The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Juntra Salapsi, 2023-10-05 22:55:14

Bill BernBach เขาคือใคร?

.

Who is he? เขาคือใคร?


คนทํางานครีเอทีฟเคยสงสัยไหมวาทําไม อารตไดฯ ตองทํางานคูกับ ก็อปปฯ Bill Bernbach คือผูริเริ่มครับ เขาเปนใครมาจากไหนและมาปฏิวัติวงการ โฆษณาไดอยางไร เรามาทําความรูจักชายคนนี้ใหมากขึ้นกันดีกวา Bill-Bernbachเกิดในป1911ที่มหานครนิวยอรกในชวงตนของอาชีพบิลเริ่มทํา งาน Copywriter เปนมือเขียนโฆษณาใหกับ Schenley บริษัท Whisky แหง หนึ่ง บิลเองเปลี่ยนงานอยูเรื่อยๆ หลายครั้ง แตจุดเปลี่ยนสําคัญที่ทําใหบิล สนใจเรื่อง Art เกิดขึ้นตอนที่บิลทํางานอยูที่เอเจนซี่ William Weintraub และ ไดพบกับ Paul Rand นักออกแบบกราฟกในตํานาน (Paul rand คือคนออก แบบโลโก IBM , NEXT, ฯลฯ) ตรงจุดนี้เองเปนครั้งแรกที่เขาไดสัมผัสการใช Copywriting และ Art direction ใหทํางานรวมกันอยางจริงจังเปนครั้งแรก บิลกับพอลทํางานเขาขา กันมากจน Paul Rand ชวนเขาไปทํางานดวยในที่สุด Bill Bernbach


แตชางนาเสียดายหลังจากทั้งสองทํางานรวมกันไดไมนานทั้งคูก็ตองแยกกันเพราะ บิลถูกเกณฑทหารในชวงสงครามโลกครั้งที่สองหลังจบสงครามเขาจึงคอยกลับเขา มาทํางานเปน Copywriter อีกครั้งที่ Grey Advertising จนกระทั่งไดขึ้นเปน Creative Director ในป 1947 แมบิลจะเติบโตในหนาที่การงานอยางดีในฐานะ Creative director และ Copywriter แตเขาก็มีความคิดที่อยากทําโฆษณาในแนวทางของตนเองอยูเสมอ นั่น คือการนํา Art กับ Copy ใหมาทํางานรวมกันอยางมีประสิทธิภาพ จนกระทั่งในป 1949 เขาจึงจับมือกับ James Edwin Doyle และ Maxwell Dane กอตั้งเอเจนซี่ของ ตนเองในชื่อ Doyle Dane Bernbach (ชื่อคุนๆ ใชมั๊ยละ เพราะวามันก็คือเอเจนซี่ DDB ที่เรารูจักกันในปจจุบันนี่เอง)เมื่อ Art กับ Copy รวมกันเปนครั้งแรก หลังจากบิลออกมาตั้งเอเจนซี่ของตัวเองแลว จุดนี้คือจุดที่บิลใช Art และ Copy ใหทํางานรวมกันอยางไมเคยเปนมากอน ในอดีต Copywriter ซึ่งเปนคนเขียน โฆษณาจะทํางานในหองที่มีแตนักเขียนดวยกัน เพื่อเขียนคําโฆษณาเพียงอยางเดียว เมื่อเขียนเสร็จแลวจึงคอยนําสงไปใหฝายศิลปเพื่อทําภาพประกอบ หรือนําภาพถา ยมาวางคูกันในภายหลัง แปลวาคนทําภาพจะยังไมเคยเห็นวิธีคิดงานมากอนจนกวา Copy ในงานจะเสร็จสมบูรณ บิลเลือกที่จะเปลี่ยนระบบทั้งหมดดวยการให Art director และ Copywriter นั่งทํา งานในหองเดียวกันเปนครั้งแรก! คือใหทั้งนักเขียนและคนทําภาพมานั่งทํางานขางๆ กัน ซึ่งชวยใหคนทําภาพสามารถสรางสรรคภาพที่เลาไอเดียของงานนั้นไดคมมากขึ้น และสงเสริม Copy ในภาพนั้น จนกลายมาเปนวิธีการทํางานมาตรฐานของเอเจนซี่ ในยุคใหมจวบจนปจจุบัน แนนอนวา ที่ DDB บิลไดมีโอกาสทํางานที่นาสนใจออกมามากมาย เรามาดูกัน ดีกวาวา เมื่อ Art กับ Copy ทํางานรวมกันอยางลื่นไหลแลวผลงานที่ออกมา จะเปนอยางไร และนี่ 3 ผลงานตัวอยางจาก DDB ภายใตการดูแลของ Bill Bernbach


ผลงานสุดคลาสสิกจาก Volkswagen ที่เปลี่ยนแปลงวงการโฆษณาไปอยางสิ้นเชิง โจทยของงานนี้ ในป 1959 ซึ่งเปนยุคชวงหลังสงคราม (หรือยุค Baby boomer ที่ คนกําลังเริ่มมีลูกกันจํานวนมาก) คือ บริษัท Volkswagen ตองการเขาทําตลาดใน สหรัฐอเมริกา แตภาพลักษณของรถ Volkswagen ก็ดันเปนรถขนาดเล็ก ไมเหมาะ กับครอบครัวขนาดใหญ รูปทรงก็แปลก ๆ แถมยังมีภาพลักษณการผลิตจากเยอรมัน โดยนาซี ซึ่งเปนศัตรูของอเมริกาสมัยสงครามโลกอีกดวย คันนี้กลายเปนที่สนใจจากผูบริโภคชาวอเมริกาได? ลองคิดถึงโฆษณารถยนตในยุค กอน จะเนนที่การเลาฟงกชันการใชงานวามีกี่แรงมา สวยแคไหน ดีแคไหน เนนภา พรถยนตใหญ ๆ ขอความเยอะ ๆ ดังที่เห็นตัวอยางโฆษณาของ EDSEL (ซาย) ทํายังไงแบรนดรถยนตรูปทรงแปลก ๆ


Click to View FlipBook Version