The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by MEAN RATTHAKORN, 2020-09-08 12:59:25

ืิBiology

biology7

E-BOOK

Vocabulary Biology

นางสาว อาทิตยา ไกรธิราช
ม.5/5 เลขที่ 35

เสนอ ครู พชรกมล พูลลาย

คำศัพท์บทที่ 8 กำรสืบพันธ์ของพืชดอก

1. ก. เกสรเพศเมีย (pistil) เป็นช้นั ท่ีอยู่ขา้ งในสุดเปล่ียนแปลงมาจากใบเพื่อทาหนา้ ทสี่ ร้างเซลล์สืบพนั ธุ์
2. ค. โคลอี อพไทล์ (coleoptile) เน้ือเย่อื หุม้ ยอดแรกเกิด
3. ซ. ซินเนอร์จิด (synergid) เซลลท์ อ่ี ยดู่ า้ นไมโครไฟล์ ทาหนา้ ทีเ่ ป็นเซลลไ์ ข่ หรือเซลลส์ ืบพนั ธุ์เพศเมีย ส่วน
อกี 2 เซลลอ์ ย่ดู า้ นขา้ งของเซลลไ์ ข่
4. ฐ. ฐานดอกร่วม (common receptacle) กา้ นช่อดอกของพืชจะหดส้นั ขยายเเผ่ออกเป็นวงคลา้ ยจาน
5. ด. ดอกเดยี่ ว (solitary flower) ดอกทมี่ ดี อกเพยี ง 1ดอก บนกา้ นดอก เชน่ บวั ทิวลปิ
6. ถ. ถุงเอ็มบริโอ (embryo sac) เป็นระยะเเกมโี ทไฟตเ์ พศเมียทเ่ี จริญเตม็ ทขี่ องพืชดอก
7. น. นิวเซลลสั (nucellus) เน้ือเย่อื ช้นั นอกของออวลุ หุม้ เน้ือเยือ่ ภายใน
8. บ. ใบเล้ยี ง (cotyledon) อยบู่ นส่วนเเกนหลกั ของเอ็มบริโอ ลกั ษณะอวบหนามีเน้ือ
9. ป. เปลือกเมล็ด (seed coat) เปลย่ี นมาจากผนงั ออวุล
10. ผ. ผลรวม (multiple fruit) ดอกช่อมีดอกยอ่ ยเป็นจานวนมากอยู่เบยี ดชิดกนั ในช่อดอกเดียวกนั รงั ไข่ของ
เเต่ละดอกจะเจริญเป็นผลทอ่ี ยูเ่ บียดชิดกนั บนเเกนช่อดอก
11. พ. โพลาร์นิวคลีไอ (polar nuclei) นิวเคลียสคหู่ น่ึงทอ่ี ยูต่ รงกลางถุงเอ็มบริโอของพืชดอก เม่อื ผสมกบั
สเปิ ร์มนิวเคลียสแลว้ จะเจริญเป็นเอนโดสเปิ ร์มอยู่ภายในเมล็ดพืช
12. ม. เมกะสปอร์มาเทอร์เซลล์ (megastore mother call) หลายออวลุ ภายในออวุลมีหลายเซลลแ์ ต่จะมีเซลล์
หน่ึงท่ีมขี นาดใหญ่
13. ย. ยอดเเรกเกดิ (plumule) ส่วนยอดของเอ็มบริโอทีอ่ ย่เู หนือใบเล้ยี ง
14. ร. รังไข่ใตว้ งกลีบ ( inferior ovary) รังไขท่ ่ีอย่ใู ตส้ ่วนอน่ื ๆของดอก และผนงั รงั ไข่
15. ล. ละอองเรณู (pollen) อยู่ภายในอบั เรณู ทาหนา้ ทส่ี รา้ งเซลลส์ ืบพนั ธุเ์ พศผู้
16. ว. วงกลบี เล้ียง (calyx) เป็นวงนอกสุดของดอก ส่วนใหญม่ สี ีเขยี ว
17. ส. สปอโรไฟต์ (sporophyte) ระยะแกมโี ทไฟตเ์ ป็นระยะทีเ่ ซลล์ สืบพนั ธ์ ส่วนระยะสปอโรไฟตเ์ ป็ระยะ
ทส่ี ร้างสปอร์

18. ห. หลอดเรณู(Pollen tube) เป็นหลอดทเ่ี กดิ ข้ึนหลงั จากการงอกของละอองเรณู มหี นา้ ท่ีพาเซลลส์ ืบพนั ธุ์
เพศผู้ หรือเซลลส์ เปิ ร์ม เขา้ ไปหาออวลุ ทอ่ี ยู่ในรงั ไข่

19. อ. อบั เรณู (anther) เป็นเม็ดเล็กๆ อยบู่ นกา้ นชอู บั เรณู ภายในอบั เรณูจะมีละออง

20. ฮ. ไฮลมั (hilum) ผลของเปลือกทีเ่ ป็นแผลเลก็ ๆ

เกสรเพศเมีย (pistil) ดอกเดีย่ ว (solitary flower) ถุงเอม็ บริโอ (embryo sac

เปลือกเมลด็ (seed coat) ยอดเเรกเกดิ (plumule) รงั ไข่ใตว้ งกลบี ( inferior ovary)

ละอองเรณู (pollen) สปอโรไฟต์ (sporophyte) ไฮลมั (hilum)

คาศพั ทบ์ ทท่ี 9 โครงสร้างและการเจริญเติบโตของพชื ดอก

1. ก. กระพ้ไี ม้ (sapwood) เป็นไซเลม็ ทอ่ี ยู่รอบนอกซ่ึงมีสีจางกวา่ ช้นั ในยงั คงมีหนา้ ท่ลี าเลียงน้าเเละธาตุ
อาหาร มคี วามหนาคอ่ นขา้ งคงท่ี
2. ค. ควิ ทนิ (cutin) เป็นสารกลุ่มลิพิด (lipid) เคลือบอยู่เป็นช้นั บางๆ มหี นา้ ทีป่ ้องกนั การคายน้า และการเกิด
บาดแผล

3. ช. ช่องพิธ (pith cavity) พืชบางชนิดพิธจะสลายไปกลายเป็นช่องกลวงอยู่ใจกลางลาตน้
4. ซ. ไซเลม็ (xylem) เน้ือเยอ่ื ทีท่ าหนา้ ทล่ี าเลยี งน้า ธาตอุ าหารจากรากไปสู่ส่วนตา่ งๆของพืช
5. ต. ตาตามซอกเร่ิมเกดิ (axillary bud primordium) พฒั นาเป็นตา ตามซอก เม่อื ใบท่รี องรบั อยนู่ ้นั เจริญ
เตม็ ที่

6. ถ. เเถบเเคสพาเรียน (casparian strip) มีซูเบอรินสะสมเป็นเเถบเล็กๆรอบเซลล์ ยกเวน้ ดา้ นทขี่ นานกบั เอพิ
เดอร์มสิ ควบคทุ ิศทางการลาเลียงน้าทางดา้ นขา้ งจากเซลล์
7. ท. เทรคดี (tracheid) เป็นเซลลไ์ มม่ ชี ีวิต ผนงั เซลลไ์ ม่เสมอกนั เกิดเป็นลายตา่ งๆ

8. น. เน้ือเยอื่ เจริญ (meristematic tissue) มผี นงั เซลลป์ ฐมภมู ิบาง ความหนาเสมอกนั มนี ิวเคลยี สขนาดใหญ่
มีการเเบ่งเซลลเ์ เบบไมโทซิล
9. บ. ใบออ่ น ( young leaf) เป็นใบท่เี จริญไมเ่ ตม็ ที่ ยงั มีการเจริญเตบิ โตเเละเปลี่ยนสภาพเพ่อื เพิ่มความหนา
เเละขนาดของใบ
10. ป. เปลอื กไม้ (bark) อยดู่ า้ นนอกของวาสควิ ลาร์เเคมเบยี ม

11. ผ. ผนงั เซลลป์ ฐมภมู ิ (primary cell wall) ถดั จากมดิ เดลิ ลาเมลลา ดา้ นในมีเซลลโู ลส
12. พ. พาเรงคมิ า (parenchyma) เป็นเน้ือเยอื่ พ้ืน เเบ่งตามรูปร่างไดห้ ลายเเบบ เชน่ รูปร่างยาว/หลายเหลยี่ ม
จนเกอื บกลม/แฉก มกี ารเรียงตวั ทาให้เกดิ ชอ่ งว่างระหวา่ งเซลล์ มคี อลโลพลาสต์
13. ฟ. โฟลเอ็ม (phloem) เน้ือเย่ือทที่ าหนา้ ทล่ี าเลยี งอาหารท่สี งั เคราะห์จากใบไปสูท่สี ่วนต่างๆของพืช เป็น
เซลลท์ มี่ ีชีวติ เมอ่ื เจริญเติมไม่มีนิวเคลียส
14. ม. มิดเดิลลาเมลลา (middle lamella) เซลลท์ อี่ ยตู่ ดิ กนั เป็นเเนวเชื่อมกนั ระหว่างเซลล์ ประกอบดว้ ยเพ
กทนิ เป็นหลกั

15. ร. ราก ( root) อวยั วะของพชื ท่ีตามปกติจะอยใู่ ตร้ ะดบั ผวิ ดนิ ทาหนา้ ทดี่ ูดซึมน้าและธาตุอาหารในดนิ เขา้
ไปสู่ภายในพืช และช่วยค้าจนุ หรือยดึ ส่วนของพชื ท่ีอยู่เหนือดินให้ทรงตวั อยไู่ ด้

16. ล. ลาตน้ อ่อน (young stem) อย่ถู ดั จากตาแหน่งใบเริ่มเกดิ ลงมา ลาตน้ ส่วนใตใ้ บออ่ นกย็ งั เป็นลาตน้ ระยะ
ท่ียงั เจริญไมเ่ ตม็ ที่ เซลลจ์ ะเปลีย่ นสภาพเเละเจริญเต็มท่เี ป็นชนิดตา่ งๆ

17. ว. เวสเซล (vessel) เป็นเซลลท์ ี่มีขนาดค่อนขา้ งใหญ่ แตส่ ้นั กว่าเทรคดี เป็นเซลลเ์ ด่ียวๆ ท่ปี ลายท้งั สอง
ขา้ งของเซลลม์ ีลกั ษณะคลา้ ยคมของสิ่ว ทบี่ ริเวณดา้ นขา้ งและปลายของเซลลม์ ีรูพรุน ส่วนของเวสเซลน้ีพบ
มากในพชื ช้นั สูงหรือพืชมีดอก ทาหนา้ ทเ่ี ป็นท่อลาเลยี งน้าและแร่ธาตุต่างๆ จากรากข้นึ ไปยงั ลาตน้ และใบ

18. ส. สเกลอเรงคิมา (sclerenchyma) เป็นเซลลไ์ ม่มชี ีวติ มีผนงั เซลลท์ ุติยภมู ิทคี่ อ่ นขา้ งหนา ทาให้เกดิ ความ
เเขง็ เเรง

19. ห. หมวกราก (root cap) อยู่ปลายสุดของราก ผลิตเมอื กขบั ออกมารอบๆทาหนา้ ทป่ี ้องกนั อนั ตรายใหก้ บั
เน้ือเยอ่ื เจริญขณะท่ีรากชอนไชลงสู่ดิน

20. อ. เอพเิ ดอร์มสิ ( Epidermis ) อย่ชู ้นั นอกสุด ปกติเป็นเซลลเ์ รียงตวั ช้นั เดียว ไมม่ ีคลอโรฟิ ลล์ อาจ
เปล่ยี นแปลงไปเป็นขน หนาม หรือเซลลค์ ุม ( Guard Cell ) ผวิ ดา้ นนอกของ

ไซเล็ม (xylem) /โฟลเอม็ (phloem) ใบออ่ น ( young leaf) เวสเซล (vessel)

ราก ( root) /หมวกราก (root cap) สเกลอเรงคมิ า (sclerenchyma) พาเรงคิมา (parenchyma)


Click to View FlipBook Version