกท่ี เช่น ระบบการจองคิว ระบบการให้บริการ ระบบ
บริการได้จากทุกที่ทุกเวลา การติดตาม การชาระเงิน ระบบการให้ข้อมูลเพื่อติดตามสถานะการให้บริการ ระบบการร้องเรียน
ส ถ า น ะ (ประเมินตามตารางดา้ นล่าง ให้คะแนนระบบละ 1 คะแนน และหากมีการวิเคราะหผ์ ลจาก
งานบริการได้ ระบบการร้องเรียนท่ีมี
ประสิทธิภาพ (10 คะแนน) ระบบใหเ้ พิม่ อีก 1 คะแนน) (5 คะแนน)
1 คะแนน เจา้ หนา้ ทีส่ ามารถตอบกลับข้อมูลในระบบจนสมบูรณต์ ลอด
24 ชว่ั โมง / มีระบบการติดตามสถานะการใหบ้ รกิ าร
1 คะแนน มรี ะบบการจองควิ ลว่ งหน้าผา่ นระบบอิเล็กทรอนกิ ส์ /
ระบบการรอ้ งเรยี นออนไลน์
1 คะแนน มีระบบย่ืนคาขออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์
1 คะแนน มรี ะบบชาระเงนิ แบบอิเล็กทรอนิกส์
1 คะแนน มีระบบออกเอกสารอเิ ล็กทรอนิกส์ เชน่ ใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์
(e-Certificate) ใบรับ/ใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt/
e-Tax Invioce)
3.2 ร้อยละของผู้ใช้บริการผ่านระบบออนไลน์ คิดเป็นร้อยละเท่าใดของกลุ่มเป้าหมาย (N)
(5 คะแนน)
5 คะแนน ตัง้ แตร่ อ้ ยละ 50 ขนึ้ ไป
4 คะแนน รอ้ ยละ 40-49
3 คะแนน ร้อยละ 30-39
2 คะแนน รอ้ ยละ 20-29
1 คะแนน ตา่ กวา่ ร้อยละ 20
-37-
๔. แนวทำงกำรเตรยี มพร้อมเบอ้ื งต้น
4.1 หลักฐำนกำรสมคั ร Online
หน่วยงานจะต้องส่งเอกสารหลักฐานเชิงประจักษ์ท่ีเก่ียวข้องกับหลักเกณฑ์การให้บริการของศูนย์ราชการ
ที่หน่วยงานได้ดาเนินการแล้วผ่านระบบ Online การรับสมัครขอรับการรับรองมาตรฐานการให้บริการของ
ศนู ย์ราชการสะดวก ประจาปี เพอื่ ประกอบการพิจารณาตรวจคัดกรองเอกสารเบอ้ื งตน้ และการตรวจประเมินในพน้ื ท่ี
4.๒ กำรเตรยี มพรอ้ มในกำรตรวจประเมินในพนื้ ที่
- ก่อนรับกำรตรวจประเมินฯ : เตรียมความพร้อมตามวัน และเวลา ท่ีฝ่ายเลขานุการฯ คณะอนุกรรมการฯ
ประสานแจ้งให้ทราบ โดยเตรียมพร้อมด้านพื้นท่ี เอกสาร บุคลากร หรือจัดทาคลิปวิดีโอนาเสนอผลงานการให้บริการ
และส่ิงทีโ่ ดดเด่น
- รับกำรตรวจประเมินในพื้นท่ี : คณะอนุกรรมการฯ จะพิจารณาการตรวจประเมินในรูปแบบของการประชุม
Video Conference หรือ Video Live เพื่อชมพื้นท่ีการให้บริการประชาชน รวมทั้งมีการสัมภาษณ์/ซักถามผู้รับบริการและ
เจ้าหนา้ ที่ พจิ ารณาขอ้ มูลเพ่ิมเติมอ่ืน ๆ และการลงพื้นท่ีตรวจประเมินแบบ Site Visit ซึ่งหนว่ ยงานอาจดาเนนิ การดังนี้
๑. ช้ีแจงข้อมลู การดาเนนิ การตามหลกั เกณฑ์ อาจเปน็ การนาเสนอโดย power point หรอื presentation ทเี่ น้นการ
ให้บริการและสิ่งท่โี ดดเด่นของหนว่ ยงาน โดยใช้ระยะเวลาสน้ั ๆ
๒. เตรยี มเอกสารหลกั ฐานเชงิ ประจักษ์เพื่อเปน็ ข้อมูลสำหรับคณะอนุกรรมกำรฯ ใช้ประกอบกำรพิจำรณำ
๓. ช้ีแจงเพ่มิ เตมิ ตามท่ีคณะอนกุ รรมการฯ ซักถาม (สั้น กระชบั และตรงประเด็น)
- หลังรับกำรตรวจประเมินฯ หน่วยงานสามารถสอบถามข้อมูลและติดตามข่าวสารต่าง ๆ เกี่ยวกับการตรวจประเมิน
มาตรฐานการใหบ้ รกิ ารของศนู ยร์ าชการสะดวก ไดท้ ่ี Facebook : คณะกรรมการอานวยการศูนย์ราชการสะดวก
๕. กำรรับรองมำตรฐำน
๕.1 ระยะเวลารับรอง
การให้การรบั รองมาตรฐานศูนยร์ าชการสะดวก มีระยะเวลา ๓ ปี นับจากปที ี่ได้รบั รอง
๕.2 จุดติดต้งั ตราสญั ลักษณ์ศูนย์ราชการสะดวก (GECC)
ติดไว้บริเวณท่ีประชำชนเห็นได้อย่ำงชัดเจน ณ จุดให้บริกำรที่ได้รับกำรรับรองมำตรฐำนกำรให้บริกำร
ของศูนย์รำชกำรสะดวก เพื่อเป็นเคร่ืองหมำยที่แสดงให้รู้ว่ำประชำชนจะได้รับกำรบริกำรท่ีมีมำตรฐำน GECC
สะดวก รวดเรว็ เข้ำถึงงำ่ ย
5.3 โล่และตรารับรองมาตรฐาน GECC ถือเป็นทรัพย์สินและลิขสิทธิ์ของคณะกรรมการอานวยการศูนย์ราชการสะดวก
รวมท้ังจะมีการเรียกคืนตราเม่ือครบอายุการรับรองมาตรฐานดังกล่าว นาส่งที่ : ศูนย์บริการประชาชน สานักงานปลัด
สานักนายกรัฐมนตรี ทาเนียบรฐั บาล เลขท่ี 1 ถนนพิษณโุ ลก เขตดสุ ติ กรงุ เทพฯ 10300 เบอร์โทรติดตอ่ 0 2283 4473 ,
0 2283 4475
-38-
๖. ปฏทิ ินกำรดำเนนิ กำรของคณะกรรมกำรอำนวยกำรศูนยร์ ำชกำรสะดวก
มกราคม – กมุ ภาพันธ์ เปิดรบั สมคั รขอรบั การรับรองมาตรฐานศูนย์ราชการสะดวก
มนี าคม รับรองผลการตรวจคดั กรองเอกสารและชี้แจงกรณไี มผ่ า่ นการคัดกรองเอกสาร
เมษายน – กรกฎาคม ลงพนื้ ท่ตี รวจประเมินมาตรฐานท่วั ประเทศ
สิงหาคม ประกาศและแจ้งผลการรับรองมาตรฐาน (หนังสือ/เว็บไซต์ www.psc.opm.go.th /
Facebook คณะกรรมการอานวยการศูนยร์ าชการสะดวก)
กนั ยายน จดั พิธมี อบโลแ่ ละตราสญั ลักษณ์ให้แก่ศูนย์ราชการสะดวกที่ผ่านการรบั รอง
๗. ชอ่ งทำงกำรตดิ ตอ่ ส่ือสำรคณะกรรมกำรอำนวยกำรศูนยร์ ำชกำรสะดวก
ศนู ย์บรกิ ารประชาชน สานกั งานปลดั สานกั นายกรฐั มนตรี
ท่อี ยู่ : เลขที่ 1 ทาเนียบรฐั บาล ถนนพิษณุโลก เขตดสุ ิต กรุงเทพฯ 10300
หมำยเลขโทรศัพท์ : 0 2283 4473 , 0 2283 4475 , 0 2283 4485 , 0 2283 4526
หมำยเลขโทรสำร : 0 2283 4524 - 25
Facebook : คณะกรรมการอานวยการศูนย์ราชการสะดวก
--------------------------------------