âä
¼ÔÇ
˹§Ñ ·่¾Õ ºã¹Ë¹ŒÒ
คำนำ
หนงั สื่อเลม น้ี จัดทำเพอ่ื เปน สวนหนึง่ ของโครงการออกแบบหนังสืออเิ ล็คทอรน คิ E-book
6โรคผวิ หนงั ทพี่ บในหนา รอ นเพือ่ เปนความรูไดศ กึ ษาในเร่อื งของ 6โรคผิวหนังท่สี ว น
มากจะพบในหนารอ นในตวั หนังส่อื จะมขี อมูลตางๆในแตล ะโรค ท้งั ขอมูลเบือ้ งตน
สาเหตุ อาการ วธิ ีปอ งกัน วธิ ีรกั ษา
ÊÒúÞÑ
àÃ่Í× § ˹ŒÒ àÃÍ×่ § ˹ŒÒ
1. âä¡ÅÒ¡ 4.1 âäÀÁÙ áÔ ¾¼Œ ÔÇ˹§Ñ 19
2 - ¢ÍŒ ÁÅÙ
- ¢ŒÍÁÙÅ 20
- ÊÒà˵Ø
- ÍÒ¡Òà 3 - ÊÒà赯 21
- ÇÔ¸»Õ ͇ §¡Ñ¹
- ÇÔ¸ÕÃÑ¡ÉÒ 4 - ÍÒ¡ÒÃ 22
2. âä¼´ÃÍŒ ¹ 5 - ÇԸջ͇ §¡¹Ñ 23
- ¢ÍŒ ÁÙÅ
- ÊÒà赯 6 - Ç¸Ô ÕÃ¡Ñ ÉÒ 24
- ÍÒ¡ÒÃ
- ÇԸջ͇ §¡¹Ñ 5.7 âä¼ÔÇäËÁጠ´´ 25
- Ç¸Ô ÃÕ Ñ¡ÉÒ
8 - ¢ŒÍÁÙÅ 26
3. âäà¡Å้Í× ¹
9 - ÊÒà赯 27
- ¢ÍŒ ÁÅÙ
- ÊÒà赯 10 - ÍÒ¡Òà 28
- ÍÒ¡ÒÃ
- Ç¸Ô Õ»‡Í§¡Ñ¹ 11 - ÇÔ¸Õ»‡Í§¡Ñ¹ 29
- ÇÔ¸ÃÕ Ñ¡ÉÒ
12 - Ç¸Ô ÃÕ Ñ¡ÉÒ 30
6.13 âä¡ÅÔ่¹µÑÇ 31
14 ¢ÍŒ ÁÅÙ 32
15 ÊÒà赯 33
16 ÍÒ¡ÒÃ 34
17 Ç¸Ô Õ»‡Í§¡Ñ¹ 35
18 Ç¸Ô ÕÃÑ¡ÉÒ 36
1
โรค
กลาก
(Dermatophytosis)
ภาพจาก.นพ.สมาธิ นิชานนท
(คลนิ กิ นายแพทยสมาธิ โรคผิวหนัง ภมู ิแพ ศรสี ะเกษ)
2
กลาก
กลาก (Ringworm) เปนโรคตดิ เชอื้ ราบนผิวหนงั ที่ปรากฏเปน วงแดงหรอื ขยุ สขี าว
และอาจมอี าการอักเสบคลายผน่ื แดงรว มดว ยได กลากสามารถขึน้ ตามสวนตา งๆ
ของรางกาย ต้ังแตห นงั ศรี ษะ ใบหนา มอื เทา เลบ็ และขาหนีบ.โดยพบไดทุกเพศทุกวัย
แตม กั จะพบบอยในเด็ก
3
สาเหตุ
โรคกลากเกดิ จากเชื้อราทผ่ี ิวหนังในกลุมเดอมาโทไฟท (Dermatophytes)
เชื้อราเหลานีจ้ ะอาศยั อยูบนช้ันเน้อื เยอ่ื โปรตีนเคราตนิ บนผวิ หนงั ท่ีตายแลว
เทานนั้ แตมกั จะไมเขา สูรา งกายหรอื เย่อื บผุ วิ อยา งปากหรอื จมกู
เชื้อราเปนสปอรเลก็ ๆที่มคี วามคงทนและสามารถอยูร อดบนผิวหนังของมนุษย
ในพนื้ ดิน หรอื ตามสง่ิ ของตา งๆไดเปน เวลาหลายเดือนและยงั เจรญิ เตบิ โตไดใ น
สภาพอากาศรอ นชืน้ อยางเชนในประเทศไทย จึงเกิดการแพรกระจายไดง า ย
.โดยสามารถตดิ จากคนและสัตวด ว ยการสัมผสั การจับส่งิ ของที่มกั มเี ชอื้ รานี้
เกาะอยู เชน เสอ้ื ผา ผา เช็ดตวั หวี และแปรงสีฟน หรอื ตดิ จากดินในกรณีทต่ี อ ง
ทำงานหรือยนื เทา เปลาบนพื้นดินทม่ี เี ช้อื รา
บคุ คลตอไปน้อี าจเสยี่ งตอ การตดิ เชอ้ื ราไดง าย
1.เด็กออ นหรือผสู ูงอายุท่อี ายมุ ากแลว
2.ผูทม่ี ีน้ำหนักเกนิ กวามาตรฐานมาก
3.ผูทม่ี ภี มู คิ มุ กันออ นแอ เชนผตู ิดเช้ือเอชไอวี
4.ผูเขา รับการรักษาโรคท่ีสงผลใหร ะบบภมู คิ มุ กนั
ออ นแอลง เชน การทำเคมีบำบัด หรือใชย าสเตียรอยด
5.เคยตดิ เช้อื รามากอ น
6.ผปู ว ยโรคเบาหวานชนิดที่ 1
7.ผูปว ยโรคหลอดเลอื ดแดงแขง็
8.มกี ารหมุนเวียนของโลหิตไมด ี
โดยเฉพาะผทู ี่มีภาวะหลอดเลอื ดดำบกพรอ งทหี่ ลอด
เลอื ดดำในขามปี ญ หาในการพาเลือดกลับไปยังหวั ใจ
4
อาการ
1. 2.
กลากท่ีหนังศรี ษะมกั เกิดกับเด็ก กลาก ท่ใี บหนา และลำคอ
ชว งวยั ใกลโตหรอื วัยรุน อาการ อาจไมป รากฏเปนดวงคลา ยวงแหวน
โดยทวั่ ไปมกั ทำใหห นังศีรษะตก อยา งกลากชนดิ อื่นๆแตเกิดเปน อาการ
สะเกด็ เปนจุดเล็กๆเจ็บเมื่อสมั ผสั คนั บวมและแหง จนเปน สะเกด็ ซึง่ หากเกิด
เสน ผมรว งเปน หยอ มๆและคัน ท่บี รเิ วณหนวดอาจทำใหหนวดหลดุ รว ง
หนงั ศีรษะ เปน หยอมได
3. 4.
กลากที่เทา (เช้ือราที่เทา )รูจักกนั ในช่อื น้ำกัดเทา กลากทม่ี อื ทำใหผ วิ หนงั บริเวณ
หรือฮอ งกงฟุตเปน โรคทางผิวหนังทีพ่ บไดบอย ฝามอื และงา มนวิ้ หนาขึน้
มากการติดเชื้อราท่ีเทา อาจทำใหเ กิดอาการแหง
คัน มีผืน่ แดงเปนแผน บรเิ วณงา มนว้ิ .โดยอาจเปนขางเดียวหรือเปนทัง้ 2 ขาง
พรอมกนั แตสว นใหญม ักพบแคข างเดยี ว
.โดยเฉพาะนิว้ นางและนิ้วกอ ยหรอื ในระดบั
ท่รี ุนแรงอาจมีอาการผิวหนงั แตกแหง เปนตมุ พอง
เปน ขยุ สะเก็ดผวิ หนังบวมแสบหรือเจบ็ ๆคันๆ
ทีผ่ วิ หนงั และอาจมผี ิวหนงั แหง เปน ขยุ รอบๆ
5
วิธีปอ� งกนั
ปองกนั ตนเองจากผูป วยหรือสัตวที่มกี ารตดิ เช้ือโรคกลากกลากในสัตวมักปรากฏ
เปนรอยขนรวงเปนหยอ ม หรอื อาจไมสามารถสงั เกตไดเลยผเู ลย้ี งสัตวควรนำสัตว
เลย้ี งไปตรวจเพอ่ื ปองกนั การเกิดโรคและตดิ เชื้อ
1 ลา งมอื เปนประจำ 2
เพื่อปอ งกันการแพรก ระจายของเชื้อ
หม่ันทำความสะอาด
3 รักษาความสะอาดของรางกาย พ้ืนที่สวนรวมท่ีใชร ว มกนั
โดยเฉพาะตามโรงเรียน
เช็ดตัวและศีรษะใหแหงอยาสวมใสเ สื้อผา ท่ชี ้ืน ศนู ยเล้ยี งดูเด็ก
โรงยมิ และสระวา ยน้ำ
4 5
อาบนำ้ ทำความสะอาดรา งกายทกุ ครั้ง ควรสวมใสร องเทา
หลงั จากการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรม เมอื่ เดนิ ในหอ งล็อคเกอร
ท่ีตองสัมผัสรา งกายผูอ ่นื หอ งน้ำหรืออาบนำ้ สาธารณะ
6
หลีกเลย่ี งการใชข องใชสวนตวั รว มกนั ไมวาจะเปน เส้อื ผา
แปรงสฟี น ผาเชด็ ตัว หรือขาวของอื่น ๆ
6
วิธรี กั ษา
เชอ้ื ราท่หี นังศีรษะสามารถรักษา.โดยการรบั ประทานยาตา นเช้อื ราไดเ ชนเดยี วกบั เชอ้ื รา
ตามผิวหนัง ตัวยาที่แพทยมักใช ไดแก กรซิ ีโอฟูลวิน ระยะเวลาท่แี นะนำใหร ับประทานคอื
8-12 สปั ดาหและเทอรบ นิ าฟนรับประทานเปน เวลา 4 สปั ดาห ยาตานเชือ้ ราทหี่ นังศีรษะ
อาจใชค วบคไู ปกบั ครมี หรือแชมพูตานเชอ้ื รา เชน แชมพูคีโตโคนาโซลแชมพซู ลี เี นยี มหรือ
ครีมเทอรบ ินาฟน.โดยควรใชสัปดาหละ2 ครั้ง เปน เวลาติดตอ กนั 2 สัปดาห
นอกจากการใชยาทารกั ษาผปู วยเองยงั สามารถบรรเทาโรคกลากไดดวยการปรบั
สุขอนามยั งายๆไดแก เล่ยี งการสวมใสเ สอ้ื ผา ทีก่ อ ใหเกิดการระคายเคอื งบรเิ วณทต่ี ิด
เชื้อซกั ทำความสะอาดเคร่ืองนอนและเสื้อผา ทุกวัน รวมถงึ ทำความสะอาดและเชด็ ผวิ
ใหแหง เปนประจำ
แพทยอ าจสง่ั จา ยยาตามความรนุ แรงของการตดิ เชอ้ื ของผปู ว ย
โดยอาจจา ยยาทนี่ ยิ มใชรกั ษาการตดิ เชอ้ื รา ไดแ ก คีโตโคนาโซล(Ketoconazole)
โคลไตรมาโซล(Clotrimazole)ยาไมโคนาโซล(Miconazole)หรอื อาจใชย าท่หี าซือ้ ได
เองตามรา นขายยากไ็ ด ซึง่ มักเปน ยาท่ีมีสว นประกอบของยา ดังกลา ว การใชยาทา
รกั ษาอาจตองใชร ะยะเวลานาน 2-4 สปั ดาห เพอ่ื ใหแนใจไดว า ฆา เชอ้ื ราท่ีทำใหเกิดโรค
ไดห มดและลดการเส่ียงกลับไปตดิ เชือ้ อีกครั้ง
âä 7
¼´ÃŒÍ¹
(Heat Rash)
ภาพจาก.นพ.สมาธิ นชิ านนท์
(คลินิกนายแพทยส์ มาธิ โรคผิวหนงั ภมู แิ พ้ ศรีสะเกษ)
8
¼´
Ì͹
ผดร้อน เป็นตมุ่ คันขนาดเลก็ เกิดจากตอ่ มเหงอื่ ทีอ่ ุดตันใตผ้ วิ หนัง
โดยเฉพาะเม่อื เหง่อื ออก หรืออยู่ในสภาพอากาศทรี่ อ้ นและชืน้ ซึ่ง ผดร้อน
อาจปรากฏข้ึนไดท้ ่วั รา่ งกาย เช่น บริเวณใบหนา้ คอ หลงั อก และต้นขา
เป็นตน้ แมผ้ ดร้อนเป็นภาวะทางผวิ หนังท่ไี มอ่ ันตราย และอาจหายไดเ้ อง
เม่ืออากาศเย็นลงแต่คนท่วั ไปควรศกึ ษา ขอ้ มูลเพือ่ ปอ้ งกันหรือรบั มอื
หากเกดิ ผดรอ้ นขึ้นกบั ตนเอง
ÊÒà赯 9
1 ภูมิอากาศเขตร้อน รา่ งกายสมั ผสั แสงแดดหรือสภาพ
อากาศที่ร้อนและชื้นจนมเี หงื่อออกมาก
ตอ่ มเหง่ือพฒั นาไม่สมบรู ณ์ อาจเกิดขน้ึ ไดก้ ับทารกแรกเกิด
2 ที่มีอายเุ พยี ง1 สปั ดาห์เพราะต่อมเหงอ่ื อาจยงั เจริญไมเ่ ต็มท่ี
จงึ อาจทำให้เหงอ่ื ติดอยู่ใต้ผวิ หนัง.โดยเฉพาะเมอื่ อยูใ่ นตอู้ บ
เดก็ หรอื เป็นไข้
3 การปกปิดร่างกาย เช่น การปดิ ผิวหนังดว้ ยพลาสเตอร์
การใสเ่ สือ้ ผ้าทอ่ี บอุ่นและหนาเกินไป หรือการนอนใต้ผา้
หม่ ไฟฟ้าที่ทำใหเ้ กดิ ความรอ้ น
4 การทำกิจกรรมที่ใช้แรง เช่น การออกกำลังกายหนกั ๆ
หรอื ทำกิจกรรมอน่ื ๆที่ทำใหม้ ีเหงือ่ ออกมาก
ภาวะท่ไี ม่สามารถเคลือ่ นไหวได้เมื่อเกดิ อาการปว่ ยต่างๆ
5 โดยเฉพาะเมื่อมีไข้ อาจทำใหต้ ัวร้อนและมีเหงื่อออกขณะ
นอนพกั รกั ษาตวั หรอื มปี ญั หาสุขภาพอื่นๆ ท่ที ำให้ต้อง
นอนอย่บู นเตียงเปน็ เวลานาน
ÍÒ¡ÒÃ 10
อาการคนั และมตี ุ่มเลก็ ๆขนึ้ ตามร่างกายเปน็ อาการที่พบได้ท่วั ไป
ของผดร้อน.โดยมกั ปรากฏขน้ึ บรเิ วณใต้ร่มผ้าหรือ บริเวณใบหน้า
คอ หลงั อกและต้นขาส่วนเด็กเล็กมักเกิดผดร้อนบรเิ วณคอหัวไหล่
และหน้าอกและบางครงั้ อาจปรากฏอาการบริเวณรกั แร้ ข้อพับแขน
และขาหนบี ได้ ซึง่ ผดรอ้ นอาจเกิดขึน้ ได้หลายรปู แบบ เชน่
ตุ่มนำ้ ใสขนาด 1-2 มลิ ลเิ มตร ไม่แสดงอาการเจบ็ หรือคนั แต่อาจ
แตกเป็นสะเกด็ ไดง้ า่ ย มักเกดิ จากการอดุ ตนั ในผวิ หนังชน้ั ทต่ี น้ื ท่สี ดุ
ทำให้เหงื่อทร่ี ว่ั ออกมาจากท่อเหงอื่ สะสมอยูใ่ ต้ผวิ หนัง
บรเิ วณน้นั ซ่ึงถูกปกคลมุ ด้วยผวิ หนงั บาง ๆ
ผดแดง ซึ่งทำใหร้ ้สู ึกคนั เจ็บแสบ หรือระคายเคอื ง และมักเกิดขนึ้
บรเิ วณผวิ หนังท่มี ีการเสยี ดสี เชน่ อก คอ หลัง และขอ้ พบั
ต่มุ สเี นอ้ื ขนาด 1-3 มิลลิเมตรลักษณะคลา้ ยผิวหา่ นและไมแ่ สดง
อาการอน่ื ๆเกดิ จากการรัว่ ของตอ่ มเหงือ่ ชนั้ หนงั แท้ ซ่งึ มกั เกดิ ใน
เวลาไม่ก่ีช่วั โมงหลังสมั ผัสความร้อน
11
Ç¸Ô Õ»‡Í§¡¹Ñ
1 หลีกเลี่ยงสภาพอากาศร้อนเกนิ ไป
โดยเฉพาะในฤดรู ้อน อยู่ในห้องท่ีอากาศเยน็ สบาย
2 หลีกเลยี่ งการทาครมี หรอื โลชั่น
ท่กี อ่ ให้เกิดการอดุ ตนั ประเภทน้ำมันและข้ีผ้งึ
3 สวมใส่เสอื้ ผ้าเน้ือบางๆ
ไม่รัดรปู ระบายอากาศได้ดี เชน่ ผ้าฝ้าย
4 อาบนำ้ เยน็ หรอื เช็ดตวั
ชว่ ยคลายร้อนใช้สบู่ทไี่ มท่ ำให้ผิวหนังแหง้
12
Ç¸Ô ÃÕ Ñ¡ÉÒ
1 อาบนำ้ ด้วยนำ้ เยน็ และสบู่ท่ไี มท่ ำให้ผวิ แหง้ และปลอ่ ย
ใหผ้ วิ แห้งเองหลงั อาบน้ำเสรจ็ ไม่ใช้ผา้ ขน หนูเชด็ ตวั
เพื่อ ลดการเสียดสีจนเกดิ ผดรอ้ น อกั เสบเพิม่ ขนึ้
2 อยู่ในบริเวณทม่ี อี ากาศเย็นหรอื มเี ครื่องปรับอากาศ
ประคบผา้ เย็นบรเิ วณผวิ หนงั เพ่ือช่วยลดความร้อน
3 หลกี เลยี่ งการทำงานหรอื ออกกำลงั
กลางแจ้งทอี่ าจทำใหเ้ กดิ เหงือ่ ออก
มาก
4 หลกี เล่ียงการใช้พลาสเตอรป์ ดิ ทบั ผิวหนงั
หรือไมส่ วมใสเ่ สือ้ ผ้ารัดรปู เพือ่ ปอ้ งกันการ
อุดตนั ของตอ่ มเหงื่อ
13
โรค
เกลอื้ น
(Tinea versicolor)
ภาพจาก.นพ.สมาธิ นชิ านนท์
(คลนิ ิกนายแพทย์สมาธิ โรคผวิ หนัง ภูมแิ พ้ ศรสี ะเกษ)
14
เกล้อื น
เกลื้อน (Tinea Versicolor)
เปน็ โรคติดเชอื้ ราทผี่ วิ หนงั ท่วั ไปชนิดหน่ึง เกดิ จากราทอ่ี าศัยอยตู่ ามผิวหนัง
ปรากฏในลักษณะเปน็ ดวงเลก็ ๆ ทอี่ าจมีสเี ข้มหรือสอี อ่ นกว่าสผี ิวปกตบิ รเิ วณรอบ
โดยมักเกิดขนึ้ ที่ลำตัวหรอื ต้นแขน และหากปล่อยไว้ไม่ไดร้ บั การรักษา
ก็จะสามารถรวมตวั กันและขยายเป็นดวงใหญ่ขน้ึ
15
1
อากาศรอ นและชนื้
2
มีเหงือ่ ออกมากเกินไป
สาเหตุ
เกลื้อนเกดิ จากเช้ือรามาลาสซเี ซีย (Malassezia)ท่อี ยู่ตามผวิ หนงั โดยปกติผวิ ของคนเรา
ส่วนใหญจ่ ะมีเช้อื ราชนิดน้ีอยแู่ ลว้ แตจ่ ะสง่ ผลใหต้ ิดเชื้อกต็ ่อเมอื่ มมี ากกว่าปกติ ซ่งึ สาเหตุ
ทท่ี ำใหเ้ ช้ือรานเี้ ตบิ โตขึน้ กย็ ังไม่แน่ชดั แต่สันนษิ ฐานวา่ มปี ัจจัยท่ีเปน็ ตวั เร่ง ได้แก่
3
ระบบภมู คิ ุม กันออนแอ
4
เช้ือรา
ท้ังนกี้ ารเกดิ ของเกลอ้ื นไม่เกี่ยวกับการไม่รกั ษาสขุ อนามยั แตอ่ ย่างใด .โดยสามารถเกดิ ได้
กับทกุ เพศทุกวัย แต่พบได้บ่อยในวยั รุ่นและวัยผใู้ หญ่ตอนตน้ และจะไมแ่ พรไ่ ปส่ผู ้อู ่ืนเพราะ
คนส่วนใหญม่ กั มียีสตม์ าลาสซีเซยี อย่บู นผวิ หนังอยแู่ ล้ว
16
1
ดวงเกลือ้ นอาจจางลงหรอื หายไปเมอ่ื สภาพอากาศเยน็
หรืออาการอาจแยล งหากอากาศรอนหรือชื้น
2
อาจทำใหผ วิ แหง ตกสะเกด็ หรือคนั
อาการ
ลกั ษณะของการตดิ เชอ้ื ราเกลื้อนอาจสงั เกตได้ดงั นี้
3
มีดวงขนึ้ เปน สีขาว ชมพู แดง หรือนำ้ ตาล
โดยจะมีสเี ขม หรือออ นกวา ผิวหนงั ปกตบิ ริเวณรอบ
อาจขน้ึ เปน ดวงเดยี วหรอื หลายดวงก็ได
4
บางคนทเี่ ปนเกล้อื น
ผวิ หนงั อาจไมไดแ สดงการเปล่ียนแปลง
ลักษณะหรอื สีอยางเหน็ ไดชดั
1 17
เลยี่ งการเผชิญแสงแดดเทา่ ที่จะทำได้ เนือ่ งจากจะกระตุ้น
ให้อาการแย่ลงและเหน็ เกลอื้ นชัดข้นึ อาจใชห้ มวกหรือผา้ คลุมกันแดด
2
เล่ยี งการทำให้เหงอ่ื ออกมาก
วธิ ีป้องกนั
โรคเกลื้อนมโี อกาสกลบั ไปเป็นอีกครง้ั ได้ง่ายแมว้ า่ จะรักษาหายไปแล้ว โดยเฉพาะช่วงหนา้ ร้อนหรอื เมือ่ อากาศร้อนชื้น
การปอ้ งกันการตดิ เชือ้ ราอีกครง้ั สามารถทำไดด้ ้วยการใชแ้ ชมพขู จดั เชอ้ื ราเป็นประจำทกุ 2-4 สปั ดาหห์ รอื วนั ละ 1 ครั้ง
ในชว่ ง 2-3 วันก่อนออกไปทำกจิ กรรมที่ตอ้ งสัมผัสอากาศรอ้ นนานๆหรือทำใหม้ ีเหง่อื ออกมาก นอกจากการใชแ้ ชมพู
ขจดั เชอื้ ราทำความสะอาดเป็นประจำแลว้ ยงั มขี ้อปฏบิ ัติทีท่ ำไดด้ งั นี้
3
เลือกสวมเส้อื ผา้ ท่ีระบายความรอ้ น
และความช้นื เพ่อื ลดเหงอ่ื ออก เช่น ผา้ ฝ้าย
4
ควรทาครมี กนั แดดทุกวนั
เลอื กใชส้ ูตรทม่ี ีความมันนอ้ ย และมี SPF 30 ข้นึ ไป
วธิ รี ักษา 18
1
ครมี หรอื เจลขจดั เช้อื รากรณที ผ่ี วิ หนังตดิ เชอ้ื ราเพียงจุดเลก็ ๆ อาจรกั ษาดว้ ยครมี ขจดั เช้ือรา
โดยทาวันละ 1-2 ครัง้ ลงบนผวิ หนงั เช่นเดยี วกบั การใชแ้ ชมพแู ตไ่ ม่ต้องลา้ งออกครมี ต้านเช้ือรา
นบ้ี างครงั้ อาจก่อให้เกิดอาการแสบรอ้ นที่ผวิ หนังแตพ่ บได้ไมบ่ ่อยคร้ังยาต้านเช้อื ราประเภทครมี
ได้แก่โคลไตรมาโซล(Clotrimazole)ไมโครนาโซล(Miconazole)และเทอรบ์ ินาฟีน(Terbinafine)
2เป็นตน้
แชมพขู จดั เชอื้ รา ในขั้นแรกของการรกั ษาแพทย์มักแนะนำใหใ้ ช้แชมพขู จดั เชื้อราท่ีประกอบดว้ ย
ตัวยาต้านเชื้อราเช่น คโี ตโคนาโซล(Ketoconazole)หรอื ซลี เี นยี มซลั ไฟด์ (Selenium sulphide)
ซงึ่ แพทย์อาจส่งั จ่ายแชมพนู ้ีให้ผปู้ ว่ ยหรือหาซือ้ ไดต้ ามรา้ นขายยาท่วั ไปก็ได้
3
ยาต้านเช้อื ราผวิ หนังที่ติดเชอ้ื ราเป็นบริเวณกวา้ งหรอื การใชแ้ ชมพแู ละครมี ไม่ไดผ้ ลผปู้ ่วยอาจได้
รับยาชนดิ รับประทานจากแพทย์ เชน่ ฟลโู คนาโซล(Fluconazole)ไอทราโคนาโซล(Itraconazole)
เป็นระยะเวลา1-4 สปั ดาห์ ซงึ่ สว่ นใหญย่ านี้มกั ไมค่ ่อยพบผลขา้ งเคียงการใช้แต่หากมีกอ็ าจทำใหม้ ี
ผื่นคนั รสู้ กึ ปว่ ยและปวดทอ้ งในระหว่างทรี่ ับประทานยานี้
4
ยา ครีม และแชมพขู จดั รังแคเหล่านอ้ี าจตอ้ งใช้เวลาหลายสปั ดาหห์ รือ เปน็ เดอื นกว่า
ผิวหนังจะกลบั มาเปน็ สปี กติ หรืออาจตอ้ งรักษาซำ้ หากเป็นนานหรือกลบั ไปเปน็ อกี คร้ัง
19
โรคผิ�
ไหม�แ�ด
(PHOTODERMATOSES)
ภาพจาก.นพ.สมาธิ นชิ านนท
(คลนิ กิ นายแพทยส มาธิ โรคผวิ หนงั ภมู ิแพ ศรสี ะเกษ)
20
ผิวไห��แดด
ผิวไหมแ ดด (Sunburn)คอื ภาวะของผิวที่เกิดการอกั เสบ แดง และแสบรอน
จากการรบั รงั สีอลั ตราไวโอเลตหรือรงั สยี ูวี (UV) ที่มากหรอื นานเกนิ ไป ซ่ึง
อาการไหมแ ดดสามารถเกิดข้ึนบนผวิ หนงั ทวั่ ไปและบรเิ วณรา งกายทโ่ี ดนรัง
สยี ูวีได เชน หนงั ศีรษะ ริมฝป าก ดวงตา เปนตน
ผวิ ไหมแ ดดไมไดเ กิดจากแสงแดดเพียงอยา งเดยี วเทานัน้ แตย ังสามารถเกดิ
จากรังสียวู เี ทียม อยา งหลอดไฟยวู ี ตูหรือเตียงอบผวิ แทนแมอาการผิวไหม
แดดสวนใหญส ามารถหายไดเ อง แตหากไดรับรงั สนี ้มี ากเกนิ ไปกอ็ าจเกิดอา
การอนื่ ๆที่สงผลเสยี ตอผิวหนงั เชน ผวิ ไหม ผิวลอกตมุ พองเปนตนรวมทง้ั
อนั ตรายจากรงั สียูวกี เ็ ปนหน่ึงในสาเหตุของการเกิดร้วิ รอยตางๆและโรครา ย
แรงอยางมะเรง็ ผิวหนงั ไดอ ีกดว ย
สาเหตุ 21
ผิวไหมแดด
เกิดจากรังสอี ัลตราไวโอเลตหรือรงั สยี ูวีท้ัง จากแหลงธรรมชาตแิ ละ
จากรงั สยี ูวีเทียมอยา งเตียงอบผวิ แทนหรือหลอดไฟยูวี รวมไปถงึ พน้ื
ผวิ ตางๆ อยา งทรายหรอื น้ำกส็ ามารถสะทอนรังสยี ูวมี าสูรา งกายได
ทำใหไมวาจะเปนสภาพอากาศหนาว หรือรอ นกอ็ าจเกิดผวิ ไหมแดดได
ปกติแลว รางกายของมนุษยจะมกี ระบวน การปอ งกนั รงั สยี ูวอี ยู
โดยรางกายจะผลติ เม็ดสีท่มี ีช่ือวาเมลานนิ (Melanin)ออกมามาก
กวาปกติทผ่ี ิวหนงั ชั้นนอกและทำใหผ วิ คล้ำข้นึ ซง่ึ เมลานนิ จะเปน ตัว
ชวยในการปอ งกนั ผิวจากรังสียูวที ่ีมากเกนิ ไป และ ปอ งกันไมใหผ ิว
เกิดการไหมแ ดดแตกระบวนการนีส้ ามารถชว ยไดใ นระดับหนงึ่ เทา นน้ั
แสงไฟยูวีเอ (UVA)
ยูวเี อเปนรังสีทมี่ คี วามรนุ แรงนอ ยกวายูวีบี แตเปนรงั สีท่ี
สามารถทะลุเขา ไปทำลายเซลลใหมๆ ท่ีเกิดขึ้นในช้ันผวิ หนงั
แทและชน้ั ไขมนั ทส่ี ะสมอยใู ตผ ิวหนังและการรบั รงั สยี ูวเี อสะสม
เปนเวลานานก็จะทำใหผิวเกิดร้วิ รอยรอ งลกึ ตางๆ ตามมา
แสงไฟยวู บี ี (UVB)
ยวู บี มี ผี ลตอชั้นหนงั กำพรา ทอ่ี ยูน อก สุดของรา งกายกอใหเกิด
รอยแดงที่เปน สญั ญาณเริ่มตน ของอาการผวิ ไหมแดดการรับรงั
สยี วู บี สี ะสมเปนเวลานานก็เปน สาเหตขุ องการเกดิ รว้ิ รอยตางๆ
รวมไปถงึ มะเร็งผิวหนงั ชนดิ เมลาโนมา (Melanoma)และชนดิ
ไมใชเ มลาโนมา (Non-melanoma)
22 อาการ
ผวิ ไหมแ ดด มกั จะเริม่ มอี าการหลงั จากทโี่ ดนแดดไปประมาณ
2-6 ชัว่ โมง โดยมกั จะพบอาการแสบรอ นตามผวิ หนงั ทีโ่ ดนแดด
ผิวเรม่ิ เปล่ียนเปนสีแดงหลงั จากนั้นประมาณ 24 ช่ัวโมงข้ึนไปผิว
ทไี่ หมแดดจะเรม่ิ เกดิ อาการอ่นื ๆ ตามระดบั ความรุนแรง .โดยอาจ
พบวา ผวิ เรม่ิ มีอาการระคายเคืองหรอื เจ็บปวด
ผวิ ไหมแดดอาจเกดิ ไดก บั ผิวหนงั สวนทม่ี เี สื้อผาปกคลมุ อยหู ากเนื้อผา
บางเกนิ ไปหรอื ไมสามารถกนั รังสียูวีได รวมถึงบรเิ วณสว นอน่ื ของรา ง
กายทโ่ี ดนแดดไดอยางดวงตาทำใหแสบตา เจ็บตา ระคายเคืองตา หรอื
รูส กึ คลายมีเมด็ ทรายอยใู นดวงตา
ควรไปพบแพทยหากอาการผิวไหมแ ดดไมดขี ้ึนหรอื แยล งใน 2-3 วนั
เชนผวิ เริม่ บวมมากข้นึ แผลพุพองเพ่มิ ข้ึนทั่วรางกายหรอื มีอาการตดิ
เชื้อจากตุมแผลทแี่ ตกสงผลใหมีอาการเจบ็ มีหนองและรอยแดงกระจาย
บรเิ วณรอบๆแผล เปน ตน
ถามีสัญญาณของภาวะขาดน้ำ(Dehydration)ภาวะไมส มดลุ ของเกลือแร
ในรางกาย(Electrolyte Imbalances)หรอื เปนลมแดด(Heatstroke)ควรรีบ
ไปพบแพทยท นั ทเี พราะอาจเปนอันตรายถงึ ชวี ติ .โดยสังเกตไดห ลังจากการ
โดนแดดแลว รา งกายมีอณุ หภมู ิขน้ึ สูงเกนิ 39 องศาเซลเซียสรสู กึ วงิ เวยี น
ศีรษะคลืน่ ไสเ ปน ลมตัวซีด หายใจถี่ ชพี จรเตน เร็วกระหายนำ้ ไมค อยปสสาวะ
เบา ตาลึก
วธิ ปี ��งกนั 23
การปอ งกนั ผวิ ไหมแ ดดทดี่ ีที่สดุ จงึ เปน การหลีกเลย่ี งกจิ กรรมในทโี่ ลง
แจง ท่ตี อ งโดนแสงแดดจดั .โดยเฉพาะชวงเวลา 10.00-16.00น.หาก
เลย่ี งไมไดควรเลอื กปฏบิ ัติตามวธิ ีตา งๆที่ชว ยปอ งกนั หรอื ลดโอกาส
ไหมแดดเชน
หม่ันทาครีมกนั แดดและลิปบาลม อยเู สมอ.โดยเลอื กใช
ผลติ ภณั ฑทมี่ ีคา SPF 30 ขน้ึ ไปควรทากอ นออกแดดประมาณ
15 ถงึ 30 นาทแี ละทาซ้ำทกุ ๆ 2 ช่วั โมงหรอื หลังวายนำ้ และเหงื่อ
ออก
กางรมและสวมแวน กนั แดดทสี่ ามารถกันรังสยี วู หี รอื เลอื กสวม
เครือ่ งแตงกายท่ีสามารถปกปดรา งกายไดมดิ ชดิ เชน เส้อื หรอื
กางเกงขายาว.โดยเลอื กเสอ้ื ผา ทม่ี ีสีโทนมืดเพราะสามารถกัน
รงั สยี ูวไี ดม ากกวาเส้อื ผา ที่มีสโี ทนออ น
ดื่มน้ำและดืม่ วิตามนิ Cใหมากและหลีกเลี่ยงการดมื่ แอลกอฮอล
เพราะจะย่ิงทำใหร างกายเสี่ยงตอการเกดิ ภาวะขาดน้ำ
ทาครมี หรอื เจลวานหางจระเขหรือคาลาไมน เพ่ือเพิม่ ความชมุ ช้ืน
24
หากเปนผวิ ไหมแ ดดในระดับไมร นุ แรงอาการจะหายไดเอง วธิ ีรก� ษา
ตามธรรมชาต.ิ โดยผิวชัน้ บนจะเร่ิมลอกออกในชวง2-3วัน
หลังการไหมแดดหรอื อาจนานกวานนั้ และผวิ ใหมทข่ี ึน้ มา
อาจจะยงั มีสีท่ไี มส ม่ำเสมอแตจะดีข้ึนไดเองเมือ่ เวลาผาน
ไปนอกจากน้ีผปู วยยังสามารถใชว ธิ ตี า งๆ เพอ่ื ชว ยบรรเทา
อาการ เชน
ใชผ าเยน็ หรือผาชุบน้ำประคบลงบนผวิ
แตค วรหลีกเล่ยี งนำ้ ทมี่ ีอุณหภูมเิ ยน็ จดั
ทาครมี หรือเจลวานหางจระเข หรือคาลาไมน
เพือ่ เพ่ิมความชมุ ชน้ื
ดื่มน้ำเปลา หรือเคร่ืองดื่มท่ีไมม แี อลกอฮอลห รือคาเฟ
อนี เพ่ือชดเชยและปอ งกนั การสญู เสยี นำ้ ของรา งกาย
อยใู นทรี่ มหลีกเล่ียงการออกแดด
หลีกเลยี่ งยาทีท่ ำใหผวิ เกดิ การระคายเคอื งหรอื แพได
25
โรค ภูมิแพ�ผวิ หนงั
(Atopic dermatitis)
ภาพจาก.นพ.สมาธิ นิชานนท์
(คลินิกนายแพทยส์ มาธิ โรคผวิ หนัง ภมู ิแพ้ ศรีสะเกษ)
26
โรคภมู ิแพผ� วิ หนัง
ผื�นภมู แิ พ้ผวิ หนงั คอื โรคทางผวิ หนังประเภทหน�งึ อันเกดิ จากรา่ งกายมีปญ� หาใน
เรื�องของภูมคิ มุ้ กนั บกพร่องเปน� ทนุ เดิมอยแู่ ลว้ (ภมู ิแพ้)แสดงออกมาผ่านทาง
ผวิ หนงั โรคน�ไี มว่ า่ เด็ก ผ้ใู หญ่ หรอื เพศไหนก็เกดิ ขึ�นไดส้ ่วนใหญเ่ ม�อื เกดิ ข�ึนแลว้
มักมอี าการคนั รว่ มด้วย
ป�จจุบันแม้ยังไมม่ วี ิธีรักษาใหห้ ายขาดสนิทแตก่ ถ็ อื วา่ แนวทางการแพทย์จะชว่ ยลด
ความรนุ แรงของโรคได้ ซงึ� ตรงนต�ี อ้ งอาศัยการดูแลสขุ ภาพของตนเองดว้ ย
หากต้องการควบคุมอาการไม่ใหก้ ำเริบข�ึนมาอีก
27
สาเหตุ
โรคผ่ืนภมู ิแพผวิ หนัง เกิดจากสาเหตุไดห ลายอยา งแตป จจัยหลกั ๆมัก
เริม่ ตน มาจากรา งกายของตนเองมีปญหาเรอื่ งภูมิคุมกนั มากอ นสงผล
ใหเมื่อผิวหนังพบเจอกบั สิ่งแวดลอ มภายนอกก็มักเกดิ อาการแพจนมีผ่ืน
แดงคันข้นึ ตามสวนตา งๆ ของผวิ หนงั ซ่ึงปจจยั ภายนอกทสี่ รา งปญหา
ของโรคนไ้ี ดบ อ ยเชน การอยูในผืน่ ทฝ่ี นุ ละออง เกสรดอกไม ไรฝนุ ขนสตั ว
ท่ีสัมผสั กับผิวโดยตรง ฯลฯ
สภาพอากาศท่ีแหงในฤดูหนาวมักทำใหผวิ แหง ตามอันเปน อกี สาเหตุของ
การเกดิ โรค การทานอาหารบางชนิดท่ไี ปกระตุน ใหเ กิดโรค รวมถึงการได
รับสารเคมีบางชนิดท้ังทางตรงและทางออม อาทิ สารเคมีจากสบูยาสระ
ผมผงซกั ฟอก เปน ตน
28
อาการ
โรคภูมแิ พผ ิวหนงั มกั เกดิ รว มกบั โรคภมู ิแพระบบทางเดินหายใจเชน โรคหอบหืด แพอ ากาศ
สาเหตุโรคไมแนช ดั แตเ ชอ่ื วา สาเหตจุ ากพนั ธกุ รรมซึ่งโรคน้เี กี่ยวขอ งกบั ระบบภูมิคมุ กนั ของ
รา งกายท่ตี อบสนองตอ ส่งิ เรา ตา ง ๆ ไวกวาปกติ ทำใหเกดิ อาการแพขึน้
1 หากเปน เรื้อรงั ผิวหนังจะหนาและมีรอยคล้ำ
2 ผื่นแดง 3 แหง เปนขยุ
4 คนั ยุบยบิ 5 คนั มากขึ้นเม่ือเหง่อื ออก
29
วิธีป�องกนั
ผื่นภมู แิ พผิวหนังรักษา และปองกนั เบ้ืองตน ไดด ว ยการเลือกใชผ ลิตภัณฑใหความชมุ ชื้น
กบั ผวิ หนงั .โดยเฉพาะกลมุ มอยสเจอรไรซ่งิ เน่อื งจากเมือ่ ผิวหนังมคี วามชุม ชน้ื มากขึ้น
อาการของโรคมักไมคอยกำเริบออกมามากนกั อกี ทง้ั สารใหความชุมชื้นเหลา นย้ี ังชว ย
ปองกันไมใ หป จ จัยภายนอกเขามากระทบกับผวิ โดยตรงจนกอใหเ กิดอาการแพรุนแรงดวย
1 ทำความสะอาดรา งกายและลา งมืออยูเสมอ
2 ใชสบูออน ๆ ไมมนี ำ้ หอม ไมม ีสารกันเสยี และออนโยนตอผวิ
3หลีกเลยี่ งสถานทีท่ ีม่ ีฝุนละอองแมลง และยุงชุกชุม
หลกี เลี่ยงการใสเ สื้อผา ทีร่ ดั มากเนอ้ื หยาบหนา
4หรอื ผา ขนสตั ว ซ่ึงทำใหเกดิ การระคายเคอื งตอผิว
30
วิธีรกั ษา
อาการของโรคน้ยี ังไมม ีวธิ ีรักษาใหหายขาดได
ซ่งึ แพทยจะใชวธิ บี รรเทาโรคตามอาการทเี่ กดิ ขึน้ เชน
การทายาประเภทสเตยี รอยดพอื่ ลดความอกั เสบ
1 ทีเ่ กดิ ขึน้ กับผิวในกรณีที่ลกุ ลามมากๆ
บางรายท่ีอาการหนกั มากจริงๆแพทยอ าจเลือก 2
ใชว ธิ ีรกั ษาดว ยการฉายแสงอาทิตยเ ทียมการใหท าน
ยากดภมู ิ ยาปฏิชีวนะตา งๆ
การรักษาทางการแพทยแ ลวสว นใหญยงั มักไดร บั คำ
3 แนะนำใหห ลกี เล่ยี งปจ จัยเส่ยี งทีม่ ักทำใหเ กิดโรคนี้ เชน
การสัมผัสกบั ส่ิงแวดลอ มภายนอกท่มี กั กอใหเกดิ ความ
ระคายเคือง ควรเลือกสวมใสเส้อื ผาระบายอากาศไดดี
ใชครีมบำรุงผิวทีม่ สี ว นผสมของมอยสเจอรไ รเซอรท ่ี 4
ชวยฟนบำรุงปราการผิวออนโยนและไมมีสารเคมที ่ีไป
กระตุนการเกิดโรค
31
โรคกลนิ่ ตวั
(smell disease)
32
กลนิ่ ตวั
กล่นิ ตวั คอื กล่นิ เหมน็ หรอื กลิน่ ไมพงึ ประสงคทีม่ กั เกิดข้ึน
ในชว งวัยหนมุ สาวเปน ผลมาจากตอมเหง่อื ทีท่ ำงานมากข้นึ
เพอ่ื ควบคุมอณุ หภมู ใิ นรา งกายทำใหร างกายขับเหงื่อออก
มาก .โดยเฉพาะทบี่ ริเวณรกั แร ฝา มือ เทา หรือขาหนีบใน
ระหวางออกกำลังกายรวมถงึ การทำกิจกรรมในทีท่ ีม่ ี
อากาศรอน เม่อื เหงือ่ สัมผัสกบั เชอ้ื แบคทเี รียบนผิวหนังจงึ
ทำใหเกดิ กล่ินตัวหรอื กลนิ่ ทไ่ี มพึงประสงคข้นึ
33
สาเหตุ ผิวหนงั ของมนุษยจ ะประกอบไปดวยตอ มเหง่ือทส่ี ำคัญ 2
ตอ มดวยกนั คือตอมเอกไครน และตอ มอะโพไครน ซึ่งแตละตอม
จะมหี นาทีแ่ ตกตา งกันออกไป โดยมีรายละเอียดดังตอ ไปนี้
ตอมเอกไครน
เปน ตอ มทอี่ ยบู นผิวหนัง มหี นาที่ผลติ เหงื่อ
เมือ่ อุณหภูมใิ นรา งกายสูงขน้ึ เพ่อื คลายความรอนในรา งกาย
ในเหงอ่ื จะมนี ำ้ และเกลือเปน สว นประกอบหลักและจะระเหยเมอื่
อุณหภูมิในรา งกายเย็นตวั ลง
ตอ มอะโพไครน
เปน ตอ มท่ีอยูใ นบริเวณท่มี ีขนขึ้นมาก
เชน รกั แร หรือขาหนีบ จะผลติ ของเหลวสีขาวขนุ คลา ยนำ้ นม
ออกมาเม่อื เกิดความเครยี ด และเมือ่ สัมผสั กับเชือ้ แบคทเี รียบน
ผิวหนังจะทำใหเ กิดกลิ่นขึน้
34
อาการ ผูท เ่ี ปนโรคกล่ินตัวเหม็นมักเปนโรคน้ีมาตั้งแตเกดิ
แตส ว นใหญอ าการจะมาปรากฏตอนโตทพ่ี บบอย
คอื ในชว งเขาสวู ยั เจรญิ พนั ธหุ รือ วัยหนมุ สาว(Puberty)
.โดยอาการเดียวทเี่ กดิ ขนึ้ ก็คือ กลิน่ ตัวท่เี หมน็ คลุง คลาย
กลิ่นปลาเนา ซง่ึ ออกมาทางลมหายใจ เหง่ือ ปสสาวะ
อสุจิ สารคัดหลงั่ ในชอ งคลอด
บางคนอาจมีกลิ่นเหม็นคลงุ ตลอดเวลาแตส ว นใหญ
แลว กล่ินจะมาๆหายๆและมคี วามรุนแรงแตกตา งกนั ไป
ขึ้นอยูกบั ส่งิ กระตุน บางอยาง
.โดยปจจัยท่สี ามารถทำใหกลน่ิ เหม็นรนุ แรงขน้ึ ได
เชน การมีเหงอ่ื ออก ความเครยี ด อาหารบางชนิด
(เชน ปลา ไข ถ่วั )หรอื หากเปนผูหญิง ชวงมปี ระจำเดือน
และการกินยาคมุ กอ็ าจกระตนุ ใหอ าการของโรคกลนิ่ ตัว
เหม็นรนุ แรงขึ้นไดเชนกนั
35
วิธี ปจจบุ นั ยังไมมีวิธหี รอื ยารกั ษาโรคกลิน่ ตวั เหมน็
ปองกนั โดยเฉพาะ แตอ าการที่เกิดขึ้นสามารถดีขน้ึ ไดดว ยการปรบั เปลยี่ น
พฤตกิ รรมดังตอ ไปน้ี
และ
รกั ษา ใชย า
โรคกลิน่ ตัว หากจำเปน คณุ หมออาจใหคุณใชยาปฏิชีวนะในขนาดยาต่ำๆ
เพอ่ื ลดปริมาณแบคทเี รียในลำไสและกดการสรา งไตรเมทลิ ามนี
แตคณุ ไมค วรใชย าปฏิชีวนะติดตอ กันนานเกินไป และควรปรกึ ษา
แพทยเพอื่ เปลี่ยนยาหรอื หาวธิ ีรักษาใหมท กุ 2 อาทิตย
เพอ่ื ปอ งกนั แบคทเี รียดื้อยา
รักษาความสะอาด
ใชแชมพู สบู หรอื ครีมอาบน้ำทีม่ ีคา pH ระหวา ง 5.5-6.5
เพ่ือกำจดั กลน่ิ ตัวที่เกิดจากไตรเมทิลามีน.โดยไมทำลายสมดลุ
ความเปน กรด-ดางของผิว
ลดเหง่ือและลดเครยี ดดว ยการออกกำลงั กายเบาๆ
แทนการออกกำลังกายอยา งหนักหนวงจนเหงือ่ ออกมาก
และพยายามอยาวติ กกังวลหรือเครียดเกินไป เพราะสามารถ
สง ผลใหอาการของโรคกลิ่นตวั เหมน็ รนุ แรงข้ึนได
36
วธิ ี อาบนำ้ อยา งนอ ยวนั ละ 2 ครง้ั
ปอ งกัน เพือ่ ลางเหงือ่ และกำจัดแบคทีเรียบนผิวของคุณ
เพราะอาจมแี บคทีเรียที่อาศยั อยูบนผวิ ของคณุ
และ ผสมกับเหง่อื พวกมนั จะทวีคณู อยางรวดเรว็ และทำให
รกั ษา
โรคกล่นิ ตวั ใชส บูตา นเช้ือแบคทีเรยี
(ตอ) การอาบนำ้ ใหสะอาดดว ยสบูตา นเชื้อแบคทเี รีย
จะชว ยกำจัดแบคทเี รียอนั เปน สาเหตุของกล่ินตัว
และกำจดั กล่นิ รักแรอันไมพึงประสงคได
ลดอาหารหรอื เคร่อื งดม่ื บางชนิดสิง่ ท่ีคุณกิน
มผี ลตอกล่ินตัวของคุณเชน พริกเผ็ดหรืออาหารรสเผ็ดอ่นื ๆ
อาจทำใหเหง่อื ออกงายข้ึนและกลิน่ ของอาหารอยางหวั หอม
หรือกระเทียมกส็ ามารถขับออกมาทางเหงื่อได เชนกัน
เช็ดตัวดวยผา ขนหนใู หแหง สนิท
เช็ดตวั ใหแ หงสนทิ ทกุ ครั้งหลงั อาบน้ำ
โดยใหค วามสนใจกับจดุ ซอนเรน ทเี่ หงอ่ื ออกมากๆเชน รกั แร
ขอขอบคณุ ขอ มลู จาก
(https://www.pobpad.com)