The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ความจริงแล้ว คุณไม่จำเป็น
ต้องมีความสุขทุกวันก็ได้

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Humaida_da, 2021-10-13 09:13:49

Have a good day - ดาเอง

ความจริงแล้ว คุณไม่จำเป็น
ต้องมีความสุขทุกวันก็ได้

" ใ ห้ ตั ว อั ก ษ ร เ ยี ย ว ย า หั ว ใ จ คุ ณ "

Have
a
Good
Day

" ค ว า ม จ ริ ง แ ล้ ว คุ ณ ไ ม่ จำ เ ป็ น
ต้ อ ง มี ค ว า ม สุ ข ทุ ก วั น ก็ ไ ด้ "

IS'ME DADA

“Have a good day”







“ ค ว า ม จ ริ ง แ ล้ ว คุ ณ ไ ม่ จำ เ ป็ น ต้ อ ง มี ค ว า ม สุ ข ทุ ก วั น ก็ ไ ด้ ”






Is’me Dada


#ดาเอง

1

วันแรกแห่งปี ฉันก็ได้แค่หวังลึก ๆ ในใจ
ว่ามันคงจะเป็นอีกปีที่ดีกว่าปีที่ผ่านมา หรือเปล่า

อันนี้ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
แต่ฉันได้แต่หวังว่า ถึงแม้ปีนี้มันอาจจะไม่ได้เป็นปีที่ดีที่สุด

แต่ขอให้เป็นปีที่ดีกว่า ..
ดีกว่าทุก ๆ ปีที่ผ่านมา ก็พอแล้ว

2

วันนี้ท้องฟ้าสดใสดีนะ
ทั้ง ๆ ที่เมื่อวานยังคงมืดครึ้มอยู่เลย
ชีวิตคนเราก็คงเหมือนท้องฟ้านั้นแหละ
เมื่อวานยิ้มร่าอยู่เลย มาวันนี้นั่งหง่อยอีกแล้ว
ท้องฟ้ามันก็เปลี่ยนสีของมันไปทุก ๆ วัน
อยู่ที่เราต่างหาก จะเลือกจมอยู่กับท้องฟ้าที่มืดครึ้มนั้น
หรือจะตั้งความหวังรอท้องฟ้าที่สดใสในวันรุ่งขึ้น



แต่ความจริงอีกเรื่องนั่นก็คือ ...
เราไม่สามารถบังคับท้องฟ้าให้สดใสอยู่ตลอดเวลาได้
ฉะนั้น จงเรียนรู้ที่จะอยู่กับทุก ๆ บรรยากาศของชีวิต
เพราะเราต่างก็ต้องมีชีวิต แม้ในวันที่ฟ้ามืดครึ้ม ก็ตาม ...

3

ฉันตื่นขึ้นมาในตอนเช้า
ฉันพบว่ามันกลับกลายเป็นบรรยากาศ
ที่ร่างกายไม่ได้สัมผัสมานานมากแล้ว
หมอกยามเช้าที่ปกคลุม ไอหนาวกระทบลงบนใบหน้า
น้ำค้างหนา ๆ ที่ยังคงเกาะแน่นบนใบไม้
พลอยทำให้หัวใจดวงน้อย ๆ ชุ่มฉ่ำไปได้อีกครา



ขอบคุณพระเจ้าสำหรับชีวิตในวันนี้
แม้เมื่อคืนฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าวันนี้จะมีพร้อมสำหรับฉันอีกไหม
แต่เมื่อวันนี้ฉันมีโอกาสได้ลืมตาเห็นบรรยากาศยามเช้าอีกครั้ง
นี่แหละ คือ วันที่ดีมาก ๆ อีกวัน ที่ปรารถนาของหัวใจ

4

ฉันฉีกซองขนมขบเคี้ยวซองโต
นั่งมองดูสักพักก่อนจะล้วงมือเข้าไปหยิบมันออกมา

ฉันรู้สึกว่าการได้กินขนมขบเคี้ยว ณ ตอนนี้
มันไม่สนุกเหมือนเมื่อก่อน

ตอนเด็ก ๆ การได้กินขนมขบเคี้ยวถือเป็นความสุขชิ้นเอก
ขนมปังหรอ ขนมมีประโยชน์หรอ อย่าหามาเชียว



ฉันนั่งมองขนมในมืออีกครั้งบวกปริมาณแคลอรี่บนหน้าถุง
ฉันเกือบจะเอาขนมในมือใส่กลับเข้าไปในถุงแล้วปิดปากถุงซะ



พอโตขึ้น เราเริ่มมีกฎเกณฑ์มากมายในชีวิต
จนบางครั้ง กลับเป็นเราเสียเองที่ไม่มีความสุข
แม้แต่การกินขนมขบเคี้ยวที่เมื่อก่อนถือเป็นความสุขชั้นยอด
ก็กลายมาเป็นกฎเกณฑ์ ที่ต้องมาระวัง ..

จนความสุขเหล่านั้น เลือนหายไป

5

วันนี้แดดจ้ากว่าทุกวัน
ไม่รู้ว่าดวงอาทิตย์ไปโกรธแค้นใครมาเป็นพิเศษหรือเปล่า

ฉันหยิบเอาผ้าที่ยังเปียกหมาด ๆ จากการปั่นแห้ง
ใส่ไม้แขวนพร้อมจะออกสู่การอบแสงธรรมชาติ

ทุกอย่างพร้อม ฉันก็พร้อม
ฉันเดินออกจากตัวบ้านทันที



ทันใดนั้นก็มีเมล็ดฝนโปรยลงมา
ฉันเงยหน้ามองท้องฟ้าอย่างงุนงง
แกล้งกันใช่ไหม ... แกล้งกันอีกแล้วใช่ไหม
คราใดที่จะตากผ้า ก็มักจะตามมาพร้อมฟ้าฝน
คราใดที่จะล้างรถ ก็เช่นเดียวกัน

เหมือนจะแกล้งกันเป็นนัย ๆ



มันเป็นเรื่องราวที่น่าขำดีนะ
ระหว่าง เสื้อผ้า รถ และฟ้าฝน
แต่มันก็ถูกกำหนดไว้แบบนั้นแหละ
ความไม่แน่นอน ที่ถูกกำหนดไว้หมดแล้ว

6

วันนี้อาจจะไม่มีเรื่องเล่าเยอะแยะเหมือนวันอื่น ๆ
แต่เป็นอีกวันที่รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก
มันคงเป็นอย่างนั้นจริง ๆ แหละ ที่เขาว่า ..


แม้แต่การอยู่เฉย ๆ
ก็อาจจะเป็นความสุขให้เราได้ เช่นเดียวกัน ..

7

หนังสือเกือบสิบเล่มที่วางเรียงรายอยู่บนหัวนอน
ฉันนั่งมองดูมันอย่างเอ็นดูพร้อมถามตัวเองเป็นนัย ๆ

เมื่อไหร่จะเคลียร์กองหนังสือนั้นเสียที
เคลียร์ ในที่นี้ให้ความหมายว่า “อ่าน”
เกือบสิบเล่มที่ซื้อไว้แต่ยังไม่เปิดอ่านมันเลยสักครั้ง
ถ้ามันพูดได้มันก็คงจะบอก “อ่านฉันสักทีเถอะ ขอร้องล่ะ”



หลาย ๆ ครั้งที่เรามักจะเลือกซื้อหนังสือ

ซื้อมาก่อน เดี๋ยวค่อยอ่านก็ได้
แต่ถ้าไม่ซื้อก่อน อาจจะไม่ได้กลับมาซื้ออีกแล้ว

มันอาจจะดูเป็นตรรกะที่สิ้นเปลืองพอควร
ราคาหนังสือก็ใช่ว่าจะสิบบาทยี่สิบบาทซะที่ไหน
แต่เวลาเห็นแล้วมันอดใจไม่เคยได้เลยจริง ๆ



ซื้อมาก่อน ซื้อมาก่อน ซื้อมาก่อน
หัวใจมันบอกอย่างนี้จริง ๆ นะ ฮ่า ๆ
ฉันรู้ว่าคุณก็เป็นเหมือนกันกับเรานั่นแหละ จริงไหมละ ?

8

ฉันขับมอเตอร์ไซค์ออกไปจ่ายตลาด
ขับออกไปด้วยความชำนาญขั้นสูงสุด
เข้าซอยนี้ ออกซอยนั้น เลี้ยวซอยโน้น
จีพีเอสต้องอายฉัน จะว่าอย่างนั้นก็ได้



ฉันมาถึงซอยหนึ่ง ขับมาสักพักก็เริ่มรู้สึกแปลก ๆ

มันไม่ใช่ทางที่ฉันเคยมานี่น่า ..
ใช่แล้วล่ะ ฉันหลงทาง !
ความเก๋าเริ่มหายไป

ในหัวก็นึกต้องขอช่วยจีพีเอสแล้วล่ะ
จีพีเอสคงหัวเราะเยาะฉันอยู่แน่ ๆ



คนเรา ต่อให้รู้สึกว่าชำนาญการสักขนาดไหน
ก็ต้องยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่จะต้องเรียนรู้
นักว่ายน้ำโอลิมปิก ยังเสียชีวิตเพราะจมน้ำเลย
ชาวประมงที่ชำนาญการเดินเรือนักหนาก็ยังหลงทางในน่านน้ำ

หรือแม้แต่นักแข่งรถฟอมูล่าวัน
ก็ยังเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุทางถนน



ไม่มีใครชำนาญอะไรที่สุดหรอกบนโลกใบนี้
แม้แต่ฉันที่คิดว่าแค่ทางไปตลาดแถวบ้าน ..

ก็ยังต้องพึ่งพาจีพีเอสเลย

9

ฉันเป็นคนนึงที่ชอบใส่แหวน
ใส่ชนิดที่ว่า ใส่ติดตัวแบบไม่ถอด
หลาย ๆ ครั้งที่ฉันมักจะพามันไปโดนขูดขีดบ่อย ๆ
แต่มันก็ยังคงทำหน้าที่อยู่บนนิ้วของฉันอย่างจงรักภักดี



มันจะเจ็บปวดบ้างแหละนะ ฉันคิดว่า..

แต่มันก็พูดอะไรไม่ได้
ก็เพราะมัน คือ แหวน .. มันเลยพูดไม่ได้

10

ช่วงโควิดเราทุกคนต่างก็ต้องกักตัวอยู่บ้าน
เป็นเรื่องราวที่หลาย ๆ คนก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้น
ฉันใช้เวลาอยู่บ้านเกือบปี นั่ง นอน กิน ทำภารกิจที่ไม่เคยทำ



ฉันเดินเล่นบริเวณบ้าน..
หน้าบ้าน ข้างบ้าน หลังบ้าน เวียนรอบจนเวียนหัว
ดอกชบา สีแดงสดเฉิดฉายอยู่หน้าบ้าน
อย่างกับไม่รู้ร้อนรู้หนาวว่า ณ ตอนนี้โลกมันน่ากลัวขนาดไหน
ฉันเดินเข้าไปดูมันใกล้ ๆ ...
ถึงแม้โลกนี้มันจะวุ่นวายขนาดไหน
ถึงแม้ว่าโลกนี้มันจะน่ากลัวสักเท่าไหร่
แต่ดอกชบาดอกนั้น ก็ยังคงเบ่งบานอย่างไม่สนใจใคร



หลาย ๆ ครั้งที่เรามักจะวุ่นวายใจอยู่กับผู้คนมากมายรอบตัว

เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น ๆ ไม่รู้จักจบสิ้น
อันนู้นก็อยากได้ อันนี้ก็อยากซื้อเหมือนใครเขา
อยากจะทำ อยากจะเป็นเหมือนที่ใครเขาเป็นกัน

อย่าลืมสิ ว่าเราถูกสร้างมาให้แตกต่าง
พระเจ้าสร้างเราเพื่อให้หันมาทำความรู้จักและเรียนรู้กัน



ดอกชบามันก็เบ่งบานของมันอยู่อย่างนั้น

แม้ว่าโลกมันจะโหดร้ายแค่ไหน
แต่ดอกชบามันก็ยังคงเบ่งบาน ตามทางของมัน

11

ฉันเปิดแอพฯอินสตราแกรม
เพื่อโพสต์รูปภาพที่ร้านคาเฟ่แห่งหนึ่ง

หลายๆครั้งที่ฉันต้องมานั่งแต่งรูป
เพียงเพื่อจะคุมโทนรูปภาพ

ให้เหมือน ๆ กับภาพอื่น ๆ ที่เคยโพสต์ไปก่อนหน้า
บางทีก็ปาไปครึ่งค่อนวัน ไม่ก็ปาไปเป็นวัน ๆ
กว่าจะได้โพสต์รูปภาพนั้น ๆ


ฉันเลยมานั่งถามตัวเอง...
ทำไมเราต้องมาตั้งกฎเกณฑ์
ตั้งเงื่อนไขกับตัวเองมากมายขนาดนี้นะ

แม้กระทั่งรูปแก้วกาแฟ ก็ต้องใช้เวลาไปถึงวันสองวัน
เพื่อที่จะโพสต์ ..



หลาย ๆ ครั้งเลยแหละ ในชีวิตเรามักจะตั้งกฎเกณฑ์เยอะแยะมากมาย
จนสุดท้ายกลับเป็นตัวเราเองที่ต้องมานั่งทุกข์ใจ ไม่สบายใจ ไม่เป็นสุข



บางทีก็ถามตัวเอง เพื่ออะไรกันนะ ?
บางเรื่องก็ปล่อยให้มันเป็นธรรมชาติของมันบ้าง
กาแฟมันก็ควรจะเป็นสีดำของมันนะ
ไม่ใช่แต่งให้มันเป็นสีซีดๆ ...แล้วค่อยโพสต์

12

วันนี้ไม่มีอะไรให้เล่า ก็แค่อีกวันที่เปื่อย ๆ
ข้ามมันไปละกัน
...

13

ฉันยืนขึ้นมองไปยังระเบียงหลังห้อง
ห้องฉันอยู่ชั้นบนสุดก็ว่าได้..

ฉันเห็นวิวตรงหน้าตระการตามาก ๆ
เป็นฟาร์มเล็ก ๆ ที่แลดูก็ไม่เล็กนะ
บวกกับบ้านหลังเล็กสีขาว วางเด่นอยู่ตรงฟาร์มนั้น
ต้นไปรอบ ๆ เติบโตเต็มไปหมด ทุกอย่างสวยงามมาก



ฉันมองไปสุดลูกหูลูกตา นอกจากฟาร์มและบ้านเล็กสีขาวนั้น

ฉันก็ยังคงเห็นอะไรเยอะแยะมากมาย
หมู่บ้านเล็ก ๆ ข้าง ๆ นั้น ภูเขาลูกใหญ่ที่ตั้งอยู่ไกล ๆ

ถนนสีดำที่ตัดผ่านเข้าไปในหมู่บ้าน
ต้นไม้ใบหญ้าที่ขึ้นเต็มริมทั้งสองทาง
ฉันเห็นมันเกือบหมดทุกย่างในรัศมีสายตาที่พอจะกวาดไปถึง

ใช่... ฉันอยู่บนตึกสูง

14

วันนี้ฉันมองไปยังวิวตรงนั้นอีกครั้ง
แต่คราวนี้มันไม่เป็นอย่างที่ฉันเคยเห็นในทุก ๆ วันที่ผ่านมา

ฉันจ้องมองอีกครั้งอย่างไม่ละสายตา
ฉันมองเห็นแค่ต้นไม้เพียงไม่กี่ต้น อีกทั้งยังมองเห็นเพียงแค่ลำต้นด้วยซ้ำ



ฉันกวาดสายตาอีกครั้ง
ภูเขาที่วางอยู่ไกล ๆ ก็หายไป บ้านสีขาวนั้นก็หายไปด้วยเช่นกัน
แม้แต่ฟาร์มที่ฉันเห็นก่อนหน้านั้นก็หายไป
ฉันเจอแค่ลำต้นของต้นไม้ ..
ใช่ ฉันได้ย้ายมาอยู่ห้องชั้นหนึ่งแล้ว

15

คุณรู้ไหม ว่าทำไม วันที่ผ่านมาก่อนหน้าฉันถึงเขียนไปอย่างนั้น
ฉันอยากให้คุณลองสำรวจชีวิตคุณดูอีกครั้ง..

ยามที่เรามีปัญหามากมายที่เข้ามารุมเร้าอย่างไม่ได้รับอนุญาต
เราเลือกมองปัญหานั้นจากจุดไหนกัน
มองจากชั้นล่าง ที่เห็นแค่ลำต้น

หรือจะมองมาจากชั้นบนสุดที่สามารถกวาดสายตาไปได้ทั่วทุกหนแห่ง



การแก้ปัญหาชีวิตก็เช่นกันนั่นแหละ
การที่เรามองปัญหาเพียงแค่ยืนอยู่ตรงชั้นล่าง

ก็คงมองเห็นทางแก้ที่ไม่มากเท่าไหร่
หรือไม่ก็อาจจะมองไม่เห็นทางแก้เลยด้วยซ้ำ



ลองตั้งสติแล้วมองปัญหาที่เกิดในมุมที่กว้างขึ้นดูไหม
เราอาจจะเจอทางออกของปัญหามากมายที่รอเราอยู่

เราอาจจะเห็นถนนเส้นนั้นก็ได้



เปลี่ยนมุมมอง แล้วเราจะเข้าใจปัญหามากขึ้น
เปลี่ยนมุมมอง แล้วเราจะเห็นทางออกมากขึ้น

16

ฉันได้มีโอกาสเข้าอบรมขององค์กรแห่งหนึ่ง
เป็นอีกครั้งที่เรารู้สึกแฮปปี้กับมันพอสมควร

เพราะอยู่ฟรีแถมยังกินฟรีอีกด้วย ..
แต่ที่ฉันยังคงติดใจอย่างหนึ่ง นั่นก็คือเรื่องของ “อาหาร”
เขาเลี้ยงอาหารทุกวัน วันละสามมื้อ แล้วยังติดใจอะไรอีกล่ะ ?
เพราะว่าบางมื้อ เป็นกับข้าวที่ฉันกินไม่ค่อยได้ยังไงล่ะ

แต่สุดท้ายฉันก็กินนะ ไม่ได้ทิ้งแต่อย่างใด



ฉันแค่อยากจะให้เห็นถึงอะไรบางอย่าง
แม้แต่อาหารที่เราได้รับแต่ละวัน บางมื้อเราก็ไม่สามารถเลือกได้เลย

เราต้องมาคอยลุ้นว่า วันนี้ มื้อนี้จะได้กับข้าวอะไรนะ
เราจะกินได้ไหมนะ บลา ๆ แต่พอได้มา ถึงแม้จะไม่ชอบใจ ก็ต้องกิน



หลายสิ่งในชีวิต เราไม่สามารถกำหนดมันได้เลย
ชีวิตเราก็ไม่ได้มีทางเลือกมากมายนัก จริงไหม

แต่ทุกชีวิต เมื่อถึงเวลาเลือก ก็ต้องเลือก
ถึงแม้สิ่งที่ต้องเลือก มันจะตรงข้ามกับสิ่งที่หัวใจเราปรารถนาก็ตาม

หิวข้าวหมกจังเลยวันนี้ แต่เปิดห่อมากลับเป็นข้าวมัน..
สุดท้ายก็ต้องกินอยู่ดี..

17

ฉันเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า
วันนี้ถือว่าอากาศดีเป็นพิเศษ
ท้องฟ้าสีฟ้าอ่อน ๆ บวกกับก้อนเมฆปุยฝ้ายลอยล่อง
คุณว่าไหม เวลาเราเงยหน้ามองท้องฟ้าทีไร
รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก
ราวกับว่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่อัดอั้นอยู่ในใจ ถูกกระจายออกไปบนนั้น
เหมือนกับก้อนเมฆที่ลอยล่อง
ดูดเอาความไม่สบายใจต่าง ๆ จากเราออกไป



คุณว่าไหม ว่าต่อให้บนโลกนี้เกิดเรื่องราวที่เลวร้ายสักแค่ไหน

เกิดความวุ่นวายไม่รู้จักจบสิ้นสักเท่าไร
แต่ทุก ๆ ครั้งเวลาที่เราเงยหน้ามองท้องฟ้าไป

ท้องฟ้าก็ยังคงเป็นท้องฟ้าอย่างเช่นเคย
และต่อให้ท้องฟ้ามันเปลี่ยนไปเป็นสีอะไรก็ตาม

เราก็ยังคงเรียกมันว่า “ท้องฟ้า” เสมอ ๆ



โลกนี้มันวุ่นวายมากพอแล้ว
มองรอบกายบางครั้งก็เจอะเจอกับผู้คนที่ใจร้ายซ้ำไปอีก

ลองเงยหน้ามองท้องฟ้าดูนะ มองดูมันเรื่อย ๆ
ให้ก้อนเมฆเหล่านั้นดูดเอาความวุ่นวายในใจออกไป

แล้วเราจะสบายใจขึ้น .. นิดนึงก็ยังดี

18

หลายวันมานี้ ฉันดื่มชาไข่มุกทุกวันเลย
ปกติก็ไม่ค่อยจะได้ดื่มติด ๆ กันหลายวันแบบนี้

ตั้งแต่เปลี่ยนที่ทำงาน
เจอผู้คนมากมายหลากหลาย
และที่สำคัญ พวกเขาเหล่านั้นก็ดื่มชาไข่มุกกันเป็นกิจวัตร
ฉันยืนอยู่ในจุดที่คนรอบข้างถือแก้วชาไข่มุกกันทั้งนั้นเลย
คุณคิดว่า เราจะไม่ถือได้ยังไงกันล่ะ



จริงมาก ๆ เลยที่ใคร ๆ เขาบอก
ถ้าเราเอาตัวเองไปอยู่ในแวดล้อมแบบไหน
ถ้าไม่แข็งพอ ก็อาจจะต้องถูกกลืนกินไปกับสังคมนั้น ๆ



นี่ฉันกำลังพูดถึงสังคมชาไข่มุกนะ ..
ยังไม่ได้พูดถึงสังคมที่มีแต่คนความคิดลบ ๆ
เราไม่ยักจะคิดเลยถ้าเราเอาตัวเองไปอยู่ในสังคมที่มีแต่คนไม่น่ารัก

ชอบนินทาว่าร้ายผู้อื่นเป็นอาจิณ
ชอบยุแหย่ แสแสร้ง กับผู้คนมากมาย

จากสิ่งที่ฉันเกลียดหนักหนา
ก็อาจจะกลายเป็นฉันเองที่ยอมรับให้มันเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต



ยังดีที่พระเจ้าได้ส่งฉันไปยังสังคมชาไข่มุก
อย่างน้อย ๆ ฉันก็แค่ถูกกลืนกินให้กลายเป็นคนอ้วนตุ้ย

แต่จิตวิญญาณและทัศนคติยังคงดีอยู่



แค่ชาไข่มุกเอง .. คงไม่เป็นไรหรอกน่า

19

ช่วงที่ฉันไปฝึกงานที่โรงพยาบาลแถว ๆ กรุงเทพ
มีเพื่อนจากต่างสถาบันมาฝึกที่แผนกเดียวกัน

ดูแล้วเข้าใจได้เลยว่า เป็นคนมีฐานะ
จนวันสุดท้ายของการฝึกงาน
เรานัดกันไปเที่ยวที่สวนสนุก

เพื่อนฉันคนนั้นอาสาที่จะพาพวกเราไป
เธอจอดรถเทียบท่ารอพวกเราขึ้นไป



ใช่ เบนซ์สีขาว ราคาหลักล้าน เธอโบกมือทักทายและรีบบอกเราให้รีบขึ้นรถ

จังหวะนั้นในใจก็ร้องขอบคุณพระเจ้าจนสุดเสียง
เป็นบุญตูดจริง ๆ นะ ที่ได้นั่งรถราคาหลักล้านนี้

ฉันแอบหัวเราะตัวเองเป็นนัย ๆ
เพื่อนฉันคนนั้น เธอก็ออกรถไปอย่างชำนาญ
“ไม่ต้องกลัวหรอก เราขับมาตั้งแต่อยู่มัธยมแล้ว”

เธอบอกกล่าวก่อนจะเหยียบคันเร่ง
ซิกแซ็กตามทาง บนท้องถนนเมืองกรุง ที่ขึ้นชื่อว่าขับยากที่สุด

แต่ก็ไม่ได้ยากเกินไปสำหรับเธอคนนี้



เธอหันมาถามฉันที่นั่งอยู่ข้าง ๆ
จะมาลองขับดูไหม

ฉันหันกลับไปมองหน้าเธอตาลุกวาว
“แต่เรายังขับรถไม่เป็นนะ ฮ่า ๆ”

ท้ายที่สุด ฉันต้องปล่อยโอกาสในการลองขับรถราคาหลักล้านไป

ใช่แล้วล่ะ .. บางทีโอกาสก็เข้ามาในเวลาที่เราไม่พร้อม
และมันก็มักจะเป็นอย่างนั้นเสมอ ๆ

ชีวิตคนเรามันก็มีอะไรให้เลือกไม่เยอะ
บางครั้งเราอาจจะพร้อมในทุก ๆ อย่าง
แต่รอจนแล้วจนรอด โอกาสก็ไม่มาสักที



หลายคนจึงบอกว่า เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับโอกาส

และแสวงหาโอกาส ไม่ใช่ให้โอกาสมาหา
จะพูดอย่างนั้นก็ไม่ถูกซ่ะทีเดียวหรอกนะ
ความพร้อมกับโอกาส มันก็มีปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย



บางคนอาจจะไม่มีความพร้อมแต่มีโอกาส

บางคนมีโอกาสแต่ไม่พร้อม
และบางคนมีโอกาสมีความพร้อม แต่ไม่ทำ



ฉันไม่ได้จะบอกว่าเราต้องพร้อมอยู่ตอดเวลาหรอกนะ
แต่บางครั้งเราก็ไม่อาจจะเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร

ความพร้อมของใครของมัน
โอกาสก็ของใครของมันเช่นเดียวกัน



เรายังเชื่อในเรื่องของจังหวะและเวลาที่เหมาะสมนะ
ในแต่ละช่วงชีวิตของเราต่างก็มีจังหวะและเวลาของมัน
ฉะนั้น จงเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับโอกาสของเราเอง

ไม่ใช่โอกาสของคนอื่น ..

20

เอาจริง ๆ ชีวิตเราต่างก็ต้องการใครสักคนที่มาคอยรับฟัง
มาฟังเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน
แต่นั่น มันก็ไม่ใช่ใครก็ได้อีกอยู่ดี
หลายต่อหลายครั้ง..
ที่เราเดินทางคนเดียว ทานข้าวคนเดียว
เดินห้างคนเดียว ใช้ชีวิตคนเดียว
เวลาเจอเรื่องน่ารัก ๆ ระหว่างทาง
เราก็ไม่รู้จะหันไปอมยิ้มกับใครดี


การใช้ชีวิตคนเดียวมันก็ดี

แต่ถ้ามีคนร่วมทางด้วย มันก็คงจะดีกว่า .. หรือเปล่านะ
แต่ก็ช่างเถอะ ..



ฉันว่า อย่างน้อย ๆ ถ้าเรามีเพื่อนร่วมทาง สักคนสองคน
อย่างน้อย ๆ ยามมีเรื่องน่ารัก ๆ ระหว่างทาง
ก็อาจจะมีคนให้อมยิ้มด้วยแหละเนอะ


มาสักทีเถอะนะ คนที่จะมาร่วมทาง


.. คนนั้น

21

คืนนี้ฉันเปิดประตูด้านหลังระเบียงหอออกไป
เกือบทุกคืนฉันจะออกมาแหงนมองท้องฟ้าก่อนเข้านอน
และฉันก็ได้เจอกับหมู่ดวงดาวมากมาย พลอยให้หัวใจได้ชุ่มชื่น



แต่คืนนี้ต่างจากทุก ๆ คืนที่ผ่านมา ..
ฉันเปิดประตูออกไปด้วยใจปรารถนาที่จะเจอหมู่ดาวเหล่านั้น
แต่ไม่เลย คืนนี้ฟ้ามืดกลับมองไม่เห็นดวงดาว



ฉันก็แอบนอยด์นิดหน่อยแต่ก็คงไม่เยอะมาก
ฉันมองไปด้านล่างเจอเสาไฟที่วางอยู่ตามถนน

มันให้แสงสว่างเหมือนกันนะ
แต่ฉันรู้สึกว่ามันแทนหมู่ดวงดาวนั้นไม่ได้เลย



ฉันพยายามจ้องมองไปที่เสาไฟนั้น เผื่อหัวใจได้ชุ่มฉ่ำได้บ้าง

แต่ไม่เลย มันไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นเลย

แต่ก็นะ แม้ในคืนที่ฟ้ามืดโอบกอดและปิดซ่อนดวงดาวทุกดวงไว้
ในขณะเดียวกันดวงไฟต่าง ๆ ตามท้องถนนที่ทอดยาว
ก็ยังคงทำหน้าที่ให้แสงสว่างอย่างไม่บกพร่อง
ฉันแอบเปรียบเทียบดวงดาวกับดวงไฟเหล่านั้น
จนสุดท้ายฉันก็เข้าใจว่ามันแทนที่กันไม่ได้


ดวงดาวไม่สามารถที่จะส่องแสงสว่างยามค่ำคืนได้ตลอด

ดวงไฟก็ไม่อาจจะนำมาซึ่งความจรรโลงใจอย่างหมู่ดวงดาว
หากแต่ทั้งสองต่างก็มีหน้าที่ของตัวเอง..


อย่าได้เปรียบเทียบเลย
แม้แต่ตัวเราเองก็ตาม

ก็อย่าเอาไปเปรียบเทียบกับใคร ๆ เขาเลย ..

22

เสียงฟ้าดังลั่นโครมคราม
ฉันชะโงกหน้าออกไปดูหลังระเบียงห้อง
ลอดผ่านเสื้อผ้าที่ฉันได้ตากไว้ก่อนหน้า..
พร้อมพึมพำ “พอตากผ้าแล้วฝนมาทุกทีเลยนะคะ”



ฉันเห็นก้อนเมฆสีดำลอยมาใกล้ ๆ
คิดในใจคงหอบเม็ดฝนมาละสิ พร้อมจะปล่อยลงมาแล้วละสิ
อย่านะ ! ผ้าฉันยังไม่แห้งเลย ฉันบอกมันอย่างกับมันจะเข้าใจได้

ฉันใจสู้ ไม่ยอมเก็บผ้าที่ตาก
เสียงฟ้าก็ยังคงลั่นโครมครามอย่างกับไปโกรธใครมา



สักพักเสียงฟ้าลั่นก็ได้สงบลง ..
ใช่ ! มันไม่ได้ปล่อยเม็ดฝนลงมา
ฉันคิดไปเองแหละ โดยอาศัยหลักความน่าจะเป็น

เอาจริง ๆ การคาดหวังกับอะไรบางอย่าง
ให้เป็นไปตามที่ใจเราหวัง

มันก็ไม่อาจจะได้ตามที่หวังเสมอไปหรอก จริงไหม
แม้ในใจฉันอาจจะไม่อยากให้ฝนตกเพียงเพราะผ้าที่กำลังตากอยู่

แต่ลึก ๆ แล้ว ฉันก็ยังนึกถึงความชุ่มฉ่ำและความเย็นสบาย
จากไอน้ำยามสายฝนโปรยลงมา



ใช่ .. บางครั้งเราก็ลืมความปรารถนาลึก ๆ ในหัวใจ
บางครั้งเราก็มัวแต่คาดหวังกับหลักความน่าจะเป็นที่เราสร้างขึ้น

อันที่จริงเราก็อยากให้ฝนตกนั่นแหละ..



แต่ฉันขอไปเก็บผ้าก่อนละกันนะ

23

วันนี้ฝนตกหนักมาก หนักกว่าทุก ๆ ครั้งที่ผ่านมา
ฉันนอนอ่านหนังสืออยู่ในห้อง
เสียงฟ้าดังลั่นโครมคราม

ทำฉันสะดุ้งแล้วผละตัวออกจากหนังสือ



ฉันเดินออกไปยังระเบียงหลังห้อง
กวาดสายตาไปยังสายฝนอย่างช้า ๆ
คุณเชื่อไหม ว่าการที่ฝนตก มันจะทำให้เราคิดถึงบ้านจริง ๆ

ใช่แล้ว มันเป็นอย่างนั้นแหละ



ฉันชอบเวลาฝนตก
แต่ฉันไม่ชอบเวลาที่ฉันพ่ายแพ้ให้กับความคิดถึง

คุณก็เป็นเหมือนกันใช่ไหมล่ะ ..



ยามฝนตก ... แล้วคิดถึงบ้าน

24

บ่อยครั้งมากที่เรามักจะมองหา
"สิ่งที่ตัวเองขาด"

จนไม่มีเวลาหันกลับมามอง
"สิ่งที่ตัวเองมีอยู่"



ฉันเลยเข้าใจว่าทำไม โลกแห่งความเป็นจริง
ถึงมีแต่ผู้คนที่โหยหาไม่รู้จักจบสิ้น


โหยหาทั้งวัตถุและจิตวิญญาณ ..

25

ฉันนั่งทบทวนตัวเองอีกครั้ง
เคยไหม เวลาที่มองย้อนกลับไป
ในเรื่องราวและเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เคยเกิดขึ้น
ณ ตอนนั้น ทำไมมันโครตเจ็บปวดปางตาย



แต่พอเวลาผ่านไป ..
แล้วเราได้มีโอกาสหวนกลับไปมองมันอีกครั้ง
เรื่องราวเหล่านั้นกลับกลายเป็นเรื่องราวที่น่าขำไปซะอย่างนั้น



มาวันนี้เราโตขึ้น โตขึ้น และโตขึ้น
โตขึ้นมาก ๆ ที่ไม่ใช่โตขึ้นแค่ร่างกาย
แต่รวมไปถึงความคิดและจิตวิญญาณ



เรื่องราวต่าง ๆ ที่เคยหนักหนาในวันนั้น ..

มองกลับไปอีกทีก็เล็กเท่าขี้ปะติ๋ว

ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ
ก็อัพเลเวลไปตามกาลและเวลา



ตอนเด็ก ๆ ปัญหาหนักสุด
คือการวาดรูปช้างไม่เป็น
เจ็บปวดสุดก็แค่โดนก้านมะยม
ร้องให้ ดิ้นชัก ลงไปนอนกองอยู่กับพื้น
หวังจะได้รับความสนใจ อะไรทำนองนี้



แต่มาวันนี้ ไม่เลย...
หรือต่อให้เจ็บปวดปางตายก็ต้องแกล้งบอกว่า “ไม่เป็นไร”
ไม่อยากให้ใครมาสงสาร ไม่อยากให้ใครมาสนใจ



ฉันละยอมใจ กับตัวเองในวัยผู้ใหญ่จริง ๆ

26

วันนี้รู้สึกเหนื่อยไปหน่อยนะ
ไม่รู้ว่าฉันจะต้องต่อสู้กับการงานไปอีกนานเท่าไหร่

แข่งขันกับเวลาไปอีกนานแค่ไหน
แต่บางทีฉันก็บอกกับตัวเองบ่อย ๆ



ให้พักบ้างเถอะ ..



คุณเองก็เหมือนกันนะ พักบ้างเถอะ

ฉันจะขอบคุณมาก ๆ เลยล่ะ

27

มีคนเคยบอกว่า เมื่อเราโตขึ้น คนรอบข้างจะค่อย ๆ หายไป
ทั้ง ๆ ที่เราเองก็เจอสังคมที่กว้างขึ้น เจอผู้คนเยอะขึ้น
แล้วทำไมหลาย ๆ คนเขาถึงบอกกันอย่างนั้นล่ะ


ฉันเองก็แอบมองดูคนรอบข้างนะ

รอบตัวเรามีผู้คนเยอะแยะมากมายตามที่เราเข้าใจนั่นแหละ
แต่ ..ผู้คนเหล่านั้นต่างก็ต้องใช้ชีวิตของตัวเองต่างหาก
มันจึงทำให้เรารู้สึกว่าคนรอบข้างเราค่อย ๆ ลดน้อยลง


ตลอดระยะเวลาที่เราเติบโตขึ้น
ไม่ใช่แค่คนรอบข้างเท่านั้นที่ต้องออกไปใช้ชีวิตของตัวเอง
แม้แต่เราเอง เราก็ต้องใช้ชีวิตของเราด้วยเหมือนกัน

ในขณะที่เราเห็นว่ามีผู้คนโคจรรอบตัวเรา
ขณะเดียวกัน เราก็โคจรรอบคนอื่นอยู่ด้วย

การใช้ชีวิตในแต่ละช่วงเวลา
อาจจะทำให้ใครบางคนหล่นหายไปจากวงโคจรของเรา

หรือแม้แต่เราเองก็อาจจะหลุดวงโคจร
ของใครบางคนไปแล้วเหมือนกัน


มันก็จริง ที่เขาบอกอย่างนั้น

ว่า “เมื่อเราโตขึ้น คนรอบข้างจะค่อย ๆ หายไป”
แต่ลึก ๆ แล้วฉันก็แอบหวัง



หวังว่าเราจะกลับมาโคจรกันอีกครั้ง.. ในสักวัน

28

ในโลกนี้มันมักจะมีอาหารที่อร่อยแต่ไม่ดีต่อสุขภาพ
และอาหารที่ดีต่อสุขภาพแต่รสชาติโครตแย่เลย
แต่ถึงอย่างนั้นหลายคนก็เลือกที่จะทิ้งสุขภาพที่ดี
เพื่อที่จะได้ทานอาหารอร่อยและดีต่อใจ

แต่ในขณะเดียวกันหลายคนก็ยอมแลกความขื่นขมในชีวิต
เพื่อรักษาสุขภาพที่ดีเอาไว้เช่นกัน

แต่บางครั้ง เราก็ต้องหยวน ๆ ให้กับชีวิตบ้างแหละนะ
เดินหาเค้กก้อนโต ๆ คุกกี้อร่อย ๆ อมยิ้มหวาน ๆ ทานซะบ้าง

บางทีชีวิตก็ไม่ได้ต้องการแค่ผักเขียว ๆ เท่านั้น ..

ฉันว่าคุกกี้มันอร่อยมาก ๆ เลยนะ

29

บางครั้งบททดสอบของคนรอบข้าง
ก็เป็นบทเรียนชั้นดีของเรา

หลาย ๆ ครั้งที่เรามองไปยังผู้คน
ที่กำลังถูกทดสอบอย่างหนักหน่วง



ในขณะเดียวกันเราเองก็กำลังถูกทดสอบด้วยเช่นกัน

30

เหนื่อยไหม .. เหนื่อยแหละใช่ไหม ?
เธออาจจะเหนื่อยมาก ๆ

เหนื่อยกับทุก ๆ วันที่เป็นอยู่ ณ ตอนนี้
เหนื่อยกับทุกสิ่งทุกอย่าง



รู้สึกเหมือนอยากจะนอนหลับไป
แล้วค่อยตื่นขึ้นมาอีกทีเมื่อโลกดีขึ้น

อยากหายไปที่ไหนสักแห่ง
หายไปเลย หายไปไหนก็ได้



ทุกความปรารถนาในใจที่มันคละคลุ้งตลอดเวลา

ความวุ่นวายที่มันกำลังเกิดขึ้นในทุกวันนี้



สารพันปัญหาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวง

เสพข่าวที่พลอยแต่จะทำให้หัวใจหดหู่
มันเยอะแยะยัวะเยียะเต็มไปหมดเลย

ฉันเข้าใจนะ , เข้าใจทุกอย่าง เพราะถ้าพูดกันจริง ๆ
ทั้งหมดก็คือความรู้สึกของฉันนั่นแหละ



จะดีไหม ลองวางทุกอย่างลง (สักแปปนึง)
สักช่วงนึง ไม่มาก แค่ 10-15 นาที
เดินออกไปข้างหน้าบ้าน
หลังบ้าน หรือข้างบ้าน


มองหาต้นไม้ ดอกไม้ รอบ ๆ นั้น

ลองมองมัน แล้วหายใจเข้า-ออกลึก ๆ
สลับกับเงยหน้ามองท้องฟ้าและก้มหน้ามองลงดิน



โลกมันวุ่นวายจังเลยเนอะ..
แต่ท้องฟ้าก็ยังคงกว้างใหญ่
ดอกไม้ก็ยังคงเบ่งบาน ต้นไม้ก็ยังคงให้ร่มเงา

ชีวิตในโลกนี้มันแสนสั้นมากเอามาก ๆ

ปัญหาสารพันที่กองอยู่ตรงหน้า
อาจจะเทียบไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
กับปัญหาในโลกหน้าที่เราต้องรับมือ



ปล่อยวางบ้างนะ..ให้หัวใจได้พักผ่อนของมันบ้าง
ให้จิตวิญญาณได้ลิ้มรสเป้าหมายอันแท้จริงของมัน



เราอาจจะพบว่าปัญหาตรงหน้า ก็แค่ปัญหาในดุนยา..

ที่รอเวลาสิ้นสุด ก็เท่านั้นเอง
พักผ่อนบ้างนะ ให้หัวใจได้พักผ่อนบ้างเถอะ



อดทนนะ ดุอานะ ทุกอย่างมันจะดีขึ้น



.. สักวัน

สารจากผู้เขียน

โลกนี้ที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายไม่รู้จบสิ้น
ผู้คนมากมายทั้งที่ผ่านเข้ามาและผ่านไป
หลาย ๆ ครั้ง เราต่างก็ตั้งคำถามกับตัวเองมากมาย
ว่าเรามีความสุขบ้างไหม และกำลังทำอะไรอยู่



หลายคนก็ใช้ชีวิตอย่างเลื่อนลอย

ไร้จุดหมาย ไร้ชีวิตชีวา
ขอแค่ตื่นขึ้นมาและวนลูปอยู่ในวงโคจรเดิม ๆ



อยากให้เราหันมาทบทวนอีกครา
ชีวิตที่ดำเนินอยู่ เวลาที่ผ่านไป มีความหมายบ้างไหม
หรือแค่ใช้ชีวิตเลื่อนลอยไปวัน ๆ



แม้วันนี้ชีวิตมันจะยากไปหน่อย
การเป็นผู้ใหญ่ไม่ได้ง่ายเหมือนที่คิดเลย
แต่ก็นะ… ผ่านมาถึงขั้นนี้แล้ว



อดทน และใช้ชีวิตกันต่อไปนะ
ดาขอเป็นกำลังใจให้กับทุก ๆ คนนะคะ



#ดาเอง

เพราะชีวิตเรา ... มักจะมีเรื่องราวและผู้คนมากมายแวะเวียนเข้ามา
บ่อยครั้งที่เราทำพวกเขาหล่นหายและอีกหลายคนที่ยังคงอยู่
เราเพียงแค่ปราถนาความสุขในทุก ๆ วันของชีวิต

แต่พอเอาเข้าจริง ๆ ชีวิตเราไม่จำเป็นต้องมีความสุขทุกวันหรอก
ชีวิตเราก็มีวันที่ทุกข์ ๆ ได้เหมือนกัน


Have a Good Day

IS'ME DADA


Click to View FlipBook Version