หน่วยที่ 9
การสบื คน้ สารสนเทศ
ครจู ิราพร นาคะเวช
เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์
สารบญั
1. ความหมายของเครอื่ งมอื สบื ค้นสารสนเทศด้วยเทคโนโลยี
2. กระบวนการสบื ค้นสารสนเทศ 1
3. เคร่อื งมอื สบื คน้ สารสนเทศด้วยเทคโนโลยี 2
1
1. ความหมายของเครือ่ งมอื สืบคน้ สารสนเทศด้วยเทคโนโลยี
เครื่องมือสืบค้นสารสนเทศด้วยเทคโนโลยี หมายถึง
เคร่ืองมือสืบค้นท่ีบันทึกรายละเอียดของรายการสารสนเทศไว้ใน
รปู แบบอิเลก็ ทรอนิกส์ โดยใชเ้ ทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในการบันทึก
และสิบคน้ สารสนเทศ ทาให้ผู้ใชส้ ามารถสบื ค้นสารสนเทศได้อย่าง
รวดเร็ว และครอบคลุมประเด็นหัวข้อที่ต้องการได้อย่างลึกซึ้ง
กวา้ งขวาง
2. กระบวนการสบื คน้ สารสนเทศ
2.1 กระกาหนดความตอ้ งการข้อมูลของผู้สบื ค้น ผู้สืบคน้ ตอ้ งรู้ว่าท่ี
ต้องการอยา่ งแท้จรงิ คืออะไร ไมใ่ ช่เป็นหัวข้อท่ีต้องการกว้างเกินไป เพราะไม่
คุ้นเคยหรือขาดความรู้ในเรื่องเน้ือหาวิชาวิชาท่ีจะสืบค้นดังน้ันการกาหนด
ความต้องการและค้นหาข้อมูลเบ้ืองต้นจะช่วยให้ผู้สืบค้นเข้าใจความต้องการ
ของตนเองไดช้ ดั เจนมากข้ึน
2.2 การเลือกแหล่งสารนิเทศ จะได้สารสนเทศท่ีสนองความต้องการ
ของผใู้ ช้ไดด้ ีกว่า เช่น เน้ือหา ที่ตนทารายงานอยู่ในสาขาวิชาใด ควรเลือกใช้
แหลง่ ที่เหมาะสมมีขอ้ มูลทรัพยากรสารสนเทศทห่ี อ้ งสมดุ แต่ละแหง่ สรา้ งข้ึน
2.3 การเตรียมการสืบค้นสารนิเทศ ผู้สิบค้นควรเข้าใจขอบเขตเน้ือ
เรอื่ งที่ทารายงาน และเลือกคาที่เหมาะสมจากเนื้อหาท่ีทารายงานมาค้นโดย
ศึกษากลยุทธ์ิการสิบค้นทั้งแบบง่าย แบบขั้นสูงและเทคนิคการสิบค้นแบบ
ต่างๆ
2
3. เครอื่ งมอื สบื คน้ สารสนเทศด้วยเทคโนโลยี
เครื่องมือสืบค้นสารสนเทศด้วยเทคโนโลยีท่ีใช้อย่าง
แพร่หลายในห้องสมุด และแหล่งใหบ้ ริการสารสนเทศ จาแนกเป็น
3 ประเภท ดงั น้ี
3.1 การสืบค้นด้วยระบบโอแพค
การสืบค้นสารสนเทศด้วยระบบโอแพค (OPAC : ย่อมาจาก
Online Public Access Catalog) เป็นการเข้าถึงฐานข้อมูลทรัพยากร
สารสนเทศที่หน่วยงาน สถาบันหรือแหล่งบริการสารสนเทศนั้นๆ จัดทาข้ึน
สามารถสืบค้นโดยวิธีออนไลน์ เป็นเครื่องมือช่วยค้นหา และชี้แหล่ง
ทรัพยากรให้กับผู้ใช้ในการค้นหาทรัพยากรสารสนเทศ ได้แก่ หนังสือ
บทความวารสาร รายงานการวจิ ยั กฤตภาค ดวี ีดี เป็นต้น
3.2 การสบื ค้นฐานข้อมลู
การสบื คน้ สารสนเทศจากฐานข้อมูล (Database Searching)การ
สืบคน้ จากแหล่งรวบรวมสารสนเทศที่มีความสัมพันธ์กันและนามาบันทึกเก็บ
ไว้ในรปู แบบทอี่ ่านด้วยเคร่อื งคอมพิวเตอร์ เพ่ือสืบคน้ ได้อยา่ งสะดวกรวดเร็ว
ประโยชนข์ องฐานข้อมูล มดี ังน้ี
1. จดั เกบ็ ข้อมลู ได้ปริมาณมาก
2. ประหยดั เวลาในการสบื คน้ ขอ้ มลู
3. สามารถปรับปรุงขอ้ มลู ในฐานข้อมลู ใหถ้ กู ตอ้ ง
4. สามารถเผยแพร่สารสนเทศไดอ้ ย่างกวา้ งขวาง
ลักษณะของขอ้ มูลที่จัดเกบ็ ได้ 2 ประเภท ดงั นี้ 3
3.2.1 ฐานข้อมูลต้นแหล่ง (Source Database) จะให้ข้อมูล
ประเภทตัวเลขและเอกสารฉบับเต็ม (Ful Text) ได้แก่ ตัวเลข สถิติ
ตาราง เป็นต้น
3.2.2ฐานข้อมูลบรรณานุกรม (Bibliographic Database)
จะให้ข้อมูลทางบรรณานุกรมของหนังสือ บทความวารสาร และสิ่งพิมพ์
อน่ื ๆ บางฐานขอ้ มลู มีสาระสังเขป
- รปู แบบการบรกิ ารฐานข้อมลู สามารถแบง่ ได้ 2 รูปแบบ ดงั น้ี
1. ฐานข้อมลู ออฟไลน์หรือฐานขอ้ มูลสาเรจ็ รปู ซดี ีรอม
2. ฐานขอ้ มูลออนไลน์ (Online Database)
- ฐานข้อมูลทีค่ วรรจู้ กั ได้แก่
1. SpringerLink ให้เน้อื หาครอบคลุมดา้ นพฤตกิ รรมศาสตร์ ชวี การแพทย์
และวิทยาศาสตร์ชีวภาพ วิทยาการคอมพิวเตอร์ เคมีและวัสดุศาสตร์ ปฐพีศาสตร์
วทิ ยาศาสตรส์ งิ่ แวดล้อม เป็นต้น
2. IEEE/IEE Electronic Libraty (IEL) เป็นฐานข้อมูลเอกสารฉบับเต็มใน
สาขาวชิ าวศิ วกรรมไฟฟ้าอเิ ลก็ ทรอนิกสแ์ ละสาขาวชิ าทเี่ ก่ยี วข้อง
3. Science Direct เป็นฐานข้อมูลวารสารสาขาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี
วทิ ยาศาสตร์ สขุ ภาพรวมท้ังสาขามนุษศาสตร์และสังคมศาสตร์
4. ABI Inform complete ให้เนื้อหาครอบคลุมสาขาวิชาด้านบริการ
ธรุ กิจ การจดั การ รวมท้งั สาขาอ่ืนๆ ทเ่ี กยี่ วข้อง
5. AGRICOLA เป็นฐานข้อมูลที่ครอบคลุมสาขาเกษตรศาสตร์ รวบรวม
บทความวารสาร ตารา รายงานการประชมุ
6. Dissertation Abstracts Online (DAO Proquest) เป็นฐานข้อมูล
และบทคดั ย่อวิทยานิพนธร์ ะดบั ปริญญาโทและเอก
7. H.W. Wilson เปน็ ฐานขอ้ มูลดรรชนี สาระสังเขป และเอกสารฉบับเตม็
8. Journol Link เป็นฐานข้อมูลท่ีสบื ค้นแหลง่ จัดเก็บวารสาร
9 บริการฐานข้อมูลของโครงการพัฒนาเครือข่ายระบบห้องสมุดใน
ประเทศไทย
4- การเลือกใช้ฐานข้อมูล การเข้าใช้ฐานข้อมูลจาเป็นต้องรู้จักเลือก
ฐานข้อมูลให้เหมาะกับวัตถุประสงค์ท่ีต้องการ เพื่อการประหยัดเวลา
ค่าใช้จ่าย และได้ผลการค้นจานวนไม่มาก การเลือกใช้ฐานข้อมูลควร
พจิ ารณาดา้ นตา่ งๆ ดงั นี้
1. ขอบเขตเน้อื หา 4. คุณภาพของข้อมลู
2. ปริมาณเน้อื หามมี ากพอ 5. เคร่อื งมอื ช่วยค้น
3. เน้ือหาทนั สมัย 6. ค่าใชจ้ า่ ย
3.3 การสบื คน้ บนเครือขา่ ยอนิ เทอร์เน็ต
เครอื ข่ายอินเทอรเ์ น็ต (Internet) เป็นแหล่งจัดเก็บสารสนเทศท่ี
มีจานวนมหาศาล กระจัดกระจายกันอยู่ในคอมพิวเตอร์ที่ให้บริการจาก
แหล่งต่างๆ ท่ัวโลก ทาให้เกิดห้องสมุดเสมือน (Virtual Library) ซ่ึงเป็น
ห้องสมุดของโลกที่มีขนาดใหญ่มหาศาล จัดเก็บสรรพวิชาการ งานวิจัย
เทคโนโลยใี หม่ๆ และข่าวสารต่างๆ ไว้
ประเภทของทรัพยากรสารสนเทศบนอินเทอรเ์ นต็
1. เอกสาร (Document ) ไดแ้ ก่
1. วารสารเฉพาะดา้ น จะตพี มิ พใ์ นรูปแบบวารออนไลน์
2. เอกสาร รายงาน บทความ
3. ฐานข้อมูลต่างๆ เช่น ฐานข้อมูลของหน่วยงาน ข้อมูลบรรณานุกรม และ
ฐานข้อมูลของห้องสมดุ
4. องค์กร หน่วยงาน องค์กรต่างๆ จะจัดทาเว็บไซต์ซ่ึงให้ข้อมูลเก่ียวกับ
กจิ กรรมขององคก์ รจดุ มุง่ หมาย และโครงการวิจยั ต่างๆ
5. สือ่ เพ่ือการศึกษา เชน่ เอการประกอบการสอน แบบทดสอบออนไลน์
2. ภาพ (Picture)
3. ภาพเคลือ่ นไหว ภาพยนตร์
4. โปรแกรม (Software)
5. เสยี ง (Sound) เช่น เพลง
5
- ทักษะการใช้อินเทอร์เน็ต ผู้ใช้ที่ต้องการใช้สารสนเทศเรื่องใด
เร่ืองหนึ่ง ต้องใช้การสืบค้นที่เหมาะสม และต้องทราบว่าสารสนเทศที่
ต้องการนั้นอยู่แห่งใดในระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ผู้ใช้สารสนเทศใช้
บริการตา่ งๆ ได้หลายบรกิ ารเพ่อื สบิ คน้ สารสนเทศทีต่ ้องการ การสิบค้น
ข้อมูลสารสนเทศบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตควรมีทักษะการใช้
อนิ เทอรเ์ นต็ ดงั น้ี
1. การตั้งหรอื กาหนดคาถามและขอบเขตของคาถาม
1.ควรตั้งหรือกาหนดคาถามและขอบเขตของคาถามน้ันๆ
ตามหวั ขอ้ ท่ตี ้องการ
2. สารวจวา่ เป็นหวั เรอื่ งท่ีจัดอยูใ่ นกลุ่มเนื้อหาท่ีต้องการ
3. วิเคราะห์ขอบข่ายของเร่ืองและใช้ศัพท์เฉพาะในการ
สืบค้น
4. รู้วิธีการใช้หรือการได้ข้อมูลจากส่ือประเภทอื่นๆ เช่น
สง่ิ พิมพ์ ออนไลน์
2. การจาแนกทรพั ยากรสารสนเทศ
1. เขา้ ใจลกั ษณะของขอ้ มูล ประเภทของขอ้ มลู องค์กร
2. ข้อมูลเกยี่ วกบั งานของหน่วยงานรฐั บาล
3. สามารถจาแนกข้อมูลที่ปรากฏในวารสารเฉพาะ
สาขาวิชาทป่ี รากฏในลักษณะบทความเร่อื งทัว่ ไป
4. พิจารณาและเลือกแหล่งความรู้ท่ีเป็นมาตรฐาน เชื่อถือ
ได้
5. ทราบแหล่งท่ีสามารถให้ฟรีข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต เช่น
ขอ้ มูลออนไลน์
6. ทราบหัวเรื่องอ่นื ๆ ทส่ี ามารถเก่ียวขอ้ งกับสาขาวชิ าได้
6
3. การเขา้ ถึงข้อมูลใหไ้ ด้ข้อมลู ท่มี ีประสิทธิภาพ
1. เลอื กเครื่องมือชว่ ยคน้ ทดี่ ี
2. ทราบแหล่งและวธิ ีเข้าถึงฐานข้อมลู สาขาตา่ งๆ
3. เลอื กใช้แหลง่ ข้อมูลท่ีมีขอ้ มูลทางบรรณานุกรมครบถว้ น
4. เลือกใช้คาค้นและกาหนดขอบเขตของเรื่องเพ่ือให้สามารถ
เลอื กคาได้มาก
5. ศึกษาเทคนคิ การสืบคน้ ลักษณะพเิ ศษของฐานข้อมลู ทเี่ ลือกใช้
6. ควรรู้จักเลือกใช้และทราบว่าเม่ือใดท่ีจะต้องใช้บริการของ
หอ้ งสมดุ
7. ทราบวิธีการจัดเก็บข้อมูล การดาวน์โหลด พิมพ์งานและการ
สง่ ผลการสืบคน้ ทางอีเมล
8. หากผลการสบื ค้นไม่ตรงตามความต้องการให้พยายามเปลี่ยน
คา และเปลยี่ นประเภทการสิบค้น
9. คัดลอกแหล่งข้อมูล (URL) และรายการบรรณานุกรม เพื่อ
การใช้อา้ งอิงในครงั้ ต่อไป
4. การพิจารณาขอ้ มลู ทีไ่ ดม้ า
1. ตรวจสอบความนา่ เช่ือถอื ของข้อมลู
2. ขอ้ มูลสว่ นใหญ่ทมี่ ีการเผยแพรบ่ นอนิ เทอร์เนต็
3. บทวิเคราะห์วิจารณ์ต่างๆ จากนักวิจารณ์ต่างสาขาและต่าง
มมุ มอง
4. หากไมแ่ นใ่ จขอ้ มูลเฉพาะดา้ น
5. การนาข้อมูลไปให้
1. ขอ้ มูลเฉพาะด้าน
2. ควรมีการอ้างอิงแหล่งท่มี าอย่างครบถ้วน
7
- ประเภทของเครื่องมอื ชว่ ยสืบค้น
1 . Search Engine (Keyword Search Engine) เ ป็ น
เคร่ืองมือสืบค้นท่ีมีอยู่มากมายและมีให้บริการอยู่ตามเว็บไซต์ต่างๆ ที่
ให้บริการการสบื คน้ ขอ้ มูลโดยเฉพาะ การเลือกใช้ขน้ึ อยู่กับประเภทของ
ข้อมลู สารสนเทศทีต่ ้องการสิบคน้ Search Engine ทไ่ี ดช้ ื่อวา่ เก็บข้อมูล
ได้มากที่สุดเป็นจานวนกว่าหน่ึงพันล้านเพจ คือ Google ซึ่งเป็นแหล่ง
รวบรวมข้อมูลทใี่ หญท่ ส่ี ุดในอินเทอรเ์ น็ต
2. Meta Search Engine เป็นเคร่ืองมือสืบค้นที่ไม่มี
ฐานข้อมูลของตนเอง แต่เป็นการค้นหาจากฐานข้อมูลของ Search
Engine หลายๆ แห่ง แล้วแสดงผลลัพธ์ออกมาในมาตรฐานเดียวกัน
การสบื คน้ จะชว่ ยประหยัดเวลาในการสบื คน้
3. Subject directory Engine เปน็ เครอ่ื งมือสืบค้นที่ใช้คน
ทาหน้าที่คัดเลือกและจัดเก็บข้อมูลมีการแบ่งกลุ่มเป็นหมวดหมู่ใหญ่ๆ
จาแนกตามหวั เรอ่ื ง และแบ่งเปน็ เรื่องย่อยๆ ต่อไปเรื่อยๆ ตามลาดับชั้น
แสดงจานวนรายการที่มีข้อมูล และแหล่งท่ีปรากฏข้อมูล แสดงการ
สบื ค้นท่ตี รงตามความต้องการมากกว่า ได้แก่ Yahoo
4. Subject Gateway/Subject Specific เป็นบริการ
สืบค้นเฉพาะด้าน มักเน้นเนื้อหาทางวิชาการ ใช้ค้นหาแหล่งท่ีมีบริการ
ฐานข้อมลู นยิ มจดั ทาเป็นแบบนามานุกรม มีการแบ่งหมวดและแยกหัว
เร่ืองโดยบรรณารักษ์ ผู้เชี่ยวชาญ หน่วยงานเฉพาะ วัตถุประสงค์เพ่ือ
การคน้ ควา้ วจิ ัยเฉพาะด้าน ดังนั้น Subject Gateway การใช้งานทาได้
ทั้งเรียกอ่านจากหัวเรื่อง ที่จัดกลุ่มไว้แล้ว และสืบค้นจากคาสาคัญ
ไดแ้ ก่ http://www.sciseek.com Thailand Search Engine