Made by Maethimon Theptakob
ปลาร้า ปลาใจ
ก่อโรคทำไม ต้องหาวิธีแก้
รู้หรือไม่ว่า "ปลาร้า" เป็นของอร่อยที่มีอันตรายมากมายซ่อนอยู่
เราจะทำอย่างไรให้รับประทานปลาร้าได้อย่างอร่อยและปลอดภัย
คำนำ
หนังสือคู่มือเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา TSS505 (ภาษาและวรรณคดี
ไทยวิทรรศน์) โดยผู้เขียนนำเนื้อหาของวรรณคดีไทยเรื่อง "อุทัยเทวี" ใน
ช่วงท้ายของเรื่องที่ว่าด้วยเรื่องการล้างแค้นของนางอุทัยเทวี ที่นำปลาร้าไป
หมักไว้ที่แผลบนหัวของนางฉันทนา มาทำการสืบสาน และสร้างสรรค์ใน
ด้านความรู้เรื่องสุขภาพในการบริโภคปลาร้า ซึ่งเป็นส่วนผสมสำคัญของ
อาหารที่แพร่หลายในประเทศไทย เช่น ส้มตำ ยำ น้ำพริก และข้าวยำ
(ส่วนมากเป็นอาหารอีสาน) โดยผู้เขียนคิดว่าผู้ที่บริโภคอาหารอีสานส่วน
มากยังมิได้ตระหนักถึงโทษของปลาร้าที่สามารถก่อโรคมากมายให้กับผู้
บริโภค จึงตั้งใจสร้างหนังสือคู่มือเล่มนี้เพื่อทำให้ผู้คนตระหนักถึงโรคที่
สามารถเกิดขึ้นได้จากการบริโภคปลาร้า ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้อ่าน
จะได้รับความรู้ในเรื่องการบริโภคปลาร้าจากการอ่านคู่มือเล่มนี้ไม่มากก็
น้อย
จัดทำโดย
นางสาว เมธิมนตร์ เทพตะขบ
อุทัยเทวี & ปลาร้า
ตำนานย้อมผมด้วยปลาร้า
ในเนื้อเรื่องของวรรณคดีเรื่องอุทัยเทวีจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ
นางอุทัยเทวีที่เป็นลูกของนาคซึ่งได้เกิดมาและใช้ชีวิตบนโลกมนุษย์
ต่อมาก็ได้แต่งงานกับเจ้าชายสุทธราช และมีเหตุการณ์ให้เจ้าชายไป
แต่งงานกับนางฉันทนาที่เคยหมั้นกันไว้ ต่อมานางฉันทนาก็หึงหวง
เจ้าชายสุทธราชเพราะหลังจากการแต่งงานเจ้าชายก็มัวแต่อยู่ในห้อง
ของตนนอนกอดตัวแทนของนางอุทัย จนทำให้นางฉันทนาได้ล่อนาง
อุทัยมาฆ่าและนำไปทิ้งน้ำ แต่ด้วยพลังของนาคที่เป็นมารดาของนาง
อุทัยก็ทำให้นางสามารถรอดมาได้ และได้กลับไปล้างแค้นนางฉันท
นาโดยการแปลงกายเป็นยายแก่ผมดำขายขนม นางฉันทนาที่ผม
หงอกเพราะคิดฟุ้งซ่านเรื่องนางอุทัยจึงทาบทามให้ยายบอกเคล็ดลับ
ที่ทำให้ผมดำ นางอุทัยที่แปลงกายมาเป็นคุณยายจึงทำการโกนหัว
นางฉันทนาและกรีดหนังหัวนาง จากนั้นนำปลาร้าราดแผลนั้น แล้ว
นำไหมาปิดไว้ 7 วัน นางฉันทนาทนพิษบาดแผลไม่ไหว จึงตายใน
ที่สุด
ปลาร้ามาจากไหน
ปลาร้าคืออะไร
"ปลาร้า" หนึ่งในส่วนผสมสำคัญของอาหารอีสาน ที่เห็นได้
ทั่วไปจากเมนูอาหารอีสานชื่อดังมากมาย เสมือนเป็นหนึ่งในสิ่งที่
เมื่อพูดถึงอาหารอีสาน คนส่วนมากก็อาจนึกถึงปลาร้า เช่นเดียวกัน
กับที่นึกถึงญี่ปุ่นก็จะต้องนึกถึงซูชิ
ความเป็นมาของปลาร้าที่เราได้รับประทานกันอยู่ทุกวันนี้เป็นผล
มาจากคนในสมัยก่อนที่สามารถหาปลามาได้มากในช่วงต้นแล้งที่
น้ำเริ่มลด แต่สามารถหาปลามาได้ในปริมาณที่มากเกินไป ทำให้
ต้องมีการถนอมอาหาร หรือก็คือการนำเกลือและข้าวคั่วมาถนอม
ปลาที่จับมาได้ แล้วหมักไว้ในภาชนะปิดประมาณ 4-6 เดือน แต่
เมื่อเวลาผ่านไปก็ทำให้ปลาที่จับนำมาถนอมทันบ้างไม่ทำทันบ้างจน
ปลาบางส่วนเริ่มอืด เริ่มมีกลิ่น และเมื่อผู้คนได้ลองรับประทานก็
เห็นว่าอร่อย จึงได้ทำปลาร้าต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน และยังเป็นวัตถุ
ดับที่แพร่หลายมาก ๆ ในไทย
ปลาร้าก่อโรค
ปลาร้าสามารถส่งผลให้มีโรคต่าง ๆ เกิดขึ้นกับผู้บริโภคได้จาก
ปลาร้าที่ผ่านกรรมวิธีที่ไม่สะอาดมากพอในการทำ หรือการรับประทาน
ปลาร้าที่มากเกินไป ยกตัวอย่างโรคเช่น
1.โรคพยาธิ โดยมักจะเกิดขึ้นกับปลาร้าที่นำปลาดิบมาหมักทำ
ปลาร้าโดยมิได้ผ่านการทำให้สุกมาก่อน พยาธิและเชื้อโรคต่าง ๆ
จึงสามารถติดมากับตัวปลาได้ พยาธิที่พบบ่อยเช่น พยาธิใบไม้ตับ
พยาธิลำไส้ และพยาธิตัวจี๊ด
2.โรคความดันโลหิตสูง ส่งผลจากปลาร้าที่ถูกหมักกับเกลือจึงทำให้
มีปริมาณโซเดียมมาก ทำให้ส่งผลต่อระดับโซเดียมในร่างกาย
เมื่อรับประทานบ่อย ๆ รวมถึงเครื่องปรุงรสต่าง ๆ ที่มีโซเดียมมาก
หากรับประทานกับปลาร้าก็จะยิ่งทำให้มีปริมาณโซเดียมมากขึ้น
3.โรคไต สอดคล้องกับข้อมูลด้านบน เมื่อร่างกายได้รับโซเดียมใน
ปริมาณมากก็ส่งผลกระทบต่อการทำงานของไต จึงอาจทำให้ไต
ทำงานหนักจนเกิดเป็นโรคไตได้
4.โรคมะเร็ง ในอาหารหมักดองมักจะมีสารที่ชื่อว่า "ไนโตรซามีน"
(Nitrosamines) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งชนิดหนึ่ง และอาจเพิ่มความ
เสี่ยงของโรคมะเร็งบางชนิด เช่น โรคมะเร็งตับ โรคมะเร็ง
หลอดอาหาร โรคมะเร็งทางเดินอาหาร และโรคมะเร็งกระเพาะ
ปัสสาวะ
กินปลาร้า
อย่างปลอดภัย
วิธีรับประทานปลาร้าให้อร่อย ปลอดภัย ปลอดโรค :
ต้มปลาร้าให้สุกก่อนรับประทาน
เลือกทานปลาร้าที่สุกแล้วเท่านั้น
รับประทานเมนูที่มีปลาร้าเป็นส่วนประกอบอย่างเหมาะสม
ไม่บ่อยเกินไป
เลี่ยงการรับประทานปลาร้าเปล่า ๆ และการทาน
น้ำปลาร้าโดยตรง
เลือกซื้อปลาร้าที่ผ่านอย. อยู่ในภาชนะที่สมบูรณ์
ผ่านการฆ่าเชื้อ และปรุงให้สุกแล้ว
“Your diet is a
bank account.
Good food choices
are good
investments.”
– Bethenny Frankel
Stay healthy,
everyone !!