ปลัดสัญชาติ ปี 2564

แนะนําหน่วยงาน

สํานักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง
๕๙ ม. ๑๑ คลอง ๙ ต.บึงทองหลาง อ.ลาํ ลูกกา จ.ปทุมธานี

LOGO

นายบัณฑติ นามเครอื
หน.ฝา ยสญั ชาติคนตางดาวท่วั ไป
หน.ฝายเสยี สญั ชาติ
โทร 02-7917330 ,
080-0616654
แอดไลนจากเบอรโ ทร

๕. ด่วนท่ีสุด ท่ี มท ๐๓๐๙.๑/ว ๒ ลว ๒๗ ม.ค. ๒๕๕๔

การเปล่ียนสถานะทางทะเบียนราษฎรจากไมไ่ ดส้ ญั ชาติไทย ต่อมาไดร้ ับ
สญั ชาติไทยโดยผลของกฎหมาย

กรณีบุคคลที่มีรายการในทะเบียนบา้ น ท.ร.๑๓ / ทะเบียนประวตั ิ
ท.ร. ๓๘ หรือ ท.ร. ๓๘ ก ใหน้ ายทะเบียนจาํ หน่ายรายการและเลขประจาํ ตวั
ประชาชน

จดั ทาํ เอกสารทะเบียนบา้ นใหม่ โดยเพ่มิ ชื่อใน ท.ร.๑๔ กาํ หนดใหเ้ ลข
ประจาํ ตวั ประชาชนใหม่

ถา้ บุคคลดงั กล่าวมีรายการใน ท.ร.๑๔ เลขประจาํ ตวั ประชาชน เลข ๓ / ๔ / ๕
ใหน้ ายทะเบียนแกไ้ ขรายการในสญั ชาติ

กลมุ ของบคุ คลซงึ่ ไมมีสญั ชาตไิ ทยทเ่ี ขามาในประเทศ

- นักทองเทยี่ ว คนไรรัฐไรส ญั ชาติ/คนไมม ี ชนกลมุ นอ ยกลมุ
- คณะผูแ ทนทางทูต สถานะ ( 0 กลุม 00) ชาตพิ นั ธทไี่ ดรบั
1.กลุมคนหวั 0 กลุม 89 เชน การจดั ทําทะเบียน
- นกั เรียนแลกเปลย่ี น 1.1 กลมุ นกั เรยี น ประวัติท่เี ปน หัว 6
- นักลงทุน 1.2 กลมุ คนไรร ากเหงา หรอื คนท่ตี กหลน
- แรงงานตางดา ว 1.3 กลุมผทู ําคณุ ประโยชน ได กลมุ 0-89
(มี 19 กลุม)

กฎหมายคนเข้าเมือง

คนต่างด้าวเข้าเมืองช่ัวคราว

LOGO



ประเทศเมียนมา

LOGO

LOGO

สาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

LOGOwww.themegallery.com

ประเทศสิงคโปร์

LOGOwww.themegallery.com

ประเทศมาเลเซีย

LOGOwww.themegallery.com

เขตบริหารพเิ ศษมาเก๊า (จนี )

LOGOwww.themegallery.com

ประเทศเวยี ดนาม

LOGOwww.themegallery.com

คนท่ีไม่มีสญั ชาติไทยหรือชนกลุ่มนอ้ ย

กฎหมายคนเขา้ เมือง

คนต่างดา้ วมีถ่ินที่อยถู่ าวร



กฎหมายคนเข้าเมือง

คนต่างด้าวได้รับการผ่อนผนั

LOGO

ตวั อยา่ งบตั ร
ประจาํ ตวั
แรงงาน
ต่างด้าว
สามสญั ชาติ
ปจั จุบนั





ประเภทของทะเบยี นบ้าน และทะเบียนประวตั ิ

ท.ร.14 ท.ร.13 ท.ร.38



สตู ิบตั ร
ยคุ ปัจจบุ นั



เลขประจําตวั ประชาชน 13 หลกั

ชนกล่มุ น้อยและกล่มุ ชาติพนั ธ์ุทไี่ ด้รับการสํารวจจัดทาํ ทะเบยี นประวตั ิ
1. บุคคลบนพืน้ ทสี่ ูง 2. อดตี ทหารจีนคณะชาติ
3. จีนฮ่ออพยพพลเรือน 4. จนี ฮ่ออสิ ระ
5. ผู้พลดั ถ่นิ สัญชาตพิ ม่า 6. ผู้หลบหนีเข้าเมืองจากพม่า
6. เวยี ดนามอพยพ 8. ลาวอพยพ
9. เนปาลอพยพ 10. ตองเหลือง
11. อดตี โจรจนี คอมมวิ นีสต์มลายา 12. ไทยลือ้
13. ผู้อพยพเชื้อสายไทยจากจงั หวดั เกาะกง กมั พูชา (เข้าก่อน 15 พ.ย.2520)
14 ผู้หลบหนีเชื้อสายไทยจากจังหวดั เกาะกงกมั พูชา (เข้าหลงั 15 พ.ย.2520)
15. ผู้หลบหนีเข้าเมืองจากกมั พูชา
16. ผู้พลดั ถน่ิ สัญชาตพิ ม่าเชื้อสายไทย(ก่อน 9 ม.ี ค.2519)
17. ผู้พลดั ถน่ิ สัญชาตพิ ม่าเชื้อสายไทย(หลงั 9 ม.ี ค.2519)
18. บุคคลและชุมชนบนพืน้ ทส่ี ูง (ชาวเขา 9 เผ่า และไม่ใช่ชาวเขา)
19. มอร์แกน

การไดส ญั ชาติไทยและเสียสญั ชาติไทย
ตามกฎหมายสัญชาติไทย

แผนผงั แสดงการได้สัญชาติไทย การเสียสัญชาติไทย และการกลบั คนื สัญชาตไิ ทย
ตาม พ.ร.บ. สัญชาติ พ.ศ. 2508 และทแี่ ก้ไขเพมิ่ เติมจนถึงฉบบั ที่ 5 พ.ศ. 2555

หลกั สายโลหติ จากบิดาหรือมารดาไทย (ม.7 (1))

โดยการเกดิ หลกั ดนิ แดน หลกั เกิดในประเทศไทย (ม.7 (2))

การได้สัญชาตไิ ทย ภายหลงั การเกดิ ข้อยกเว้น  บิดาและมารดาเป็นคนตา่ งดา้ วท่ีเป็นทูต หรือเจา้ หนา้ ที่องคก์ รระหวา่ งประเทศ (ม.8) หรือ
 มีบิดาและมารดาเป็นคนตา่ งดา้ วและขณะท่ีเกิดบิดาหรือมารดาเขา้ เง่ือนไขที่ทาํ ใหไ้ มไ่ ด้

สญั ชาติไทย (ม.7 ทวิ วรรคหน่ึง) เช่น ชนกลุม่ นอ้ ย คนเขา้ เมืองชวั่ คราว ผหู้ ลบหนีเขา้ เมือง

สัญชาตไิ ทย การเสียสัญชาตไิ ทย โดยการสมรส
ภายใต้ พ.ร.บ. สัญชาติ ชายหรือหญิงไทยสมรสกบั คนตา่ งดา้ วและแสดง  หญิงตา่ งดา้ วสมรสกบั ชายไทย (ม.9)
พ.ศ. 2508 และทแี่ ก้ไข
ความจาํ นงสละสญั ชาติไทย (ม.13) โดยการแปลงชาติ
เพมิ่ เตมิ จนถงึ  แปลงใหต้ นเอง (ม.12 วรรคหน่ึง)
ฉบบั ท่ี 5 พ.ศ. 2555 ผทู้ ี่ไดส้ ญั ชาติอ่ืนตาม กม. วา่ ดว้ ยสญั ชาติของ  แปลงใหต้ นเองและบุตรที่ยงั ไม่บรรลนุ ิติภาวะ (ม.12 วรรค)ส
บิดามารดาประสงคจ์ ะถือสญั ชาติอื่นและแสดง  แปลงใหบ้ ุคคลอ่ืนตาม ม.12/1 (ม.12 วรรคหน่ึง)
ความจาํ นงสละสญั ชาติไทย (ม.14)
หลกั คุณสมบตั ิ (ม.10)
ผมู้ ีสัญชาติไทยและสัญชาติอื่น หรือผไู้ ดร้ ับการแปลง
สญั ชาติเป็นไทย ประสงคส์ ละสญั ชาติไท1ย5)(ม .

ถูกถอนสญั ชาติไทย ข้อยกเว้น ม.11, 12 วรรคสอง,12/1 (1) (2) (3)

 โดยรัฐมนตรี (ม.16, ม.17 (1) (2) ม.18 และ ม.19) โดยคาํ สั่งรัฐมนตรี (ม.7 ทวิ วรรคสอง)

 โดยศาล (ม.17 (3), (4))  ผทู้ ี่เกิดในไทยแต่ไมไ่ ดส้ ญั ชาติไทยตาม ม.7 ทวิ วรรคหน่ึง(มมี ติครม.รองรับ)
โดยผลของกฎหมาย
โดยผลของกฎหมาย (ม.21 และ ม.22)

ลงรายการสญั ชาติไทยตาม ม.23 พรบ.สญั ชาติ พ.ศ.2551

การกลบั คนื สัญชาตไิ ทย คืนสญั ชาติไทยใหค้ นไทยพลดั ถ่ิน พรบ.สญั ชาติ พ.ศ.2555

 ชายหรือหญิงไทยสละสญั ชาติ เพราะไปสมรสกบั คนตา่ งดา้ ว
และไดข้ าดจากการสมรส ยนื่ แสดงความจาํ นงขอ (ม.23)
 ผซู้ ่ึงมีสญั ชาติไทยแต่ไดเ้ สียสญั ชาติตามบิดาหรือมารดา ขณะท่ีตน
ยงั ไมบ่ รรลุนิติภาวะประสงคข์ อ (ม.24) บรรจบ 9/6/2555



การพจิ ารณาคุณสมบตั กิ ารขอมสี ัญชาตไิ ทยตามกฎหมาย

1. สามารถพจิ ารณาไดจ้ ากคุณสมบตั ิของบิดาหรือมารดาคนใดคนหน่ึง
2.โดยเฉพาะคนที่มีสถานะท่ีเป็นประโยชน์สูงสุดต่อการพฒั นาสถานะของบุตร
เช่น บิดาไดส้ ญั ชาติ ม.23 มารดาเป็นชนกลุ่มนอ้ ยที่มีชื่อในทะเบียนบา้ น ทร.13
และมีหลกั ฐานทะเบียนประวตั ิบุคคลบนพ้ืนที่สูง กใ็ หข้ อ ม.23/เพิ่มช่ือ 103
3. ถา้ บิดาหรือมารดาผทู้ ่ีมีสถานะเป็นประโยชน์สูงสุดมีรายการไม่ปกติ กใ็ ห้
พฒั นาสถานะในลาํ ดบั ถดั ไป เช่น บิดาไดส้ ญั ชาติ ม.23 แต่ถูกจาํ หน่ายขอ้ 110
มารดาเป็นชนกลุ่มนอ้ ยที่มีชื่อในทะเบียนบา้ น ทร. 13 และมีหลกั ฐานทะเบียน
ประวตั ิบุคคลบนพ้ืนที่สูง กใ็ หข้ อ ม.7 ทวิ วรรคสอง

บุคคลทไี่ ดสัญชาติไทย
ตามมาตรา 23

แหง พระราชบญั ญัตสิ ญั ชาติ (ฉบบั ท่ี 4)
พ.ศ. 2551



สถานทย่ี นื่ คาํ ขอ/ผมู ีอาํ นาจอนมุ ตั ิคาํ รอ งตาม มาตรา 23
(มท0309.1/ว 1587 ลว. 22 พ.ค.51)

ตามท่ีมชี ื่ออยูในทะเบยี นบา นหรอื ทะเบยี นประวัติ

1.มชี ่ืออยูที่จงั หวัด ย่นื ที่ สนท.อาํ เภอ/สนท.ทอ งถิ่น ทม่ี ชี ่ืออยู
ผมู อี าํ นาจอนมุ ัติ คอื นายอําเภอ

การสอบสวนพยาน ใชพยานรบั รอง 2 คน
กรณยี งั ไมบ รรลนุ ติ ภิ าวะ

กรณีมีช่อื รายการบคุ คลและเลข 13 หลัก ใชพยานรบั รอง 3 คน

กรณยี ังไมม ชี ่อื เลข 13 หลักแตม ีชอื่ ในทะเบยี น ใชพ ยานรบั รอง 4 คน

สถานทยี่ ืน่ คําขอ/ผมู อี าํ นาจอนุมัตคิ าํ รอ งตาม มาตรา 23
(มท0309.1/ว 1587 ลว. 22 พ.ค.51) ตอ

2.มชี อื่ อยกู รุงเทพมหานคร ยื่นท่สี ํานกั งานเขต

ผมู อี ํานาจอนมุ ัติ ผอู าํ นวยการเขต

**ในการสอบสวนใหม ขี อ ความ ขา พเจาขอปฏญิ าณวา จะจงรกั ภัคดตี อ
ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ  และการปกครองในระบอบประชาธปิ ไตย
อนั มีพระมหากษตั รยิ เปน ประมขุ จะประพฤตติ นเปน พลเมอื งดีภายใต
กฎหมายของประเทศไทยตลอดไป หากไมเ ปน ไปตามทป่ี ฏญิ าณไวน ี้
ขา พเจา ยนิ ยอมใหถ อนสญั ชาติไทยของขา พเจา**

** อายนุ ับบรบิ รู ณ* * (อายผุ ูยืน่ ตาํ่ 15 ป บิดามารดา/ผปู กครอง)

บุคคลท่ถี กู ถอนสญั ชาติไทยหรอื ไมไ ดสัญชาติไทยโดยผลของ ปว.337 และบุตรของบคุ คลดงั กลา ว

บดิ า มารดา ผูปกครองเดก็ เปนผยู ื่นคาํ ขอ (กรณีเดก็ อายตุ า่ํ กวา 15 ป) บุคคลยื่นคําขอดว ยตนเอง(กรณอี ายุตั้งแต 15 ปข ึ้นไป)

นายทะเบยี นแหง ทอ งท่ี ทเ่ี ด็กหรือบุคคลนั้นมีภมู ิลําเนาปจจุบนั

นายทะเบยี นออกใบรบั คํารองใหผูแ จง/ตรวจคุณสมบตั ิ/ 90 วัน
ตรวจเอกสาร/สอบสวนพยานบุคคล และเสนอเรือ่ งให 15 วนั

นายอําเภอพิจารณา ไมอนุมตั ิ

นายอาํ เภอมีคําสั่ง และแจงนายทะเบียน แจ งผู ขอ ให อุ ทธ รณ คํา สั่ ง
อนมุ ัตใิ หล งรายการสญั ชาติไทย ภายใน 15 วัน

สงคาํ ขอให สนท.กลาง กําหนดเลข 13 หลัก (รหสั 8 – xxxx – 73xxx - xx - x)
สนท. ไดร บั เลข 13 หลัก แจง ผูรองเพ่ิมช่ือใน ท.ร.14

เลขประจาํ ตัวกลุมของคนไทยโดยการเกิด
(มาตรา 23)

8 - 00200 - 733000 - 040 - 50
1

เลข 8 รหสั สนท. ลาํ ดบั ทีข่ องคน เลขตรวจสอบ

บุคคลที่ไดสัญชาตไิ ทย
ตามมาตรา 7 ทววิ รรคสอง
แหง พระราชบญั ญตั ิสัญชาติ (ฉบบั ท่ี 4)
พ.ศ. 2551 มตคิ รม. 7 ธ.ค.59

พระราชบัญญตั ิสัญชาติ พ.ศ. 2508

มาตรา 7 ทวิ ผูเ กดิ ในราชอาณาจกั รไทย โดยบดิ าและมารดาเปน คนตา งดาวยอ ม
ไมไ ดรับสัญชาติไทย ถา ในขณะท่ีเกิดบดิ าตามกฎหมายหรือบดิ าซ่งึ มไิ ดม กี ารสมรสกบั มารดา
หรือมารดาของ ผนู น้ั เปน

(1) ผูท่ีไดรับการผอ นผันใหพักอาศัยอยูในราชอาณาจกั รไทยเปนกรณพี เิ ศษเฉพาะราย
(2) ผูท ไี่ ดรบั อนญุ าตใหเขาอยูใ นราชอาณาจกั รไทยเพยี งชั่วคราว หรอื
(3) ผูทเี่ ขามาอยใู นราชอาณาจกั รไทยโดยไมไ ดร บั อนญุ าตตามกฎหมายวาดว ย
คนเขา เมอื ง

ม.7 ทวิ เพ่มิ โดย พ.ร.บ.สัญชาติ (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2535

ในกรณที ี่เหน็ สมควร รัฐมนตรจี ะพจิ ารณาและสง่ั เฉพาะรายหรือเปน การท่วั ไปให
บคุ คลตามวรรคหนึ่งไดส ญั ชาตไิ ทยกไ็ ด ตามหลกั เกณฑที่คณะรัฐมนตรกี ําหนด

ผเู กดิ ในราชอาณาจกั รไทยซ่ึงไมไ ดส ญั ชาตไิ ทยตามวรรคหนง่ึ จะอยใู นราชอาณาจกั ร
ไทยในฐานะใด ภายใตเงื่อนไขใด ใหเ ปน ไปตามที่กาํ หนดในกฎกระทรวง ทงั้ นี้ โดยคาํ นึงถงึ
ความมั่นคงแหง ราชอาณาจักรและสิทธิมนษุ ยชนประกอบกนั ในระหวา งทย่ี ังไมม กี ฎกระทรวง
ดังกลาว ใหถือวา ผูนน้ั เขามาอยูในราชอาณาจกั รไทยโดยไมไดร บั อนญุ าตตามกฎหมายวา ดว ย
คนเขาเมือง

วรรคสอง และ วรรคสาม แกไ ขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.สัญชาติ (ฉบบั ท่ี 4) พ.ศ. 2551

ประกาศกระทรวงมหาดไทย

เร่ือง การส่ังใหคนที่เกิดในราชอาณาจักรและไมได
รับสัญชาติไทย โดยมีบิดาและมารดาเปนคนตางดาว
ใหสัญชาติไทยเปนการท่ัวไป และการใหสัญชาติไทย
เปนการเฉพาะราย

ประกาศ ณ วนั ท่ี 16 ก.พ.60

(เกดิ หลงั 25 ก.พ. 2535)

บุคคลตามมาตรา 7 ทวิวรรคสอง จํานวน 4 กลุม

1) บุตร(เกิดไทย)ของคนทอ่ี พยพเขามาในราชอาณาจกั รและอาศยั อยู
นาน(กลุมชนกลมุ นอยและกลมุ ชาตพิ นั ธ หรอื บุคคลกลมุ ที่ 1
ตามยุทธศาสตรฯ เมอื่ 18 ม.ค.48 คอื กลุม 0 กลุม 89)

2) เดก็ และบคุ คลทก่ี าํ ลงั ศกึ ษาเลา เรยี นอยูในสถาบนั การศึกษาเกดิ ไทย
บดิ ามารดาไมใชข อ 1 เชน จบการศกึ ษาระดบั อุดมศกึ ษาหรอื
เทยี บเทา อยูร ะหวางศกึ ษาแตม คี วามจาํ เปน ไดรบั ความเหน็ ชอบ
รมต.มท. (ปจ จุบันมอบให อปค. อนมุ ัติ)

3) คนไรร ากเหงา (มหี นังสือรบั รองความเปน คนไรร ากเหงา )
4) ผทู เี่ กดิ ไทย ทําคุณประโยชนใ หแ กป ระเทศไทยโดยมีหนังสอื รับรอง
การทาํ คณุ ประโยชนห รอื ผลงานจากสว นราชการระดบั กรม

(๑) มีหลักฐานแสดงวาเกิดในราชอาณาจักร ไดแก สูติบัตร ทะเบียน

การเกิด หนังสือรับรอง การเกิด (ท.ร.๒๐/๑) หรือหนังสือรับรองสถานที่

เกิด และตองมีรายการบุคคลในทะเบียนบาน หรือทะเบียนประวัติ
ตามกฎหมายวาดว ยการทะเบียนราษฎร แลว แตกรณี

(๒) ไมปรากฏหลกั ฐานการมี และใชสญั ชาติอื่น

(๓) พดู และฟง ภาษาไทยเขา ใจได
(๔) มีความจงรักภักดีและเล่ือมใสระบอบประชาธิปไตยอันมี
พระมหากษตั ริยเ ปนประมขุ

ห ลัก เ ก ณ ฑ์ นั ก เ รี ย น นั ก ศึ ก ษ า ซึ่ ง บุ ต ร ต่ า ง ด้ า ว ท่ี เ กิ ด ใ น ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ที่ ไ ม่ ใ ช่
บุตรชนกลุ่มน้อยหรือกลุ่มชาติพันธ์ ขอสัญชาติกรณีไม่จบปริญญาตรี

1. มีบิดามารดาเป็ นผู้มสี ัญชาตไิ ทยและอยู่ในไทยไม่น้อยกว่า 10 ปี
2. เป็ นบุตรบุญธรรมของผู้มีสัญชาตไิ ทยและอยู่ด้วยกนั ไม่น้อยกว่า 5 ปี
3. เป็ นผู้ได้รับการคดั เลือก เป็ นตัวแทน เข้าแข่งขันหรือประกวดผลงานในระดับ
นานาชาติ จากหน่วยงานราชการ หรือทาํ ประโยชน์ให้แก่ประเทศและอยู่ในไทย
ไม่น้อยกว่า 10 ปี
4. ทาํ คุณประโยชน์ หรือบิดามารดาเป็ นผู้ทาํ คุณประโยชน์และอยู่ในไทยไม่น้อย
กว่า 10 ปี
5.เป็ นผู้ไม่สามารถกลบั ประเทศต้นทางได้โดยมหี นังสือปฏเิ สธจากประเทศต้น
ทาง หรือมีข้อเทจ็ จริงทไ่ี ม่อาจปฏเิ สธได้ว่าผู้น้ันเป็ นคนไร้รัฐไร้สัญชาติ
รมว.มท มอบอาํ นาจให้ อปค.แล้ว

การยื่นคําขอใหพ จิ ารณาความจาํ เปนทจ่ี ะตอ งมีสัญชาติไทย
(มท0309/ว 16260 ลว. 9 ส.ค.60)

ตามท่มี ชี อ่ื อยใู นทะเบยี นบา นหรอื ทะเบยี นประวตั ิ
1. มชี ือ่ อยทู ่จี งั หวดั ย่ืนตอ นายอาํ เภอ (สงั เกตไมม สี นท.ทอ งถ่ิน) ในกรณอี ยูใ น
เขตกรุงเทพฯ ยื่นตอ ผูอ าํ นวยการสาํ นกั บรหิ ารการทะเบยี น
2. การสอบสวนพยาน ใชพ ยานรบั รอง 3 คน
3. ตรวจสอบพยานบคุ คล เอกสารวา มีคณุ สมบตั หิ รอื ไม
4. เม่อื เหน็ วา มคี ณุ สมบตั ิใหส ง หลกั ฐานทง้ั หมดไปยงั จังหวดั เพอ่ื สง ไปยัง
กรมการปกครอง และใหอ ธิบดกี รมการปกครองพจิ ารณา

(นกั เรยี นนกั ศกึ ษาอายุต้งั แต 15 ปข ึน้ ไปยน่ื เอง ตํา่ กวา 15 ปบิดามารดาหรือ
ผูปกครองย่ืนแทน)

การออกหนังสอื รับรองคนไรร ากเหงา
(มท0309/ว 16350 ลว. 25 ส.ค.60)

คนไรรากเหงา จะตอ งเปน คนทไี่ มป รากฏบพุ การี หรอื ถูกทอดทงิ้ ฯ

ตามทีม่ ีชือ่ อยใู นทะเบยี นบา นหรอื ทะเบยี นประวตั ิ
1. มชี ่ืออยูที่ จงั หวัด ยื่นที่ สนง.พฒั นาสงั คมและความม่ันคงของมนุษย
ผมู ีอํานาจลงนามรบั รอง พฒั นาสงั คมและความมั่นคงของมนษุ ยจ งั หวดั
2. มีชื่ออยทู ่ี กรุงเทพ ยน่ื ที่ กรมกจิ การเดก็ และเยาวชน เขตราชเทวี
ผูมอี ํานาจลงนามรับรอง อธิบดกี รมกิจการเดก็ และเยาวชน
3. กรณเี ดก็ อยใู นสถานสงเคราะห ใหส ถานสงเคราะห เปนผูร บั คาํ ขอ
ผมู อี าํ นาจลงนามรับรอง ผูอาํ นวยการหรอื หน.สถานสงเคราะห

สถานทย่ี ื่นคําขอ/ผูมีอํานาจอนุมัติคํารอ งตาม
มาตรา 7 ทวิวรรคสอง

ตามทีม่ ชี ่อื อยูใ นทะเบยี นบา นหรอื ทะเบยี นประวัติ
1.มชี ื่ออยทู ี่จงั หวดั ย่ืนทอ่ี ําเภอทม่ี ชี อื่ อยู
ผูมีอาํ นาจอนุมัติ
ผูข อมีสัญชาตไิ ทยมอี ายุตาํ่ กวา 18 ป ผอู นมุ ัติ คือ นายอําเภอ
ผูขอมีสญั ชาตไิ ทยมีอายุเกนิ 18 ป ผอู นุมัติ คอื ผูวาราชการจังหวัด
2.มีชอ่ื อยกู รุงเทพมหานคร ย่นื ท่ีสว นการทะเบยี นราษฎร สน.บท.
ผขู อมีสญั ชาตไิ ทยมอี ายุตาํ่ กวา 18 ป ผูอนุมตั ิ คือ ผอ.สน.บท.
ผูขอมีสญั ชาตไิ ทยมอี ายุเกนิ 18 ป ผูอนุมัติ คอื อปค.
** อายนุ บั บรบิ รู ณ* * (อายผุ ยู น่ื 15 ป บรบิ รู ณ)

ผลการไดสญั ชาติไทยตาม ม.7 ทวิ วรรคสอง

ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การสัง่ ใหค นทเ่ี กดิ ในราชอาณาจักร
และไมไดร บั สญั ชาตไิ ทย โดยมีบิดาและมารดาเปน คนตางดา ว ไดส ญั ชาติ
ไทยเปน การทว่ั ไป และการใหส ญั ชาตไิ ทยเปน การเฉพาะราย ประกาศ
วนั ที่ 16 กมุ ภาพนั ธ 2560
ขอ 5 วรรคสอง วางหลกั ไวว า ในกรณผี ูขอมีสญั ชาตไิ ทยมีคณุ สมบตั ิ
ครบถวนกอนหรอื ในวนั ทมี่ ปี ระกาศนี้ ใหบ ุคคลนนั้ ไดสญั ชาตไิ ทยนับแต
วันท่ีประกาศน้มี ีผลใชบ งั คบั สําหรับผขู อมีสัญชาตไิ ทยทมี่ ีคณุ สมบตั ิ
ครบถวนหลงั ประกาศนี้ ใหบ คุ คลนน้ั ไดส ญั ชาตไิ ทยตั้งแตว ันทมี่ ีคําสงั่ ให
ลงรายการสญั ชาตไิ ทย



บุคคลตามมาตรา 7 ทวิวรรคสอง จํานวน 4 กลุม

1) บุตร(เกิดไทย)ของคนทอ่ี พยพเขามาในราชอาณาจกั รและอาศยั อยู
นาน(กลุมชนกลมุ นอยและกลมุ ชาตพิ นั ธ หรอื บุคคลกลมุ ที่ 1
ตามยุทธศาสตรฯ เมอื่ 18 ม.ค.48 คอื กลุม 0 กลุม 89)

2) เดก็ และบคุ คลทก่ี าํ ลงั ศกึ ษาเลา เรยี นอยูในสถาบนั การศึกษาเกดิ ไทย
บดิ ามารดาไมใชข อ 1 เชน จบการศกึ ษาระดบั อุดมศกึ ษาหรอื
เทยี บเทา อยูร ะหวางศกึ ษาแตม คี วามจาํ เปน ไดรบั ความเหน็ ชอบ
รมต.มท. (ปจ จุบันมอบให อปค. อนมุ ัติ)

3) คนไรร ากเหงา (มหี นังสือรบั รองความเปน คนไรร ากเหงา )
4) ผทู เี่ กดิ ไทย ทําคุณประโยชนใ หแ กป ระเทศไทยโดยมีหนังสอื รับรอง
การทาํ คณุ ประโยชนห รอื ผลงานจากสว นราชการระดบั กรม