วิจัย .2-63

ชือ่ : นายวชิ ิต โมเ้ ปาะ

ชอ่ื งานวจิ ัย : การพฒั นาความรูเ้ รือ่ งวงจรนบั เลขโดยใชไ้ อซี 7476

วชิ า : วงจรไอซีและการประยุกตใ์ ช้งาน รหัสวชิ า 2105-2104

แผนกวิชา : ชา่ งอิเล็กทรอนิกส์

ปีการศึกษา : 2/2563

วิทยาลัยการอาชีพสว่างแดนดนิ

บทคัดย่อ

การทาวิจยั ครง้ั นี้ เพื่อเป็นการศกึ ษาและพัฒนาทักษะในเร่ือง “วงจรนบั เลขโดยใชไ้ อซี ”
ของนักเรยี นระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชพี ชน้ั ปีท่ี 3 หอ้ ง 1,2 แผนกวิชาช่างอิเล็กทรอนกิ ส์
วิทยาลัยเทคนคิ สว่างแดนดิน

การวจิ ยั ครงั้ นเี้ ปน็ การวิจยั เชงิ สารวจ เพอื่ วัดพน้ื ฐานความรใู้ นเรือ่ ง “วงจรนบั เลขโดยใชไ้ อซี
7476” จากนักเรียนนักเรียนระดบั ประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชนั้ ปที ่ี 3 ห้อง 1,2 สาขาวชิ าชา่ ง
อเิ ล็กทรอนกิ ส์ วทิ ยาลยั เทคนคิ สวา่ งแดนดนิ จานวน 40 คน โดยใชแ้ บบทดสอบเปน็ เคร่อื งมือใน
การวัดความรูจ้ นได้ผลออกมาดังน้ี ในการทดสอบครั้งที่ 1 มผี ู้เขา้ รว่ มการทดสอบ 40 คน มผี ู้ผ่านการ
ทดสอบ 34 คน และไมผ่ า่ นการทดสอบ 6 คน โดยผ้ทู ่ีผ่านการทดสอบครง้ั ท่ี 1 สามารถทาคะแนนได้อยู่
ในระดับดี และดีมาก และในการทดสอบครั้งท่ี 2 มผี ู้เข้าร่วมการทดสอบ 40 คน ผเู้ ข้ารว่ มการทดสอบ
สามารถผา่ นการทดสอบได้ท้ังหมด 40 คน และส่วนใหญส่ ามารถทาคะแนนได้อยู่ในเกณฑด์ มี าก

กิตติกรรมประกาศ

ทางผวู้ จิ ัยไดจ้ ดั ทางานวิจยั เรอ่ื ง “วงจรนบั เลขโดยใช้ไอซี 7476” ข้ึนเพื่อทาการศึกษาวัดผล
ความรพู้ ้นื ฐานของกลุ่มประชากรตวั อยา่ งทีไ่ ด้นามาวจิ ยั ในคร้งั นีผ้ ลปรากฎวา่ ในการทาวจิ ยั ครง้ั นี้
ประสบผลสาเรจ็ เป็นอย่างมาก

การวจิ ัยคร้งั น้จี ะไมป่ ระสบผลสาเร็จได้ ถ้าไม่มีผูใ้ ห้คาปรกึ ษาและใหค้ าแนะนาซ่งึ ทา่ นผ้นู ี้คือ
ทา่ นอาจารย์สาโรช กล่ามอญ หัวหนา้ แผนกวชิ าชา่ งอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ทคี่ อยให้ความชว่ ยเหลือกลุ่มผู้วจิ ยั
โดยตลอดมา จนสามารถประสบความสาเรจ็ ในการวิจัยครง้ั น้ี ทางผวู้ ิจยั ขอกราบขอบพระคุณ ทคี่ อยให้
คาปรกึ ษาและให้คาแนะนาเป็นอย่างยง่ิ

วิชิต โม้เปาะ
ผูว้ ิจัย

บทที่ 1

บทนา

ความเปน็ มา

ประมาณชว่ ง 2,000 ปกี ่อนครสิ ต์ศักราช ชาวยิปส์ ไดใ้ ช้การสังเกตอย่างชาญฉลาด พัฒนา
วิทยาศาสตร์ของตวั เลขขนึ้ เช่น สมบตั ิของการบวกลบ พร้อมกันน้ียังได้พฒั นาระบบเรขาคณิต 650 ปี
ก่อนคริสต์ศกั ราช ก็ได้มนี ักวทิ ยาศาสตรช์ ่ือ “อาเมส” ได้บันทกึ การบวกลบเลขหรือพีชคณติ ใหเ้ ราได้
อ่านกัน ดว้ ยเหตนุ ี้ นายอาเมส จึงได้รับช่ือเป็นนักคณติ ศาสตร์ท่บี นั ทกึ ผลงานเปน็ คนแรกของโลก
หลังจากนัน้ กม็ ีการคิดสตู รคณิตศาสตรข์ ึน้ มาอีกหลายอย่างเชน่ เลขยกกาลัง, เลขฐาน, รปู ทรงเรขาคณติ
เป็นต้น

วิชาคณิตศาสตร์คอมพวิ เตอร์มเี น้ือหาในเร่ือง ระบบจานวนจรงิ , ระบบตัวเลข, ตรรกศาสตร์
เบือ้ งตน้ , พีชคณติ บลู นี , เมตรกิ ซ์, สว่ นเรอ่ื งระบบตัวเลขซ่งึ ประกอบด้วยการแปลงเลขฐานของระบบ
ตัวเลข, การบวกลบเลขฐาน, การคณู และหารเลขฐานทางผ้วู ิจัยไดน้ าเรือ่ งการบวกลบเลขฐานมาทาการ
วจิ ยั ก็เพราะไดเ้ ปน็ การเพิ่มความรแู้ ละทักษะในเร่ืองนี้ และยงั ได้นาเร่ืองนี้มาสอนใหป้ ระชากรที่สนใจ
ศกึ ษาให้เกดิ ความเขา้ ใจเพ่ิมขึ้นจากทเ่ี รยี นมากับครูผสู้ อนและเปน็ การย้าเตือนก่อนสอบและทบทวน
เพ่อื ให้เกดิ ความเขา้ ใจยง่ิ ข้นึ

วตั ถุประสงคก์ ารวจิ ยั

เพื่อศกึ ษาหาความรู้และพัฒนาทักษะในเร่ือง “วงจรนับเลขโดยใช้ไอซี 7476” ของนกั เรียน
แผนกวชิ าช่างอิเล็กทรอนิกส์ วทิ ยาลยั เทคนคิ สวา่ งแดนดนิ ชั้นปีท่ี 3 ห้อง 1,2

ขอบเขตการวจิ ัย

ประชากรที่ใช้ศึกษา คือ นักเรียนหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ชั้นปีท่ี 3 แผนก
วิชาช่างอิเล็กทรอนิกส์ วิทยาลัยการอาชีพสว่างแดนดินห้อง 1,2 จานวน 40 คน ภาคเรียนท่ี 2 ปี
การศึกษา 2563 เน้ือหาท่ีใช้วิจัย คือ หนังสือวงจรไอซีและการประยุกต์ใช้งาน เรื่อง “วงจรนับเลขโดย
ใชไ้ อซ”ี

นิยามศัพท์

พัฒนาความรู้ คือ การพัฒนาความรทู้ ่เี ป็นการทอ่ งจาหรอื วัดโดยการเลือกขอ้ ถกู ผิด โดยไมผ่ ่าน
การสมั ผัสลึก ๆ ในจิตใจและจิตวิญญาณจึงไมม่ ีความร้สู ึก การพฒั นาความรู้เป็นการจัดการ“ระบบ
ความคดิ ” ทจี่ ะต้องประเมนิ ผ่านความรู้สึกของผู้จดั การความรู้

เลขฐาน คอื ระบบการคานวณทใี่ ชจ้ านวนนบั ทม่ี ากที่สุดของตวั เลขทอ่ี ยู่ในฐานนั้นเป็นฐานใน
การคานวณเช่น ระบบเลขฐานสบิ จะมีตัวเลข 0 - 9 อยูใ่ นเลขสิบน้ัน รวมทงั้ หมดเปน็ ฐานสิบและเป็น 10
ตัวซ่ึงจะใชเ้ ลขสิบน้ีเป็นฐานในการคานวณตา่ ง ๆ

ประโยชน์ทไี่ ดร้ ับจากการวิจัย

1. ทาใหต้ นเองมีความรใู้ นเรื่องทท่ี าวิจัย ได้อย่างถ่องแท้
2. ทาใหน้ ามาเป็นบรรทัดฐาน ในการทางานวจิ ยั อนื่ ได้
3. ทาใหผ้ ทู้ ี่เราได้ไปเผยแผ่ มีความรคู้ วามเข้าใจท่ดี ี
4. ทาใหเ้ ราสามารถนาความรู้จากวิชาคณติ ศาสตร์ ประยุกตไ์ ปใช้ในการเรยี นวชิ าอ่ืนได้
เชน่ วชิ าวงจรไอซแี ละการประยกุ ตใ์ ช้งาน
5. ทาให้เราสามารถนาความรู้ เร่ือง “วงจรนับเลขโดยใชไ้ อซี 7476” ไปใชใ้ นการทางาน

บทที่ 2

เอกสารที่เกยี่ วข้อง

ระบบตัวเลข
เลขฐานสอง(binary) เกดิ จากการนาเลขท้งั สองมาเรียงต่อกนั หลายๆ หลกั และเรียกแต่ละ

หลกั วา่ บิต เลขฐานสองจะประกอบดว้ ยตัวเลข 2 ตัว คอื 0 กบั 1
เลขฐานแปด(octal) จะประกอบดว้ ยตวั เลข 8 ตัว คือ 0, 1, 2, 3, 4, 5, 6 และ 7
เลขฐานสิบ(decimal) คอื ระบบตวั เลขทมี่ ีอยู่ 10 ตัวได้แก่ 0, 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9
เลขฐานสบิ หก(hexadecimal) จะประกอบด้วยตวั เลข 16 ตวั คอื 0, 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8,

9, A, B, C, D, E, F โดยใช้ A แทนเลข 10, B แทนเลข 11, C แทนเลข 12, D แทนเลข 13, E แทนเลข
14 และ F แทนเลข 15 เช่น 3BA16, AC1216 , 1FA16 เปน็ ตน้

ตารางเปรยี บเทียบตัวเลขในระบบ

เลขฐานสิบ เลขฐานสอง เลขฐานแปด เลขฐานสิบหก
0 00000 0 0
1 00001 1 1
2 00010 2 2
3 00011 3 3
4 00100 4 4
5 00101 5 5
6 00110 6 6
7 00111 7 7
8 01000 10 8
9 01001 11 9
10 01010 12 A
11 01011 13 B
12 01100 14 C
13 01101 15 D
14 01110 16 E
15 01111 17 F
16 10000 20 10

Binary Counter

Binary Counter เปน็ วงจรบันเลขฐานสอง ตัวอย่างวงจรข้างล่างเรียกว่า วงจรนับเลขฐานสอง
แบบไม่เขา้ จงั หวะ (Asynchronous Binary Counter) ใช้ J-K ฟลปิ ฟลอป และ ฟลปิ ฟลอปทุกตัวต่อใน

อยู่ในสถานะ Toggle คือ ให้ J และ K เป็น "1" เพื่อเตรียมพร้อมท่ีจะให้ ฟลิปฟลอป เปล่ียนสถานะ
เอาท์พตุ เมื่อมีคล็อก (Clock) ชนิดขอบขาลง (Negative edge-triggering) เข้ามาท่ี Clk ของฟลปิ ฟลอ
ปแต่ละตวั ให้พิจารณาการทางานจากตารางความจรงิ และไดอะแกรมของเวลาที่แสดงอยู่ขา้ งล่าง

ตารางความจริง วงจรน้ีจะนับจาก 0000, 0001, 0010,......, ถึง 1111เป็นค่าสุดท้าย แล้วจะ
เวียนไปเร่มิ ที่ 0000 ใหม่ (เปน็ วงจรนับข้นึ )

Clock A3 A2 A1 A0
0 0000
1 0001
2 0010
3 0011
4 0100
5 0101
6 0110
7 0111
8 1000
9 1001
10 1 0 1 0
11 1 0 1 1
12 1 1 0 0
13 1 1 0 1
14 1 1 1 0
15 1 1 1 1

ไดอะแกรมของเวลา (Timing diagram)
จะสงั เกตเุ ห็นว่าจานวนความถขี่ องลกู คลน่ื ทเ่ี อาท์พตุ ของ ฟลิปฟลอปแตล่ ะตัวได้แก่ A0

และ A1, A1 และ A2, A2 และ A3 จะลดลงไปคร่งึ หนึ่ง หรอื ความถีล่ กู คล่นื จะถูกหารด้วย 2

ไดอะแกรมของเวลา (Timing diagram) ของวงจร Asynchronous Binary Counter

Modulus Counter (MOD-Number Counter)

การนับตามค่าที่กาหนด หมายถึงการสร้างวงจรนับให้สามารถกาหนดค่านับได้ เช่น ให้
นับต้ังแต่ 0 - 9 แล้วเวียนกลับมาเร่ิมต้น ท่ี 0 ใหม่อีก หรืออาจจะกาหนดให้นับถึงเลขใดเลขหน่ึงแล้ว
เวียนกลบั มาเร่มิ ต้นใหม่ วงจรนบั แบบนี้ เม่ือนบั ถงึ ค่าาทีก่ าหนดวงจรจะรีเซต (Reset) ตวั เองเรม่ิ ต้นใหม่
ค่าสูงสุดที่กาหนดให้นับเรียกว่า มอด (MOD number) ดังนั้นจึงเรียกวงจรนับเหล่าน้ีว่า MOD-3,
MOD-6, MOD-10 เป็ น ต้ น ห ม ายถึ งจงจรจะรีเซ ต ค่ าเมื่ อ นั บ ถึง 3, 6 แ ล ะ 10 ต าม ล าดั บ

ก ารรีเซ ต ค่ าส่ ว น ให ญ่ จ ะใช้ ข า CLR ห รือ ซึ่ งเป็ น ข าอ ะซิ งโค รนั ส อิ น พุ ต
(Asynchronous Input) ร่วมกับลอจิกเกตทาการ รีเซตเอาท์พุตของฟลิปฟลอปทุกตัวกรณีท่ีจะเริ่มต้น
การนับใหม่ท่ี 0 ในกรณีท่ีการออกแบบวงจรนับค่าเริ่มต้นใหม่ไม่ได้เร่ิมต้นท่ี 0 ซึ่งจะใช้ขา CLR หรือ

ไมไ่ ด้ ก็จาเปน็ จะต้องใช้ลอจิกเกตอย่างเดยี ว ซง่ึ การออกแบบค่อนขา้ งจะยงุ่ ยาก

ตวั อยา่ ง 1. ใหอ้ อกแบบวงจรนับเลขฐานสองแบบไม่เขา้ จังหวะ (Asynchronous Binary Counter)
ชนิด MOD – 5
วิธีทา รูปแบบของการนับดังรูปข้างลา่ ง คือจะเรม่ิ นับท่ี 000, 001, 010, 011, 100 และเม่อื ถึง 101
จะตอ้ งทาให้ ฟลปิ ฟลอปรีเซตทุกตวั เพื่อเปลยี่ นค่าเอาทพ์ ตุ เปน็ 000 แทนทจ่ี ะเป็น 101

เอาท์พุต A0 และ A2 จะต่อเข้า NAND เกต และท่ีเอาท์พุตของ NAND เกต จะต่อเข้าขา CLR ของฟ
ลิปฟลอปทุกตัว เม่ือ A0 และ A2 มีสถานะเป็น "1" ทั้งคู่ จะทาให้เอาท์พุตของ NAND เกตเป็น "0" ทา
ให้ฟลิปฟลอปทุกตวั ถูก Reset ดังนั้นเอาท์พุตของวงจรจะเป็น "000" ซึ่งเป็นการเร่ิมต้นนับใหม่ ท่ี"000"
และหมุนเวียนอย่างนไ้ี ปเรอ่ื ย ๆ
ตัวอย่าง 2. Decade BCD Counter

วงจรนับสิบมีช่ือเรียกได้หลายชื่อ เช่น ดเี คดเคาน์เตอร์ (Decade counter) บซี ีดเี คานเ์ ตอร์
(BCD counter) วงจรนบั ชนิดมอดสบิ (MOD-10) ซ่งึ เปน็ วงจรนับเลขฐานสองขนาด 4 บิท จาก 0000
ถึง 1001 (0-9 เลขฐานสิบ) นั่นเอง

จากวงจรขา้ งบนเป็นวงจร ดีเคดเคานเ์ ตอร์ (Decade counter) ท่ใี ช้ขา ร่วมกับ NAND
เกต เมอ่ื นับถึง 1010 (A3=1, A2=0, A1=1 และ A0=0) จะใช้คา่ "1" ของ A3 และ A1 ตอ่ เขา้ อินพุต
ของ NAND เกต และเอาทพ์ ุตตอ่ เข้าขา ของฟลิปฟลอปทุกตัว เพ่ือทาการรีเซตฟลปิ ฟลอปทกุ ตวั
ให้เรม่ิ ต้นที่ "0000" ใหม่

บทที่ 3

การดาเนินการวิจัย

รปู แบบการวิจยั

การวิจัยเร่ืองการพัฒนาความรูเ้ ร่ือง “วงจรนบั เลขโดยใช้ไอซี 7476” เป็นการวิจัยเชงิ สารวจ

ประชากร

นักเรียนระดบั ชั้น ระดับประกาศนยี บตั รวิชาชีพ 3 หอ้ ง 1,2 แผนกวิชาช่างอิเล็กทรอนิกส์

จาวน 40 คน

เครอื่ งมอื ทใ่ี ช้

แบบทดสอบเร่ือง “วงจรนบั เลขโดยใชไ้ อซี 7476” ชนดิ เตมิ เฉพาะคาตอบโดยแบ่งเปน็ การบวก

10 ขอ้

การเกบ็ ขอ้ มูล

1. ชี้แจงวิธกี ารสอนโดยใช้กจิ กรรมแบบเพอื่ นสอนเพ่ือนต่อกล่มุ นักเรียนท้ังหมด

2. แบ่งกลมุ่ นักเรียน 5-6 คน

3. นักเรยี นแบ่งกลมุ่ โดยคละความสามารถ ซ่ึงใชค้ ะแนนทไ่ี ด้จากการทาแบบทดสอบ โดยจัดลาดับ

ตามเกณฑ์ไวด้ งั น้ี 9-10 คะแนน จัดให้อยู่ในกลุม่ 1 คน

7-8 คะแนน จดั ให้อยู่ในกลุ่ม 2 คน

5-6 คะแนน จดั ให้อยใู่ นกลมุ่ 2 คน

ต่ากว่า 5 คะแนน จดั ให้อยู่ในกลุ่ม 1 คน

4. ใช้กจิ กรรมแบบเพือ่ นสอนเพื่อนและให้นักเรยี นรว่ มกันศึกษาและวเิ คราะหโ์ จทย์

5. สอบวดั ผล หลงั จากจบหน่วยการเรียนโดยทาแบบทดสอบ 10 ขอ้

6. ผู้ท่ไี ดค้ ะแนนตา่ กว่า 7 คะแนน (ปานกลาง) นามาสอนเพิ่มเติมและทาการทดสอบใหม่

การแปลผล

ในการวจิ ัยเรอ่ื งการพฒั นาความรเู้ รอื่ ง “วงจรนบั เลขโดยใชไ้ อซี” ใชเ้ กณฑ์ดังน้ี

9-10 คะแนน มคี วามรู้เร่อื งวงจรนับเลขโดยใช้ไอซีดมี าก

7-8 คะแนน มคี วามร้เู รอ่ื งวงจรนับเลขโดยใชไ้ อซีดี

5-6 คะแนน มีความรเู้ ร่ืองวงจรนบั เลขโดยใชไ้ อซีปานกลาง

ต่ากวา่ 5 คะแนน มคี วามรูเ้ รอ่ื งวงจรนับเลขโดยใชไ้ อซีตา่

บทที่ 4

ผลการดาเนนิ การวจิ ัย

1. ผลการดาเนนิ การวิจยั

จากการทผี่ ู้วจิ ยั ได้ทาการทดสอบสารวจความรูพ้ นื้ ฐานในเรอื่ ง “วงจรนบั เลขโดยใชไ้ อซี
7476” ของนักเรียนระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชพี ชั้นปที ่ี 3 หอ้ ง 1,2 แผนกวิชาชา่ งอเิ ล็กทรอนิกส์
วทิ ยาลยั การอาชสี ว่างแดนดนิ วา่ มพี น้ื ฐานมากน้อยเพียงใด

ทางผู้วิจัยได้นาผทู้ ่ีไดค้ ะแนนในระดบั ปานกลางและผทู้ ี่ไดร้ ะดบั ตา่ มาพัฒนาและอธิบายให้เข้าใจ
แล้วนามาทาแบบทดสอบอีกครัง้ เพื่อเปรียบเทยี บว่าผู้ทดสอบมีความรู้ในเร่อื ง “วงจรนบั เลขโดยใชไ้ อซี
7476” มากขน้ึ หรือไม่ โดยสรปุ ได้ดังนี้

เกณฑก์ ารวัดผล จานวนผูท้ ดสอบครัง้ ที่ 1 จานวนผทู้ ดสอบครั้งท่ี 2
2 0
ต่ากว่า 5 ตา่ 4 0
10 12
5-6 ปานกลาง 24 28

7-8 ดี

9-10 ดมี าก

ผลสรปุ การทดสอบครง้ั ท่ี 1 ของนักเรียนระดบั ประกาศนยี บตั รวิชาชพี ชน้ั ปีที่ 3 หอ้ ง 1,2
แผนกวชิ าช่างอเิ ลก็ ทรอนิกส์ วทิ ยาลยั เทคนคิ สว่างแดนดนิ มีผ้ผู า่ นการทดสอบ 34 คนและไม่ผ่านการ
ทดสอบ 6 คน

ผลสรุปการเปรยี บเทยี บการทาแบบทดสอบเรื่อง “วงจรนับเลขโดยใช้ไอซี” ครง้ั ท่ี 1 และคร้งั ท่ี 2
ของนักเรียนระดับประกาศนียบตั รวิชาชพี ชัน้ ปีที่ 3 ห้อง 1,2 แผนกวิชาช่างอเิ ล็กทรอนิกส์
วิทยาลยั เทคนิคสว่างแดนดนิ

ผลสรปุ กำรเปรยี บเทยี บกำรทดสอบครงั้ ที่ 1 และ ครง้ั ที่ 2

30

25

20

จำนวน(คน) 15 จำนวนผูท้ ดสอบครงั้ ที่ 1
จำนวนผูท้ ดสอบครงั้ ท2ี่

10

5

0 7-8 ดี 9-10 ดมี ำก
ตำ่ กว่ำ 5 ตำ่ 5-6 ปำนกลำง

เกณฑค์ ะแนน

2. อภิปรายผลการดาเนนิ การวิจยั

จากการทผี่ วู้ ิจัยไดท้ าการวิจยั และเก็บรวบข้อมลู เร่ือง “วงจรนับเลขโดยใชไ้ อซี 7476” ของนักเรียน
ระดับประกาศนยี บัตรวิชาชพี ช้นั ปีท่ี 3 ห้อง 1,2 แผนกวิชาช่างอเิ ลก็ ทรอนิกส์วิทยาลยั เทคนคิ สว่างแดนดิน
ผลปรากฏว่ามีการพฒั นาความรใู้ นเร่อื ง “การบวกลบเลขฐาน” มากข้นึ เมอ่ื เปรยี บเทียบกับการทดสอบ
ท้ังสองครั้งปรากฏวา่ การทดสอบคร้ังที่ 2 น้ันผู้ทดสอบสามารถทาคะแนนได้อยใู่ น ระดับดแี ละดมี าก จึง
สรุปได้ว่า นกั เรยี นระดับประกาศนยี บตั รวิชาชีพ ช้นั ปีที่ 3 หอ้ ง 1,2 แผนกวิชาชา่ งอเิ ลก็ ทรอนิกส์
วทิ ยาลยั เทคนิคสวา่ งแดนดนิ สว่ นใหญ่มคี วามรู้อยู่ในเกณฑด์ มี าก

บทที่ 5

สรปุ ผลดาเนนิ การวจิ ัยและขอ้ เสนอแนะ

สรุปผลดาเนินการวจิ ัย

วัตถปุ ระสงคก์ ารวิจยั

เพื่อศึกษาหาความรู้ และพัฒนาทักษะในเร่ือง “วงจรนับเลขโดยใช้ไอซี 7476” ของนักเรียนระดับ
ประกาศนยี บัตรวิชาชพี ช้ันปที ่ี 3 ห้อง 1,2 แผนกวชิ าชา่ งอิเลก็ ทรอนกิ ส์ วทิ ยาลยั เทคนคิ สว่างแดนดิน

วิธดี าเนนิ การวิจัย

เป็นการวจิ ยั เชงิ สารวจโดยใชแ้ บบทดสอบทดสอบความรขู้ อง นกั เรียนระดบั ประกาศนยี บัตร
วชิ าชีพ ชั้นปที ี่ 3 หอ้ ง 1,2 แผนกวิชาช่างอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ วทิ ยาลัยเทคนิคสว่างแดนดิน และแบ่งผล
คะแนนเป็นระดับตา่ งๆ และสาหรับผู้ท่ีไม่ผา่ นการทดสอบทางผวู้ ิจัยกจ็ ะทาการสอนให้เกิดความเข้าใจ
และจดั ทาการทดสอบอีกครั้ง

ผลการดาเนินการวจิ ยั

ในการทาวิจัยเรอื่ ง “วงจรนับเลขโดยใชไ้ อซี 7476” ผลปรากฏวา่ นักเรียนระดบั
ประกาศนยี บัตรวชิ าชีพ ชั้นปีที่ 3 หอ้ ง 1,2 แผนกวิชาชา่ งอเิ ล็กทรอนิกส์ วทิ ยาลัยเทคนิคสวา่ งแดน
ดนิ ไดม้ กี ารพฒั นาความรู้ในเร่ือง “วงจรนับเลขโดยใช้ไอซี 7476” มากขน้ึ และเมื่อเปรียบเทยี บการ
ทดสอบทั้งสองครงั้ ปรากฏว่าการทดสอบคร้งั ที่ 2 นนั้ ผู้เข้าร่วมการทดสอบส่วนใหญ่สามารถทาคะแนน
ไดอ้ ยู่ในเกณฑ์ดมี าก แสดงให้เหน็ ว่านักเรยี นระดับประกาศนยี บัตรวชิ าชีพ ช้ันปีท่ี 3 ห้อง 1,2 มีความรู้
ความเขา้ ใจในเร่อื ง“วงจรนบั เลขโดยใช้ไอซี 7476” เป็นอยา่ งดี

ขอ้ เสนอแนะ

ขอ้ เสนอแนะสาหรับการนาผลการวจิ ัยไปใช้

การทาวจิ ยั ครัง้ น้ีได้ผลดตี ามท่ีคาดหมายไวเ้ ปน็ อย่างย่ิงเห็นไดจ้ ากการทาแบบทดสอบเร่ือง
“วงจรนับเลขโดยใชไ้ อซี 7476” ทาใหท้ างผู้ทาการวิจยั มีแนวคิดทจ่ี ะนาไปใช้กบั บทเรียนอืน่ ๆ และ
วชิ าทั่ว ๆ ไป เพื่อเป็นการวดั ผลและพฒั นาความรู้ควบคู่กันไป

ขอ้ เสนอแนะในการศกึ ษาครง้ั ตอ่ ไป

จากการท่ีได้ทารายงานการวจิ ัยชิน้ น้ีขึน้ มาน้ันได้พบกบั อปุ สรรคบางอยา่ งซง่ึ เปรียบเสมือนขอ้ เสีย
ของงานวิจยั อปุ สรรคท่ีคณะผ้วู จิ ัยได้พบ เชน่ เรอื่ งของอปุ กรณ็บางอย่างหาซ้ือได้ค่อนข้างใชเ้ วลานาน
เรอ่ื งของการเก็บรวบรวมข้อมูลจากประชากร/กล่มุ ตัวอย่าง ซ่งึ ปญั หาเหล่านี้เป็นปัญหาหลักถ้าไม่สามารถ
แกไ้ ขได้กจ็ ะไมส่ ามารถทาการวจิ ัยตอ่ ไปได้

บรรณานุกรม

กฤษดา วิศวธรี านนท์. (2532). เรยี น/เลน่ /ใช้ไอซีดจิ ิตอล. กรุงเทพฯ :ซเี อ็ดยเู คช่ัน
ถวัลย์วงศ์ ไกรโรจนานนท.์ (2542) อิเล็กทรอนกิ ส์ ระบบดิจติ อล. (ฉบับปรับปรุง).กรงุ เทพฯ:
งานประชาสมั พันธ์ และมัลติมเิ ดีย ศนู ยเ์ ทคโนโลยอี เิ ล็กทรอนกิ สแ์ ละคอมพิวเตอรแ์ ห่งชาติ
อัญชนา ชนิ บตุ ร คณิตศาสตรค์ อมพวิ เตอร์. – กรุงเทพฯ: ศูนยส์ ่งเสรมิ วชิ าการ, 2549.
รองศาสตราจารย์ชะเอม สายทอง คณติ ศาสตรส์ าหรบั คอมพวิ เตอร์ : สานกั พมิ พ์- โอ
เดียนสโตร์, 2538.
รองศาสตราจารยช์ ะเอม สายทอง คณติ ศาสตรส์ าหรบั คอมพิวเตอร์ 2 : สานักพิมพ์-
โอเดียนสโตร์, 2548.
ผู้ช่วยศาสตราจารย์สมสวาท สุดสาคร และคณะ ภาควิชาคณติ ศาสตร์ : โรงพมิ พ์- แสง
จันการพมิ พ์ กรุงเทพฯ, 2527.
นายสุเทพ จันทรส์ มศักด์ิ และคณะ 101 โครงงานคณติ ศาสตร์ : โรงพมิ พ์ครุ สุ ภา ลาดพร้าว
กรงุ เทพฯ, 2540.
www.phaiboon.com/images//Chapter2.pdf
www.np.ac.th
www.yotsaworn-1.tripod.com

รายงานวจิ ยั ในชน้ั เรยี น

การพัฒนาความรเู้ รื่องวงจรนบั เลขโดยใชไ้ อซี 7476
วงจรไอซีและการประยุกตใ์ ช้งาน รหัสวิชา 2105-2104

ระดบั ชนั้ ปวช. 3 แผนกวชิ าชา่ งอิเลก็ ทรอนิกส์
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2563

นายวิชิต โม้เปาะ

รายงานวิจยั นีเ้ ปน็ ส่วนหนึ่งในการจัดการเรียนการสอน
แผนกวชิ าชา่ งอเิ ลก็ ทรอนิกส์ วิทยาลัยเทคนิคสวา่ งแดนดนิ

สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา