คำนำ
พื้นฐานของชีวิตเริ่มตั้งแต่วยั แรกเกิด – 6 ปี สิ่งสำคัญท่ีจะทำใหเ้ ด็กมีพัฒนาการท่ีดี มีวินัและ มีความ
ฉลาดทางอารมณน์ น้ั ต้องอาศัยการสร้างสัมพนั ธภาพ ความผูกพันทางอารมณร์ ะหว่างพ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดู กับเดก็ และ
การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมทีส่ ง่ เสรมิ พฒั นาการการเรยี นรทู้ เี่ หมาะสมตามวยั
โรงเรียนเทศบาล2 (วัดศรีบุรีรตนาราม) จึงได้จัดทำ “คู่มือและแบบบันทึกการปฏิบัติกิจกรรมของ
ผู้ปกครอง เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการของเด็กปฐมวยั ช่วงอายุ 3 - 4 ปี ” เพื่อใช้เป็นแนวทางในการเสริมสร้าง
พัฒนาการของเด็กที่อยู่ในความดูแลของตน ให้มีพัฒนาการที่ดีตามวัยทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ด้านร่างกาย ด้าน
อารมณ์และจิตใจ ด้านสังคม และด้านสติปัญญา เพื่อให้เด็กมีศักยภาพพร้อมที่จะออกสู่สังคม และเผชิญโลก
ภายนอกได้ อย่างมีความสุข และเขม้ แขง็ ตอ่ ไป
ดว้ ยความปรารถนาดี
โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดศรบี รุ ีรตนาราม)
สารบัญ หนา้
1
บญั ญตั ิ 10 ประการทผ่ี ปู้ กครองควรทำ 1
1. พอ่ แม่ควรฝกึ ใหล้ กู ดูหนังสือทีม่ ีเนอ้ื หาสาระและภาพวาดทีเ่ หมาะสมกับวัย 1
2. พ่อแม่ร้องเพลงกล่อมลูก / เพลงนิทานใหล้ กู ฟัง 1
3. พอ่ แม่ควรฝกึ ใหล้ กู ทอ่ งคำคลอ้ งจองใหพ้ ่อแมฟ่ ังทกุ วนั 1
4. พ่อแม่ชวนลูกร้องเพลงและทำท่าทางประกอบเพลง 2
5. พอ่ แมช่ วนลูกเล่นเพ่ือพฒั นากลา้ มเนอ้ื มือและภาษา 2
6. พ่อแม่ควรจัดหาอาหารทค่ี รบ 5 หมทู่ ี่หลากหลายใหล้ กู ไดล้ ม้ิ ลอง 2
7. พอ่ แม่ควรเล่านิทานให้ลูกฟังงา่ ย ๆ ส้นั ๆ 2
8. พอ่ แม่ควรอา่ นหนังสือใหล้ กู ฟงั อย่างตอ่ เน่อื ง 2
9. พ่อแม่ควรกระตุน้ ให้เดก็ เขียนคล้ายตวั อกั ษร / รปู แบบอื่น ๆ 2
10. พอ่ แม่ควรฝกึ ให้ลกู ทำกิจวัตรประจำวนั ตามพัฒนาการของแตล่ ะวัย 3
4
แนวทางการพฒั นาทักษะสมองของเด็กปฐมวยั
วิธีการและกจิ กรรมทีผ่ ูป้ กครองควรมสี ่วนร่วมในการเสรมิ สรา้ งพัฒนาการของเดก็ ปฐมวยั 4
ชว่ งอายุ 3 – 4 ปี 4
5
1. พัฒนาการดา้ นร่างกาย 5
2. พัฒนาการดา้ นอารมณ์และจติ ใจ 6
3. พฒั นาการด้านสงั คม
4. พฒั นาการดา้ นสติปัญญา
แบบบันทกึ การปฏิบตั ิกิจกรรมของผู้ปกครองเพอ่ื เสริมสร้างพฒั นาการของเด็กปฐมวัย
ชว่ งอายุ 3 – 4 ปี
ข้อแนะนำการบนั ทกึ พัฒนาการเดก็
สำหรับพ่อแม่และผปู้ กครอง
1. พ่อแม่ ผู้ปกครอง ส่งเสริมลูกให้เติบโตอย่างมีคุณภาพทั้ง 4 ด้าน คือ ด้านร่างกาย ด้านอารมณ์และ
จิตใจ ด้านสังคม และด้านสติปัญญา เพื่อลูกจะเป็นคนดี เก่ง มีความสุข โดยท่านเป็นแบบอย่างที่ดี
ดูแลเอาใจใส่ ให้ความรัก ความเข้าใจ ให้โอกาสเด็กได้เรียนรู้ และฝึกทำ ตลอดจน สังเกตและส่งเสริม
พัฒนาการ ของลูกของทา่ นด้วยตนเอง ตามคำแนะนำ
2. พ่อแม่ ผ้ปู กครองสงั เกตวา่ ลูกมพี ัฒนาการไดเ้ หมาะสมตามช่วงอายหุ รือไม่
3. พ่อแมผ่ ูป้ กครองปฏบิ ตั ิตามแนวทาง/วธิ กี ารเสรมิ สรา้ งพัฒนาการของเดก็ ทง้ั 4 ด้าน เพอื่ ให้มีพฒั นาการ
ท่ีดเี หมาะสมตามวัย
4. พ่อแม่ ผปู้ กครอง บนั ทกึ การปฏบิ ัตกิ ิจกรรมเพื่อเสริมสรา้ งพัฒนาการของเด็กท้งั 4 ดา้ น ตามคำแนะนำ
โดยทำการบนั ทกึ ทุกวนั และสง่ กลับมาท่คี รปู ระจำชนั้ ทุกวนั จันทร์
5. คู่มอื และบนั ทกึ การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมเพื่อเสรมิ สรา้ งพฒั นาการของเด็กเล่มน้ี แสดง
ความสามารถบางส่วน ที่สำคัญตามวัยเด็ก ซึ่งเด็กแต่ละคนอาจพัฒนาเร็ว ช้า แตกต่างกัน
ดังนั้นพอ่ แม่ ผู้ปกครองควรมสี ว่ นร่วมในการส่งเสริมลกู ใหม้ ีพัฒนาการเหมาะสมตามวยั
1
บัญญัติ 10 ประการท่ีผู้ปกครองควรทำ
1. พอ่ แม่ควรฝกึ ใหล้ ูกดูหนงั สือทมี่ เี น้อื หาสาระและภาพวาดท่เี หมาะสมกับวยั
วัยนม้ี จี นิ ตนาการเลศิ ลำ้ เชื่อวา่ มีเวทมนตรว์ เิ ศษ เช่ือว่าความสุขทำใหพ้ ระอาทิตยส์ อ่ งแสง หรือซานตาคลอส
มจี รงิ ดงั นั้นเด็กวัยน้ีจึงชอบการอ่านนทิ าน วิธีสนกุ กับการอา่ นหนงั สือใหล้ กู วัยนี้ ทำไดโ้ ดย
มหี นังสือไว้ในทกุ ที่ในบ้าน เชน่ ห้องนงั่ เลน่ หอ้ งนำ้ หอ้ งกนิ ขา้ ว ห้องนอน
จดั เวลากอ่ นนอนหรือตอนเชา้ หลังตนื่ นอน เปน็ เวลาอ่านหนงั สอื ดว้ ยกนั
หยดุ อา่ น เม่อื คุณหรือลกู อยากหยุด (ลกู หลับหรือไมต่ งั้ ใจฟัง)
จำกดั เวลาการดูโทรทัศน์ เพราะการดูโทรทศั น์ทำลายจินตนาการของเด็ก และทำใหไ้ ม่มีเวลาเหลอื สำหรบั การ
อา่ นหนังสือ
ให้ลกู มีส่วนรว่ มในการอ่าน เชน่ ถามความคิดเหน็ เกีย่ วกับเนอ้ื เรือ่ งหรือตัวละคร
ลองให้ลูกชว่ ยคุณแตง่ นทิ านและอ่านด้วยกนั
2. พอ่ แมร่ ้องเพลงกลอ่ มลกู / เพลงนทิ านใหล้ ูกฟงั
การฟังเป็นส่วนสำคัญของการพูด การอ่าน และการเขียน การฟังของเด็กจะรับรู้โดยประสาทสัมผัสทางหู
แล้วคิดตามเรื่องราวที่ได้ยิน ทำให้เด็กเพิ่มพูนคำศัพท์ กระตุ้นให้เด็กใช้จินตนาการจากการฟังได้ดี ผู้ปกครองควรฝึกเดก็
ตั้งแต่ในวัยก่อนเขา้ เรียนเพื่อให้เด็กได้เรียนรู้และรู้จักฟังเสียงตา่ ง ๆ เช่น เสียงพูด เสียงเพลง เสียงเคาะหรอื เสียงปรบมอื
เพื่อเป็นการกระตุ้นให้สมองของเด็กทำงาน ถ้าเด็กได้ฟังเสียงต่าง ๆ เด็กก็จะรู้จักคำมากขึ้น มีการใช้ความคิด การจับ
ประเด็น ฝกึ ความจำและยังชว่ ยฝกึ ฝนในการใช้สมาธจิ ดจอ่ แนว่ แน่กับสิง่ ใด ส่ิงหนึ่ง ทีต่ ้องเรียนรไู้ ด้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
3. พ่อแม่ควรฝกึ ใหล้ กู ท่องคำคลอ้ งจองให้พ่อแม่ฟงั ทกุ วนั
การท่องอาขยานหรือคำคล้องจองเป็นการเตรียมทักษะความพร้อมให้แก่เด็กช่วงปฐมวัยได้เป็นอย่างดี ความรู้ท่ี
เกิดจากการสงั เกตและการสรุปบทเรยี นในอดีต จึงเกดิ การเรยี บเรยี งบทอาขยานต่าง ๆ มากมายใหเ้ ดก็ ได้ หดั เรียนรู้ท่องจำ
การฟังและพูดคำคลอ้ งจองเปน็ การพฒั นาทักษะความพร้อมพน้ื ฐานเพือ่ การอา่ น ซึ่งมีทั้งในภาษาไทยและในภาษาอังกฤษ
ดังน้นั การทอ่ งบทอาขยานหรอื คำคลอ้ งจองต่างๆ จงึ เปน็ การส่งเสรมิ พฒั นาการด้านภาษาให้กับเด็กได้มีความพร้อมสำหรับ
การเรียน เขยี น อา่ น ภาษาไทยได้เป็นอย่างดี
4. พอ่ แมช่ วนลกู ร้องเพลงและทำท่าทางประกอบเพลง
การร้องเพลงให้ลูกฟัง ช่วยให้ลูกฉลาด มีพัฒนาการที่ดีได้ เพราะนอกจากการเลี้ยงลูกให้เติบโตอย่างสมบูรณ์
แข็งแรง อารมณ์ดี ร่าเริงแจ่มใส ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่พ่อแม่คาดหวังในตัวลูกทุกคน คือการส่งเสริมกระตุ้นให้ลูกน้อย
มคี วามฉลาดตดิ ตัว มสี ตปิ ญั ญาที่ดี เปน็ เดก็ เกง่ ใหพ้ อ่ แม่ภาคภมู ิใจ
2
5. พ่อแมช่ วนลกู เล่นพฒั นากล้ามเนื้อมือและภาษา
เล่นเพือ่ พฒั นากลา้ มเนื้อมอื และภาษา เตรียมความพรอ้ มดา้ นคณติ ศาสตรแ์ ละการอา่ น ด้วยการอา่ นหนังสือ รอ้ ง
เพลง วาดรปู ระบายสีและเล่นการฝกึ ประสมคำในรูปแบบตา่ งๆจะทำใหล้ กู รูจ้ กั คำศัพทม์ ากขน้ึ
6. พ่อแม่ควรจัดหาอาหารทีค่ รบ 5 หมทู่ ่ีหลากหลายให้ลกู ไดล้ ม้ิ ลอง
พ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดูคอยจัดมื้ออาหารที่สม่ำเสมอ ตรงเวลา สอนพฤติกรรมการกินที่ดี บรรยากาศในการกินที่เต็ม
เปี่ยมไปด้วยความรัก พ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดูเคยสงสัยหรือไม่ว่า ทำไมอาหารที่ท่าน ได้กินสมัยยังเด็กถึงมีรสชาติที่อร่อย
ประทับใจไม่รู้ลืม แม้ว่าคนอื่นๆ จะว่าไม่อร่อย แต่ท่านยังยืนยันว่าอาหารที่ปรุงโดยแม่ ช่างอร่อยล้ำ นั่นเพราะอาหาร
ทุกๆ คำทที่ ่านไดก้ นิ ทำให้ทา่ นรสู้ กึ ไดถ้ ึง ความรัก ความเอาใจใส่ ความตง้ั ใจปรงุ อาหารจากรสมือของแม่ท่ีตั้งใจเตรียมของ
โปรดให้กับ ทุกคนในบ้าน ซึ่งทำให้กินแล้วอิ่มท้อง และอิ่มไปถึงใจ ก่อให้เกิดความรู้สึกอบอุ่น มั่นคงใน สายสัมพันธ์ของ
ครอบครวั
7. พ่อแม่ควรเล่านทิ านใหล้ ูกฟงั ง่าย ๆ ส้นั ๆ
การเลา่ นทิ านน้นั จะมีการพูดคยุ กนั ระหวา่ งพ่อแม่หรือผู้เลย้ี งดูกับลูก มกี ารมองหน้า สบตา มีการใช้เวลาร่วมกนั มี
การเรียนรู้ซง่ึ กันและกัน มอี ารมณ์สนุกสนานรว่ มกนั และเป็นชว่ งเวลาที่พอ่ แม่หรือผเู้ ลยี้ งดไู ด้ถ่ายทอดความรกั ผ่าน การเล่า
ผ่านการสัมผัสในระหว่างเล่านิทานซึ่งลูกได้นั่งอยู่บนตัก หรือนั่งในอ้อมกอดของพ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดู ทำให้ลูกรู้สึกอบอุ่น
มน่ั คง และปลอดภยั
8. พ่อแม่ควรอา่ นหนงั สือใหล้ กู ฟังอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง
การอา่ นช่วยกระตุ้นพฒั นาการทางสตปิ ญั ญายังเป็นการสร้าง ปฏิสัมพันธร์ ะหว่างพ่อ แม่ ลกู คนในครอบครัวหรือผู้เลี้ยงดู
การให้เวลา ให้ความรัก พูดคุยกับลูก อ่านหนังสือหรือเล่านทิ านใหล้ ูกฟัง การโอบกอดลูก ให้ลูกนั่งตักเล่านิทานให้ลูกฟงั
จึงเปน็ สมั ผัสของความรกั และเรยี นร้อู ยา่ งเปน็ สขุ
9.พอ่ แม่ควรกระตุ้นใหเ้ ด็กเขียนคล้ายตัวอกั ษร / รปู แบบอนื่ ๆ
การเขียนเป็นอีกหนึ่งทักษะที่จำเป็นสำหรับเด็กปฐมวัย ที่คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญ เพราะทักษะ
ด้านการเขียนน้ันมีประโยชน์ในการดำเนินชีวิตประจำวัน คุณพ่อคุณแม่สามารถเสริมสร้างทักษะการเขียนให้กับเด็ก
ได้เองจากที่บ้าน ด้วยการให้เด็กเริ่มฝึกจากการเขียนชื่อของตัวเอ ง ไม่ว่าจะเป็นชื่อเล่น ชื่อจริง นามสกุล
ทั้งชื่อที่เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เพราะการเขียนชื่อเป็นเรื่องใกล้ตัวเด็ก เมื่อเขียนได้เด็กจะเกิดความภูมิใจและ
กระตุ้นความสนใจในการเขียนได้ดีที่สุด
10. พ่อแม่ควรฝกึ ใหล้ ูกทำกจิ วัตรประจำวนั ตามพัฒนาการของแตล่ ะวยั
ฝึกใหล้ ูกทำกิจวัตรประจำวันตามพฒั นากรของแต่ละวยั แมจ้ ะไม่ใชเ่ ร่อื งงา่ ยทเ่ี ราจะจัดการชวี ติ ประจำวนั ให้เป็นไปตาม
ตาราง แต่เด็กอนุบาลเร่ิมเป็นวัยท่ีมีกิจวัตรประจำวันท่ีซับซ้อนข้ึนมาบ้างแล้ว เพราะฉะน้ัน ถา้ ลูกไม่ไดร้ ับการปลูกฝังที่ดี
ก็อาจจะส่งผลกระทบกับวินยั และการจดั การในชีวิตประจำวันในอนาคตต่อๆ ไป อาทิเช่น
ฝึกให้เด็กต่ืนนอนในเวลา 06.30 น.เป็นประจำทุกวัน
3
ฝึกให้เก็บเครื่องนอน เช่น การจัดเก็บหมอน พับผ้าห่ม โดยช่วยกันทำร่วมกับผู้ปกครอง
ฝึกล้างหน้าแปรงฟัน อาบน้ำ แต่งตัวด้วยตนเอง โดยมีผู้ปกครองเป็นผู้สอนและคอยแนะนำ
ฝึกลูกให้กินเป็นเวลา จะช่วยให้ลูกรู้จักการรอคอย มีความอดทนและรู้จักเวลามากย่ิงข้ึน
ฝึกให้เข้านอนเป็นเวลา เด็กๆควรนอนหลับให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 8-10 ช่ัวโมง
จะช่วยให้ลูกไม่รู้สึกง่วง อารมณ์ดี ร่าเริงแจ่มใส
แนวทางการพัฒนาทกั ษะสมองของเด็กปฐมวยั 4
Frontal Lobe Parietal Lobe
สมองสว่ นหนา้ ทำหนำ้ ที่ควบคมุ
ทำหนำ้ ท่คี วบคมุ กำรคิด
ควำมรูส้ ึกต่ำงๆ ทงั้ ดำ้ น
กำรแกป้ ัญหำ กำรวำงแผน
กำรสมั ผัส กำรพดู กำร
กำรจดั กำร กำรเคลื่อนไหว Occipital Lobe
กำรควบคมุ อำรมณแ์ ละ รบั รส ทำหนำ้ ท่ีดำ้ นกำรมองเห็น
พฤตกิ รรม และกำรสรำ้ ง Spinal cord Cerebellum
ควบคมุ และประสำนงำนของ
บุคลิกภำTพemporal Lobe
ควำมจำ กำรเขำ้ ใจ และ กำรเคลื่อนไหวของรำ่ งกำย
ภำษำ
Frontal Lobe Parietal Lobe Cerebellum
ทำหนำ้ ทีค่ วบคมุ กำรคดิ ทำหนำ้ ทีค่ วบคมุ ควำมรูส้ ึกต่ำงๆ ทำหนำ้ ทีป่ ระสำนสมองส่วนต่ำงๆ
กำรแกป้ ัญหำ กำรวำงแผน ดำ้ นกำรสมั ผสั กำรพดู กำรรบั รส ใหท้ ำงำนสมั พนั ธก์ นั โดยเฉพำะ
กำรจดั กำร กำรเคลอื่ นไหว ภารกิจทเ่ี ดก็ ปฐมวัยควรทา ดำ้ นกำรเคล่อื นไหวและกำรทรงตวั
กำรควบคมุ อำรมณแ์ ละพฤติกรรม กำรชมิ กำรสมั ผสั กำรดมกล่ิน ภารกิจทเ่ี ด็กปฐมวยั ควรทา
กำรสรำ้ งบุคลิกภำพ ควำมรูส้ ึกรอ้ นเย็น เตะลกู บอล
ภารกจิ ทีเ่ ด็กปฐมวยั ควรทา โยนลกู บอล
• กำรฝึกเรียงลำดบั เหตกุ ำรณ์ Occipital Lobe กระโดดขำเดยี ว
• จดจำขอ้ เท็จจรงิ จำกครู ทำหนำ้ ท่ีดำ้ นกำรมองเห็น ขีจ่ กั รยำน
• เร่มิ ลงมอื ทำภำรกิจใหส้ ำเรจ็ ภารกิจทเี่ ด็กปฐมวัยควรทา
• กำรพดู เลำ่ เรอ่ื ง กำรประมวลผลคำจำก
บทควำมตำ่ งๆ
Temporal Lobe ทำควำมรจู้ กั รูปรำ่ งและขนำด
ทำงำนดำ้ นกำรเรียนรูค้ วำมหมำยจำก กำรจำตวั อกั ษรตำ่ ง ๆ
กำรพดู กำรฟัง กำรเขำ้ ใจและควำมจำ ทำควำมรจู้ กั จำกซำ้ ยไปขวำ
ภารกจิ ท่ีเดก็ ปฐมวยั ควรทา
กำรเรียนรูจ้ ำกสิ่งทค่ี รูสอน
กลำ้ แสดงออก
ฝึกใหก้ ลำ้ เผชิญกบั ปัญหำและ
สำมำรถแกป้ ัญหำได้
5
ขอ้ ควรปฏิบตั ทิ ผ่ี ู้ปกครองควรมีสว่ นร่วมในการดแู ลบุตรหลานของตนเอง
พัฒนาการของเด็กปฐมวัย พฤติกรรม วธิ เี สริมสรา้ งพฒั นาการ
1. พัฒนาการดา้ นร่างกาย 1.1. เดินตามแนวท่ีกำหนดได้ * ผปู้ กครองชวนลูกเดนิ กำลงั กายสนามกีฬา หรือ
1.2. ร้อยวสั ดุท่มี รี ขู นาดเส้นผา่ ศนู ย์กลาง 1 เซนตเิ มตรได้ สวนสาธารณะใกล้บ้าน โดยฝึกใหเ้ ดินไปขา้ งหน้าและ
2. พฒั นาการดา้ นอารมณ์ ได้ เดนิ ถอยหลัง
และจิตใจ * ผู้ปกครองฝกึ ให้ลกู แตง่ ตัวดว้ ยตนเอง
1.3. ใช้กรรไกรเล็กตดั กระดาษขาดจากกันได้ โดยใช้ - ฝึกตดิ กระดมุ รดู ซบิ เสื้อเอง
มอื เดียว - ฝึกสวมถงุ เท้า รองเทา้ ด้วยตนเอง
1.4. เขียนรปู วงกลมตามแบบได้ - ฝกึ ร้อยลูกปัดท่ีมีขนาดเส้นผา่ ศนู ยก์ ลางขนาด
เลก็ กว่า 1/2 นิ้ว เป็นต้น
1.5. กระโดดสองขาข้ึนลงอยู่กบั ท่ีได้
2.1. แสดงอารมณ์ความรสู้ กึ ไดเ้ หมาะสมกบั บาง *ผูป้ กครองฝึกให้ลกู ใชก้ รรไกรปลายมน ตดั กระดาษใน
สถานการณ์ แบบเส้นโค้ง ซิกแซก สเี่ หล่ียม สามเหลย่ี มหรอื ตาม
2.2. บอกหรือแสดงท่าทางพอใจในผลงานของตนเอง เสน้ ท่กี ำหนดให้
2.3. ทำงานทีไ่ ด้รบั มอบหมายจนสำเรจ็ เมอ่ื มผี ชู้ ่วย * ผู้ปกครองชวนลกู สำรวจภายในบา้ น รอบๆบ้านหรอื
เหลือ พาไปเท่ียวตามสถานที่ตา่ งๆ หลังจากท่ีลูกสำรวจหรอื
2.4. กลา้ พดู กล้าแสดงออก ทำกิจกรรมเสร็จแลว้ ผู้ปกครองให้ลกู ถ่ายทอด สงิ่ ตา่ งๆ
ท่ไี ดพ้ บเห็นออกมาเปน็ เรอ่ื งราวจะเป็นการเขียนหรือ
วาดภาพกไ็ ดต้ ามความถนดั เพอื่ เป็นการสรปุ ความ
เขา้ ใจในส่งิ ทไี่ ด้เรยี นรูแ้ ละยังเปน็ การบันทึกความทรง
จำของเด็กอกี ด้วย
* ผู้ปกครองชวนลูกไปออกกำลงั กายท่ีสนามหญ้าหนา้
บ้าน หรอื ไปสนามกฬี า สวนสาธารณะชวนเล่น
กระโดดกระตา่ ยขาเดียว และกระโดดจิงโจ้
* ผปู้ กครองฝึกให้ลกู รู้จักควบคมุ ความต้องการของ
ตนเอง รู้จักรอคอย รู้วา่ สิ่งไหนดไี มด่ ี รจู้ กั พ่งึ พาตัวเอง
ก่อนและไม่ควรเปน็ ภาระคนอ่นื ให้ลูกรจู้ กั หนา้ ทข่ี อง
ตน เช่น เก็บของเลน่ เกบ็ ท่ีนอน ไปโรงเรียน
* ผปู้ กครองส่งเสริมใหล้ กู ได้ทำกิจกรรมต่างๆ เช่น
ร้องเพลง เลา่ นิทาน อ่านหนังสือ เล่นดนตรี เต้น
ประกอบเพลง การเลน่ ปรศิ นาคำทาย ทอ่ งคำคลอ้ ง
จอง แสดงความชน่ื ชมเม่อื เดก็ ทำได้ เสริมสรา้ งใหล้ ูก
เกดิ ความภาคภมู ใิ จในตวั เอง พยายามหาจุดเด่นวา่
ตัวเองเกง่ อะไร แลว้ พอ่ แม่ก็สง่ เสริมในส่งิ นนั้
* ผปู้ กครอง สรา้ งวินยั ให้กบั ลูก เช่น ต่นื เชา้ ไป
โรงเรียน กนิ อาหารเช้า อา่ นหนังสอื ทำการบา้ น
ชว่ ยงานบา้ น รวู้ า่ ตัวเองตอ้ งทำอะไร และต้องใหล้ กู
รู้จักแก้ปญั หาดว้ ยตนเอง
*ผู้ปกครองหาโอกาสพาลกู ไปเท่ยี วสถานทต่ี า่ งๆ และ
ทำกิจกรรมใหมๆ่ เพ่ือใหล้ ูกรสู้ ึกคนุ้ เคยกบั การอยู่
รว่ มกับผูอ้ นื่ เช่น สวนสาธารณะ ห้างสรรพสนิ ค้า สวน
สัตว์ เป็นต้น
6
พัฒนาการของเดก็ ปฐมวัย พฤตกิ รรม วธิ เี สริมสร้างพฒั นาการ
2. พัฒนาการด้านอารมณ์ 2.5. กลา่ วคำขอบคุณและขอโทษเมื่อมีผชู้ ้แี นะ *ผปู้ กครองเล่านทิ านที่สอดแทรกคุณธรรม จรยิ ธรรม
และจติ ใจ (ตอ่ ) 3.1. เก็บของเลน่ ของใชเ้ ขา้ ท่ีเมอื่ มีผู้ชแ้ี นะ หรอื นิทานอีสป ใหก้ บั ลูก และใช้คำถามกระตุ้น
3. พัฒนาการด้านสังคม 3.2. รับประทานอาหารดว้ ยตนเอง ความคดิ ของลกู หลงั จากท่เี ล่าจบ
*ผู้ปกครองฝึกให้ลกู รจู้ ักเชอื่ ฟงั โดยสรา้ งข้อตกลง
4. พฒั นาการดา้ น 3.3. มสี ่วนรว่ มในการดูแลรักษาธรรมชาตแิ ละ รว่ มกับลกู เม่ือลกู ปฏบิ ตั ิไดก้ ็มกี ารให้รางวัล
สตปิ ญั ญา สิง่ แวดล้อมเมื่อมผี ้ชู ้แี นะ *ผู้ปกครองฝกึ ลูกล้างมือกอ่ น /หลงั การรับประทาน
3.4. ปฏิบตั ติ นเปน็ ผนู้ ำและผู้ตามเมื่อมผี ูช้ ้ีแนะ อาหาร และฝกึ การใชช้ อ้ น ส้อม ในการรบั ประทาน
อาหารด้วยตนเอง ให้ลกู ทานอาหารตามวัย ลกู ควร
3.5. เล่นกับกล่มุ เดก็ ทแี่ ตกต่างไปจากตน ( เช่น ต่าง ได้รับอาหาร 3 มือ้ หลกั และอาหารวา่ งที่มีคุณภาพ 2
ภาษาเชือ้ ชาติ พืน้ เพทางสงั คมหรือมีความบกพร่อง
ทางกาย) มอ้ื ต่อวนั รวมถงึ การดื่มนม และน้ำทเ่ี พียงพอ
4.1. สนใจฟังหรืออ่านหนังสอื ด้วยตนเอง *ผปู้ กครองให้ลูกมีส่วนรว่ มในการดแู ลรักษาต้นไม้ เชน่
รดน้ำ พรวนดิน ใสป่ ๋ยุ อื่นๆ.............................
4.2. .จบั คหู่ รอื เปรยี บเทยี บสง่ิ ต่าง ๆ โดยใชโ้ ดยใช้
ลักษณะเดียว *ผปู้ กครองใหล้ ูกไดม้ ีกิจกรรมของตวั เอง ไม่ควรท่จี ะ
4.3. เรียงลำดับสง่ิ ของหรือเหตุการณ์อย่างน้อย 3 ลำดับ ยัดเยียดในสง่ิ ที่พอ่ แม่ตอ้ งการใหแ้ กล่ กู มากเกินไป ให้
ลกู ได้เลอื กทำในสงิ่ ที่ตนเองอยากทำบ้าง และ เปิด
4.4. คดั แยกส่งิ ตา่ ง ๆ ตามลกั ษณะหรือหน้าที่การใชง้ าน โอกาสใหล้ กู ไดท้ ำด้วยตัวเอง เช่น ใส่เสอื้ ผา้ ด้วยตนเอง
*ผูป้ กครองฝึกให้ลูกอยรู่ ่วมกับผอู้ ืน่ สง่ เสริมใหล้ ูกรกั
4.5. กระตือรือร้นในการเขา้ ร่วมกิจกรรม เพ่อื น สัตว์ ต้นไม้ ฯลฯ เชน่ ใหล้ กู เลน่ กับเพอ่ื น เล่น
กบั นอ้ ง ให้ลกู รจู้ ักการปรบั ตวั เล่นและทำกจิ กรรม
รว่ มกบั คนรอบข้าง โดยไมแ่ ยกเช้อื ชาติ และภาษา
*ผ้ปู กครองฝกึ ฝนการใช้ภาษาในการสอ่ื สาร ทงั้ การฟงั
พดู อา่ น เขียน รวมถึงความคิด และการใชป้ ระสาท
สมั ผสั ทงั้ 5 (มอง ฟงั สัมผสั ชมิ รส ดมกล่นิ ) โดยพอ่
แม่ อาจพาลกู ไปเทยี่ ว แล้วให้ลกู เล่านทิ านหรือแสดง
ความคดิ เห็นออกมา
*ผู้ปกครองฝึกให้ลกู สังเกต จำแนก และเปรยี บเทยี บ
ซง่ึ พอ่ แมอ่ าจจะใหล้ ูกไปชว่ ยเลือกซอื้ ของ แลว้ ลองให้
ลกู เลอื กหยบิ ของเอง
*ผปู้ กครองสอนให้ลกู รจู้ ักเสน้ ทาง ระยะทาง ทิศทาง
ตา่ งๆ รวมถึงการนับจำนวน ปรมิ าณ การลำดับ-
เหตกุ ารณ์ การเชือ่ มโยงข้อมลู ตา่ งๆ เชน่ ใหล้ กู สงั เกต
อากาศสวิ ่าวันนี้อากาศเป็นยังไง ตอ่ ไปฝนจะตกไหม
อืน่ ๆ...................................................................
*ผ้ปู กครองชวนลูกทำกจิ กรรมร่วมกัน เพอื่ กอ่ ใหเ้ กิด
ความอบอุ่น ม่นั คงในสายสัมพนั ธ์ของครอบครัว เชน่
การทำกับอาหาร และใหล้ กู ชว่ ยหยบิ จับ ส่ิงของทจ่ี ะ
นำมาปรุง ช่วยให้ลูกได้เรียนรคู้ ำศัพทม์ ากมาย
*ผูป้ กครองทำกิจกรรมรว่ มกบั ลูก เชน่ การอ่านนิทาน
การวาดภาพระบายสี การปลกู ต้นไม้ การลา้ งรถ
การให้อาหารสตั ว์ การทำอาหาร การปลกู ต้นไม้
อื่นๆ................................................................
7
แบบบันทกึ การปฏบิ ตั กิ ิจกรรมของผู้ปกครอง
เพือ่ เสรมิ สรา้ งพัฒนาการของเดก็ ปฐมวัย ช่วงอายุ 3 – 4 ปี
วนั ท.ี่ ..........................................เดอื น...................................................................พ.ศ..................สัปดาหท์ ี่.........
คำชีแ้ จง ขอความกรุณาผู้ปกครองทำเครอื่ งหมาย ✓ ลงในชอ่ งท่ที า่ นไดป้ ฏิบัติกิจกรรมเพ่ือเสริมสรา้ งพัฒนาการของบุตร
หลานของท่านตามความเปน็ จรงิ
วธิ ีเสริมสร้างพฒั นาการของเดก็ ปฐมวัย ชว่ งอายุ 3-4 ปี ปฏิบตั ิ ไม่ได้
ปฏบิ ัติ
1. พัฒนาการดา้ นร่างกาย
1.1 ผู้ปกครองชวนลูกเดนิ กำลังกายสนามกีฬา หรอื สวนสาธารณะใกล้บ้าน โดยฝกึ ให้เดินไปข้างหน้า
และเดินถอยหลัง
1.2 ผู้ปกครองฝกึ ใหเ้ ดก็ แต่งตัวด้วยตนเอง
- ฝกึ ติดกระดุมเสือ้ เอง
- ฝึกรูดซบิ
- ฝกึ สวมถุงเทา้ รองเท้าด้วยตนเอง
- ฝึกร้อยลูกปัดทม่ี ีขนาดเส้นผา่ ศูนยก์ ลางขนาดเล็กกวา่ 1/2น้ิวเปน็ ตน้
1.3 ผปู้ กครองฝึกใหล้ กู ใชก้ รรไกรปลายมน ตัดกระดาษในแบบเส้นโคง้ ซิกแซก สเี่ หลย่ี ม สามเหลี่ยม
หรือ ตามเส้นท่กี ำหนดให้
1.4 ผู้ปกครองชวนลกู สำรวจภายในบา้ น รอบๆบ้านหรือพาไปเทีย่ วตามสถานท่ีตา่ งๆ หลังจากท่ีลูก
สำรวจหรือทำกจิ กรรมเสรจ็ แลว้ ผ้ปู กครองใหล้ ูกถ่ายทอด ส่งิ ต่างๆทไ่ี ดพ้ บเห็นออกมาเป็นเร่อื งราวจะเป็น
การเขียนหรอื วาดภาพกไ็ ดต้ ามความถนัดเพื่อเปน็ การสรปุ ความเข้าใจในส่ิงท่ีได้เรียนร้แู ละยงั เปน็ การ
บนั ทกึ ความทรงจำของเด็กอีกด้วย
1.5 ผูป้ กครองชวนลูกไปออกกำลังกายที่สนามหญ้าหนา้ บ้าน หรือไปสนามกีฬา สวนสาธารณะชวนเล่น
กระโดดกระต่ายขาเดียว และกระโดดจงิ โจ้
2. พัฒนาการดา้ นอารมณ์และจิตใจ
2.1 ผู้ปกครองฝกึ ใหล้ กู รจู้ ักควบคุมความต้องการของตนเอง รจู้ ักรอคอย รวู้ ่าสง่ิ ไหนดีไมด่ ี รจู้ กั พง่ึ พา
ตวั เองกอ่ นและไม่ควรเป็นภาระคนอนื่ ให้ลกู ร้จู กั หน้าที่ของตน เชน่ เกบ็ ของเล่น เก็บทน่ี อน ไปโรงเรยี น
2.2 ผูป้ กครองส่งเสรมิ ให้ลูกไดท้ ำกิจกรรมตา่ งๆ เชน่ ร้องเพลง เล่านทิ าน อ่านหนงั สอื เล่นดนตรี
เต้นประกอบเพลง การเลน่ ปรศิ นาคำทาย ท่องคำคล้องจอง แสดงความชนื่ ชมเมอ่ื เด็กทำได้ เสรมิ สรา้ ง
ให้ลูกเกดิ ความภาคภมู ใิ จในตวั เอง พยายามหาจุดเดน่ ว่าตวั เองเกง่ อะไร แล้วพ่อแมก่ ส็ ่งเสริมในสิ่งน้นั
2.3 ผปู้ กครอง สร้างวินยั ใหก้ ับลูก เชน่ ต่ืนเชา้ ไปโรงเรียน กินอาหารเชา้ อา่ นหนังสอื ทำการบ้าน
ช่วยงานบ้าน รวู้ ่าตัวเองต้องทำอะไร และตอ้ งใหล้ ูกรู้จกั แกป้ ญั หาด้วยตนเอง
2.4 ผู้ปกครองหาโอกาสพาลูกไปเท่ียวสถานที่ต่างๆ และทำกิจกรรมใหม่ๆ เพ่ือให้ลูกรสู้ กึ คุ้นเคยกับการ
อยรู่ ่วมกบั ผู้อืน่ เช่น สวนสาธารณะ ห้างสรรพสินคา้ สวนสัตว์ เปน็ ต้น
2.5 ผู้ปกครองเล่านิทานทสี่ อดแทรกคุณธรรม จริยธรรมหรอื นทิ านอสี ป ใหก้ ับลูก และใชค้ ำถามกระตุน้
ความคดิ ของลูกหลังจากที่เลา่ นิทานจบ
8
วิธีเสรมิ สร้างพฒั นาการของเดก็ ปฐมวัย ชว่ งอายุ 3 - 4 ปี ปฏบิ ตั ิ ไมไ่ ด้
ปฏิบัติ
3. พัฒนาการด้านสังคม
3.1 ผู้ปกครองฝกึ ให้ลกู รจู้ กั เช่อื ฟัง โดยสรา้ งข้อตกลงรว่ มกับลูก เมอ่ื ลกู ปฏิบัติไดก้ ็มกี ารใหร้ างวลั
3.2 ผปู้ กครองฝกึ ลูกล้างมอื ก่อน /หลงั การรบั ประทานอาหาร และฝึกการใชช้ ้อน สอ้ ม ในการ
รับประทานอาหารด้วยตนเอง ใหล้ กู ทานอาหารตามวยั ลูกควรไดร้ บั อาหาร 3 มอื้ หลกั และอาหารว่างท่ี
มีคณุ ภาพ 2 ม้ือตอ่ วนั รวมถงึ การด่ืมนม และน้ำท่เี พยี งพอ
3.3 ผปู้ กครองให้ลกู มีส่วนร่วมในการดแู ลรักษาต้นไม้ เชน่ รดน้ำ พรวนดนิ ใส่ปุย๋ เป็นต้น
3.4 ผปู้ กครองให้ลกู ได้มีกจิ กรรมของตัวเอง ไม่ควรทจ่ี ะยัดเยียดในส่ิงทพี่ อ่ แมต่ ้องการใหแ้ กล่ ูกมาก
เกินไป ให้ลูกไดเ้ ลอื กทำในสิ่งที่ตนเองอยากทำบ้าง และ เปิดโอกาสให้ลูกไดท้ ำดว้ ยตัวเอง เชน่ ใสเ่ ส้ือผ้า
ด้วยตนเอง
3.5 ผู้ปกครองฝึกให้ลกู อยู่รว่ มกบั ผ้อู ่ืน สง่ เสริมใหล้ ูกรกั เพ่อื น สัตว์ ตน้ ไม้ ฯลฯ เช่น ใหล้ ูกเล่นกับเพอื่ น
เลน่ กับนอ้ ง ให้ลูกรจู้ ักการปรับตวั เลน่ และทำกิจกรรมรว่ มกับคนรอบข้าง โดยไม่แยกเช้อื ชาติ และภาษา
4. พฒั นาการด้านสติปญั ญา
4.1 ผู้ปกครองฝึกฝนการใชภ้ าษาในการสอื่ สาร ทัง้ การฟัง พดู อา่ น เขยี น รวมถึงความคิด และการใช้
ประสาทสมั ผสั ทงั้ 5 (มอง ฟัง สมั ผัส ชมิ รส ดมกลิ่น) โดยพ่อแม่อาจพาลกู ไปเทย่ี ว แลว้ ให้ลูกเล่านิทาน
หรือแสดงความคิดออกมา
4.2 ผู้ปกครองฝึกให้ลกู สงั เกต จำแนก และเปรยี บเทยี บ ซึง่ พอ่ แม่อาจจะใหล้ กู ไปชว่ ยเลอื กซ้อื ของ แลว้
ลองใหล้ ูกเลือกหยิบของเอง
4.3 ผูป้ กครองสอนให้ลูกร้จู กั เสน้ ทาง ระยะทาง ทศิ ทางตา่ งๆ รวมถงึ การนบั จำนวน ปริมาณ การลำดับ
เหตกุ ารณ์ การเชอื่ มโยงขอ้ มูลต่างๆ เช่น ให้ลกู สังเกตอากาศสิว่าวันนอ้ี ากาศเป็นยังไง ตอ่ ไปฝนจะตกไหม
เป็นต้น
4.4 ผปู้ กครองชวนใหล้ กู ทำกิจกรรมรว่ มกนั เพ่อื กอ่ ใหเ้ กดิ ความอบอนุ่ มน่ั คงในสายสายสัมพันธใ์ น
ครอบครวั เช่น
การทำกับอาหาร และให้ลูกชว่ ยหยิบ จับ ส่งิ ของทจี่ ะนำมาปรงุ ชว่ ยให้ลกู ได้เรียนร้คู ำศัพท์มากมาย
4.5 ผูป้ กครองทำกิจกรรมรว่ มกับลูก เช่น การอ่านนิทาน การวาดภาพระบายสี การปลกู ต้นไม้ การล้าง
รถ การใหอ้ าหารสัตว์ การทำอาหาร การปลกู ต้นไม้ เป็นต้น
รวมปฏบิ ัตกิ จิ กรรมไดท้ งั้ หมด
9
บนั ทึกเพ่ิมเตมิ วิธีแกป้ ญั หา
ปญั หาหรอื อุปสรรคทพี่ บ
ลงชอื่ ..............................................................ผู้ปกครอง ลงชอ่ื ..............................................................ครูประจำชน้ั
(..............................................................) (..............................................................)
................./......................../................ ................./......................../................