ห้องเรียนวรรณกรรม ครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการสอนภาษาไทย มจร.วิทยาเขตขอนแก่น ปริทัศน์วรรณกรรม มณีพิไชย ยอพระกลิ่น
รายงาน เรื่อง มณีพิไชย เสนอ พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี จัดท าโดย นางสาวอภิญญา พิลาดี รหัสนิสิต ๖๔๐๕๕๐๒๐๔๐ รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา 204 202 วรรณกรรมไทยปริทัศน์ ภาคเรียนที่ 2/๒๕๖๕ คณะครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการสอนภาษาไทย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น
รายงาน เรื่อง มณีพิไชย เสนอ พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี จัดท าโดย นางสาวอภิญญา พิลาดี รหัสนิสิต ๖๔๐๕๕๐๒๐๔๐ รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา 204 202 วรรณกรรมไทยปริทัศน์ ภาคเรียนที่ 2/๒๕๖๕ คณะครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการสอนภาษาไทย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น
ก ค ำน ำ ละครนอกเป็นมหรสพส ำคัญอย่ำงหนึ่งของไทย นิยมแสดงมำช้ำนำนตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยำเป็นรำช ธำนี เนื้อหำที่น ำมำแต่งเป็นบทละครนอกจะเป็นเรื่องจักร ๆ วงศ์ ๆ พระเอกของเรื่องส่วนใหญ่จะมีเหตุต้อง พลัดพรำกจำกบ้ำนเมือง มีกำรต่อสู้ผจญภัย ในที่สุดได้พบกับนำงเอก บทละครนอกที่เป็นที่รู้จักแพร่หลำยคือพระรำชนิพนธ์ใน พระบำทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้ำนภำลัย ได้แก่ เรื่อง ไกรทอง สังข์ทอง คำวี มณีพิไชยและไชยเชษฐ์ นอกจำกพระรำชนิพนธ์ดังกล่ำวแล้ว ยังมีเรื่องอื่นๆ ที่กวี หรือเจ้ำของคณะละครน ำมำแต่งขึ้นส ำหรับให้คณะละครของตนน ำไปแสดง บทละครนอกเรื่องแก้วหน้ำม้ำ พระนิพนธ์ในกรมหลวงภูวเนตรนรินทรฤทธิ์ เป็นเรื่องที่ได้รับควำมนิยมมำ แต่โบรำณเรื่องหนึ่ง เนื้อหำโดยรวมสนุกสนำน ชวนติดตำม ทั้งยังมีลักษณะเด่นแปลกไปกว่ำบทละครนอกเรื่อง อื่น ๆ กล่ำวคือ นำงแก้วหน้ำม้ำหรือนำงมณี นำงเอกของเรื่องเป็นสตรีปัญญำไว มีไหวพริบ ฉลำดในกำร แก้ปัญหำ อีกทั้งมีควำมสำมำรถในกำรศึกสงครำม เป็นผู้ช่วยเหลือสำมีให้รอดพ้นจำกอันตรำยได้ทุกครั้ง ต้นฉบับบทละครนอกเรื่องแก้วหน้ำม้ำ ปัจจุบันเก็บรักษำไว้ที่ ส่วนภำษำโบรำณ หอสมุดแห่งชำติ ลักษณะเป็นสมุดฝรั่ง ตัวพิมพ์ดีด อักขรวิธีที่ใช้เป็นอย่ำงเก่ำสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น มีจ ำนวนทั้งหมด ๖ เล่ม สมุดฝรั่งแต่เนื้อหำยังไม่จบ เนื่องจำกหนังสือนี้มิได้เคยพิมพ์มำก่อน และหำต้นฉบับยำก กรมศิลปำกรจึงได้มอบ ให้ นำงเรวดี ฐิตะโลหิต นักอักษรศำสตร์ ๘ ว. และนำยบุญเตือน ศรีวรพจน์ นักอักษรศำสตร์ ๘ ว. กลุ่มงำน วรรณกรรม กองวรรณกรรมและประวัติศำสตร์เป็นผู้ตรวจสอบช ำระโดยแก้ไขตัวสะกดที่ลักลั่น ปรับอักขรวิธีให้ เป็นปัจจุบัน ทั้งเรียบเรียงบทน ำเรื่องและจัดพิมพ์เผยแพร่เพื่อเป็นกำรรักษำต้นฉบับ ไว้มิให้สูญ กรมศิลปำกรหวังว่ำหนังสือ “บทละครนอกเรื่องแก้วหน้ำม้ำ” นี้ จะอ ำนวยประโยชน์แก่นักเรียน นักศึกษำ ครูอำจำรย์ ตลอดจนผู้สนใจวรรณคดีไทยโดยทั่วกัน ผู้จัดท ำ นำงสำวอภิญญำ พิลำดี
ข สำรบัญ ค ำน ำ ก สำรบัญ ข ประวัติควำมเป็นมำ 1 ตัวละคร 2 เนื้อเรื่องย่อ 6 เนื้อเรื่อง มณีพิไชย 7 ข้อคิดที่ได้จำกเรื่องมณีพิชัย 9 บทละคร เรื่องมณีพิไชย 11 ผลกำรศึกษำพบว่ำ 22 -อ ำนำจของกำรกินแมว 26 -อ ำนำจของควำมเป็นแม่ย่ำและลูกสะใภ้ 28 บรรณำนุกรม 31
๑ ประวัติควำมเป็นมำ เป็นที่รู้จักกันในชื่อเรื่องว่ำ "ยอพระกลิ่น" เข้ำใจกันว่ำเป็นบทพระรำชนิพนธ์ในล้นเกล้ำ รัชกำลที่ ๒ โดย ทรงพระรำชนิพนธ์เป็นกลอนส ำหรับใช้เป็นบทละครนอก ซึ่งควำมจริงร.๒ แต่งเฉพำะตอนที่ยอพระกลิ่น ปลอม ตัวเป็นพรำหมณ์มำขอพระมณีพิไชยไปเป็นทำส ส่วนเนื้อเรื่องตำมต้นเรื่องและบทท้ำยนั้น จำกหนังสือ "รวม พระรำชนิพนธ์บทละครนอก ๖ เรื่อง" ไม่ได้ระบุว่ำใครเป็นผู้แต่ง ซึ่งทำงสถำนีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 โดย บริษัท สำมเศียร จ ำกัด และ บริษัท ดำรำวิดีโอ จ ำกัดเคยน ำมำสร้ำงเป็นละครพื้นบ้ำนแนวจักรๆวงศ์ๆในชื่อ ยอ พระกลิ่น โดยผู้รับบท มณีพิชัย คือ ชำตรี พิณโณ และผู้รับบทยอพระกลิ่นคือ กบ สุวนันท์ คงยิ่ง โดยละครเรื่อง นี้ออกอำกำศเมื่อ ปี 2535 ประวัติผู้แต่ง พระบำทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้ำนภำลัย พระบำทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้ำนภำลัย ยุคสมัย รัตนโกสินทร์,รัชกำลที่ 2 ควำมมุ่งหมำย เพื่อควำมบันเทิงของประชำชน ค ำประพันธ์ บทละครนอก ฉันทลักษณ์ กลอนบทละคร
๒ ตัวละคร ยอพระกลิ่น คำแรคเตอร์: หญิงสำวรูปร่ำงสะโอดสะอง ผิวขำวนวล กำยมีกลิ่นหอม ของดอกไม้สวรรค์ นัยต์ตำกลมโตสีเขียว เพรำะเป็นบุตรสำวของพระอินทร์กับนำงเกศนี เพรำะโตในกระบอกไม้ไผ่ ไม่เคยได้เจอผู้คน จึงขี้อำย และไม่ทันคน เป็นคนมีควำมจริงใจ จิตใจดี พูดจำไพเรำะอ่อนหวำน และมองโลกในแง่ดี ตลอดเวลำ ยอพระกลิ่น(พรำหมณ์) คำแรคเตอร์: ยอพระกลิ่นในร่ำงพรำหมณ์หนุ่ม เจ้ำเล่ห์ ฉลำดหลักแหลม ขี้เล่น พระมณีพิชัย คำแรคเตอร์: หนุ่มรูปงำม รำชกุมำรแห่งเมืองรัตนมณี รูปร่ำงสูงสง่ำ เฉลียวฉลำด อ่อนโยน เป็นคนมีคุณธรรม และมั่นคงในรัก
๓ พระอินทร์ คำแรคเตอร์: พ่อยอพระกลิ่น เจ้ำแห่งสวรรค์ เบื้องหน้ำเข้มงวดและเด็ดขำด แต่ลึกๆแล้วใจอ่อน ขี้สงสำร และอ่อนโยน ท้ำวพิชัยนุรำช คำแรคเตอร์: เจ้ำเมืองรัตนมณี พ่อของมณีพิชัย เป็นตำแก่ตัวอ้วนใจดีอบอุ่น หัวเรำะทั้งวันเหมือนลุงเคน มีควำมยุติธรรม และรักชำวเมือง ท ำให้ชำวเมืองรักและ จงรักภักดีมำก นำงจันทรมเหสี คำแรคเตอร์: แม่ของมณีพิชัย เจ้ำระเบียบ กฎต้องว่ำไปตำมกฏ เห็นควำมเจริญรุ่งเรืองของบ้ำนเมืองเป็นหลัก คิดว่ำทุกคนจะต้องท ำเพื่อบ้ำนเมือง จะท ำเพื่อตัวเอง ไม่ได้รักและห่วงลูกชำยมำก
๔ โบตั๋น คำแรคเตอร์: องค์หญิงชำวจีนผู้งดงำม อรชรอ้อนแอ้น คู่หมั้นของเจ้ำชำยมณีพิชัย (ผู้ใหญ่หมั้นหมำยตั้งแต่ยังไม่เกิด) นิสัยเอำแต่ใจ พระเจ้ำกรุงจีน คำแรคเตอร์: เจ้ำเมืองจีน ผู้มีอ ำนำจน่ำเกรงขำมในชุดฮ่องเต้ หนวดเครำยำวแววตำดุร้ำยและหยิ่งในศักดิ์ศรี เพื่อนสมัยเรียนของจันทรมเหสี (พระมำรดำของ เจ้ำชำยมณีพิชัย) นนทกำร คำแรคเตอร์: ทหำรเอกเมืองยักษ์ ตัวใหญ่ เต็มไปด้วยพละก ำลัง แต่ค่อนข้ำงโง่ ถูกหลอกได้ง่ำย และโลภมำก
๕ นำงผกำ คำแรคเตอร์: เจ้ำหญิงเมืองยักษ์ เกลียดกำรเป็นยักษ์ ชอบที่จะแปลงร่ำงเป็นสำวงำม และไม่กินมนุษย์ ปกติจะอ่อนหวำน แต่ถ้ำโมโหจะควบคุมอำรมณ์ไม่อยู่ และกลำยเป็นนำงยักษ์ที่น่ำกลัวทันที นำงยักษ์ (แม่นำงผกำ) คำแรคเตอร์: รำชินีเมืองยักษ์ ร่ำงอ้วน เห็นแก่กิน ชอบกำรสังสรรค์เฮฮำและเอะอะโวยวำย รักลูกสำวปำนดวงใจ และปวดใจที่ลูกสำวไม่ชอบกำรเป็นยักษ์ นำงเกศนี คำแรคเตอร์: แม่ยอพระกลิ่นรูปโฉมงดงำมเป็นที่เลื่องลือไปทุกสำรทิศเป็นที่หมำยปองของชำยทั่วหล้ำกิริยำอ่อนหวำนนุ่มนวล
๖ เนื้อเรื่องย่อ กล่ำวถึงนำงจันทรพระมำรดำของมณีพิชัยไปสรงน้ ำยังสระบัวนำงเห็นดอกบัวลอยน้ ำก็เก็บแซม ผมงูในดอกบัวกัดนำงสิ้นชีวิตพระพิชัยนุรำชให้เสนำไปป่ำวประกำศหำหมอมำรักษำพรำหมณ์ยอพระกลิ่นรับ อำสำแต่มีเงื่อนไขว่ำต้องจัดวอทองออกมำรับมณีพิชัยเห็นพรำหมณ์มีรูปร่ำงหน้ำตำคล้ำยนำงยอพระกลิ่นก็เกิด ควำมสงสัยจึงพยำยำมเข้ำใกล้เพื่อพิสูจน์ควำมจริงแต่ไม่เป็นผลพรำหมณ์รักษำนำงจันทร์ฟื้นแล้วจึงขู่ถำมเรื่อง นำงยอพระกลิ่นนำงกลัวจึงยอมบอกควำมจริงว่ำตนเป็นผู้กลั่นแกล้งพระพิชัยนุรำชแอบฟังอยู่รู้ควำมจริง ทั้งหมดพระองค์โกรธมำกจึงเข้ำไล่ทุบตีนำงจันทรพรำหมณ์ขอสิ่งตอบแทนค่ำรักษำโดยน ำมณีพิชัยไปเป็นทำสที่ ศำลำในป่ำแล้วแกล้งลองใจว่ำตนจะออกไปหำเครื่องยำในป่ำและจะให้น้องสำวมำอยู่เป็นเพื่อแล้วพรำหมณ์ก็ แปลงตนเป็นน้องสำวพรำหมณ์มำยั่วยวนมณีพิชัยแต่มณีพิชัยไม่แสดงอำกำรยินดทั้งๆที่สงสัยว่ำเหตุใดน้องสำว พรำหมณ์จึงเหมือนกับนำงยอพระกลิ่นเพียงแต่กำยไม่มีกลิ่นหอมเท่ำนั้นครั้นตกเย็นน้องสำวพรำหมณ์กลับ ออกไปพรำหมณ์กลับเข้ำมำในศำลำและต่อว่ำมณีพิชัยว่ำเกี้ยวพำรำสีน้องสำวตนมณีพิชัยปฏิเสธพรำหมณ์ยอม เชื่อ
๗ เนื้อเรื่อง มณีพิไชย ท้ำววรกรรณ และ พระนำงบุษบง ได้จัดงำนเลือกคู่พระธิดำ ชื่อ เกศนี มีรำชำ และเจ้ำชำยจำกต่ำงเมือง มำเลือกคู่มำกมำยแต่นำงกลับเลือกชำยที่สติไม่เต็มท้ำววรกรรณจึงขับไล่ออกนอกวังชำยบ้ำใบ้จึงคืนร่ำงกลำย เป็นพระอินทร์ดังเดิม และพำนำงเกศนีขึ้นไปอยู่บนสวรรค์จนมีลูก แต่ทวยเทพจะมีลูกไม่ได้ผิดธรรมเนียม จึงน ำ ลูกที่ชื่อยอพระกลิ่นมำไว้ในปล้องไผ่ แล้วเสกของอ ำนวยควำมสะดวกให้แก่ยอพระกลิ่นจนโตเป็นสำว ท ำให้ ปล้องไผ่นั้นหอมอบอวล มณีพิชัย โอรสท้ำวพิไชยนุรำช และ นำงจันทร แห่งกรุงอยุธยำได้ออกมำเที่ยว ได้กลิ่นจำกปล้องไผ่ จึงใช้ดำบ ฟันปล้องไผ่ และปรำกฏร่ำงหญิงสำว ชื่อ ยอพระกลิ่น จำกนั้นก็พำนำงเข้ำวัง และบอกกับเสด็จพ่อเสด็จแม่ว่ำ ยอพระกลิ่นเป็น ชำยำของตน ท้ำวพิไชยนุรำชดีใจมำก แต่ฝ่ำยแม่กลับเกลียดซังนำงยอกพระกลิ่นอย่ำงยิ่ง เพรำะลูกของตนได้หมั้นหมำยกับองค์หญิงแห่งกรุงจีนไปแล้ว วันหนึ่งนำงจันทรคิดแกล้งยอพระกลิ่น จึงบอกสำวใช้เอำเลือดแมวและศพแมวไปทิ้งไว้ในห้องยอพระกลิ่น รุ่ง ขึ้น นำงจันทรจึงบอกกับท้ำวพิไชยนุรำชว่ำ นำงยอพระกลิ่นเป็นกระสือ ให้ไล่ออกไป เพรำะหลักฐำนและ พยำนแน่นหนำ นำงยอพระกลิ่นจึงถูกขับไล่ออกจำกวัง หลังจำกนั้นพ่อของยอพระกลิ่น ได้ลงมำบอกให้ลูกสำว แปลงกำยเป็นพรำหมณ์ รอแก้แค้นอยู่ที่อำศรมริมสระน้ ำ
๘ วันหนึ่งนำงจันทรมำอำบน้ ำที่สระได้ถูกงูผิดที่แอบอยู่กับดอกบัวกัด นำงเจ็บปวดมำก พรำหมณ์ตำมไป บอก นำงว่ำจะรักษำพิษงูให้ หำกนำงยอมบอกควำมจริงว่ำยอพระกลิ่นไม่ได้กินแมว แต่หำกไม่ยอมบอกจะปล่อยให้ ตำย นำงจึงเล่ำควำมจริงให้ฟัง พอรักษำพิษงูได้ พรำหมณ์ก็เอ่ยปำกขอมณีพิชัยไปเป็นทำสสักระยะหนึ่ง รำชำ ก็ตกลง มณีพิชัยอยู่รับใช้พรำหมณ์ที่อำศรมเป็นเวลำนำนหลำยเดือน ถึงแม้พรำหมณ์ยอพระกลิ่นจะแปลงกำยเป็นสำว สวยมำลวงล่อให้หลงรัก แต่มณีพิชัยก็ไม่ชำยตำแล พรำหมณ์ยอพระกลิ่นเห็นว่ำ ผัวของตนซื่อสัตย์กับตนเองจึง คืนมณีพิชัยให้แก่เมืองอยุธยำดังเดิม ทำงกรุงจีนเมืองปักกิ่งได้เร่งรัดให้ทำงเมืองอยุธยำมำแต่งงำนองค์หญิงเล็กเร็ว ๆ สักที เจ้ำชำยมณีพิชัยจึงต้อง ไปอภิเษกกลัวจะเกิดสงครำมใหญ่ พรำหมณ์ยอพระกลิ่นจึงขอตำมไปด้วย พอไปถึงเจ้ำกรุงจีนได้ทรำบว่ำมณี พิชัยได้มีชำยำแล้วจึงแกล้งให้มณีพิชัยยกขันหมำกมำ 1,000 ชุด หำกไม่ได้จะถูกประหำร ทั้งสองจึงหนีหลงเข้ำไปในเมืองยักษ์ สลบไร้สติเพรำะมนต์แห่งเมืองยักษ์ นำงวำสันจึงจับมณีพิชัยไปให้นำงผกำ ลูกสำวที่ต ำหนัก จนพรำหมณ์ฟื้นเห็นนำงผกำอยู่กับผัวของตนที่ต ำหนัก ก็พร่ ำร ำพันต่ำงๆนำนำ แล้วก็แปลง กำยเป็นนำงยอพระกลิ่นดังเดิมจนหมดสติไปอีก พระอินทร์จึงต้องมำแก้ไขเรื่องรำวแล้วเหำะมำส่งที่เมือง อยุธยำ ทั้งสองจึงจัดงำนอภิเษกที่ยิ่งใหญ่ และครองรักกันอย่ำงมีควำมสุข
๙ ข้อคิดที่ได้จากเรื่องมณีพิชัย ปัญหำครอบครัวที่สะท้อนให้เห็นจำกเรื่องมณีพิชัยนั้น สำเหตุหลักน่ำจะเกิดขึ้นจำกลักษณะนิสัย ของตัวละครในเรื่อง ซึ่งมีทั้งควำมรัก โลภ โกรธ หลง อยู่ภำยในจิตใจ และอีกสำเหตุหนึ่ง คือ ตัวละครฝ่ำยชำย ที่ไม่พิถีพิถันในกำรเลือกคู่ครองนั้นเป็นสำเหตุให้เกิดปัญหำระหว่ำงฝ่ำยหญิงกับเครือญำติของตน เช่น ในเรื่อง มณีพิชัยทั้งพ่อแม่และมณีพิชัยเองต่ำงไม่มีใครทรำบถึงภูมิหลังของนำงยอพระกลิ่นเลย เมื่อมณีพิชัยพบนำงยอ พระกลิ่นในปล้องไม้ไผ่เกิดต้องใจก็พำนำงเข้ำเมืองเลย ท ำให้เกิดปัญหำภำยหลัง คือนำงจันทรต้องกำรให้มณี พิชัยแต่งกับรำชธิดำพระเจ้ำกรุงจีน เพรำะนำงยอพระกลิ่นไม่มีชำติตระกูลไม่เหมำะสมกับมณีพิชัย ตัวกำรส ำคัญที่มีผลท ำให้ครอบครัวแตกแยกมำกที่สุด คือนำงจันทรเทวี ผู้เป็นแม่ของพระมณีพิชัย ที่ต้องกำรได้ลูกสำวพระเจ้ำกรุงจีนผู้ซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่เขย มำเป็นลูกสะใภ้ แต่กลับพบว่ำ พระมณีพิชัยได้นำงยอ พระกลิ่นมำเป็นพระชำยำแล้ว จึงออกอุบำย ใส่ร้ำยนำงยอพระกลิ่น ดังที่นำงได้สำรภำพหลังจำกที่นำงยอพระ กลิ่นปลอมตัวเป็นพรำหมณ์มำรักษำว่ำ แม่กลัวกรุงจีนจะโกรธำ ยกมำรบพุ่งเอำกรุงใหญ่ จึงแกล้งท ำแยบยลกลใน พำโลลูกสะใภ้ด้วยมำรยำ เอำเลือดวิฬำร์ทำปำกนำง ตัดหำงแซมใส่ในเกศำ แล้วขับไล่ไปเสียจำกพำรำ พำลผิดริษยำนำงทรำมวัย แม่ท ำชั่วน่ำชังครั้งนี้ เพรำะจะให้พระมณีมีเมียใหม บอกเจ้ำตำมจริงทุกสิ่งไป อย่ำให้แม่ม้วยชีวี นำงจันทรเทวี อ้ำงว่ำกลัวพระเจ้ำกรุงจีนจะโกรธและยกทัพมำ แต่ลึก ๆ แล้วนำงก็คงไม่อยำกได้หญิงที่ไม่มีหัว นอนปลำยเท้ำมำเป็นลูกสะใภ้ จึงออกอุบำยเพื่อที่จะก ำจัดนำงยอพระกลิ่นแบบนี้ เพรำะนำงจันทรเทวียึดติดอยู่ กับชำติตระกูลมำกเกินไป พระมณีพิชัย ก็มีถือว่ำมีส่วน คือ มีไม่หนักแน่น มีควำมอ่อนแอและหูเบำ เมื่อได้นำงยอพระกลิ่น มำก็ไม่บอกให้พ่อแม่รับรู้ ปล่อยให้พ่อแม่รับปำกว่ำจะให้แต่งงำนกับธิดำพระเจ้ำกรุงจีน จึงเกิดเรื่องรำว วุ่นวำยขึ้น ทั้งยังไม่คิดจะช่วยเหลือ หรือสอบสวนข้อเท็จจริง ตอนที่นำงยอพระกลิ่นถูกใส่ร้ำย โดยยินยอมให้ น ำตัวไปฝังทั้งเป็น ซึ่งอำจเกิดจำกควำมที่พระมณีพิชัยเองก็ ไม่แน่ใจในตัวนำงยอพระกลิ่นเช่นกัน ควำมยุ่งยำกที่เกิดขึ้นในเรื่องมณีพิชัยนี้จึงนอกจำกอิทธิพลของกำรเลือกคู่ครองที่กล่ำวในข้ำงต้น แล้วพอจะสรุปได้ว่ำ เกิดจำกควำมหลงในอ ำนำจชำติตระกูลของนำงจันทรเทวี ส่งผลให้ออกอุบำยใส่ร้ำยนำงยอ พระกลิ่น และควำมไม่มั่นใจในตัวคนรักของพระมณีพิชัย ที่ไม่เชื่อใจคนรักของตน ทั้งหมดนี้จึงเกิดเป็นปัญหำ ครอบครัวแตกแยก เกิดกำรพลัดพรำกและต้องติดตำมหำตัวกันตลอดทั้งเรื่อง
๑๐ ผู้แสดง ในสมัยโบรำณจะใช้ผู้ชำยแสดงล้วนผู้แสดงจะต้องมีควำมคล่องแคล่วในกำรร ำและร้องมี ควำมสำมำรถที่จะหำค ำพูดมำใช้ในกำรแสดงได้อย่ำงทันท่วงทีกับเหตุกำรณ์ เพรำะขณะแสดงต้องเจรจำเอง กำรแต่งกำย ในขั้นแรกตัวละครแต่งตัวอย่ำงคนธรรมดำสำมัญเป็นเพียงแต่งให้รัดกุมเพื่อแสดงบทบำทได้ สะดวก ตัวแสดงบทเป็นตัวนำงก็น ำเอำผ้ำขำวม้ำมำห่มสไบเฉียง ให้ผู้ชมละครทรำบว่ำผู้แสดงคนนั้นก ำลังแสดง เป็นตัวนำง ถ้ำแสดงบทเป็นตัวยักษ์ก็เขียนหน้ำหรือใส่หน้ำกำกต่อมำมีกำรแต่งกำยให้ดูงดงำมมำกขึ้น วิจิตร พิสดำรขึ้น เพรำะเลียนแบบมำจำกละครใน บำงครั้งเรียกกำรแต่งกำยลักษณะนี้ว่ำ "ยืนเครื่อง" กำรแสดง กำรแสดงละครนอกมีควำมมุ่งหมำยในกำรแสดงเรื่องมำกกว่ำควำมประณีตในกำรร่ำยร ำ ฉะนั้น ในกำรด ำเนินเรื่องจะรวดเร็ว ตลกขบขัน ไม่พิถีพิถันในเรื่องของขนบธรรมเนียมประเพณี กำรใช้ถ้อยค ำของผู้ แสดง มักใช้ถ้อยค ำ "ตลำด" เป็นละครที่ชำวบ้ำนเรียกกันเป็นภำษำธรรมดำว่ำ "ละครตลำด" ทั้งนี้เพื่อให้ทันอก ทันใจผู้ชมละคร ดนตรี มักนิยมใช้วงปี่พำทย์เครื่องห้ำ ก่อนกำรแสดงละครนอก ปี่พำทย์จะบรรเลงเพลงโหมโรงเย็น เป็น กำรเรียกคนดู เพลงโหมโรงเย็นประกอบด้วย เพลงสำธุกำร ตระ รัวสำมลำ เข้ำม่ำน ปฐม และเพลงลำ เพลงร้อง มักเป็นเพลงชั้นเดียว หรือเพลง 2 ชั้น ที่มีจังหวะรวดเร็ว มักจะมีค ำว่ำ "นอก" ติดกับชื่อเพลง เช่น เพลงช้ำปี่นอก โอ้โลมนอก ปีนตลิ่งนอก ขึ้นพลับพลำนอก เป็นต้น มีต้นเสียง และลูกคู่ บำงทีตัวละครจะร้องเอง โดยมีลูกคู่รับทวน มีคนบอกบทอีก 1 คน บทร้องจำกเรื่องมณีพิชัย ที่นิยมน ำไปร้องเพลง โอ้ลำว เพลงโอ้ลำวจัดอยู่ในประเภทเพลงเร็วของโบรำณ ในอัตรำสองชั้นและชั้นเดียว ประเภทหน้ำทับ สองไม้ และต่อมำมีผู้คิดขยำยเป็นอัตรำสำมชั้นหลำยทำง โดยทำงที่นิยมน ำมำบรรเลงกัน เป็นทำงของหลวง ประดิษฐ์ไพเรำะ ซึ่งแต่รำวพ.ศ. 2456 ท่วงท ำนองอ่อนหวำน โศก ซึ้ง ใช้บรรเลงในควำมหมำยถึงกำรคร่ ำครวญ ร ำพึงร ำพันถึงควำมทุกข์ยำกในขณะเดินทำงไกล หรือแสดงควำมอำลัยอำวรที่ต้องจำกถิ่นที่อำศัย สถำนที่แสดง โรงละครเป็นรูปสี่เหลี่ยมดูได้3 ด้ำน (เดิม) กั้นฉำกผืนเดียวโดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงไปตำม ท้องเรื่อง มีประตูเข้ำออก 2 ทำง หน้ำฉำกตรงกลำงตั้งเตียงส ำหรับตัวละครนั่ง ด้ำนหลังฉำกเป็นส่วนส ำหรับตัว ละครพักหรือแต่งตัว
๑๑ บทละครเรื่องมณีพิไชย ตอนพรำหมณ์ยอพระกลิ่นขอพระมณีพิไชยไปเป็นทำส ช้ำ ๏ เมื่อนั้น นำงจันทรเทวีศรีใส อินทรำมำเข้ำดลใจ พเอิญให้ร้อนรนพ้นปัญญำ คิดจะใคร่ไปสรงชลธียังที่ฉนวนน้ ำประจ ำท่ำ ชวนฝูงก ำนัลในไคลคลำ ลีลำมำสู่ต ำหนักแพ ฯ ๔ ค ำ ฯ เพลงช้ำ ร่ำย ๏ ครั้นถึงจึงลงสรงสนำน กับบริวำรข้ำสำวชำวแม่ หัวระริกซิกซี้กันซ้อแซ้ชุมแช่ชลธำรส ำรำญใจ ฯ ๒ ค ำ ฯ เพลงฉิ่ง เจรจำ ๏ นำงจันทรทอดทัศนำ เห็นดอกบัวลอยมำในน้ ำไหล ไม่แจ้งว่ำงูร้ำยอยู่ภำยใน ครั้นเข้ำมำใกล้ก็หยิบเอำ กลิ่นหอมรวยรื่นชื่นอำรมณ์นำงเชยชมดมแล้วดมเล่ำ แซมมวยเล่นลองต้องเบำเบำ งูงอดตอดเอำพระเศียรนำง พิศม์สงกลัดกลุ้มคลุ้มจิตร ดังหนึ่งชีวิตรจะจำกร่ำง ขึ้นมำบนฉนวนครวญครำง นวลนำงซอนซบสลบลง ฯ ๖ ค ำ ฯ โอด ๏ บัดนั้น ก ำนัลนำงต่ำงคนตลึงหลง บ้ำงเข้ำประคองต้ององค์เห็นโฉมยงแน่นิ่งไม่ติงกำย บ้ำงว่ำงูขบสลบไป ท ำกะไรกะนี้จึงจะหำย บ้ำงวิ่งไปถึงโรงฝีพำย หำหมอผู้ชำยก็ไม่มี ฯ ๔ ค ำ ฯ เจรจำ
๑๒ ๏ บรรดำข้ำหลวงทั้งปวงนั้น ต่ำงตระหนกอกสั่นขวัญหนี เข้ำกลุ้มอุ้มองค์เทวีพำไปยังที่พระบรรธม ฯ ๒ ค ำ ฯ เชิด ๏ เถ้ำแก่ท้ำวนำงต่ำงตกใจ อลหม่ำนอกไหม้ไส้ขม บ้ำงไปเรียกขอเฝ้ำเจ้ำกรม บ้ำงขึ้นมำบังคมทูลคดี ฯ ๒ ค ำ ฯ เจรจำ ๏ เมื่อนั้น ท้ำวพิไชยนุรำชเรืองศรี ครั้นรู้ก็รีบจรลีพระมณีพิไชยก็ไคลคลำ ฯ ๒ ค ำ ฯ เชิด ๏ นั่งลงทรงลูบปฤษฎำงค์กำยนำงเย็นฉ่ ำดังน้ ำท่ำ ตกใจส ำคัญว่ำกัลยำ มอดม้วยมรณำก็จำบัลย์ ฯ ๒ ค ำ ฯ โอด ๏ จึงตรัสสั่งลูกรักให้เร่งหำ หมองูเข้ำมำขมีขมัน ใครแก้ไขให้หำยจะรำงวัล แพรพรรณเงินทองล้วนของดี ฯ ๒ ค ำ ฯ เจรจำ ๏ เมื่อนั้น พระโอรสรับสั่งใส่เกษี มำหำหมอวุ่นวิ่งเปนสิงคลีอึงมี่ตึงตังทั้งวังใน ฯ ๒ ค ำ ฯ เจรจำ ๏ มดหมอแก้ไขก็นักหนำ นำงจะฟื้นคืนมำก็หำไม่ จึงให้ตีฆ้องร้องป่ำวไป หมองูอยู่ที่ไหนเอำตัวมำ ฯ ๒ ค ำ ฯ เจรจำ ลำวปีนตลิ่ง ๏ เมื่อนั้น โฉมเจ้ำพรำหมณ์น้อยละห้อยหำ นั่งอยู่ยังบรรณศำลำ เห็นเขำมำร้องป่ำวก็เข้ำใจ ชรอยท่ำนแม่ผัวตัวอิจฉำ บำปหนำงูขบสลบไสล เหมือนค ำโกสีย์ที่สำปไว้สมน้ ำหน้ำสำใจนำงเทวี
๑๓ ฯ ๔ ค ำ ฯ ร่ำย ๏ ครั้นหยุดเสียงฆ้องก็ร้องถำม ถ้อยควำมอะไรขำว่ำเมื่อกี้ เชิญแวะมำหำข้ำข้ำงนี้เล่ำคดีให้ฟังมั่งเปนไร ฯ ๒ ค ำ ฯ ๏ บัดนั้น เสนำฟังพรำหมณ์ถำมไถ่ จึงบอกว่ำมเหษีของท้ำวไท งูขบสลบไปไม่ฟื้นองค์ หมองูเอำยำทำถวำย ก็ไม่คลำยสักนิดที่พิศม์สง ถ้ำใครแก้ฟื้นคืนคง พระองค์จะให้ทองเท่ำลูกฟัก เข้ำใจมั่งฤๅพ่อเปนหมองูชีพรำหมณ์ควำมรู้มักแหลมหลัก ปำกเปรำะเรำะรำยมำทำยทัก จะรับรักษำได้ฤๅไรนำ ฯ ๖ ค ำ ฯ ๏ เมื่อนั้น เจ้ำพรำหมณ์ยิ้มพลำงทำงว่ำ ข้ำเจ้ำเปนหมองูรู้มนตรำ จะรักษำก็ได้เปนไรมี ฯ ๒ ค ำ ฯ เจรจำ ๏ บัดนั้น เสนำได้ฟังถ้วนถี่ จึงว่ำขอเชิญเจ้ำพรำหมณ์ชีไปรักษำมเหษีท้ำวไท ฯ ๒ ค ำ ฯ ๏ เมื่อนั้น เจ้ำพรำหมณ์กล่ำวแกล้งแถลงไข เท้ำข้ำป่วยเจ็บเปนเหน็บไป เดินเหินไม่ได้ณเสนำ ท่ำทำงกลำงดงก็กันดำร แม้นท่ำนจะให้ไปรักษำ จงไปทูลอำกำรพระผ่ำนฟ้ำ ให้เอำวอออกมำรับเรำ ฯ ๔ ค ำ ฯ ๏ บัดนั้น เสนีดีใจใครจะเท่ำ ซักไซ้ได้ควำมตำมล ำเนำ แล้วกลับเข้ำบุรีเร็วพลัน ฯ ๒ ค ำ ฯ เชิด
๑๔ ๏ ครั้นถึงทูลแถลงแจ้งควำม ข้ำไปพบเจ้ำพรำหมณ์ในไพรสัณฑ์ เปนหมองูรู้จบครบครัน หยูกยำว่ำขยันเคยทดลอง จะพำมำด้วยก็ป่วยท้ำว เดินก้ำวไม่ถนัดขัดข้อง สั่งมำว่ำจะขอเอำวอทอง ไปรับรองจึงเจ้ำจะเข้ำมำ ฯ ๔ ค ำ ฯ เจรจำ ๏ เมื่อนั้น ท้ำวพิไชยนุรำชนำถำ ได้ฟังจึงสั่งเสนำ อย่ำช้ำเร่งรัดกันบัดนี้ วอทองของกูที่ท ำใหม่ จงเอำไปให้เจ้ำพรำหมณ์ขี่ เชื้อเชิญพูดจำให้จงดีรับเจ้ำพรำหมณ์ชีเข้ำมำ ฯ ๔ ค ำ ฯ ๏ บัดนั้น เสนีรับสั่งใส่เกษำ มำจัดแจงแต่งวอช่อฟ้ำ เสร็จแล้วก็พำกันคลำไคล ฯ ๒ ค ำ ฯ เชิด ๏ ครั้นถึงจึงบอกแก่เจ้ำพรำหมณ์เล่ำควำมจะแจ้งแถลงไข บัดนี้พระองค์ทรงภพไตร สั่งให้มำรับฉับพลัน ฯ ๒ ค ำ ฯ จรเข้หำงยำว ๏ เมื่อนั้น เจ้ำพรำหมณ์เพรำเพริศเฉิดฉัน ในจิตรคิดจะใคร่จรจรัล ไปประสบพบกันกับผัวรัก แต่เมียพลัดพรำกจำกมำ พระจะแสนโศกำเพียงอกหัก วันนี้เข้ำไปได้พบภักตร์จะรู้จักเมียบ้ำงฤๅอย่ำงไร คิดคนึงถึงควำมเสนหำ จะอดกลั้นโศกำมิใคร่ได้ เห็นเขำแลดูอดสูใจ ท ำเมียงเมินเดินไปในศำลำ ฯ ๖ ค ำ ฯ
๑๕ ร่ำย ๏ อำบน้ ำช ำระสระสรวย หวีผมเกล้ำมวยแล้วนุ่งผ้ำ มำขึ้นวอสุวรรณมิทันช้ำ ทั้งสี่เสนำก็น ำไป ฯ ๒ ค ำ ฯ เชิด ๏ มำถึงปรำกำรกั้นชั้นสอง จึงลงจำกวอทองผ่องใส เถ้ำแก่ท้ำวนำงข้ำงใน ออกไปรับเจ้ำพรำหมณ์ให้ตำมมำ ฯ ๒ ค ำ ฯ เพลง ช้ำปี่ ๏ เมื่อนั้น พระมณีพิไชยใฝ่ฝันหำ เห็นโฉมเจ้ำพรำหมณ์งำมโสภำ กิริยำรูปร่ำงเหมือนนำงเมีย แล้วจะเปนยอพระกลิ่นเมียพี่ ที่พระชนนีขับเสีย ร้อนอกหมกไหม้ดังไฟเลีย ส ำคัญคิดว่ำเมียก็เข้ำมำ แย้มยิ้มหยอกยุดฉุดข้อมือ ไปไหนน้อยฤๅพึ่งเห็นหน้ำ พิศวงหลงใหลไขว่คว้ำ อนิจำถอยหนีพี่ไย ฯ ๖ ค ำ ฯ ร่ำย ๏ เมื่อนั้น เจ้ำพรำหมณ์ปัดกรค้อนให้ แลสบหลบเนตรภูวไนย แย้มยิ้มละไปไปมำ คิดคนึงถึงควำมเมื่อยำมรัก สงสำรพระทรงศักดิเปนนักหนำ ชลเนตรคลอคลองไนยนำ เมียงเมินภักตรำไม่พำที ฯ ๔ ค ำ ฯ ๏ เมื่อนั้น พระมณีพิไชยโฉมศรี จึงกุมกรเจ้ำพรำหมณ์จรลีมำนั่งเหนือแท่นที่อันเดียวกัน คิดพะวงสงไสยอยู่ไม่วำย เหมือนลม้ำยยอพระกลิ่นเมียขวัญ จะใคร่รู้ข้อข ำส ำคัญ จึงถำมไถ่ไปพลันทันที นำมกรของเจ้ำนั้นชื่อไร อย่ำใส่ไคล้ย้อนยอกจงบอกพี่ สุริวงศ์พงศ์เผ่ำของเจ้ำมีฤๅก ำเนิดเกิดที่แห่งใด อันถิ่นฐำนบ้ำนช่องน้องรัก แรกเริ่มเดิมส ำนักอยู่ที่ไหน บอกพี่เถิดเจ้ำพรำหมณ์อย่ำขำมใจ เหตุไรมำอยู่ที่ศำลำ ฯ ๘ ค ำ ฯ
๑๖ ๏ เมื่อนั้น เจ้ำพรำหมณ์ยิ้มเยื้อนเบือนหน้ำ เสแสร้งแกล้วกล่ำววำจำ พระอย่ำกินแหนงแคลงใจ ตัวข้ำชื่อว่ำอำริยพรำหมณ์ขนำนนำมตำมสังเกตเพศไสย บิดรมำรดำข้ำบรรไลย แต่อำยุข้ำได้สิบปี จึงเที่ยวสัญจรซอนซอก อยู่บ้ำนนอกปลำยแดนกรุงศรี เรียนวิชำหำครูควำมรู้ดีแล้วมำอยู่ยังที่ศำลำ ฯ ๖ ค ำ ฯ ๏ เมื่อนั้น พระมณีนิ่งฟังให้กังขำ ถ้อยค ำน้ ำเสียงจ ำนรรจำ เหมือนเสียงแก้วแววตำของพี่ชำย ขนงเนตรเกษแก้มแย้มเยื้อน ลม้ำยเหมือนยอพระกลิ่นโฉมฉำย กิริยำพำทีก็ขวยอวย ผิดชำยนักหนำน่ำอัศจรรย์ ถอยถดขยดเข้ำนั่งชิด ทอดสนิทติดใจใฝ่ฝัน จะใคร่ดูให้รู้ส ำคัญ เปนไรนั่นกลิ่นอำยก็หำยไป นิ่งนึกตรึกถวิลยังกินแหนง จึงแสแสร้งแกล้งกล่ำวถำมไถ่ ยำมร้อนผ้ำผ่อนเจ้ำห่มไย ซื้อฤๅใครให้จึงได้มำ เนื้อหนังดีหนอจะขอชม เจ้ำพรำหมณ์ห่มสมตัวนักหนำ ฉุดชิงชำยสไบไขว่คว้ำ ไนยนำแลลอดสอดดู ไม่เห็นแยบคำยก็อำยใจ ทอดถอนใจใหญ่แล้วยิ้มอยู่ แก้เก้อนั่งกัดปูนพลูอดสูแก่ใจไม่เจรจำ ฯ ๑๒ ค ำ ฯ ๏ เมื่อนั้น เจ้ำพรำหมณ์ยิ้มพลำงทำงว่ำ ผ้ำของข้ำนี้ที่ห่มมำ ไปรักษำคนไข้เขำให้ปัน ไม่เคยพบผ้ำฤๅเอำมือหยิบ มิใช่ว่ำผ้ำทิพย์ผ้ำสวรรค์ ประเพณีชีพรำหมณ์พรหมจรรย์ห่มผ้ำมำกระนั้นตำมธรรมเนียม ข้ำเจ้ำนี้ฤๅคนซื่อตำย ไม่รู้ท ำแยบคำยอำยเหนียม เปนคนโง่เง่ำไม่เท่ำเทียม สงบเสงี่ยมอยู่ตำมพรำหมณ์ชี อย่ำท ำลำมลวนหำควรไม่สบัดกรค้อนให้แล้วลุกหนี ไปรับมำให้รักษำชนนีก่นแต่เฝ้ำเซ้ำซี้ร ำคำญใจ ฯ ๘ ค ำ ฯ
๑๗ ๏ เมื่อนั้น พระมณีนึกพะวงสงไสย ด ำเนินเดินตำมเจ้ำพรำหมณ์ไป รอเรียงเคียงไหล่ช ำเลืองดู จึงว่ำตัวเจ้ำก็เปนชำย ไม่พอที่จะอำยอดสู หำมำจะให้ปัดพิศม์งูจงท ำตำมควำมรู้ที่เรียนไว้ เครื่องเทศเครื่องไทยอะไรมั่ง พี่จะสั่งให้เขำเอำมำให้ เหมือนหนึ่งกันเองอย่ำเกรงใจ จะต้องกำรสิ่งไรจงบอกเรำ ฯ ๖ ค ำ ฯ ๏ เมื่อนั้น เจ้ำพรำหมณ์ว่ำร้อนใจไปไยเล่ำ เครื่องเทศสมุนไพรก็ไม่เอำ ข้ำเจ้ำจะให้หำยด้วยวิทยำ แม้นพระมำรดำฟื้นคืนคง พระองค์จะให้อะไรข้ำ จงให้ควำมสัตย์สัญญำ ต่อหน้ำทั้งปวงเปนพยำน ฯ ๔ ค ำ ฯ ๏ เมื่อนั้น พระมณีพิไชยจึงว่ำขำน แม้นรักษำหำยไม่วำยปรำณ จะทดแทนคุณท่ำนให้ถึงใจ ฯ ๒ ค ำ ฯ เจรจำ ๏ เจ้ำเอยเจ้ำพรำหมณ์ทั้งนี้ก็ตำมอัชฌำไศรย น้องรักจักประสงค์สิ่งใด พี่จะหำให้ดังใจนึก ฤๅจะใคร่ได้เมียที่สำวสำว ขำวขำวดีดีมีไม่ตรึก สมบัติวัตถำโอฬำรึก จงเลือกนึกเอำตำมชอบใจ เว้นแต่ดำวเดือนดอกฟ้ำ นอกนั้นพี่ยำจะหำให้ เงินทองของเข้ำจงเอำไป สิ่งไรสำรพัดไม่ขัดกัน ฯ ๖ ค ำ ฯ ๏ เมื่อนั้น เจ้ำพรำหมณ์ส ำรวลสรวลสันต์ จึงตอบว่ำเงินทองของทั้งนั้น ข้ำเปนพรำหมณ์พรหมจรรย์ไม่ชอบใจ ถ้ำพระจะยอมไปเปนข้ำ จึงจะรับรักษำมำรดำได้ ครูข้ำก ำชับบังคับไว้มิให้เอำสินบนเงินทอง ฯ ๔ ค ำ ฯ
๑๘ ๏ เมื่อนั้น พระมณีได้ฟังก็เศร้ำหมอง นิ่งนึกด ำริห์ตริตรอง ดูท ำนองโฉมงำมเจ้ำพรำหมณ์นี้ จะเปนยอพระกลิ่นดอกกระมัง จึงจ ำเภำะเจำะจังเอำตัวพี่ แก้วแหวนเงินทองล้วนของดีสำวสรรค์สัตรีไม่ชอบใจ จ ำจะยอมถ่อมตัวเปนทำษำ ตำมไปถึงศำลำที่อำไศรย จะเปนชำยฤๅหญิงยังกริ่งใจ ก็จะได้ส ำคัญเปนมั่นคง คิดพลำงทำงว่ำกับเจ้ำพรำหมณ์พี่จะตำมใจน้องต้องประสงค์ จงช่วยชุบชีวำตม์มำตุรงค์ให้ฟื้นคืนคงเปนมำ ฯ ๘ ค ำ ฯ เจรจำ ๏ เมื่อนั้น เจ้ำพรำหมณ์ได้ฟังก็หรรษำ ชวนองค์พระมณีลีลำ เข้ำมำสู่สถำนพระมำรดร ฯ ๒ ค ำ ฯ เสมอ ๏ จึงหยิบเอำหมำกมำสำมค ำ เศกท ำตำมที่โกสีย์สอน ส ำรวมจิตรใจให้แน่นอน ประนมกรมัสกำรอ่ำนมนต์ ฯ ๒ ค ำ ฯ ตระ เชื้อ ๏ โอมอสรพิศม์ฤทธิ์กล้ำ งูทับสมิงคลำเปนต้น งูเห่ำงูงอดตอดคน ก้นขบจงอำงขว้ำงค้อน พระอินทร์ตรัสใช้ให้กูมำ ร้องเรียกร้องหำอย่ำซุ่มซ่อน ตัวใดที่ขบนำงจันทร เร่งมำสูบถอนเอกพิศม์ไป แม้นช้ำจะใช้ให้จักรเพ็ชร ตัดหัวขำดเด็ดไม่อยู่ได้ อ่ำนจบเจ็ดคำบก ำรำบไป บัดใจงูร้ำยก็เลื้อยมำ ฯ ๖ ค ำ ฯ คุกภำษ
๑๙ ร่ำย ๏ เมื่อนั้น พระมณีตระหนกตกประหม่ำ สิ้นสติตกใจภำวนำ กลัวงูหูตำเหลือกลำน ร้องเรียกเจ้ำพรำหมณ์ให้ช่วยด้วย พี่จะม้วยชีวังสังขำร น้อยฤๅนั่นมันเลิกพังพำน ไม่ได้กำรแล้วจะไปข้ำงไหนดี ฝ่ำยฝูงสำวสรรค์ก ำนัลใน ตกใจตัวสั่นขวัญหนี ร้องกรีดหวีดวิ่งเปนสิงคลีอึงมี่ไปทั้งวังใน ฯ ๖ ค ำ ฯ เชิด เจรจำ ๏ เมื่อนั้น โฉมเจ้ำพรำหมณ์ชีศรีใส จึงร่ำยพระเวทอันเรืองไชย เป่ำไปได้ครบสำมครำ งูเห่ำเข้ำสูบเอำพิศม์สง โดยดังจ ำนงปรำถนำ แล้วเลื้อยหำยไปมิได้ช้ำ กัลยำค่อยรู้สึกองค์ ฯ ๔ ค ำ ฯ รัว ๏ เจ้ำพรำหมณ์จึงสั่งไปทันใด เร่งให้เอำน้ ำมำโสรจสรง สุคนธำลูบไล้ชโลมลง นำงโฉมยงคงคืนฟื้นกำย ฯ ๒ ค ำ ฯ สำธุกำร เจรจำ ช้ำ ๏ เมื่อนั้น ท้ำวพิไชยนุรำชฤๅสำย พิศโฉมเจ้ำพรำหมณ์งำมเพริศพรำย เหมือนลม้ำยเทวีศรีสะใภ้ หน้ำตำจิ้มลิ้มยิ้มแย้ม สองแก้มนวลลอกดังปอกไข่ จึงตรัสแก่พระมณีพิไชย เหมือนเมียเจ้ำกะไรไม่ผิดเพี้ยน เอวองค์อรชรอ้อนแอ้น แขนแมนรูปร่ำงเหมือนอย่ำงเขียน กิริยำมำรยำตรแนบเนียน พระพินิจพิศเพียนไม่วำงตำ ฯ ๖ ค ำ ฯ เชิด
๒๐ ร่ำย ๏ แล้วมีบัญชำว่ำไป เจ้ำพรำหมณ์ได้มีคุณหนักหนำ อยู่ด้วยพ่อเถิดอย่ำไคลคลำ บิดำจะเลี้ยงเปนโอรส สำวสรรค์กัลยำจะหำให้อย่ำพะวงสงไสยพ่อไม่ปด เข้ำของนองเนืองเครื่องยศ ขอเชิญโอรสครอบครอง ฯ ๔ ค ำ ฯ ๏ เมื่อนั้น เจ้ำพรำหมณ์นบนิ้วทูลสนอง โภไคยไอสูรย์มูลมอง แก้วแหวนเงินทองไม่ต้องกำร พระมณีพิไชยได้สัญญำ จะยอมไปเปนข้ำกระหม่อมฉำน อย่ำให้เสียสัตย์ปัฏิญำณ จะขอรับประทำนเอำตัวไป ว่ำแล้วเข้ำไปในที่ เฝ้ำพระชนนีศรีใส จึงบังคมทูลถำมควำมใน เขำเลื่องฦๅอื้อไปทั้งภำรำ ก็มิใช่กลกำรของชีพรำหมณ์แต่มีควำมสงไสยอยู่นักหนำ นึกแหนงจะใคร่แจ้งกิจจำ พระมำรดำจงเล่ำให้เข้ำใจ ไหนว่ำยอพระกลิ่นนั้นกินแมว จริงแล้วเหมือนฦๅฤๅไฉน สับปลับก็จะกลับตำยไป ลูกช่วยไม่ได้พระมำรดำ ฯ ๑๐ ค ำ ฯ ๏ เมื่อนั้น นำงจันทรร้อนใจเปนนักหนำ ครั้นจะไม่แจ้งอรรถดังสัจจำ ก็กลัวว่ำจะตำยวำยชีวิตร แต่เหลียวหน้ำเหลียวหลังกะทั่งไอ ลอำยใจอิดเอื้อนเบือนบิด ค่อยขยดเข้ำไปให้ชิด แล้วสกิดบอกควำมเจ้ำพรำหมณ์ไป ฯ ๔ ค ำ ฯ ๏ เดิมเอยเดิมทีพระมณีลูกยำไปป่ำใหญ่ ได้นำงคนหนึ่งในปล้องไม้หลงใหลพิศวำศเทวี กรุงจีนให้มีรำชสำร ไปแต่งกำรกับลูกสำวศรี พระมณีพิไชยไม่ไยดีรักเมียข้ำงนี้อยู่มิไป แม่กลัวกรุงจีนจะโกรธำ ยกมำรบพุ่งเอำกรุงใหญ่ จึงแกล้งท ำแยบยนต์กลใน พำโลลูกสใภ้ด้วยมำรยำ เอำเลือดวิฬำร์ทำปำกนำง ตัดหำงแซมใส่ในเกษำ แล้วขับไล่ไปเสียจำกภำรำ พำลผิดฤษยำนำงทรำมไวย
๒๑ แม่ท ำชั่วน่ำชังทั้งนี้เพรำะจะให้พระมณีมีเมียใหม่ บอกเจ้ำตำมจริงทุกสิ่งไป อย่ำให้แม่ม้วยชีวี ฯ ๑๐ ค ำ ฯ เจรจำ ๏ เมื่อนั้น ท้ำวพิไชยนุรำชเรืองศรี แอบองค์แฝงบังฟังคดีภูมีกริ้วกรำดตวำดไป ชิชะพระมเหษีเอก ท ำย้อนยอกโหยกเหยกอย่ำงนี้ได้ ใส่ถ้อยร้อยควำมลูกสใภ้ช่ำงไม่สมเพชเวทนำ ขับเมียเขำพรำกไปจำกผัว ท ำตำมใจตัวไม่ปฤกษำ ถึงกรุงจีนจะยกทัพมำ ก็สู้กันสิหน
๒๒ มณีพิชัย : ผู้หญิงกับกำรแย่งชิงอ ำนำจควำมเป็นใหญ่ ผลกำรศึกษำพบว่ำ อ ำนำจมีควำมส ำคัญกับวรรณคดีเรื่องนี้อย่ำงมำก เนื้อเรื่องสำมำรถวิเครำะห์ให้เห็นควำมสัมพันธ์เชิงอ ำนำจ และที่ส ำคัญ “อ ำนำจ” ไม่ใช่อ ำนำจที่เกิดจำกกำรปกครองเพียงอย่ำงเดียว อ ำนำจยังมีควำมสัมพันธ์ในเรื่อง ของเพศ อ ำนำจของระเบียบจำรีตของสังคม ควำมอำวุโสของสังคม และควำมต้องกำรที่เท่ำเทียมทำงเพศ วรรณคดีจึงถือได้ว่ำเป็นสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์ได้ ทั้งนี้เนื่องจำกเหตุผลที่ว่ำ วรรณคดีถูก “อ ำนำจ” หมำยควำมว่ำ อ ำนำจหลำยอย่ำงก ำกับเวลำที่ถูกถ่ำยทอด ทั้งนี้เนื่องจำกวรรณคดีเป็นสมบัติสำธำรณะ และผู้อ่ำนที่ไม่สำมำรถ ระบุได้ ทุกอย่ำงจึงเป็นคู่ตรงข้ำมเสมอ แต่จะท ำอย่ำงไรให้สิ่งที่เขียนเป็นกลำงที่ไม่ไปขัดฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่ง ทั้งหมดคือ “อ ำนำจ” ต่อวรรณคดี พื้นที่ ชนชั้น และกำรปฏิเสธคนที่ขำดคุณสมบัติเข้ำสู่พื้นที่แห่งชนชั้น ในวรรณคดีเรื่อง “มณีพิชัย” ในตอนต้นเรื่องได้น ำเสนอเรื่องของกำรคลอดบุตรของนำงเกศนี และพระอินทร์ ควำมว่ำ “เมื่อครั้งนางเกศนีขึ้นไปอยู่บนสวรรค์กับพระอินทร์ อยู่มานางมีครรภ์ ครั้นจวนจะถึง ก าหนดคลอด พระอินทร์นึกร าพึงว่านางเป็นมนุษย์คลอดลูกผิดกับเทวดา ถ้าให้คลอดบน สวรรค์เกรงว่าจะเป็นอันตราย จึงพานางลงมายังโลกมนุษย์ นฤมิตพลับพลาขึ้นที่ป่าไผ่ แห่ง หนึ่งให้เป็นที่อยู่แล้วเรียกเหล่าเทพบุตร เทพธิดาซึ่งอยู่ตามรุกขพิมาน ให้มาช่วยกันรักษาจน นางคลอดลูก ลูกนั้นเป็นธิดามีกลิ่นหอมติดตัวมาแต่ก าเนิด พระอินทร์จึงให้นามนางว่า “ยอ พระกลิ่น” พระอินทร์เลี้ยงลูกอยู่กับนางเกศนีได้ ๗ วัน นึกเป็นห่วงเมืองสวรรค์...ครั้นจะพาลูกไปเลี้ยงบน สวรรค์ ลูกก็เป็นทารกมนุษย์จะขึ้นไปร้องอ้อนอื้ออึงให้เกิดรังเกียจของเหล่าเทวดา[๑]” “ไม่ได้หรอกน้อง ลูกของเราเป็นมนุษย์ อยู่บนสวรรค์จะท าความร าคาญรังเกียจแก่เทวดา อื่น ๆ[๒]”
๒๓ เมื่อผู้อ่ำนมำถึงตรงนี้หลำยคนอำจตั้งค ำถำมในใจว่ำ “ท ำไมทำรกน้อยยอพระกลิ่นถึงไม่ สำมำรถไปอยู่บนสวรรค์ได้ ทั้งที่เป็นลูกของพระอินทร์” จำกตัวบทได้ให้เหตุผลที่ดูจะไม่สมเหตุสมผลที่ว่ำ “เป็นมนุษย์” เมื่อเปรียบเทียบยอพระกลิ่นกับนำงเกศนีแล้ว ผู้ที่มีคุณสมบัติควรที่จะได้อยู่บนสวรรค์คือ ยอ พระกลิ่น ในฐำนะลูกของพระอินทร์ แต่นำงเกศนีมีคุณสมบัติที่ด้อยกว่ำกลับได้ขึ้นไปอยู่บนสวรรค์แทนยอพระ กลิ่น ตำมระบบของสังคมไทย เหตุที่เกศนีสำมำรถขึ้นไปอยู่บนสวรรค์ได้นั้นอิงอยู่กับระบบควำมเชื่อ ในอดีต โดยนำงเป็นลูกของกษัตริย์ ซึ่งควำมเชื่อเดิมที่ว่ำกษัตริย์เป็น เทวรำชหรือสมมติเทพที่มำจำกสวรรค์ นำงเกศนีจึงมีสำยเลือดเป็นเทพ แต่ในกำรนี้ยังถือว่ำนำงเกศนียังมีคุณสมบัติเท่ำเทียมกับยอพระกลิ่น ระบบสังคมควำมคิดแบบพุทธศำสนำ ควำมเชื่อในเรื่องของกำรเข้ำสู่นิพพำนนั้นโดยเนื้อแท้ ควำมเป็นหญิงไม่สำมำรถที่จะเข้ำสู่นิพพำนได้ด้วยตนเอง ต้องอำศัยชำยผ้ำเหลืองของ “บุตร” หรือ “สำมี” จึง จะสำมำรถเข้ำสู่พระนิพพำนได้ ควำมเชื่อดังกล่ำวได้ส่งอิทธิพลยังสังคมด้วยวำทกรรมชุด “ควำมกตัญญู” ที่ ลูกผู้ชำยต้องบวชก่อนแต่งงำน เพรำะหำกแต่งงำนก่อนบวช ผลของบุญที่ได้รับจะถูกแบ่งให้แก่ผู้ที่เป็นภรรยำ ท ำให้บุญที่ผู้ที่เป็นแม่ลดต่ ำลง ประเด็นนี้เห็นว่ำ เหตุที่ท ำให้นำงเกศนีสำมำรถอำศัยอยู่บนสวรรค์ได้จึงไม่ใช่เรื่องที่ขัดต่อระบบ ควำมเชื่อในสังคมที่ว่ำ อำศัยร่มบุญของสำมี(พระอินทร์) ที่ถือว่ำเป็นผู้มีบุญจึงสำมำรถอยู่บนสวรรค์ ซึ่งเป็น พื้นที่ของผู้เป็นพ่อ (กษัตริย์ที่มำจำกเทพบนสวรรค์) และพื้นที่ของสำมี(พระอินทร์) นอกจำกประเด็นเรื่องของพื้นที่กำรเข้ำสู่นิพพำนแล้ว เรื่องเพศวิถี (Sexuality) แบบผู้หญิงถูก มองว่ำเป็นปัญหำเชิงศีลธรรมที่ซับซ้อนในเชิงจิตวิญญำณและพิธีกรรมต่ำงๆ ทำงสังคมนั้น ผู้หญิงจะมีฐำนะเป็น รองผู้ชำย และเงื่อนไขเรื่องเพศทำงร่ำงกำยก็ได้ผูกมัดผู้หญิงไว้ด้วยข้อก ำหนดและควำมต้องกำรของสังคม[๓] ด้วยเงื่อนไขทำงรูปร่ำงที่อิงอยู่กับโลกทัศน์เดิมในสังคมพุทธศำสนำที่เชื่อในเรื่องของนิพพำนที่ ผู้หญิงต้องอำศัยผู้ชำยจึงจะสำมำรถข้ำมพ้นฝั่งของนิพพำนได้ ยอพระกลิ่นเป็นหญิงจึงไม่สำมำรถที่จะอำศัย พระอินทร์ได้ ตำมควำมเชื่อแล้วต้องอำศัยบุญของลูกและสำมีท ำนั้น แต่ถ้ำหำกว่ำนำงมีร่ำงกำยเป็นชำยย่อมไม่ ติดปัญหำในเรื่องของ เพศ ในวรรณกรรมอีสำนเรื่อง หงส์หิน[๔]ได้กล่ำวถึงควำมอิจฉำของมเหสีรองทั้งสี่องค์กับนำง จันทรมเหสีเอก เมื่อนำงให้ประสูติพระโอรสเป็นชำย มเหสีทั้งสี่ได้น ำเอำลูกหมำมำแทน แล้วน ำเอำพระโอรส ไปโยนทิ้ง พระอินทร์จึงเหำะลงมำรับขึ้นไปเลี้ยงอยู่บนสวรรค์จนกระทั่งเติบโต และถำมหำผู้เป็นแม่ และพระ อินทร์ให้สุชำดำเป็นแม่ แต่นำงไม่ยอม จำกวรรณกรรมท้องถิ่นเรื่อง หงส์หินนั้นเห็นได้ชัดว่ำระบบควำมเชื่อของสังคมได้ก ำหนดไว้ อย่ำงชัดเจนที่ผู้ชำยสำมำรถเข้ำไปสู่บนสวรรค์(นิพพำน) ได้ หงส์หินกับยอพระกลิ่น มีควำมแตกต่ำงกันอย่ำงไร ในเมื่อทั้งสองก็คือลูกของมนุษย์ หงส์หินก็เป็นมนุษย์เนื่องจำกเป็นเชื้อสำยกษัตริย์ซึ่งยอพระกลิ่นก็มีคุณสมบัติ ดังกล่ำวด้วยเช่นกัน ฉะนั้นเหตุผลจึงไม่ได้อยู่ที่เรื่องของชนชั้น แต่เป็นเรื่องของเพศวิถีที่อ้ำงอิงโดยสังคมพุทธ ศำสนำนั่นเอง
๒๔ อำจจะมีบำงท่ำนที่มองว่ำลักษณะดังกล่ำวอำจจะไม่ใช่สิ่งที่เป็นสำกลของระบบควำมเชื่อใน สังคมไทย เพรำะเป็นวรรณกรรมของท้องถิ่นอีสำน เมื่อดูในวรรณกรรมท้องถิ่นของภำคเหนือก็มีปรำกฏ ลักษณะดังกล่ำวด้วยเช่นกัน ดังนี้ ในวรรณกรรมเรื่อง หงส์ผำค ำ หงส์ผำฅ ำ,คร่ำวซอ[๕] “เมื่อนางวิมาลาคลอดลูกเป็นโอรส นางทั้ง ๖ เกรงว่าพระโอรสจะได้ครองเมือง จึงทิ้งโอรสลงใต้ปราสาทแล้วน าเอาลูกหมามาไว้แทน ส่วนพระ กุมารที่ถูกโยนทิ้ง พระอินทร์ทรงรับเอาไว้แล้วน าไปเลี้ยงบนสวรรค์จนเจริญวัยขึ้น” หรือ ในเรื่องหงส์หิน, คร่ำว ซอ ส ำนวนล้ำนนำ[๖] ก็ได้กล่ำวถึงพระอินทร์มำรับเอำกุมำรที่ถูกปองร้ำยไปเลี้ยงบนสวรรค์ด้วยเช่นเดียวกัน ทั้งหมดที่กล่ำวมำสำมำรถที่จะยืนยันในระบบกำรอ้ำงอิงของสังคมพุทธศำสนำ เชื่อในกำรเข้ำสู่ นิพพำนเป็นเรื่องของผู้ชำยเท่ำนั้น ส่วนผู้หญิงไม่สำมำรถที่จะเข้ำสู่นิพพำนได้ด้วยตนเอง ต้องอำศัยบุญจำกลูก ที่บวชให้หรือสำมีที่บวชดังปรำกฏเป็นควำมเชื่ออยู่ในสังคมปัจจุบันและนิยมที่จะให้ลูกบวชก่อนแต่งงำน ดังที่ ปรำนีวงษ์เทศ[๗] กล่ำวว่ำ ทั้งกรณีพระวินัยค ำสอนและกำรปฏิบัติ ผู้หญิงในทำงพุทธศำสนำนั้นมีคุณค่ำ ในทำงศำสนำที่ด้อยกว่ำผู้ชำย เพรำะว่ำผู้หญิงไม่สำมำรถบวชเป็นพระได้ ซึ่งกำรบวชเป็นพระนั้นเป็นแหล่งที่มำ ของบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ ผู้หญิงในทำงพระพุทธศำสนำจึงได้รับกำรปฏิบัติแบบเพศที่ด้อยกว่ำเสมอ ทั้งหมดคือ “อ ำนำจของควำมเป็นแม่” ที่มิต้องกำรให้ลูกสะใภ้ได้รับส่วนแบ่งบุญจำกตน ซึ่งควำมขัดแย้งระหว่ำง “อ ำนำจ แม่ย่ำ” กับ “อ ำนำจของลูกสะใภ้” จะได้กล่ำวในตอนต่อไป
๒๕ จำกกำรศึกษำสำมำรถสรุปเป็นตำรำงเปรียบเทียบได้ดังนี้ ตัวละคร เพศวิถี พื้นที่ (ก ำเนิด) กำรเข้ำสู่พื้นที่(สวรรค์) ๑. นำงเกศนี หญิง -เป็นมนุษย์ที่เกิดจำก พระมหำกษัตริย์ วรกรรณ กับ บุษบง ตำมควำมเชื่อคือ กษัตริย์ เป็นสมมติเทพผู้มำจำกสวรรค์ นำง จึงมีสำยเลือดของควำมเป็นเทพ -ได้รับบุญจำกสำมีท ำให้นำงสำมำรถ เข้ำสู่พื้นที่ได้ ตำมควำมเชื่อของกำร เข้ำสู่นิพพำนที่อำศัยบุญของลูก ใน กรณีที่แต่งงำนก่อนบวชบุญก็จะตก แก่ภรรยำ นำงจึงได้รับบุญจำกสำมี (พระอินทร์ ๒. ยอพระกลิ่น หญิง -เป็นมนุษย์ที่เกิดจำกเชื้อกษัตริย์ (เกศนี)กับพระอินทร์ จึงมี สำยเลือดที่เกี่ยวกับเทวดำหรือเทพ -ไม่สำมำรถเข้ำสู่พื้นที่สวรรค์ได้ เนื่องจำกไม่มีบุตรที่จะบวชให้หรือ ได้รับบุญจำกสำมี ๓. พระโอรส ใน วรรณกรรม ท้องถิ่นอีสำนเรื่อง หงส์หิน ชำย -เกิดจำกกษัตริย์ มีเชื้อสำยของ สมมติเทพ/เทวดำ -เข้ำสู่พื้นที่ได้ โดยไม่ต้องพึงพำบำรมี จำกใคร (พระอินทร์มำรับไปเลี้ยงดู โดยไม่เกรงกลัวอันตรำยอย่ำงยอพระ กลิ่น) ๔. พระโอรสใน วรรณกรรม ท้องถิ่นภำคเหนือ เรื่อง หงส์ผำฅ ำ และหงส์หิน (ส ำนวนล้ำนนำ) ชำย -เกิดจำกกษัตริย์ มีเชื้อสำยของ สมมติเทพ/เทวดำ -เข้ำสู่พื้นที่ได้ โดยไม่ต้องพึงพำบำรมี จำกใคร (พระอินทร์มำรับไปเลี้ยงดู โดยไม่เกรงกลัวอันตรำยอย่ำงยอพระ กลิ่น) จำกตำรำงพบว่ำ ตัวละครที่สำมำรถเข้ำไปอยู่ในดินแดนแห่งสวรรค์ ดังนี้ ตัวละครที่เป็น ชำย สำมำรถใช้อ ำนำจแห่งควำมเป็นชำยเข้ำสู่พื้นที่ได้ ในส่วนตัวละครหญิง (ยอพระกลิ่น) กลับพบว่ำไม่ สำมำรถเข้ำสู่พื้นที่แห่งสวรรค์ได้อย่ำงชำย แต่ตัวละครหญิงจะสำมำรถเข้ำสู่พื้นที่สวรรค์ได้ต้องอำศัยบุญจำกลูก และสำมี(กรณีของนำงเกศนี) ทั้งหมดเป็นผลมำจำกควำมเชื่อดั้งเดิมของสังคมพุทธศำสนำ เมื่อย่อพระกลิ่นไม่สำมำรถจะเข้ำสู่พื้นที่แห่งสวรรค์ได้อย่ำงนำงเกศนีจึงต้องอยู่บนโลกมนุษย์ เพื่อรอจะให้ชำยที่มีบุญมำช่วยพำนำงเข้ำสู่สวรรค์ กำรที่พระอินทร์เลือกเอำยอพระกลิ่นเก็บไว้ในปล้องไม้ไผ่นั้น หำกพิจำรณำในเชิงสัญลักษณ์ของปล้องไม้ไผ่เปรียบได้กับเป็นกำรกักขังคุก ซึ่งคุกในตรงนี้เปรียบได้กับระเบียบ ของสังคมที่อิงอยู่กับพุทธศำสนำของกำรเข้ำสู่นิพพำน ประกอบกับในค ำสำปที่จะท ำให้นำงพ้นจำกค ำสำปได้ก็ ต่อเมื่อนำงมีสำมี (ชำย) มำช่วยให้นำงจึงจะหลุดพ้น นั่นย่อมหมำยควำมว่ำ เธอสำมำรถที่จะมีบุญได้หลังจำกที่ เธอมีสำมี เพรำะได้รับกำรแบ่งบุญจำกสำมีที่สำมำรถบวชได้ในพุทธศำสนำ และหมำยควำมว่ำในอนำคตที่จะ มำถึงหลังกำรมีสำมีคือกำรให้ก ำเนิด หำกกำรก ำเนิดเป็นชำยย่อมจะหมำยถึงคุณสมบัติที่เธอจะสำมำรถไปยืน อยู่ในพื้นที่แห่งสวรรค์
๒๖ ทั้งหมดที่กล่ำวมำจึงชี้ให้เห็นว่ำ อ ำนำจของควำมเป็นชำยยิ่งใหญ่กว่ำหญิงจริงในสังคมแบบ ปิตำธิปไตย และควำมเชื่อที่อิงอยู่กับสังคมพุทธศำสนำของสังคมไทย ซึ่งดูจะมีลักษณะขัดแย้งกับหลักค ำสอน ของพระสัมมำสัมพุทธเจ้ำที่ประกำศเอำไว้ ชนชั้นของควำมเป็นชำยและควำมเป็นหญิงจึงมีพื้นที่ส ำหรับเพศไม่ เท่ำเทียมกัน โดยชำยมีพื้นที่มำกกว่ำโดยเฉพำะพื้นที่ทำงศำสนำ นอกจำกนี้กำรก ำหนดคุณสมบัติของผู้หญิงที่ จะเข้ำมำยังพื้นที่ที่ชำยยืนได้นั้นจึงเป็นกำรกีดกันผู้หญิงเอำไว้ ในเรื่องของคุณสมบัตินี้เองที่มีควำมส ำคัญ กล่ำวคือ ผู้หญิงที่ต้องกำรจะเข้ำสู่พื้นที่อย่ำงชำยได้นั้นต้องอำศัยบุญจำกลูกหรือสำมี หมำยควำมสุดท้ำยผู้หญิง ต้องแต่งงำนและมีสำมี ไม่สำมำรถที่จะเดินเข้ำสู่พื้นที่แห่งนั้นได้ด้วยตนเอง เงื่อนไขดังกล่ำวหำกมองในมุมมอง เรื่องควำมต้องกำรทำงเพศก็คือ กำรบังคับให้ผู้หญิงมำสนองกำมรมย์ให้กับตนเอง หำกผู้หญิงที่ยอมที่จะเสีย พรหมจรรย์แล้วย่อมหมำยควำมว่ำ “เธอขำดคุณสมบัติ” ที่จะเข้ำมำยืนอยู่ในพื้นที่ที่ถูกก ำหนดเพียงเฉพำะของ ชำย ทั้งหมดจึงเป็นเหตุผลที่ยืนยันในควำมสมเหตุสมผลที่จะตอบค ำว่ำผู้อ่ำนได้ว่ำ “ท ำไม ยอพระกลิ่นจึงไม่ สำมำรถที่จะไปอยู่บนสวรรค์ได้” และที่ส ำคัญไม่ใช่เพียงเหตุผลที่ว่ำ “เธอเป็นมนุษย์” หำกแต่มีควำมซับซ้อน ในโครงสร้ำงของควำมเชื่อในสังคมหรือควำมหมำยแฝง (connotation) ที่ถูกก ำกับโดยวัฒนธรรมและสังคม แบบพุทธศำสนำที่มีชำยเป็นใหญ่ อ ำนำจของกำรกิน : กินแมว วำทกรรมขับไล่ เนื้อเรื่องด ำเนินมำถึงช่วงหลังจำกที่ตัวเอกได้พบและร่วมใช้ชีวิตคู่ด้วยกันนั้นก็มีเหตุให้ทั้งสอง ต้องพรำกจำกกัน โดยมีมำรดำของสำมีเป็นคนสร้ำงเรื่องใส่ควำม หำกพิจำรณำสำมำสร้ำงเป็นปมขัดแย้งในกำร แย่งชิงผู้ชำย โดยมีบทบำทของควำมเป็น “แม่” และ “เมีย” ซึ่งชำยที่ถูกแย่งคือ พระโอรสที่จะต้องขึ้นครอง เมืองสืบต่อมำ กำรแย่งพระโอรสอำจจะรวมหมำยถึงประเด็นกำรแย่งชิงอ ำนำจควำมเป็นใหญ่ของผู้หญิง เนื้อควำมในตอนนี้ ควำมว่ำ ...ท้าวพิชัยนุราชและนางจันทรส าคัญว่าราชบุตรประชวรจริงก็พากันลงไปเยี่ยมจึง เห็นนางยอพระกลิ่น เมื่อท้าวพิชัยนุราชได้ไต่ถามและทราบเรื่องของนางก็เกิดเมตตาปราณี เห็นควรให้เป็นชายาของมณีพิชัย แต่ส่วนนางจันทรนั้นนึกรังเกียจ ด้วยอยากจะให้มณีพิชัย ได้เป็นราชบุตรเขยของพระเจ้ากรุงจีน... ...คิดกลอุบายให้มีเค้าเงื่อนว่านางเป็นยักขินีผีกระสือ คนทั้งหลายก็จะเห็นเชื่อ เพราะมณี พิชัยไปได้นางมาจากป่า คงจะก าจัดนางยอพระกลิ่นได้สมประสงค์ คิดดังนั้นแล้ว นางจัน ทรจึงฆ่าแมวที่เลี้ยงไว้เสียตัวหนึ่ง แล้วลอบไปยังปราสาทมณีพิชัยเวลาดึก พระมณีพิชัยกับ นางยอพระกลิ่นก าลังหลับ นางเอาหางแมวเหน็บไว้ที่มวยผมและเอาเลือดแมวป้ายไว้ที่ปาก
๒๗ ... หลังจากนั้นนางก็ออกอุบายท าทีเห็นยักมากินแมวแล้วเดินเข้าไปในห้องมณีพิชัย[๘] หำกมองในเรื่องของ ควำมหมำยสัญญะ (Signified) และรูปสัญญะ (Signifier) จะพบว่ำจำก ควำมตอนนี้มีควำมขัดแย้งของสัญญะ ๒ อย่ำง คือ แมวและยักษ์ ดังตำรำงต่อไปนี้ รูปสัญญะ (Signifier) ควำมหมำยสัญญะ (Signified) แมว ควำมเป็นศิริมงคล ยักษ์ ควำมเป็นอัปมงคล ควำมชั่วร้ำย จำกตำรำงพบว่ำ กำรสวมภำพมำยำคติให้กับตัวแสดงในเรื่องนั้น กำรให้แมวเป็นมำยำคติ ที่สื่อถึงควำมเป็นมงคลแสดงให้เห็นว่ำเมืองใดที่มีแมวอยู่หมำยควำมว่ำเป็นเมืองที่เป็นมงคล ในขณะที่ภำพของ นำงยักษ์มำยำคติของรูปสัญญะที่เป็นยักษ์มีควำมหมำยในเชิงสัญญะคือ สิ่งที่เป็นอัปมงคลควำมชั่วร้ำย กำรเลือกที่จะให้นำงยอพระกลิ่นกินแมวและใส่ควำมนำงว่ำเป็นยักษ์ย่อมมีเหตุผลเพื่อให้เกิด ควำมหนักของโทษในสองระดับคือ ระดับที่ ๑ ควำมผิดในฐำนะที่เป็นยักษ์ เมื่อนำงถูกข้อหำว่ำเป็นยักษ์ย่อม หมำยควำมว่ำเป็นสิ่งอัปมงคล เป็นสิ่งที่มีแต่ควำมชั่วร้ำย ซึ่งไม่เหมำะสมที่จะอยู่รวมกับมนุษย์และไม่เหมำะที่ จะอยู่ในเมืองมนุษย์อีกต่อไป ควำมผิดในระดับที่ ๒ นอกจำกนำงจะเป็นตัวอัปมงคลแล้ว กำรฆ่ำแมวหมำยถึง กำรกระท ำกำรอันเป็นสิ่งที่ชั่วร้ำย เป็นกำรท ำลำยควำมเป็นมงคล คือแมว ซึ่งเป็นสัตว์ที่ชื่อว่ำใครเลี้ยงไว้จะ ได้รับแต่สิ่งที่ดีๆ ตอบแทน[๙] ควำมผิดทั้งสองระดับจึงเป็นเครื่องผลักดันให้กำรขับไล่นำงยอพระกลิ่นมีควำม สมเหตุสมผล มีควำมชอบธรรมมำกขึ้นโดยไม่ต้องรอกำรพิจำรณำคดีควำม และเหมำะที่จะถูกขับออกจำกเมือง ในขณะนั้น ประเด็นเรื่องแมวกับค่ำนิยมกำรบริโภคในสังคมเป็นสิ่งที่สังคมยอมรับไม่ได้ ดังเช่นในช่วง สำมสี่ปีที่ผ่ำนมำ สังคมไทยได้เกิดกำรต่อต้ำนบทเพลงหนึ่งที่มีชื่อว่ำ “ผู้บ่ำวกินแมว” ขับร้องโดยดำวตลกยำยจื้น แห่งวงหมอล ำชื่อดังของภำคอีสำน “เสียงอีสำน” ของคุณนกน้อย อุไรพร เป็นผู้ควบคุมวง กระแสกำรต่อต้ำน ดังกล่ำวเกิดขึ้นจำกกลุ่มนักอนุรักษ์สัตว์ที่ไม่สำมำรถจะยอมรับในเรื่องของกำรกินแมว ผู้เขียนมองว่ำในควำม ซับซ้อนของเรื่องไม่ได้อยู่ที่กำรอนุรักษ์สัตว์ เมตำหรือสงสำร แต่เป็นสิ่งที่ขัดต่อระเบียบของสังคมที่ไม่นิยม หรือไม่ยอมรับกำรกินแมวมำกกว่ำ ที่กล่ำวเช่นเนื้อเพรำะเชื่อว่ำ ในสังคมมีกำรบริโภค ไก่ หมู วัว กันอย่ำง แพร่หลำย กำรบริโภคสิ่งเหล่ำนี้ท ำไมไม่เป็นสิ่งที่ต้องลุกขึ้นมำต่อต้ำน และเมื่อพิจำรณำในแต่ละวันสัตว์เหล่ำนี้ ถูกฆ่ำมำกกว่ำแมวไม่รู้จะกี่เท่ำ สำเหตุที่สัตว์เหล่ำนี้ไม่ได้รับควำมส่งสำรจึงมีสำเหตุมำจำกกำรยอมรับของสังคม นั่นเอง เมื่อกำรบริโภคแมวเป็นที่ขัดแย้งกับระเบียบของสังคม กำรบริโภคแมวจึงเป็นสิ่งที่เลวร้ำยและไม่ควร ส่งเสริมและอนุญำตให้มีกำรบริโภค ด้วยควำมไม่เปิดรับของสังคมกำรที่ยอพระกลิ่นจ ำเป็นต้องถูกให้เลือกกิน แมวจึงหมำยควำมว่ำ ยอพระกลิ่นผ่ำนกำรยอมรับจำกคนในสังคม หรือมีลักษณะแตกต่ำงในเรื่องของกำรกินที่ ไม่เหมือนคนอื่นๆ ในสังคมและวัฒนธรรมเดียวกัน
๒๘ ควำมเชื่อเรื่องของแมวมีอยู่อย่ำงหลำกหลำย[๑O] เช่นรก เก็บไว้กับบ้ำนเรือนร้ำนค้ำ เชื่อว่ำจะให้คุณทำง เมตตำมหำนิยม ซื้อง่ำยขำยได้ก ำไร ประสบแต่โชคลำภอยู่เนือง ๆ น้ ำมนต์แมว กำรบริโภคอำหำรที่ปรุงจำก ปลำ บำงครั้งประสบปัญหำก้ำงติดคอ ท ำให้ได้รับควำมทุกขเวทนำ โบรำณให้น ำน้ ำใส่ภำชนะไปวำงเฉพำะหน้ำ แมว หำกแมวกินน้ ำหรือแม้กระทั่งดม ก็ถือได้ว่ำน้ ำนั้นเป็น "น้ ำมนต์แมว" ให้น ำไปให้คนที่ก้ำงติดคอดื่มกิน เชื่อ กันว่ำก้ำงจะหลุดไปกับน้ ำนั้น ก้ำงติดแมวเกำ มีอีกวิธีหนึ่ง กรณีที่ก้ำงติดคอ ท่ำนให้เอำเท้ำหน้ำของแมวลำก ผ่ำนลูกระเดือกเสมือนเอำมือแมวมำเกำ ก้ำงนั้นจะหลุดทันทีแมวซ่วยหน้ำ อำกัปกริยำของแมวอย่ำงหนึ่ง คือ เอำเท้ำหน้ำข้ำงใดข้ำงหนึ่งปัดหน้ำ เหมือนมัน "ซ่วยหน้ำ" คือล้ำงหน้ำตัวเอง ทำยว่ำไม่นำนจะมีคนที่อยู่แดน ไกลมำเยี่ยมเยือนเจ้ำของบ้ำน แมววิ่งตัดหน้ำ ขณะเดินทำงไปไหนมำไหน หำกมีแมวสีขำวหรือสีด ำวิ่งตัดหน้ำกะทันหัน ก็มีค ำท ำนำยว่ำจะดี หรือร้ำย กล่ำวคือ แมวขำววิ่งตัดหน้ำจะได้รับข่ำวดี แต่ถ้ำแมวด ำวิ่งตัดหน้ำจะได้รับข่ำวร้ำย แมวข้ำมห ล้อง ในขณะที่ตั้งศพอยู่ที่บ้ำนหรือที่วัด ถ้ำมีแมวสีด ำกระโดดข้ำม "หล้อง" คือโลงศพนั้น เชื่อว่ำวิญญำณของ คนที่ตำยจะดุร้ำย เที่ยวหลอกหลอนและท ำร้ำยผู้คนมำกมำย ฝันเห็นแมว โบรำณล้ำนนำเชื่อว่ำ ถ้ำใครฝันเห็น แมวนั้นเป็นเรื่องไม่ค่อยดี จะขัดสนเงินทองทรัพย์สิน ญำติมิตรไม่ยินดีจะคบหำสมำคม มิหน ำซ้ ำยังพำกัน รังเกียจโดยไม่มีเหตุผลเพียงพอ แห่นำงแมว ปีใด ฝนฟ้ำไม่ตกต้องตำมฤดูกำล โบรำณจะมีพิธีแห่นำงแมว เพื่อขอฝน โดยน ำแมวตัวเมียมำแต่งหน้ำทำปำกนุ่งห่มเหมือนคนแล้วตั้งขบวนแห่แหนไปตำมหมู่บ้ำน ผู้ชำยที่ร่วมขบวนจะแต่งกำยเป็นหญิงถือรูปอวัยวะเพศร่วมขบวน ส่วนคนที่พบเห็นจะสำดน้ ำใส่กลุ่ม ผู้เข้ำร่วมขบวน และรุมสำดน้ ำใส่แมวอย่ำงคึกคะนอง ด้วยว่ำกำรกระท ำเช่นนี้ จะท ำให้ฝนตก ห้ำมเลี้ยง แมวห้ำตัว ในต ำรำโบรำณล้ำนนำ กล่ำวถึงสิ่งไม่ควรมีไว้กับบ้ำนเรือน ซึ่งสิ่งต่ำง ๆ ดังกล่ำวระบุจ ำนวนไว้ ดังนั้นชำวล้ำนนำ จึงไม่นิยมเลี้ยงแมวห้ำตัว เพรำะเกรงจะเกิดอุบัติภัยกับคนในครอบครัวตำมควำมเชื่อ จะเห็นได้ว่ำบทบำทของแมวต่อวิถีควำมเชื่อของสังคมมีควำมผูกพันอย่ำงมำก กำรที่ ยอพระ กลิ่นกินแมวจึงเป็นกำรกระท ำที่ขัดต่อระเบียบและค่ำนิยมของคนในสังคม เพรำะกำรท ำร้ำยแมวย่อมหมำยถึง ควำมเดือดร้อนที่จะบังเกิดมีต่อบ้ำนเมือง ตำมคติที่ว่ำ แมวเป็นสัตว์ที่เป็นมงคล หำกผู้ใดเลี้ยงไว้ยอมจะประสบ แต่ควำมสุขควำมเจริญ และกำรขัดต่อจำรีตนิยมของสังคมนี่เอง “วำทกรรม” ยอพระกลิ่นเป็นยักษ์กินแมวจึงมี พลังอ ำนำจอย่ำงมำกที่จะขับไล่ให้นำงยอพระกลิ่นออกจำกเมือง อ ำนำจของควำมเป็นแม่ย่ำและลูกสะใภ้ จำกแผนกำรอันชั่วร้ำยของนำงจันทรต่อยอพระกลิ่นดังที่ได้น ำเสนอข้ำงต้น ในส่วนของยอพระ กลิ่นเองก็ได้ตั้งตำรอคอยที่จะแก้แค้น ดังควำมว่ำ ขณะนั้นเกิดบันดาลร้อนอาสน์พระอินทร์ ส่องทิพเนตรดูรูว่านางยอพระกลิ่นผู้เป็นธิดา ต้องตกยากถึงสาหัส จึงลงมาช่วยนางยอพระกลิ่น นางเล่าเรื่องทั้งพวงให้พระอินทร์ทราบ
๒๙ พระอินทร์ก็โกรธานางจันทรแล้วเลยขัดเคืองพระมณีพิชัยว่าหลงเชื่อแม่ไม่ช่วยแก้ไข จึง แปลงนางยอพระกลิ่นให้เป็นพราหมณ์ สอนเวทมนต์ให้มีฤทธิ์และให้พระขรรค์ไว้ส าหรับ ตัว และนฤมิตศาลาอาศรมให้อยู่ในป่าที่ใกล้เมืองอยุธยา บอกเจ้าพราหมณ์ว่าจะแก้แค้นแม่ ผัวให้จงได้[๑๑] ด้วยอ ำนำจของสังคมที่มี “แม่” น ำหน้ำ ย่อมเป็นใหญ่กว่ำผู้ที่มีค ำว่ำ “ลูก” น ำหน้ำเสมอ ใน ควำมขัดแย้งของตัวละครทั้งสอง มีควำมเกี่ยวเนื่องกันในหลำยลักษณะ ซึ่งเป็นประเด็นที่น่ำสนใจ บทบำทของแม่ย่ำในฐำนะชำยำของเจ้ำเมือง ในประเด็นนี้น่ำสังเกตว่ำ นำงจันทรผู้มีรูปร่ำงเป็น หญิงได้ลุกขึ้นมำก ำจัดยอพระกลิ่นสะใภ้ด้วยควำมเกรงกลัวต่อพระเจ้ำกรุงจีนที่จะยกทัพมำรุกรำนตน ในขณะที่ ท้ำวพิชัยนุรำชกษัตริย์ผู้ปกครองเมืองกลับมีท่ำทีที่นิ่งเฉยต่ออนำคตของเมือง กำรที่นำงจันทรเลือกก ำจัดนำง ยอพระกลิ่นเพื่อจะให้มณีพิชัยไปแต่งงำนกับลูกสำวพระเจ้ำกรุงจีนเพื่อรักษำเมืองตนเอำไว้ นั่นแสดงในว่ำฐำนะ ของตัวละครหญิงที่ลุกขึ้นมำรับหน้ำที่อย่ำงผู้ชำย โดยที่ตัวละครผู้เป็นสะใภ้ไม่สำมำรถที่จะห้ำมปรำมหรือ ขัดขวำงได้เลย ด้วยระบบควำมเชื่อของสังคมที่เคำรพในผู้อำวุโสและผู้ที่แม่ กำรด ำรงต ำแหน่งเป็นสะใภ้ขอยอ พระกลิ่นจึงไม่มีอ ำนำจที่จะต่อรองกับบรรทัดฐำนทำงสังคมได้ว่ำตนสำมำรถที่มีอ ำนำจหรือสำมำรถลุกขึ้นมำ แข็งข้อต่อแม่ย่ำได้อย่ำงเปิดเผย ลักษณะดังกล่ำวปรำกฏในวรรณกรรมหลำยเรื่อง ตัวอย่ำงที่เห็นได้ชัดคือเรื่อง แม่ย่ำเกลียดลูกสะใภ้ ซึ่งมีเนื้อควำมว่ำ สีมำก ำพร้ำพ่ออยู่กับแม่สองคน พอโตเป็นหนุ่มก็แต่งงำน ในครอบครัวก็รักใคร่กันดี แต่สำวๆที่ผิดหวังจำกสีมำ อิจฉำจึงยุแหย่แม่ผัวให้เกลียดลูกสะใภ้ ตอนแรกลูกสะใภ้ก็ไม่โต้ตอบเวลำแม่ผัวดุด่ำ นำนเข้ำก็โต้ตอบไปบ้ำง ท ำให้สีมำหนักใจคิดหำวิธีให้ทั้งสอง ปรองดองกัน จึงบอกแม่ว่ำจะฆ่ำเมียตัวเองให้เพื่อให้แม่สบำยใจ แต่ก่อนจะฆ่ำให้แม่ท ำดีกับลูกสะใภ้ สัก ๑๕ วันก่อน และก็ไปบอกเมียให้ท ำดีกับแม่ ๑๕ วันเช่นกัน แล้วจะฆ่ำแม่ให้ ตั้งแต่นั้นมำทั้งสองต่ำงท ำดีต่อกัน จนเกิดรักใคร่กันจริงๆ พอครบ ๑๕ วันสีมำท ำท่ำจะฆ่ำเมียแม่ก็เข้ำห้ำมไว้ พอจะฆ่ำแม่เมียก็ห้ำมไว้
๓๐ สีมำจึงเอำเคียวเก็บที่เดิมพร้อมยิ้มอย่ำงสุขใจ ที่แก้ปัญหำลูกสะใภ้กับแม่เกลียดกันได้ส ำเร็จ[๑๒] จำกนิทำนข้ำงต้นอ ำนำจของควำมเป็นแม่ย่ำและลูกสะใภ้ สิ้นสุดลงด้วยควำมเสมอ คืออ ำนำจ ของควำมเป็นแม่ย่ำไม่สำมำรถที่จะอยู่เหนือลูกสะใภ้ ดังในตอนสรุปที่ทั้งสองฝ่ำยต่ำงก็ดีต่อกัน ยังมีนิทำนพื้นบ้ำนอีสำนอีกเรื่องหนึ่งที่ชี้ให้เห็นถึงกำรต่อสู้ระหว่ำงควำมเป็น “แม่ย่ำ” กับ “ลูกสะใภ้” และผลที่ได้รับคืออ ำนำจของควำมเป็น “ลูกสะใภ้” ก็ถูกอ ำนำจ “แม่ย่ำ” อยู่เหนือกว่ำ นิทำนเรื่อง นี้คือ ย่ำกินปลิง ซึ่งมีเนื้อเรื่องย่อดังนี้ เขียวเป็นลูกสะใภ้แห่งบ้านหลังหนึ่งที่มีแม่กับลูก(สามีของเขียว) เขียวเป็นคนที่ขยันใน การทอหูก ในขณะที่แม่ย่าชอบตามธรรมชาติของผู้สูงอายุ ด้วยความที่เขียวตั้งหน้าอยู่กับ งานทอหูกไม่สนใจที่จะท ามาหาอาหารมาเลี้ยงครอบครัว แม่ย่าจึงบ่นให้เป็นประจ า วันหนึ่ง เขียวทนเสียงบ่นของแม่ย่าไม่ได้จึงออกไปหาปลามาท าอาหารให้แม่ย่ากิน เขียวได้ปลิง กลับมาจึงน ามาต้มให้แม่ย่ากิน ด้วยความที่แม่ย่าเป็นคนตาบอดไม่สามารถมองเห็นได้ว่าใน ส ารับอาหารนั่นเป็นปลิงซึ่งมีลักษณะคล้ายปลาหลด จึงไม่ได้ติดใจว่าจะเป็นปลิง เมื่อแม่ย่า กินก็รู้สึกว่าปลานั้นเหนียวฉีกไม่ขาด กินยาก จึงได้แต่นั่งกินช้าๆ ขณะนั้นลูกชายก็กลับมา พบแล้วร้องบอกแม่ว่าท าไมกินปลิง แม่ย่าจึงเกิดอาเจียน จนกระทั่งหมดแรงสิ้นลมไปใน ที่สุด ก่อนที่แม่ย่าจะสิ้นลมได้สาปแช่งไว้ว่า ผู้ใดเอาปลิงมาให้กินจะเป็นผู้ที่สามารถหามศพ ยายไปเผาได้คนเดียวและให้คนคนนั้นติดอยู่กับไม้หามศพ เมื่อถึงเวลาที่จะน าศพย่าไปทิ้งก็ ไม่มีใครสามารถจะหามศพขึ้น เขียวจึงมาหามและติดอยู่กับไม้หามศพ ตายในกองไฟพร้อม กับแม่ย่า
๓๑ บรรณำนุกรม พระบำทสมเด็จพระ. พุทธเลิศหล้ำนภำลัย, บทละครนอกเรื่องมณีพิชัย พระรำชนิพนธ์ในรัชกำลที่ 6 และหลวงภูวเนตรนรินทรฤทธิ์. พระนคร : กรมศิลปำกร, 2498. : http://9poto.com/เรื่องย่อละคร/เรื่องย่อยอพระกลิ่น/ https://vajirayana.org/บทลครนอก-พระรำชนิพนธ์รัชกำลที่-๒-รวม-๖-เรื่อง-ฉบับหอพระสมุดวชิรญำณ http://courseknowledgetripthailand.blogspot.com/2011/12/blog-post_08.html