ก หนา้
1
สารบญั
2
6
1. บทสรปุ ผู้บริหาร (สรุปสาระสำคัญของแผน) 6
6
2. ความสอดคล้องกับแผน 3 ระดับ ตามนัยยะของมตคิ ณะรัฐมนตรี เมอื่ วันท่ี 4 ธันวาคม 2560 21
และสรุปสาระสำคญั ของแผนพฒั นาจงั หวดั 21
34
3. สาระสำคญั แผนพฒั นาจงั หวัดนครนายก (พ.ศ. 2566 – 2570) 44
3.1 ข้อมูลเพื่อการพฒั นา 60
3.1.1 ข้อมูลพนื้ ฐานทางกายภาพ 67
3.1.2 ขอ้ มูลเชงิ เปรียบเทยี บ 75
1) ดา้ นเศรษฐกิจ
2) ดา้ นสงั คมและความม่ันคง 83
3) ดา้ นทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ ม 83
3.1.3 ประเด็นปัญหาและความต้องการเชงิ พื้นที่ 91
3.1.4 ผลการพฒั นาและแกไ้ ขปัญหาจังหวัดในชว่ งทีผ่ า่ นมา 92
3.1.5 ทิศทางและนโยบายการพัฒนาของประเทศ และความเชื่อมโยงสู่การพัฒนา 92
ของจงั หวัดนครนายก
3.2 ประเดน็ การพัฒนา 101
3.2.1 บทวิเคราะห์
3.2.2 เป้าหมายการพฒั นาจังหวัด 169
3.2.3 ตวั ชวี้ ัดความสำเร็จตามเปา้ หมายการพฒั นาจงั หวดั นครนายก
3.2.4 ประเดน็ การพฒั นาของจงั หวดั นครนายก 304
1) ประเดน็ การพัฒนา
2) วตั ถุประสงค์ 305
3) เปา้ หมายและตัวช้ีวดั
4) แนวทางการพัฒนา
5) แผนงานและโครงการสำคัญ
- แบบฟอรม์ สรปุ แผนงาน/โครงการสำคัญของจังหวดั (แบบ จ.1)
และบญั ชีแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม
- แบบฟอรม์ โครงการแบบย่อ (Project Brief) (แบบ จ.1-1))
4. ภาคผนวก
4.1 ภาคผนวก ก รายการตรวจสอบการดำเนินการตามพระราชกฤษฎีกาว่าดว้ ย
การบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวดั แบบบูรณาการ พ.ศ. 2551
4.2 ภาคผนวก ข สรุปผลการทบทวนแผนพัฒนาจังหวัด (พ.ศ. 2566-2570)
ข หนา้
10
สารบญั ตาราง 10
11
12
ตารางท่ี 1 พื้นท่ีและหนว่ ยการปกครองรายอำเภอ 12
ตารางท่ี 2 จำนวนประชากรจงั หวัดนครนายก จำนวนบ้าน และความหนาแน่น
13
จำแนกรายอำเภอ ปี 2563 14
ตารางที่ 3 รอ้ ยละการเปลยี่ นแปลงประชากร 10 ปี ย้อนหลัง (ปี พ.ศ.2554-2563) 15
ตารางท่ี 4 โครงสร้างประชากร ปี พ.ศ.2559-2563 15
ตารางที่ 5 เปรียบเทียบข้อมลู ประชากรทงั้ จังหวัดกับประชากรผสู้ งู อายุ ประจำปี
16
2560-2563 18
ตารางที่ 6 จำนวนสถานประกอบการและจำนวนผู้ประกนั ตน
ตารางท่ี 7 แรงงานนอกระบบ จำแนกตามอาชีพ 18
ตารางที่ 8 แสดงพ้นื ที่และประเภทสภาพการใชป้ ระโยชน์ที่ดิน พ.ศ. 2563
ตารางท่ี 9 ขอ้ มูลการใช้ประโยชนท์ ีด่ นิ ของจังหวดั นครนายก ปี พ.ศ. 2560 18
และ ปี พ.ศ. 2562 18
ตารางที่ 10 แสดงเนื้อท่ีการใชป้ ระโยชน์ทางการเกษตร พ.ศ. 2553-2562
ตารางท่ี 11 แสดงการจำหนา่ ยกระแสไฟฟ้าของจังหวัดนครนายก แยกเปน็ รายอำเภอ 19
ปี 2563 19
ตารางท่ี 12 แสดงการจำหนา่ ยกระแสไฟฟ้าของจังหวัดนครนายก แยกเป็นรายอำเภอ
19
ปี 2564
ตารางที่ 13 แสดงจำนวนผใู้ ชน้ ำ้ กำลังการผลิต พนื้ ทก่ี ารใหบ้ ริการของการประปาส่วนภมู ภิ าค 20
21
สาขานครนายก 22
ตารางที่ 14 อัตราการผลติ และการใช้นำ้ ประปาในจงั หวัดนครนายก ปี พ.ศ. 2562 23
27
และ 2564 การประปาส่วนภูมภิ าคสาขานครนายก
ตารางที่ 15 แสดงจำนวนผใู้ ชน้ ำ้ กำลงั การผลิต พื้นทกี่ ารใหบ้ ริการของ การประปาส่วนภูมิภาค
สาขาบ้านนา
ตารางที่ 16 แสดงอตั ราการผลติ และการใช้น้ำประปาในจังหวดั นครนายก ปี พ.ศ. 2562
และ 2563 การประปาส่วนภมู ภิ าคสาขาบ้านนา
ตารางท่ี 17 สถติ ิจำนวนผใู้ ชน้ ำ้ ปรมิ าณการผลติ และปริมาณการจำหน่าย
ของการประปาส่วนภมู ิภาค ปีงบประมาณ 2559 - 2563
ตารางท่ี 18 แสดงเสน้ ทางคมนาคมท่สี ำคัญของจังหวดั นครนายก
ตารางท่ี 19 ผลิตภณั ฑ์มวลรวมจงั หวัด จำแนกตามสาขาการผลิต พ.ศ.2558-2562
ตารางที่ 20 รายไดเ้ ฉลยี่ ครัวเรือน ปี 2562 (จปฐ.)
ตารางที่ 21 แสดงสถานทท่ี ่องเทีย่ วที่สำคัญของจังหวดั นครนายก
ตารางที่ 22 จำนวนผเู้ ยี่ยมเยอื น (นักท่องเทย่ี ว/นักทศั นาจร) รายได้ ค่าใชจ้ า่ ย
จากการท่องเทีย่ ว และจากการ จำหนา่ ยสนิ ค้า ปี 2559-2563
ค
สารบญั ตาราง (ต่อ) หนา้
28
31
32
ตารางที่ 23 จำนวนสถานที่พักแรม จำนวนห้องพัก และอัตราการเข้าพัก ปี 2558-2563 33
ตารางท่ี 24 จำนวนครัวเรอื นเกษตรกร และเนอ้ื ทีป่ ลกู ขา้ ว ปี 2558-2563 33
ตารางท่ี 25 จำนวนปศสุ ตั ว์ทเ่ี ปน็ แหล่งเศรษฐกจิ ทสี่ ำคัญ จำแนกรายอำเภอ ปี 2563 33
ตารางที่ 26 รายไดร้ ายได้ครัวเรือนภาคเกษตรจงั หวดั นครนายก รอบปเี พาะปลกู 2560-2563
ตารางที่ 27 คนจนเป้าหมาย TPMAP รายอำเภอ ปี 2562 34
ตารางที่ 28 จำนวนสถานประกอบการอตุ สาหกรรม จำนวนเงนิ ลงทนุ และจำนวนคนงาน
34
รายอำเภอ ปี 2563
ตารางท่ี 29 จำนวนสถานศึกษาห้องเรียน ครู นกั เรยี น และอัตราสว่ นนกั เรยี นต่อครู 35
และอัตราส่วนนักเรียนตอ่ ห้องเรยี น จำแนกตามสังกดั ปกี ารศกึ ษา 2563 35
ตารางท่ี 30 จำนวนสถานศกึ ษา อาจารย์ นักศึกษาในระดับอาชีวศกึ ษาและอดุ มศึกษา
36
อตั ราส่วนนกั ศึกษาต่ออาจารย์จำแนกตามสังกัด ปีการศกึ ษา 2563
ตารางท่ี 31 จำนวนสถานศกึ ษาห้องเรยี น ครู นักเรียน และอตั ราสว่ นนักเรียนต่อครู 36
และอัตราส่วนนกั เรียนต่อห้องเรียน จำแนกตามสงั กดั ปกี ารศกึ ษา 2564 37
ตารางท่ี 32 จำนวนสถานศกึ ษา อาจารย์ นักศึกษาในระดับอาชวี ศกึ ษาและอดุ มศึกษา
37
อัตราสว่ นนักศึกษาต่ออาจารย์จำแนกตามสงั กดั ปกี ารศึกษา 2564
ตารางท่ี 33 จำนวนสถานพยาบาล เจ้าหน้าทที่ างการแพทย์ อตั ราส่วนประชากรตอ่ แพทย์ 38
39
และประชากร ตอ่ พยาบาล จำแนกรายอำเภอ ปี 2562
ตารางที่ 34 จำนวนสถานพยาบาล เจ้าหน้าทีท่ างการแพทย์ อตั ราสว่ นประชากรต่อแพทย์ 39
43
และประชากรตอ่ พยาบาล จำแนกรายอำเภอ ปี 2563 44
ตารางที่ 35 จำนวนและอตั ราผปู้ ว่ ยในดว้ ย 4 โรค NCD ต่อประชากรแสนคน 100,000 คน 44
45
(รวมทุกการวนิ จิ ฉัยโรค) ปี พ.ศ.2559 - 2562 จังหวดั นครนายก 46
ตารางท่ี 36 จำนวนและอตั ราตายดว้ ย 4 โรค NCD ตอ่ ประชากรแสนคน 100,000 คน
47
ปี 2559-2562 จำแนกรายจงั หวัด
ตารางที่ 37 จำนวนผู้สูงอายุ และผู้พิการ จำแนกตามสถานะต่าง ๆ ปี พ.ศ.2559-2563
ตารางท่ี 38 จำนวนนักท่องเทยี่ วชาวไทยและชาวต่างชาติท่มี าเย่ียมเยือน/รายไดจ้ ากผู้มา
เยี่ยมเยอื นจังหวดั นครนายก
ตารางที่ 39 รายได้จากผูม้ าเยยี่ มเยือนชาวไทย (ล้านบาท)
ตารางท่ี 40 สถติ สิ ถานการณ์เกดิ พายุหมนุ เขตรอ้ น (วาตภยั ) ระหวา่ งปี 2556 – 2563
ตารางท่ี 41 สถิติสถานการณ์เกดิ อุทกภยั ระหวา่ งปี 2556 – 2563
ตารางท่ี 42 สถิตสิ ถานการณ์เกิดอคั คีภัย ระหว่างปี 2556 – 2563
ตารางที่ 43 แสดงการเปลีย่ นแปลงของพ้ืนที่ ปี 2559-2563
ตารางที่ 44 การเปลยี่ นแปลงขอ้ มลู พ้นื ท่ปี ่าไม้ ปี พ.ศ.2561-2562 และ พ.ศ.2562-2563
ภาคตะวนั ออก 2 (5 จังหวัด)
ตารางที่ 45 จำนวนพ้นื ที่ปลกู ปา่ เพ่มิ เติม จำแนกตามประเภทพื้นที่ พ.ศ.2559
ง หนา้
49
สารบัญตาราง (ต่อ) 50
52
57
ตารางท่ี 46 จำนวนแหล่งน้ำ จำแนกตามประเภทของแหลง่ น้ำ ปี พ.ศ.2563 58
ตารางท่ี 47 โครงการชลประทานในจังหวัดนครนายก
ตารางท่ี 48 ความต้องการนำ้ ด้านตา่ ง ๆ และการคาดการณ์ในอนาคต จังหวดั นครนายก 58
ตารางที่ 49 ปริมาณขยะทีเ่ กดิ ขึ้น ปริมาณขยะตกคา้ ง และขยะนำกลบั ไปใชป้ ระโยชน์ 60
ปี พ.ศ.2559-2563
ตารางท่ี 50 สถานการณ์ขยะมูลฝอยชมุ ชน ในพน้ื ทรี่ ับผิดชอบของสำนักงานสงิ่ แวดลอ้ มภาค 7
ปี พ.ศ. 2563
ตารางท่ี 51 ร้อยละประเภทของขยะมลู ฝอยจังหวัดนครนายก ปี พ.ศ.2563
ตารางท่ี 52 แสดงปัญหาและความต้องการในระดับพ้ืนท่ีอำเภอ
จ
สารบัญแผนภาพ
แผนภาพที่ 1 รอ้ ยละของประชากร รายอำเภอ หนา้
แผนภาพที่ 2 ความหนาแนน่ ของประชากรรายอำเภอ 10
แผนภาพท่ี 3 การเปลี่ยนแปลงประชากร 10 ปี ย้อนหลัง (ปี 2553-2563) 10
แผนภาพท่ี 4 จำนวนผู้เยยี่ มเยือน (นักท่องเที่ยว+นักทัศนาจร) ทเ่ี ดินทางมาในจังหวัดนครนายก 11
27
ปี 2559-2563
แผนภาพที่ 5 เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนต่อวันของนักท่องเที่ยวชาวไทย ชาวต่างชาติ 29
พ.ศ.2558-2563 30
แผนภาพที่ 6 การใชป้ ระโยชนเ์ น้ือท่ีจังหวดั นครนายก ปี 2563 32
แผนภาพท่ี 7 รอ้ ยละการใช้พืน้ ท่ีทำการเกษตร (ไร่) จังหวดั นครนายก ปี 2563 38
แผนภาพที่ 8 จำนวนประชากร จำนวนผสู้ ูงอายุ และร้อยละของผูส้ งู อายตุ ่อประชากรท้งั จงั หวัด 48
แผนภาพที่ 9 สถิติช้างป่าออกหากินนอกพน้ื ท่ีอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ท้องท่จี ังหวดั
48
นครนายก ระหว่างตลุ าคม 2561 – กันยายน 2564
แผนภาพท่ี 10 แสดงตำแหนง่ การปรากฏตัวของช้างปา่ ออกหากินนอกพ้นื ที่อุทยานแห่งชาติ 57
59
เขาใหญ่ท้องท่จี ังหวัดนครนายก ระหว่าง ตลุ าคม 2561 - กันยายน 2564
แผนภาพท่ี 11 ปริมาณขยะมลู ฝอยที่เกดิ ขึน้ รายจังหวดั ปี พ.ศ.2561-2563
แผนภาพที่ 12 ปริมาณขยะมลู ฝอยทีเ่ กิดข้นึ ในจงั หวัดนครนายก ปี พ.ศ.2558- 2563
.........................................
แผนพฒั นาจงั หวัดนครนายก (พ.ศ. 2566 – 2570)
----------------------------------------------
1. บทสรุปผูบ้ รหิ าร (สรปุ สาระสำคัญของแผน)
แผนพัฒนาจังหวัดนครนายก (พ.ศ. 2566-2570) เป็นแผนที่กำหนดทิศทางการขับเคลื่อน
การพัฒนาจังหวัดนครนายก โดยมีความครอบคลุมทุกมิติการพัฒนา ตอบสนองความต้องการและแก้ไขปัญหา
เชิงพื้นที่ที่สำคัญของจังหวัด โดยในกระบวนการของการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัดนครนายก ได้เชื่อมโยงให้สอดคล้อง
กับยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๘๐) แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนปฏิรูปประเทศ แผนพัฒนา
เศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ นโยบายรฐั บาล รวมทงั้ แผนรายสาขา แผนเฉพาะด้านต่างๆ นโยบายรฐั บาล และ
แผนพัฒนาภาค ตามศักยภาพและโอกาสของพื้นที่ โดยผ่านกระบวนการประชาคม และการมีส่วนร่วมของ
ทุกภาคส่วนในการระดมความคิดเห็นเพื่อให้ได้มาซึ่งปัญหา ความต้องการจากประชาชนในพื้นที่ และได้นำ
ข้อมูลศกั ยภาพ โอกาสการพัฒนา และขอ้ จำกัดต่าง ๆ รวมท้ัง ภายในและภายนอกองค์การ มาวเิ คราะห์โดยใช้
เครื่องมือ SWOT และ TOW Matrix มาประกอบการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัดเพื่อวิเคราะห์ปัญหาและ
ความต้องการของพื้นที่ในจังหวัดนครนายก ทั้ง 4 อำเภอ และประมวลผลการดำเนินงานตามแผนพัฒนา
จงั หวัดในปีท่ีผ่านมา นำไปสกู่ ารกำหนดทิศทางการพฒั นาจังหวัดนครนายกในระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570)
และนำมารับฟังความคิดเห็นโดยการประชุมปรึกษาหารือร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการที่เป็นรัฐวิสาหกิจ
และหน่วยงานอื่นของรัฐ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งหมดในจังหวัด ผู้แทนภาคเอกชน และผู้แทน
ภาคประชาสังคม ตามมาตรา 19 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัด
แบบบรู ณาการ พ.ศ. 2551
จังหวัดนครนายก ได้กำหนดทิศทางการพัฒนาจังหวัดนครนายกในระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570)
มีเปา้ หมายการพฒั นา “นครนายกเมอื งนา่ อย่”ู โดยการขบั เคลอ่ื นประเดน็ การพฒั นา 4 ด้าน ดังนี้
ประเด็นการพัฒนาที่ 1 ส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์แปรรูปให้มีความปลอดภัย
ตรงกับความต้องการของตลาด มีการจัดทำโครงการที่มุ่งเน้นการพัฒนาเกษตรกร การปรับปรุงบำรุงดิน
การแปรรปู สินค้าเกษตรเพอื่ เพิม่ มลู ค่า และการพฒั นาสินค้าเกษตรที่ปลอดภัย
ประเด็นการพัฒนาที่ 2 ส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ สุขภาพ วัฒนธรรม
การบริการ และการประชุมที่ได้มาตรฐาน โดยมีการจัดทำโครงการเพื่อให้นักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ และจาก
จังหวดั อตุ สาหกรรมใกล้เคียง มาพกั ผ่อน มาเตมิ พลังชว่ งวันหยดุ
ประเด็นการพัฒนาที่ 3 พัฒนาความรู้และทักษะในการประกอบอาชีพของประชาชน รวมถึง
จัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐานใหบ้ ริการประชาชนอย่างเปน็ ระบบ เพื่อให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง รวมทั้งเสริมสร้าง
ความม่นั คงในสงั คมให้มคี วามสุข มีการจัดทำโครงการเพื่อพัฒนาคนภายในจงั หวดั โดยการเพ่มิ ทกั ษะ การจัดทำ
โครงการเพือ่ สง่ เสริมอาชีพ และการป้องกนั ดแู ลสงั คมใหส้ งบสุข
ประเด็นการพฒั นาที่ 4 อนุรักษ์ ฟน้ื ฟู และบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม
ให้เกดิ ความสมดลุ ต่อระบบนเิ วศ โดยประชาชนมีสว่ นรว่ ม มีการจดั ทำโครงการด้านการอนรุ ักษ์ ฟนื้ ฟู แหล่งน้ำ
ทางธรรมชาติ การสรา้ งเข่ือนปอ้ งกนั ตล่งิ การเพม่ิ พื้นท่ีสีเขียว
การพัฒนา ทั้ง 4 ประเด็นการพัฒนา จะเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสร้างสิ่งอำนวย
ความสะดวกให้กับประชาชน และนักท่องเที่ยว การพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนทุกช่วงวัย สร้างสังคมที่มี
ความปลอดภัย และการพัฒนาอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้เกิดความยัง่ ยืน ภายใต้การดำเนินงานตาม
หลักธรรมาภิบาล เน้นกระบวนการมีส่วนร่วมและและบูรณาการร่วมกันของทุกภาคส่วน เพื่อให้จังหวัด
นครนายกเป็น “นครนายกเมอื งนา่ อย่”ู
๒
2.ความสอดคลอ้ งกับแผน ๓ ระดบั ตามนยั ยะของมติคณะรัฐมนตรี เมอื่ วันท่ี ๔ ธนั วาคม ๒๕๖๐ และสรุปสาระสำคญั ของแผนพัฒนาจงั หวดั นครนายก
ยทุ ธศาสตรช์ าตดิ า้ นการสรา้ งความสามารถในการแข่งขัน ยทุ ธศาสตรช์ าติดา้ นความม่นั คง
• เปา้ หมาย : (๑) ประเทศไทยเป็นประเทศทีพ่ ัฒนาแล้ว เศรษฐกิจเติบโตอย่างมีเสถียรภาพและย่งั ยืน (๒) ประเทศไทย • เป้าหมาย (1) ประชาชนอย่ดู ี กินดี และมคี วามสุข (2) บ้านเมืองมีความม่นั คงในทุกมิติและทุกระดบั
มขี ดี ความสามารถในการแข่งขันสงู ขน้ึ
• ประเดน็ : การรักษาความสงบภายในประเทศ
• ประเด็น : การเกษตรสร้างมูลคา่ - ประเดน็ ย่อย (1) การพัฒนาและเสริมสร้างคนในทุกภาคส่วนให้มคี วามเข้มแขง็ มีความพรอ้ มตระหนกั ในเรอ่ื งความมน่ั คง และมีส่วน
- ประเด็นย่อย : (1) เกษตรอัตลกั ษณ์พื้นถ่ิน (2) เกษตรปลอดภัย (3) เกษตรแปรรูป (4) เกษตรอจั ฉรยิ ะ รว่ มในการแก้ไขปญั หา
• ประเดน็ : สรา้ งความหลากหลายดา้ นการท่องเที่ยว ยทุ ธศาสตรช์ าติดา้ นการพฒั นาและเสรมิ สรา้ งศกั ยภาพทรพั ยากรมนุษย์
- ประเดน็ ย่อย : (1) ทอ่ งเท่ียวเชงิ สร้างสรรคแ์ ละวัฒนธรรม
• เปา้ หมาย : (๑) คนไทยเปน็ คนดี คนเก่ง มีคุณภาพ พรอ้ มสำหรบั วถิ ชี วี ติ ในศตวรรษท่ี ๒๑ (2) สงั คมไทยมสี ภาพแวดล้อมทีเ่ ออ้ื และ
• ประเดน็ : โครงสร้างพน้ื ฐาน เชือ่ มไทย เชื่อมโลก สนับสนุนตอ่ การพฒั นาคนตลอดชว่ งชีวิต
- ประเดน็ ยอ่ ย : เช่ือมโยงโครงข่ายคมนาคมไรร้ อยต่อ
• ประเดน็ : การพฒั นาศักยภาพคนตลอดชว่ งชีวติ
แผน - ประเดน็ ย่อย : ช่วงวยั เรียน/วัยรุน่ ปลกู ฝงั ความเปน็ คนดี มวี ินยั พัฒนา ทักษะความสามารถการเรยี นร้ทู ส่ี อดรบั กบั ทักษะใน ศตวรรษ -2-
ระดบั 1 ที่ ๒๑
- ประเด็นย่อย : ชว่ งวัยผสู้ งู อายสุ ง่ เสรมิ ใหผ้ สู้ ูงอายุเป็นพลงั ในการขับเคล่ือนประเทศ
ยทุ ธศาสตรช์ าติดา้ นการสรา้ งโอกาสและความเสมอภาคทางสงั คม
• เปา้ หมาย (๑) สร้างความเปน็ ธรรม และลดความเหลอื่ มลำ้ ในทกุ มติ ิ (2) เพ่มิ ขีดความสามารถของชมุ ชนท้องถิน่ ในการพัฒนา การ
พึ่งตนเองและการจดั การตนเองเพอ่ื สรา้ งสงั คมคุณภาพ
• ประเดน็ : การเสริมพลงั ทางสงั คม
- ประเดน็ ยอ่ ย : การรองรับสังคมสูงวัยอย่างมีคณุ ภาพ
• ประเดน็ : การเพ่มิ ขีดความสามารถของชุมชนท้องถ่ินในการพัฒนา การพ่งึ ตนเองและการจดั การตนเอง
- ประเดน็ ย่อย : เสรมิ สร้างศกั ยภาพของชุมชนในการพึ่งตนเองและการพึง่ พากนั เอง
ยทุ ธศาสตรช์ าตดิ า้ นการสร้างการเตบิ โตบนคุณภาพชวี ิตที่เปน็ มิตรตอ่ สิง่ แวดลอ้ ม
• เปา้ หมาย (1) อนรุ ักษแ์ ละรักษาทรพั ยากรธรรมชาติ สิ่งแวดลอ้ ม และวัฒนธรรม ใหค้ นรุ่นตอ่ ไปได้ใชอ้ ย่างยั่งยืน มสี มดลุ
• ประเดน็ : สรา้ งการเตบิ โตอยา่ งยง่ั ยนื บนสังคมเศรษฐกจิ สเี ขยี ว
- ประเดน็ ยอ่ ย : อนรุ กั ษ์และฟ้นื ฟูแม่น้ำลำคลองและแหล่งนำ้ ธรรมชาตทิ ่วั ประเทศ
- ประเดน็ ยอ่ ย : รกั ษาและเพมิ่ พืน้ ท่สี เี ขียวท่เี ป็นมติ รกับสง่ิ แวดลอ้ ม
• ประเดน็ : พฒั นาความมน่ั คงนำ้ พลงั งาน และเกษตรที่เปน็ มติ รต่อสิ่งแวดลอ้ ม
- ประเดน็ ยอ่ ย : พฒั นาการจดั การน้ำเชงิ ลุม่ น้ำทั้งระบบเพอ่ื เพิม่ ความมัน่ คงด้านนำ้ ของประเทศ
๓
แผน แผนแมบ่ ทภายใตย้ ุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยทุ ธศาสตรช์ าติ แผนการปฏิรปู ประเทศ แผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ นโยบายและแผนระดบั ชาติ -3-
ระดบั 2 ประเด็น การเกษตร ประเด็น ทอ่ งเท่ยี ว (ฉบบั ปรับปรงุ ) ยทุ ธศาสตร์ เศรษฐกจิ มลู ค่าสูงท่ีเป็นมิตรตอ่ วา่ ด้วยความม่ันคงแหง่ ชาติ
ส่ิงแวดลอ้ ม (High Value - Added Economy) (พ.ศ. 2562 – 2565)
• เป้าหมายประเด็นของแผนแมบ่ ทฯ • เปา้ หมายประเดน็ ของแผนแม่บทฯ ดา้ นเศรษฐกิจ เป้าหมายระดบั ยุทธศาสตร์
(1) ผลติ ภณั ฑ์มวลรวมในประเทศในสาขาเกษตรเพมิ่ ขนึ้ (๑) ผลติ ภณั ฑม์ วลรวมในประเทศดา้ นการท่องเทย่ี วตอ่ • นโยบายความม่ันคงแห่งชาติ
(2) ผลิตภาพการผลติ ของภาคเกษตรเพิ่มขน้ึ • เร่ือง/ประเดน็ การปฏริ ูป หมุดหมายท่ี 1 ไทยเป็นประเทศชัน้ นำ นโยบายที่ ๒ : สร้างความเป็น
แผนยอ่ ยของแผนแมบ่ ทฯ เกษตรปลอดภัย ผลติ ภณั ฑ์มวลรวมในประเทศเพม่ิ ข้นึ ๑) การสร้างเกษตรมลู ค่าสูง (High ด้านสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรปู มลู ค่าสูง
- เป้าหมายแผนย่อย (๑) สนิ ค้าเกษตรปลอดภยั มมี ลู คา่ เพมิ่ ขึน้ (2) ผลติ ภณั ฑ์ Value Added) ธรรม ความปรองดอง และความ
เกษตรปลอดภยั ของไทยไดร้ บั การยอมรบั ด้านคณุ ภาพความปลอดภยั และ (๒) รายไดจ้ ากการทอ่ งเทยี่ วของเมอื งรองเพิ่มข้ึน ๒) การสง่ เสรมิ และพัฒนาการ หมุดหมายท่ี 2 ไทยเปน็ จดุ หมายของ สมานฉนั ทใ์ นชาติ เพือ่ สง่ เสริมและ
คุณค่าทางโภชนาการสงู ขน้ึ ทอ่ งเที่ยวคณุ ภาพสงู การทอ่ งเทยี่ วทเ่ี นน้ คุณคา่ และความย่ังยนื สนับสนนุ การสร้างความปรองดอง ความ
- แนวทางการพัฒนา (๓) ความสามารถทางการแขง่ ขันด้านการท่องเท่ียวของ ๓) การเพ่ิมโอกาสของ ยทุ ธศาสตร์ สงั คมแหง่ โอกาสและความเสมอภาค เป็นธรรม และความสมานฉันทใ์ นชาติ
ผปู้ ระกอบการขนาดกลางและ (High Opportunity Society) เพอื่ ลดการเผชิญหน้า และการใช้ความ
1) สนบั สนุนการบรหิ ารจดั การฐานทรพั ยากรทางเกษตรและระบบการผลิตทเ่ี ปน็ มติ รต่อ ประเทศไทยดขี ้ึน ขนาดเล็กในอุตสาหกรรมและ เป้าหมายระดับยุทธศาสตร์ รุนแรงในทุกรปู แบบ
ส่งิ แวดล้อม ลด ละ เลกิ การใช้สารเคมที เ่ี ป็นอันตราย ตลอดจนส่งเสริมการผลติ ในระบบเกษตรกรรม บริการเป้าหมาย
ยัง่ ยนื อาทิ เกษตรผสมผสาน เกษตรธรรมชาติ เกษตรอินทรยี ์ เกษตรทฤษฎใี หม่ และวนเกษตร เปน็ แผนย่อยของแผนแมบ่ ทฯ การท่องเท่ียวเชงิ สรา้ งสรรคแ์ ละ ๔) การเป็นศูนยก์ ลางดา้ น หมดุ หมายที่ 9 ไทยมีความยากจนขา้ มรุ่น นโยบายที่ ๘ : เสรมิ สรา้ งความ
ตน้ เพอ่ื ลดผลกระทบตอ่ ส่ิงแวดลอ้ ม ไม่มีการปนเป้ือนของสารเคมีอันตรายในสนิ คา้ เกษตรและ วฒั นธรรม การคา้ และการลงทุนของไทย ลดลง และคนไทยทุกคนมีความคมุ้ ครองทาง เขม้ แข็งและภมู คิ ุ้มกนั ความมน่ั คง
อาหาร และสรา้ งความปลอดภยั และม่นั คงด้านอาหารในระดบั ครวั เรอื น - เป้าหมายแผนยอ่ ย (๑) รายไดจ้ ากการทอ่ งเท่ียวเชงิ ในภูมิภาคและ สงั คมทเี่ พียงพอ เหมาะสม ภายใน เพื่อพัฒนาศักยภาพของภาครฐั
สร้างสรรค์และวัฒนธรรมเพ่มิ ขนึ้ (๒) เมืองและชมุ ชนทม่ี ศี ักยภาพ ๕) การพัฒนาศกั ยภาพคนเพอ่ื ยุทธศาสตร์ วิถชี ีวติ ที่ยง่ั ยนื (Eco-Friendly และสง่ เสรมิ บทบาทและความเข้มแข็ง
2) พฒั นาระบบคุณภาพมาตรฐานความปลอดภัยและระบบการตรวจรับรองคุณภาพจาก ดา้ นการทอ่ งเที่ยวเชงิ สรา้ งสรรคแ์ ละวัฒนธรรมเพ่ิมข้ึน (๓) สินค้า เป็นพลังในการขับเคลื่อนเศรษฐกจิ Living) ของทุกภาคส่วน ในการรบั มอื กับภยั
สถาบนั ทมี่ คี วามนา่ เชื่อถอื ในระดับตา่ งๆ รวมถึงการพฒั นาคณุ ค่าทางโภชนาการของสินค้าเกษตร ท่องเทย่ี วเชงิ สร้างสรรคแ์ ละวฒั นธรรมไดร้ บั การข้นึ ทะเบยี น ดา้ นทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ เป้าหมายระดับยทุ ธศาสตร์ คกุ คาม ทุกรปู แบบทกี่ ระทบกับความ
และอาหาร ตลอดจนพัฒนาระบบการตรวจสอบย้อนกลับให้เป็นท่ียอมรับกับความต้องการของ ทรัพยส์ นิ ทางปัญญาเพิม่ ขน้ึ ส่ิงแวดลอ้ ม มนั่ คง
ตลาดทัง้ ในประเทศและต่างประเทศ - แนวทางการพฒั นา หมุดหมายที่ 10 ไทยมเี ศรษฐกจิ หมนุ เวียน
• เรอื่ ง/ประเด็นการปฏิรูป และสังคมคาร์บอนต่ำ นโยบายท่ี ๑๕ : พัฒนาระบบงาน
3) สง่ เสริมและสนับสนุนเกษตรกร ชุมชน ทอ้ งถ่ิน รวมถึงผู้ประกอบการ ใหส้ ามารถผลิต 1) สร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการบนฐานของทุนทาง ๑) เพิ่มและพัฒนาพน้ื ท่ปี ่าไมใ้ ห้ได้ ข่าวกรองใหม้ ีประสิทธิภาพ เพ่ือพัฒนา
สินค้าเกษตรและอาหารทีม่ ีคุณภาพมาตรฐาน ทั้งมาตรฐานท่เี ปน็ ข้นั พื้นฐานตามหลักการปฏิบตั ิที่ วฒั นธรรมและภูมิปัญญาท้องถ่ินท่ีมีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น ได้แก่ แหล่งอุทยาน ตามเป้าหมาย หมดุ หมายที่ 11 ไทยสามารถลดความเสยี่ ง ศกั ยภาพของภาครัฐ และส่งเสรมิ
ดีทางการเกษตร และพัฒนาต่อยอดไปจนถึงมาตรฐานขั้นสูง เช่น มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ เป็น ประวัติศาสตร์ เมืองมรดกโลก โบราณสถาน เมืองเก่า ย่านการค้า วิถีชีวิตลุ่ม 2) การบรหิ ารจดั การนำ้ เพ่ือสร้าง และผลกระทบจากภยั ธรรมชาติและการ บทบาทและความเข้มแขง็ ของทกุ ภาค
ต้น ตลอดจน ส่งเสริมการวิจัยพัฒนาสินค้า พรอ้ มท้ังดูแลการผลิตอาหารภายใต้มาตรฐานความ น้ำ สินค้าชุมชน อาหารไทย และแพทย์แผนไทย เพ่ือนำมาสร้างสรรค์คุณค่า เศรษฐกิจชุมชนในพน้ื ท่ีนอกเขต เปล่ยี นแปลงสภาพภูมอิ ากาศ ส่วน ในการรบั มือกบั ภยั คกุ คาม ทกุ
ปลอดภัย และการคมุ้ ครองผ้บู ริโภคและการคา้ ระดบั สากล และมูลค่าผ่านองค์ความรู้ นวัตกรรม เทคโนโลยี และการออกแบบเพ่ือ ชลประทาน รปู แบบทกี่ ระทบกบั ความมั่นคง
สร้างสรรค์เป็นสินค้า รวมถึงการพัฒนากิจกรรมและบริการรูปแบบใหม่ ๆ ด้านสาธารณสขุ
4) สร้างความตระหนักรู้ของผู้ผลิตและผู้บริโภคถึงความสำคัญของความปลอดภัยเพื่อสุขภาวะและ ให้กับนักท่องเท่ยี ว เช่น การท่องเที่ยวเชิงเกษตร การท่องเท่ียวโดยชมุ ชน การ • แผนระดบั ชาติว่าด้วยความ
โภชนาการท่ีเหมาะสม และการส่งเสริมด้านการขยายตลาดการบรโิ ภคสนิ ค้าเกษตรและอาหารปลอดภยั ท่องเท่ยี วเชงิ นเิ วศ การทอ่ งเทีย่ ววถิ พี ทุ ธ การท่องเท่ยี วกลุ่มมุสลมิ เป็นต้น • เรอ่ื ง/ประเดน็ การปฏิรูป มั่นคงแห่งชาติ
2) พัฒนาปัจจัยแวดล้อมให้เอ้ือต่อการส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์เพ่ือนำมา ๑) การปฏิรปู ระบบบริการสขุ ภาพ
5) สนับสนุนการทำเกษตรอินทรีย์วิถีชาวบ้าน เพ่ือต่อยอดสู่เกษตรอินทรีย์เชิงพาณิชย์ พัฒนาต่อยอดสินค้าและบริการด้านการท่องเท่ียว ได้แก่ การส่งเสริมการวิจัย ผู้สูงอายดุ ้านการบริบาล การ 1. การเสรมิ สร้างความมนั่ คงของ
ควบค่กู บั การขยายตลาดเกษตรอนิ ทรีย์ท้ังในและตา่ งประเทศ พฒั นา และการออกแบบ การสร้างนวัตกรรม การส่งเสริมการลงทนุ การสร้าง รักษาพยาบาลท่ีบ้าน/ชุมชน และ มนษุ ย์ รองรับทกุ นโยบายความมั่นคง
เครือขา่ ยวิสาหกิจการท่องเท่ยี ว การสือ่ สารและการคมนาคม การพัฒนาระบบ การดูแลสขุ ภาพตนเอง ในระบบ แหง่ ชาติ
แผนย่อยของแผนแมบ่ ทฯ เกษตรแปรรูป ฐานข้อมูล การส่งเสริมการตลาด และการสร้างเร่ืองราวเพ่ือบอกเล่า สขุ ภาพปฐมภมู เิ ชงิ นวัตกรรม 2. การข่าวกรองและการประเมนิ
- เป้าหมายแผนยอ่ ย สินคา้ เกษตรแปรรูปและผลติ ภณั ฑม์ มี ลู คา่ เพมิ่ ขนึ้ นักท่องเทยี่ ว เปน็ ต้น สถานการณด์ ้านความม่ันคง รองรับ
- แนวทางการพัฒนา 3) เสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการและบุคลากรในอุตสาหกรรมการ นโยบายที่ ๑๕ : พัฒนาระบบงานข่าว
ทอ่ งเที่ยว เพื่อให้มีทักษะและองค์ความรู้ในธุรกิจตลอดห่วงโซ่อุปทานของการ กรองให้มปี ระสทิ ธภิ าพ
๑) ส่งเสริมการพัฒนาและใช้วัตถุดิบและผลิตผลทางการเกษตรที่เช่ือมโยงไปสู่ ท่องเท่ียว ทั้งด้านการออกแบบ การวิจัยและพัฒนา การสร้างนวัตกรรม 3. การสรา้ งความสามคั คีปรองดอง
กระบวนการแปรรูปในอุตสาหกรรมต่อเน่ืองที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการแปรรูปเป็น เทคโนโลยี การบริหารจัดการธุรกิจและการตลาด เพ่ือสร้างความแตกต่างและ รองรบั นโยบายท่ี ๒ : สรา้ งความเป็น
ผลิตภัณฑ์ใหมท่ ี่มีมลู ค่าสูงโดยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการผลิต ความโดดเดน่ ของสินคา้ และบริการ ใหส้ อดคล้องกับความต้องการของตลาดท่องเทีย่ ว ธรรม ความปรองดอง และความ
ตลอดห่วงโซ่อปุ ทานใหแ้ กเ่ กษตรกรและสถาบันเกษตรกรเพ่อื เพิ่มมลู คา่ สินค้าเกษตร 4) ส่งเสริมการจดทะเบียน การคุ้มครอง การใช้ทรัพย์สินทางปัญญาและภูมิ สมานฉันท์ในชาติ
ปญั ญา เพือ่ สนับสนุนการพัฒนาต่อยอดไปสู่การท่องเท่ียวเชิงสร้างสรรค์และการ 4. การป้องกนั และแกไ้ ขปัญหาการคา้
๒) สง่ เสริมการแปรรปู โดยประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมถึงองคค์ วามรู้และภมู ิ เป็นเมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภูมิภาค ได้แก่ แหล่งประวัติศาสตร์ มนุษย์รองรับนโยบายที่ ๘ : เสริมสร้าง
ปัญญาที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพในการแปรรูป สร้างความแตกต่าง และเพ่ิมมูลค่าในผลิตภัณฑ์ ศิลปวัฒนธรรมไทย มรดกทางวัฒนธรรม กิจกรรมและสินค้าของชุมชน อาหาร ความเข้มแขง็ และภูมคิ มุ้ กันความมน่ั คง
และสินค้าเกษตร รวมท้ังการผลักดันเทคโนโลยีและนวัตกรรมการแปรรูปสินค้าเกษตรข้ันสูงที่มี ไทย และการแพทย์แผนไทย ภายใน
คุณค่าเฉพาะ และผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดไปสู่การผลิตเชิง 5) สง่ เสริมการตลาดการทอ่ งเท่ยี วโดยการนำเสนอเอกลักษณข์ องประเทศไทย 5. การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
พาณชิ ย์ และของแต่ละท้องถิ่น ให้เป็นที่เข้าใจในเวทีโลก ผ่านส่ือสร้างสรรค์และ รองรบั นโยบายที่ ๘ : เสรมิ สรา้ งความ
นวัตกรรมทางส่อื ต่าง ๆ รวมทงั้ การสง่ เสรมิ การส่ือสารเร่อื งราวอันเป็นเอกลักษณ์ เข้มแขง็ และภูมคิ ุม้ กนั ความม่ันคงภายใน
๓) สนับสนุนการนำเทคโนโลยี นวัตกรรมสมัยใหม่มาใช้ในกระบวนการผลิตหลังการเก็บเก่ียว ของแต่ละภูมิภาคและจังหวัดต่าง ๆ ผ่านการพัฒนาแบรนด์และการสื่อสาร
และการแปรรูป อาทิ บรรจภุ ณั ฑ์อัจฉรยิ ะ ควบคุมคุณภาพและความปลอดภยั ตดิ ตามผลิตภัณฑ์ เรอื่ งราวอย่างสรา้ งสรรคผ์ า่ นช่องทางการตลาดทเี่ ป็นทน่ี ยิ มในกลุม่ เป้าหมาย
ระหว่างขนสง่ และยืดอายขุ องอาหารและสนิ คา้ เกษตรในบรรจุภัณฑ์ เพ่ือเพม่ิ มลู คา่ ให้แกส่ นิ คา้
๔) ส่งเสริมการสร้างตราสินค้า และขยายช่องทางการตลาดด้วยระบบเทคโนโลยี
สารสนเทศ รวมทั้งให้ความสำคัญกับการสร้างเครื่องหมายทางการค้าและการปกป้องสิทธิใน
ทรพั ยส์ นิ ทางปญั ญา
๔
แผนพฒั นาภาคตะวนั ออก ยุทธศาสตร์เกษตรและสหกรณ์ ระยะ 20 ปี แผนพัฒนาการท่องเท่ียวแห่งชาติ ฉบบั ท่ี ๒
(พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) ของการท่องเทีย่ วแห่งประเทศไทย
(พ.ศ.๒๕๖๖-๒๕๗๐) (พ.ศ.2560-2579)
ทศิ ทางการพฒั นาภาค การพัฒนาภาคตะวนั ออกในช่วงของแผนพัฒนาฯ ยุทธศาสตร์เกษตรและสหกรณ์ ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) มงุ่ ใน ยุทธศาสตร์ที่ ๑ การพัฒนาคุณภาพแหล่งท่องเที่ยว
ฉบับที่ 13 ตามบทบาทการพัฒนาของภาค มุ่งเน้นใหภ้ าคตะวันออกเป็น การแก้ไขจุดอ่อนและเสริมจุดแขง็ ให้เออื้ ต่อการพัฒนาภาคการเกษตรในระยะ สินค้าและบริการด้านการท่องเท่ียวให้เกิดความสมดุล และ
“ฐานเศรษฐกิจสีเขยี วชน้ั นำของอาเซยี น ควบคูก่ บั คุณภาพการดำรงชีวิตของ ยาว เพื่อบรรลวุ ิสยั ทศั น์ “เกษตรกรมน่ั คง ภาคการเกษตรม่งั คัง่ ทรพั ยากร ยั่งยืน ๑) พัฒนาคุณภาพแหล่งท่องเที่ยว สินค้าและบริการ
ประชาชนทด่ี ี” ประเด็นการพัฒนาภาคตะวันออก 6 ดา้ น ได้แก่ การเกษตรยงั่ ยืน” มีแนวทางไปสเู่ ปา้ หมาย คือ ทุกรูปแบบอย่างมีมาตรฐาน ๒) พัฒนาแหล่งท่องเท่ียวสินค้า
ยทุ ธศาสตร์ที่ 1 สรา้ งความเข้มแขง็ ใหก้ บั เกษตรกรและสถาบัน และบริการอย่างยั่งยืน ๓) สร้างสมดุลในแหล่งท่องเที่ยวสินค้า
และบริการ ทั้งในเชิงพื้นที่เชิงเวลา ฤดูกาลและรูปแบบการ
1. พั ฒ น าอุตสาหกรรมท่ีเป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อมและเป็ นก ำลังหลัก เกษตรกร ท่องเทย่ี ว
1) สรา้ งความเข้มแขง็ ให้กับ เกษตรกรและสถาบนั เกษตรกร Smart
ในการขบั เคลอ่ื นเศรษฐกจิ ของภาคตะวันออกอย่างย่ังยืน ยุทธศาสตร์ท่ี ๒ การพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานและ
Farmer, Smart Group, Smart Enterprise สิ่งอำนวยความสะดวก เพื่ อรองรับ การข ยายตัวของ
2. พัฒนาการเกษตรคุณภาพและผลตอบแทนสูง เชื่อมโยงสู่การผลิตอาหาร 2) เสรมิ สรา้ งความภาคภมู ิใจและ ความมั่นคงในการประกอบอาชีพ อุตสาหกรรมท่องเที่ยว ๑) พัฒนาระบบโลจิสติกส์ด้านการ
ปลอดภัย การผลติ พลงั งานทดแทน และพชื สมนุ ไพรทางการแพทย์ ท่องเที่ยว ๒) พัฒนาส่ิงอำนวยความสะดวกด้านการท่องเท่ียว
เกษตรกรรม ๓) พัฒนาระบบความปลอดภัยและสขุ อนามยั ในแหลง่ ทอ่ งเทีย่ ว
3. รักษาและยกระดับการท่องเท่ียวคุณภาพในแหล่งท่องเท่ียวหลักและ 3) บรหิ ารจดั การแรงงานภาคเกษตร และเทคโนโลยเี พอื่ ทดแทน
ยุทธศาสตร์ท่ี ๓ การพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยว
แหล่งทอ่ งเท่ียวทางเลือก รวมทั้งการพัฒนาธุรกิจเก่ียวเนื่องที่เน้นคุณค่า อัตลักษณ์ แรงงานอย่างเป็นระบบรองรับ สงั คมเกษตรสงู อายุ และสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการ พัฒนาการ
ท่องเที่ยว ๑) พฒั นาศกั ยภาพบุคลากรดา้ นการทอ่ งเที่ยวทงั้ ระบบ
ความยัง่ ยืน และเหมาะสมกับคนทกุ ช่วงวยั ยทุ ธศาสตร์ที่ 2 เพิ่มประสิทธภิ าพการผลติ และยกระดับมาตรฐาน ใหม้ ีขดี ความสามารถในการแข่งขัน สอดคล้อง กับมาตรฐานสากล
และเพียงพอต่อความต้องการของตลาด ๒) ส่งเสริมให้ประชาชน
4. พัฒนาเมืองและพ้ืนที่ชนบทให้มีความทันสมัยและน่าอยู่ พร้อมทั้งยกระดับ สนิ คา้ เกษตร มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการด้านการท่องเที่ยวและได้รับ
1) พัฒนาประสิทธภิ าพการผลติ และคณุ ภาพมาตรฐานสินคา้ สู่ ประโยชน์ จากการทอ่ งเท่ยี ว
คุณภาพชีวิตของประชาชนในทุกชว่ งวยั มาตรฐานระดับสากล โดยใช้วทิ ยาศาสตร์เทคโนโลยีและ ความรแู้ บบองค์รวม
5. รักษาและยกระดับพ้ืนท่ีเศรษฐกิจชายแดนประเทศกัมพูชา ให้มีมูลค่าสูง มี ยุทธศาสตร์ที่ ๔ การสร้างความสมดุลให้กับการท่องเท่ียวไทย
2) สง่ เสริมการเกษตรตลอดโซ่อปุ ทานสอดคล้องกบั ความตอ้ งการของ ผ่านการตลาดเฉพาะกลุ่ม การส่งเสริมวิถีไทย และการสร้าง
ความมั่นคง และเปน็ ประตูเช่ือมโยงการค้า การลงทนุ กับประเทศเพอ่ื นบ้าน ตลาดและมลู คา่ สูง มงุ่ สกู่ ารเป็นฟารม์ อจั ฉรยิ ะ ความเช่ือมั่นของนกั ท่องเที่ยว ๑) เสรมิ สร้างภาพลกั ษณ์คณุ ภาพ
และความปลอดภัยให้กับประเทศไทย ๒) ส่งเสริมการตลาด
6. เสริมสร้างความอดุ มสมบูรณข์ องทรัพยากรธรรมชาตแิ ละคณุ ภาพส่ิงแวดลอ้ ม ยทุ ธศาสตร์ที่ 3 เพม่ิ ความสามารถในการแขง่ ขนั ภาคการเกษตรด้วย เฉพาะกลุ่มเพ่ือดึงดูดการเดินทางท่องเท่ียว และกระตุ้นการใช้ -4-
จ่ายของนักท่องเท่ียว กลุ่มต่างๆ ๓) ส่งเสริมเอกลักษณ์ของ
และการเพ่ิมประสทิ ธิภาพการรับมือภัยพิบตั ิทางธรรมชาติและผลกระทบจากการ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ประเทศไทยและของแต่ละท้องถิ่น ๔) ส่งเสริมการท่องเท่ียว
แผน 1) พฒั นาเทคโนโลยแี ละนวตั กรรม เพอ่ื การขบั เคลอ่ื นเกษตร 4.0 ภ า ย ใน ป ร ะ เท ศ แ ล ะ ก า ร ท่ อ งเท่ี ย ว ที่ ส ม ดุ ล เชิ งพื้ น ที่ แ ล ะ เวล า
ระดบั 3 เปลีย่ นแปลงภูมิอากาศ ภายใต้ Thailand 4.0 ๕) ส่งเสริมความร่วมมือกับผู้ท่ีมีส่วนเกี่ยวข้องและการใช้
จังหวัดนครนายก กำหนดเป้าหมายการพัฒนา “นครนายกเมืองน่าอยู่” โดยมี เทคโนโลยใี นการทำการตลาด
2) บริหารจดั การเทคโนโลยี สารสนเทศเพอื่ การเกษตร ให้ เกษตรกร
ประเด็นการพัฒนา 4 ดา้ น คือ เขา้ ถงึ และนาํ ไปใช้ ประโยชน์ไดอ้ ยา่ งทว่ั ถงึ ยุทธศาสตร์ที่ ๕ การบูรณาการการบริหารจัดการ
1. สง่ เสริมการผลิตสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์แปรรูปใหม้ ีความปลอดภัยตรงกับ การท่องเท่ียวและการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ
ความตอ้ งการของตลาด 3) พัฒนางานวจิ ยั และสารสนเทศให้ ไปสู่เชงิ พาณชิ ย์ ประชาสัมพนั ธ์ ๑) ส่งเสริมการกำกับดูแลการพัฒนาและบริหารจัดการการ
และเชอ่ื มโยงเครอื ข่ายข้อมลู ใน ระดบั โลก ท่องเที่ยวอย่างมีประสิทธิภาพ ๒) ปรับปรุงกฎหมายข้อบังคับ
และมาตรฐานต่างๆ ที่เก่ียวข้องกับการท่องเท่ียว และการบังคับ
2. ส่งเสรมิ และพัฒนาการท่องเท่ียวเชิงนิเวศ สุขภาพ วัฒนธรรม การบริการและ ยทุ ธศาสตร์ที่ 4 บริหารจดั การทรัพยากรการเกษตรและสงิ่ แวดล้อม ใช้กฎหมาย อย่างจริงจัง ๓) สนับสนุนการลงทุนจากภาคเอกชน
อย่างสมดลุ และยง่ั ยืน และการจดั ทำศูนย์ขอ้ มลู สารสนเทศเพื่อการท่องเทย่ี ว ๔) สง่ เสริม
การประชุมที่ไดม้ าตรฐาน ความร่วมมอื ระหวา่ งประเทศเพอ่ื การพัฒนาการทอ่ งเที่ยว
1) บริหารจดั การทรพั ยากร การเกษตรอย่างยั่งยืนที่ สอดคลอ้ งกับ
3. พัฒนาความรู้และทักษะในการประกอบอาชีพของประชาชน รวมถึงจัดเตรียม SDGs (Sustainable Development Goals)
โครงสรา้ งพ้ืนฐานให้บริการประชาชนอย่างเป็นระบบ เพ่ือใหช้ ุมชนมีความเข้มแข็ง
รวมทง้ั เสรมิ สร้างความมัน่ คงในสงั คมให้มคี วามสุข 2) ฟ้ืนฟูและอนรุ ักษ์ทรัพยากร การเกษตรให้มคี วามสมดลุ และ ยง่ั ยืน
4. อนุรักษ์ ฟื้นฟู และบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้เกิด
ความสมดลุ ตอ่ ระบบนิเวศ โดยประชาชนมีสว่ นรว่ ม
โดยสอดคล้องกับการพัฒนาของภาคตะวันออก ในประเด็นการพัฒนาท่ี 2,3
และ 4 คือ การพัฒนาด้านการเกษตร โดยจังหวัดนครนายกมุ่งเน้นการผลิตสินค้า
เกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์ การลดต้นทุนการผลิต การสร้างมูลค่าเพิ่ม
สินค้าเกษตร การพัฒนาแหล่งน้ำเพ่ือการเกษตรรวมถึงโครงสร้างพ้ืนฐาน
ภาคการผลิต มิติด้านการท่องเท่ียว มุ่งเน้นการยกระดับการท่องเที่ยวให้ได้
มาตรฐานการบริการ และการส่งเสริมและพฒั นาการท่องเทย่ี วชมุ ชน มติ ดิ า้ นสงั คม
มุ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของการพัฒนาเมือง การพัฒนาคุณภาพชีวิต
ของประชาชนทุกกลมุ่ วัย ท้งั ดา้ นการศึกษา สาธารณสุข การยกระดบั คุณภาพชวี ิต
ผู้สูงอายุ ผู้พิการและกลุ่มเปราะบาง การพัฒนาอาชีพเศรษฐกิจฐานราก
และการอนรุ ักษ์ฟื้นฟทู รพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอ้ ม
๕
เปา้ หมายการพัฒนาจังหวดั นครนายก ตัวช้วี ดั ความสำเรจ็ ตามเป้าหมายการพัฒนาจงั หวัดนครนายก
สาระสำคั “นครนายกเมืองนา่ อย่”ู 1. อตั ราการขยายตวั ของผลิตภณั ฑ์มวลรวมจงั หวดั (GPP) เพิ่มข้ึน (ร้อยละ 1.5)
ญ 2. รายได้จากการท่องเทยี่ วของผ้เู ยีย่ มเยือนเพิ่มข้นึ (ร้อยละ 1.5)
3. เกษตรกรมีรายไดจ้ ากการเกษตรเพ่ิมข้นึ (ร้อยละ 3)
แผนพฒั นา 4. ร้อยละคนจนเป้าหมาย (TPMAP) ไดร้ ับความชว่ ยเหลือ/เขา้ ถึงบริการภาครฐั ไมน่ ้อยกวา่ (ร้อยละ 20)
จังหวดั
5. รอ้ ยละของปริมาณขยะมูลฝอยชุมชนได้รบั การจัดการอย่างถกู ต้อง (ร้อยละ)
ประเด็นการพัฒนาที่ 1 ส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรและ ประเด็นการพัฒนาที่ 2 ส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยว ประเด็นการพัฒ นาท่ี 3 พัฒ นาความรู้และทักษะใน ประเด็นการพฒั นาท่ี 4 อนุรักษ์ ฟืน้ ฟู และบริหารจัดการ
ประเดน็ ผลิตภัณฑ์แปรรูปให้มีความปลอดภัยตรงกับความต้องการ เชิงนิเวศ สุขภาพ วัฒนธรรม การบรกิ ารและการประชุมที่ได้ การประกอบอาชพี ของประชาชน รวมถึงจัดเตรียมโครงสร้าง ทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม ให้เกิดความสมดลุ ต่อ
การพัฒนา ของตลาด มาตรฐาน พื้นฐานให้บริการประชาชนอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ชุมชนมี ระบบนเิ วศ โดยประชาชนมีส่วนรว่ ม
จังหวดั ความเข้มแข็ง รวมทั้งเสริมสร้างความม่ันคงในสังคมให้มี
ความสขุ
-5-
แผนงาน การเพ่ิมประสิทธิภาพการผลิตการเกษตร แผนงาน พัฒนามาตรฐานการท่องเที่ยวและบริการ รวมท้ัง แผนงาน พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สังคม และยกระดับ แผนงาน อนุรกั ษ์ ฟน้ื ฟู และบริหารจดั การทรพั ยากรธรรมชาติ
แผนงาน ปลอดภยั /เกษตรอนิ ทรยี ์ การประชาสัมพันธ์อย่างท่ัวถึง คุณภาพชวี ิตใหม้ ีความมัน่ คงปลอดภยั และสิ่งแวดล้อม
1. โครงการพฒั นาปัจจัยพืน้ ฐานดา้ นการผลติ ภาคการเกษตร 1. โครงการพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยว ปรับปรุงภูมิทัศน์ 1. โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณู ปโภค 1. โครงการพัฒนาฟ้ืนฟูแหล่งน้ำ และป้องกันการกัดเซาะตล่ิง
2. โครงการพัฒนาการผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัย/เกษตร และส่งิ อำนวยความสะดวกรองรบั การทอ่ งเที่ยว เพ่อื รองรับการเป็นเมอื งน่าอยู่ รมิ แมน่ ำ้ คลองสายหลักและคลองธรรมชาติ
อินทรีย์ และสง่ เสริมวิสาหกิจชมุ ชนเพื่อเพ่ิมมูลคา่ ผลผลิต 2. โครงการพัฒนาแหล่งท่องเท่ียวและส่งเสรมิ การท่องเที่ยว 2. โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างเสริมสุขภาวะที่ดี 2. โครงการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ
3. โครงการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใน จงั หวัดนครนายก ให้ประชาชนทกุ กลมุ่ วยั ทรัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดล้อมอยา่ งยัง่ ยนื
โครงการ การผลิตและแปรรูปสินค้าเกษตร เพ่ือปรับเปลี่ยนสู่เกษตร 3. โครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากร ผู้ประกอบการ 3. โครงการพัฒนาคุณภาพด้านการศึกษา และเพ่ิมทักษะ 3. โครงการฟ้ืนฟูทรพั ยากรป่าไม้และเพิ่มพนื้ ท่สี ีเขียว
สำคัญ
อัจฉรยิ ะ (Smart Farming) ดา้ นการทอ่ งเทยี่ ว และยกระดับความปลอดภยั การท่องเทยี่ ว การประกอบอาชีพ 4. โครงการแกไ้ ขปัญหาการจัดการขยะและบำบดั น้ำเสีย
4. โครงการสรา้ งโอกาสและขยายช่องทางการตลาดสินคา้ 4. โครงการส่งเสริมการตลาด การประชาสัมพันธ์ เชื่อมโยงสู่ ในชุมชนของจังหวดั นครนายก
เกษตร การท่องเท่ยี ว
-6-
3. สาระสำคญั แผนพัฒนาจังหวดั นครนายก (พ.ศ. 2566 – 2570)
3.1 ขอ้ มูลเพอื่ การพัฒนา
3.1.1 ข้อมลู พืน้ ฐานทางกายภาพ
3.1.1.1 ความเป็นมา
นครนายกเปน็ จังหวัดหนง่ึ ในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2 พ้นื ท่ขี องนครนายกปรากฏหลกั ฐานว่า
เคยเป็นถ่ินที่อยู่อาศัยของมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ โดยมีการขุดพบเครื่องมือเครอ่ื งใช้ของมนุษย์ในยุคนั้น เช่น
ขวานหินท้ังชนิดมีบ่าและไม่มีบ่า ลูกปัดหินและลูกปัดแก้ว หินดุ แท่นหินเขียว แวดินเผา ขวานสำรดิ สันนิษฐานว่า
นครนายกเคยเป็นเมืองโบราณท่ีมีอายุสืบเนื่องมาถึงปัจจุบัน โดยปรากฏหลักฐานการอยู่อาศัยในสมัยทวาราวดี
จากแหลง่ โบราณ “บ้านดงละคร” ซึง่ อยหู่ ่างจากอำเภอเมอื งนครนายกไปทางทศิ ใตร้ ะยะทาง ๘ กิโลเมตร มลี กั ษณะเป็น
เนินดินสงู คล้ายเกาะ เนื้อที่ประมาณ ๖ ตารางกิโลเมตร มีคันดินสูงล้อมรอบเป็นวงรี ดา้ นนอกคันดินมีคูน้ำล้อมรอบ
อีกชั้นหน่ึง มีประตูเข้าออก ๔ ประตู โดยเมืองนี้อาจมีพัฒนาการและอายุร่วมสมัยกับเมืองศรีมโหสถในจังหวัด
ปราจีนบุรี และเมืองพระรถในจังหวัดชลบุรี ซ่ึงโบราณวัตถุท่ีขุดพบในบริเวณพื้นที่ดังกล่าวมีหลายยุคหลายสมัย
ด้วยกัน ประกอบดว้ ย ระฆงั หินสมัยทวาราวดี พระพทุ ธรปู สมัยลพบุรี ภาชนะดินเผาสมยั สุโขทัย และอยุธยา เปน็ ต้น
ในปี พ.ศ. ๑๘๙๓ สมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ (พระเจ้าอู่ทอง) ปฐมกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา
กำหนดให้เมืองนครนายกเป็นเมืองหน้าด่านทางด้านทิศตะวันออก (เมืองลพบุรีเป็นเมืองหน้าด่านทางด้านทิศเหนือ
เมืองนครเขื่อนขันธ์เป็นเมืองหน้าด่านทางด้านทิศใต้ และเมืองสุพรรณบุรีเป็นเมืองหน้าด่านทางด้านทิศตะวันตก
ระยะทางจากเมืองหน้าด่านถึง ราชธานีกรุงศรีอยุธยาใช้เวลาเดินทาง ๒ วัน) ในสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ
ได้ตัดเขตท้องท่ีเมืองลพบุรีทางตะวันออกกับเขตท้องท่ีเมืองนครนายกทางตะวันตก รวมกันตั้งข้ึนเป็นเมืองสระบุรี
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลท่ี ๕) พ.ศ. ๒๔๔๕ ทรงปฏิรูปการปกครองใหม่ เรียกว่า
การปกครองมณฑลเทศาภิบาล จัดตั้งมณฑลปราจีนบุรี ประกอบด้วย เมืองปราจีนบุรี เมืองฉะเชิงเทรา เมืองนครนายก
เมืองพนมสารคาม เมืองพนสั นิคม เมืองชลบุรี และเมือง บางละมุง ในปี พ.ศ. ๒๔๘๖ รฐั บาลจอมพล ป. พิบูลย์สงคราม
ให้ยุบรวมอำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก ไปรวมกับจังหวัดสระบุรี และให้ยุบรวมอำเภอเมืองนครนายก
อำเภอองครักษ์ และอำเภอปากพลไี ปรวมกบั จังหวัดปราจีนบุรี
เม่ือวันท่ี ๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๘๙ ได้มีพระราชบัญญัติจัดต้ังจงั หวัดสมุทรปราการ
จังหวดั นนทบุรี จังหวดั สมุทรสาคร และจงั หวัดนครนายก พุทธศักราช ๒๔๘๙ มาตรา ๖ กำหนดให้แยกอำเภอ
นครนายก อำเภอองครักษ์ และอำเภอปากพลี ออกจากการปกครองของจังหวัดปราจีนบุรี กับให้แยกอำเภอ
บ้านนา ออกจากการปกครองของจังหวัดสระบุรี จดั ต้งั เป็นจังหวัดขึ้น เรยี กว่า จงั หวดั นครนายก
ประวัติของช่ือ “นครนายก” มีข้อสันนิษฐาน ๒ ประการ ดังนี้ ในสมัยก่อนดินแดนของ
นครนายกเป็นป่ารกชัฏมีไข้ป่าชุกชุมผู้คนจึงพากันอพยพไปอยู่ท่ีอ่ืนจนเกือบเป็นเมืองร้าง ต่อมามีพระมหากษัตริย์
พระองค์หนึ่งไม่มีหลักฐานยืนยันว่าในยุคสมัยใด (แต่ก่อนสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีท่ี ๑ หรือพระเจ้าอู่ทอง
แห่งกรุงศรีอยุธยา เพราะชื่อเมืองนครนายกปรากฏมาต้ังแต่สมัยพระเจ้าอู่ทองแล้ว) ต้องการที่จะจูงใจราษฎรให้
เข้ามาหักร้างถางพงทำมาหากินอยู่อาศัยในบริเวณนี้จึงให้ยกเว้นเก็บอากรค่านา จึงเรียกเมืองน้ีว่า “เมือง นา–ยก”
และเป็นเมืองนครนายก เหตุผลท่ีสอง คือ สมัยกรุงศรีอยุธยา การปกครองในเมืองหลวงใช้ระบบจตุสดมภ์
ส่วนการปกครองหัวเมืองชั้นใน หัวเมืองชั้นนอก ในหัวเมืองด้านเหนือมีสมุหนายก ปกครองท้ังฝ่ายพลเรือน
และทหาร ในหัวเมืองด้านใต้มีสมุหกลาโหมปกครองท้ังฝ่ายพลเรือนและทหาร เมืองนครนายกน้ันเดิมอยู่ใน
สงั กดั สมุหกลาโหม ภายหลังถกู โอนให้อยใู่ นสังกดั สมุหนายก พื้นทนี่ ี้จึงได้ชอื่ ว่านครนายกนับแต่นนั้ เปน็ ต้นมา
คำขวัญประจำจังหวัดนครนายก คือ “นครนายก เมืองในฝันท่ีใกล้กรุง ภูเขางาม น้ำตกสวย
รวยธรรมชาติ ปราศจากมลพิษ”
-7-
3.1.1.2 ลักษณะทางกายภาพ
ท่ีต้ัง จังหวัดนครนายกมีเนื้อท่ีประมาณ 2,122 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก
ของประเทศไทย ระหว่าง พิกัดเหนือ 1,544,240 เมตร ถึง 1,605,660 เมตร หรือ ละติจูด 13 องศา 57 ลิปดา
39 พิลิปดา ถึง 14 องศา 30 ลิปดา 46 พิลิปดา และ พิกัด ตะวันออก 706,540 เมตร ถึง 770,270 เมตร
หรือ ลองจิจูด 100 องศา 54 ลิปดา 49 ฟิลิปดา ถึง 101 องศา 30 ลิปดา 19 พิลิปดา ระหว่างเส้นรุ้งท่ี
14 องศาเหนือ และเส้นแวงที่ 101 องศาตะวันออก มีระยะทางจากกรุงเทพมหานครตามถนนทางหลวง
แผ่นดินหมายเลข 305 (รังสิต-นครนายก) เลียบคลองรังสิตผ่านอำเภอองครักษ์ ถึงจังหวัดนครนายก
ระยะทาง 105 กโิ ลเมตร ห่างจากทา่ อากาศยานสุวรรณภูมิประมาณ 105 กิโลเมตร ท่าอากาศยานดอนเมอื ง
82 กโิ ลเมตร ท่าเทียบเรือคลองเตย 120 กิโลเมตร ท่าเทยี บเรอื แหลมฉบัง 163 กิโลเมตร
ลกั ษณะภูมปิ ระเทศ สภาพโดยท่ัวไปเป็นที่ราบ ทางตอนเหนือและตะวันออกเป็นภูเขาสงู ชัน
ในเขตอำเภอบ้านนา อำเภอเมืองนครนายก และอำเภอปากพลี ส่วนหน่ึงอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ซึ่ง
เป็นเขตรอยต่อกับอีก 3 จังหวัด ได้แก่ สระบุรี นครราชสีมา และปราจีนบุรี ซ่ึงมีเทือกเขาติดต่อกับเทือกเขา
ดงพญาเย็น มียอดเขาสูงท่ีสุดของจังหวัดคือ ยอดเขาเขียว มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,351 เมตร
ส่วนทางตอนกลางและตอนใต้ เป็นท่ีราบอันกว้างใหญ่เป็นส่วนหน่ึงของท่ีราบสามเหล่ียมลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา
ท่ีเรียกว่า “ท่ีราบกรุงเทพ” ลักษณะดินเป็นดินปนทรายและดินเหนียวเหมาะแก่การทำนา ทำสวนผลไม้ และ
การอยอู่ าศัย ซง่ึ ตดิ กบั จงั หวดั ฉะเชงิ เทราและปทมุ ธานี
ลักษณะทางธรณีวิทยา จากการศึกษาข้อมูลด้านธรณีวิทยาของกรมทรัพยากรธรณี พบว่า
พื้นที่จังหวดั นครนายก ประกอบดว้ ยพนื้ ที่ภเู ขาและพ้ืนที่ราบลมุ่ โดยพืน้ ท่ีภูเขาประกอบดว้ ย หนิ ภูเขาไฟซงึ่ เป็น
ส่วนหน่ึงของแนวหินภูเขาไฟขอบท่ีราบสูงโคราช มีอายุการเกิดช่วงยุคเพอร์เมียนไทรแอสซิก (286-210 ล้านปีก่อน)
หินช้ันท่ีพบเป็นส่วนหน่ึงของกลุ่มหินโคราช ได้แก่ หมวดหินภูกระดึงยุคจูแรสซิก (210-140 ล้านปีก่อน)
และหมวดหินพระวิหารยุคจูแรสซิก-ครีเทเชียส (210-66.4 ล้านปีก่อน) และพื้นท่ีราบลุ่มถูกปกคลุมด้วย
ตะกอนร่วน ยุคควอเทอร์นารี (1.6-0.01 ล้านปี) ส่วนลำดับช้ันหินท่ีพบเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มหินโคราช
(Khorat Group) ซึ่งเป็นกลุ่มหินตะกอนสีแดงที่เกิดจากการสะสมตัวบนภาคพื้นทวีปในมหายุคมีโซโซอิก
โดยส่วนใหญ่ ประกอบด้วย หินทราย หินทรายแป้ง และหินดินดาน ช้ันหินเอียงเทน้อยเฉลี่ยประมาณ 10 องศา
พบแผ่กระจาย กวา้ งขวางบรเิ วณที่ราบสงู โคราช สำหรบั หมวดหินยอ่ ยของกลุ่มหินโคราชพบเพียง 2 หมวดหิน
ได้แก่ หมวดหิน ภูกระดึง และหมวดหินพระวิหาร แผ่กระจายตัวในพ้ืนท่ีภูเขาบริเวณด้านเหนือและ
ด้านตะวันออกเฉียงเหนอื ของอำเภอบ้านนา อำเภอเมอื งนครนายก และอำเภอปากพลี
-8-
สภาพภูมิอากาศ
จังหวัดนครนายกมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 22.08-35.76 องศาเซลเซียส ปริมาณน้ำฝน
สูงสุดวัดได้เฉล่ียประมาณ 177.8 ม.ม. โดยสภาพอากาศของจังหวัดนครนายก ขึ้นอยู่กับอิทธิพลของ
ลมมรสุม 2 ชนดิ คือ
1) ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมตัง้ แตป่ ระมาณกลางเดือนตุลาคมถึงกลางเดือน
กุมภาพันธ์ ลมนี้ พัดพาความหนาวเยน็ จากประเทศจีนเข้ามาสู่ประเทศไทยในฤดูหนาว ทำให้จงั หวดั นครนายก
ประสบกับสภาวะ อากาศหนาวเยน็ และแห้งแล้ง
2) ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ซ่ึงพัดปกคลุมช่วงฤดูฝนประมาณกลางเดือน พฤษภาคมถึง
กลางเดือนตลุ าคม ซงึ่ พดั จากทศิ ตะวันตกเฉียงใตเ้ ป็นส่วนใหญ่และเป็นลมท่ีพดั ผ่านทะเล นำความช้ืนและไอน้ำ
เขา้ สู่จงั หวดั ทำให้อากาศชุม่ ชน้ื และมฝี นโดยทว่ั ไป ดงั นี้
ฤดูกาล พิจารณาตามลักษณะของลมฟ้าอากาศของประเทศไทย จังหวัดนครนายก แบ่งฤดูออกเป็น
3 ฤดู ดังนี้
- ฤดูร้อน เร่ิมต้ังแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์และกลางเดือนพฤษภาคม ระยะน้ีอาจจะมี อากาศ
รอ้ นอบอา้ ว โดยเฉพาะเดอื นเมษายนเปน็ เดอื นทีม่ ีอากาศร้อนอบอ้าวมากทีส่ ดุ ในรอบปี
- ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่ประมาณกลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคม เป็นช่วงท่ีลมมรสุม
ตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทย ซึ่งจะนำความช้ืนจากทะเลอันดามันพัดผ่านอ่าวไทยเข้าสู่
ภาคตะวันออก ทำให้อากาศจะชมุ่ ชนื้ และมีฝนตกชุกทวั่ ไป
- ฤดูหนาว เร่ิมต้ังแต่กลางเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงของลมมรสุม
ตะวันออกเฉียงเหนือ และบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนท่ีมีคุณสมบัติเย็นและแห้งจะแผ่ลงมา
ปกคลุมประเทศไทยในช่วงนี้ แต่ในบางปีฤดูหนาวของจังหวดั นครนายกอาจล่าช้าไปบ้าง ทั้งน้ีข้ึนอยู่กับอิทธิพล
ของ ความกดอากาศสูงจากประเทศจีน ถ้าความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ลงมาช้าอากาศก็จะหนาวเย็น
ช้า ซึ่งฤดหู นาวอาจจะเร่มิ ในราวเดือนพฤศจิกายน
อุณหภูมิ เนื่องจากจังหวัดนครนายกเป็นจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันออกท่ีอยู่ลึกเข้าไป
ในแผ่นดิน จึงมีอากาศร้อนมากกว่าจังหวัดท่ีอยู่บริเวณชายฝ่ังและในฤดูหนาวก็มีอากาศหนาวมากกว่าเช่นกัน
โดยมีอุณหภูมิเฉล่ียตลอดท้ังปี 28.3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุดเฉล่ีย 33.9 องศาเซลเซียส สำหรับ
อณุ หภมู ติ ำ่ สดุ เฉลยี่ 23.8 องศาเซลเซยี ส
ปรมิ าณน้ำฝน ประมาณ 1,431 มลิ ลเิ มตร โดยมีวันจำนวนฝนตก เฉลี่ยประมาณ 136 วนั /ปี
3.1.1.3 ข้อมูลทางปกครอง/ประชากร
อาณาเขต จังหวัดนครนายกมอี าณาเขตตดิ ต่อกบั จังหวัดใกลเ้ คียง ดงั นี้
ทศิ เหนอื ติดต่อกับ อำเภอวิหารแดง อำเภอแกง่ คอย และอำเภอมวกเหล็ก
จงั หวดั สระบุรี
อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสมี า
ทศิ ตะวันออก ติดต่อกับ อำเภอเมืองปราจีนบุรี และอำเภอประจันตคาม
จังหวดั ปราจีนบุรี
ทศิ ใต้ ติดตอ่ กับ อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จงั หวดั ฉะเชิงเทรา
อำเภอบา้ นสรา้ ง จงั หวดั ปราจีนบรุ ี
ทศิ ตะวันตก ตดิ ตอ่ กับ อำเภอหนองเสือ อำเภอธัญบุรี และอำเภอลำลูกกา
จังหวดั ปทุมธานี
-9-
เขตการปกครอง
จังหวัดนครนายก แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 4 อำเภอ 41 ตำบล 408 หมู่บ้าน 1
องค์การบรหิ ารส่วนจังหวัด 1 เทศบาลเมอื ง (เทศบาลเมืองนครนายก) ๕ เทศบาลตำบล (เทศบาลตำบลท่าชา้ ง
เทศบาลตำบลบ้านนา เทศบาลตำบลองครักษ์ เทศบาลตำบลเกาะหวาย เทศบาลตำบลพิกุลออก) และ
๓๙ องค์การบริหารส่วนตำบล
โครงสร้างการบริหารราชการส่วนภูมภิ าค ส่วนกลาง และส่วนท้องถ่นิ
เขตการปกครอง จังหวดั นครนายกแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 4 อำเภอ 41 ตำบล 408
หมู่บ้าน 6 เขตเทศบาล 1 เทศบาลเมือง (เทศบาลเมืองนครนายก) 5 เทศบาลตำบล (เทศบาลตำบลท่าช้าง เทศบาล
ตำบลบ้านนา เทศบาลตำบลองครักษ์ เทศบาลตำบลเกาะหวาย เทศบาลตำบลพิกุลออก) และ 39 องค์การ
บริหารสว่ นตำบล
อำเภอเมืองนครนายก จำนวน 13 ตำบล ประกอบด้วย ตำบลนครนายก ตำบลท่าช้าง
ตำบลบ้านใหญ่ ตำบลวังกระโจม ตำบลท่าทราย ตำบลดอนยอ ตำบลศรีจุฬา ตำบลดงละคร ตำบลศรีนาวา ตำบลสาลิกา
ตำบลหินตง้ั ตำบลเขาพระ ตำบลพรหมณี 126 หมู่บ้าน 2 เขตเทศบาล 12 องค์การบริหารสว่ นตำบล
อำเภอปากพลี จำนวน 7 ตำบล ประกอบด้วย ตำบลปากพลี ตำบลเกาะหวาย ตำบลเกาะโพธิ์
ตำบลโคกกรวด ตำบลทา่ เรอื ตำบลหนองแสง ตำบลนาหนิ ลาด 51 หมบู่ ้าน 1 เขตเทศบาล 7 องค์การบริหารสว่ นตำบล
อำเภอบา้ นนา จำนวน 10 ตำบล ประกอบด้วย ตำบลบ้านนา ตำบลบา้ นพร้าว ตำบลบ้านพริก
ตำบลอาษา ตำบลทองหลาง ตำบลบางอ้อ ตำบลพิกุลออก ตำบลป่าขะ ตำบลเขาเพ่ิม ตำบลศรีกะอาง
115 หมบู่ ้าน 2 เขตเทศบาล 9 องค์การบรหิ ารส่วนตำบล
อำเภอองครักษ์ จำนวน 11 ตำบล ประกอบด้วย ตำบลองครักษ์ ตำบลพระอาจารย์ ตำบลบึงศาล
ตำบลศรษี ะกระบือ ตำบลโพธิ์แทน ตำบลบางสมบูรณ์ ตำบลทรายมูล ตำบลบางปลากด ตำบลบางลกู เสือ
ตำบลชมุ พล ตำบลคลองใหญ่ 116 หมู่บา้ น 1 เขตเทศบาล 11 องคก์ ารบริหารสว่ นตำบล
-10-
ตารางท่ี 1 พนื้ ท่ีและหนว่ ยการปกครองรายอำเภอ
อำเภอ พนื้ ท่ี (ตร.กม.) จำนวนหน่วยการปกครอง
เมอื งนครนายก 728.123 ตำบล หมบู่ ้าน เทศบาล อบต. อบจ.
ปากพลี 519.065 13 1
บา้ นนา 388.453 7 126 2 12 -
องครักษ์ 486.359 10 -
รวม 2,122.000 11 51 1 7 -
40 1
115 2 9
116 1 11
407 6 39
โครงสร้างประชากร เมื่อสิ้นปี 2563 จังหวดั นครนายกมีประชากรรวมทั้งส้ิน 260,081 คน
เป็นชาย 128,627 คนเป็นหญิง 131,454 คน ความหนาแน่นของประชากรต่อตารางกิโลเมตรโดยเฉลี่ย
123 คน โดยความหนาแน่นของประชากรสูงที่สุด คือ อำเภอบ้านนา 179 คนต่อ ตร.กม. รองลงมาเป็น
อำเภอเมอื งนครนายก 139 คนต่อ ตร.กม. สว่ นการเปล่ียนแปลงของประชากร พบว่า มีการเปลีย่ นแปลงลดลง 0.26
ตารางท่ี 2 จำนวนประชากรจังหวัดนครนายก จำนวนบ้าน และความหนาแน่น จำแนกรายอำเภอ ปี 2563
ประชากร (คน) ความหนาแน่นของ
อำเภอ/เทศบาล ชาย หญงิ รวม ประชากร จำนวนบา้ น
(ร้อยละ) (ตอ่ ตร.กม.)
1. เมืองนครนายก 50,343 51,088 101,431 139 42,665
2. ปากพลี 11,708 12,510 (39.00%) 47 9,219
24,218
(9.31%)
3. บ้านนา 34,603 34,853 69,456 179 26,390
4. องครักษ์ 31,973 33,003 (26.71%) 134 23,273
64,976
(24.98%)
รวมท้งั สิ้น 128,627 131,454 260,081 123 101,547
(100.00)
ทม่ี า : กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
แผนภาพท่ี 1 ร้อยละของประชากร รายอำเภอ แผนภาพท่ี 2 ความหนาแนน่ ของประชากรรายอำเภอ
-11-
ตารางท่ี 3 ร้อยละการเปลี่ยนแปลงประชากร 10 ปี ยอ้ นหลงั (ปี พ.ศ.2554-2563)
จำนวนประชากร (คน)
ปี พ.ศ. รวม ชาย หญงิ ร้อยละ
การเปล่ียนแปลง
2554 253,831 125,631 128,200 + 0.43
2555 255,174 126,351 128,823 + 0.53
2556 256,085 126,837 129,248 + 0.36
2557 257,300 127,503 129,797 + 0.47
2558 258,577 128,113 130,465 + 0.50
2559 258,358 127,773 130,585 - 0.08
2560 259,342 128,236 131,106 + 0.38
2561 260,093 128,593 131,500 + 0.29
2562 260,751 129,046 131,705 + 0.25
2563 260,081 128,627 131,454 -0.26
ที่มา : ระบบสถติ ทิ างการทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
แผนภาพท่ี 3 การเปล่ยี นแปลงประชากร 10 ปี ย้อนหลัง (ปี 2553-2563)
จังหวัดนครนายก มีประชากรวัยสูงอายุซ่ึงมีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ปี พ.ศ. 2563 จำนวน
52,395 คน คิดเป็นร้อยละ 20.15 ของประชากรทั้งหมด ประชากรวัยแรงงาน อายุ 15-59 ปี จำนวน
165,432 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 63.61 เป็นผลใหป้ ระชากรวัยแรงงานตอ้ งรับภาระในการดแู ลผสู้ งู อายุมากขน้ึ
-12-
ตารางที่ 4 โครงสร้างประชากร ปี พ.ศ.2559-2563
รายการ 2559 2560 2561 2562 2563
260,093 260,751 260,081
จำนวนประชาการ (คน) 258,358 259,342
41,459
โครงสรา้ งประชากร 15.94
กลุ่ม 0-14 ปี 167,007
64.21
จำนวน 42,154 41,956 40,700 39,948
48,458 15.61 15.36
รอ้ ยละ 16.32 16.18 18.63
กล่มุ 15-59 ปี 3,169
1.22
จำนวน 168,374 167,760 166,233 165,432
63.75 63.61
รอ้ ยละ 65.17 64.69
กลุ่ม 60 ปขี ้ึนไป
จำนวน 45,118 46,799 50,301 52,395
19.29 20.15
ร้อยละ 17.46 18.05
จำแนกอายุไม่ได้
จำนวน 2,712 2,827 3,517 2,306
รอ้ ยละ 1.05 1.09 1.35 0.89
ท่ีมา : สำนกั งานสถติ แิ หง่ ชาติ
ตารางท่ี 5 เปรียบเทียบข้อมูลประชากรท้ังจงั หวดั กับประชากรผู้สงู อายุ ประจำปี 2560-2563
ปี พ.ศ. จำนวน จำนวนประชากรผูส้ ูงอายุ 60 ปขี ึน้ ไป สัดส่วนตอ่
ประชากร ชาย หญงิ รวม ประชากรรวม
ท้ังจังหวดั (%)
2560 259,342 20,186 26614 46,800 18.05
2561 260,093 20,896 27,562 48,458 18.63
2562 260,751 22,317 28,970 51,287 19.69
2563 260,081 22,689 29,706 52,395 20.15
-13-
ปิรามิดประชากรจังหวัดนครนายก ปี 2563
ขอ้ มลู ด้านแรงงานด้านแรงงานจังหวัดนครนายก
1) จำนวนสถานประกอบการ
จังหวัดนครนายกมีสถานประกอบการท่ีเข้าระบบประกันสังคม จำนวน 1,146 แห่ง
และมีลูกจ้างท่ีอยู่ในระบบประกันสังคม มาตรา 33 จำนวน 25,575 คน มาตรา 39 จำนวน 4,943 คน
และมแี รงงานนอกระบบเป็นผปู้ ระกันตน มาตรา 40 จำนวน 19,133 คน รวมทั้งหมดจำนวน 49,651 คน
ตารางท่ี 6 จำนวนสถานประกอบการและจำนวนผู้ประกันตน
ประเภท จำนวนสถานประกอบการ จำนวนผปู้ ระกนั ตน
ผปู้ ระกันตน ม.33 1,352 25,575
ผู้ประกันตน ม.39 - 4,943
ผปู้ ระกันตน ม.40 - 19,133
รวม 1,352 49,651
ที่มา : สำนักงานประกันสังคมจังหวัดนครนายก (ปี พ.ศ. 2563 )
อตั ราการวา่ งงาน
ส่วนอัตราว่างงานซึ่งคำนวณจากผู้ว่างงานต่อผู้อยใู่ นกำลังแรงงานมีอัตรา 0.38 ซึ่งในไตรมาสนี้มี
เพศชาย รอ้ ยละ 0.50 และเพศหญิง รอ้ ยละ 0.24 และเม่ือพิจารณาอัตราการวา่ งงานตามเพศของไตรมาส 3 ปี
2563 จะได้ เพศชายร้อยละ 0.21 ขณะท่ีเพศหญิงร้อยละ 0.26 ทั้งนี้ อัตราการว่างงานในไตรมาสน้ีมากกว่า
ไตรมาส 3 ปี 2563 ที่มอี ัตราวา่ งงานภาพรวมรอ้ ยละ 0.23 (351 คน)
จำนวนลูกจา้ งตามขนาดของสถานประกอบการ
จังหวัดนครนายก มีสถานประกอบกิจการท้ังหมด 1,647 แห่ง จำนวนลูกจ้างรวม 25,464 คน
เป็นเพศชาย จำนวน 12,615 และเป็นเพศหญิงจำนวน 12,849 คน เมื่อจำแนกตามขนาดสถานประกอบกิจการ
พบว่า สถานประกอบกิจการที่มีลูกจ้าง ขนาด 1-9 คน มีจำนวน 1,293 แห่ง สถานประกอบกิจการท่ีมีลูกจ้าง
-14-
ขนาด 10-49 คน มีจำนวน 300 แห่ง สถานประกอบกิจการที่มีลูกจ้าง ขนาด 50-99 คน มีจำนวน 22 แห่ง
สถานประกอบกิจการท่ีมีลูกจ้าง ขนาด 100 - 299 คน มีจำนวน 21 แห่ง สถานประกอบกิจการที่มีลูกจ้าง
ขนาด 300 – 499 คน มีจำนวน 7 แห่ง สถานประกอบกิจการที่มีลูกจ้าง ขนาด 500 - 999 คน มีจำนวน
2 แห่ง และสถานประกอบกิจการท่ีมีลูกจ้าง ขนาด 1,000 คน มีจำนวน 2 แหง่
แรงงานนอกระบบ
แรงงานนอกระบบทั้งหมดมี จำนวน 86,416 คน พบว่าส่วนใหญ่ทำอาชีพด้านการเกษตร
และการประมง 31,878 คน (ร้อยละ 36.89) รองลงมาพนักงานบริการ 19,914 คน (ร้อยละ 23.04)
ผูป้ ฏิบัตงิ านด้านความสามารถทางฝมี ือ 15,112 คน (รอ้ ยละ 17.49) ตามลำดบั
ตารางท่ี 7 แรงงานนอกระบบ จำแนกตามอาชีพ
อาชพี
แรงงาน รวม ผบู้ ัญญัติ วชิ าชีพ วชิ าชพี เสมียน พนกั งาน ดา้ น ด้าน ผู้ปฏบิ ตั งิ าน อาชีพ
นอกระบบ กฎหมาย ด้าน ดา้ น บรกิ าร การเกษตร ความสามารถ โรงงาน พน้ื ฐาน
ต่างๆ เทคนิค และประมง เครือ่ งจักร ตา่ งๆ
และ ทางฝมี ือ
ผู้จดั การ 24,465 2,922 9,427
16,460 15,703 2,583 6,603
แรงงานนอกระบบ 83,271 2,054 794 543 508 26,854 8,005 11,621 339 2,824
4,083
ชาย 49,717 1,818 199 474 508 9,451
หญิง 33,554 236 595 69 - 17,403
ท่มี า : สำนกั งานสถติ ิจังหวดั นครนายก (ข้อมูล ณ ธนั วาคม 2563)
3.1.1.4 การใชป้ ระโยชนท์ ดี่ ิน
จังหวัดนครนายกมีเนื้อท่ีท้ังหมด 2,122 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 1,326,250 ไร่
แบ่งเป็นเนื้อที่ป่าไม้ประมาณ 401,304 ไร่ หรอื คิดเป็นรอ้ ยละ 29.98 หรือประมาณ 636.18 ตารางกิโลเมตร
ในปี 2562 มีเนื้อที่ที่ใช้ประโยชน์ทางการเกษตร 683,279 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 51.05 และเนื้อที่อ่ืน ๆ
จำนวน 210,953 ไร่ คดิ เป็นรอ้ ยละ 15.76 ของเนือ้ ทีจ่ งั หวัด
ที่มา : สำนักจดั การทีด่ ินป่าไม้ กรมป่าไม,้ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
ท่มี า : กลมุ่ วิเคราะห์สภาพการใชท้ ดี่ ิน กองนโยบายและแผนการใช้ทดี่ ิน กรมพฒั นาท่ีดิน, 2562
-15-
ทั้งนี้ จังหวัดนครนายกได้มีการวางผังเมืองรวมจังหวัดเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาใน
ภาพรวมครอบคลุมพ้ืนท่ีท้ังจังหวัดตามความเหมาะสมและศกั ยภาพของพื้นทไี่ ว้แล้ว
ตารางที่ 8 แสดงพน้ื ทีแ่ ละประเภทสภาพการใชป้ ระโยชนท์ ด่ี นิ พ.ศ. 2563
ประเภทการใช้ประโยชนท์ ีด่ ิน พ้นื ที่ (ไร่) รอ้ ยละการใช้ประโยชน์ทด่ี ิน
รวม 1,326,250 100
พื้นทใ่ี ช้ประโยชน์เกษตรกรรม 683,279 51.05
พ้ืนที่ปา่ ไม้ 401,304 29.68
พื้นท่เี บด็ เตล็ด 210953 15.76
ตารางที่ 9 ขอ้ มูลการใช้ประโยชน์ทีด่ นิ ของจังหวดั นครนายก ปี พ.ศ. 2560 และ ปี พ.ศ. 2562
ประเภทการใชท้ ่ดี ิน พ.ศ. 2560 พ.ศ. 2562 ร้อยละการ
พื้นทช่ี มุ ชนและส่ิงปลูกสร้าง เนอ้ื ที่ (ไร)่ ร้อยละ
เนอ้ื ที่ (ไร)่ ร้อยละ เปลย่ี นแปลง
129,529 9.77
140,568 10.61 8.52
พื้นทเ่ี กษตรกรรม 691,611 52.14 683,279 51.49 -1.20
พื้นทนี่ า 526,346 39.69 494,790 37.31 -6.00
พืชไร่ 1,523 0.11 1,635 0.11 7.35
ไมย้ ืนตน้ 35,599 2.68 37,898 2.85 6.46
ไมผ้ ล 30,378 2.30 34,096 2.55 12.24
พชื สวน 9,414 0.72 11,685 0.88 24.12
ทุง่ หญ้าเลย้ี งสัตว์และโรงเรือนเล้ยี ง 6,306 0.47 7,060 0.53 11.96
สตั ว์ 180 - 245 0.02 36.11
พชื น้ำ
สถานที่เพาะเล้ยี งสตั วน์ ้ำ 81,577 6.15 95,712 7.23 17.33
เกษตรผสมผสาน/ไร่นาสวนผสม 117 0.01 158 0.01 35.04
พน้ื ทป่ี ่าไม้ 399,338 30.12 398,057 30.01 -0.32
พ้ืนทนี่ ้ำ 33,134 2.50 38,961 2.96 17.59
พ้ืนที่เบ็ดเตล็ด 72,638 5.47 65,385 4.93 -9.99
รวม 1,326,250 100.00 1,326,250 100.00
ทม่ี า : กลุ่มวิเคราะห์สภาพการใช้ทด่ี ิน กองนโยบายและแผนการใชท้ ดี่ นิ กรมพฒั นาที่ดิน, 2562
-16-
ตารางที่ 10 แสดงเนือ้ ที่การใชป้ ระโยชนท์ างการเกษตร พ.ศ. 2553-2562
ปี พ.ศ. เนอ้ื ท่ีใช้ เนอ้ื ที่การใชป้ ระโยชนท์ างการเกษตร
ประโยชน์ทาง นาข้าว พชื ไร่ สวนผลไม้ สวนผกั เนอื้ ทีใ่ ช้
การเกษตร
ไม้ยืนต้น ไมด้ อก/ไม้ ประโยชนท์ าง
ประดบั การเกษตรอื่นๆ
2553 624,279 465,763 - 25,218 9,355 123,943
2554 616,061 457,929 - 24,098 9,427 124,60
2555 619,596 457,435 - 24,084 9,712 128,365
2556 615,204 457,269 - 24,005 9,672 124,260
2557 616,791 457,535 - 24,083 9,647 125,526
2558 616,768 457,423 - 24,145 9,814 125,386
2559 616,530 457,260 - 24,126 9,798 125,346
2560 616,425 457,403 - 23,955 9,806 125,288
2561 616,315 457,110 - 24,065 9,800 125,340
2562 617,007 457,634 - 24,144 9,796 125,433
ทีม่ า : เน้ือที่ใชป้ ระโยชน์ทางการเกษตร รายจงั หวดั สำนกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร
พ้ืนท่ีเกษตรกรรม ปี พ.ศ. 2562 มีเนื้อที่ประมาณ 617,007 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 46.10
ของพ้ืนท่ีจังหวัด ประกอบด้วย นาข้าว สวนผลไม้ เช่น มะม่วง มะพร้าว มะม่วงหิมพานต์ กล้วย ขนุน และ
ทุเรียน พืชสวน เช่น พืชผัก ไม้ดอก ไม้ยืนต้น เช่น ยางพารา ยูคาลิปตัส หมาก ปาล์มน้ามัน และสัก ไม้ผล
และพืชสมนุ ไพร ทงุ่ หญ้าเลยี้ งสัตว์ เช่น โค และม้า โรงเรอื นเลีย้ งสัตว์ เช่น สัตวป์ ีก และสุกร สถานท่เี พาะเลี้ยง
สัตว์น้ำ ซ่ึงปัจจุบันมีการใช้เครื่องจักร เพ่ือการไถพรวน พลิกหน้าดิน การขุดร่องน้ำ การปรับหน้าดิน ตัดถนน
เพ่ือการเข้าถึงและขนส่งลำเลียง โดยไม่มีการศึกษาโครงสร้างหรือลักษณะของดินที่เหมาะสม สำหรับการปลูก
พืช ส่งผลกระทบทางอ้อมอันเกิดจากการเปล่ียนแปลงรูปแบบการไหลของน้ำผิวดิน น้ำจะไหลผ่านหน้าดิน
อย่างรวดเร็วและกอ่ ให้เกดิ การชะลา้ งหน้าดิน หรอื มวลดินมีนำ้ หนกั มากขนึ้ ซง่ึ อาจเปน็ สาเหตใุ หเ้ กิดดินถลม่ ได้
ปญั หาดินเปร้ียว
จังหวัดนครนายก มีพื้นที่เป็นดินเปรี้ยว บริเวณอำเภอองครักษ์ อำเภอเมือง อำเภอบ้านนา
และอำเภอปากพลี รวมประมาณ 554,091 ไร่ จากพื้นท่ีทั้งหมด 1,338,269 ไร่ หรือคิดเป็นพื้นท่ีร้อยละ
41.40 ของพื้นที่ทั้งจังหวัด โดยดินเปร้ียวจัดมากหรือเป็นกรดจัดมาก (มีปฏิกิริยาความเป็นกรดเป็นด่าง 4.0-5.0)
และมีปริมาณอินทรียวัตถุในดินบนช้ันล่าง น้อยกว่า 1.5 % คิดเป็นพ้ืนท่ีร้อยละ 41.78 ของพ้ืนท่ีท้ังจังหวัด
หรือประมาณ 554,091 ไร่ โดยแยกเป็น
- รุนแรงมาก 15.16 % หรอื คดิ เปน็ พื้นทีป่ ระมาณ 201,104 ไร่
- รนุ แรงปานกลาง 23.26 % หรือคิดเป็นพ้ืนท่ีประมาณ 308,541 ไร่
- รุนแรงน้อย 3.35 % หรือคิดเปน็ พ้นื ทปี่ ระมาณ 44,446 ไร่
นอกจากน้ี พบว่า ดินขาดความอุดมสมบูรณ์และมีปริมาณอินทรียวตั ถุในดินน้อยกว่า 1.5 %
มีพื้นท่ีร้อยละ 69.85 ของพ้ืนท่ีท้ังจังหวัด หรือประมาณ 926,440 ไร่ , ดินมีอินทรียวัตถุน้อยกว่า 1.5 %
มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ มีพ้ืนที่ร้อยละ 16.42 ของพ้ืนที่ท้ังจังหวัดหรือคิดเป็นพ้ืนท่ีประมาณ 217,821 ไร่ ,
ดินมีอินทรียวัตถุในดินล่างน้อยกว่า 1.5 % มีพ้ืนที่ร้อยละ 11.65 ของพ้ืนท่ีทั้งจังหวัด หรือคิดเป็นพ้ืนท่ี
ประมาณ 154,528 ไร่ และดนิ มคี วามลาดเทสูง มีการชะล้างพงั ทลายของดินสูง มีพื้นที่ร้อยละ 30.15 ของ
พื้นท่ที ัง้ จังหวัด หรอื คิดเปน็ พื้นที่ 399,810 ไร่
-17-
แนวทางแก้ปัญหา ส่งเสริมให้เกษตรกรนำความรู้วิชาการและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี
ที่ทันสมัยร่วมกัน เพื่อปรับปรุงคุณภาพดิน เช่น การผลิตพืชท่ีสอดคล้องกับสภาพของดิน การใช้น้ำอย่างมี
ประสิทธิภาพ การเก็บเกี่ยวท่ีมีคุณภาพ เพ่ือลดต้นทุนและเพิ่มปริมาณผลผลิตต่อไร่ แนวทางการจัดการดิน
เปรยี้ วจัดให้เหมาะสมในการปลูกพืชนั้น จะต้องพิจารณาจากสภาพปัญหาและข้อจำกัดต่างๆ ของดินเปรยี้ วจัด
ร่วมกับการพิจารณาชนิดของพืชที่จะทำการปลูกและจำเป็นอย่างยิ่งท่ีจะต้องใช้ความรู้และประสบการณ์หลายๆ
ด้านเก่ียวกับการจัดการด้านดิน จัดการด้านน้ำ และจัดการด้านพืชให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่นั้นๆ โดยอาจจะ
เลือกใช้วิธีการจัดการด้านดิน การจัดการด้านน้ำ หรือการจัดการด้านพืชอยา่ งใดอย่างหนึ่งหรือทำควบคู่กัน
ไปตามความเหมาะสมของสภาพพ้ืนที่และความรุนแรงของปัญหาที่เกิดข้ึน ในการดำเนินการแก้ไขและบรรเทา
ปั ญหาที่ ผ่ านมามี การสนั บสนุ นปู นมาร์ล ให้ แก่ เกษตรกร เพ่ื อปรับปรุงสภาพดิ น ต้ั งแต่ ปี ๒๕๔๖
ถึง ๒๕๖๑ รวม ๙๑,๓๒๐ ไร่ การแก้ไขปัญหาในพื้นท่ีได้มีการส่งเสริมให้ความรู้แก่เกษตรกรในการปรับปรุง
คุณภาพดิน เช่น การผลิตพืชที่สอดคล้องกับสภาพของดิน การใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ การเก็บเก่ียวที่มี
คณุ ภาพ เพือ่ ลดต้นทนุ และเพมิ่ ปรมิ าณผลผลิตต่อไร่ การใชป้ ุ้ยอินทรยี ใ์ นการผลิต เป็นต้น ซึ่งตามหลักวชิ าการ
โดยข้อมูลจากสำนกั งานพัฒนาที่ดินจังหวัด การปรับปรงุ พ้ืนท่ีดินเปร้ียวจัดสามารถดำเนินการได้ผลในระยะสั้น
หรือเรียกไดว้ ่าปรบั ปรุงได้ทนั ที และจำเป็นต้องดำเนินการก่อนการดำเนินการอ่ืน ๆ หากจะทำการเกษตรกรรม
ส่วนการเพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุ จำเป็นต้องเร่งดำเนินการเช่นเดียวกัน แต่จำเป็นต้องดำเนินการใส่ในปริมาณมาก
1-3 ตัน/ ไร่/ ปี อย่างต่อเน่ืองอย่างน้อย 3-4 ปี หลังจากน้ันก็ยังจำเป็นต้องรักษาปริมาณอินทรียวัตถุ
ในดินไว้ในทุกรูปแบบรวมท้ังต้องคอยเพ่ิมเติมอินทรียวัตถุส่วนท่ี ขาดให้แก่ดินอยู่เสมอด้วย เพื่อรักษาความอุดมสมบูรณ์
ของดินไว้ในลักษณะการเกษตรย่ังยืน ทั้งน้ี เพ่ือให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์ สามารถเพาะปลูกพืชได้อย่าง
มีประสิทธภิ าพมากข้นึ
พนื้ ที่ดินเปรยี้ วจังหวัดนครนายก
ท่ีมา : https://agri-map-online.moac.go.th/
-18-
3.1.1.5 โครงสร้างพน้ื ฐาน
➢ ไฟฟ้า
ตารางท่ี 11 แสดงการจำหนา่ ยกระแสไฟฟา้ ของจังหวัดนครนายก แยกเปน็ รายอำเภอ ปี 2563
การจำหนา่ ยกระแสไฟฟ้า (กิโลวัตต์/ชว่ั โมง)
อำเภอ ยอดรวม ทีอ่ ยู่อาศยั สถานธุรกจิ และ สถานทีร่ าชการ อน่ื ๆ จำนวนผใู้ ช้
อตุ สาหกรรม และสาธารณะ ไฟฟา้ (ราย)
นครนายก 19,204,529.86 7,589,871.71 10,649,612.69 790,823.66 174,221.80 40,613
บ้านนา 15,347,406.93 5,113,084.30 9,626,297.69 531,229.98 76,794.96 25,886
องครักษ์ 16,617,532.83 3,655,302.38 12,472,557.98 382,529.62 107,142.85 19,237
ปากพลี 2,425,572.49 1,656,405.60 622,442.75 120,627.14 26,097.00 10,187
รวม 53,595,042.11 18,014,663.99 33,370,911.11 1,825,210.40 384,256.61 95,923
ที่มา : การไฟฟา้ ส่วนภูมภิ าคจังหวดั นครนายก ข้อมูล ณ เดอื นกนั ยายน 2563
ตารางท่ี 12 แสดงการจำหน่ายกระแสไฟฟา้ ของจังหวัดนครนายก แยกเปน็ รายอำเภอ ปี 2564
การจำหนา่ ยกระแสไฟฟา้ (กโิ ลวัตต์/ชวั่ โมง)
อำเภอ ยอดรวม ทอ่ี ยอู่ าศัย สถานธรุ กจิ และ สถานที่ราชการ อ่นื ๆ จำนวนผูใ้ ช้
อุตสาหกรรม และสาธารณะ ไฟฟา้ (ราย)
นครนายก 18,349,829.48
บา้ นนา 2,654,561.79 8,357,050.80 9,018,280.71 752,888.67 221,609.30 41,779
องครักษ์ 17,252,203.66
ปากพลี 16,957,860.57 1,880,057.03 623,038.42 111,003.54 40,462.80 10,386
รวม 55,214,455.50
5,708,325.93 10,970,900.03 491,681.92 81,295.78 26,858
4,065,121.02 12,253,766.56 416,519.94 222,453.05 19,897
20,010,554.78 32,865,985.72 1,772,094.07 565,820.93 98,920
ทีม่ า : การไฟฟา้ สว่ นภูมภิ าคจงั หวดั นครนายก ข้อมลู ณ เดอื นสงิ หาคม 2564
➢ ประปา
ตารางท่ี 13 แสดงจำนวนผู้ใชน้ ำ้ กำลงั การผลิต พ้ืนท่ีการใหบ้ ริการของการประปาสว่ นภูมิภาคสาขานครนายก
พ.ศ. จำนวนผู้ใชน้ ้ำ (ราย) กำลังผลิต พน้ื ที่ใหบ้ ริการ
2560 14,278 1000ม3/ชม. 59.31 ตร.กม.
2561 14,777 1000ม3/ชม. 62.05 ตร.กม.
2562 15,336 1000ม3/ชม. 63.86 ตร.กม.
2563 16,276 1000ม3/ชม. 67.99 ตร.กม.
2564 16,751 1000ม3/ชม. 73.61 ตร.กม.
ตารางที่ 14 อตั ราการผลติ และการใช้น้ำประปาในจงั หวัดนครนายก ปี พ.ศ. 2562 และ 2564
การประปาส่วนภมู ภิ าคสาขานครนายก
พ.ศ. กำลงั การผลติ จำนวนผู้ใช้นำ้ ที่อยู่อาศัย ธรุ กิจ ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ
2562 1,000 ลบ.ม./ชม. 15,336 13,250 1,878 191 17
2563 1,000 ลบ.ม./ชม. 16,276 13,906 2,169 186 15
2564 1,000 ลบ.ม./ชม. 16,751 14,275 2,269 192 15
(ข้อมูล ณ เดอื นกันยายน)
-19-
ตารางที่ 15 แสดงจำนวนผใู้ ช้นำ้ กำลังการผลิต พ้ืนที่การใหบ้ รกิ ารของ การประปาส่วนภูมภิ าคสาขาบา้ นนา
พ.ศ. จำนวนผใู้ ชน้ ้ำ กำลงั การผลติ พน้ื ท่ีใหบ้ รกิ าร
2560 8,512 560 ลบ.ม./ชม. 55.88 ตร.กม.
2561 8,840 560 ลบ.ม./ชม. 57.97 ตร.กม.
2562 9,238 700 ลบ.ม./ชม. 57.97 ตร.กม.
2563 9,627 730 ลบ.ม./ชม. 59.85 ตร.กม.
ตารางที่ 16 แสดงอตั ราการผลิตและการใชน้ ้ำประปาในจงั หวดั นครนายก ปี พ.ศ. 2562 และ 2563
การประปาส่วนภูมภิ าคสาขาบา้ นนา
พ.ศ. กำลังการผลิต จำนวนผใู้ ช้นำ้ ทีอ่ ยู่อาศยั ธรุ กิจ สว่ นราชการ รฐั วิสาหกิจ
2560 560 ลบ.ม./ชม. 8,486 7,261 1,122 90 13
2561 560 ลบ.ม./ชม. 8,810 7,584 1,104 99 13
2562 700 ลบ.ม./ชม. 9,238 7,981 1,142 101 14
2563 730 ลบ.ม./ชม. 9,627 8,267 1,248 99 13
(ข้อมูล ณ เดอื นกันยายน)
ตาราง 17 สถิติจำนวนผู้ใช้น้ำ ปรมิ าณการผลิต และปริมาณการจำหน่าย ของการประปาส่วนภูมิภาค
ปีงบประมาณ 2559 - 2563
รายละเอยี ด 2559 2560 2561 2562 2563
ผ้ใู ช้นำ้ (ราย) 22,108 22,903 23,737 24,574 25,719
ปริมาณการผลติ (ลา้ นลกู บาศก์เมตร) 8.1 9.2 10.3 11.0 12.1
ปรมิ าณการจำหน่าย (ล้านลกู บาศกเ์ มตร) 6.2 6.4 6.6 6.8 7.2
เฉล่ียการใชน้ ำ้ (ลบ.ม. / ราย / เดอื น) 23.4 23.3 23.0 23.0 23.3
➢ การคมนาคม
จงั หวัดนครนายก ต้งั อยู่บนเส้นทางคมนาคมที่เช่อื มโยงกับพนื้ ที่เศรษฐกิจหลักของประเทศ
รวมท้ังอยู่บนเส้นทางไปสู่ชายแดนไทย - กัมพูชา ซึ่งเป็นประตูเศรษฐกิจสู่อินโดจีนทางด้านตะวันออกเส้นทาง
การคมนาคมท่ีสำคญั ของจังหวัด ได้แก่
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 33 (ถนนสุวรรณศร) แยกจากถนน ๓๔๐ (บางบัวทอง-สุพรรณบุรี)
ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ผ่านอำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ตัดกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 (สายเอเชีย)
ผ่านอำเภอนครหลวง อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตัดกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 (พหลโยธิน)
ท่ีตำบลหินกอง อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี ผ่านอำเภอบ้านนา เข้าจังหวัดนครนายก ผ่านจังหวัดปราจีนบุรี
ไปสิ้นสุดท่ีชายแดนไทย - กมั พชู า อำเภออรัญประเทศ จงั หวดั สระแกว้
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 305 จากรังสิต - จังหวดั นครนายก
- ทางหลวงแผน่ ดนิ หมายเลข 3222 จากอำเภอบ้านนา - อำเภอแก่งคอย จังหวดั สระบรุ ี
- ทางหลวงแผน่ ดนิ หมายเลข 3049 จากอำเภอเมืองฯ - น้ำตกสารกิ า นำ้ ตกนางรอง
- ทางหลวงแผ่นดนิ หมายเลข 3239 สายศรีนาวา - ท่าดา่ น จงั หวัดนครนายก
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3051 สายบางอ้อ - องครักษ์ จงั หวัดนครนายก
-20-
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3288 สายทา่ แดง - วงั มว่ ง จงั หวัดนครนายก
- ทางหลวงแผน่ ดนิ หมายเลข 3076 สายนครนายก - บา้ นสร้าง
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3050 แยกเข้าน้ำตกสาริกา จังหวัดนครนายก
ตารางที่ 18 แสดงเส้นทางคมนาคมที่สำคัญของจังหวดั นครนายก
ทางหลวงแผน่ ดิน ช่อื ทางหลวง (สายทาง/ตอน) ระยะทาง จังหวดั
หมายเลข (กม.)
33 คลองยาง-นครนายก 25.466 นครนายก
33 นครนายก-ปากพลี 10.939 นครนายก
305 วัดนาบญุ -คลอง 14* 19.055 ปทมุ ธานี
305 คลอง 14 – องครักษ์* 9.898 นครนายก
305 องครักษ์ – นครนายก* 30.733 นครนายก
352 ธัญบุรี – คลองระพพี ัฒน*์ 22.000 ปทมุ ธานี
3049 นครนายก-น้ำตกนางรอง 18.250 นครนายก
3050 ทางแยกเขา้ นำ้ ตกสารกิ า 2.980 นครนายก
3051 บ้านนา-บางอ้อ* 5.881 นครนายก
3051 บางอ้อ–สำนกั งานพลังงานปรมาณเู พอื่ สนั ติ* 12.919 นครนายก
3052 ปา่ สา้ น-เขาชะโงก 7.500 นครนายก
3076 นครนายก-บางหอย 22.041 นครนายก
3222 เขาเพมิ่ -บา้ นนา 12.728 นครนายก
3239 นครนายก-เขอ่ื นขนุ ด่านปราการชล 16.126 นครนายก
3261 คลอง 10 – หนองเสือ* 21.120 ปทุมธานี
3288 ทา่ แดง-วงั ม่วง 14.573 นครนายก
3369 วดั อำภาศิริวงศ์-คลอง 16 14.843 นครนายก
3312 ลำลูกกา – คลอง 16* 26.858 นครนายก,ปทมุ ธานี
3428 เขาชะโงก-ท้ายทอง 1.827 นครนายก
3541 ทางเขา้ องครักษ์* 0.215 นครนายก
3542 ทางเขา้ ดงละคร 0.325 นครนายก
3592 ทางเข้านมิ ติ ใหม*่ 1.869 ปทมุ ธานี
3596 ทองหลาง-ทรายมลู 1.130 นครนายก
ทมี่ า : สำนกั งานแขวงทางหลวงนครนายก ขอ้ มูล ณ เดอื นกันยายน 2564
➢ การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ก่อสร้างทางรถไฟ สายแก่งคอย-คลองสิบเก้าเชื่อมระหว่าง
ภาคเหนือ/ภาคตะวันออกเฉียงเหนือไปสู่พื้นท่ีชายฝ่ังทะเลตะวันออกเพ่ือรับส่งสินค้า โดยผ่านจังหวัดนครนายก
ในเขตอำเภอบ้านนาและอำเภอองครักษ์ และมีโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ขนาดรางมาตรฐานเป็นรถไฟความเร็ว
ปานกลางถึงความเร็วสูงจาก แก่งคอย ฉะเชิงเทรา-มาบตาพุด โดยผ่านพ้ืนที่จังหวัดนครนายกเพราะก่อสร้างตาม
แนวรถไฟสายแกง่ คอย-คลอง สิบเก้า
➢ การทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้ดำเนินโครงการทางพิเศษสายฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี
เป็นทางยกระดบั โดยมีจุดเชื่อมต่อกับทางหลวงแผน่ ดนิ หมายเลข 305 ท่ี มศว.องครกั ษ์ และทางหลวงแผ่นดิน
หมายเลข 33 ท่บี ริเวณอำเภอบ้านนา โดยจะเร่ิมดำเนนิ โครงการปี 2564 แลว้ เสร็จ ปี 2570
-21-
3.1.2 ขอ้ มูลเชงิ เปรยี บเทียบ
1) ดา้ นเศรษฐกจิ
➢สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจจังหวัดนครนายก ปี 2562 จากขอ้ มูลผลิตภัณฑม์ วลรวมจงั หวัด
(GPP) แบบปริมาณลูกโซ่ พบว่า มูลค่าด้านเศรษฐกิจของจังหวัดในปี 2562 เท่ากับ 30,435 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นจากปี 2561 จำนวน 29,386 ล้านบาท (ลำดับท่ี 8 ของภาคตะวันออก ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา
ปราจีนบุรี จันทบุรี สระแก้ว ตราด และนครนายก) ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดต่อคน (รายได้เฉล่ียต่อหัว)
เท่ากับ 117,028 บาทต่อคนต่อปี สำหรับโครงสร้างเศรษฐกิจหลักของจังหวัดนครนายกมีรายได้มาจาก
นอกภาคการเกษตร 24,176 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 79.44 รองลงมาเป็นภาคบริการ 20,468 ล้านบาท
ร้อยละ 67.25 ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในการบริหารราชการ และการป้องกันประเทศ ฯ 3,477 ล้านบาท รองลงมา
เป็นการขายส่ง การขายปลีก การซ่อมแซมยานยนต์ 3,399 ล้านบาท และการศึกษา 3,394 ล้านบาท
เป็นต้น ซ่ึงภาคบรกิ ารสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มข้ึนจากปี 2561 จำนวน 797 ล้านบาท ส่วนภาคการเกษตรใน
ปี 2562 สร้างมูลค่าจำนวน 6,259 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 20.57 เพ่ิมขึ้นจากปี 2561 จำนวน
314 ล้านบาท แต่เม่ือพิจารณาจากมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภาคและจังหวัด ซ่ึงเป็นการเรียงลำดับผลิตภัณฑ์
มวลรวมจังหวัดต่อคน (GPP per capita rankings) จังหวัดนครนายกอยู่ในลำดับท่ี 7 ของภาคตะวันออก
(ระยอง ชลบุรี ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา จันทบุรี ตราด นครนายก และสระแก้ว) และเป็นลำดับท่ี 38
ของประเทศ
ตารางท่ี 19 ผลติ ภัณฑ์มวลรวมจงั หวัด จำแนกตามสาขาการผลิต พ.ศ.2558-2562
สาขาการผลติ พ.ศ.2558 พ.ศ.2559 มลู คา่ (ลา้ นบาท) พ.ศ.2561 พ.ศ.2562
(2015) (2016r) (2018r) (2019p)
ภาคเกษตร พ.ศ.2560 6,259
เกษตรกรรม การป่าไม้การประมง 5,459 5,213 (2017r) 5,945 6,259
5,459 5,213 5,945
5,473 24,176
5,473
3,707
ภาคนอกเกษตร 18,767 20,264 20,874 23,441 21
ภาคอตุ สาหกรรม 3,333 3,632 3,713 3,770 2,946
การเหมืองแร่และเหมืองหนิ 48 18 590
การผลิตอุตสาหกรรม 22 18 150
การไฟฟ้า ก๊าซ และระบบปรบั อากาศ 2,601 3,056
การประปาและการจัดการของเสยี 540 2,906 2,938 535
144 160
567 595
137 163
ภาคบริการ 15,432 16,632 17,160 19,671 20,468
การกอ่ สร้าง 2,044
การขายส่ง การขายปลีก การซ่อมแซมยานยนต์ 2,397 2,553 2,198 2,159 2,127
การขนส่ง และสถานทเ่ี กบ็ สนิ ค้า 739
ท่ีพักโรงแรม และบริการด้านอาหาร 994 2,704 2,866 3,196 3,399
ขอ้ มลู ข่าวสารและการสือ่ สาร 212
การเงนิ และการประกันภยั 1,331 803 877 912 1,009
กิจกรรมเกีย่ วกับอสังหารมิ ทรพั ย์ 1,006
กจิ กรรมวชิ าชีพวิทยาศาสตร์และกิจกรรมทางวชิ าการ 1,070 1,180 1,325 1,482
กจิ กรรมทางการบรหิ ารและบริการสนับสนนุ อืน่ ๆ 22
การบรหิ ารราชการ และการป้องกนั ประเทศ ฯ 329 192 217 246 308
การศึกษา 2,907
การบริการด้านสขุ ภาพ และงานสังคมสงเคราะห์ 1,811 1,461 1,518 1,605 1,636
ศิลปะ ความบนั เทิงและนันทนาการ 1,276
กจิ กรรมการบริการดา้ นอนื่ ๆ 84 1,008 1,192 1,154 1,282
284
ผลิตภัณฑม์ วลรวมจังหวัด (Gross Provincial Products) 21 23 22 27
24,226
ผลิตภัณฑ์มวลรวมจงั หวัดตอ่ คน (GPP Per Capita, Baht) 318 346 196 213
94,777
จำนวนประชากร (1,000 คน) 2,982 3,114 3,273 3,477
256
1,770 1,772 3,573 3,394
1,359 1,442 1,572 1,651
106 124 144 163
286 291 295 301
25,477 26,347 29,386 30,435
99,381 102,105 113,450 117,028
256 258 259 260
ทีม่ า : สำนกั งานสภาพฒั นาการเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ
-22-
หากพจิ ารณาจากข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) ปี 2562 ของจังหวัดนครนายก รายได้
เฉล่ียของคนในจังหวัดอยู่ที่ 82,887.62 บาท/คน/ปี โดยอำเภอปากพลีมีรายได้เฉลี่ยต่อคนต่อปีสูงท่ีสุด
จำนวน 93,703.16 บาท/คน/ปี รองลงมาคือ อำเภอบ้านนา และอำเภอเมืองนครนายก และอำเภอองครกั ษ์
มรี ายได้เฉลีย่ ต่ำสุด จำนวน 76,864.74 บาท/คน/ปี
ตารางที่ 20 รายได้เฉล่ยี ครัวเรือน ปี 2562 (จปฐ.)
พน้ื ท่ี จำนวน จำนวนคน แหล่งรายได้ของครวั เรือน (บาท/ป)ี รายได้ รายได้บคุ คล
ครัวเรอื น อาชพี หลัก อาชพี รอง รายได้อน่ื ทำ-หาเอง ครัวเรอื นเฉล่ยี เฉลี่ย
(บาท/ปี) (บาท/ปี)
เมืองนครนายก 23,284 61,935 187,702.26 17,049.92 14,940.61 7,545.46 222,238.25 83,548.81
ปากพลี 6,127 16,421 194,234.60 23,323.22 25,091.19 8,485.24 251,134.25 93,703.16
บ้านนา 15,493 46,724 204,989.02 20,474.49 18,093.41 9,106.51 252,663.42 83,779.52
องครกั ษ์ 12,948 43,206 219,093.69 17,867.78 10,637.38 8,889.98 256,488.84 76,864.74
เฉลี่ยรวม 57,852 168,286 198,036.97 18,814.47 15,896.86 8,363.97 241,112.27 82,887.62
ทกุ พ้ืนท่ี
ที่มา : สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวดั นครนายก
ประชาชนมีรายจ่ายเฉล่ีย 50,778.08 บาทต่อคนต่อปี โดยส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายในการ
อุปโภคบริโภคที่จำเป็น ต้นทุนในการผลิต การอุปโภคบริโภคที่ไม่จำเป็น และการชำระหน้ี โดยอำเภอปากพลี
เปน็ อำเภอที่มีรายจา่ ยเฉลี่ยมากท่ีสุด คือ 58,638.42 บาทต่อคนต่อปี รองลงมา ได้แก่ อำเภอเมืองนครนายก
และอำเภอบ้านนา และจำนวนครัวเรือนท่ีตกเกณฑ์รายได้เฉล่ียคนละ 38,000 บาทต่อคนต่อปี จำนวนที่
สำรวจ 57,852 ครัวเรือน มีครัวเรือนที่ตกเกณฑ์ 301 ครัวเรือน อำเภอที่มีครัวเรือนตกเกณฑ์มากท่ีสุดคือ
อำเภอเมืองนครนายก 187 ครัวเรือน รองลงมาคือ อำเภอปากพลี จำนวน 49 ครัวเรือน อำเภอองครักษ์
จำนวน 43 คน และอำเภอทมี่ คี รวั เรือนตกเกณฑน์ ้อยที่สดุ คือ อำเภอบา้ นนา 22 ครวั เรอื น
➢ การท่องเท่ียว
จังหวัดนครนายกมีศักยภาพโดดเด่นในด้านการท่องเท่ียว และจังหวัดได้มีการส่งเสริม
การท่องเทีย่ วในวลที ี่วา่ “นครนายกเมืองในฝันทใ่ี กลก้ รุง ภูเขางาม น้ำตกสวย รวยธรรมชาติ ปราศจากมลพษิ ”
ซ่ึงอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก มีระยะทางจากกรุงเทพมหานครตามถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 305
(รังสิต-นครนายก) เลียบคลองรงั สติ ผ่านอำเภอองครกั ษ์ถึงจงั หวัดนครนายกระยะทาง 105 กิโลเมตร มสี ภาพ
พ้นื ท่ีโดยท่วั ไปเปน็ ที่ราบอยู่ในหุบเขาตอนเหนือ และตะวันออก เป็นเนินสงู และป่าเขาติดต่อกับเขาดงพญาเย็น
ส่วนทางตอนกลางและตอนใต้เป็นที่ราบลุ่ม มีภูเขาที่สำคัญคือ เขาใหญ่ เขาเขียว เขาชะโงก และเขานางรอง
เป็นต้น ซ่ึงเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร และเกิดน้ำตกที่สวยงามตามธรรมชาติหลายแห่ง เช่น น้ำตกสาริกา น้ำตก
นางรอง น้ำตกเหวนรก น้ำตกลานรักหรือน้ำตกตาดหินกอง อุทยานวังตะไคร้ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
ประกอบกับมีแหล่งท่องเท่ียวที่มนุษย์สร้างข้ึน แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม-ประวัติศาสตร์ เทศกาลงาน
ประเพณีและกิจกรรมทางการท่องเท่ียวที่สำคัญหลากหลาย กระจายอยู่ตามอำเภอทั้ง 4 อำเภอ ซ่ึงสถานท่ี
เหล่านี้ล้วนดึงดูดให้นักท่องเท่ียวท้ังชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาจังหวัดนครนายกเป็นจำนวนมาก โดยจังหวัด
นครนายกมีแหล่งท่องเท่ียว เทศกาลงานประเพณี และกิจกรรมทางการท่องเท่ียวของจังหวัดนครนายก
ทส่ี ำคัญมดี งั นี้
-23-
ตารางท่ี 21 แสดงสถานท่ที ่องเท่ียวที่สำคัญของจังหวัดนครนายก
แหลง่ ท่องเที่ยว
อำเภอ ธรรมชาติ มนษุ ยส์ ร้างขนึ้ วฒั นธรรม/ เทศกาล/ประเพณ/ี
กิจกรรม
ประวัติศาสตร์
1. ประเพณีส่ขู วญั ขา้ ว
เมืองนครนายก 1. อทุ ยานแห่งชาติ 1. เข่อื นขนุ ดา่ น 1. ศาลหลกั เมือง - ประเพณีทอ้ งถิ่น
ตำบลเขาพระ
เขาใหญ่ ปราการชล 2. วดั อดุ มธานี 2. ลอ่ งแกง่ ในลำนำ้
นครนายก
- น้ำตกเหวนรก 2. ศูนย์ภูมริ ักษ์ (พระอารามหลวง) 3. กจิ กรรมผจญภยั
เขาหลน่
- น้ำตกกองแก้ว ธรรมชาติ 3. วดั พราหมณี 4. กจิ กรรมเดินป่า
ท่องไพรศึกษา
- น้ำตกเหวสุวัตร 3. โรงเรียนนายรอ้ ย (พระอารามหลวง) ธรรมชาติ
5. กจิ กรรมจกั รยาน
- น้ำตกเหวไทร จปร. - หลวงพอ่ ปากแดง ท่องเที่ยว
7. กิจกรรมผจญภยั
- น้ำตกผากล้วยไม้ - อนสุ รณ์สถานกองพล - ขับรถ ATV
- ยิงปืน Paint Ball/
2. น้ำตกสารกิ า 4. อา่ งเก็บนำ้ ทหารญ่ปี ่นุ BB Gun
- ผจญภัย โรงเรยี น
3. นำ้ ตกนางรอง ห้วยปรอื 4. ศาลเจ้าพอ่ ขนุ ดา่ น นายร้อย จปร.
(เขตทหารน่าเทย่ี ว)
4. น้ำตกลานรัก 5. อา่ งเก็บน้ำ 5. ศาลเจา้ พ่อปลัดจ่าง 8. กจิ กรรมดูนก
9. กิจกรรมนัง่ รถชม
หรอื น้ำตกตาด ทรายทอง 6. วดั ใหญ่ทกั ขิณาราม ทศั นียภาพเขอ่ื นขนุ
ด่านปราการชล
หินกอง 6. อทุ ยานพระ (วดั ลาว) 10. ศูนย์การ
ทอ่ งเท่ียวเรยี นรู้บา้ น
5. อุทยานวงั พฆิ เณศ 7. วัดบุญนาครักขิตา หุบเมย
11. กิจกรรมเรียนรู้
ตะไคร้ 7. พุทธสถาน ราม (วัดตำ่ ) เกษตรพอเพียง
สวนศรียา (สวนลงุ
จีเตก็ ลมิ้ - หลวงพอ่ เศยี รนคร ไสว)
12. กจิ กรรมชมสวน
8. พทุ ธอุทยาน 8. วัดเกาะทอง สม้ โอ (พ้นื ท่ีตำบลหิน
ต้งั และตำบลสาริกา)
มาฆบูชาอนสุ รณ์ - หลวงพ่อสมหวัง 13. กจิ กรรมชมสวน
ทเุ รียนโบราณ
สวนพทุ ธชยันตี 9. วดั เขานางบวช (สวนละอองฟา้ )
2600 ปี - รอยพระพทุ ธบาท
จำลอง
10. วดั ครี วี ัน
- พระแก้วมรกตองค์
จำลองใหญ่ท่สี ุดใน
ประเทศไทย
11. วดั ถำ้ สารกิ า
- สถานทบี่ ำเพญ็ ศาสน
ธรรมของพระอาจารย์
ม่ันภรู ทิ ัตโต
12. วดั สนั ตยาราม
- พระมหาธาตุเจดีย์
(สันตยาศรีนครนายก)
13. วัดพระพุทธฉาย
(วดั เขาชะโงก)
14. วดั โบสถก์ ารอ้ ง
15. วดั ทา่ ชา้ ง
(วัดทา่ คเชนทร)์
-24-
แหลง่ ท่องเท่ียว
อำเภอ ธรรมชาติ มนษุ ย์สรา้ งข้นึ วัฒนธรรม/ เทศกาล/ประเพณี/
ประวัตศิ าสตร์ กจิ กรรม
16. วัดทา่ ซุง 14. กจิ กรรมชมสวน
- หอกลอง ดอกดาหลา
- หอระฆงั 15. กิจกรรมชมสวน
สรา้ งด้วยไมท้ งั้ หลัง มะยงชดิ -มะปราง
17. วัดโพธไ์ิ ทร หวาน
18. วัดโพธิ์งาม
19. วดั บุหยอ่ ง
20. วดั ธรรมปญั ญา
- พระหลวงพ่อเสาร์ 5
21. วัดเขาแดง
- หลวงพ่อใหญ่
22. วัดเขาทเุ รียน
- อโุ บสถวหิ ารศาลาสและ
ศาสนสถานท่ที าสชี มพู
- แหลง่ ประวตั ิศาสตร์สมยั
สงครามโลกคร้ังที่ 2
23. วดั วังตมู
- พิพิธภณั ฑ์พระเครื่อง
เมืองไทย
24. วัดเจดยี ์ทอง
25. วัดมณวี งศ์
26. วดั หนองโพธ์ิ
27. วัดวังยายฉิม
28. วดั ท่าขอ่ ย
29. วดั ศรีนาวา
30. วดั พรหมมหา
จฬุ ามนีพรหมรังษี
(วัดชวดบัว)
31. วัดดง
- หลวงพอ่ สามพี่น้อง
ศกั ดส์ิ ิทธ์ิ
32. เมืองโบราณดงละคร
33. อาคารพิพิธภัณฑ์
รร.จปร. 100 ปี
-25-
แหล่งท่องเที่ยว
อำเภอ ธรรมชาติ มนุษย์สรา้ งขน้ึ วัฒนธรรม/ เทศกาล/ประเพณี/
บ้านนา 1. นำ้ ตกกะอาง
ประวัติศาสตร์ กิจกรรม
ปากพลี 1. น้ำตกวงั ม่วง
องครักษ์ 1. โรงเตรยี มทหาร 1. วดั ศรกี ะอาง (พระสมั 1. กิจกรรมผจญภยั
- พิพิธภัณฑก์ ลางแจ้ง พทุ ธสากยมุณโี ลกนาถ และทดสอบกำลงั ใจ
(ยุทโธปกรณ์) พระพทุ ธชินราชจำลอง โรงเรียนเตรยี มทหาร
องคจ์ ำลองท่ใี หญ่ทส่ี ดุ ใน 2. พิธรี ำผมี อญ
ประเทศไทย) - พิธีกรรมสำคัญ
2. วดั ทองย้อย ของชาวมอญเฉพาะ
- พระพุทธบาทส่ีรอย ในเขตตำบลบา้ นนา
อายุ 120 ปี 3. ศูนยเ์ รยี นรู้ชมุ ชน
3. วัดอัมพวนั บา้ นทุ่งกระโปรงหมู่ 12
4. วัดเขาเพิ่มศรสี ว่าง ตำบลป่าขะ
5. วัดบหุ ัวแหวน -แหล่งเรยี นร้ชู มุ ชน
6. วดั ทองย้อย ตน้ แบบเศรษฐกิจ
7. วดั เขาคอก พอเพยี งและหมูบ่ ้าน
8. วัดช้าง-พระกริ่งวดั ช้าง เกษตรผักปลอด
9. วัดกระดาน สารพิษ
10. วัดดอนเปร็ง
- พระพุทธพทิ กั ษ์
ไทยทศทิศ
1. อ่างเก็บนำ้ วังบอน 1. วัดฝ่งั คลอง 1. กจิ กรรมเรยี นร้วู ิถี
2. อา่ งเก็บน้ำคลอง 2. วัดปา่ ศรถี าวรนิมติ ชุมชนบ้านบ่งุ เข้
สเี สยี ด - สถานทส่ี ำหรบั ผสู้ นใจ ตำบลหนองแสง
3. พิพธิ ภณั ฑพ์ ื้นบ้า ปฏิบัตธิ รรม (บุ่งเขโ้ ฮมสเตย์)
ไทยพวน 3. วัดโพธปิ์ ากพลี 2. ประเพณี
4. วัดปทมุ วงษาวาส สงกรานตว์ ัดฝั่งคลอง
(วดั บา้ นใหม)่ 3. งานลอยกระทง
5. วดั ลำบวั ลอย วดั ฝ่ังคลอง
6. วัดขมุ ข้าว
1. แหลง่ เพาะพันธ์ุ 1. ศาลเจ้าพ่อองครักษ์ 1.ประเพณสี ารทไทย
พชื และจำหน่ายไม้ 2. วัดประสิทธเิ วช และแขง่ เรอื ยาวบริเวณ
ดอกไม้ประดับ 3. วดั โพธแิ์ ทน หนา้ วดั ทวีพูลรังสรรค์
คลอง 15 4. มัสยิดฮากีมดุ ดิน 2.งานมหกรรมไม้ดอกไม้
5. โบสถ์คริสวัดพระผู้ไถ่ ประดับคลอง 15
เสาวภา 3. กจิ กรรมเรียนรู้วถิ ี
ชุมชนหมูบ่ ้านไม้
ดอกไม้ประดับคลอง
15
-26-
➢ สนามกอล์ฟ ของจงั หวดั นครนายก ดังนี้
1) สนามกอล์ฟรอยัลฮิลล์
2) สนามกอล์ฟโรงเรยี นนายร้อย จปร.
3) สนามกอล์ฟวอเตอรม์ ิลล์
4) สนามกอล์ฟไพร์มซิตี้
5) สนามกอล์ฟอาทติ ยา รอยัล คนั ทรี คลับ
6) สนามกอล์ฟคาสคาตา
➢ สถานการณก์ ารท่องเที่ยว
ข้อมูลจากสำนักงานการท่องเท่ียวและกีฬาจังหวัดนครนายก พบว่า ในภาพรวมสถิติ
นักท่องเท่ียวในปี 2563 มีจำนวนผู้มาเย่ียมเยือน (นักท่องเที่ยว/นักทัศนาจร) ทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ
ทั้งส้ิน 1,895,098 คน ลดลงจากปี 2562 (3,074,531 คน) อย่างมากคือ 1,179,433 คน หรือคิดเป็น
รอ้ ยละ 38.36 โดยมีผู้เยย่ี มเยือนชาวไทยลดลงถึงร้อยละ 37.96 ส่วนผ้เู ยย่ี มเยือนชาวต่างชาตลิ ดลงร้อยละ
81.51 และมีแนวโน้มลดลงอีก เน่ืองจากเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019
(COVID-19) ท่ัวโลก ซึ่งทุกประเทศจะมีมาตรการควบคุมประชาชนไม่ให้เดินทางข้ามจังหวัด และออกนอก
ประเทศ
ส่วนรายได้ในปี 2563 จังหวัดนครนายกมีรายได้จากผู้เย่ียมเยือน (Visitor) ท้ังส้ิน
4,064.63 ล้านบาท ลดลงจากปี 2562 (7,658.97 ลา้ นบาท) จำนวน 3,594.34 ลา้ นบาท หรือคิดเป็น
ร้อยละ 46.93 ซ่ึงส่วนใหญ่เป็นรายได้จากผู้เย่ยี มเยือนชาวไทย แต่รายไดจ้ ากการจำหนา่ ยสินค้าของฝากและ
ของท่ีระลึก (OTOP) ของจังหวัดเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.73 (ปี 2562 มีมูลค่าจำหน่ายสินค้า 926.00 ล้านบาท)
ปี 2563 มมี ูลคา่ การจำหน่าย สินคา้ 988.32 ล้านบาท เพม่ิ ข้นึ 62.32 ล้านบาท
สำหรับในปี 2564 ในไตรมาส 1/2564 และไตรมาส 2/2564 จากสถานการณ์
การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มเข้าสู่สถานการณ์ที่คลีคลายลง เนื่องมาจากมาตรการการป้องกัน
การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการท่องเท่ียววิถีใหม่ รวมถึงการรณรงค์ให้ประชาชน และเจ้าของ
กิจการ โรงแรม ร้านอาหารต้องฉีดวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็มจึงจะสามารถกำเดินกิจการได้อีกท้ังการกำหนด
มาตรฐาน SHA ให้ผู้ประกอบการดำเนินกิจการภายใต้รูปแบบการป้องกันและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของ
ไวรัสโควิด-19 ทำให้สามารถดำเนินกิจการและส่งผลให้เศรษฐกิจของจังหวัดกลับมาฟื้นตัวได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป
และส่ิงสำคัญที่สุดท่ีจะต้องทำในเวลานี้ คือ “การเร่งสร้างความเช่ือม่ันในการเดินทางให้กับนักท่องเที่ยว
และเร่งการเยียวยาผู้ประกอบการให้สามารถประคับประคองกิจการผ่านช่วงเวลาน้ีไปได้ โดยการลดรายจ่าย
ประจำและเพ่ิมแหล่งเงินทุนให้กับผู้ประกอบการ ทำการตลาดทางเลือกใหม่ และใช้คุณลักษณะของความยั่งยืน
มาร่วมดว้ ย
ทมี่ า : การท่องเทย่ี วแหง่ ประเทศไทย
-27-
ตารางท่ี 22 จำนวนผู้เยยี่ มเยอื น (นักท่องเท่ียว/นกั ทศั นาจร) รายได้ คา่ ใช้จ่ายจากการท่องเที่ยว
และจากการ จำหน่ายสนิ ค้า ปี 2559-2563
รายการ 2559 ประจำปี 2562 ร้อยละ 2563
(2016) (2019) (พ/ล) (2020)
2560 รอ้ ยละ 2561 ร้อยละ
(2017) (พ/ล) (2018) (พ/ล) 1,889,853
5,245
ผู้เยย่ี มเยอื น (คน)
1,895,098
ชาวไทย (Thai) 2,711,818 2,863,229 5.58 3,027,730 0.61 3,046,158 -37.96
26,859 27,826 3.60 29,350 -3.33 28,373 -81.51 1,304.39*
ชาวตา่ งชาติ 2,738,677 5.27 3,057,080 5.43 3,074,531 -38.36 4.48*
(Foreigners) 2,891,055
4,064.63
รวม
988.32
รายได้จากการทอ่ งเทย่ี ว (ล้านบาท)
ชาวไทย (Thai) 6,140.94 6,746.30 9.86 7,356.90 9.05 4,567.40 3.12
89.62 97.91 9.25 104.71 6.95 60.45 -0.35
ช า ว ต่ าง ช าติ 9.85 7,461.61 9.02 7658.97 -46.93
(Foreigners) 6,230.56 6,844.21
2.67 1,380.00 -32.89 926.00 6.73
รวม 1,130.57 1,343.00
รายได้ จากการ
จำหนา่ ยสนิ คา้
(ลา้ นบาท)
หมายเหตุ : 1. นกั ท่องเทยี่ ว หมายถงึ ผทู้ ีเ่ ดินทางไปเยอื นจงั หวัดน้ัน โดยวัตถปุ ระสงค์ ทมี่ า : กรมการทอ่ งเที่ยวและกีฬา,
ตา่ ง ๆ ทไ่ี มใ่ ชก่ ารไปทำงานประจำ การศึกษา และไม่ใช่คนท้องถิ่นท่มี ี สำนักงานพฒั นาชมุ ชน
ภมู ิลำเนา หรือศึกษาอยทู่ ่จี งั หวดั นัน้ ท้งั นตี้ ้องพักค้างคืนอยา่ งน้อย 1 คนื
2. นกั ทศั นาจร หมายถึง ผ้มู าเย่ียมเยือนท่ีไมพ่ ักค้างคืน
3. *ปี 2564 เปน็ ขอ้ มลู 9 เดือนแรก (ต.ค.-63 มิ.ย.64)
แผนภาพท่ี 4 จำนวนผ้เู ย่ียมเยือน (นกั ทอ่ งเท่ียว+นักทัศนาจร) ท่ีเดินทางมาในจังหวัดนครนายก ปี 2559-2563
หมายเหตุ : *ปี 2563 ขอ้ มลู เฉพาะ 6 เดือนแรก
-28-
ในด้านสถานท่ีพักแรม จำนวนห้องพัก พบว่า ต้ังแต่ปี 2558 ถึง ปี 2563 มีการเติบโต
ของสถานที่พักแรมเพ่ิมข้ึน แต่มีอัตราเข้าพัก (Occupancy Rate) ลดลงในปี 2563 โดยมีอัตราการเข้าพัก
รอ้ ยละ 36.05 ซึ่งลดลงจากปี 2562 มากถงึ ร้อยละ 42.98 ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากสถานการณ์การแพร่
ระบาดของไวรัสโควดิ -19
ตารางที่ 23 จำนวนสถานท่ีพกั แรม จำนวนห้องพกั และอัตราการเข้าพัก ปี 2558-2563
ประจำปี
รายการ 2558 2559 2560 2561 2562 2563
(2015) (2016) (2017) (2018) (2019) (2020)
สถานท่พี ักแรม (แหง่ ) 211
จำนวนห้องพกั (หอ้ ง) 150 165 205 205 6,027 214
อัตราการเขา้ พกั (%) 4,791 5,190 5,494 5,494 63.22 6,085
จำนวนท่ีพัก/โรงแรม/รีสอร์ท 57.57 59.58 59.40 63.79 36.05
ท่ีมีการติดต้ังกล้อง CCTV 185
(แห่ง) 50 62 70 164 214
จ ำ น ว น ที่ พั ก / โร ง แ ร ม /
รีสอร์ท ท่ีมีการให้ บริการ 130 130 95 166 190 193
ระบบ WiFi (แหง่ )
ท่มี า : สำนกั งานการท่องเทยี่ วและกีฬาจังหวัดนครนายก
เมื่อพิจารณาถึงความพร้อมทางด้านบุคลากรแล้ว พบว่า สำนักงานการท่องเท่ียวและกีฬา
จังหวัดนครนายก ได้มีการอบรม/พัฒนาให้มีความรอบรู้แก่มัคคุเทศก์ท้องถิ่นอย่างสม่ำเสมอทุกปี พร้อมทั้ง
ออกใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์/ผู้นำเท่ียวประมาณปีละ 80 คน (ต้ังแต่ปี 2560) ซึ่งแสดงว่าจังหวัดนครนายก
ได้ให้ความสำคัญต่อการพัฒนามัคคุเทศก์/ผู้นำเทย่ี วให้มีความรคู้ วามชำนาญเก่ียวกับแหล่งท่องเที่ยว ตลอดจน
การมีจรรยาบรรณในการเป็นผู้นำเที่ยวไม่ว่าจะเป็นทางธรรมชาติ ทางวัฒนธรรม/ประวัติศาสตร์ หรอื เทศกาล
งานประเพณี สามารถเป็นผู้แทนทางวัฒนธรรมของจังหวัดได้ สำหรับในส่วนของความปลอดภัยของ
นักท่องเที่ยวจะเห็นว่า สถานที่พัก/โรงแรม/รีสอร์ท มีการติดต้ังกล้องวงจรปิด (CCTV) เพิ่มขึ้นต้ังแต่ปี 2560-2563
โดยในปี 2563 ท่ีการติดต้ังกล้องจำนวน 188 แห่ง (ร้อยละ 87.9) จาก 214 แห่ง ส่วนเทคโนโลยี
ที่อำนวยความสะดวก เช่น WiFi ซึ่งมีความสำคัญมากในปัจจุบันนี้ จะเห็นว่ามีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
ในแหล่งทอ่ งเท่ียว รอ้ ยละ 90.19 จากสถานที่พกั แรม/โรงแรม/รสี อร์ททัง้ หมด
ที่มา : สำนกั งานการท่องเทย่ี วและกีฬาจงั หวดั นครนายก
สำหรับการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเท่ียวของจังหวัดนครนายก พบว่า ในปี 2563
จำนวนเงินงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรพัฒนาในการท่องเท่ียวจำนวน 64.24 ล้านบาท ซึ่งการพัฒนา
สิ่งต่าง ๆ ด้านการท่องเท่ียวส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวมีเพิ่มข้ึนอย่างต่อเน่ืองตลอด 4 ปีท่ีผ่านมา
(ปี พ.ศ.2559-2562) ยกเว้นในภาวะของการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ต้ังแต่ ปี พ.ศ. 2563
ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัด เช่น การล็อกดาวน์ การควบคุมพ้ืนท่ีเส่ียงต่อแพร่ระบาด การจัด
กจิ กรรม ทำให้นักทอ่ งเที่ยวท้ังชาวไทยและชาวต่างประเทศไม่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตามปกติ ซ่ึงจังหวัด
ต้องมีแผนรองรับการท่องเท่ียวในภาวะการระบาดของโรคโควิด 19 อย่างรัดกุมตามสถานการณ์และพร้อมท่ี
จะอยรู่ ่วมกันไดอ้ ยา่ งปลอดภัยในระยะหนึ่ง ต้องสร้างความเช่อื มัน่ ให้นกั ทอ่ งเทีย่ วในทุกด้าน
ทมี่ า : สำนักงานจังหวัดนครนายก
-29-
จากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ส่งผลให้ภาครัฐออกมาตรการ
ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยกำหนดพื้นท่ีควบคุมตามความรุนแรงของสถานการณ์ จังหวัด
นครนายกจัดอยู่ในพ้ืนท่ีสีแดงเข้มหรือพ้ืนที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด มีการปิดกิจกรรมทุกชนิด และห้ามเดิน
ทางเข้าออกในพื้นทถี่ ้าไมม่ เี หตสุ มควร
ความเข้มงวดในมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ในครั้งน้ี
ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัวขึ้นมาอกี ครัง้ หลายธุรกิจสถานะรายได้ ยังไมท่ ันฟื้นจากการ
ระบาดรอบแรก เมื่อระลอกใหม่มาอีกครั้ง ผู้ประกอบการท่ีมีปัญหาด้านสภาพคล่องอยแู่ ลว้ กลับมปี ัญหาเพ่ิมขึ้น
เน่อื งจากกำลังซอื้ ของผู้บริโภคยงั ไม่กลับไปสรู่ ะดบั ก่อนการระบาดระลอกแรก
ด้านการท่องเท่ียวจังหวัดนครนายกได้ปิดสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เพ่ือควบคุมการแพร่ระบาด
ของโรคโควิด-19 ทำให้จำนวนนักท่องเท่ียวท้ังชาวไทยและชาวตา่ งชาติ เดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดนครนายก
ลดลง ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวไม่สามารถเปิดทำการได้ หรือเปิดได้แต่ไม่เต็มศักยภาพเท่าที่ควร
ประชาชนยังไม่ม่ันใจในการความปลอดภัยด้านสุขอนามัยของสถานประกอบการด้านการท่องเที่ยวส่งผล
กระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจภายในจังหวัดนครนายกเป็นอย่างมาก โดยในปี 2563
เฉล่ียนักทอ่ งเที่ยวใช้จ่ายเงินประมาณ 464.63 บาท/คน/วนั โดยนักท่องเทยี่ วชาวต่างชาติมคี ่าใชจ้ ่ายตอ่ คน
ต่อวัน 15.52 บาท/คน สว่ นนกั ท่องเทย่ี วชาวไทยมีค่าใช้จ่ายวนั ละ 449.11 บาท
ท่มี า : สำนักงานทอ่ งเทีย่ วและกฬี าจงั หวดั นครนายก
แผนภาพที่ 5 เปรยี บเทยี บค่าใชจ้ า่ ยเฉล่ยี ต่อคนตอ่ วันของนักท่องเท่ียวชาวไทย ชาวต่างชาติ
พ.ศ.2558-2563
ทม่ี า : สำนักงานทอ่ งเท่ียวและกีฬาจงั หวดั นครนายก
-30-
➢ การเกษตรกรรม
จังหวัดนครนายกมีเน้ือที่ท้ังหมด 2,122 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 1,338,503 ไร่
แบ่งเป็นเนอ้ื ที่ป่าไมป้ ระมาณ 401,756.92 ไร่ หรอื คิดเป็นร้อยละ 30.02 หรอื ประมาณ 636.18 ตาราง
กิโลเมตร ในปี 2563 มีเน้ือที่ท่ีใช้ประโยชน์ทางการเกษตร 558,482 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 41.72 และเน้ือท่ีอื่น ๆ
จำนวน 378,264 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 28.26 ของเนอื้ ที่จงั หวัด
ท่มี า : สำนกั จัดการท่ดี ินปา่ ไม้ กรมปา่ ไม้, สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
แผนภาพที่ 6 การใช้ประโยชน์เน้อื ทีจ่ งั หวัดนครนายก ปี 2563
ในปี 2563 ประชากรในจังหวัดนครนายกเป็นครัวเรือนเกษตรกรรม มีจำนวน
25,890 ครวั เรือนหรือเทา่ กับ ร้อยละ 25.63 ของครัวเรือนทง้ั หมด 97,550 ครัวเรือน มพี นื้ ทท่ี ำนาข้าว
ท้ังหมด 515,868 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 92.31 ของเน้ือที่ใช้ประโยชน์ทางการเกษตร (558,842 ไร่)
รองลงมาเป็นพื้นท่ีทำสวนไม้ผล 17,746 ไร่ หรือร้อยละ 3.18 เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ 13,082 ไร่ (ร้อยละ
2.34) ซ่งึ สรปุ อาชพี ทสี่ ำคัญดังนี้
1) การปลูกข้าว มีพ้ืนท่ีทำนาท้ังหมด 515,868 ไร่ คดิ เป็นรอ้ ยละ 92.31 ของพ้ืนท่ี
เกษตรกรรมของจังหวัด แบ่งการเพาะปลูกเป็นข้าวนาปีและข้าวนาปรัง โดยมีพื้นท่ีปลูกข้าวนาปี ประมาณ
363,455 ไร่ มีผลผลิตข้าวนาปี 200,368 ตัน ผลผลิตข้าวนาปีเฉลี่ย 388 กก./ไร่ และมีพ้ืนที่ปลูกข้าวนา
ปรังประมาณ 151,467ไร่ ผลผลิตข้าวนาปรัง 94,458 ตัน ผลผลิตข้าวนาปรังเฉล่ีย 623 กก./ไร่
(ที่ความชื้น 15%) โดยมีพื้นท่ีปลูกข้าวบางส่วนในทุกอำเภอท่ีเป็นพ้ืนท่ีลุ่ม เกษตรกรใช้พันธุ์ข้าวในกลุ่มพันธ์ุ
พ้ืนเมือง พันธุ์ข้าวน้ำลึก หรือพันธุ์ข้าวขึ้นน้ำ ซ่ึงกลุ่มข้าวพันธ์ุดังกล่าวให้ผลผลิตในปริมาณท่ีไม่สูงนัก และ
นอกจากนัน้ ในพื้นทป่ี ลูกข้าวของจงั หวดั ส่วนใหญ่ประสบปัญหาดินเปร้ยี วทำใหไ้ ด้ผลผลิตไม่สงู
ท่ีมา : สำนักงานเกษตรจังหวดั นครนายก
-31-
ตารางท่ี 24 จำนวนครัวเรอื นเกษตรกร และเน้อื ทปี่ ลูกขา้ ว ปี 2558-2563
รายการ ปี พ.ศ. 2563p
2559 2560 2561 2562
14,145
ครัวเรอื นเพาะปลกู ขา้ ว 3,224
ขา้ วนาปี 11,659 11,901 12,724 13,596 362,464
151,467
ข้าวนาปรัง 3,980 2,834 2,508 3,697
200,368
เน้ือทเ่ี พาะปลูกข้าว 94,458
ขา้ วนาปี 355,831 366,299 371,935 363,455 556
629
ขา้ วนาปรงั 90,437 152,369 161,497 160,554
จำนวนผลผลิต (ตัน/ปี)
ข้าวนาปี 200,408 208,550 207,797 201,355
ขา้ วนาปรงั 55,996 100,434 109,130 104,670
ผลผลติ ข้าวเฉลี่ย (กิโลกรมั /ไร)่
ข้าวนาปี 568 573 564 560
ขา้ วนาปรัง 621 660 678 655
2) การทำสวน ไม้ผล ไม้ยืนต้น จังหวัดนครนายกมีพื้นที่ทำสวน ไม้ผล ไม้ยืนต้นประมาณ
24,300 ไร่ ไม้ผล ไม้ยืนต้นที่นิยมปลูกกันมาก ได้แก่ มะยงชิด มะปรางหวาน กระท้อน กล้วย ขนุ น
ทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง ไผ่เลี้ยง และมะนาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งมะยงชิด มะปรางหวานที่นับว่าเป็น
ผลไม้ท่ีมีช่ือเสียงของจังหวัดนครนายก และเนื่องจากการทำสวนไม้ผลในจังหวัดส่วนใหญ่เป็นแบบสวน
ผสมผสานทำให้มีผลผลิตจากผลไมช้ นิดต่าง ๆ ผลัดเปลย่ี นกันออกตลอดทง้ั ปีทำรายไดใ้ ห้แกเ่ กษตรกรเป็นอย่างดี
3) การปลูกไม้ดอกไม้ประดับ มีการเพาะปลูกท้ังในลักษณะของไม้ชำถุง ชำกิ่ง ไม้กระถาง
ไมต้ ดั ใบ รวมถึงไม้ประดับขดุ ลอ้ ม สว่ นมากอย่ใู นเขตอำเภอองครักษ์ ซง่ึ มีการเพาะกลา้ ไม้จำหน่ายทัง้ ขนาดเล็ก
และขนาดใหญ่ จำนวนกว่าพันชนดิ ซง่ึ มพี ื้นท่ีปลูกไม้ดอกไม้ประดับประมาณ 2,228 ไร่
4) การปลูกพืชผักและสมุนไพร เพ่ือใช้บริโภคในครัวเรือน ทั้งนำออกจำหน่ายภายใน
จงั หวัดและพื้นท่ีจังหวัดข้างเคียง เช่น ตลาดปราจีนบุรี ตลาดไท และตลาดส่ีมมุ เมือง ส่วนใหญ่ปลูกกันมาก
ในพื้นที่อำเภอบา้ นนา รองลงมาอำเภอองครักษ์ มพี น้ื ทป่ี ลกู ประมาณ 2,118 ไร่
5) การเพาะเลี้ยงสตั ว์น้ำ ในปี 2563 พ้ืนที่ด้านการเพาะเล้ียงสัตวน์ ้ำมี 136,277.63 ไร่
สัตว์น้ำที่เกษตรกรในจังหวัดนครนายกนิยมเลี้ยงตามลำดับ คือ ปลาน้ำจืด ได้แก่ ปลานิล ปลาตะเพียน ปลา
ยีส่ กเทศ ปลาจีน นวลจันทร์เทศ ปลาดุกอยุ เทศ ปลาทับทิม กุ้งทะเล (กุ้งขาวแวนนาไม) และการอนุบาลลูก
ปลา โดยเฉพาะปลาดุกอุยเทศ (ปลาดุกบิก๊ อยุ )
ท่ีมา : สำนกั งานเกษตรจังหวดั นครนายก (ระบบฐานขอ้ มลู การปรับปรงุ ทะเบยี นเกษตรกร กรมสง่ เสริมการเกษตร)
➢ การปศสุ ัตว์
จังหวัดนครนายก เป็นแหล่งผลิตสัตว์เศรษฐกิจท่ีสำคัญหลายชนิดโดยเฉพาะสัตว์เล็ก
และสัตว์ปีก เช่น สุกร ไก่ และเป็ด ส่วนสัตว์ใหญ่ เช่น โค กระบือ เนื่องจากมีเส้นทางการคมนาคมท่ี
สะดวกรวดเรว็ อยู่ใกล้แหล่งผลิตอาหารสัตว์ โรงงานแปรรูป หรอื แหลง่ รับซื้อผลผลิต และมีผปู้ ระกอบการราย
ใหญ่อยู่ในพ้ืนท่ีหลายราย ผู้ประกอบการมีการพัฒนาและปรับปรุงระบบการป้องกันโรคระบาดสัตว์ การ
จัดการสุขาภิบาลและสิ่งแวดล้อม การจัดการฟาร์มระบบมาตรฐานฟาร์ม มีเกษตรกรผู้เล้ียงปศุสัตว์ 12,009
ครัวเรือน หรอื คิดเป็นร้อยละ 11.83 ของครัวเรือนทั้งหมด (101,547 ครัวเรือน) สว่ นใหญอ่ ยู่ในอำเภอเมอื ง
นครนายก และอำเภอบา้ นนา
-32-
แผนภาพท่ี 7 ร้อยละการใชพ้ ืน้ ทีท่ ำการเกษตร (ไร)่ จังหวดั นครนายก ปี 2563
ตารางที่ 25 จำนวนปศสุ ัตวท์ เ่ี ป็นแหลง่ เศรษฐกจิ ที่สำคญั จำแนกรายอำเภอ ปี 2563
ลำดบั อำเภอ ชนิดปศุสตั ว์ (ตัว)
1 เมืองนครนายก โค กระบือ สุกร ไก่ เปด็ แพะ แกะ
2 ปากพลี 2,396 4,003 45,794 485,590 77,034 131 50
3 บ้านนา 435 842 3,778 544,905 66,827 154 --
4 องครกั ษ์ 2,534 7,986 192,445 6,201,301 199,332 138 59
4,812 870 7,570 447,872 234,316 788 103
รวม 10,177 13,701 249,587 7,679,668 577,509 1,211 212
ที่มา : สำนกั งานปศุสตั วจ์ ังหวัดนครนายก รายงานประจำเดือน ธนั วาคม 2563
สถานทดี่ ำเนนิ กิจการด้านปศสุ ตั ว์ทสี่ ามารถเสรมิ สรา้ งเศรษฐกจิ ในจงั หวัดนครนายก
1) โรงงานผลิตอาหารสัตว์ จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ บริษัทโคนมไทยอาหารสัตว์ จำกัด ตำบลหนองแสง
อำเภอปากพลี และบริษัทฟาร์มจงเจริญ จำกัด ตำบลอาษา อำเภอบ้านนา
2) ร้านขายอาหารสัตว์ จำนวน 94 รา้ น
3) โรงฆ่าสัตว์เล็ก, สัตว์ปีก จำนวน 7 โรงฆ่า โดยเน้นโรงฆ่าสัตว์เล็ก จำนวน 4 โรงฆ่า และ
โรงฆ่าสตั ว์ปีก จำนวน 3 โรงฆ่า
4) โรงคัดไข่มาตรฐาน จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ บริษัทซีพีเอฟ จำกัด อำเภอบ้านนา และบริษัท
แสงทองสหฟารม์ อำเภอบา้ นนา
หากพิจารณารายได้สุทธิครวั เรอื ภาคเกษตร พบว่า ปีเพาะปลูก 2562/2563 มีรายได้สุทธิ
เกษตร 78,763 บาท/ครัวเรือ/ปี ซ่ึงลดลงจากปีเพาะปลูก 256/62 จำนวน 68,164 บาท/ครัวเรือน/ปี
ซึ่งได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจทถ่ี ดถอย และราคาผลผลติ สินค้าเกษตรตกตำ่ ลง
-33-
ตาราง 26 รายไดร้ ายไดค้ รวั เรือนภาคเกษตรจังหวัดนครนายก รอบปเี พาะปลูก 2560-2563
รายได้ครัวเรือนภาคเกษตร ปีเพาะปลูก 2560/61 ปเี พาะปลกู 2561/62 ปีเพาะปลกู 2562/63
รายไดเ้ งนิ สดสุทธเิ กษตร 170,414 146,927 78,763
(Net cash farm income)
รายไดเ้ งินสดนอกการเกษตร 200,511 203,072 269,138
รายไดเ้ งินสดสุทธิครวั เรอื น 370,925 349,999 347,901
(Net cash family income)
ที่มา : สำนกั งานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 6
จากฐานข้อมูลระบบบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบช้ีเป้า (Thai People Map
and nalytics Platform) TPMAP จังหวัดนครนายก พบว่า จำนวนคนจนเป้าหมายที่มีคุณภาพชีวิตต่ำกว่า
เกณฑ์คุณภาพชีวิตที่ดีในมิติต่างๆ 5 มิติ ได้แก่ ด้านสุขภาพ ด้านการศึกษา ด้านการเงิน ด้านความเป็นอยู่
และด้านการเข้าถึงบริการรัฐของจังหวัดนครนายกมีจำนวน 3,219 คน จากจำนวนคนที่ได้รับการสำรวจ
168,292 คน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 1.91 ซึ่งเป็นกลุ่มคนเป้าหมายที่จำเป็นจะต้องเร่งให้ความช่วยเหลือ
โดยพบว่าประสบปัญหาด้านรายได้มากเป็นอันดับ 1 จำนวน 1,916 คน รองลงมาเป็นด้านการศึกษา
ด้านสุขภาพ และด้านความเป็นอยู่ ตามลำดับ โดยอำเภอปากพลีเป็นอำเภอท่ีมีจำนวนสัดส่วนคนจนเป้าหมาย
สงู ท่สี ุด คอื รอ้ ยละ 2.93 รองลงมาคือ อำเภอองครักษ์ อำเภอเมืองนครนายก และอำเภอบ้านนา
ตารางที่ 27 คนจนเป้าหมาย TPMAP รายอำเภอ ปี 2562
ที่ อำเภอ ปญั หา 5 มติ ิ รวม สัดส่วน
(ร้อยละ)
ดา้ นสุขภาพ ด้านความเปน็ อยู่ ดา้ นการศึกษา ดา้ นรายได้ ด้านการ 1,147
(คน) (คน) (คน) (คน) เข้าถงึ บรกิ าร 667 1.85
ภาครัฐ (คน) 481 1.43
1 เมอื งนครนายก 118 53 129 951 924 2.93
413 0 3,219 2.14
2 บา้ นนา 144 102 30 240 0 1.91
312
3 ปากพลี 64 18 189 1,916 1
0
4 องครกั ษ์ 126 223 336
1
รวม 452 396 684
หมายเหตุ : คนจน 1 ราย/ครัวเรือน อาจตกเกณฑไ์ ด้มากกวา่ 1 ด้าน/มิติ ทม่ี า : สำนกั งานพฒั นาชุมชนจงั หวดั นครนายก
➢ด้านอุตสาหกรรม
โรงงานอตุ สาหกรรมจังหวัดนครนายก ปี 2563 มจี ำนวนโรงงานทัง้ สนิ้ 169 แห่ง มี
เงนิ ลงทนุ 6,928.29 ลา้ นบาท มีการจ้างคนงาน 7,460 คน จำแนกเป็นชาย 3,806 คน หญงิ 3,654 คน
ตารางท่ี 28 จำนวนสถานประกอบการอุตสาหกรรม จำนวนเงินลงทุน และจำนวนคนงาน รายอำเภอ
ปี 2563
อำเภอ สถานประกอบการ เงินลงทนุ คนงาน (คน)
อุตสาหกรรม (แหง่ ) (บาท)
รวม ชาย หญิง
เมืองนครนายก 57 1,490,918,000 1,545 856 689
ปากพลี
11 95,185,500 544 210 334
บา้ นนา
องครักษ์ 58 2,133,057,437 2,671 1,339 1,332
รวม 43 3,209,129,100 2,700 1,401 1,299
169 6,928,290,037 7,460 3,806 3,654
ท่มี า : สำนกั งานอุตสาหกรรมจังหวัดนครนายก
-34-
2) ด้านสงั คมและความมัน่ คง
➢ ดา้ นข้อมูลทางสังคม
◆ การศึกษา ปีการศึกษา 2563 จังหวัดนครนายกมีสถานศึกษาระดับประถมศึกษา
และมัธยมศึกษาจำนวน 161 แห่ง มีห้องเรียน 1,833 ห้อง มีครูทั้งส้ิน 1,914 คน และมีนักเรียน
36,267 คน โดยคิดเป็นอัตราส่วนนักเรียน 19 คนต่อครู 1 คน ส่วนระดับอาชีวศึกษาและอุดมศึกษามี
อาจารย์ 1,076 คน มีนกั ศกึ ษา 21,412 คน คิดเป็นอัตราส่วนเฉลย่ี นักศกึ ษา 19 คน ตอ่ อาจารย์ 1 คน
ตารางท่ี 29 จำนวนสถานศกึ ษาหอ้ งเรียน ครู นักเรียน และอตั ราสว่ นนักเรียนต่อครูและอตั ราส่วน
นักเรยี นต่อหอ้ งเรียน จำแนกตามสังกัด ปกี ารศกึ ษา 2563
จำนวน อัตราสว่ น
ลำดับ สังกดั /ประเภทสถานศึกษา สถานศึกษา หอ้ งเรียน ครู นกั เรยี น นักเรียน นกั เรียน
(แห่ง) (หอ้ ง) (คน) (คน) : ครู : ห้อง
1 สนง.คณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน 142 1,546 1,500 28,732 19 19
2 สำนักบรหิ ารงานคณะกรรมการสง่ เสริม 15 224 320 5,877 18 26
การศกึ ษาเอกชน
3 กรมส่งเสริมการปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ 3 59 85 1,625 21 30
4 สำนกั งานพระพทุ ธศาสนาแห่งชาติ 1 4 9 33 3 4
รวม 161 1,833 1,914 36,267 19 20
ทีม่ า : สำนกั งานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษานครนายก, สำนกั งานเขตพืน้ ทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษาเขต 7,
กรมส่งเสรมิ การปกครองส่วนท้องถนิ่ , สำนกั งานพระพุทธศาสนาจงั หวัดนครนายก
ตารางท่ี 30 จำนวนสถานศกึ ษา อาจารย์ นกั ศกึ ษาในระดับอาชีวศึกษาและอุดมศึกษา อัตราสว่ น
นกั ศึกษาต่ออาจารยจ์ ำแนกตามสังกัด ปีการศึกษา 2563
ลำดับ สงั กดั /ประเภทสถานศกึ ษา สถานศึกษา จำนวน นักศึกษา อัตราส่วน
(แห่ง) อาจารย์ (คน) นกั ศึกษา : อาจารย์
1 สำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา 6 (คน) 5,550
2 สำนกั บริหารงานคณะกรรมการส่งเสรมิ 231 24
15 5,944
การศกึ ษาเอกชน 308 18
3 สถาบนั อุดมศึกษาของรฐั 2 5,882
4 สถาบันอดุ มศกึ ษาของเอกชน 1 654 1,836 9
167 11
รวม 24 1,076 21,412 19
ท่ีมา : สำนกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษาประถมศึกษานครนายก, สำนกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษาเขต 7, สำนกั งานคณะกรรมการอดุ มศึกษา
ในปีการศึกษา 2564 มีสถานศึกษาระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาจำนวน 162 แห่ง
มีห้องเรียน 1,829 ห้อง มีครูทั้งสิ้น 2,059 คน และมีนักเรียน 36,031 คน โดยคิดเป็นอัตราส่วนนักเรียน
17 คนต่อครู 1 คน ส่วนระดับอาชีวศึกษามีอาจารย์ 1,048 คน มีนักศึกษา 18,270 คน คิดเป็น
อตั ราส่วนเฉลี่ยนักศึกษา 17 คน ตอ่ อาจารย์ 1 คน
-35-
ตารางท่ี 31 จำนวนสถานศกึ ษาหอ้ งเรียน ครู นกั เรียน และอัตราส่วนนกั เรยี นตอ่ ครูและอัตราส่วน
นักเรียนต่อหอ้ งเรียน จำแนกตามสังกัด ปกี ารศึกษา 2564
จำนวน อัตราสว่ น
ลำดับ สังกัด/ประเภทสถานศึกษา สถานศกึ ษา ห้องเรียน ครู นกั เรยี น นกั เรียน นกั เรียน
(แหง่ ) (หอ้ ง) (คน) (คน) : ครู : หอ้ ง
1 สนง.คณะกรรมการการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน 143 1,530 1,622 28,633 18:1 19:1
2 สำนักบรหิ ารงานคณะกรรมการสง่ เสรมิ 15 233 347 5,831 17:1 25:1
การศึกษาเอกชน
3 กรมสง่ เสรมิ การปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ 5 60 83 1,542 19:1 26:1
4 สำนกั งานพระพทุ ธศาสนาแหง่ ชาติ 1 6 7 25 4:1 4:1
รวม 162 1,829 2,059 36,031 17:1 20:1
ตารางที่ 32 จำนวนสถานศกึ ษา อาจารย์ นกั ศกึ ษาในระดบั อาชีวศกึ ษาและอุดมศกึ ษา อัตราส่วน
นักศึกษาตอ่ อาจารยจ์ ำแนกตามสงั กดั ปกี ารศึกษา 2564
ลำดบั สงั กดั /ประเภทสถานศกึ ษา สถานศึกษา จำนวน นักศกึ ษา อัตราสว่ น
(แหง่ ) อาจารย์ (คน) นักศึกษา : อาจารย์
1 สำนกั งานคณะกรรมการการ (คน)
อาชีวศกึ ษา 6 5,074 27 : 1
186
2 สำนกั บรหิ ารงานคณะกรรมการ 15 5,831 17 : 1
สง่ เสริมการศกึ ษาเอกชน 347
2 5,994 17 : 1
3 สถาบนั อุดมศกึ ษาของรฐั 1 357 1,371 9:1
4 สถาบนั อุดมศึกษาของเอกชน 24 158 18,270 17 : 1
1,048
รวม
◆ การสาธารณสุข ในปี พ.ศ. 2562 จังหวัดนครนายก มีสถานพยาบาลรวมท้ังสิ้น 126 แห่ง
โดยแยกเป็น โรงพยาบาลของรัฐจำนวน 6 แหง่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 56 แห่ง คลินิกทกุ ประเภท
จำนวน 64 แห่ง กระจายไปตามอำเภอต่าง ๆ มีจำนวนบุคลากรทางการแพทยท์ ่ีสำคัญ ไดแ้ ก่ แพทย์ 400 คน
ทันตแพทย์ 45 คน พยาบาล 914 คน เภสัชกร 67 คน และพยาบาลเทคนิคจำนวน 10 คน
ในภาพรวมของจังหวัดถ้าพิจารณาถึงบุคลากรทางการแพทย์ต่อประชากร จะเห็นว่าแพทย์ 1 คน ต้องดูแล
ประชาชน 652 คน ทันตแพทย์ 1 คนต่อประชากร 5,794 คน และพยาบาล 1 คน ต่อประชากร 285 คน
เป็นตน้
-36-
ตารางที่ 33 จำนวนสถานพยาบาล เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ อัตราสว่ นประชากรตอ่ แพทย์และประชากร
ตอ่ พยาบาล จำแนกรายอำเภอ ปี 2562
สถาน เจา้ หน้าทีท่ างการแพทย์ ประชากรต่อเจา้ หนา้ ท่ี
ทางการแพทย์ 1 คน 2
ลำดับ อำเภอ พยาบาล1 แพทย์ ทนั ต เภสัชกร พยาบาล พยาบาล ประชากร ประชากร ประชากร
(แห่ง) แพทย์ เทคนิค : แพทย์ : พยาบาล : ทันต
(คน) (คน) (คน) (คน) (คน) แพทย์
1 เมือง 61 60 14 25 336 9 1,704 304 7,305
นครนายก
2 บ้านนา 26 10 8 9 92 -- 6,927 753 8,658
3 ปากพลี 10 3 3 3 39 -- 8,140 626 8,140
4 องครกั ษ์ 29 327 20 30 447 1 198 145 3,240
รวม 126 400 45 67 914 10 652 285 5,794
ท่มี า : สำนกั งานสาธารณสขุ จงั หวดั นครนายก
หมายเหตุ : 1 โรงพยาบาลของรฐั , โรงพยาบาลเอกชน, โรงพยาบาลส่งเสรมิ สขุ ภาพตำบล และคลนิ กิ ทุกประเภท
2 ประชากรจังหวัดนครนายกมที ั้งสน้ิ 260,751 คน
การสาธารณสุข ในปี พ.ศ. 2563 จังหวัดนครนายก มีสถานพยาบาลรวมท้ังส้ิน 133 แห่ง
โดยแยกเป็น โรงพยาบาลของรัฐจำนวน 6 แห่ง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 56 แห่ง คลินิกทุกประเภท
จำนวน 70 แห่ง กระจายไปตามอำเภอต่าง ๆ มีจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ที่สำคัญ ได้แก่ แพทย์ 454 คน
ทนั ตแพทย์ 43 คน พยาบาล 992 คน เภสัชกร 76 คน และพยาบาลเทคนิคจำนวน 8 คน ในภาพรวม
ของจังหวัดถ้าพิจารณาถึงบุคลากรทางการแพทย์ต่อประชากร จะเห็นว่าแพทย์ 1 คน ต้องดูแลประชาชน 573
คน ทนั ตแพทย์ 1 คนต่อประชากร 6,048 คน และพยาบาล 1 คน ต่อประชากร 262 คน เป็นต้น
ตารางที่ 34 จำนวนสถานพยาบาล เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ อัตราส่วนประชากรต่อแพทย์และประชากร
ตอ่ พยาบาล จำแนกรายอำเภอ ปี 2563
เจ้าหนา้ ทท่ี างการแพทย์ ประชากรต่อเจา้ หนา้ ท่ี
สถาน ทางการแพทย์ 1 คน 2
ลำดับ อำเภอ พยาบาล1 แพทย์ ทันต เภสชั กร พยาบาล พยาบาล ประชากร ประชากร ประชากร
(แห่ง) แพทย์ เทคนคิ : แพทย์ : พยาบาล : ทนั ต
(คน) (คน) (คน) (คน) (คน) แพทย์
1 เมอื ง 62 59 14 31 338 7 1,719 300 7,245
นครนายก
2 บ้านนา 30 8 6 9 89 -- 8,682 780 11,576
3 ปากพลี 11 2 2 3 39 -- 12,109 621 12,109
4 องครกั ษ์ 30 385 21 33 526 1 169 124 3,094
รวม 133 454 43 76 992 8 573 262 6,048
ทีม่ า : สำนกั งานสาธารณสขุ จังหวดั นครนายก
หมายเหตุ : 1 โรงพยาบาลของรฐั , โรงพยาบาลเอกชน, โรงพยาบาลส่งเสรมิ สุขภาพตำบล และคลนิ ิกทุกประเภท
2 ประชากรจังหวัดนครนายกมที ง้ั สิ้น 260,081 คน
-37-
ประชาชนในภาคตะวันออกมีแนวโน้มเจ็บป่วยด้วยกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) มากขึ้น
ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิต อัตราการเจ็บป่วยด้วยกลุ่มโรค NCDs ใน 5 โรคสาคัญ ได้แก่ โรคมะเร็ง
ความดันโลหิต หัวใจ เบาหวาน และหลอดเลือดสมอง เพิ่มข้ึน ในปี ๒๕๖2 จังหวัดนครนายก มีการเจ็บป่วย
ด้วยกลุ่ม 4 โรค NCDs โรคความดันโลหิตสูง รองลงมาคือโรคเบาหวาน โรคหัวใจขาดเลือด และโรคหลอด
เลือดสมอง ตามลำดับ และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตสูงท่ีสุดของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2 รองลงมาคือ
จังหวัดจันทบุรี ตราด ปราจนี บุรี และสระแก้ว ตามลำดับ
ตารางท่ี 35 จำนวนและอัตราผปู้ ว่ ยในดว้ ย 4 โรค NCD ต่อประชากรแสนคน 100,000 คน
(รวมทกุ การวินจิ ฉยั โรค) ปี พ.ศ.2559 - 2562 จงั หวดั นครนายก
โรค ปี2559 ปี2560 ปี2561 ปี2562
จำนวน อตั รา จำนวน อัตรา จำนวน อัตรา จำนวน อตั รา
โรคความดนั โลหติ สงู 9,340 3,624 9,070 3,515 10,442 4,037 11,415 4,405
โรคเบาหวาน 5,498 2,133 5,513 2,137 5,877 2,272 6,337 2,445
โรคหวั ใจขาดเลอื ด 2,491 966 2,532 981 2,695 1,042 2,705 1,044
โรคหลอดเลอื ดสมอง 2,304 894 2,281 884 2,604 1,007 2,695 1,040
โรคหลอดลมอักเสบ ถุงลม 1,423 552 1,392 539 1,475 570 1,437 555
โป่งพอง ปอดอดุ กล้ันเร้ือรงั
ตารางที่ 36 จำนวนและอัตราตายด้วย 4 โรค NCD ตอ่ ประชากรแสนคน 100,000 คน
ปี 2559-2562 จำแนกรายจังหวัด
ปี 2559 ปี 2560 ปี 2561 ปี 2562
จังหวดั จำนวน อตั รา จำนวน อตั รา จำนวน อัตรา จำนวน อัตรา
นครนายก 476 184.16 430 166.65 448 173.19 475 183.30
จนั ทบรุ ี 747 140.48 793 149.39 828 155.49 859 160.92
ตราด 290 126.40 226 103.08 242 110.09 262 118.90
ปราจนี บุรี 527 108.99 512 105.46 536 109.66 569 115.59
สระแก้ว 450 80.65 505 90.60 488 87.20 551 98.13
หมายเหตุ : 4 โรค ไดแ้ ก่ โรคความดันโลหติ สูง โรคเบาหวาน
โรคหัวใจขาดเลือด และโรคหลอดเลอื ดสมอง ข้อมลู ณ วันท่ี 23 กนั ยายน 2563
กองยทุ ธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสขุ กระทรวงสาธารณสุข
สถานการณ์สังคมผู้สูงอายุ จังหวดั นครนายก พบว่า ต้ังแต่ปี 2558-2563 ประชากร
ผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป) มีจำนวนและสัดส่วนเพ่ิมข้ึนอย่างรวดเร็วและต่อเน่ือง จาก 43,975 คน ในปี
2558 เพิม่ เป็น 52,660 คน ในปี 2563 หรือคิดเป็นร้อยละ 20.24 ของประชากรท้ังจังหวัดในปี 2563
(ประชากร 260,081 คน) แต่เมื่อเทียบกับปี 2562 (จำนวนผู้สูงอายุ 56,879 คน) ท่ีผ่านมา จำนวน
ผู้สูงอายุมีจำนวนลดลง ร้อยละ 7.42 ในปี 2563 แต่เมื่อพิจารณาย้อนหลังจากปี 2558 พบว่ามีจำนวน
เพมิ่ ขน้ึ ร้อยละ 19.74 ทงั้ น้ี ตามนยิ ามของสังคมผสู้ ูงอายุ ประเทศไทยไดเ้ ริม่ ก้าวเขา้ สูส่ ังคมผู้สงู อายุตง้ั แต่
ปี 2548 โดยพิจารณาจากประชากรอายุ 60 ปีข้ึนไป ท่ีมีสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 10.00 และจะเป็น
สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ในปี 2567 นั่นคือ เม่ือประชากรอายุ 60 ปีข้ึนไปมีสัดส่วนสูงกว่าร้อยละ
20.00 แต่เม่ือพิจารณาจากร้อยละของผู้สูงอายุกับประชากรท้ังหมดในจงั หวัดนครนายกจะเห็นวา่ ในแต่ละปี
จะมีสัดส่วนผู้สูงอายุเกินร้อยละ 10 ซ่ึงแสดงให้เห็นว่ากำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และในปี 2563 จังหวัด
นครนายกเขา้ ส่สู งั คมผสู้ ูงอายอุ ย่างสมบูรณ์ (Completely Aged Society) และก่อนปี 2567 (ตามคำนยิ าม)
-38-
แผนภาพที่ 8 จำนวนประชากร จำนวนผูส้ งู อายุ และรอ้ ยละของผ้สู งู อายุต่อประชากรทงั้ จังหวดั
เมื่อพิจารณาภาวะการทำงานของผู้สูงอายุจากข้อมูลของสำนักงานแห่งชาติในช่วงระยะเวลา 5 ปี
ที่ผ่านมา พบว่า ในปี 2563 มีจำนวนสูงอายุท่ียังต้องทำงานหารายได้เลี้ยงตนเอง/
ครอบครัว จำนวน 16,523 คน หรือคดิ เปน็ ร้อยละ 30.86 ของผู้สูงอายุท้ังจังหวัด และลดลงจากปี 2562
ร้อยละ 0.46 (ปี 2562 รอ้ ยละ 31.32) ซ่ึงผู้สูงอายุจำนวนน้ีไม่สามารถเกษียณอายุตนเองได้ เน่ืองจากต้อง
หาเล้ียงครอบครัวประกอบกับวัยหนุ่มสาวส่วนใหญ่ต้องไปทำงานต่างจังหวัด จึงให้ผู้สูงอายุเป็นผู้เลี้ยงดูบุตร
หลานซ่ึงเป็นสาเหตุส่วนหน่ึงที่ผู้สูงอายุต้องทำงาน หารายได้เล้ียงตนเอง /ครอบครัว เพราะฉะน้ันจงั หวัดควรท่ี
จะมกี ารสง่ เสริมในอาชพี ด้านตา่ ง ๆ เพื่อใหป้ ระชาชนได้มีงานทำในจงั หวัดของตนเอง และปอ้ งกันมใิ ห้วัยหนุ่ม
สาวต้องเดินทางไปทำงานต่างจงั หวดั ซึ่งเป็นสร้างความมัน่ คงให้แก่สถาบนั ครอบครวั
ตารางท่ี 37 จำนวนผสู้ งู อายุ และผ้พู ิการ จำแนกตามสถานะตา่ ง ๆ ปี พ.ศ.2559-2563
รายการ ปี พ.ศ.
2559 2560 2561 2562 2563
จำนวนประชากรผู้สูงอายุ 60 ปี ขน้ึ ไป (คน) 45,118 47,618 48,458 56,879 52,660
จำนวนผู้สงู อายทุ ไ่ี ดร้ ับเบ้ยี ยังชพี (คน) 37,738 39, 107 40,371 42,939 42,526
จำนวนผสู้ งู อายุทย่ี ังต้องทำงานหารายได้เล้ียง 15,075 15,977 19,372 17,818 16,253
ตนเอง/ครอบครวั (คน)
จำนวนผสู้ ูงอายุที่ไดร้ ับเบี้ยยังชีพคนพิการ (คน) 3,824 4,836 5,225 5,287 5,361
ทีม่ า : สำนักงานสถิตแิ ห่งชาติ
◆ สถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคตดิ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) จงั หวัดนครนายก
ส่วนที่ 1 สถานการณโ์ รคโควิด-19 ทงั้ 4 ระลอก
จังหวัดนครนายก การระบาดระลอกแรกในปี 2563 พบผู้ติดเช้ือเพียง 2 ราย จังหวัดนครนายก
ควบคุ มสถานการณ์ ได้ เป็ นอย่ างดี ในการระบาดระลอก 2 จังหวัดนครนายก มี ผู้ติ ดเช้ื อ 19 ราย
และในระลอก 3 จนถึงวันที่ 29 กรกฎาคม 2564 มีผู้ติดเชื้อสะสม จำนวน 2,578 ราย (อำเภอเมือง
นครนายก 630 ราย, อำเภอบ้านนา 649 ราย , อำเภอปากพลี 81 ราย , อำเภอองครักษ์ 877 และมีผู้ป่วยจาก
ต่างจังหวัด 341 ราย) คิดเป็นอัตราป่วย 991.1 ต่อประชากรแสนคน (ประชากรทะเบียนราษฎร์ 31 ธันวาคม
-39-
2563 จำนวน 260,083 คน) เสียชีวิตสะสม จำนวน 27 ราย คิดเป็นอัตราป่วยตาย ร้อยละ 1.04
(อัตราป่วยตายของประเทศ ร้อยละ 0.85) และการระบาดระลอกท่ี 4 ณ วันท่ี 30 กันยายน 2564
โดยมผี ู้ตดิ เชอ้ื สะสม 9,134 ราย มผี ู้เสยี ชวี ติ สะสม 123 ราย
โดยผลกระทบความเดือดร้อนท่ีรุนแรงต่อเน่ืองในพื้นท่ี จากโรคโควิด-19 ทั้ง 4 ระลอก
จากความเข้มงวดในมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ในครั้งนี้ ส่งผลให้
กิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว หลายธุรกิจสถานะรายได้ ยังไม่ทันฟื้นจากการระบาดจากระลอกแรก
เมื่อระลอกใหม่มาอีกครั้ง ผู้ประกอบการที่มีปัญหาด้านสภาพคล่องอยู่แล้วกลับมีปัญหาเพ่ิมข้ึน นักท่องเที่ยว
ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดนครนายกลดลง ผู้ประกอบการด้านการท่องเท่ียว
ไม่สามารถเปิดทำการได้ หรือเปิดได้แต่ไม่เต็มศักยภาพเท่าท่ีควรประชาชนยังไม่มั่นใจในการความปลอดภัย
ด้านสุขอนามัยของสถานประกอบการด้านการท่องเท่ียว ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและ
เศรษฐกจิ ภายในจังหวัดนครนายกเปน็ อย่างมาก ยอดรายไดล้ ดลงเรอ่ื ยๆ อยา่ งนา่ วิตกและวิกฤต ดังน้ี
ตารางท่ี 38 จำนวนนกั ท่องเท่ยี วชาวไทยและชาวต่างชาติท่มี าเยี่ยมเยือน/รายได้จากผมู้ าเยี่ยมเยือน
จังหวัดนครนายก
จำนวนนักทอ่ งเทีย่ ว/รายได้ ปี 2561 ปี 2562 ปี 2563 ปี 2564
(ม.ค.- ส.ค.)
จำนวนนักทอ่ งเท่ยี วชาวไทย (คน) 3,004,063 3,046,158 1,889,853 299,185
จำนวนนกั ท่องเท่ียวชาวต่างชาติ (คน) 28,790 28,373 5,245 -
จำนวนนกั ท่องเทย่ี วทัง้ หมด (คน) 3,032,853 3,074,531 1,895,098 299,185
รายไดจ้ ากผ้มู าเยี่ยมเยอื นท้งั หมด (ลบ.) 6,717 7,659 4,065 573.42
ตารางท่ี 39 รายไดจ้ ากผมู้ าเยยี่ มเยือนชาวไทย (ล้านบาท)
เดือน ปี 2562 ปี 2563 ปี 2564
116.41
มกราคม 836.20 803.89 122.09
155.23
กมุ ภาพันธ์ 751.88 607.28 151.45
11.94
มนี าคม 816.97 371.71 7.18
5.25
เมษายน 662.37 0.00 3.87
พฤษภาคม 677.21 5.31 -
-
มิถุนายน 621.99 195.04 -
-
กรกฎาคม 591.70 337.42 573.42
สิงหาคม 527.07 323.81
กนั ยายน 543.20 395.19
ตุลาคม 522.57 345.83
พฤศจิกายน 494.93 367.25
ธนั วาคม 510.25 296.38
รวม 7,556.34 4,049.11
• ไตรมาส 1 ปี 2563 รายไดร้ วมเทา่ กับ 1,527.75 ลา้ นบาท นอ้ ยกวา่ ไตรมาส 1 ปี 2562
เทา่ กบั 1,551.17. ลา้ นบาท รอ้ ยละการเปลยี่ นแปลง 28.62
• ไตรมาส 2 ปี 2563 รายได้รวมเท่ากบั 1,782.88 ลา้ นบาท น้อยกว่า ไตรมาส 2 ปี 2562
เท่ากับ 2,405.05 ลา้ นบาท รอ้ ยละการเปล่ยี นแปลง 44.76
-40-
• ไตรมาส 3 ปี 2563 รายไดร้ วมเท่ากับ 200.35 ลา้ นบาท นอ้ ยกวา่ ไตรมาส 3 ปี 2562
เท่ากบั 1,961.57 ล้านบาท รอ้ ยละการเปล่ียนแปลง 95.13
• ไตรมาส 4 ปี 2563 รายได้รวมเท่ากบั 1,056.42 ล้านบาท น้อยกว่า ไตรมาส 4 ปี 2562
เทา่ กับ 1,661.97 ล้านบาท รอ้ ยละการเปลี่ยนแปลง 74.63
• ไตรมาส 1 ปี 2564 รายได้รวมเทา่ กับ 1,009.46 ลา้ นบาท นอ้ ยกว่า ไตรมาส 1 ปี 2563
เทา่ กับ 1,527.75 ลา้ นบาท รอ้ ยละการเปลย่ี นแปลง 72.54
• ไตรมาส 2 ปี 2564 รายไดร้ วมเท่ากับ 598.15 ล้านบาท นอ้ ยกว่า ไตรมาส 2 ปี 25623
เทา่ กบั 1,782.88 ล้านบาท ร้อยละการเปล่ียนแปลง 87.30
ส่วนที่ 2 การบริหารจัดการแกไ้ ขและบรรเทาสถานการณ์
2.1) ระบบโครงสร้างและการบริหารงาน รูปแบบโครงสร้างการบริหารจัดการของ
จังหวัดที่มีเอกภาพ ขับเคลื่อนการทำงานตามโครงสร้าง EOC และระบบบัญชาการณ์ ICS ประกอบด้วย
คณะทำงานคือ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครนายก โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน สำนักงาน
สาธารณสุขจังหวัดนครนายกเป็นเลขานุการ แต่งต้ังตาม พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 คณะทำงาน
ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคจังหวัด (ศปก.จ) จังหวัดนครนายก มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน แต่งต้ังตาม
พระราชบัญญัติบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉนิ ดำเนินงานร่วมกับคณะทำงานศูนย์ปฏิบัตกิ ารควบคุมโรค
อำเภอ (ศปก.อ) คณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคตำบล (ศปก.ต) มีแผนตอบโต้ภาวะฉุกเฉินและฝึกซ้อม
แผนมีการบรหิ ารงบประมาณและการเตรยี มความพรอ้ มด้านทรัพยากร บคุ ลากร เงินทุน และพัสดุมีการเตรียม
ความพร้อมด้านการแพทย์และพยาบาล ห้องแยก วัสดุอุปกรณ์ป้องกันตัว สถานกักกันตัว และโรงพยาบาล
สนาม มีการเตรียมความพร้อมด้านคณะทำงานและทักษะด้านการสอบสวนควบคุมการระบาดของโรค
การค้นหาผู้สัมผัสกลุ่มเส่ียง เพ่ือหา Time Line ของการแพร่กระจายเชื้อ และการตรวจหาเช้ือทาง
ห้องปฏิบัติการที่มีมาตรฐาน มีการค้นหาเชิงรุกในกลุ่มเส่ียง ได้แก่ แรงงานต่างด้าว สถานที่ท่ีมีผู้คนมารวมตัว
กันจำนวนมาก เช่น ตลาดสด ตลาดนัด ห้างสรรพสินค้า การจัดงานเล้ียง การจัดการแข่งขันกีฬา และมีการ
สอบสวนการระบาดอย่างเข้มขน้
2.2) การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และการใช้ประโยชน์ระบบฐานข้อมูล จังหวัด
นครนายก ได้ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการดำเนินงานควบคุมป้องกันโควิด-19 ดังน้ี (1) การบริหารจัดการวัคซีน มี
การจัดทำเว็บไซด์ http://110.77.151.42/timeline-covid19/vaccine-01.php ในการจองวัคซีนของประชาชน
ใช้ช่ือ Save Nakornnayok แทนระบบหมอพร้อม โดยใช้ระบบฐานข้อมูลของประชาชน (2) การจัดทำข้อมูล
คลังวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ จำนวนเตียงในโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม สถานที่กักกัน (SQ) การฉีด
วัคซนี ใช้ระบบ Data studio เพอ่ื รายงานข้อมูลเป็นปจั จุบนั ประกอบการตัดสินใจของผู้บริหาร
2.3) การบริการประชาชนในภาวะวกิ ฤตของจังหวดั โดยการดำเนนิ งานดงั น้ี
▪ การส่งเสริมสุขภาพ มีการปรับระบบการให้บริการในคลินิกส่งเสริมสุขภาพทุกกลุ่มวัย
กล่าวคือ เช่น ๑) คลนิ ิกฝากครรภ์ ปรับระบบลงทะเบยี นจองคิวรับบรกิ ารโดยเน้นมารดากลุ่มเสี่ยงทีม่ ีภาวะโรค
แทรกซ้อน เช่น ภาวการณ์คลอดก่อนกำหนด มารดามีโรคประจำตัว และให้หมายเลขโทรศัพท์ของเจ้าหน้าท่ี
เพ่ือให้คำปรึกษาแก่หญิงต้ังครรภ์ตลอด 24 ช่ัวโมง 2) คลินิกสุขภาพเด็ก ปรับระบบการนัดรับวัคซีนเหลื่อม
เวลากันเพ่ือลดความแออดั และใช้แอปพริเคชนั ไลน์ (Line) และ VDO Call ในการตรวจติดตามพัฒนาการเด็ก
หากพบเด็กมีพัฒนาการล่าช้าเจ้าหน้าที่ จะลงเยี่ยมบ้านเพ่ือให้คำแนะนำแก่มารดาหรือผู้เลี้ยงดูเพื่อกระตุ้น
พัฒนาการเป็นราย ๆ ไป 3) กลุ่มวัยผู้สูงอายุท่ีเป็นผู้ป่วยติดเตียง ปรับระบบการเย่ียมบ้านของผู้ดูแล (Care
giver) โดยใช้แอปพริเคชนั ไลน์ (Line) และ VDO Call เพอ่ื ให้ความรู้และคำแนะนำแก่ญาติในการดแู ลผู้สูงอายุ
-41-
หากพบปัญหาเจ้าหนา้ ท่ีจะพิจารณาลงเยี่ยมบ้านโดยปฏิบัติตามมาตรการในการป้องกันควบคุมโรคติดเชอื้ ไวรัส
โคโรนา 2019 (COVID-19) ของกระทรวงสาธารณสุขอยา่ งเครง่ ครดั
▪ การรักษา จังหวัดนครนายกมีความพร้อมด้านการรองรับผู้ป่วยและผู้สงสัยป่วย
มีความพร้อมด้านสถานท่ีรองรับและอุปกรณ์ โดยหน่วยราชการต่าง ๆ มีการปรับตัว โดยใช้ระบบการจองคิว นัด
หมายล่วงหน้า ผ่านระบบ e-service เพ่ือลดความแออัด และลดการแพร่กระจายเช้ือโรค ดังนี้ ๑) เตียงใน
โรงพยาบาล จำนวน 283 เตียง ได้แก่ ห้อง AIIR จำนวน 5 ห้อง ห้อง Modified AIIR จำนวน 23 ห้อง ห้องเดี่ยว
ธรรมดาจำนวน 130 ห้อง มี Cohort Ward จำนวน 125 เตียง และโรงพยาบาลสนาม 50 เตียง (รพ.
นครนายก) มี Local Quarantine จำนวน 6 แห่ง รวม 232 ห้อง และมีเครื่องช่วยหายใจจำนวน 8 เครื่อง
๒) การปรับระบบการให้บริการ ได้แก่ จัดให้มีจุดคัดกรองเพื่อแยกโรคเฉพาะสำหรับผู้มีอาการน่าสงสัยว่าจะ
เป็นโรคตดิ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) คัดกรองผูป้ ่วยและนัดหมายผา่ นระบบโทรศพั ท์นัดหมายเลอ่ื ม
เวลาและขยายเวลานัดเพื่อลดความแออัดของผู้มาใช้บริการ ๓) การจัดระบบการรับยาในผู้ป่วยโรคเร้ือรังที่
สามารถควบคุมอาการได้ เช่น ให้ผู้ป่วยรับยาท่ีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลใกล้บ้าน , เพิ่มปริมาณยา
ให้แก่ผู้ป่วยเพ่ือทำให้กำหนดการรับยาห่างออกไปจัดระบบรับยาท่ีร้านขายยา และส่งยาให้ผู้ป่วยทางไปรษณีย์
และ 4) มีการผู้ให้บริการในแอปพลิเคชันไลน์ เพื่อประสานการทำงานกำหนดผู้ให้บริการและผู้รับบริการสวม
ใส่หน้ากากอนามัย และมีฉากก้ันจัดตารางให้บุคลากรทำงานเหลื่อมเวลากันกำหนดผู้ให้บริการสวมใส่อุปกรณ์
ปอ้ งกนั ตามมาตรฐาน ทำความสะอาดระบบระบายอากาศอยา่ งสมำ่ เสมอตามเกณฑ์มาตรฐาน
▪ การฟ้ืนฟูสภาพร่างกายและจิตใจ กำหนดให้มีการนัดหมายผู้ป่วยล่วงหน้าจำกัดผู้
เข้ารับบริการในแต่ละวัน ประเมินสภาพผู้ป่วยโดยใช้ google sheet และส่งต่อผู้ป่วยให้ไปรับบริการที่
โรงพยาบาลส่งเสรมิ สขุ ภาพตำบลใกล้บ้าน
▪ นอกจากน้ีจังหวัดนครนายกยังจัดทำแผนฟื้นฟูจิตใจในสถานการณ์การระบาดของ
โรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพื่อเตรียมความพร้อมป้องกันและลดผลกระทบด้านสุขภาพจิต
เน้นดำเนินงานเชิงรุกโดยให้ความสำคัญกับการดูแลด้านจิตใจและด้านสังคมของประชาชน ทั้งในระดับบุคคล
ครอบครัว ชุมชน ซ่ึงครอบคลุมทั้งมิติส่งเสริม ป้องกัน บำบัดรักษาและฟื้นฟูจิตใจในประชาชนท่ัวไป รวมท้ัง
กลุ่มเส่ียงต่าง ๆ ได้แก่ ผู้ป่วยโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และสมาชิกในครอบครัว ผู้ถูกกักตัว
(Quarantine) ผู้เปราะบางทางสังคม บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข โดยดำเนินการเฝ้าระวังและ
ป้องกนั ปญั หาสขุ ภาพจิตใน 4 ประเดน็ ไดแ้ ก่ ภาวะเครยี ด (Stress) ภาวะเหนือ่ ยล้าหมดไฟ (Burnout) การฆ่า
ตวั ตาย (Suicide) และโรคซมึ เศรา้ (Depression) นอกจากนี้ยังมีการรณรงค์และประชาสมั พันธ์เชิงรกุ ในระดับ
หมู่บา้ น ชมุ ชน ผา่ นหอกระจายขา่ วและช่องทางการสอ่ื สารอื่น ๆ
▪ การบรู ณาการการทำงานของจังหวัดนครนายก จงั หวัดมีการบูรณาการยทุ ธศาสตร์
กลยุทธ์ แผนงาน เป้าหมายมีจัดต้ังคณะทำงานจากทุกภาคส่วน ร่วมกันในการดำเนินงานโดยการประชุม
ร่วมกันของหน่วยงานที่เก่ียวข้องกำหนดผู้รับผดิ ชอบหลักและผู้รบั ผิดชอบร่วมและมีการติดตามการรายงานผล
การดำเนนิ งานร่วมกัน
(1) ด้านการสกัดกั้นการนำเข้าเช้ือในจังหวัด เป็นการเฝ้าระวังจากภายนอกสู่
ภายใน เช่น การต้ังด่านตามเส้นทาง เข้า-ออก จังหวัดมีการตั้งด่านหลักและด่านรอง , การกำหนดมาตรการ
เดินทางเข้า-ออกจังหวดั และการสอดส่งผู้เดินทางเข้ามาในพ้ืนที่โดยโครงการตาสัปปะรด , เตรยี มสถานที่กกั กัน
ปัจจุบนั มสี ถานทกี่ ักกัน (State Quarantine=SQ)
(2) ด้านการแพทย์และสาธารณสุข เช่น คัดกรองและเฝ้าระวัง (OPD / ARI
Clinic/อาชีพเสีย่ ง/ชุมชนแออัด) การติดตามผู้สมั ผัสโรค และควบคุมการแพร่ระบาด และการเตรียมการด้าน
สถานท่ี อปุ กรณร์ องรบั กับสถานการณโ์ รค
-42-
(3) การสอ่ื สารเชิงรกุ การสอื่ สารสรา้ งการรบั รู้ ความเข้าใจทีถ่ ูกต้องของประชาชน
มีการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ได้แก่ Facebook page นครนายกสู้ภัยโควิด และ Facebook
page จังหวัดนครนายก สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 มีป้ายประชาสัมพันธ์ มกี ารรายงานสถานการณ์โรค
รายวัน มีสายด่วนโควิด เบอร์โทรศัพท์ 08-4243-0216 ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครนายก
กลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ ตลอด 24 ชั่วโมง เพ่ือให้ประชาชนสอบถามปัญหาและข้อสงสัยต่าง ๆ เก่ียวกับ
มาตรการที่ทางราชการกำหนด มเี ฝ้าระวัง ตรวจสอบ ตอบโต้ Fake News โดยจัดต้ังศูนยข์ ้อมูลขา่ วสาร โควิด-19
(สถิติจังหวัดนครนายกรับผิดชอบ) มีการดำเนินการจัดทีมตรวจสอบข่าว/ข้อมูลท่ีมีปัญหาจัดการตอบโต้ข่าวให้
ข้อมลู ทีถ่ กู ตอ้ ง เป็นต้น
(4) ด้านการป้องกันการแพร่การระบาดของโควิด-19 ภายในจังหวัด เป็นการ
ป้องกันกลุ่มเสี่ยงการบริหารจัดการวัคซีน ดำเนินการ ดังน้ี มีการจัดตั้งคณะทำงานบริหารวัคซีน จัดระบบการ
จองวัคซีน การจัดระบบการฉีดวคั ซีน การเฝ้าระวงั อาการไมพ่ ึงประสงค์ การรายงานผลการฉดี วคั ซีน
ส่วนท่ี 3 ข้อจำกัด/ปัญหาอุปสรรคสำคัญในการบริหาร/ปฏิบัติงานในสถานการณ์ปกติ
ของจงั หวัด รวมถึงขอ้ เสนอการแก้ไข หรือขอรับการสนับสนุนจากส่วนกลาง
๑. เป็นจังหวัดท่องเท่ียวทางธรรมชาติและมีสถานท่ีถ่ายภาพ จุดเช็คอิน รวมถึงร้าน
กาแฟสวยๆ ที่ใกล้กับกรุงเทพฯ และจังหวัดอุตสาหกรรมอื่นๆ ทำให้มีนักท่องเท่ียวเดินทางเข้ามาเป็นจำนวน
มากจากข้อมูลของสถิติจังหวัดนครนายก ในแต่ละปีมีนักท่องเท่ียว ประมาณ 1,799,094 คน ไมร่ วมนักทัศน
จร (ผู้มาเยี่ยมเยอื นที่ไม่พักค้าง ประมาณ 1,233,759 คน) ทำให้สถานประกอบการประเภท โรงแรม รีสอร์ท
ในพ้ืนท่ีเป็นจำนวนมาก ส่วนแรงงานตา่ งชาติเข้ามาทำงานในจังหวัดนครนายกจำนวน 5,600 คน (ข้อมูลจาก
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครนายก กลุ่มงานประกันสุขภาพ ปี 2563) โดยมาตรการล็อคดาวน์ปิดจังหวัด
ทำให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน ผู้ประกอบการ ลูกจ้างในสถานประกอบการ เกษตรกร ผู้มีรายได้น้อย
ในวงกว้าง จึงต้องเร่งสำรวจข้อมูลท่ีแท้จริงเพื่อหายอดผู้ได้รับผลกระทบ การจัดลำดับผู้ได้รับผลกระทบและ
เร่งแก้ไขปัญหาตามอาการของแต่รายๆ หรือกลุ่ม อย่างเร่งด่วน สำหรับมาตรการเปิดจังหวัดในเรื่องการ
ท่องเที่ยวสามารถดำเนินการได้ แต่ควรมีการแบ่งโซนที่มีความปลอดภัยเสียงต่ำก่อนและขยายวงออกไป
สำหรับผู้ได้รับผลกระทบในแต่ละประเภท จำเป็นต้องทำโครงการเพ่ือให้และสนับสนุน เงินทุน อุปกรณ์
เคร่ืองมือ ตามศักยภาพของแต่ละคน เพ่ือให้ผู้ได้รับผลกระทบสามารถมีต้นทุนในการสร้างรายได้ให้กับตนเอง
และครอบครวั ต่อไปได้ ควรมีการผ่อนปรนหลักเกณฑ์งบพัฒนาจังหวัดให้สามารถแจกจ่ายสง่ิ ของ เงนิ ทุน หรือ
อปุ กรณต์ า่ งๆ เป็นตน้ แตก่ ใ็ ห้คำนึงถึงความจำเป็น เหมาะสม
๒. ระเบยี บ หลักเกณฑ์ วิธกี ารและแนวทางปฏิบัตเิ กย่ี วกับการจัดซื้อจัดจ้างและการ
บรหิ ารพัสดภุ าครัฐซึง่ มขี นั้ ตอนในการดำเนินงานค่อนขา้ งหลายขัน้ ตอนระเบยี บขอ้ จำกัดในการใช้งบประมาณ
๓. งบประมาณเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบในพื้นท่ีมีจำนวนจำกัด เช่น ผู้ประกอบการ
ด้านรีสอร์ท โรงแรม , เกษตรกร , ลูกจ้าง เป็นต้น จึงควรมีการผ่อนคลายเรอ่ื งการให้อำนาจจังหวัดในการโอน
เปลี่ยนแปลงแผนงานโครงการด้านโควิด-19 มาดำเนินการก่อนหรือดำเนินการแทนในโครงการปกติหรือ
จำเป็นนอ้ ยกว่า ได้ในลำดบั แรก
๔. มีคู่มือการปฏิบัติงาน ได้แก่ 1) แนวทางเวชปฏิบัติ การวินิจฉัย ดูแลรักษา และ
ป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาลกรณีโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 2) แนวทางการเฝ้าระวังและสอบสวน
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) 3) แนวทางป้องกันควบคุมการแพร่ระบาด 4) คู่มือการปฏิบัติตาม
มาตรการผ่อนคลายกิจการและกิจกรรมเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 5) แนวทางการบริหาร
จัดการสถานทกี่ ักกนั ซ่ึงทางราชการกำหนด
-43-
๕. ปญั หาการสอื่ สารและขา่ วสารเป็นเท็จ Fake News สร้างความต่ืนตระหนกใหก้ ับ
ประชาชน จงึ ควรมเี ครือ่ งมอื ท่ีจังหวัดจะสามารถส่ือสารกับประชาชนได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ
๖. วัคซีนไม่เพียงพอ ทำให้แผนท่ีวางไว้ต้องปรับแก้ไขตามสถานการณ์ ควรมีความ
ชดั เจนและให้อำนาจใหก้ ับองคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่นิ ทม่ี ีศักยภาพในการดูแลประชาชนอย่างเร่งด่วน ทนั เวลา
๗. การสร้างเจ้าหน้าท่ีทีมแพทย์ พยาบาล บุคลากรการแพทย์ ให้เพ่ิมข้ึนและมี
มาตรฐาน เพ่ือรองรบั กับสถานการณ์ในอนาคต และการเสริมความรู้ให้ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ เช่น ฝ่ายปกครอง
ฝ่ายสนับสนุนงาน ที่ขาดทักษะในการสอบสวนและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค และขาดทักษะในการใช้
อปุ กรณป์ ้องกนั ตน ให้สามารถปฏิบัติงานไดอ้ ยา่ งปลอดภยั ลดความเส่ียงตอ่ ตนเอง ครอบครัว
๘. การสนับสนุนให้จังหวัดจัดทำโครงการเก่ียวกับพลเมือง การปลูกฝังให้ประชาชน
รับผิดชอบตอ่ สงั คม มวี ินัย ในการปฏิบตั ิตน ปฏิบตั ิตามกฎหมาย มาตรการของรัฐบาล ไม่เห็นแก่ตนเองและทำ
ความเดอื ดรอ้ นใหก้ ับผอู้ ่ืน และการให้ความรู้ ความเข้าใจในการปฏิบัติตนต่อโรคอุบตั ใิ หม่ตา่ งๆ เปน็ ตน้
ที่มา : สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครนายก
➢ ดา้ นความมน่ั คง
◆ ยาเสพติด
จังหวัดนครนายก มีสถานการณ์แพร่ระบาดของยาเสพติดอยู่ในระดับไม่รุนแรง ผู้เสพ
ส่วนมากจะเป็นกลมุ่ ผใู้ ชแ้ รงงานและเยาวชน ปี 2562 ยาเสพตดิ ท่ีแพร่ระบาดคือยาบา้ รองลงมาได้แก่ กัญชา
แห้ง และยาไอซ์ พื้นที่ท่ีมีการแพร่ระบาด ในระดับมาก ได้แก่ อำเภอองครักษ์ อำเภอเมืองนครนายก และ
อำเภอบา้ นนา ตามลำดบั และระดบั เบาบาง ไดแ้ ก่ อำเภอปากพลี
◆ สาธารณภยั
สถานการณ์ในพ้ืนท่ีจังหวัดนครนายก จากสภาพทั่วไปในพื้นที่จังหวัดนครนายก
ด้านเหนือมีพื้นที่ติดกับเทือกเขาใหญ่ ปริมาณน้ำฝนท่ีตกบริเวณเทือกเขาจะไหลเทลาดลงพ้ืนท่ีต่ำ ซึ่งเป็นพ้ืนท่ี
เขตจังหวัดนครนายกเกือบทุกอำเภอ ความลาดชันเชิงเขาเป็นเหตุให้กระแสน้ำจากเทือกเขาไหลลงสู่ที่ต่ำ
รวดเร็วและรุนแรง เขื่อนขุนด่านปราการชล สามารถลดความรุนแรงและรองรับน้ำเพ่ือเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง
และฤดูน้ำหลากได้ในระดับหนึ่งส่วนพื้นที่ด้านทิศใต้ของจังหวัดนครนายก ซึ่งมีแม่น้ำสายหลัก คือ แม่น้ำ
นครนายกไหลผ่านและไปบรรจบกับแม่น้ำบางประกงและไหลลงสู่ทะเล ในภาวะน้ำทะเลข้ึนหรอื น้ำทะเลหนุน
พ้ืนที่ในจังหวัดนครนายกจะได้รับผลกระทบเนอื่ งจากน้ำไม่สามารถระบายไดอ้ ย่างสะดวกส่งผลให้พ้ืนท่ีดังกลา่ ว
มคี วามเสย่ี งต่อภาวะน้ำท่วมขังในฤดนู ้ำหลาก
ตารางท่ี 40 สถิตสิ ถานการณเ์ กิดพายหุ มุนเขตร้อน (วาตภัย) ระหว่างปี 2556 – 2563
จำนวนครง้ั พ้ืนทเ่ี กดิ ภัย
ปี พ.ศ. ทเี่ กิด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน มูลค่า (บาท)
2556 13 3 89 13 ทอ้ งถิ่นช่วยเหลอื
2557 11 2 8 34 ท้องถิ่นช่วยเหลอื
2558 24
2559 14 4 32 101 เงนิ ทดรองราชการฯ 245,104 บาท
2560 14 4 12 46 ทอ้ งถน่ิ ชว่ ยเหลือ
2561 26
2562 23 3 17 60 ทอ้ งถน่ิ ช่วยเหลอื
4 23 53 ท้องถ่ินชว่ ยเหลอื
2563 39 4 19 95 ท้องถิ่นช่วยเหลือ
เงินทดรองราชการฯ 492,745 บาท
4 25 160 ทอ้ งถน่ิ ชว่ ยเหลอื
-44-
ตารางที่ 41 สถติ สิ ถานการณเ์ กดิ อทุ กภัย ระหวา่ งปี 2556 – 2563
จำนวนครง้ั พนื้ ทเี่ กิดภยั
ปี พ.ศ. ท่เี กิด อำเภอ ตำบล หมบู่ า้ น มลู ค่า (บาท)
2556 30 4 23 119 -
-
2557 ไม่เกดิ -- - -
-
2558 1 1 1 14 -
เงนิ ทดรองราชการฯ
2559 ไม่เกดิ -- - 13,110,127.88 บาท
ทอ้ งถนิ่ ชว่ ยเหลอื
2560 1 1 5 32 ท้องถิ่นช่วยเหลอื
2561 1 4 32 221
2562 2 2 7 19
2563 1 12 2
ตารางที่ 42 สถติ สิ ถานการณ์เกดิ อคั คภี ัย ระหวา่ งปี 2556 – 2563
จำนวนครั้ง พ้นื ท่เี กดิ ภยั
ปี พ.ศ. ท่ีเกิด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน มูลค่า (บาท)
2556 3 23 3 ท้องถ่ินช่วยเหลือ
ท้องถ่ินชว่ ยเหลือ
2557 1 11 1 ทอ้ งถิ่นชว่ ยเหลือ
เงินทดรองราชการฯ
2558 1 11 1
38,000
2559 1 11 1 ทอ้ งถน่ิ ชว่ ยเหลอื
ทอ้ งถิน่ ช่วยเหลอื
2560 2 22 2 ทอ้ งถิ่นช่วยเหลอื
ท้องถิ่นชว่ ยเหลอื
2561 3 22 3
2562 5 45 5
2563 3 23 3
นอกจากน้ี ปี 2563 มีสถานการณ์เกิดไฟป่า จำนวน 2 ครั้ง ใน 3 อำเภอ 4 ตำบล 16
หมู่บ้าน ซงึ่ ท้องถ่นิ ได้ให้ความช่วยเหลอื
ท่ีมา : สำนักงานป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัยจังหวดั นครนายก
3) ด้านทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อม
➢ทรัพยากรป่าไม้ ในปี 2563 จังหวัดนครนายกมีพ้ืนที่ทั้งหมด 1,338,503 ไร่
หรือ 2,122 ตารางกิโลเมตร เป็นพื้นที่ป่าไม้ตามกฎหมายท้ังหมด 401,756.92 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ
29.98 มีการเปลี่ยนแปลงพน้ื ท่ีป่าจากปี โดยมีการเปล่ียนแปลงพื้นที่ป่าจากปี 2562 (401,303.82 ไร่) พืน้ ที่ป่า
เพ่ิมขน้ึ 453.10 ไร่ คดิ เปน็ ร้อยละ 0.11