หลกั สูตรเสริมสร้างพฤติกรรมเชิงบวกในยคุ พลวัต
สำหรบั นกั เรียนชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1-6 โรงเรยี นวชิรธรรมสาธติ
โดย...กล่มุ บรหิ ารกจิ การนักเรยี น โรงเรยี นวชริ ธรรมสาธิต
สำนกั งานเขตพืน้ ที่การศึกษามัธยมศึกษากรงุ เทพมหานคร เขต 2
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน
กระทรวงศกึ ษาธิการ
ก
คำนำ
หลักสูตรเสริมสร้างพฤติกรรมเชิงบวกในยคุ พลวัต สำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 โรงเรียนว
ชิรธรรมสาธิต ที่ทางคณะครูกลุ่มบริหารกิจการนักเรียน โรงเรียนวชิรธรรมสาธิตได้พัฒนาขึ้นนี้ เป็นส่วน
หน่งึ ของการต้องการปรับเปล่ยี นพฤติกรรมของนักเรยี นในสถานศึกษา ใหบ้ รรลุเป้าหมายของสถานศึกษา
ตามแนวทางการจัดการศึกษาข้ันพื้นฐาน ในการพัฒนาหลักสูตรนี้ขึ้นมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้าง
พฤตกิ รรมเชงิ บวกในยุคพลวตั สำหรับนกั เรยี นชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 1-6 โรงเรียนวชิรธรรมสาธิต ใน 7 ด้าน
ไดแ้ ก่ การมวี ินัย การลดละยาเสพตดิ เพศวิถี การไมใ่ ชค้ วามรนุ แรง การละเมดิ สิทธิ การเห็นคุณค่าของอัต
ลกั ษณ์ไทย และการสรา้ งความเป็นพลเมอื ง
คณะผู้จัดทำกำหนดโครงสรา้ งหลกั สูตรเสรมิ สรา้ งพฤตกิ รรมเชงิ บวกในยคุ พลวัต สำหรบั นักเรยี นชน้ั
มธั ยมศึกษาปที ี่ 1-6 โรงเรียนวชริ ธรรมสาธิต ในลกั ษณะหน่วยการเรียนรู้ จำนวน 7 หนว่ ยการเรียนรู้ ดังนี้
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 รู้หน้าที่มีวินัย หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ห่างไกลยาเสพติด หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 รู้ชิวิต
เพศวิถี หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 หาวิธีลดรุนแรง หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ไม่แทรกแซงละเมิดสิทธิ์ หน่วยการ
เรียนรทู้ ่ี 6 หวนพินิจอัตลักษณไ์ ทย หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 7 ใส่ใจความเป็นพลเมือง
คณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหลักสูตรเสริมสร้างพฤติกรรมเชิงบวกในยุคพลวัต สำหรับนักเรยี น
ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 1-6 โรงเรียนวชิรธรรมสาธิต จะเป็นประโยชน์ต่อการนำไปใช้จัดกิจกรรมตามหลักสูตร
พฒั นานักเรยี นนอกชั้นเรียนของโรงเรียนวชิรธรรมสาธิต และเปน็ แนวทางในการจัดกจิ กรรมเสริมหลกั สูตร
เพ่ือพฒั นาคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์สำหรับนักเรยี นต่อไป
กลมุ่ บรหิ ารกจิ การนกั เรยี น
โรงเรยี นวชิรธรรมสาธิต
คณะผจู้ ัดทำ
1
คำแนะนำการใชห้ ลกั สูตรเสริมสร้างพฤติกรรมเชงิ บวก
1. หลกั สูตรเสริมสรา้ งพฤติกรรมเชิงบวก สำหรับนกั เรยี นชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1-6 โรงเรียนวชิรธรรมสาธิต
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 2 พัฒนาขึ้นเพื่อใช้เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนา
คณุ ลักษณะอันพึงประสงคข์ องผูเ้ รียน โรงเรียนวชริ ธรรมสาธติ
2. หลักสูตรเสริมสร้างพฤติกรรมเชิงบวก สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 โรงเรียนวชิรธรรมสาธติ
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 2 เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ผสมผสาน
ระหว่างการเรียนรู้ที่เกิดจากการการสร้างหรอพัฒนาทัศนคติ ด้วยการฝึกอบรมผ่านประสบการณ์จริง
(Experience and Learning by Doing) และเทคนิคการเรียนรู้แบบต่าง ๆ ที่เสริมสร้างและพัฒนา
ทัศนคติเชิงสรา้ งสรรค์ ตามองค์ประกอบของการพฤติกรรมเชงิ บวกให้เกดิ ขึ้นกับผเู้ รียน
3. ลักษณะกิจกดรรมตามโครงสร้างหลักสูตรเสริมสร้างพฤติกรรมเชิงบวก สำหรับนักเรียนช้ัน
มัธยมศึกษาปีที่ 1-6 โรงเรียนวชิรธรรมสาธิต สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร
เขต 2
3.1 การสัมผสั ตน้ แบบ เปน็ กิจกรรมที่ให้นกั เรียนเรยี นรูจ้ ากพฤติกรรมสร้างสรรค์หรือเชิงบวก
ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น พฤติกรรมเพื่อในห้องเรียน ชั้นเรียน หรือในวีดิทัศน์ ภาพยนตร์ หนังสั้น โฆษณา
เปน็ ตน้ โดยเลือกใชใ้ หเ้ หมาะสมกบั พฤตกิ รรมและการแสดงการตอบสนองต่อครใู นสถานศึกษา
3.2 การสัมผัสความจริง เป็นกิจกรรมที่ให้นักเรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรง เช่น การ
สมั ภาษณบ์ ุคคลทนี่ กั เรยี นคิดวา่ เป็นผูม้ ีพฤติกรรมที่สามารถเปน็ แบบอย่าง
3.3 การลงมือปฏิบตั ิ เป็นกจิ กรรมที่เน้นผเู้ รยี นเปน็ ศูนย์กลาง เพอ่ื ให้ผ้เู รยี นเกิดการเรียนรู้จาก
การปฏิบัติและเรียนรู้ด้วยตนเอง
3.4 การถอดบทเรียน เป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นภายหลังที่นักเรียนลงมือปฏิบัติหรือกระทำตาม
กจิ กรรมต่าง ๆ เสร็จสนิ้ แล้ว เพื่อเป็นการสรุปสง่ิ ที่นกั เรยี นไดร้ บั จากการจดั กจิ กรรม
3.5 การถ่ายทอดประสบการณ์ เปน็ กิจกรรมที่ให้นักเรยี นได้ถ่ายทอดประสบการณ์การเรียนรู้
สู่สาธารณะ การแลกเปล่ยี นเรยี นร็ การสร้างเครอื ขา่ ยลักษณะตา่ ง ๆ เปน็ ต้น
4. ระยะเวลาในการจัดประสบการณ์การเรยี นร้ตู ลอดหลักสูตร รวมทง้ั สนิ้ 40 ชัว่ โมง ดังนัน้ ผใู้ ช้
หลักสูตรควรศึกษาหลักสูตรแผนการจัดกิจกรรมอย่างละเอียด เพื่อได้กำหนดตารางจัดหลักสูตรให้
เหมาะสมกับจำนวนชั่วโมงที่กำหนดไว้ในแผนการจัดกิจกรรม รวมถึงการจัดเตรียมสื่อการเรียนรู้ การ
ตดิ ตอ่ ประสานวิทยากรบรรยาย
5. หลังจากการจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ครบถว้ นโครงสร้างหลักสูตรแล้ว ผู้ใช้หลกั สูตรควรมี
การติดตาม พฤตกิ รรมการปฏิบตั ติ นอย่างสร้างสรรคข์ องผเู้ รยี น ด้วยการสงั เกต การสอบถาม
2
หลักสูตรเสรมิ สรา้ งพฤติกรรมเชงิ บวกในยคุ พลวัต
สำหรับนกั เรียนชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 1-6 โรงเรยี นวชริ ธรรมสาธติ
1. หลกั การและเหตผุ ล
การเปลี่ยนแปลงอยา่ งรวดเร็วผ่านกระแสโลกาภวิ ัตน์และโลกไซเบอร์ ทำให้คนไทยมุง่ แสวงหา
ความสุขและสร้างอัตลักษณ์ส่วนตัวผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์เกิดเป็นวัฒนธรรมย่อยร่วมสมัยที่
หลากหลายในรปู แบบการรวมกลุ่มของบุคคลท่สี นใจเรื่องเดียวกัน โดยมีวัฒนธรรมทีบ่ ่งบอกความเป็นไทย
ไม่สามารถแสดงบทบาทที่ชัดเจน ขณะเดียวกันสังคมไทยก็เผชิญกับความเสื่อมถอยด้านคุณธรรม
จริยธรรม ซึ่งสะท้อนได้จากคนในสังคม มีความถี่ในการใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหามากขึ้น ทั้งปัญหา
ครอบครัว การแย่งชิงทรัพยากรระหว่างชุมชน และความคิดเห็นแตกต่างทางด้านการเมือง ขณะที่
กระบวนการยุติธรรมแก้ไขปัญหาได้ไม่เต็มที่ ผู้ที่ใช้ความรุนแรงมักขาดการยับยั้งชั่งใจ มีพฤติกรรม
เลียนแบบหรืออาจเกิดจากการเลีย้ งดู ขาดการใช้เหตุใช้ผล ขาดความเอื้อเฟื้อ เอื้ออาทร ส่งผลให้ความมี
คุณธรรมจริยธรรมของคนในสังคมลดน้อยลง คนไทยให้ความสำคัญกับวัตถุนิยมแต่กับลดความสำคัญใน
ด้านศีลธรรมและวฒั นธรรมทีด่ งี ามลง ท้ังการดำรงชวี ิตประจำวัน การใชช้ ีวติ และความสมั พันธ์กบั ผอู้ ่ืน มุ่ง
หารายได้เพื่อสนองความต้องการบริโภค การช่วยเหลือเกื้อกูลกันลดลง ความมีน้ำใจไมตรีลดลง แก่งแย่ง
เอารัดเอาเปรียบกัน ขาดความสามัคคี ไม่เคารพสิทธิผู้อื่น ขาดการคิดถึงประโยชน์ส่วนรวม (แผนพัฒนา
เศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ ฉบับที่ 11, 2555)
สถานการณ์บ้านเมืองของประเทศไทยเราในปัจจุบันนี้ดูน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นวิกฤต
ทางเศรษฐกิจ ปัญหาความเสื่อมถอยในด้านคุณธรรม จริยธรรมของคน ทั้งในระดับนักการเมือง
ข้าราชการหรอื คนในแวดวงอาชพี อ่ืน ๆ ภาพท่เี ห็นชัดเจนและเป็นข่าวอย่ทู ุกวันก็คอื การทจุ ริต คอร์รัปช่ัน
การก่ออาชญากรรม การเสพและการค้ายาเสพติด ซึ่งแพร่ระบาดในกลุ่มเยาวชนไทย ตั้งแต่ระดับ
ประถมศึกษาจนถึงอุดมศกึ ษา รวมถึงการแต่งกายล่อแหลม ที่เป็นมูลเหตุก่อให้เกิด อาชญากรรมทางเพศ
ของนักศึกษาหญิง การขายบริการทางเพศของนักศึกษา การที่นักศึกษาอยู่ ร่วมกันฉันท์สามีภรรยา การ
ทะเลาะวิวาทของนักศึกษาทั้งภายในสถาบันเดียวกันและต่างสถาบัน เหล่านี้เป็นต้น ปัญหาที่เกิดขึ้นใน
กลุ่มของเยาวชนดังกล่าว แสดงว่าเยาวชนไทยของเราขาด การปลูกฝังในด้านคุณธรรม จริยธรรมอย่าง
ย่งั ยนื คอื อาจจะมีอยู่บ้างแต่เป็นแบบฉาบฉวย ไม่เกิดผลทถี่ าวร ในขณะทส่ี ังคมไทยต้องการเห็นภาพการ
พัฒนาเยาวชนไทยไปสู่การเป็นบัณฑิตที่มีคุณภาพ มีความสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ มีสติ ปัญญามี
ความร้แู ละคุณธรรม มีจริยธรรมและวัฒนธรรม ในการดำรงชวี ติ สามารถอยู่ร่วมกับผู้อ่นื ได้อย่างมีความสุข
มีรายงานผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการในการพิจารณารับคนเข้าทำงาน ในหน่วยงาน
3
องค์กร สถาบันต่าง ๆ พบว่า ผู้ประกอบการส่วนมากต้องการบัณฑิตที่มีคุณลักษณะดังนี้ขยัน ประหยัด
ซือ่ สัตย์อดทน เสยี สละ และมีความรบั ผิดชอบ (เชวง เตชะโกศยะ, 2554) หากพิจารณาตามความเป็นจริง
ในพฤตกิ รรมของ มนุษย์โดยส่วนใหญแ่ ล้ว จะพึงสังเกตได้ว่ามวลมนุษยชาตสิ ว่ นใหญ่อุดมไปด้วยความโลภ
อยู่ที่ว่าจะโลภมากหรือโลภน้อย ความโลภดังกล่าวสะท้อนออกมาทางความต้องการ ความต้องการที่ไม่
สิ้นสุด (unlimited wants) โดยเป็นไปตามตามทฤษฏีความต้องการที่ไม่สิ้นสุด (Alfred Maeshall,
1998; อ้างถึงใน คลังปัญญาไทย, 2554) ซึ่งมนุษย์ทุกคนมีความต้องการ และความต้องการนี้มีอยู่
ตลอดเวลาเป็น กระบวนการที่ไม่มีที่สิ้นสุดเริ่มตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตาย ขณะที่ความต้องการใดได้รับการ
ตอบสนอง แล้วความต้องการอย่างอื่นจะเกิดขึ้นมาแทนที่มนุษย์พยายามสนองความต้องการของตนเพ่ือ
ความอยู่รอดและความสำเร็จในชีวิต ไม่ใช่แค่เราเท่านั้นที่ต้องการความสำเร็จในชีวิต ทุกคนมีความ
ต้องการ ความส าเร็จในชีวติ ด้วยกนั ท้ังนนั้ ความตอ้ งการของแต่ละคนแสดงออกมาในรูปแบบพฤติกรรมท่ี
แตกต่างกัน ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการแสดงพฤตกิ รรมออกมารูปแบบใดก็จะช่วยใหม้ นุษย์ประสบความสำเร็จใน
เป้าหมายทต่ี อ้ งการ (Maslow, 1980 อ้างถึงในเนตรนภา เดชหัสดนิ , 2553)
ความต้องการนั้นเกิดขึ้นเมื่อร่างกายไม่ได้รับความพึงพอใจ และจะแสดงออกมาเป็นพฤติกรรม
ทั้งดีและพฤติกรรมที่ไม่ดี ตัวอย่างเช่นความต้องการที่จะประสบความสำเร็จโดยอาศัยความพยายาม
ลักษณะต้องการทำงานให้สำเร็จด้วยความพยามยามของตนเอง ตั้งเป้าหมายสูง ขยัน อุตสาหะ พยายาม
ในทางกลับกันคือความต้องการที่จะเอาชนะเป็นลักษณะชอบแข่งขันเพื่อชัยชนะ ต้องการอยู่เหนือผู้อ่ืน
แสดงออกด้วยความเห็นแก่ตัว แสแสร้ง มักโกรธง่าย ชอบวิจารณ์ เมื่อมีสิ่งผิดพลาดเกิดขึ้น ชอบทำลาย
ข้าวของ (Murray, 1938; อ้างถึงใน บุญส่ง สร้อยสิงห์, 2556) โดยที่พฤติกรรมจะแสดงออกมาโดยมี
แรงจูงใจ มุ่งผลสัมฤทธิ์มีทั้งด้านที่ดีและด้านที่ไม่ดี ซึ่งพฤติกรรมมุ่งผลสัมฤทธิ์แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ
พฤติกรรมมุ่งผลสัมฤทธิ์เชิงบวกที่แสดงถึง การมีความพยายามที่มากขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในตนเอง
คนที่มีพฤติกรรมมุ่งผลสัมฤทธิ์เชิงบวกมักจะดีกว่า (เก่งกว่า) ประสบความสำเร็จในชีวิตได้เร็วกว่า
เนื่องจากเป็นคนรับผิดชอบ ทำงานมีการวางแผน ตั้งเป้าหมายสูงและพฤติกรรมมุ่งผลสัมฤทธิ์เชิงลบที่
แสดงถงึ การแสแสรง้ ความเห็นแกต่ วั เพอ่ื ทำใหเ้ กดิ ประโยชนต์ อ่ ตนเอง จะแสดงออกมาดว้ ยความก้าวร้าว
คนที่มีพฤติกรรมมุ่งผลสัมฤทธิ์เชิงลบก็อาจจะประสบความสำเร็จในชีวิต แต่คนที่มีพฤติกรรมเหล่านั้นจะ
มุ่งแสวงหาสิ่งที่ต้องการโดยไม่สนใจผลกระทบอื่น ๆ ที่แสดงว่ามีความโลภและร้ายกาจอย่างเห็นได้ชัด
(Eric G.Kirby et,al, 2010) กลุ่มที่เห็นได้ชัดเจน คือนักศึกษาซึ่งนักศึกษามหาวิทยาลัยมีการแข่งขันสูง
และมีพฤตกิ รรมมุ่งผลสัมฤทธิ์ในเชงิ บวก และเชงิ ลบ และมคี วามคดิ เห็นท่ยี อมรบั การทจุ ริตคอรร์ ัปช่นั โดย
จะพบได้จากข่าวที่เกี่ยวกับการทุจริต ตัวย่างเช่นจากการสำรวจนักศึกษาจำนวน 2,559 คน เรื่องความ
ต้องการของประชากรต่อรัฐบาลชุดใหม่ การสร้างชาติโปร่งใส สร้างไทยซื่อตรง พบว่า ร้อยละ 64.5
ยอมรับได้ถ้ารัฐบาลไทย ทุจริตคอร์รัปชั่นและประเทศชาติรุ่งเรือง ตนเองได้รับประโยชน์ด้วย ที่น่าเป็น
ห่วงคือในจำนวนนี้ ร้อยละ 71.0 ของกลุ่มเยาวชนอายรุ ะหว่าง 18-20 ปีกลุ่มผู้ชายยอมรับรัฐบาลที่ทุจรติ
4
คอร์รัปชั่นมากกว่ากลุ่มหญิง (ผลสำรวจ ABAC Poll,2554) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งมีอายุ
ประมาณ 18 ปี โกงขอ้ สอบO-NET และ A-NET โดยเขียนคำตอบลงในยางลบแลว้ ส่งต่อใหเ้ พ่อื นในห้องน้ำ
รับส่งข้อสอบทางโทรศัพท์มือถือและนาฬิกามือถือ (มติชนออนไลน์, 2556) หรือการสอบทุจริตครู ผู้ช่วย
ของสำนกั งานการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน (เดลนิ วิ ส์, 2556)
การเสริมสร้างพฤติกรรมเชิงบวกในยุคพลวัต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 โรงเรียน
วชริ ธรรมสาธิต
2. วตั ถุประสงค์ของหลกั สูตร
เพื่อเสริมสร้างพฤติกรรมเชิงบวกในยุคพลวัต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 โรงเรียน
วชิรธรรมสาธิต ใน 7 ด้าน ได้แก่
2.1 การมวี นิ ัย
2.2 การลดละยาเสพตดิ
2.3 เพศวิถี
2.4 การไม่ใชค้ วามรนุ แรง
2.5 การละเมดิ สิทธิ
2.6 การเห็นคณุ คา่ ของอตั ลักษณ์ไทย
2.7 การสรา้ งความเปน็ พลเมือง
5
3. โครงสร้างหลักสตู ร
โครงสรา้ งหลักสตู รเสรมิ สร้างพฤตกิ รรมเชิงบวกในยุคพลวัต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6
โรงเรียนวชิรธรรมสาธิต ประกอบด้วยหน่วยการเรียนรู้ จำนวน 7 หน่วย 7 กิจกรรม ใช้เวลาในการจัด
กิจกรรมตลอดหลักสูตรรวม 100 ชั่วโมง โดยกำหนดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และการวัดและ
ประเมนิ ผลการเรียนรู้ ดังนี้
หนว่ ยการเรยี นรู้ กิจกรรม เวลา การจดั การเรยี นรู้ การวัดและ
(ประเภทกจิ กรรม) (ช่วั โมง) ประเมิน
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 1. การมาสาย 20 - การฟังการ - การสังเกต
ร้หู นา้ ทมี่ วี ินยั 2. การสง่ การบ้าน
3. การแต่งกาย บรรยายประกอบ พฤติกรรม
สื่อวิดที ศั น์ - ตรวจแบบ
4. ทรงผม - ประสบการณ์ ประเมินผลการ
5. การโดดเรียน
- สนทนา ปฏิบัตติ น
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 1. บหุ รี่ 15 - การฟังการ - การสงั เกต
ห่างไกลยาเสพตดิ 2. นำ้ กระทอ่ ม บรรยายประกอบ พฤติกรรม
3.สารเสพติดอื่น ๆ สอ่ื วดิ ีทัศน์ - ตรวจแบบ
- ประสบการณ์ ประเมนิ ผลการ
- สนทนา ปฏิบตั ิตน
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 1. ความสัมพนั ธ์ 15 - การฟงั การ - การสงั เกต
รู้ชวิ ติ เพศวถิ ี 2. พฤติกรรมทางเพศ บรรยายประกอบ พฤติกรรม
3. การล้อเลียน สอ่ื วิดีทัศน์ - ตรวจแบบ
- ประสบการณ์ ประเมินผลการ
- สนทนา ปฏิบตั ติ น
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 1. ทะเลาะววิ าท 10 - การฟงั การ - การสังเกต
หาวิธีลดรนุ แรง 2. การรังแก บรรยายประกอบ พฤติกรรม
3. การชมุ นุม ส่อื วดิ ที ศั น์ - ตรวจแบบ
- ประสบการณ์ ประเมินผลการ
- สนทนา ปฏบิ ัติตน
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5 1. การไมไ่ ด้รับ 15 - การฟังการ - การสงั เกต
ไม่แทรกแซง ความเปน็ ธรรม บรรยายประกอบ พฤติกรรม
ละเมดิ สิทธิ์ 2. การคมุ คามทางเพศ สอ่ื วิดที ัศน์ - ตรวจแบบ
3.การปล่อยปละละเลย - ประสบการณ์ ประเมินผลการ
- สนทนา ปฏิบัตติ น
6
หนว่ ยการเรยี นรู้ กจิ กรรม เวลา การจดั การเรยี นรู้ การวัดและ
(ประเภทกจิ กรรม) (ช่วั โมง) ประเมิน
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 6 1. การเคารพกันและกัน 15 - การฟงั การ - การสังเกต
หวนพนิ จิ 2. การไหว้ บรรยายประกอบ พฤติกรรม
อตั ลกั ษณ์ไทย 3. จติ สาธารณะ ส่ือวดิ ที ัศน์ - ตรวจแบบ
- ประสบการณ์ ประเมนิ ผลการ
- สนทนา ปฏิบตั ติ น
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 7 1. รับผิดชอบต่อโรงเรียน 10 - การฟงั การ - การสังเกต
ใสใ่ จความเปน็ 2. รับผดิ ชอบตอ่ สังคม บรรยายประกอบ พฤติกรรม
พลเมือง 3. รบั ผดิ ชอบตอ่ ชาติ สอ่ื วิดีทัศน์ - ตรวจแบบ
- ประสบการณ์ ประเมินผลการ
- สนทนา ปฏบิ ัตติ น
รวมตลอดหลักสูตร 100