The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by phichit_toto, 2022-05-11 06:19:09

เสภา

เสภา

ร..

การเล่นเสภามีววิ ัฒนาการมาตง้ั แตส่ มยั อยุธยา
สมเดจ็ พระดารงราชานภุ าพ ไดท้ รงอธิบายไว้ในระเบียบการเลน่ เสภา
ว่ามกี ารขับเสภาเฉพาะเวลากลางคืนเท่านั้นและในหลกั ฐานทเี่ กี่ยวกับการขบั เสภา
ของไทยในกฎมณเฑยี รบาลในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถใน พ.ศ.2011
ตอนท่ีวา่ ดว้ ยกาหนดเวลาอันเปน็ พระราชานกุ ิจของพระเจ้าแผน่ ดนิ กล่าวถงึ เสภา
“หกทุม่ เบกิ เสภาดนตรี” ซึ่งแสดงวา่ เสภาเป็นสิ่งไพเราะน่าฟงั ถงึ กับต้ังกฎไว้ใน
ราชกิจประจาวนั ทรงสดบั ในเวลาวา่ ง พระราชกิจภาระ

ตอนกลางคืน (มนตรี ตราโมท, 2497 น.78)
สาหรบั จรญู ศรี วีระวานชิ (ม.ม.ป. น.33-36)
ได้กลา่ วเกย่ี วกบั ววิ ฒั นาการการเล่นเสภาไวด้ งั น้ี

ปลายสมัยอยุธยา……จากการเล่านทิ านเป็นการขบั เปน็ ทานอง ผู้ขับเสภา

ขยับกรับเป็นจงั หวะ ไมม่ ีดนตรี ใช้คน 2 คน ขบั โตก้ นั คนละเร่ืองหรือเรอื่ งเดยี วกนั แตค่ น

ละตอนกไ็ ด้

สมยั รชั กาลที่ 1 …..ใช้กลอน ดน้ เปน็ พืน้ ไมม่ ปี ่พี าทย์สง่ ใชแ้ ตง่ กลอน
เรียกวา่ เสภาด้น
สดโตก้ ันอยา่ งวา่ เพลงปรบไก่

สมยั รชั กาลที่ 2 …..หนังสอื เสภา มีขึ้นเมอ่ื รชั กาลท่ี 2 ทรงเปลยี่ นแปลงกระบวน

เสภา โดยใหม้ ี “วิธีสง่ ปพ่ี าทย์” แม้แต่บทเสภากแ็ ต่งใหมใ่ นสมยั นบี้ ทเสภาที่นบั ว่าวิเศษใน
ทกุ วนั นี้ เปน็ บทแตง่ ในรัชกาลที่แทบทั้งส้นิ เปน็ พระราชนิพนธท์ ่ที รงเองกม็ ี แตไ่ ม่ทรง
เปดิ เผยว่าทรงพระราชนิพนธต์ อนใด สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดารงราชานุ
ภาพ ทรงพระนพิ นธต์ านานเสภาเกี่ยวกบั การสนั นษิ ฐานวา่ ตอนใด ใครแต่งไว้ในหนงั สอื
เสภาเรอื่ งขุนช้าง-ขุนแผน…ใช้วิธสี งั เกตถ้อยคา เช่น สุนทรภู่แต่งตอนกาเนิดพลายงาม
พระบาทสมเด็จพระพทุ ธเลิศหล้านภาลัย พระราชนพิ นธ์ ตอนพลายแกว้ เป็นชู้กับนางพิม
กับตอนขนุ แผนขึ้นเรือนขุนช้าง และตอนนางวันทองหึงนางลาวทอง

เสภาท่แี ตง่ ในรัชกาลที่ 2 นี้ แต่งเปน็ ตอนๆ แล้วแตก่ วีคนใดจะพอใจแต่งเรอื่ ง
ตรงไหนกร็ ับไปแตง่ ตอนน้ัน เมอ่ื แตง่ แลว้ เอาเข้ามาขับถวายตวั เวลาทรงเครื่องใหญ่ (ตัด
พระเกศา) จึงเป็นประเพณมี กี ารขับเสภาถวายเวลาทรง เคร่ืองใหญ่ โปรดเกลา้ ฯ ใหใ้ ช้วง
ปี่พาทยเ์ ขา้ ประกอบการขบั เสภา โดยให้ใชบ้ ทเสภาตอนใดตอนหนึ่งทเี่ หมาะสมเปน็ บทรอ้ ง
ส่ง ใหม้ ีปีพ่ าทย์รับ บางตอนแสดงอากัปกริ ิยา การเดินทาง หรือตอนรบ ก็บรรเลงเพลง
หน้าพาทยป์ ระกอบ เมือ่ ถึงตอนใดเปน็ ตอนดาเนนิ เรื่องจงึ จะใช้วิธขี บั

สมัยรชั กาลท่ี 3…….พระองค์ไมท่ รงโปรดเสภา แต่กม็ ิได้

ทรงขดั ขวางบรรดาเจา้ นายและขา้ ราชบริพารยงั คงเลน่ กันอยหู่ ลายแห่ง
จงึ ทาใหเ้ สภาแพรห่ ลาย สมเดจ็ ฯ กรมพระยาดารงราชานุภาพทรงสนั นษิ ฐานจาก
สานวนกลอนวา่ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกลา้ เจ้าอย่หู วั คงจะได้พระราชนิพนธเ์ สภา
เรอ่ื งขนุ ช้าง-ขนุ แผนไว้ คอื ตอน ขุนช้างขอนางพมิ และตอนขุนแผนพาวนั ทองหนี

สมัยรชั กาลท่ี 4 ……โปรดเกล้าฯ ใหก้ วแี ต่งเสภาอกี 2 เรือ่ ง คอื เสภาพระราชพงศาวดาร

สาหรับขบั ถวายเวลาทรงเครอ่ื งใหญ่ แต่สญู หายเสยี หมด ประกอบกับเรอื่ งไม่สนุก
และอีกเรือ่ งคอื เรื่องเสภาเชยี งเหมย่ี ง (ศรธี นญชยั ) การเล่นเสภาในสมัยรชั กาลที่ 4 นี้
เป็นการเล่นคกู่ ับวงปี่พาทย์ เล่นกันแพรห่ ลาย ผฟู้ งั พอใจฟังเพลงปพ่ี าทย์กบั เสภาเทา่ ๆ

กนั ไม่ฟังเสภาเปน็ สาคัญเหมือนแต่ก่อน เรยี กว่า “เสภาทรงเครอ่ื ง”
น่าจะเป็นรัชกาลนีเ้ องทเ่ี กิดเสภารา คือ นาลกั ษณะเสภาทรงเครื่อง
มาประกอบเปน็ ทา่ รา

สมัยรชั กาลท่ี 5……ทรงโปรดเกล้าฯ ให้บรรดากวชี ว่ ยกนั แตง่ เสภาเร่อื งนิทรา

ชาคริต และโปรดเกล้าฯ ให้กวีในราชสานกั แตง่ ตา่ งตอนกัน ตอนหน่ึงแต่งให้มคี วามยาว
ของเรอ่ื งพอขับไดค้ ืนหน่งึ แล้วนามาขับถวายเวลาทรงเครือ่ งใหญ่

หมอสมิธ พมิ พ์บทเสภาขึ้นเป็นคร้ังแรก พ.ศ.2415 จงึ ทาให้เสภาหลวงแพรห่ ลาย
ต่อมาได้มวี ธิ เี ล่นพลิกแพลงห่างออกไปจากเสภาเดิม เช่น มีวธิ เี ล่น “เสภารา” คอื เลน่ เปน็
ละครใชแ้ ต่ขบั เสภาแทนต้นบท และลกู ครู่ ้องขับเสภาสลับกันไปกบั การเจรจาและเล่น
จาอวด เรอื่ งเสภาก็ยง่ิ ส้นั เขา้ ไป

ตอ่ มาได้มผี ้คู ิดเสภาราขน้ึ อกี แบบหน่ึงเป็นเสภาราแบบตลก ดาเนินเรอ่ื งตามเดิม
แตแ่ ทรกบทขบขัน มีการขับลาเอยี งเข้าขา้ งตัวนายโรง แกล้งตวั ตลก กล่าวกันวา่
“ขุนรามเดชะ (หว่ ง) หรอื ขุนราม (โบ้)” เป็นผู้นาเรือ่ งขนุ ชา้ ง – ขุนแผน ตอนขนุ แผนเขา้
ห้องนางแกว้ กิรยิ ามาใชเ้ ป็นเนอ้ื เรอื่ ง

สมยั รชั กาลที่ 6 ……ทรงพระราชนิพนธ์เสภาขึน้ อีก 2 เรือ่ ง คอื เรือ่ งพระยา

ราชวงั สัน และเรอ่ื งสามัคคเี สวก สมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดารงราชานุภาพ
กับพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นกวีพจน์สปุ รีชา ทรงช่วยกันชาระเสภาเร่อื งขุนช้าง -
ขนุ แผน แก้ไขเพม่ิ เตมิ ใหด้ ีกวา่ เกา่ เชอื่ มกลอนให้ติดต่อกัน และพมิ พ์เปน็ ฉบบั หอ

พระสมุด เป็นครัง้ แรกเมือ่ พ.ศ. 2460 นับเป็นครั้งท่สี าคัญทส่ี ุด

วธิ แี สดง การแสดงละครเสภาปรับปรงุ การแสดงจากเสภาราผสม
กับละครพันทางเป็นหลกั ตัวละครร้องบา้ ง ตน้ เสียงลูกคู่ร้องบา้ ง
การดาเนินเรือ่ งใช้ทานองขับเสภา
ประกอบการรา มีการ
เปล่ียนฉากตามสถานท่ขี องเนื้อเรือ่ ง
ลลี าท่าราปรับปรุงจากเชื้อชาติตา่ งๆ
ผสมเข้ากบั ท่าราของไทย
แบบเดียวกับละครพันทาง

ดนตรี…….วงปพี่ าทย์ใชป้ ระกอบ

การขบั เสภาในสมยั แรกประกอบดว้ ย
ระนาดเอก ฆ้องวงใหญ่ ปี่ กลอง ตะโพน
ภายหลังทรงเหน็ ว่าตะโพนมีเสยี งดงั ไป
ไมเ่ หมาะกับการแสดงในอาคาร
จงึ โปรดเกล้าฯ ให้ใชเ้ ปิงมางตดิ ข้าวสุกถว่ ง
เสียงแทน

ต่อมาใชว้ งปพ่ี าทย์เคร่อื งคูแ่ ละ
เครือ่ งใหญบ่ รรเลงประกอบการขับและ
ประกอบการแสดงละคร

เพลง…………ในสมัยรัชกาลที่ 4 วงปีพ่ าทย์ขยายเป็น

วงปพี่ าทย์เครอื่ งใหญจ่ ึงทาให้มกี ารประกวดวงปพ่ี าทยก์ นั มากขึน้
การขบั เสภาทเ่ี คยเป็นใหญก่ ็กลับดอ้ ยไป การบรรจเุ พลงรอ้ งจะเริม่ ดงั นี้

- ปี่พาทย์โหมโรง คนขบั เสภากข็ ับไหวค้ รแู ลว้ ดาเนินเร่ือง
- ร้องส่งเพลงพม่าหา้ ท่อน แลว้ ขับเสภาดาเนินเรอื่ ง
- ร้องส่งเพลงจระเขห้ างยาว แลว้ ขับเสภาคัน่
- ร้องสง่ เพลงสบ่ี ท แลว้ ขบั เสภาคัน่

- รอ้ งส่งเพลงบหุ ลัน แลว้ ขับเสภาค่ัน
ตอ่ จาก 5 เพลงนี้แลว้ ไม่กาหนดเพลงจนหมดเวลา ปัจจุบันการรอ้ ง
ประกอบการแสดงละครเสภา ใชเ้ พลงในจังหวะ 2 ชัน้ และชน้ั เดยี ว

ใหเ้ ขา้ กบั บรรยากาศ และอารมณ์ของตวั ละคร
การดาเนินเรือ่ งใชข้ บั เสภา บางคร้ังอาจจะใช้

เพลงร่ายนอกมาสลบั การขบั เสภากไ็ ด้

จานวนผ้แู สดง

….นิยมใช้ผแู้ สดงทง้ั ผชู้ ายและผหู้ ญงิ จัดตาม
ความเหมาะสมกับตอนหรือเรือ่ งทีน่ ามาแสดง

เคร่อื งแตง่ กาย.…..การแต่งกายคลา้ ยละครพันทาง

ไม่ต้องยืนเคร่ืองแบบละครนอก โดยศึกษาวัฒนธรรมและประเพณี

การแต่งกายของสมยั น้ันๆ เป็นหลกั เช่น พระพนั วษา เขา้ ใจว่าจะเปน็
พระนามประกอบพระเกยี รติยศ ดงั เราเรยี ก “สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ”
น่งุ สนบั เพลาปักเชงิ นงุ่ ผา้ ยก (แบบโจงกระเบน)

สวมเสือ้ แขนยาวปัก มีผา้ คาดทบั เสอื้ หอ้ ยชาย
คาดเขม็ ขดั ทบั ผา้ สวมสงั วาลเพชรสายเดียว
เกลา้ ผมคลา้ ยผมหลกั แจว สว่ นหญิงชาวบา้ น
กแ็ ตง่ กายตามสภาพทอ้ งถ่ินท่กี ลา่ วในเรอ่ื ง

เรื่องทแี่ สดง …..เรื่องพระยาราชวังสนั

เรื่องสามคั คีเสวก แต่ทน่ี ิยมแสดงกันอย่างแพร่หลายมเี รื่อง
เดยี วคอื เรอื่ งขนุ ชา้ ง – ขนุ แผน เลอื กแสดงตอนที่สนุก
เช่น ตอนขนุ แผนขึน้ เรือนขุนชา้ ง ตอนกาเนดิ พลายงาม
ตอนพลายงามอาสา ตอนแตง่ งานพระไวย
ตอนพระไวยแตกทพั และตอนพลายเพชร-พลายบวั
ออกศึก

โรงละคร….แสดงบนเวที มีฉากประกอบตาม

เหตกุ ารณ์ สถานท่ี ตามเนื้อเรื่อง หรือจะแสดงกลางแจง้ กไ็ ด้


Click to View FlipBook Version