The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

905-502 หลักการและทฤษฎี ทางการบริหาร
เรื่อง เครื่องมือการบริหารจัดการสถานศึกษาสมัยใหม่

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by da.rusnee, 2021-11-19 13:23:53

905-502 หลักการและทฤษฎี ทางการบริหาร

905-502 หลักการและทฤษฎี ทางการบริหาร
เรื่อง เครื่องมือการบริหารจัดการสถานศึกษาสมัยใหม่

เรื่อง เครื่องมือการบริหารจัดการสถานศึกษาสมัยใหม่

Balanced Scorecard (BSC)

จั ด ทำ โ ด ย
นางสาวรุสนีดา ดาเลโบ๊ะ

รหัสนักศึกษา 6419050037

เสนอ

ดร.เชาวนี แก้วมโน

905-502

หลักการและทฤษฎีทางการบริหาร

สารบัญ
คำนำ

รายงานนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของวิชา 905-
502 หลักการและทฤษฎีการบริหารการศึกษา เพื่อเป็น
แนวทางในการศึกษาแนวคิด ทฤษฎีการบริหารการศึกษา
หลักการบริหารการศึกษาและเครื่องมือสมัยใหม่
เรื่อง Balanced Scorecard โดยได้ศึกษาผ่านแหล่ง
ความรู้ต่างๆ อาทิเช่น ตำรา หนังสือเรียน และแหล่งความ
รู้จากเว็บไซต์ต่างๆ

ผู้จัดทำคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดทำรายงาน
ฉบับนี้จะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจการศึกษา
เกี่ยวกับแนวคิดทฤษฎี หลักการบริหารการศึกษาและ
เครื่องมือสมัยใหม่ Balanced Scorecard เป็นอย่างดี

รุสนีดา ดาเลโบ๊ะ
ผู้จัดทำ

สารบัญ

Balanced Scorcard................................. 1
ระบบการวัดและการประเมินผล...................... 3
สมดุลใน BSC............................................. 4
แผนที่กลยุทธ์.............................................. 5
วัตถุประสงค์................................................ 6
สิ่งที่นำไปปฏิบัติเชิงกลยุทธ์............................ 7
ระบบของ BSC............................................. 8
เกณฑ์การเลือกองค์กร.................................. 9
ประโยชน์ BSC........................................... 13
ข้อดีและข้อเสีย BSC.................................. 14
ทำไมต้องนำ BSC มาใช้.............................. 15
บรรณานุกรม............................................ 16

Balanced Scorecard 1

Balanced Scorecard เป็นกลยุทธ์ในการบริหารงานสมัยใหม่ และ
ได้รับความนิยมไปทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย Balanced Scorecard ได้ถูก
พัฒนาขึ้นเมื่อปี 1990 โดย Drs. Robert Kaplan จาก Harvard
Business School และ David Norton จาก Balanced Scorecard
Collaborative โดยตั้งชื่อระบบนี้ว่า “Balanced Scorecard” เพื่อที่ผู้
บริหารขององค์กรจะได้รับรู้ถึงจุดอ่อน และความไม่ชัดเจนของการบริหาร
งานที่ผ่านมา balanced scorecard จะช่วยในการกำหนดกลยุทธ์ในการ
จัดการองค์กรได้ชัดเจน โดยดูจากผลของการวัดค่าได้จากทุกมุมมอง เพื่อให้
เกิดดุลยภาพในทุก ๆ ด้าน มากกว่าที่จะใช้มุมมองด้านการเงินเพียงด้านเดียว
อย่างที่องค์กรธุรกิจส่วนใหญ่คำนึงถึง เช่น รายได้ กำไร ผลตอบแทนจาก
เงินปันผล และราคาหุ้นในตลาด เป็นต้น การนำ balanced scorecard มา
ใช้จะทำให้ผู้บริหารมองเห็นภาพขององค์กรชัดเจนยิ่งขึ้น

Balanced Scorecard คือระบบการบริหารงานและประเมินผลทั่วทั้ง
องค์กร และไม่ใช่เฉพาะเป็นระบบการวัดผลเพียงอย่างเดียว แต่จะเป็นการ
กำหนดวิสัยทัศน์ (vision) และแผนกลยุทธ์ (strategic plan) แล้วแปลผล
ลงไปสู่ทุกจุดขององค์กรเพื่อใช้เป็นแนวทางในการ ดำเนินงานของแต่ละ
ฝ่ายงานและแต่ละคน โดยระบบของ Balanced Scorecard จะเป็นการ
จัดหาแนวทางแก้ไขและปรับปรุงการดำเนินงาน โดยพิจารณาจากผลที่เกิดขึ้น
ของกระบวนการทำงานภายในองค์กร และผลกระทบจากลูกค้าภายนอก
องค์กรนำมาปรับปรุงสร้าง กลยุทธ์ให้มีประสิทธิภาพดีและประสิทธิผลดียิ่ง
ขึ้น เมื่อองค์กรได้ปรับเปลี่ยนเข้าสู่ระบบ Balanced Scorecard เต็มระบบ
แล้ว Balanced Scorecard จะช่วยปรับเปลี่ยนแผนกลยุทธ์ขององค์กร
จากระบบ “การทำงานตามคำสั่งหรือสิ่งที่ได้เรียนรู้สืบทอดกันมา ” ไปสู่ระบบ
“การร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวขององค์กร"

เครื่ องมือการบริหารจัดการสถานศึ กษาสมัยใหม่
BALANCED SCORECARD

Balanced Scorecard 2

Kaplan และ Norton ได้อธิบายถึงระบบ Balanced
Scorecard ที่คิดค้นขึ้นมาใหม่นี้ ดังนี้

Balanced Scorecard จะยังคงคำนึงถึงมุมมองของการวัดผลทางการ
เงินอยู่เหมือนเดิม แต่ผลลัพธ์ทางการเงินที่เกิดขึ้นจะบอกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับ
องค์กรในช่วงที่ผ่านมา บอกถึงความสามารถกับอายุของบริษัทที่อยู่ใน
อุตสาหกรรมนี้ แต่มันไม่ได้บอกถึงความสำเร็จขององค์กรที่จะมีต่อผู้ลงทุนที่จะ
มาลงทุนระยะยาวโดยการซื้อหุ้นของบริษัทและความสัมพันธ์ของลูกค้าแต่อย่างใด
จะเห็นได้ว่าเพียงการวัดผลทางการเงินด้านเดียวไม่เพียงพอ แต่มันก็ใช้เป็น
แนวทางและการตีค่าของผลการประกอบการขององค์กร ใช้เป็นข้อมูลที่จะเพิ่ม
มูลค่าขององค์กรในอนาคตและสร้างแนวทางสำหรับลูกค้า ผู้ขายวัตถุดิบหรือ
สินค้า ลูกจ้าง การปฏิบัติงาน เทคโนโลยีและการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ

Balance Scorecard ทำให้เราได้เห็นภาพขององค์กรใน 4 มุมมอง และ
นำไปสู่การพัฒนาเครื่องมือวัดผลโดยวิธีการรวบรวมข้อมูลและนำผลที่ได้มา
วิเคราะห์มุมมองทั้ง 4 ดังกล่าว ประกอบด้วย

1. The Learning and Growth Perspective เป็นมุมมองด้าน
การเรียนรู้และการเติบโต เช่น การพัฒนาความรู้ความสามารถของพนักงาน ความ
พึงพอใจของพนักงาน การพัฒนาระบบ เป็นต้น

2. The Business Process Perspective เป็นมุมมองด้าน
กระบวนการทำงานภายในองค์กรเอง เช่น การคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ การจัด
โครงสร้างองค์กรที่มีประสิทธิภาพ การประสานงานภายในองค์กร เป็นต้น

3. The Customer Perspective เป็นมุมมองด้านลูกค้า เช่น ความ
พึงพอใจของลูกค้า ภาพลักษณ์ กระบวนการด้านการตลาด เป็นต้น

4. The Financial Perspective เป็นมุมมองด้านการเงิน เช่น การ
เพิ่มรายได้ ประสิทธิภาพในการผลิตที่มีต้นทุนต่ำและมีการสูญเสียระหว่างผลิต
น้อย เป็นต้น

เครื่ องมือการบริหารจัดการสถานศึ กษาสมัยใหม่
BALANCED SCORECARD

Balanced Scorecard 3

Balance Scorecard (BSC) นั้นได้รับการพัฒนามาโดยตลอด ทำให้
ภาพของ BSC จากเพียงเครื่องมือที่ถูกใช้เพื่อวัดและประเมินผลองค์กร ไปสู่
การเป็นเครื่องมือเชิงระบบสำหรับการวางแผนและบริหารยุทธศาสตร์
(Strategic Planning) โดยผู้พัฒนาเครื่องมือนี้ (Norton และ Kaplan)
ยืนยันหนักแน่นว่า ความสมดุล (Balance) ในการพัฒนาองค์กรนั้นสามารถ
วัดและประเมินได้จากการมองผ่านมุมมองของระบบการวัดและประเมินผลใน
4 ด้านหลัก คือ

มุมมองด้านการเงิน (Financial Perspective; F)
มุมมองด้านลูกค้า (Customer Perspective; C)
มุมมองด้านการดำเนินการภายใน (Internal Perspective; I)
มุมมองด้านการเรียนรู้และพัฒนาการ (Learning and Growth; L)

ดังนั้น BSC จึงเป็นเสมือนเครื่องมือหรือกลไกในการวางแผนและบริหาร
กลยุทธ์ที่มีการกำหนดมุมมองทั้ง 4 ด้าน เพื่อให้เกิดความสมดุลในการพัฒนา
องค์กรจนบรรลุแผนกลยุทธ์ที่ได้วางไว้ในที่สุด

เครื่ องมือการบริหารจัดการสถานศึ กษาสมัยใหม่
BALANCED SCORECARD

Balanced Scorecard 4

คำว่าสมดุล ( Balance) ใน BSC หมายถึงอะไร

ด้วยเหตุที่หลายครั้งผู้พัฒนาและติดตั้ง BSC ในแต่ละองค์กรนั้น
มุ่งแต่จะพยายามเติมเต็มมุมมองการพัฒนาทั้ง 4 ด้าน (C-L-I-F) เท่านั้น
โดยละเลยประเด็นที่ว่า แม้ว่าจะทำให้ทั้ง 4 มุมมองนั้นครบถ้วน แต่ก็ไม่ได้
หมายความว่า ความสมดุลตามความมุ่งหมายของ BSC จะเกิดขึ้นได้
ความสมดุลนี้พึงต้องระลึกไว้อยู่เสมอในขณะพัฒนาและติดตั้ง BSC ว่า
ความสมดุลตามความมุ่งมาดคาดหมายของ BSC คือ ความสมดุล
(Balance) ระหว่าง

จุดมุ่งหมาย (Objective) : ระยะสั้นและระยะยาว
(Short - and Long - Term)
การวัดผล (Measure) : ทางด้านการเงินและไม่ใช่การเงิน
(Financial and Non-Financial)
ดัชนีชี้วัด (Indicator) : เพื่อการติดตามและการผลักดัน
(lagging and Leading)
มุมมอง (Perspective) : ภายในและภายนอก
(Internal and External)

ซึ่งแน่นอนว่า หาก BSC ที่ทำการพัฒนาขึ้นและใช้ในองค์กรไม่ได้
พยายามทำให้เกิดความสมดุลดังกล่าวข้างต้น ก็ย่อมคาดหวังผลประโยชน์
จากการทำ BSC ไม่ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย

เครื่ องมือการบริหารจัดการสถานศึ กษาสมัยใหม่
BALANCED SCORECARD

Balanced Scorecard 5

แผนที่กลยุทธ์(Strategy Map) และ BSC

สิ่งที่คนในองค์กรจะเข้าใจเป้าหมายขององค์กรได้ง่ายก็คือการสร้าง
map หรือ road map ที่แสดงเป็นขั้นตอนหรือเส้นทางที่จะดำเนินงาน
ซึ่งแผนการดำเนินงานขององค์กร ภาวะที่มีข้อจำกัดและมีการแข่งขัน
จึงต้องเป็นแผนที่กลยุทธ์หรือแผนยุทธศาสตร์การจัดทำ แผนยุทธศาสตร์
บนพื้นฐานของมุมมองทั้ง 4 และความสมดุลทั้ง 4 BSC ยังให้ความสำคัญ
ต่อความเชื่อมโยงมุมมอง (Perspective) โดยนำเสนอใน 2 รูปแบบคือ

แบบความสัมพันธ์ (Relation)
แบบลำดับความสำคัญ (Priority)

เครื่ องมือการบริหารจัดการสถานศึ กษาสมัยใหม่
BALANCED SCORECARD

Balanced Scorecard 6

วัตถุประสงค์และแผนที่เชิงกลยุทธ์ (Objectives and
Strategy maps)

วัตถุประสงค์เป็นข้อความสั้น ๆ ในสิ่งที่องค์กรจะต้องทำให้ดีที่สุดใน
แต่ละทั้งสี่มุมมอง
BSC ใช้แต่ละมุมมองทั้งสี่ด้านนี้ ในฐานะที่เป็นระบบการตรวจวัด
ประเมินค่า (Measurement system) การแปลกลยุทธ์ไปสู่การวัด
ค่าในแต่ละสี่มุมมองของระบบ
วัตถุประสงค์ ก็คือ อะไรเล่าที่เราจะต้องทำให้ได้ดี? (What they must
do well? - Objectives)
วัตถุประสงค์นั้นมักจะเริ่มต้นคำกิริยา และถูกกำหนดให้เชื่อมกับ
กลยุทธ์และตัววัดค่าต่าง ๆ
แผนที่เชิงกลยทุ ธ์ หมายถึง : การนำเสนอด้านภาพกราฟิกเพียงหนึ่ง
หน้ากระดาษที่แสดงว่าอะไรคือสิ่งที่องค์กรจะต้องทำให้ดีที่สุด (ในแต่ละ
มุมมองทั้งสี่) เพื่อที่จะเกิดการปฏิบัติจริงให้ประสบความสำเร็จตามกล
ยุทธฺที่วางไว้

เครื่ องมือการบริหารจัดการสถานศึ กษาสมัยใหม่
BALANCED SCORECARD

Balanced Scorecard 7

สิ่งที่นำไปปฏิบัติเชิงกลยุทธ์ (Strategic initiatives)

ถือเป็นหนึ่งในจิ๊กซอว์ที่สำคัญในการนำ BSC มาใช้ปฏิบัติงานตาม
กลยุทธ์ของเรา คือ การพัฒนาและการจัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่จะนำไป
ปฏิบัติเชิงกลยุทธ์ ซึ่งจะช่วยให้เราบรรลุเป้าหมาย สิ่งที่จะนำไปปฏิบัติเชิงกล
ยุทธ์นี้ ก็คือ โครงการพิเศษ กิจกรรม หรือโปรแกรมที่จะผลักดันให้เราบรรลุ
หรือทะลุเป้าหมายการดำเนินงานนั่นเอง

วัตถุประสงค์ (Objectives) สิ่งที่นำไปปฏิบัติเชิงกลยุทธ์
(Strategic initiatives)
ส่วนใหญ่ จะแสดงอยู่ใน
แผนที่เชิงกลยุทธ์ จนกว่า ระยะสั้น (Short-term) เช่น
เราตัดสินใจว่าจะเปลี่ยน การทำ Customer Loyalty
แนวทางเชิงกลยุทธ์ เช่น พออัตราการภักดีเริ่มตก เราก็
สร้างความดีใจแก่ลูกค้า จะต้องขึ้นโครงการใหม่ เช่น
(Delight our Development of a
customer) customer rewards
program ซึ่งมีจุดเริ่มต้นและ
สิ้นสุด

เครื่ องมือการบริหารจัดการสถานศึ กษาสมัยใหม่
BALANCED SCORECARD

Balanced Scorecard 8

ระบบของ BSC จะสนับสนุน 3 วัตถุประสงค์เบื้องต้น ดังนี้

1. การสื่อสาร (Communication) อนุญาตให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
เข้าถึงเรื่องราวที่องค์กรประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว

2. การวัดค่า (Measurement) BSC จะผ่อนปรนความท้าทายอัน
เกิดจากการวัดค่าต่าง ๆ ดังนี้

เราจะมีมาตรวัด (Gauge) บทบาทของสินทรัพย์ที่ไม่มีตัวตน
อย่างไร
การสร้างดุลยภาพระหว่างตัวชี้วัดด้านการเงินและไม่ใช่ด้านการ
เงิน
กลยุทธ์ได้ถูกนำไปปฏิบัติอย่างเต็มที่

3. การจัดการเชิงกลยุทธ์ (Strategic Management)
เป็นส่วนแกนกลางของระบบการจัดการที่เชื่อมโยงกับกระบวนการจัดการ
ที่สำคัญ คือ :

งบประมาณ (Budgeting - Strategic Resource
Allocation)
การจ่ายชดเชย (Compensation)
การกำกับดูแลกิจการที่ดีของคณะกรรมการ
(Board governance)
การจัดการความเสี่ยง (Risk Management)

เครื่ องมือการบริหารจัดการสถานศึ กษาสมัยใหม่
BALANCED SCORECARD

Balanced Scorecard 9

เกณฑ์สำหรับการเลือกองค์กรที่เหมาะสม
(CRITERIA FOR CHOOSING AN APPROPRIATE
ORGANIZATIONAL UNIT)

เราจำเป็นที่จะต้องตัดสินใจว่าเราควรจะเริ่ม BSC ณ จุดไหนดี มีองค์
ประกอบหลาย ๆ อย่างที่นำไปสู่การเลือกหน่วยองค์กรที่เหมาะสม โดย
พิจารณาแต่ละเกณฑ์ (ในเจ็ดเกณฑ์) กลับไปมาและถกเถียงหารือกันถึงวิธี
การที่จะใช้เกณฑ์เหล่านี้เพื่อการตัดสินใจที่สำคัญ

1. กลยุทธ์ (Strategy) : เป็นเกณฑ์ที่จำเป็นในการนำมาพิจารณาหาทาง
เลือกว่าหน่วยภายใต้การพิจารณานี้ มีรูปแบบใดในแผนที่กลยุทธ์ หลังจาก
ทั้งหมดแล้วเป็นระเบียบวิธีที่ออกแบบมาช่วยเราในการแปลกลยุทธ์เราไปยัง
วัตถุประสงค์และตัววัดค่าต่าง ๆ ซึ่งจะอนุญาตให้เราวัดประสิทธิผลในการส่ง
มอบตามกลยุทธ์ที่วางไว้ หากปราศจากการเป็นเจ้าข้าวเจ้าของตัวกลยุทธ์ใน
พื้นที่เราดูแลอยู่ เราอาจจะทำให้สมบูรณ์ได้ด้วยการรวบรวมตามที่บอกตามที่
สั่งของวัตถุประสงค์และตัววัดค่าทางการเงินและไม่ใช่การเงินซึ่งไม่ได้เชื่อม
โยงไว้ด้วยกันในอันที่จะเล่าเรื่องราวถึงกลยุทธ์ของเรา

สังเกตได้ว่าเราจะใช้วลีข้างต้นว่า "กลยุทธ์รูปแบบใด ๆ ก็ได้ any
form of a strategic plan เอกสารใหม่ ๆ ที่ได้ผลิตขึ้นจากที่ปรึกษา
ภายนอกที่มีค่าจ้างที่แพงหูฉี่และไม่ค่อยมีความจำเป็นนั้น เราต้องเข้าใจก่อน
การสนองตลาดและการนำเสนอคุณค่า (value proposition) มีความ
สำคัญยิ่ง

เครื่ องมือการบริหารจัดการสถานศึ กษาสมัยใหม่
BALANCED SCORECARD

Balanced Scorecard 10

เกณฑ์สำหรับการเลือกองค์กรที่เหมาะสม
(CRITERIA FOR CHOOSING AN APPROPRIATE
ORGANIZATIONAL UNIT)

2. การสนับสนุนโครงการ (Sponsorship) : ในส่วนต่อไปของบทนี้
จะพิจารณาเข้าไปใกล้ ๆ ถึงความจำเป็นในการสนับสนุนของฝ่ายบริหาร
สำหรับการพยายามนำ BSC มาใช้ วัตถุประสงค์ดังกล่าวนี้ได้มีการอภิปราย
ว่าหากผู้นำองค์กรไม่ได้เข้ามาร่วมติดตามให้ความสนอกสนใจเกี่ยวกับเป้า
หมายและวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ของ BSC และไม่เชื่อถือถึงประโยชน์ของ
เครื่องมือนี้แล้ว ความพยายามของเราจะได้รับการต่อต้านอย่างรุนแรง ผู้
สนับสนุนโครงการที่เป็นผู้บริหารจะต้องแสดงภาวะผู้นำสำหรับโปรแกรมนี้
ทั้งที่เป็นคำพูดแล้วการปฏิบัติจริง

3. ความจำเป็นในการนำ BSC มาใช้ (Need for a Balanced
Scorecard) : ความสำคัญของการแนะนำอันเป็นเหตุเป็นผลสำหรับ
โปรแกรม BSC บนพื้นฐานจากการที่ได้ทบทวน หน่วยที่เรากำลังพิจารณา
นั้นมีแรงผลักดันที่จะครอบคลุมการนำไปใช้จริงหรือเปล่า มันมีความกระจ่าง
ชัดไหมในการนำไปปรับปรุงระบบการจัดการการดำเนินงาน

4. การสนับสนุนของผู้เข้าร่วมโครงการ (Support of
participants) : จุดเด่นหรือแสงสว่างของการจัดการการดำเนินงานที่ดีนั้น
ย่อมมีอยู่ในทุก ๆ องค์กร ซึ่งนำพาโดยความกระตือรือร้นและเครื่องมือที่
สนับสนุนต่าง ๆ อย่างเช่น BSC ในปัจจุบันมีการนำมาใช้ในการจัดการการ
ดำเนินงานบางรูปแบบ มีความกระตือรือร้นที่จะแสดงให้เห็นคุณค่าของพวก
เขาแก่คนในองค์กรที่พร้อมจะรับฟังกลุ่มต่าง ๆ เหล่านี้ นับเป็นทองคำ
บริสุทธิ์

เครื่ องมือการบริหารจัดการสถานศึ กษาสมัยใหม่
BALANCED SCORECARD

Balanced Scorecard 11

เกณฑ์สำหรับการเลือกองค์กรที่เหมาะสม
(CRITERIA FOR CHOOSING AN APPROPRIATE
ORGANIZATIONAL UNIT)

5. ขอบเขตองค์กร (Organizational Scope): หน่วยงานที่เรา
เลือกควรจะดำเนินงานโดยมีกิจกรรมต่าง ๆ ที่ไขว้หรือตัดผ่านสายโซ่แห่ง
คุณค่าขององค์กรทั่วไป สามารถกล่าวได้อีกประโยคหนึ่งได้ว่า หน่วยงานนี้
ต้องมีกลยุทธ์ กระบวนการเฉพาะ การปฏิบัติการ และการบริหารทั่วไป การ
เลือกหน่วยนี้จะต้องตีบแคบ เน้นหน้าที่งาน (Functions) ที่จะสามารถผลิต
Scorecard ที่เฉพาะเจาะจง การวัดที่เน้นหน้าที่งาน

6. ข้อมูล (Data) : สององค์ประกอบอันเป็นเกณฑ์รวม
1) หน่วยงานนี้สนับสนุนวัฒนธรรมการวัดค่า (a culture of
measurement) หรือไม่? (ตัวอย่าง, พวกเขาจะรับผิดชอบ
ต่อการจัดการด้วยกลุ่มของตัววัดค่าต่าง ๆ ได้หรือไม่) ขณะที่
ทุก ๆ กลุ่มภายในองค์กรที่ทัน สมัยควรจะวางใจตัววัดค่าการ
ดำเนินงาน (Performance measures) สำหรับความ
พยายามแรก เราควรเลือกหน่วยงานที่เคยมีการนำตัวชี้วัดมา
ใช้บ้างแล้ว
2) หน่วยงานนี้สามารถที่จะสนับสนุนข้อมูลเพื่อนำไปคัดสรรเป็น
ตัวชี้วัดได้หรือไม่ อาจจะดูยากในการประเมินเบื้องต้น เพราะ
ด้วยบางตัวชี้วัดบน BSC ของเรานั้น อาจจะไม่สามารถระบุได้
ว่านำมาจากไหน

เครื่ องมือการบริหารจัดการสถานศึ กษาสมัยใหม่
BALANCED SCORECARD

Balanced Scorecard 12

เกณฑ์สำหรับการเลือกองค์กรที่เหมาะสม
(CRITERIA FOR CHOOSING AN APPROPRIATE
ORGANIZATIONAL UNIT)

7. ทรัพยากร (Resources) : เราไม่สามารถจะสร้างระบบการจัดการ
ใหม่ได้ด้วยลำพังตัวเอง BSC ที่ดีที่สุดนั้น เป็นผลผลิตที่มาจากทีมงานที่มี
ปัจเจกบุคคลต่าง ๆ ร่วมกันยึดมั่นในเป้าหมายอันเป็นเลิศร่วมกัน สร้าง
ความมั่นใจกับหน่วยงานงานที่เราได้เลือกไว้นั้นด้วยความตั้งใจ และสามารถ
ที่จะจัดสรรทรัพยากรกระจายออกไปสำหรับการนำไปปฏิบัติ หาก
ประสบการณ์ของท่านมีมากเหมือนกับที่ข้าพเจ้ามีแล้ว เราจะพบห้วงเวลา
ของผู้คน อันเป็นสิ่งที่พวกเขาปกป้องไว้อย่างแข็งขัน และเป็นความชอบ
ธรรมที่ควรจะปกป้อง.

เครื่ องมือการบริหารจัดการสถานศึ กษาสมัยใหม่
BALANCED SCORECARD

Balanced Scorecard 13

ประโยชน์ที่ได้จากการนำ Balanced Scorecard ไปใช้

1. ช่วยให้ผลการดำเนินงานขององค์กรดีขึ้น
2. ทำให้ทั้งองค์กรมุ่งเน้นและให้ความสำคัญต่อกลยุทธ์ของ
องค์กร โดยต้องให้เจ้าหน้าที่ทั่วทั้งองค์กรให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ของ
องค์กรมากขึ้น และเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยในการนำกลยุทธ์ไปสู่การปฏิบัติ
3. ช่วยในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และวัฒนธรรมขององค์กร
โดยอาศัยการกำหนดตัวชี้วัดและเป้าหมายเป็นเครื่องมือในการปรับเปลี่ยน
พฤติกรรมของเจ้าหน้าที่
4. ทำให้พนักงานเกิดการรับรู้และเข้าใจว่างานแต่ละอย่างมีที่มาที่ไป
อีกทั้งผลของงานตนเองจะส่งผลต่อผลการดำเนินงานของผู้อื่นและของ
องค์กร

เครื่ องมือการบริหารจัดการสถานศึ กษาสมัยใหม่
BALANCED SCORECARD

Balanced Scorecard 14

ข้อดีของ BSC

1. เป็นการประเมินในองค์รวมที่ครอบครุมมิติต่างๆ ทั้งด้านการ
เงินและไม่ใช่การเงินเพื่อให้เกิดความสมดุล

2. มีการเชื่อมโยงระหว่างการประเมินผลกับกลยุทธ์ขององค์กร
อย่างเป็นระบบ ทำให้การประเมินมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน

3. ใช้เป็นเครื่องมือในการผลักดันกลยุทธ์องค์กรได้
4. เป็นการวัดตามมุมมองแบบเหตุและผล

(Cause and Effect)
5. มีการพัฒนาแนวคิดอย่างต่อเนื่องโดยนำผลจาก

ประสบการณ์ในการปฏิบัติมาใช้ ทำให้สามารถนำไปใช้ได้จริง
กับองค์กร

ข้อเสียของ BSC

1. เหมาะกับองค์กรที่มีการจัดทำแผนกลยุทธ์เพื่อใช้เป็นแนวทาง
ในการดำเนินงานขององค์กร

2. การประเมินผลแบบนี้ต้องมีความสมดุลในมิติต่างๆ มิฉะนั้น
BSC จะไม่สามารถใช้ได้อย่างเต็มที่

3. หากมีตัวชี้วัดหรือตัวเลขมากเกินไป จะทำให้ประสิทธิผลของ
เครื่องมือลดลง

4. BSC ต้องมีการทบทวนอย่างต่อเนื่อง

เครื่ องมือการบริหารจัดการสถานศึ กษาสมัยใหม่
BALANCED SCORECARD

Balanced Scorecard 15

ทำไมองค์กรจึงต้องมีการนำ Balanced Scorecard มาใช้

จากผลการสำรวจบริษัทในประเทศสหรัฐฯ ของ CFO Magazine
เมื่อปี 1990 พบว่า มีเพียง 10% เท่านั้นที่องค์กรประสบความสำเร็จด้าน
การใช้แผนกลยุทธ์ ทั้งนี้องค์กรส่วนใหญ่พบว่ามีปัญหาและอุปสรรคที่
สำคัญ ดังนี้

1. The Vision Barrier (อุปสรรคด้านวิสัยทัศน์) มีพนักงานที่
เข้าใจถึงแผนกลยุทธ์ขององค์กรที่ตนเองทำงานอยู่เพียง 5%

2. The People Barrier (อุปสรรคด้านบุคลากร) พบว่ามี
พนักงานระดับผู้จัดการเพียง 25% ที่ให้ความสำคัญและบริหารงานตาม
แผนกลยุทธ์

3. The Resource Barrier (อุปสรรคด้านทรัพยากร) พบว่ามี
จำนวนองค์กรถึง 60% ที่ไม่ได้บริหารงบประมาณให้เป็นไปตามแผน
กลยุทธ์ที่กำหนดไว้

4. The Management Barrier (อุปสรรคด้านการจัดการ) มีผู้
บริหารองค์กรมากถึง 85% ที่ให้เวลาในการประชุมสนทนาในเรื่องแผน
กลยุทธ์น้อยกว่า 1 ชั่วโมงต่อเดือน

จากอุปสรรคข้างต้น เกิดจากบุคลากรในทุกระดับไม่เข้าใจหรือมอง
เห็นภาพของแผนกลยุทธ์ขององค์กร ดังนั้นการทำงานจึงไม่สอดคล้อง
กับแผน ซึ่งในส่วนนี้เองที่ BSC จะช่วยให้ผู้บริหารได้มองเห็นภาพและเส้น
ทางที่กำหนดไว้ในแผนได้ชัดเจน บุคลากรทุกคนสามารถรับรู้ถึงกิจกรรมที่
ตนเองจะต้องทำให้ได้ตามเป้าหมายที่กำหนด ส่วนระยะการพัฒนารูปแบบ
ของ Balanced Scorecard สำหรับแต่ละองค์กร ขึ้นอยู่กับขนาดของ
องค์กร แต่โดยทั่ว ๆ ไป ถ้าองค์กรนั้นมีการเขียนแผนธุรกิจอยู่เดิมแล้ว ก็
อาจจะใช้เวลาประมาณ 2 ถึง 6 เดือน

เครื่ องมือการบริหารจัดการสถานศึ กษาสมัยใหม่
BALANCED SCORECARD

16

บรรณานุกรม

พสุ เดชะรินทร์. (2548). Balanced Scorecard รู้ลึก
ในการปฏิบัติ. พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์แห่ง
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

แค็ปแลน, โรเบิร์ต เอส และ นอร์ตัน, เดวิด พี. (2547).
Balanced Scorecard กับการเน้นกลยุทธ์
(พิพัฒน์ ก้องกิจกุล, ผู้แปล). กรุงเทพฯ :
เอ็กซเปอร์เน็ท. (ต้นฉบับภาษาอังกฤษ พิมพ์
ค.ศ. 2003).

ธรรมรักษ์ เรืองจรัส. (ม.ป.ป.) Balanced Scorecard
เส้นทางจากกลยุทธ์สู่การปฏิบัติการ. (ออนไลน์).
สืบค้นเมื่อ 17 พฤศจิกายน 2564. จาก
http://www.thai-hrd.com/images/column_
1271961326/Bsc%20%20Path%20to%20
Strategy.pdf

อภิรักษ์ กาญจนคงคา. (2562.) พัฒนาการของบาล้านสกอร์
การ์ด. (ออนไลน์). สืบค้นเมื่อ 17 พฤศจิกายน 2564.
จาก http://huexonline.com/knowledge/
28/217/

Balanced Scorecard. (ม.ป.ป.) (ออนไลน์). สืบค้นเมื่อ
17 พฤศจิกายน 2564. จาก https://sites.
google.com/site/thanyalakblog/balanced-
scorecard

เครื่ องมือการบริหารจัดการสถานศึ กษาสมัยใหม่
BALANCED SCORECARD


Click to View FlipBook Version