1
2 บันทึกข้อความ ส่วนราชการ โรงเรียนบ้านโชคกราดส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่ 1 / 2566 วันที่ 31 เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2566 เรือง รายงานผลการจัดท าวิจัยในชั้นเรียน การพัฒนาทักษะ เรื่องเวลา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ โดยใช้ แบบฝึกทักษะทางคณิตศาสตร์และสื่อนาฬิกา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 เรียน ผู้อ านวยการโรงเรียนบ้านโชคกราด สิ่งที่ส่งมาด้วย รายงานผลการจัดท าวิจัยในชั้นเรียนการพัฒนาทักษะ เรื่องเวลา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ โดยใช้แบบฝึกทักษะทางคณิตศาสตร์และสื่อนาฬิกา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 ด้วยข้าพเจ้า นางสาวกมลวรรณ ยศราวาส ต าแหน่ง พี่เลี้ยงเด็กพิการ โรงเรียนบ้านโชคกราด ได้ จัดท ารายงานวิจัยในชั้นเรียน เรื่อง การพัฒนาทักษะ เรื่องเวลา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ โดยใช้แบบฝึก ทักษะทางคณิตศาสตร์และสื่อนาฬิกา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาและหรือพัฒนา คุณภาพผู้เรียน ประจ าภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 บัดนี้ ข้าพเจ้าได้จัดท าวิจัยในชั้นเรียนเสร็จสิ้นแล้วขอรายงานผลการวิจัยตามเอกสารที่แนบมาด้วยนี้ จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและพิจารณา ลงชื่อ .................................................................. (นางสาวกมลวรรณ ยศราวาส) ต าแหน่ง พี่เลี้ยงเด็กพิการ โรงเรียนบ้านโชคกราด ความคิดเห็นของผู้อ านวยการโรงเรียน ทราบ อื่น ๆ ................................................................................................. ข้อเสนอแนะของผู้อ านวยการโรงเรียน ................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ลงชื่อ .................................................... (นางสาวภัทรพร อะพรรัมย์) ผู้อ านวยการโรงเรียนบ้านโชคกราด
3 ค ำน ำ งานวิจัยในชั้นเรียนการพัฒนาทักษะ เรื่องเวลา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ โดยใช้แบบฝึกทักษะทาง คณิตศาสตร์และสื่อนาฬิกา ได้จัดท าขึ้นเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ ของนักเรียนและพัฒนากระบวนการเรียนการสอนของ ครู และเพื่อให้ผู้เรียน บุคลากรทางการศึกษา แลครูผู้สอนได้ตระหนักและเห็นความส าคัญของงานวิจัย เห็น คุณค่าของงานวิจัย มีความรู้สึกที่ดีต่อการวิจัยต่อไป นางสาวกมลวรรณ ยศราวาส ผู้วิจัย
4 ชื่องำนวิจัย : การพัฒนาทักษะ เรื่องเวลา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ โดยใช้แบบฝึกทักษะทาง คณิตศาสตร์และสื่อนาฬิกา ชื่อผู้วิจัย : นางสาวกมลวรรณ ยศราวาส ต ำแหน่ง : ครูพี่เลี้ยงเด็กพิการ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้: คณิตศาสตร์ ปีกำรศึกษำ : ๒๕๖๖ บทคัดย่อ การวมวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนาทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การใช้ชุดฝึกทักษะเรื่องเวลา ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านโชคกราด และน าผลการเรียนเพื่อหา คุณภาพของชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการใช้ชุดฝึกทักษะเรื่องเวลาที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านโชคกราด ประชากรที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านโชคกราด จ านวน 1๔ คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนเรื่องเวลา และชุดฝึกทักษะเรื่องเวลา จ านวน ๕ ชุด โดยใช้คะแนนที่ได้จากการทดสอบความแตกต่างระหว่างคะแนนก่อนและ หลังการใช้ชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องเวลาค านวณค่า ( T –test ) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อน และหลังเรียน ผลการวิจัยพบวาการใช้ชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องเวลาท าให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สูงขึ้น ดูจากผลการทดสอบก่อนเรียนจากคะแนนเต็ม 10 คะแนน ได้คะแนนเฉลี่ย 12 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ๑.๓๖ คิดเป็นร้อยละ ๔0 ผลการทดสอบหลังเรียนจากคะแนนเต็ม 10 คะแนน ได้คะแนนเฉลี่ย ๖ ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน ๒.๑๗ คิดเป็นร้อยละ ๕๕.๗๑ เพิ่มขึ้น ร้อยละ ๒๒.๒๘ ซึงพบว่า ผลการเรียนรู้หลังเรียนสูงกว่าผลการ เรียนรู้ก่อนเรียน เมื่อนา ไปค านวณหาค่า T ใน ตารางนั้นคะแนนทดสอบหลังเรียนมีค่ามากกว่าทดสอบก่อนเรียน มี ค่าสถิติที่ได้เท่ากับ 2.17881
5 สำรบัญ เรื่อง หน้ำ ค ำน ำ ๑ บทคัดย่อ ๒ สำรบัญ ๓ บทที่ 1 บทน ำ ๔ ความเป็นและความส าคัญของปัญหา วัตถุประสงค์การวิจัย สมมติฐานของการศึกษา ความส าคัญของการศึกษาค้นคว้า ขอบเขตของการศึกษาค้นคว้า นิยามศัพท์เฉพาะ ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ วิธีการด าเนินวิจัย บทที่ 2 เอกสำรและงำนวิจัยที่เกี่ยวข้อง ๖ หลักสูตร ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับคณิตศาสตร์ ชุดฝึกทักษะเรื่องการคูณ ผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง บทที่ 3 วิธีด ำเนินกำรวิจัย ๑๘ ประชากรกลุ่มตัวอย่าง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ขั้นตอนในการสร้างเครื่องมือ ขั้นตอนการเก็บรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล บทที่ 4 ผลกำรด ำเนินกำรวิจัย ๒0 บทที่ 5 สรุปผลอภิปรำยผล ๒๒ บรรณำนุกรม ๒๔ ภำคผนวก ๒๕ แบบทดสอบก่อนเรียน แบบทดสอบหลังเรียน แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เวลา
6 บทที่ 1 บทน ำ 1.1 ควำมเป็นมำและควำมส ำคัญของปัญหำ คณิตศาสตร์มีความส าคัญ ต่อการพัฒนาความคิดของมนุษย์เป็นอย่างมากทา ให้มนุษย์มีความคิดสร้างสรรค์ คิดอย่างมีเหตุมีผลเป็นระบบ มีระเบียบ มีแบบแผน สามารถคิดวิเคราะห์ปัญหาและสถานการณ์ได้อย่างถี่ถ้วน รอบคอบท าให้สามารถคาดการณ์วางแผนตัดสินใจและแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้องเหมาะสมคณิตศาสตร์เป็นเครื่องมือ ในการศึกษาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตลอดจนศาสตร์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องคณิตศาสตร์จึงมีประโยชน์ต่อการด ารงชีวิต และช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต (กลุ่มส่งเสริมการเรียนการสอนและประเมินผล ส านักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. 2548:1) นอกจากนักคณิตศาสตร์ยังช่วยพัฒนาคนให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์มีความสมดุลทั้งทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา และอารมณ์ สามารถคิดเป็นท าเป็นแก้ปัญหาเป็น และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข (ส านัก ทดสอบทางการศึกษา. 2546 : 2)นา ไปสู่การเรียนรู้สาระอื่น ๆ และการเรียนในระดับสูงคณิตศาสตร์เป็นวิชาที่ช่วย พัฒนาคน ให้คิดเป็นอย่างมีเหตุผล มีระเบียบขั้นตอนในการคิด และยังช่วยเสริมคุณลักษณะที่จ าเป็นต่อการ ด ารงชีวิตอื่น ๆ เช่น การสังเกตความละเอียดถี่ถ้วนแม่นย า มีสมาธิและรู้จักการแก้ปัญหาโดยมีจุประสงค์และความ เข้าใจกระบวนการและการคิด จนสามารถน าไปใช้แก้ไขปัญหาในชีวิตประจ าวันและการด าเนินชีวิตได้อย่างมี ความสุข โดยธรรมชาติของวิชาคณิตศาสตร์เป็นวิชาที่เกี่ยวกับความคิดรวบยอด และทักษะอีกทั้งต้องอาศัยวิธีสอนที่ เหมาะสม ซึ่งจะท าได้โดยเรียนจากอุปกรณ์จริง จากประสบการณ์การสอนคณิตศาสตร์ ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่านักเรียนเขียนเฉพาะค าตอบมาส่งครูแต่นักเรียนไม่สามารถอธิบายวิธีการหรือขบวนการในการท าได้ทั้งนี้ เพราะทุกคนไม่ชอบคิดเองและไม่ชอบแสดงวิธีท าไม่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ชอบแต่ลอกเพื่อนเมื่อก าหนดโจทย์ให้ ไม่สามารถหาค าตอบได้ถึงการสอนคณิตศาสตร์ยังไม่ประสบผลส าเร็จเท่าที่ควรคือผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนวิชา คณิตศาสตร์ยังไม่บรรลุผลและอยู่ในระดับ ที่ไม่พอใจและนักเรียนจ านวนมากไม่ชอบวิชาคณิตศาสตร์โดยคิดว่าวิชา คณิตศาสตร์เป็นวิชาที่ยาก และทา แบบฝึกหัดมาก นักเรียนจึงรู้สึกท้อแท้ขาดความมั่นใจในการเรียนซึ่งเป็น ผลกระทบโดยตรงต่อการเรียน และเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาทักษะคณิตศาสตร์ด้วย ( วรสุดา บุญยไวโรจน์. 2542 : 36 ) ควรเน้นถึงทักษะกระบวนการคิดของนักเรียนแต่ละคน ซึ่งเป็นสิ่งส าคัญไม่แพ้ค าตอบของปัญหาต่าง ๆ นักเรียนจะมีความสามารถในการคิด และเกิดทักษะกระบวนการคิดมากน้อยเพียงใดนั้นขึ้นอยู่กับพื้นฐาน ในสิ่งที่คิด และคิดได้หรือคิดเป็นกระบวนการคิดจนทา ให้เกิดทักษะสามารถน าไปใช้แก้ปัญหาต่าง ๆ ได้เสมอ จากสภาพปัญหาการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ จะเห็นได้ว่าคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ค่อนข้างต่ า เนื่องจากเนื้อหาหลักของเรื่อง เวลา เป็นเนื้อหาค่อนข้างเป็นนามธรรม นักเรียนขาดความใส่ใจและสนใจในการเรียนรู้นอกจากนี้นักเรียนยังขาดทักษะใน การบอกเวลาในเวลากลางวันและกลางคืน เนื่องจากประเทศไทยนับรอบเวลาเป็น 24 ชั่วโมง การเขียนบอกเวลา โดยใช้จุดและการอ่าน ความสัมพันธ์ของเวลา การบอกระยะเวลา การเปรียบเทียบเวลา รวมทั้งการอ่านและจด บันทึกระบุเวลาด้วย ซึ่งจะเป็นปัญหาต่อการเรียนในระดับที่สูงขึ้นและในชีวิตประจ าวัน ดังนั้นผู้วิจัยซึ่งในฐานะที่เป็นครูผู้สอนคณิตศาสตร์จึงเล็งเห็นความส าคัญของปัญหาดังกล่าว จึงได้ท่าการ วิจัยเพื่อพัฒนาทักษะ เรื่องเวลา ของนักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ โดยการใช้แบบฝึกทักษะเรื่อง เวลา ซึ่งจะส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน
7 ๑.๒ วัตถุประสงค์กำรวิจัย ๑.๒.๑ เพื่อเปรียบเทียบการแก้ปัญหาการคูณก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะทาง คณิตศาสตร์ ๑.๒.๒ เพื่อพัฒนาทักษะด้านการบอกเวลาของนักเรียนให้ถูกต้องมากขึ้น ๑.๒.๓ เพื่อพัฒนาการน าความรู้เกี่ยวกับการบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาทีไปใช้ในชีวิตจริงได้ ๑.๓ สมมติฐำนของกำรวิจัย นักเรียนที่ได้รับการพัฒนาทักษะเรื่องเวลาตามขั้นตอนหลังการฝึกทักษะการสูงกว่าก่อนการฝึก ๑.๔ ขอบเขตของกำรวิจัย 1.๔.๑ ในการวิจัยครั้งนี้เป็นการส่งเสริมทักษะเรื่องเวลา โดยใช้แผนการจัดประสบการณ์และแบบ ฝึกทักษะเรื่องเวลา ๑.๔.๒ ประชากรในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรียนบ้านโชคกราด ๑.๕ นิยำมศัพท์ในกำรวิจัย การส่งเสริม หมายถึง เกื้อหนุน, ช่วยเหลือสนับสนุนให้ดีขึ้น ๑.๖ ขอบเขตของกำรศึกษำค้นคว้ำ ๑.๖.1. กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ จ านวน 1๔ คน ๑.๖.2. ตัวแปรที่ศึกษา ตัวแปรต้น การพัฒนาทักษะ เรื่องเวลา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ตัวแปรตำม การพัฒนาทักษะการบอกเรื่องเวลาที่ถูกต้องและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ดีขึ้น การบอกเวลา หมายถึง เพื่อให้ได้ค าตอบที่ถูกต้องและสมเหตุสมผล ๑.๗ ประโยชน์ที่คำดว่ำจะได้รับ ๑.๗.1 นักเรียนสามารถบอกเวลากลางวันและกลางคืนในชีวิตประจ าวันได้ ๑.๗.2 นักเรียนมีพัฒนาการการอ่านเวลาเป็นนาฬิกาและนาทีได้ถูกต้อง ๑.๗.3. นักเรียนมีคิดอย่างสร้างสรรค์ ๑.๘ วิธีกำรด ำเนินวิจัย ๑.๘.๑ ทดสอบการฝึกทักษะการบอกเวลาก่อนและหลังของนักเรียนชั้นประถมศึกษาที่ ๓ ๑.๘.๒ การใช้แบบฝึกการพัฒนาทักษะการบอกเวลา ด าเนินการ ดังนี้ ๑. ประชากรในการวิจัยได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ จ านวน ๑๔ คน ปีการศึกษา ๒๕๖๖ มีปัญหาในการบอกเวลาของชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ไม่ถูกต้องโดยศึกษากับประชากรทั้งหมด ๒. การใช้แบบฝึกการคูณ ผู้วิจัยได้ใช้แบบฝึกหัดการแก้ไขปัญหาการคูณ จ านวน ๕ ชุด ในช่วงเวลา พักกลางวัน และหลังเลิกเรียน วันละ 30 นาทีในช่วงเดือนกรกฎาคม 6๖ – เดือนสิงหาคม 66 ภาคเรียนที่ ๑ ปี การศึกษา ๒๕๖๖ ๓. ให้นักเรียนฝึกการบอกเวลาโดยการใช้สื่อนาฬิกา เวลาพักเที่ยง 30 นาที
8 บทที่ 2 เอกสำรงำนวิจัยที่เกี่ยวข้อง การวิจัยครั้งนี้เป็นงานวิจัยเชิงทดลองผู้วิจัยได้ศึกษาผลของการใช้ชุดฝึกทักษะ เรื่องเวลาที่มีต่อผลการเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านโชคกราด ผู้วิจัยได้ศึกษาค้นคว้าเอกสารและงานวิจัยเกี่ยวข้องเพื่อ ใช้เป็นแนวทางในการวิจัยดังรายละเอียดต่อไปนี้ 1. หลักสูตร 1.1 หลักสูตรสถานศึกษากลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2561 ) ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 2. ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับคณิตศำสตร์ 2.1 ความหมายของคณิตศาสตร์ 2.2 ความส าคัญของคณิตศาสตร์ 2.3 แนวคิดและทฤษฎีทางคณิตศาสตร์ 2.4 ประโยชน์และคุณค่าของคณิตศาสตร์ 3. ชุดฝึกทักษะเรื่องเวลำ 3.1 ความหมายของชุดฝึกทักษะ 3.2 หลักการสร้างชุดฝึกทักษะ 3.3 ประโยชน์ของชุดฝึกทักษะ 4. ผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียน 4.1 ความหมายของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4.2 ความหมายของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4.3 ประเภทของการวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4.4 หลักการสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 5. งำนวิจัยที่เกี่ยวข้อง 5.1 ผลการใช้แบบฝึกคณิตศาสตร์เรื่องเวลาที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดราษฎร์นิยมธรรม สังกัดกองการศึกษาเทศบาลเมืองศรีราชา 5.2 การพัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์เรื่องเวลา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ โดยใช้แบบฝึกทักษะ 5.3 ผลการใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์และเจตคติทางการเรียนคณิตศาสตร์ของ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนเคหะประชาสามัคคี จังหวัดนครราชสีมา 1. หลักสูตร 1.1 หลักสูตรสถานศึกษากลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2561 ) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 1. เป็นหลักสูตรการศึกษาเพื่อความเป็นเอกภาพของชาติ มีจุดหมายและมาตรฐานการ เรียนรู้เป็นเป้าหมายส าหรับพัฒนาเด็กและเยาวชนรุ่นใหม่ความรู้ทักษะเจตคติและคุณธรรมบนพื้นฐาน ของความเป็นไทยควบคู่กับความเป็นสากล
9 2. เป็นหลักสูตรการศึกษาเพื่อปวงชนที่ประชาชนทุกคนมีโอกาสได้รับการศึกษาอย่าง เสมอภาค และมีคุณภาพ 3. เป็นหลักสูตรการศึกษาที่สนองการกระจายอ านาจท าให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัด การศึกษาให้สอดคล้องกับสภาพและความต้องการชองท้องถิ่น 4. เป็นหลักสูตรการศึกษาที่มีโครงสร้างยืดหยุ่น ทั้งด้านสาระการเรียนรู้เวลาและการจัดการเรียนรู้ 5. เป็นหลักสูตรการศึกษาที่เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ 6. เป็นหลักสูตรการศึกษาส าหรับการศึกษาในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัยครอบคลุมทุก กลุ่มเป้าหมาย สามารถเทียบโอนผลการเรียนรู้และประสบการณ์ วิสัยทัศน์ มุ่งพัฒนามุ่งฝึกฝนให้ผู้เรียนมีความคิดสร้างสรรค์คิดอย่างมีเหตุผลเป็นระบบ มีแบบแผน สามารถคิดวิเคราะห์ปัญหาและสถานการณ์ได้อย่างถีถ้วนรอบคอบ และเป็นเครื่องมือในการศึกษาศาสตร์ อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเป็นประโยชน์ในการด ารงชีวิตท าให้เป็นคนที่สมบูรณ์คิดเป็น แก้ปัญหาเป็น สามารถอยู่ กับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานมุ่งให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะส าคัญ ๕ ประการ ดังนี้ 1. ความสามารถในการสื่อสารเป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมใน การใช้ภาษาถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสารและประสบการณ์อนันต์จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคมรวมทั้งการเจรจาต่อรองเพื่อขจัดและ ลดปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้องตลอดจนการ เลือกใช้วิธีการสื่อสาร ที่มีประสิทธิภาพโดยคา นึกถึงผลกระทบที่มีต่อตนเองและสังคม 2. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด อย่างสร้างสรรค์การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบเพื่อน าไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือ สารสนเทศเพื่อการตัดสินใจเกี่ยวกับตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เผชิญได้อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผลคุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศเข้าใจ ความสัมพันธ์และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ประยุกต์ความรู้มาใช้ใน การป้องกันและแก้ไขปัญหาและมีการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพโดยค านึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อตนเอง สังคมและสิ่งแวดล้อม 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนา กระบวนการต่าง ๆ ไป ใช้ในการด าเนินชีวิตประจ าวัน การเรียนรู้ด้วยตนเองการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทา งาน และการอยู่ร่วมกัน ในสังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคลการจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ อย่าง เหมาะสม การปรับตัวใหม่ การเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเลี่ยง พฤติกรรมไม่พึงประสงค์ที่ส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น
10 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้เทคโนโลยี ด้านต่าง ๆ และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาตนเองและสังคมในด้านการเรียนรู้การสื่อสาร การท างาน การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ถูกต้องเหมาะสม และมีคุณธรรมคณิตศาสตร์มีบทบาทส าคัญอย่างยิ่งต่อ ความส าเร็จในการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เนื่องจาก คณิตศาสตร์ช่วยให้มนุษย์มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์คิดอย่างมี เหตุผลเป็นระบบมีแบบแผน สามารถวิเคราะห์ปัญหาหรือสถานการณ์ได้อย่างรอบคอบและถี่ถ้วน ช่วยให้คาดการณ์ วางแผน ตัดสินใจแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และสามารถน าไปใช้ในชีวิตประจ าวันได้จริงได้อย่างมี ประสิทธิภาพ นอกจากนี้คณิตศาสตร์ยังเป็นเป็นเครื่องมือในการศึกษาด้วยคณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และศาสตร์อื่นๆ อันเป็นรากฐาน ในการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของชาติใหม่คุณภาพและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้เท่าเทียมกับ นานาชาติการศึกษาคณิตศาสตร์จึงจ าเป็นต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทันสมัย และสอดคล้องกับสภาพ เศรษฐกิจ สังคมและความรู้ทางคณิตศาสตร์และเทคโนโลยีที่เจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในยุคโลกาภิวัตน์ ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์(ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๑) ตาม หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับนี้จัดท าขึ้นโดยค านึกถึงการส่งเสริมให้ผู้เรียนมี ทักษะที่จ าเป็นส าหรับการเรียนรู้ในศตวรรษที่๒๑ เป็นส าคัญ นั่น คือ การเตรียมผู้เรียนใหม่ทักษะด้านการคิด วิเคราะห์กาคิดอย่างมีวิจารณญาณ การแก้ปัญหาการคิดสร้างสรรค์การใช้เทคโนโลยีการสื่อสารและการร่วมมือ ซึ่ง จะส่งผลให้ผู้เรียนรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของระบบเศรษฐกิจสังคมวัฒนธรรม และสภาพแวดล้อม สามารถแข่งขัน และอยู่ร่วมกับประชาคมโลกได้ทั้งนี้การจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ที่ประสบความส าเร็จนั้นจะต้องเตรียมผู้เรียนใหม่ ความพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ พร้อมที่จะประกอบอาชีพเมื่อจบการศึกษา หรือ สามารถศึกษาต่อในระดับ ที่สูงขึ้น ดังนั้น สถานศึกษาควรจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมตามศักยภาพของผู้เรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์จัดเป็น ๓ สาระได้แก่ จ านวนและพีชคณิต การวัดและเรขาคณิต และสถิติและความน่าจะเป็น ✧จ านวนและพีชคณิต เรียนรู้เกี่ยวกับระบบจ านวนจริง สมบัติเกี่ยวกับจ านวนจริงอัตราส่วน ร้อยละการ ประมาณค่า การแก้ปัญหาเกี่ยวกับจ านวน การใช้จ านวนในชีวิตจริงแบบรูปความสัมพันธ์ฟังก์ชันเซต ตรรกศาสตร์ นิพจน์เอกนาม พหุนาม สมการระบบสมการอสมการกราฟ ดอกเบี้ยและมูลค่าของเงินล าดับและอนุกรม และการน า ความรู้เกี่ยวกับจ านวนและพีชคณิตไปใช้ในสถานการณ์ต่างๆ ✧การวัดและเรขาคณิต เรียนรู้เกี่ยวกับความยาว ระยะทางน้ าหนักพื้นที่ ปริมาตรและความจุเงินและเวลา หน่วยวัดระบบต่างๆ การคาดคะเนเกี่ยวกับการวัดอัตราส่วนตรีโกณมิติรูปเรขาคณิต และสมบัติของรูปเรขาคณิต การนึกภาพ แบบจ าลองทางเรขาคณิต ทฤษฎีบททางเรขาคณิต การแปลงทางเรขาคณิตในเรื่องการเลื่อนขนาน การ สะท้อน การหมุน และการนา ความรู้เกี่ยวกับการวัดและเรขาคณิตไปใช้ในสถานการณ์ต่างๆ ✧สถิติและความน่าจะเป็น เรียนรู้เกี่ยวกับการตั้งค าถามทางสถิติการเก็บรวบรวมข้อมูลการค านวณค่าสถิติ การนา เสนอและแปลผลส าหรับข้อมูลเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ หลักการนับเบื้องต้นความน่าเป็นการใช้ความรู้ เกี่ยวกับสถิติและความน่าจะเป็นในการอธิบายเหตุการณต่าง ๆ และช่วยในการตัดสินใจ
11
12
13
14
15 เวลำ
16
17
18
19
20 บทที่ 3 วิธีด ำเนินกำรศึกษำค้นคว้ำ วิธีด ำเนินกำรวิจัย การวิจัยเรื่องผลของการใช้ชุดฝึกทักษะเรื่องการคูณที่มีต่อผลการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านโชคกราด มีวิธีการด าเนินการดังนี้ 1. ประชากร 2. เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 3. การสร้างเครื่องมือและหาคุณภาพเครื่องมือ 4.การเก็บรวบรวมข้อมูล 5. การวิเคราะห์ข้อมูล 6. สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 1. ประชำกรกลุ่มตัวอย่ำง ประชากรในการวิจัยครั้งนี้คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่3 ปี การศึกษา 256๖ โรงเรียนบ้านโชคกราด อ าเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์ 2. เครื่องมือที่ใช้ในกำรวิจัย เครื่องมือที่ใช้ในในการวิจัยครั้งนี้คือ 1. แผนการจัดการเรียนรู้ 2. ชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์เรื่องเวลา 3. ใบงานเรื่องเวลา 3. กำรสร้ำงเครื่องมือและหำคุณภำพเครื่องมือ ในการสร้างเครื่องมือชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์เรื่องเวลา ครั้งนี้ผู้วิจัยได้ด าเนินการดังนี้ 1.ศึกษาข้อมูลเนื้อหาวิชาคณิตศาสตร์จากหลักสูตร และแผนการจัดการเรียนรู้เรื่องเวลา 2. ด าเนินการสร้างชุดฝึกทักษะเรื่องเวลา 3. ตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ช่วยตรวจสอบให้ 4. ขั้นตอนกำรเก็บรวบรวมข้อมูล 1. สอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ 2. สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนเป็นรายบุคคล 3. ทดสอบก่อนเรียน 4. ใช้ชุดฝึกทักษะในการเรียนการสอน 5. ใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน (ทดสอบหลังเรียน) 6. เก็บรวบรวมข้อมูลและประเมินผล 5. กำรวิเครำะห์ข้อมูล -เปรียบเทียบความสามารถในการบอกเวลาก่อนและหลังการฝึก -เปรียบเทียบความก้าวหน้าในการบอกเวลาเป็นระยะๆในระหว่างการฝึก
21 6. สถิติที่ใช้ในกำรวิเครำะห์ข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล โดยการหาค่าเฉลี่ยของคะแนนแบบทดสอบก่อน (X1) หลังเรียน(X2)คะแนน ความก้าวหน้า (X1-X2) ผลต่างของคะแนนคือค่า D -ข้อมูลที่เก็บได้ ความสามารถในทักษะการบอกเวลา -วิธีการที่ใช้ คือการสังเกต -เครื่องมือที่ใช้ คือ บันทึกผลการบอกเวลา
22 บทที่ 4 ผลกำรด ำเนินกำรวิจัย ในการศึกษาครั้งนี้ผู้วิจัยได้สร้างชุดฝึกเพื่อพัฒนาทักษะเรื่องการคูณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านโชคกราด ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์เขต ๒ ได้ทดลองจัดกิจกรรมหลังจากได้ ด าเนินการทดสอบและท าการบันทึกคะแนนไว้เพื่อหาค่าความแตกต่างโดยเทียบคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียน ได้ผลดังปรากฏในตารางดังต่อไปนี้ ตารางวิเคราะห์ที่ 1 แสดงจ านวนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 256๖ โรงเรียนบ้านโชคกราด นักเรียน จ านวน(คน) คิดเป็นร้อยละ ชาย ๘ ๕๗.๑๔ หญิง ๖ ๔๒.๘๖ จากตารางที่ 1 จะเห็นว่านักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 256๖ โรงเรียนบ้านโชคกราด มีทั้งสิ้น 1๔ คน เป็นนักเรียนชาย 6คน คิดเป็นร้อยละ 52.38 และนักเรียนหญิง 5 คน คิดเป็นร้อยละ 47.62 ตารางวิเคราะห์ที่ 2 แสดงผลการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องเวลาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านโชคกราด จ านวน 1๔ คน โดยเก็บคะแนน 2 ครั้ง คือก่อนเรียนและหลังเรียน คะแนนสอบที่ได้เป็นดังตาราง ที่ ชื่อ – สกุล คะแนนทดสอบเรื่องเวลา ผลต่าง ก่อนเรียน ( ๑0 คะแนน) หลังเรียน ( ๑0 คะแนน) D 1 เด็กชายภัคพงษ์ เกิดพระ ๕ ๗ 2 ๔ 2 เด็กหญิงศรัณย์รัตน์ ดวงขันค า 4 ๖ 2 ๔ 3 เด็กหญิงจิราพร แก้วศรี 4 5 1 ๑ 4 เด็กชายพิพัฒน์ พิรางรัมย์ 5 8 3 ๙ 5 เด็กหญิงฐิติรัตน์ กิริรัมย์ ๔ ๖ 2 ๔ 6 เด็กหญิงอภิญญาเนียนหอม 5 8 3 ๙ 7 เด็กชายจินตนาการตระกุลรัมย์ ๑ ๒ 1 ๑ 8 เด็กชายภัทรพล ปาวแฮด ๓ ๔ 1 ๑ 9 เด็กชายพัชรพล ทะรารัมย์ ๓ ๓ 0 0 10 เด็กชายธนพัฒน์ ชูแก้ว ๖ ๘ ๒ ๔ D 2
23 11 เด็กหญิงภัทรวดี ภาสดา ๔ ๔ 0 0 12 เด็กชายชิษณุพงศ์ เกษมสุข ๓ ๔ 1 ๑ 13 เด็กหญิงสิรินทรา โกรัมย์ ๓ 4 1 1 14 เด็กชายเมธาวิน แพงสา 6 ๙ 4 ๑๖ รวม ๕๖ ๗๘ t = 2.17881 เฉลี่ย ๔ ๖ ร้อยละ ๔0 ๕๕.๗๑ S.D. ๑.๓๖ ๒.๑๗ ลงชื่อ…………………………………………………(ผู้ประเมิน) (นางสาวกมลวรรณ ยศราวาส) ลงชื่อ………………………………………………… (นางสาวภัทรพร อะพรรัมย์) ผู้อ านวยการโรงเรียนบ้านโชคกราด จากตาราง พบว่าผลการทดสอบก่อนเรียนจากคะแนนเต็ม ๑0 คะแนน ได้คะแนนเฉลี่ย 12 ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน 6.89 คิดเป็นร้อยละ 60 ผลการทดสอบหลังเรียนจากคะแนนเต็ม 20คะแนน ได้คะแนนเฉลี่ย 14.81 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 9.49 คิดเป็นร้อยละ 74.09 เพิ่มขึ้นร้อยละ14.09 ซึงพบว่า ผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้หลัง เรียนสูงกว่าผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ก่อนเรียนอย่างมีนัยส าคัญทางการเรียนรู้หลังเรียนทางสถิติที่ระดับ .05
24 บทที่ 5 สรุปผล อภิปรำยผล และข้อเสนอแนะ จากการด าเนินการวิจัยผู้วิจัยสามารถสรุปผลการด าเนินการวิจัยได้ดังนี้ สรุปผลกำรวิจัย ผลการวิจัยในครั้งนี้ปรากฏว่าเมื่อนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยใช้ชุดฝึกทักษะ เรื่องเวลา ผลการเรียนรู้ของนักเรียนหลังการใช้ชุดฝึกสูงกว่าผลการเรียนรู้ของนักเรียนก่อนการใช้ชุดฝึก เป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้จากการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลผลการทดสอบก่อนเรียนจากคะแนนเต็ม 20 คะแนน ได้คะแนนเฉลี่ย 12 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 6.89 คิดเป็นร้อยละ 60 ผลการทดสอบหลังเรียนจาก คะแนนเต็ม 20 คะแนน ได้คะแนนเฉลี่ย 14.81 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 9.49 คิดเป็นร้อยละ 74.09 เพิ่มขึ้น ร้อยละ14.09 ซึ่งพบว่าผลการเรียนรู้หลังเรียนสูงกว่าผลการเรียนรู้ก่อนเรียน อภิปรำยผล จากผลการวิจัยท าให้ทราบว่าเมื่อนักเรียนได้เรียนโดยใช้ชุดฝึกทักษะเรื่องการคูณจากการจัดกิจกรรมการ เรียนรู้ในครั้งนี้นักเรียนมีพัฒนาการด้นการคูณสูงขึ้น ดังจะเห็นได้จากผลการเรียนรู้ของนักเรียนหลังการใช้ชุดฝึกสูง กว่าการเรียนรู้ของนักเรียนก่อนการใช้ชุดฝึกเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.09 เป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งแต่การทดลองนี้ไม่ สามารถบอกไดว่าผลหลังการทดลองนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงในตัวนักเรียนเนื่องจากระยะเวลาระหว่างการจัด กิจกรรมท าให้นักเรียนมีความรับผิดชอบ และมีความขยันมากขึ้นอย่างไรก็ตามผู้วิจัยได้สังเกตนักเรียนพบว่า นักเรียน บางคนนั้นมีความขยันใส่ใจต่อการเรียน เพื่อที่จะพัฒนาตนเองให้มากขึ้น แต่มีบางคนที่มีปัญหาเรื่องการคูณ คือเป็น เด็กที่ยังท่องสูตรคูณไม่ได้และค่อนข้างเรียนรู้ช้าเมื่อเทียบกับเด็กคนอื่น ๆ ข้อเสนอแนะในกำรท ำวิจัย 1. ครูผู้สอนชั้นประถมศึกษาปีที่3 สามารถน าชุดฝึกทักษะเรื่องเวลาที่ผู้ศึกษาค้นคว้าสร้างข้นไปใช้สอน นักเรียนได้เนื่องจากมีประสิทธิภาพพอที่ใช้ในการแก้ไขนักเรียนที่มีผลทางการเรียนต่ าและสามารถใช้สอนซ่อมเสริม ในวิชาคณิตศาสตร์ได้ 2. ในการวิจัยครั้งต่อไปควรมีการสร้างชุดฝึกเสริมทักษะในเรื่องอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น โจทย์ปัญหาเรื่องเวลา เป็นต้น 3.ควรมีการจัดฝึกอบรม สัมนา เผยแพร่ความรู้แก่ครูในการสร้างสื่อการเรียน ประโยชน์ต่อนักเรียน 1. นักเรียนได้พัฒนาทักษะเรื่องเวลา 2. นักเรียนมีความภาคภูมีใจที่ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ของนักเรียนสูงขึ้นท าให้เกิดความมนใจในการเรียน มากขึ้น 3. นักเรียนมีผลทางการเรียนสูงขึ้น 4. นักเรียนสามารถน ากระบวนการเรียนรู้ที่ได้รับจากการเรียนการสอนไปใช้ในชีวิตประจ าวันได้
25
26 ภำคผนวก
27 สารบัญ เรื่อง 4 – 6 ใบความรู้เรื่องเวลา 7 – 13 แบบฝึกหัดที่ 1 ถึง แบบฝึกหัดที่ 5 14 – 21 แบบทดสอบหลังเรียนและค าตอบ 22 – 23 ภาคผนวก ค เฉลยแบบฝึกหัดที่ 1 ถึงแบบฝึกหัดที่ 5 ภาพท ากิจกรรมการเรียนการสอนและท าแบบฝึกหัด ประเมินแบบฝึกทักษะ
28 ค าชี้แจง ชุดการเรียนรู้คณิตศาสตร์เรื่องการพัฒนาทักษะ เรื่องเวลา ของนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ ๓ โดยใช้แบบฝึกทักษะการบอกเวลาทางคณิตศาสตร์และสื่อนาฬิกา สร้างขึ้นเพื่อให้ครูน าไปใช้เป็นสื่อในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน โดยให้ผู้เรียนได้ศึกษา และปฏิบัติกิจกรรม ชุดการเรียนรู้นี้จะท าหน้าที่เหมือนผู้ให้ค าแนะน านักเรียน ฉะนั้นคุณครู จะต้องให้นักเรียนปฏิบัติตามขั้นตอน จึงจะท าให้การสอนบังเกิดผลดีต่อชุดการเรียนรู้ การ พัฒนาทักษะ เรื่องเวลา ส่วนประกอบของชุดการเรียนรู้ 1. ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง 2. ค าชี้แจง 3. กิจกรรมการเรียนรู้ - แบบทดสอบก่อนเรียน - แบบฝึกหัด 1 – 5 - แบบทดสอบหลังเรียน - สื่อนาฬิกา
29 ค าแนะน าส าหรับนักเรียนวิธีใช้แบบฝึกทักษะ ให้นักเรียนปฏิบัติตามดังต่อไปนี้ 1. นักเรียนอ่านวัตถุประสงค์ของการใช้แบบฝึกทักษะการบอกเวลา 2. นักเรียนฟังครูอธิบายขั้นตอนการใช้แบบฝึกทักษะให้เข้าใจ 3. ใช้สื่อนาฬิกาในการจัดกิจกรรมการสอน 4. ก่อนท าแบบฝึกทักษะการบอกเวลา ให้นักเรียนท าแบบทดสอบก่อนเรียน เพื่อวัด ความรู้พื้นฐานของนักเรียนก่อนท าการศึกษาแบบฝึกทักษะเรื่องการบอกเวลา 5. นักเรียนท าแบบฝึกทักษะที่ 1 – 5 ตามล าดับขั้นตอนให้ครบทุกกิจกรรมด้วยความ ตั้งใจ พร้อมทั้งท าความเข้าใจในแบบฝึกทักษะนั้นๆด้วย 6. นักเรียนท าแบบทดสอบหลังเรียน 7. นักเรียนส่งแบบทักษะให้ครูตรวจความถูกต้อง 8. นักเรียนสรุปองค์ความรู้ร่วมกันกับครู ค าชี้แจงในการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ส าหรับนักเรียน
30 ชุดแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เรื่อง การพัฒนาทักษะเรื่องเวลาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 สาระที่ 2 การวัดและเรขาคณิต มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งของที่ต้องการ วัดและน าไปใช้ ตัวชี้วัด ค 2.1 ป.3/2 แสดงวิธีหาค าตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเวลาและระยะเวลา สาระส าคัญ นาฬิกาเป็นเครื่องมือที่ใช้บอกเวลาเราบอกเวลาเป็นนาฬิกา และนาที จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาทีได้ 2. นักเรียนมารถเขียนแสดงเข็มของนาฬิกาตามเวลาที่ก าหนดได้ 3. น าความรู้เกี่ยวกับการบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาทีไปใช้ในชีวิตจริงได้
31 แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง เวลา ค าชี้แจง : ให้นักเรียนวงล้อมรอบค าเดียวที่ถูกต้อง 1. นาฬิกาในข้อใดแสดงเวลา 20 นาฬิกา 8 นาที ก. ข. ค. 2. นาฬิกาแสดงเวลาของประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นในเวลาเดียวกัน ดังนี้ จากข้อมูลข้างต้น ถ้านาฬิกาที่ประเทศญี่ปุ่นบอกเวลา 15.30 น. นาฬิกาที่ประเทศไทยบอกเวลาใด ก. 01.30 น. ข. 13.30 น. ค. 15.30 น.
32 3. ถ้ามะลิเดินทางออกจากสวนสนุกถึงบ้านใช้เวลา 1 ชั่วโมง 35 นาที บอลออกจากสวนสนุกถึงบ้านใช้เวลาน้อยกว่ามะลิ บอลใช้เวลาเท่าไร ก. 83 นาที ข. 1 ชั่วโมง 40 นาที ค. 95 นาที 4. มะลิออกจากบ้านถึงสวนสนุก ใช้เวลาเดินทางมากกว่า น้อยกว่า หรือเท่ากับ ออกจากสวนสนุกถึงบ้าน ก. เท่ากับ ข. น้อยกว่า ค. มากกว่า 5. ข้อใดเขียนบันทึกกิจกรรมของมะลิได้ถูกต้อง ก. 11.03 น. เดินทางออกจากบ้าน ข. 12.15 น. เดินทางออกจากสวนสนุก ค. 16.35 น. เดินทางกลับถึงบ้าน 6. มะนาวเดินทางออกจากสวนสนุก 15.45 น. ถ้ามะนาวเดินทางกลับถึงบ้านใช้เวลา 65 นาที มะนาวจะบันทึกกิจกรรมของตนเองในเวลากลับถึงบ้านตรงกับข้อใด ก. 16.05 น. เดินทางกลับถึงบ้าน ข. 16.20 น. เดินทางกลับถึงบ้าน ค. 16.50 น. เดินทางกลับถึงบ้าน 7. กาญจนาขับรถออกจากบ้านเวลา 6.30 น. ไปบ้านญาติที่จังหวัดนครราชสีมาใช้เวลา 2 ชั่วโมง ถ้ารถติดท าให้ใช้เวลาขับรถนานขึ้นอีก 3 ชั่วโมง 10 นาที กาญจนาจะถึงบ้านญาติเวลาใด ก. 11 นาฬิกา 40 นาที ข. 10 นาฬิกา 40 นาที ค. 9 นาฬิกา 40 นาที 8. หวานเดินทางจากกรุงเทพมหานครไปหาดใหญ่โดยรถไฟใช้เวลา 16 ชั่วโมง 52 นาที ขากลับ หวานเดินทางกลับโดยรถยนต์ส่วนตัวใช้เวลา 955 นาที หวานใช้เวลาเดินทาง ในขากลับมากกว่าหรือน้อยกว่าขาไปอยู่เท่าไร ก. น้อยกว่าอยู่ 1 ชั่วโมง 22 นาที ข. มากกว่าอยู่ 57 นาที ค. น้อยกว่าอยู่ 57 นาที 9. ช่างไม้ท าประตู 8 บาน ใช้เวลา 5 ชั่วโมง 20 นาที ถ้าใช้เวลาท าประตูแต่ละบานเท่า ๆ กัน ช่างไม้ใช้เวลาท าประตู บานละเท่าไร ก. 38 นาที ข. 40 นาที ค. 1 ชั่วโมง 5 นาที 10. น้ าใช้เวลาเดินทางไปและกลับระหว่างบ้านกับตลาด 1 ชั่วโมง 15 นาที ถ้าน้ าซื้อของที่ตลาดใช้เวลา 20 นาที แล้วกลับถึงบ้าน 8.30 น. น้ าเดินทางออกจากบ้านเวลาใด ก. 6:05 น. ข. 6:55 น. ค. 7:15 น.
33 เฉลยแบบทดสอบท้ายหน่วย เรื่อง เวลา 1. ก 2. ข 3. ก 4. ข 5. ค 6. ค 7. ก 8. ค 9. ข 10. ข
34 ใบความรู้ เรื่องเวลา
35
36
37
38 ค าชี้แจง : อ่านเวลาช่วงกลางวัน และเติมค าตอบ 1) 2) ............. นาฬิกา ........... นาที ............. นาฬิกา ........... นาที 3) 4) .............. นาฬิกา ........... นาที ............. นาฬิกา ........... นาที ค าชี้แจง : อ่านเวลาช่วงกลางคืน และเติมค าตอบ 1) 2) .............. นาฬิกา ........... นาที ............. นาฬิกา ........... นาที 3) 4) .............. นาฬิกา ........... นาที ............. นาฬิกา ........... นาที ใบงานที่ 1 เรื่อง การบอกเวลา คะแนน ชื่อ .......................................................................................................................... ชั้น .....................เลขที่....................... .
39 ค าชี้แจง : บอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที 1) กลางวัน ........... นาฬิกา ........... นาที กลางคืน ........... นาฬิกา ........... นาที 2) กลางวัน ........... นาฬิกา ........... นาที กลางคืน ........... นาฬิกา ........... นาที 3) กลางวัน ........... นาฬิกา ........... นาที กลางคืน ........... นาฬิกา ........... นาที 4) กลางวัน ........... นาฬิกา ........... นาที กลางคืน ........... นาฬิกา ........... นาที 5) กลางวัน ........... นาฬิกา ........... นาที กลางคืน ........... นาฬิกา ........... นาที ใบงานที่ 2 คะแนน เรื่อง การบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที ชื่อ .......................................................................................................................... ชั้น .....................เลขที่........................
40 ค าชี้แจง : เขียนบอกเวลาแบบใช้มหัพภาค(.) และทวิภาค (:) 1) แบบใช้มหัพภาค (.) ………………………………. แบบใช้ทวิภาค (:) ………………………………. 2) แบบใช้มหัพภาค (.) ………………………………. แบบใช้ทวิภาค (:) ………………………………. 3) แบบใช้มหัพภาค (.) ………………………………. แบบใช้ทวิภาค (:) ………………………………. 4) แบบใช้มหัพภาค (.) ………………………………. แบบใช้ทวิภาค (:) ………………………………. 5) แบบใช้มหัพภาค (.) ………………………………. แบบใช้ทวิภาค (:) ………………………………. คะแนน ใบงานที่ 3 เรื่อง การบอกเวลาที่มีมหัพภาค (.)หรือ ทวิภาค (:) ชื่อ .......................................................................................................................... ชั้น .....................เลขที่........................
41 ค าชี้แจง : เติมตัวเลขแสดงจ านวน 1) แอนเริ่มซ้อมดนตรี เวลา 10.05 น. ถึงเวลา 11.35 น. แอนใช้เวลาซ้อมดนตรี..................... ชั่วโมง ..................... นาที 6) พ่อขึ้นรถไฟไปเชียงใหม่ 08.30 น. ถึงเวลา 20.25 น. พ่อใช้เวลาเดินทาง ................. ชั่วโมง ................. นาที 3) แม่เริ่มท างานบ้าน เวลา 09.45 น. ถึงเวลา 12.20 น. แม่ใช้เวลาท างานบ้าน ..................... ชั่วโมง ..................... นาที 4) พ่อเริ่มดูภาพยนตร์เวลา 20.35 น. ถึงเวลา 22.10 น. พ่อใช้เวลาดูภาพยนตร์..................... ชั่วโมง ..................... นาที 5) เครื่องบินออกจากสนามบินดอนเมือง เวลา 20.50 น. ถึงสนามบินนานาชาติอุบลราชธานีเวลา 22.00 น. เครื่องบินใช้เวลาเดินทาง ..................... ชั่วโมง ..................... นาที 6) คนสวนเริ่มตัดหญ้า เวลา 15.25 น. ถึงเวลา 17.35 น. คนสวนใช้เวลาตัดหญ้า ..................... ชั่วโมง ..................... นาที 7) พนักงานเริ่มเข้างานเวลา 00.28 น. ถึงเวลา 07.33 น. พนักงานใช้เวลาท าางาน ..................... ชั่วโมง ..................... นาที 8) ต้นกล้าเข้านอน เวลา 20.45 น. ตื่นนอนเวลา 05.56 น. ต้นกล้าใช้เวลานอน ..................... ชั่วโมง ..................... นาที ใบงานที่ 4 เรื่อง การบอกระยะเวลาเป็นชั่วโมงและนาที คะแนน ชื่อ .......................................................................................................................... ชั้น .....................เลขที่........................
42 ค าชี้แจง : เติมค าว่า มากกว่า น้อยกว่า หรือเท่ากับ 1) 3 ชั่วโมง 5 นาที ............................. 190 นาที 2) 100 นาที ............................. 1 ชั่วโมง 55 นาที 3) 5 ชั่วโมง 13 นาที ............................. 239 นาที 4) 180 นาที ............................. 3 ชั่วโมง 5) 2 ชั่วโมง 9 นาที ............................. 129 นาที 6) 7 ชั่วโมง 20 นาที ............................. 480 นาที 7) 1 ชั่วโมง 5 นาที ............................. 65 นาที 8) 77 นาที ............................. 1 ชั่วโมง 10 นาที 9) 210 นาที ............................. 3 ชั่วโมง 10 นาที 10) 1 ชั่วโมง 5 นาที ............................. 85 นาที 11) 250 นาที ............................. 6 ชั่วโมง 50 นาที 12) 3 ชั่วโมง 37 นาที ............................. 187 นาที 13) 9 ชั่วโมง 50 นาที ............................. 690 นาที 14) 1 ชั่วโมง 9 นาที ............................. 90 นาที ใบงานที่ 5 เรื่อง การเปรียบเทียบระยะเวลา คะแนน ชื่อ .......................................................................................................................... ชั้น .....................เลขที่........................
43 แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง เวลา ค าชี้แจง : ให้นักเรียนวงล้อมรอบค าเดียวที่ถูกต้อง 1. นาฬิกาในข้อใดแสดงเวลา 20 นาฬิกา 8 นาที ก. ข. ค. 2. นาฬิกาแสดงเวลาของประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นในเวลาเดียวกัน ดังนี้ จากข้อมูลข้างต้น ถ้านาฬิกาที่ประเทศญี่ปุ่นบอกเวลา 15.30 น. นาฬิกาที่ประเทศไทยบอกเวลาใด ก. 01.30 น. ข. 13.30 น. ค. 15.30 น.
44 3. ถ้ามะลิเดินทางออกจากสวนสนุกถึงบ้านใช้เวลา 1 ชั่วโมง 35 นาที บอลออกจากสวนสนุกถึงบ้านใช้เวลาน้อยกว่ามะลิ บอลใช้เวลาเท่าไร ก. 83 นาที ข. 1 ชั่วโมง 40 นาที ค. 95 นาที 4. มะลิออกจากบ้านถึงสวนสนุก ใช้เวลาเดินทางมากกว่า น้อยกว่า หรือเท่ากับ ออกจากสวนสนุกถึงบ้าน ก. เท่ากับ ข. น้อยกว่า ค. มากกว่า 5. ข้อใดเขียนบันทึกกิจกรรมของมะลิได้ถูกต้อง ก. 11.03 น. เดินทางออกจากบ้าน ข. 12.15 น. เดินทางออกจากสวนสนุก ค. 16.35 น. เดินทางกลับถึงบ้าน 6. มะนาวเดินทางออกจากสวนสนุก 15.45 น. ถ้ามะนาวเดินทางกลับถึงบ้านใช้เวลา 65 นาที มะนาวจะบันทึกกิจกรรมของตนเองในเวลากลับถึงบ้านตรงกับข้อใด ก. 16.05 น. เดินทางกลับถึงบ้าน ข. 16.20 น. เดินทางกลับถึงบ้าน ค. 16.50 น. เดินทางกลับถึงบ้าน 7. กาญจนาขับรถออกจากบ้านเวลา 6.30 น. ไปบ้านญาติที่จังหวัดนครราชสีมาใช้เวลา 2 ชั่วโมง ถ้ารถติดท าให้ใช้เวลาขับรถนานขึ้นอีก 3 ชั่วโมง 10 นาที กาญจนาจะถึงบ้านญาติเวลาใด ก. 11 นาฬิกา 40 นาที ข. 10 นาฬิกา 40 นาที ค. 9 นาฬิกา 40 นาที 8. หวานเดินทางจากกรุงเทพมหานครไปหาดใหญ่โดยรถไฟใช้เวลา 16 ชั่วโมง 52 นาที ขากลับ หวานเดินทางกลับโดยรถยนต์ส่วนตัวใช้เวลา 955 นาที หวานใช้เวลาเดินทาง ในขากลับมากกว่าหรือน้อยกว่าขาไปอยู่เท่าไร ก. น้อยกว่าอยู่ 1 ชั่วโมง 22 นาที ข. มากกว่าอยู่ 57 นาที ค. น้อยกว่าอยู่ 57 นาที 9. ช่างไม้ท าประตู 8 บาน ใช้เวลา 5 ชั่วโมง 20 นาที ถ้าใช้เวลาท าประตูแต่ละบานเท่า ๆ กัน ช่างไม้ใช้เวลาท าประตู บานละเท่าไร ก. 38 นาที ข. 40 นาที ค. 1 ชั่วโมง 5 นาที 10. น้ าใช้เวลาเดินทางไปและกลับระหว่างบ้านกับตลาด 1 ชั่วโมง 15 นาที ถ้าน้ าซื้อของที่ตลาดใช้เวลา 20 นาที แล้วกลับถึงบ้าน 8.30 น. น้ าเดินทางออกจากบ้านเวลาใด ก. 6:05 น. ข. 6:55 น. ค. 7:15 น.
45 เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง เวลา 1. ก 2. ข 3. ก 4. ข 5. ค 6. ค
46 เฉลยแบบฝึกหัด
47 ค าชี้แจง : อ่านเวลาช่วงกลางวัน และเติมค าตอบ 1) 2) ............. นาฬิกา ........... นาที ............. นาฬิกา ........... นาที 3) 4) . ............. นาฬิกา ........... นาที ............. นาฬิกา ........... นาที ค าชี้แจง : อ่านเวลาช่วงกลางคืน และเติมค าตอบ 1) 2) . ............. นาฬิกา ........... นาที ............. นาฬิกา ........... นาที 3) 4) .............. นาฬิกา ........... นาที ............. นาฬิกา ........... นาที 12 20 13 40 17 20 14 15 5 15 24 5 6 35 6 30 เฉลยใบงานที่ 1 เรื่อง การบอกเวลา คะแนน ชื่อ .......................................................................................................................... ชั้น .....................เลขที่.. ......................
48 1) กลางวัน ........... นาฬิกา ........... นาที กลางคืน ........... นาฬิกา ........... นาที 2) กลางวัน ........... นาฬิกา ........... นาที กลางคืน ........... นาฬิกา ........... นาที 3) กลางวัน ........... นาฬิกา ........... นาที กลางคืน ........... นาฬิกา ........... นาที 4) กลางวัน ........... นาฬิกา ........... นาที กลางคืน ........... นาฬิกา ........... นาที 5) กลางวัน ........... นาฬิกา ........... นาที กลางคืน ........... นาฬิกา ........... นาที 17 37 5 37 17 58 5 58 11 41 23 41 7 12 19 12 12 51 0 51 เฉลยใบงานที่ 2 เรื่อง การบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที ชื่อ .......................................................................................................................... ชั้น .....................เลขที่........................ คะแนน
49 ค าชี้แจง : เขียนบอกเวลาแบบใช้มหัพภาค(.) และทวิภาค (:) 1) แบบใช้มหัพภาค (.) ………………………………. แบบใช้ทวิภาค (:) ………………………………. 2) แบบใช้มหัพภาค (.) ………………………………. แบบใช้ทวิภาค (:) ………………………………. 3) แบบใช้มหัพภาค (.) ………………………………. แบบใช้ทวิภาค (:) ………………………………. 4) แบบใช้มหัพภาค (.) ………………………………. แบบใช้ทวิภาค (:) ………………………………. 5) แบบใช้มหัพภาค (.) ………………………………. แบบใช้ทวิภาค (:) ………………………………. 12.36 น. 12:36 น. 2.51 น. 2:51 น. 12.49 น. 12:49 น. 0.39 น. 0:39 น. 12.21 น. 12:21 น. เฉลยใบงานที่ 3 เรื่อง การบอกเวลาที่มีมหัพภาค (.)หรือ ทวิภาค (:) คะแนน ชื่อ .......................................................................................................................... ชั้น .....................เลขที่........................
50 ค าชี้แจง : เติมตัวเลขแสดงจ านวน 1) แอนเริ่มซ้อมดนตรี เวลา 10.05 น. ถึงเวลา 11.35 น. แอนใช้เวลาซ้อมดนตรี..................... ชั่วโมง ..................... นาที 2)พ่อขึ้นรถไฟไปเชียงใหม่ 08.30 น. ถึงเวลา 20.25 น. พ่อใช้เวลาเดินทาง ................. ชั่วโมง ................. นาที 3) แม่เริ่มท างานบ้าน เวลา 09.45 น. ถึงเวลา 12.20 น. แม่ใช้เวลาท างานบ้าน ..................... ชั่วโมง ..................... นาที 4) พ่อเริ่มดูภาพยนตร์เวลา 20.35 น. ถึงเวลา 22.10 น. พ่อใช้เวลาดูภาพยนตร์..................... ชั่วโมง ..................... นาที 5) เครื่องบินออกจากสนามบินดอนเมือง เวลา 20.50 น. ถึงสนามบินนานาชาติอุบลราชธานีเวลา 22.00 น. เครื่องบินใช้เวลาเดินทาง ..................... ชั่วโมง ..................... นาที 6) คนสวนเริ่มตัดหญ้า เวลา 15.25 น. ถึงเวลา 17.35 น. คนสวนใช้เวลาตัดหญ้า ..................... ชั่วโมง ..................... นาที 7) พนักงานเริ่มเข้างานเวลา 00.28 น. ถึงเวลา 07.33 น. พนักงานใช้เวลาท าางาน ..................... ชั่วโมง ..................... นาที 8) ต้นกล้าเข้านอน เวลา 20.45 น. ตื่นนอนเวลา 05.56 น. ต้นกล้าใช้เวลานอน ..................... ชั่วโมง ..................... นาที เฉลยใบงานที่ 4 เรื่อง การบอกระยะเวลาเป็นชั่วโมงและนาที คะแนน 1 30 11 55 2 35 1 35 1 10 2 10 7 5 8 11 ชื่อ .......................................................................................................................... ชั้น .....................เลขที่........................