การบริหารงานคุณภาพ

กจิ กรรมการเรยี นการสอน

ข้นั ตอนการสอนหรือกจิ กรรมของครู ขั้นตอนการเรยี นหรอื กิจกรรมของนกั เรยี น

ข้ันนำเข้าสูบ่ ทเรยี น

1. ปฏิสันถารกบั นักเรยี นเพอ่ื สำรวจความพร้อม - ให้นักเรียนทบทวนความรูจ้ ากใบงาน

ของนักเรียน - นกั เรียนฟงั คำบรรยายจากผู้สอน

2. แจกใบงาน - นักศึกษาพยายามจดบนั ทึกข้อความทีไ่ ด้ฟงั

3. ใหน้ ักเรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น จากผสู้ อน

4. ตรวจสอบรายชื่อนักเรียนทเ่ี ข้าเรียนขนั้ สอน - ศกึ ษาสอ่ื และเอกสารจากใบงานที่แจกให้

5. ให้นักเรยี นศกึ ษาขอ้ มลู จากใบงาน - จดบันทกึ ขอ้ ความท่ีไดฟ้ ังจากผสู้ อน

6. อาจารยผ์ ู้สอนอธิบายเนอื้ หาความรจู้ าก - ซกั ถามเม่ือมีปัญหาไม่เข้าใจในบทเรยี น

ใบงาน - ตอบปัญหา

7. ให้นักเรยี นซักถามกบั บทเรยี นท่ีได้อธิบายใน - ให้แตล่ ะกลุ่มทำงานเปน็ กลุ่ม กลุ่มละ 5 คน

ใบงานวา่ มีขอ้ สงสัยอะไรบา้ ง

ข้ันสรปุ - ให้นกั ศึกษาไปทำแบบทดสอบจากใบงานท่ี

8. อธิบายเน้ือหาจากใบงานเพ่ิมเตมิ ให้

9. มอบใบงานใหน้ ักเรียนไปคน้ คว้าความรู้ - ให้นักศึกษาไปศึกษาความรเู้ รือ่ งท่ีจะเรยี นใน

เพิ่มเติมเก่ียวกับหัวข้อที่กำหนดให้ สปั ดาห์หนา้

งานที่มอบหมายหรือกิจกรรม
กอ่ นเรยี น

1) มีการสนทนาดคยุ ระหวา่ งผเู้ รียนกบั ผู้สอน
2) ให้นกั เรียนศกึ ษาเนื้อหาคามรจู้ ากใบงาน
3) ตรวจสอบเช็คซือ่ นักเรยี น
4) ทำแบบทดสอบก่อนเรียน

ขณะเรียน
1) ให้นักเรียนทำงานเปน็ กลมุ่ กลมุ่ ละ 5-6 คน
2) ใหส้ ง่ ตวั แทนกลุม่ ออกมาเลือกหัวหนา้ ขอ้ การทำรายงาน
3) ให้แต่ละกลมุ่ ออกมารายงานหน้าช้ันเรยี น
4) ผ้ฟู ังซกั ถามในบางหัวขอ้ ทย่ี งั ไม่เข้าใจ
5) กลมุ่ ผ้อู อกรายงานถามผ้ฟู ังกลบั ว่ามคี วามเขา้ ใจในเนอื้ หาการรายงานมากเพียงใด
6) ครผู ้สู อนสรุปเนื้อหาเพม่ิ เตมิ

หลักเรียน
1) ทำแบบฝกึ หดั ท้ายบท
2) ให้นักศกึ ษาไปศึกษาเนอื้ หาทจี่ ะเรียนในคาบถัดไป

สอื่ การเรยี นการสอน 2) แบบทดสอบลกั เรียน
4) แบบเรียน
สื่อส่ิงพมิ พ์
1) แบบทดสอบกอ่ เรียน
3) ใบงาน

สอื่ โสตทศั น์ (ถา้ ม)ี 2) เครือ่ งฉายขา้ มศีรษะ
1) เครอ่ื งฉายสไลด์

หนุ่ จำลองหรือของจริง (ถ้าม)ี

การประเมนิ ผล

กอ่ นเรยี น
นกั เรียนสามารถอธบิ ายรายละเอยี ดเร่ือง วิธีการปรบั ปรุงการเพมิ่ ผลไดโ้ ดยสังเขป

ขณะเรียน
1) นกั เรยี นสามารถตัง้ โจทย์คำถามขึ้นจากเนื้อที่ไดเ้ รียรและสามารถตอบปัญหากันเองภายนกล่มุ ได้
2) ให้ทำแบบฝึกหัดท้ายบท

หลกั เรียน
ใหน้ ักเรียนไปศึกษาเน้อื หาท่ีจะเรียนในคาบถัดไป

แผนการสอน หน่วยท่ี 11

ช่อื วชิ า สอนครั้งท่ี 11

ชอ่ื หน่วย ประโยชน์การเพ่มิ ผลผลติ และการสูญเสีย ชั่วโมงรวม 3
เนื่องจากการเพม่ิ ผลผลิต

ชื่อเร่ืองหรือช่อื งาน ประโยชนก์ ารเพมิ่ ผลผลติ และการสญู เสียเน่อื งจากการเพมิ่ ผลผลติ จำนวนช่งั โมง 3

หัวขอ้ เรือ่ งและงาน

1. ความหมายและความสำคญั ของการผลิต 2. ปัจจัยการผลิต 3. การผลติ ทางดา้ นธรุ กจิ อตุ สาหกรรม

4. ลำดบั ขน้ั ในการผลิต 5. เป้าหมายและองคป์ ระกอบในการผลติ 6. ปญั หาในการผลติ 7. ระบบการผลติ

8. การควบคุมการผลิต 9. ปัญหาในการผลิต 10. ผลประโยชนท์ ไ่ี ด้รับจากการเพ่ิมผลผลิตในลกั ษณะกำไร

11. ผลประโยชนท์ ่ไี ดร้ ับจากการเพม่ิ ผลผลติ ในลักษณะงาน 12. ความสูญเสียเนื่องจากการผลิต

สาระสำคัญ

ตามท่ีบริษัทหรือโรงงานอตุ สาหกรรมต่างๆไดท้ ำการรณรงค์การเพมิ่ ผลผลิตขึ้นสง่ ผลใหส้ นิ ค้าที่ผลิตออกมาสามารถ

สง่ ขายให้ประชากรในประเทศและภายนอกประเทศ การสง่ สินคา้ ออกขายได้ นอกจากจะทำกำไรมาจัดสรรใหพ้ นกั งาน

ผู้ลงทนุ และผ้บู ริหารแลว้ ผลประโยชน์ท่ตี ามมาคือผลประโยชน์ทเี่ กดิ จากการเพม่ิ ผลผลิต

สมรรถนะที่พงึ ประสงค์ (ความรู้ ทกั ษะ คณุ ธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณนักวิชาชพี )

1. สามารถอธบิ ายความหมายปญั หาของการผลิตปจั จยั การผลิตลำดบั ขน้ั ตอนการผลิตเป้าหมายและองคป์ ระกอบใน

การผลิตได้

2. สามารถอธิบายความหมายของปัญหาการผลติ ระบบการผลิตการควบคมุ การผลิตและระบบการผลิตได้

3. สามารถอธิบายทไ่ี ด้รบั จากการผลติ ได้

4. สามารถอธบิ ายถึงความสูญเสยี เนื่องจากการผลิต

เนื้อหาสาระ
1. ความหมายและความสำคญั ของการผลติ
2. ปจั จยั การผลติ

2.1 ทดี่ นิ
2.2 ทนุ (Capital)
2.3 แรงงาน (Labor)
2.4 ผปู้ ระกอบการ (Entrepreneur)
3. ลำดบั ขัน้ ในการผลิต
3.1 ขั้นปฐมภมู ิ
3.2 ขนั้ ทตุ ยิ ภมู ิ
3.3 ข้ันตติยภมู ิ
4. องค์ประกอบสำคญั ในการผลติ
4.1 คน(Man)
4.2 เคร่อื งจักร (Machine)
4.3 เงนิ ทุน(Money)
4.4 วตั ถุดบิ (Material)
5. ปัญหาในการผลติ
5.1 จะผลติ อะไร หรอื ทีเ่ รียกวา่ วอท ทู โปรดัก (What to product)
5.2 จะผลติ อย่างไร หรอื ที่เรียกว่า ฮาว ทู โปรดกั (How to product)
5.3 จะผลติ อยา่ งไร หรือทเ่ี รยี กวา่ ฮาวมัส ทู โปรดัก (How to product)
6. ระบบการผลิตประกอบดว้ ยสว่ นสำคญั 3 ประการ คอื
6.1 ปจั จยั การผลิต (Input)
6.2 กระบวนการผลติ (Production Process)
6.3 ผลผลิต (Out put)
7. ผลประโยชนท์ ่ีได้รับจากการเพมิ่ ผลผลิตในลกั ษณะ

กจิ กรรมการเรยี นการสอน

ขน้ั ตอนการสอนหรอื กจิ กรรมของครู ขัน้ ตอนการเรียนหรือกจิ กรรมของนกั เรียน

ข้นั นำเข้าสบู่ ทเรียน

1. ปฏิสนั ถารกับนักเรียนเพือ่ สำรวจความพร้อม - ให้นักเรียนทบทวนความรจู้ ากใบงาน

ของนกั เรียน - นักเรยี นฟงั คำบรรยายจากผู้สอน

2. แจกใบงาน - นักศึกษาพยายามจดบันทึกข้อความท่ไี ด้ฟังจาก

3. ให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน ผ้สู อน

4. ตรวจสอบรายชื่อนักเรียนท่เี ข้าเรยี นขนั้ สอน - ศกึ ษาสอ่ื และเอกสารจากใบงานที่แจกให้

5. ให้นกั เรยี นศึกษาข้อมูลจากใบงาน - จดบนั ทึกข้อความท่ไี ดฟ้ ังจากผ้สู อน

6. อาจารย์ผู้สอนอธบิ ายเนอ้ื หาความร้จู ากใบงาน - ซกั ถามเม่ือมปี ญั หาไม่เขา้ ใจในบทเรียน

7. ใหน้ กั เรยี นซกั ถามกับบทเรียนท่ไี ด้อธิบายในใบงาน - ตอบปัญหา

ว่ามขี ้อสงสยั อะไรบ้าง - ให้แต่ละกลมุ่ ทำงานเป็นกลมุ่ กล่มุ ละ 5 คน

ข้นั สรุป

8. อธิบายเนอื้ หาจากใบงานเพ่มิ เตมิ - ใหน้ กั ศึกษาไปทำแบบทดสอบจากใบงานทใ่ี ห้

9. มอบใบงานใหน้ กั เรยี นไปค้นควา้ ความร้เู พมิ่ เติม - ใหน้ ักศึกษาไปศึกษาความรู้เรื่องที่จะเรียนใน

เกยี่ วกบั หวั ข้อท่กี ำหนดให้ สปั ดาห์หนา้

งานทมี่ อบหมายหรือกิจกรรม
กอ่ นเรียน

1) มีการสันถารระหว่างผสู้ อนกบั ผู้เรยี น
2) อาจารย์ผู้สอนถามนักเรียนเรอื่ งท่ีจะเรียนในคาบน้ี วา่ นักเรียนมีความรมู้ ากเพยี งใด
3) นักเรยี นศกึ ษาความรูจ้ ากใบงานที่แจกให้
4) ทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน

ขณะเรียน
1) ครูผูส้ อนอธิบายเน้อื หาความรรู้ ื่องประโยชนก์ ารเพ่มิ ผลผลิตและการสญู เสียเน่ืองจากการเพ่มิ ผลผลิตให้

นกั เรยี นฟงั
2) นกั เรียนต้งั ใจฟังแลว้ จดบันทึกเนื้อหาอยา่ งยอ่ ๆลงในสมุด
3) เปิดโอกาสใหผ้ ฟู้ ังซกั ถามในจดุ ท่ีไม่เข้าใจ
4) ครผู ู้สอนสรปุ เนื้อหาเพิ่มเตมิ

หลงั เรยี น
1) ทำแบบฝกึ หัดท้ายบท
2) ใหน้ กั เรยี นไปศึกษาเนอ้ื หาทจ่ี ะเรียนในคาบถัดไป

สอื่ การเรียนการสอน
ส่ิงพมิ พ์
1) แบบทดสอบกอ่ นเรียน
2) แบบทดสอบหลังเรียน
3) ใบงาน
4) แบบเรยี น

ส่ือโสตทศั น์ (ถา้ ม)ี
1) เคร่ืองฉายสใลด์
2) เครอ่ื งฉายภาพข้ามศรีษะ

หนุ่ จำลองหรอื ของจรงิ (ถา้ มี)

การประเมินผล
ก่อนเรียน
นกั เรยี นสามารถอธบิ ายเร่ืองประโยชน์การเพ่มิ ผลผลิตและการสูญเสยี เนื่องจากการเพ่มิ ผลผลติ
โดยสงั เขปได้

ขณะเรียน
1. นกั เรยี นสามารถตั้งโจทยป์ ัญหา ข้นึ จากเนอื้ เร่ืองทีไ่ ด้เรียนและสามารถตอบปญั หากับตวั เองภายใน

กลุ่มได้
2. ทำแบบฝกึ หัดทา้ ยบท

หลงั เรียน
ใหน้ กั เรยี นไปศึกษาเนอ้ื หาความร้จู ากเร่อื งที่จะเรียนในคาบถดั ไป

แผนการสอน หน่วยที่ 12
ช่ือวชิ า สอนครง้ั ท่ี 12
ชือ่ หนว่ ย การวางแผนและกระบวนการางแผนเพอื่ พฒั นา ช่ัวโมงรวม 3

ชอื่ เรื่องหรือช่ืองาน การวางแผนและกระบวนการางแผนเพ่ือพฒั นา จำนวนชัง่ โมง 3

หัวขอ้ เรื่องและงาน

1. ความหมายและความสำคญั ของการวางแผน 2. การเขยี นส่วนประกอบของการวางแผน 3. กระบวนการวาง

แผนพัฒนา 4. การตัดสนิ ใจการเลอื กแนวทางการแกป้ ญั หา 5. ลกั ษณะของแผนปฏบิ ตั กิ ารเพ่อื พัฒนางาน 6.

การกำหนดเป้าหมายในการวางแผนปฏบิ ตั ิการเพ่ือพฒั นางาน 7. การกำหนดกจิ กรรมในแผนปฏิบตั กิ ารเพื่อพัฒนา

งาน

8. การปรับแผนปฏิบัตกิ ารเพอ่ื พฒั นางาน

สาระสำคญั

การดำเนนิ กิจกรรมต่างๆ จะประสบผลสำเร็จมาน้อยเพยี งใดนอกจากจะมีเงนิ ทุน คน เคร่อื งจักร และวธิ กี าร

บริหารทดี่ แี ลว้ สิง่ สำคญั ในการดำเนนิ งานกจิ กรรม แตล่ ะอยา่ งท่ีผู้บริหารต้องคำนึงถงึ เม่ือมกี ารดำเนนิ กจิ กรรมแตล่ ะ

คร้ังกค็ อื การวางแผนแผนงานทีด่ จี ะทำใหบ้ รษิ ัทสำเร็จหรือมีชัยชนะตอ่ ค่แู ขง่ การวางแผนทีด่ จี ะทำใหก้ ารดำเนนิ งาน

เป็นไปดว้ ยความเรียบร้อยไม่มีอุปสรรค หรือถา้ มกี ็สามารถแกไ้ ขให้ลลุ ว่ งไปได้

สมรรถนะทพี่ งึ ประสงค์ (ความรู้ ทกั ษะ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณนักวชิ าชีพ)

1. สามารถอธิบายความหมาย ความสำคัญและส่วนประกอบของการวางแผนได้

2. สามารถเขา้ ใจถึงกระบวนการในการวางแผนเพื่อพฒั นาได้

3. สามารถเขา้ ใจและตดั สินใจการเลือกแนวทางแกป้ ัญหา และวางแผนปฏบิ ตั ิการเพื่อพฒั นาได้

4. สามารถกำหนดเป้าหมาย กำหนดกิจกรรมและแผนปฏิบัตกิ ารเพอื่ พฒั นาได้

5. สามารถนำหลงั ทีศ่ กึ ษาไปปรับใช้ในชวี ิตประจำวันเพ่อื การเพิม่ ผลผลติ ต่างๆภายในองคก์ รและชุมชนได้

เนอื้ หาสาระ

1. ความหมายและความสำคญั ของการวางแผน 9.การสำรวจสภาพปญั หา

2. การเขียนส่วนประกอบของแผนงานแตล่ ะประเภทตา่ งๆ 10.การวเิ คราะห์ประเดน็ ปัญหา

3. การเขียนแผนงานประจำปี (Year Plan)

4. การเขียนแผนงานสว่ นบคุ คล (Persons Plan)

5. การเขียนแผนปฏบิ ตั งิ าน

6. แผนปฏิบัตกิ ารเพื่อการพัฒนางาน

7. เป้าหมายการเพ่ิมประสิทธิภาพการทำงาน

8. ผลกระทบภายในหนว่ ยงาน

กจิ กรรมการเรยี นการสอน

ข้ันตอนการสอนหรอื กจิ กรรมของครู ขัน้ ตอนการเรียนหรือกจิ กรรมของนกั เรียน

ขั้นนำเข้าสู่บทเรยี น

1. ปฏิสันถารกบั นกั เรียนเพือ่ สำรวจความพร้อม - ให้นักเรียนทบทวนความรจู้ ากใบงาน

ของนักเรียน - นักเรยี นฟงั คำบรรยายจากผู้สอน

2. แจกใบงาน - นักศึกษาพยายามจดบันทึกข้อความท่ไี ด้ฟังจาก

3. ให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน ผ้สู อน

4. ตรวจสอบรายชื่อนกั เรียนท่เี ข้าเรยี นขนั้ สอน - ศกึ ษาสอ่ื และเอกสารจากใบงานที่แจกให้

5. ให้นักเรยี นศกึ ษาข้อมูลจากใบงาน - จดบนั ทึกข้อความท่ไี ดฟ้ ังจากผ้สู อน

6. อาจารยผ์ ู้สอนอธบิ ายเนอ้ื หาความร้จู ากใบงาน - ซกั ถามเม่ือมปี ญั หาไม่เขา้ ใจในบทเรียน

7. ให้นกั เรยี นซักถามกับบทเรียนท่ไี ด้อธิบายในใบงาน - ตอบปัญหา

วา่ มขี อ้ สงสัยอะไรบ้าง - ให้แต่ละกลมุ่ ทำงานเป็นกลมุ่ กล่มุ ละ 5 คน

ข้นั สรุป

8. อธิบายเนือ้ หาจากใบงานเพ่มิ เตมิ - ใหน้ กั ศึกษาไปทำแบบทดสอบจากใบงานทใ่ี ห้

9. มอบใบงานใหน้ กั เรียนไปค้นควา้ ความร้เู พมิ่ เติม - ใหน้ ักศึกษาไปศึกษาความรู้เรื่องที่จะเรียนใน

เก่ียวกับหัวข้อท่กี ำหนดให้ สปั ดาห์หนา้

งานทม่ี อบหมายหรอื กจิ กรรม
กอ่ นเรยี น

1. มกี ารสนทนาซักถามระหว่างผสู้ อนกับผเู้ รียน
2. ให้นักเรียนศกึ ษาความรู้จากใบงานหรือแบบเรียนทแี่ จกให้
3. ให้นกั เรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน
ขณะเรยี น
1. ให้นกั เรียนแบ่งกล่มุ ออก กลมุ่ ละ 5-6 คนให้ไปทำรายงานเรอ่ื งท่ีผ้สู อนกำหนดให้โดยแต่ละกล่มุ แบ่ง

หนา้ ท่คี วามรับผิดชอบเองวา่ ใครจะเป็นประธาน รองประธาน เลขา ฯลฯ
2. ให้แต่ละกลมุ่ ออกมารายงานหน้าชั้นเรียน
3. ให้ผู้ฟงั ซกั ถามขอ้ ความทไี่ ม่เข้าใจ หรือในถอ้ ยคำท่ีสงสยั
4. ให้ผ้รู ายงานซักถามคอื ว่า ผู้ฟงั มีความเข้าใจในหวั ขอ้ รายงานเพยี งใด
5. ครผู ้สู อนสรุปเพมิ่ เติมกบั หวั ขอ้ ของแต่ละกลุม่ ทีอ่ อกรายงาน
หลงั เรยี น
1. ให้นกั เรยี นทำแบบฝึกหัดทา้ ยบทจากใบงานหรอื บทเรียน
2. มอบหมายงานให้นกั เรยี นไปศกึ ษาหาความรูเ้ ร่อื งทีเ่ รยี นในสปั ดาห์ถัดไป
3. ตรวจสอบเช็คชอื่ นกั ศึกษาก่อนเลิก

สือ่ การเรียนการสอน
ส่ิงพมิ พ์
1. แบบทดสอบกอ่ นเรียน
2. แบบทดสอบหลังเรียน
3. ใบงาน
4. หนงั สอื แบบเรียน
5. รปู ภาพ
สือ่ โสตทศั น์
1.) แผน่ ใส
2.) เครือ่ งฉายภาพขา้ มศรษี ะ

หนุ่ จำลองหรอื ของจริง (ถ้าม)ี

การประเมินผล
กอ่ นเรยี น
ครใู หน้ กั เรียนอธิบายความหมายของการวางแผนและกระบวนการวางแผนเพ่ือพัฒนาทางธรุ กจิ ครา่ วๆได้

ขณะเรียน
1. นกั เรยี นสามารถต้งั คำถามจากหวั ข้อทไี่ ดร้ บั มอบหมายและตอบปัญหาด้วยตนเอง
2. นักเรียนทำแบบฝึกหดั ในใบงานท่ีมอบหมายให้ได้

หลังเรียน
ให้นกั เรยี นไปศึกษาเนอ้ื หาความร้จู ากเรื่องทจี่ ะเรยี นในคาบถดั ไป

แผนการสอน หน่วยท่ี 13

ช่อื วิชา สอนคร้ังที่ 13

ชื่อหนว่ ย เคร่ืองมอื การจัดการ ชว่ั โมงรวม 3
คณุ ภาพ

ชอ่ื เรื่องหรอื ชื่องาน เครื่องมอื การจดั การคณุ ภาพ จำนวนชว่ั โมง 3

หัวขอ้ เรอ่ื งและงาน

1) เทคนิคในการควบคุมคุณภาพ

2) ใบตรวจสอบ

3) การจำแนกข้อมูล

4) แผนภาพสาเหตแุ ละผล

5) กราฟ

6) แผนภมู พิ าเรโต

7) ฮิสโตแกรม

8) แผนภาพกระจาย

9) เบื้องตน้ การสุม่ ตัวอยา่ งเพ่ือการยอมรับ

สาระสำคญั

การประกันคุณภาพมีความสำคัญในการบริหารงานในบรษิ ทั โรงงานอุตสาหกรรมและองคก์ รต่างๆ

เพอื่ เป็นการเพิม่ ผลผลิตด้วยวิธีตา่ งๆ เครือ่ งมอื การจัดการคุณภาพจึงเป็นตวั ชว่ ยในการดำเนนิ การตาม

คุณภาพ เพ่อื สนองความตอ้ งการ ขยายตัวขององค์กรในอนาคตตอ่ ไป

สมรรถนะที่พึงประสงค์ (ความรู้ ทักษะ คณุ ธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวชิ าชพี )

1) สามารถอธบิ ายเทคนิคในการควบคุมคุณภาพได้

2) สามารถอธบิ ายใบตรวจสอบ การจำแนกข้อมูลและแผนภาพสาเหตุและผล

3) สามารถอธบิ ายกราฟและแผนภูมพิ าเรโตได้

4) สามารถอธิบายฮิสโตแกรมและแผนภาพกระจายได้

5) สามารถอธบิ ายเบือ้ งต้นการสมมตุ ติ ัวอย่างเพ่ือการยอมรับได้

6) สามารถนำเครอ่ื งมอื ทีศ่ ึกษาไปประยกุ ตใ์ ช้ในงานต่างๆได

เนือ้ หาสาระ

1) การวเิ คราหง์ าน คือ การรวบรวมรายละเอียดและข้อมลู เกย่ี วกับงานในองค์การจดั
ทำระบบงานหรอื ลักษณะงานวา่ บทบาทและงานน้ันมีหน้าทคี่ วามรบั ผิดชอบอยา่ งไรบา้ งมีขนั้ ตอน
กระบวนการอยา่ งไร
2) เครอื่ งมือคณุ ภาพ ส่งิ ทใ่ี ชว้ ัดตัวแปรเพ่ือศึกษารายละเอยี ดและขอ้ มลู ของตวั แปรอาจแยกออก
ไดเ้ ปน็ 6 ประเภท

2.1) แบบสอบถาม
2.2) แบบสมั ภาษณ์
2.3) แบบตรวจสอบรายการ
2.4) แบบสงั เกต
2.5) แบบทดสอบ
2.6) แบบบันทึกรายงาน
3) การตรวจสอบรายการ เป็นเครอ่ื งมอื ท่ีใช้ควบคุมการทำงานใหเ้ ปน็ ไปตามระบบและระเบยี บ
วิธีที่กำหนดสามารถใช้ในการบริหารงานบุคคล การตรวจสอบ การบำรุงรักษา การแกไ้ ชปญั หาเปน็
เคร่อื งมอื ท่สี ำคญั ในการประกนั คุณภาพ เพราะเป็นเคร่อื งมือทค่ี อยควบคมุ และตรวจสอบการให้
เป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพ ท่กี ำหนดไว้
4) แนวคดิ ในการเลือกใช้เคร่ืองมือคณุ ภาพ
4.1) เพอื่ การพฒั นารูปแบบของผลผลิตภัณฑป์ ระเภทต่างๆ
4.2) เพ่อื การควบคุมข้นั ตอนการออกแบบการผลติ
4.3) เพ่ือการเก็บรวบรวมข้อมูลระบบคุณภาพไวใ้ นรูปแบบเอกสาร
4.4) ตรวจสอบหาทางแกไ้ ขกับผลิตภัณฑ์เสยี หาย
4.5) สมาชิกทกุ คนมสี ่วนรว่ มตอ่ กระบวนการผลติ ภายในองค์การ
4.6) ใหท้ กุ คนรับทราบปัญหาคุณภาพร่วมกนั

การใชเ้ ครอื่ งมอื ประเภทเดียวทำให้ตอ้ งพฒั นาเพียงเล็กน้อย ผลท่ีตามมาจากการพัฒนา
คุณภาพเปน็ ผลสะสม ซึง่ เกดิ จากการนำเครอื่ งมือหลายประเภทใช้กับการจัดการคุณภาพ ซงึ่ จะส่งผล
ในระบบยาว ดังนั้นองคก์ ารจงึ ไมไ่ ด้นำเอาหลักการการจดั การคุณภาพ มาใช้กับเครอ่ื งมอื ประเภท
เดียวกนั

กจิ กรรมการเรยี นการสอน

ข้ันตอนการสอนหรือกจิ กรรมของครู ขั้นตอนการเรยี นหรอื กิจกรรมของนกั เรยี น

ข้นั นำเขา้ สบู่ ทเรยี น

1. ปฏิสันถารกบั นักเรยี นเพอ่ื สำรวจความพร้อม - ให้นักเรียนทบทวนความรูจ้ ากใบงาน

ของนักเรียน - นกั เรียนฟงั คำบรรยายจากผู้สอน

2. แจกใบงาน - นักศึกษาพยายามจดบนั ทึกข้อความทีไ่ ด้ฟงั

3. ใหน้ ักเรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น จากผสู้ อน

4. ตรวจสอบรายชื่อนักเรียนทเ่ี ข้าเรียนขนั้ สอน - ศกึ ษาสอ่ื และเอกสารจากใบงานที่แจกให้

5. ให้นกั เรียนศกึ ษาขอ้ มลู จากใบงาน - จดบันทกึ ขอ้ ความท่ีไดฟ้ ังจากผสู้ อน

6. อาจารยผ์ ู้สอนอธิบายเนอื้ หาความรจู้ าก - ซกั ถามเม่ือมีปัญหาไม่เข้าใจในบทเรยี น

ใบงาน - ตอบปัญหา

7. ให้นักเรยี นซักถามกบั บทเรยี นท่ีได้อธิบายใน - ให้แตล่ ะกลุ่มทำงานเปน็ กลุ่ม กลุ่มละ 5 คน

ใบงานว่ามีขอ้ สงสัยอะไรบา้ ง

ขนั้ สรปุ - ให้นกั ศึกษาไปทำแบบทดสอบจากใบงานท่ี

8. อธบิ ายเน้ือหาจากใบงานเพ่ิมเตมิ ให้

9. มอบใบงานใหน้ ักเรียนไปคน้ ควา้ ความรู้ - ให้นักศึกษาไปศึกษาความรเู้ ร่ืองท่ีจะเรยี นใน

เพิ่มเติมเก่ียวกับหัวข้อที่กำหนดให้ สปั ดาห์หนา้

งานท่มี อบหมายหรอื กจิ กรรม
ก่อนเรียน

1) มีการสนทนาระหวา่ งผ้เู รียนกบั ผู้สอน
2) ใหน้ ักเรยี นศึกษาความรู้จากใบงานหรอื แบบเรียนที่แจกให้
3) ทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
ขณะเรยี น
1) ให้นกั เรียนทำงานกันเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน
2) ครูผสู้ อนมอบหมายงานให้ไปทำรายงาน หรอื คน้ คว้าเรอ่ื งทีก่ ำหนดให้
3) ใหแ้ ต่ละกลมุ่ ออกมารายงานหนา้ ชั้นเรียน
4) ผฟู้ งั ซกั ถามกบั หัวข้อสงสัยในบางหวั ขอ้ ท่ยี ังไมเ่ ข้าใจ
5) กลุ่มผ้อู อกรายงานถามกลับคืนยงั ผู้ฟงั วา่ ผฟู้ งั เขา้ ใจในเนื้อหาการทำรายงานมากเพียงใด
6) ครผู สู้ อนสรปุ เน้ือหาของแตล่ ะกล่มุ ท่ีออกรายงาน

หลังเรยี น
1) ทำแบบฝกึ หัดทา้ ยบท
2) ใหน้ ักเรยี นไปศึกษาเน้ือหาทีจ่ ะเรียนมาก่อนในคาบหน้า

ส่อื การเรยี นการสอน
สือ่ ส่งิ พมิ พ์

1) แบบทดสอบก่อนเรยี น
2) แบบทดสอบหลังเรยี น
3) ใบงาน
4) แบบเรียน

สอ่ื โสตทศั น์ (ถา้ ม)ี
1) เครื่องฉายสไลด์
2) เครอ่ื งฉายภาพขา้ มศรี ษะ

ห่นุ จำลองหรือของจริง (ถา้ ม)ี

การประเมนิ ผล
ก่อนเรียน

นกั เรียนสามารถอธิบายความหมายการบริหารเอกสารอยา่ งครา่ วๆได้

ขณะเรียน
1.) นักเรียนสามารถต้งั คำถามข้นึ ในเนอื้ หาท่ีเรยี นได้และตอบปัญหาขนึ้ กนั เองภายในกล่มุ
2.) ให้ทำแบบฝึกหัดท้ายบท

หลงั เรียน
ครใู หน้ กั เรยี นไปศกึ ษาเนื้อหาท่จี ะเรียนในคาบถดั ไป

แผนการสอน หนว่ ยท่ี 14
ชอ่ื วชิ า สอนคร้งั ที่ 14
ช่อื หนว่ ย การบริหารเอกสาร ชวั่ โมงรวม 3

ชื่อเรื่องหรอื ชื่องาน การบริหารเอกสาร จำนวนชัว่ โมง 3

หวั ข้อเร่อื งและงาน

1) ความหมายของบรหิ ารงานเอกสารหรือการจัดเอกสาร

2) การเก็บเอกสาร

3) ความสำคัญของการเก็บเอกสาร

4) ประโยชนข์ องการเกบ็ เอการ

5) ขัน้ ตอนการจดั เก็บเอกสาร

6) วสั ดแุ ละอปุ กรณ์ชว่ ยในการเกบ็ เอกสาร

7) การคน้ หาเอกสารเม่อื ตอ้ งการใช้งาน

8) เอกสารท่ไี ด้รับการอนมุ ตั ิ

9) ปญั หาในการจัดเก็บเอกสาร

10) การจัดทำเอกสารระบบคุณภาพ

สาระสำคญั

ในการดำเนนิ งานของบรษิ ทั ในโรงานอสุ ากรมและการดำเนินงานขององค์ประกอบตา่ งๆ ในดา้ น

ธรุ กิจอสุ าหกรรม และธุรกิจการค้าและบริการดา้ นต่างๆ เอกสารจะมสี ่วนสำคญั ในการดำเนนิ ธุรกจิ

ไมว่ า่ จะเปน็ การโฆษณาหนงั สอื เข้า – ออกระหวา่ งบรษิ ัทในการตดิ ต่อประสานงานตอ่ องค์กรอนื่ หรอื

แม้แต่เอกสารสง่ สินคา้ หรอื บรกิ ารต่างๆ ดังน้ันผูบ้ ริหารหรือนักจัดการจะตอ้ งให้ความสำคญั ตอ่ การ

บริหารงานเอกสาร

สมรรณนะทีพ่ งึ ประสงค์ (ความรู้ ทกั ษะ คุณธรรม จรยิ ธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชพี )

1) สามารถอธบิ ายความหมาย ความสำคัญ และประโยชน์ของการเก็บเอกสารได้

2) สามารถอธิบายข้ันตอนการจัดเกบ็ เอกสารได้

3) สามารถอธบิ ายถงึ วสั ดุ อุปกรณ์ท่ีชว่ ยเก็บเอกสารและการคน้ หาเอกสารเม่ือต้องการ

4) สามารถอธิบายปญั หาในการจัดเกบ็ เอกสารและข้นั ตอนทำลายเอกสารได้ใชง้ าน

5) สามารถนำหลกั การท่ีไดเ้ รยี นมาไปประยกุ ต์ใชใ้ นชุมชน สังคม และองคก์ รต่างๆ ได้

เน้อื หาสาระ
1. ความหมายของการบรหิ ารเอกสารหรอื การจดั เอกสาร
2. การเก็บเอกสาร การจัดเก็บเอกสารแบง่ ออกได้ 4 วิธคี อื

2.1) จดั เก็บตามตวั อกั ษร (AIPhabetie FiIing)
2.2) จดั เกบ็ ตามตวั เลข (Numberic FiIing)
2.3) จดั เกบ็ ตามภูมิศาสตร์ (Cseographic FiIing)
2.4) จัดเก็บตามหัวขอ้ เรื่อง (Subject FiIing)
3. ประโยชนข์ องการจดั เกบ็ เอการ
3.1) เพ่ือประโยชน์ในตรวจสอบหาหลักฐานอา้ งอิง
3.2) เป็นเครื่องมอื ในการปฏบิ ัติงาน
3.3 เพอ่ื เป็นแนวทางในการปฏบิ ตั ิงาน
3.4) เพ่ือประโยชน์ประการตดั สนิ ใจในการบริหารงาน
4. วัสดุและอปุ กรณ์ชว่ ยในการจดั เกบ็ เอกสาร
4.1) บตั รนำ (Guides)
4.2) แฟ้มเอสาร (FoIders)
4.3) บัตรเกบ็ เอกสาร
5. หลกั การจัดทำเอกสารคณุ ภาพ ประกอบด้วย
5.1 คู่มอื คุณภาพ (QuaIity manual)
5.2 ระเบียบปฏิบัตงิ าน (Documented Procedures)
5.3 นโยบายคณุ ภาพ (QuaIity Policy)
5.4 เอกสารอ่นื ๆ (Document) ทจี่ ำเป็นสำหรับองคก์ าร

กจิ กรรมการเรยี นการสอน

ขัน้ ตอนการสอนหรือกิจกรรมของครู ขัน้ ตอนการเรียนหรือกจิ กรรมของนกั เรยี น

ขนั้ นำเข้าสู่บทเรยี น

1. ปฏิสันถารกบั นกั เรียนเพ่ือสำรวจความพรอ้ ม - ใหน้ ักเรียนทบทวนความรูจ้ ากใบงาน

ของนกั เรียน - นักเรียนฟงั คำบรรยายจากผู้สอน

2. แจกใบงาน - นักศกึ ษาพยายามจดบนั ทกึ ข้อความที่ไดฟ้ งั

3. ใหน้ กั เรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น จากผูส้ อน

4. ตรวจสอบรายชอ่ื นักเรยี นทีเ่ ข้าเรยี นขนั้ สอน - ศกึ ษาสอื่ และเอกสารจากใบงานทแ่ี จกให้

5. ใหน้ ักเรยี นศกึ ษาข้อมลู จากใบงาน - จดบนั ทกึ ขอ้ ความท่ีไดฟ้ งั จากผสู้ อน

6. อาจารย์ผู้สอนอธบิ ายเนือ้ หาความรู้จากใบงาน - ซกั ถามเม่ือมปี ญั หาไมเ่ ข้าใจในบทเรยี น

7. ใหน้ ักเรียนซักถามกบั บทเรียนทไี่ ด้อธบิ ายในใบ - ตอบปัญหา

งานวา่ มขี ้อสงสัยอะไรบา้ ง - ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มทำงานเป็นกลุ่ม กล่มุ ละ 5 คน

ข้นั สรุป

8. อธิบายเน้ือหาจากใบงานเพิม่ เตมิ - ให้นกั ศึกษาไปทำแบบทดสอบจากใบงานท่ี

9. มอบใบงานใหน้ ักเรียนไปค้นคว้าความร้เู พม่ิ เตมิ ให้

เก่ยี วกับหัวขอ้ ทกี่ ำหนดให้ - ให้นกั ศึกษาไปศกึ ษาความรเู้ รอื่ งทจ่ี ะเรยี นใน

สัปดาห์หนา้

งานทมี่ อบหมายหรือกิจกรรม
ก่อนเรยี น

1) มีการปฏสิ นั ถารผู้สอนกับผเู้ รยี น
2) ใหน้ ักเรยี นศึกษาความจากใบงาน หรอื แบบเรยี น ทแี่ จกให้
3) ใหท้ ำแบบทดสอบกอ่ เรียน

ขณะเรยี น
1) ให้นักเรยี นแบ่งกลมุ่ กนั กลมุ่ ละ 5 คน
2) ให้แตล่ ะกลุม่ ทำรายงานงานทผี่ ู้สอนมอบหมายให้โดยส่งตัวแทนมาเลอื กหวั ขอ้ การทำรายงาน
3) ให้แต่ละกลุ่มออกมาทำรายงานหน้าชัน้ เรียน
4) ใหผ้ ู้ฟงั ซกั ถามกบั ข้อสงสัยในหัวข้อการทำรายงาน
5) กลมุ่ ผรู้ ายงานต้ังคำถามขน้ึ เพ่ือถามผฟู้ ังกลับบ้างว่าผ้ฟู งั เข้าใจในการบรรยายรายงานมาก

เพยี งใด
6) ผ้สู อนสรุปเนือ้ หาการรายงานเพือ่ เติม

หลังเรียน
1) ทำแบบฝกึ หัดท้ายบท
2) ให้นักศกึ ษาไปทบทนหรือศึกษาเน้อื หาที่เรียนในคาบถดั ไป
การเรยี นการสอน

ส่ือสง่ิ พิมพ์
1) ทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
2) ทำแบบทดสอบหลังเรยี น
3) ใบงาน
4) แบบเรียน

ส่ือโสตทศั น์ (ถา้ มี)
1) เครือ่ งฉายสไลด์
2) แผน่ ฉายขา้ มศีรษะ

หนุ้ จำลองหรือของจริง (ถา้ ม)ี

การประเมินผล
กอ่ นเรยี น

นักเรยี นสามารถอธิบาย ความหมายของการบริหารของเอกสารไดอ้ ย่างคราวๆได้

ขณะเรยี น
1) ครูใหน้ ักเรยี นตงั้ คำถามจากหัวข้อท่ไี ด้รับมอบหมายและตอบขอ้ ปญั หาภายในกลมุ่ ตนเองได้
2) ครใู หน้ กั เรยี นทำแบบฝึกหดั ท้ายบท

หลงั เรยี น
ครูใหน้ กั เรยี นไปศกึ ษาความร้เู ร่ืองที่จะเรยี นในคาบถดั ไป

แผนการสอน หนว่ ยท่ี 15

ชื่อวชิ า สอนครง้ั ท่ี 15

ชือ่ หนว่ ย การพัฒนาเพ่อื เพ่ิม ช่ัวโมงรวม 3

ประสทิ ธิภาพในการทำงาน

ชื่อเรอื่ งหรือชอ่ื งาน การพัฒนาเพ่อื เพ่ิมประสทิ ธิภาพในการทำงาน จำนวนช่วั โมง 3

หัวขอ้ เรอ่ื งและงาน

1.) ความหมายของการ การพัฒนาเพือ่ เพ่มิ ประสิทธภิ าพดา้ นการทำงาน

2.) หลักขนั้ ตอนในการพฒั นาด้านความสามารถ

3.) ขน้ั ตอนในการพฒั นาดา้ นความสามารถ และทกั ษะการทำงาน

4.) การพัฒนาดา้ นร่างกาย อารมณ์และสติปญั ญา

5.) กิจกรรมพฒั นาดา้ นสติปัญญา

6.) การพัฒนาด้านความคดิ

7.) การแกไ้ ขปญั หาและการตดั สินใจ

8.) การพฒั นาทกั ษะดา้ นสังคม

9.) ลักษณะการพดู ท่ีดี

10.) การพฒั นาทกั ษะการเปน็ ผูน้ ำ

สาระสำคัญ

ในโลกปัจจุบันน้ีมีการแขง่ ขันในก้านเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมมีการขยายตัวมากขึน้ ทำให้บรษิ ทั

ค่แู ขง่ พยายามวธิ ีการ และเทคนิคบริหารมาใช้ในหนว่ ยงาน การพฒั นาเพอื่ เพ่ิมประสทิ ธภิ าพดา้ นการ

ทำงานเบ้ืองตน้ ทำไดห้ ลายวธิ ี

สมรรถนะทพ่ี งึ ประสงค์ (ความรู้ ทักษะ คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ)

1.) สามารถอธิบายความหมายหลกั การและข้นั ตอนการพัฒนาเพื่อเพิม่ ประสทิ ธิภาพด้านการทำงานได้

2. ) สามารถอธบิ ายการพัฒนาดา้ นรา่ งกาย อารมณ์และสติปัญญาได้

3. ) สามารถอธิบายกิจกรรมในการพัฒนาสติปัญญา การพัฒนาดา้ นความคดิ และการแก้ไขปญั หาและ

การตดั สนิ ใจ

4. ) สามารถอธบิ ายการพฒั นาทกั ษะดา้ นสังคมได้

5. ) สามารถอธิบายลกั ษณะการพดู ท่ีดไี ด้

6. ) สามารถอธบิ ายการพัฒนาทกั ษะด้านการเป็นผนู้ ำได้

7. ) สามารถนำความรู้ท่ีศึกษาไปประยกุ ตใ์ ช้ในสังคมชุมชน และองคก์ รได้

เน้อื หาสาระ
1.) อธบิ ายความหมายของการพฒั นาประสทิ ธภิ าพด้านการทำงาน
2.) ทกั ษะในการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพ
3.) หลักขั้นตอนในการพัฒนาด้านความสามารถ และทักษะการทำงาน 10 ประการ
4.) ขั้นตอนการพฒั นาความสามารถและทกั ษะการทำงาน
5.) กิจกรรมการพัฒนาด้านอารมณ์ (ความฉลาดทางอารมณ์)
6.) รูปแบบของการคดิ สร้างสรรค์
7.) การแก้ไขปญั หา
8.) วิธีทีใ่ ชใ้ นการประกอบการตดั สนิ ใจ
9.) ความหมายของการพฒั นาทักษะทางสงั คม
10.) การพัฒนาทกั ษะดา้ นการสือ่ สาร
11.) กระบวนการสือ่ สาร

กิจกรรมการเรียนการสอน

ขนั้ ตอนการสอนหรอื กิจกรรมของครู ขนั้ ตอนการเรียนหรอื กิจกรรมของนกั เรยี น

ขนั้ นำเขา้ สบู่ ทเรียน

1. ปฏิสนั ถารกบั นักเรยี นเพ่อื สำรวจความพร้อม - ให้นักเรียนทบทวนความรูจ้ ากใบงาน

ของนกั เรียน - นกั เรียนฟงั คำบรรยายจากผู้สอน

2. แจกใบงาน - นักศกึ ษาพยายามจดบันทกึ ข้อความทีไ่ ด้ฟงั

3. ใหน้ กั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น จากผู้สอน

4. ตรวจสอบรายชอ่ื นกั เรยี นท่เี ข้าเรยี นข้ันสอน - ศกึ ษาสอ่ื และเอกสารจากใบงานที่แจกให้

5. ใหน้ ักเรยี นศกึ ษาขอ้ มลู จากใบงาน - จดบนั ทกึ ขอ้ ความท่ไี ด้ฟังจากผสู้ อน

6. อาจารยผ์ ู้สอนอธบิ ายเน้ือหาความรจู้ ากใบ - ซกั ถามเม่อื มีปัญหาไม่เข้าใจในบทเรยี น

งาน - ตอบปญั หา

7. ให้นกั เรียนซักถามกับบทเรยี นที่ไดอ้ ธิบายใน - ให้แตล่ ะกล่มุ ทำงานเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน

ใบงานว่ามีขอ้ สงสัยอะไรบา้ ง

ข้ันสรุป - ให้นักศึกษาไปทำแบบทดสอบจากใบงานท่ี

8. อธบิ ายเนอื้ หาจากใบงานเพ่มิ เติม ให้

9. มอบใบงานใหน้ ักเรยี นไปคน้ ควา้ ความรู้ - ให้นักศกึ ษาไปศึกษาความรเู้ ร่ืองท่ีจะเรยี นใน

เพมิ่ เติมเก่ียวกบั หัวขอ้ ทีก่ ำหนดให้ สปั ดาห์หนา้

งานท่ีมอบหมายหรอื กจิ กรรม
กอ่ นเรยี น

1.) มกี ารสนทนาโตต้ อบระหว่างผู้สอนกบั ผู้เรียน
2.) ให้นักเรยี นศึกษาความรู้จากใบงานทแี่ จกให้
3.) ใหน้ ักศึกษาทำแบบทอสอบกอ่ นเรยี น

ขณะเรียน
4.) ครูผู้สอนบรรยายเนือ้ หาจากใบงานและแบบเรยี น
5.) นักศึกษาจดบันทกึ คำบรรยายจากผสู้ อนลงในสมุด
6.) มอบหมายให้นกั เรยี นไปค้นควา้ ทำรายงานเรือ่ งการพฒั นาเพอ่ื เพม่ิ ประสิทธิภาพในการทำงานท่หี อ้ งสมดุ แลว้

ให้ออกมารายงานในคาบถดั ไป

หลงั เรียน
7.) ใหท้ ำแบบฝึกหัดท้ายบทจากใบงาน
8.) ใหน้ กั เรยี นเตรียมตวั เพือ่ มาออกรายงานเรอื่ งที่ให้ไปค้นคว้ามาในคาบถัดไป
9.) มอบหมายงานให้นักเรยี นไปศกึ ษาความรูเ้ รอื่ งทจี่ ะเรยี นในคาบถัดไป
10.)ตรวจสอบเชค็ ชอ่ื นักศกึ ษากอ่ นเลิก

ส่อื การเรยี นการสอน
สื่อสิง่ พมิ พ์

1) แบบทดสอบก่อนเรยี น
2) แบบทดสอบหลงั เรยี น
3) ใบงาน
4) หนงั สอื แบบเรียน
5) รูปภาพ

สอ่ื โสตทัศน์ (ถ้าม)ี
1) เครอ่ื งฉายสไลด์
2) เครื่องฉายภาพข้ามศีรษะ
3) เคร่อื งเลน่ VCD,DVD

หนุ่ จำลองหรือของจริง (ถา้ ม)ี

การประเมนิ ผล
กอ่ นเรยี น

ครใู หน้ กั เรียน อธิบายการพัฒนาเพ่ือเพ่มิ ประสิทธภิ าพในการทำงาน โดยย่อๆ ได้

ขณะเรยี น
1.) นกั เรยี นสามารถตั้งคำถามจากหัวข้อท่ไี ด้รับมอบหมายได้ และสามารถสนทนารว่ มกันระหว่าง ผ้เู รียนดว้ ย

กันเองได้
2) นกั เรียนทำแบบฝึกหัดในใบงานท่ีมอบหมายให้

หลังเรยี น
ให้นกั เรยี นไปศึกษาเนอื้ หาความรู้จากเร่อื งที่จะเรยี นในคาบถัดไป

แผนการสอน หน่วยท่ี 16
16
ช่อื วิชา สอนครงั้ ท่ี 3

ชื่อหน่วย การพฒั นาทมี งาน ช่ัวโมงรวม

ช่อื เร่ืองหรือช่อื งาน การพฒั นาทีมงาน จำนวนช่วั โมง 3

หัวขอ้ เรอ่ื งและงาน

1) ความหมายและความสำคัญของทีมงาน 2) องค์ประกอบของการทำงานเป็นทมี

3) หลักการสรา้ งทีมงานคณุ ภาพ 4) ทีมงานทีม่ ปี ระสิทธภิ าพ

5) เทคนิคในการสร้างทมี งาน 6) ความลม้ เหลว

7) การป้องกันปญั หาการทำงานเปน็ ทีม 8) การประสานงาน

สาระสำคัญ

การบริหารสมัยใหมน่ ั้นทมี งานถือวา่ มคี วามสำคญั มากเพราะการทำงานใหไ่ ด้นั้นไมใ่ ช่ผบู้ รหิ าร

เกา่ เพยี งคนเดียวจะทำให้บริษทั โรงงานอุสาหกรรมหรือองคก์ ารประสบความสำเร็จไดด้ ี การพฒั นาทม

งานทกุ ฝา่ ย ทุกแผนการและทุกๆ คนจะให้บรษิ ัทหรือโรงงานอุตสาหกรรมประสบความสำเร็จมีกำไร

มาก

สมรรณนะท่ีพงึ ประสงค์ (ความรู้ ทักษะ คณุ ธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ)

1) สามารถอธบิ ายความหมายองคป์ ระกอบและหลักการสร้างทมี งานคณุ ภาพ

2) สามารถอธบิ ายทีมงานที่มคี ณุ ภาพ และเทคนิคในการสรา้ งทีมงานได้

3) สามารถอธิบายถึงการป้องกันปญั หาการทำงาน และความล้มเหลางได้

4) สามารถอธิบายการประสานงานวธิ ีการประสานงานและองคป์ ระกอบของการประสานงานได้

5) สามารถอธบิ ายองค์ประกอบของการสื่อสารทม่ี ผี ลตอ่ การประสานงานได้

6) สามารถหลกั การทศ่ี ึกษาไปพฒั นาใชใ้ นสงั คมชมุ ชนและองคก์ ารตา่ งๆ ได้

เน้อื หาสาระ
1) ความหมายและความสำคัญของทมี งาน
2) องคป์ ระกอบของการทำงานเปน็ ทีม
3) หลกั การสร้างทีมคุณภาพ
4) เทคนคิ การสร้างความรบั ผิดชอบการทำงานเปน็ ทีม
5) องคป์ ระกอบในการประชมุ หรือสมั มนา
6) ลักษณะของผู้สรุปตีความ
7) ผลของความขัดแยง้
8) ขนั้ ตอนการแก้ปญั หาความขัดแยง้ ในทมี งาน
9) การป้องกนั ปัญหาการทำงานเปน็ ทีม

กจิ กรรมการเรยี นการสอน

ขน้ั ตอนการสอนหรือกิจกรรมของครู ขัน้ ตอนการเรียนหรือกจิ กรรมของนกั เรียน

ข้นั นำเข้าสบู่ ทเรียน

1. ปฏิสนั ถารกับนักเรยี นเพือ่ สำรวจความพร้อม - ให้นักเรียนทบทวนความรจู้ ากใบงาน

ของนกั เรียน - นักเรยี นฟงั คำบรรยายจากผู้สอน

2. แจกใบงาน - นักศึกษาพยายามจดบันทึกข้อความท่ไี ด้ฟังจาก

3. ให้นักเรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน ผ้สู อน

4. ตรวจสอบรายช่อื นกั เรียนทีเ่ ข้าเรยี นขนั้ สอน - ศกึ ษาสอ่ื และเอกสารจากใบงานที่แจกให้

5. ให้นกั เรยี นศึกษาขอ้ มูลจากใบงาน - จดบนั ทึกข้อความท่ไี ดฟ้ ังจากผ้สู อน

6. อาจารย์ผู้สอนอธิบายเนื้อหาความร้จู ากใบงาน - ซกั ถามเม่ือมปี ญั หาไม่เขา้ ใจในบทเรียน

7. ใหน้ กั เรยี นซกั ถามกับบทเรียนท่ไี ด้อธิบายในใบงาน - ตอบปัญหา

ว่ามขี ้อสงสยั อะไรบา้ ง - ให้แต่ละกลมุ่ ทำงานเป็นกลมุ่ กล่มุ ละ 5 คน

ขนั้ สรุป

8. อธิบายเนือ้ หาจากใบงานเพม่ิ เตมิ - ใหน้ กั ศึกษาไปทำแบบทดสอบจากใบงานท่ีให้

9. มอบใบงานใหน้ กั เรียนไปค้นควา้ ความร้เู พมิ่ เติม - ใหน้ ักศึกษาไปศึกษาความรู้เรื่องที่จะเรียนใน

เกี่ยวกบั หวั ข้อทกี่ ำหนดให้ สปั ดาห์หนา้

งานทีม่ อบหมายกิจกรรม
กอ่ นเรยี น

1) มกี ารปฏสิ ันถารระหว่างผสู้ อบกันผูเ้ รียน
2) ให้นักเรยี นศกึ ษาความรจู้ ากใบงานหรือแบบเรียนทแ่ี จกให้
3) ให้นักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน

ขณะเรียน
1) ให้นกั เรียนแบ่งกลมุ่ ออก กลมุ่ ละ 5 คน
2) โดยผู้สอนมอบหมายงานใหน้ ักเรียนไปดเู นอ่ื หาทอ่ี ยใู่ นแบบเรียนเรอ่ื งการพัฒนาทมี งาน
3) ใหน้ ักเรยี นแต่งเรียนขน้ึ เองว่ารูปแบบของการพฒั นาทมี งานนั้นมีองคปื ระกอบอะไรบ้าง
4) เม่อื แตล่ ะกลุม่ ทำงานเสร็จ ก็ใหแ้ ต่ละกล่มุ ออกมารายงานหนา้ ชนั้ เรยี น โดยใครพร้อมกใ็ ห้

ออกมารายงานหนา้ ชัน้
5) ครอู ธบิ ายเพ่มิ เติมกับเนอื้ หาการนำเสนอของแต่ละกล่มุ

หลกั เรยี น
1) ใหน้ ักเรยี นทำแบบฝึกหัดท้ายบทจากใบงานหรือแบบเรยี น
2) มอบหมายงานใหน้ กั เรียนไปศึกษาความร้เู รื่องท่ีจะเรียนคาบถัดไปเพื่อเตรี ยมความพรอ้ ม
3) ตรวจสอบเซ็นซ่ือนกั เรยี นกอ่ นเลกิ

ส่อื การเรียนการสอน
สอื่ สงิ่ พิมพ์

1) แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
2) แบบทดสอบหลักเรียน
3) ใบงาน
4) หนังสือ่ แบบเรยี น

ส่ือโสตทศั น์(ถา้ มี)
1) แผน่ ใส
2) เครื่องฉายภาพข้ามศรี ษะ
3) เครอื่ งเล่นแผน่ CD,VCD

หนุ่ จำลองหรือของจรงิ (ถา้ ม)ี

การประเมินผล
กอ่ นเรียน

ครใู ห้เรยี น อธิบายการพัฒนาทีมงานวา่ นกั เรยี นมีความเขา้ ใจมากน้อยเพียงใด

ขณะเรยี น
1.) นกั เรยี นสามารถตงั้ คำถามจากหัวข้อท่ีไดร้ ับมอบหมาย และตอบปญั หาดว้ ยกันเอง
2.) ใหน้ ักเรียนศกึ ษาทำแบบฝกึ หดั จากใบงานทีแ่ จกให้

หลกั เรยี น
ใหน้ ักเรยี นไปศึกษาไปศึกษาคน้ คว้าหรือไปทำรายงาท่ีจะนำเสนอในคาบถัดไป

แผนการสอน หนว่ ยที่ 17

ช่อื วชิ า สอนคร้ังที่ 17

ชอ่ื หน่วย เทคนคิ ในการเพมิ่ ชั่วโมงรวม 3
ผลผลิต PDCA และ 5 ส.

ชื่อเร่อื งหรือชอื่ งาน เทคนิคในการเพม่ิ ผลผลิต PDCA และ 5 ส. จำนวนชว่ั โมง 3

หวั ข้อเร่อื งและงาน

1.) วงจร PDCA

2.) 5 ส. เพ่ือความเป็นระเบยี บเรยี บรอ้ ยของสถานทีท่ ำงาน

สาระสำคัญ

เทคนคิ ในการเพิ่มผลผลิต PDCA และ 5 ส. คอื การวางแผนการปฏบิ ตั ิตามแผนทว่ี างไว้ การ

ตรวจสอบการแก้ไขข้อบกพรอ่ ง และเปน็ นโยบายเพ่อื ให้เกดิ การเพิม่ ผลผลิต

สมรรถนะทพ่ี ึงประสงค์ (ความรู้ ทักษะ คณุ ธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชพี )

1.) สามารถอธบิ ายหลักการวงจร PDCA ได้

2. ) สามารถอธิบายการ 5 ส. เพือ่ ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสถานศึกษา

3. ) สามารถนำหลกั การ PDCA มาใช้ในกจิ กรรมตา่ งๆ ได้

4. ) สามารถอธบิ ายการ 5 ส. มาประยุกต์ใชใ้ นสังคม ชมุ ชน หนว่ ยงานและอยูอ่ าศัยได้

เน้อื หาสาระ
วงจร คอื วงจรการบริหาร การวางแผน และปฏิบัติงานเพ่ือใหเ้ กิดการปรับปรงุ อย่าง

ตอ่ เน่ือง เพราะทำให้ทกุ คนร้จู กั การวางแผนงานกอ่ นจะนำไปปฏิบัตงิ านและเมื่อนำไปปฏบิ ัตแิ ล้วก็
ตรวจสอบหาข้อบกพรอ่ ง เพื่อปรับปรุงใหด้ ขี ้ึน
1. การวางแผนงาน (Plan) เปน็ การกำหนดทศิ ทาง รูปแบบ วิธีการ และเป้าหมายในการดำเนิน
งาน ในการดำเนนิ ธุรกิจหรือกจิ กรรมใดๆ ซงึ่ จะช่วยใหง้ านนั้นๆ มีความชดั เจน ประหยัดเวลาลด
ค่าใช้จา่ ยในการผลิต
2. การปฏบิ ัติงาน (Do) เป็นการปฏบิ ัตงิ านตามแผนที่วางไว้ เพอ่ื ให้บรรลุเปา้ หมายทว่ี างไว้
3. การตรวจสอบ (Check) เปน็ การตรวจความก้าวหน้าของงานทกุ ขน้ั ตอน หลงั จากการปฏบิ ัติ
เสรจ็ สิน้ แล้ว เพ่อื เปรียบเทยี บกับเปา้ หมาย ท่ีวางไวไ้ ดม้ าตรฐานจำนวนและเวลาตามที่ต้องการ
หรือไม่
4. การแก้ไขขอ้ บกพรอ่ ง (Act) จากผลการตรวจสอบ ถา้ พบวา่ งานนัน้ ไม่เป็นไปตามเปา้ หมาย
ตอ้ งคน้ หาสาเหตขุ ้อบกพร่องและรีบดำเนินการทต่ี น้ เหตุ ควรปอ้ งกนั ปัญหาเพอื่ มใิ หเ้ กดิ ความ
ผิดพลาดซ้ำในเร่ืองเดิม

5 ส. คอื กจิ กรรมเพอื่ ความเป็นระเบียบเรียบรอ้ ย ประกอบด้วยหวั ใจสำคัญ 5
ประการ

สะสาง = การยกสงิ่ ของท่ตี ้องการออกจากของทีไ่ มต่ อ้ งการ และขจัดของที่ไม่ตอ้ งการ
ออกไป

สะดวก = การจัดวางสิ่งของต่างๆ ใหเ้ ป็นระเบยี บ ระบบ และหมวดหมู่ เพอื่ ให้ทุกคน
สามารถใชไ้ ดง้ า่ ยรวดเรว็ และปลอดภัย ดังคำว่า “ หยบิ กง็ า่ ย หายกร็ ู้ ดกู ง็ าม

ตาม ”

สะอาด = การทำความสะอาด (ปัด กวาด เชด็ ถ)ู สถานที่ วัสดอุ ปุ กรณ์ เครอื่ งมือ
และเคร่อื งจกั รอยูเ่ สมอ

สุขลกั ษณะ = การรกั ษาความสะอาดมาเป็นระเบยี บเรยี บรอ้ ยให้คงอยู่หรือดีข้นึ ตลอดไป

สร้างนสิ ัย = การปฏิบตั ิตนตามระเบียบและข้อบงั คับจนเปน็ นสิ ัย ทำให้เกิดวินยั ในตนเอง เป็น
ส่ิงทส่ี ำคญั และตอ้ งการให้เกิดข้นึ มากที่สุด ในการจดั ค่ากจิ กรรม 5 ส.

กิจกรรมการเรียนการสอน

ขนั้ ตอนการสอนหรอื กิจกรรมของครู ขนั้ ตอนการเรียนหรอื กิจกรรมของนกั เรยี น

ขนั้ นำเขา้ สบู่ ทเรียน

1. ปฏิสนั ถารกบั นักเรยี นเพ่อื สำรวจความพร้อม - ให้นักเรียนทบทวนความรูจ้ ากใบงาน

ของนกั เรียน - นกั เรียนฟงั คำบรรยายจากผู้สอน

2. แจกใบงาน - นักศกึ ษาพยายามจดบันทกึ ข้อความทีไ่ ด้ฟงั

3. ใหน้ กั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น จากผู้สอน

4. ตรวจสอบรายชอ่ื นกั เรยี นท่เี ข้าเรยี นข้ันสอน - ศกึ ษาสอ่ื และเอกสารจากใบงานที่แจกให้

5. ใหน้ ักเรยี นศกึ ษาขอ้ มลู จากใบงาน - จดบนั ทกึ ขอ้ ความท่ไี ด้ฟังจากผสู้ อน

6. อาจารยผ์ ู้สอนอธบิ ายเน้ือหาความรจู้ ากใบ - ซกั ถามเม่อื มีปัญหาไม่เข้าใจในบทเรยี น

งาน - ตอบปญั หา

7. ให้นกั เรียนซกั ถามกับบทเรยี นที่ไดอ้ ธิบายใน - ให้แตล่ ะกล่มุ ทำงานเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน

ใบงานว่ามีขอ้ สงสัยอะไรบา้ ง

ข้ันสรุป - ให้นักศึกษาไปทำแบบทดสอบจากใบงานท่ี

8. อธบิ ายเนอื้ หาจากใบงานเพ่มิ เติม ให้

9. มอบใบงานใหน้ ักเรยี นไปคน้ ควา้ ความรู้ - ให้นักศกึ ษาไปศึกษาความรเู้ ร่ืองท่ีจะเรยี นใน

เพมิ่ เติมเก่ียวกบั หัวขอ้ ทีก่ ำหนดให้ สปั ดาห์หนา้

งานที่มอบหมายหรอื กจิ กรรม
กอ่ นเรยี น

1) มกี ารสนทนาพดู คุยระหวา่ งผเู้ รยี นกับผูส้ อน
2) ให้นักเรียนศกึ ษาเน้อื เร่ืองหาจากใบงาน
3) ให้ทำแบบทอสอบก่อนเรียน

ขณะเรียน
1.) ให้นกั ศึกษาทำงานเปน็ กลุ่ม กลมุ่ 5-6 คน
2.) ครูผสู้ อนมอบหมายงานใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ทำรายงานทีก่ ำหนดให้
3.) ให้แตล่ ะกลุ่มออกมานำเสนอหน้าชนั้ เรยี น
4.) ผ้ฟู งั ซกั ถามในการนำเสนอของกลุม่ ทอี่ อกรายงานวา่ ตรงไหนทไ่ี ม่เขา้ ใจ
5.) กลุม่ ผู้ออกรายงานตั้งคำถาม คนละ 1 ขอ้ เพอื่ ถามผู้ฟังว่าเข้าใจในเนอื้ หาการรายงานมาก

เพียงใด
6.) ครูสรปุ เพิ่มเตมิ

หลงั เรียน
1.) ให้ทำแบบฝึกหัดทา้ ยบท
2.) ใหน้ ักเรยี นไปศกึ ษาเนอ้ื หาบทเรียนท่ีจะเรยี นในคาบถัดไป

ส่อื การเรยี นการสอน
สือ่ ส่ิงพิมพ์

1.) แบบทดสอบก่อนเรียน
2.) แบบทดสอบหลังเรยี น
3.) ใบงาน
4.) แบบเรยี น

สอื่ โสตทศั น์ (ถา้ ม)ี
1.) เคร่อื งฉายสไลด์
2.) เครือ่ งฉายภาพขา้ มศรี ษะ

หนุ่ จำลองหรือของจริง (ถา้ ม)ี

การประเมนิ ผล
ก่อนเรียน

นกั เรยี นสามารถอธบิ ายเนือ้ หาเร่อื งเทคนคิ ในการเพิ่มผลผลติ PDCA และ 5 ส. ได้อยา่ งครา่ วๆ

ขณะเรียน
1.) ให้นกั เรียนตั้งคำถามข้นึ มาจากเนอื้ หาทไ่ี ด้ศกึ ษา และตอบปญั หากันเองภายในกลุ่ม
2.) ให้ทำแบบฝึกหัดท้ายบท

หลังเรียน
ใหน้ ักเรยี นไปศึกษาเนื้อหาที่จะเรียนในสปั ดาห์หนา้

แผนการสอน หนว่ ยท่ี 18
ชอ่ื วชิ า สอนคร้งั ที่ 18
ชอ่ื หนว่ ย เทคนคิ ในการเพมิ่ ผลผลิต TPM และ TQC ช่ัวโมงรวม 60

ชอ่ื เร่ืองหรอื ชอ่ื งาน เทคนคิ ในการเพ่ิมผลผลิต TPM และ TQC จำนวนชัง่ โมง 60

หวั ข้อเรอ่ื งและงาน

1. การบำรงุ รกั ษาทวีผลที่ทุกคนมสี ว่ นรว่ ม TPM

2. ระบบควบคมุ คุณภาพท่วั ทงั้ องคก์ าร TQC

สาระสำคัญ

การผลิตสินค้าภายในบริษทั หรอื โรงงานอตุ สาหกรรมตา่ งๆได้มกี ารนำเอาเครือ่ งจักรอปุ กรณ์ การผลิตและ

เทคโนโลยีสงู เขา้ มาใช้ในโรงงานอตุ สาหกรรมมารขนึ้ บริษทั และโรงงานอุตสาหกรรมตา่ งๆ ต้องทำการผลติ สินค้าเพ่ือ

ออกจำหน่ายแขง่ ขันกันภายในประเทศหรือการแขง่ ขนั กบั บรษิ ทั ต่างประเทศ

สมรรถนะทพี่ ึงประสงค์ (ความรู้ ทกั ษะ คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณนกั วิชาชีพ)

1. สามารถอธบิ ายหลักการบำรุงรักษาทวีผลทท่ี กุ คนมีส่วนรว่ มได้

2. สามารถอธิ บายระบบควบคมุ คณุ ภาพทวผี ลทัว่ ท้ังองค์กรได้

3. สามารถนำหลกั การของการบำรุงรกั ษาทวผี ล ท่ที ุกคนมีสว่ นร่วมมาประยกุ ต์ใชไ้ ด้

4. สามารถนำหลกั การของระบบควบคมุ คุณภาพทัว่ ท้ังองคก์ รมาประยกุ ต์ใชไ้ ด้

เน้อื หาสาระ
1. การบำรงุ รักษาทวีผลท่ีทุกคนมสี ่วนร่วม
2. ระบบควบคมุ คุณภาพทวั่ ทั้งองคก์ ร

กจิ กรรมการเรยี นการสอน

ขน้ั ตอนการสอนหรอื กจิ กรรมของครู ขัน้ ตอนการเรียนหรือกจิ กรรมของนกั เรียน

ข้นั นำเข้าสบู่ ทเรียน

1. ปฏิสนั ถารกับนักเรียนเพือ่ สำรวจความพร้อม - ให้นักเรียนทบทวนความรจู้ ากใบงาน

ของนกั เรียน - นักเรยี นฟงั คำบรรยายจากผู้สอน

2. แจกใบงาน - นักศึกษาพยายามจดบันทึกข้อความท่ไี ด้ฟังจาก

3. ให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน ผ้สู อน

4. ตรวจสอบรายชื่อนกั เรยี นท่เี ข้าเรยี นขนั้ สอน - ศกึ ษาสอ่ื และเอกสารจากใบงานที่แจกให้

5. ให้นกั เรยี นศึกษาข้อมูลจากใบงาน - จดบนั ทึกข้อความท่ไี ดฟ้ ังจากผ้สู อน

6. อาจารย์ผู้สอนอธบิ ายเนอ้ื หาความร้จู ากใบงาน - ซกั ถามเม่ือมปี ญั หาไม่เข้าใจในบทเรียน

7. ใหน้ กั เรยี นซกั ถามกับบทเรียนท่ไี ด้อธิบายในใบงาน - ตอบปัญหา

ว่ามขี ้อสงสยั อะไรบ้าง - ให้แต่ละกลมุ่ ทำงานเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ 5 คน

ข้นั สรุป

8. อธิบายเนอื้ หาจากใบงานเพ่มิ เตมิ - ใหน้ กั ศึกษาไปทำแบบทดสอบจากใบงานทใ่ี ห้

9. มอบใบงานใหน้ กั เรียนไปค้นควา้ ความร้เู พมิ่ เติม - ใหน้ ักศึกษาไปศึกษาความรู้เรื่องที่จะเรียนใน

เกี่ยวกบั หวั ข้อท่กี ำหนดให้ สปั ดาห์หนา้

งานที่มอบหมายหรอื กิจกรรม
กอ่ นเรยี น

1) มีการสนทนาพูดคุยระหวา่ งผ้สู อนกบั ผเู้ รยี น
2) ใหน้ กั เรียนศึกษาเน้อื หาท่ีจะเรียนในใบงาน
3) ตรวจสอบเช็คชอ่ื นักเรียน
4) ทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน
ขณะเรยี น
1) ครผู สู้ อนอธิบายเน้ือหาจากบทเรยี น
2) นักเรยี นตง้ั ใจฟังและอธิบายย่อๆลงในสมดุ
3) เปิดโอกาสใหน้ กั เรยี นซกั ถามครผู ้สู อนในเนื้อหาที่ยงั ไมเ่ ข้าใจ
4) ครสู รปุ เนือ้ หาเพ่ิมเติม
หลังเรียน
1) ให้ทำแบบฝึกหัดทา้ ยบท
2) ใหน้ กั เรยี นไปศึกษาเนือ้ หาท่จี ะเรยี นในคาบถัดไป

สอื่ การเรียนการสอน
สงิ่ พมิ พ์
1. แบบทดสอบก่อนเรียน
2. แบบทดสอบหลังเรียน
3. ใบงาน
4. แบบเรยี น

สอ่ื โสตทศั น์ (ถา้ ม)ี
1. เคร่อื งฉายสไลด์
2. เคร่ืองฉายข้ามศรีษะ

หุ่นจำลองหรอื ของจรงิ (ถา้ มี)

การประเมินผล
ก่อนเรียน
นกั เรียนสามารถอธบิ ายเนอ้ื หาเร่ือง เทคนิคในการเพ่ิมผลผลิต TPM และ TQC

ขณะเรยี น
1. ให้นกั เรียนตงั้ คำถามขน้ึ มาจากเน้อื หาท่ไี ดศ้ ึกษา และตอบปญั หาด้วยตนเองภายในกลุ่ม
2. ใหท้ ำแบบฝึกหัดท้ายบท

หลังเรยี น
ใหน้ ักเรยี นไปศึกษาเน้อื หาท่ีจะเรยี นในสัปดาห์หนา้

แผนการสอน หน่วยที่ 19
ช่อื วิชา สอนครงั้ ที่ 19
ชือ่ หนว่ ย เทคนคิ ในการการเพม่ิ ชั่วโมงรวม 60
ผลผลิต QC และ Suggestion
ชื่อเรอ่ื งหรือชอื่ งาน เทคนิคในการการเพ่ิมผลผลิต QC และ จำนวนช่วั โมง 60
Suggestion
หัวขอ้ เร่อื งและงาน
1.) ข้อเสนอแนะเพื่อการปรับปรงุ และพฒั นา
2.) กลมุ่ กิจกรรม QC

สาระสำคญั
ผลู้ งทนุ ,ผู้บริหารของแตล่ ะบรษิ ัทพยายามหาเทคนคิ และวิธีการใหมๆ่ มาใช้ในโรงงาน

อุตสาหกรรมเพ่ือการเพ่ิมผลผลิตให้แก่สนิ ค้าและบริการ เพราะวา่ การเพิม่ ผลผลติ สัดสว่ นสินค้าไดม้ ากขึ้น
ผลที่ตามมาก็คือ มีกำไรมากข้นึ

สมรรถนะท่พี ึงประสงค์ (ความรู้ ทักษะ คณุ ธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชพี )
1.) สามารถอธิบายความหมายและวิธกี ารขอ้ เสนอแนะเพ่อื การปรบั ปรงุ และพัฒนาได้
2.) สามารถอธบิ ายความหมายและหลกั การของ QC ได้
3.) สามารถนำหลกั การของขอ้ เสนอแนะเพ่ือการปรับปรงุ งานและพฒั นาประยุกต์ใช้ในการทำงานได้
4.) สามารถนำหลกั การของกลุม่ กิจกรรม QC มาประยุกต์ใช้ในการทำงานได้

เนือ้ หาสาระ
ขอ้ เสนอแนะเพ่อื การปรับปรุงและพฒั นา

- วตั ถปุ ระสงค์ทีส่ ำคัญของระบบขอ้ เสนอแนะ
1. เพ่ือสง่ เสริมใหพ้ นกั งานมจี ิตสำนกึ ในเรอื่ ง KAZZEN และแสดงความคิดรเิ รม่ิ สร้างสรรคน์

การพัฒนาบรษิ ทั หรอื โรงงานอุตสาหกรรม
2. เพอ่ื กอ่ ใหเ้ กิดขวญั และกำลงั ใจและความพงึ พอใจการปฏิบัตงิ าน โดยให้พนกั งานฝา่ ยตา่ งๆมี

ส่วนรว่ มในการปรับปรุง
3. เพอ่ื ยกระดบั งานและวิธกี ารทำงานแบบใหม่ อันกอ่ ให้เกดิ คุณภาพในงาน
4. เพื่อเสริมสร้างใหบ้ รษิ ทั หรือโรงงานอุตสาหกรรม ได้มีการพฒั นาและปรบั ปรงุ ได้อย่าง

ต่อเน่อื งและอย่างเป็นระบบ
กลุ่มกจิ กรรม QC
วตั ถุประสงค์ท่ีสำคัญของกลุ่ม QC

1. เพื่อให้เกิดความรว่ มมือจากพนักงานในการปรบั ปรุง และพฒั นางานของตน
2. เพ่ือใหม้ กี ารแกไ้ ขปญั หาของกลมุ่ ดว้ ยกลมุ่
3. เพอ่ื เปดิ โอกาสใหพ้ นกั งานไดค้ ดิ สรา้ งสรรค์ และแสดงความคิดเห็นอยา่ งอิสระภายในขอบเขต

และความเหมาะสม
4. เพือ่ ให้พนักงานยอมรับและรับฟงั ความคิดเห็นรว่ มกนั และข้นั ตอนในการทำแค่ ยกระดับ

กล่มุ คุณภาพ
ขน้ั ตอนในการทำแคย่ กระดกั ลุม่ คุณภาพ

1. การคน้ หาปญั หา
2. กำหนดเป็นหวั ขอ้ เรื่อง
3. กำหนดเปา้ หมายให้ชัดเจนเป็นตัวเลข
4. สำรวจสภาพปัจจุบนั
5. แก้ไขตามขนั้ ตอน
6. กำหนดเปน็ มาตรฐาน
7. สรุปรายงานผล
8. วางแผนการกำหนดกิจกรรมเรอ่ื งตอ่ ไป

กจิ กรรมการเรยี นการสอน

ข้ันตอนการสอนหรือกจิ กรรมของครู ขน้ั ตอนการเรยี นหรอื กิจกรรมของนกั เรยี น

ข้นั นำเขา้ สบู่ ทเรยี น

1. ปฏิสันถารกบั นักเรยี นเพอ่ื สำรวจความพร้อม - ใหน้ ักเรียนทบทวนความรูจ้ ากใบงาน

ของนักเรียน - นกั เรียนฟงั คำบรรยายจากผู้สอน

2. แจกใบงาน - นกั ศึกษาพยายามจดบนั ทึกข้อความทีไ่ ด้ฟงั

3. ใหน้ ักเรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น จากผสู้ อน

4. ตรวจสอบรายชื่อนักเรียนทเ่ี ข้าเรียนขนั้ สอน - ศึกษาสอ่ื และเอกสารจากใบงานที่แจกให้

5. ให้นกั เรียนศกึ ษาขอ้ มลู จากใบงาน - จดบันทกึ ขอ้ ความท่ีไดฟ้ ังจากผสู้ อน

6. อาจารยผ์ ู้สอนอธิบายเนอื้ หาความรู้จาก - ซกั ถามเม่ือมีปัญหาไม่เข้าใจในบทเรยี น

ใบงาน - ตอบปัญหา

7. ให้นักเรยี นซักถามกบั บทเรยี นท่ีได้อธิบายใน - ให้แตล่ ะกลุ่มทำงานเปน็ กลุ่ม กลุ่มละ 5 คน

ใบงานว่ามีขอ้ สงสัยอะไรบา้ ง

ข้ันสรปุ - ให้นกั ศึกษาไปทำแบบทดสอบจากใบงานท่ี

8. อธบิ ายเน้ือหาจากใบงานเพ่ิมเตมิ ให้

9. มอบใบงานใหน้ ักเรียนไปคน้ คว้าความรู้ - ให้นักศึกษาไปศึกษาความรเู้ ร่ืองท่ีจะเรยี นใน

เพิ่มเติมเก่ียวกับหัวข้อที่กำหนดให้ สปั ดาห์หนา้

งานท่มี อบหมายหรือกิจกรรม
ก่อนเรยี น

1) มีการสนทนาพดู คุยระหว่างผูส้ อนกับผเู้ รียน
2) ใหน้ ักเรียนศกึ ษาเนอ้ื หาความรู้จากใบงาน
3) ตรวจเช็คชอ่ื นักเรยี นทีเ่ ข้าเรยี น
4) ทำแบบทอสอบก่อนเรยี น

ขณะเรยี น
1) ใหน้ ักศกึ ษาทำงานกันเปน็ กลมุ่ กลุ่ม มี 5-6 คน
2) ครูผูส้ อนมอบหมายงานให้แตล่ ะกลมุ่ ไปทำรายงานท่กี ำหนดให้
3) ใหแ้ ตล่ ะกล่มุ ออกมารายงานหน้าช้ันเรยี น
4) ให้ผ้ฟู ังซักถามในการนำเสนอของกลุ่มที่ออกรายงานวา่ ตรงไหนไม่เขา้ ใจ
5) ให้กลมุ่ ผู้ออกรายงานต้ังคำถาม 1 ขอ้ เพอื่ ถามผู้ฟงั ว่ามคี วามเข้าใจในการรายงานมากเพยี งใด
6) ครูสรุปและอธบิ ายเพมิ่ เติม

หลังเรยี น
1) ทำแบบฝึกหดั ท้ายบท
2) ใหน้ ักเรยี นไปศกึ ษาเน้อื หาบทเรยี นก่อนเรยี นในคาบหนา้

สอ่ื การเรียนการสอน
ส่อื สง่ิ พิมพ์

1) แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
2) แบบทดสอบหลงั เรยี น
3) ใบงาน
4) แบบเรียน

สอื่ โสตทัศน์ (ถา้ ม)ี
1) เคร่ืองฉายสไลด์
2) เครอื่ งฉายภาพขา้ มศรี ษะ

หุ่นจำลองหรือของจริง (ถ้าม)ี

การประเมนิ ผล
ก่อนเรยี น
นักเรียนสามารถอธบิ ายเน้อื เรือ่ ง ข้อเสนอแนะเพื่อการปรบั ปรุงและพฒั นาและ กลมุ่ กจิ กรรม QC

ขณะเรยี น
1.) ให้นักเรียน ตั้งคำถามจากการไดศ้ ึกษาเน้ือเรอื่ งทีไ่ ด้ศึกษาเนือ้ เรื่องท่ศี ึกษามาและตอบเปน็ ปัญหาดว้ ยกนั เอง

ภายในกลมุ่
2.) ใหท้ ำแบบฝกึ หัดท้ายบท

หลงั เรยี น
ให้นกั เรยี นไปศึกษาเนื้อหาท่ีจะเรยี นในสัปดาห์หนา้