รายงานจุดเน้น ด้านภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร นางปัทมาพร สุรำไพ

รายงานผลการพฒั นาทกั ษะภาษาองั กฤษเพอ่ื การสอื่ สารตามจุดเนน้
ของสานักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาศรสี ะเกษ เขต4
ประเภทครผู สู้ อน ปีการศึกษา 2565

ช่ือผลงาน : รายงานผลการพฒั นาทักษะภาษาองั กฤษเพื่อการสื่อสารของผู้เรียน
ดว้ ยการจัดการเรียนร้แู บบ CLT ภายใต้รูปแบบ PATTAMA Model
ของนักเรียนระดับช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565

นางปทั มาพร สุราไพ

ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการ

โรงเรยี นบ้านหนองงูเหลือม(คุรรุ าษฎร์รัฐกจิ โกศล)

กลมุ่ โรงเรยี นเบญจลักษ์
สานักงานเขตพนื้ ที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาศรีสะเกษ เขต 4

สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ

คำนำ

นวัตกรรมเล่มนจ้ี ัดทำข้นึ เพ่ือรำยงำนผลกำรพัฒนำทักษะภำษำองั กฤษเพ่ือกำรส่ือสำรของผู้เรยี น
ดว้ ยกำรจัดกำรเรียนร้แู บบ CLT ภำยใตร้ ูปแบบ PATTAMA Model ของนักเรยี นระดับชัน้ มัธยมศกึ ษำปีที่ 2
ภำคเรยี นที่ 1 ปกี ำรศึกษำ 2565 เพ่ือปฏิบตั ติ ำมนโยบำยและจดุ เนน้ ดำ้ นภำษำอังกฤษเพื่อกำรส่ือสำร ของสำนักงำน
เขตพน้ื ทก่ี ำรศึกษำประถมศึกษำศรสี ะเกษ เขต 4 ปีกำรศกึ ษำ 2565 ผจู้ ัดทำขอขอบคณุ ผู้เก่ียวขอ้ งทกุ ฝำ่ ยท่ีทำให้กำร
ดำเนนิ งำนสำเร็จลลุ ่วงไปด้วยดี ขอบคุณค่ะ

นำงปทั มำพร สุรำไพ
ผู้จดั ทำ

สำรบัญ หนำ้
เรอ่ื ง
1
ควำมสำคญั และควำมเป็นมำของนวัตกรรม 2
นิยำมศัพท์ 2
วรรณกรรม/งำนวจิ ัยท่เี กย่ี วข้อง 3
วตั ถปุ ระสงค์ 3
เป้ำหมำย 4
กระบวนกำรผลิตนวัตกรรม 5
ผลกำรดำเนินงำน/ ผลสัมฤทธิ/์ ประโยชน์ท่ไี ด้รบั 5
ปจั จยั นำไปสคู่ วำมสำเรจ็ 6
เง่ือนไขควำมสำเร็จ 7
เอกสำรอ้ำงอิง 9
ภำคผนวก

รำยงำนผลกำรพัฒนำทักษะภำษำอังกฤษเพื่อกำรสื่อสำรของผเู้ รียน
ด้วยกำรจัดกำรเรยี นรูแ้ บบ CLT ภำยใตร้ ปู แบบ PATTAMA Model
ของนักเรยี นระดับชั้นมัธยมศึกษำปที ่ี 2 ภำคเรียนท่ี 1 ปีกำรศกึ ษำ 2565
1. ควำมสำคญั และควำมเป็นมำของนวัตกรรม
กระทรวงศึกษำธกิ ำรมนี โยบำยเร่งปฏริ ปู กำรเรียนรทู้ ั้งระบบใหส้ มั พนั ธเ์ ช่ือมโยงกนั เพ่ือยกระดบั
คุณภำพกำรศึกษำและพัฒนำศักยภำพของผู้เรยี น โดยเฉพำะอยำ่ งยง่ิ กำรสร้ำงเสริมสมรรถนะและทักษะกำรใช้
ภำษำอังกฤษ ให้ผู้เรียนสำมำรถใช้ภำษำองั กฤษเพ่ือกำรส่อื สำรและใชเ้ ปน็ เครื่องมือในกำรแสวงหำองค์ควำมร้เู พ่ือกำร
พัฒนำตน อนั จะนำไปสกู่ ำรเพิม่ ขดี ควำมสำมำรถในกำรแข่งขนั ของประเทศ เพอ่ื ให้กำรขับเคลอื่ นนโยบำยบรรลุ
เปำ้ หมำยดังกล่ำว ส ำนกั งำนเขตพนื้ ทก่ี ำรศึกษำประถมศึกษำศรีสะเกษ เขต 4 จงึ กำหนดนโยบำยจุดเนน้ กำรสอื่ สำร
ภำษำองั กฤษ (Easy English) เพื่อสง่ เสริมและพัฒนำผ้เู รียนใหม้ ีควำมรคู้ วำมสำมำรถในกำรใชภ้ ำษำอังกฤษเพอ่ื กำร
สอ่ื สำรแบบ Easy English เป็นเครื่องมอื ในกำรเข้ำถงึ องค์ควำมรเู้ พ่ือก้ำวทันโลกและเพิ่มขดี ควำมสำมำรถในกำร
แข่งขัน รวมทั้งควำมเหมำะสม ควำมตอ้ งกำรควำมพร้อมและบริบทสถำนศกึ ษำในเขตพ้ืนท่ี ตำมแนวทำงกำรจัดกำร
เรยี นภำษำอังกฤษเพ่ือกำรส่ือสำรแบบ Easy English

แนวคิดกำรพฒั นำทักษะภำษำองั กฤษ

กลุม่ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำต่ำงประเทศ โรงเรียนบำ้ นหนองงูเหลือม(ครุ รุ ำษฎรร์ ฐั กจิ โกศล) ได้เล็งเห็นถงึ
ควำมสำคัญ ของกำรจัดกำรเรียนรู้ ในรำยวชิ ำภำษำอังกฤษ ตำมนโยบำยดงั กลำ่ ว จึงได้ดำเนนิ กำรพัฒนำทกั ษะ
ภำษำองั กฤษเพ่ือกำรส่ือสำรของผู้เรียน ดว้ ยกำรจดั กำรเรียนรู้แบบ CLT ภำยใตร้ ปู แบบ PATTAMA Model ทั้ง 4
ด้ำน คือ ทักษะกำรฟัง กำรพูด กำรอำ่ น และกำรเขียน และใหผ้ เู้ รียนได้ฝึกฝนด้ำนกำรใชภ้ ำษำ ทำ่ ทำง กำรเพื่อ
โต้ตอบ แลกเปลี่ยนข้อมลู และควำมรู้ และพฒั นำทักษะภำษำองั กฤษ ท่เี ปน็ ที่จำเปน็ ในศตวรรษที่ 21

2

2. นิยำมศัพท์
กำรพฒั นำทกั ษะภำษำองั กฤษเพ่ือกำรสื่อสำร (Communicative Language Approach) หมำยถงึ

กำรจดั กำรเรยี นรภู้ ำษำองั กฤษเพื่อกำรส่ือสำรแบบ Communicative Language Teaching (CLT) และ Active
Learning ให้ผเู้ รยี นทุกคนในระดับกำรศึกษำข้นั พืน้ ฐำนได้เรียนรู้ และฝึกฝนกำรใช้ภำษำอังกฤษ จนเกดิ ทกั ษะ
ควำมสำมำรถในกำรส่ือสำรภำษำอังกฤษ (ฟัง พูด อำ่ น เขยี น )ไดต้ ำมระดบั ชน้ั โดยจัดเวลำเรยี น กจิ กรรม
สภำพแวดล้อม แหลง่ เรียนรู้ท้ังภำยในหอ้ งเรยี นภำยนอกห้องเรียนทีเ่ อื้อต่อกำรเรยี นรูภ้ ำษำองั กฤษ ตลอดทง้ั มกี ำร
วดั และประเมนิ ผลท่ีได้มำตรฐำน เพอ่ื เสริมสร้ำงศกั ยภำพของผู้เรยี น ให้มีสมรรถนะและทกั ษะกำรใชภ้ ำษำอังกฤษ
ให้ผู้เรยี นใชภ้ ำษำองั กฤษเปน็ เครื่องมือในกำรแสวงหำองค์ควำมรู้เพ่อื กำรพฒั นำตนเองได้

Easy English หมำยถงึ สำมำรถเข้ำใจและโต้ตอบในสิง่ ท่ีคุ้นเคยในชีวติ ประจำวัน รวมถงึ กำรใชป้ ระโยค
พนื้ ฐำนเพื่อสอื่ สำรถึงควำมต้องกำรท่ีเปน็ รูปธรรม

3. วรรณกรรม/งำนวจิ ัยท่ีเกี่ยวข้อง
รปู แบบกำรสอนภำษำอังกฤษ
กำรสอนภำษำองั กฤษมรี ปู แบบในกำรสอนทแ่ี ตกตำ่ งกนั อยู่มำกมำยหลำยรปู แบบ ดงั ที่ได้มี
กำรรวบรวมอยู่ใน website INTESOL TEACH ABROAD ซึ่งมรี ำยละเอียดดงั ตอ่ ไปนี้
1. The Direct Method
วธิ กี ำรเรียนแบบ Direct Method หรอื ทร่ี ู้จกั กนั วำ่ เป็นกำรเรยี นแบบธรรมชำติ มนั เปน็ วิธกี ำรท่ีใช้
ทั่วไปกบั ภำษำตำ่ งๆทไ่ี ม่ใชภ่ ำษำอังกฤษด้วย โดยใช้ ภำษำเป้ำหมำยในกำรสอน โดยเนน้ ทักษะกำร
ออกเสียงและใชก้ ำรสอนแบบกำรฝกึ ซ้อมสมำ่ เสมอ กำรสอนหลักแกรมมำจะให้นักเรียนทดลองใช้
หรือเดำจำกกำรพูดของผู้สอน
2. The Grammar Translation Method
วธิ ีกำรแบบ Grammar Translation Method เปน็ วธิ กี ำรทีเ่ น้นดำ้ น Grammar และพง่ึ พำกำร
แปลอย่ำงมำก เป็นวิธกี ำรทีน่ ิยมใช้ในอดตี แต่ก็ยังมกี ำรใช้อย่ำงแพรห่ ลำยในปัจจบุ ัน
วิธกี ำรแบบ Audio Lingual Method หรือทเ่ี รียกอีกแบบว่ำ New Key Method หรือ Army Method
เน้นบนทฤษฎีของพฤติกรรม กล่ำวคือ ทุกส่ิงทุกอยำ่ งสำมำรถเรยี นรูไ้ ดด้ ้วยกำรเสรมิ แรง อย่ำงต่อเนอื่ ง วธิ กี ำร
นหี้ ำกผเู้ รยี นทำผดิ พลำดจะมีกำรลงโทษ แตห่ ำกผู้เรียนทำถกู จะไดร้ ำงวลั เป็นตน้
3. The Structural Approach
วิธกี ำรแบบ Structural Approach เป็นวิธีกำรท่เี กย่ี วกับ โครงสรำ้ ง โดยแนวคดิ น้ีมำจำกหลักกำร
ที่วำ่ ภำษำ ถกู สรำ้ งขน้ึ มำจำกกฎทซ่ี บั ซ้อนของ Grammar โดยกฎตำ่ งๆเหล่ำน้ี จะต้องเรียนร้อู ย่ำง
เป็นขนั้ ตอนตำมลำดบั ก่อนหลัง เชน่ กำรเรียนรู้ verb to be กอ่ นกำรเรยี นรู้ present continuous
tense เป็นต้น
4. Suggestopedia
วิธีกำรน้ีพง่ึ พำอย่ำงมำกบนควำมเชื่อของผู้เรยี นเกย่ี วกับกำรมปี ระสิทธิภำพของวธิ ีกำรน้ี วิธกี ำรนี้
จะให้ตัวเลือกผู้เรยี นหลำกหลำยทำง ทีจ่ ะชว่ ยให้ผู้เรยี นเป็นผู้รบั ผิดชอบต่อกำรเรียนรู้ของตนเอง มนั
เป็นวิธกี ำรทพี่ ง่ึ พำบรรยำกำศกำรเรยี น และสภำพแวดล้อมทำงกำยภำพของหอ้ งเรยี น มันจำเปน็ อย่ำงยิ่งท่ี
จะต้องทำใหผ้ ู้เรียนรูส้ ึกถึงควำมสะดวกสบำยและควำมเชื่อมั่น ในกำรสอนแบบนี้จะมีกำรใช้ศิลปะกับบท
เพลงเขำ้ มำเกี่ยวข้อง

3

5. Total Physical Response
วธิ ีกำรนี้ ใชห้ ลกั กำรท่วี ่ำ “Language by Doing” หรอื กำรเรียนรจู้ ำกกำรลงมือทำ โดย ผ้เู รยี นจะ
เรยี นรภู้ ำษำจำกกำรกระทำซ้ำๆอยำ่ งเป็นลำดับ เชน่ ลกุ ขึ้น เปิดหนังสือ ปดิ ประตู และเดินไปท่หี น้ำต่ำงแล้ว
เปิดมนั เป็นต้น
6. Communicative Language Teaching (CLT)
วธิ ีกำรนี้ใช้หลกั กำรเบอ้ื งหลงั คอื กำรช่วยให้ผเู้ รียนสำมำรถส่ือสำรได้อยำ่ งมีประสิทธภิ ำพ
และถูกตอ้ งในสถำนกำรณ์จริงท่ีเขำอำจจะต้องตกอยู่ในสภำพกำรณน์ นั้ วิธีกำรสอนแบบน้ีจะเก่ยี วข้องกับกำร
เนน้ ไปยังสถำนกำรณส์ ำคญั ๆต่ำงๆเชน่ กำรแนะนำตวั กำรขอบคุณ กำรเชื้อเชิญ กำรตำหนิ หรือกำรถำม
ทิศทำงเป็นตน้
7. The Silent Way
วิธกี ำรสอนแบบนี้ ผูส้ อนจะทำตัวเปน็ ผ้ชู ว่ ยกำรสอนโดยพยำยำมกระตุ้นในผ้เู รียนตน่ื ตวั ใน
กำรเรียนเอง โดยผูส้ อนจะพูดไม่มำก แลว้ ให้ผูเ้ รยี นเปน็ ผู้ควบคมุ กำรเรยี นรูเ้ อง จะมกี ำรเน้นยำ้ ในเรื่อง
กำรออกเสียงคำ กำรเรียนจะเรยี นตำม structural syllabus และ grammar, vocabulary และ
pronunciationผำ่ นกำรฝกึ ฝนและกำรใชบ้ ่อยๆเพอื่ ให้เกิดควำมชำนำญ ผูส้ อนจะประเมินผเู้ รียนผ่ำน
กำรสังเกตอย่ำงละเอยี ดและเปน็ ไปได้ทจี่ ะไม่มีกำรทำแบบทดสอบอย่ำงเปน็ ทำงกำร
8. Community Language
วธิ ีกำรนี้เป็นวธิ กี ำรท่ผี ูเ้ รียนรู้สึกปลอดภัยทสี่ ุดวธิ กี ำรหนงึ่ เนื่องจำกเปน็ วธิ กี ำรทีเ่ น้นกำร เรยี นร้จู ำก
ควำมสมั พนั ธ์และพันธะระหว่ำงผู้เรียนและผู้สอน
9. Task Based Language
จดุ ประสงค์ของวธิ ีกำรนค้ี ือ กำรเรียนรูจ้ ำกควำมสำเร็จของงำน วิธีกำรน้ีโดยปรกติจะให้ ผสู้ อนและ
ผู้เรยี นกำหนดงำนทีเ่ กี่ยวข้องและสนใจขน้ึ มำโดยกำหนดข้ึนมำจำกพน้ื ฐำนควำมรู้ของผูเ้ รียน แล้วให้
ผู้เรยี นทำงำนดงั กลำ่ วใหส้ ำเร็จโดยใหม้ ีควำมผิดพลำดน้อยทสี่ ดุ
10. The Lexical Approach
วธิ ีกำรน้ตี ั้งบนพนื้ ฐำนกำรเรียนร้ผู ำ่ นทำงคอมพวิ เตอรท์ ่ีได้มีกำรกำหนดศัพทท์ ่ีควรรู้ไว้ก่อน
แล้วเนน้ ในกำรใหผ้ เู้ รียนเก็บเกี่ยวคำศัพท์ที่ใชง้ ำนบอ่ ยๆให้ไดม้ ำกทส่ี ุด ผูส้ อนจะเน้น material แบบ
authenticและ สถำนกำรณ์จรงิ เพื่อกำรเรียนรูท้ ี่ไดป้ ระโยชน์กำรสอนในแต่ละแบบย่อมมีจดุ เดน่ และ
จุดด้อยแตกตำ่ งกนั ออกไป ข้ึนอยูก่ บั บรบิ ทท่เี กี่ยวข้องกับกำรศกึ ษำในแตล่ ะประเทศ เช่น วิธีแบบ Direct
Method อำจเหมำะสมกบั ประเทศท่ีใช้ภำษำองั กฤษเป็นภำษำหลักของประเทศเป็นตน้

4. วตั ถปุ ระสงค์
เพือ่ ใหผ้ เู้ รยี นได้พฒั นำทกั ษะภำษำอังกฤษเพื่อกำรสื่อสำร และมีผลสัมฤทธท์ิ ำงกำรเรยี นในรำยวชิ ำ

ภำษำองั กฤษ สงู กว่ำก่อนเรียน และตระหนักถึงควำมสำคัญ ของทักษะภำษำอังกฤษเพ่ือกำรสื่อสำร

5. เป้ำหมำย
5.1 เชิงปรมิ ำณ
5.1.1 นกั เรียนรอ้ ยละ 70 มกี ำรใช้ภำษำองั กฤษเพ่ือกำรส่ือสำรประโยค หรอื ข้อควำมพน้ื ฐำนได้

เหมำะสมกับระดับชัน้

4

5.2 เชงิ คณุ ภำพ
5.2.1 ผูเ้ รียนสว่ นใหญ่มที ักษะกำรใช้ภำษำอังกฤษเพ่ือกำรสื่อสำรประโยค หรอื ข้อควำมพ้ืนฐำนได้

เหมำะสมกับระดับชัน้

6. กระบวนกำรผลิตนวตั กรรม
ดำเนินกำรตำมกระบวนกำร PDCA ดงั นี้
ขั้นท่ี 1 ขน้ั เตรียมกำร (Plan)
1. ศกึ ษำวิสัยทศั น พันธกิจ และนโยบำยของโรงเรยี น ท่ีสอดคลองกับกลมุ่ สำระกำร
เรียนรูภำษำตำงประเทศในรำยวชิ ำภำษำอังกฤษ

2. ดำเนนิ กำรสรำ้ งรูปแบบกำรจดั กำรเรียนรูแบบ CLT (Communicative
Language Teaching) ซง่ึ เป็นกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญภำยใต้
รูปแบบ PATTAMA Model ดังนี้

P = Proud หมำยถึง มคี วำมภำคภมู ใิ จ เชื่อม่นั ในตัวเองวำ่ ตัวเองสำมำรถทำได้ ไมด่ ู
ถูกควำมสำมำรถของตัวเอง

A = Agree หมำยถงึ ยอมรับและเปดิ ใจให้กบั สง่ิ ใหม่ ไมป่ ิดกนั้ ควำมรู้ พร้อมเรยี นรู้
เรอื่ งรำวใหมๆ่ เสมอ

T = Thinking หมำยถึง ใชค้ วำมคิดเชือ่ โยงเน้ือหำจำกเนอื้ หำท่ีง่ำยส่เู นอ้ื หำท่ีซบั ซ้อนข้นึ
T = Together หมำยถึง ทำด้วยกัน ชว่ ยเหลือกนั เพื่อนช่วยเพอื่ น ครเู ป็นที่ปรึกษำ

ใหค้ ำแนะนำ
A = Appreciation หมำยถึง ครแู ละนกั เรยี นชนื่ ชมในผลงำน ให้กำลังใจซึง่ กนั และกนั
M = Media หมำยถงึ ใชส้ ือ่ ประกอบกำรสอน เพื่อใหเ้ กิดควำมรู้ทหี่ ลำกหลำย มี

มมุ มองตำ่ งๆทก่ี ว้ำงขึ้น
A = Achievement ถำ้ ทำตำมกระบวนกำรทก่ี ลำ่ วมำทัง้ หมดกจ็ ะบรรลผุ ลสำเร็จ
CLT = Communicative Language Teaching

ข้นั ที่ 2 ขัน้ ดำเนินกำร (DO)
ครูผู้สอนออกแบบกำรจัดกำรเรียนรู้รปู แบบ CLT (Communicative Language

Teaching) ทเ่ี ปน็ กำรเรียนรู้ ภำษำตำมแนวกำรสอนภำษำเพือ่ กำรส่อื สำรเปน็ กำรจดั กำร
เรยี นรู้ตำมทฤษฎเี รยี นรู้มงุ่ เน้นควำมสำคญั ของผู้เรียน มีกำรจัดลำดบั กำรเรียนรู้ เป็นขัน้ ตอน
ตำมกระบวนกำรใช้ควำมคิดของผเู้ รียน

กำรสอนภำษำเพื่อกำรส่ือสำร มีข้ันตอนกำรสอนทีส่ ำคัญ 3 ข้นั ตอน ดงั น้ี
1. Presentation (ข้นั นำเสนอ) เป็นขน้ั ตอนทีผ่ เู้ รียนไดเ้ รียนรขู้ ้อมลู ทำงภำษำ เปน็ กำร
เรม่ิ ตน้ กำรเรยี นรเู้ นื้อหำใหม่ โดยมุง่ เนน้ ไปที่กำรรบั รู้ และทำควำมเข้ำใจเกยี่ วกับควำมหมำยและรปู แบบภำษำท่ใี ช้กัน
จรงิ โดยท่วั ไป รวมทง้ั วิธีกำรใชภ้ ำษำ ไมว่ ำ่ จะเปน็ ดำ้ นกำรออกเสยี ง ควำมหมำยคำศัพท์ และโครงสร้ำงไวยำกรณ์ที่
เหมำะสมในสถำนกำรณต์ ่ำงๆควบคู่ไปกับกำรเรยี นรู้กฎเกณฑ์
2. Practice (ข้ันปฏิบัต)ิ ขัน้ กำรฝึกปฏบิ ัติเป็นขนั้ ท่ีใหผ้ ู้เรยี นไดฝ้ ึกใช้ภำษำที่เพ่ิงเรียนรใู้ หม่

5

จำกขั้นกำรนำเสนอเนื้อหำ ลักษณะของกำรฝึกแบบควบคุมหรอื ชน้ี ำ (Controlled Practice / Directed Activities )
โดยมีครูผสู้ อนเป็นผนู้ ำในกำรฝกึ จำกง่ำยไปหำยำก และให้ผเู้ รยี นปฏิบัตกิ ิจกรรมเองเป็นแบบกงึ่ ควบคุม
( Semi – Controlled ) กำรฝึกในข้นั นี้ มจี ุดมุง่ หมำยเพือ่ ให้ผู้เรยี นจดจำรปู รูปแบบของภำษำได้ จึงเน้นที่ควำม
ถกู ต้องของควำมหมำยในกำรสอ่ื สำรเปน็ ภำษำหลกั แต่กม็ จี ุดหมำยให้ผู้เรียนได้ทำควำมเขำ้ ใจเกยี่ วกบั ไวยำกรณ์ และ
วธิ กี ำรใชร้ ปู แบบภำษำ

3. ขน้ั กำรใช้ภำษำเพ่ือกำรสื่อสำร นับเป็นขั้นที่สำคญั ที่สดุ เพรำะกำรใชภ้ ำษำเพอ่ื กำร
ส่อื สำรเปรยี บเสมือนกำรถ่ำยโอนกำรเรยี นรูภำษำจำกสถำนกำรณใ์ นชน้ั เรยี นไปสู่กำรนำภำษำไปใชจ้ ริงนอกห้องเรียน
เพ่อื มุ่งหวงั ให้ผเู้ รยี นไดล้ องใช้ภำษำในสถำนกำรณต์ ำ่ งๆ ทีจ่ ำลองจำกสถำนกำรณ์จริง หรือทีเ่ ป็นสถำนกำรณ์จริงด้วย
ตนเอง โดยครูผู้สอนเปน็ เพยี งผแู้ นะแนวทำงเทำ่ นั้น

ข้นั ที่ 3 ตรวจสอบกำรดำเนินงำน (Check)
มกี ำรดำเนินกำรวัดและประเมนิ ผลกำรจดั กำรเรียนรูรปู แบบ CLT (Communicative

Language Teaching) จำกกำรทดสอบ กำรสงั เกตพฤติกรรม และกำรประเมนิ คุณลักษณะทำงภำษำ เพ่ือนำผลที่ได
รับไปใช้ในกำรปรับปรุงแก้ไขใหเ้ กิดควำมสมบรู ณ์ ครบถ้วน และดยี งิ่ ขึ้น เพ่ือใหไ้ ด้นวัตกรรมที่มปี ระสิทธิภำพ จงึ จำ
นำไปใช้จรงิ

ขน้ั ที่ 4 สรุปผลกจิ กรรมและกำรประเมินผลกจิ กรรม (Action)
สรปุ ผลกำรจัดกำรเรียนรูแ้ บบ CLT วเิ ครำะหข์ ้อมูลเพ่ือปรับปรงุ และพัฒนำกำร

จดั กำรเรยี นรูเพื่อพฒั นำทกั ษะภำษำอังกฤษเพอ่ื กำรส่อื สำรตอ่ ไป

7. ผลกำรดำเนินงำน/ ผลสัมฤทธ์ิ/ ประโยชนท์ ไ่ี ด้รับ
7.1 ผลกำรดำเนนิ งำน

กำรดำเนินงำน “กำรพัฒนำทักษะภำษำอังกฤษเพ่ือกำรสอ่ื สำรของผู้เรยี น ด้วยกำรจัดกำรเรยี นรแู้ บบ
CLT” มผี ลดำเนินงำนดังนี้

7.1.1 เชงิ ปริมำณ
ผู้เรยี นระดับช้ันมัธยมศกึ ษำปีท่ี 2 จำนวน 20 คน มที กั ษะในกำรใช้ภำษำอังกฤษเพอ่ื กำรส่ือสำรประโยคหรือ
ข้อควำมพน้ื ฐำนได้เหมำะสมกับระดับจำนวน 16 คน (ร้อยละ 80 )

7.1.2 เชิงคุณภำพ
ผเู้ รียนระดับชั้นมธั ยมศกึ ษำปีท่ี 2 โรงเรยี นบำ้ นหนองงเู หลือม(ครุ ุรำษฎรร์ ัฐกิจโกศล) มีทักษะในกำรใช้
ภำษำองั กฤษเพ่ือกำรส่ือสำรประโยคหรือข้อควำมพ้นื ฐำนได้เหมำะสมกบั ระดับชน้ั
7.2 ประโยชน์ทจ่ี ะได้รับ

7.2.1 ผ้เู รยี นไดพ้ ัฒนำทักษะภำษำอังกฤษเพ่ือกำรส่ือสำร
7.2.2 ครูผูส้ อนได้พฒั นำกำรจัดกำรเรยี นรู้ สอ่ื กำรสอน และกำรวัดประเมินผล และข้อมูลของผู้เรยี น
พร้อมบรบิ ทของสถำนศึกษำ สำมำรถต่อยอดพฒั นำไดด้ ยี ิง่ ข้ึน

8. ปจั จัยนำไปสู่ควำมสำเรจ็
8.1 ด้ำนกำรบรหิ ำรและกำรจัดกำร โรงเรยี นบำ้ นหนองงเู หลือม (ครุ รุ ำษฎร์รัฐกจิ โกศล) ไดมพี ัฒนำเพม่ิ

ประสิทธภิ ำพของครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ ในรปู แบบของกำรอบรม ประชมุ เชิงปฏิบัตกิ ำร

6

ทศั นศึกษำ จัดนทิ รรศกำร ศึกษำดูงำนแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ เพื่อนำมำพฒั นำและจดั กิจกรรมของโรงเรียนให้มีคณุ ภำพ
8.2 กำหนดภำระหนำ้ ท่ีของแตล่ ะฝำ่ ยให้ชัดเจน เพอ่ื ใหเ้ กดิ แรงหนุน และพลังกำรทำงำนอย่ำงสรำ้ งสรรคต์ อ่ กัน
8.3 ฝ่ำยบริหำรมภี ำวะผ้นู ำ และมีทศั นคตทิ ่ีดี และมีควำมเขำ้ ใจในเรื่อง กำรพฒั นำทักษะกระบวนกำรคิดท่ดี ี

และมคี วำมเข้ำใจในเรือ่ งกำรพัฒนำทักษะกระบวนกำรคิด
8.4 กำรมีทัศนคติหรือมมุ มองเชิงบวกตอ่ คุณธรรมเปำ้ หมำย ร่วมกนั กำหนดพฤติกรรมบง่ ช้ีเชิงบวก และลงมือ

ปฏิบัติ
8.5 ควำมรว่ มมอื รว่ มใจ ท่ีเกิดจำกกำรร่วมมือ กันทำกิจกรรมอยำ่ งต่อเนื่องด้วยควำมสุขและเหน็ คณุ ค่ำของ

ส่งิ ทท่ี ำ

9. เงื่อนไขควำมสำเร็จ
9.1 กำรเสรมิ สร้ำงภำวะผูน้ ำ เพื่อให้เกิดแรงหนุนและพลงั กำรทำงำน โดยสร้ำงควำมตระหนกั

กำรรบั รู้ ยอมรบั ในบริบทและสภำพกำรเปลย่ี นแปลง
9.2 กำรนำเทคโนโลยมี ำใช้ในกำรสนบั สนนุ กำรดำเนินงำนใหม้ ีควำมคล่องตวั
9.3 กำกับ ตดิ ตำมกำรประเมินและรำยงำน

7

เอกสำรอำ้ งองิ

ปณัชปภำ โพธ์ิพุ่ม (2561). กำรพัฒนำทักษะกำรสื่อสำรภำษำองั กฤษของนักเรยี นในจังหวัดสรุ นิ ทรโ์ ดยใช้
กระบวนกำรทฤษฎี CLT. มหำวิทยำลัยจฬุ ำลงกรณรำชวิทยำลัย วิทยำเขตสรุ นิ ทร์.

สำนักงำนเขตพ้ืนท่ีกำรศึกษำประถมศกึ ษำศรสี ะเกษ เขต 4 (2565). แนวทำงกำรขบั เคลื่อนคณุ ภำพกำรศกึ ษำตำม
จุดเน้นของสำนักงำนเขตพน้ื ที่กำรศึกษำประถมศกึ ษำศรีสะเกษ เขต 4 ปกี ำรศกึ ษำ 2565

Intesol Teach Abroad. English Teaching Methods. Retrieved 29 Jan 2020, from
http://www.huntesl.com/a-brief-look-at-the-different-esl-teaching-approaches-and-methods/
Kukuh, Imam. 2003, Communicative language teaching (CLT) approach in speaking class at
the second grade at MAN Tengaran in the academic year 2013/2014. Graduating Paper.
Salatiga: IAIN.

ภำคผนวก

กำรจัดกำรเรียนรแู บบ CLT

สรุปบททดสอบระหวำ่ งเรียน ทกั ษะกำรพูด (Speaking Skill)

ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรุง

ปรับปรุง ดมี าก
10% 35%

พอใช้
15%

ดี
40%

นักเรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 2 โรงเรียนบ้ำนหนองงเู หลือม(คุรุรำษฎร์รัฐกจิ โกศล) จำนวน20 คน
มคี วำมสำมำรถพูดส่ือสำร ประโยค หรอื ข้อควำมพืน้ ฐำนได้

ระดบั ช้นั ผลกำรประเมินจำแนกตำมคณุ ภำพ
ม.2 ดมี ำก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง
จำนวน(คน) ร้อยละ จำนวน(คน) ร้อยละ จำนวน(คน) รอ้ ยละ จำนวน(คน) ร้อยละ
7 30 8 35 3 25 2 10

สรุปได้วำ่ นกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษำปีท่ี 2 โรงเรยี นบ้ำนหนองงูเหลือม(ครุ ุรำษฎร์รัฐกจิ โกศล) จำนวน20 คน
มีควำมสำมำรถพดู ส่ือสำร ประโยค หรอื ข้อควำมพืน้ ฐำนได้เหมำะสมกบั ระดับชน้ั จำนวน 15 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 75

สรุปบททดสอบระหว่ำงเรยี น ทกั ษะกำรฟงั (Listening Skill)

ความสามารถในการฟัง ส่ือสารภาษาอังกฤษ

ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรุง

15% 35%
15%

35%

นกั เรยี นชั้นมธั ยมศกึ ษำปที ่ี 2 โรงเรยี นบ้ำนหนองงูเหลือม(คุรรุ ำษฎรร์ ฐั กิจโกศล) จำนวน20 คน
มคี วำมสำมำรถฟงั พดู ส่ือสำร ประโยค หรือข้อควำมพืน้ ฐำนได้

ระดบั ชัน้ ผลกำรประเมนิ จำแนกตำมคุณภำพ
ม.2 ดมี ำก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ
จำนวน(คน) รอ้ ยละ จำนวน(คน) ร้อยละ จำนวน(คน) ร้อยละ จำนวน(คน) รอ้ ยละ
7 25 7 30 3 30 3 15

สรปุ ได้วำ่ นักเรยี นช้ันมธั ยมศึกษำปีท่ี 2 โรงเรียนบ้ำนหนองงเู หลือม(ครุ รุ ำษฎร์รัฐกจิ โกศล) จำนวน20 คน
มคี วำมสำมำรถฟงั พดู ส่อื สำร ประโยค หรือข้อควำมพื้นฐำนได้เหมำะสมกบั ระดบั ช้นั จำนวน 14 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 70

การพัฒนาทักษะภาษาอังกฤ

A = Achievement การพัฒน
ภาษาองั ก
บรรลผุ ลสาเรจ็ การสื่อส

M = Media ผเู้ รยี

ใชส้ ่อื ประกอบการสอน

A = Appreciation

ช่ืนชมในผลงาน ใหก้ าลงั ใจ

T = Together

ทาดว้ ยกนั ชว่ ยเหลอื กนั

ฤษเพื่อการสอื่ สารของผูเ้ รียน

P = Proud

ภาคภมู ใิ จ เชอ่ื ม่นั ในตัวเองว่า
ตวั เองสามารถทาได้

นาทกั ษะ A = Agree
กฤษเพอ่ื
สารของ ยอมรับ เปิดใจให้กบั สิง่ ใหม่
ยน ไมป่ ดิ ก้นั ความรู้

T = Think

ใชค้ วามคดิ เชือ่ โยงเนือ้ หา

นางปทั มาพร สรุ าไพ
โรงเรียนบา้ นหนองงเู หลอื ม(ครุ ุราษฎร์รฐั กิจโกศล)

สพป.ศรีสะเกษ 4 โทร. 086-8697406

คำส่งั โรงเรียนบำ้ นหนองงูเหลอื ม(ครุ ุรำษฎร์รฐั กิจโกศล)
ที่ 24/2565

เร่ือง แต่งตัง้ คณะกรรมกำรดำเนนิ งำนจดุ เนน้ กระทรวงศึกษำธกิ ำร ระดับสถำนศกึ ษำ

ด้วย สำนักงำนเขตพ้ืนท่ีกำรศึกษำประถมศึกษำศรีสะเกษ เขต 4 ได้กำหนดกำรนิเทศ ติดตำม
กำรบริหำรสถำนศึกษำและกำรดำเนิ นงำนตำมจุดเน้นกระทรวงศึกษำธิกำรของโรงเรียน บ้ำนหนองงูเหลือม
(คุรุรำษฎร์รัฐกิจโกศล) เพื่อให้กำรดำเนินงำนเป็นไปด้วยควำมเรียบร้อย จึงอำศัยอำนำจตำมพระรำชบัญญัติ
บริหำรรำชกำรกระทรวงศึกษำธิกำร พ.ศ.2556 มำตรำ 39 และพระรำชบัญญัติระเบียบข้ำรำชกำรครูและ
บุคลำกรทำงกำรศึกษำ พ.ศ.2547 มำตรำ 27 แต่งต้ังคณะกรรมกำรดำเนินงำนจุดเน้นกระทรวงศึกษำธิกำร
ระดับสถำนศกึ ษำ โรงเรียนบ้ำนหนองงูเหลือม(ครุ ุรำษฎรร์ ัฐกจิ โกศล) ดงั ต่อไปนี้

1. คณะกรรมกำรอำนวยกำร ประกอบด้วย

๑.๑ นำยวรวทิ ย์ ทรพั ย์ศิริ ผ้อู ำนวยกำรโรงเรียน ประธำนกรรมกำร

๑.๒ นำงอิ่นอ้อย บุษบงก์ หวั หนำ้ ฝำ่ ยบรหิ ำรทัว่ ไป รองประธำนกรรมกำร

๑.๓ นำงยุวพิน พูลสุขโข หัวหนำ้ ยฝำ่ ยบรหิ ำรบุคคล กรรมกำร

๑.๔ นำงกำนตต์ มิ ำ เวชกำมำ หัวหนำ้ ฝ่ำยแผนและงบประมำณ กรรมกำร

๑.๕ นำงอรุ ำ กรมพะไมย หัวหน้ำงำนวิชำกำร กรรมกำรและเลขำนุกำร

1.6 นำงปัทมำพร สรุ ำไพ ครชู ำนำญกำร กรรมกำรและผชู้ ว่ ยเลขำนุกำร

มีหน้ำที่ ให้คำปรึกษำ สนบั สนนุ ปัจจยั ตำ่ งๆ ในกำรดำเนินงำนเพื่อให้กำรปฏิบัติงำนเปน็ ไปดว้ ยควำมเรียบร้อย

2. คณะกรรมกำรรับผิดชอบตำมจุดเน้นกระทรวงศกึ ษำธกิ ำร ระดบั สถำนศกึ ษำ

1) จุดเนน้ กำรอ่ำน เขยี น ประกอบด้วย

1. นำงอุรำ กรมพะไมย หัวหนำ้

2. นำงยุวพนิ พูลสขุ โข ผชู้ ว่ ยและเลขำนุกำร

2) จุดเน้นทักษะกำรคดิ ประกอบดว้ ย

1. นำงสำวจันทพิ ย์ ถ่นิ ถำน หวั หนำ้

2. นำงสำวศศิวิมล สนทะยำ ผชู้ ว่ ยและเลขำนกุ ำร

3) จุดเนน้ ภำษำองั กฤษเพ่ือกำรส่ือสำร ประกอบดว้ ย

1. นำงปทั มำพร สรุ ำไพ หวั หนำ้

2. นำงสำลิกำ พนั ธ์ใหญ่ ผชู้ ่วยและเลขำนกุ ำร

4) จุดเน้นเทคโนโลยีสำรสนเทศ ประกอบด้วย

1. นำยยุทธิพงษ์ สุขวงค์ หวั หนำ้

2. นำยพิชชำกร ปอ้ งคำ ผู้ชว่ ย

3. นำยนนทยำ ศรีหำบุตร ผ้ชู ว่ ยและเลขำนกุ ำร

5) จุดเนน้ นวัตกรรม /…..

5) จดุ เน้นนวัตกรรม ประกอบดว้ ย

1. นำงกำนตต์ มิ ำ เวชกำมำ หวั หนำ้

2. นำงชนกพร ชินชัย ผชู้ ่วยและเลขำนกุ ำร

6) จดุ เนน้ ทักษะชีวติ ประกอบด้วย

1. นำยวฒั นำ แมน่ ทอง หวั หนำ้

2. นำยอำนนท์ ชนิ ชัย ผชู้ ่วยและเลขำนกุ ำร

7) จุดเนน้ ทักษะอำชีพ ประกอบด้วย

1. นำงภินันตรำ กลุ มี หัวหนำ้

2. นำงรชั นกี ร ธรรมษำ ผู้ชว่ ยและเลขำนกุ ำร

8) ห้องเรียนคุณภำพ ประกอบดว้ ย

1. นำยธรี ะพจน์ ทองสลบั หัวหนำ้

2. นำงวภิ ำวดี ไชยทอง ผชู้ ่วยและเลขำนกุ ำร

9) จดุ เน้นอนุบำล 7+1 จุดเน้น

1. นำงสำวอรวรรณ โสมณี หวั หน้ำ

2. นำงอน่ิ อ้อย บญุ บงก์ ผู้ช่วย

3. นำงวิภำวดี ไชยทอง ผ้ชู ว่ ยและเลขำนกุ ำร

มีหนำ้ ท่ี 1. วำงแผนกำรดำเนนิ กำร ดำเนินงำน จัดหำข้อมูล และสรปุ ผลกำรดำเนนิ งำนตำมจุดเน้น

2. ปฏิบัตงิ ำนอืน่ ๆ ทไ่ี ด้รบั มอบหมำย

3. คณะกรรมกำรฝำ่ ยกำรเงิน

3.๑ นำงกำนต์ตมิ ำ เวชกำมำ ครชู ำนำญกำรพิเศษ ประธำนกรรมกำร
กรรมกำรและเลขำนุกำร
3.๒ ชนกพร ชินชยั ครู

มหี น้ำที่ ๑. จัดหำงบประมำณค่ำใชจ้ ำ่ ยในกำรดำเนินงำน

๒. ปฏบิ ตั งิ ำนอื่น ๆ ท่ีได้รับมอบหมำย

4. คณะกรรมกำรฝำ่ ยประเมินผล

4.๑ นำยวรวทิ ย์ ทรพั ยศ์ ริ ิ ผ้อู ำนวยกำรโรงเรียน ประธำนกรรมกำร

4.๒ นำงอิน่ ออ้ ย บุษบงก์ หวั หน้ำฝ่ำยบรหิ ำรทั่วไป รองประธำนกรรมกำร

4.๓ นำงยวุ พนิ พูลสขุ โข หัวหนำ้ ยฝ่ำยบริหำรบุคคล กรรมกำร

4.๔ นำงกำนตต์ มิ ำ เวชกำมำ หวั หน้ำฝ่ำยแผนและงบประมำณ กรรมกำร

4.๕ นำงอรุ ำ กรมพะไมย หัวหนำ้ งำนวิชำกำร กรรมกำรและเลขำนุกำร

มีหน้ำท่ี ๑. ประเมนิ ผลกำรดำเนนิ งำนจุดเนน้ กระทรวงศึกษำธกิ ำร ระดบั สถำนศึกษำ

๒. จัดเกบ็ เอกสำร สรปุ ผลกำรประเมนิ

๓. ปฏบิ ัตงิ ำนอื่น ๆ ที่ได้รบั มอบหมำย

ให้คณะกรรมกำรท่ีไดร้ ับมอบหมำยปฏิบัตหิ น้ำที่อย่ำงเต็มควำมสำมำรถ เพื่อใหง้ ำนสำเร็จ
ลลุ ว่ งไปด้วยดีและเพ่ือใหเ้ กดิ ผลดแี ก่ทำงรำชกำรต่อไป

สั่ง ณ วนั ที่ 29 มถิ ุนำยน พ.ศ.2565

ลงชอ่ื
(นำยวรวทิ ย์ ทรพั ย์ศริ ิ)

ผู้อำนวยกำรโรงเรียนบำ้ นหนองงูเหลอื ม(ครุ รุ ำษฎรร์ ัฐกิจโกศล)