The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงงาน้ำพุจากขวดพลาสติก

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

โครงงาน้ำพุจากขวดพลาสติก

โครงงาน้ำพุจากขวดพลาสติก

โครงงานการออกแบบด้วยเทคโนโลยี เรื่อง น้ำพุจากขวดน้ำพลาสติก 1.ด.ญ.สลิลทิพยน์ ามฮูง เลขที่ 2 2.ด.ญ.พิชญ์สินี ทนนาดี เลขที่ 9 3.ด.ญ.อญัชลีพร เชื้อเจ็ดตน เลขที่ 22 4.ด. ญ จีนภัส มังคลาด เลขที่ 25 5.ด.ช ภูตะวัน สุดใจ เลขที่ 39 ชั้นมธัยมศึกษาปีที่ 2 ห้อง 3 เสนอ ครูสุนทรา ธรรมสอน รายงานฉบับนี้เป็ นส่วนหนึ่งของวิชา ว20215 โครงงานออกแบบด้วยเทคโนโลยี โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม จังหวัดเชียงราย


เรื่อง : น้ำพุจากขวดพลาสติก คณะผู้จัดทำ: 1.ด.ญ.สลิลทิพยน์ ามฮูง เลขที่ 2 2.ด.ญ.พิชญ์สินี ทนนาดี เลขที่ 9 3. ด.ญ.อญัชลีพร เชื้อเจ็ดตน เลขที่ 22 4.ด. ญ.จีนภสั มงั คลาด เลขที่ 25 5. ด.ช.ภุตะวนั สุดใจ เลขที่39 โรงเรียน : สามัคคีวิทยาคม จังหวัดเชียงราย มาทา ให้เกิดประโยชน์ซ่ึงทา ให้เกิดผลดี ใน ด้านความคิดสร้างสรรคใ์นการทา สิ่งประดิษฐ์ครั้งนี้ไดน้าความคิด ในการสร้าสรรคอ์อกมาประดิษฐ์เป็นนน้ำพุจากขวดน้ำพลาสติก ผลการดำเนินการจากผลการตรวจสอบคุณภาพและประสิทธิภาพการใช้งานโดยการนำสิ่งของเหลือใช้มา ประดิษฐ์ผลปรากฏว่าสิ่งที่ประดิษฐ์ช่วยส่งเสริมความคิดสร้างสรรคแ์ละการศึกษาเรียนรู้เรื่องการออกแบบ แลเทคโนโลยีและสามารถนา ความรู้มาประดิษฐ์น้ำพุจากขวดน้ำพลาสติกอย่างถูกวิธีและมีประสิทธิภาพใน การใช้งาน


กิตติกรรมประกาศ โครงงงานเรื่อง น้ าพุจากขวดพลาสติก คณะผู้จัดท าได้ด าเนินการจัดท า เพื่อลดขยะใน โลก โดยการน าวัสดุที่ใช้แล้ว หรือวัสดุเหลือใช้มาใช้ให้เกิดประโยชน์โดยได้รับการสนับสนุน การให้คาปรึกษาจากคุณครูและได้รับความอนุเคราะห์จากผู้ปกครองที่ได้ให้ข้อเสนอแนะแนะน าการท าต่างๆ คณะผจู้ดัทา หวงัวา่ โครงงานน้ีจะเป็นแนวทางและประโยนช์ต่อผทู้ี่พบเห็นและขอขอบคุณทุกท่านดงัที่ไดก้ล่า วถึงมาข้างหน้า และที่ไม่ได้กล่าวถึง ณ ที่น้ีเป็นอยา่งสูงคณะผู้จัดท าโครงงานน้า พุจากขวดพลาสติก


สารบัญ หน้า บทคัด ก กิตติกรรมประกาศ ข สารบัญ ค บทที่ 1 บทนำ 1 บทที่ 2 เอกสาร และงานวิจยั ที่เกี่ยวข้อง 4 บทที่ 3 วิธีการดา เนินการ 5 บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล 16 บทที่ 5 สรุปและอภิปราย 17 บรรณานุกรม 18 ภาคผนวก 19


บทที่ 1 บทนำ ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา การทำน้ำพุ แบบไม่ต้องใช้ไฟไฟวิธีนี้อาศัยหลักแรงดันลมและน้ำโดยเมื่อเทน้ำที่ขวดที่อยู่ด้านบนน้ำก็จะ ไหลไป ที่ขวดขวดด้านล่างสุดเมื่อน้ำลงถึงขวดล่างสุดก็จะไปดันอากาศที่อยู่ในขวดใกล้ไปออกที่ขวดบน และ อากาศก็จะไปดันน้ำที่อยู่ขวดบน ให้ไหลออกตามหลอด (เมื่อน้ำออกด้านบน น้ำก็จะไหลลงมาที่ขวดด้าน ล่าง หมุนอย่างนี้ไป เรื่อย ๆ ) ก็จะได้น้ำพุ ที่มีน้ำไหลอยู่ตลอดเวลา เพื่อน ๆ อาจดัดแปลงไปทำน้ำพุในรูป แบบอื่น ๆ ได้ วัตถุประสงค์ของการศึกษา 1.เพื่อศึกษาหาวิธีการทำน้ำพุด้วยขวดพลาสติก 2.เพื่อศึกษาหาวิธีการทำน้ำพุโดยไม่ต้องใช้ไฟ 3.เพื่อให้ผู้จัดทำได้ร่วมกันคิดวิธีการทำน้ำพุเเบบไม่ใช้ไฟ ประโยชน์ของการศึกษา 1.ได้ทราบสาเหตุของปัญหาอะไรที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน 2.ทราบวิธีลดปัญหาภาวะโลกร้อน หรือช่วยให้ภาวะ โลกร้อนนี้ลดนี้อยู่ลดได้


ขอบเขตของการศึกษา 1.ขอบเขตของการศึกษานี้เพื่อศึกษาปัจจัยของน้ำพุน้ำพุที่รวมกันของน้ำหรือของเหลวอื่น ๆ ที่พ้นผ่านหัว ฉีดที่มีรูปร่างที่แน่นอนเพื่อให้เป็นปั๊มแรงดันน้ำทั่วไป. 2.สถานที่ที่ใช้ในการศึกษาโรงเรียนสามัคคีวิทยาคม 3.ระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษาวันที่ 1 ธันวาคม 2565 ถึง วันที่ 4 ธันวาคม 2565 4.กลุ่มประชากรตัวอย่างนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่2.3โรงเรียนสามัคคีวิทยาคมจำนวน5คน สมมติฐานของการศึกษาเเรงดันอากาสทำให้เกิดน้ำพุ นิยามศัพท์เฉพาะ น้ำพุ หมายถึง น้ำที่พุพ่งขึ้นมาจากใต้พื้นดินโดยธรรมชาติน้ำพุมีทั้งน้ำร้อนและน้ำเย็น น้ำ ร้อนและน้ำกระด้างแล้วแต่ลักษณะของดินและหินซึ่งอยู่ใต้ผิวพื้นดินนั้น ขวด หมายถึง ภาชนะกลวงรูปสูงคอคอดปากแคบทำด้วยแก้วพลาสติก โลหะ เซรามิก เป็นต้น มีหลายทรง เช่น กลม แบน ใช้บรรจุของเหลว


พลาสติก หมายถึง สารประกอบอินทรีย์ที่นักวิทยาศาสตร์สังเคราะห์ขึ้นทดแทนวัสดุ ธรรมชาติ มีคุณสมบัติมากมาย เช่น น้ำหนักเบา หล่อเป็นรูปทรงได้ตามต้องการ ทน ความชื้น และการสึกกร่อนได้ดีเป็นฉนวนไฟฟ้า ขวดพลาสติก หมายถึง ขวดทที่ทำจากพลาสติก ใช้บรรจุของเหลว เช่น น้ำ น้ำอัดลม น้ำมันเครื่อง น้ำมันประกอบอาหาร ยา ยาสระผม นม และหมึก มีตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึง ขวดคาร์ บอยขนาดใหญ่


บทที่2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ในการศึกษาเรื่อง ทำน้ำพุจากขวดพลาสติก ซึ่งมีวัตถุประสงค์คือ ทำน้ำพุโดยใช้พลาสติก และนำมา ตกแต่ง สถานที่ต่างๆเพื่อความสวยงาม คณะผู้จัดทำได้ศึกษาความรู้เกี่ยวกับแรงดันลมและแรงดันน้ำเพื่อนำ มา ประยุกต์ใช้ในการทำน้ำพุจากขวดพลาสติกผู้ศึกษาได้ทำการศึกษาค้นคว้าหาความรู้โดยศึกษา ตาม หัวเรื่อง ดังนี้ 2.1 น้ำพุจากขวดพลาสติก 2.2 แรงดันอากาศ 2.3 แรงดันน้ำ 2.4 ขวดน้ำ 2.5 น้ำ 2.6 อากาศ 2.7 เเรงโน้มถ่วง 2.8 พลาสติก 2.9 หลอดน้ำ


2.1น้ำพุจากขวดพลาสติก เว็บไซต์https://www.masaso m.com/webboard/viewtopic/163 ได้กล่าวว่าการทำน้ำพุแบบไม่ ต้องใช้ไฟวิธีนี้อาศัยหลักแรงดันลมและน้ำโดยเมื่อเทน้ำที่ขวดที่อยู่ด้านบนน้ำก็จะไหลไปที่ขวดด้านล่างสุด เมื่อน้ำลงถึง ขวดล่างสุดก็จะไปดันอากาศที่อยู่ในขวด ให้ไปออกที่ขวดบน และอากาศก็จะไปดันน้ำที่อยู่ ขวด บน ให้ไหล ออกตามหลอด (เมื่อน้ำออกด้านบน น้ำก็จะไหลลงมาที่ขวดด้านล่าง หมุนอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ) ก็จะ ได้น้ำพุ ที่ มีน้ำไหลอยู่ตลอดเวลา เพื่อน ๆ อาจดัดแปลงไปทำน้ำพุในรูปแบบอื่น ๆ ได้ 2.2 แรงดันอากาศ เว็บไซต์ https://tuemaster.com/blog ได้กล่าวไว้ว่า อากาศเป็นสิ่งที่มีตัวตน มีน้ำหนักต้องการที่อยู่และสัมผัสได้น้ำหนักของอากาศมีแรงกดหรือแรงดัน อนุภาคของอากาศเคลื่อนที่ไปมาได้อย่างอิสระและตลอดเวลาในทุกทิศทาง โดยจะเคลื่อนที่ชนกันเองและชนกับวัตถุต่าง ๆ ที่ล้อมรอบทำให้เกิดแรงดันรอบทิศทาง เรียก แรงดันอากาศ เช่น ถ้าเป่าลูกโป่งอากาศที่เข้าไปด้านในจะดันลูกโป่งให้พองออกและมีขนาดใหญ่ขึ้น ขณะ เดียวกัน อากาศที่อยู่ภายนอกก็ออกแรงดันลูกโป่งทุกทิศทางด้วยเช่นกัน เป็นต้น –แรงดันอากาศ หมายถึง แรงที่อากาศกดลงบนผิวของวัตถุในทุกทิศทาง


–ความดันอากาศ หมายถึง แรงที่อากาศกระทำต่อหนึ่งหน่วยพื้นที่ที่รองรับแรงดัน 1. การดูดน้ำออกจากขวดโดยใช้หลอดดูด 2. การดูดของเหลวเข้าหลอดหยดหรือเข็มฉีดยา 3. การเจาะกระป๋องนมต้องเจาะ2รูเพื่อให้อากาศในกระป๋องนมมีความดันอากาศเท่ากับความดันภายนอก กระป๋องนมทำให้สามารถเทนมออกจากกระป๋องนมได้ 4. การถ่ายของเหลวโดยสายยางจากภาชนะหนึ่งไปยังอีกภาชนะหนึ่งที่อยู่ต่างระดับกัน เรียกว่า กาลักน้ำ 5. การใช้แป้นยางดูดติดกับกระจกเพื่อยึดสิ่งของให้ติดกับกระจก เนื่องจากความดันอากาศภายนอกมากกว่าความดันอากาศภายในแป้นยางจึงกดหัวแป้นยางให้ ดูดติดกับกระจก 2.3 เเรงดันน้ำ เว็บไซต์https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/70829/-blo-sciphy-sciได้กล่าวไว้ว่าความดันของของไหลคือความหนาแน่นของของไหลโดยยิ่งมีความหนาแน่นมาก ความดันของของไหลก็จะยิ่งมากและระดับความลึกก็มีผลต่อความดันของของไหลโดยความลึกยิ่งมาก ความดันของของไหลก็จะยิ่ง มากแต่ก็เป็นเพียงในกรณีที่ของไหลนั้นอยูใ นสภาพอยู่นิ่ง เมื่อใดก็ตามที่ของไหลนั้นเคลื่อนที่หรือเกิดการไหลความเร็วของของไหลจะมีผลตอ่แรงดันอีกด้วย เนื่องจากกฎอนุรักษ์พลังงานที่กล่าวถึงพลังงานไม่มีการหายไปไหนแต่มีการเปลี่ยนรูปของพลังงาน เมื่อสสารมีความดันจึงทำให้เกิดงานพลังงานจึงเปลี่ยนรูปไปเป็นงานที่เกิดพลังงานจลน์ที่มีก็ลดลง นั่นคือความเร็วลดลง ยกตัวอย่างเช่น การฉีดสเปรย์ออกมาจากหัวฉีด ก็อาศัยหลักการนี้ คือ ที่หัวฉีดจะมีแรงดันมาก น้ำที่ถูกฉีดออกมาจึงมีความเร็วสูง เมื่อออกจากหัวฉีดจึงปะทะอากาศทำให้มีความเร็ว ลดลงอย่างรวดเร็วความดันจึงเพิ่มขึ้นแล้วกระจายตัวออกเป็นละอองน้ำด้วยหลักการนี้สามารถนำไปใช้


ประโยชน์ในการออกแบบปีกเครื่องบิน โดยให้ปีกเครื่องบินมีด้านล่างของปีกแบนราบ ส่วนข้างบนมีปีกโค้งมน อากาศใช้เวลาในการเคลื่อนที่ผ่านปีกเครื่องบินทั้งด้านล่างและด้านบนเท่ากัน ทำให้ อากาศด้านล่างปีกมีความเร็วน้อยกว่าบริเวณด้านบนของปีกเมื่ออากาศด้านล่างปีกมีความเร็วต่ำกว่าด้าน บนของปีกจะทำให้ความดันด้านใต้ปีกมากกว่าความดันด้านบนของปีกเครื่องบิน จึงทำให้ เกิดแรงดันหรือแรงยก ส่งผลให้เครื่องบินสามารถยกตัวขึ้น 2.4 ขวดน้ำ เว็บไซต์http://www.packingsiam.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538991021&Ntype=7 ได้กล่าวไว้ว่าขวดป็นภาชนะที่มีรูปทรงยาวทั่วไปใช้บรรจุน้ำหรือของเหลว ส่วนใหญ่ทำจากวัสดุประเภทแก้ว หรือ พลาสติกรูปทรงของขวดมีหลายแบบโดยทั่วไปปากขวดมีขนาดหน้าตัดเล็กกว่าตัวขวด ถ้าหน้าตัดเท่ากันเรียกว่า กระบอก วัสดุที่นิยมใช้ทำขวดได้แก้ว+ แก้ว+พลาสติก ได้แก้วPET ,PE ขวดแก้ว ( Glass bottles ) วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตแก้ว 1. ทราย มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า“ซิลิกา” จะต้องมีปริมาณของ SiO2 อย่างน้อย 99.5% และมีปริมาณของ Fe2O3 น้อยกว่า 0.04% 2. โซดาแอช คือ Na2CO3 ในธรรมชาติอยู่ในรูปของ Na2CO3 , NaHCO3 , 2H2O 3. หินปูน คือ CaO และ หินโดโลไมต์เป็นสารที่ประกอบด้วย CaO และ MgO 4. หินฟันม้า เป็นสารที่ประกอบด้วย SiO2 และยังมีปริมาณ AI2O3 ถึงเกือบ 20% 5. เศษแก้ว เป็นวัตถุดิบที่ช่วยประหยัดพลังงานในการหลอม นอกจากนี้ยังมีวัตถุดิบอื่นๆซึ่งช่วยในการหลอม การปรับแต่งสีของขวดแก้วรวมทั้งปรับแต่งคุณสมบัติของ Oxides ต่างๆที่ประกอบอย่ในแก้ว 1) SiO2แก้วที่มีปริมาณของSiO2สูงจะทำให้แก้วนั้นมีโครงสร้างที่แข็งแรง ทนต่อความร้อนและสารเคมี แต่ ทำการผลิตได้ยากเนื่องจากต้องใช้การหลอมเหลวที่อุณหภูมิสูงขึ้น และขึ้นรูปได้ยากเนื่องจากมีความหนืดสูง


2) CaOและMgOจะช่วยในการขึ้นรูปทำให้แก้วคงตัว(set)เร็วขึ้นเมื่อเย็นลงและเพิ่มความทนต่อสารเคมี แก้วที่มีปริมาณMgOมากกว่าCaOจะทำให้ให้การตกผลึกป็นไปอย่างช้าๆทำให้การเรียงตัวของผลึกออกมา สวยงาม 3) K2Oช่วยให้การตกผลึกเป็นไปอย่างช้าๆ ทำให้การเรียงตัวของผลึกออกมาสวยงาม 4) Na2Oแก้วที่มีปริมาณ Na2O สูงจะหลอมเหลวที่อุณหภูมิต่ำ เปราะแตกง่ายและไม่ทนต่อสารเคมี ถ้ามีปริมาณ Na2O สูงมากๆ จะสามารถละลายน้ำได้ 5) B2O3แก้วที่มีสารประกอบพวก Boron เป็นองค์ประกอบ (Borosilicate) จะมีความคงทนต่อกรด-ด่าง และทนต่อความร้อนเนื่องจากจะทำใหสัมประสิทธิ์การขยายตัวเนื่องจากความร้อนลดลงแก้วประเภทนี้เป็นแก้วที่ใ ช้ในอุปกรณ์วิทยาศาสตร์และเป็นแก้วประเภทที่สามารถใช้ในเตาไมโครเวฟได้ 6) Al2O3แก้วที่มีปริมาณAl2O3สูง จะทำให้แก้วนั้นมีความทนทานต่อการสึกกร่อนและสารเคมีได้ดีขึ้น 7) Fe2O3 ช่วยประหยัดเชื้อเพลิงในขณะหลอม แต่จะทำให้เนื้อกระจกใส มีสีค่อนไปทางเขียว 8) PbOแก้วที่มีตะกั่วเป็นองค์ประกอบ(Leadglass)เนื้อแก้วใสวาวเนื่องจากมีค่าดัชนีหักเหสูงมีความอ่อน (soft) ไม่แข็งกระด่าง ง่ายต่อการเจียระไน เวลาเคาะมีเสียงกังวาน 9) ออกไซด์อื่นๆหากต้องการให้แก้วหรือกระจกมีสีสันต่างๆสามารถเติมสารนอกเหนือจากส่วนผสมขวาง ต้นที่ กล่าวมาแล้ว ดังนี้ 2.4 น้ำ


เว็บไซต์https://th.wikipedia.org/wiki/ได้กล่าวไว้ว่าน้ำเป็นสารประกอบอนินทรียที่โปร่งใสไม่มีรสไม่ มีกลิ่นและไมมีสีเป็นสารเคมที่เป็นองค์ประกอบหลักของลำธาร,แม่น้ำ,และมหาสมุทรในโลกเป็นต้นและยังเป็น ของเหลวในสิ่งมีชีวิตมีสูตรเคมี ของน้ำบริสุทธิ์คือ H2O โมเลกุล ของน้ำประกอบด้วยออกซิเจน 1 อะตอมและไฮโดรเจน2อะตอมเชื่อมติดกันด้วยพันธะโควาเลนต์ น้ำเป็นของเหลวที่อุณหภูมิและความดันมาตรฐานแต่พบบนโลกที่สถานะของแข็ง (น้ำแข็ง) และสถานะแก๊ส (ไอน้ำ) น้ำ ยังมีในสถานะของผลึกของเหลวที่บริเวณพื้นผิวทขอบนี่ ้ำ] นอกจากนี้ยังสามารถเกิดขึ้นตามธรรมชาติ เช่น หิมะ, ธารน้ำแข็ง, และภูเขาน้ำแข็ง, ก้อนเมฆ, หมอก, น้ำค้าง, ชั้นหินอุ้มน้ำ และ ความชื้นในบรรยากาศ น้ำปกคลุม71%บนพื้นผิวโลกและเป็นปัจจัยสำคัญต่อชีวิตน้ำบนโลก96.5%พบในมหาสมุทร1.7%ในน้ำใต้ ดิน1.7%ในธารน้ำแข็งและชั้นน้ำแข็งของทวีปแอนตาร์กติกาและเกาะกรีนแลนด์ซึ่งเป็นเศษส่วนเล็กน้อย บนผิวน้ำขนาดใหญ่และ0.001%พบในอากาศเป็นไอน้ำก้อนเมฆ (ก่อตัวขึ้นจากอนุภาคน้ำในสถานะของแข็ง และของเหลวแขวนลอยอยู่บนอากาศ) และหยาดน้ำฟ้า น้ำบนโลกเพียง 2.5% เป็นน้ำจืดและ 98.8% ของน้ำ จำนวนนั้นพบในน้ำแข็งและน้ำใต้ดิน น้ำจืดน้อยกว่า0.3%พบในแม่น้ำ ทะเลสาบ และชั้นบรรยากาศ และน้ำจืด บนโลกในปริมาณที่เล็กลงไปอีก(0.003%)พบในร่างกายของสิ่งมีชีวิตและผลิตภัณฑ์ น้ำบนโลกเคลื่อนที่ต่อเนื่องตามวัฏจักรของการระเหยเป็นไอและการคายน้ำการควบแน่นการตกตะกอนและการ ไหลผ่านโดยปกติจะไปถึงทะเลการระเหยและการคายน้ำนำมาซึ่งการตกตะกอนลงสู่พื้นดินน้ำดื่มสะอาดเป็นสิ่งจ ำเป็นสำหรับมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆแม้ว่าน้ำจะไม่มีแคลอรหรือีสารอาหารที่เป็นสารประกอบอินทรีย์ใดๆ การ เข้าถึงน้ำดื่มสะอาดได้เปลี่ยนแปลงไปในช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมาในเกือบทุกส่วนของโลกแต่ ประชากรประมาณ1พันล้านคนยังคงขาดแคลนน้ำดื่มสะอาดและกว่า2.5พันล้านคนขาดแคลนสุข อนามัยที่เพียงพอมีความเกี่ยวพันกันเรื่องน้ำสะอาดและค่าGDPต่อคนอย่างไรก็ดี นักสังเกตบางคนประมาณไว้ ว่าภายในปีค.ศ.2025ประชากรโลกมากกว่าครึ่งหนึ่งจะประสบปัญหาความเสี่ยงที่เกี่ยวกับน้ำ รายงานล่าสุดเมื่อ เดือนพฤศจิกายนค.ศ.2009 รายงานว่าภายในปีค.ศ. 2030 ในพื้นที่ประเทศที่กำลังพัฒนาจะมีความต้องการ น้ำจะเพิ่มขึ้นเกิดปริมาณน้ำที่มีกว่า50%น้ำมีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจโลกเนื่องจากน้ำเป็นตัวทำละลายของ สารเคมีหลากหลายชนิดและอำนวยความสะดวกในเรื่องการให้ความเย็นในภาคอุตสาหกรรมและ การคมนาคม น้ำ จืดประมาณ 70% มนุษย์ใช้ไปกับเกษตรกรรม


2.6 อากาศ เว็บไซต์ http://www.sankyo-asia.com/content--4-1955-20465-1.html ได้กล่าวไว้ว่า อากาศอยู่รอบ ตัวเราเสมอเราสามารถรู้ว่ามีอากาศอยู่รอบๆตัวเราได้โดยโบกมือไปมา กระแสลมที่เกิดขึ้นและปะทะกับฝามือ ของเราก็แสดงว่าอากาศมีจริงหรือถ้าเรายืนอยู่ในที่ที่มีลมพัดผ่าน เราจะรู้สึกว่ามีอากาศหรือลมพัดมาถูกตัวเรา แรงลมสามารถทำให้เกิดคลื่นน้ำหรือหมุนกังหันลมได้ส่วนประกอบของอากาศส่วนผสมของก๊าซต่างๆและ ไอน้ำซึ่งส่วนใหญ่ได้แก่ก๊าซไนโตรเจนก๊าซออกซิเจนคาร์บอนไดออกไซด์และโอโซนอากาศมีอยู่ รอบๆตัวเราทุกหนทุกแห่งทั้งบนยอดสูงสุดของภูเขาและในที่จอดรถใต้ดินอากาศมีอยู่ในบ้านมีอยู่ ในโรงเรียนและในรถยนต์อากาศไม่มีสีไม่มีรสชาติและไม่ มีกลิ่นไนโตรเจนเป็นก๊าซที่มีมากที่สุดประมาณ78%กีาซที่มีปริมาณรองลงมาคือก๊าซออกซิเจนประมาณ21%เป็นก๊ าซที่จำเป็นต่อสิ่งมีชีวิตส่วนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และโอโซนมีปริมาณ น้อยมาก 2.7 เเรงโน้มถ่วง เว็บไซต์ http://www.digitalschool.club/digitalschool/science1_2_2/science6/more/page2.php ได้ กล่าวไว้ว่า ความโน้มถ่วง (gravity) หรือแรงโน้มถ่วง (gravitational force) ในทางฟิสิกส์ คือแรงที่กระทำ ระหว่างมวลแรงโน้มถ่วงเป็นหนึ่งในสี่แรงหลักซึ่งประกอบด้วยแรงโน้มถ่วงแรงแม่เหล็กไฟฟ้าแรงนิวเคลีย แบบอ่อนและแรงนิวเคลียร์แบบเข้มในจำนวนแรงทั้งสี่แรงหลักแรงโน้มถ่วงมีค่าน้อยที่สุดถึงแม้ว่าแรงโน้มถ่วง จะเป็นแรงที่เราไม่สามารถรับรู้ได้มากนักเพราะความเบาบางของแรงที่กระทำต่อเราแต่ก็เป็นแรงเดียวที่ ยึดเหนี่ยวเราไว้กับพื้นโลกแรงโน้มถ่วงมีความแรงแปรผันตรงกับมวลและแปรผูกผันกับระยะทางยกกำลังสองไม่ มีการลดทอนหรือถูกดูดซับเนื่องจากมวลใดๆทำให้แรงโน้มถ่วงเป็นแรงที่สำคัญมากในการยึดเหนี่ยวเอกภพไว้ ด้วยกันนอกเหนือจากความโน้มถ่วงที่เกิดระหว่างมวลแล้วความโน้มถ่วงยังสามารถเกิดขึ้นได้จากการที่เรา เปลี่ยนสภาพการเคลื่อนที่ตามกฎการเคลื่อนที่ของนิวตันเช่นการเพิ่มหรือลดความเร็วของวัตถุการเปลี่ยนทิศทางก ารเคลื่อนที่ 2.8 พลาสติก เว็บไซต์https://www.mtec.or.th/bio-plastic/what-is-plastic/whatisplastics.html ได้กล่าวไว้ว่า พลาสติกเป็นวัสดุที่มนุษย์คิดค้นและประดิษฐ์ขึ้นเพื่อช่วยให้เรามีชีวิตที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นในอดีตเราไม่


เคยรู้จักพลาสติกเลยจนกระทั่งกลางศตวรรษที่19วัสดุดั้งเดิมที่มนุษย์คุ้นเคยและใช้อยู่ ทั่วไปในชีวิตประจำวันในยุคก่อนหน้านี้ล้วนเป็นวัสดุจากธรรมชาติทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นแก้วไม่กระดาษ โลหะ ยาง หรือขนสัตว์สิ่งเหล่านี้เคยป็นวัสดุที่ตอบสนองความต้องการของมนุษย์ได้เป็นอย่างดีอย่างไรก็ตามมนุษย์ ยังคงพยายามค้นหาวัสดุใหม่ๆ มาใช้งานอยู่เสมอ พลาสติกจัดเป็นสารประกอบพวกไฮโดรคาร์บอนที่มีน้ำหนักโมเลกุลสูงประกอบด้วยโมเลกุลซ้ำๆ กันต่อกันเป็น โมเลกุลสายยาวๆประกอบด้วยธาตุสำคัญคือคาร์บอน,ไฮโดรเจน, และออกซิเจน นอกจากนี้อาจมีธาตุอื่นๆเป็น ส่วนประกอบย่อย ซึ่งได้แก่ ไนโตรเจน, ฟลูออรีน, คลอรีน, และกำมะถัน เป็นต้นบางครั้งพบว่ามีการใช้ คำว่า"พลาสติก"และ"โพลิเมอร์"ในความหมายเดียวกันหรือใกล้เคียงกันแต่คำว่า "โพลิเมอร์"มักหมายถึงวัสดุประเภทพลาสติกยางเส้นใยและกาวส่วนคำว่า"พลาสติก" จะหมายถึงสารผสมระหว่าง โพลิเมอร์และสารเติมแต่งเช่นสีสารพลาสติกไซเซอร์สารเพิ่มเสถียรภาพและฟิลเลอร์ที่ถูกนำมาใช้ งานเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปโดยการขึ้นรูปให้มีรูปทรงต่างๆเช่นถังจานและช้อนเป็นต้นหากแปลตามรากศัพท์คำว่า โพลิเมอร์หรือpolymerมาจากคำกรีก2คำคือคำว่า poly แปลว่ามากและคำว่า(mer)แปลว่าหน่วยโพลิเมอร์ จึงแปลว่าสารที่มีโมเลกุลประกอบด้วยหน่วยซ้ำๆกันต่อกัน เป็นสายยาวๆ 2.9 หลอดน้ำ เว็บไซต์https://th.wikipedia.org/wiki/ ได้กล่าวไว้ว่า หลอดดูด เป็นอุปกรณ์ในการดูดของเหลว มักใช กับเครื่องดื่ม โดยทั่วไปหลอดดูดจะเป็นท่อผอมและยาวทำจากพลาสติก(มักจะเป็น PP-polypropylene) มีทั้งหลอดดูดตรงและหลอดดูดที่สามารถงอตรงปลายดได้เพื่อให้ดูดเครื่องดื่มได้ ง่ายขึ้นเมื่อดูดเครื่องดื่มเราจะนำปลายข้างหนึ่งใส่ลงในเครื่องดื่มอีกข้างหนึ่งใส่ปากโดยมักจะใช้มือจับไว้ ด้วยเมื่อกล้ามเนื้อบริเวณปากทำการออกแรงดูดทำให้แรงดันอากาศภายในปากลดลงความดันอากาศรอบเครื่องดื่


มซึ่งมีมากกว่าจะดันเครื่องดื่มให้ไหลเข้าไปในหลอดดูดเข้าสู่ปากหลอดดูดถูกคิดค้นโดยชาวสุเมเรียนโดยใช้ ในการดื่มเบียร์หลอดดูดในรูปแบบปัจจุบันคิดค้นในปีพ.ศ. 2431


บทที่ 3 วัสดุอุปกรณ์และวิธีการดำเนินการ การศึกษาโครงงานเรื่อง ทำน้ำพุจากขวดพลาสติก ผู้จัดทำได้ศึกษาดำเนินการตามลำดับดังนี้ 3.1 เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินงาน 3.1.1 วัสดุ-อุปกรณ์ที่ใช้ในการดำเนินงาน 3.2 วิธีการดำเนินงาน ขั้นตอนจัดทำชิ้นงาน 1.น้ำพุจากขวดพลาสติก 2.แรงดันอากาศ 3.แรงดันน้ำ วัสดุอุปกรณ์ 1.ขวดน้ำพลาสติค ขนาด ๑๖.๙ ออนซ์ สามขวด. 2.หลอดพลาสติคยาว ๙ นิ้ว หนึ่งหลอด. 3.หลอดพลาสติคยาว ๑๑ นิ้ว หนึ่งหลอด. 4.หลอดพลาสติคยาว ๑๕ นิ้ว หนึ่งหลอด. 5.ดินน้ำมัน เอาไว้อุดรอยที่เจาะจุกขวด ไม่ให้มีน้ำรั่ว


วิธีทำ 1. ตัดขวดพลาสติก 1 ขวด ตามรูป (อีก 2 อันไม่ต้องตัด) 2. เจาะรูปที่ฝา 2 รู


3. นำฝาที่เจาะรูปแล้ว มาเทียบกับขวดน้ำ เพื่อเจาะรูที่ขวดให้ตรงกับฝา


4. นำชิ้นส่วนต่าง ๆ มาประกอบ ตามรูปด้านล่างนี้


5. เมื่อประกอบเสร็จจะได้ประมาณนี้


บทที่ 4 ผลการศึกษาและอภิปรายผลศึกษา ในการจัดทำโครงงานการออกแบบและเทคโนโลยีเชิงบูรณาการ เรื่อง โครงงานประดิษฐ น้ำพุ จากขวดน้ำพลาสติกมีผลการดำเนินงานดังนี้ 4.1 ผลการศึกษา งานประดิษฐ์ในครั้งนี้ทำให้ผู้จัดทำโครงงานมีความเข้าใจเกี่ยวกับการทำน้ำพุจากขวดพลาสติก จึงสามารถทำน้ำพุจากขวดพลาสติก ได้สำเร็จและทำให้มีความภูมิใจในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมการใช้ เวลาว่างให้เกิดประโยชน์สามารถทำให้มีนิสัยรักษาดูแลสิ่งแวดล้อมอีกทั้งยังสร้างรายได้ให กับผู จัดทำ โครงงาน และสามารถใช้ความรู้ที่ได้จากการประดิษฐ์ทำน้ำพุจากขวดพลาสติก ในครั้งนี้ไปเผยแพร่ให้ กับผู้สนใจได้ 4.2 อภิปรายผลการศึกษา จากการทำน้ำพุจากขวดพลาสติกนั้น ออกมารูปทรงและสามารถใช้งานได้จริงตามต้องการ ทำให้มี ความภาคภูมิใจในการอนุรักษ์สิงแวดล้อมการใช่เวลาว่างให้เกิประโยชน์ซึ่งคณะผู้จัดทำและเพื่อนๆได้ ทดลองใช้งานแล้วพบว่าทำน้ำพุจากขวดพลาสติก มีประโยชน์และยังสร้าง รายได้ให้แก่ ผู้จัดทำเพราะทำง่ายและวัสดุหาได้ง่าย


ตัวอย่างผลงาน


บทที่ 5 สรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ สรุปผลการศึกษา จากกาทำโครงงานการประดิษฐ์ เครื่องน้ำพุจากขวดน้ำพลาสติกสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่วางไว้ คือ เพื่อใช้ตกแต่ง สถานที่ต่าง ๆ ทั้งในที่สาธารณะ และที่ส่วนบุคคล เพื่อให้คณะ ผู้จัดทำได้ศึกษาความรู้ เกี่ยวกับการทำงานของแรงดันทางวิทยาศาสตร์เพื่อลดค่าใช้จ่ายใน การซื้ออุปกรณ์ และนำวัสดุเหลือใช้มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์เพื่อเสริมสร้าง ความสามัคคีความรับผิดชอบ กระบวนการคิดการแก้ปัญหา ให้แก่คณะผู้ดทำ ประโยชน์ของการศึกษา 1. สามารถเป็นของตกแต่งในสถานที่ต่าง ๆ ทั้งในที่ สาธารณะ และที่สว่นบุคคลได้ 2. สามารถลดค่าใชhจ่ายในการซื้อน้ำพุ 3. สามารถนำวัสดุเหลือใช้มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ ข้อเสนอแนะ ในการทำการประดิษฐ์ควรเลือกการประดิษฐ์ที่ง่ายต่อการจัดหาวัสดุ อุปกรณ์และควรลด ต้นทุนในการใช้จ่ายในการซื้ออุกรณ์ลงให้มากกว่านี้


บรรณานุกรม สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี.(2561) หนงัสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน กลุ่ม สาระการเรียนรู้การออกแบบและเทคโนโลยี https://www.masaso m.com/webboard/viewtopic/163


ภาคผนวก


วัสดุ-อปุกรณ์ที่ใช้ในการดำเนินงานทั้งหมด ภาพที่ 8 ภาพรวมวสัดุ-อุปกรณ์ที่ใช้งานที่ วิธีการดำเนินงานขั้นตอนจัดทำชิ้นงาน ภาพที่ 9 ภาพรวมวสั ดุ-อุปกรณ์ที่ใช้งานที่


ภาพที่10 ภาพผลงานที่สำ เร็จ ภาพที่ 11 ภาพงานและสมาชิกกล่มุ


สมาชิกกล่มุ ที่ 5 โครงงานการ ออกแบบแล เทคโนโลยี เรื่องนพุจากขวดน้ำพลาสติก 1.ชื่อ-สกุล ด.ญ สลลิ ทิพยน์ ามฮูง เลขที่2 คนที่1 2.หน้าที่ ทำน้ำพุ 1.ชื่อ-สกุลด.ญ พิชญ์สินีทนนาดีเลขที่9 คนที่2 2.หน้าที่ เรียบเรียงข้อมูล


1.ชื่อ-สกุล ด.ญ อญั ชลีพร เชื้อเจ็ดตน เลขที่22 คนที่ 3 2.หน้าที่ ทำน้ำพุ 1.ชื่อ-สกุล ด.ญ จีนภสั มงั คลาด เลขที่ 25 คนที่ 4 2.หน้าที่เรียบเรียงข้อมูล 1. ชื่อ-สกุล ด.ช.ภูตะวนั สุดใจ เลขที่ 39 คนที่ 5 2. หน้าที่เรียบเรียงข้อมูล


Click to View FlipBook Version