The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by bm56137, 2023-01-01 11:32:01

โคลงกำสรวล

โคลงกำสรวล

โคลงกำสรวล



โครงงานภาษาไทย
เรื่อง การจัดทำหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e – book) ส่งเสริมการอ่านวรรณคดีไทย

ชื่อหนังสือ “โคลงกำสรวล”



นายปฏิพัทธ์ ผู้จัดทำ เลขที่ ๑๓
นายศุภฤกษ์ เลขที่ ๑๘
นางสาวกัสมา กฤตอำพัน เลขที่ ๒๕
นางสาวปวิชญาดา แก้วใส เลขที่ ๒๘
นางสาววีร์สุดา กาฬเนตร เลขที่ ๓๙
ศรีมันตะ
สัตย์ซื่อ

ครูที่ปรึกษาโครงงาน
นางกรรณิการ์ พลพวก นางสาววิไลวรรณ เดชผล
โรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี




รายงานนี้เป็นส่วนประกอบโครงงานวิชาภาษาไทย
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔
วันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๕



คำนำ
รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๓๑๑๐๒ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่
๔/๘ โดยมีจุดประสงค์เพื่อศึกษาความรู้ที่ได้จากเรื่อง โคลงกำสรวล ซึ่งรายงานนี้มีเนื้อหาเกี่ยว
กับผู้แต่ง ทำนอง จุดมุ่งหมาย เรื่องย่อ และคุณค่าของโคลงกำสรวล
ผู้จัดทำได้เลือกหัวข้อนี้ในการทำรายงาน เนื่องมาจากเป็นเรื่องที่น่าสนใจและต้องขอ
ขอบคุณ ครูที่ปรึกษาโครงงาน นางกรรณิการ์ พลพวก และ นางสาววิไลวรรณ เดชผล ผู้ให้
ความรู้และแนวทางการศึกษา เพื่อน ๆ ทุกคนที่ให้ ความช่วยเหลือมาโดยตลอดผู้จัดทำหวังว่า
รายงานฉบับนี้จะให้ความรู้ และเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านทุก ๆ ท่าน

คณะผู้จัดทำ





สารบัญ

เรื่อง หน้า

คำนำ………………………………………………..………………………………………………………… ก
สารบัญ…………………………………………………………………………………………………..…… ข
โคลงกำสรวล…………………………………………………………………………………………..….. ๑

ทำนองเเต่ง………………………………………………………………………………………….. ๒
จุดมุ่งหมาย………………………………………………………….………………………………. ๒
เรื่องย่อ.………………………………………………………………………………………………. ๒
คุณค่าของหนังสือ…………………………………………………………………………………….….. ๓
ด้านภาษาและสำนวน…………………………………………………………………………… ๓
ด้านความรู้………………………………………………………………………………………….. ๓
ด้านสังคมและวัฒนธรรม……………………………………………………………………….. ๔
ด้านอิทธิพลต่อวรรณคดีอื่น………………………………………………………………….… ๔
ตัวอย่างข้อความบางตอน……………………………………………………………………….……. ๕
อ้างอิง…………………………………………………………………………………………………………. ๖





โคลงกำสรวล

โคลงกำสรวลนี้ บางทีเรียกว่า กำสรวลโคลงดั้นบ้าง หรือ กำสรวลศรีปราชญ์บ้าง เพราะ
สันนิษฐานกันว่า ศรีปราชญ์เป็นผู้แต่งเมื่อคราวถูเนรเทศไปยังเมืองนครศรีธรรมราช
เพื่อแสดงความอาลัยหญิงที่ตนรัก เหตุที่เข้าใจว่าศรีปราชญ์เป็นผู้แต่งเพราะมีคำกล่าวนามศรี
หลายแห่งในคำโคลง

อย่างไรก็ตามหนังสือเล่มนี้ สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงอธิบายไว้เมื่อคราว
พิมพ์หนังสือโคลงนิราศหริภุญไชย พ.ศ.๒๔๖๗ ว่า "มีนิราศเรื่องอื่นที่แต่งใกล้ยุดกัน คือ โคลง
กำสรวล กับ โคลงทวทศมาศ" ฉะนั้นตามความคิดเห็นของพระองค์ ท่านทรงเห็นว่า โคลง
กำสรวลเป็นหนังสือที่แต่งในยุดเดียวกับโคลงนิราศหริภุญไชย และโคลงทวาทศมาส ส่วน
ม.ร.ว.สุมนชาติ สวัสดิกุล ได้กล่าวไว้ในหนังสือวรรณคดี พ.ศ. ๒๔๙๐ว่า "กำสรวลโคลงดั้นนั้น
อายุเก่ากว่าอนุรุทธคำฉันท์ ถึง ๒๐๐ ปี กำสรวลโคลงดั้นเป็นหนังสือที่เห็นชัด ๆ ว่า อยู่ในสมัย
อยุธยาสมัยแรก คือ สมัยสมเด็จพระบรมไตร โลกนาถ ทั้งถ้อยคำสำนวนไม่มีที่เถียงเลย เทียบ
ได้กับยวนพ่าย พระลอ และมหาชาติคำหลวง" นักวรรณคดีสมัยหลังต่างมีความเห็นว่า โคลง
กำสรวลเป็นหนังสือที่แต่งในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น และมิใช่ผลงานของศรีปราชญ์เพราะ
ถ้อยคำสำนวนเก่าแก่มากกว่าหนังสืออนุรุทธคำฉันท์ ซึ่งแต่งในสมัยสมเด็จพระนารายณ์
มหาราช คำที่ใช้เป็นภาษายุคเดียวกับมหาชาติคำหลวงและลิลิตยวนพ่าย จึงสันนิษฐานว่า
อาจแต่งในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ หรือสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒

ผู้แต่ง : ศรีปราชญ์


ทำนองแต่ง
แต่งด้วย โคลงดั้นบาทกุญชร บทแรกเป็นร่ายคั้น มีร่าย ๑ บท โคลงดั้น ๑๒๘ บท

จุดมุ่งหมาย
เพื่อแสดงความอาลัยคนรัก ซึ่งผู้แต่งต้องจากคนรักไป

เรื่องย่อ
เริ่มด้วยร่ายสดุดีกรุงศรีอยุธยาว่ารุ่งเรืองงดงาม เป็นศูนย์กลางแห่งพุทธศาสนา ราษฎร

สมบูรณ์พูนสุข ต่อจากนั้นกล่าวถึงการที่ต้องจากนาง แสดงความห่วงใย ไม่แน่ใจว่าควรจะ
ฝากนางไว้กับผู้ใดเดินทางผ่านตำบลหนึ่งๆ ก็รำพันเปรียบเทียบชื่อตำบลเข้ากับความอาลัย
ที่มีต่อนางตำบลที่ผ่าน เช่นบางกะจะ เกาะเรียน ด่านขนอน บางไทรนาง บางขดาน ย่าน
ขวาง ราชคราม ทุ่งพญาเมือง ละเท เชิงราก นอกจากนี้ได้นำบุคคลในวรรณคดีมาเปรียบ
เทียบกับเหตุการณ์ในชีวิตของตน เกิดความทุกข์ระทมที่ขังไม่พบนาง อย่างบุคคลใน
วรรณคดีเหล่านั้นโดยกล่าวถึง พระรามกับนางสีดา พระสูตรธนูสุธนูกับนางจิระประภา และ
พระสมุทรโฆษกกับนางพินทุมดี ว่าต่างได้อยู่ร่วมกันอีก ภายหลังที่ต้องจากกันชั่วเวลาหนึ่ง
การพรรณนาสถานที่สิ้นสุดลงโดยที่ไม่ถึงนครศรีธรรมราช



คุณค่าของหนังสือ
๑.ด้านภาษาและสำนวน

โคลงกำสรวลเป็นหนังสือประเภทโคลงนิราศที่มีคำบาลี สันสกฤต
คำเขมรและคำโบราณปนอยู่มาก วิธีเขียนหนังสือเป็นแบบโบราณ เช่น สู่สมสองสม เขียนเป็น
สู่สํสองสํ เสวยรมย์ เขียนเป็น เสวยรัม จัก เขียนเป็น จกก จึงอาจใช้เป็นแนวทางการศึกษา
ค้นคว้าด้านภาษา และการเปลี่ยนแปลงรูปศัพท์และความหมายได้ นอกจากนั้น โคลงกำสรวล
ยังเป็นหนังสือที่มีความไพเราะ มีสัมผัสในที่ไพเราะยิ่ง สำนวนโวหาร โลดโผนและคมคายน่าฟัง
ชวนให้เกิดอารมณ์คล้อยตาม การใช้ถ้อยคำมีความหมายเด่นชัดกินความลึกซึ้ง การพรรณนา
แจ่มแจ้งทำให้เกิดจินตภาพและยังรักษาข้องบังคับเคร่งครัดตามหลักฉันทลักษณ์ โวหารเปรียบ
เทียบดี เป็นตัวอย่างของวรรณคดีนิราศในยุคหลัง
๒. ด้านความรู้ ให้ความรู้หลายประการ คือ

๒.๑ ความรู้ทางวรรณคดี โคลงกำสรวลอ้างเรื่องรามยณะ สมุทรโมษคำฉันท์ สุธนู
นำตัวเอกในเรื่องที่มีใจความเมื่อจากนางมาเทียบกับความรักของตน และตอนพระรามจอง
ถนนจึงทำให้ผู้อ่านได้รับความรู้ทางวรรณคดีด้วย

๒.๒ ความรู้ทางด้านธรรมชาติวิทยา ทำให้รู้จักนกและสัตว์ต่าง ๆ เช่น "โกกิลกรวิกอั้
ยง ยูงยาง" (นกดุหว่า นกการเวก นกเอี้ยง นกยูง นกยาง) "มงงกง ทุกงง ฉลาม แหนแห่"
(ปลามังกง ปลาทุกัง ปลาฉลาม ว่ายมาเป็นฝูงๆ )

๒.๓ ความรู้ทางด้านประวัติศาสตร์และตำนานของสถานที่ เช่น เกาะตำแย เพราะมี
ตำแยมากตำบลขอมตัดหวาย มีตำนานว่าขอมตัดหวายแล้วถูกหวายพุ่งลงมาแทงตายที่นั่น

๒.๔ ความรู้ด้านศิลปกรรม กล่าวถึง ความเจริญรุ่งเรืองของศิลปกรรมในสมัยกรุง
ศรีอยุธยา มีปราสาทราชวังที่งดงาม เป็นต้น



๓. ด้านสังคมและวัฒนธรรม

๓.๑ ความเจริญรุ่งเรืองของศาสนา ทำให้เห็นความรุ่งเรืองของกรุงศรีอยุธยาซึ่งเป็น

ศูนย์กลางของพระพุทธศาสนา

๓.๒สภาพชีวิตความเป็นอยู่ ทำให้เห็นความเป็นอยู่ของคนในสมัยกรุงรีอยุธยาตอน

ต้นตลอดจนการทำมาหากิน ดังโคลงว่า

ด้าวหนนอเนกซื้อ ขนขาย

อรอ่อนเลวงคิด ค่าพร้าว

หมากสุกชระลายปลง ปลิดใหม่

มือแม่ค้าล้าวล้าว แล่ยชิงโชรมชิง

(ความว่า ที่ตำบลนั้นมีการซื้อขายและขนสินค้ากันมาก เห็นแต่มือขวักไขว่และเสียงคิด

ราคามะพร้าวกันเซ็งแซ่มีหมากสุกเอามาจากต้นและปลิดใหม่ๆพวกแม่ค้ามือสับสน

เพราะรีบชิงกันมาซื้อและรุมกันซื้อ)

๔. ด้านอิทธิพลต่อวรรณคดีอื่น

โคลงกำสรวลเป็นแบบฉบับของการเขียนโคลงนิราศของกวีสมัยหลังโดยเฉพาะกวี

ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นจะเลียนแบบการชมเมือง การฝากนาง สารสั่ง เป็นต้น

เช่น นายนรินทรธิเบศร์ แต่งนิราศนรินทร์ พระยาตรัง แต่ง นิราศตามเสด็จลำน้ำน้อย ก็

เลียนแบบโคลงกำสรวล



ตัวอย่างข้อความบางตอน

ฝากนาง ชมเมือง

โฉมแม่จกฝากน่านน้ำ อรรณพ แลฤา อยุธยายศยิ่งฟ้า ลงดิน แลฤา

อินทรท่านทอดโฉมเอา สู่ฟ้า อำนาจบุญเพรงพระ ก่อเกื้อ

โฉมแม่จกฝากดิน ดินท่าน แล้วแฮ เจดียลอออินทร ปราสาท

ดินฤาขดดเจ้าเหล้า สู่สํสองสํ ในทาบทองแล้วเนื้อ นอกโสม

โฮมแม่ฝากน่านน้ำ อรรณพ แลฤา พรายพรายพระธาตุเจ้า จอนจันทร์ แจ่มแฮ

ยยวนาคเชอยชํอก พี่ไหม้ ไตรโลกยเลงคือโคม ค่ำเช้า

โฉมแม่รำพึงจบ ไตรโลก พิหารรบยงบรรพ รุจิเรข เรืองเฮ

โฉมแม่ใครสงวนได้ เท่าเจ้าสงวน ทุกแห่งห้องพระเจ้า น่งเนือง

เอง

โคลงกำสรวลเป็นงานนิพนธ์เรื่องเอกของศรีปราชญ์ มีคุณค่าทางวรรณคดีอย่างยอดเยี่ยม

ถ้อยคำสำนวนโวหารที่คมคายจับใจ แสดงความเป็นต้นคิดหลายตอน ทำให้กวีรุ่นหลังพากัน

เลียนแบบอย่าง เช่น ตอนชมเมือง และตอนฝากนาง นอกจากนี้ยังให้ความรู้เกี่ยวกับวรรณคดี

เรื่องอื่น ๆ บางเรื่อง เช่น รามเกียรติ์ สมุทรโฆษ ในด้านภาษา โคลงกำสรวลใช้คำที่เป็นภาษา

โบราณ ภาษาถิ่น ภาษาบาลี ภาษาสันสกฤตและภาษาเขมรอยู่มาก

โคลงกำสรวลแสดงให้เห็นความวิจิตตระการของปราสาทราชวัง และวัดวาอารามของกรุง

ศรีอยุธยา ความเป็นอยู่ของประชาชนในด้านการแต่งกาย อาหารการกิน การเล่นรื่นเริง และ

สภาพภูมิศาสตร์เส้นทางการเดินทางของกวี



อ้างอิง
โคลงกำสรวล. จาก http://www.satriwit๓.ac.th. สืบค้นเมื่อวันที่

๑ มกราคม ๒๕๖๖.
วรรณคดีไทยสมัยอยุธยาตอนต้น โคลงกำสรวล. จาก

https://sites.google.com. สืบค้นเมื่อวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๖.






Click to View FlipBook Version