หนังสอื วรรคทองในวรรณคดี
จัดทำโดย
นางสาว เสาวลกั ษณ์ เหตผุ ลดี
รหัสนกั ศึกษา ๖๓๑๘๑๐๑๐๒๑๔
สาขาวชิ าภาษาไทย
คณะครุศาสตร์
มหาวิทยาลยั ราชภัฏลำปาง
คำนำ
หนังสือวรรคทองในวรรณคดไี ทยเลม่ น้ี เปน็ หนังสือท่ผี ู้จัดทำ จัดทำข้ึนเพื่อให้ผู้ท่ี
เข้ามาศึกษาหาความรู้ ได้เห็นถึง ความไพเราะแหง่ ภาษาและความลึกซึ้งของภาษาไทยเรา
ทำให้ถ้อยคำจากวรรณคดีไทยจำนวนมากเปน็ ท่ีจดจำสบื มาและเป็นทีร่ จู้ ักเรยี กขานกันว่า
“วรรคทอง” หนังสอื วรรคทองในวรรณคดีไทยเล่มนี้ ในเน้อื หากจ็ ะประกอบดว้ ย บท
ประพันธท์ ่ีเปน็ วรรคทองจากเร่อื งต่างๆ รวมท้ัง ที่มา ผู้แต่ง ลกั ษณะคำประพันธแ์ ละแผนผงั
ฉันทลักษณ์ในบทนั้นๆ
ผู้จดั ทำ
( นางสาว เสาวลักษณ์ เหตผุ ลดี )
สารบญั หน้า
เรื่อง ๑
วรรคทอง จากเร่อื ง อิเหนา ๒
วรรคทอง จากเรอ่ื ง ประชมุ โคลงโลกนิติ ๓
วรรคทอง จากเรอ่ื ง สามคั คีเภทคำฉันท์ ๔
วรรคทอง จากเรอ่ื ง ขุนช้างขุนแผน ๕
วรรคทอง จากเรอ่ื ง กาพยเ์ ห่เรอื ๖
วรรคทอง จากเรอ่ื ง บทละครพูดคำฉนั ท์ เรือ่ งมัทนะพาธา ๗
วรรคทอง จากเรอ่ื ง มหาเวสสนั ดรชาดก ๘
วรรคทอง จากเร่อื ง ลิลิตตะเลงพ่าย ๙
วรรคทอง จากเรอ่ื ง โคลงสยามมานุสสติ ๑๐
วรรคทอง จากเรอ่ื ง สามัคคีเภทฉนั ท์
๑
วรรคทอง จากเร่อื ง อิเหนา
สายสมรนอนเถิดพีจ่ ะกลอ่ ม เจา้ งามจรงิ พร้ิงพรอ้ มดังเลขา
นวลละอองผ่องพักตร์โสภา ดงั จันทราทรงกลดหมดมลทิน
งามเนตรดังเนตรมฤคมาศ งามชนงวงวาดดังคนั ศลิ ป์
อรชรอ้อนแอ้นดังกินรนิ หวงั ถวิลไม่เว้นวายเอย
ที่มา บทละครใน เรือ่ ง อเิ หนา
ผแู้ ต่ง พระบามสมเดจ็ พระพุทธเลิศลา้ นภาลัย
ลกั ษณะคำประพันธ์ กลอนบทละครมีลกั ษณะบงั คับเช่นเดียวกบั กลอนสภุ าพ วรรคหนง่ึ มี 6 ถึง 9 คำ
แต่นยิ มใช้เพียง 6 ถึง 7 คำจงึ จะเข้าจังหวะร้องและรำทำให้ไพเราะยิง่ ขึน้ กลอนบท
แผนผังฉันทลักษณ์ บทร้อยกรองประเภท กลอนบทละคร
๑
๒
วรรคทอง จากเร่ือง ประชุมโคลงโลกนิติ
รู้น้อยว่ามากรู้ เรงิ ใจ
กลกบเกิดอยูใ่ น สระจอ้ ย
ไป่เห็นชเลไกล กลางสมุทร
ชมว่าน้ำบอ่ น้อย มากล้ำลึกเหลือ
ทีม่ า ประชุมโคลงโลกนิติ
ผแู้ ต่ง สมเด็จพระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาเดชาดิศร
ลักษณะคำประพันธ์ คณะของโคลงสี่สุภาพ คือ บทหนง่ึ มี 4 บาท (เขียนเปน็ 4 บรรทัด) 1 บาทแบง่
ออกเป็น 2 วรรค โดยวรรคแรกกำหนดจำนวนคำไว้ 5 คำ ส่วนวรรคหลงั ในบาทที่ 1,2 และ 3 จะมี 2
คำ (ในบาทที่ 1 และ 3 อาจเพิ่มสร้อยได้อกี แหง่ ละ 2 คำ) สว่ นบาทที่ 4 วรรคที่ 2 จะมี 4 คำ รวมทั้งบท
มี 30 คำ และเมอ่ื รวมสร้อยทั้งหมดอาจเพิม่ เปน็ 34 คำ
สว่ นทีบ่ ังคับ เอก โท (เอก 7 โท 4) ดังน้ี
บาทที่ 1 (บาทเอก) วรรคแรก คำที่ 4 เอก และคำที่ 5 โท
บาทที่ 2 (บาทโท) วรรคแรก คำที่ 2 เอก วรรคหลงั คำแรก เอก คำที่ 2 โท
บาทที่ 3 (บาทตร)ี วรรคแรก คำที่ 3 เอก วรรคหลัง คำที่ 2 เอก
บาทที่ 4 (บาทจตั วา) วรรคแรก คำที่ 2 เอก คำที่ 5 โท วรรคหลงั คำแรก เอก คำที่ 2 โท
แผนผงั ฉนั ทลกั ษณ์ บทร้อยกรองประเภท โคลงสี่สุภาพ
๓
วรรคทอง จากเร่อื ง สามคั คีเภทคำฉนั ท์
สามยอดตลอดระยะระยบั วะวะวับสลับพรรณ
ช่อฟ้าตระการกลจะหยนั จะเยาะยวั่ ทิฆัมพร
บราลีพิลาสศภุ จรญู นภศลู ประภัสสร
หางหงส์ผจงพิจิตรงอน ดุจกวกั นภาลัย
ที่มา สามคั คีเภทคำฉนั ท์
ผแู้ ต่ง นายชติ บุรทัต
ลกั ษณะคำประพันธ์ คณะและพยางค์ ๑ บท มี ๒ บาท ๑ บาทมี ๒ วรรค วรรคแรกมี ๘
คำ วรรคหลงั มี ๖ คำ รวมบาทหนึ่งมี ๑๔ คำ จึงเรียกว่า ฉันท์ ๑๔
ครุ-ลหุ ประกอบด้วยคณะฉนั ท์ ตะ ภะ ชะ ชะ ครุลอย ๒ กล่าวคือ คำที่ ๓ ที่ ๕ ที่ ๖ และ
ที่ ๗ ของวรรคแรก กบั คำที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๔ ของวรรคหลังเป็นลหุ นอกน้ันเป็นครุ
แผนผังฉันทลักษณ์ บทร้อยกรองประเภท วิสนั ตดิลกฉันท์ ๑๔
๔
วรรคทอง จากเร่ือง ขุนช้างขนุ แผน
แมร่ ักลูก ลูกก็รู้ อยูว่ ่ารกั
คนอ่ืนสัก หม่นื แสน ไม่แมน้ เหมอื น
จะกินนอน วอนวา่ เมตตาเตือน
จะจากเรอื น ร้างแม่ ไปแตต่ ัว
ทีม่ า เสภาเรือ่ งขุนช้าง ขุนแผน ตอน ๒๔ กำเนิดพลายงาม
ผแู้ ตง่ สุนทรภู่
ลักษณะคำประพันธ์ กลอนเสภา มีลกั ษณะบงั คับเหมือนกลอนสุภาพ แต่จำนวนคำในวรรคไมจ่ ำกดั
สัมผสั ตรงไหนก็ได้ถ้าเหน็ ว่าสมควร เสภามักขึ้นต้นด้วย “จะกล่าวถึง” “คราน้ัน” “จะกลา่ วกบั กลา่ ว”
ไม่จำกัดความยาว จบลงด้วยบาทดโท
แผนผงั ฉันทลักษณ์ บทร้อยกรองประเภท กลอนเสภา
๕
วรรคทอง จากเรอ่ื ง กาพยเ์ ห่เรอื
พระเสด็จโดยแดนชล ทรงเรอื ต้นงามเฉิดฉาย
กิง่ เเก้วแพรว้ พรรณราย พายออ่ นหยบั จับงามงอน
…
สุพรรณหงส์ทรงพู่หอ้ ย งามชดชอ้ ยลอยหลังสนิ ธุ์
เพียงหงสท์ รงพรมมินทร์ ลินลาศเลือ่ นเตอื นตาชม
ทีม่ า กาพย์เหเ่ รอื พระนิพนธ์ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร
ผู้แต่ง เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร
ลกั ษณะคำประพันธ์ คณะ กาพย์ยานี ได้ชื่อวา่ ยานี 11 เพราะ จำนวนพยางค์ใน 2 วรรค หรอื 1
บรรทัด รวมได้ 11 พยางค1์ บท มี 4 วรรค วรรคหนา้ 5 พยางค์ วรรคหลงั 6 พยางค์
สัมผัสระหว่างวรรค ใน 1 บท มสี มั ผัส 2 คู่ สงั เกตจากแผนผังและตวั อยา่ ง
สัมผสั ระหว่างบท พยางค์สุดท้ายของบทต้น สมั ผัสกบั พยางคส์ ุดท้ายของวรรคที่ 2 ของบทถัดไป
แผนผงั ฉนั ทลักษณ์ บทร้อยกรองประเภท กาพย์ยานี 11
๖
วรรคทอง จากเร่อื ง บทละครพูดคำฉนั ท์ เรอ่ื งมัทนะพาธา
ความรกั เหมอื นโรคา บันดาลตาให้มดื มน
ไม่ยินและไมย่ ล อุปสรรคใดใด
ความรักเหมือนโคถึก กำลังคึกผขิ ังไว้
กโ็ ลดจากโคกไป บ ยอมอยู่ ณ ทีข่ ัง
ถึงหากจะผูกไว้ กด็ ึงไปด้วยกำลัง
ยิง่ หา้ มก็ยิง่ คล่ัง บ หวนคิดถึงเจ็บกาย
ที่มา บทละครพดู คำฉนั ท์ เรอ่ื งมทั นะพาธา
ผู้แต่ง พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ลกั ษณะคำประพันธ์ กาพย์ยานี ๑๑ หนึ่งบท มี ๒ บาท ๑ บาท มี ๒ วรรค วรรคหน้ามี ๕ คำ วรรค
หลงั มี ๖ คำ รวมเป็น ๑๑ คำ กาพยย์ านี ๑ บท จะมี ๒๒ คำ ซึ่งในการเเตง่ นั้นต้องแตง่ อยา่ งนอ้ ย ๑ บท
หรอื ๔ วรรคเสมอ
แผนผงั ฉันทลกั ษณ์ บทร้อยกรองประเภท กาพย์ยานี ๑๑
๗
วรรคทอง จากเร่อื ง วรรคทองจากมหาเวสสันดรชาดก
โส โพธิสตฺโต ปางน้ันสมเดจ็ พระบรมโพธิสตั ว์ ตรัสได้ทรงฟังพระลูกน้อย ทรงกันแสงทูลละหอ้ ย
วันนั้น กล้ันพระโศกมิได้ละอายพระทัยแกเ่ ทพยดา ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา เสด็จเข้าสู่ภายในพระ
บรรณศาลา ซบพระพกั ตราทรงพระกันแสงสะอืน้ ไห้ ว่าโอ้เจ้าเพือ่ นเข็ญใจของพอ่ เอย่ เจ้าเคยกระทำ
กรรมไว้เปน็ ไฉน จึ่งมาตกเข็ญใจไร้ยากอนาถา ให้พราหมณ์ชรารา่ งร้ายกาจ ตะแกมาทำสีหนาทโพย
โบยตี โอเวลาปานฉะน้ีก็สายณั ห์ คนท้ังหลายเขาเรียกกันกินอาหาร บ้างกเ็ ล้าโลมลูกหลานให้อาบน้ำ
แล้วหลบั นอน แตส่ องบังอรของพอ่ นี้ ใครจะปราณีให้นมนำ้ ก็จะตรากตรำลำบากใจ ทีไ่ หนจะเดินได้
ด้วยพระบาทเปลา่ ทั้งไอแดดจะแผดเผาให้พุพอง จะชอกช้ำคล้ำเปน็ หนองลงลามไหล สองสุริยวงศ์
ต้ังแตว่ ่าจะทรงกนั แสงไห้ สุดอาลยั ของพอ่ แล้วที่จะติดตาม จะบา่ ยหนา้ ไปหาพราหมณเ์ ม่อื ยามเยน็
เฒา่ จัญไรไหนเลยจะเห็นด้วยสองเจ้า มีแต่จะรุกเร้าคำรามตี ....
ที่มา มหาเวสสนั ดรชาดก
ผแู้ ต่ง เจ้าพระยาคลงั นามเดิมว่า หน
ลกั ษณะคำประพันธ์ มีลักษณะคล้ายร่ายโบราณ ใช้แต่งบทเทศนบ์ ทสวด บทกล่อมลกู เปน็ ต้น ไม่
จำกัดวรรคและคำ แตล่ ะวรรคไม่ควรน้อยกวา่ ๕ คำ นิยมสง่ สัมผัสสง่ ท้ายวรรคหน้า และรับสมั ผสั ใน
วรรคถัดไปทีค่ ำใดกไ็ ด้สมั ผสั เชอ่ื มกันไปเช่นน้ีจนจบ
แผนผงั ฉันทลักษณ์ บทร้อยกรองประเภท ร่ายยาว
๘
วรรคทอง จากเรอ่ื ง ลิลิตตะเลงพ่าย
สายหยุดหยุดกลิ่นฟุ้ง ยามสาย
สายบห่ ยุดเสนห่ ์หาย ห่างเศร้า
กี่คืนกี่วันวาย วางเทวษ ราแม่
ถวิลทกุ ขวบค่ำเช้า หยดุ ได้ฉนั ใด
ทีม่ า ลิลิตตะเลงพา่ ย
ผแู้ ตง่ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรสทรงพระนิพนธ์โดยมีพระองค์เจ้า
กปิตถาขัตติยกุมาร พระโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศลา้ นภาลยั เปน็ ผู้ช่วยในการนพิ นธ์
ลกั ษณะคำประพันธ์ ลิลิตสภุ าพ ประกอบด้วย ร่ายสุภาพ หรอื ร่ายโบราณ แต่งคละกบั โคลงสุภาพ
โดยมีสมั ผัสสระอย่รู ะหว่างโคลงกบั รา่ ย กล่าวคือ คำสุดท้ายของรา่ ยหรอื โคลงสัมผัสกับคำที่ ๑ หรอื ๒
หรอื ๓ ของคำประพันธใ์ นบทตอ่ ไป
แผนผังฉนั ทลกั ษณ์ บทร้อยกรองประเภท ลลิ ิตสภุ าพประกอบด้วยร่ายสุภาพและโคลงสุภาพ
๙
วรรคทอง จากเรอ่ื ง โคลงสยามมานสุ สติ
๏ ใครรานใครรกุ ด้าว แดนไทย
ไทยรบจนสุดใจ ขาดดิ้น
เสียเนื้อเลือดหลัง่ ไหล ยอมสละ ส้ินแล
เสียชีพไปเ่ สียสิ้น ชือ่ ก้องเกียรตงิ ามฯ
๏ หากสยามยังอยู่ยั้ง ยืนยง
เราก็เหมอื นอยูค่ ง ชีพด้วย
หากสยามพินาศลง ไทยอยู่ ได้ฤๅ
เรากเ็ หมอื นมอดมว้ ย หมดส้ินสกลุ ไทยฯ
ที่มา โคลงสยามมานุสสติ
ผู้แต่ง พระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกล้าเจ้าอย่หู ัว
ลกั ษณะคำประพันธ์ ลักษณะบงั คบั ของโคลงสี่สุภาพ ๑. คณะ โคลงสี่สภุ าพบทหนง่ึ มี ๔ แตล่ ะบาท
ประกอบด้วยวรรค ๒ วรรค วรรคหน้า ๕ คำ วรรคหลัง ๒ คำ ยกเว้นวรรคหลังของบาทที่ ๔ จะมี ๔
คำ ในบาทที่ ๑ และ ๓ อาจมี คำสร้อยหรือไม่ก็ได้
แผนผังฉันทลักษณ์ บทร้อยกรองประเภท โคลงสีส่ ุภาพ
๑๐
วรรคทอง จากเร่อื ง สามคั คีเภทฉันท์
เอออเุ หมน่ ะมึงชิชา่ งกระไร
ททุ าสสถุลฉนี้ไฉน กม็ าเป็น
ศึก บ ถึงและมึงก็ยังมเิ ห็น
จะน้อยจะมากจะยากจะเย็น ประการใด
อวดฉลาดและคาดแถลงเพราะใจ
ขยาดขย้ันมทิ ันอะไร ก็หมิ่นกู
ทีม่ า สามคั คีเภทคำฉนั ท์
ผแู้ ตง่ นายชิต บุรทตั
ลักษณะคำประพันธ์ อีทิสังฉันท์ 20 เป็นฉนั ท์ที่มจี ังหวะกระแทกกระทั้น ฉะน้ันจงึ ใชแ้ ตง่ บรรยาย
ความรกั ความวิตก และความโกรธ
หน่งึ บทมี 20 พยางค์ แบ่งเปน็ 3 วรรค วรรแรก 9 พยางค์ วรรคสอง 8 พยางค์ และวรรคสุดท้าย 3
พยางค์ สง่ สัมผัสแบบกลอนสังขลิก
ลักษณะครุ-ลหุ คอื ครุ-ลหุ-ครุ-ลห-ุ ครุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ ลหุ-ครุ-ลห-ุ คร-ุ ลห-ุ ครุ-ลหุ-ครุ ลหุ-
ครุ-ครุ
แผนผงั ฉันทลกั ษณ์ บทร้อยกรองประเภท อีทิสงั ข์ฉนั ท์ ๒๐
อีทิสังฉันท์ 20 มีฉนั ทลักษณด์ งั น้ี: (+ คือ ครุ - คือ ลหุ)
+-+-+-+-+
-+-+-+-+ -++
แหล่งที่มา
กวีวัจนว์ รรณนา วรรคทองในวรรณคดีไทยพร้อมประวัติและคำอธิบาย กรงุ เทพฯ :
ราชบณั ฑติ ยสถาน,๒๕๕๗