-ร่างระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม ตุลาคม 2565 (ตามหนังสือสำนักงานศาลยุติธรรม ด่วนที่สุด ที่ ศย 015/ว 139 (ป) ลงวันที่ 19 ตุลาคม 2565)
สารบัญ เรื่อง หน้า บทที่ 1 โครงสร้างแผนงานงบประมาณของศาลยุติธรรม 1 และสำนักงานศาลยุติธรรม บทที่ 2 กระบวนการงบประมาณ ๖ บทที่ 3 การบริหารงบประมาณ 12 บทที่ 4 หลักเกณฑ์และแนวทางการใช้จ่ายงบประมาณ งานประจำ 16 - งานพิจารณาพิพากษาคดี กิจกรรมพิจารณาพิพากษาคดี 18 - งานประสานความร่วมมือทางกฎหมาย กิจกรรมความร่วมมือ 21 ทางกฎหมายและการศาลระหว่างประเทศ - งานบริหารงานบุคคลและพัฒนาข้าราชการตุลาการศาลชำนัญพิเศษ 22 กิจกรรมการคัดเลือกและอบรมเพื่อเป็นผู้พิพากษาสมทบ - งานระงับข้อพิพาท กิจกรรมไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาท 23 - งานช่วยเหลือและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของคู่ความตามกฎหมาย 26 กิจกรรมช่วยเหลือและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของคู่ความตามกฎหมาย - งานประชาสัมพันธ์ศาลยุติธรรม กิจกรรมประชาสัมพันธ์งานศาลยุติธรรม 28 - งานอำนวยการ กิจกรรมส่งเสริมและปฏิบัติงานตามนโยบาย 30 ประธานศาลฎีกาและปฏิบัติงานตามระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการ ศาลยุติธรรม - งานอำนวยการ กิจกรรมสนับสนุนการพิจารณาพิพากษาคดีและ 31 บริหารทั่วไป - งานอำนวยการ กิจกรรมจ้างเหมารักษาความปลอดภัยอาคารศาล 41 และสถานที่ - งานอำนวยการ กิจกรรมจ้างเหมารักษาความสะอาด 42 - งานอำนวยการ กิจกรรมจัดหาวัสดุ หนังสือ ตำรากฎหมาย 44 และเอกสารอื่น
เรื่อง หน้า บทที่ 4 หลักเกณฑ์และแนวทางการใช้จ่ายงบประมาณ งานประจำ (ต่อ) - งานอำนวยการ กิจกรรมจัดหาครุภัณฑ์ 47 - งานอำนวยการ กิจกรรมปรับปรุงซ่อมแซมอาคารศาล สถานที่ และบ้านพัก 53 - งานอำนวยการ กิจกรรมบริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ 55 - งานประสานความร่วมมือด้านการยุติธรรม กิจกรรมพัฒนาบุคลากร 57 ในกระบวนการยุติธรรม - งานบริหารงานบุคคลและพัฒนาข้าราชการตุลาการศาลยุติธรรมและ 58 ดะโต๊ะยุติธรรม กิจกรรมสรรหาบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการตุลาการ และดะโต๊ะยุติธรรม - งานบริหารงานบุคคลและพัฒนาข้าราชการตุลาการศาลยุติธรรมและ 60 ดะโต๊ะยุติธรรม กิจกรรมคัดเลือกและสนับสนุนการปฏิบัติงานของ ผู้พิพากษาอาวุโส - งานบริหารงานบุคคลและพัฒนาข้าราชการตุลาการศาลยุติธรรมและ 62 ดะโต๊ะยุติธรรม กิจกรรมฝึกอบรมและสัมมนาข้าราชการตุลาการ - งานบริหารงานบุคคลและพัฒนาข้าราชการศาลยุติธรรม 64 กิจกรรมบริหารงานบุคคลข้าราชการศาลยุติธรรม - งานบริหารงานบุคคลและพัฒนาข้าราชการศาลยุติธรรม 65 กิจกรรมพัฒนาข้าราชการศาลยุติธรรม บทที่ 5 หลักเกณฑ์และแนวทางการใช้จ่ายงบประมาณ งานโครงการ 67 บทที่ 6 แบบฟอร์มงานประจำ/โครงการ 77
ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม 1 บทที่ 1 โครงสร้างแผนงานงบประมาณของศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม ระบบงบประมาณของรัฐ1 ทำหน้าที่หลักในการบริหารรายจ่ายสาธารณะ 3 ประการ คือ 1) ควบคุมวินัยทางการคลัง 2) บริหารทรัพยากรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด 3) จัดสรรงบประมาณเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนพลเมืองและสังคมส่วนรวม ระบบงบประมาณของรัฐมีพัฒนาการมาหลายรูปแบบ เช่น ระบบงบประมาณ แบบแสดงรายการ (Line Item) ระบบงบประมาณแบบแผนงาน (PPB) ปัจจุบันเป็นระบบ งบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงานตามยุทธศาสตร์(SPBB) ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับระบบงบประมาณ แบบแผนงานที่มีการจัดโครงสร้างแผนงาน แต่มีจุดเน้นในเรื่องการกำหนดเป้าประสงค์ของ หน่วยงานและวัตถุประสงค์ของแผนงาน การวัดผลผลิตและผลลัพธ์ ประสิทธิภาพ และคุณภาพ โดยการจัดสรรงบประมาณไม่ได้เพียงให้ความสำคัญกับความเชื่อมโยงระหว่างแผนงานเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญต่อการกำหนดเกณฑ์การวัดผลการปฏิบัติงานเพื่อพิสูจน์ความสำเร็จ ตามที่คาดหวัง2 สำนักงานศาลยุติธรรมได้คำนึงถึงการบริหารงบประมาณให้สอดคล้องกับ ระบบงบประมาณของรัฐข้างต้น จึงได้ใช้แผนยุทธศาสตร์ศาลยุติธรรมเป็นกรอบกำหนดโครงสร้าง แผนงานงบประมาณมาอย่างต่อเนื่อง โดยระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงาน ศาลยุติธรรมฉบับนี้ สำนักงานศาลยุติธรรมได้ใช้ยุทธศาสตร์ตามแผนยุทธศาสตร์ศาลยุติธรรม พ.ศ. 2565 - 2568 3 เป็นกรอบกำหนดโครงสร้างแผนงานงบประมาณ ดังนี้ 1 จรัส สุวรรณมาลา, รศ.ดร. ระบบงบประมาณและการจัดการมุ่งเน้นผลสำเร็จในภาครัฐ : ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับพลเมือง ยุคใหม่, คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ, 2546 : หน้า 1. 2 วัฒนา วงศ์เกียรติรัตน์, รศ.ดร. หลักการและแนวทางปฏิบัติในการวางแผนยุทธศาสตร์ของหน่วยงานภาครัฐในระบบ งบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงาน, สถาบันพัฒนานโยบายและการจัดการ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ, 2551 : หน้า 15. 3 คำสั่งคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม ที่ 54/2564 ลงวันที่ 28 กันยายน 2564 เรื่อง ให้ใช้แผนยุทธศาสตร์ ศาลยุติธรรม พ.ศ. 2565 - 2568.
ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม 2 55 โครงสร้างแผนงานงบประมาณ ตามแผนยุทธศาสตร์ศาลยุติธรรม พ.ศ. 2565 - 2568 1 สำนักงานศาลยุติธรรมได้กำหนดโครงสร้างแผนงานงบประมาณตามแผนยุทธศาสตร์ ศาลยุติธรรม พ.ศ. 2565 - 2568 ประกอบด้วย ยุทธศาสตร์ศาลยุติธรรม งานประจำและกิจกรรม ภายใต้งานประจำแต่ละงาน และประเด็นยุทธศาสตร์ของงานเชิงยุทธศาสตร์ซึ่งมีความเชื่อมโยงกัน ดังนี้ ยุทธศาสตร์ศาลยุติธรรม งาน/กิจกรรม/โครงการ ยุทธศาสตร์ T เชื่อมั่นศรัทธา การอำนวยความยุติธรรม (Trusted Justice) งานประจำ (จำนวน 4 งาน 4 กิจกรรม) งานที่ 1 งานพิจารณาพิพากษาคดี กิจกรรมที่ 1.1 พิจารณาพิพากษาคดี งานที่ 2 งานประสานความร่วมมือทางกฎหมาย กิจกรรมที่ 2.1 ความร่วมมือทางกฎหมายและการศาลระหว่างประเทศ งานที่ 3 งานบริหารงานบุคคลและพัฒนาข้าราชการตุลาการศาลชำนัญพิเศษ กิจกรรมที่ 3.1 การคัดเลือกและอบรมเพื่อเป็นผู้พิพากษาสมทบ งานที่ 4 งานระงับข้อพิพาท กิจกรรมที่ 4.1 ไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาท งานเชิงยุทธศาสตร์ ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 1 เสริมสร้างมาตรฐานการพิจารณาพิพากษาคดี แนวทางการดำเนินการที่ ..... 1. โครงการ ....... 2. โครงการ ....... ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 2 พัฒนากระบวนพิจารณา กฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับให้ทันสมัย มีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถอำนวยความยุติธรรมได้อย่างรวดเร็วและเป็นธรรม แนวทางการดำเนินการที่ ..... 1. โครงการ ....... 2. โครงการ ....... ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 3 สร้างเสริมความเชี่ยวชาญในคดีชำนัญพิเศษและคดีที่มีลักษณะยุ่งยาก ซับซ้อน แนวทางการดำเนินการที่ ..... 1. โครงการ ....... 2. โครงการ ....... ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 4 ส่งเสริมและพัฒนาระบบการระงับข้อพิพาททางเลือก แนวทางการดำเนินการที่ ..... 1. โครงการ ....... 2. โครงการ ....... 1 คำสั่งคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม ที่ 54/2564 ลงวันที่ 28 กันยายน 2564 เรื่อง ให้ใช้แผนยุทธศาสตร์ศาลยุติธรรม พ.ศ. 2565 - 2568.
ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม 3 ยุทธศาสตร์ศาลยุติธรรม งาน/กิจกรรม/โครงการ ยุทธศาสตร์ R เชื่อถือในระดับสากล (Reliability) งานประจำ (จำนวน 2 งาน 2 กิจกรรม) งานที่ 1 งานช่วยเหลือและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของคู่ความตามกฎหมาย กิจกรรมที่ 1.1 ช่วยเหลือและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของคู่ความตามกฎหมาย งานที่ 2 งานประชาสัมพันธ์ศาลยุติธรรม กิจกรรมที่ 2.1 ประชาสัมพันธ์งานศาลยุติธรรม งานเชิงยุทธศาสตร์ ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 1 เสริมสร้างมาตรฐานการคุ้มครองสิทธิของประชาชน แนวทางการดำเนินการที่ ..... 1. โครงการ ....... 2. โครงการ ....... ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 2 ส่งเสริมให้ประชาชนรับรู้ถึงสิทธิเสรีภาพของตนตามที่กฎหมายกำหนด แนวทางการดำเนินการที่ ..... 1. โครงการ ....... 2. โครงการ ....... ยุทธศาสตร์ U การดำเนินงานอันเป็น มาตรฐานไปในทิศทาง เดียวกัน (Uniformity) งานประจำ (ไม่มี) งานเชิงยุทธศาสตร์ ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 1 สร้างมาตรฐานการดำเนินงานของศาลยุติธรรม แนวทางการดำเนินการที่ ..... 1. โครงการ ....... 2. โครงการ ....... ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 2 พัฒนาและติดตามการประเมินผลคุณภาพการปฏิบัติงานของ ศาลยุติธรรมตามตัวชี้วัดและเกณฑ์มาตรฐานสากล แนวทางการดำเนินการที่ ..... 1. โครงการ ....... 2. โครงการ .......
ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม 4 ยุทธศาสตร์ศาลยุติธรรม งาน/กิจกรรม/โครงการ ยุทธศาสตร์S พัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainability) งานประจำ (จำนวน 2 งาน 10 กิจกรรม) งานที่ 1 งานอำนวยการ กิจกรรมที่ 1.1 ส่งเสริมการปฏิบัติงานตามนโยบายประธานศาลฎีกาและการปฏิบัติงาน ตามระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม กิจกรรมที่ 1.2 สนับสนุนการพิจารณาพิพากษาคดีและบริหารทั่วไป กิจกรรมที่ 1.3 จ้างเหมารักษาความปลอดภัยอาคารศาลและสถานที่ กิจกรรมที่ 1.4 จ้างเหมารักษาความสะอาด กิจกรรมที่ 1.5 จัดหาวัสดุ หนังสือ ตำรากฎหมาย และเอกสารอื่น กิจกรรมที่ 1.6 จัดหาครุภัณฑ์ กิจกรรมที่ 1.7 ปรับปรุงซ่อมแซมอาคารศาล สถานที่และบ้านพัก กิจกรรมที่ 1.8 บริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ กิจกรรมที่ 1.9 เงินสำรองเพื่อการบริหารจัดการ และการดำเนินงานตามนโยบาย งานที่ 2 งานประสานความร่วมมือด้านการยุติธรรม กิจกรรมที่ 2.1 พัฒนาบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม งานเชิงยุทธศาสตร์ ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 1 ส่งเสริมระบบงานตุลาการและระบบงานธุรการของศาลยุติธรรมและ สำนักงานศาลยุติธรรมให้มีประสิทธิภาพ แนวทางการดำเนินการที่ ..... 1. โครงการ ....... 2. โครงการ ....... ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 2 ส่งเสริมและเผยแพร่คำพิพากษาและการปฏิบัติงานอื่นของศาลยุติธรรม เพื่อแสดงความโปร่งใสและตรวจสอบได้ต่อสังคม แนวทางการดำเนินการที่ ..... 1. โครงการ ....... 2. โครงการ ....... ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 3 รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม แนวทางการดำเนินการที่ ..... 1. โครงการ ....... 2. โครงการ .......
ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม 5 ยุทธศาสตร์ศาลยุติธรรม งาน/กิจกรรม/โครงการ ยุทธศาสตร์ T เปลี่ยนผ่านสู่อนาคต (Transformation) งานประจำ (จำนวน 2 งาน 5 กิจกรรม) งานที่ 1 งานบริหารงานบุคคลและพัฒนาข้าราชการตุลาการศาลยุติธรรมและดะโต๊ะยุติธรรม กิจกรรมที่ 1.1 สรรหาบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการตุลาการและดะโต๊ะยุติธรรม กิจกรรมที่ 1.2 คัดเลือกและสนับสนุนการปฏิบัติงานของผู้พิพากษาอาวุโส กิจกรรมที่ 1.3 ฝึกอบรมและสัมมนาข้าราชการตุลาการศาลยุติธรรม งานที่ 2 งานบริหารงานบุคคลและพัฒนาข้าราชการศาลยุติธรรม กิจกรรมที่ 2.1 บริหารงานบุคคลข้าราชการศาลยุติธรรม กิจกรรมที่ 2.2 พัฒนาข้าราชการศาลยุติธรรม งานเชิงยุทธศาสตร์ ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 1 นวัตกรรมด้านเทคโนโลยี แนวทางการดำเนินการที่ ..... 1. โครงการ ....... 2. โครงการ ....... ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 2 นวัตกรรมด้านระบบงาน แนวทางการดำเนินการที่ ..... 1. โครงการ ....... 2. โครงการ ....... ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 3 นวัตกรรมการบริหารบุคคล แนวทางการดำเนินการที่ ..... 1. โครงการ ....... 2. โครงการ .......
ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม 6 บทที่ 2 กระบวนการงบประมาณ กระบวนการงบประมาณ1 กระบวนการงบประมาณ คือ ลำดับขั้นตอนเกี่ยวกับการกำหนดแผนความต้องการ ทรัพยากรสำหรับการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี ตั้งแต่การทบทวนผลการดำเนินงานและ ผลการบริหารงบประมาณในปีงบประมาณที่ผ่านมา การจัดทำกรอบวงเงินงบประมาณ ในภาพรวมขององค์กร การกำหนดแผนงาน (งาน กิจกรรม และโครงการ) และเป้าหมายตาม ยุทธศาสตร์ขององค์กรที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ นโยบาย หรือแผนแม่บทอื่นๆ ระดับชาติ การเสนอของบประมาณรายจ่ายประจำปีขององค์กร จนถึงการเสนอรัฐสภาพิจารณาอนุมัติและ ตราเป็นพระราชบัญญัติประกาศเป็นกฎหมาย เพื่อใช้เป็นกรอบในการบริหารงบประมาณและ ติดตามประเมินผลงบประมาณรายจ่ายประจำปี กระบวนการงบประมาณประกอบด้วยขั้นตอนหลัก ที่สำคัญ 4 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 การจัดเตรียมงบประมาณ (Budget Preparation) เป็นขั้นตอนแรกของกระบวนการงบประมาณ ซึ่งฝ่ายบริหาร คือ รัฐบาลมีหน้าที่ ในการเสนองบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อฝ่ายนิติบัญญัติเพื่อพิจารณาอนุมัติโดยมีส่วนราชการ ผู้ใช้งบประมาณ ประกอบด้วย ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ เป็นผู้มีบทบาท ในการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีโดยตรง และสำนักงบประมาณมีอำนาจหน้าที่ในการ วิเคราะห์คำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ และจัดทำเป็นร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีเสนอต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ คณะรัฐมนตรีพิจารณาและเสนอต่อรัฐสภาต่อไป การจัดเตรียมงบประมาณประกอบด้วยกระบวนการสำคัญ ๓ ประการ คือ การทบทวนงบประมาณ การวางแผนงบประมาณ และการจัดทำงบประมาณ ดังนี้ 1)การทบทวนงบประมาณ (Budget Revision) กระบวนการทบทวนงบประมาณ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อวางกรอบในการ ปรับเปลี่ยนบทบาท ภารกิจ และแผนดำเนินงานของหน่วยงานให้สอดคล้องกับลำดับความสำคัญ ทางนโยบาย ศักยภาพของหน่วยงาน และสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป การทบทวนงบประมาณจะให้ความสำคัญกับองค์ประกอบต่างๆ ดังนี้ • ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา • ความพร้อมและศักยภาพของหน่วยงานที่รับนโยบายไปปฏิบัติ • กฎหมายรองรับและระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง • สภาพแวดล้อมทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป 1 สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. คู่มือสนับสนุนการปฏิบัติงานของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติในการพิจารณาร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560, 2560 : หน้า 2 – 8.
ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม 7 • นโยบายหรือยุทธศาสตร์การพัฒนาของรัฐบาลใหม่ที่รัฐบาลประกาศในปี ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน • แนวโน้มและสถิติย้อนหลังของวงเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรร 2)การวางแผนงบประมาณ (Budget Planning) การวางแผนงบประมาณ เป็นการสร้างความเชื่อมโยงของเศรษฐกิจในภาพรวม แผนพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนการบริหารราชการแผ่นดิน แผนปฏิบัติราชการ ของหน่วยงาน เพื่อกำหนดเป็นนโยบายงบประมาณ วงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี และ ยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี การวางแผนงบประมาณที่สำคัญประกอบด้วย • การคาดการณ์ทางเศรษฐกิจและการคลังมหภาค เป็นการวิเคราะห์และประเมินผลกระทบของการใช้จ่ายภาครัฐที่มีต่อ สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ เพื่อจัดทำข้อเสนอทางเศรษฐกิจมหภาค โดยการพิจารณาร่วมกันของ ๔ หน่วยงานหลัก ได้แก่ สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีการดำเนินงาน ดังนี้ - การคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจทั่วไป - การกำหนดเครื่องชี้วัดระดับมหภาค เช่น GDP เงินเฟ้อ อัตราการ เจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ อัตราการว่างงาน - การวิเคราะห์ภาระงบประมาณอันเนื่องจากนโยบายสำคัญ • การประมาณการรายได้ กระทรวงการคลัง โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลังจะทำหน้าที่รายงาน ประมาณการรายได้ต่อที่ประชุม ๔ หน่วยงานหลัก เพื่อให้ความเห็นชอบร่วมกันและนำไปเป็น กรอบในการกำหนดวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป • การประมาณการหนี้สาธารณะ เป็นการจัดทำประมาณการภาระหนี้ภาครัฐประจำปี และประมาณการ ล่วงหน้า รวมทั้งการพิจารณาแผนการก่อหนี้ต่างประเทศ • การกำหนดนโยบายงบประมาณ และวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี หน่วยงานหลัก ๔ หน่วยงาน คือ สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย จะร่วมกัน กำหนดนโยบายและวงเงินงบประมาณที่เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจและนโยบายของรัฐบาล ซึ่งสำนักงบประมาณจะจัดทำข้อเสนอวงเงินงบประมาณดังกล่าวเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณา ให้ความเห็นชอบก่อนที่จะจัดทำงบประมาณในขั้นรายละเอียด
ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม 8 3)การจัดทำงบประมาณ (Budget Formulation) สำนักงบประมาณจะนำเสนอปฏิทินงบประมาณเพื่อให้คณะรัฐมนตรี ให้ความเห็นชอบและแจ้งส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการ จัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี และเมื่อคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบนโยบายงบประมาณ ยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณ และวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีแล้ว สำนักงบประมาณ จะมีหนังสือแจ้งแนวทางการดำเนินงานในการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี และคู่มือปฏิบัติ เกี่ยวกับการจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปี ในส่วนของหน่วยงาน เมื่อหน่วยงานระดับกระทรวงได้รับปฏิทินงบประมาณ และคู่มือจัดทำคำขอจากสำนักงบประมาณแล้ว กระทรวงจะแจ้งไปยังหน ่วยงานในสังกัด เพื่อจัดทำคำของบประมาณส่งให้สำนักงบประมาณพิจารณา และจัดทำเป็นร่างพระราชบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายประจำปี พร้อมทั้งเอกสารงบประมาณเสนอต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอ คณะรัฐมนตรีพิจารณาและนำเสนอต่อรัฐสภา เป็นเวลาอย่างน้อย ๒ เดือน ก่อนวันเริ่ม ปีงบประมาณนั้นตามที่กำหนดไว้ในมาตรา ๑๕ ของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม สำหรับเอกสารงบประมาณที่นำเสนอต่อรัฐสภาตามพระราชบัญญัติ วิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ได้กำหนดให้รัฐบาลเสนอคำแถลงของ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยข้อมูลรายละเอียดต่างๆ เช่น ฐานะการเงินการคลังของประเทศ รายรับรายจ่ายเปรียบเทียบปีปัจจุบัน ปีที่ขอตั้งงบประมาณรายจ่ายและปีที่ล่วงมาแล้ว หนี้ของ รัฐบาลที่มีอยู่และที่จะขอกู้ใหม่ เป็นต้น ซึ่งโดยทั่วไปจะนำเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ รายจ่ายประจำปี พร้อมเอกสารประกอบ จำนวนประมาณ 12 เล่ม และเรียกเอกสารฉบับนี้ว่า เอกสารงบประมาณ (Budget Document) ขั้นตอนที่ ๒ การอนุมัติงบประมาณ (Budget Adoption) การอนุมัติงบประมาณ หมายถึง การพิจารณาอนุมัติร่างพระราชบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายประจำปี พร้อมทั้งเอกสารประกอบงบประมาณซึ่งฝ่ายบริหารหรือรัฐบาล เสนอต่อฝ่ายนิติบัญญัติหรือรัฐสภา ซึ่งประกอบด้วย ๒ สภา คือ สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา โดยร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี จะผ่านการพิจารณาจากสภาผู้แทนราษฎร ก่อน ๓ วาระ แล้วจึงเสนอวุฒิสภาพิจารณา ก่อนนำทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงลงพระปรมาภิไธยประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป กระบวนการอนุมัติงบประมาณจะเริ่มขึ้นภายหลังจากที่ร่างพระราชบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายประจำปีผ่านการพิจารณาโดยคณะรัฐมนตรีแล้ว สำนักงบประมาณจะเตรียม เอกสารงบประมาณเพื่อให้นายกรัฐมนตรีเสนอต่อรัฐสภาเพื่อพิจารณา ซึ่งการพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีของสภาผู้แทนราษฎร ประกอบด้วย ๓ วาระ ดังนี้
ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม 9 • วาระที่ ๑ เป็นการพิจารณารับหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายประจำปี รวมถึงการแต่งตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณ าร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี • วาระที่ ๒ เป็นการพิจารณารายละเอียดแห่งร่างพระราชบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายประจำปีโดยคณะกรรมาธิการ และการพิจารณาเต็มสภาเรียงตามมาตรา • วาระที่ ๓ เป็นการพิจารณาอนุมัติ และประธานสภาผู้แทนราษฎร จะเป็นผู้เสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อวุฒิสภาเพื่อพิจารณาต่อไป วุฒิสภาจะดำเนินการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี โดยตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อศึกษาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีเช่นเดียวกัน แ ล ะต้ องพิ จ า รณ าให้ ค ว าม “เห็ น ช อบ ” ห รื อ “ไม่ เห็ น ช อบ ” ให้ แ ล้ วเส ร็ จภ ายใน ๒๐ วัน นับแต่วันที่ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีมาถึงวุฒิสภา ทั้งนี้เว้นแต่ สภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติให้ขยายเวลาออกไปเป็นกรณีพิเศษ หากวุฒิสภาไม่สามารถพิจารณา ให้เสร็จภายในกำหนดเวลา ให้ถือว่าวุฒิสภาได้ให้ความเห็นชอบตามร่างพระราชบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายประจำปีนั้น หากร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีได้รับการเห็นชอบจาก วุฒิสภาแล้ว นายกรัฐมนตรีนำร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีขึ้นทูลเกล้าถวาย เพื่อพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธย ประกาศในราชกิจจานุเบกษาใช้บังคับเป็นกฎหมาย ต่อไป ขั้นตอนที่ ๓ การบริหารงบประมาณ (Budget Execution) เป็นขั้นตอนการนำงบประมาณไปใช้จ่ายหรือก่อหนี้ผูกพัน เมื่อพระราชบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายประจำปีประกาศเป็นกฎหมายใช้บังคับแล้ว ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ ผู้ใช้งบป ระม าณ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบ ริห าร งบประมาณรายจ่ายจะต้องวางแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณให้สอดคล้อง กับเป้าหมายการให้บริการของกระทรวง ผลผลิต/โครงการ ตามวงเงินงบประมาณรายจ่ายที่ระบุ ไว้ในเอกสารประกอบพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี ซึ่งการบริหารงบประมาณ เกี่ยวข้องกับการอนุมัติจัดสรรงบประมาณ การโอนเปลี่ยนแปลงรายการ และการกันเงินเหลื่อมปี ทั้งนี้ หน่วยงานจะต้องมีการกำกับ ติดตามการดำเนินงานเพื่อเร่งรัดการดำเนินงาน ตามนโยบายรัฐบาลและตามเป้าหมายการเบิกจ่ายงบประมาณที่คณะรัฐมนตรีกำหนดไว้ ตามมาตรการเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณหรือมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่าย
ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม 10 ขั้นตอนที่ ๔ การติดตามประเมินผลงบประมาณ (BudgetMonitoringand Evaluation) การติดตามประเมินผลงบประมาณ หมายถึง ขั้นตอนการควบคุมติดตาม การปฏิบัติงาน และการใช้จ่ายงบประมาณของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ เป้าหมายการให้บริการของกระทรวง ผลผลิต/โครงการ ที่ปรากฏ ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี และเอกสารงบประมาณรายจ่ายประจำปี และ ตามกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับที่เกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินแผ่นดิน รวมทั้งการประเมินผลสัมฤทธิ์ ของการดำเนินงานของหน่วยงานที่ผ่านมา จากกระบวนการงบประมาณทั้ง 4 ขั้นตอน คือ การจัดเตรียมงบประมาณ การอนุมัติงบประมาณ การบริหารงบประมาณ และการติดตามประเมินผลงบประมาณ ที่กล่าวมาข้างต้น สำนักงานศาลยุติธรรมได้ดำเนินการตามกระบวนการดังกล่าวมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 จนถึงปัจจุบัน โดยที่ขั้นตอนการบริหารงบประมาณถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่ หน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรมต้องนำงบประมาณที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการ บริหารศาลยุติธรรมไปใช้จ่ายให้ถูกต้อง เหมาะสม เกิดประโยชน์สูงสุดต่อราชการ และมิให้เกิด ความผิดพลาดในการทำงาน สำนักงานศาลยุติธรรมจึงได้ปรับปรุงเอกสารระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรมฉบับนี้ให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ศาลยุติธรรม พ.ศ. 2565 - 2568 และเป็นไปตามระเบียบต่างๆ ที่มีการปรับปรุงและแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อให้หน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรมใช้เป็นแนวทางในการบริหารงบประมาณ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน 1. การจัดเตรียมงบประมาณ -การทบทวนงบประมาณ - การวางแผนงบประมาณ - การจัดทำงบประมาณ 2. การอนุมัติงบประมาณ 3. การบริหารงบประมาณ 4. การติดตามประเมินผล งบประมาณ
ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม 11 ปฏิทินการดำเนินงานตามกระบวนการงบประมาณของสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานศาลยุติธรรมได้ขับเคลื่อนกระบวนการงบประมาณข้างต้น โดยกำหนด ปฏิทินเพื่อเป็นกรอบระยะเวลาให้หน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรมยึดถือปฏิบัติในการ กำหนดแผนการดำเนินงานในแต่ละปีงบประมาณ ซึ่งการจัดทำงบประมาณและการอนุมัติ งบประมาณจะเป็นกระบวนการล่วงหน้าก่อนถึงปีงบประมาณ การบริหารงบประมาณจะเป็น กระบวนการสำคัญที่หน่วยงานฯ จะดำเนินการภายในปีงบประมาณ และการรายงานผลจะเป็น กระบวนการที่ดำเนินการตามระยะเวลาที่สำนักงานศาลยุติธรรมกำหนด1 ตัวอย่างกระบวนการงบประมาณ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 หมายเหตุ: * ปีงบประมาณ หมายถึง ระยะเวลาตั้งแต่ 1 ตุลาคมของปีหนึ่ง ถึงวันที่ 30 กันยายน ของปีถัดไป และให้ใช้ปี พ.ศ. ที่ถัดไปนั้นเป็นชื่อสำหรับปีงบประมาณนั้น2 1 สำนักงานศาลยุติธรรม. (ด่วนที่สุด ที่ ศย 015/ว 182 (ป) ลงวันที่ 20 ธันวาคม 2561). แนวปฏิบัติการรายงาน ผลการ ดำเนินงานและการใช้จ่ายเงิน (รายไตรมาส) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562. 2 สำนักงบประมาณ. (ด่วนที่สุด ที่ นร 0702/ว 112 ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2562). ระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. 2562. หน้า 1. 1. การจัดท า งบประมาณ (ก.ย. - ธ.ค. 64) 2. การอนุมัติ งบประมาณ (มิ.ย. 65 - ก.ค. 65) 3. การบริหาร งบประมาณ (1 ต.ค. 65 - 30 ก.ย. 66) 4. การรายงานผล - ธ.ค. 65 - มี.ค. 66 - มิ.ย. 66 - ก.ย. 66 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566* 1 ต.ค.65 – 30 ก.ย. 66
12 ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม บทที่ 3 การบริหารงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรมได้กำหนดให้การบริหารงบประมาณมี 4 ขั้นตอน คือ 1. การแจ้งแผนการใช้จ่ายงบประมาณ และรายละเอียดประกอบแผนการใช้จ่าย งบประมาณ 2. การโอนงบประมาณ 3. การควบคุมและเบิกจ่ายงบประมาณ 4. การของบประมาณเพิ่มเติมระหว่างปี โดยแต่ละขั้นตอนมีรายละเอียด ดังนี้ 3.1 การแจ้งแผนการใช้จ่ายงบประมาณ และรายละเอียดประกอบ แผนการใช้จ่ายงบประมาณ เมื่อคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมได้อนุมัติแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีแล้ว สำนักงานศาลยุติธรรม (สำนักแผนงานและงบประมาณ) จะแจ้งให้หน่วยงานในสังกัด สำนักงานศาลยุติธรรมที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณทราบวงเงินงบประมาณที่หน่วยงานได้รับ ตามแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปี โดยสำนักงานศาลยุติธรรมกำหนดให้มีการแจ้งรายละเอียดประกอบ แผนการใช้จ่ายงบประมาณ 2 ครั้ง ดังนี้ ครั้งที่ 1 สำหรับระยะเวลา 6 เดือนแรก (ตุลาคม - มีนาคม) แจ้งในช่วง ต้นเดือนตุลาคมของทุกปี ครั้งที่ 2 สำหรับระยะเวลา 6 เดือนหลัง (เมษายน - กันยายน) แจ้งในช่วง ต้นเดือนเมษายนของทุกปี 3.2 การโอนงบประมาณ หน่วยเบิกจ่ายสำหรับการโอนงบประมาณ มีดังนี้ 3.๒.1 หน่วยงานส่วนกลาง สำนักการคลังเป็นหน่วยเบิกจ่ายงบประมาณในงานประจำหรือ โครงการที่หน่วยงานส่วนกลางได้รับจัดสรรหรือเป็นหน่วยดำเนินการ โดยสำนักงาน ศาลยุติธรรม (สำนักแผนงานและงบประมาณ) จะแจ้งโอนเงินเป็นรายไตรมาส หรือโอนเงิน มาตั้งจ่ายทั้งวงเงินงบประมาณให้แก่หน่วยงานต่างๆ โดยหน่วยงานสามารถดำเนินการและ ขออนุมัติเบิกจ่ายจากสำนักการคลัง กรณีรายการที่ต้องมีการจัดซื้อจัดจ้าง ให้หน่วยงานแจ้ง สำนักบริหารทรัพย์สินเพื่อดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างด้วย
13 ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมเป็นหน่วย เบิกจ่ายงบประมาณที่สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมได้รับการจัดสรร โดยสำนักงานศาลยุติธรรม (สำนักแผนงานและงบประมาณ) จะแจ้งโอนเงินเป็นรายไตรมาส หรือโอนเงินมาตั้งจ่ายทั้งวงเงินงบประมาณ ยกเว้นค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร รายการเงินเดือน ข้าราชการ ค่าจ้างลูกจ้างประจำ และเงินอื่นที่จ่ายควบกับเงินเดือนข้าราชการ ลูกจ้างประจำ ซึ่งสำนักงานศาลยุติธรรม (สำนักแผนงานและงบประมาณ) จะแจ้งโอนเงินงบประมาณไปตั้งจ่าย เป็นรายไตรมาสที่สำนักการคลัง ศาลฎีกาเป็นหน่วยเบิกจ่ายงบประมาณที่สำนักประธานศาลฎีกา และสำนักคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาลได้รับจัดสรร โดยสำนักงาน ศาลยุติธรรม (สำนักแผนงานและงบประมาณ) จะแจ้งโอนเงินเป็นรายไตรมาส หรือโอนเงินมา ตั้งจ่ายทั้งวงเงินงบประมาณที่ศาลฎีกา ยกเว้นค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร รายการเงินเดือนข้าราชการ ค่าจ้างลูกจ้างประจำ และเงินอื่นที่จ่ายควบกับเงินเดือนข้าราชการ ลูกจ้างประจำ ซึ่งสำนักงาน ศาลยุติธรรม (สำนักแผนงานและงบประมาณ) จะแจ้งโอนเงินงบประมาณไปตั้งจ่ายเป็นรายไตรมาส ที่สำนักการคลัง 3.2.2 ศาลสูงและศาลไม่สังกัดภาค สำหรับงบประมาณในงานประจำ/โครงการที่ศาลสูงและ ศาลไม่สังกัดภาคได้รับจัดสรรหรือเป็นหน่วยดำเนินการ ศาลนั้นจะเป็นหน่วยเบิกจ่าย โดยสำนักงานศาลยุติธรรม (สำนักแผนงานและงบประมาณ) จะแจ้งโอนเงินเป็นรายไตรมาส หรือโอนเงินมาตั้งจ่ายทั้งวงเงินงบประมาณ ยกเว้นค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร รายการเงินเดือน ข้าราชการ ค่าจ้างลูกจ้างประจำ และเงินอื่นที่จ่ายควบกับเงินเดือนข้าราชการ ลูกจ้างประจำ ซึ่งสำนักงานศาลยุติธรรม (สำนักแผนงานและงบประมาณ) จะแจ้งโอนเงินงบประมาณไปตั้งจ่าย เป็นรายไตรมาสที่สำนักการคลัง 3.2.3 ภาคและศาลในสังกัดภาค สำหรับงบประมาณในงานประจำ/โครงการที่ภาคและศาลใน สังกัดภาคได้รับจัดสรรหรือเป็นหน่วยดำเนินการ ภาคและศาลในสังกัดภาค นั้นจะเป็น หน่วยเบิกจ่าย โดยวิธีการโอนงบประมาณ มี 2 วิธี คือ 1) สำนักงานศาลยุติธรรม (สำนักแผนงานและงบประมาณ) แจ้ง โอนเงินเป็นรายไตรมาสให้แก่ภาคและศาลในสังกัดภาค ซึ่งภาคและศาลในสังกัดภาคสามารถ ดำเนินการและเบิกจ่ายได้โดยตรง ยกเว้นค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร รายการเงินเดือนข้าราชการ ค่าจ้างลูกจ้างประจำ และเงินอื่นที่จ่ายควบกับเงินเดือนข้าราชการ ลูกจ้างประจำ ซึ่งสำนักงาน ศาลยุติธรรม (สำนักแผนงานและงบประมาณ) จะแจ้งโอนเงินงบประมาณไปตั้งจ่ายเป็นรายไตร มาสที่สำนักการคลัง 2) สำนักงานศาลยุติธรรม (สำนักแผนงานและงบประมาณ) แจ้งวงเงินงบประมาณที่ภาคเป็นหน่วยพิจารณาอนุมัติงบประมาณ เมื่อภาคพิจารณาแล้ว แจ้งสำนักการคลังโอนเงินงบประมาณไปยังภาคหรือศาลในสังกัดภาคที่ได้รับอนุมัติงบประมาณ เพื่อดำเนินการและเบิกจ่ายต่อไป
14 ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม 3.3 การควบคุมและเบิกจ่ายงบประมาณ เมื่อหน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรมได้รับงบประมาณที่ สำนักการคลังโอนมาตั้งจ่ายแล้วให้พิจารณาว่าเป็นค่าใช้จ่ายประเภทใด (ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร ค่าใช้จ่ายด้านบริหารจัดการ หรือค่าใช้จ่ายด้านลงทุน) และเป็นงบประมาณจากแหล่งใด (เงินงบประมาณ ค่าธรรมเนียมศาลเพื่อเสริมงบประมาณ เงินค่าปรับผู้ประกันเพื่อเสริม งบประมาณ หรือเงินทุนสำรองจ่าย) ตามที่ระบุไว้ในแผนการใช้จ่ายงบประมาณ และจัดทำ ทะเบียนคุมงบประมาณของแต่ละงาน/กิจกรรม หรือโครงการตามที่ได้รับแจ้งจัดสรรงบประมาณ และเบิกจ่ายตามแนวทางที่กำหนดสำหรับงาน/กิจกรรม หรือโครงการ ทั้งนี้หน่วยงานในสังกัด สำนักงานศาลยุติธรรมจะต้องควบคุมการใช้จ่ายให้อยู่ในวงเงินงบประมาณที่หน่วยงานได้รับ จัดสรร โดยการเบิกจ่ายงบประมาณทุกงาน/โครงการจะต้องเป็นไปตามระเบียบเบิกจ่าย หลักเกณฑ์และแนวทางการใช้จ่ายงบประมาณ หรือมติของคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม แล้วแต่กรณีโดยเคร่งครัด 3.4 การของบประมาณเพิ่มเติมระหว่างปี หน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรมควรวางแผนการใช้จ่ายงบประมาณ และควบคุมการใช้จ่ายงบประมาณให้อยู่ภายในวงเงินงบประมาณของแต่ละประเภทงบประมาณ ที่ได้รับจัดสรร โดยวางแผนใช้จ่ายงบประมาณในส่วนของค่าใช้จ่ายที่มีภาระผูกพันและในรายการ ที่มีความจำเป็นสูงเป็นลำดับแรก และวางแผนวงเงินงบประมาณที่เหลือเป็นลำดับรองลงมา ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นให้งบประมาณที่ได้รับไม่เพียงพอ หรือต้องจัดทำ โครงการตามกฎหมายใหม่ หรือหน่วยงานมีภารกิจจำเป็นเร่งด่วน ประสงค์จะขอรับจัดสรร งบประมาณเพิ่มเติม สามารถจัดทำคำของบประมาณเพิ่มเติม ดังนี้ 3.4.1 แบบฟอร์มที่ใช้ในการของบประมาณงาน/โครงการ เพิ่มเติม รายละเอียด อยู่ในบทที่ 6 3.4.2 ระยะเวลาการของบประมาณเพิ่มเติมระหว่างปีดังนี้ หน่วยงานส่วนกลาง ให้จัดส่งคำของบประมาณเพิ่มเติมไปยังสำนักแผนงานและ งบประมาณภายในวันที่ 5 ของเดือนสุดท้ายของแต่ละไตรมาส ศาลสูงและศาลไม่สังกัดภาค ให้จัดส่งคำของบประมาณเพิ่มเติมไปยังสำนักงานศาลยุติธรรม ภายในวันที่ 5 ของเดือนสุดท้ายของแต่ละไตรมาส ศาลในสังกัดภาค ให้จัดส่งคำของบประมาณเพิ่มเติมไปยังสำนักศาลยุติธรรมประจำภาค ภายในวันที่ 5 ของเดือนสุดท้ายของแต่ละไตรมาส ภาค รวบรวม ตรวจสอบและปรับปรุงแก้ไขก่อนจัดส่งคำของบประมาณ เพิ่มเติมของศาลในสังกัดภาคและภาคไปยังสำนักงานศาลยุติธรรม ภายในวันที่ 10 ของเดือนสุดท้ายของแต่ละไตรมาส
15 ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ จะเสนออนุมัติภายในวันที่ 17 ของเดือนสุดท้ายของแต่ละไตรมาส หากหน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรม จัดส่งมาเกินระยะเวลาที่กำหนดในไตรมาสที่ 1 - 3 สำนักแผนงานและงบประมาณจะเสนออนุมัติในไตรมาสถัดไป ส่วนไตรมาสที่ 4 ซึ่งเป็นไตรมาส สุดท้าย หากหน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรม จัดส่งมาเกินระยะเวลาที่กำหนด จะไม่ได้รับ การพิจารณาอนุมัติงบประมาณ เนื่องจากมีระยะเวลาจำกัดในการพิจารณาอนุมัติและโอนเงิน งบประมาณ
16 ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม บทที่ 4 หลักเกณฑ์และแนวทางการใช้จ่ายงบประมาณ งานประจำ งบประมาณงานประจำ ประกอบด้วย จำนวน 10 งาน 21 กิจกรรม ดังนี้ ยุทธศาสตร์ T เชื่อมั่นศรัทธาการอำนวยความยุติธรรม (Trusted Justice) งานที่ 1 งานพิจารณาพิพากษาคดี กิจกรรมที่ 1.1 พิจารณาพิพากษาคดี งานที่ 2 งานประสานความร่วมมือทางกฎหมาย กิจกรรมที่ 2.1 ความร่วมมือทางกฎหมายและการศาลระหว่างประเทศ งานที่ 3 งานบริหารงานบุคคลและพัฒนาข้าราชการตุลาการศาลชำนัญพิเศษ กิจกรรมที่ 3.1 การคัดเลือกและอบรมเพื่อเป็นผู้พิพากษาสมทบ งานที่ 4 งานระงับข้อพิพาท กิจกรรมที่ 4.1 ไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาท ยุทธศาสตร์ R เชื่อถือในระดับสากล (Reliability) งานที่ 1 งานช่วยเหลือและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของคู่ความตามกฎหมาย กิจกรรมที่ 1.1 ช่วยเหลือและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของคู่ความตามกฎหมาย งานที่ 2 งานประชาสัมพันธ์ศาลยุติธรรม กิจกรรมที่ 2.1 ประชาสัมพันธ์งานศาลยุติธรรม ยุทธศาสตร์ S พัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainability) งานที่ 1 งานอำนวยการ กิจกรรมที่ 1.1 ส่งเสริมและปฏิบัติงานตามนโยบายประธานศาลฎีกา และปฏิบัติงานตามระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม กิจกรรมที่ 1.2 สนับสนุนการพิจารณาพิพากษาคดีและบริหารทั่วไป กิจกรรมที่ 1.3 จ้างเหมารักษาความปลอดภัยอาคารและสถานที่ กิจกรรมที่ 1.4 จ้างเหมารักษาความสะอาด กิจกรรมที่ 1.5 จัดหาวัสดุ หนังสือ ตำรากฎหมาย และเอกสารอื่น
17 ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม ยุทธศาสตร์ S พัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainability) กิจกรรมที่ 1.6 จัดหาครุภัณฑ์ กิจกรรมที่ 1.7 ปรับปรุงซ่อมแซมอาคารศาล สถานที่ และบ้านพัก กิจกรรมที่ 1.8 บริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ กิจกรรมที่ 1.9 เงินสำรองเพื่อการบริหารจัดการและการดำเนินงานตามนโยบาย งานที่ 2 งานประสานความร่วมมือด้านการยุติธรรม กิจกรรมที่ 2.1 พัฒนาบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม ยุทธศาสตร์ T เปลี่ยนผ่านสู่อนาคต (Transformation) งานที่ 1 งานบริหารงานบุคคลและพัฒนาข้าราชการตุลาการศาลยุติธรรมและดะโต๊ะยุติธรรม กิจกรรมที่ 1.1 สรรหาบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการตุลาการและดะโต๊ะยุติธรรม กิจกรรมที่ 1.2 คัดเลือกและสนับสนุนการปฏิบัติงานของผู้พิพากษาอาวุโส กิจกรรมที่ 1.3 ฝึกอบรมและสัมมนาข้าราชการตุลาการศาลยุติธรรม งานที่ 2 งานบริหารงานบุคคลและพัฒนาข้าราชการศาลยุติธรรม กิจกรรมที่ 2.1 บริหารงานบุคคลข้าราชการศาลยุติธรรม กิจกรรมที่ 2.2 พัฒนาข้าราชการศาลยุติธรรม
18 ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม ยุทธศาสตร์ T เชื่อมั่นศรัทธาการอำนวยความยุติธรรม (Trusted Justice) งานที่ 1 งานพิจารณาพิพากษาคดี กิจกรรมที่ 1.1 กิจกรรมพิจารณาพิพากษาคดี ประกอบด้วยงบประมาณ ๒ ประเภท คือ ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร และค่าใช้จ่าย ด้านบริหารจัดการ ซึ่งงบประมาณแต่ละประเภทจัดสรรสำหรับค่าใช้จ่ายรายการต่างๆ โดยมีแนวทางการดำเนินงาน ดังนี้ ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร สำหรับเป็นค่าใช้จ่าย 11 รายการ ดังนี้ 1) เงินเดือนผู้พิพากษา 2) เงินเดือนผู้พิพากษาอาวุโส 3) เงินเดือนดะโต๊ะยุติธรรม 4) เงินประจำตำแหน่งผู้พิพากษา 5) เงินประจำตำแหน่งผู้พิพากษาอาวุโส 6) เงินประจำตำแหน่งดะโต๊ะยุติธรรม 7) เงินเลื่อนชั้นของข้าราชการตุลาการ 8) เงินสวัสดิการสำหรับการปฏิบัติงานประจำหน่วยงานในพื้นที่พิเศษของ ข้าราชการตุลาการและดะโต๊ะยุติธรรม 9) ค่าตอบแทนพิเศษรายเดือนสำหรับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่พิเศษในเขตจังหวัด ภาคใต้ของข้าราชการตุลาการและดะโต๊ะยุติธรรม 10) เงินเพิ่มสู้รบ (พ.ส.ร.) 11) ค่าตอบแทนที่ปรึกษาในศาลสูง ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรถัวจ่ายกันได้ภายใต้กิจกรรมนี้เท่านั้น การโอนงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรมจะตั้งงบประมาณไว้ที่สำนักการคลัง ยกเว้นเงินเดือนและ เงินประจำตำแหน่งดะโต๊ะยุติธรรม เงินสวัสดิการสำหรับการปฏิบัติงานประจำหน่วยงานใน พื้นที่พิเศษของข้าราชการตุลาการและดะโต๊ะยุติธรรม ค่าตอบแทนพิเศษรายเดือนสำหรับ ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่พิเศษในเขตจังหวัดภาคใต้ และค่าตอบแทนที่ปรึกษาในศาลสูง สำนักงาน ศาลยุติธรรมจะโอนงบประมาณไปตั้งจ่ายที่ศาลเป็นรายไตรมาส การของบประมาณเพิ่มเติม ในกรณีที่หน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรมตรวจสอบแล้วปรากฏว่า ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรไม่เพียงพอ หน่วยงานในสังกัดฯ สามารถของบประมาณเพิ่มเติม ซึ่งมีขั้นตอน การดำเนินการ ดังนี้ 1.
19 ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม หน่วยงานส่วนกลาง สำนักการคลังจัดทำคำของบประมาณเพิ่มเติม ตามแบบ ขงป. 1 แจ้งไปยัง สำนักแผนงานและงบประมาณภายในระยะเวลาที่กำหนด ศาลสูง ศาลไม่สังกัดภาค ศาลจัดทำคำของบประมาณเพิ่มเติม ตามแบบ ขงป. 1 แจ้งไปยังสำนักงาน ศาลยุติธรรม (สำนักแผนงานและงบประมาณ) ภายในระยะเวลาที่กำหนด ศาลในสังกัดภาค ศาลจัดทำคำของบประมาณเพิ่มเติมตามแบบ ขงป. 1 ส่งไปยังสำนักศาลยุติธรรม ประจำภาค สำนักศาลยุติธรรมประจำภาค สำนักศาลยุติธรรมประจำภาควิเคราะห์ กลั่นกรอง ตรวจสอบความถูกต้อง และเหตุผลความจำเป็นในการของบประมาณ หากตรวจสอบแล้วว่าถูกต้อง เหมาะสม ให้สำนัก ศาลยุติธรรมประจำภาคจัดทำคำของบประมาณเพิ่มเติมตามแบบ จส. 2 (พร้อมแนบแบบ ขงป. 1 ที่ศาลของบประมาณเพิ่มเติม) ส่งไปยังสำนักงานศาลยุติธรรม ภายในระยะเวลาที่กำหนด สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักแผนงานและงบประมาณวิเคราะห์ ตรวจสอบความถูกต้องแล้วเสนอ ผู้อำนวยการสำนักแผนงานและงบประมาณพิจารณาอนุมัติงบประมาณ และแจ้งสำนักการคลัง โอนงบประมาณให้หน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรมต่อไป เนื่องจากเป็นค่าใช้จ่ายตามสิทธิ ค่าใช้จ่ายด้านบริหารจัดการ สำหรับเป็นค่าใช้จ่าย 3 รายการ ดังนี้ 1) ค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่งสำหรับข้าราชการตุลาการ 2) ค่าเช่ารถประจำตำแหน่งสำหรับข้าราชการตุลาการ 3) ค่าเช่าบ้านสำหรับข้าราชการตุลาการและดะโต๊ะยุติธรรม ค่าใช้จ่ายด้านบริหารจัดการถัวจ่ายกันได้ภายใต้กิจกรรมนี้เท่านั้น การโอนงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรมจะตั้งงบประมาณรายการที่ 1 – 2 ไว้ที่สำนักการคลัง ซึ่งเป็นหน่วยเบิกจ่าย สำหรับรายการที่ 3 สำนักงานศาลยุติธรรมจะโอนงบประมาณไปตั้งจ่าย เป็นรายไตรมาสที่สำนักการคลังสำหรับหน่วยงานส่วนกลาง ศาลสูง ศาลไม่สังกัดภาค สำนัก ศาลยุติธรรมประจำภาคและศาลในสังกัดภาค 2.
20 ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม การของบประมาณเพิ่มเติม ในกรณีที่หน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรมตรวจสอบพบว่า ค่าใช้จ่าย ด้านบริหารจัดการไม่เพียงพอ หน่วยงานในสังกัดฯ สามารถของบประมาณเพิ่มเติม ซึ่งมีขั้นตอน การดำเนินการ ดังนี้ หน่วยงานส่วนกลาง หน่วยเบิกจ่ายจัดทำคำของบประมาณเพิ่มเติมตามแบบ ขงป. 2/1 แจ้งไปยัง สำนักแผนงานและงบประมาณภายในระยะเวลาที่กำหนด ศาลสูง ศาลไม่สังกัดภาค ศาลจัดทำคำของบประมาณเพิ่มเติมตามแบบ ขงป. 2/1 แจ้งไปยังสำนักงาน ศาลยุติธรรม (สำนักแผนงานและงบประมาณ) ภายในระยะเวลาที่กำหนด ศาลในสังกัดภาค ศาลจัดทำคำของบประมาณเพิ่มเติมตามแบบ ขงป. 2/1 ส่งไปยังสำนัก ศาลยุติธรรมประจำภาค สำนักศาลยุติธรรมประจำภาค สำนักศาลยุติธรรมประจำภาควิเคราะห์ กลั่นกรอง ตรวจสอบความถูกต้อง และเหตุผลความจำเป็นในการของบประมาณ หากตรวจสอบแล้วว่า ถูกต้อง เหมาะสม ให้เสนออธิบดีผู้พิพากษาภาคที่สังกัดอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมจากวงเงินของงาน/กิจกรรม ที่ตั้งไว้ที่สำนักศาลยุติธรรมประจำภาค เมื่ออธิบดีผู้พิพากษาภาคพิจารณาอนุมัติแล้วให้แจ้งหน่วยงานต่างๆ ตาม แบบการอนุมัติจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมจากวงเงินของกิจกรรมนั้นๆ พร้อมแนบแบบการอนุมัติ จัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมจากวงเงินที่กำหนดไว้ที่ภาคตามแบบ จส. 1 ตามระยะเวลาที่กำหนด ส่งให้หน่วยงาน ดังนี้ 1) สำนักการคลัง เพื่อโอนเงินไปตั้งจ่ายให้ศาล 2) สำนักแผนงานและงบประมาณ เพื่อทราบวงเงินที่ภาคได้อนุมัติจัดสรร (พร้อมแนบแบบ ขงป. 2/1 ที่ศาลของบประมาณเพิ่มเติม) 3) ศาลในสังกัดที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม ในกรณีที่สำนักศาลยุติธรรมประจำภาคมีวงเงินไม่เพียงพอ ให้จัดทำคำขอ งบประมาณเพิ่มเติมตามแบบ จส.3 (พร้อมแนบ ขงป. 2/1 ที่ศาลของบประมาณเพิ่มเติม) ตามระยะเวลาที่กำหนด ส่งให้สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักแผนงานและงบประมาณวิเคราะห์ ตรวจสอบความถูกต้องแล้วเสนอ ผู้อำนวยการสำนักแผนงานและงบประมาณพิจารณาอนุมัติงบประมาณ และแจ้งสำนักการคลัง โอ น งบ ป ระม าณ ให้ ห น่ วย งาน ใน สั งกั ด ส ำนั ก งาน ศ าล ยุ ติ ธรรม ต่ อ ไป เนื่ อ งจาก เป็นค่าใช้จ่ายตามสิทธิ
21 ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม ยุทธศาสตร์ T เชื่อมั่นศรัทธาการอำนวยความยุติธรรม (Trusted Justice) งานที่ 2 งานประสานความร่วมมือทางกฎหมาย กิจกรรมที่ 2.1 กิจกรรมความร่วมมือทางกฎหมายและการศาลระหว่างประเทศ ประกอบด้วยงบประมาณ 1 ประเภท คือ ค่าใช้จ่ายด้านบริหารจัดการ ซึ่งจัดสรร สำหรับค่าใช้จ่ายรายการต่างๆ โดยมีแนวทางการดำเนินงาน ดังนี้ ค่าใช้จ่ายด้านบริหารจัดการ จัดสรรสำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ 1) เจรจาจัดทำความตกลงว่าด้วยความช่วยเหลือทางการศาลในคดีแพ่งและพาณิชย์ 2) เจรจาจัดทำความตกลงทางวิชาการกับหน่วยงานต่างประเทศ 3) เจรจาจัดทำสนธิสัญญาว่าด้วยความร่วมมือทางกฎหมายและการศาลระหว่าง ประเทศ 4) ประชุม/ฝึกอบรม/สัมมนาทางวิชาการทางการศาลและการยุติธรรมระหว่าง ประเทศ (ในประเทศ/ต่างประเทศ) 5) ศึกษาดูงานต่างประเทศทางวิชาการและการยุติธรรมร่วมกับหน่วยงานอื่น 6) ประชุม/ฝึกอบรม/สัมมนาทางวิชาการเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และ ความร่วมมือกับเครือข่ายทางวิชาการ (ในประเทศ) การโอนงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรมจะตั้งงบประมาณไว้ที่สำนักการคลัง โดยมีสำนัก การต่างประเทศเป็นหน่วยงานรับผิดชอบดำเนินการ การขออนุมัติปรับเปลี่ยนรายละเอียด ในกรณีที่หน่วยงานตรวจสอบค่าใช้จ่ายด้านการบริหารจัดการ กิจกรรมความร่วมมือ ทางกฎหมายและการศาลระหว่างประเทศแล้ว และมีเหตุผลในการขอเปลี่ยนแปลง/แก้ไข/ขอ งบประมาณเพิ่มเติม ให้จัดทำคำขอปรับเปลี่ยนรายละเอียดงานประจำ ตามแบบขอปรับเปลี่ยน รายละเอียดงานประจำ พร้อมระบุเหตุผลที่ขอปรับเปลี่ยน แจ้งไปยังสำนักแผนงาน และ งบประมาณเพื่อเสนอเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมต่อไป ทั้งนี้ กรณีการปรับเปลี่ยนรายการ เป้าหมาย กิจกรรมและงบประมาณภายใต้ กิจกรรมความร่วมมือทางกฎหมายและการศาลระหว่างประเทศ ที่ไม่กระทบกับวัตถุประสงค์ ของกิจกรรม ให้เสนอเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมพิจารณา แต่กรณีที่หน่วยงานมีเหตุจำเป็น ต้องปรับเปลี่ยนวัตถุประสงค์กิจกรรมไปจากเดิม สำนักแผนงานและงบประมาณจะพิจารณาเสนอ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมเพื่อนำเรื่องเสนอคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมพิจารณา ตามระเบียบคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมว่าด้วยการงบประมาณ พ.ศ. 2544 และที่แก้ไข เพิ่มเติม
22 ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม ยุทธศาสตร์ T เชื่อมั่นศรัทธาการอำนวยความยุติธรรม (Trusted Justice) งานที่ ๓ งานบริหารงานบุคคลและพัฒนาข้าราชการตุลาการศาลชำนัญพิเศษ กิจกรรมที่ ๓.๑ กิจกรรมการคัดเลือกและอบรมเพื่อเป็นผู้พิพากษาสมทบ ประกอบด้วยงบประมาณ 1 ประเภท คือ ค่าใช้จ่ายด้านบริหารจัดการ ซึ่งจัดสรร สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายรายการต่างๆ โดยมีแนวทางการดำเนินงาน ดังนี้ ค่าใช้จ่ายด้านบริหารจัดการ จัดสรรสำหรับรายการค่าใช้จ่ายในการดำเนินการคัดเลือกและ อบรมเพื่อเป็นผู้พิพากษาสมทบ ดังนี้ 1) ขั้นตอนการแต่งตั้งคณะกรรมการฯ - การประชุมคณะกรรมการฯ 2) ขั้นตอนการคัดเลือกบุคคลภายนอกเพื่อดำรงตำแหน่งเป็นผู้พิพากษาสมทบ - การรับสมัคร - การอบรมภาควิชาการ - การสอบข้อเขียนและสอบปากเปล่า - การสรุปผลการคัดเลือก - การประชุมคณะอนุกรรมการฯ - การประชุมคณะกรรมการ 3) ขั้นตอนเมื่อได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้พิพากษาสมทบแล้ว - การอบรมปฐมนิเทศ - การปฏิญาณตน ฯลฯ ค่าใช้จ่ายด้านบริหารจัดการถัวจ่ายกันได้ภายใต้กิจกรรมนี้เท่านั้น การโอนงบประมาณ เมื่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้า ระหว่างประเทศกลาง ศาลแรงงานกลางและศาลแรงงานภาค 1 – 9 ทราบกำหนดการที่แน่นอน ในการดำเนินการคัดเลือกและอบรมผู้พิพากษาสมทบ และแจ้งขอรับการจัดสรรงบประมาณ พร้อมรายละเอียดการคำนวณงบประมาณเสนอขอไปยังสำนักงานศาลยุติธรรมแล้ว สำนัก แผนงานและงบประมาณจะเสนอเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมพิจารณาอนุมัติงบประมาณ ต่อไป
23 ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม ยุทธศาสตร์ T เชื่อมั่นศรัทธาการอำนวยความยุติธรรม (Trusted Justice) งานที่ 4 งานระงับข้อพิพาท กิจกรรมที่ 4.1 กิจกรรมไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาท ประกอบด้วยงบประมาณ ๒ ประเภท คือ ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร และค่าใช้จ่าย ด้านบริหารจัดการ ซึ่งงบประมาณแต่ละประเภทจัดสรรสำหรับค่าใช้จ่ายรายการต่างๆ โดยมีแนวทาง การดำเนินงาน ดังนี้ ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร สำหรับเป็นค่าจ้างลูกจ้างชั่วคราวหรือพนักงานราชการเพื่อปฏิบัติงาน ด้านไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาทในศาล ประกอบด้วยรายการค่าใช้จ่าย ดังนี้ 1) ค่าจ้างชั่วคราว ค่าตอบแทนพนักงานราชการ เพื่อปฏิบัติงานไกล่เกลี่ย 2) เงินเลื่อนค่าตอบแทน 3) เงินสวัสดิการสำหรับผู้ปฏิบัติงานประจำหน่วยงานในพื้นที่พิเศษของลูกจ้างชั่วคราว และพนักงานราชการ 4) ค่าตอบแทนพิเศษรายเดือนสำหรับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่พิเศษในเขต จังหวัดภาคใต้ของลูกจ้างชั่วคราวและพนักงานราชการ 5) เงินสมทบกองทุนประกันสังคมส่วนของนายจ้าง 6) เงินค่าตอบแทนพิเศษ 7) เงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราว ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรถัวจ่ายกันได้ภายใต้กิจกรรมนี้เท่านั้น การโอนงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรมจะตั้งงบประมาณสำหรับหน่วยงานส่วนกลางไว้ที่สำนัก การคลัง และสำนักงานศาลยุติธรรมจะโอนงบประมาณไปตั้งจ่ายที่ศาลสูง ศาลไม่สังกัดภาค สำนักศาลยุติธรรมประจำภาคและศาลในสังกัดภาคเป็นรายไตรมาส การของบประมาณเพิ่มเติม ในกรณีที่หน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรมตรวจสอบแล้วปรากฏว่า ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรไม่เพียงพอ หน่วยงานในสังกัดฯ สามารถของบประมาณเพิ่มเติม ซึ่งมีขั้นตอน การดำเนินการ ดังนี้ หน่วยงานส่วนกลาง สำนักการคลังจัดทำคำของบประมาณเพิ่มเติม ตามแบบ ขงป. 1 แจ้งไปยัง สำนักแผนงานและงบประมาณภายในระยะเวลาที่กำหนด ศาลสูง ศาลไม่สังกัดภาค ศาลจัดทำคำของบประมาณเพิ่มเติม ตามแบบ ขงป. 1 แจ้งไปยังสำนักงาน ศาลยุติธรรม (สำนักแผนงานและงบประมาณ) ภายในระยะเวลาที่กำหนด 1.
24 ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม ศาลในสังกัดภาค ศาลจัดทำคำของบประมาณเพิ่มเติมตามแบบ ขงป. 1 ส่งไปยังสำนักศาลยุติธรรม ประจำภาค สำนักศาลยุติธรรมประจำภาค สำนักศาลยุติธรรมประจำภาควิเคราะห์ กลั่นกรอง ตรวจสอบความถูกต้อง และเหตุผลความจำเป็นในการของบประมาณ หากตรวจสอบแล้วว่า ถูกต้อง เหมาะสม ให้สำนัก ศาลยุติธรรมประจำภาคจัดทำคำของบประมาณเพิ่มเติมตามแบบ จส. 2 (พร้อมแนบแบบ ขงป. 1 ที่ศาลของบประมาณเพิ่มเติม) ส่งไปยังสำนักงานศาลยุติธรรม ภายในระยะเวลาที่กำหนด สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักแผนงานและงบประมาณวิเคราะห์ ตรวจสอบความถูกต้องแล้วเสนอ ผู้อำนวยการสำนักแผนงานและงบประมาณพิจารณาอนุมัติงบประมาณ และแจ้งสำนักการคลัง โอนงบประมาณให้หน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรมต่อไป เนื่องจากเป็นค่าใช้จ่ายตามสิทธิ ค่าใช้จ่ายด้านบริหารจัดการ สำหรับเป็นค่าใช้จ่าย 6 รายการ ดังนี้ 1) ค่าตอบแทนผู้ประนีประนอมคดีครอบครัว 2) ค่าตอบแทนผู้ประนีประนอมคดีอาญา 3) ค่าตอบแทนผู้ประนีประนอมคดีอื่นใดที่อาจระงับข้อพิพาทได้ด้วยการตกลงกัน ของคู่ความ 4) ค่าใช้จ่ายอื่นๆ (ค่าเช่าที่พัก และค่าพาหนะเดินทางของผู้ประนีประนอม) ตามประกาศสำนักงานศาลยุติธรรม เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการจ่ายค่าป่วยการและค่าใช้จ่าย ของผู้ประนีประนอม พ.ศ. 2556 และที่แก้ไขเพิ่มเติม) 5) ค่าตอบแทนผู้ไกล่เกลี่ย (เฉพาะผู้ไกล่เกลี่ยที่ได้รับการขึ้นทะเบียน) 6) ค่าใช้จ่ายอื่นๆ (ค่าเช่าที่พัก และค่าพาหนะเดินทางของผู้ไกล่เกลี่ยตาม ระเบียบกระทรวงยุติธรรม ว่าด้วยการจ่ายค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายอื่นที่จำเป็นในการดำเนินการไกล่ เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2564) ค่าใช้จ่ายด้านบริหารจัดการถัวจ่ายกันได้ภายใต้กิจกรรมนี้เท่านั้น การโอนงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรมจะตั้งงบประมาณไว้ที่ศาลตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ และ กำหนดวงเงินสำรองให้สำนักศาลยุติธรรมประจำภาคสำหรับอนุมัติเพิ่มเติมให้ศาลในสังกัดภาค 2.
25 ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม การของบประมาณเพิ่มเติม ในกรณีงบประมาณไม่เพียงพอ มีขั้นตอนดำเนินการ ดังนี้ ศาลสูง ศาลไม่สังกัดภาค เมื่อศาลจัดทำประมาณการค่าใช้จ่ายที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเป็นรายไตรมาสและ จัดทำคำขอแบบ ขงป. 2/2 แล้ว แจ้งคำขอไปยังสำนักงานศาลยุติธรรมตามระยะเวลาที่กำหนด ศาลในสังกัดภาค เมื่อศาลจัดทำประมาณการค่าใช้จ่ายที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเป็นรายไตรมาสและ จัดทำคำขอแบบ ขงป. 2/2 แล้ว แจ้งคำขอไปยังสำนักศาลยุติธรรมประจำภาคตามระยะเวลา ที่กำหนด สำนักศาลยุติธรรมประจำภาค สำนักงานศาลยุติธรรมกำหนดวงเงินสำรองภาค ภาคละ 5,000,000 บาท เมื่อสำนักศาลยุติธรรมประจำภาควิเคราะห์ กลั่นกรอง ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลและ พิจารณาความเหมาะสมของการของบประมาณเพิ่มเติม เสนออธิบดีผู้พิพากษาภาคที่สังกัด เพื่ออนุมัติจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมจากวงเงินของงาน/กิจกรรม ที่ตั้งไว้ ณ สำนักศาลยุติธรรม ประจำภาคเป็นรายไตรมาส เมื่ออธิบดีผู้พิพากษาภาคพิจารณาอนุมัติแล้ว ให้แจ้งหน่วยงานต่างๆ ตามแบบ การอนุมัติจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมจากวงเงินของกิจกรรมนั้นๆ พร้อมแนบแบบการอนุมัติ จัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมจากวงเงินที่กำหนดไว้ที่ภาคตามแบบ จส. 1 ตามระยะเวลาที่กำหนด ส่งให้หน่วยงาน ดังนี้ 1) สำนักการคลัง เพื่อโอนเงินไปตั้งจ่ายให้ศาล 2) สำนักแผนงานและงบประมาณ เพื่อทราบวงเงินที่ภาคได้อนุมัติจัดสรร (พร้อมแนบแบบ ขงป. 2/2 ที่ศาลของบประมาณเพิ่มเติม) 3) ศาลในสังกัดที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม ในกรณีที่สำนักศาลยุติธรรมประจำภาคมีวงเงินไม่เพียงพอ จัดทำคำขอ งบประมาณเพิ่มเติมตามแบบ จส. 3 (พร้อมแนบแบบ ขงป. 2/2 ที่ศาลของบประมาณเพิ่มเติม) ตามระยะเวลาที่กำหนด ส่งให้สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักแผนงานและงบประมาณวิเคราะห์ ตรวจสอบความถูกต้องแล้วเสนอ ผู้อำนวยการสำนักแผนงานและงบประมาณพิจารณาอนุมัติงบประมาณ และแจ้งสำนักการคลัง โอนงบประมาณให้หน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรม เนื่องจากเป็นค่าใช้จ่ายที่จ่ายตาม จำนวนผู้มีสิทธิแน่นอน
26 ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม ยุทธศาสตร์ R เชื่อถือในระดับสากล (Reliability) งานที่ ๑ งานช่วยเหลือและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของคู่ความตามกฎหมาย กิจกรรมที่ ๑.1 กิจกรรมช่วยเหลือและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของคู่ความตามกฎหมาย ประกอบด้วยงบประมาณ 1 ประเภท คือ ค่าใช้จ่ายด้านบริหารจัดการ ซึ่งจัดสรร สำหรับค่าใช้จ่ายรายการต่างๆ โดยมีแนวทางการดำเนินงาน ดังนี้ ค่าใช้จ่ายด้านบริหารจัดการ จัดสรรสำหรับค่าใช้จ่ายด้านการช่วยเหลือและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของ คู่ความตามกฎหมาย ดังนี้ 1) เงินรางวัลและค่าใช้จ่ายแก่ทนายความที่ศาลตั้งให้ผู้ต้องหาหรือจำเลย ในคดีอาญา 2) เงินรางวัลและค่าใช้จ่ายแก่ทนายความที่ศาลตั้งให้ผู้เสียหายในคดีอาญา 3) ค่าป่วยการทนายความที่ศาลตั้งให้ในคดีครอบครัว 4) ค่าตอบแทนผู้พิพากษาสมทบ 5) ค่าใช้จ่ายในการสืบพยานเด็ก (ค่าตอบแทน และค่าพาหนะเดินทางแก่ นักจิตวิทยาหรือนักสังคมสงเคราะห์) 6) ค่าป่วยการที่ปรึกษากฎหมายที่ศาลตั้งให้แก่เด็กหรือเยาวชนที่เป็นจำเลย 7) ค่าป่วยการผู้เชี่ยวชาญศาล 8) ค่าป่วยการล่าม 9)ค่าป่วยการ ค่าพาหนะเดินทาง และค่าเช่าที่พักแก่พยานที่ศาลเรียกมา 10) ค่าใช้จ่ายในการตรวจพิสูจน์หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 128/1 11) ค่าใช้จ่ายในการตรวจพิสูจน์หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 244/1 12) ค่าตอบแทนแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญที่ตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ (ตามพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2553) 13) ค่าตอบแทนแพทย์ จิตแพทย์ นักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยาหรือ เจ้าพนักงานอื่น (ตามพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชน และครอบครัว พ.ศ. 2553) 14) ค่าป่วยการ ค่าเช่าที่พักและค่าตอบแทนอย่างอื่นของผู้เข้าร่วมประชุม จัดทำแผนแก้ไขบำบัดฟื้นฟูเด็กหรือเยาวชน (ตามพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัว และวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2553) 15) ค่าตอบแทนแก่ผู้ให้บริการในการดำเนินการตามมาตรา 32 มาตรา 57 มาตรา 174 และมาตรา 175 (ตามพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณา คดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2553) 16) ค่าตอบแทนในการส่งคำคู่ความหรือเอกสารโดยเจ้าพนักงานศาล
27 ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม 17) ค่าป่วยการบุคคลหรือคณะบุคคลที่ได้รับแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ 18) ค่าป่วยการ ค่าพาหนะเดินทาง ค่าเช่าที่พัก และค่าตอบแทนอย่างอื่นแก่ผู้ไต่สวนอิสระ 19) เงินรางวัลและค่าใช้จ่ายแก่ทนายความที่รัฐจัดหาให้ผู้ต้องหาในคดีอาญา ค่าใช้จ่ายด้านบริหารจัดการถัวจ่ายกันได้ภายใต้กิจกรรมนี้เท่านั้น การโอนงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรมจะตั้งงบประมาณไว้ที่ศาลตั้งแต่ต้นปีงบประมาณและ กำหนดวงเงินให้สำนักศาลยุติธรรมประจำภาคสำหรับอนุมัติจัดสรรเพิ่มเติมให้ศาลในสังกัดภาค การของบประมาณเพิ่มเติม ในกรณีงบประมาณไม่เพียงพอ มีขั้นตอนดำเนินการ ดังนี้ ศาลสูง ศาลไม่สังกัดภาค ศาลประมาณการค่าใช้จ่ายที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเป็นรายไตรมาส และจัดทำคำขอ แบบ ขงป. 2/3 แล้วแจ้งคำขอไปยังสำนักงานศาลยุติธรรมตามระยะเวลาที่กำหนด ศาลในสังกัดภาค ศาลประมาณการค่าใช้จ่ายที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเป็นรายไตรมาส และจัดทำคำขอ แบบ ขงป. 2/3 แล้ว แจ้งคำขอไปยังสำนักศาลยุติธรรมประจำภาคตามระยะเวลาที่กำหนด สำนักศาลยุติธรรมประจำภาค สำนักงานศาลยุติธรรมกำหนดวงเงินสำรองภาค ภาคละ 10,0000,000 บาท สำนักศาลยุติธรรมประจำภาควิเคราะห์ กลั่นกรอง ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลและพิจารณา ความเหมาะสมของการของบประมาณเพิ่มเติม เสนออธิบดีผู้พิพากษาภาคที่สังกัดเพื่ออนุมัติ จัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมจากวงเงินของงาน/กิจกรรม ที่ตั้งไว้ ณ สำนักศาลยุติธรรมประจำภาค เป็นรายไตรมาส เมื่ออธิบดีผู้พิพากษาภาคพิจารณาอนุมัติแล้ว ให้แจ้งหน่วยงานต่างๆ ตามแบบ การอนุมัติจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมจากวงเงินของกิจกรรมนั้นๆ พร้อมแนบแบบการอนุมัติจัดสรร งบประมาณเพิ่มเติมจากวงเงินที่กำหนดไว้ที่ภาค จส. 1 ตามระยะเวลาที่กำหนด ส่งให้หน่วยงาน ดังนี้ ๑) สำนักการคลัง เพื่อโอนเงินไปตั้งจ่ายให้ศาล ๒) สำนักแผนงานและงบประมาณ เพื่อทราบวงเงินที่ภาคได้อนุมัติจัดสรร (พร้อมแนบแบบ ขงป. 2/3 ที่ศาลของบเพิ่มเติม) ๓) ศาลในสังกัดที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม ในกรณีที่สำนักศาลยุติธรรมประจำภาคมีวงเงินไม่เพียงพอ ให้จัดทำคำขอ งบประมาณเพิ่มเติมตามแบบ จส. 3 (พร้อมแนบแบบ ขงป. 2/3 ที่ศาลของบประมาณเพิ่มเติม) ตามระยะเวลาที่กำหนดส่งให้สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักแผนงานและงบประมาณวิเคราะห์ ตรวจสอบความถูกต้องแล้วเสนอ ผู้อำนวยการสำนักแผนงานและงบประมาณพิจารณาอนุมัติงบประมาณ และแจ้งสำนักการคลัง โอนเงินงบประมาณให้ศาลต่อไป เนื่องจากเป็นค่าใช้จ่ายที่จ่ายตามจำนวนผู้มีสิทธิแน่นอน
28 ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม ยุทธศาสตร์ R เชื่อถือในระดับสากล (Reliability) งานที่ 2 งานประชาสัมพันธ์ศาลยุติธรรม กิจกรรมที่ 2.1 กิจกรรมประชาสัมพันธ์งานศาลยุติธรรม ประกอบด้วยงบประมาณ 1 ประเภท คือ ค่าใช้จ่ายด้านบริหารจัดการ ซึ่งจัดสรร สำหรับค่าใช้จ่ายรายการต่างๆ โดยมีแนวทางการดำเนินงาน ดังนี้ ค่าใช้จ่ายด้านบริหารจัดการ สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการประชาสัมพันธ์งานศาลยุติธรรม 1) กองสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ ดำเนินกิจกรรมประชาสัมพันธ์ งานศาลยุติธรรม โดยมีแนวทางการบริหารและการเบิกจ่ายงบประมาณตามที่สำนักงาน ศาลยุติธรรมกำหนด และมีแนวทางในการดำเนินกิจกรรม ดังนี้ (1) สื่อประชาสัมพันธ์ภายใน - Inside COJ เป็นข่าวประชาสัมพันธ์ที่ลงผ่าน Line Official ส่งให้กับสมาชิก ที่เป็นผู้พิพากษา ข้าราชการและลูกจ้างของศาลยุติธรรม เช่น • ข่าวการโยกย้ายข้าราชการ • ข่าวการประชุม ก.ต. ก.บ.ศ. ก.ศ. ก.จ. • ข่าวการจัดอบรม/ทุนศึกษาต่อต่างประเทศ/สัมมนา • ข่าวสวัสดิการต่างๆ • ข่าวประชาสัมพันธ์จากหน่วยงานต่างๆ ฯลฯ - COJ Alert ใช้เป็นช่องทางให้หน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรมรายงาน เหตุการณ์ฉุกเฉินหรือเหตุการณ์ไม่ปกติที่อาจส่งผลให้บุคลากรของศาลยุติธรรมและสำนักงาน ศาลยุติธรรมได้รับความเสียหายในชีวิต ทรัพย์สินและภาพลักษณ์องค์กร (2) สื่อประชาสัมพันธ์ภายนอก - เว็บไซต์กองสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ www.iprd.coj.go.th เป็น ช่องทางการเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ของกองสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ ประกอบด้วย • ข่าวกิจกรรม/โครงการ • ข่าวประชาสัมพันธ์ที่ส่งมาจากสำนัก/กอง/สถาบัน/ศูนย์หรือหน่วยงาน ศาลต่างๆ •ระเบียบ/ประกาศ/คู่มือ/หนังสือเวียน/แบบฟอร์มต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประชาสัมพันธ์ ฯลฯ - ข่าวแจก (Press Release) เป็นข่าวสารที่ใช้สำหรับส่งให้สื่อมวลชน เพื่อเผยแพร่ต่อไปยังประชาชน ลักษณะของข่าวจะเป็นข่าวเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการพิจารณา พิพากษาคดีของศาลยุติธรรม หรือข่าวรายงาน ให้ทราบถึงกิจกรรม/โครงการ ที่มีผลกระทบต่อสังคม
29 ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม - Facebook เพจสื่อศาล เป็นช่องทางการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร ของศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม รวมถึงการถ่ายทอดสดการอภิปราย/กิจกรรมต่างๆ ของสำนักงานศาลยุติธรรม ผ่าน Facebook เพื่อเผยแพร่ไปยังประชาชนทั่วไปและบุคลากร ภายในองค์กร - Instragram สื่อศาล เป็นช่องทางการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร ของศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรมผ่าน Instragram ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนรุ่นใหม่ - Twitter สื่อศาล เป็นช่องทางการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารของศาล ยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรมผ่าน Twitter ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนรุ่นใหม่ - Youtube : COJ Channel เป็นช่องทางการประชาสัมพันธ์ข้อมูล ข่าวสารของศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรมด้วยรูปแบบ VDO ผ่าน Youtube 2) ศาลทั่วประเทศ ดำเนินกิจกรรมประชาสัมพันธ์งานศาลยุติธรรม ดังนี้ (1) งานประชาสัมพันธ์ภายใน หมายถึง กิจกรรมที่จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ ข้อมูลข่าวสารให้แก่บุคลากรภายในหน่วยงานศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม ผ่านสื่อ ที่ใช้สำหรับการประชาสัมพันธ์ภายใน เช่น สิ่งพิมพ์ภายใน หนังสือเวียน จดหมายข่าว วารสาร ภายใน ป้ายหน้าห้อง เป็นต้น (2) งานประชาสัมพันธ์ภายนอก หมายถึง กิจกรรมที่จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ ข้อมูลข่าวสาร เกี่ยวกับกฎหมาย ศาลยุติธรรม การดำเนินงานของศาลยุติธรรม ให้แก่บุคคลภายนอก หน่วยงานศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม ได้แก่ คู่ความ ทนายความ นักเรียน นักศึกษา หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม บุคคลทั่วไป เป็นต้น ซึ่งเป็นกลุ่มขนาดใหญ่หรือจำนวนมาก จึงต้องใช้สื่อมวลชนเข้ามาช่วยเผยแพร่กระจายข่าวสู่สาธารณชน เช่น หนังสือพิมพ์วิทยุกระจาย เสียง วิทยุโทรทัศน์ ภาพยนตร์ เป็นต้น (3) กรณีการจัดงาน ได้แก่ การจัดงานวันสถาปนาศาลยุติธรรมและการจัด งานวันรพี โดยมีการจัดกิจกรรมในงาน เช่น การจัดนิทรรศการ การจัดบรรยายความรู้เกี่ยวกับ กฎหมาย การแข่งขันตอบปัญหาทางกฎหมาย การประกวดเขียนเรียงความ บทความ การประกวด ศาลจำลอง เป็นต้น ส่วนการจัดงานอื่นๆ นอกเหนือจากการจัดงานวันสถาปนาศาลยุติธรรมและ วันรพี ให้หน่วยงานขออนุมัติจัดงานไปยังสำนักงานศาลยุติธรรมก่อนดำเนินการ โดยหน่วยงาน จะสามารถดำเนินการจัดงานได้ก็ต่อเมื่อสำนักงานศาลยุติธรรมอนุมัติให้จัดงานแล้วเท่านั้น และในกรณีที่เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมอนุมัติให้จัดงานใดๆ สำนักงานศาลยุติธรรมจะแจ้ง รายการ วงเงินที่สามารถเบิกจ่ายจากงบประมาณ งานประชาสัมพันธ์ศาลยุติธรรม หรือแหล่งเงิน งบประมาณอื่น และ/หรือแนวทางในการดำเนินการให้ทราบ การเบิกจ่ายงบประมาณในการดำเนินกิจกรรมประชาสัมพันธ์งานศาลยุติธรรม เป็นไปตาม หนังสือสำนักงานศาลยุติธรรม ที่ ศย ๐๑๕/ว 12๘ (ป) ลงวันที่ 4 ตุลาคม ๒๕๖๕ การโอนงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรมจะตั้งงบประมาณสำหรับหน่วยงานส่วนกลางไว้ที่สำนักการคลัง โดยมีกองสารนิเทศและประชาสัมพันธ์และสำนักแผนงานและงบประมาณเป็นหน่วยรับผิดชอบ และโอนไปตั้งจ่ายที่ภาคและศาลทั่วประเทศตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ
30 ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม ยุทธศาสตร์ S พัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainability) งานที่ 1 งานอำนวยการ กิจกรรมที่ 1.1 กิจกรรมส่งเสริมและปฏิบัติงานตามนโยบายประธานศาลฎีกา และปฏิบัติงานตามระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ประกอบด้วยงบประมาณ ๑ ประเภท คือ ค่าใช้จ่ายด้านบริหารจัดการ ซึ่งจัดสรร สำหรับค่าใช้จ่ายรายการต่างๆ โดยมีแนวทางการดำเนินงาน ดังนี้ ค่าใช้จ่ายด้านบริหารจัดการ จัดสรรสำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ เช่น 1) ประชุม / สัมมนา / ประชุมเชิงปฏิบัติการ / สัมมนาเชิงปฏิบัติการในการ มอบนโยบายประธานฎีกา 2) ประชุม / สัมมนา / ประชุมเชิงปฏิบัติการ / สัมมนาเชิงปฏิบัติการในการ ขับเคลื่อนนโยบายการบริหารศาลยุติธรรมของประธานศาลฎีกา และนำนโยบายประธาน ศาลฎีกาไปปฏิบัติ 3) จัดงานศูนย์การเรียนรู้ทางด้านกฎหมายและกระบวนการทางศาล (ถ้ามี) 4) ประชุมเพื่อตรวจราชการศาลยุติธรรมของประธานศาลฎีกา รองประธาน ศาลฎีกา และประธานแผนกคดีในศาลฎีกา 5) ตรวจราชการศาลยุติธรรมของประธานศาลฎีกา รองประธานศาลฎีกา และ ประธานแผนกคดีในศาลฎีกา การโอนงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรมตั้งงบประมาณไว้ที่ศาลฎีกา โดยสำนักประธานศาลฎีกา เป็น หน่วยรับผิดชอบดำเนินการ การขออนุมัติปรับเปลี่ยนรายละเอียด ในกรณีที่สำนักประธานศาลฎีกามีความประสงค์จะขอปรับเปลี่ยนรายละเอียด กิจกรรมและงบประมาณภายใต้กิจกรรมส่งเสริมการปฏิบัติงานตามนโยบายประธานศาลฎีกาและ ปฏิบัติงานตามระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ขอให้จัดทำแบบขอปรับเปลี่ยน รายละเอียดกิจกรรม พร้อมระบุเหตุผลที่ขอปรับเปลี่ยน แจ้งไปยังสำนักงานศาลยุติธรรม (สำนัก แผนงานและงบประมาณ) เพื่อเสนอเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมต่อไป ทั้งนี้ กรณีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดกิจกรรม เช่น จำนวนหน่วยนับ (จำนวน วัน/ครั้ง/คน) ชื่อกิจกรรมหลัก หรือชื่อกิจกรรมย่อยที่ไม่กระทบกับวัตถุประสงค์ของกิจกรรม ให้เสนอเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมพิจารณา แต่กรณีที่หน่วยงานมีเหตุผลความจำเป็น ต้องปรับเปลี่ยนวัตถุประสงค์ของกิจกรรมไปจากเดิม สำนักแผนงานและงบประมาณจะพิจารณา เสนอเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมเพื่อนำเรื่องเสนอคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม พิจารณาตามระเบียบ ก.บ.ศ. ว่าด้วยการงบประมาณ พ.ศ. 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
31 ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม ยุทธศาสตร์ S พัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainability) งานที่ 1 งานอำนวยการ กิจกรรมที่ 1.๒ กิจกรรมสนับสนุนการพิจารณาพิพากษาคดีและบริหารทั่วไป ประกอบด้วยงบประมาณ 3 ประเภท คือ ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร ค่าใช้จ่าย ด้านบริหารจัดการ และค่าใช้จ่ายด้านลงทุน ซึ่งงบประมาณแต่ละประเภทจัดสรรสำหรับค่าใช้จ่าย รายการต่างๆ โดยมีแนวทางการดำเนินงาน ดังนี้ ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร สำหรับเป็นค่าใช้จ่าย 33 รายการ ดังนี้ 1) เงินเดือนข้าราชการศาลยุติธรรม 2) เงินประจำตำแหน่งข้าราชการศาลยุติธรรม ๓) เงินสวัสดิการสำหรับการปฏิบัติงานประจำหน่วยงานในพื้นที่พิเศษ ของข้าราชการศาลยุติธรรม ๔) ค่าตอบแทนพิเศษรายเดือนสำหรับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่พิเศษในเขต จังหวัดภาคใต้ของข้าราชการศาลยุติธรรม 5) เงินเพิ่มสู้รบ (พ.ส.ร.) 6) เงินเลื่อนขั้นเงินเดือนข้าราชการศาลยุติธรรม 7) ค่าตอบแทนนอกเหนือจากเงินเดือนสำหรับข้าราชการศาลยุติธรรม 8) เงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวของข้าราชการศาลยุติธรรม 9) เงินค่าตอบแทนพิเศษตำแหน่งเจ้าพนักงานคดี 10) เงินค่าตอบแทนพิเศษตำแหน่งเจ้าพนักงานตำรวจศาล 11) ค่าตอบแทนพิเศษตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ (นิติกร พัสดุ การเงินและบัญชี และตรวจสอบภายใน) 12) เงินค่าตอบแทนพิเศษของข้าราชการศาลยุติธรรม 13) ค่าจ้างลูกจ้างประจำ 14) เงินเพิ่มค่าจ้างประจำ 15) เงินสวัสดิการสำหรับการปฏิบัติงานประจำหน่วยงานในพื้นที่พิเศษของ ลูกจ้างประจำ 16) ค่าตอบแทนพิเศษรายเดือนสำหรับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่พิเศษในเขตจังหวัด ภาคใต้ของลูกจ้างประจำ 17) เงินค่าตอบแทนพิเศษลูกจ้างประจำ 18) เงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวของลูกจ้างประจำ 19) ค่าจ้างลูกจ้างชั่วคราว 20) เงินประกันสังคมส่วนของนายจ้างของลูกจ้างชั่วคราว 2๑) เงินสวัสดิการสำหรับการปฏิบัติงานประจำหน่วยในพื้นที่พิเศษของ ลูกจ้างชั่วคราว 2๒) ค่าตอบแทนพิเศษรายเดือนสำหรับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่พิเศษในเขต จังหวัดภาคใต้ของลูกจ้างชั่วคราว 1.
32 ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม 23) เงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวของลูกจ้างชั่วคราว 24) เงินค่าตอบแทนพิเศษลูกจ้างชั่วคราว 25) ค่าตอบแทนพนักงานราชการ 26) เงินเลื่อนค่าตอบแทนพนักงานราชการ 27) เงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวของพนักงานราชการ 28) เงินสวัสดิการสำหรับการปฏิบัติงานประจำหน่วยงานในพื้นที่พิเศษของ พนักงานราชการ 29) ค่าตอบแทนพิเศษรายเดือนสำหรับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่พิเศษในเขตจังหวัด ภาคใต้ของพนักงานราชการ 30) เงินประกันสังคมส่วนของนายจ้างของพนักงานราชการ 31) เงินค่าตอบแทนพิเศษพนักงานราชการศาลยุติธรรม 32) เงินรางวัลประจำปี 33) ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรอื่นๆ ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรถัวจ่ายกันได้ภายใต้กิจกรรมนี้เท่านั้น ยกเว้นรายการ เงินรางวัลประจำปี การโอนงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรมจะตั้งงบประมาณสำหรับเงินเดือนข้าราชการ ค่าจ้าง ลูกจ้างประจำและเงินอื่นที่จ่ายควบกับเงินเดือนข้าราชการและค่าจ้างลูกจ้างประจำของหน่วยงานใน สังกัดสำนักงานศาลยุติธรรม ค่าจ้างลูกจ้างชั่วคราว ค่าตอบแทนพนักงานราชการ เงินอื่นที่จ่าย ควบกับค่าจ้างลูกจ้างชั่วคราวและค่าตอบแทนพนักงานราชการของหน่วยงานส่วนกลางไว้ที่สำนัก การคลัง ยกเว้นค่าจ้างลูกจ้างชั่วคราว ค่าตอบแทนพนักงานราชการ เงินอื่นที่จ่ายควบกับค่าจ้าง ลูกจ้างชั่วคราวและค่าตอบแทนพนักงานราชการของภาคและศาล เงินสวัสดิการสำหรับการ ปฏิบัติงานในพื้นที่พิเศษและค่าตอบแทนพิเศษรายเดือนสำหรับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่พิเศษในเขต จังหวัดภาคใต้ของข้าราชการ ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราวและพนักงานราชการ สำนักงานศาล ยุติธรรมจะโอนงบประมาณไปตั้งจ่ายที่ศาลสูง ศาลไม่สังกัดภาค สำนักศาลยุติธรรมประจำภาค และ ศาลในสังกัดภาคเป็นรายไตรมาส การของบประมาณเพิ่มเติม ในกรณีที่หน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรมตรวจสอบแล้วปรากฏว่า ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรไม่เพียงพอ หน่วยงานในสังกัดฯ สามารถของบประมาณเพิ่มเติม ซึ่งมี ขั้นตอนการดำเนินการ ดังนี้ หน่วยงานส่วนกลาง หน่วยเบิกจ่ายจัดทำคำของบประมาณเพิ่มเติม ตามแบบ ขงป. 1 แจ้งไปยัง สำนักแผนงานและงบประมาณภายในระยะเวลาที่กำหนด
33 ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม ศาลสูง ศาลไม่สังกัดภาค ศาลจัดทำคำของบประมาณเพิ่มเติม ตามแบบ ขงป. 1 แจ้งไปยังสำนักงาน ศาลยุติธรรม (สำนักแผนงานและงบประมาณ) ภายในระยะเวลาที่กำหนด ศาลในสังกัดภาค ศาลจัดทำคำของบประมาณเพิ่มเติมตามแบบ ขงป. 1 ส่งไปยังสำนักศาลยุติธรรม ประจำภาค สำนักศาลยุติธรรมประจำภาค เมื่ออธิบดีผู้พิพากษาภาคพิจารณาอนุมัติแล้วให้แจ้งหน่วยงานต่างๆ ตามแบบการอนุมัติจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมจากวงเงินของกิจกรรมนั้นๆ พร้อมแนบแบบ การอนุมัติจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมจากวงเงินที่กำหนดไว้ที่ภาคตามแบบ จส. 1 ตามระยะเวลา ที่กำหนดส่งให้หน่วยงาน ดังนี้ 1) สำนักการคลัง เพื่อโอนเงินไปตั้งจ่ายให้ศาล 2) สำนักแผนงานและงบประมาณ เพื่อทราบวงเงินที่ภาคได้อนุมัติจัดสรร (พร้อมแนบแบบ ขงป. 1 ที่ศาลของบประมาณเพิ่มเติม) 3) ศาลในสังกัดที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม ในกรณีที่สำนักศาลยุติธรรมประจำภาคมีวงเงินไม่เพียงพอ ให้จัดทำคำขอ งบประมาณเพิ่มเติมตามแบบ จส. 2 (พร้อมแนบ ขงป. 1 ที่ศาลของบประมาณเพิ่มเติม) ตามระยะเวลาที่กำหนดส่งให้สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักแผนงานและงบประมาณวิเคราะห์ตรวจสอบความถูกต้องแล้วเสนอ ผู้อำนวยการสำนักแผนงานและงบประมาณพิจารณาอนุมัติงบประมาณ และแจ้งสำนักการคลัง โอนงบประมาณให้หน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรม เนื่องจากเป็นค่าใช้จ่ายตามสิทธิ ค่าใช้จ่ายด้านบริหารจัดการ หมายถึง รายจ่ายที่กำหนดให้จ่ายเพื่อการบริหารงานประจำ ได้แก่ รายจ่ายที่จ่ายในลักษณะค่าตอบแทน ใช้สอย วัสดุ และสาธารณูปโภค ดังนี้ ค่าตอบแทน หมายถึง เงินที่จ่ายตอบแทนให้แก่ผู้ปฏิบัติงานให้ทางราชการ เช่น 1) ค่าตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ (ปกติ) 2) ค่าตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ (หมายจับหมายค้น) 3) ค่าตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ (เปิดทำการศาลในวันหยุด) 4) ค่าตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ (ปล่อยชั่วคราว) 5) ค่าเบี้ยประชุม 6) ค่าตอบแทนคณะกรรมการที่เกี่ยวกับการพัสดุ 7) ค่าเช่าบ้าน (ไม่รวมตำแหน่งข้าราชการตุลาการและดะโต๊ะยุติธรรม) 8) ค่าเงินรางวัลเจ้าหน้าที่ 9) ค่าตอบแทนพิเศษกรณีเต็มขั้น (เงินเดือนข้าราชการศาลยุติธรรม) 10) ค่าตอบแทนพิเศษกรณีเต็มขั้น (ค่าจ้างลูกจ้างประจำ) 2.
34 ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม 11) ค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่งสำหรับผู้มีสิทธิฯ (ไม่รวมตำแหน่งข้าราชการตุลาการ) 12) ค่าตอบแทนอื่นๆ (ไม่รวมค่าตอบแทนที่กำหนดให้เบิกจ่ายจากค่าใช้จ่าย ด้านบริหารจัดการของกิจกรรมอื่น) ค่าใช้สอย หมายถึง รายจ่ายเพื่อให้ได้มาซึ่งบริการ (ยกเว้นบริการสาธารณูปโภค สื่อสาร และโทรคมนาคม) รายจ่ายจ่ายที่เกี่ยวกับการรับรองและพิธีการ เช่น 13) ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการภายในประเทศ เช่น ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าที่พัก ค่าพาหนะ เป็นต้น รวมถึงค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปนั่งพิจารณาคดีต่างจังหวัดของศาลชำนัญพิเศษ (ยกเว้น ค่าใช้จ่ายในการเดินทางของกิจกรรมฝึกอบรมและสัมมนาฯ และกิจกรรมพัฒนาบุคลากร ในกระบวนการยุติธรรม รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการเดินทางของโครงการที่เกี่ยวกับการฝึกอบรม/สัมมนา/ ประชุมเชิงปฏิบัติการและศึกษาดูงานทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ให้เบิกจ่ายจากเงินของงาน/ โครงการนั้นๆ) 14) ค่าขนย้ายสัมภาระ 15) ค่าซ่อมแซมครุภัณฑ์สำนักงาน และอื่นๆ เพื่อให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ 16) ค่าซ่อมแซมครุภัณฑ์ยานพาหนะและขนส่ง โดยค่าซ่อมแซมทรัพย์สินตามรายการที่ 15 และ 16 หากกรณีเป็น การจ้างเหมาทั้งค่าสิ่งของและค่าแรงงาน ให้จ่ายจากค่าใช้สอย ส่วนกรณีที่ ส่วนราชการเป็นผู้ดำเนินการซ่อมแซมบำรุงรักษาทรัพย์สินเองให้ปฏิบัติ ดังนี้ - ค่าจ้างเหมาแรงงานของบุคคลภายนอกให้จ่ายจากค่าใช้สอย - ค่าสิ่งของที่ส่วนราชการซื้อมาใช้ในการซ่อมแซมบำรุงรักษาทรัพย์สิน ให้จ่ายจากค่าวัสดุ 17) ค่ารับรอง 18) ค่าใช้จ่ายในการประชุม เป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการประชุม ซึ่งสามารถเบิกจ่ายได้ตามระเบียบ คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการประชุมราชการ ศาลยุติธรรม และสำนักงานศาลยุติธรรม นอกเหนือจากค่าเบี้ยประชุม ประกอบด้วย - ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม - ค่าอาหารกลางวัน (ถ้ามี) - ค่าเช่าสถานที่ ฯลฯ 19) ค่าจ้างเหมาเอกชนกำจัดปลวกและแมลง 20) ค่าจ้างเหมาดูแลระบบวิศวกรรมอาคาร 21) ค่าจ้างเหมาดูแลบำรุงรักษาลิฟต์ 22) ค่าจ้างเหมาบริการอื่นๆ เพื่อให้ผู้รับจ้างทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ซึ่งอยู่ใน ความรับผิดชอบของผู้รับจ้าง เช่น ทาสีอาคาร บ้านพัก รั้ว แต่มิใช่เป็นการ
35 ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม ประกอบ ดัดแปลง ต่อเติม หรือปรับปรุงครุภัณฑ์ ที่ดินและสิ่งก่อสร้าง ไม่รวมค่าจ้างเหมารักษาความสะอาด จ้างเหมารักษาความปลอดภัยอาคาร และสถานที่ และค่าใช้จ่ายจ้างเหมาบำรุงรักษาระบบคอมพิวเตอร์พร้อม อุปกรณ์ 23) ค่าเช่าอาคารสถานที่/ค่าเช่าทรัพย์สิน เช่น ค่าเช่าอาคารสิ่งปลูกสร้าง ค่าเช่าที่ดิน ค่าเช่ารับล่วงหน้า ยกเว้นค่าเช่าบ้านและค่าเช่าตู้ไปรษณีย์ 24) ค่าเช่ารถประจำตำแหน่งคณะกรรมการ ก.ต. ก.บ.ศ. ก.ศ. ค่าเช่ารถประจำ ตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ค่าเช่ารถรับรอง และค่าเช่ารถ ส่วนกลาง เป็นต้น ซึ่งไม่รวมอยู่ในกิจกรรมพิจารณาพิพากษาคดี 25) ค่าภาษี เช่น ค่าภาษีโรงเรือน ค่าภาษีรับโอนที่ดิน เป็นต้น 26) ค่าธรรมเนียม ยกเว้น ค่าธรรมเนียมการโอนเงินผ่านธนาคาร 27) ค่าเช่าครุภัณฑ์สำนักงาน 28) ค่าปักเสาพาดสายภายนอกสถานที่ราชการเพื่อให้ราชการได้ใช้บริการไฟฟ้า รวมถึง ค่าติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้า เครื่องวัด (มิเตอร์ไฟฟ้า) และอุปกรณ์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของการไฟฟ้า 29) ค่าจ้างเหมาเดินสายไฟฟ้าและติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าเพิ่มเติม รวมถึงการซ่อมแซม บำรุงรักษาหรือปรับปรุงระบบไฟฟ้า การเพิ่มกำลังไฟฟ้า การขยายเขตไฟฟ้า (ซึ่งมิใช่การติดตั้งครั้งแรก) 30) ค่าวางท่อประปาภายนอกสถานที่ราชการเพื่อให้ราชการได้ใช้บริการ น้ำประปา รวมถึงค่าติดตั้งมาตรวัดน้ำและอุปกรณ์ประปาซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ ของการประปา 31) ค่าจ้างเหมาเดินท่อประปาและติดตั้งอุปกรณ์ประปาเพิ่มเติม รวมถึงการซ่อมแซม บำรุงรักษาหรือปรับปรุงระบบประปา (ซึ่งมิใช่การติดตั้งครั้งแรก) 32) ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งโทรศัพท์พื้นฐาน 33) ค่าขนส่งพัสดุครุภัณฑ์ 34) ค่าผ่านทางด่วนพิเศษ 35) ค่าใช้สอยอื่นๆ เช่น ค่าใช้จ่าย ค่าของขวัญ ค่าพวงมาลัย ช่อดอกไม้ กระเช้า ดอกไม้หรือพวงมาลา ฯลฯ 36) ค่าใช้สอยสำหรับการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ กิจกรรมน้อมรำลึก และ กิจกรรมอื่นๆ ที่มีลักษณะเดียวกัน เช่น ค่าพานพุ่มดอกไม้ ค่าพานประดับ ค่าจ้างเหมาบริการ ตกแต่งสถานที่ เป็นต้น โดยเบิกจ่ายภายในวงเงินงบประมาณที่กำหนด ร่วมกับรายการค่าวัสดุ ข้อ 52 ดังนี้ (1) ศาลฎีกา ไม่เกินวงเงิน 15,000 บาท (ศาลฎีกา 10,000 บาท และสำนักประธานศาลฎีกา 5,000 บาท) (2) ศาลชั้นอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นไม่สังกัดภาค และสำนักงานอธิบดี ผู้พิพากษาภาค ไม่เกินวงเงิน 10,000 บาท (3) นอกเหนือจาก (1) และ (2) ไม่เกินวงเงิน 5,000 บาท
36 ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม ทั้งนี้ สามารถเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายได้เฉพาะกิจกรรมที่สำนักบริหารกลาง กำหนดให้เบิกจ่ายได้เท่านั้น และรายการค่าใช้จ่ายต้องสอดคล้องกับ รูปแบบกิจกรรมที่กำหนด ค่าวัสดุ เช่น 37) ค่าวัสดุสำนักงานและแบบพิมพ์ 38) ค่าวัสดุหนังสือพิมพ์และวารสาร 39) ค่าวัสดุน้ำมันเชื้อเพลิงและหล่อลื่น 40) ค่าวัสดุยานพาหนะและขนส่ง 41) ค่าวัสดุคอมพิวเตอร์ 42) ค่าวัสดุงานบ้านงานครัว 43) ค่าวัสดุไฟฟ้าและวิทยุ 44) ค่าวัสดุก่อสร้าง 45) ค่าวัสดุการเกษตร 46) ค่าวัสดุอื่นๆ 47) ค่าใช้จ่ายเพื่อจัดหาสิ่งของ ดังนี้ -สิ่งของซึ่งโดยสภาพเมื่อใช้แล้วย่อมสิ้นเปลืองหมดไป แปรสภาพ หรือไม่คง สภาพเดิม - สิ่งของที่มีลักษณะคงทนถาวรและมีราคาต่อหน่วยหรือต่อชุดไม่เกิน 5,000 บาท (รวมถึงค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระพร้อมกัน เช่น ค่าขนส่ง ค่าภาษี ค่าประกันภัย ค่าติดตั้ง เป็นต้น) ภายในวงเงินไม่เกินกว่า 100,000 บาทต่อปียกเว้นศาลฎีกา ศาลอุทธรณ์ ศาลแพ่ง และศาลอาญา ภายในวงเงิน ๒๐๐,๐๐๐ บาทต่อปีและสำนักบริหารทรัพย์สิน(รวมหน่วยงาน ส่วนกลาง) ภายในวงเงิน 1,000,000 บาทต่อปี (กรณีหน่วยงานส่วนกลาง ศาลสูงและศาลไม่สังกัดภาค มีความจำเป็นต้อง ขอขยายวงเงินเกินกว่า 100,000 บาทต่อปีหรือเกินกว่า ๒๐๐,๐๐๐ บาทต่อปีและเกินกว่า ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาทต่อปีแล้วแต่กรณีสามารถแจ้ง ความประสงค์ขอขยายวงเงินพร้อมระบุรายการเหตุผลความจำเป็นไปยัง สำนักงานศาลยุติธรรมเพื่อพิจารณาต่อไป ในกรณีสำนักศาลยุติธรรมประจำภาคและศาลในสังกัดภาค หากมีความจำเป็น ต้องขอขยายวงเงินเกินกว่า 100,000 บาทต่อปี ให้แจ้งความประสงค์ขอ ขยายวงเงินพร้อมระบุรายการ เหตุผลความจำเป็นไปยังสำนักศาลยุติธรรม ประจำภาคเพื่อพิจารณาตรวจสอบ กลั่นกรอง ก่อนส่งไปยังสำนักงาน ศาลยุติธรรมเพื่อพิจารณาต่อไป) 48) ค่าใช้จ่ายเพื่อจัดหาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่มีราคาต่อหน่วยหรือต่อชุด ไม่เกิน 20,000 บาท 49) ค่าใช้จ่ายเพื่อประกอบ ดัดแปลง ต่อเติมหรือปรับปรุงครุภัณฑ์ที่มีวงเงิน ไม่เกิน 5,000 บาท (มิใช่การจัดซื้อใหม่ทั้งหมด แต่เป็นอุปกรณ์เสริมครุภัณฑ์)
37 ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม 50) ค่าใช้จ่ายเพื่อประกอบ ดัดแปลง ต่อเติม หรือปรับปรุงที่ดินและสิ่งก่อสร้าง ให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น มีวงเงินไม่เกิน 50,000 บาทต่อรายการ (ต้องคำนึงถึง ก ารด ำเนิ น ก ารใน ค ราว เดี ย ว กั น ด้ ว ย) ภ าย ใน ว งเงิน ที่ ได้ รับ 100,000 บาทต่อปี (กรณีหน่วยงานส่วนกลาง ศาลสูงและศาลไม่สังกัดภาค มีความจำเป็นต้อง ขอขยายวงเงิน เกินกว่า 100,000 บาทต่อปี สามารถแจ้งความประสงค์ ขอขยายวงเงินพร้อมระบุรายการ เหตุผลความจำเป็นไปยังสำนักงาน ศาลยุติธรรมเพื่อพิจารณาต่อไป กรณีสำนักศาลยุติธรรมประจำภาคและศาลในสังกัดภาค หากมีความจำเป็น ต้องขอขยายวงเงินเกินกว่า 100,000 บาทต่อปี ให้แจ้งความประสงค์ขอ ขยายวงเงินพร้อมระบุรายการ เหตุผลความจำเป็นไปยังสำนักศาลยุติธรรม ประจำภาคเพื่อพิจารณาตรวจสอบ กลั่นกรอง ก่อนส่งไปยังสำนักงาน ศาลยุติธรรมเพื่อพิจารณาต่อไป) 51) ค่าใช้จ่ายเพื่อประกอบ ดัดแปลง ต่อเติมหรือปรับปรุงครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์ ที่มีวงเงินไม่เกิน 5,000 บาท (สำหรับอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนประกอบของ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เสื่อมสภาพหรือปรับปรุงให้ใช้งานได้ดีขึ้น เช่น CD-Rom, CD-R Writer, DVD-Rom, DVD-R writer, Ram เป็นต้น 52)ค่าวัสดุสำหรับการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ กิจกรรมน้อมรำลึก และ กิจกรรมอื่นๆ ที่มีลักษณะเดียวกัน โดยเบิกจ่ายภายในวงเงินงบประมาณ ที่กำหนด ร่วมกับรายการค่าใช้สอย ข้อ 36 ดังนี้ - ค่าวัสดุ เช่น ผ้าระบายสีเหลือง ผ้าระบายสีขาว ผ้าระบายสีฟ้า เป็นต้น - ค่าวัสดุที่มีลักษณะคงทนถาวร ที่มีราคาต่อหน่วยหรือต่อชุดไม่เกิน 5,000 บาท (ไม่นับรวมกับวงเงิน 100,000 บาทต่อปีหรือวงเงิน ๒๐๐,๐๐๐ บาทต่อปีแล้วแต่กรณีที่หน่วยงานได้รับตามข้อ 47) เช่น พระบรมฉายาลักษณ์ พระฉายาลักษณ์ เป็นต้น ทั้งนี้ สามารถเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายได้เฉพาะกิจกรรมที่สำนักบริหารกลาง กำหนดให้เบิกจ่ายได้เท่านั้น และรายการค่าใช้จ่ายต้องสอดคล้องกับ รูปแบบกิจกรรมที่กำหนด ค่าสาธารณูปโภค เช่น 53) ค่าไฟฟ้า 54) ค่าน้ำประปา ค่าน้ำบาดาล 55) ค่าบริการโทรศัพท์ 56) ค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 57) ค่าบริการไปรษณีย์ เช่น ค่าไปรษณีย์ ค่าธนาณัติ ค่าดวงตราไปรษณียากร ค่าเช่าตู้ไปรษณีย์ ค่าธรรมเนียมการโอนเงินผ่านธนาคาร เป็นต้น 58) ค่าบริการสื่อสารและโทรคมนาคม เช่น ค่าโทรสาร ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับ การใช้ระบบอินเทอร์เน็ต และค่าสื่อสารอื่นๆ เช่น ค่าเช่าช่องสัญญาณ
38 ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม ดาวเทียม เป็นต้น (สำหรับค่าเช่าระบบอินเทอร์เน็ต รวมถึงอินเทอร์เน็ต การ์ด และค่าเช่าช่องสัญญาณดาวเทียม จะต้องไม่ซ้ำซ้อนกับค่าเช่า ที่สำนักงานศาลยุติธรรมได้ทำสัญญาไว้กับเอกชนในลักษณะเหมาจ่าย ทั่วประเทศ และจะต้องได้รับอนุมัติหรืออนุญาตให้ดำเนินการได้ภายใน วงเงินหรือแหล่งเงินที่กำหนด แล้วแต่กรณี) การโอนงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรมจะตั้งงบประมาณสำหรับหน่วยงานส่วนกลางไว้ที่หน่วย เบิกจ่าย และสำนักงานศาลยุติธรรมจะโอนงบประมาณไปตั้งจ่ายที่ศาลสูง ศาลไม่สังกัดภาค สำนักศาลยุติธรรมประจำภาคและศาลในสังกัดภาคเป็นรายไตรมาส การของบประมาณเพิ่มเติม ในกรณีที่หน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรมตรวจสอบแล้วปรากฏว่า ค่าใช้จ่ายด้านบริหารจัดการไม่เพียงพอ ศาลสามารถของบประมาณเพิ่มเติม ซึ่งมีขั้นตอน การดำเนินการ ดังนี้ หน่วยงานส่วนกลาง หน่วยงานส่วนกลางจัดทำคำของบประมาณเพิ่มเติม ตามแบบ ขงป. 2/4 พร้อมแนบเอกสารประกอบการพิจารณา เช่น ทะเบียนคุมหรือประมาณการค่าใช้จ่ายสำหรับ รายการค่าตอบแทน ใบเสนอราคาหรือใบแจ้งหนี้ เป็นต้น แจ้งไปยังสำนักแผนงานและงบประมาณ ภายในระยะเวลาที่กำหนด ศาลสูง ศาลไม่สังกัดภาค ศาลจัดทำคำของบประมาณเพิ่มเติม ตามแบบ ขงป. 2/4 พร้อมแนบ เอกสารประกอบการพิจารณา เช่น ทะเบียนคุมหรือประมาณการค่าใช้จ่ายสำหรับรายการ ค่าตอบแทน ใบเสนอราคาหรือใบแจ้งหนี้ เป็นต้น แจ้งไปยังสำนักงานศาลยุติธรรม (สำนักแผนงาน และงบประมาณ) ภายในระยะเวลาที่กำหนด ศาลในสังกัดภาค ศาลจัดทำคำของบประมาณเพิ่มเติมตามแบบ ขงป. 2/4 พร้อมแนบเอกสาร ประกอบการพิจารณา เช่น ทะเบียนคุมหรือประมาณการค่าใช้จ่ายสำหรับรายการค่าตอบแทน ใบเสนอราคาหรือใบแจ้งหนี้ เป็นต้น ส่งไปยังสำนักศาลยุติธรรมประจำภาค สำนักศาลยุติธรรมประจำภาค สำนักศาลยุติธรรมประจำภาควิเคราะห์ กลั่นกรอง ตรวจสอบความถูกต้อง และเหตุผลความจำเป็นในการของบประมาณ หากตรวจสอบแล้วว่าถูกต้องเหมาะสมแล้ว ให้เสนอ อธิบดีผู้พิพากษาภาคที่สังกัดอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมจากวงเงินของงาน/กิจกรรม ที่ตั้งไว้ ที่สำนักศาลยุติธรรมประจำภาค เมื่ออธิบดีผู้พิพากษาภาคพิจารณาอนุมัติแล้วให้แจ้งหน่วยงาน ต่างๆ ตามแบบการอนุมัติจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมจากวงเงินของกิจกรรมนั้นๆ พร้อมแนบแบบ การอนุมัติจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมจากวงเงินที่กำหนดไว้ที่ภาคตามแบบ จส. 1 ตามระยะเวลา ที่กำหนดส่งให้หน่วยงาน ดังนี้
39 ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม 1) สำนักการคลัง เพื่อโอนเงินไปตั้งจ่ายให้ศาล 2) สำนักแผนงานและงบประมาณ เพื่อทราบวงเงินที่ภาคได้อนุมัติจัดสรร (พร้อมแนบแบบ ขงป. 2/4 ที่ศาลของบประมาณเพิ่มเติม) 3) ศาลในสังกัดที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม ในกรณีที่สำนักศาลยุติธรรมประจำภาคมีวงเงินไม่เพียงพอ ให้จัดทำคำขอ งบประมาณเพิ่มเติมตามแบบ จส. 3 (พร้อมแนบ ขงป. 2/4 ที่ศาลของบประมาณเพิ่มเติม และเอกสารประกอบการพิจารณา) ตามระยะเวลาที่กำหนดส่งให้สำนักงานศาลยุติธรรม สำหรับการของบประมาณเพิ่มเติมในไตรมาสที่ 4 ต้องเป็นการขอในกรณีฉุกเฉิน และเป็นกรณีมีใบแจ้งหนี้ที่ต้องชำระภายในปีงบประมาณ โดยหน่วยงานในสังกัดฯ ต้องระบุเหตุผล ความจำเป็น รายละเอียดพร้อมแนบเอกสารที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักแผนงานและงบประมาณวิเคราะห์ ตรวจสอบ ความถูกต้อง เพื่อเสนอ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมพิจารณาอนุมัติและแจ้งสำนักการคลังโอนงบประมาณให้ หน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรมต่อไป กรณีมีค่าใช้จ่ายรายการค่าตอบแทน ใช้สอย วัสดุและสาธารณูปโภค ที่เป็นค่าใช้จ่ายภายใต้ ภารกิจในการบังคับคดีผู้ประกัน ตามระเบียบคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมว่าด้วย ค่าใช้จ่ายเพื่อการบังคับคดีผู้ประกัน พ.ศ. 2559 ให้หน่วยงานเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายดังกล่าว จากงานอำนวยการ กิจกรรมสนับสนุนการพิจารณาพิพากษาคดีและบริหารทั่วไป ค่าใช้จ่าย ด้านบริหารจัดการ จากงบประมาณประจำปีที่ได้รับจัดสรรตามแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปี จนกว่าสำนักงานศาลยุติธรรมจะแจ้งแผนการใช้จ่ายเงินค่าปรับผู้ประกัน ให้หน่วยงานเบิกจ่ายจากวงเงินที่ได้รับตามแผนการใช้จ่ายเงินค่าปรับผู้ประกันแทน
40 ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม ค่าใช้จ่ายด้านลงทุน สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายรายการค่าชดเชยงานก่อสร้าง (ค่า K) ค่าชดเชยค่างานก่อสร้าง (ค่า K) เป็นค่าใช้จ่ายที่จ่ายให้แก่ผู้รับจ้างที่มีสิทธิ์ได้รับ เงินชดเชยค่าสิ่งก่อสร้าง ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๓๒ ที่อนุมัติให้ใช้ เงื่อนไขและหลักเกณฑ์ของการนำสัญญาแบบปรับราคาได้ (ค่า K) มาใช้ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ รับเหมาก่อสร้าง ให้มีสิทธิขอรับเงินชดเชยค่าสิ่งก่อสร้าง เนื่องจากราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับหนังสือสำนักงบประมาณ ที่ นร ๐๗๑๔/ว ๑๑ ลงวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๔๗ แจ้งให้ หน่วยงานภาครัฐเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายเพื่อจ่ายเป็นเงินชดเชยค่างานก่อสร้างฯ จากงบประมาณของ หน่วยงาน ซึ่งสำนักงานศาลยุติธรรมได้จัดสรรงบประมาณรายการค่าชดเชยงานก่อสร้าง (ค่า K) สำหรับโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลยุติธรรม หรือโครงการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการ ตุลาการ และข้าราชการศาลยุติธรรมที่อยู่ระหว่างดำเนินการหรือก่อสร้างแล้วเสร็จ และรายการ ปรับปรุงของศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม ที่จำเป็นต้องจ่ายเงินชดเชยค่างานก่อสร้าง ตามสัญญาแบบปรับราคาได้ เมื่อหน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรมได้รับเรื่องการขอค่าชดเชยงาน ก่อสร้างตามแบบสัญญาแบบปรับราคาได้ (K) จากผู้รับจ้างให้ดำเนินการตามหนังสือสำนักงาน ศาลยุติธรรมที่ ศย 021/ว 131 (ป) ลงวันที่ 24 มิถุนายน 2562 3.
41 ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม ยุทธศาสตร์ S พัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainability) งานที่ ๑ งานอำนวยการ กิจกรรมที่ 1.๓ กิจกรรมจ้างเหมารักษาความปลอดภัยอาคารและสถานที่ ประกอบด้วยงบประมาณ 1 ประเภท คือ ค่าใช้จ่ายด้านบริหารจัดการ โดยมีแนวทาง การดำเนินงาน ดังนี้ ค่าใช้จ่ายด้านบริหารจัดการ สำหรับค่าจ้างเหมาบริการรักษาความปลอดภัยเพื่อให้บริการดูแล และรักษาความปลอดภัยบุคคล อาคารสถานที่และทรัพย์สินบริเวณอาคารศาลทั่วราชอาณาจักร การโอนงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรมตั้งงบประมาณไว้ที่สำนักการคลัง โดยศูนย์รักษา ความปลอดภัยเป็นหน่วยรับผิดชอบ การของบประมาณเพิ่มเติม กรณีงบประมาณไม่เพียงพอ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแจ้งความประสงค์ ของบประมาณเพิ่มเติมโดยแสดงเหตุผลความจำเป็นอย่างชัดเจน ครบถ้วน ไปยังสำนักแผนงาน และงบประมาณเพื่อเสนอเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมต่อไป การขออัตราเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม ในกรณีที่หน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรมมีความต้องการเจ้าหน้าที่ รักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมระหว่างปี มีขั้นตอนการดำเนินการ ดังนี้ หน่วยงานส่วนกลาง ศาลสูงและศาลชั้นต้นไม่สังกัดภาค ให้หน่วยงานแจ้งเหตุผลความจำเป็นพร้อมรายละเอียดในการขอรับ การจัดสรรเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม ส่งไปยังสำนักงานศาลยุติธรรม (ศูนย์รักษา ความปลอดภัย) ศาลในสังกัดภาค ให้ศาลแจ้งเหตุผลความจำเป็นพร้อมรายละเอียดในการขอรับจัดสรรเจ้าหน้าที่ รักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม ส่งไปยังสำนักศาลยุติธรรมประจำภาค สำนักศาลยุติธรรมประจำภาค สำนักศาลยุติธรรมประจำภาคตรวจสอบ กลั่นกรองก่อนส่งไปยังสำนักงาน ศาลยุติธรรม (ศูนย์รักษาความปลอดภัย) เพื่อพิจารณาต่อไป ศูนย์รักษาความปลอดภัย วิเคราะห์ ตรวจสอบ กำหนดอัตรากำลังให้หน่วยงานในสังกัดสำนักงาน ศาลยุติธรรม และแจ้งไปยังสำนักแผนงานและงบประมาณเพื่อพิจารณาต่อไป สำนักแผนงานและงบประมาณ เสนอเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมเพื่ออนุมัติงบประมาณ
42 ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม ยุทธศาสตร์ S พัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainability) งานที่ 1 งานอำนวยการ กิจกรรมที่ 1.๔ กิจกรรมจ้างเหมารักษาความสะอาด ประกอบด้วยงบประมาณ 1 ประเภท คือ ค่าใช้จ่ายด้านบริหารจัดการ ซึ่งจัดสรร สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการจ้างเหมารักษาความสะอาด ซึ่งมีแนวทางการดำเนินงาน ดังนี้ ค่าใช้จ่ายด้านบริหารจัดการ สำหรับเป็นค่าจ้างเหมาบริการรักษาความสะอาด ซึ่งจำแนก การจ้างเหมารักษาความสะอาด เป็น 2 กรณี ๑. จัดจ้างสำหรับอาคารที่ทำการศาล หรืออาคารสำนักงาน ๒. จัดจ้างสำหรับพื้นที่ส่วนกลางอาคารชุดพักอาศัย งบประมาณกิจกรรมจ้างเหมารักษาความสะอาดไม่สามารถถัวจ่ายกับงบประมาณ ของกิจกรรมอื่นๆ ได้และไม่สามารถถัวจ่ายงบประมาณระหว่างอาคารที่ทำการศาล หรืออาคาร สำนักงานกับอาคารชุดพักอาศัยได้ การโอนงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรมจะโอนงบประมาณไปตั้งจ่ายตามวงเงินที่หน่วยงานใน สังกัดสำนักงานศาลยุติธรรมทำสัญญาจัดจ้างได้ภายหลังแจ้งวงเงินก่อหนี้ผูกพันไปยังสำนักงาน ศาลยุติธรรม (สำนักแผนงานและงบประมาณ) แล้ว ดังนี้ หน่วยงานส่วนกลาง สำนักงานศาลยุติธรรมจะโอนงบประมาณไปตั้งจ่ายที่สำนักการคลัง โดย สำนักบริหารทรัพย์สินเป็นหน่วยรับผิดชอบในการจัดจ้าง ยกเว้นสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่าย ตุลาการศาลยุติธรรมจะตั้งงบประมาณไว้ที่สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ศาลสูงและศาลไม่สังกัดภาค สำนักงานศาลยุติธรรมจะโอนงบประมาณไปตั้งจ่ายที่ศาลสูงหรือศาล ไม่สังกัดภาคที่เป็นหน่วยเบิกจ่าย สำนักศาลยุติธรรมประจำภาคและศาลในสังกัดภาค สำนักงานศาลยุติธรรมจะโอนงบประมาณไปตั้งจ่ายที่สำนักศาลยุติธรรม ประจำภาคหรือศาลในสังกัดภาคที่เป็นหน่วยเบิกจ่าย การขออนุมัติงบประมาณเพิ่มเติม เมื่อหน่วยงานมีความจำเป็นต้องของบประมาณเพิ่มเติมตามหลักเกณฑ์ การเสนอขออนุมัติงบประมาณ กิจกรรมจ้างเหมารักษาความสะอาด ให้จัดทำคำของบประมาณ เพิ่มเติมตามแบบ ขงป. 2/5 พร้อมระบุเหตุผลความจำเป็น และให้คำนวณงบประมาณตามเกณฑ์ การคำนวณงบประมาณตามแบบ ขงป. 2/5 - 1 สำหรับอาคารที่ทำการศาล หรืออาคาร สำนักงาน และ/หรือ แบบ ขงป. 2/5 - 2 สำหรับอาคารชุดพักอาศัย ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรม กำหนด และให้ดำเนินการ ดังนี้
43 ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม หน่วยงานส่วนกลาง ศาลสูง ศาลไม่สังกัดภาค ให้ส่งคำของบประมาณเพิ่มเติมไปยังสำนักงานศาลยุติธรรม ศาลในสังกัดภาค ให้ส่งคำของบประมาณเพิ่มเติมไปยังสำนักศาลยุติธรรมประจำภาค สำนักศาลยุติธรรมประจำภาค สำนักศาลยุติธรรมประจำภาควิเคราะห์ กลั่นกรอง ตรวจสอบความถูกต้อง และเหตุผลความจำเป็นในการของบประมาณ หากตรวจสอบแล้ว ถูกต้องและเหมาะสม ให้สำนัก ศาลยุติธรรมประจำภาคส่งคำขอดังกล่าวไปยังสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักแผนงานและงบประมาณวิเคราะห์ กลั่นกรอง ตรวจสอบความถูกต้อง และเหตุผลความจำเป็นในการของบประมาณแล้วเสนอเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมอนุมัติ งบประมาณให้หน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรม
44 ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม ยุทธศาสตร์ S พัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainability) งานที่ 1 งานอำนวยการ กิจกรรมที่ 1.๕ กิจกรรมจัดหาวัสดุ หนังสือ ตำรากฎหมาย และเอกสารอื่น ประกอบด้วยงบประมาณ 1 ประเภท คือ ค่าใช้จ่ายด้านบริหารจัดการ ซึ่งจัดสรร สำหรับค่าใช้จ่ายรายการต่างๆ โดยมีแนวทางการดำเนินงาน ดังนี้ ค่าใช้จ่ายด้านบริหารจัดการ จัดสรรสำหรับค่าใช้จ่ายใน 5 รายการ ดังนี้ 1) ค่าใช้จ่ายในการจัดหาวัสดุ เพื่อสนับสนุนข้อมูลสารนิเทศทางกฎหมายและ วิชาการที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน ดังนี้ - ค่าจัดซื้อวัสดุการเรียนรู้ทุกประเภท เช่น วัสดุตีพิมพ์ประเภทหนังสือ/ตำรา สิ่งพิมพ์ต่อเนื่อง วัสดุไม่ตีพิมพ์ประเภททัศนวัสดุ (ลูกโลก หุ่นจำลอง ของ ตัวอย่าง) โสตวัสดุ (แผ่นเสียง เทปบันทึกเสียง) และโสตทัศนวัสดุ (วีดิทัศน์ ภาพยนตร์) - ค่าจัดซื้อโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับสื่อการเรียนรู้ที่มีราคาต่อหน่วย หรือต่อชุดไม่เกิน 20,000 บาท - จัดพิมพ์หนังสือ/ตำรา สิ่งพิมพ์ต่อเนื่อง ภายใต้ภารกิจสำหรับห้องสมุด ส่วนกลาง ห้องสมุดสำนักศาลยุติธรรมประจำภาค ห้องสมุดประจำศาล ทั่วประเทศ และหน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรม 2) ค่าใช้จ่ายในการจัดพิมพ์หนังสือคำพิพากษาศาลฎีกา 3) ค่าใช้จ่ายในการจัดพิมพ์นิตยสารดุลพาห หนังสือคำวินิจฉัยของประธาน ศาลฎีกา และเอกสารเผยแพร่อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับศาลยุติธรรมและกระบวนการยุติธรรม 4) ค่าใช้จ่ายในการจัดพิมพ์หนังสือผลงานของประธานศาลฎีกา และเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องของประธานศาลฎีกาและรองประธานศาลฎีกา 5) ค่าใช้จ่ายในการจัดพิมพ์หนังสือ/เอกสารอื่นๆ
45 ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม โดยมีหน่วยงานรับผิดชอบดำเนินการ ดังนี้ (1) ศูนย์วิทยบริการศาลยุติธรรม เป็นหน่วยดำเนินการจัดหาวัสดุ สำหรับ ห้องสมุดส่วนกลางและห้องสมุดประจำศาลทั่วประเทศ ดังนี้ - จัดซื้อวัสดุการเรียนรู้ทุกประเภท เช่น วัสดุตีพิมพ์ประเภทหนังสือ/ตำรา สิ่งพิมพ์ต่อเนื่อง วัสดุไม่ตีพิมพ์ประเภททัศนวัสดุ (ลูกโลก หุ่นจำลอง ของ ตัวอย่าง) โสตวัสดุ (แผ่นเสียง เทปบันทึกเสียง) และโสตทัศนวัสดุ (วีดิทัศน์ ภาพยนตร์) - จัดซื้อโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับสื่อการเรียนรู้ที่มีราคาต่อหน่วย หรือต่อชุดไม่เกิน 20,000 บาท - จัดพิมพ์หนังสือ/ตำรา สิ่งพิมพ์ต่อเนื่อง ภายใต้ภารกิจสำหรับห้องสมุด ส่วนกลาง ห้องสมุดประจำสำนักศาลยุติธรรมประจำภาค ห้องสมุดประจำ ศาลทั่วประเทศ และหน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรม เพื่อเป็นการสนับสนุนข้อมูลสารนิเทศทางกฎหมายและวิชาการที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน เพื่อประโยชน์ต่อการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล การปฏิบัติราชการและการศึกษาค้นคว้า ของข้าราชการศาลยุติธรรมและประชาชนทั่วไป (หากหน่วยงานในสังกัดฯ มีความต้องการวัสดุ ดังกล่าวข้างต้น ขอให้แจ้งไปยังศูนย์วิทยบริการฯ) (๒) ศาลฎีกา เป็นหน่วยดำเนินการจัดพิมพ์หนังสือคำพิพากษาศาลฎีกา (๓) สำนักกฎหมายและวิชาการศาลยุติธรรม เป็นหน่วยดำเนินการจัดพิมพ์ นิตยสารดุลพาห หนังสือคำวินิจฉัยของประธานศาลฎีกา และเอกสารเผยแพร่อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับศาล ยุติธรรมและกระบวนการยุติธรรม (๔) สำนักประธานศาลฎีกา เป็นหน่วยดำเนินการจัดพิมพ์หนังสือผลงานของ ประธานศาลฎีกา และเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องของประธานศาลฎีกาและรองประธานศาลฎีกา (๕) หน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรมอื่นๆ เป็นหน่วยดำเนินการ จัดพิมพ์หนังสือภายใต้บทบาทภารกิจของหน่วยงาน ทั้งนี้ต้องไม่ซ้ำซ้อนกับที่กำหนดไว้ในงาน/ โครงการ ที่หน่วยงานนั้นเป็นหน่วยรับผิดชอบ สำนักแผนงานและงบประมาณเป็นหน่วยรับผิดชอบสำหรับรายการที่ 5
46 ระบบบริหารงบประมาณ ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม การโอนงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรมจะตั้งงบประมาณไว้ที่สำนักการคลังสำหรับหน่วยงาน ส่วนกลาง ได้แก่ ศูนย์วิทยบริการศาลยุติธรรม สำนักกฎหมายและวิชาการศาลยุติธรรมและ สำนักแผนงานและงบประมาณ และโอนงบประมาณไปตั้งจ่ายที่ศาลฎีกาสำหรับศาลฎีกาและ สำนักประธานศาลฎีกา การของบประมาณเพิ่มเติม กรณีหน่วยงานตามข้อ 1) - ข้อ 4) มีความจำเป็นต้องของบประมาณเพิ่มเติม ให้หน่วยงานแจ้งขออนุมัติงบประมาณโดยระบุเหตุผล ความจำเป็น พร้อมแนบรายละเอียด เช่น ใบเสนอราคา ส่งไปยังสำนักงานศาลยุติธรรมเพื่อพิจารณาต่อไป