The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by me.biwzii, 2022-03-11 06:53:40

เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี

หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพนื้ ฐาน

เทคโนโลยสี ารสนเทศ
และการสอื่ สาร ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่

ตามมาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชว้ี ัด 6
กลุ่มสาระการเรนี ร้กู ารงานอาชีพและเทคโนโลยี
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช. 2551

วราภรณ์ สหี ลกั ร้อย 48.-

หนงั สือเรียน รายวิชาพ้นื ฐาน

เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร

ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 6
จดั ท�ำ โดย

นางสาววราภรณ์ สีหลกั ร้อย
รหสั นกั ศกึ ษา 58031390122

ค�ำ น�ำ

หนงั สือเรยี น เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร ป.6 เล่มน้ีจดั ทำ�ข้ึนส�ำ หรับใช้ประกอบการเรียนการ

สอนช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 6 โดยด�ำ เนินการจัดทำ�ให้สอดคลอ้ งตามกรอบของหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้
พืน้ ฐานพ.ศ. 2551 ทกุ ประการสง่ เสริมให้ผเู้ รียนมีความเข้าใจและมที ักษะอยา่ งมีขนั้ ตอน
หนงั สอื เรียน เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร ป.6 เลม่ น้ีมีท้งั หมด 3 หน่วยในแตล่ ะหน่วยแบ่ง
เปน็ บทย่อย ๆ ซงึ่ ประกอบด้วย
1. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ประจำ�หน่วย กำ�หนดระดบั ความรู้ ความสามารถของผู้เรยี นว่าเม่อื เรยี นจบใน
แตล่ ะหนว่ ยการเรียนรู้ ตอ้ งบรรลุมาตรฐานตวั ชว้ี ัดทกี่ �ำ หนดไว้ในหลักสูตรขอ้ ใดบ้าง
2. สาระส�ำ คญั แกน่ ความร้ทู ่เี ปน็ ความรู้ความเข้าใจของผูเ้ รียน
3. เนือ้ หา ครบตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐานพ.ศ. 2551 น�ำ เสนอเหมาะสมกบั การเรียน
การสอนในแตล่ ะระดบั ชั้น
4. กิจกรรม มหี ลากหลายรูปแบบใหน้ กั เรยี นไดป้ ฏิบตั ิ
ทางผู้จัดท�ำ หวงั อย่างยิ่งว่าหนงั สอื เล่มนี้ จะเป็นสอ่ื การเรียนการสอนทอี่ �ำ นวยประโยชน์ตอ่ การเรยี น
และสมั ฤทธผิ ลตามมาตรฐานตัวชีว้ ัดทีก่ ำ�หนด
ผู้จดั ท�ำ

สารบัญ

หน่วยท่ี หลกั การและการแกป้ ญั หาดว้ ยเทคโนโลยีสารสนเทศ หนา้
บทท่ี 1 กระบวนการเทคโนโลยสี ารสนเทศ
1 บทท่ี 2 ขั้นตอนการแก้ปัญหา 1
2
9

หน่วยที่ การคน้ หาขอ้ มูล หนา้
บทท่ี 1 การคน้ หาข้อมลู ดว้ ยคอมพวิ เตอร ์
2 บทที่ 2 การค้นหาข้อมูลด้วยอินเทอรเ์ น็ต 15
16
21

บรรณานุกรม 28

ตารางวิเคราะห์

มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชวี้ ดั รายวชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร ป. 6
ค�ำ ช้ีแจง : ตารางวิเคราะห์น้ีจัดทำ�ขึ้นเพื่อใหผ้ สู้ อนตรวจสอบเนอื้ หาสาระการเรียนรู้
ในหน่วย สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรยี นร้แู ละตัวชว้ี ดั ชนั้ ปีในข้อใดบา้ ง

1212

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1

หลักการและการแกป้ ัญหาดว้ ยเทคโนโลยีสารสนเทศ

เปา้ หมายการเรียนรู้ประจำ�หน่วยท่ี 1
ง 3.1 ป.6/1 บอกหลกั การเบอื้ งต้นของการแกป้ ญั หา
ดว้ ยเทคโนโลยสี ารสนเทศ
จุดประสงค์การเรียนรู้
อธิบายและยกตัวอยา่ งการแก้ปัญหาดว้ ยเทคโนโลยีสารสนเทศ

กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ บทที่
1
สาระสำ�คัญ

เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นสิ่งสำ�คัญที่
นำ�มาใช้ประกอบการตัดสินใจในการแก้ปัญหา
อยา่ งมรี ะบบ

ในการแกป้ ัญหาจ�ำ เปน็ อยา่ งยง่ิ ทตี่ อ้ ง
ใชเ้ ทคโนโลยีในการตัดสนิ ใจ

2

ในการดำ�รงชีวิตประจำ�วนั การเรยี น หรือการท�ำ งาน จะพบปัญหาหรอื ความต้องการทีเ่ กดิ ขน้ึ
ตลอดเวลา จึงตอ้ งคดิ หาวิธีการปฏิบัตเิ พอ่ื แก้ปญั หานน้ั ๆโดยปัญหาหนึง่ ๆอาจมีวิธีการแก้ปัญหาไดห้ ลาย
วิธี ซ่งึ แต่ละวิธจี ะมขี ั้นตอนและระยะเวลาในการปฏบิ ตั ิทีแ่ ตกต่างกนั ดงั นั้นจึงตอ้ งก�ำ หนดและเลอื กวธิ ี
การแก้ปัญหาที่ดที ีส่ ดุ

ปญั หากับเทคโนโลยีสารสนเทศ
ปัญหา (Problem) หมายถงึ ประเดน็ ท่ีเปน็ อปุ สรรค ความยากล�ำ บาก ความ
ตา้ นทาน หรือความท้าทาย หรอื เปน็ สถานการณ์ใด ๆ ทตี่ ้องมีการแกป้ ญั หา ซึง่ การแก้
ปัญหาจะรับรู้ได้จากผลลัพธ์ของการแก้ปัญหาหรือผลงานที่นำ�ไปสู่วัตถุประสงค์หรือเป้า
หมาย ประเดน็ ปญั หาแสดงถึงทางออกทีต่ อ้ งการ ควบคูก่ บั ความบกพรอ่ ง ข้อสงสยั หรอื
ความไม่สอดคลอ้ งท่ีปรากฏขึ้น ซ่ึงขดั ขวางมใิ หผ้ ลลพั ธ์ประสบผลสำ�เรจ็
เทคโนโลยสี ารสนเทศ (Information Technology) คือ การนำ�เอาเทคโนโลยมี าใช้สรา้ งมูลคา่
เพมิ่ ใหก้ ับสารสนเทศ ทำ�ให้สารสนเทศมีประโยชน์ และใชง้ านได้กว้างขวางมากข้นึ

3

กระบวนการเทคโนโลยสี ารสนเทศ

กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นกระบวน สาระน่ารู้
การทเ่ี กี่ยวข้องกับการบรรยาย การตรวจสอบความถูกต้อง
ของขอ้ มูล การประมวลผล การจัดเก็บ การจัดการหรือ ความแตกตา่ งระหว่างขอ้ มลู กับ
การกระท�ำ กบั ขอ้ มูลข่าวสาร โดยใชอ้ ปุ กรณค์ อมพวิ เตอร์ สารสนเทศ คือ ขอ้ มลู จะยังไมผ่ ่าน การ
และอปุ กรณ์ส�ำ นกั งานตา่ ง ๆ ในการปฎบิ ตั ิงาน เพ่อื ให้ ประมวลผล สว่ นสารสนเทศจะผ่าน การ
ไดส้ ารสนเทศหรอื ความร้ทู ี่นำ�มาใช้ในการตัดสนิ ใจ ซึง่ เปน็ ประมวลผลแล้ว
ประโยชน์ต่อการดำ�เนินชีวิตและเผยแพร่แก่ผู้อ่ืนได้เกิดความ
รคู้ วามเข้าใจรว่ มกัน

กระบวนการเทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่อื ให้ไดม้ าซ่งึ สารสนเทศที่ดีมขี ้นั ตอน ดังน้ี

1. การรวบรวมข้อมลู เป็นการน�ำ ขอ้ มลู ท่ีต้องการจาก
หลาย ๆ แหลง่ ข้อมูลมารวมกันด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น การให้กล่มุ
เปา้ หมายชว่ ยตอบแบบสอบถามทต่ี นเองคิดขน้ึ มา การอ่านรหสั
แท่งจากแถบรหัสสินค้า หรอื อ่านขอ้ มูลจากการฝนดินสอลงใน
กระดาษค�ำ ตอบในการท�ำ ข้อสอบ เปน็ ตน้

2. การตรวจสอบความถกู ต้องของขอ้ มูล เปน็ การนำ�ขอ้ มูลจากแหลง่ ขอ้ มูลต่าง ๆ มาตรวจสอบ
และแก้ไขใหถ้ กู ตอ้ งดว้ ยการใช้สายตามนุษย์หรอื ต้ังกฎเกณฑ์ให้คอมพิวเตอรต์ รวจสอบ เพอ่ื ให้ได้ขอ้ มูลท่ี
นา่ เชื่อถือ เหมาะส�ำ หรับน�ำ มาใช้ประโยชน์ต่อไป

4

3. การประมวลผลข้อมลู เปน็ การนำ�ขอ้ มลู ท่ีไดต้ รวจสอบและแก้ไขให้ถกู ตอ้ งแล้วมาท�ำ การ
ประมวลผลด้วยวธิ กี ารต่าง ๆ เช่น จดั กลมุ่ จดั เรียงตามตัวอกั ษร และเปรีบเทียบหรอื คำ�นวณขอ้ มูล เพือ่
ให้ได้ผลสรุปที่เป็นสารสนเทศและน�ำ ไปใช้งานได้

การน�ำ ข้อมูลไปประมวลผลมดี ว้ ยกนั
หลายวิธี แต่มีวธิ งี า่ ยๆ สำ�หรบั นกั เรยี น

ที่จะใชศ้ ึกษาในเบอ้ื งตน้ 4 วธิ ี

1. การจัดเรยี ง คอื การน�ำ ขอ้ มูลหลาย ๆ ขอ้ มลู มาจัดเรยี งล�ำ ดับตามเกณฑท์ ี่ก�ำ หนด เช่น
จัดเรยี ง ขอ้ มูลชือ่ ตามตัวอกั ษร จัดเรยี งข้อมูลคะแนนจากมากไปหานอ้ ย เป็นตน้
2. การหาคา่ เฉล่ีย คอื การนำ�เอาข้อมลู มาเฉลีย่ เช่น การนำ�เอาคะแนนสอบรายวิชา
เทคโนโลยสี ารสนเทศมาหาค่าเฉลี่ยเปน็ ต้น

3. การเปรยี บเทยี บ คือ การน�ำ เอาข้อมลู ประเภทเดียวกนั มาเปรยี บเทียบเพ่ือหาค่าแตก
ต่างหรือความเหมือนกนั

4. การหาแนวโน้ม คือ การนำ�เอาขอ้ มลู ประเภทเดยี วกันมาเปรยี บเทยี บตามระยะเวลา
เช่นน�ำ คะแนนของนักเรียนคนหนง่ึ มาเปรยี บเทยี บกับคะแนนของตนเองในช่วงการสอบย่อยในช่วง
ของการสอบย่อยตา่ ง ๆ


สาระน่ารู้

การแก้ปัญหาดว้ ยกระบวนการ
เทคโนโลยสี ารสนเทศ มหี ลกั การส�ำ คญั คือ
ปญั หาทุกปัญหาตอ้ งสามารถปรบั เปล่ียนรปู
แบบหรือวธิ กี ารใหเ้ หมาะสม

5

4. การจดั เก็บ เปน็ การนำ�สารสนเทศที่ท�ำ การประมวลผลแลว้ มาจัดเก็บในหน่วยความจ�ำ ของ
เครื่องคอมพิวเตอร์ หรอื สอ่ื บนั ทึกชนดิ อนื่ ๆ เชน่ แผ่นซีดี แผน่ ดวี ีดี แฟลซไดรฟ์ เปน็ ต้น

ยูเอสบีแฟลชไดรฟ์ แผ่นซีดี

5. การคดิ วิเคราะห์ ข้นั ตอนการดำ�เนนิ การ เพอ่ื สรุปความสำ�คญั ของข้อมูลสารสนเทศใหต้ รง
สภาพทเี่ ปน็ จริงตรงตามวัตถุประสงคก์ อ่ นท่ีจะน�ำ ขอ้ มลู มาใช้

6.การเผยแพร่สารสนเทศ เปน็ การนำ�สารสนเทศไปแจกจ่ายใหผ้ ู้อน่ื ไดม้ คี วามรคู้ วามเขา้ ใจและ
นำ�ไปใชป้ ระโยชนด์ ว้ ยวิธกี ารตา่ ง ๆ เช่น การเผยแพรล่ งเวบ็ ไซต์สาธารณะ กระดานสนทนา ทำ�แผ่นพับ
หรอื ใบปลวิ ทำ�สำ�เนาลงในสื่อบนั ทึกขอ้ มลู วางไวใ้ นสถานท่ที ่หี ยบิ ง่าย จดั ป้ายนเิ ทศในบริเวณทเ่ี ปน็ จุด
สนใจหรอื งานนทิ รรศการ เปน็ ตน้

6

การแกป้ ัญหาดว้ ยกระบวนการทางเทคโนโลยสี ารสนเทศ
การแก้ปัญหาดว้ ยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นการแกป้ ัญหาอย่างมขี ้นั ตอน โดยใช้
กระบวนการเทคโนโลยสี ารสนเทศและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เพ่อื ใหก้ ารปฎิบัตงิ านสะดวกรวดเร็ว ถกู
ต้องและแมน่ ย�ำ ในการใช้กระบวนการทางเทคโนโลยีสารสนเทศเข้าชว่ ยแกป้ ญั หา จ�ำ เป็นตอ้ งปรับรปู
แบบวิธกี ารท�ำ งาน ใหเ้ หมาะสมกบั การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
วธิ แี กป้ ัญหาด้วยกระบวนการทางเทคโนโลยสี ารสนเทศ เป็นวิธีทอ่ี าจคล้ายกบั การแกป้ ัญหาดว้ ย
วธิ กี ารอื่น ๆ แต่มกี ารนำ�เทคโนโลยีสารสนเทศและระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้ในการแก้ปัญหา หรือเพม่ิ
ประสทิ ธิภาพในการทำ�งาน แต่ตอ้ งมกี ารวิเคราะห์ปัญหาและศกึ ษาความเป็นไปไดใ้ หร้ อบคอบเสยี ก่อน
ท้ังนี้เนื่องจากเทคโนโลยีสารสนเทศและระบบคอมพิวเตอร์ไม่ใช่เคร่ืองมือวิเศษท่ีจะแก้ปัญหาได้ทุกเร่ือง
นอกจากนี้ ยงั จะตอ้ งมกี ารศึกษาถงึ ความคุ้มค่าในการลงทุน เพ่อื ไม่ให้เปน็ การลงทนุ ท่สี ญู เปลา่ ตอ้ ง
เลือกวธิ แี กป้ ัญหาใหเ้ หมาะสมกบั งาน จัดหาเครอื่ งมือ และเทคโนโลยที ไี่ ม่เกินจ�ำ เป็น
ดังน้ันการแก้ปัญหาในการทำ�งานในปัจจุบันท่ีมีข้ันตอนการทำ�งานท่ีซ้ำ�ซ้อนส่วนมากมักใช้
เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วย เพ่อื เพม่ิ ความสะดวก รวดเรว็ ถกู ตอ้ งแม่นยำ� และสามารถท�ำ ซ้ำ�
ได้ง่าย

7

แบบฝึกหัดบทท่ี 1
ค�ำ ชีแ้ จง ใหพ้ จิ ารณาขอ้ ความต่อไปน้ีว่าถกู หรอื ผิด

........... 1. เทคโนโลยีคอื การนำ�ความรทู้ างดา้ นวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใชใ้ นการพฒั นา
เครอ่ื งมอื และอปุ กรณ์ต่างๆ

........... 2. สารสนเทศคือข้อมูลท่ีผ่านการประมวลผลแล้ว และนำ�ไปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์
........... 3. เทคโนโลยสี ารสนเทศ คอื การน�ำ เทคโนโลยมี าใชใ้ นการจัดการสารสนเทศ
........... 4. การน�ำ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สารมาใช้ ทำ�ใหก้ ารทำ�งานและการ

บริการตา่ งๆมีความสะดวกและรวดเร็วขึ้น
........... 5. เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สารชว่ ยในการศกึ ษาและการคน้ ควา้ วจิ ยั งานใน

ดา้ นตา่ งๆ
แหล่งค้นหาขอ้ มูลเพ่มิ เติม
1. หอ้ งสมุด
2. เว็บไซต์ค้นหาขอ้ มลู เชน่ http://www.google.com

8

ข้ันตอนการแก้ไขปัญหา บทที่
2
สาระสำ�คัญ

เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นส่ิงสำ�คัญท่ี
นำ�มาใช้ประกอบการตัดสินใจในการแก้ปัญหา
อย่างมรี ะบบ

การแก้ปญั หาท่ีดีจะต้องเลือกใช้วิธีการ
แกป้ ญั หาทเี่ หมาะสม

9

การแก้ปัญหาในเรื่องใดเรื่องหนึ่งอาจทำ�ได้หลายวธิีโดยแต่ละวิธี
สามารถเลือกใช้เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยในการแก้ปัญหาได้หลายรูป
แบบ ซงึ่ แตล่ ะรปู แบบจะสง่ ผล ตอ่ การแกป้ ญั หาแตกต่างกนั การเลือกใช้
วธิ ีการทีเ่ หมาะสมสำ�หรบั การแกป้ ัญหาจงึ มี ความส�ำ คัญต่อผปู้ ฏิบัติงาน
ซึ่งจะชว่ ยใหผ้ ู้ปฏบิ ัตงิ านสามารถแกป้ ญั หาไดอ้ ยา่ งมี ประสทิ ธภิ าพและ
เกดิ ความคุ้มคา่ มากที่สุดการแก้ปัญหาทดี่ ีจึงควรปฏิบัติตามข้ันตอน การ
แกป้ ัญหาดังน้ี

ขน้ั ตอนแก้ปัญหา
1. การวิเคราะหแ์ ละกำ�หนดรายละเอยี ดของปัญหา
เปน็ ข้ันตอนแรกของการแกป้ ญั หา เพื่อทำ�ความเข้าใจกบั ปญั หาแยกแยะใหอ้ อกวา่ ข้อมูลท่กี �ำ หนด
มาในปัญหา หรอื เง่ือนไขตวั แปรคอื อะไร สิ่งทตี่ อ้ งการคืออะไร รวมไปถึงวิธีการทีใ่ ช้ประมวลผล ซง่ึ การ
วเิ คราะหแ์ ละกำ�หนดรายละเอียดของปัญหามีองค์ประกอบดังน้ี

- ส่งิ ทโ่ี จทย์ต้องการได้แก่ การวเิ คราะหจ์ ากโจทยว์ ่าส่ิงที่โจทย์ต้องการนน้ั คอื อะไร สามารถแยก
ไดอ้ อกมาเปน็ รายละเอียดทช่ี ัดเจน
- การระบุข้อมูลท่ตี อ้ งสง่ ออก ไดแ้ ก่ การพิจารณาเป้าหมายหรือสงิ่ ที่ต้องหาคำ�ตอบ
- การระบุขอ้ มูลน�ำ เขา้ ไดแ้ กก่ ารพจิ ารณาขอ้ มูลและเงือ่ นไขทีก่ �ำ หนดมาในปัญหา
- การกำ�หนดตัวแปร ไดแ้ ก่ ตวั เกบ็ คา่ ตา่ งๆในการทำ�งาน
- การก�ำ หนดวธิ ีประมวลผล ได้แก่ การพิจารณาข้ันตอนวธิ กี ารได้มาซ่งึ ค�ำ ตอบ

สาระน่ารู้
การวเิ คราห์และกำ�หนดรายละเอียด
ปญั หาจะชว่ ยให้แนวทางการแก้ปัญหา
ทถ่ี ูกตอ้ ง

10

2. การวางแผนการแก้ปญั หา
การวางแผนแกป้ ัญหาเปน็ การนำ�ส่ิงทไี่ ด้จากการพิจารณาปัญหามาก�ำ หนดวธิ กี าร แกป้ ญั หากอ่ น
ปฏบิ ัติจรงิ ซ่งึ ผู้ปฏบิ ัตงิ านจะต้องก�ำ หนดวธิ กี ารแก้ปัญหาอยา่ งเปนลำ�ดับ ขนั้ ตอนและก�ำ หนดระยะเวลา
ในการแกป้ ัญหาโดยนยิ มน�ำ เสนอในรูปแบบของ ตารางการปฏิบัติงาน
การวางแผนการแก้ปัญหาควรหาทางเลือกท่ีหลากหลายวิธีและบันทึกทางเลือกที่เป็นไปได้ทุกๆ
ประเดน็

3. การด�ำ เนนิ การแกป้ ัญหา
เปน็ ขนั้ ตอนแกป้ ญั หา โดยใชเ้ ครื่องมอื ท่ีไดเ้ ลือกไว้ เชน่ คอมพวิ เตอร์และโปรแกรมส�ำ เรจ็ หรือใช้
ภาษาคอมพวิ เตอรเ์ ขยี นโปรแกรม ขนั้ ตอนน้ีตอ้ งอาศยั ความรเู้ กีย่ วกับเครือ่ งมอื ท่ีเลอื กใชซ้ ึ่งผแู้ ก้ปญั หา
ต้องศึกษาให้เขา้ ใจ มีความรคู้ วามสามารถในการเขยี นโปรแกรมเป็นอย่างดี และในขณะด�ำ เนินการหาก
พบแนวทางทดี่ ีกว่าที่ออกแบบไว้ก็สามารถปรับเปล่ยี นให้เหมาะสม

4. การตรวจสอบและปรบั ปรุง
เปน็ ขัน้ ตอนแกป้ ญั หา โดยใช้เครือ่ งมอื ทไ่ี ด้เลอื กไว้ เช่นคอมพวิ เตอรแ์ ละโปรแกรมส�ำ เรจ็ หรอื ใช้
ภาษาคอมพวิ เตอรเ์ ขยี นโปรแกรม ข้ันตอนน้ตี อ้ งอาศยั ความรู้เก่ยี วกับเครอ่ื งมอื ทเี่ ลอื กใช้ซึ่งผู้แก้ปัญหา
ตอ้ งศกึ ษาให้เขา้ ใจ มคี วามรคู้ วามสามารถในการเขยี นโปรแกรมเปน็ อย่างดี และในขณะดำ�เนินการหาก
พบแนวทางทด่ี กี วา่ ทอ่ี อกแบบไวก้ ส็ ามารถปรบั เปลีย่ นใหเ้ หมาะสม
จากขนั้ ตอนการแกป้ ญั หา 4 ขัน้ ตอนถ้าหากนกั เรียนไดฝ้ ึกฝนเป็นประจ�ำ จะทำ�ให้สามารถแก้
ปัญหาได้อยา่ งมีระบบ เมือ่ พบปญั หาตา่ งๆ กจ็ ะสามารถแกไ้ ขไดห้ รอื ท�ำ ใหป้ ญั หาคลี่คลายลงได้

ชว่ งนช้ี แี้ นะ

ควรจัดลำ�ดับความเป็นไปได้ของแผนการแก้
ปัญหาไว้ 2 - 3 แผนการก่อนด�ำ เนินการแก้
ปัญหา

11

ตวั อย่างการแก้ปญั หา
ปญั หา : ด.ช.แดงลืมนำ�เงนิ มาโรงเรยี น จงึ ไม่มเี งินซือ้ อาหารกลางวัน

ข้นั ตอนท่ี 1 วเิ คราะห์และก�ำ หนดรายละเอียดของปญั หา
1. สิ่งทต่ี อ้ งการ : ทำ�อย่างไร ด.ช.แดงจะได้รับประทานอาหารกลางวัน
2. สงิ่ ทีร่ ้แู ล้ว : ด.ช.แดงไมม่ ีเงนิ ซื้ออาหารกลางวนั
3. เงื่อนไข : ด.ช.แดงไม่สามารถกลับบา้ นเพอ่ื ไปเอาเงินได้
4. แนวทางหรือประสบการณเ์ ดมิ : ด.ช.แดงยอมอดอาหารกลางวนั
5. แนวทางใหม่ : ปรึกษาเพอ่ื น ๆ , ยืมเงินเพื่อนสนทิ ก่อน , ปรกึ ษาคณุ ครปู ระจ�ำ ช้นั

ข้นั ตอนที่ 2 วางแผนการแก้ปัญหา
1. บนั ทกึ ทางเลอื กที่สามารถเป็นไปได้
2. ล�ำ ดับความเปน็ ไปไดม้ ากท่สี ุด 2 - 3 ประเด็น
- ยอมอดอาหารกลางวัน
- ปรกึ ษาครปู ระจำ�ช้นั
- ยมื เงินเพ่ือนสนิท

ขนั้ ตอนท่ี 3 ด�ำ เนนิ การแกป้ ญั หา
ยอมอดอาหารกลางวนั ( * ถ้าในขณะดำ�เนินการแก้ไขโดยวธิ อี ดอาหารกลางวัน แตถ่ า้
เพอ่ื นหรือครปู ระจำ�ชน้ั ให้ยมื เงนิ สามารถเปลย่ี นแปลงวิธีแกป้ ัญหาได้ )

ข้นั ตอนท่ี 4 ตรวจสอบและปรบั ปรุง
เมอื่ ด�ำ เนนิ การแก้ไขปญั หาแลว้ ต้องตรวจสอบวา่ วิธที ่ีใชเ้ ป็นวธิ ที ด่ี หี รือไม่ ถ้าหากตรวจ
สอบแลว้ วา่ เป็นวธิ ที ่ีไม่ดจี ะต้องปรบั ปรงุ และเปลยี่ นเปน็ วิธที ีด่ ีกวา่

12

แบบฝึกหัดบทที่ 2
คำ�ชี้แจง ให้นกั เรยี นเลอื กปญั หาทส่ี นใจพร้อมท้งั บอกวิธีการแก้
ปัญหาตามขั้นตอนการแก้ปัญหาและบนั ทกึ ลงสมุดตามตวั อยา่ ง


1. หวังว่ายน้ำ�ไมเ่ ปน็
2. หวานลมื ท�ำ การบา้ น
3. แหววตดิ เกมออนไลน์

แหล่งค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม
1. ห้องสมุด เวบ็ ไซต์ทน่ี �ำ เสนอข้อมลู เก่ยี วกบั ขนั้ ตอน การแก้ปญั หา
2. เวบ็ ไซตค์ ้นหาขอ้ มูล เช่น http://www.google.com

13

สรปุ บทเรยี นหนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1

การแกป้ ญั หา คอื ความสามารถในการน�ำ ความร้ทู ักษะ และการด�ำ เนิน
การมาใชใ้ นการ หาค�ำ ตอบเมื่อมกี ารกำ�หนดสถานการณ์ข้นึ มา
หลักการเบ้อื งตน้ ในการแกป้ ัญหาประกอบดว้ ย 4 ขนั้ ตอน ไดแ้ ก่
1. พิจารณาปญั หา
2. วางแผนแกป้ ญั หา
3. แกป้ ัญหา
4. ตรวจสอบและปรบั ปรงุ
แนวทางในการแกไ้ ขปัญหา โดยการทำ�ความเข้าใจปัญหาวเิ คราะห์
ปัญหา คิดหาวธิ ี แกป้ ัญหาด้วยการอาศยั ทฤษฎกี ารแกป้ ญั หา การวางแผน
ในการแก้ปัญหา โดยเลอื กวิธที ี่ดีที่สดุ และมีผลเสียน้อยที่สุด ลงมอื ปฏบิ ตั ติ าม
แนวทาง ด�ำ เนินการแก้ปัญหาตามแผนทว่ี างไว้นำ�ไปใช้ และมีการตรวจสอบ ผล
ของการแกป้ ญั หา ปรบั ปรงุ แก้ไข เม่อื มผี ลข้างเคียงตามมาจากการ แกป้ ญั หา
การเลือกวธิ กี ารแก้ปัญหา
การแก้ปญั หามีหลายวิธี ขึ้นกับลักษณะของปญั หา วิธีการแกป้ ัญหาอยา่ ง
หนึ่งอาจ แก้ปญั หาอีกอยา่ งหนึ่งไม่ได้ และการแกป้ ัญหาอาจจ�ำ เปน็ ตอ้ งใช้
เทคโนโลยสี ารสนเทศหรอื ไม่ ก็ได้ ดังน้นั จงึ ควรยึดหลกั การแก้ปญั หาอยา่ งเปน็
ระบบ เพื่อไม่ให้เสยี เวลา หลงทาง และสับสน วิธีการแกป้ ัญหาแตล่ ะวธิ ีมีความ
เหมาะสมแตกต่างกันไป

14

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2

การคน้ หาข้อมูล

เปา้ หมายการเรียนรปู้ ระจ�ำ หนว่ ยท่ี 1
ง 3.1 ป.6/2 ใชค้ อมพิวเตอรใ์ นการหาขอ้ มูล

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. บอกหลักการของการคน้ หาขอ้ มลู ได้
2. สามารถใช้คอมพิวเตอร์ค้นหาขอ้ มลู ได้

การใชค้ อมพิวเตอร์ในการหาขอ้ มลู บทท่ี
1
สาระสำ�คญั

ในปัจจุบันมีข้อมูลจำ�นวนมากท่ีเรา
สามารถค้นหาได้โดยผ่านอนิ เทอร์เนต็ ท�ำ ให้
สะดวกและรวดเร็ว

อุปกรณเ์ ทคโนโลยมี ีความสามารถใน
การค้นหาข้อมูล

16

การค้นหาขอ้ มลู (Searching) เปน็ กระบวนการท่ีส�ำ คัญยิ่ง ในการประมวลผลขอ้ มูลด้วย
คอมพวิ เตอร์ การค้นหาขอ้ มูลในปจั จบุ ัน ยงั คงเปน็ ปัญหาและยงั มกี ารศึกษาคน้ ควา้ ตัวอยา่ งการค้นหา
ขอ้ มูล ทีพ่ อจะคุน้ เคย ได้แก่ การค้นหาเสน้ ทางท่ีสนั้ ทสี่ ุดส�ำ หรบั การเดินทาง การคน้ หาทางเดนิ ของหนุ่ ยนต์
การคน้ หาทางเดินของหมากรกุ เปน็ ต้น
การคน้ หาความเหมือนกนั ของรปู ภาพ หรอื การรจู้ �ำ
เปน็ ตน้ สิง่ เหลา่ นีล้ ว้ นเปน็ ความทา้ ทายในการคน้ หา นอกจาก
น้ีในปัจจุบันยังได้นำ�ความรู้ทางด้านสถิติและระบบผู้เชี่ยวชาญ
มาช่วยในการคน้ หา และการพยากรณเ์ หตกุ ารณท์ ่จี ะเกดิ ขนึ้ ใน
อนาคต

การค้นหาข้อมลู จากสื่ออเิ ล็กทรอนิกส์ (Electronic Media) เปน็ วธิ กี ารค้นหาข้อมลู ที่นิยมใช้มาก
ข้ึนในปัจจุบนั เอกสาร อิเล็กทรอนิกส์นบั เปน็ ส่ือใหมใ่ นการบนั ทึกและสื่อสารนิเทศ ท่เี กิดขนึ้ จากความ
กา้ วหนา้ ของเทคโนโลยีการสื่อสารและคอมพิวเตอร์
สอ่ื ประเภทนี้แบ่งออกเป็นหลายประเภทเช่น

1. ฐานข้อมลู คอมพวิ เตอร์ ( Computerized Database ) เปน็
แหล่งสารนิเทศที่บันทึกอยู่ในส่ือท่ีคอมพิวเตอร์อ่านได้ในปัจจุบันสื่อท่ีเป็นท่ี
นยิ มไดแ้ ก่ ซีด-ี รอม และเก็บอยูใ่ นฐานขอ้ มลู ในรูปแบบตา่ งๆ เชน่ ฐานขอ้ มลู
บรรณานกุ รม
2. ฐานข้อมูลทีห่ อ้ งสมุดพัฒนาข้นึ ใชเ้ อง ( In-house Database )
ไดแ้ กฐ่ านข้อมลู พน้ื ฐานทีห่ อ้ ง สมดุ จัดทำ�ขน้ึ เพื่อ อำ�นวยความสะดวก ส�ำ หรับ
ผูใ้ ช้ในการใชท้ รพั ยากรสารนเิ ทศน้ันๆ
3 ฐานขอ้ มลู เชิงพาณชิ ย์ (Commercial Database) หรือฐานข้อมลู
เพ่อื การคา้ ทผ่ี ูใ้ ช้จะต้องจ่ายเงนิ เพื่อใช้ซื้อเข้าถึงขอ้ มลู นนั้ ๆ

17

การค้นหาข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์
โดยปกติจะมีคำ�ส่ังท่ีใช้สำ�หรับค้นหาข้อมูลต่างๆ
ที่เราเกบ็ เอาไวอ้ ย่ใู น Windows อยู่แล้ว แต่
ปัจจุบันนี้ยังมีโปรแกรมต่างๆอีกหลายโปรแกรม
ท่ีสร้างขึ้นเพ่ือใช้ค้นหาข้อมูลต่างๆท่ีอยู่ในเคร่ือง
คอมพวิ เตอรเ์ ชน่ Google, Desktop , Thai-
Quest Desktop เปน็ ต้น

การใชค้ อมพวิ เตอร์ในการคน้ หาข้อมูล
คอมพวิ เตอร์ (computer) เปน็ อุปกรณ์เทคโนโลยสี ารสนเทศทีม่ คี วามสามารถหลายอยา่ ง เชน่
พมิ พ์เอกสารรายงาน ตกแตง่ ภาพถ่าย วาดภาพ สรา้ งน�ำ เสนอตวั ค�ำ นวณตวั เลข เกบ็ ข้อมูล คน้ หาข้อมลู ซง่ึ
มีประโยชน์ท้งั ตอ่ การเรียน การท�ำ งาน และการด�ำ เนินชีวติ ประจำ�วัน
ความสามารถของคอมพิวเตอรท์ ม่ี ีประโยชน์ตอ่ นกั เรยี นมากท่สี ดุ กค็ อื การคน้ หาขอ้ มูล เพราะ
นักเรยี นจ�ำ เปน็ ต้องใช้ขอ้ มลู เพือ่ เสรมิ สรา้ งความรูค้ วามเขา้ ใจในบทเรียนในการเรยี น และประสบการณ์
ในการด�ำ เนนิ ชวี ิต ซงึ่ การค้นหาข้อมูลด้วยเคร่ืองคอมพวิ เตอรน์ ัน้ ท�ำ ไดห้ ลายรปู แบบ เชน่ คน้ หาข้อมลู ใน
เครื่องคอมพิวเตอร์ ค้นหาขอ้ มลู จากอนิ เตอร์เนต็ ค้นหาจากแผ่นซดี รี อม เป็นต้น

สาระนา่ รู้

การใชค้ อมพวิ เตอรใ์ นการ
คน้ หาข้อมูลจะทำ�ใหเ้ รามคี วามสะดวก
และ รวดเร็ว

18

การค้นหาขอ้ มลู ในคอมพวิ เตอร์

1.คลกิ ที่ปุ่ม Search Windows
2.พิมพ์ช่อื ไฟล์ หรือโฟลเดอร์ ที่ตอ้ งการ
คน้ หา
3.ดบั เบลิ คลิกไฟลท์ ่คี ้นหา เพอื่ ใช้งานต่อไป

ประโยชน์การคน้ หาขอ้ มลู ในคอมพวิ เตอร์
1. คน้ หาขอ้ มูลไดจ้ �ำ นวนมากและรวดเร็ว จึงประหยัดเวลาในการ คน้ หามากกวา่ การคน้ หา
ข้อมูลดว้ ยวิธอี ่นื
2. ขอ้ มูลท่ไี ด้ มคี วามทนั สมยั และเปน็ ปจั จุบัน
3. ขอ้ มลู ทค่ี ้นหาได้ สามารถพมิ พ์ ออกมาทางเคร่อื งพิมพ์ ได้ ทนั ทโี ดยไม่ ตอ้ งใช้ เครือ่ งถ่าย
เอกสารหรือจดลงในสมุดบนั ทึก

ë É ~ ê ÅKÜKáKå Ö

19

แบบฝกึ หัดบทท่ี 1
ใหน้ ักเรียนคน้ หาข้อมูลในคอมพวิ เตอร์ โดยจำ�แนกตาม
ไดรฟ์ท่ีใช้ในการเก็บข้อมูลจากน้ันให้บันทึกลงในสมุดว่านักเรียน
พบขอ้ มลู อะไรบา้ ง

แหลง่ ค้นหาขอ้ มูลเพิม่ เติม
1. หอ้ งสมดุ
2. เว็บไซต์ค้นหาข้อมูล เชน่ http://www.google.com
20

การคน้ หาข้อมูลจากอินเทอรเ์ น็ต บทที่
2
สาระสำ�คญั

สังคมในปัจจุบนั เป็นสังคมในยุคของข้อมลู ข่าวสาร เราจึงควร
เรียนรู้ศึกษาความรู้เบ้ืองต้นและฝึกปฎิบัติงานเกี่ยวกับการค้นหาข้อมูล
ดว้ ยเคร่อื งคอมพิวเตอรต์ ามระบบงานสารสนเทศ เพ่ือประหยดั เวลา
และเปน็ พ้นื ฐานในค้นหาข้อมลู รวมไปถึงการใชข้ อ้ มูลน�ำ เสนองานเพื่อ
ประโยชน์ในชวี ติ ประจำ�วัน

Search Engine เปน็ เวบ็ ไซต์ที่ชว่ ย 21
ในการคน้ หาขอ้ มูลโดยใช้โปรแกรม
ชว่ ยในการค้นหาที่เรียกว่า “Robot”

ในโลกของอินเทอร์เน็ตข้อมูลมีมากมายเหลอื เกิน ถ้าจะใชเ้ วลาในการอ่านทุกสงิ่ บน
เขา้ ไปค้นหาอินเทอร์เน็ตคงตอ้ งใชเ้ วลานานหลายช่ัวอายคุ น จรงิ ๆ แลว้ เราคงไมม่ คี วามสนใจใน
ทุกเรือ่ ง แตค่ งสนใจเฉพาะเรอื่ งที่เราสนใจเท่าน้นั จงึ มคี นคิดเคร่อื งมือในการชว่ ยค้นหาข้อมลู ที่
ต้องการ น้นั ก็คอื Search Engine

การคน้ หาข้อมลู ในอนิ เทอรเ์ น็ต

Search Engine เป็นเวบ็ ไซตท์ ช่ี ว่ ยในการค้นหาขอ้ มลู
โดยใช้โปรแกรมชว่ ยในการคน้ หาทีเ่ รียกว่า “Robot” ท�ำ หนา้ ท่ี
รวบรวมข้อมูลเก่ียวกับเว็บไซต์ในอินเทอร์เน็ตมาเก็บไว้ในฐาน
ข้อมูลซึ่งการค้นหาข้อมูลรูปแบบน้ีจะช่วยให้สามารถค้นหา
ขอ้ มูลได้ตรงกับความตอ้ งการ เพราะได้ระบคุ ำ�ท่เี จาะจงลงไป
เพ่อื ให้ Robot เป็นตวั ช่วยในการค้นหาข้อมลู ซ่ึงเป็นรูปแบบที่
เป็นทีน่ ิยมมาก เชน่ www.google.co.th
Search Engine โดยท่วั ไปมี 3 ประเภท โดยมีหลักการท�ำ งานทีต่ า่ งกัน และการจดั อันดบั การ
คน้ หาขอ้ มูลก็ตา่ งกัน เพราะมลี ักษณะการทำ�งานท่ตี า่ งกัน ท�ำ ใหโ้ ดยทว่ั ๆ ไปแลว้ จะมกี ารแบง่ ออกเปน็
หลาย ๆ ประเภทดว้ ยกนั ดงั ตอ่ ไปน้ี คอื
ประเภทที่ 1 Crawler Based Search Engines คอื เคร่ืองมือการค้นหา
บนอนิ เตอรเ์ น็ตแบบอาศยั การบนั ทกึ ข้อมูล และ จัดเกบ็ ขอ้ มลู เป็นหลัก ซงึ่ จะเปน็ จ�ำ พวก
Search Engine ทไี่ ดร้ ับความนิยมสงู สุด เนื่องจากให้ผลการคน้ หาแม่นย�ำ ที่สุด และการ
ประมวลผลการคน้ หาสามารถทำ�ไดอ้ ย่างรวดเร็ว จงึ ทำ�ให้มีบทบาทในการคน้ หาขอ้ มูล
มากทส่ี ดุ ในปัจจุบัน

สาระนา่ รู้

Google คือ เว็บไซตท์ ่ี
ให้บริการในการค้นหาข้อมูล
ในโลกของอินเตอร์เน็ตท่ีนิยม
ใชม้ ากที่สุด

22

ประเภทที่ 2 Web Directory หรือ Blog Directory คือ สารบญั เว็บไซต์ทใ่ี หส้ ามารถ
ค้นหาข่าวสารขอ้ มูล ดว้ ยหมวดหมขู่ า่ วสารข้อมูลทีเ่ ก่ยี วขอ้ งกนั ในปริมาณมากๆ คล้าย ๆ กับสมุดหน้า
เหลอื ง ซ่งึ จะมกี ารสร้าง ดรรชนี มีการระบหุ มวดหมู่ อย่างชดั เจน ซ่งึ จะชว่ ยให้การคน้ หาขอ้ มูลต่าง ๆ
ตามหมวดหม่นู ัน้ ๆ ได้รับการเปรยี บเทยี บอ้างอิง เพ่อื หาข้อเท็จจรงิ ไดใ้ นขณะทเ่ี ราค้นหาข้อมูล เพราะ
ว่าจะมเี วบ็ ไซต์มากมาย หรอื Blog มากมายท่มี เี น้อื หาคล้าย ๆ กันในหมวดหมเู่ ดียวกนั ให้เราเลือกทจ่ี ะ
หาข้อมูลได้อยา่ งตรงประเด็นทีส่ ุด

ประเภทท่ี 3 Meta Search Engine คือ Search Engine ทใี่ ชห้ ลกั การในการค้นหาโดย
อาศยั Meta Tag ในภาษาHTML ซ่งึ มกี ารประกาศชุดคำ�สัง่ ตา่ ง ๆ เป็นรปู แบบของ Tex Editor ดว้ ย
ภาษา HTML นัน่ เองเชน่ ชอ่ื ผู้พฒั นา ค�ำ ค้นหา เจา้ ของเว็บ หรือ บลอ็ ก ค�ำ อธบิ ายเว็บหรือบล็อกอยา่ ง
ย่อ ผลการคน้ หาของ Meta Search Engine นี้มกั ไม่แมน่ ยำ�อยา่ งท่ีคดิ เนือ่ งจากบางครั้งผู้
ใหบ้ ริการหรอื ผู้ออกแบบเว็บสามารถใสอ่ ะไรเข้าไปก็ได้มากมายเพอ่ื ใหเ้ กดิ การคน้ หาและพบเวบ็ หรอื
บล็อกของตนเองและอกี ประการหนง่ึ ก็คือ มกี ารอาศัย Search Engine Index Server หลาย ๆ แห่ง
มาประมวลผลรวมกัน จงึ ทำ�ให้ผลการคน้ หาข้อมูลต่าง ๆ ไมเ่ ท่ยี งตรงเท่าท่ีควร

การค้นหาโดยใช้ Search Engine

การใช้วิธีการค้นหาข้อมูลบนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตสามารถแบ่งรูปแบบ
ในการคน้ หาออกเป็น 2 ลกั ษณะ คอื
1. การระบุค�ำ เพื่อใช้ในการคน้ หา หรอื ทเ่ี รยี กว่า “คยี ์เวิร์ด” (Keyword)
2. การคน้ หาจากหมวดหมู่ หรือไดเร็กทอรี (Directories)

การระบุค�ำ เพือ่ ใช้ในการค้นหา
วิธีการคน้ หาขอ้ มลู ในลักษณะนี้ก็คอื การระบคุ ำ�ท่ตี อ้ งการค้นหา หรือท่ีเรยี ก
ว่า “คียเ์ วริ ์ด” โดยในเว็บไซต์ตา่ ง ๆ ท่ีให้บริการค้นหาขอ้ มูลจะมชี ่องเพ่ือให้กรอกค�ำ
ที่ตอ้ งการคน้ หาลงไป แลว้ จะนำ�คำ�ดังกล่าวไปค้นหาจากขอ้ มูลที่ได้จัดเก็บไว้ในฐาน
ข้อมลู ของระบบ

23

วธิ ีการคน้ หาขอ้ มลู แบบระบุคำ�ท่ตี อ้ งการค้นหา
โดยจะเลือกเวบ็ ไซตท์ ่ีให้บรกิ ารค้นหาข้อมลู ท่เี รามกั จะเรียกวา่ “เวบ็ ไซตส์ ำ�หรับ Search Engines”
ซึ่งมเี ว็บไซตต์ า่ ง ๆ หลายเว็บไซต์ท่ีให้บริการดา้ นน้ี เช่น www.google.com การใชค้ ยี ์เวิร์ดในการคน้ หา
ข้อมลู เราจะต้องพยายามระบคุ ำ�ให้ชัดเจนเพอ่ื จะสามารถให้ได้ผลลัพธต์ ามทตี่ ้องการ หรือใกลเ้ คียงกับสิง่ ท่ี
เราตอ้ งการให้มากทส่ี ดุ

วธิ ปี ฏิบัติในการคน้ หาขอ้ มูลแบบคีย์เวิร์ด
สามารถทำ�ไดด้ งั ต่อไปน้ี คือ
1. พมิ พ์ชอื่ เว็บไซตท์ ่เี ป็น Search Engine ในชอ่ ง Address เชน่ www.google.com
2. กรอกค�ำ ท่ีตอ้ งการค้นหาในชอ่ งที่เว็บไซตไ์ ด้ก�ำ หนดไว้
3. เว็บไซตจ์ ะคน้ หาข้อมลู จากเวบ็ ไซตต์ า่ งๆ ทมี่ ีค�ำ ท่ีเหมอื นกับค�ำ ทเี่ ราไดก้ รอกไว้ในชอ่ งทีต่ อ้ งการค้นหาข้อมูล
4. คลิกเลอื กเวบ็ ไซต์ท่ตี ้องการ เข้าไปคอ้ นหารายละเอียดของข้อมลู ตอ่ ไป

ช่วงนช้ี ้ีแนะ

ควรบีบประเดน็ ให้แคบลง หรอื ใช้ค�ำ ให้ชัดเจน
ตรงประเดน็ ทีต่ อ้ งการผลลัพธ์ให้มากท่สี ดุ

24

ประโยชนข์ อง Search Engine สาระนา่ รู้
1.สามารถคน้ หาเวบ็ ไซต์ทตี่ ้องการไดส้ ะดวก รวดเร็ว
2.สามารถคน้ หาแบบเจาะลกึ ได้ ในการค้นหาขอ้ มูลบน
3.สามารถค้นหาเว็บไซตเ์ ฉพาะทางทม่ี กี ารจำ�กดั ไว้ อนิ เทอร์เนต็ จะท�ำ ใหผ้ ้ใู ชไ้ ด้
4.มีความหลากหลายในการคน้ หาขอ้ มูล รับข้อมูลจากหลากหลายแหล่ง
5.รองรับการคน้ หาภาษาไทย มากกว่าการค้นหาข้อมูลจาก
ภายในห้องสมดุ

25

แบบฝกึ หัดบทท่ี 2
ค�ำ ช้ีแจง ใหน้ กั เรยี นตอบค�ำ ถามทก่ี ำ�หนดให้ ใหถ้ กู ต้อง

1.อธบิ ายประโยชน์ของ Search Engine
............................................................................................................................................
............................................................................................................................................
............................................................................................................................................
2.ยกตัวอย่างเว็บไซตท์ ่ีให้บรกิ าร Search Engine
............................................................................................................................................
............................................................................................................................................
............................................................................................................................................
3.อธิบายลกั ษณะและวธิ กี ารคน้ หาของเวบ็ ไซตท์ ี่ใหบ้ รกิ าร Search Engine
............................................................................................................................................
............................................................................................................................................
............................................................................................................................................

แหลง่ คน้ หาขอ้ มูลเพิม่ เตมิ
1. ห้องปฏบิ ัติคอมพิวเตอร์ ห้องสมุด
2. เว็บไซตค์ น้ หาข้อมลู เชน่ http://www.google.com

26

สรปุ บทเรยี นหน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2

ในการคน้ หาข้อมลู บนคอมพิวเตอรแ์ ละอินเทอร์เน็ต จะทำ�ใหผ้ ู้ใช้ไดร้ ับ
ข้อมูลจากหลากหลายแหลง่ มากกว่าการค้นหาข้อมูลจากภายในหอ้ งสมุด โดย
แบ่งประเภทในการคน้ หาขอ้ มลู ทีแ่ ตกต่างกนั เพอ่ื ให้ผใู้ ช้สามารถเลอื กประเภท
และรูปแบบของการคน้ หาข้อมูลได้ ซงึ่ ผใู้ ชต้ อ้ งศึกษารูปแบบตา่ ง ๆ ของ
การค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์ที่ให้บริการจะทำ�ให้สามารถค้นข้อมูลได้อย่างมี
ประสทิ ธิภาพ และตรงกับความต้องการมากทสี่ ดุ

27

บรรณานุกรม

เจษฎา สสุ ขุ วรรณ. (2559.) การคน้ หาขอ้ มลู ด้วย Search Engine. สืบค้นเม่อื
20 ตลุ าคม 2561. จาก https://jetsadaa.wordpress.com/about/ .
จักกฤษ ประทมุ นนั ท์ และคณะ. (2556.) กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ.
สบื ค้น เม่อื 20 ตุลาคม 2561. จาก https://sites.google.com/site/
krabwnkarthekhnoloyi/home/phu-cad-tha .
ศิริพร จันดา. (2560.) ข้ันตอนการแก้ปญั หา. สบื คน้ เมอื่ 20 ตุลาคม 2561.
จาก https://sites.google.com/site/karnganxachilaeathekhnoloy.
การใช้คอมพิวเตอรค์ ้นหาขอ้ มูล. สบื คน้ เมอื่ 20 ตลุ าคม 2561. จาก https://
sites.google.com/site/karnganxachiphlaeathekhnol.

i çî É=Äççâ


Click to View FlipBook Version