The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรทอผ้าพื้นเมืองลายดอกบัวแดง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by tiwliw.18, 2022-03-17 23:07:13

หลักสูตรทอผ้าพื้นเมืองลายดอกบัวแดง

หลักสูตรทอผ้าพื้นเมืองลายดอกบัวแดง

๒. สืบเส้นดา้ ยยนื เขา้ กับแกนมว้ นด้ายยืน และรอ้ ยปลายด้ายแต่ละเส้นเข้าในตะ กอแตล่ ะชดุ และฟัน
หวี ดึงปลายเสน้ ด้ายยืนท้งั หมดมว้ นเข้ากบั แกนม้วนผา้ อีกด้านหนง่ึ ปรบั ความตงึ หย่อนใหพ้ อเหมาะ กรอดา้ ย
เขา้ กระสวยเพอ่ื ใชเ้ ป็นด้ายพุ่ง

๓. จากนั้นติดตง้ั หกู และฟมื เข้ากบั กี่ทอผา้ ทเี่ ตรยี มไว้ โดยทำการดึงหรอื ค่อยจับฟนั หวใี ห้ค่อย ๆ เล่ือน
ออกจากจดุ รอยต่อทเี่ ส้นยนื มาตอ่ กับฟันหวี จากนนั้ ให้ใชเ้ ส้นไหมมาทอขดั เอาไวเ้ พื่อจะดึงเรียงความสม่ำเสมอ
ของเส้นไหมยืน ซ่ึงเป็นการขึ้นกท่ี อผา้ ท่ีเรียบรอ้ ยพรอ้ มทจี่ ะทำการทอผ้าไหมได้

๔. จากนั้นเรม่ิ ทอผ้าสีพืน้ ยาว ๑๐ เซนตเิ มตร

๕. ทอดว้ ยลายสาเกต
๖. ทอลายดอกบัวแดง
๗. ทอผ้าพ้ืน ๑๔๐ เซนตเิ มตร

๘. การกระทบฟันหวี ( ฟืม ) เมื่อสอดกระสวยด้ายพุ่งกลับก็จะกระทบ ฟันหวี เพื่อให้ด้ายพุ่งแนบ
ตดิ กัน ได้เนือ้ ผา้ ทแ่ี นน่ หนา

๙. การเก็บหรือม้วนผ้า เมื่อทอผ้าได้พอประมาณแล้วก็จะม้วนเก็บใน แกนม้วนผ้า โดยผ่อนแกนด้าย
ยืนให้คลายออกและปรับความตงึ หย่อนใหม่ ่ให้พอเหมาะ การทอผ้าพื้น เป็นการใช้หลักการทอผ้าเบื้องต้น ท่ี
นำเอาด้ายเส้นยืนและด้ายเส้นพุ่งมาขัดกัน เพื่อให้เกิดเป็นผืนผ้า โดยด้ายเส้น พุ่งและเส้นยืนอาจเป็นด้ายสี
เดียวกัน หรอื ต่างสีกนั หรือนำเอาเส้นด้ายที่เป็นดิน้ เงนิ หรือด้ินทองมาทอควบด้าย เพ่ือให้ผ้า มีความมันระยับ
สวยงามยิง่ ขน้ึ เทคนิคพิเศษท่ีใชใ้ นการทอผ้า

กจิ กรรมทา้ ยบทท่ี ๓

คำสัง่ : จงตอบคำถามตอ่ ไปน้ี

1.จงบอกลวดลายการทอผา้ พนื้ เมอื งลายดอกบวั แดง วา่ มลี ายมดั หมก่ี ลี่ าย

..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................

๒.จงบอกวธิ กี ารทอผา้ พื้นเมอื งลายดอกบวั แดง

..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................

บทที่ ๔

การดแู ลรกั ษาและประโยชน์
สาระสำคญั

เป็นเน้อื หาท่ีทำให้รูแ้ ละเข้าใจในการปฏิบตั ดิ ูแลรกั ษา และประโยชน์ของการทอผา้

ผลการเรยี นรทู้ ค่ี าดหวัง

๑. เพือ่ ใหผ้ ูเ้ รียนมคี วามรู้ ความเข้าใจ ในการปฏิบตั ิดแู ลรักษาผา้
๒. เพ่อื ให้ผู้เรยี นมีความรู้ ความเข้าใจ ในประโยชนข์ องการทอผ้า

ขอบขา่ ยเนอื้ หา

๑. การปฏบิ ัติดแู ลรกั ษาผ้าฝ้ายและผ้าไหม
๒. ประโยชน์ของการทอผ้า

เรอ่ื งท่ี ๑ การปฏบิ ตั ดิ ูแลรกั ษาผา้ ฝ้ายและผา้ ไหม

วธิ ดี แู ลผา้ ฝา้ ย วธิ กี ารซกั ผา้ ฝา้ ย

ผา้ ฝา้ ย มคี ุณสมบัติทดี่ ีหลายประการคือ สวมใส่สบาย ระบายอากาศได้ดแี ละทนทานซักรีดงา่ ย
ผ้าฝ้ายมเี ส้นใยที่แข็งแรงทนต่อความเป็นด่าง ซ่ึงหมายความว่าสามารถทนผงซักผอกได้ดี
สารเรอ่ื งแสงในผงซักฟอกสมัยใหมช่ ่วยทำให้สีของผา้ ฝ้ายเด่นชดั ขน้ึ แต่อย่าตากผา้ ฝา้ ยใน
แดดจัดนานมากเกนิ ไป จะทำใหผ้ ้าฝา้ ยกลายเป็นสีเหลือง และเสอื่ มคณุ ภาพได้

ผา้ หม่ ทท่ี ำจากฝา้ ย

สามารถซกั ดว้ ยวธิ ปี กติ ถา้ เป็นฝ้ายถกั ควรควรเปดิ โปรแกรมปนั่ แบบเบาๆ เพ่อื ไม่ให้ผา้ ข้ึนขน
ตากบนเชือกทีข่ ึงให้ตึง

วธิ ปี อ้ งกันผา้ ฝา้ ยหดตวั

ถงึ แมว้ ่า 95% ของการหดตัวในฟา้ ฝ้ายเกิดจากการละลายของใยผ้าระหว่างการซักและการป่นั แหง้
แตโ่ ชคดที ่ีการหดตวั จะเกดิ ข้นึ กบั เน้อื ผ้าเพยี ง 1 คร้ังเท่านน้ั ทางท่ดี ีทสี่ ุดในการหลีกเลีย่ งปัญหาทั้งหมดก็คือ
เลือกซื้อผ้าทหี่ ดตัวแลว้ แตถ่ า้ บังเอิญคุณเพง่ิ ซ้ือกางเกงผา้ ฝ้ายตวั ใหม่มาซึง่ เป็นฝ้ายท่ยี ังไม่หดตัวและคุณไม่
อยากจะให้กางเกงของคุณหด คุณสามารถป้องกันได้ แตข่ ึน้ ตอนการทำข่อนขา้ งจะย่งุ ยาก และจะต้องทำทกุ
คร้งั ทซ่ี ักขัน้ แรกเดมิ ผงซักฟอก 1/4 ถว้ ยลงในถงั น้ำ นำผา้ ลงไปขยำเบาๆแล้วเททงิ้ ลา้ งออกดว้ ยวธิ ีเดมิ โดยใช้
แต่น้ำเปล่าเพียงอย่างเดยี ว วางผา้ ท่ีเปียกนำ้ ลงบนผ้าขนหนู แลว้ ใช้ผา้ ขนหนอู กี ผืนซบั น้ำออก จัดเสือ้ ผ้าให้
เข้าทรงปล่อยให้แหง้ ในห้องท่ีมอี ากาศถ่ายเทไดส้ ะดวก ผา้ ฝ้ายสามารถทนต่อความร้อนไดด้ ี ควรรดี ขณะทผ่ี า้
ยังมคี วามชืน้ อยู่บ้าง หรือพรมนำ้ ไปดว้ ยขณะรดี เพราะจะทำให้ลน่ื และรีดเรียบข้ึน

วธิ ดี แู ลผา้ ไหม
คนไทยหันมานิยมใช้ผา้ ไหมกันมาก แตบ่ างคนก็ยังกลา้ ๆ กลวั ๆ ไมย่ อมซ้อื ผา้ ไหมมาใช้เพราะเห็นว่า

เปน็ ของแพงท่ีมีความสวยงาม ประณีต เกรงกนั ว่าจะรักษาให้ดแี ละสวยงามตลอดไปยาก ทงั้ ท่จี รงิ แล้วการ
ดแู ลรักษาผา้ ไหมไมใชเ่ รือ่ งยากเยน็ อะไรเลย หากผู้ใช้ร้จู กั ให้ความสนใจในความรูเ้ ล็ก ๆ น้อย ๆ เก่ียวกับการ
ขจัดรอยเปื้อนบนผ้าไหมและวธิ กี ารรกั ษาใหส้ วยงามคงทนตลอดไป

เร่มิ กนั ตั้งแตก่ ารขจัดรอยเปื้อนบนผา้ ไหมท่ีเกดิ จากสาเหตุต่าง ๆ เชน่ คราบสนี ้ำตาลอ่อนไปจนถึง
นำ้ ตาลแกท่ ี่เกดิ จากการเกบ็ ผา้ ไว้นาน หากใชผ้ งซักฟอกแล้วยังไมด่ ีขึน้ ก็ตอ้ งใช้โซเดียมไฮโดรซัลไฟต์ หรอื
ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซต์ จะทำใหผ้ า้ ไหมไม่เสยี

- รอยเปอ้ื นท่ีเกดิ จากคราบเบียรท์ ่ีถกุ ปล่อยทง้ิ ไว้นาน ควรใชไ้ ฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ หรือ โซเดยี มคา
บอเรต

- รอยเป้ือนทเี่ กดิ จากเลอื ด ให้ใช้กรดออกซาลิก หรือถ้าตอ้ งการให้ขาวย่งิ ขึ้น กใ็ ช้ไฮโดรเจนเปอร์
ออกไซด์

- รอยเป้ือนทีเ่ กดิ จากไอโอดนี ใช้สารละลายโซเดยี มไธโอซลั เฟตความเข้มขน้ 10 % ถูหรือแปรงเบา
ๆ ตรงรอยเปื้อนแล้วล้างให้สะอาด

- รอยเปอ้ื นจากคราบสนิม ใช้กรดออกซาลกิ เจอื จางท่ีอนุ่ หรือสารที่เปน็ สารขจดั สนมิ ( ควรล้างอยา่ ง
ระมดั ระวัง )

- สว่ นรอยเป้อื นจากลปิ สตกิ และแปง้ รองพ้ืนให้แต้มดว้ ยนำ้ ยาลบหมึกพิมพ์ และล้างด้วยตวั ทำลายท่ี
ระเหยง่าย หรือน้ำยาซักแห้ง ถ้ายงั มีคราบเหลอื งหลงเหลืออยู่ ควรใชส้ ารละลายเจอื จางของโพตัสเซียมไดโคร
เมต แล้วตามดว้ ยสารละลายโซเดยี มไฮโดรซลั ไฟต์ที่อ่นุ และกรดออกซาลิกท่อี ุ่น

เมือ่ รจู้ ักวิธขี จดั รอยเปอ้ื นต่าง ๆ แลว้ ตอ้ งรู้อกี ว่าทกุ ครงั้ ควรซักผา้ ไหมน้ันใหส้ ะอาด อย่าไปหวงนำ้
เด๋ียวจะทำใหส้ ารทต่ี กคา้ งอยู่ไปออกฤทธ์ทิ ำลายเส้นไหมให้เสยี หายได้และ ก่อนจะใชส้ ารตวั ใดกับผ้าไหมควร
ทดสอบโดยหยดสารนัน้ ลงบนบรเิ วณตะเข็บด้านในดูว่าทำใหผ้ ้าไหมเปลย่ี นสีหรอื ไม่ ถ้าไม่มอี ะไรเกิดขนึ้ แสดง
ว่า สารตวั นั้นใช้ได้เรม่ิ ต้ังแตก่ ารซัก ควรใช้สบู่หรือสารซกั ฟอกท่ีมีสภาพเปน็ กลางหรือมคี วามเปน็ ดา่ งนอ้ ย ไม่
ควรขยีห้ รือขัดถผู ้าไหมแรง ๆ แตค่ วรซักด้วยการแกว่งหรอื สลัดเบา ๆ ในนำ้ จนสะอาด แล้วจงึ คอ่ ย ๆ บบี เอา
น้ำออกจนผา้ หมาด แต่อยา่ บิดผา้ ไหม และอย่าซักโดยใช้เครอ่ื งซักผา้
เวลาตากให้ตากไวใ้ นทีร่ ่ม ไม่ควรแขวนผ้าไหมไวก้ ลางแดดหรือแขวนไว้ใกล้แหล่งกำเนิดรังสี ถ้าต้องการใหผ้ ้า
ไหมแห้งเร็วก็ให้เปา่ แห้งโดยใชพ้ ัดลม ไม่ควรทำให้แห้งโดยใช้เครอ่ื งปน่ั ผา้ เพราะจะทำให้เกิดรอยยบั มาก ซงึ่
จะทำให้รดี ลำบากและไม่ควรปล่อยใหผ้ า้ แห้งเองโดยใชเ้ วลานาน ๆ อาจทำให้เกิดรอยด่างเป็นจุด ๆ จากรอย
แห้งของหยดน้ำ

สว่ นการรดี กค็ วรรีดขณะผา้ ยังหมาดอยู่ แต่ในกรณที ี่ผา้ แห้งแล้ว ให้พรมน้ำลงบนผา้ จนผ้าชืน้ ทวั่ ทัง้
ผืน ควรใชอ้ ณุ หภูมิในการรีดไมเ่ กิน 145 องศาเซลเซยี ส และรดี ด้านในของผา้ หรืออาจจะใช้ผ้าบาง ๆ ชบุ
น้ำยาหมาด ๆ ปูลงดา้ นนอกของผ้า หรอื อาจจะใช้ผ้าบาง ๆ ชุบน้ำยาหมาด ๆ ปูลงด้านนอกของผ้า แล้วจึงรดี
ทับบนผา้ บางน้นั จะทำใหไ้ ด้ผา้ ไหมท่ีมีความเรียบและสวยงาม แต่ถา้ รีดผ้าไหมขณะยังเปียกและใช้ความรอ้ น
สงู เกนิ จะทำให้ผ้าไหมมคี วามกระดา้ งไมน่ า่ สัมผสั

สำหรับผา้ ไหมท่ซี อ้ื มาใหม่
สำหรับผา้ ไหมท่ีซ้ือมาใหม่นนั้ ควรจะนำไปแช่น้ำหรืออบไอนำ้ เพ่อื ใหเ้ นื้อผา้ มีความอยู่ตัวกอ่ นทจ่ี ะ
นำไปตดั ซ่ึงข้ันตอนสำหรบั การดแู ลรักษาผ้าไหม มีอยู่ 3 ขั้นตอน ดังน้ี
1. ข้นั ตอนการซัก การทำความสะอาดผ้าไหมใหด้ ใู หม่อยู่เสมอ ควรซกั ดว้ ยน้ำยาซักแห้งชนิดอ่อน ถา้
เปน็ นำ้ ยาซกั แห้งทีท่ ำมาสำหรับผา้ ไหมโดยเฉพาะก็จะดีมาก แตไ่ มแ่ นะนำใหซ้ ักผ้าไหมด้วยเครอื่ งซักผา้ เพราะ
จะทำใหผ้ า้ ไหมยบั มากและรีดยาก ควรซักผ้าไหมดว้ ยมือดว้ ยความนุ่มนวลและไมข่ ย้หี รือบิดผ้าแรง ๆ เพราะ
จะทำให้ผ้าเสยี ทรง หากนำผ้าไหมลงน้ำแลว้ ไมค่ วรแชไ่ ว้นาน โดยเฉพาะผา้ สสี ด เชน่ สมี ่วง สีชมพสู ด สี
บานเย็น และโดยเฉพาะผา้ โทนสเี ข้ม ๆ หลังจากซักเสร็จแล้วควรสลดั ผา้ ไหมให้คลายตัวและไม่ย่นก่อนนำตาก
เมื่อผ้าแหง้ จะทำให้รีดได้ง่ายขึ้น ซึง่ จะทำให้ผ้าไหมไม่เสียทรงและยบั งา่ ย
2. ขัน้ ตอนการตาก ขัน้ ตอนของการตากน้นั หลังจากทำการซักเสรจ็ เป็นท่เี รียบรอ้ ยแลว้ ควรสลัดผา้
เพอ่ื ให้ผา้ คลายตวั แล้วนำไปตากในทร่ี ม่ หรือท่ีท่ีมแี สงแดดออ่ น ๆ ท่ีมอี ากาศถ่ายเทได้สะดวก ทีส่ ำคัญ
พยายามเล่ียงในบรเิ วณท่ีแดดจดั ๆ เพราะจะทำให้สีผ้าไหมซดี ได้
3. ข้นั ตอนการรดี ขัน้ ตอนในการรดี นนั้ กอ่ นรีดให้ฉีดพรมน้ำยารดี ผ้าไหมให้ท่วั และรีดด้วยความ
ระมดั ระวงั โดยใชค้ วามรอ้ นท่ีเตารีดแตล่ ะชนดิ กำหนดไว้ แต่สำหรับผ้าไหมพิมพ์ลายให้ลดความรอ้ นลงจาก
ปกตปิ ระมาณ 1 - 2 ระดบั ถ้าผา้ ไหมยับมากก่อนรดี ควรฉีดพรมนำ้ ยาให้ทัว่ แล้วพับใสถ่ ุงพลาสติก นำไปแช่
ในช่องเขง็ ในตเู ย็นประมาณ 10 - 15 นาที แล้วจงึ นำออกมารีด จะทำใหร้ ดี ผา้ ไหมได้ง่ายและเรยี บย่งิ ขึ้น

เรอ่ื งที่ ๒ ประโยชนก์ ารทอผา้

ผลการศึกษาพบวา่ ประเภทของผ้าทอสามารถแบง่ ได้ ๒ ประเภท คือ แบ่งตามวตั ถดุ ิบทีใ่ ชใ้ นการทอ
แบง่ ตามกรรมวิธใี นการทอ ผ้าทอมีความสำคัญเพื่อสนองความจำเป็นขน้ั พื้นฐานของการดำรงชีวติ เพราะผ้า
ทอเป็นหนง่ึ ในปัจจัยส่ี เพือ่ แสดงถงึ ฐานะของผูส้ วมใส่ เป็นการแบ่งหนา้ ที่ระหวา่ งชายและหญิง อีกทง้ั ยัง
ชใี้ หเ้ ห็นถึงความเปน็ หญิงอยา่ งเดน่ ชัดเพราะการทอผา้ ต้องใช้ ความขยัน ความอดทน ความพยายาม ความ
ประณีตละเอยี ดอ่อน ซ่ึงเปน็ อุปนิสยั ของผ้หู ญิง การทอผา้ เป็นเครอ่ื งแสดงถงึ ความพร้อมในวยั ทจี่ ะมีครอบครัว
ประโยชน์ของผา้ ทอเป็นเครื่องนุ่งหม่ เพ่ือใช้ในชวี ิตประจำวันและใชใ้ นพธิ ีกรรมตั้งแต่เกิดจนตาย ใช้ตดั เยบ็ เป็น
เสื้อผ้าสวมใส่เพมิ่ ความเป็นศิริมงคล และของสมาญาติผใู้ หญ่ในพธิ ีมงคลสมรส

กจิ กรรมท้ายบทท่ี ๔

คำสัง่ : จงตอบคำถามต่อไปนี้
1.จงบอกวธิ ีการดแู ลรักษาผ้าจงอธิบาย

........................................................................................................................... ..................................................
............................................................................................................................ .................................................
.................................................................................. .......................................................................... .................
........................................................................................................................... ..................................................
............................................................................................................................ .................................................
........................................................................ .................................................................................... .................
........................................................................................................................... ..................................................
............................................................................................................................ .................................................
.............................................................. .............................................................................................. .................

๒.จงบอกวธิ กี ารดแู ลรักษาผ้าจงอธบิ าย
........................................................................................................................... ..................................................
.................................................................................. .......................................... .................................................
............................................................................................................................. ................................................
.................................................................................. ...........................................................................................
............................................................................................................................ .................................................
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................ .................................................
............................................................................................................................. ................................................

๓.จงบอกประโยชนข์ องการทอผา้
........................................................................................................................... ..................................................
.................................................................................................................... .........................................................
............................................................................................................................. ................................................
.................................................................................. ...........................................................................................
............................................................................................................................ .................................................
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................ .................................................
............................................................................................................................. ................................................

บทที่ ๕
การจดั การเพอ่ื จำหนา่ ย

สาระสำคญั

การจัดการ และการจดั จำหน่ายเปน็ สงิ่ สำคญั สำหรับผผู้ ลิต

ผลการเรยี นรทู้ ค่ี าดหวงั

1. บรรจหุ ีบห่อผลิตภณั ฑ์ใหเ้ หมาะสมกบั ชนิดของผลติ ภณั ฑไ์ ด้
2. บอกลักษณะของผ้ผู ลติ ท่ีพึงประสงค์ได้
3. ทำบญั ชีรายรับ รายจา่ ย รายวนั ได้

ขอบขา่ ยเนอ้ื หา

1. การบรรจผุ ลิตภัณฑ์
2. ลกั ษณะของผผู้ ลติ ที่พงึ ประสงค์
3. การทำบญั ชรี ายรบั รายจ่าย รายวัน

เรอื่ งที่ ๑ การจดั การตลาดเบอ้ื งตน้ และการบรรจภุ ณั ฑ์

ข้นั ตอนที่ ๑ การตลาดชมุ ชน
การจดั การตลาดชมุ ชนโดยมีการนำสินคา้ ไปวางตามตลาดชุมชนดงั ต่อไปนี้

1. ขายท่บี า้ นใหก้ ับคนในชมุ ชน บ้านเลขท่ี ๓๗ หมู่ ๖ บ้านขามป้อม อ.ปทุมรัตต์ จ.รอ้ ยเอ็ด
2. มีพ่อค้าคนกลางเป็นคนในชมุ ชนรับไปขายตามจังหวัดตา่ งๆ
3. สง่ ไปขายตามจงั หวดั ตา่ งๆทไ่ี ดร้ ับออเดอร์
๔. ไปจำหนา่ ยตามจุดจำหนา่ ยทไี่ ด้รบั การสนบั สนุนจากโครงการ

ภาครฐั และเอกชน เชน่ ศูนย์ OTOP ตำบลข้เี หล็ก บ๊กิ ซรี ้อยเอ็ด อำเภอเคล่ือนท่ี จังหวดั รอ้ ยเอ็ด
เคลื่อนที่

๕. แสดงสนิ คา้ จำหน่ายตามงานประเพณีท่ีจัดข้ึนตามจังหวัด หรืออำเภอตา่ ง ๆ เช่น งานมหกรรม
แสดงและจำหน่ายสนิ ค้าร่วมกบั เครือข่าย งานนิทรรศการหนุ่ ฟาง งานบุญคนู ลาน และงานกาชาดประจำ
จังหวัดรอ้ ยเอ็ด

๖. ใช้เครือขา่ ยในระดบั อำเภอ รา้ นจำหนา่ ยผลติ ภณั ฑ์ ผ้าไหม ประจำอำเภอ
๗. มผี ู้ประกอบการรา้ นคา้ สง่ ผลติ ภัณฑ์นำไปจัดจำหน่ายให้กับร้านค้าทั่วประเทศ
๘. ขายออนไลน์ผา่ น เพจ กลุ่มทอผ้าบา้ นขามป้อม เพจ OOCC กศน.ตำบลขเ้ี หลก็
LINE : id=0๘๙๐๖๗๕๗๘๙ (ไลน์ ครู กศน.ตำบล ) LINE : id=0๘72370277 (ไลน์ ประธานกลมุ่ )
และ Facebook ของสมาชิกในกลุ่ม นางสำเรยี ง แสนคาน เบอร์โทร ๐๘-๗๒๓๗-๐๒๗๗,

ข้นั ตอนท่ี ๒ การออกแบบบรรจภุ ณั ฑ์
มีการออกแบบแบบบรรจภุ ณั ฑต์ ้นทุนต่ำ สำหรบั ผลติ ภัณฑ์ผ้าพ้นื เมืองลายดอกบัวแดง ตำบลขี้เหลก็

อำเภอปทุมรตั ต์ บรรจภุ ณั ฑ์ เปน็ ถงุ กระดาษ กราฟิกบนบรรจุภัณฑ์มรี ปู สินค้ากล่มุ ทอผา้ บา้ นขามป้อม พร้อม
ทอี่ ยู่ เบอรโ์ ทร
087-237-0277 Facebook LINE และ E-mail

ขั้นตอนท่ี ๓ มาตรฐานผลติ ภณั ฑช์ มุ ชน
ได้ใบรบั รองอนุญาตให้แสดงเคร่อื งหมายมมาตรฐานผลติ ภัณฑช์ มุ ชนกับผลติ ภณั ฑจ์ ากกก มาตรฐาน

เลขท่ี มผช.7/2559 สำนกั งานอตุ สาหกรรมจังหวัดรอ้ ยเอ็ด กระติบขา้ วเปน็ ผลติ ภณั ฑ์ OTOP ระดบั อำเภอ
และเปน็ กลุ่มวสิ าหกิจชุมชน

ขั้นตอนที่ ๔ การตลาดออนไลน์
ขายออนไลน์ผ่าน เพจ กลมุ่ ทอผา้ บา้ นขามป้อม เพจ OOCC กศน.ตำบลข้เี หล็ก LINE : id=09

๒๓๐๕๖๘๔๙ และ Facebook ของสมาชิกในกลุ่ม

๔. การบรหิ ารหนสี้ นิ และบญั ชเี บอื้ งตน้

ขั้นตอนท่ี ๑ การคำนวณตน้ ทุน กำไร

การคำนวณต้นทุนกำไร (ผลติ ภณั ฑ์ผ้าพ้นื เมืองลายดอกบวั แดง)

ค่าวสั ด(ุ ๑ หกู ผลิตได้ ๑๔ ผืน)

- เส้นดา้ ยยนื ๖ กิโลกรมั กิโลกรมั ละ ๓๗๐ บาท รวมเปน็ 2,๒๒0 บาท

- เสน้ ดา้ ยพุง ๖ กิโลกรมั กโิ ลกรัมละ ๓๗๐ บาท รวมเป็น 2,๒๒0 บาท

- เส้นดา้ ยระหัน ๑ กโิ ลกรัม กิโลกรมั ละ ๓๖๐ บาท รวมเปน็ ๓๖๐ บาท

- สียอ้ มฝา้ ย ๓ กล่อง กลอ่ งละ ๗๐ บาท รวมเป็น ๒๑๐ บาท

- ดา่ งล้างสี 2 ขวด ขวดละ ๔0 บาท รวมเปน็ ๘0 บาท

- กรรไกร 2 อนั อนั ละ ๒5 บาท รวมเป็น 5๐ บาท

- เชอื กฟางมดั หมี่ ๔ มว้ น มว้ นละ 1๗ บาท รวมเปน็ ๖๘ บาท

รวมทง้ั สิ้น ๕,๒๐๘ บาท/๑๔ ผืน

ราคาตน้ ทุนต่อผืน ๓๗๒ บาท

ราคาขายสง่ ต่อผนื ๕50 บาท กำไรตอ่ ผืน ๑๗๘ บาท

ราคาขายปลีกต่อผนื ๖๐๐ บาท กำไรตอ่ ผนื ๒๒๘ บาท

1 วนั สามารถผลติ ได้ ๑ เมตร คดิ เปน็ กำไร 8๙-144 บาท/วัน (๑ หูก ใช้เวลาทำ ๑๕ -

๑๗ วนั )

ขัน้ ตอนที่ ๒ แหลง่ เงินทนุ และการกยู้ มื
- ธนาคารออมสิน

ขั้นตอนท่ี ๓ การบรหิ ารหนสี้ นิ และการบรหิ ารสญั ญา
การเป็นหนีไ้ ม่ใช่สง่ิ ท่เี ลวร้ายเสมอไป เพราะบางครัง้ เราอาจตอ้ งใช้เงนิ เพื่อซื้อสินค้าและบริการท่ี

จำเป็นต่อการดำรงชีวติ และอนาคตแต่ยงั มเี งนิ ไมพ่ อในตอนนี้ เช่น บา้ น การทำกจิ การส่วนตัว ซึง่ หลักการ
สำคัญในการตัดสินใจเป็นหน้ีคือ ควรเลอื กก่อหนด้ี ซี ง่ึ ได้แก่ หนี้ทจ่ี ะสรา้ งอนาคตหรอื ความมัน่ คงระยะยาวและ
หลีกเล่ียงการก่อหนท้ี ี่พงึ ระวังซง่ึ ไดแ้ ก่ หน้ีท่ีไมก่ ่อให้เกิดรายได้เพ่ิมหรอื ไม่ได้ชว่ ยเพม่ิ ความมน่ั คงทางการเงิน
เช่น หนีเ้ พ่อื การอุปโภคบริโภค เป็นต้น เพราะเมื่อเปน็ หนีแ้ ล้วเรามีหน้าที่ตอ้ งใช้คนื เงนิ ต้นรวมถึงดอกเบีย้
คา่ ปรบั และค่าใช้จ่ายอ่นื ๆ ท่ีจะตามมาทงั้ หมด

นอกจากนี้ เม่ือคิดจะก่อหนี้ ตอ้ งมีการวางแผนและบริหารจดั การเงินท่ีไดม้ าให้ดี เพ่ือใหส้ ามารถชำระ
คนื หนไ้ี ดต้ รงตามเวลาและบรรลุวตั ถุประสงค์ตามท่ตี ้ังใจได้โดยไม่สรา้ งภาระจนเกินตวั ซึง่ รวมถึงการหาขอ้ มลู
จากสถาบนั การเงนิ หลาย ๆ แห่ง เพอ่ื ใช้เปรียบเทยี บหาสนิ เช่อื ท่เี หมาะกับความต้องการและไดร้ บั สทิ ธิ
ประโยชนม์ ากท่สี ุด และอยา่ ลืมอา่ นสญั ญารวมทง้ั เอกสารอ่ืน ๆ ใหเ้ ขา้ ใจอย่างถี่ถว้ นก่อนทำสัญญาสินเชื่อ

ข้นั ตอนท่ี ๔ การจดั ทำบญั ชคี รวั เรอื น

จากสภาวะสังคมปัจจุบันที่เต็มไปด้วยกระแสวัตถุนิยม และความฟุ่มเฟือย ฟุ้งเฟ้อ จนทำให้คนไทย
หลงเดินทางผิดไปตามกระแสนิยมจนกลายเป็นปัญหา โดยเฉพาะปัญหาหนี้สนิ ที่ไม่มวี ัน จบสิ้น อย่างไรก็ตาม
คนไทยยังมีทางออก ซึ่งการจะดำรงชีวิตให้อยู่รอดภายใต้สังคมในปัจจุบัน แนวทางหน่ึงที่ประชาชนไทยควร
ยึดถือคือการพึ่งตนเอง รู้จักความพอประมาณ และไม่ประมาท ตามแนวปรัชญา “เศรษฐกิจพอเพียง” ของ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมองเห็นถึงความสำคัญของการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเอง รู้จักความ
พอมีพอกิน พอมีพอใช้ คำนึงถึงหลักเหตุผลและการประมาณตนเอง พร้อมกับทรงเตือนสติประชาชนคนไทย
ไม่ให้ประมาท โดยเฉพาะการใชจ้ ่ายเงนิ อนั เป็นปัจจยั สำคัญในการดำเนนิ ชีวิต

การบญั ชี หมายถึง การจดบันทึกรายการค้าตา่ ง ๆ ที่เกีย่ วกับการรับ-จ่าย สงิ่ ของและสทิ ธิทมี่ มี ูลคา่
เปน็ วงเงนิ ไว้ในสมุดอยา่ งสมำ่ เสมอ เป็นระเบียบถูกต้องตามหลกั การและสามารถแสดงผลการดำเนนิ งาน และ
ฐานะการเงนิ ของกจิ การในระยะเวลาหนงึ่ ได้

วตั ถปุ ระสงคข์ องการทำบญั ชี
1. เพื่อจดบันทึกรายการคา้ ต่าง ๆ ทเ่ี กี่ยวข้อง ท่เี กดิ ข้นึ กอ่ นหลัง และจำนวนของรายการคา้ ไว้อย่าง
สมบูรณ์
2. เพอื่ ใหก้ ารจดบนั ทกึ รายการนัน้ ถูกต้อง ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการบญั ชีประโยชนข์ องการทำบญั ชี

2.1. ช่วยใหเ้ จ้าของกิจการควบคุมรกั ษาทรัพย์สินของกจิ การได้
2.2. ช่วยให้ทราบผลการดำเนนิ งานของกจิ การในระยะเวลาใดเวลาหนึ่งว่า ผลการ
ดำเนนิ งานที่ ผ่านมากจิ การมีกำไรหรือขาดทุนเปน็ จำนวนเทา่ ใด
3. ช่วยให้ทราบฐานะการเงินของกิจการ ณ วันใดวนั หน่ึง ว่ากิจการมีทรัพยส์ นิ หนสี้ นิ และทุน ซง่ึ เป็น
สว่ นของเจ้าของกิจการเปน็ จำนวนเงนิ เทา่ ใด
4. การทำบญั ชีเป็นการรวบรวมสถติ ิอยา่ งหนงึ่ ท่ชี ว่ ยในการบริหารงาน และให้ข้อมลู อันเปน็ ประโยชน์
ในการวางแผนการดำเนินงาน และควบคุมกิจการใหป้ ระสบผลสำเรจ็ ตามความมุ่งหมาย
การทำบญั ชีรายรบั รายจ่ายเป็นรายวนั น้ัน มีอยหู่ ลายประเภท คอื สมดุ เงินสด สมุดซอ้ื เงนิ สด สมดุ ซอ้ื
เช่อื สมดุ ขายเงินสด สมดุ ขายเชือ่ แต่ในท่ีน้ีเพื่อใหง้ ่ายสำหรับผูท้ ่เี ปน็ ผู้ค้าไมจ่ ำเปน็ ต้องทำสมุดบัญชหี ลายเล่ม
จึงขอแนะนำการทำบัญชเี พียงประเภทเดยี วท่เี รยี กว่า"สมดุ รายวนั ทวั่ ไป"
โดยปกติสมดุ รายวนั ทัว่ ไปจะมดี ว้ ยทง้ั หมด 5 ชอ่ ง คือ วันเดือนปี, รายการ,หนา้ บญั ชี, รายรับ,
รายจา่ ย เพ่ือสะดวกในการดขู องผทู้ ต่ี ้องใช้บญั ชีรายวัน ในที่นีจ้ ะขอเพ่ิมชอ่ งยอดคงเหลืออีก 1 ช่อง ดงั นี้

สมุดรายวนั ทวั่ ไป

คำอธบิ าย
1. ชอ่ งวนั เดอื นปี สำหรบั ลงวนั เดอื นปที ่ีรายการค้าเกดิ ข้นึ โดยเรียงลำดับเหตกุ ารณก์ ่อนหลงั
2. ช่องรายการ สำหรบั เขียนชอ่ื บญั ชีท่ีจะลงทางด้านรายรับและดา้ นรา่ ยจา่ ยพร้อมคำอธิบายรายการ
3. ช่องหน้าบัญชี สำหรับลงเลขที่ของบญั ชที จี่ ะผ่านรายการไปทางด้านรายรบั และรายจ่ายของบัญชแี ยก
ประเภท
4. ชอ่ งรายรับ สำหรบั ลงจำนวนเงนิ ของรายการทีร่ ับเป็นบาท สตางค์
5. ช่องรายจา่ ย สำหรบั ลงจำนวนเงินของรายการทจ่ี ่ายเป็นบาท สตางค์
6. คงเหลอื สำหรบั ลงรายการคงเหลือในแต่ละวนั โดยเอายอดรายรบั ลบยอดรายจ่าย เป็นสรปุ คงเหลอื บาท
สตางค์

กจิ กรรมทา้ ยบทที่ ๕

คำสงั่ ใหต้ อบคำถามโดยการอธบิ ายตามความเขา้ ใจ เมอื่ ทา่ นศกึ ษาตอนท่ี 3 จบแลว้ และบนั ทกึ ไวเ้ พอ่ื ทำ
กิจกรรมตอ่ ไป
1. จงบอกสิ่งทีส่ ำคัญ ที่ผผู้ ลติ สินคา้ ออกจำหนา่ ย ควรมีความรดู้ ้านใดบา้ ง
........................................................................................................................... ..................................................
............................................................................................................................ .................................................
............................................................................................................................................................ .................
................................................................................................................. ............................................................
............................................................................................................................ .................................................
.................................................................................................................................................. ...........................
....................................................................................................... ......................................................................
............................................................................................................................ .................................................
............................................................................................................................. ................................................
2. จงบอกปัจจัยในการวางแผนจดั จำหน่ายสนิ ค้า อย่างน้อย 6 ปจั จัย
........................................................................................................................... ..................................................
....................................................................................................... ......................................................................
............................................................................................................................. ................................................
........................................................................................................................... ..................................................
............................................................................................. ................................................................................
............................................................................................................................. ................................................
........................................................................................................................... ..................................................
.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................................
3. จงบอกประโยชนข์ องการทำบัญชี (อยา่ งน้อย 2 ข้อ)
........................................................................................................................... ..................................................
............................................................................................................................ .................................................
........................................................................................................... ................................................. .................
........................................................................................................................... ..................................................
............................................................................................................................ .................................................
.................................................................................. .......................................................................... .................
........................................................................................................................... ..................................................
............................................................................................................................ .................................................
........................................................................ .................................................................................... .................

แบบทดสอบหลงั เรยี น การทอผา้ พน้ื เมอื งลายดอกบวั แดง

1. อปุ กรณ์การต่อผา้ ในขอ้ ใดตอ่ ไปน้ีมีหน้าท่ีกระทบเส้นด้ายบนก่ีทอผ้า เพื่อให้ผ้าชดิ กัน แนน่ เปน็ ระเบยี บ

ก. กระสวย ค. หวหี กู

ข. ฟมื ง. ไม้คำ้ พัน้

เฉลย ข. ฟืม

2. อุปกรณ์การทอผ้าในข้อใดต่อไปน้ีใชห้ มนุ ผ้าทเ่ี สรจ็ เรยี บร้อยแล้วเกบ็ ไว้
ก. กง ค. หวีหกู
ข. ฟืม ง. ไม้ค้ำพนั้

เฉลย ง. ไม้ค้ำพ้นั

3. อุปกรณใ์ นการทอผ้าในข้อใดต่อไปน้ีทำดว้ ยกาบมะพรา้ ว ค. หวหี กู
ก. กง ง. ไมค้ ำ้ พน้ั
ข. ฟืม

เฉลย ค. หวหี กู

4. การเดินด้ายยืน คืออะไร
ก. การกรอด้ายใสห่ ลอดเพ่ือนำไปใส่ในกระสวยทอผ้า ค. การเตรียมเสน้ ด้ายเพือ่ ใชใ้ นการรอ้ ยฟนั หวี
อกี คร้งั ต่อไป
ข. การเตรยี มเส้นดา้ ยเพ่ือใชใ้ นการทอผ้าบนราวที่ ง. ถกู ท้ังข้อ ก. และ ค.
บรรจุหลอดดา้ ยขนาดใหญ่

เฉลย ค. การเตรียมเส้นด้ายเพอ่ื ใช้ในการร้อยฟันหวตี ่อไป

5. จากภาพท่ีกำหนดให้ จงบอกลกั ษณะลายผา้ ไหม ใหถ้ ูกต้อง

ก. ผ้าลายโคกเจด็ ค. ผ้าลายคองเอ้ยี
ข. ผา้ ลายนาคน้อย ง. ผ้าลายหมากจบั
เฉลย ก. ผ้าลายโคกเจด็

6. จากภาพทกี่ ำหนดให้ บอกลักษณะลายผา้ ไหม ให้ถูกต้อง

ก. ผา้ ลายโคกเจด็ ค. ผา้ ลายคองเอยี้
ข. ผา้ ลายนาคน้อย ง. ผา้ ลายหมากจับ
เฉลย ข. ผา้ ลายนาคนอ้ ย

7. จากภาพที่กำหนดให้ จงบอกลักษณะลายผา้ ไหม ใหถ้ กู ตอ้ ง

ก. ผา้ ลายโคกเจด็ ค. ผ้าลายคองเอย้ี
ข. ผา้ ลายนาคน้อย ง. ผ้าลายหมากจบั
เฉลย ค. ผ้าลายคองเอ้ีย

8. จากภาพทกี่ ำหนดให้ จงบอกลักษณะลายผา้ ไหม ใหถ้ ูกตอ้ ง

ก. ผ้าลายค้ำเพา ค. ผา้ ลายคองเอย้ี
ข. ผา้ ลายนาคนอ้ ย ง. ผา้ ลายหมากจบั
เฉลย ง. ผ้าลายหมากจับ

9. จากภาพท่ีกำหนดให้ จงบอกลักษณะลายผา้ ไหม ให้ถูกต้อง

ก. ผา้ ลายค้ำเพา ค. ผ้าลายคองเอี้ย
ข. ผา้ ลายนาคนอ้ ย ง. ผ้าลายหมากจบั
เฉลย ก. ผ้าลายค้ำเพา
10. จากภาพท่กี ำหนดให้ เป็นเทคนิคพิเศษในการทอผ้าลายใด

ก. ผา้ ลายโคกเจด็ ค. ผ้าลายสาเกต
ข. ผ้าลายนาคนอ้ ย ง. ผา้ ลายดอกบวั แดง
เฉลย ง. ผ้าลายดอกบัวแดง



นำกจิ กรรม ศนู ยฝ์ ึกอาชีพชชมุ ชน รว่ มจดั นิทรรศการ งานวิชาการ ณ สำนกั งาน กศน.จังหวดั ปราจีนบุรี
วนั ที่ ๓๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๔

นำกจิ กรรม ศนู ยฝ์ ึกอาชีพชชมุ ชน รว่ มจดั นิทรรศการ งานวิชาการ ณ สำนกั งาน กศน.จังหวดั ปราจนี บุรี
วนั ที่ ๓๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๔

นำกจิ กรรม ศนู ย์ฝึกอาชีพชชุมชน รว่ มจัดนทิ รรศการ งานวิชาการรณรงค์สง่ เสริมการหยุดเผาในพ้นื ท่ี
การเกษตร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือปี 2564/2565 ณ เทศบาลตำบลหนองแคน
อำเภอปทุมรตั ต์ จงั หวัดร้อยเอ็ด

นำกจิ กรรม ศนู ยฝ์ ึกอาชีพชชุมชน รว่ มจัดนิทรรศการ งานมหกรรมห่นุ ฟาง ณ เทศบาลตำบลโนนสวรรค์
อำเภอปทุมรตั ต์ จังหวดั ร้อยเอด็

นำกจิ กรรม ศนู ยฝ์ ึกอาชีพชชุมชน รว่ มจัดนทิ รรศการ เปดิ ศนู ยก์ ารเรยี นรู้ผา้ ฝ้ายบา้ นสวนปอ ณ บ้านสวนปอ
ตำบลหนองแคน อำเภอปทุมรตั ต์ จังหวัดรอ้ ยเอ็ด

รายละเอียดรายการวัสดุผลิตภัณฑ์

รายละเอยี ดค่าใชจ้ า่ ยเก่ยี วกบั หลกั สตู ร ผลติ ภณั ฑ์ ผา้ พน้ื เมอื งลายดอกบวั แดง

ท่ี รายการ จำนวนหนว่ ย จำนวนเงนิ ทซี่ อ้ื รวมเปน็ เงิน
(บาท)
1 ก่ี (หนว่ ยละ) 7,000
2 ฟืม 2,700
3 หลกั ค้นหูก 1 อัน 7,000 5,400
4 โฮงมัดหม่ี 500
5 ไนไม้ 1 อนั 2,700 3,400
6 แปรงหวีด้าย 80
7 กระสวยไม้ 2 อนั 2,700 1,440
8 อัก 2,400
9 หลักค้นดา้ ย 1 อัน 500 2,100
10 หลอดปั่นดา้ ย 500
11 ดา้ ยทอ 2 อนั 1,700 9,250
12 ด้ายมดั หม่ี 9,250
13 สีย้อมฝ้าย 1 อัน 80 1,080
14 ด่างล้างสี 480
15 กรรไกร 12 อัน 120 300
16 ฟางใชม้ ัดหม่ี 240
17 ถงุ กระดาษบรรจภุ ัณฑ์ 8 อัน 300 750
18 ถงุ พลาสติกบรรจุภัณฑ์ 600
6 อัน 350 47,470

5 โหล 100

25 กโิ ลกรัม 370

25 กโิ ลกรัม 370

12 โหล 90

12 ขวด 40

12 อนั 25

12 ม้วน 20

5 โหล 150

5 โหล 120

สหี่ มืน่ เจด็ พนั สร่ี อ้ ยเจด็ สบิ บาทถว้ น

บรรณานกุ รม

ภมู ปญั ญาท้องถิ่นการทอผา้ บ้านขามป้อม หมู่ ๖ ตำบลขี้เหลก็ อำเภอปทุมรัตต์ จงั หวดั ร้อยเอ็ด

การทอผา้ ไหมแพรวา (1 อำเภอ 1 อาชพี )-50-ชว่ั โมง.pdf

https://www.google.com/search?q

ความรเู้ กยี่ วกับการจดั ทำบญั ชคี รวั เรอื น
www.east.spu.ac.th/accounting/depart_new/Open_knowledge.php?id=398 (วนั ท่ีสืบคน้ ข้อมลู
10 มกราคม 2565)
การบรหิ ารหนสี้ นิ https://www.1213.or.th/th/moneymgt/debtmgt/Pages/debmgt.aspx (วนั ท่ี
สบื คน้ ขอ้ มลู 10 มกราคม 2565)
แบบทดสอบหลงั การเรยี นรู้ http://mll.aru.ac.th/questionnaire.html (วนั ทสี่ ืบค้นข้อมูล 2๐ ธันวาคม
2564)
การจดั ทำบญั ชคี รวั เรอื น
https://www.google.com/search?q=%5ByP%3Du8iy%3Bginvo&oq=%5ByP%3Du8iy%3Bginv
o&aqs=chrome..69i57j0i22i30.6487j0j15&sourceid=chrome&ie=UTF(วนั ที่สบื คน้ ขอ้ มูล 2๐
ธนั วาคม 2564)
การบรหิ ารหนสี้ นิ
https://www.1213.or.th/th/moneymgt/debtmgt/Pages/debmgt.aspx?fbclid=IwAR2cfwimAxb
hNI9VNCGJN-poqLX5ka6juAIJvwDMQuozERGW_-zpzy9_v_s-(วนั ทสี่ ืบค้นขอ้ มูล 2๐ ธนั วาคม
2564)
การเตรียมฟมื ทอผา้ https://sites.google.com/site/phahimmadhmi2/khan-txn-kar-thx-pha-(วันที่
สบื คน้ ขอ้ มูล 2๐ ธนั วาคม 2564)

คณะผจู้ ดั ทำ

ทป่ี รกึ ษา ผู้อำนวยการ สำนกั งาน กศน.จังหวัดร้อยเอ็ด
1.นายสรุ ัติ วภิ กั ดิ์ รองผู้อำนวยการสำนกั งาน กศน.จงั หวดั ร้อยเอ็ด
๒.นายสญั ญา อุบลชติ ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอปทุมรตั ต์
๓.นางสาวสดุ ารัตน์ จ่าภา ครอู าสาสมัครฯ
๔.นางบญุ นาค ประทุมษา ครู
๕.นางสาวนภิ าพร ลาตวงษ์ ครู ผชู้ ว่ ย
๖.นายอกุ ฤษฏ์ จดั สนาม
คณะทำงานคณะพฒั นาหลกั สตู ร ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอปทุมรตั ต์
๑.นางสาวสุดารตั น์ จา่ ภา ครูอาสาสมัครฯ
๒.นางบุญนาค ประทุมษา ครู
๓.นางสาวนภิ าพร ลาตวงษ์ ครู ผู้ช่วย
๔.นายอุกฤษฏ์ จัดสนาม ครู กศน.ตำบลดอกลำ้
๕ .นางสาวนภาพรรณ บวั ลอย ครูศนู ย์การเรยี นชมุ ชน ตำบลดอกล้ำ
๖. นายอนุชา เชิดกล่ิน ครู กศน.ตำบลโนนสง่า
๗. นางสุกญั ญา สีสนทิ ครู กศน.ตำบลสระบัว
๘. นางสาวอรุณี พลพันธ์ ครู กศน.ตำบลสระบวั
๙. นายบรรจบ หนองเรือง ครู กศน.ตำบลโนนสวรรค์
๑๐. นางลำพูล ชาวงษ์ ครู กศน.ตำบลโนนสวรรค์
๑๑. นายธรี ภทั ร เชงิ สะอาด ครู กศน.ตำบลหนองแคน
๑๒. นางสุพรรณี พยคั ฆส์ ัก ครู กศน.ตำบลหนองแคน
๑๓. นางปิยะมาศ ชนะดี ครู กศน.ตำบลบัวแดง
1๔. นางสาวพชั ราภรณ์ เกษตรสินธ์ุ ครู กศน.ตำบลบวั แดง
1๕. นายปิยะพงษ์ สงครินทร์ ครศู นู ยก์ ารเรียนชุมชน ตำบลบวั แดง
1๖ นางสาวพรทพิ ย์ พลละคร ครู กศน.ตำบลข้ีเหล็ก
1๗ นางปราณี หาสงี าม ครู กศน.ตำบลโพนสงู
1๘ นางสาวสกุ ัญญา เปรียญ ครูศนู ย์การเรยี นชมุ ชนตำบลโพนสูง
1๙ นายเจษฎางกูณฑ์ ลาหล้าเลศิ บรรณารักษจ์ ้างเหมา
๒๐. นางสาวยวุ ดี เพชรเลอื่ น
ครู กศน.ตำบลดอกลำ้
รวบรวมและเรยี บเรยี ง ครู กศน.ตำบลข้ีเหลก็
๑ .นางสาวนภาพรรณ บัวลอย
๒. นางปราณี หาสีงาม ครู กศน.ตำบลโนนสวรรค์
ออกแบบกราฟฟิค ปก/รปู เล่ม
นายธีรภัทร เชงิ สะอาด


Click to View FlipBook Version