ละคร
ดึกดำบรรพ์
Created by group 3 form 6/11
ประวัติความเป็นมา
ละครดึกดำบรรพ์ เป็นละครที่เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 กำเนิดขึ้น ณ
บ้านเจ้าพระยาเทเวศร์วงศ์วิวัฒน์
โดย แสดง ณ โรงละครของท่านที่ตั้งชื่อว่า "โรงละครดึกดำบรรพ์"
เจ้าพระยาเทเวศร์วงศ์วิวัฒน์ได้เดินทางไปยุโรปเมื่อปี พ.ศ. 2434
และมีโอกาสได้ชมละครโอเปร่า (Opera) ซึ่งท่านชื่นชมการแสดงนี้มาก
เมื่อกลับมาจึงคิดทำละคร โอเปร่าให้เป็นแบบไทย จึงเล่าถวาย
สมเด็จพระเจ้า บรมวงศ์เธอ เจ้าพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ซึ่งท่านก็ โปรด
เห็นว่าดี
1
ประวัติความเป็นมา
ในการสร้างละครดึกดำบรรพ์ครั้งนี้ นอกจาก
สมเด็จพระเจ้า บรมวงศ์เธอ เจ้าพระยานริศรานุวัดติวงศ์
จะเป็นผู้สร้างโรงละครดึกดำบรรพ์ สร้างเครื่องแต่งกาย
และอุปกรณ์การแสดงแล้ว ท่านยังได้รับความร่วมมือจาก
ผู้ร่วมงานที่สำคัญ ได้แก่
- สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าพระยานริศรานุวัดติวงศ์
ทรงพระราชนิพนธ์บท และทรงเลือกสรรปรับปรุงทำนอง
เพลง ออกแบบฉาก และ กำกับการแสดง
- หลวงประดิษฐ์ไพเราะ (ตาด ตาตะนันท์) เป็นผู้
จัดทำนองเพลงควบคุมวงดนตรี และปี่ พาทย์
- หม่อมเข็ม กุญชร ณ อยุธยา ภรรยาของเจ้าพระยา
เทเวศร์วงศ์วิวัฒน์ เป็นผู้ ปรับปรุง ประดิษฐ์ท่ารํา และ
ฝึกสอนให้เข้ากับบท และลำนำทำนองเพลง
2
ประวัติความเป็นมา
ละครดึกดำบรรพ์ได้ออกแสดงครั้งแรกปี พ.ศ. 2442
เนื่องในโอกาสต้อนรับ เจ้าชายเฮนรี่ ซึ่งเป็นพระราชอาคันตุกะ
ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ละครดึกดำบรรพ์
ได้รับความนิยมตลอดมา จนกระทั่งปี พ.ศ. 2452
เจ้าพระยาเทเวศร์วงศ์วิวัฒน์ เกิดอาการเจ็บป่วยถวายบังคมลาออกจาก
ราชการ ทำให้ต้องเลิกการแสดงละครดึกดำบรรพ์ไป
นับแต่เริ่มแสดงละครดึกดำบรรพ์ จนเลิกการแสดงรวมระยะเวลา 10 ปี
3
ผู้ แ ส ด ง
ใช้ผู้หญิงล้วน
ผู้ที่จะได้รับคัดเลือกให้แสดงละครดึกดำบรรพ์ จะต้องมีความสามารถ
พิเศษด้วยคุณสมบัติ คือ
- เป็นผู้ที่มีเสียงดี ขับร้องเพลงไทยได้ไพเราะ
- เป็นผู้ที่มีรูปร่างงาม รําสวย ยิ่งผู้ที่จะแสดงเป็นตัวเอกของเรื่องด้วยแล้ว
ต้องใช้ความพินิจพิเคราะห์อย่างมาก
4
การ
แต่ง
กาย
เหมือนอย่างละครในที่เรียกว่า "ยืนเครื่อง" นอกจากบางเรื่อง
ที่ ดัดแปลงเพื่อความเหมาะสม และให้ตรงกับความเป็นจริง
5
เรื่องที่แสดง
พระนิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าพระยานริศรานุวัดติวงศ์
ได้แก่
เรื่องสังข์ทอง เรื่องคาวี ตอนสามหึง เรื่องอิเหนาตอนไหว้พระ เรื่อง
สังข์ศิลป์ชัยภาคต้น เรื่องกรุงพานชมทวีป เรื่องรามเกียรติ์
เรื่องอุณรุฑ เรื่องมณีพิชัย
เรื่อง คาวี
6
บทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ได้แก่
เรื่องศกุนตลา เรื่องท้าวแสนปม เรื่องพระเกียรติรถ
เรื่ องศกุนตลา (ศกุนตลาชมสวน)
7
บทพระนิพนธ์ใน
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก
กรมขุน เพชรบูรณ์อินทราชัย
ได้แก่ เรื่องสองกรวรวิก เรื่องจันทกินรี เรื่องพระยศเกตุ
เรื่องจันทกินรี
เรื่องสองกรวรวิก
8
การแสดง
จะผิดแปลกจากละครแบบดั้งเดิม เพราะผู้แสดงต้องร้องเองทำเอง
ไม่มีบรรยายแสดงให้สมจริงสมจังมากที่สุด มีการตกแต่งฉาก
กิริยาของตัวละคร และสถานที่ ใช้แสง สี เสียง ประกอบฉาก
นับเป็นต้นแบบในการจัดฉาก ประกอบการแสดงของโขน
ละครต่อมา การแสดงมักแสดงตอนสั้นๆให้ผู้ชมละครชมแล้วอยาก
ชมต่ออีก
9
ด น ต รี
ใช้ปี่ พาทย์ดึกดำบรรพ์ เพื่อความ ไพเราะนุ่มนวล
โดยการผสมวงดนตรีขึ้นใหม่ และคัดเอาสิ่งที่มีเสียงแหลมเล็กหรือ
ดังมากๆออก เหลือไว้แต่เสียงทุ้ม ทั้งเพิ่มเติมสิ่งที่เหมาะสมเข้ามา
เช่น ฆ้องหุ่ย ต่อมาเรียกว่า
“วงปี่ พาทย์ดึกดำบรรพ์”
10
เ พ ล ง ร้ อ ง
นํามาจากบทละคร โดยปรับปรุงหลายอย่าง คือ
- ตัดคำว่า "เมื่อนั่น" "บัดนั้น" เมื่อจะกล่าวถึงใครออก โดยให้ตัวละคร
รำใช้บทเพื่อให้เข้าใจว่า ใครเป็นผู้พูด
- คัดเอาแต่บทเจรจาไว้ โดยยกบทเจรจามาร้องรำให้ตัวละครร้อง
โต้ตอบกันเอง
- ไม่มีบทที่กล่าวถึงกิริยาของตัวละครว่า จะนั่ง จะเดินซ้ำอีก
ทำให้ผู้แสดงไม่เคอะเขิน
- บรรยายภาพไว้ในบทร้อง ประกอบศิลปะการรำ
- ไม่มีค่าบรรยาย
11
เ พ ล ง ร้ อ ง
-บทโต้ตอบ ทุ่มเถียง วิวาท
ใช้บทเจรจาเป็นกลอนแทน และ
เจรจาเหมือนจริง
-มีการนำทํานองเสนาะในการ
อ่านโคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน มา
ใช้
-มีการนำเพลงพื้นเมือง เพลง
ชาวบ้าน การละเล่นของเด็กมาใช้
- มีการเจรจาแทรกบทร้องโดย
รักษาจังหวะตะโพนให้เข้ากับ
บทร้อง และอื่นๆ สถานที่แสดง
มักแสดงตามโรงละครทั่วไป
เพราะต้องมีการจัดฉากประกอบ
ให้ดู สมจริงมากที่สุด
12
สถานที่แสดง
มักแสดงตามโรงละครทั่วไป เพราะต้องมีการจัดฉาก
ประกอบให้ดู สมจริงมากที่สุด
13
สมาชิกในกลุ่ม
นายกิตติพศ ชุมวุติลักษณ์ ม.6/11 เลขที่ 1
นายเทวินทร์ สมพงศ์ ม.6/11 เลขที่ 5
นายชัยวัฒน์ เหลืองสุวิมล ม.6/11 เลขที่ 8
นายนนทพัทธ์ เมฆทัศน์ ม.6/11 เลขที่ 10
นายติณณภพ ไชยพร ม.6/11 เลขที่ 13
นายสหพล โครตตาแสง ม.6/11 เลขที่ 16
นายสันต์ธร คำปิตะ ม.6/11 เลขที่ 17
นางสาวอรนิชา โปรยกลาง ม.6/11 เลขที่ 30
นางสาวมัตติกา มุนนท์ ม.6/11 เลขที่ 31