แผนการสอนภาษาไทย ป.3

คาอธบิ ายรายวชิ าพื้นฐาน

ท ๑๓๑๐๑ ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย

ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๓ เวลา ๒๐๐ ชั่วโมง

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

อ่านออกเสียงคา ข้อความ เร่ืองส้ัน ๆ และบทร้อยกรองง่าย ๆ ได้ถูกต้อง อธิบายความหมายของ
คา และข้อความที่อ่าน ตั้งคาถาม และตอบคาถามเชิงเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องท่ีอ่าน ลาดับเหตุการณ์ และ
คาดคะเนเหตุการณจ์ ากเรื่องท่ีอา่ นโดยระบุเหตผุ ลประกอบ สรุปความรู้และข้อคิดจากเรื่องที่อ่านเพื่อนาไปใช้
ในชีวิตประจาวัน อ่านหนังสือตามความสนใจ อย่างสม่าเสมอและนาเสนอเรื่องที่อ่าน อ่านข้อเขียนเชิงอธิบาย
และปฏิบัติตามคาส่ังหรือข้อแนะนา อธิบายความหมายของข้อมูลจากแผนภาพ แผนท่ี และแผนภูมิ มี
มารยาท ในการอ่าน คดั ลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทัด เขียนบรรยายเกย่ี วกบั ส่ิงใดส่งิ หนง่ึ ได้อย่างชัดเจน เขียน
บันทึกประจาวัน เขียนจดหมายลาครู เขียนเร่ืองตามจินตนาการ มีมารยาทในการเขียน เล่ารายละเอียด
เก่ียวกับเรื่องที่ฟังและดูท้ังที่เป็นความรู้และความบันเทิง บอกสาระสาคัญจากเร่ือการฟังและการดู ต้ังคาถาม
และตอบคาถามเก่ยี วกบั เรอื่ งทีฟ่ งั และดู พดู แสดงความคิดเห็น และความรสู้ ึกจากเรอ่ื งท่ีฟังและดู พูดส่ือสารได้
ชัดเจนตรงตาม วัตถุประสงค์ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด เขียนสะกดคาและบอกความหมาย ของ
คา ระบุชนิด และหน้าท่ีของคาในประโยค ใช้พจนานุกรมค้นหาความหมายของคา แต่งประโยคง่าย ๆ แต่ง
คาคล้องจอง และคาขวัญ เลือกใช้ภาษาไทยมาตรฐาน และภาษาถิ่นได้เหมาะสมกับกาลเทศะ ระบุข้อคิดท่ีได้
จากการอ่านวรรณกรรมเพื่อนาไปใช้ในชีวิตประจาวัน รู้จักเพลงพ้ืนบ้านในอาเภออรัญประเทศและในจังหวัด
สระแก้ว เพลงกล่อมเด็ก เพื่อปลูกฝังความชื่นชมวัฒนธรรมท้องถ่ินอาเภออรัญประเทศ แสดงความคิดเห็น
เกี่ยวกับวรรณคดีท่ีอ่าน ท่องจาบทอาขยานตามท่ีกาหนด และบทร้อยกรองที่มีคุณค่าตามความสนใจ โดยใช้
กระบวนการอา่ น การเขยี น และพูด วิเคราะห์ สรปุ และนาเสนอ เพื่อให้มคี วามรู้ความเข้าใจ มีทักษะทาง
ภาษาในการสือ่ สาร มีนิสัยรกั การอ่าน เห็นคุณคา่ ภาษาไทยในฐานะภาษาประจาชาติ

ตวั ชีว้ ดั

ท ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗ , ป.๓/๘, ป.๓/๙

ท ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖

ท ๓/๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖

ท ๔/๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖

ท ๕.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔

รวมตัวชี้วดั ๓๑ ตัวชี้วัด

โครงสร้างรายวชิ าภาษาไทย
ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 3
เวลา 200 ช่ัวโมง

ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 100 ชวั่ โมง

หน่วยการ มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วดั สาระการเรียนรู้ เวลา นา้ หนัก
เรียนรทู้ ี่ (ช่ัวโมง) คะแนน
ท 1.1 ป.3/1 , ป.3/2, ป.3/3, 1.ความหมายของคา การใชค้ า
1. ป.3/5, ป.3/9 2.การอ่านออกเสยี ง (100 คะแนน)
ปฏิบตั ิการ ท 3.1 ป.3/5, ป.3/6 3.การจบั ใจความสาคัญ 10 6
สายลับจิ๋ว ท 4.1 ป.3/1 4.การตอบคาถาม
5.การตั้งคาถามและตอบคาถาม 10 6
2. ท 1.1 ป.3/1 , ป.3/2, ป.3/3, 6.การแยกขอ้ เทจ็ จริงและข้อคดิ เหน็
แตเ่ ด็กซ่อื ไว้ ป.3/5, ป.3/9 7.พยัญชนะไทย อักษรสามหมู่
ท 4.1 ป.3/1, ป.3/4
สระในภาษาไทย การอา่ นสะกดคา
8. รูปและเสียงวรรณยกุ ตใ์ นภาษาไทย

การผันวรรณยุกต์
9.การอา่ นออกเสียง ฑ ออกเสียง ด

การอา่ นออกเสียง ฑ ออกเสียง ท
10. การใชถ้ ้อยทสี่ ภุ าพ
1.ความหมายของคา การใชค้ า
2.การอ่านออกเสยี ง
3.การจับใจความสาคัญ
4.การตอบคาถาม
5.การตั้งคาถามและตอบคาถาม
6.การแยกขอ้ เทจ็ จริงและข้อคดิ เหน็
7.มาตราตวั สะกด การอ่านสะกดคา
8.การประสมคาสระเปล่ยี นรูป - ะ เ – ะ เ – อ
การอา่ นคาสระเปลี่ยนรูป - ะ เ – ะ เ – อ
การประสมคาสระลดรปู สระโอะ, สระอัว
การอ่านคาสระลดรูป สระโอะ, สระอวั
9.ประโยคและการแตง่ ประโยค ดังนี้

ประโยคบอกเล่า
ประโยคคาถาม
ประโยคปฏเิ สธ

หนว่ ยการ มาตรฐานการเรยี นรู้/ สาระการเรียนรู้ เวลา น้าหนัก
เรยี นรูท้ ่ี ตัวชีว้ ัด (ช่วั โมง) คะแนน

3. ท 1.1 ป.3/1 , ป.3/2, ป.3/9 1.ความหมายของคา การใชค้ า (100 คะแนน)
กระต่ายไม่
10 5
ตน่ื ตมู
ท 2.1 ป.3/5, ป.3/6 2.การอ่านออกเสียง

ท 4.1 ป.3/3, ป.3/6 3.อา่ นออกเสียงคาศัพท์ใหมใ่ นบทเรียน

4.บอกความหมายของคาสานวนไทย

ยกตวั อยา่ งคาสานวนไทย

5. เขียนเรื่องตามจินตนาการ

4. ท 1.1 ป.3/1 , ป.3/2, ป. 1.ความหมายของคา การใชค้ า 9 6
ปา่ น้ีมคี ุณ 3/3, ป.3/5, ป.3/9 2.การอา่ นออกเสียง 10 6
ท 4.1 ป.3/1 3.การจับใจความสาคญั
ท.5.1 ป.3/5 4.การตอบคาถาม
5.การตงั้ คาถามและตอบคาถาม
5. ท 1.1 ป.3/1 , ป.3/2, ป. 6.การแยกข้อเทจ็ จรงิ และข้อคิดเห็น
อาหารดี 3/3, ป.3/5, ป.3/9 7. มาตราตวั สะกด การอ่านสะกดคา
ชีวีมสี ขุ ท 4.1 ป.3/1 8. ลกั ษณะของกลอนสีส่ ุภาพ

การบอกความหมายกลอนส่สี ภุ าพ

1.ความหมายของคา การใชค้ า
2.การอ่านออกเสียง
3.การจับใจความสาคญั
4.การตอบคาถาม
5.การตั้งคาถามและตอบคาถาม
6.การแยกข้อเท็จจริงและขอ้ คดิ เห็น
7.พยญั ชนะไทย อักษรสามหมู่ สระใน
ภาษาไทย การอ่านสะกดคา
8. การอ่านและเขยี นคาที่ไม่ประวิสรรชนีย์
การแตง่ ประโยคด้วยคาท่ีไม่ประวิสรรชนีย

6. ท 1.1 ป.3/1 , ป.3/2, ป.3/9 1.ความหมายของคา การใช้คา 66
แมไ่ ก่อย่ใู น ท 4.1 ป.3/1 2.มาตราตวั สะกด แม่ ก กา แม่ กก
ท 5.1 ป.3/2 มาตราตวั สะกด แม่ กง
ตะกรา้ 3.การสวดโอ้เอ้วหิ ารราย

7. ท 1.1 ป.3/1 , ป.3/2, ป. 1.ความหมายของคา การใช้คา 10 6
ทาดี...อย่า 3/3, ป.3/5, ป.3/9 2.การอ่านออกเสยี ง 6
หว่ันไหว ท 2.1 ป.3/3 3.การจับใจความสาคัญ 5
ท 4.1 ป.3/6 4.การตอบคาถาม
ท 5.1 ป3/1 5.การตัง้ คาถามและตอบคาถาม
6.การแยกข้อเทจ็ จริงและขอ้ คดิ เห็น
7.การเขยี นบันทึก
8.คาคล้องจอง
9.กลอนส่ี

8. ท 1.1 ป.3/1 , ป.3/2, ป. 1.ความหมายของคา การใช้คา 10
พลังงาน 3/3, ป.3/5, ป.3/9 2.การอ่านออกเสียง
คือชวี ติ ท 4.1 ป.3/1, ป.3/4, ป.3/5 3.การจบั ใจความสาคัญ
4.การตอบคาถาม
5.การตงั้ คาถามและตอบคาถาม
6.การแยกขอ้ เท็จจริงและขอ้ คดิ เหน็
7.คาควบกล้าแท้ คาควบกลา้ ไม่แท้
การอ่านเขยี นคาควบกล้า
8. การอ่านอกั ษรนา การเขยี นอักษรนา
9.การอา่ นคาขวัญ การแตง่ คาขวญั

9. ท 1.1 ป.3/1 , ป.3/2, ป.3/9 1.ความหมายของคา การใชค้ า 5
เด็กเอ๋ย
เดก็ นอ้ ย ท 4.1 ป.3/3 2.แต่งคาขวัญ

ท 5.1 ป.3/4 3.ท่องจาบทอาขยาน เด็กน้อย และวิชาหนา

เจา้

หน่วยการ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชวี้ ดั จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เวลา น้าหนัก
เรียนร้ทู ี่ (ช่วั โมง) คะแนน
(100
คะแนน)

10. ท 1.1 ป.3/1 , ป.3/2, ป.3/3, 1.ความหมายของคา การใช้คา 10 6
ความฝนั เปน็ ป.3/5, ป.3/9 2.การอา่ นออกเสียง
3.การจบั ใจความสาคญั
จรงิ ได้ ท 2.1 ป.3/5, ป.3/6 4.การตอบคาถาม
ท 4.1 ป.3/1 5.การตง้ั คาถามและตอบคาถาม
6.การแยกข้อเทจ็ จรงิ และขอ้ คดิ เหน็
7.การเขียนเรือ่ งตามจนิ ตนาการ
8.การอา่ นคาท่ใี ช้ “ฤ” และ “ฤๅ”
การเขยี น คา บนั บรร
การเขียนคาที่ประสมด้วยตัว รร (ร หัน)

11. ท 1.1 ป.3/1 , ป.3/2, ป.3/3, 1.ความหมายของคา การใชค้ า 10 6
ภมู ิใจ ป.3/5, ป.3/9 2.การอา่ นออกเสียง
ภาษาไทย ท 4.1 ป.3/1, ป.3/4, ป.3/6 3.การจบั ใจความสาคญั 30
ของเรา ท 5.1 ป.3/4 4.การตอบคาถาม 100
5.การตง้ั คาถามและตอบคาถาม
6.การแยกข้อเทจ็ จรงิ และขอ้ คดิ เห็น
7.คาพ้อง
8.คาทเ่ี ป็นภาษาไทยถ่ิน ความหมายของคาใน
ภาษาไทยถิ่น
9.การเรียบเรียงประโยคตามท่ีกาหนด การแต่ง
ประโยค
10.ลกั ษณะรอ้ ยกรองประเภทกลอนแปด

สอบปลายภาค 1
รวม 100

ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 100 ช่ัวโมง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เวลา นา้ หนกั
(ช่ัวโมง) คะแนน
หนว่ ยการ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชวี้ ัด (100
เรียนรูท้ ี่ 10 คะแนน)

12. ท 1.1 ป.3/1 , ป.3/2, ป.3/3, 1.ความหมายของคา การใชค้ า 6
ลูกแกะของ ป.3/5, ป.3/9 2.การอา่ นออกเสียง
ซาฟียะห์ ท 4.1 ป.3/3 3.การจบั ใจความสาคญั
ท 5.1 ป.3/4 4.การตอบคาถาม
5.การตง้ั คาถามและตอบคาถาม
6.การแยกข้อเท็จจริงและขอ้ คิดเห็น
7.แต่งคาขวัญ
8.ท่องจาบทอาขยาน

13. ท 1.1 ป.3/1 , ป.3/2, ป.3/3, 1.ความหมายของคา การใช้คา 10 6
คิดไป รู้ไป ป.3/5, ป.3/9 2.การอา่ นออกเสียง 10 6
ท 4.1 ป.3/3 3.การจบั ใจความสาคญั
14. 4.การตอบคาถาม
นอกเมอื ง... ท 1.1 ป.3/1 , ป.3/2, ป.3/3, 5.การตงั้ คาถามและตอบคาถาม
ป.3/5, ป.3/9 6.การแยกขอ้ เท็จจริงและขอ้ คิดเห็น
ในกรุง ท 2.1 ป.3/2, ป.3/6 7. คาที่มเี ครื่องหมายทัณฑฆาต
ท 4.1 ป.3/2
1.ความหมายของคา การใชค้ า
2.การอา่ นออกเสยี ง
3.การจับใจความสาคัญ
4.การตอบคาถาม
5.การตั้งคาถามและตอบคาถาม
6.การแยกข้อเท็จจรงิ และข้อคิดเห็น
7.การเขียนบรรยาย มารยาทในการเขยี น
8.คานาม การนาคานามไปใช้เพอื่ การสื่อสาร

หนว่ ยการ มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชวี้ ดั หน่วยการเรียนรู้ที่ เวลา นา้ หนัก
เรียนรูท้ ่ี จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน
(100
15. ท 1.1 ป.3/1 , ป.3/2, ป.3/3, 1.ความหมายของคา การใช้คา 4 คะแนน)
กาเหว่าท่ี ป.3/5, ป.3/9 2.การอา่ นออกเสยี ง
กลางกรุง ท 5.1 ป.3/2, ป.3/4 3.การจับใจความสาคัญ 10 5
4.การตอบคาถาม
16. ท 1.1 ป.3/1 , ป.3/2, ป.3/3, 5.การตั้งคาถามและตอบคาถาม 10 6
สง่ ข่าว.....เลา่ ป.3/5, ป.3/9 6.การแยกขอ้ เท็จจริงและขอ้ คิดเห็น
7.เพลงกลอ่ มเดก็ 6
เรอ่ื ง ท 2.1 ป.3/4 8. ทอ่ งจาบทอาขยาน เด็กน้อย และวิชาหนา
ท 4.1 ป.3/1 เจ้า
ท 5.1 ป.3/4
1.ความหมายของคา การใช้คา
17. ท 1.1 ป.3/1 , ป.3/2, ป.3/3, 2.การอ่านออกเสียง
ประชาธปิ ไตย ป.3/5, ป.3/9 3.การจับใจความสาคญั
4.การตอบคาถาม
ใบเล็ก ท 4.1 ป.3/1 ป.3/3 5.การต้งั คาถามและตอบคาถาม
6.การแยกข้อเทจ็ จรงิ และขอ้ คิดเหน็
7.เขยี นจดหมายลาครู
8.คาสรรพนาม
9.รปู แบบของกาพย์ยานี 11

1.ความหมายของคา การใชค้ า
2.การอา่ นออกเสียง
3.การจับใจความสาคญั
4.การตอบคาถาม
5.การตง้ั คาถามและตอบคาถาม
6.การแยกขอ้ เท็จจริงและขอ้ คิดเหน็
7.คากรยิ า การนาคากรยิ าไปใชเ้ พอ่ื การสื่อสาร
8.คาทใ่ี ช้ _ำ _ั ม ใ_ ไ_ ไ_ย _ั ย

เรียนรู้ที่

หน่วยการ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชีว้ ัด จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เวลา นา้ หนกั
เรียนรู้ที่ (ชว่ั โมง) คะแนน
1.ความหมายของคา การใช้คา
18. ท 1.1 ป.3/1 , ป.3/2, ป.3/9 2.การอา่ นออกเสียง (100 คะแนน)
ธนูดอกไมก้ บั ท 5.1 ป.3/1, ป.3/4 3.การจับใจความสาคัญ 65
เจา้ ชายน้อย 4.การตอบคาถาม
5.การตั้งคาถามและตอบคาถาม 10 6
19. ท 1.1 ป.3/1 , ป.3/2, ป.3/3, 6.การแยกข้อเทจ็ จริงและข้อคิดเห็น
ของดี ป.3/5, ป.3/6, ป.3/9 7.อา่ นทานองเสนาะกลอนบทละคร 10 6
ในตาบล ท 3.1 ป.3/3, ป.3/5, ป.3/6 8.การอา่ นจบั ใจความของเร่ือง
ท 4.1 ป.3/2, ป.3/4, ป.3/6
1.ความหมายของคา การใชค้ า
20. ท 1.1 ป.3/1 , ป.3/2, ป.3/3, 2.การอา่ นออกเสยี ง
ธรรมชาติ ป.3/5, ป.3/9 3.การจับใจความสาคัญ
เจา้ เอย ท 2.1 ป.3/4, ป.3/5, ป.3/6 4.การตอบคาถาม
5.การตงั้ คาถามและตอบคาถาม
6.การแยกขอ้ เทจ็ จรงิ และข้อคิดเหน็
7.การอา่ นข้อมูลจากแผนที่
8.การตั้งคาถามและตอบคาถามเกยี่ วกับเร่ืองท่ี
อา่ น
9.พูดอวยพร
10.การเขียนคาอวยพร
11.คาวิเศษณ์
1.ความหมายของคา การใชค้ า
2.การอ่านออกเสยี ง
3.การจบั ใจความสาคัญ
4.การตอบคาถาม
5.การตง้ั คาถามและตอบคาถาม
6.การแยกขอ้ เท็จจริงและข้อคิดเหน็
7.การเขียนแสดงความรสู้ กึ นึกคิด
8.แตง่ ประโยคบอกเลา่ ประโยคปฏิเสธ และ
ประโยคคาถาม

หน่วยการ มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้วี ดั จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เวลา น้าหนกั
เรยี นร้ทู ่ี (ชว่ั โมง) คะแนน

(100 คะแนน)

21. ท 1.1 ป.3/1 , ป.3/2, ป.3/3, 1.ความหมายของคา การใช้คา 10 6
เลน่ คาทาย ป.3/5, ป.3/9 2.การอ่านออกเสยี ง 10
ท 2.1 ป.3/2, ป.3/6 3.การจับใจความสาคญั 6
22. ท 4.1 ป.3/3 4.การตอบคาถาม
บนั ทึก ท 5.1 ป.3/4 5.การต้ังคาถามและตอบคาถาม 30
ความหลัง 6.การแยกข้อเท็จจริงและขอ้ คิดเห็น 100
ท 1.1 ป.3/1 , ป.3/2, ป.3/3, 7.สานวนไทย
ป.3/5, ป.3/9 8.การเขียนแผนภาพโครงเร่อื งจากบทเรียน
ท 2.1 ป.3/2, ป.3/6 9.การใช้พจนานกุ รมเพื่อคน้ หาความหมาย
ท 4.1 ป.3/3, ป.3/6 10.ลกั ษณะกลอนรอ้ ยกรองประเภทกลอนแปด

1.ความหมายของคา การใชค้ า
2.การอา่ นออกเสยี ง
3.การจบั ใจความสาคัญ
4.การตอบคาถาม
5.การต้งั คาถามและตอบคาถาม
6.การแยกข้อเท็จจรงิ และข้อคิดเห็น
7.การเขยี นบนั ทึกเหตุการณป์ ระจาวนั
8.เครือ่ งหมายต่าง ๆ

สอบปลายภาค 1
รวม 100

สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้

สาระที่ ๑ การอ่าน
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรูแ้ ละความคิดเพ่ือนาไปใช้ตดั สินใจ แก้ปญั หาใน

การดาเนนิ ชีวติ และมีนิสัยรักการอา่ น

สาระท่ี ๒ การเขียน
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี นเขยี นส่ือสาร เขยี นเรียงความ ย่อความ และเขยี นเร่อื งราว

ในรปู แบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ คว้าอยา่ ง
มปี ระสทิ ธภิ าพ

สาระท่ี ๓ การฟงั การดู และการพดู
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดอู ย่างมวี ิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และ

ความรู้สึกในโอกาสตา่ งๆ อย่างมีวจิ ารณญาณและสร้างสรรค์

สาระท่ี ๔ หลักการใช้ภาษาไทย
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและ

พลังของภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบัติของชาติ

สาระที่ ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม
มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคดิ เหน็ วจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็น

คณุ ค่าและนามาประยุกตใ์ ช้ในชวี ิตจริง

สาระมาตรฐานการเรียนรู้ ตวั ช้วี ดั ชน้ั ปี

กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย
ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 3

สาระท่ี 1 การอา่ น

มาตรฐาน ท 1.1 ใชกระบวนการอานสรางความรูและความคดิ เพอ่ื นาไปใชตดั สินใจ แกปญหาใน

การดาเนินชวี ติ และมีนสิ ยั รักการอาน

ชน้ั ตัวชีว้ ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

ป.3 1. อานออกเสยี งคา ขอความ เรื่อง การอานออกเสยี งและการบอกความหมายของ

สนั้ ๆ และบทรอยกรองงายๆ ไดถูกตอง คา คาคลองจอง ขอความ และบทรอยกรอง

คลองแคลว งายๆ ทีป่ ระกอบดวยคาพ้นื ฐานเพมิ่ จาก ป.๒

2. อธบิ ายความหมายของคาและ ไมนอยกวา 1,200 คา รวมทง้ั คาที่เรียนรูใน

ขอความที่อาน กลมุ สาระการเรยี นรูอื่น ประกอบดวย

- คาทม่ี ีตัวการนั ต

- คาที่มี รร

- คาทีม่ ีพยัญชนะและสระไมออกเสยี ง

- คาพอง

3. ต้ังคาถามและตอบคาถามเชงิ - คาพเิ ศษอืน่ ๆ เชน คาท่ีใช ฑ ฤ ฤๅ
เหตุผลเกย่ี วกบั เรื่องที่อา่ น การอา่ นจับใจความจากสอ่ื ต่างๆ เช่น
4. ลาดบั เหตุการณแ์ ละคาดคะเน - นทิ านหรอื เร่อื งเกี่ยวกับท้องถน่ิ
เหตกุ ารณจ์ ากเรอื่ งทีอ่ ่านโดยระบุ - เร่อื งเลา่ ส้ันๆ
เหตผุ ลประกอบ - บทเพลงและบทร้อยกรอง
5. สรปุ ความรแู้ ละข้อคิดจากเรื่องท่ี - บทเรยี นในกลุ่มสาระการเรียนรู้อนื่
อา่ นเพื่อนาไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั - ขา่ วและเหตุการณ์ในชีวิตประจาวันใน

ท้องถ่นิ และชุมชน

6. อ่านหนงั สือตามความสนใจ การอา่ นหนังสือตามความสนใจ เช่น
อยา่ งสม่าเสมอและนาเสนอเรื่องท่ี - หนงั สือทน่ี ักเรียนสนใจและเหมาะสมกบั วยั
อ่าน - หนงั สอื ทคี่ รูและนกั เรยี นกาหนดรว่ มกัน

7. อ่านข้อเขียนเชงิ อธิบายและปฏบิ ัติ การอ่านข้อเขยี นเชิงอธิบาย และปฏบิ ตั ิตาม
ตามคาสงั่ หรือข้อแนะนา คาสง่ั หรอื ข้อแนะนา
- คาแนะนาตา่ งๆ ในชีวิตประจาวนั
- ประกาศ ปา้ ยโฆษณา และคาขวัญ

8.อธบิ ายความหมายของข้อมูลจาก การอา่ นข้อมูลจากแผนภาพ แผนที่ และแผนภมู ิ
แผนภาพ แผนท่ี และแผนภมู ิ
9.มีมารยาทในการอ่าน มารยาทในการอา่ น เช่น
- ไมอ่ ่านเสียงดังรบกวนผู้อน่ื
- ไมเ่ ลน่ กนั ขณะท่ีอา่ น
- ไม่ทาลายหนังสอื
- ไม่ควรแย่งอ่านหรือชะโงกหนา้ ไปอ่านขณะที่
ผ้อู นื่ กาลงั อ่าน

สาระท่ี 2 การเขียน

มาตรฐาน ท 2.1. ใชก้ ระบวนการเขียนเขยี นส่ือสาร เขียนเรียงความ ยอ่ ความ และเขียนเร่ืองราวใน
รูปแบบต่างๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นควา้ อย่างมี
ประสิทธภิ าพ

ช้นั ตวั ช้ีวัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

ป.3 1. คดั ลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัด การคดั ลายมือตวั บรรจงเตม็ บรรทัดตามรปู แบบ
การเขียน ตัวอักษรไทย

2. เขยี นบรรยายเก่ยี วกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง การเขยี นบรรยายเก่ียวกบั ลกั ษณะของ คน สัตว์

ไดอ้ ย่างชดั เจน สง่ิ ของ สถานท่ี

3. เขยี นบนั ทกึ ประจาวนั การเขยี นบนั ทึกประจาวัน

4. เขียนจดหมายลาครู การเขยี นจดหมายลาครู

5.เขียนเรื่องตามจินตนาการ การเขยี นเรื่องตามจินตนาการจากคา ภาพ และ
6.มมี ารยาทในการเขียน หัวขอ้ ที่กาหนด

มารยาทในการเขยี น เชน่
- เขียนให้อ่านง่าย สะอาด ไม่ขดี ฆา่
- ไม่ขีดเขียนในท่ีสาธารณะ
- ใชภ้ าษาเขยี นเหมาะสมกับเวลา สถานที่ และ
บคุ คล
- ไมเ่ ขยี นล้อเลยี นผู้อ่ืนหรือทาให้ผอู้ ่นื เสยี หาย

สาระท่ี 3 การฟัง การดู และการพูด

มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลือกฟงั และดูอยา่ งมวี จิ ารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และความรู้สึก

ในโอกาสต่างๆ อย่างมีวิจารณญาณและสรา้ งสรรค์

ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง

ป.3 1. เล่ารายละเอยี ดเกี่ยวกับเร่ืองท่ีฟัง การจับใจความและพดู แสดงความคิดเห็นและ
และ ความรูส้ ึกจากเรื่องท่ีฟงั และดูท้งั ที่เปน็ ความรู้

ดทู ้งั ท่ีเปน็ ความรู้และความบันเทิง และความบันเทิง เช่น

2. บอกสาระสาคญั จากการฟังและการ - เร่ืองเลา่ และสารคดสี าหรบั เด็ก

ดู - นิทาน การ์ตนู เร่อื งขบขัน

3. ตง้ั คาถามและตอบคาถามเกี่ยวกับ - รายการสาหรับเด็ก

เร่อื งท่ีฟังและดู - ข่าวและเหตกุ ารณใ์ นชวี ิตประจาวนั

4. พูดแสดงความคดิ เห็นและความรู้สกึ - เพลง

จากเร่ืองท่ีฟงั และดู

5. พูดสอื่ สารไดช้ ดั เจนตรงตาม การพดู สื่อสารในชวี ติ ประจาวัน เช่น

วตั ถุประสงค์ - การแนะนาตนเอง

- การแนะนาสถานทใี่ นโรงเรียนและในชุมชน

- การแนะนา/เชิญชวนเก่ียวกับการปฏบิ ตั ิตนใน

ดา้ นตา่ งๆ เช่น การรักษาความสะอาดของ

ร่างกาย

- การเล่าประสบการณ์ในชวี ิตประจาวัน

- การพดู ในโอกาสต่างๆ เช่น การพดู ขอร้อง

การพูดทักทาย การกลา่ วขอบคุณและขอ

โทษ การพดู ปฏิเสธ และการพูดชกั ถาม

6.มีมารยาทในการฟัง การดู และการ  มารยาทในการฟัง เชน่
พูด - ตงั้ ใจฟงั ตามองผู้พดู
- ไม่รบกวนผู้อืน่ ขณะท่ฟี ัง
- ไมค่ วรนาอาหารหรือเคร่ืองด่มื ไปรบั ประทาน
ขณะท่ีฟัง
- ไมแ่ สดงกิรยิ าท่ีไม่เหมาะสม เช่น โห่ ฮา หาว
- ให้เกียรตผิ ้พู ูดด้วยการปรบมอื
- ไม่พูดสอดแทรกขณะท่ีฟงั

 มารยาทในการดู เชน่
- ตง้ั ใจดู
- ไมส่ ่งเสยี งดังหรอื แสดงอาการรบกวนสมาธิ
ของผู้อน่ื

 มารยาทในการพดู เช่น
- ใชถ้ ้อยคาและกริ ยิ าท่ีสภุ าพ เหมาะสมกบั
กาลเทศะ ใชน้ ้าเสยี งนมุ่ นวล

สาระท่ี 4 หลักการใชภ้ าษาไทย

มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลีย่ นแปลงของภาษาและพลงั ของ
ภาษา ภมู ปิ ญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบัติของชาติ

ชน้ั ตัวชวี้ ดั สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง

ป.3 1.เขียนสะกดคาและบอกความหมาย การสะกดคา การแจกลูก และการอ่านเป็นคา

ของคา - มาตราตัวสะกดที่ตรงตามมาตราและไม่ตรงตาม
มาตรา
การผันอกั ษรกลาง อกั ษรสูง และอักษรต่า

-คาท่มี ีพยญั ชนะควบกล้า
-คาที่มีอกั ษรนา
- คาทป่ี ระวิสรรชนยี ์และคาท่ีไม่ประวิสรรชนยี ์

- คาท่ีมี ฤ ฤๅ
-คาทใ่ี ช้ บัน บรร

- คาท่ใี ช้ รร

- คาทม่ี ีตวั การนั ต์
- ความหมายของคา

3. ระบชุ นิดและหนา้ ท่ีของคาใน ชนดิ ของคาไดแ้ ก่
ประโยค - คานาม

- คาสรรพนาม
- คากริยา

4. ใชพ้ จนานกุ รมค้นหาความหมาย การใชพ้ จนานกุ รม
ของคา

5. แต่งประโยคงา่ ยๆ การแต่งประโยคเพื่อการสอ่ื สาร ไดแ้ ก่
- ประโยคบอกเล่า
- ประโยคปฏเิ สธ
- ประโยคคาถาม
- ประโยคขอร้อง
- ประโยคคาสั่ง

6. แต่งคาคล้องจองและคาขวัญ -คาคล้องจอง
-คาขวญั

7.เลอื กใชภ้ าษาไทยมาตรฐานและ -ภาษาไทยมาตรฐาน
ภาษาถิน่ ได้เหมาะสมกบั กาลเทศะ -ภาษาถน่ิ

สาระที่ 5 วรรณคดแี ละวรรณกรรม
มาตรฐาน ท 5.1 เขา้ ใจและแสดงความคิดเห็น วจิ ารณว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอยา่ งเหน็ คณุ ค่า

และนามาประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ิตจรงิ

ช้ัน ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง

ป.3 1. ระบุข้อคิดท่ีได้จากการอา่ น วรรณคดี วรรณกรรม และเพลงพื้นบ้าน

วรรณกรรมเพื่อนาไปใชใ้ น - นิทานหรอื เรอื่ งในท้องถน่ิ

ชีวิตประจาวนั - เร่อื งสน้ั งา่ ยๆ ปรศิ นาคาทาย

2. รูจ้ กั เพลงพ้นื บ้านและเพลงกล่อม - บทรอ้ ยกรอง

เดก็ เพ่ือปลูกฝังความชนื่ ชมวัฒนธรรม - เพลงพนื้ บ้าน

ทอ้ งถ่ิน - เพลงกลอ่ มเด็ก

3. แสดงความคิดเห็นเกย่ี วกับวรรณคดี - วรรณกรรมและวรรณคดีในบทเรียนและ

ทอ่ี ่าน ตามความสนใจ

4. ท่องจาบทอาขยานตามทก่ี าหนด บทอาขยานและบทร้อยกรองที่มีคุณคา่
และบทร้อยกรองท่ีมีคุณค่าตามความ - บทอาขยานตามที่กาหนด
สนใจ - บทรอ้ ยกรองตามความสนใจ

หน่วยท่ี กาหนดการสอนวชิ าภาษาไทยช้ัน ป.3 ชั่วโมง
1 10
2 ช่ือหน่วย 10
3 ปฏิบัตกิ ารสายลับจว๋ิ 10
4 9
5 แตเ่ ดก็ ซื่อไว้ 10
6 กระต่ายไม่ตนื่ ตูม 6
7 10
8 ปา่ นีม้ คี ณุ 10
9 อาหารดี ชวี มี สี ุข 5
10 แม่ไกอ่ ยู่ในตะกร้า 10
11 ทาดอี ยา่ หว่ันไหว 10
12 พลังงานคือชีวติ 10
13 เด็กเอ๋ยเด็กน้อย 10
14 ความฝันเปน็ จริงได้ 10
15 ภมู ใิ จภาษาไทยของเรา 4
16 ลกู แกะของซาฟยี ะห์ 10
17 10
18 คิดไป....รู้ไป 6
19 นอกเมือง...ในกรุง 10
20 กาเหวา่ ท่ีกลางกรุง 10
21 ส่งข่าว.....เล่าเรือ่ ง 10
22 ประชาธิปไตยใบเล็ก 10
ธนดู อกไม้กบั เจ้าชายน้อย 200
ของดีในตาบล
ธรรมชาติเจา้ เอย

เลน่ คาทาย
บนั ทึกความหลัง
รวม