Group 1
Past simple tense
Member
1. Kantapon Keawpan no.2
2. Kawalee Pandee no.21
3. Chananchida Panwai no.22
4. Chalisa Thamdee no.24
โครงสร้าง Past simple
- จะเห็นว่าในประโยคบอกเล่าจะใช้กริยาช่อง 2 แต่ประโยคปฏิเสธและประโยคคำถาม เรา
ใช้กริยาช่วย did (ที่แสดงถึงอดีต) เข้ามาช่วยในการสร้างประโยค ดังนั้นตัวกริยาหลักของ
เราจึงไม่ต้องเปลี่ยนรูป เป็นกริยาช่องที่ 1 เหมือนเดิม
ตัวอย่างประโยคบอกเล่า
I went to the library yesterday. ฉันไปที่ห้องสมุดมาเมื่อวานนี้
ตัวอย่างประโยคปฏิเสธ
We did not study math last Friday. พวกเราไม่ได้เรียนคณิตวันศุกร์ที่แล้ว
ตัวอย่างประโยคคำถาม
Did you go to Jim’s party last night? คุณได้ไปงานเลี้ยงของจิมเมื่อคืนไหม
No, I didn’t. ไม่ ฉันไม่ได้ไป / Yes, I did. ใช่ ฉันได้ไป
past simple
S+ was, were+ ................
S+wasn't , weren't .............
Was, Were+S+............?
Wh-* +was, were+S+.............?
*(Wh-) = What, Where, When,
Who, Why, Wich, How....
หลักการเติม -ed
1. กริยาที่ลงท้ายด้วย e หรือ ie ให้เติม d ได้เลย เช่น dance ➜ danced (เต้น)
2. กริยาที่ลงท้าย ด้วย y และหน้า y เป็นพยัญชนะ ให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม ed
เช่น try ➜ tried (พยายาม)
3. ถ้าหน้า y เป็นสระ ให้เติม ed ได้เลย เช่น play ➜ played (เล่น)
4. กริยาที่มีพยางค์เดียว ตัวสะกดเดียว ให้เพิ่มตัวสะกดตัวท้ายอีก 1 ตัว แล้วเติม -ed
เช่น drop ➜ dropped (ตก)
5. กริยาที่มี 2 พยางค์ แต่ลงเสียงหนักที่พยางค์หลัง ให้เพิ่มตัวสะกดที่ลงท้ายอีก 1 ตัว แล้วเติม -ed
เช่น admit ➜ admitted (ยอมรับ)
6. กริยาที่มี 2 พยางค์ แต่ลงเสียงหนักที่พยางค์หน้า ไม่ต้องเพิ่มตัวสะกดอีก 1 ตัว แต่เติม -ed ได้เลย
เช่น cover ➜ covered (ปกปิด)