E book นวัตกรรม

น้ำมนั สมนุ ไพรใบสำบเสือ

นำงยไู นดะห์ มะเก

กศน.ตำบลโตะ๊ เดง็
ศนู ย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศยั อำเภอสไุ หงปำดี

สำนกั งำนสง่ เสรมิ กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศยั จงั หวดั นรำธวิ ำส

คำนำ

ภูมิปัญญาท้องถิ่นในแตล่ ะชมุ ชนเป็นส่ิงที่ทกุ คนควรอนุรักษ์ไว้ ไม่ว่าส่ิงเหล่าน้ันจะมากหรือจะน้อย ดังเช่นเอกสาร
เล่มนี้เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับสมุนไรจากธรรมชาติในท้องถิ่นตำบลโต๊ะเด็งไม่ว่าจะเป็น เป็นยาแก้ ปวดท้อง ท้องขึ้น ท้องเฟ้อ
แกบ้ วม ดูดหนอง แล้วนอกจากนี้ ใบสาบเสอื ยงั มีฤทธ์ิ พิชติ และพฒั นารปู แบบตามท่ผี ้คู นสนใจและต้องการ

ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารเล่มนี้คงจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านที่สนใจ ขอบพระคุณทุกคน ที่ทำให้เอกสาร
เล่มน้เี สร็จสิน้ อยา่ งสมบรู ณ์

นางยูไนดะห์ มะเก
ครูผชู้ ว่ ย

สารบญั

เร่ือง หน้า
ประวตั คิ วามเป็ นมา ๑-๕
เอกสารทเ่ี กยี่ วข้อง ๖-๑๔
อุปกรณ์และวธิ ีทา ๑๕-๑๖
ผลการดาเนนิ งาน ๑๗-๑๙
บทสรุป ๒๐-๒๑

1

บทที่ ๑
ประวตั ิความเปน็ มา

ปะวัติความเปน็ มาของน้ำมันสมนุ ไพรใบสาบเสอื

นวตั กรรม หมายถงึ การทำสง่ิ ต่างๆดว้ ยวิธีใหม่ๆ และยังอาจหมายถงึ การเปลย่ี นแปลงทางความคิด การ
ผลติ กระบวนการ หรอื องค์กร ไม่วา่ การเปลยี่ นนั้นจะเกดิ ขึ้นจากการปฏวิ ัติ การเปล่ียนอย่างถอนรากถอนโคน
หรือการพฒั นาตอ่ ยอด ทัง้ นี้ มักมีการแยกแยะความแตกต่างอย่างชัดเจน ระหวา่ งการประดิษฐ์คิดค้น ความคิด
ริเริม่ และนวัตกรรม อันหมายถงึ ความคิดริเริ่มท่ีนำมาประยุกต์ใช้อยา่ งสัมฤทธผิ์ ล (Mckeown, 2008) และใน
หลายสาขา เชื่อกันว่าการที่สิ่งใดสิ่งหนึ่งจะเป็นนวัตกรรมได้นั้น จะต้องมีความแปลกใหม่อย่างเห็นได้ชัด และ
ไม่เป็นแค่เพียงการเปลี่ยนแปลงครัง้ สำคัญ เป็นต้นว่า ในด้านหัตถกรรม ศิลปะ เศรษฐศาสตร์ เศรษฐกิจ และ
นโยบายของรัฐ ในเชิงเศรษฐศาสตร์น้ัน การเปลีย่ นแปลงนั้นจะต้องเพิม่ มูลคา่ มูลค่าของลูกคา้ หรือมูลค่าของ
ผู้ผลิต เปา้ หมายของนวตั กรรมคือการเปลยี่ นแปลงในเชิงบวก เพื่อทำให้สง่ิ ต่างๆเกิดเปลีย่ นแปลงในทางท่ีดีขึ้น
นวัตกรรมก่อให้ได้ผลิตผลเพิ่มข้ึน และเป็นที่มาสำคัญของความม่ังคั่งทางเศรษฐกจิ (www.wikipedia.or.th/
นวตั กรรม )

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
จัดเป็นวัชพืชที่มีถิ่นกำเนิดในแถบอเมริกากลาง โดยมีเขตแพร่กระจายตั้งแต่ทางตอนใต้ของรัฐฟลอริดาไปจนถึงทาง

ตอนเหนอื ของประเทศอาร์เจนตนิ า และระบาดท่วั ไปในเขตร้อนท่วั ทุกทวปี (ยกเว้นการระบาดเข้าไปในทวีปออสเตรเลีย ซึ่งจะพบ
ได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นในช่วง10ปีที่ผ่านมา)โดยจดั เป็นพรรณไม้ล้มลกุ เป็นพืชทีแ่ ตกกิง่ ก้านสาขามากจนเหมือนทรงพุ่มกิ่ง
ก้านและลำต้นจะปกคลุมไปด้วยขนนมุ่ อ่อน ๆมลี ำตน้ สูงประมาณ 1-2เมตร ใบเปน็ ใบเด่ียวออกจากลำต้นท่ีข้อแบบตรงกันข้าม
ใบมีสเี ขียวอ่อน ลักษณะของใบคลา้ ยรปู รีทรงรูปสามเหลี่ยม ปลายใบแหลม ฐานใบกว้าง ใบเรียวสอบเขา้ หากนั มขี อบใบหยัก ท่ี
ใบเห็นเส้นชัดเจน3 เส้น ผิวใบทั้งสองด้านมีขนอ่อนปกคลุม ใบและก้านเมื่อนำมาขยี้จะมีกลิ่นแรงคล้ายกลิ่นสาบเสือ ดอก
ออกเป็นช่อ มีสีขาวหรือสีฟ้าอมม่วง มีดอกย่อยประมาณ 10-35 ดอก โดยดอกวงนอกจะบานก่อนดอกวงใน ที่กลีบดอกหลอม
รวมกันเป็นหลอดผลขนาดเลก็ มีรปู ร่างคล้ายรปู ห้าเหลี่ยมมสี ีนำ้ ตาลหรอื สีดำมหี นามแข็งบนเสน้ ของผลทปี่ ลายผลมขี นสขี าว
ช่วงพยุงให้ผลและเมลด็ สามารถปลวิ ตามลมได้

ประโยชนท์ างยา

ต้น เป็นยาแก้ ปวดทอ้ ง ท้องข้นึ ท้องเฟอ้ แก้บวม ดดู หนอง แล้วนอกจากน้ี ใบสาบเสือ ยังมีฤทธิ์ พชิ ติ
ปลวกได้อีกด้วย

ใบ มีสารสำคัญ คือ กรดอะนิสิกและฟลาโวนอยด์หลายชนิด เช่น ไอโซซากูรานิติน และโอโดราติน
นอกจากนี้ยังมีสารพวกน้ำมันหอมระเหย ซึ่งประกอบไปด้วยสารยูพาทอล คูมาริน โดยสารสำคัญเหลา่ น้ีจะไป
ออกฤทธิ์ที่ผนังเสน้ เลือดทำใหเ้ ส้นเลือดหดตัว และนอกจากนี้ยังมีฤทธ์ิไปกระตุ้นสารที่ทำให้เลือดแข็งตัวไดเ้ รว็
ขึ้น ทำให้สามารถห้ามเลือดได้[5]ใช้เป็นยารักษาแผลสด สมานแผล ถอนพิษแก้อักเสบ แก้พษิ นำ้ เหลือง แก้ตา

2

ฟาง แก้ตาแฉะ แก้ริดสีดวงทวารหนัก รักษาแผลเปือ่ ย ชาวโอรังอัสลีในรัฐเประ ประเทศมาเลเซียใช้ยาต้มท่ใี ส่
ใบใช้เป็นยาขบั ปัสสาวะ

ดอก เป็นยาแกร้ ้อนใน กระหายนำ้ ชกู ำลงั แกอ้ ่อนเพลีย บำรงุ หัวใจ แก้ไข้

DNA barcode ตัวอยา่ ง

รปู ภาพ

สมนุ ไพรสาบเสือ มชี ือ่ ทอ้ งถ่ินอื่น ๆ อกี หลายช่อื เช่น หญา้ เสอื หมอบ หญ้าดงร้าง หญ้าดอกขาว บา้ นร้าง หมา
หลง (สพุ รรณบุรี ราชบุรี กาญจนบุรี), ฝรง่ั เหาะ ฝร่ังรุกท่ี (สพุ รรณบุรี), ผัดคราด บ้านร้าง (ราชบรุ ี), หญ้าดงร้ัง
หญ้าพระสิริไอสวรรค์ (สระบุรี), หญ้าดอกขาว (สุโขทัย ระนอง), หญ้าเลาฮ้าง (ขอนแก่น), สะพัง (เลย),
มุ้งกระต่าย (อุดรธานี), หญ้าลืมเมือง (หนองคาย), มนทน (เพชรบูรณ์), เบญจมาศ (ตราด), หมาหลง (ชลบุรี-
ศรีราชา), พายัพ พาทั้ง หญ้าเมืองวาย นองเส้งเปรง เซโพกวย ซิพูกุ่ย (เชียงใหม่), ไช้ปู่กย ชีโพแกว่ะ เชโพ
แกว่ะ (แม่ฮ่องสอน), รำเคย (ระนอง), ยี่สุ่นเถื่อน (สุราษฎร์ธานี), หญ้าเหมือน หญ้าเมืองฮ้าง ต้นลำฮ้าง (อิ
สาน), ต้นขี้ไก่ (ใต้), พาพั้งขาว (ไทใหญ่), จอดละเห่า (ม้ง), หญ้าเมืองวาย (คนเมือง), เฮียงเจกลั้ง ปวยกีเช่า
(จนี ) เป็นตน้

ลักษณะของสาบเสือ

• ต้นสาบเสือ จัดเป็นวัชพืชที่มีถิ่นกำเนิดในแถบอเมริกากลาง โดยมีเขตแพร่กระจายตั้งแต่ทางตอนใต้
ของรัฐฟลอริดาไปจนถึงทางตอนเหนือของประเทศอาร์เจนตินา และระบาดทั่วไปในเขตร้อนทั่วทุก
ทวีป (ยกเวน้ การระบาดเข้าไปในทวีปออสเตรเลยี ซง่ึ จะพบได้เพียงเล็กน้อยเทา่ น้นั ในชว่ ง 10 ปีท่ีผ่าน
มา) โดยจัดเป็นพรรณไม้ล้มลุก เป็นพืชที่แตกกิง่ ก้านสาขามากจนเหมือนทรงพุม่ กิ่งก้านและลำตน้ จะ
ปกคลมุ ไปด้วยขนนุ่มออ่ น ๆ มลี ำต้นสูงประมาณ 1-2 เมตร

3

• ใบสาบเสือ มใี บเปน็ ใบเดยี่ วออกจากลำตน้ ที่ขอ้ แบบตรงกันข้าม ใบมีสเี ขียวอ่อน ลกั ษณะของใบคล้าย
รปู รีทรงรูปสามเหลยี่ ม ปลายใบแหลม ฐานใบกวา้ ง ใบเรยี วสอบเขา้ หากนั มีขอบใบหยัก ท่ใี บเห็นเส้น
ชัดเจน 3 เส้น ผิวใบทั้งสองด้านมีขนอ่อนปกคลุม ใบและก้านเมื่อนำมาขยี้จะมีกลิ่นแรงคล้ายกล่ิ น
สาบเสอื

4

• ดอกสาบเสือ ออกเป็นช่อ มีสีขาวหรือสีฟ้าอมม่วง มีดอกย่อยประมาณ 10-35 ดอก โดยดอกวงนอก
จะบานก่อนดอกวงใน ทกี่ ลบี ดอกหลอมรวมกันเป็นหลอด

• ผลสาบเสอื เป็นผลขนาดเลก็ มรี ูปร่างคล้ายรูปห้าเหล่ยี ม มสี นี ำ้ ตาลหรอื สดี ำ มีหนามแข็งบนเส้นของ
ผ ล ท ี ่ ป ล า ย ผ ล ม ี ข น ส ี ข า ว ช ่ ว ง พ ย ุ ง ใ ห ้ ผ ล แ ล ะ เ ม ล ็ ด ส า ม า ร ถ ป ล ิ ว ต า ม ล ม ไ ด้

สาเหตุที่ได้ชื่อวา่ "สาบเสือ" ก็เพราะว่าดอกของสมุนไพรชนิดนีจ้ ะไม่มีกลิ่นหอมเลย แต่จะมีแต่กลิ่นสาบคล้าย
สาบเสือ คนโบราณเวลาวิ่งหนีสัตว์ดุร้ายจะวิ่งเข้าดงสาบเสือเพื่อช่วยอำพรางให้ปลอดภัย เพราะสัตว์จะไม่ได้
กลิ่นคน และยังมีการนำมาใช้ประโยชน์ในด้านของสรรพคุณทางยามากมาย โดยส่วนที่นำมาก็มีทัง้ จากต้น ใบ
ดอก ราก เปน็ ต้น

5

ลักษณะของพชื

สาบเสือ เป็นไม้ล้มลุก แตกกิ่งก้านสาขามากมายจนดูเป็นทรงพุ่ม ลำต้นและกิ่งก้านปกคลุม ด้วยขนอ่อนนุ่ม
ก้านและใบเมือ่ ขยี้จะมีกลิ่นแรงคล้ายสาบเสือ มีลำต้น สูง 1-2 เมตร ใบเดี่ยวออกจากลำต้น ที่ข้อ แบบตรงกนั
ข้าม รูปรีค่อนข้างเป็นสามเหลี่ยมขอบใบ หยัก ปลายใบแหลม ฐานใบกว้าง เรียวสอบเข้าหากัน สีเขียวอ่อน
เส้นใบเห็นชัดเจน 3 เส้น มีขนปกคลุม ผิวใบทั้งสองด้าน ดอกเป็นช่อ สีขาวหรือฟ้าอมม่วง ดอกย่อย 10-35
ดอก ดอกวงนอกบานก่อน กลีบดอก หลอมรวมกันเป็นหลอด ผลขนาดเล็ก รูปร่างเป็น ห้า เหลี่ยมสีน้ำตาล
หรือดำ มีหนามแขง็ บนเส้นของผล ส่วน ปลายผลมขี นสีขาว ชว่ ยพยงุ ให้ผลและเมลด็ ปลิวตามลม

สรรพคุณของสาบเสอื

1. ดอกสาบเสอื มีสรรพคณุ ชว่ ยชูกำลัง แก้อาการออ่ นเพลีย (ดอก)
2. ชว่ ยบำรุงหวั ใจ (ดอก)
3. ช่วยแกต้ าฟาง ตาแฉะ (ใบ)
4. ชว่ ยแกก้ ระหายน้ำ (ดอก)
5. ดอกชว่ ยแกไ้ ข้ (ดอก)

6. รากสาบเสือใชผ้ สมกับรากมะนาวและรากยา่ นาง นำมาต้มเป็นนำ้ ด่มื ชว่ ยรักษาไขป้ า่ ได้ (ราก)
7. ดอกใช้เปน็ ยาแกร้ ้อนใน (ดอก)
8. ใช้เป็นยาแก้ปวดท้อง อาการทอ้ งขึ้น ท้องเฟ้อ (ตน้ )
9. รากสาบเสือนำมาใช้ตม้ เปน็ นำ้ ดม่ื ชว่ ยแก้โรคกระเพาะได้ (ราก)
10. ชว่ ยแก้ริดสดี วงทวาร (ใบ)
11. ใบนำมาใช้ต้มอาบชว่ ยแก้ตัวบวมได้ (ใบ)
12. ช่วยแกบ้ วม (ตน้ )
13. ช่วยดูดหนอง (ตน้ )
14. สารสกัดจากกิ่งและใบมีสารทชี่ ่วยยบั ยง้ั การเจรญิ เติบโตของเช้ือแบคทีเรีย Staphylococcus aureus

และ Bacillus subtilis ซ่งึ เปน็ สาเหตทุ ี่ทำให้เกดิ หนอง (ใบ)
15. ช่วยแกพ้ ษิ น้ำเหลือง (ใบ)
16. ช่วยถอนพษิ แก้อักเสบ (ใบ)
17. ใบใช้ในการห้ามเลือด ด้วยการใช้ใบนำมาโขลกและขยี้ แล้วนำมาพอกบริเวณบาดแผล ก็จะช่วยห้าม

เลือดได้เป็นอย่างดี เพราะสาบเสือมีสารสำคัญหลายอย่างที่มีฤทธิ์ทำให้เส้นเลือดหดตัว และไปช่วย
กระตุ้นสารที่ทำให้เลือดแข็งตัวไดเ้ ร็วย่ิงข้ึน แต่อาจจะแสบมาก ๆ แต่เมื่อแผลหายแล้วจะช่วยป้องกัน
แผลเปน็ ไดอ้ กี ดว้ ย (ใบ)
18. ใช้สมานแผล ช่วยป้องกันการเกดิ รอยแผลเป็น (ใบ)
19. ชว่ ยรักษาแผลเป่อื ย (ใบ)

6

20. ท้ังตน้ ของสาบเสอื ใช้เปน็ ยาแกบ้ าดทะยกั (ทง้ั ตน้ )
21. ใบสาบเสือ มีสารทช่ี ว่ ยยับยั้งการงอกและชะลอการเจริญเติบโตของพชื อ่นื ๆ (ใบ)

ประโยชนข์ องสาบเสือ

1. ช่วยแกผ้ มหงอก ทำให้ผมดกดำ ดว้ ยการใชใ้ บสาบเสอื นำมาตำแลว้ ใชห้ มกั ผมเปน็ ประจำ ไม่นานจะทำ
ทำให้เสน้ ผมดดู กดำขน้ึ (ใบ)

2. ใบสาบเสือมฤี ทธใิ์ นการกำจัดปลวก ไลแ่ มลง ฆ่าแมลงได้ (ใบ)
3. ทั้งต้นและใบสามารถนำมาใช้ในการบำบัดน้ำเน่าเสยี ได้ ด้วยการเอาทั้งต้นและใบใส่ลงไปแช่ในบ่อนำ้

เนา่ เมื่อผา่ นไป 2-3 สัปดาหน์ ำ้ จะค่อย ๆ ใสข้นึ เอง (ต้น, ใบ)
4. ต้นสาบเสือมีกลิ่นแรง การใช้ในปริมาณมากนอกจากจะนำไปใช้ทำเป็นยาฆ่าแมลงแล้ว การใช้ใน

ปรมิ าณเพียงเล็กนอ้ ยก็สามารถนำมาใช้เป็นนำ้ หอมได้ดีอกี ด้วย (ทั้งต้น)
5. นอกจากนเี้ รายงั ใช้ต้นสาบเสือเป็นตวั ชวี้ ดั อณุ หภูมิความแห้งแล้งของอากาศ ถ้าหากอากาศไมแ่ ล้ง ต้น

สาบเสอื กจ็ ะไมอ่ อกดอกน่นั เอง

แหลง่ อา้ งอิง : เวบ็ ไซตก์ รมวิชาการเกษตร, เว็บไซตอ์ ทุ ยานธรรมชาติวิทยาสิรรี ุกขชาติ มหาวิทยาลยั มหดิ ล, ช่ือ
พรรณไม้แห่งประเทศไทย (เต็ม สมติ นิ ันทน์), เวบ็ ไซตส์ ถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย
(วว.), สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน), หนังสือพรรณไม้สวนพฤกษศาสตรส์ มเดจ็
พระนางเจา้ สิรกิ ิต์ิ เลม่ 5

ประวัตติ ำบลโต๊ะเดง็
ตำบลโตะ๊ เดง็ เปน็ หน่ึงในหกตำบลของอำเภอสุไหงปาดี จงั หวดั นราธิวาส เรม่ิ ก่อต้งั เม่ือประมาณ

๒๘๐ กว่าปมี าแล้ว บ้านโตะ๊ เด็ง สมยั นนั้ เรยี กโตะ๊ เด็งว่า “ ฆาเราะ ” ซงึ่ เปน็ ชื่อของผลไมช้ นดิ หนง่ึ
ทค่ี นในหมู่บ้านนำมารบั ประทาน และยงั มีตน้ ไม้อกี ชนิดหนึ่งท่ที ำรายไดเ้ สรมิ ให้กบั ชาวบา้ นรองลงมาจากอาชพี
หลัก คอื ตน้ ดามา ( ยางตะเคยี น ) บ้านโต๊ะเดง็ พ้ืนท่ีส่วนใหญ่ครอบคลุมไปด้วยป่าไมเ้ หมาะสำหรับการทำ
สวน และทำไร่ อุดมสมบูรณไ์ ปดว้ ยป่าไม้ และสตั วป์ ่านานาชนดิ มภี ูเขา ห้วย และหนองน้ำ เหมาะ
ในการตงั้ ถน่ิ ฐานสำหรบั การดำรงชวี ิต และในปจั จบุ ันน้ีป่าไม้กย็ ังคงมีอยู่ บคุ คลท่ีริเริ่มก่อต้ังบ้านโตะ๊ เดง็ เป็น
คนแรกชอ่ื “ โต๊ะบเี ดง็ ” เป็นคนท่ีเดน่ ในตำบลและขึ้นลงรถไฟเป็นประจำ หลังจากนน้ั มา ชาวบา้ นก็ได้
เรียกว่า “ โต๊ะเด็ง ” ตามชือ่ บุคคลท่ีเขา้ มากอ่ ต้งั จนถึงปัจจบุ ัน

โตะ๊ เด็ง เป็นชื่อหมู่บา้ นในจำนวนหา้ หมู่บา้ นของตำบลโตะ๊ เดง็
โต๊ะเด็ง เปน็ หน่งึ ในห้าหมูบ่ ้านท่ขี ึ้นอยู่กบั องค์การบริหารส่วนตำบลโต๊ะเด็ง
โต๊ะเด็ง เปน็ สถานท่ตี ง้ั ขององคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำบลโต๊ะเด็ง
โต๊ะเด็ง เป็นชื่อของสถานศึกษา ชอ่ื ของสถานีรถไฟ และสถานีอนามยั

7

ขอ้ มลู บรบิ ทชมุ ชน ตดิ ตอ่ กบั บ้านไอสะเตยี และอำเภอเจาะไอรอ้ ง
***ขอ้ มูลอาณาเขต*** ตดิ ตอ่ กบั ตำบลปะลรุ แู ละตำบลรโิ ก๋
ที่ตง้ั ทศิ เหนอื ติดตอ่ กบั ตำบลสุไหงปาดี
ตดิ ตอ่ กบั ภเู ขาและอำเภอจะแนะ
ทิศใต้
ทศิ ตะวนั ออก
ทศิ ตะวันตก

ภมู ิอากาศ
ตำบลโตะ๊ เดง็ มีอากาศชุ่มช้นื ฝนตกชุกตลอดทงั้ ปีเพราะมีพื้นที่ป่าไม้มากกวา่ เขตชุมชนโดยเฉพาะป่าพรุมี

จำนวนมากจะอยู่ทางทิศใต้และทิศตะวันตก และพื้นที่นี้ตรงนี้ยังเต็มไปด้วยย่านลิเภามากมาย ประชาชนใน
พื้นที่สามารถนำวัสดุธรรมชาติเหล่ามาประดิษฐ์เป็นของใช้ และที่สำคัญสามารถนำมาประ กอบอาชีพเป็น
รายได้ให้กับครอบครัวตามบริบทของพื้นที่ ในส่วนอื่นจะมีป่าไม้กับทุ่งนา อากาศร้อนอบอ้าวเพียงระยะส้ัน
ระหว่างเดือนเมษายน ถึงเดือนพฤษภาคม ฤดูกาลมี ๒ ฤดู คือฤดูฝนเริ่มจากเดือนกรกฎาคมถึงเดือนมกราคม
มีระยะเวลาถึง ๗ เดือน และฤดูร้อนเริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมิถุนายนอากาศจะร้อนอบอ้าว เพียง
๑-๒ เดือน นอกนนั้ อากาศจะอบอนุ่ สบาย

ประเพณีและวัฒนธรรมที่สำคญั
ด้านวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีของประชาชน จะมีลักษณะที่แตกต่างไปจากวัฒนธรรมใน

จังหวัดอื่น ๆ ของประเทศไทย แต่จะมีลักษณะคล้ายคลึงและไม่แตกต่างไปจากประชาชนใน ๕ จังหวัด
ชายแดนภาคใต้ ซึ่งเปน็ วัฒนธรรมของคนไทยทีน่ บั ถอื ศาสนาอิสลาม ซึง่ จะมีดงั นี้
การแตง่ กาย

การแต่งกายของสตรีตามหลักของศาสนาอิสลามได้ระบุว่าไม่เป็นที่อนุญาตแก่สตรีใดที่จะเรือนร่างของ
รา่ งกาย ยกเวน้ ใบหนา้ และมือถึงข้อมือ การแต่งการของผชู้ าย บรเิ วณทค่ี วรปกปิด ไดแ้ ก่ อวัยวะของร่างกายที่
อย่รู ะหวา่ งสะดือถึงหวั เขา่ ซึ่งได้กำชับไวว้ ่า ห้ามเปิดเผยอวัยวะส่วนนี้ต่อบุคคลอนื่ โดยทั่วไป ผู้ชายนิยมมุ่งโสร่ง
หรือกางเกงขายาว และสวมหมวกปเี ยาะห์ ส่วนหญงิ สวมเสื้อแขนยาวถงึ ข้อมอื และนุ่งผา้ กรอมข้อเท้าตลอดจน
คลุมศรี ษะ และเปิดเฉพาะใบหน้าและข้อมอื ตามศาสนาบญั ญตั ไิ ว้
พิธีถือศีลอด

เมื่อเดือน “รอมฎอน” หรือเดือน ๙ ของปีฮิจเราะห์ศักราช ชาวไทยที่นับถือศาสนาอิสลามทุกคนจะถือ
ศีลอด นบั เปน็ เปน็ เวลา ๑ เดอื นเต็ม ในช่วงระยะเวลาดงั กล่าวจะไมย่ อมให้อาหารและน้ำ หรอื นำ้ ลายเข้าไปใน
ลำคอ นับตั้งแต่ตะวันสางไปจนถึงตะวันลับของฟ้า และจะไม่เริ่มประทานอาหารเมื่อถึงเวลา
(ประมาณ ๑๘.๐๐ น. ล่วงไปแล้ว) จนถึงสว่าง ทั้งนี้มิได้หมายความว่าในเวลากลางคืนจะมีการรับประทานกัน
อย่างเต็มที่เมือ่ ครบกำหนด ๑ เดือนแล้ว เป็นวันออกบวชที่เรยี กว่า “วันฮารีรายอ” หรือ “อิดิลฟิฏรีย์” มีการ
เฉลิมฉลองเยีย่ มเยือนบ้านญาติ ๆ เพื่อน ๆ และไปเยี่ยมกูโบร์ (สุสาน) ญาติพี่น้องผู้ลว่ งลับสวดมนตข์ อพรตาม
กัน จำนวน ๓ วัน

8

วันรายอปอซอ (อิดิลฟิฏรยี )์
เป็นวันท่ชี าวมสุ ลิมท่ัวโลกได้มีการเฉลิมฉลองหลังจากการท่ีได้บวช เมื่อเดือนรอมฎอน หรือเดือน ๙ ของ

ปฏิทินอิสลาม ซึ่งในช่วงเช้าชาวมุสลิมจะไปรวมกันทีม่ ัสยิดเพื่อละหมาดอิดิลฟิฏรีย์ หลังจากเสร็จพิธีละหมาด
แล้ว ไปเยี่ยมบ้านญาติ ๆ เพื่อน ๆ และไปเยี่ยมกูโบร์ (สุสาน) ญาติพี่น้องผู้ล่วงลับสวดมนต์ขอพรตามกัน
จำนวน ๓ วัน
วนั รายอฮัจยี (อดิ ิลอัดฮาร์)

เป็นวันทช่ี าวไทยมสุ ลมิ ทั่วโลกได้เดนิ ทางประกอบพธิ ีฮจั ย์ ณ นครมกั กะฮ์ ประเทศซาอดุ ีอาราเบยี ในส่วน
ผู้ที่ไม่ไป ก็จะไปละหมาดร่วมกันในเวลาเช้า หลังจากนั้นจะร่วมกันกรุบ่าน (เชือดสัตว์ เช่น โค แพะ แกะ)
เพื่อแจกจ่ายให้แก่คนยากจน หรือจัดงานเลี้ยงตามบ้านโดยเชิญคนยากจน ญาติพี่น้องมิตรสหายรับประทาน
อาหารร่วมกัน
พีธีกวนอาซรู อ

การกวนขนมอาซรู อเปน็ พธิ ีอย่างหน่งึ ของมสุ ลมิ ท่ไี ดป้ ฏบิ ตั มิ า ซง่ึ เปน็ การรำลกึ ในเหตกุ ารณ์น้ำท่วมโลกใน
สมัยทา่ นศาสดานหุ ์ (ในดอุ าร์) โดยคนในสมัยน้ันทีร่ อดชีวิตจากภัยพิบตั ิน้ำท่วม

วัตถุประสงคข์ องการศกึ ษา
๑.ศกึ ษาท่ีมาของภูมปิ ญั ญาทอ้ งถิ่น
๒.เพอ่ื ผลติ พฒั นาทักษะ สร้างสรรคใ์ นชน้ิ งานอธิบายนวัตกรรมประเภทหัตถกรรมและใหต้ ่อยอดในระดับ

ท่ีสงู ขึ้นได้
๓.เพอ่ื ศกึ ษาความสัมพนั ธร์ ะหว่างชมุ ชนภมู ิปญั ญากับวิถีชวี ติ เพ่ือการค้าขาย

9

บทท่ี ๒
เอกสารท่ีเก่ียวขอ้ ง

หลักสูตรการจดั การศกึ ษาตอ่ เนือ่ ง

หลักสูตรน้ำมนั สมุนไพรใบสาบเสอื จำนวน ๑๒ ชว่ั โมง

ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอำเภอสุไหงปาดี

&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&

ความเป็นมาของหลักสตู ร

ความเป็นมาของหลักสตู ร

จากนโยบายการดำเนินงานของสำนกั งาน กศน. มงุ่ เนน้ การจัดการศึกษาเพอ่ื พฒั นาด้านอาชพี ใน 5

กลุ่มอาชีพ ประกอบด้วย อาชพี ด้านเกษตรกรรม ดา้ นอุตสาหกรรม ดา้ นพาณชิ ยกรรม ด้านความคิดสรา้ งสรรค์

และด้านอำนวยการและอาชีพเฉพาะทาง โดยมงุ่ ให้กลมุ่ เป้าหมายผรู้ ับการฝกึ อบรมดา้ นอาชีพสามารถนำ

ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ได้จริง และสรา้ งรายได้ทม่ี ัน่ คง

การจดั การศกึ ษาในปจั จบุ นั มีความสำคัญมากเพราะแผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติและ

คณุ ภาพชีวิตของประชาชนอย่างเปน็ รปู ธรรม โดยมีกรอบหลักในการดำเนนิ การเพ่ือการมสี ว่ นร่วมในการ

พัฒนาครอบครัว ชมุ ชน สังคม จากเวทปี ระชาคม ของประชาชนในพ้นื ทตี่ ำบลโต๊ะเด็งให้ความสนใจในเรอ่ื ง

การทำนำ้ มนั สาบเสอื ซงึ่ สามารถนำไปใช้ในชีวติ ประจำวนั เป็นการพฒั นา ประชาชนมคี วามรคู้ วามสามารถและ

ฝกึ ทกั ษะในการทำน้ำมนั สาบเสอื ประกอบอาชีพเป็นการแก้ปญั หาการว่างงานและสง่ เสริมความเข้มแข็งใหแ้ ก่

เศรษฐกิจยงั เปน็ เอกลักษณ์และเปน็ ทีน่ ยิ มของคนไทยหันมาใชส้ มนุ ไพรในการดแู ลรักษาสุขภาพของตนเอง

ครอบครัว ชุมชน สงั คม กศน.ตำบลโตะ๊ เด็ง ร่วมกับผูร้ ู้ ผู้มปี ระสบการณ์การทำน้ำมนั สาบเสอื จดั ทำหลักสูตร

การทำนำ้ มนั สมุนไพรใบสาบเสือ จำนวน ๑๒ ชว่ั โมง

หลักการของหลักสตู ร

ประเภทของหลกั สตู ร

เป็นหลักสูตรประเภทการฝกึ อบรมระยะส้นั

สาระสำคญั ของหลกั สูตร

๑.ช่องทางการประกอบอาชพี จำนวน ๓ ชั่วโมง
๒.วัสดุ อปุ กรณ์ ในการทำน้ำมนั สาบเสือ จำนวน ๓ ช่ัวโมง

๓.ทักษะการทำนำ้ มันสาบเสอื จำนวน ๓ ช่วั โมง

๔.การจัดการควบคุมคณุ ภาพ และ การทำบญั ชคี รวั เรือน จำนวน ๓ ชว่ั โมง

จดุ มุง่ หมาย

๑, เพอื่ ใหผ้ เู้ รียนประยุกต์ ขน้ั ตอนในการทำนำ้ มนั สาบเสือได้

๒. เพื่อให้ผู้เรยี นมีทกั ษะ และสามารถสร้างงานการทำน้ำมันสาบเสอื ตามขัน้ ตอนได้ถกู ตอ้ ง

๓. เพ่อื ให้ผเู้ รยี นมองเหน็ ช่องทางการประกอบอาชีพ

10

เปา้ หมาย
๑. ผู้ที่ไมม่ ีอาชีพ
๒. ผ้ทู ม่ี ีอาชีพและต้องการพัฒนาอาชพี
๓. ผูท้ ส่ี ามารถอา่ นออกเขยี นได้

ท่ี เร่ือง จุดประสงค์ เนือ้ หา การจดั กระบวนการเรยี นรู้ จำนวน
การเรียนรู้ ชวั่ โมง

ทฤษฎี ปฏบิ ัติ

๑. ช่องทางการ ๑.รู้ เข้าใจ เกี่ยวกับ ช่องทางการประกอบ ขัน้ นำ ๓ -

ป ร ะ ก อ บ ความสำคัญของน้ำมัน อาชพี วิทยากรทักทายผู้เรียนและให้
อาชีพ สาบเสือ๒.สามารถ ๑.ความรคู้ วามสามารถ ผู้เรียนแนะนำตั วเอ งเ ป็ น
๒.การลงทนุ รายบคุ คล
อธิบายเกี่ยวกับการ ๓ . ก า ร จ ั ด ห า ว ั ส ดุ
ประกอบอาชีพการทำ
อปุ กรณ์
น้ำมันสาบเสือที่มีใน ๔.ความต้องการของ ขน้ั สอน
ชมุ ชน ตลาด - วิทยากรบรรยายเกี่ยวกับ

ความสำคัญในการประกอบ
๕.กระบวนการผลติ อาชีพการทำน้ำมันสาบเสือ

พร้อมให้ผู้เรียนร่วมแสดงความ

คิดเห็น

- วิทยากรให้ผู้เรียนศึกษาข้อมูล
จากเอกสาร พร้อมใหผ้ เู้ รียนร่วม
แสดงความคดิ เหน็

ข้นั สรุป

- ผเู้ รียนและวิทยากรร่วมกนั
สรุปองคค์ วามรู้

11

จดุ ประสงค์ จำนวน

ที่ เร่อื ง การเรยี นรู้ เนอื้ หา การจดั กระบวนการเรียนรู้ ชวั่ โมง

ทฤษฎี ปฏบิ ัติ

๒. วสั ดุ อุปกรณ์ ๑.รู้ เข้าใจ เกี่ยวกับ วัสดุ อุปกรณ์ ในการ ข้นั นำ ๓ -

ในการทำ ความสำคัญ และ ทำน้ำมนั สาบเสือและ - วิทยากรทบทวนเนื้อหาเกี่ยวกับ
ความสำคัญ และความเป็นไปได้ใน
น้ำมันสาบเสือ ความเป็นไปได้ใน ขัน้ ตอนการผลิต การประกอบอาชีพการทำน้ำมัน
สาบเสอื
การประกอบอาชีพ ๑.วัสดุอปุ กรณก์ ารทำ
ก า ร ท ำ น ้ ำ มั น น้ำมนั สาบเสอื ข้นั สอน
สาบเสอื
- วิทยากรบรรยายเกี่ยวกับวัสดุ
๒.วธิ ีการใช้วัสดุ อุปกรณ์การทำน้ำมันสาบเสือพร้อม
๒.สามารถอธิบาย อุปกรณ์การทำนำ้ มัน ใหผ้ ู้เรยี นร่วมแสดงความคดิ เห็น
เ ก ี ่ ย ว ก ั บ ว ั ส ดุ สาบเสอื
อุปกรณ์การทำ

นำ้ มนั สาบเสือ

๓.สามารถใช้วัสดุ - ผู้เรียนศึกษาเอกสารเกี่ยวกับวัสดุ
อุปกรณไ์ ดถ้ กู ต้อง อุปกรณ์การทำน้ำมันสาบเสือพร้อม
ใหผ้ ู้เรยี นร่วมแสดงความคดิ เหน็

ข้นั สรปุ

- ผ้เู รียนและวิทยากรรว่ มกนั สรุป
องคค์ วามรดู้ งั กล่าว

๓. ทกั ษะการทำ ๑.รู้ เขา้ ใจ เก่ยี วกับ ทักษะการทำน้ำมัน ข้ันนำ - ๓

นำ้ มันสาบเสอื ขั้นตอน วิธีการทำ สาบเสอื - วิทยากรทบทวนเนื้อหาเกี่ยวกับ

น้ำมันสาบเสือ๒. ๑.ขั้นตอน วิธีการทำ วสั ดอุ ปุ กรณ์การทำน้ำมันสาบเสือ

ส า ม า ร ถ อ ธ ิ บ า ย น้ำมันสาบเสือ/ฝึก ขั้นสอน

เ ก ี ่ ย ว ก ั บ ก า ร ป ฏ ิ บ ั ต ิ ท ำ น ้ ำ มั น - วิทยากรบรรยายเกี่ยวกับความรู้
ปฏิบัติการทำน้ำมัน สาบเสือ เ บ ื ้ อ ง ต ้ น เ ก ี ่ ย ว ก ั บ ก า ร ท ำ น ้ ำ มั น

สาบเสือ ๒.วธิ กี ารใช้ และเก็บ สาบเสือ พร้อมให้ผู้เรียนร่วมแสดง
รกั ษาคุณภาพนำ้ มัน ความคดิ เหน็

สาบเสอื - ผู้เรียนฝึกปฏิบัติการทำน้ำมัน

สาบเสือพร้อมให้ผู้เรียนร่วมแสดง

ความคดิ เหน็

ขน้ั สรุป

- ผู้เรียนและวิทยากรร่วมกันสรุป

องค์ความรดู้ งั กลา่ ว

12

โครงสรา้ งหลกั สูตร (ต่อ)

ที่ เรอ่ื ง จดุ ประสงค์ เนื้อหา การจดั กระบวนการเรียนรู้ จำนวนชว่ั โมง
การเรียนรู้
ทฤษฎี ปฏิบตั ิ

๔. ก า ร จ ั ด ก า ร ๑.รู้ เข้าใจ เกี่ยวกับ ขั ้ นต อน กา ร จ ัดการ ขน้ั นำ ๑-

ค ว บ คุ ม การจัดการควบคุม ควบคุมคณุ ภาพ - วิทยากรทบทวนเนื้อหา

คุณภาพ คุณภาพ ๑.ความรู้พื้นฐานด้าน เกี่ยวกับความรู้เบื้องต้น

๒.สามารถอธิบาย การทำนำ้ มนั สาบเสือ เกย่ี วกับการทำนำ้ มันสาบเสอื

เกี่ยวกับการจัดการ ๒.การจัดการควบคุม ข้ันสอน

ควบคมุ คุณภาพ คุณภาพการทำน้ำมัน - วิทยากรบรรยายเกยี่ วกบั การ

สาบเสือ จัดการควบคุมคุณภาพ พร้อม

ให้ผู้เรียนร่วมแสดงความ

คิดเหน็

- ผู้เรียนศึกษาเอกสารเก่ียวกบั

การจัดการควบคุมคุณภาพ

พร้อมใหผ้ ู้เรยี นรว่ มแสดงความ

คดิ เหน็

ขั้นสรุป

- ผู้เรียนและวิทยากรร่วมกัน

สรปุ องค์ความรู้ดังกล่าว

การทำบัญชี ๑ . ร ู ้ เ ข ้ า ใ จ บ อ ก การทำบญั ชคี รวั เรอื น ขั้นนำ ๑๑

ครวั เรอื น ค ว า ม ห ม า ย แ ล ะ ๑ . ค ว า ม ห ม า ย แ ล ะ - วิทยากรให้ผู้เรียนบอก

ประโยชน์การทำบัญชี ประโยชน์ของการทำ ประโยชน์ของการจดบันทึก

ครัวเรอื น บัญชีครัวเรอื น รายรับ – รายจ่าย มาพอ

๒.สามารถอธิบาย ๒. การจดบันทึกรายรับ สังเขป

ค ว า ม ห ม า ย แ ล ะ - รายจา่ ย ขนั้ สอน

ประโยชน์การทำบัญชี - วิทยากรอธิบายความหมาย

ครัวเรอื นไดถ้ ูกตอ้ ง ประโยชน์ และสาธิตการทำ

๓ . ส า ม า ร ถ ท ำ บ ั ญ ชี บัญชคี รวั เรือน

ครวั เรอื นไดถ้ กู ตอ้ ง - วิทยากร ให้ผ ู้เ ร ียนฝึ ก

ปฏิบัติการจดบันทึกรายรับ -

รายจ่าย

ขนั้ สรปุ

- วิทยากรและผู้เรียนร่วม

สนทนาแลกเปลี่ยน และสรุป

องค์ความรู้

13

บทที่ ๓
อุปกรณแ์ ละวิธที ำ

อปุ กรณ์

ใบสาบเสอื น้ำมนั มะพรา้ ว

ขวดบรรจุ

14

ขั้นตอนการผลติ

หันใบสาบเสอื เปน็ ชิ้นเลก็
ใสน่ ้ำมนั มะพรา้ วทเี่ คี้ยวแล้ว

ตั้งไฟ เคย้ี ว 1 ชว่ั โมง

รอให้เย็น 15

กรองด้วยผ้าขาวบาง
บรรจขุ วด

16

ตน้ ทุนการผลติ บทท่ี ๔
๑.ใบสาบเสอื ผลการดำเนินงาน
๒.นำ้ มนั มะพร้าว
๓.กรรไกร หาไดจ้ ากสวนในป่า ชุมชนตำบลโตะ๊ เดง็
๔.ขวดแกว้ ใส ขวดละ ๑๕๐ บาท
๕.ผ้าขาวบาง อนั ละ ๓๐ บาท
๖.ค่าแก๊ส อันละ ๗ บาท
ผนื ละ ๕๐ บาท
ถังละ ๒๘๐ บาท

จำหน่ายใน ราคา ขวดละ ๖๐ บาท หักตน้ ทนุ่ ๓๐ บาท กำไร ๓๐ บาท

17

ผลิตภณั ฑ์นำ้ มนั สาบเสอื ออกสตู่ ลาดไลฟส์ ดขายออนไลน์

แผลคนที่ ๑ แผล 18
ถลอก
ภาพแสดงถงึ การรกั ษาแผลดว้ ยนำ้ มนั
สาบเสผอื ลการ ทดลองใช้ ในผูป้ ว่ ย ท่ีมีแผล

แผลคนที่ ๑ หลงั จาก ทาน้ำมันสาบเสอื

จากภาพ คนที่ ๑ พบวา่ หลังจากที่ ทดลองทายาน้ำมนั สาบเสือแลว้ ผลปรากฏวา่ แผลเรมิ่ ดขี ึ้น วงแผลเลก็ ลง
#####################################################################

ผลการ ทดลองใช้ ในผู้ป่วย ที่แผลคันเปน็ หนอง

แผลคนที่ ๒ แผลเป็นหนองและคัน แผลคนที่ ๒ หลังจาก ทานำ้ มันสาบเสือ

จากภาพ คนท่ี ๒ พบว่า หลังจากที่ ทดลองทายาน้ำมนั สาบเสือแลว้ ผลปรากฏวา่ แผลเริ่มดขี ้ึน ไม่มหี นอง
และแผลเริม่ แห้ง รักษางา่ ยขึ้น
#####################################################################

19

ผลการ ทดลองใช้ ในผปู้ ่วย ที่มแี ผลถลอกบนใบหน้า

แผลคนท่ี ๓ แผลถลอกบนใบหนา้ แผลคนท่ี ๓ หลงั จาก ทาน้ำมนั สาบเสือ

จากภาพ คนที่ ๓ พบว่า หลงั จากที่ ทดลองทายาน้ำมันสาบเสอื แล้ว ผลปรากฏวา่ แผลเร่มิ ดขี น้ึ แผลไม่เปน็
หนองและแผลแห้งเร็ว ไม่เปน็ อันตรายต่อดวงตา การรักษางา่ ยขนึ้
#####################################################################

สาบเสือ นำมารักษาโดยใชส้ ว่ นทีเ่ ป็นใบ มีฤทธท์ิ างเภสัชวิทยาทำใหเ้ ลอื ดหยุดไหล สมานแผล ต้าน
การอักเสบ ตา้ นเชอ้ื จุลชีพได้ สรรพคณุ ของสาบเสือคือ ช่วยในการห้ามเลือด รักษาแผลสด สมานแผล รักษา
แผลเปื่อย แก้อักเสบ และแก้รดิ สีดวงทวารหนัก และจากผลการศึกษาทางคลนิ ิกพบวา่ ใยสาบเสอื แบบสดและ
แบบแห้งสามารถห้ามเลอื ดในผ้ปู ่วยมบี าดแผลฉีกขาดของเนอื้ เย่ือและหลอดเลือดฝอยได้เร็วกว่าการใชผ้ า้ กอ๊
ซอยา่ งเดียวประมาณ 10-15 นาที ทง้ั นี้ขน้ึ อยู่กับขนาดและความลกึ ของบาดแผลดว้ ย โดยนำใบสดมาลา้ งให้
สะอาด จากนนั้ นำมาขยหี้ รือโขลกใหล้ ะเอียดแล้วพอกทแ่ี ผลสดทนั ที และยังสามารถทำใบสาบเสือแห้งเก็บไว้
ได้ เน่อื งจากใบของสาบเสือมีสว่ นประกอบของน้ำมันระเหย เทอร์พนี สเตียรอล คมู าริน และฟลาโวนอยด์
หลายชนดิ โดยสารสำคัญเหลา่ น้จี ะไปออกฤทธ์ิทผ่ี นังเสน้ เลอื ด ทำใหเ้ ส้นเลือดหดตัว และกระตุน้ สารที่ทำให้
เลือดแขง็ ตวั ได้เร็วขน้ึ นอกจากนี้ยังมีแคลเซยี มทีช่ ่วยใหเ้ ลอื ดหยุดไหลได้อกี ดว้ ย

#ผศ.ดร.ภญ.วีณา

20

ในชวี ิตประจำวนั อุบัติเหตสุ ามารถเกดิ ข้นึ ได้ตลอดเวลา และมีความรนุ แรงมากน้อยแตกต่างกันไป
บางครง้ั อาจมีความรนุ แรงถงึ ข้นั ทำใหเ้ สยี ชวี ิตได้ คณะผจู้ ัดทำได้ทำการศึกษาค้นควา้ พบวา่ Siam Weed
(Chromolaena odorata L.) จดั เป็นวัชพืชมีสรรพคณุ ทางยาในการชว่ ยหา้ มเลอื ด บรรเทาการไหลของเลือด
และใช้เป็นยารักษาแผลสด และมสี ารสำคัญท่ที ำให้เลือดแข็งตัว และบบี หลอดเลือด สมานแผล ต้านการ
อกั เสบ ต้านเชอื้ จลุ ชีพ รักษาแผลสด แผลเป่อื ย แกอ้ ักเสบ คณะผู้จัดทำจึงได้มีแนวคิด ในการจดั ทำ Siam
Weed Healing Gel ให้เป็นผลิตภัณฑ์ รักษาและสมานแผล ท่ไี ด้จากการนำสารสกดั ใบสาบเสอื มาทำเปน็ เจล
เพ่ือใชใ้ นการบรรเทา ชะลอการไหลของเลอื ดเมอ่ื เกดิ บาดแผล สามารถใชร้ กั ษาแผล ชว่ ยในการสมานแผล
และเม่ือนำไปทดลองใช้กบั ผ้ทู ่ีมีบาดแผลพบว่า โดยภาพรวมความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก
(http://thaiinvention.net/detail.php?p=cHJvamVjdF9pZD01MDEzOSZjZmdfaWQ9MzImY29tcGV
0X2lkPTE=)

21

บทท่ี ๕
บทสรปุ

สาบเสือ (Chromolaena odorata) ใบสาบเสือ มีการใช้แบบภูมิปัญญาพื้นบ้าน นำใบสดมาล้างให้
สะอาด ขยี้หรือโขลกให้ละเอียดแล้วพอกบริเวณแผลสด สำหรับข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มีบางงานวิจัยระบุว่า
สารสกัดใบสาบเสือมีฤทธิ์ต่อกลไกการห้ามเลือด โดยลดระยะเวลาการแข็งตัวของเลือด (clotting time และ
bleeding time) อยา่ งไรกต็ ามแผลสดเป็นแผลท่ีติดเชื้อได้ง่าย ดงั นัน้ เมือ่ หา้ มเลือดได้ควรทำความสะอาดแผล
ให้สะอาด และหากแผลมขี นาดใหญอ่ าจตอ้ งเยบ็ หรือผา่ ตดั ควรรีบพบแพทยเ์ พ่ือรักษาใหเ้ ร็วท่ีสุด
เอกสารอา้ งอิง
(เอกสารประกอบการประชุม เรื่อง "การปฐมพยาบาลด้วยสมุนไพรใกล้ตัว"; วันที่ 7 ส.ค. 2556; สำนักงาน
ข้อมลู สมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล.)

คณะที่ปรกึ ษา

1.นางหทัยกาญจน์ วัฒนสทิ ธิ์ ผ้อู ำนวยการ กศน.อำเภอสุไหงปาดี
2.นายสอื แม หะมะ เจา้ ของภมู ปิ ญั ญา
3.นางยไู นดะห์ มะเก ครผู ูช้ ่วย
4.ว่าทีร่ อ้ ยตรี สหฐั มะดาแฮ ครูอาสาฯประจำปอเนาะ
5.นางสาวจนั ทิรา สือแม ครู กศน.ตำบล

ผจู้ ดั ทำ

1.นางยไู นดะห์ มะเก ครผู ู้ชว่ ย
2.ว่าที่รอ้ ยตรี สหัฐ มะดาแฮ ครอู าสาฯประจำปอเนาะ
3.นางสาวจันทิรา สอื แม ครู กศน.ตำบล

1.นางยไู นดะห์ ผเู้ รียบร้อย

มะเก ครูผู้ช่วย

ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสุไหงปาดี

สานกั งานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยจงั หวดั นราธิวาส
สานักงานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร