คำนำ การใช้ชุดแบบฝึกทักษะออนไลน์เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย เรื่องชนิดของ คำในภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ จัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อให้นักเรียนเกิดกระบวนการเรียนรู้ นักเรียนสามารถศึกษาทบทวน เนื้อหาตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ เนื้อหาการเรียนแบ่งเป็นตอนย่อย ๆ เสนอเนื้อหาทีละน้อย ๆ แต่ละเนื้อหาจะมีคำถามให้นักเรียนตอบเพื่อทบทวนความรู้ที่ศึกษาและเรียนมา นอกจากนี้ นักเรียนยังสามารถฝึกทักษะเพิ่มเติม จากกิจกรรมเสริมการเรียนที่กำหนดให้ ชุดแบบฝึกทักษะออนไลน์เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย เรื่องชนิด ของคำในภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ มีทั้งหมด ๗ เล่มคือ เล่ม ๑ เรื่องคำวิเศษณ์ เล่ม ๒ เรื่องคำบุพบท เล่ม ๓ เรื่องคำสันธาน เล่ม ๔ เรื่องคำนาม เล่ม ๕ เรื่องคำสรรพนาม เล่ม ๖ เรื่องคำกริยา เล่ม ๗ เรื่องคำอุทาน สำหรับชุดแบบฝึกทักษะออนไลน์เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย เรื่องชนิดของคำในภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ เล่มนี้ เป็นเล่มที่ ๗ มี เนื้อหาเกี่ยวกับคำอุทาน เมื่อนักเรียนศึกษาและทบทวนเรื่องที่ครูสอนจบแล้ว นักเรียนจะต้อง ศึกษาและทบทวนเล่มอื่น ๆ ต่อไปตามลำดับจนครบทั้ง ๗ เล่ม ภัศรา อัจจิมาธร โรงเรียนวัดสวนดอก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่เขต ๑
ชุดแบบฝึกเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย เรื่องชนิดของคำในภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เล่ม ๗ ค ำอุทำน ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง เข้าใจเรื่องคำในภาษาไทยและอธิบายได้ถูกต้อง จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. บอกชนิดคำอุทานในภาษาไทยได้ ๒. ระบุคำอุทานในประโยคได้ ๓. จำแนกชนิดของคำอุทานได้ ๔. บอกหน้าที่ของคำอุทานในประโยคได้ เล่ม ๗ คำอุทาน มาตรฐานและสาระการเรียนรู้ สาระหลักที่ ๔ : หลักการใช้ภาษา มาตรฐาน ท ๔.๑ : เข้าใจธรรมชาติของภาษา และหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา และพลังของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ
ชุดแบบฝึกเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย เรื่องชนิดของคำในภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เล่ม ๗ ค ำอุทำน คำชี้แจง ๑.ชุดแบบฝึกทักษะออนไลน์เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย เรื่องชนิดของคำในภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ นักเรียนสามารถใช้ ทบทวนเนื้อหาที่เรียนมาและเรียนรู้ตามลำดับเนื้อหาที่จัดไว้ ตามขั้นตอนดังนี้ ๑.๑ ศึกษามาตรฐานและสาระการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง ให้เข้าใจ ๑.๒ อ่านคำชี้แจงให้เข้าใจอย่างละเอียด ๑.๓ ทำแบบทดสอบก่อนเรียน ๑.๔ ศึกษาและทบทวนเนื้อหาไปตามลำดับ ๑.๕ ตอบคำถามประจำเนื้อหา ๑.๖ ทำกิจกรรมที่จัดไว้เพื่อฝึกทักษะเพิ่มเติม และตรวจคำตอบจากที่ครูเฉลย ๑.๗ ทำแบบฝึกหัดเพื่อประเมินผลการเรียนในแต่ละตอน และตรวจคำตอบ ๑.๘ เมื่อศึกษาเนื้อหาจบแล้วผู้เรียนต้องทำแบบทดสอบหลังเรียน ๒. การตอบแบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน การทำแบบฝึกหัด การตอบคำถาม ประจำกรอบ และการทำกิจกรรมให้ทำในชุดแบบฝึกที่เตรียมไว้ให้ ๓. ผู้เรียนควรมีสมาธิ และความซื่อสัตย์ต่อตนเอง ในขณะศึกษาและทำกิจกรรมในชุดฝึก ๔. ผู้เรียนควรทำแบบฝึกหัดด้วยความมั่นใจ ถ้าทำไม่ได้หรือสงสัยสามารถกลับไป ศึกษาซ้ำได้อีกตามที่นักเรียนต้องการ ๕. เมื่อนักเรียนศึกษาชุดฝึกเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเสร็จแล้ว ให้นักเรียนเก็บ ชุดฝึกทักษะคืนให้ครูผู้สอน ศึกษำคำ ช้ีแจงใหล ้ ะเอียด ก่อนทำ ชุดกำรเรียนนะคะ
ชุดแบบฝึกเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย เรื่องชนิดของคำในภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เล่ม ๗ ค ำอุทำน แบบทดสอบก่อนเรียน คำชี้แจง เลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว ๑. ข้อใดคือลักษณะของคำอุทาน ก. คำที่บอกลักษณะอาการของผู้พูด ข. คำที่เน้นความหมายของข้อความสำคัญ ค. คำที่ใช้ประกอบความเพื่อเน้นประโยค ง. คำที่เปล่งออกมาเพื่อแสดงอารมณ์ของผู้พูด ๒. ข้อใดมีคำอุทาน ก. มาถึงตั้งแต่เมื่อไร ข. ดีใจด้วยที่สอบผ่าน ค. อ้าวทำไมไม่บอกก่อน ง. เพราะเธอคนเดียวแท้ ๆ ๓. ประโยคในข้อใดมีคำอุทานบอกอาการ ก. โธ่เอ๋ยนึกว่าอะไร ข. ถ้าได้ดิบได้ดีอย่าลืมกันนะ ค. ดูอะไรมันเหมาะไม้เหมาะมือจริง ๆ ง. พระคุณเจ้าช่วยลูกด้วยเถิด ๔. ข้อความใดมีคำอุทานเสริมบท ก. เฮ้ออากาศร้อนจริง ๆ ข. แหมจะมาก็ไม่บอกกันด้วย ค. อ้าวเธอมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ง. เด็กคนนี้หูตาแพรวพราวไม่น่าไว้ใจ ๕. ข้อความใดใช้คำอุทานแสดงอาการ ไม่เหมาะสม ก. อ้าวสุนัขใครดุจังเลย ข. เอ๊ะ กระเป๋าเงินใครหล่นอยู่ที่นี่ ค. อื้อฮื้อ ชุดนี้สวยจังเลย ง. ไชโยทำเสร็จแล้ว
ชุดแบบฝึกเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย เรื่องชนิดของคำในภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เล่ม ๗ ค ำอุทำน ๖. ข้อใดไม่มีคำอุทานเสริมบท ก. ทำไมลำบากลำบนอย่างนี้ ข. ทำยากทำเย็นเหลือเกิน ค. เรื่องเล็กแค่นี้อย่าเก็บมาใส่ใจ ง. เป็นพระเป็นเจ้าย่อมต้องสำรวม ๗. ข้อใดใช้คำอุทานไม่ถูกต้อง ก. อากาศร้อนจริงโว้ย ! ข. อุ๊ย ! น่าเกลียดจัง ค. โอ๊ย ! หนูลืมไว้เองค่ะ ง. อื้อฮื้อ ! หล่อจัง ๘. “.....................ไม่น่าเลย ” ควรเติมคำอุทานใด ก. พุทโธ่ ! ข. เอ๊ะ ! ค. อุ๊ย ! ง. ว้าย ! ๙. คำประพันธ์ข้อใดมีคำอุทานเสริมบท ก. จากมามาลิ่วล้ำ ลำบาง ข. เหตุไฉนไทยรุ่นนี้ จึงหลง ค. เสียงลือเสียงเล่าอ้าง อันใดพี่เอย ง. ชังกันบ่แลเหลียวตาต่อกันนา ๑๐. คำอุทานในข้อใดต่างไปจากข้ออื่น ก. อ้าว ! นึกว่าเธอกลับไปแล้วเสียอีก ข. เอ๊ะ ! ใครใส่รองเท้าผิดไปนี่ ค. โธ่ ! น่าสงสารจริง ๆ ง. ตายจริง ! ฉันจำเธอไม่ได้ ตรวจคำตอบกับคุณครูได้เลย ค่ะ
ชุดแบบฝึกเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย เรื่องชนิดของคำในภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เล่ม ๗ ค ำอุทำน ความหมายของคำอุทาน คำอุทาน หมายถึง คำที่เปล่งออกมาแสดงอารมณ์ของผู้พูด ในขณะที่ตกใจ ดีใจ เสียใจ ประหลาดใจ โดยมากจะไม่มีความหมายตรงตามถ้อยคำ แต่มี ความหมายทาง เน้นความรู้สึก และอารมณ์ของผู้พูด คำถาม คำอุทาน คือ อะไร กรอบที่ ๑ ศึกษาไปเรื่อย ๆ นะคะ ไม่ต้องรีบร้อน อย่าลืมว่า ต้องตอบคำถามก่อนทุกครั้ง แล้วค่อยดูเฉลย
ชุดแบบฝึกเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย เรื่องชนิดของคำในภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เล่ม ๗ ค ำอุทำน ชนิดของคำอุทาน คำอุทาน แบ่งออกเป็น ๒ ชนิดคือ ๑. คำอุทานบอกอาการ ๒. คำอุทานเสริมบท คำถาม คำอุทานมีกี่ชนิด อะไรบ้าง กรอบที่ ๒ แต่ละชนิดต่างกันอย่างไร ศึกษาในกรอบต่อไปนะคะ
ชุดแบบฝึกเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย เรื่องชนิดของคำในภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เล่ม ๗ ค ำอุทำน คำอุทานบอกอาการ คำอุทานบอกอาการ เป็นคำอุทานที่แสดงอารมณ์และความรู้สึกของผู้พูด คำถาม คำอุทานบอกอาการ คือ อะไร กรอบที่ ๓ ตกใจ ใช้คำว่า วุ้ย ว้าย แหม ตายจริง ประหลาดใจ ใช้คำว่า เอ๊ะ หือ หา แม่เจ้าโว้ย รับรู้เข้าใจ ใช้คำว่า เออ อ้อ อ๋อ จริงแฮะ เจ็บปวด ใช้คำว่า โอ๊ย โอย อุ๊ย สงสารเห็นใจ ใช้คำว่า อนิจจา โธ่ โถ พุทโธ่ ร้องเรียก ใช้คำว่า เฮ้ย เฮ้ นี่ โกรธไม่พอใจ ใช้คำว่า ชิชะ แหม หนอยแน่ โล่งใจ ใช้คำว่า เฮ้อ ตั้งใจศึกษาดีมากค่ะ ตอบคำถามก่อนแล้วค่อย ตรวจคำตอบหน้าต่อไปนะคะ
ชุดแบบฝึกเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย เรื่องชนิดของคำในภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เล่ม ๗ ค ำอุทำน ตายจริง แม่เจ้าโว้ย พุทโธ่ อ๋อ เฮ้ หนอยแน่ ไชโย เฮ้อ โอ๊ย เอ๊ะ ๑................ ทีมของเราชนะแล้ว ๒................ ขาของผมหักแล้ว ๓................ หมดเคราะห์หมดโศกกันซะทีนะลูกนะ ๔. ...............นายคนนั้นมาทางนี้หน่อยซิ ๕. ...............เจ้าหมาเกเรบังอาจมากัดแมวฉันได้ ๖. ................เห็นกันอยู่เมื่อเช้ามาตายซะแล้ว ๗. ...............วันนี้เธอแต่งตัวหลุดโลกเลย ๘. ................เป็นอย่างนี้นี่เอง ๙. ................ ฉันลืมเอากระเป๋าเงินมา ๑๐. ............... ใครมาเรียกแต่เช้าเชียว กรอบที่ ๔ คำชี้แจง นำคำอุทานต่อไปนี้เติมลงในประโยคให้เหมาะสม
ชุดแบบฝึกเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย เรื่องชนิดของคำในภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เล่ม ๗ ค ำอุทำน ๑. อื้อฮืองานที่นี่มากจริง ๒. อุเหม่กระไรสิใจฉกาจ ๓. โธ่เอ๋ยยายคงหิวมากสินะ ๔. ต๊ายตายป่านนี้คุณแม่คงคอยฉันแย่ ๕. เอ๊ะใครหยิบของบนโต๊ะของฉันไป กรอบที่ ๕ คำชี้แจง เขียนประโยคต่อไปนี้ใหม่ ให้แลเห็นว่าคำใดเป็นคำอุทาน ....................................................................... . ....................................................................... . ....................................................................... . ....................................................................... . ....................................................................... .
ชุดแบบฝึกเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย เรื่องชนิดของคำในภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เล่ม ๗ ค ำอุทำน คำชี้แจง เลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว ๑. ข้อใดไม่เกี่ยวข้องกับความหมายของคำอุทาน ก. คำที่เปล่งออกมาลอย ๆ ข. คำที่เปล่งออกมาไม่มีความหมาย ค. คำที่เปล่งออกมาเพื่อแสดงความรู้สึก ง. คำที่เปล่งออกมาเพื่อแสดงความต้องการ ๒. คำอุทานแบ่งออกได้กี่ชนิด ก. ๒ ชนิด ข. ๓ ชนิด ค. ๔ ชนิด ง. ๕ ชนิด ๓. ข้อใดไม่ใช่คำอุทานบอกอาการ ก. แหม ! จะมาก็ไม่บอก ข. เอ๊ะ ! สมุดหายไปไหน ค. ไม่มีใคร ! บอกเธอเหรอ ง. พุทโธ่ ! ไม่น่าอายุสั้นเลย ๔. ข้อใดเป็นคำอุทานแสดงความประหลาดใจ ก. อ๋อ ! ข. โธ่ ! ค. ว้าย ! ง. เอ๊ะ ! ๕. ข้อใดใช้คำอุทานถูกต้อง ก. โอ๊ย ! ชุดเธอสวยจริง ๆ ข. เอ๊ะ ! กระเป๋าใบนี้ของใคร ค. อ๋อ ! ทำได้อย่างไรกัน ง. แหม ! น่ากลัวจังเลย กรอบที่ ๖
ชุดแบบฝึกเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย เรื่องชนิดของคำในภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เล่ม ๗ ค ำอุทำน คำอุทานเสริมบท คำอุทานเสริมบท เป็นคำอุทานที่ใช้เป็นคำสร้อย หรือคำเสริมบทต่าง ๆ คำอุทานประเภทนี้ บางคำเสริมคำที่ไม่มีความหมาย เพื่อยึดเสียงให้ยาวออกไป บางคำก็เพื่อเน้นคำ ให้กระชับหนักแน่น เช่น ใกล้สอบแล้วดูหนังสือหนังหาบ้าง, ทำอะไรรู้จักดูตาม้าตาเรือซะบ้าง, สมัยนี้รถราช่างมากมายเสียจริง ฯลฯ คำถาม คำอุทานเสริมบทคืออะไร กรอบที่ ๗ ถ้าเหนื่อยก็หยุดพักก่อน แล้วค่อยศึกษาต่อไป ไม่ต้องรีบร้อน ถ้ายังไม่เข้าใจตรงไหน ก็กลับไป ศึกษาซ้ำได้ค่ะ
ชุดแบบฝึกเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย เรื่องชนิดของคำในภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เล่ม ๗ ค ำอุทำน กรอบที่ ๘ ๑. จะรีบไปไหนมาแวะดื่มน้ำ............กันก่อน ๒.ทำเสร็จเสียทีจะได้หมดเรื่อง.........กันไป ๓.ฉันไม่เคย.........สัญญาอะไรกับเธอเลย ๔.วันสงกรานต์มีประเพณีรดน้ำ..........ผู้ใหญ่ ๕.สมัยนี้ข้าวปลา............มันแพงจริง ๆ ๖. เดี๋ยวนี้ถนน..............มันเปลี่ยนไปมากจริง ๆ ๗. เธอไม่เคยอดอยากหรอกหมูเห็ด..............มีกินตลอด ๘. ดูท่าทางเธออ่อนเปลี้ย..............เสียเหลือเกินจะไปไหวเหรอ ๙. เห็นฉันเป็น................หัวตอหรือยังไงถึงไม่บอกกันเลย ๑๐. จะไปยังไงมืด.......แล้วพรุ่งนี้ค่อยไปแต่เช้าก็แล้วกัน คำชี้แจง ให้นักเรียนเติมคำอุทานเสริมบทในประโยคต่อไปนี้ให้ถูกต้อง
ชุดแบบฝึกเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย เรื่องชนิดของคำในภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เล่ม ๗ ค ำอุทำน ๑. ของมันใช้ไม่ได้แล้วอย่าไปเสียดมเสียดายมันเลย ๒. อย่าใช้จ่ายมากนัก สตุ้งสตางค์ยิ่งหายากอยู่ ๓. เอะอะมะเทิ่งไปได้ ประเดี๋ยวจะถูกคุณแม่ดุเอาหรอก ๔. ฉันไม่ชอบเลขผานาทีเลย ๕. อย่าเสียใจเลย นึกเสียว่าถึงคราวเคราะห์หามยามร้ายก็แล้วกัน กรอบที่ ๙ คำชี้แจง ประโยคต่อไปนี้คำใดเป็นคำอุทานเสริมบท คำอุทานเสริมบทคือ......................................... คำอุทานเสริมบทคือ......................................... คำอุทานเสริมบทคือ......................................... คำอุทานเสริมบทคือ......................................... คำอุทานเสริมบทคือ.........................................
ชุดแบบฝึกเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย เรื่องชนิดของคำในภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เล่ม ๗ ค ำอุทำน หน้าที่ของคำอุทาน ๑. ทำหน้าที่แสดงความรู้สึกของผู้พูด เช่น อ้าว ! ทำไมทำอย่างนั้นล่ะ ( รู้สึกแปลกใจ ) ๒. ทำหน้าที่เพิ่มน้ำหนักคำได้แก่คำอุทานเสริมบท เช่น ยิ่งสายรถรายิ่งติด ๓. ทำหน้าที่ประกอบข้อความในคำประพันธ์ เช่น แมวเอ๋ยแมวเหมียว มดเอ๋ยมดแดง คำถาม หน้าที่ของคำอุทาน มีอะไรบ้าง กรอบที่ ๑๐ ศึกษาเกือบจบแล้วนะคะ ตั้งใจศึกษาดีมากค่ะ
ชุดแบบฝึกเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย เรื่องชนิดของคำในภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เล่ม ๗ ค ำอุทำน คำชี้แจง เลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว ๑. ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของคำอุทาน ก. แสดงความรู้สึกของผู้พูด ข. เพิ่มน้ำหนักคำ ค. บอกอาการของผู้พูด ง. ประกอบข้อความในคำประพันธ์ ๒. คำอุทานในข้อใดทำหน้าที่เพิ่มน้ำหนักคำ ก. ว้าย ! คนตกน้ำ ข. อ้าว ! จะกลับแล้วเหรอ ค. เสียงลือเสียงเล่าอ้าง อันใด พี่เอย ง. ใกล้สอบแล้วดูหนังสือหนังหาเสียบ้าง ๓. ข้อใดไม่มีคำอุทานเสริมบท ก. คนเป็นผู้หลักผู้ใหญ่เขาไม่ทำตัวอย่างนี้ ข. เธอมักจะปรักปรำคนอื่นเสมอ ค. ดึกดื่นแล้วยังไม่ยอมกลับบ้านกลับช่องกันอีก ง. ปีนี้เศรษฐกิจแย่จริง ๆ ข้าวยากหมากแพง เดือดร้อนกันไปหมด ๔. ข้อใดมีคำอุทานเสริมบท ก. สีดาช่วยดูแลบ้านให้สะอาดด้วยนะ ข. เขาเป็นลูกหลานของคนมีเงิน ค. แดงชอบร้องเพลงลูกทุ่ง ง. ทำอะไรมาผมเผ้ายุ่งเหยิงหมด ๕. ข้อใดมีคำอุทาน ก. ท้องฟ้ามืดครึ้ม ข. แมวเอ๋ยแมวเหมียว ค. นกบินขวักไขว่ ง. น้ำไหลเชี่ยวกราก กรอบที่ ๑๑
ชุดแบบฝึกเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย เรื่องชนิดของคำในภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เล่ม ๗ ค ำอุทำน แบบทดสอบหลังเรียน คำชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว ๑. ข้อใดใช้คำอุทานไม่ถูกต้อง ก. อากาศร้อนจริงโว้ย ! ข. อุ๊ย ! น่าเกลียดจัง ค. โอ๊ย ! หนูลืมไว้เองค่ะ ง. อื้อฮื้อ ! หล่อจัง ๒. ข้อใดมีคำอุทาน ก. มาถึงตั้งแต่เมื่อไร ข. ดีใจด้วยที่สอบผ่าน ค. อ้าวทำไมไม่บอกก่อน ง. เพราะเธอคนเดียวแท้ ๆ ๓. ข้อความใดมีคำอุทานเสริมบท ก. เฮ้ออากาศร้อนจริง ๆ ข. แหมจะมาก็ไม่บอกกันด้วย ค. อ้าวเธอมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ง. เด็กคนนี้หูตาแพรวพราวไม่น่าไว้ใจ ๔. ข้อใดคือลักษณะของคำอุทาน ก. คำที่บอกลักษณะอาการของผู้พูด ข. คำที่เน้นความหมายของข้อความสำคัญ ค. คำที่ใช้ประกอบความเพื่อเน้นประโยค ง. คำที่เปล่งออกมาเพื่อแสดงอารมณ์ของผู้พูด ๕. ประโยคในข้อใดมีคำอุทานบอกอาการ ก. โธ่เอ๋ยนึกว่าอะไร ข. ถ้าได้ดิบได้ดีอย่าลืมกันนะ ค. ดูอะไรมันเหมาะไม้เหมาะมือจริง ๆ ง. พระคุณเจ้าช่วยลูกด้วยเถิด
ชุดแบบฝึกเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย เรื่องชนิดของคำในภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เล่ม ๗ ค ำอุทำน ๖. ข้อความใดใช้คำอุทานแสดงอาการไม่เหมาะสม ก. อ้าวสุนัขใครดุจังเลย ข. เอ๊ะ กระเป๋าเงินใครหล่นอยู่ที่นี่ ค. อื้อฮื้อ ชุดนี้สวยจังเลย ง. ไชโยทำเสร็จแล้ว ๗. คำประพันธ์ข้อใดมีคำอุทานเสริมบท ก. จากมามาลิ่วล้ำ ลำบาง ข. เหตุไฉนไทยรุ่นนี้ จึงหลง ค. เสียงลือเสียงเล่าอ้าง อันใดพี่เอย ง. ชังกันบ่แลเหลียวตาต่อกันนา ๘. ข้อใดไม่มีคำอุทานเสริมบท ก. ทำไมลำบากลำบนอย่างนี้ ข. ทำยากทำเย็นเหลือเกิน ค. เรื่องเล็กแค่นี้อย่าเก็บมาใส่ใจ ง. เป็นพระเป็นเจ้าย่อมต้องสำรวม ๙. คำอุทานในข้อใดต่างไปจากข้ออื่น ก. อ้าว ! นึกว่าเธอกลับไปแล้วเสียอีก ข. เอ๊ะ ! ใครใส่รองเท้าผิดไปนี่ ค. โธ่ ! น่าสงสารจริง ๆ ง. ตายจริง ! ฉันจำเธอไม่ได้ ๑๐. “.....................ไม่น่าเลย” ควรเติมคำอุทานใด ก. พุทโธ่ ! ข. เอ๊ะ ! ค. อุ๊ย ! ง. ว้าย !
ชุดแบบฝึกเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย เรื่องชนิดของคำในภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เล่ม ๗ ค ำอุทำน หนังสืออ้างอิง นฤภร รุจิเรข หลักภาษาและการใช้ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖. . กรุงเทพฯ : สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว). กรมวิชาการ,กระทรวงศึกษาธิการ.คู่มือการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์โองการรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (ร.ส.พ.),๒๕๔๔