หน้า 1
วิธปี ฏบิ ตั ทิ เี่ ปน็ เลิศ (Best Practice) คณุ ครจู นั ทรจ์ ริ า ขอจงกลาง
หนา้ 2
ผลงานการปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ีทีเ่ ปน็ เลิศ (Best Practice)
รางวลั ประกายเพชร สำนกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศกึ ษามัธยมศกึ ษานครราชสีมา
ของครูผู้สอน
กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาตอนตน้
ชือ่ ผู้ส่งผลงาน นางสาวจันทรจ์ ริ า ขอจงกลาง ตำแหนง่ ครู
โรงเรียนขามสะแกแสง กลุม่ โรงเรียนอบุ ลรตั น์
โทรศัพทม์ ือถือ : 061-546xxxx E-mail : [email protected]
1. บทสรปุ หรอื บทคัดย่อ
การเรียนการสอนในครั้งนี้เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมชุดคำสั่ง (Coding) ของนักเรียนโดยใช้
ชุดฝึกทักษะการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในรายวิชาวิทยาการคำนวณ 2 ด้วยวิธีการเรียนแบบร่วมมือของ
นักเรยี นระดบั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 โดยไดพ้ ฒั นาชดุ ฝึกทักษะการเขยี นโปรแกรมชดุ คำสั่ง (Coding) ขึน้ มา นำชุดฝกึ
ทักษะการเขียนโปรแกรมชุดคำส่ัง (Coding) ทีผ่ ู้วิจัยพัฒนาขึน้ มา นำมาใหน้ ักเรียน ชุดฝกึ ทักษะท่ีผู้วิจัยสร้างข้ึน
มาแล้วนำมาใช้กับการเรียนการสอนด้วยวิธี ช่วยให้นักเรียนสามารถวิเคราะห์โจทย์ปัญหา เขียนโปรแกรมได้
อย่างเป็นระบบเป็นขั้นเป็นตอนได้ถูกต้อง เหมาะสม การใช้ชุดฝึกทักษะการเขียนโปรแกรมชุดคำสั่ง (Coding)
ในรายวชิ าวิทยาการคำนวณ 2 ด้วยวธิ ีการเรียนแบบร่วมมอื ของนักเรียนระดับมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2/1 โรงเรยี นขาม
สะแกแสง อำเภอขามสะแกแสง จังหวัดนครราชสีมา สำกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึ กษา
นครราชสีมา สามารถทำแบบทดสอบก่อนเรียน ได้ค่าเฉลีย่ อยูท่ ี่ 30 และเมอ่ื นกั เรยี นได้จัดกิจกรรมการเรียนการ
สอนโดยใช้ชุดฝึกทักษะการเขียนโปรแกรมชุดคำสั่ง (Coding) ในรายวิชาวิทยาการคำนวณ 2 ด้วยวิธีการเรียน
แบบร่วมมอื พบว่านกั เรยี นทำแบบทดสอบหลังเรียนไดค้ ่าเฉล่ยี ของคะแนนอยู่ ท่ี รอ้ ยละ 85 ซึ่งเพ่ิมขึ้นจากก่อน
ทำแบบทดสอบก่อนเรียนอยู่ที่ ร้อยละ 55 และนักเรียนที่ทำการประเมิน คะแนนทักษะการเขียนโปรแกรม
ชุดคำสั่ง (Coding) นักเรียนมีทักษะการปฏิบัติเพิ่มมากขึ้นหลังจากใช้แบบฝึกหัวข้อการประเมิน นักเรียน
สามารถ compile และการ execute โปรแกรมมีทักษะเพิ่มมากขึ้น 2 ระดับ หัวข้อการประเมิน นักเรียน
สามารถแก้ไข syntax error และ runtime error มีทักษะเพิ่มมากขึ้น 1 ระดับ หัวข้อการประเมิน นักเรียน
สามารถเขียนโปรแกรมโดยใช้ฟังก์ชันรับข้อมูลและแสดงผลข้อมูลได้ มีทักษะเพิ่มมากขึ้น 2 ระดับ จาก
ผลการวิจัยครั้งนี้สรุปได้ว่ากระบวนการเรียนการสอนแบบร่วมมือโดยเรียนรู้จากชุดฝึกทักษะท่ี ผู้วิจัยพัฒนา
ขึ้นมาจะทำให้ผลการเรียนของนักเรียนส่วนใหญ่มีผลการเรียนมีพัฒนาการการเขียนโปรแกรมที่ดี ขึ้นเพราะ
วธิ ปี ฏิบัติท่เี ปน็ เลศิ (Best Practice) คณุ ครจู นั ทรจ์ ริ า ขอจงกลาง
หน้า 3
นกั เรียนมกี ารคดิ แกป้ ญั หาจากโจทยป์ ญั หาในชดุ ฝึกทักษะการเขยี นโปรแกรมชุดคำสงั่ (Coding) ทำใหน้ ักเรียน
มีทักษะในการคิดแก้ปัญหาเป็นและแก้ปัญหาได้อย่างเป็นระบบเป็นขั้นเป็นตอน และสามารถเขียน โปรแกรม
สั่งงานให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้ และชุดฝึกทักษะการเขียนโปรแกรมชุดคำสั่ง (Coding) ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมา
เป็นชุดฝึก ทักษะที่เป็นโจทย์ปัญหาประยุกต์จากปัญหาที่ง่ายไปสู่ปัญหาที่ยาก และเป็นปัญหาที่เหมาะกับการ
เขียนโปรแกรมชุดคำสั่ง (Coding) และเมื่อนำชุดฝึกทักษะการเขียนโปรแกรมนี้ไปใช้กับการเรียนแบบร่วมมือ
แล้วทำให้นักเรียนส่วนใหญ่เขียนโปรแกรมได้นั่นแสดงให้เห็นว่าชุดฝึกทักษะการเขียนโปรแกรมที่ ผู้วิจัยพัฒนา
ขึ้นมา สามารถนำไปใช้กบั การเรยี นแบบรว่ มมือในรายวิชานีไ้ ด้จริง
2. ชอ่ื เรอ่ื งวธิ ีปฏบิ ตั ทิ เ่ี ปน็ เลิศ (Best Practice)
“การพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมชุดคำสั่ง (Coding) ด้วยโปรแกรมภาษาไพทอน (Python) โดยใช้
ชดุ ฝกึ ทกั ษะการเขียนโปรแกรมด้วยภาษาไพทอน (Python) ในรายวิชาวิทยาการคำนวณ 2 โดยใชร้ ปู แบบการ
สอน KSS Model
3. ความเปน็ มาและความสำคัญของผลงาน
ในปีพ.ศ. 2551 กระทรวงศึกษาธิการประกาศใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งกำหนด
มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดชั้นปี ตัวชี้วัดช่วงชั้น และสาระการเรียนรู้แกนกลาง ให้สถานศึกษาและท้องถ่ิน
นำไปใชเ้ ป็นแนวทางในการจัดทำหลักสูตร โดยสาระเทคโนโลยี สารสนเทศและการส่ือสาร เปน็ สาระที่ 3 ในกลุ่ม
สาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี การจัดทำตัวชี้วัดชั้นปีและตัวชี้วัดช่วงชั้นสำหรับสาระนี้ได้นำ
มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้นเดิม จากหลักสูตร ปีพ.ศ. 2544 มาพิจารณาและจัดแบ่งเนื้อหาแต่ละชั้นปีตามความ
ยากง่ายและ ศักยภาพของเด็กในแต่ละช่วงวัย เน้นให้ผู้เรียนนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ไป
ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน สามารถค้นหาข้อมูลและสร้างชิ้นงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีจริยธรรม และมี
ความรพู้ ื้นฐานดา้ นการเขียนโปรแกรมเพื่อการศึกษาต่อในระดับท่สี ูงขึน้ ซงึ่ สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เทคโนโลยี
สารสนเทศและการสอื่ สารเริม่ เข้ามามีบทบาทกบั การทำงานและการดำเนินชวี ติ ประจำวนั มากข้ึน
ปัจจุบันเศรษฐกิจ สังคมโลก เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก มีการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ ใช้ใน
ชีวิตประจำวัน และใช้ในด้านอุตสาหกรรมการผลิต การบริการ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ให้ดีขึ้น ส่งผลให้เกิด
การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต สังคม มีการทำธุรกรรมออนไลน์ การเข้าถึง ติดต่อสื่อสาร นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ผ่าน
สื่อต่าง ๆ ส่วนการพัฒนาด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และการสื่อสารก็ได้รับการนำไปใช้เป็นเครื่องมือ ช่วยใน
การทำงาน การศึกษา การเรียนร้ใู หม้ ี ประสทิ ธภิ าพและสะดวกสบายมากขน้ึ
เพื่อการพัฒนาประเทศให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงนี้รัฐจึงได้วางนโยบาย ประเทศไทย 4.0 ที่เน้นขีด
ความสามารถการแข่งขนั ของประเทศ เป็นโมเดลเศรษฐกิจที่จะนำพาประเทศไทย ให้เปลี่ยนผ่านไปสู่ “ประเทศ
ในโลกที่หนึ่ง” ที่มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ในบริบทของ การปฏิวัติอุตสาหกรรมยุคท่ี 4 อย่างเป็นรูปธรรม
วิธีปฏบิ ตั ทิ ีเ่ ปน็ เลิศ (Best Practice) คณุ ครจู นั ทรจ์ ริ า ขอจงกลาง
หน้า 4
ตามแนวทางแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้วยการสร้างความเข้มแข็งจากภายใน ควบคู่ไปกับการเชื่อมโยงกับ
ประชาคมโลก ตามแนวคิด “ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง”
การเรียนร้เู ก่ียวกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารจึงอาจไมเ่ พียงพอสำหรับการ ดำเนินชีวิตในยุค
เศรษฐกิจดิจิทัล ที่ต้องมีพื้นฐานความรู้และทักษะเพื่อแก้ปัญหาในชีวิตจริงหรือ พัฒนานวัตกรรม และใช้
ทรัพยากรด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการสร้าง องค์ความรู้หรือสร้างมูลค่าให้เกิดขึ้นได้อย่าง
สรา้ งสรรค์
แต่เดิมวิชาคอมพิวเตอร์เทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นวิชาหนึ่งในกลุ่มสาระการงานพื้นฐานอาชีพ แต่
ปัจจุบันได้ปรับตามหลักสูตร พ.ศ. 2560 ให้เป็นวิชาวิทยาการคำนวณ และย้ายมาเป็นวิชาในกลุ่มสาระ
วิทยาศาสตร์ โดยให้เริ่มเรียนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ไปจนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 ต้องมีทักษะทางด้าน (1)
Computer Science (วิทยาการคอมพิวเตอร์) ให้ผู้เรียนสามารถคิดเป็นขั้นตอนนำการเขียนโปรแกรมมาเป็น
เครื่องมือในการฝึกคิดเป็นขั้นตอน ตามแนวทาง Computational Thinking (2) ICT (เทคโนโลยีสารสนเทศ)
ให้ผู้เรียนสามารถรวบรวมข้อมูล จัดการข้อมูล นำข้อมูลมาประมวลผล และทำการตัดสินใจจากพื้นฐานของ
ข้อมูลได้ (3) Digital Literacy (รู้เท่าทันดิจิทัล) ให้ผู้เรียนรู้ทันเทคโนโลยี ไม่ตกเป็นทาสเทคโนโลยี สามารถ
สร้างสรรคผ์ ลงานบนเทคโนโลยไี ด้
รายวิชาวิทยาการคำนวณ 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 อยู่ในสาระท่ี 4 วิทยาการคำนวณ มาตรฐาน ว 4.2
เข้าใจ และใช้แนวคิดเชงิ คำนวณในการแก้ปัญหาทีพ่ บในชวี ิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยี
สารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้การทำงานและการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมี
จรยิ ธรรม การเขยี นโปรแกรมด้วยชุดคำสง่ั (Coding) อย่ใู นตวั ช้ีวัดที่ 2 ออกแบบและเขยี นโปรแกรม ที่ใช้ตรรกะ
และฟังก์ชัน ในการแก้ปัญหา (คู่มือการใช้หลักสูตรรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ สาระเทคโนโลยี วิทยการ
คำนวณ ระดบั ช้นั ประถมศึกษาและมธั ยมศึกษา, 2560 : 1)
ชุดฝึกทักษะสามารถสนองความต้องการในการเรียนรู้ที่คำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล ได้อย่างดี
และเปดิ โอกาสให้ผู้เรยี นได้เรียนตามเวลาท่ีสะดวก ตามความสนใจของผเู้ รียน และที่สำคญั ที่สดุ คือชุดฝึกทักษะมี
การประเมินผลในตนเอง เพื่อให้ผู้เรียนเห็นผลสำเร็จ เห็นความเจริญก้าวหน้าของตนในการเรียนรูใ้ นแต่ละตอน
แต่ละหน่วยการเรยี นสามารถเรียนได้ดว้ ยตนเอง นอกจากนี้ชุดฝึกทกั ษะยังสามารถช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลน
ผสู้ อนไดด้ ว้ ยเพราะสามารถใชส้ อนแทนครูและสอนผูเ้ รยี นไดจ้ ำนวนมาก ๆ ในเวลาเดียวกัน (บูรณะ สมชยั 2542
: 14)
ผู้ศึกษาค้นคว้าในฐานะเป็นครูผู้สอนรายวิชาวิทยาการคำนวณ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี ได้ตระหนักและเห็นความสำคัญของการพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมด้วยชุดคำสั่ง (Coding)
ด้วยโปรแกรมภาษาไพทอนของนักเรียน จึงได้หาวิธีจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยจัดทำแบบฝึกทักษะการเขียน
โปรแกรมด้วยชุดคำสั่ง (Coding) ดว้ ยโปรแกรมภาษาไพทอน (Python) ด้วยรูปแบบการสอนแบบ KSS Model
วธิ ีปฏบิ ตั ิทีเ่ ปน็ เลศิ (Best Practice) คณุ ครูจันทรจ์ ิรา ขอจงกลาง
หนา้ 5
ขึ้นมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนในรายวิชาวิทยาการคำนวณ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เพื่อช่วยพัฒนาทักษะในการในการเขียนโปรแกรมและการ
แกป้ ญั หา คดิ วเิ คราะห์ต่อไป
4. วตั ถุประสงคแ์ ละเป้าหมายของผลงาน
4.1 เพ่ือพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมด้วยชดุ คำสง่ั (Coding) ด้วยภาษาไพทอน (Python) โดยใช้
แบบฝึกทกั ษะการเขียนโปรแกรมด้วยภาษาไพทอน (Pythone) โดยใชร้ ปู แบบการสอน KSS Model ในรายวิชา
วทิ ยาการคำนวณ 2 ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 2
4.2 เพื่อส่งเสรมิ การจัดกิจกรรมการเรยี นรทู้ ีเ่ น้นผ้เู รยี นเปน็ สำคญั และนักเรียนเกิดการเรียนรดู้ ้วย
ตนเอง
4.3 เพื่อประเมินความพงึ พอใจของนักศึกษาทม่ี ีต่อชดุ ฝกึ ทักษะการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ดว้ ย
รปู แบบการสอน KSS Model
5. กระบวนการพัฒนาผลงานหรือขนั้ ตอนการดำเนนิ งาน
กระบวนการเพ่ือพฒั นาทกั ษะการเขียนโปรแกรมดว้ ยชุดคำส่ัง (Coding) ดว้ ยภาษาไพทอน (Python)
โดยใช้แบบฝกึ ทกั ษะการเขยี นโปรแกรมด้วยภาษาไพทอน (Python) ด้วยวธิ กี ารเรียนแบบร่วมมือ รายวชิ า
วทิ ยาการคำนวณ 2 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 โดยใชห้ ลกั การจดั การคุณภาพตามกระบวนการ PDCA เปน็ ตวั
ขับเคลอื่ น ดังน้ี
วิธีปฏบิ ตั ทิ ี่เปน็ เลิศ (Best Practice) คุณครูจนั ทร์จิรา ขอจงกลาง
หน้า 6
เร่ิมต้น
วางแผนการดำเนนิ งาน (Plan)
วิเคราะห์หลกั สูตรและแนวคิดทฤษฎี
ออกแบบนวตั กรรมหรือนวตั กรรม
สรา้ งเครือ่ งมอื เพอื่ ใชใ้ นการพัฒนา
ดำเนินการจดั กิจกรรมตามเครอ่ื งมอื ทส่ี รา้ ง
ประเมินผลการปฏิบตั ิงาน
ผา่ นเกณฑ์ ไม่ใช่ ปรบั ปรงุ แก้ไข
หรือไม่
ใช่
นเิ ทศ กำกับ ติดตาม
สรุปผล/รายงานผล/ประเมินผล
และนำผลการประเมินมาปรับปรุงพัฒนาตอ่ ไป
เรมิ่ ตน้
วิธปี ฏิบตั ทิ ีเ่ ปน็ เลิศ (Best Practice) คณุ ครูจนั ทร์จริ า ขอจงกลาง
หนา้ 7
5.1 ข้ันวางแผนการดำเนินงาน (Plan)
5.1.1 วเิ คราะห์การพัฒนาทักษะการเขยี นโปรแกรมชดุ คำส่ัง (Coding) ด้วยโปรแกรมภาษา
ไพทอน (Python) โดยใชช้ ดุ ฝกึ ทกั ษะการเขยี นโปรแกรมดว้ ยภาษาไพทอน (Python) ในรายวิชาวิทยาการ
คำนวณ 2 ด้วยวิธีการเรยี นแบบรว่ มมือของนักเรยี น
5.1.2 ศกึ ษาหลักสตู รและแนวคดิ ทฤษฎีท่ีเกยี่ วขอ้ ง ดังนี้
ทฤษฎีการสอนของกาเย่ ซ่ึงมีแนวคดิ วา่ การเรียนรู้มีลำดบั ขนั้ และผ้เู รียนจะตอ้ ง
เรียนรูเ้ นอ้ื หาจากง่ายไปหายาก
แนวคดิ ของบลมู ซ่ึงกลา่ วถึงธรรมชาตขิ องผู้เรียนแตล่ ะคนว่ามีความแตกต่างกนั
ผู้เรยี นจะสามารถเรยี นเน้ือหาในหน่วยยอ่ ยต่าง ๆ ได้ โดยใช้เวลาเรยี นทีแ่ ตกตา่ งกัน
ทฤษฎีพฤติกรรมนิยมของสกนิ เนอร์ บคุ คลเรยี นร้ดู ว้ ยการกระทำ โดยมีตัว
เสริมแรงเปน็ ตัวการ
ทฤษฎีลองผิดลองถูกของธอร์นไดด์ สรปุ เกณฑ์การเรียนรูค้ อื
- กฎความพรอ้ ม หมายถงึ การเรียนรจู้ ะเกิดขึ้นเม่ือบคุ คลพร้อมทจ่ี ะทำ
- กฎผลท่ีไดร้ ับ หมายถึง การเรียนรูจ้ ะเกิดข้ึน เพราะบุคคลกระทำซ้ำ และ
ย่ิงทำมาก ความชำนาญจะเกิดขนึ้ ได้ง่าย
5.1.3 ออกแบบวธิ ีการหรือนวตั กรรม
5.2 ดำเนินการตามแผน (Do)
5.2.1 สรา้ งเคร่อื งมือหรือนวัตกรรมที่ออกแบบไว้
5.2.2 ดำเนินการจดั กจิ กรรมพฒั นาตามเครอื่ งมอื ท่ีสร้าง ดังน้ี
(1) ทำแบบทดสอบก่อนเรียน
(2) จดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ดว้ ยแบบฝึกทกั ษะ
(3) จดั ทำแบบฝึกทักษะการพัฒนาทักษะการเขยี นโปรแกรมชุดคำสงั่ (Coding)
(4) ทำแบบทดสอบหลงั เรียน
5.3 การตรวจสอบ (Check)
5.3.1 ผบู้ ริหารนิเทศ กำกบั ตดิ ตาม
5.3.2 รายงานผลการดำเนินงาน
5.3.3 สำรวจความพงึ พอใจของครแู ละนักเรียน
5.4 การรายงานผลเพ่ือปรับปรุงพัฒนา (Action)
5.4.1 พฒั นาทักษะการเขียนโปรแกรมชุดคำสงั่ (Coding) ด้วยโปรแกรมภาษาไพทอน
(Python) โดยใชช้ ุดฝกึ ทกั ษะการเขียนโปรแกรมด้วยภาษาไพทอน (Python) ในรายวิชาวิทยาการคำนวณ 2
วิธปี ฏิบตั ทิ เ่ี ป็นเลิศ (Best Practice) คณุ ครจู ันทร์จริ า ขอจงกลาง
หนา้ 8
ดว้ ยวิธีการเรียนแบบรว่ มมอื ของนักเรยี น และรายงานผลการสำรวจความพึงพอใจของครูและนักเรยี นชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 2 แลว้ สรุปผล ประเมนิ ผลเป็นรูปเล่มรายงานเพื่อเผยแพรต่ ่อไป
5.4.2 นำผลการประเมนิ มาร่วมกันวิเคราะห์ เพ่อื ท่จี ะไดน้ ำไปเปน็ ข้อมลู ในการวางแผนพัฒนา
ให้ดียง่ิ ขน้ึ ต่อไป
6. ผลการดำเนนิ การ
6.1 นกั เรยี นมีทักษะการเขียนโปรแกรมชุดคำสงั่ (Coding) ด้วยโปรแกรมภาษาไพทอน (Python)
โดยใชช้ ุดฝกึ ทักษะการเขยี นโปรแกรมด้วยภาษาไพทอน (Python) ที่สูงขึ้น โดยวดั จากแบบทดสอบก่อนเรียน
และหลังเรยี น แบบทดสอบปฏบิ ตั ิ
6.2 นักเรยี นไดร้ บั การสง่ เสริมการจัดกิจกรรมการเรยี นรทู้ ี่เน้นผู้เรียนเป็นสำคญั และนกั เรยี นเกดิ การเรียนรู้
ด้วยตนเอง
6.3 ครูจดั กจิ กรรมการปญั หารายวิชาวิทยาการคำนวณ 2 ด้วยวิธีทหี่ ลากหลาย
6.4 ครแู ละนักเรียนมคี วามพึงพอใจต่อการพฒั นาทักษะการเขยี นโปรแกรมชดุ คำส่ัง (Coding) ดว้ ย
โปรแกรมภาษาไพทอน (Python) โดยใช้ชดุ ฝกึ ทักษะการเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษาไพทอน (Python) ท่ีสงู ข้นึ
7. ปัจจัยความสำเร็จ
7.1 นักเรยี นให้ความรว่ มมือในการดำเนนิ งานอย่างเต็มศักยภาพและมีความต่อเนอื่ งในการดำเนินงาน
โดยใช้รูปแบบการสอน KSS Model ในการจดั การเรียนการสอน
7.2 ผู้บรหิ ารและหัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้ คณะครู ให้ความสำคญั และกำกับ ตดิ ตามอยา่ งต่อเนื่อง
7.3 การเปิดโอกาสใหน้ ักเรียนไดศ้ ึกษาเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง ทำใหน้ ักเรยี นมีอิสระในการเรียนรู้
7.4 มีกระบวนการทำงานท่ีเป็นระบบ PDCA
วิธีปฏิบตั ทิ ี่เปน็ เลิศ (Best Practice) คุณครูจนั ทร์จิรา ขอจงกลาง
หน้า 9
8. รปู แบบการสอน KSS Model
KSS
Model
K = Knowledge (ความรู้) ความหมาย คือ ครผู ูส้ อนต้องสอนนักเรยี นใหม้ ีความรู้ โดยการใชใ้ บ
ความรู้ สอื่ การสอนออนไลน์ บนเว็บไซต์ครูผู้สอน bit.ly/kroojunji หรือการค้นหาข้อมลู บนอินเทอรเ์ นต็ ใน
เรอื่ งการเขยี นโปรแกรมด้วยภาษาไพทอน (Python)
S = Skill (ทักษะ) ความหมาย คือ เมื่อนักเรยี นมีความรู้เร่อื งการเขยี นโปรแกรมดว้ ยภาษาไพทอน
นกั เรยี นจะต้องฝึกเขยี นชดุ คำสั่ง (Coding) ด้วยโปรแกรมภาษาไพทอน (Python) ด้วยการใช้แบบฝกึ ทักษะจาก
โจทย์ท่ีกำหนดให้ จนได้ผลลัพธ์ตามทโ่ี จทยต์ ้องการ โดยการวิเคราะห์ปญั หาจากข้อมูลนำเขา้ (Input) การ
ประมวลผล (Process) และผลลพั ธ์ทโี่ จทย์ตอ้ งการ (Output) นักเรยี นจะเขยี นชดุ คำสง่ั บนแฟลตฟอรม์ ทีช่ อ่ื
google colab เรียกใช้งานบนเว็บไซต์ https://colab.research.google.com/
S = Success (ความสำเรจ็ ) ความหมาย คือ เมอ่ื นักเรยี นมที กั ษะในการเขยี นโปรแกรมจนเกิดความ
เข้าใจดีและมที ักษะการแก้ปัญหาโจทย์จนเกิดผลลพั ธต์ ามทีต่ อ้ งการแล้ว เม่อื ให้เกดิ ความเขา้ ใจยงิ่ ขึ้น ตอ้ งทำ
การทดสอบความเขา้ ใจของนักเรยี นเป็นรายบุคคลด้วยการทดสอบความรู้ ความเขา้ ใจ และทกั ษะดว้ ยการใช้
แพลตฟอรม์ https://elabsheet.org/ ซึง่ จะส่งแบบทดสอบใหน้ ักเรียนผา่ นอีเมล นกั เรียนสามารถทำ
แบบทดสอบผา่ นระบบออนไลน์ได้ด้วยการใช้สมารท์ โฟน หรอื คอมพวิ เตอร์ และนักเรียนสามารถตรวจคำตอบ
วิธปี ฏิบัติท่เี ปน็ เลศิ (Best Practice) คณุ ครูจันทร์จิรา ขอจงกลาง
หนา้ 10
วา่ ผา่ นหรอื ไมผ่ า่ นไดด้ ้วยตนเอง ซง่ึ จะวัดผลสำเร็จของนักเรยี นเป็นรายบุคคล ว่านักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจ
และมที ักษะในการเขียนโปรแกรมชดุ คำสั่ง (Coding) ดว้ ยโปรแกรมภาษาไพทอนมากน้อยเพียงใด
9. บทเรียนทไี่ ด้รบั
9.1 นกั เรียนทกุ คนมีศักยภาพที่สามารถพฒั นาได้ ครูออกแบบการจัดกจิ กรรมท่ีเอ้ือให้นกั เรยี นแสดง
ศักยภาพของตนเองในการปฏิบตั กิ ิจกรรมต่าง ๆ อย่างเตม็ ท่ี ยอ่ มทำให้นักเรยี นไดม้ ีโอกาสพัฒนาตนเองเต็มตาม
ศักยภาพที่มีอยู่ ดังนั้น โรงเรยี นควรเปิดโอกาสและส่งเสรมิ ใหน้ ักเรียนไดแ้ สดงออกซ่ึงความสามารถดา้ นต่างๆ
9.2 ความสำเร็จในการใช้นวัตกรรม “แบบฝึกทักษะการเขียนโปรแกรมชุดคำสงั่ (Coding) ด้วยภาษา
ไพทอน (Python) เกดิ จากความร่วมมอื ของทกุ ฝ่าย คือ ผ้บู รหิ าร หัวกล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละ
เทคโนโลยี คณะครสู าระเทคโนโลยี และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2
9.3 การทำงานที่เปน็ ระบบและความทุ่มเทเอาใจใส่ของครู นักเรียน เปน็ ปจั จยั สำคญั ทท่ี ำให้การ
ดำเนนิ งานบรรลวุ ตั ถุประสงค์และเป้าหมายทวี่ างไว้
9.4 นกั เรียนมีความสนใจและอยากท่จี ะเรยี นร้มู ากขน้ึ และมีทักษะในการคิด แก้ปญั หา การทำงานอยา่ ง
เปน็ ระบบและทกั ษะการเขียนโปรแกรมจากโจทยป์ ญั หาท่กี ำหนดให้เพ่ิมขน้ึ
ขอ้ เสนอแนะ
(1) ในการพัฒนาคุณภาพนกั เรยี นเพอ่ื พฒั นาทักษะการเขยี นโปรแกรมภาษาไพทอน
(Python) โดยผา่ นกจิ กรรมการเรยี นรู้ ตอ้ งคำนึงถงึ องค์ประกอบของการจดั การความรไู้ ด้แก่ ครู นักเรียน ส่ือ
เทคโนโลยี และกระบวนการเรยี นรู้ เพ่ือให้เกิดการพฒั นาวิธีการทำงานท่ีมปี ระสิทธภิ าพ
(2) นักเรียนควรมคี วามพร้อมของอุปกรณ์ทจี่ ะนำไปใชใ้ นกิจกรรมการเรยี นการสอน เชน่
โทรศพั ท์มือถือ อินเทอรเ์ น็ต เป็นต้น
10. การเผยแพร/่ การไดร้ ับการยอมรับ/รางวลั ท่ไี ด้รบั
10.1 การเผยแพร่
10.1.1 ไดด้ ำเนนิ การเผยแพรแ่ บบฝกึ ทักษะบนเวบ็ ไซต์ครูผ้สู อน bit.ly/kroojunji ใน
รายวชิ าวทิ ยาการคำนวณ 2 ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 2 เรอ่ื งการแกป้ ัญหาดว้ ยการเขยี นโปรแกรมภาษาไพทอน
10.2 การไดร้ บั การยอมรับ
10.2.1 ครูและนกั เรยี นมีความพึงพอใจต่อการพฒั นาทักษะการเขยี นโปรแกรมชดุ คำส่งั
(Coding) ดว้ ยโปรแกรมภาษาไพทอน (Python) โดยใชช้ ุดฝึกทักษะการเขยี นโปรแกรมด้วยภาษาไพทอน
(Python)
วธิ ปี ฏบิ ัตทิ ่ีเปน็ เลศิ (Best Practice) คุณครูจนั ทร์จริ า ขอจงกลาง
หนา้ 11
ลงชอ่ื .......................................................ผู้ส่งผลงาน
(นางสาวจันทร์จริ า ขอจงกลาง)
ตำแหนง่ ครู วทิ ยฐานะชำนาญการพิเศษ
ลงช่อื .....................................................ผู้รับรองผลงาน
(นางณัชชา ศรแี สนปาง)
ตำแหนง่ ผอู้ ำนวยการโรงเรียนขามสะแกแสง
วิธปี ฏบิ ตั ทิ เ่ี ป็นเลศิ (Best Practice) คุณครจู ันทร์จิรา ขอจงกลาง
หน้า 12
เอกสารอ้างองิ
กระทรวงศกึ ษาธิการ..(2553)..หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551. พิมพ์คร้ังท่ี 3..
กรุงเทพฯ.:.โรงพิมพ์ชมุ นุม สหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย.จากดั .
กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). ตัวชว้ี ดั และหลักสูตรแกนกลาง กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์
(ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551.
สำนักคณะกรรมการศึกษาข้ันพื้นฐานกระทรวงศึกษาธิการ, กรงุ เทพมหานคร:โรงพมิ พ์ชมุ นมุ สหกรณ์
การเกษตรแหง่ ประเทศไทย จำกดั .
บูรณะ สมชยั . (2542). การสรา้ ง CAI Multimedia ดว้ ย AUTHORWARE 4.0. กรงุ เทพฯ :
บริษทั เอช.เอ็น.กรปุ๊ จากัด.
สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย.ี (2560). คมู่ ือการใชห้ ลกั สูตร สาระเทคโนโลยี (วิทยาการ
คำนวณ) กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร.์ กรุงเทพ : โรงพมิ พ์แห่งจุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย.
สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย.ี (2562). เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)
ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 2 หนงั สือเรียนรายวชิ าพ้ืนฐานวิทยาศาสตร.์ กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์
แหง่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
วธิ ปี ฏบิ ัตทิ ี่เป็นเลศิ (Best Practice) คณุ ครจู ันทร์จิรา ขอจงกลาง
หนา้ 13
ภาคผนวก
วิธปี ฏบิ ตั ทิ ่ีเป็นเลศิ (Best Practice) คณุ ครจู นั ทร์จริ า ขอจงกลาง
หน้า 14
เวบ็ ไซต์ครูผสู้ อน : bit.ly/kroojunji
บทเรียนออนไลน์รายวขิ าวิทยาการคำนวณ 2 ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 2 บนเว็บไซต์
วธิ ีปฏบิ ตั ทิ ี่เป็นเลศิ (Best Practice) คณุ ครูจันทร์จิรา ขอจงกลาง
หนา้ 15
แบบฝกึ ทกั ษะการเขยี นโปรแกรมชดุ คำสง่ั (Coding) ดว้ ยภาษาไพทอน
ส่อื กิจกรรมการสอนและแบบฝึกทักษะแบบออนไลน์
วิธปี ฏบิ ตั ิทเ่ี ป็นเลศิ (Best Practice) คุณครจู ันทร์จริ า ขอจงกลาง
หน้า 16
ผลงานนกั เรยี นในการพัฒนาทกั ษะเรือ่ งการตรวจสอบเรื่องของข้อมลู ในภาษา Python
นกั เรียนเขยี นโปรแกรมภาษาไพทอนบนแพลตฟอรม์ Colab Google
วิธีปฏิบตั ทิ ี่เปน็ เลิศ (Best Practice) คณุ ครจู ันทร์จิรา ขอจงกลาง
หนา้ 17
นกั เรียนสามารถเขยี นโปรแกรมจากโจทยป์ ญั หา
การทดสอบความรู้ ทักษะในการเขียนโปรแกรมผ่าน Elapsheet
วธิ ีปฏบิ ตั ทิ ี่เป็นเลศิ (Best Practice) คุณครจู ันทรจ์ ริ า ขอจงกลาง
หน้า 18
ภาพบรรยากาศการจดั การเรียนการสอนรายวิชาวิทยาการคำนวณ 2 ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 2
ภาพบรรยากาศการจดั การเรยี นการสอนรายวชิ าวิทยาการคำนวณ 2 ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 2
วิธีปฏบิ ตั ิที่เป็นเลศิ (Best Practice) คณุ ครูจนั ทรจ์ ริ า ขอจงกลาง
หน้า 19
ภาพบรรยากาศการจดั การเรียนการสอนรายวิชาวิทยาการคำนวณ 2 ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 2
ภาพบรรยากาศการจดั การเรยี นการสอนรายวชิ าวิทยาการคำนวณ 2 ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 2
วิธีปฏบิ ตั ิที่เป็นเลศิ (Best Practice) คณุ ครูจนั ทรจ์ ริ า ขอจงกลาง