คลีโอพัตรา
วัยเยาว์
คลีโอพัตราที่ 7 เป็นชาว กรีก เสด็จพระราชสมภพในดินแดน อเล็กซานเดรีย
อียิปต์โบราณ ได้เสด็จขึ้นครองราชย์ลำดับถัดจาก ทอเลมีที่ 12 แห่ง อียิปต์ ขณะนั้น
พระนางเบเนไซน์และแม่ทัพอาร์เชลล์ได้ร่วมกันก่อการกบฏขึ้น ทำให้ฟาโรห์ทอเลมีที่ 12
ออเลติส ต้องเสด็จพระราชดำเนินไปทรงขอกำลังเสริมจากสภาซีเนตแห่งกรุงโรม และ
จ่ายเงินตามข้อเรียกร้องของ ออกัส กาบิเนียส จำนวน 10,000 เทลแลนด์ เนื่องจาก
ฟาโรห์ไม่ทรงมีเงินพอ จึงทรงขอยืมเงินจากคหบดีผู้ร่ำรวยนาม ราบีเรียส โพลตูมัส
แล้วเสด็จนิวัติอียิปต์พร้อมกองกำลังเพื่อจัดการกับผู้ก่อการกบฏ และมีพระราชบัญชา
ให้ประหารพระนางเบเนไซน์กับแม่ทัพอาร์เชลล์ ทำให้ราบีเรียสได้เข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่
ฝ่ายพระคลังของอียิปต์
ขึ้นครองราชย์
ราบีเรียสรีดไถชาวอียิปต์อย่างหนัก
ทำให้ชาวเมืองลุกฮือต่อต้านด้วยความไม่พอใจ
จนเขาต้องหนีกลับโรม เมื่อพระราชบิดาของ
พระนางคลีโอพัตราเสด็จสวรรคตในช่วงฤดูใบไม้
ผลิของ ปีที่ 51 ก่อนคริสตกาล พระนางเสด็จเถลิง
ถวัลย์ขึ้นเป็นพระราชินีนาถแห่งอียิปต์ เมื่อพระ
เชษฐภคินีอีกสองพระองค์สิ้นพระชนม์ลง พระนาง
ยังมีพระขนิษฐาอีกพระองค์ที่มีชื่อว่า อาร์ซิโน่ที่ 4
ในช่วงแรก พระนางทรงครองราชย์ร่วมกับพระ
ราชบิดาเป็นระยะเวลาสั้น ๆ
ต่อมาก็ได้ครองราชย์ร่วมกับพระราชอนุชา
อีกสองพระองค์ ได้แก่ ปโตเลมีที่ 13 ผู้ต่อต้านการ
ปกครองของ โรมัน และ ปโตเลมีที่ 14 แต่การสืบราช
บัลลังก์ของราชวงศ์ ทอเลมี นั้นนิยมการสืบเชื้อสาย
ทางมารดา พระอนุชาทั้งสองพระองค์จึงต้องเข้าพิธี
อภิเษกสมรสกับพระเชษฐภคินีคือคลีโอพัตรา เพื่อขึ้น
ครองราชย์ได้อย่างถูกต้องตาม กฎมนเทียรบาล ภาย
หลังจากที่กษัตริย์ผู้เป็นพระอนุชาและสวามีของ
พระนางเสด็จสวรรคตลง คลีโอพัตราได้ทรงแต่งตั้งให้
พระราชโอรสของพระนางเป็นกษัตริย์องค์ต่อไป มี
พระนามว่า ปโตเลมีที่ 15 ซีซาเรียน ขึ้นครองบัลลังก์
ร่วมกัน ระหว่างปีที่ 44 - 30 ก่อนคริสตกาล
ความสัมพันธ์กับจูเลียส ซีซาร์
ในปีที่ 48 ก่อนคริสตกาล คณะที่ปรึกษาของ ทอเล
มีที่ 13 นำโดย ขันที โปรธินุส เข้ายึดอำนาจของคลีโอพัตรา
พระนางหนีจาก อียิปต์ โดยมี อาร์สิโนเอ พระขนิษฐาติดตาม
ไปด้วย ต่อมาในปีเดียวกัน อำนาจของ ทอเลมีที่ 13 ถูกลิดรอน
เมื่อเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับ โรม กรณีที่พระองค์เอาใจซีซ่าร์ด้วยการ
ประหารนายพล ปอมเปอุส มักนุส (ซึ่งมีภรรยาเป็นลูกสาวของ
จูเลียส ซีซาร์ นางเสียชีวิตขณะคลอดบุตรชาย)
ซึ่งหลบหนีซีซาร์มาที่เมือง อเล็กซานเดรีย ซีซาร์ไม่พอใจ
การกระทำดังกล่าว จึงยกทัพบุกยึดเมืองหลวงของ อียิปต์ พร้อม
กับตั้งตนเป็นผู้ตัดสินคดีชิงบัลลังก์ระหว่างทอเลมีที่ 13 และ คลีโอ
พัตรา หลังจากการสู้รบช่วงสั้น ๆ ทอเลมีที่ 13 สวรรคต ซีซาร์คืน
อำนาจให้แก่พระนาง โดย ทอเลมีที่ 14 เป็นผู้ร่วมครองบัลลังก์ ซี
ซาร์ พำนักในอียิปต์ตลอดช่วงฤดูหนาว ระหว่างปีที่ 48 ก่อน
คริสตกาล - 47 ก่อนคริสตกาล
พระนางสร้างความได้เปรียบทางการเมืองให้แก่ตนด้วย
การเป็นคนรักของเขา ทำให้ อียิปต์ ยังคงเป็นความเป็นเอกราชไว้
ได้ แต่ยังคงมีกองกำลังทหารโรมันสามกองประจำการอยู่พระนาง
มีพระประสูติการพระราชโอรส ทรงพระนาม ทอเลมี ซีซาร์ (หรือ
มีชื่อเล่นว่า ซีซาเรียน ซึ่งแปลว่า ซีซาร์น้อย ) อย่างไรก็ดี เขา
ปฏิเสธ ซีซาเรียน เป็นผู้สืบทอดอำนาจของตน และได้แต่งตั้งให้
พระราชภาคิไนย (หลาน) ทรงพระนาม ออกุสตุส ซีซาร์ อ็อกตา
เวียน เป็นผู้สืบทอดอำนาจแทน
ความสัมพันธ์กับมาร์ค แอนโทนี
ในปีที่ 42 ก่อนคริสตกาล มาร์ค แ
อนโทนี หนึ่งใน
คช่วณงะสุผญู้สญำเาร็กจารศาชทกาางรอชำุดนทาี่สจอหงลัขงอองสัโญรมกร(รผูม้ซึข่ง
อปงกซีคซราอร์ง) กกรรุงาโบรทมูลใน
เชิญคลีโอพัตราเสด็จมาพบเขาที่เมือง ทาร์ซุส ในแคว้น ซิลิเซีย
เพื่อทรงตอบคำถามเกี่ยวกับความจงรักภักดีของพระนางต่อ
อาณาจักรโรมัน ต่อมาในช่วงฤดูหนาวระหว่างปีที่ 42 ก่อน
คริสตกาล - ปีที่ 41 ก่อนคริสตกาล เขาใช้เวลาอยู่กับพระนางใน
อเล็กซานเดรีย จนมีพระราชโอรส - ธิดาฝาแฝด พระนามว่า อ
เล็กซานเดอร์ เฮลิออส และ คลีโอพัตรา เซเลเนที่ 2
สี่ปีต่อมาในปีที่ 37 ก่อนคริสตกาล เขาเดินทางเยือน
อเล็กซานเดรีย อีกครั้ง ระหว่างทางออกรบกับ จักรวรรดิพาร์
เธีย และได้สานสัมพันธ์กับพระนางทั้งยังถือเอาอเล็กซานเด
รียเป็นบ้านนับแต่นั้นเป็นต้นมา เขาอภิเษกสมรสกับพระนาง
ตามประเพณีอียิปต์ (ตามที่กล่าวไว้ในจดหมายของ สุเอโตนิ
อุส )
ทั้ง ๆ ที่แต่งงานแล้วกับ อ็อกตาเวีย น้องสาวของ อ็อกตา
เวียน (หนึ่งใน คณะผู้สำเร็จราชการชุดที่สองของโรม ) เขามี
บุตรกับพระนางอีกหนึ่งคน ชื่อ ทอเลมี ฟิลาเดลฟุส ในพิธี
มอบดินแดนอเล็กซานเดรียเป็นของขวัญ ชิ้นใหญ่แก่พระนาง
และโอรสธิดา
พฤติกรรมของมาร์ค แอนโทนี นับว่ากระด้างกระเดื่อง
มากในสายตาของพวกโรมัน อ็อกตาเวียน จึงโน้มน้าวให้วุฒิสภา
เปิดสงครามกับ อียิปต์ ในปีที่ 31 ก่อนคริสตกาล กองกำลังของ
แอนโทนี เผชิญหน้ากับทัพเรือทหารโรมันนอกชายฝั่ ง แอคติอุม
คลีโอพัตราร่วมออกรบด้วยทัพเรือของพระนางเองและเห็นกอง
เรือของเขาที่มีแต่เรือขนาดเล็กขาดแคลนยุทโธปกรณ์ ต้องพ่าย
แพ้กับกองเรือโรมันที่มีเรือขนาดใหญ่กว่า พระนางนำเรือหลบหนี
ทำให้แอนโทนี ทิ้งสนามรบกลางทะเลและรีบตามพระนางไป
สิ้นพระชนม์
หลังการรบที่อ่าว แอคติอุม อ็อกต
าเวียน ยกพลขึ้น
บโทกนบีุหกนีอทีัยพิปไตป์ ร่ขวณมดะ้วใกยล้คถึลงีโออเพลั็ตกรซาานแลเดะรีมยารก์คอ
งแกอำนลัโงทขนอี งตัแดอสินน
ใจฆ่าตัวตาย โดยพระนางใช้งูพิษปลิดชีพพระองค์เองเมื่อวันที่
12 สิงหาคม ในปีที่ 30 ก่อนคริสตกาล ซีซาเรียน โอรสของ
พระนางที่เกิดกับ จูเลียส ซีซาร์ ถูก อ็อกตาเวียน ปลงพระชนม์
ส่วนโอรสธิดาอีกสามพระองค์ที่เกิดกับแอนโทนี รอดชีวิตและ
ต้องเดินทางไปโรม โดยการร้องขอและช่วยเหลือของ อ็อกตา
เวีย อดีตภรรยาของเขา มักกล่าวกันว่าคลีโอพัตราใช้งูพิษชนิด
หนึ่งที่เรียกว่า แอสพฺ ซึ่งเป็นศัพท์เทคนิค โดยทั่วไปหมายถึง งู
พิษ หลากหลายประเภทใน แอฟริกา และ ยุโรป แต่ในที่นี้
หมายถึง งูเห่าอียิปต์
ซึ่งใช้ประหารนักโทษในบางครั้ง มี
เรื่องเล่าว่าพระนางทดสอบวิธีการฆ่าตัวตายด้วย
วิธีต่าง ๆ นานากับข้าราชบริพารและนักโทษ
หลายคน ก่อนตัดสินใจเลือกวิธีการที่เห็นว่ามี
ประสิทธิภาพที่สุด