Travel in Japan

Travel in

JAPAN

WELCOME TO JAPAN

日本へようこそ

คำนำ

หนังสือ E-Book เรื่อง Travel in Japan เล่มนี้
ประกอบด้วยเนื้ อหาสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศ
ญี่ปุ่นจำนวน 5 สถานที่ ได้แก่ พระราชวังอิมพีเรียล โตเกียว

ทาวเวอร์ ภูเขาฟูจิ ปราสาทฮิเมะจิ ฮอกไกโด

ผู้เรียบเรียงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือ E-Book
"เรื่อง Travel inJapan" เล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจ
ในหนังสือเล่มนี้เป็นอย่างดี หากมีข้อเสนอมแนะประการใด

ผู้จัดทำ ยินดีน้ อมรับไว้ด้วยความขอบคุณยิ่ง
และปรับปรุงในโอกาสหน้ าต่อไป

ผู้จัดทำ
นาย นรานันทน์ สุขห่วง

สารบัญ

1 พระราชวังอิมพีเรียล

3 โตเกียว ทาวเวอร์
5 ภูเขาฟูจิ
7 ปราสาทฮิเมะจิ
9 ฮอกไกโด

พระราชวังอิมพีเรียล

คือสถานที่ประทับของสมเด็จพระ
จักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น ภายในพื้นที่กว้าง
ใหญ่ประกอบด้วยพระตำหนักและ
อาคารต่างๆมากมาย ในอดีตเคยเป็นที่
ตั้งของปราสาทเอโดะ (Edo Castle)
บริเวณพระราชวังจึงล้อมรอบด้วยคูน้ำ
และกำแพงหินสูงตระหง่าน นอกจากนี้
พระราชวังอิมพีเรียลแห่งนี้ยังใช้เป็น
สถานที่สำหรับจัดงานพิธีสำคัญๆอีก
ด้วย

ธรรมชาติอันงดงามของญี่ปุ่นยัง
คงได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี
ภายในพระราชวังอิมพีเรียล ใน
ฤดูใบไม้ผลิจะเต็มไปด้วยดอก
ซากุระบานสะพรั่ง และในฤดู
ใบไม้ร่วงก็จะได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสี
สวยสดงดงาม นอกจากนี้ใน
ปัจจุบัน “เส้นทางวิ่งรอบ
พระราชวังอิมพีเรียล (Imperial
Palace Running Course)”
ยังได้รับความนิยมว่าเป็นเส้นทาง
ศักดิ์สิทธิ์จากเหล่านักวิ่งอีกด้วย

1

การเข้าชมพระราชวังอิมพีเรียล


สำหรับการเข้าชมภายในพระราชวังอิมพีเรียลนั้น

สามารถทำการลงทะเบียนล่วงหน้า หรือมาต่อแถวรอลง


ทะเบียนที่ด้านหน้าพระราชวังในวันที่ต้องการเข้าชม การ

เดินชมภายในนั้น จะต้องชมอาคารต่างๆ รวมถึงพระ
ตำหนักที่ประทับจากภายนอกเท่านั้น โดยต้องมีเจ้าหน้า
นำทางไป (ใช้เวลาในการเดินชมทั้งสิ้นประมาณ 1 ชั่วโมง
15 นาที) ระหว่างเดินชมจะมีบริการบรรยายแนะนำข้อมูล
ต่างๆ เป็นภาษาญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีร้านค้าที่จำหน่าย
ของที่ระลึกที่หาซื้อได้ภายในบริเวณพระราชวังอิมพีเรียล
เท่านั้นไว้คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย

2

โตเกียว ทาวเวอร์

โตเกียวทาวเวอร์ที่ถูกสร้างขึ้นในปี
1958 เป็นสัญลักษณ์ของการฟื้ นฟู
โตเกียวหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ่ง
ก่อสร้างแบบหอคอยนี้มีความสูง
333 เมตร และเป็นจุดถ่ายรูปสำคัญ
ที่สื่อถึงการมาเยือนกรุงโตเกียว
สำหรับนักท่องเที่ยว จุดชมวิวทั้ง 2
ชั้นสามารถมองเห็นทัศนียภาพของ
โตเกียวได้ทั่วทั้งเมือง นอกจากนี้ยังมี
อาคารสูง 4 ชั้นที่ตั้งอยู่ใต้หอคอยอัน


เป็นสถานที่รวบรวมแหล่งช้อปปิ้ ง,

ร้านอาหาร และความบันเทิงต่างๆ ให้
นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินอีกด้วย

จุดเด่น
ไม่เพียงแค่จุดชมวิวที่ยอด

เยี่ยมเท่านั้น นักท่องเที่ยว
สามารถเพลิดเพลินกับ
กิจกรรมความบันเทิงแสน
สนุกที่ทางโตเกียวทาวเวอร์
จัดอีกด้วย

สำรวจค้นหาสวนสาธารณะ
และวัดที่มีประวัติศาสตร์
ยาวนานโดยใช้โตเกียว
ทาวเวอร์เป็ นฐานที่มั่น

3

สัญลักษณ์ของโตเกียวยุคปัจจุบัน

“โตเกียวทาวเวอร์” ที่มองเห็นทัศนียภาพของเมือง เป็นหอคอยที่มี

ความสูงเป็นอันดับที่ 2 ของญี่ปุ่นรองจากโตเกียวสกายทรีสร้างเสร็จ

สมบูรณ์ในปี 2012 ถึงแม้จะถูกออกแบบโดยยึดหอไอเฟลสัญลักษณ์

ของกรุงปารีสมาเป็นต้นแบบ แต่โตเกียวทาวเวอร์กลับสูงกว่าคู่แข่งที่

มีชื่อเสียงถึง 13 เมตร
โตเกียวทาวเวอร์ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้

เป็นหอคอยสื่อสารที่มีเสาอากาศ

ขนาดยักษ์ยื่นจากจุดสูงสุดขึ้นไป

บนฟ้า และยังสามารถใช้เป็นจุด

ชม มีจุดชมวิว 2 แห่งที่อยู่ในช่วง

ความสูง 150 เมตรและ 250

เมตรคอยต้อนรับนักท่องเที่ยว ใน

ขณะที่อาคารสูง 4 ชั้นที่อยู่ใต้

หอคอยซึ่งเป็นพื้นที่ของร้านค้า

และร้านอาหารก็เป็นสถานที่ที่

พลาดไม่ได้ที่จะแวะไปเยี่ยมชม

4

ภูเขาฟูจิ

富士山ภูเขาไฟฟูจิ ( / Mount

Fuji / ฟูจิซัง) เป็นภูเขาที่มีชื่อเสียง

และสูงที่สุดในญี่ปุ่น ได้รับการขึ้น

ทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม

เนื่องจากความงดงามของทิวทัศน์และ
ภูมิหลังที่เป็นที่ศรัทธามานับตั้งแต่ครั้ง

อดีต สามารถกล่าวได้เต็มปากเลยว่า
เป็นสัญลักษณ์แห่งญี่ปุ่น ภูเขาฟูจิมี
เส้นทางเดินขึ้นเขาและสาธารณูปโภค
สำหรับอำนวยความสะดวกในการปีน
เขาที่ได้รับบำรุงรักษาอย่างดี ดังนั้นจึง
มีนักปีนเขามากกว่า 200,000 คนมา
เยือนทุกปี

จุดน่าชมของภูเขาไฟฟูจิก็คือทิวทัศน์ที่
สวยสดงดงาม ระหว่างทางของเส้นทาง
ขึ้นเขาคุณสามารถเห็นทิวทัศน์อันงดงาม
ของธรรมชาติอันยิ่งใหญ่อย่างมหาสมุทร

แปซิฟิก ทะเลสาบทั้งห้าของฟูจิ และ
ทะเลป่าฟูจิ หากคุณปีนขึ้นไปอีกคุณจะ

เห็นทะเลเมฆอยู่เบื้องล่าง หากอากาศดี

คุณสามารถมองไกลได้รอบทิศทาง 360

องศา มันสวยงามมากจนอยากให้ได้มา

ลองเห็นด้วยตาตัวเองในช่วงฤดูปีนเขา

เลยทีเดียวเชียว

5

ฤดูกาลปีนเขาและสภาพอากาศของ

ภูเขาไฟฟูจิ


ฤดูปีนเขาของภูเขาไฟฟูจิมักจะเริ่มจากต้นเดือนกรกฎาคมถึงกลางเดือน
กันยายน เนื่องจากเวลาเปิดทำการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยขึ้นอยู่กับเส้นทาง

ปีนเขาและขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ หากคุณต้องการปีนภูเขาก็ควรตรวจ

สอบเว็บไซต์อย่างเป็นทางการล่วงหน้า

ในทางกลับกัน ช่วงระหว่างเดือนตุลาคม - มิถุนายนเป็นฤดูหิมะของ

ภูเขาไฟฟูจิะ เส้นทางปีนเขาถูกปิดทั้งหมดและวิธีการเข้าถึงก็ลดลงอย่าง

五合目มาก หากไม่ได้มีจุดประสงค์ในการปีนเขาแล้วละก็ คุณสามารถที่จะปีนขึ้น
ไปยังสถานีที่ห้า ( / Fifth Station / โกะโกเมะ) ของภูเขาไฟ

ฟูจิได้ตลอดทั้งปี




6

ปราสาทฮิเมะจิ

ปราสาทฮิเมจิมีความเก่าแก่กว่า
600 ปี ป้อมปราการชุดแรกสร้าง
ขึ้นในช่วงยุค 1400 เนื่องจากที่นี่
ได้รับเลือกให้เป็นจุดยุทธศาสตร์เพื่อ
ใช้ป้องกันทิศตะวันตกของเมือง
เกียวโต กลุ่มปราสาทในปัจจุบัน
สร้างเสร็จในปีพ.ศ. 2452 ภายใต้
การควบคุมดูแลของขุนนางไดเมียว
ที่ชื่อ อิเคดะ เทรุมาซะ กลุ่มปราสาท
นี้ประกอบด้วยอาคารมากกว่า 80
หลังเชื่อมต่อกันด้วยเส้นทางต่าง ๆ
ที่คดเคี้ยวเหมือนเขาวงกต

ประตูโอเตะมงเป็นประตูหลัก
ของปราสาทฮิเมจิ จากประตูนี้
คุณสามารถเข้าไปยังพื้นที่ของ
ปราสาทที่เปิดให้เข้าได้ฟรีบาส่วน
อย่างตรงกำแพงชั้นนอกลำดับ
ที่สาม หรือที่เรียกว่า ซันโนะมารุ
พื้นที่ส่วนนี้ของปราสาทมีสนาม
หญ้ากว้างที่เต็มไปด้วยต้นซากุระ
จำนวนมาก ซึ่งเป็นสถานที่ยอด
นิยมในการปิกนิกชมดอกซากุระ

7

สวนในปราสาทฮิเมจิ

โคโคะเอ็ง เป็นสวนญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ข้างปราสาทฮิเมจิ ที่นี่ประกอบ
ด้วยสวน 9แห่งที่กั้นออกจากกันด้วยกำแพง โดยสวนเหล่านี้ตกแต่ง
ด้วยสไตล์ต่าง ๆ ในยุคเอโดะ สวนแห่งนี้เปิดให้เข้าชมในปีพ.ศ. 2535
เพื่อฉลองการครบรอบหนึ่งร้อยปีของเมืองฮิเมจิ

ในบรรดาคูน้ำเดิมสามแห่งของปราสาทฮิเมจิ มีเพียงหนึ่งแห่ง
เท่านั้นที่ยังคงสภาพอย่างสมบูรณ์จนถึงทุกวันนี้ คูน้ำนี้ คือ คูน้ำ
ภายในที่เรียกว่า โกคุโบริ ซึ่งหากคุณมาเที่ยวปราสาทแห่งนี้ในวัน
เสาร์อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ ก็จะมีโอกาสได้นั่งเรือไปตาม
คูน้ำดังกล่าว ค่าล่องเรืออยู่ที่ 1,000 เยนต่อเที่ยว และเรือมีเพียง
10 เที่ยวต่อวัน ในการเดินทางไปยังคูน้ำ คุณจะต้องเข้ามาทาง
ประตูฮิชิ

8

ฮอกไกโด

ฮอกไกโดไม่ได้มีแค่หิมะนะ ถ้ามา
ฮอกไกโดทุกคนจะได้พบกับธรรมชาติ
อุดมสมบูรณ์อันกว้างใหญ่สุดสายตา
ทุ่งดอกลาเวนเดอร์สีม่วงแสนงาม
อาหารทะเลสดใหม่ มิโซะราเม็งขึ้นชื่อ
ย่านบันเทิงยามค่ำคืน กีฬาฤดูหนาว
อย่างสกีและสโนว์บอร์ด จังหวัด
ฮอกไกโดตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของ
ประเทศญี่ปุ่น กินพื้นที่เกาะทั้งเกาะ ซึ่ง
แต่ละเขตแต่ละส่วนก็มีเอกลักษณ์และ
ความงามที่แตกต่างกันไปในแต่ละฤดู

หอนาฬิกาเมืองซัปโปโร
(Sapporo Clock Tower)
แลนด์มาร์คของซัปโปโร สร้าง
ขึ้นในปี 1876 เพื่อเป็นโรงฝึก
วิชาการทหารของวิทยาลัย
เกษตรซัปโปโรในสมัยนั้น หรือ
มหาวิทยาลัยฮอกไกโดใน
ปัจจุบันนั่นเอง และได้รับการ
ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทาง
วัฒนธรรมสำคัญของชาติ

9

สถานที่เที่ยวยอดนิยมในหน้าร้อนของฮอกไกโดคือ ทุ่งลาเวนเดอร์ที่บาน
เป็นสีม่วงสวยในเมืองฟูราโนะ (Furano) ที่ตั้งอยู่กึ่งกลางของเกาะ
ฮอกไกโด นอกจากลาเวนเดอร์ก็ยังมีดอกไม้อื่นๆ ผลัดกันบานอวดสีสัน
สวยงามกันมากมายตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป ถ้าไปเมืองโทกาจิ
(Tokachi) และโอบิฮิโระ (Obihiro) ก็จะได้เจอกับฟาร์มวัวกว้างใหญ่
ทำให้ฮอกไกโดเป็นแหล่งผลิตนมวัวและผลิตภัณฑ์จากนมวัวอย่างชีสที่มีชื่อ
ของประเทศ ถ้าใครที่อยากเที่ยวธรรมชาติเป็นหลัก แนะนำให้ออกไปทาง
ตะวันออกของฮอกไกโดเลย ในช่วงที่อากาศอบอุ่นเราสามารถไปชมหมีและ
วาฬตามธรรมชาติได้แถบชิเรโตโกะ (Shiretoko) ถ้าเป็นฤดูหนาวก็ขึ้น
เรือล่องทะเลน้ำแข็งได้ด้วย หรือจะไปอุทยานคุชิโระชิตสึเก็น (Kushiro-
shitsugen National Park) เดินป่าชมธรรมชาติก็ได้

10

จุดชมวิวเขาโมอิวะ (Mount Moiwa)

เขาโมอิวะ (Mount Moiwa) เป็นเขาที่อยู่ใกล้ใจกลางเมือง
ซัปโปโรมากที่สุด อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติและสัตว์ป่า แถมยัง
เป็นจุดชมวิวเมืองซัปโปโรยอดนิยมด้วย วิวยามค่ำคืนของซัปโปโรนี้
ได้รับเลือกให้เป็นอันดับ 2 ของ 3 วิวกลางคืนแสนสวยของญี่ปุ่น
ประจำปี 2015 (อันดับ 1 นางาซากิ อันดับ 3 โกเบ) มีกระเช้า
Mount Moiwa Ropeway ให้นั่งขึ้นสู่ด้านบนได้แบบสบายๆ เลย

การเดินทาง : จากสถานี Sapporo ก่อนอื่นให้นั่งรถรางไปลงที่
สถานี Ropeway-iriguchi Station เดินต่อ 10 นาทีหรือนั่งรถ
Shuttle Bus ฟรี ลงที่ป้าย Moiwa Sanroku




11

บรรณานุกรม

https://www.jnto.or.th/newsletter/imperial-palace/
https://www.gotokyo.org/th/destinations/souther
n-tokyo/tokyo-tower-and-around/index.html

https://www.fun-japan.jp/th/articles/9803
https://www.japan.travel/th/spot/1030/


https://matcha-jp.com/th/list?region=12

SEE YOU IN

日 JAPAN 日
本 本