The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาการสื่อสารเเละการเสนอ (is2)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by stud08379, 2021-03-15 04:24:46

โครงงานเรื่องการพัฒนาห้องสมุดโรงเรียนสิงหวิทยาคม

รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาการสื่อสารเเละการเสนอ (is2)

การพัฒนาห้องสมุดโรงเรยี นสิงหวิทยาคม

ผจู้ ดั ทา

ชอ่ื – สกลุ นายธนภทั ร เข็มเพ็ชร ช้ัน ม.5/1 เลขท่ี 2
ชื่อ – สกลุ นายวฒั นา คาเฮือง ชนั้ ม.5/1 เลขท่ี 4
ชอื่ – สกลุ นายณฐกร สนิ ฉยั ยา ชั้น ม.5/1 เลขท่ี 7
ชื่อ – สกลุ นางสาวเกศิณี ขุมทอง ชัน้ ม.5/1 เลขท่ี 13
ชื่อ – สกลุ นางสาวคณติ สร พลประสิทธ์ิ ช้นั ม.5/1 เลขที่ 14
ชือ่ – สกลุ นางสาวทิพบุปผา สุไตท้ อน ชัน้ ม.5/1 เลขท่ี 16
ชื่อ – สกลุ นางสาวปุณญาพร เขม็ บบุ ผา ชน้ั ม.5/1 เลขที่ 19

ครูที่ปรึกษา นางสาวเพญ็ ศรี แซ่ล้อ
รายงานน้ีเป็นสว่ นหนงึ่ ของรายวชิ าการส่ือสารและการนาเสนอ (IS2) I30202

โรงเรยี นสิงหวทิ ยาคม ตาบลบา้ นสงิ ห์ อาเภอนางรอง จังหวัดบุรรี ัมย์
ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2563

การพฒั นาหอ้ งสมุดโรงเรยี นสิงหวทิ ยาคม

ผูจ้ ัดทา

ชื่อ – สกลุ นายธนภทั ร เขม็ เพช็ ร ชนั้ ม.5/1เลขที่ 2
ชื่อ – สกลุ นายวฒั นา คาเฮือง ชั้น ม.5/1เลขท่ี 4
ชื่อ – สกลุ นายณฐกร สนิ ฉยั ยา ชน้ั ม.5/1เลขที่ 7
ชื่อ – สกลุ นางสาวเกศิณี ขุมทอง ช้นั ม.5/1เลขที่ 13
ชอ่ื – สกลุ นางสาวคณิตสร พลประสิทธ์ิ ช้นั ม.5/1เลขที่ 14
ชือ่ – สกลุ นางสาวทพิ บุปผา สุไตท้ อน ช้ัน ม.5/1เลขที่ 16
ช่อื – สกลุ นางสาวปณุ ญาพร เข็มบุบผา ชั้น ม.5/1เลขที่ 19

ครูที่ปรึกษา นางสาวเพ็ญศรี แซ่ล้อ

รายงานน้เี ปน็ สว่ นหน่ึงของรายวชิ าการสอื่ สารและการนาเสนอ (IS2) I30202
โรงเรยี นสิงหวทิ ยาคม ตาบลบ้านสงิ ห์ อาเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์
ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2563

(ก)

ชือ่ เรือ่ ง : การพฒั นาห้องสมุดโรงเรียนสงิ หวิทยาคม
ผู้จัดทา : นายธนภัทร เขม็ เพช็ ร

นายวฒั นา คาเฮอื ง
นายณฐกร สนิ ฉัยยา
นางสาวเกศิณี ขุมทอง
นางสาวคณติ สร พลประสิทธิ์
นางสาวทพิ บปุ ผา สไุ ต้ทอน
นางสาวปุณญาพร เขม็ บุบผา
ท่ปี รกึ ษา : คุณครูเพญ็ ศรี แซ่ลอ้
โรงเรียน : สิงหวทิ ยาคม
ปีการศึกษา : 2563

บทคัดยอ่

การศึกษาคร้ังนี้เป็นการศกึ ษาเชงิ สารวจ มีวัตถุประสงค์เพื่อทาใหห้ ้องสมุดมคี วามนา่ สนใจ และ
มคี นอยากเข้าหอ้ งสมุดมากขึ้น ลดขัน้ ตอนและระยะเวลาในการทางานของบรรณารกั ษ์ของห้องสมดุ
ศกี ษาและทาความเขา้ ใจเก่ียวกับระบบเพือ่ ความถูกต้อง แมน่ ยา ในการทางาน และการจัดเก็บข้อมลู
ผศู้ กึ ษาได้ทาการศึกษาคน้ คว้าโดยการสอบถามจากคณุ ครูประจาห้องสมดุ กบั บรรณารกั ษ์และมีการส่มุ
สอบถามนักเรียนผใู้ ช้บริการจากนกั เรียนจานวน 50 คน โดยผ้ศู กึ ษาทาการเกบ็ รวบรวมข้อมลู
วเิ คราะหข์ ้อมลู โดยใช้ ความคิดเห็นจากนกั เรยี นและคุณครู

ผลการศกึ ษาค้นควา้ พบว่า ห้องสมุดของโรงเรยี นยังขาดการจดั ระบบการจดั การที่ดีเพราะผทู้ ่ี
ดูแลห้องสมุดกต็ ้องทาหน้าทสี่ อนหนงั สือดว้ ยซึง่ บางคร้งั ก็เกิดการดแู ลและใหบ้ ริการไม่ทว่ั ถึง รวมถึงขาด
แคลนเจา้ หน้าทหี่ ้องสมุด และสภาพแวดล้อมยงั ไม่นา่ สนใจ ซึ่งสอดคล้องกบั สมมตฐิ านท่ีต้ังไวว้ ่า การ
จดั ระบบการจดั การของห้องสมุดยงั ไมเ่ ป็นระบบ เจา้ หนา้ ที่ห้องสมุดบริการไม่ทวั่ ถงึ ดงั ผลการสอบถาม
ความคดิ เห็นจากผูใ้ ชบ้ ริการห้องสมดุ

(ข)

กิตตกิ รรมประกาศ

การศึกษาคน้ ควา้ ในครง้ั นส้ี าเรจ็ ลลุ ่วงไดโ้ ดยความช่วยเหลือจากคุณครเู พ็ญศรี แซล่ ้อ ที่ได
กรุณาใหคาปรกึ ษา ความรู ขอคิด ขอแนะนา และปรับปรงุ แกไข ขอบกพรองตาง ๆ จนกระทงั่ สาเร็จ
เรยี บร้อยดวยดี ผู้ศกึ ษาขอกราบขอบพระคณุ เปนอยางสงู ไว ณ ท่ีน้ี

ขอขอบคุณเพอื่ นรวมงานทุกคนทีอ่ านวยความสะดวกและชวยเหลอื ในการทาโครงงานคร้ังนี้
นอกจากนีผ้ ู้ศกึ ษาขอขอบคุณนักเรียนท่เี ข้าใชห้ ้องสมุดโรงเรียนสิงหวิทยาคมทุกทา่ นท่ีกรุณาตอบ
แบบสอบถามครง้ั น้ี สถานทแี่ ละผ้ทู ี่ช่วยเหลอื ในการศกึ ษาครั้งนี้ดว้ ย

หากการศึกษาค้นคว้าครง้ั นี้จะเกดิ ประโยชน์แกผ่ สู้ นใจโดยทว่ั ไป ขอมอบความดแี ละ
คุณประโยชนท์ ่เี กิดขนึ้ แด่นกั เรยี นโรงเรียนสิงหวทิ ยาคม คณะครู และผู้บรหิ ารสถานศึกษา

ลงช่อื นายธนภทั ร เขม็ เพช็ ร
นายวัฒนา คาเฮือง
นายณฐกร สินฉัยยา
นางสาวเกศิณี ขมุ ทอง
นางสาวคณติ สร พลประสทิ ธิ์
นางสาวทิพบุปผา สไุ ตท้ อน
นางสาวปุณญาพร เข็มบุบผา

สารบญั (ค)

เร่ือง หน้า

บทคัดย่อ ก
กติ ติกรรมประกาศ ข
สารบัญ ค
สารบัญตาราง ง
บทที่ 1 บทนา 1
1
1.1 ความเปน็ มาและความสาคญั ของการศกึ ษาคน้ ควา้
1.2 วัตถปุ ระสงค์ 2-4
1.3 สมมติฐานของการศึกษาคน้ ควา้
1.4 ขอบเขตการศึกษาคน้ คว้า 5
1.5 ประโยชนท์ ี่คาดว่าจะได้รับ
บทท่ี 2 เอกสารที่เก่ยี วข้องกับการศึกษาค้นควา้ 6
2.1 ความหมายของห้องสมดุ
2.2 ความสาคัญของห้องสมุด 7
2.3 ความสาคญั ของบริการห้องสมุด
บทที่ 3 วธิ ีดาเนินงานศึกษาค้นคว้า 8
3.1 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 9
3.2 วิธดี าเนนิ การศึกษาคน้ คว้า
3.3 ข้อมลู ท่ใี ชใ้ นการศึกษาค้นควา้ 11
3.4 เคร่ืองมือท่ีใช้ในการศึกษาค้นควา้
3.5 การเกบ็ รวบรวมข้อมลู
3.6 การวิเคราะห์ข้อมลู
บทท่ี 4 ผลการศึกษาค้นควา้
4.1 ผลการศกึ ษา
4.2 การนาเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมลู
บทที่ 5 สรปุ อภปิ รายผลและขอ้ เสนอแนะ
5.1 สรุปผลการศกึ ษาคน้ ควา้
5.2 อภิปรายผลการศึกษาค้นควา้
5.3 ขอ้ เสนอแนะ
บรรณานกุ รม
ภาคผนวก
ภาคผนวก ก
ภาคผนวก ข
ประวัติผจู้ ดั ทา

สารบัญตาราง (ง)

ตารางท่ี หน้า
ตารางที่ 1จานวนและร้อยละของนักเรียน จาแนกตามเพศ 6
ตารางท2่ี จานวนและร้อยละความพึงพอใจในการเขา้ ใชห้ ้องสมุด 6

บทที่ 1

บทนา

1. ความเปน็ มาและความสาคัญของการศึกษาค้นควา้
ห้องสมดุ กถ็ อื เปน็ แหลง่ ความรูท้ สี่ าคัญอกี อย่างหนึ่ง แต่ห้องสมุดของโรงเรยี นยังขาดการจดั ระบบ

การจดั การท่ีดีเพราะผทู้ ่ดี ูแลหอ้ งสมดุ กต็ อ้ งทาหนา้ ทสี่ อนหนงั สือด้วยซึ่งบางครั้งก็เกดิ การดแู ลและ
ใหบ้ รกิ ารไม่ทั่วถงึ ซึ่งก่อให้ปัญหาตา่ งๆตามมา

ผู้จัดทาได้มองเหน็ ความสาคญั การของการใชบ้ รกิ ารและการใช้บรกิ ารห้องสมดุ จงึ ได้ทาการศึกษา
และสอบถามความคดิ เห็นและความต้องการจากผู้ดแู ลห้องสมุดเอง และจากนักเรียนผู้ใชบ้ ริการ เพอื่
เป็นการส่งเสริมให้เกิดความสะดวก ถูกต้อง รวดเรว็ ให้แก่ผู้ใช้บริการและผใู้ ห้บริการดว้ ย

2. วัตถุประสงค์
2.1 เพอื่ ศึกษาความพงึ พอใจการใช้ บรกิ ารห้องสมดุ ของนกั เรยี นต่อบริการด้านตา่ งๆ ในห้องสมดุ
2.2 เพอื่ นาผลจากการศึกษามาใช้ ประโยชนใ์ นการปรับปรงุ การให้ บริการของหอ้ งสมุด
2.3 เพ่ือทาให้หอ้ งสมุดน่าสนใจ และมคี นอยากเข้าห้องสมดุ มากข้นึ

3. สมมตฐิ านของการศกึ ษาคน้ คว้า
ห้องสมดุ มกี ารพัฒนาและเปลยี่ นแปลงสถานทไ่ี ปในทางทีด่ ขี ้นึ สะดวกและนา่ สนใจ พร้อมใชง้ านมาก

ย่ิงขน้ึ
4. ขอบเขตการศึกษาคน้ คว้า

4.1 สถานท่ี ห้องสมดุ โรงเรยี นสิงหวทิ ยาคม
4.2 ระยะเวลา ต้ังแต่ เดอื นกรกฎาคม 2563 -มกราคม 2564
4.3 ประชากร นกั เรียนโรงเรยี นสงิ หวทิ ยาคม โดยเลอื กกลุม่ ตวั อย่าง จากวธิ สี มุ่ โดยการสอบถามผู้ท่ี
ใชบ้ รกิ ารหอ้ งสมุดเป็นประจา

5. ประโยชน์ทคี่ าดวา่ จะได้รบั
1.ทราบระดบั ความพึงพอใจของนักเรียนโรงเรยี นพะเยาพิทยาคมต่อบริการห้องสมุด
2. ผลของการวจิ ยั คร้ังนจี้ ะเป็นแนวทางในการวางแผนพฒั นาปรบั ปรงุ งานบริการของห้องสมุด
โรงเรยี นสิงหวิทยาคมใหม้ ีประสทิ ธภิ าพมากยงิ่ ข้ึน
3. ทาให้นกั เรยี นมีความสนใจอยากเข้าห้องสมุดมากขึน้
4. ทาให้สมาชิกและบรรณารกั ษ์เกิดความพึ่งพอใจในการใช้บรกิ ารและการใหบ้ รกิ ารทส่ี ะดวกรวดเรว็
5. ได้ฝึกการทางานเปน็ ทีม

บทท่ี 2

เอกสารทเี่ กี่ยวขอ้ งกบั การศึกษาค้นควา้

ในการศึกษาค้นควา้ การพัฒนาหอ้ งสมุดโรงเรยี นสิงหวทิ ยาคม แนวคิดทฤษฎีและหลกั ฐานตา่ ง ๆ
จากเอกสารท่ีเก่ยี วขอ้ งดังต่อไปนี้

2.1 ความหมายของห้องสมุด
คาว่า หอ้ งสมดุ (Library) หมายถงึ การจดั เก็บรวบรวมวัสดทุ ีใ่ ชบ้ ันทึกความรู้ในรปู แบบต่าง

ๆ ทุกรปู แบบ มีการจดั ดาเนินการเพ่ือใช้ใหเ้ ปน็ ประโยชน์
ความหมายของห้องสมุด คือ สถาบันท่ีทาหนา้ ทค่ี ัดเลอื ก จัดหา รวบรวม วเิ คราะห์ จัดเกบ็

สารนิเทศในรูปแบบตา่ ง ๆ ทุกรปู แบบทง้ั ท่ีเป็นวสั ดุสิ่งพิมพ์ วัสดุโสตทศั นแ์ ละวัสดุอิเล็กทรอนกิ ส์ มกี าร
จัดองค์กรบรหิ ารและดาเนินการตามระบบสากล ในฐานะท่ีเปน็ สถาบันสาคญั ของสงั คมท่ีทาหน้าทส่ี ร้าง
สม สบื ทอดและเผยแพร่มรดกทางความคดิ ภมู ิปญั ญา ประสบการณ์ กิจกรรมการค้นคิดตลอดจน
วชิ าการใหม่ ๆ เพ่ือเปน็ รากฐานในการสรา้ งสรรค์ พัฒนา และความเจรญิ ก้าวหน้าของสังคมต่อไป

ปจั จุบนั มีการจัดระบบห้องสมุดในรปู แบบใหม่เปน็ หอ้ งสมดุ อตั โนมตั ิ (Library Automation)
ห้องสมดุ มัลติมีเดีย (Multimedia Library) หรือห้องสมุดเสมอื น (Virtual Library) เป็นต้น

2.2 ความสาคัญของห้องสมุด
ความสาคัญของหอ้ งสมดุ การศึกษาไทยตามแนวทางการปฏริ ปู การศกึ ษามุ่งพฒั นาเยาวชน

ไทยให้ เก่ง ดี มคี วามสขุ จากสงั คมแห่งการเรยี นรู้ ซ่งึ เป็นสังคมคุณภาพทส่ี ร้างคนใหต้ ระหนกั ถึง
ความสาคญั ของการเรียนรู้ การสร้างนิสยั รักการอา่ น และการแสวงหาแหล่งเรียนรู้ เพ่ือนาความรู้ไป
ใชป้ ระโยชน์ ซ่งึ ปัจจบุ ันนีเ้ ปน็ ยคุ แหง่ ข้อมลู ข่าวสาร (Information Age) ผทู้ สี่ นใจจะศึกษาคน้ ควา้ ให้
เปน็ ผูร้ อบรู้ในวิทยาการ เช่ยี วชาญในงานวชิ าชพี และทนั สมัยต่อเหตกุ ารณ์ต่าง ๆ นัน้ จาเปน็ ต้อง
พง่ึ พาห้องสมุดเป็นอย่างยิง่ หอ้ งสมดุ เป็นปัจจยั สาคัญสง่ิ หน่งึ ทจ่ี ะบ่งชี้ถึงความมีมาตรฐาน ด้าน
การศกึ ษาของสถาบนั การศกึ ษาแห่งนั้น ๆ ความสาคัญของห้องสมดุ ในแต่ละสถาบันการศกึ ษาน้ัน อาจ
สรปุ ได้ดงั น้ี

2.1 ห้องสมดุ เป็นแหล่งรวมทรัพยากรสารสนเทศตา่ ง ๆ เป็นศูนย์กลางการเรียนรขู้ อง
สถาบันการศึกษาท่ีผ้ใู ชส้ ามารถศกึ ษาคน้ ควา้ ขอ้ มลู ทตี่ ้องการได้ทุกสาขาวิชาที่มีการเรียนการสอน ใน
สถานศกึ ษา เพื่อใหค้ รูอาจารยผ์ ู้สอน และนักเรยี นนกั ศึกษาเข้าคน้ คว้าหาความรู้ เปน็ สอื่ กลาง
ในกระบวนการเรยี นการสอน

2.2 ห้องสมดุ เปน็ แหล่งทท่ี กุ คนสามารถเลอื กศึกษาค้นควา้ ได้โดยอสิ ระตามความสนใจ ของ
แตล่ ะบุคคล เปน็ แหล่งภูมิปัญญาของสังคม อาจเป็นการค้นควา้ เพิ่มเตมิ เพื่อใหร้ อบรเู้ ข้าใจยิ่งขนึ้ ใน
เนอ้ื หาวชิ า หรอื เร่ืองท่ีกาลงั ศกึ ษาอยู่ หรือเลือกอา่ นส่ิงที่ตนสนใจ ซึ่งโรเจอร์ เบคอน นักปราชญช์ าว
อังกฤษกล่าวไวว้ ่า “การอ่านทาใหเ้ ป็นคนเต็มคน” ก่อให้เกดิ การศึกษาอยา่ งเป็นระบบและตอ่ เนื่อง
ตอบสนองความต้องการในการแสวงหาความรูเ้ ฉพาะบุคคล

2.3 ห้องสมุดชว่ ยให้ผใู้ ช้รจู้ กั ใช้เวลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชน์ คนเรานั้นหากมเี วลาว่างก็ควรจะ
ทาอะไรสกั อยา่ งเพื่อให้คุ้มคา่ เวลา การใชเ้ วลาว่างของแตล่ ะคนแตกตา่ งกัน เชน่ บางคนชอบน่ังเล่น
เฉยๆ ชมธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ มรอบตวั บางคนชอบดูหนัง บางคนชอบฟังเพลง บางคนชอบ เดนิ
ซื้อของหรือบางคนอาจชอบคุย แต่การใช้เวลาวา่ งท่คี ุม้ ค่าทีส่ ุดอย่างหน่ึงก็คือ การอา่ นหนังสอื หยิบ

หนังสือดี ๆ สักเลม่ ให้กับชวี ิตอา่ นแลว้ ทาให้ปัญญางอกงาม เกดิ ประโยชน์ต่อตนเองและสังคม และยงั
ชว่ ยให้ผใู้ ช้หอ้ งสมดุ พอใจท่จี ะอา่ นหนังสอื ต่างๆ โดยไม่รจู้ ักจบสิ้นจากเล่มหน่งึ ไปสู่อีกเลม่ หน่งึ

2.4 หอ้ งสมดุ ช่วยให้ผู้ใช้มีความรทู้ ันสมยั ทันเหตุการณ์อยู่เสมอ เพราะผูใ้ ช้ห้องสมุด เป็น
ประจาจะเปน็ ผู้ทรี่ ้ขู ่าวความเคลอ่ื นไหวทงั้ ภายในและภายนอกประเทศ

2.5 ห้องสมดุ ช่วยให้ผูใ้ ชม้ นี สิ ยั รกั การอา่ น การค้นคว้า และใฝห่ าความรู้ดว้ ยตนเอง เพราะ
หอ้ งสมดุ เป็นแหลง่ บริการข้อมลู ข่าวสาร จดั ให้มบี ริการช่วยการคน้ คว้า และเสนอแนะการอ่านผู้ซง่ึ
สามารถขยายขอบเขตการอ่าน การศึกษาค้นคว้าให้กว้างขวางออกไปไดม้ ากขนึ้ กอ่ ให้เกิด การเรยี นรู้
อย่างไมม่ ที ่สี ้ินสุด กระตนุ้ ให้รักการอ่านและการศึกษาค้นควา้

2.6 หอ้ งสมดุ เป็นสมบัติของส่วนรวม ซงึ่ ผ้ใู ชบ้ ริการจะต้องรับรูก้ ฎระเบยี บและปฏบิ ตั ิตาม
อยา่ งเคร่งครดั รบั รู้ถงึ สิทธแิ ละหน้าที่ท่ีพงึ มีพึงปฏบิ ัติต่อส่วนรวม จงึ เป็นการปลกู ฝงั ความเป็น
ประชาธิปไตยในตวั บุคคลเปน็ อย่างดี

2.7 ห้องสมุดชว่ ยใหผ้ ู้ใช้ห้องสมดุ มีความเพลิดเพลิน ซ่งึ นับว่าเป็นการพักผ่อนทางอารมณ์
ของผู้ใช้ห้องสมดุ วธิ หี นึ่งดว้ ย

2.3 ความสาคัญของบริการห้องสมุด
1. เปน็ องค์ประกอบทีเ่ ก้อื หนุนการพฒั นาห้องสมดุ

ในงานบรกิ ารห้องสมดุ บรรณารักษม์ หี นา้ ทีจ่ ดั เตรียม จดั หา ทรพั ยากรสารสนเทศเพื่อให้ผใู้ ช้ไดเ้ ข้าถึงได้
สะดวก ตรงกบั ความต้องการ มีคุณภาพ สาหรับงานบริการถ้าผใู้ ช้เปล่ยี น บรรณารกั ษ์กต็ ้องเปลย่ี นตาม
ผใู้ ช้ไปด้วย ซึ่งบรรณารกั ษต์ อ้ งคอยใหบ้ ริการให้ผใู้ ชต้ ลอดเวลา ซึง่ บรรณารกั ษ์ควรมีมนุษยสัมพนั ธท์ ดี่ ี
ต่อผ้ใู ช้ เพื่อสรา้ งภาพพจน์ทด่ี ีให้แกห่ ้องสมดุ และสรา้ งความนิยมชมชอบจากผใู้ ช้บริการ โดยศึกษาผูใ้ ช้
ตอ่ ความพงึ พอใจในงานบริการ เพ่อื นามาพัฒนาห้องสมดุ ใหก้ ้าวหนา้ ไปข้างหน้าดว้ ยความม่ันคงและ
เชอื่ ม่นั

2. สง่ เสรมิ สนับสนุนในดา้ นการศึกษา
ห้องสมดุ เปน็ แหลง่ รวมองค์ความรู้และส่ือการเรยี นรตู้ า่ งๆ โดยหอ้ งสมดุ มี 5 ประเภท ดังนี้
1.หอ้ งสมดุ มหาวิทยาลยั บทบาทของห้องสมุดมหาวิทยาลัยนจี้ ะส่งเสริมการศึกษาค้นควา้ หา
ความร้เู ปน็ หนว่ ยงานที่ ทกุ มหาวิทยาลัยตอ้ งมี
2.หอ้ งสมุดโรงเรยี น มีบทบาทในการส่งเสริมการศึกษาเช่นเดยี วกบั หอ้ งสมดุ มหาวทิ ยาลัย
3.ห้องสมดุ เฉพาะ เปน็ หอ้ งสมดุ ท่ใี หบ้ ริการสาขาวชิ าบางสาขาโดยเฉพาะ เช่นห้องสมุดทาง
การแพทย์ ซ่งึ เป็นหอ้ งสมดุ ส่งเสรมิ การศึกษาทางการแพทย์
4.หอ้ งสมุดประชาชน สาหรับคนทีไ่ มไ่ ด้ศึกษาในโรงเรียนหรอื มหาวิทยาลัยได้เขา้ ศกึ ษา
คน้ ควา้ หาความรู้ตดิ ตามข่าวสารท่ีตอ้ งการได้อยา่ งตอ่ เนื่อง ซ่งึ หลกั การของห้องสมุดประชาชนเพอื่
พัฒนาศักยภาพคุณภาพชีวิตของประชาชน
5.ห้องสมดุ แหง่ ชาติ เป็นแหล่งรวบรวมความรทู้ ีเ่ ก่ียวข้องกับการพัฒนาประเทศและความรู้
ทกุ อย่างที่ผลิตภายในประเทศ ดงั นัน้ จะทาให้เปน็ ความรู้สาหรบั ผู้ใชบ้ รกิ ารไดน้ าไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้
3. ในดา้ นเศรษฐกิจ
ช่วยให้ผใู้ ช้บรกิ ารประหยดั งบประมาณในการจดั ซื้อ หนังสือ วารสาร หนังสือพิมพ์ โดยที่ผูใ้ ช้
สามารถนาเงนิ ในสว่ นทจี่ ะเสียค่าใชจ้ า่ ยในส่วนนี้ไปใช้จ่ายในดา้ นอื่นๆ เพื่อหาความรู้ และความก้าวหน้า
ใหแ้ ก่ตนได้อย่างเตม็ ท่ี ซึ่งหอ้ งสมดุ จะจดั หาทรัพยากรมาให้บรกิ ารอย่างเท่าเทียมกนั โดยไม่คิดมูลคา่

4. ในทางวัฒนธรรม
สถาบันสารสนเทศหรือห้องสมุดตอ้ งจัดเก็บ ทานุบารุง รกั ษา และสง่ เสรมิ วัฒนธรรมชาติ
บ้านเมือง เป็นหนา้ ที่ของห้องสมดุ ทจ่ี ะจัดจัดการบริการท่ตี ้องให้สอดคล้องกบั วฒั นธรรม เช่น ประเพณี
ลอยกระทง หอ้ งสมดุ กต็ ้องจดั นิทรรศการเก่ยี วกับประเพณีลอยกระทงเพอ่ื เป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกบั
ประเพณใี ห้กบั นักศึกษาได้ ดังน้นั ห้องสมดุ จงึ เปน็ องคก์ รส่วนกลางของสงั คม
5. การเมืองการปกครอง
เป็นการสง่ เสริมระบอบการเมืองการปกครองของประเทศ ทีห่ ้องสมดุ ต้องจัดหาทรัพยากร
สารสนเทศเพ่ือบรกิ ารความรใู้ ห้แก่ทกุ ระดับ ซ่ึงบทบาทอาจจะไมจ่ ากัดเพียงแค่จัดหาทรัพยากร
สารสนเทศ แต่อาจจะใช้วิธกี ารสง่ เสริมการจัดกจิ กรรม เช่น การจัดกิจกรรมรณรงค์การเลือกตั้ง,จัด
กจิ กรรมสง่ เสรมิ การอ่าน เพ่ือใหค้ นไดร้ บั การฝึกฝนให้มีนิสัยรักการอ่าน และกิจกรรมส่งเสรมิ การรู้
สารสนเทศ เป็นตน้

วตั ถุประสงคก์ ารบริการห้องสมุด
1.เน้นให้ผู้ใช้รบั สารของสนเทศที่ถูกต้อง สมบรู ณ์ ตรงกับความต้องการผู้ใช้ให้มากท่ีสดุ
2.เปน็ ตวั กลางเชือ่ มโยงระหว่างผู้ผลติ และแหล่งสารสนเทศกับผูต้ ้องการใช้สารสนเทศ
3.ส่งเสรมิ การถ่ายทอดสารสนเทศเป็นไปอยา่ งมีประสิทธิภาพระหวา่ งผูใ้ ช้กบั แหล่งทรพั ยากร
4.กลัน่ กรองสารสนเทศได้สารสนเทศทีม่ ีคุณภาพ
5.ตอบสนองความต้องการของผ้ใู ช้รายบคุ คล กลุ่ม และมบี ริการที่สามารถสนองตอบความตอ้ งการ
6.พัฒนาทกั ษะการใช้สารสนเทศ ความรู้ ความคิด พัฒนาการรู้สารสนเทศในการศกึ ษา ค้นคว้า วจิ ยั
7.จดั เตรียมวัสดอุ ปุ กรณเ์ พื่ออานวยความสะดวกในการเขา้ ถงึ ท้งั ภายในและภายนอกสถาบันบรกิ าร
สารสนเทศ

บทท่ี 3

วิธีดาเนนิ งานศกึ ษาคน้ คว้า

การศึกษาเร่ือง การพัฒนาหอ้ งสมดุ โรงเรียนสิงหวทิ ยาคม
มวี ตั ถุประสงค์ เพื่อลดข้นั ตอนและระยะเวลาในการทางานของบรรณารกั ษ์ของห้องสมดุ
ทาใหห้ อ้ งสมดุ น่าสนใจ และทาใหค้ นอยากเข้าห้องสมุดมากข้นึ
3.1 ประชากรและกลุ่มตัวอยา่ ง
ประชากร นกั เรยี นโรงเรียนสิงหวทิ ยาคม
กลมุ่ ตัวอย่าง นกั เรยี นท่ีใชบ้ ริการหอ้ งสมุดจานวน 50 คน
3.2 วธิ ดี าเนนิ การศกึ ษาคน้ คว้า
การศึกษาคน้ คว้าเปน็ ประเภทสารวจ/ทดลอง มีขน้ั ตอนการศกึ ษาค้นควา้ ดังน้ี
1. ประชากร
2. เครอื่ งมือ
3. การเก็บรวบรวมข้อมลู
4. การจัดกระทาข้อมูล
5. การวเิ คราะหข์ ้อมลู
6. สถิตทิ ี่ใช้ในการวเิ คราะหข์ ้อมลู
3.3 ข้อมูลที่ใช้ในการศกึ ษาคน้ ควา้
ศกึ ษาคน้ คว้า ตารา วารสาร บทความ งานวจิ ยั ทเ่ี กี่ยวข้องกับการเข้าใช้ห้องสมุดและการศกึ ษา เพือ่
เปน็ แนวทางในการสรา้ งแบบสอบถาม
3.4 เครอ่ื งมอื ทใี่ ช้ในการศึกษาค้นคว้า
เครอ่ื งมือทใี่ ช้ในการศึกษาครัง้ น้ีเป็นแบบสอบถามซ่งึ ได้พัฒนามาจากแบบสอบถามของความพึงพอใจ
ในการใชบ้ รกิ ารห้องสมดุ ของห้องสมุดโรงเรยี นสิงหวทิ ยาคม
3.5 การเกบ็ รวบรวมข้อมูล
ผศู้ กึ ษาไดด้ าเนินการเก็บรวบรวมโดยวิธกี ารสัมภาษณ์และสอบถามด้วยตนเองแลว้ นาขอ้ มูลมา
เกบ็ รวบรวมไวใ้ นคอมพวิ เตอร์
3.6 การวิเคราะห์ขอ้ มูล
นาข้อมลู ท่รี วบรวมมาจากกลุ่มตวั อย่างทาการวเิ คราะห์โดยวิธี โดยใชค้ า่ ร้อยละ

บทท่ี 4

ผลการวเิ คราะห์ข้อมลู

การศกึ ษาเรื่อง การพัฒนาห้องสมดุ โรงเรียนสิงหวิทยาคม มีวตั ถปุ ระสงค์เพื่อ

1. เพอ่ื ลดข้นั ตอนและระยะเวลาในการทางานของบรรณารักษข์ องห้องสมุด

2. เพอ่ื ทาใหห้ ้องสมุดนา่ สนใจ และมีคนอยากเขา้ ห้องสมุดมากขน้ึ

ผลการศกึ ษาคน้ ควา้ พบวา่

จากการศึกษาพบว่าหอ้ งสมุดของโรงเรียนยงั ขาดการจัดระบบการจดั การท่ีดเี พราะผทู้ ดี่ แู ล

หอ้ งสมดุ ก็ต้องทาหน้าทสี่ อนหนังสือด้วยและยวุ บรรณารักษ์กต็ ้องเรียนหนังสอื ซง่ึ บางครั้งกเ็ กิดการดูแล

และใหบ้ ริการไม่ทั่วถึง ส่ิงแวดล้อมไม่เอื้อต่อการเรยี นรู้จึงทาใหม้ ีคนมาใช้บริการห้องสมดุ นอ้ ยมาก

การนาเสนอผลการวเิ คราะหข์ อ้ มูล

ตารางที่ 1จานวนและร้อยละของนักเรียน จาแนกตามเพศ

สภาพของ(หนว่ ยประชากร) จานวน ร้อยละ

1. เพศ

1.1 ชาย 25 50

1.2 หญิง 25 50

รวม 50 100

ตารางที่2 จานวนและร้อยละความพงึ พอใจในการเข้าใช้ห้องสมดุ

รายการประเมิน มาก(3) ปานกลาง(2) นอ้ ย(1) คา่ เฉลย่ี

1.จานวนบคุ ลากร 19 31 0 2.38

2.บุคลาการมีความเหมาะสมกับงาน 33 17 0 2.66

3.มรี ะบบในการทางานชัดเจน รวดเรว็ 34 16 0 2.68

4.มีการจัดการควบคุม ดูแลวัสดอุ ปุ กรณ์อย่างมรี ะบบ 36 14 0 2.72

5.จานวนหนังสือ สิ่งพมิ พ์ และโสตทัศนวสั ดุ 39 11 0 2.78

6.สถานทพ่ี อเพียงและเหมาะสม 41 9 0 2.82

7.มีการจดั บรรยากาศท่ีเหมาะสม 35 15 0 2.70

8.มกี ารจัดการบริหารและกจิ กรรมส่งเสรมิ การอา่ น 39 11 0 2.78

9.มีการเผยแพร่ แนะนา การใชบ้ รกิ ารหอ้ งสมุด 41 9 0 2.82

10.การดาเนินงานโดยรวมมีประสิทธิภาพ 36 14 0 2.72

รวม 353 147 0 2.71

บทท่ี 5

สรุป อภิปรายผลและขอ้ เสนอแนะ

การศกึ ษาคน้ คว้าในครงั้ น้ี สรุป อภิปรายผลและมีข้อเสนอแนะดงั ต่อไปน้ี
5.1 สรุปผลการศึกษาค้นคว้า

จากการศกึ ษาค้นควา้ ทาให้ทราบว่าความพึงพอใจของแต่ละด้านของหอ้ งสมดุ สามารถสรุป
ไดว้ ่า ความพงึ พอใจโดยรวมในสภาพท่ัวไปของห้องสมดุ เช่น แสงสวา่ ง เสยี งรบกวน อุณหภูมิ
ความสะอาด และความเปน็ ระเบียบ จานวนเนือ้ หาของหนังสอื และวารสารตรงกับความตอ้ งของ
ผ้ใู ชบ้ รกิ าร คาแนะนาในการสบื ค้น ดา้ นความรวดเรว็ ถกู ต้องในการให้บริการของเจา้ หน้าท่ี และความ
พงึ พอใจโดยรวมของการให้บริการของเจ้าหนา้ ที่มีการจดั ท่ีดพี อสมควรและนักเรียนส่วนใหญม่ ีความพงึ
พอใจในสภาพทัว่ ไป

5.2 อภิปรายผลการศึกษาค้นควา้
องค์ประกอบโดยรวมของห้องสมุดมีการจดั การที่ดี แตบ่ รรยากาศของห้องสมุดควรจัดให้

เป็นระเบียบ น่าสนใจ และทาส่ือใหห้ ลากหลาย เพราะห้องสมุดเป็นสถานที่สาหรบั ค้นคว้าหาความรูแ้ ละ
เป็นสถานทที่ ท่ี าใหร้ ู้สกึ ผ่อนคลาย เงียบสงบ

5.3 ข้อเสนอแนะ
1. ควรซือ้ หนงั สือเพ่ิมและหลากหลาย
2. จัดระเบียบใหเ้ ครง่ คัด
3. ควรจดั กิจกรรมทน่ี า่ สนใจ

บรรณานุกรม

พชั ราภรณ์ กัญญาคา. (2559).งานวจิ ยั เรื่อง การเช้าใช้ห้องสมุดของนักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี5/1
โรงเรียนยโสธาพทิ ยาคม. สบื ค้นเม่ือ 11 มกราคม 2564, http://siriya12.blogspot.com/

ความหมายของห้องสมดุ . (2553). สบื ค้นเมื่อ 11 มกราคม 2564
https://sites.google.com/site/kruwatt4km/library/khwamhmaykhxnghxngsmud

ความสาคัญของห้องสมดุ . (2553). สบื ค้นเม่ือ 11 มกราคม 2564
http://www.tallasseelibrary.com>tag>ความสาคัญของห้องสมดุ

ทฤษฎีการบริการหอ้ งสมุด. (2553). สบื คน้ เม่อื 11 มกราคม 2564
https://707043wallaya.wordpress.com/tag/ทฤษฎีการบรกิ ารหอ้ งสมุด

ความพงึ พอใจในการใช้บริการห้องสมุดของนักเรยี นโรงเรยี นพะเยาพิทยาคม. (2555).
https://sites.google.com/site/isrongreiynphayeaphithyakhm
สืบคน้ เมื่อ 1 กุมภาพนั ธ์ 2564

ภาคผนวก

ภาคผนวก ก
ภาพแสดงกจิ กรรมการศกึ ษาค้นควา้

ภาคผนวก ข
เครื่องมือทใี่ ชใ้ นการศึกษาค้นคว้า

แบบสอบถาม

รายการประเมนิ มาก(3) ปานกลาง(2) นอ้ ย(1) คา่ เฉล่ยี

1.จานวนบคุ ลากร

2.บคุ ลาการมีความเหมาะสมกับงาน

3.มรี ะบบในการทางานชดั เจน รวดเรว็

4.มีการจัดการควบคมุ ดแู ลวัสดุอปุ กรณ์อย่างมรี ะบบ

5.จานวนหนังสือ สิ่งพมิ พ์ และโสตทศั นวัสดุ

6.สถานท่พี อเพียงและเหมาะสม

7.มกี ารจัดบรรยากาศที่เหมาะสม

8.มีการจัดการบรหิ ารและกจิ กรรมส่งเสริมการอ่าน

9.มกี ารเผยแพร่ แนะนา การใช้บรกิ ารหอ้ งสมุด

10.การดาเนนิ งานโดยรวมมปี ระสิทธภิ าพ

รวม

ประวัตผิ จู้ ดั ทา

1. ช่ือ นายธนภัทร เขม็ เพ็ชร
วนั /เดือน/ปี 7 กันยายน 2546
ประวตั ิการศึกษา กาลงั ศึกษาอยู่ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5/1

2. ชื่อ นายวัฒนา คาเฮือง
วนั /เดอื น/ปี 26 กรกฏาคม 2546
ประวตั ิการศกึ ษา กาลังศึกษาอยชู่ ้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 5/1

3. ชื่อ นายณฐกร สินฉยั ยา
วัน/เดือน/ปี 10 พฤษภาคม 2546
ประวัตกิ ารศกึ ษา กาลงั ศึกษาอยู่ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 5/1

4. ชอื่ นางสาวเกศิณี ขมุ ทอง
วัน/เดอื น/ปี 24 เมษายน 2546
ประวัติการศึกษา กาลงั ศึกษาอย่ชู ั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 5/1

5. ชอ่ื นางสาวคณิตสร พลประสทิ ธิ์
วัน/เดอื น/ปี 26 สงิ หาคม 2546
ประวัตกิ ารศึกษา กาลงั ศึกษาอย่ชู น้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5/1

6. ช่ือ นางสาวทพิ บปุ ผา สุไต้ทอน
วัน/เดอื น/ปี 29 กรกฎาคม 2546
ประวตั กิ ารศกึ ษา กาลงั ศึกษาอยชู่ ั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 5/1

7. ชอ่ื นางสาวปณุ ญาพร เข็มบุบผา
วัน/เดือน/ปี 18 พฤศจิกายน 2546
ประวตั กิ ารศกึ ษา กาลงั ศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 5/1


Click to View FlipBook Version