บันทึกการเรียนรู้ นายนราธิปแก้วปีลา104

ขัน้ ท่ี 10 วเิ คราะห์ความเช่ื อมนั่ ของแบบทดสอบ 44
ทaกlงัล้pฉมุ่ hบสaับูงใกโหดลใ้ยาชใง้ไช้ฟสแตู ลลระข์ ต้อK่ามRูล-ข2อ0งซก่ึ งลใมุ่ นทโปดรลแอกงรใชม้ทเล่ีมือที กัง้
ขัน้ ท่ี 1 สร้างไฟลข์ ้อมูล ขนั้ ท่ี 2 รวมคะแนนทัง้ ฉบับ
ของกลุม่ ทดลองใช้ N คน ของแต่ละคน โดยใช้คาสัง่
Compute variable

ขัน้ ท่ี 9 คัดเลอื กข้อสอบที ทัง้ คา่ p ขนั้ ท่ี 3 เรยี งคะแนนจากนอ้ ยไป
และ r ผา่ นเกณฑ์ใหไ้ ดจ้ านวน หามาก โดยใช้คาสงั่ Sort case
ขอ้ สอบตามท่ีวางแผนไว้
การวเิ คราะห์ข้อสอบ ขนั้ ท่ี 4 คานวณหาจานวนคนใน
ขนั้ ท่ี 8 วิเคราะห์ข้อมูล เพ่อื หา ด้วยโปรแกรม SPSS กลุม่ สงู (Nu) และจานวนคนใน
คา่ นวณจานวนคนตอบถกู ในกลมุ่ กลมุ่ ต่า (Nl) โดยใช้สูตร 27 %
ต่า (Rl) และจานวนคนตอบถูกใน กรณีข้อสอบใหค้ ะแนน 0 กบั 1 ของ N เช่ น ถา้ N=50 27 %
กลมุ่ สูง (Ru) ของข้อสอบแต่ละ การหาคา่ อานาจจาแนกรายขอ้ (r) และค่าความยาก (p) ของ N = (27/100)*(50) ≈14
ขอ้ โดยใช้คาสัง่ Crosstabs คนนัน่ คือ Nu=Nl= 14
โดยใช้เทคนคิ 27 % กลมุ่ สูง-กลมุ่ ต่า

ขัน้ ท่ี 7 ตัดขอ้ มูลกลุ่มกลางออก ขนั้ ท่ี 6 คีย์ขอ้ มูลตวั แปร ขัน้ ท่ี 5 สร้างตัวใหม่ ตงั้ ช่ื อ
ทงั้ หมด จากนัน้ บันทกึ ไฟลโ์ ดยตงั้ ช่ื อ Group โดย กลุ่มต่าพิมพ์เลข Group โดยกาหนดคา่ (Value)
ไฟลใ์ หม่ หรอื ใช้คา่ สงั่ Select case 1 กลมุ่ สงู พมิ พเ์ ลข 2 และ ให้ 1 แทน กลมุ่ ต่า (L) 2 แทน
เลอื กเฉพาะ Group=1 or Group=3 กลุ่มกลางพมิ พ์เลข 3 กลุ่มกลาง (M) และ 3 แทน

กลุ่มสูง (U)

5IAPRI2021 สปั ดาห์ท่ี 45

15

การวิจยั ปฏิบตั กิ ารในชั้นเรยี น

การวิจยั ปฏิบตั กิ าร 16/15

ในชั้นเรียน แบบทดสอบ

การวิจยั ปฏบิ ัติการในชั้นเรยี น 46

พระราชบญั ญัติการศกึ ษาแห่งชาติ การวจิ ยั ปฏิบัตกิ าร (Action research)
พุทธศกั ราช 2542 แกไ้ ขเพ่มิ เตมิ (ฉบบั ท่ี
3) พุทธศักราช 2553 ได้กาหนดแนวทางการจัด “การวิจยั ปฏบิ ตั ิการ” เป็นการวิจยั ประเภทหน่งึ ท่ี
การศึกษา ผู้ทาวจิ ยั คอื ผู้ปฏบิ ตั ิงานใน องค์กรหรือมีสว่ นเก่ยี วขอ้ งใน
องคก์ รนัน้ ซ่ึ งอาจมีคนเดยี ว หรือหลายคน หรอื ทกุ คนใน
มาตรา 22 “การจดั การศกึ ษาต้องยึดหลักว่า
ผูเ้ รียนทกุ คนมีความสามารถ เรียนรูแ้ ละพฒั นา องค์กร ได้ดาเนนิ การแกไ้ ขปั ญหาหรือพฒั นาองคก์ รให้ดีข้นึ
ตนเองได้ และถอื วา่ ผูเ้ รียนมคี วามสาคญั ท่สี ุด โดยนาเอาวธิ ีการ แนวทาง หรอื กจิ กรรมตา่ ง ๆ ท่ีผ่านการ
กระบวนการจดั การศึกษา ตอ้ งส่งเสรมิ ให้
ผูเ้ รียนสามารถพฒั นาตามธรรมชาติและเตม็ พจิ ารณาตรวจสอบเบื้องต้นแล้วว่าเหมาะสม ไปทดลอง
ตามศกั ยภาพ” ปฏบิ ัติการตามแผนท่ีวางไว้ มกี ารตดิ ตาม ตรวจสอบและ
มาตรา 30 “ใหส้ ถานศกึ ษาพัฒนากระบวนการ ประเมินกระบวนการปฏิบัติงาน และผลลัพธ์ย่อย ๆ ท่ีตอ้ งการ
เรยี นการสอนท่มี ีประสทิ ธภิ าพ รวมทงั้ การ
ส่งเสรมิ ใหผ้ ู้สอนสามารถวจิ ยั เพ่ือพัฒนาการ ใหเ้ กดิ ขนึ้ ในแต่ละขัน้ ตอนของการทางาน รวมทงั้ ปั ญหา
เรยี นรูท้ ่ีเหมาะสมกับผู้เรยี นใน แต่ละระดบั อุปสรรคตา่ ง ๆ สะท้อนผลการประเมินท่ไี ดใ้ ห้กับองคก์ รเป็น
การศกึ ษา” ระยะ เพ่ือใช้เป็นข้อมูลสาหรบั การวางแผนปรับปรุงแกไ้ ขใน
สว่ นยงั เป็นปั ญหา จากนนั้ ดาเนนิ การแกไ้ ขปั ญหาหรือพัฒนา
ต่อไป จนกระทงั่ ปั ญหาท่ีเกดิ ขน้ึ ในองค์กรนนั้ ไดร้ บั การคล่คี ลาย

หรอื เป้ าหมายของ การพฒั นานัน้ บรรลุผลตามตอ้ งการ

ลกั ษณะสาคญั ของการวิจัยปฏิบตั กิ ารในชั้นเรยี น 47

(1) ครูเป็นนกั วจิ ยั ทัง้ ในแง่ผู้ผลิต (ผูท้ าวจิ ยั ) และผูบ้ ริโภค (ผู้ใช้ผลการวจิ ยั )
(2) ปั ญหาการวจิ ัยต้องเก่ยี วขอ้ งกับงานในหน้าท่ีครู เช่ น ปั ญหาดา้ น

การเรียนรู้ ปั ญหาเก่ียวกบั พฤติกรรมของผู้เรยี น หรอื ปั ญหาเก่ียวกบั การจดั การเรียนรู้ของ ครู
(3) เป้ าหมายสาคญั ของการวิจยั ไม่ได้มุ่งสร้างองคค์ วามรูใ้ หม่ แต่มุง่ แกไ้ ข ปั ญหาหรอื พัฒนาการเรียนรู้ของนกั เรยี น
(4) กลมุ่ เป้ าหมายอาจเป็นรายบุคคล รายกลุม่ ทัง้ หอ้ งเรยี น หรือหลาย หอ้ งเรียน ทัง้ นข้ี ้นึ อยูก่ บั ว่า ปั ญหา นัน้ ๆ เกดิ

เฉพาะรายบุคคล รายกลุ่ม ทัง้ ห้องเรยี น หรือ หลายหอ้ งเรยี น
(5) สามารถดาเนินการวิจยั ควบคู่ไปกับการปฏิบัติงานตามปกตไิ ด้ ทงั้ ในและ นอกเวลาเรยี น โดยถือวา่ การวจิ ัยเป็น

สว่ นหน่งึ ของการปฏิบตั งิ าน
(6) ลกั ษณะของการทาวจิ ัยจะใช้วงจรในเร่ืองการประกันคณุ ภาพ PDCA หรือ วงจรการวจิ ยั ปฏิบัตกิ าร PAOR
(7) การวิจยั ไมไ่ ดเ้ นน้ การสร้างกรอบความคิดตามโครงสร้างเชิ งทฤษฎี ไมเ่ คร่งครัดกบั การควบคมุ ตัว

แปรแทรกซ้ อน
(8) มกี ารเกบ็ ข้อมูลทัง้ เชิ งปริมาณและคณุ ภาพ
(9) การเขยี นรายงานการวิจยั ไมเ่ คร่งครดั ในรูปแบบเหมือนการวิจัยเชิ ง วิชาการทวั่ ไป
(10) ครูสามารถใช้ผลการวิจยั พฒั นาตนและพฒั นางานในหน้าท่ีได้
(11) สามารถทาวิจัยไดท้ ุกวนั
(12) ไมไ่ ดม้ ุง่ ให้ครูทาเพ่อื ขอผลงาน จุ ดเน้นคือ นักเรยี น และการพัฒนาสภาพการเรยี นการสอน

กระบวนการวิจยั ปฏิบตั กิ ารในชั้นเรยี น 48

ขนั้ ตอนท่ี 1 สารวจปั ญหา
ขัน้ ตอนท่ี 2 ระบุปั ญหา วเิ คราะห์และค้นหาสาเหตุ
ขนั้ ตอนท่ี 3 ระบุแนวทางแก้ปั ญหาหรอื พฒั นา
ขนั้ ตอนท่ี 4 วางแผนแกป้ ั ญหาหรือพัฒนา
ขัน้ ตอนท่ี 5 สรา้ งหรือเลือกเคร่อื งมือในการวิจัย
ขัน้ ตอนท่ี 6 ดาเนนิ การแกป้ ั ญหาหรือพัฒนา

ตรวจสอบและปรับปรุงแก้ไขการปฏบิ ัติงาน
ขัน้ ตอนท่ี 7 เกบ็ รวบรวมข้อมูล และวิเคราะห์ขอ้ มูล
ขัน้ ตอนท่ี 8 สรุปผลการวจิ ยั และสะทอ้ นความคิดเห็น
ขนั้ ตอนท่ี 9 จัดทารายงานการวจิ ยั

บทสรุป 49

การวจิ ยั เพ่ือพฒั นาการเรียนรู้ เป็นวชิ าท่ีเสริมสรา้ งความรู้
ทกั ษะ เจตคติท่ดี ีตอ่ การทาวิจัย เป็นการค้นหาความจริง ใน
ปจรรงะิ เทด่คี น็ น้ ทพ่ีสนบใจมศคี กึวษามาถโูกดตยใ้อชง้วเชิธ่ื อีกถารอื ทได่เี ป้ ็นมรคี ะวบาบมรคู้คาวตาอมบเขหา้รใอื จคอวันาดมี
เก่ียวกบั วจิ ยั ตัวแปร ขอ้ มูล ประชากรและกล่มุ ตัวอย่าง สมมุตฐิ าน
เคร่ืองมอื วิจยั การตรวจสอบเคร่ืองมือวิจยั การออกแบบโครงรา่ ง
หเราียรนวิจทยั ่มี คีกวาารใมชส้โาปครญัแกตรอ่ มผูSท้ P่จี SะไSปตเปล็นอคดรจูในนกอานราวคจิ ตัยใปนฏกิบารัตแิกกา้ไรขในชั้น
ปั ญหาใหด้ ขี นึ้ พฒั นาและส่งเสริมนักเรยี นใหด้ ยี ่งิ ขน้ี ไป

50

บทสง่ ท้าย

เรยี น รองศาสตราจารย์ ดร.สาราญ กาจัดภยั
สวสั ดคี รบั อาจารย์ กระผมขอขอบพระคณุ อาจารยท์ ่ีประสทิ ธิ์

ประสาทวทิ ยาความรูใ้ นศาสตรข์ องการวิจยั ด้วยกระบวนการวธิ ีการถา่ ยทอด
และเป็นเอกลักษณ์ ทาใหผ้ มไม่เคยขาดและคลาดสายตาจากการเรียนการสอนใน
แตล่ ะคาบ ประทบั ใจในความมวี ินยั ตงั้ แต่ผมเรียนท่ีมหาวทิ ยาลยั มา 3 ปี มี
รายวชิ าน้วี ิชาแรกท่ไี ม่มีการงด การเล่อื น อกี ทัง้ อาจารย์ผู ส้ อน เขา้ สอนไดต้ รง
เวลา นับว่าเป็นแบบอยา่ งท่ดี ตี อ่ นกั ศึกษาท่จี ะไปประกอบวิชาชี พอย่างย่งิ ครบั
สอนในอนาคตสแุดลทะา้ จยะนรีผ้ะลมกึ จถะนึงคาคณุ วคารมูอราูท้ จ่ไี าดรไ้ ยปท์ ป่ีสรัง่บั สปอรนะยตุกลตอใ์ดชไ้ใปนการเรยี นการ

ดว้ ยความเคารพอยา่ งสูง
นราธปิ แกว้ ปี ลา

สญั ญาการเรยี น 51