The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รวมเล่ม โครงงานกรอบรูปจากไม้ไอติม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Kitichat Bunsorn, 2021-12-28 21:36:11

รวมเล่ม โครงงานกรอบรูปจากไม้ไอติม

รวมเล่ม โครงงานกรอบรูปจากไม้ไอติม

รายงาน
เรือ่ ง กรอบรปู จากไมไ้ อตมิ

จัดทำโดย
นางสาวธติ ิมา สุภาวหา เลขท่ี 11

ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5/8

เสนอ
คุณครูชญาภา วรรณศรี

เอกสารเลม่ นี้เปน็ สว่ นหนง่ึ ของการเรียนรายวชิ า IS
ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564
โรงเรียนสำโรงทาบวิทยาคม

สำนักงานเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษามัธยมศึกษา เขต 33



บทคัดย่อ

เอกสารเล่มน้ีเปน็ สว่ นหนึง่ ของการเรียนรายวิชา IS ซงึ่ จดั ทำขึน้ เพื่อเปน็ แนวทางการลดขยะที่
เกิดข้ึนในปจั จบุ ัน โดยการนำขยะท่มี ีสภาพดีมาทำการประดิษฐ์เป็นของใชท้ ่ีมีประโยชน์ โดยผจู้ ดั ทำได้
เลอื กทำการศกึ ษาการใชป้ ระโยชนจ์ ากไมไ้ อติม ที่มอี ย่มู ากมายในโรงเรียนของผูจ้ ัดทำ ซง่ึ ทางผู้จัดทำ
ได้ทำการศึกษางานประดิษฐ์ “กรอบรูปจากไมไ้ อติม” โดยทำการรวบรวมขอ้ มูลจากแหลง่ ข้อมูลต่างๆ
ที่เกี่ยวข้องกับโครงงานน้ีไม่วา่ จะเปน็ ห้องสมุดโรงเรียนหรือจากเว็บไซร์แม้แต่สอบถามขอ้ มูลจากผู้ท่ี
พอจะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการจัดทำรายงานเล่มนี้ เพื่อให้ได้รายละเอียดที่มีประโยชน์ให้มาก
ทสี่ ุด

ด้วยเหตุนี้ผู้จัดทำได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาที่กล่าวมาข้างต้น ผู้จัดทำจึงได้จัดทำ
“กรอบรปู จากไม้ไอตมิ ” ข้นึ เพ่ือเปน็ การลดจำนวนถุงขยะท่ีเปน็ มลพษิ ต่อสิ่งแวดล้อม และยังเป็นการ
ส่งเสริมให้ผู้ที่มีความสนใจในเรื่องนี้สามารถใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ อีกทั้งยังช่วยฝึกสมาธิและ
ความอดทนอีกดว้ ย ท้ังนผี้ จู้ ัดทำหวังเป็นอย่างย่ิงว่าโครงงานคร้ังนี้จะสามารถนำความรู้ ทักษะท่ีได้ไป
ประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ จริง และนำไปตอ่ ยอดเป็นอาชพี เสรมิ ได้ตอ่ ไป

ผูจ ดั ทาํ
นางสาวธิติมา สภุ าวหา



กติ ติกรรมประกาศ

โครงงานนี้สำเร็จขึ้นได้จากการได้รับการชี้แนะ และใหค้ ำปรึกษาในการทำโครงงานให้มี
ผลงานสำเร็จตามเนื้อหาโครงงานเรื่อง “กรอบรูปจากไม้ไอติม” สำเร็จไปด้วยดี ผู้จัดทำขอขอบคุณ
คณุ ครู ชญาภา วรรณศรี ที่ให้คำปรกึ ษาดังกล่าวไว้ ณ โอกาสนี้เป็นอยา่ งยงิ่

ท้ายสุดนี้ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงงานนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาการเรื่อง
“กรอบรปู จากไม้ไอตมิ ” ของผ้สู นใจตอ่ ไป

ผจู ดั ทํา
นางสาวธติ มิ า สภุ าวหา

สารบญั ค

เรือ่ ง หนา้
กิตติกรรมประกาศ ก
บทคดั ยอ่ ข
สารบัญ ค
บทท่ี 1 บทนำ 1
1
1.1 ท่มี าและความสำคัญของโครงงาน 1
1.2 วัตถปุ ระสงค์ 1
1.3 สมมุตฐิ านของการศกึ ษาคน้ ควา้ 1
1.4 กลุม่ เป้าหมาย 1
1.5 ระยะเวลาดำเนนิ การ 1
1.6 ประโยชนท์ ่คี าดว่าจะได้รับ 2
บทที่ 2 เอกสารเก่ียวข้อง 2
2.1 ความหมายของขยะ 4
2.2 ความหมายของส่ิงประดษิ ฐ์ 7
2.3 ประวตั ิไอติม 11
บทที่ 3 วิธีดำเนินการ 11
3.1 อปุ กรณ์ 11
3.2 ขั้นตอนการทำ 12
บทที่ 4 ผลของการดำเนินโครงงาน 12
4.1 ผลการทำโครงงาน 12
4.2 ผลการนำไปใช้งาน 13
บทที่ 5 สรุปผล และขอ้ เสนอแนะ 13
5.1 สรุปผลการดำเนินโครงการ 13
5.2 ปญั หาและอุปสรรคในการทดลอง 13
5.3 ข้อเสนอแนะและแนวทางในการพัฒนา ฮ
บรรณานกุ รม
ภาคผนวก

บทท่ี 1
บทนำ

1.1 ที่มาและความสำคญั ของโครงงาน

ไม้ไอศกรีมที่เราทิ้งไปกลายเป็นขยะที่มีมากในโรงเรียนและใน เราสามารถนำไม้ไอศกรีม
เหล่านี้มาประดิษฐ์เป็นของใช้ของประดับตกแต่งโดยให้ผู้เรียนเล็งเห็นคุณค่าของเศษวัสดุและเห็น
แนวทางจากของจรงิ แล้วให้ผู้เรยี นวางแผนออกแบบจัดเตรยี มวัสดุ–อปุ กรณ์จนถงึ ข้ันปฏิบัติงานพร้อม
ทั้งรายงานผลการปฏิบัติงานที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้สร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเองพร้อมทั้งพัฒนา
ความคดิ สร้างสรรคจ์ ากการปฏิบตั ิกจิ กรรมที่ตนเองและเพือ่ น สนใจและรว่ มงานวางแผนไว้

1.2 วตั ถุประสงค์

1.2.1 เพอื่ ให้นกั เรยี นสามารถวางแผนและออกแบบการทำกรอบรูปจากไมไ้ อศกรไี ด้
1.2.2 เพอ่ื ให้นักเรียนสามารถบอกข้ันตอนการทำกรอบรูปจากไมไ้ อศกรมี
1.2.3 เพื่อให้นกั เรียนสามารถนำเศษวัสดเุ หลือใช้มาดัดแปลงใหเ้ กดิ ประโยชน์ได้
1.2.4 เพื่อใหน้ ักเรียนรู้จักการทำงานรว่ มกับผ้อู ื่นและมคี วามสามัคคีในหมคู่ ณะ
1.2.5 เพอ่ื ให้นักเรียนได้เรยี นร้ตู ามความสนใจและเกิดความภาคภูมิใจในผลงานของตน

1.3 สมมตุ ิฐานของการศกึ ษาคน้ คว้า

เศษวัสดเุ หลือใช้เช่นไม้ไอศกรมี สามารถนำมาดัดแปลงตกแตง่ ให้เกิดประโยชน์ได้

1.4 กลมุ่ เป้าหมาย

นักเรียนและโรงเรยี นทแี่ ต่ละวันจะมจี ำนวนของขยะและไมไ้ อติมที่ได้ จะมจี ำนวนมากมาย

1.5 ระยะเวลาดำเนินการ

1 ธนั วาคม 2564 ถึง 25 ธนั วาคม 2564

1.6 ประโยชนท์ ่คี าดวา่ จะได้รับ

1.6.1 ได้ชว่ ยลดจำนวนขวดพลาสตกิ และขยะ
1.6.2 ไดใ้ ชค้ วามคิดสร้างสรรค์
1.6.3 ได้ลดโลกร้อน
1.6.4 ไดท้ ำงานเป็นกลุ่ม

2

บทที่ 2
เอกสารทเี่ ก่ยี วขอ้ ง

2.1 ความหมายของขยะ

พระราชบญั ญตั สิ าธารณสขุ พ.ศ. 2535 ใหค้ ำจำกัดความ มูล ฝอย หมายถงึ ส่ิงต่าง ๆ ทเี่ รา
ไม่ต้องการ ที่เป็นของแข็งหรืออ่อน มีความชื้น ได้แก่ เศษกระดาษ เศษผ้า เศษอาหาร ถุงพลาสติก
ภาชนะกล่องใส่อาหาร เถ้า มูลสัตว์ หรือซากสัตว์รวมตลอดถึงวัตถุอื่น สิ่งใดท่ีเก็บกวาดได้จากถนน
ตลาด ท่เี ลย้ี งสตั วห์ รอื ท่ีอนื่

ตามพระราชบัญญตั ิสง่ เสรมิ และรกั ษาคุณภาพส่ิงแวดล้อม พ.ศ. 2535 ให้คำจำกัดความของ
คำว่า ของเสยี หมายความวา่ ขยะมูลฝอย สิ่งปฏกิ ลู น้ำเสีย อากาศเสยี มลสารหรือวตั ถุอันตรายอ่นื ใด
ซง่ึ ถกู ปลอ่ ยท้งิ หรือมีทีม่ าจากแหล่งกำเนิดมลพษิ รวมทัง้ กากตะกอนหรือสิง่ ตกคา้ งจากสิ่งเหล่าน้ัน ที่
อยู่ในสภาพของแข็งของเหลวหรือก๊าซในทางวิชาการจะใช้คำว่า ขยะมูลฝอย ซึ่งหมายถึง บรรดา
สิ่งของที่ไม่ต้องการใช้แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นของแข็ง จะเน่าเปื่อยหรือไม่ก็ตาม รวมตลอดถึง เถ้า
ซากสัตว์ มูลสัตว์ ฝุ่นละออง และเศษวัตถุที่ทิ้งแล้วจากบ้านเรือน ที่พักอาศัย สถานที่ต่าง ๆ รวมถึง
สถานท่ีสาธารณะ ตลาดและโรงงานอตุ สาหกรรม ยกเวน้ อจุ จาระ และปสั สาวะของมนุษย์ ซ่ึงเป็นสิ่ง
ปฏิกลู วิธจี ดั เก็บและกำจดั แตกตา่ งไปจากวิธกี ารจัดขยะมูลฝอย ปจั จุบัน วิทยาการกา้ วหน้า ประชากร
เพม่ิ อยา่ งรวดเร็ว อตั ราการใช้ที่ดินเพ่ิมขน้ึ เพื่อผลิตเครอ่ื งอุปโภค บริโภค อาหาร ท่ีอยู่อาศัย เป็นเหตุ
ให้เศษสิ่งเหลือใช้มปี ริมาณมากขึ้น กอ่ ให้เกิดปัญหาของขยะมลู ฝอย

ขยะ หรือ มูลฝอย หรือ ของเสีย เป็นเหตุสำคัญประการหนึ่งที่ก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม
และ มีผลต่อสุขภาพอนามัย มูลฝอยหรือของเสียกำลังมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นทุกปี เพราะสาเหตุจาก
การเพิ่มของประชากร การขยายตัวทางเศรษฐกิจและทางอุตสาหกรรม นับเป็นปัญหาที่สำคัญของ
ชมุ ชนซึ่งตอ้ งจัดการและแก้ไข ปริมาณกากของเสยี และสารอนั ตราย ไดแ้ ก่ ขยะมลู ฝอย ส่งิ ปฏกิ ูล และ
สารพิษที่ปนเปื้อนอยู่ในแหล่งน้ำ ดิน และอากาศ ตลอดจนบางส่วนตกค้างอยู่ในอาหาร ทำให้
ประชาชนทวั่ ไปเสี่ยงตอ่ อนั ตรายจากการเป็นโรคตา่ ง ๆ เช่น โรคมะเร็ง และ โรคผดิ ปกตทิ างพันธุกรรม
เป็นตน้

สถานที่บางแห่งก็มีคนทิ้งขยะกันตามสะดวก โดยนำไปเทกองรวมกันไว้ริมทางเดินบ้าง โคน
ต้นไมบ้ า้ ง ทำใหม้ กี ารหมกั หมมเนา่ เปอื่ ยสง่ิ กลิน่ เหม็นคลงุ้ บางคร้งั อาจมองเห็นหนอนจำนวนมากมาย
ไต่ยั้วเย้ียออกมาจากกองขยะ ดูน่าขยะแขยง นอกจากนั้นกองขยะยงั เป็นแหล่งชมุ นุมของสัตว์นำโรค
สารพดั ชนิด เช่น ยุง แมลงวนั หนู แมลงสาบ ฯลฯ ยามทฝี่ นตกลงมาน้ำฝนก็ชะเอาส่ิงสกปรกเน่าเหม็น
ในกองขยะไหลไปยงั พ้นื ทีใ่ กล้เคียง และอาจจะไหลลงท่อระบายนำ้ และแม่น้ำลำคลองใกล้ ๆ อีกดว้ ย

3

การทิ้งขยะลงท่อระบายนำ้ ทำให้เกิดผลเสียอย่างร้ายแรง คือ ทำให้ท่อระบายน้ำอุดตัน เม่ือ
ฝนตกก็ไม่สามารถระบายน้ำฝนได้ จึงเกิดสภาพน้ำท่วมขังตามถนนสายต่าง ๆ ตามตรอกซอกซอย
และผลที่ตามมาก็คือ การเดินทางไปมาตามเส้นทางเหล่านั้นลำบากขึ้น การจราจรก็ติดขัดและถนน
หนทางอาจจะไดร้ บั ความ เสยี หาย ซึง่ เม่ือน้ำลดลงสู่สภาพปกตกิ ต็ ้องซอ่ มแซมใหม่ ทำให้ตอ้ งสน้ิ เปลือง
งบประมาณ

บา้ นเรอื นที่มขี ยะมลู ฝอยรกรุงรงั อยู่ภายในบา้ นเรอื นบริเวณบ้าน นอกจากจะดูสกปรกไม่น่าดู
อยแู่ ลว้ กย็ งั เปน็ ทีช่ มุ นุมของหนู แมลงวัน แมลงสาบ ซงึ่ เปน็ พาหะนำโรคทางเดินอาหารมาสู่คน และ
ยงั กอ่ ความรำคาญให้อกี ด้วยประเภทของขยะ

(1) ขยะย่อยสลาย หรือ มูลฝอยย่อยสลาย คือ ขยะที่เน่าเสียและย่อยสลายได้เร็ว สามารถ
นำมา หมักปุ๋ยได้ เช่น เศษผัก เปลือกผลไม้ เศษอาหาร ใบไม้ เศษเนื้อสัตว์ เป็นต้น แต่ไม่รวมถงึ ซาก
หรือเศษของพืช ผกั ผลไม้ หรอื สัตว์ทเี่ กิดจากการทดลองในห้องปฏบิ ัติการ เปน็ ตน้

(2) ขยะรีไซเคิล หรือ มูลฝอยท่ียงั ใชไ้ ด้ คอื ของเสยี บรรจภุ ัณฑ์ หรือวสั ดเุ หลือใช้ ซึ่งสามารถ
นำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ได้ เช่น แก้ว กระดาษ กระป๋อง เครื่องดื่ม เศษพลาสติก เศษโลหะ
อลูมิเนยี ม ยางรถยนต์ กล่องเครือ่ งดมื่ แบบ UHT เป็นต้น

(3) ขยะทั่วไป หรือ มูลฝอยทั่วไป คือ ขยะประเภทอื่นนอกเหนือจากขยะย่อยสลาย ขยะรี
ไซเคิล และขยะอันตราย มีลีกษณะที่ย่อยสลายยาก และไม่คุ้มค่าสำหรับการนำกลับมาใช้ประโยชน์
ใหม่ เช่น ห่อพลาสติกใส่ขนม ถุงพลาสตกิ บรรจุผงซักฟอก พลาสติกห่อลกู อม ซองบะหมี่ก่ึงสำเร็จรูป
ถงุ พลาสติก เปือ้ นเศษอาหาร โฟมเปือ้ นอาหาร ฟอยลเ์ ปอื้ นอาหาร ซองหรอื ถุงพลาสตกิ สำหรับบรรจุ
เครื่องอุปโภคดว้ ยวิธรี ดี ความรอ้ น เปน็ ต้น

(4) ขยะอันตราย หรือ มูลฝอยอันตราย คือ มูลฝอยที่ปนเปื้อน หรือมีองค์ประกอบของวตั ถุ

ดังต่อไปน้ี

❖ วตั ถรุ ะเบดิ ได้ ❖ วตั ถกุ มั มนั ตรงั สี

❖ วัตถไุ วไฟ ❖ วตั ถทุ ่ีกอ่ ใหเ้ กิดกำรเปลี่ยนแปลงทำง
พนั ธุกรรม
❖ วตั ถอุ อกไซตแ์ ละวตั ถเุ ปอรอ์ อกไซต์
❖ วตั ถมุ ีพิษ ❖ วตั ถกุ ดั กรอ่ น
❖ วตั ถทุ ี่ทำใหเ้ กิดโรค ❖ วตั ถทุ ่กี อ่ ใหเ้ กิดกำรระคำยเคอื ง

4

วตั ถอุ ย่างอน่ื ทอ่ี าจกอ่ ใหเ้ กิดผลกระทบตอ่ คุณภาพสงิ่ แวดล้อมหรืออาจทำให้เกิดอันตรายแก่
บคุ คล สัตว์ พชื หรอื ทรัพย์ เชน่ หลอดฟลอู อเรสเซนต์ ถา่ ยไฟฉายหรือแบตเตอรี่ โทรศพั ท์เคลื่อนท่ี
ภาชนะท่ใี ชบ้ รรจุสารกำจดั แมลงหรือวชั พชื กระป๋องสเปรย์บรรจสุ หี รือสารเคมี เป็นตน้ การนำขยะ
กลับมาใชป้ ระโยชน์

การนำขยะมูลฝอยกลบั มาใช้ประโยชน์ใหม่มอี ย่หู ลายวิธขี น้ึ อยู่กับสภาพและลักษณะสมบตั ิ
ของขยะมูลฝอยซงึ่ สามารถสรุปได้เปน็ 5 แนวทางหลกั ๆ คอื

1. การนำขยะมูลฝอยกลบั มาใช้ประโยชน์ใหม่ (Material Recovery) เปน็ การนำมูลฝอยท่ี
สามารถคัดแยกได้กลบั มาใช่ใหม่ โดยจำเปน็ ตอ้ งผ่านกระบวนการแปรรปู ใหม่ (Recycle)
หรือแปรรูป (Reuse) กไ็ ด้

2. การแปรรปู เพอื่ เปลี่ยนเป็นพลงั งาน (Energy Recovery) เปน็ การนำขยะมลู ฝอยท่ี
สามารถเปล่ยี นเป็นพลังงานความรอ้ นหรือเปล่ยี นเปน็ รูปก๊าซชีวภาพมาเพื่อใชป้ ระโยชน์

3. การนำขยะมลู ฝอยจำพวกเศษอาหารที่เหลือจากการรบั ประทานหรือการประกอบอาหาร
ไปเลยี้ งสัตว์

4. การนำขยะมูลฝอยปรบั ปรุงพนื้ ท่โี ดยนำขยะมูลฝอยมากำจดั โดยวิธีฝงั กลบอยา่ งถกู หลัก
วชิ าการ (Sanitary landfill) จะไดพ้ น้ื ที่สำหรับใช้ปลกู พืช สรา้ งสวนสาธารณะ สนาม
กฬี า เปน็ ตน้

5. การนำขยะมูลฝอยไปปรับสภาพใหม้ ีประโยชน์ต่อการบำรงุ รักษาดนิ เชน่ การนำขยะมลู
ฝอยสดหรอื เศษอาหารมาหมกั ทำปุ๋ย

2.2 ความหมายของส่ิงประดิษฐ์

ความหมายของงานประดิษฐ์ หมายถึง งานที่เกิดจากการใช้ความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์
สร้างหรอื ประดษิ ฐ์ขึน้ ตามวัตถปุ ระสงคท์ ี่หลากหลาย หรอื เพ่ือความสวยงาม หรือประดับตกแต่งหรือ
เพื่อประโยชน์ใช้สอย

ความเป็นมาของงานประดิษฐ์ สิ่งประดิษฐ์เกิดขึ้นเพราะมนุษย์เป็นผู้สร้างผู้พัฒนา ปรับปรุง
และเปลีย่ นแปลงแบบ ผลงานดว้ ยความคิดสรา้ งสรรคท์ ่ีมอี ยู่ในแตล่ ะบุคคล มีวัตถุประสงคใ์ นการสร้าง
สิ่งประดิษฐ์เพื่อตอบสนอง ความต้องการด้านประโยชน์ใช้สอย งานประดิษฐ์มีความสัมพันธ์และ
เกย่ี วขอ้ งกบั ชวี ติ ประจำวนั ของคนไทยตงั้ แต่สมัยโบราณ เก่ียวข้องกับขนบธรรมเนียมและประเพณที าง
ศาสนา

หลักการสร้างสรรค์งานประดิษฐ์ การสร้างสรรค์งานประดิษฐใ์ ห้ประดิษฐใ์ หป้ ระสบผลสำเร็จ
นัน้ ผเู้ รียนตอ้ งมคี วามพึงพอใจ ในการทำงาน โดยยึดหลกั การดงั น้ี

1. หมั่นศึกษาหาความรู้ในงานที่ตนเองสนใจ โดยศึกษาจากผู้เชี่ยวชาญการในชุมชนการ
โรงเรยี น จากตัวอย่างสิ่งประดิษฐ์ทส่ี นใจ

5

2. ศึกษาหลักการ วิธีการ หรือขั้นตอนการปฏิบัติงาน ในการประดิษฐ์ชิ้นงานโดยการ
วิเคราะห์ ดว้ ยตนเองหรอื ศึกษาจากผู้รู้ ผูเ้ ช่ียวชาญ หรอื จากส่อื ต่าง ๆ เชน่ วารสาร หนังสอื เป็นตน้

3. ทดลองการปฏิบตั กิ ารประดิษฐ์ ผเู้ รยี นตอ้ งศกึ ษาค้นคว้าและทดลองปฏบิ ตั ติ ามแนวคิดที่ได้
สร้างสรรคไ์ ว้ และมกี ารปรับปรงุ แก้ไข ข้อบกพร่องจนสำเร็จเปน็ ชนิ้ งานประดิษฐท์ ่ีพงึ พอใจ

ทม่ี าและความสำคญั ของส่ิงประดิษฐ์

ในปัจจุบันโลกของเราพัฒนาไปอยา่ งรวดเร็วมาก พร้อมกันนัน้ โลกของเราก็เปลี่ยนแปลงไป
เชน่ กนั โลกรอ้ นขน้ึ เพราะมนุษย์ใช้ทรัพยากรอยา่ งสนิ้ เปลืองไม่คำนึงถึงว่าทรัพยากรจะหมดหรือสูญ
หายไปจากโลกนี้ กลุ่มของพวกเราจึงคิดประดษิ ฐ์ส่ิงของเหลือใช้จากวัสดุเหลือใช้ เช่นกระป๋องเบยี ร์
ขวดพลาสตกิ นำสง่ิ ทพ่ี วกเราหลายคนๆคิดว่าเปน็ ขยะมาทำเปน็ ของท่นี ่าสนใจข้ึนมา โครงงานช้นิ น้ียัง
เดนิ ตามรอยพ่อหลวงของเราน่ันคือเศรษฐกิจพอเพียงซงึ่ เป็นเปน็ เศรษฐกิจพอเพียงท่ีผสมผสานหลาย
สิ่งหลายอย่างเข้าด้วยกัน เป็นการบูรนาการเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงเข้ากับเรื่องของภาวะโลกร้อน
การสรา้ งสรรค์ผลงานประดิษฐ์จากเศษวัสดุทีย่ ่อยสลายยาก จากวสั ดุเหลอื ใชป้ ระเภทพลาสติก ซ่งึ เปน็
ของเหลอื ใช้หรือขยะทม่ี ีอยู่ทกุ ท่ี ซงึ่ นบั วนั ปรมิ าณจะเพิม่ ขนึ้ เร่ือยๆ ดังนั้นการประดิษฐ์จากเศษวัสดุที่
ย่อยสลายยากจากขยะประเภทพลาสตกิ จงึ เป็นวธิ หี น่ึงที่จะช่วยลดปรมิ าณขยะและนำของเหลือใช้น้ี
มาใช้หรือดดั แปลงใหเ้ กดิ ประโยชน์ได้ โดยนำมาประดิษฐเ์ ปน็ ของเล่น ของประดับตกแต่ง และของใช้
ต่างๆ เพ่อื เปน็ การสรา้ งความรคู้ วามเข้าใจและสรา้ งจติ สำนึกทีด่ ีต่อการรักษาสิง่ แวดล้อม อกี ทั้งยงั เป็น
การนำเศษสงิ่ ของเหลือใชม้ าประดษิ ฐ์เป็นของใช้ของตกแตง่ แทนการท้งิ ให้สูญเปล่า ซึง่ จะมีผลกระทบ
ต่อสภาพแวดล้อมในชุมชน และช่วยลดการเกิดภาวะโลกร้อน ขอเชิญชวนพวกเรานักประดิษฐ์
สร้างสรรค์ทุกท่านช่วยกันนำเศษวัสดุเหลือใช้ หรือวัสดุที่เป็นขยะต่างๆ นำมาคิดค้นประดิษฐ์เป็น
สิ่งของรปู แบบต่างๆ เพ่อื ช่วยลดปรมิ าณขยะที่ยอ่ ยสลายยากใหล้ ดลง และลดปริมาณการผลติ สิง่ ที่เป็น
เหตุของการเกดิ ภาวะโลกรอ้ นข้นึ และชว่ ยกันประชาสัมพันธ์บอกต่อๆ กันใหท้ ราบวา่ วสั ดเุ หลอื ใช้ เศษ
วัสดุ และขยะยังมคี ่าสามารถนำมาใชท้ ำประโยชนไ์ ด้อีกมากมาย ถ้าเราคดิ ค้นสรา้ งสรรค์ช้ินงานต่างๆ
ใหส้ วยงามและคงคณุ ค่าไว้ไดแ้ ละท่ีสำคญั เพอ่ื เป็นการช่วยลดภาวะโลกรอ้ น ประเภทของงานประดษิ ฐ์

1. งานประดิษฐ์ท่เี ปน็ เอกลกั ษณไ์ ทย

1.1 งานประดิษฐ์ดว้ ยดอกไม้สด
1.2 งานประดษิ ฐด์ ้วยใบตอง
1.3 งานแกะสลกั พชื ผกั และผลไม้
1.4 งานจกั สาน

2. งานประดิษฐ์ท่ัวไป

2.1 งานปนั้

6

2.2 งานประดิษฐด์ อกไม้ ต้นไมด้ ว้ ยกระดาษหรอื ผา้
2.3 งานประดษิ ฐ์จากเศษวัสดุหรอื วสั ดเุ หลือใช้
2.4 งานประดิษฐ์จากวสั ดธุ รรมชาติ

การออกแบบงานประดิษฐ์

การออกแบบงานประดษิ ฐ์ เปน็ การสรา้ งรปู ลกั ษณข์ องชิ้นงาน โดยอาศยั ความคดิ สร้างสรรค์
ความรู้ความเข้าใจ ในหลักการออกแบบและนำมาใช้ ทำใหก้ ารออกแบบชนิ้ งานน้ันมคี ณุ ค่าและนา่ สน
ในยิง่

1. การออกแบบ หมายถึง การทำต้นแบบ หรือการทำโครงสร้างของชิ้นงานที่ต้องการ
ประดิษฐ์ เพื่อให้ได้ผลงานสำเร็จตามที่มุ่งหวัง โดยการเลือกวัสดุ เลือกสี ที่นำมาใช้ให้เหมาะสม
สวยงาม

2. ท่ีมาของการออกแบบงานประดิษฐ์
2.1 การศกึ ษาแบบของงานท่ตี นสนใจจากหนงั สอื นติ ยสารแล้วทดลองปฏิบัติ
2.2 การดัดแปลงแบบที่มีอยู่เดิม หรือแบบตัวอย่างโดยทำการศึกษาแบบ จนเกิด

ความเข้าใจ จงึ ปฏบิ ัตกิ ารสร้างแบบ โดยการนำเอาแนวความคดิ หรอื ความคดิ สรา้ งสรรค์ของตนเองไป
ผสมผสานทำใหไ้ ดแ้ บบทเ่ี ป็นเอกลกั ษณ์เฉพาะไมเ่ หมือนใคร

2.3 การออกแบบด้วยตนเองคอื การออกแบบที่เกิดจากแนวคิดของตนเองและ
ทดลองปฏิบตั ิสรา้ งแบบจนได้แบบท่สี วยงาม เหมาะสมตามความต้องการ

งานประดษิ ฐ์ทวั่ ไป

งานประดิษฐท์ ีเ่ กิดจากแนวความคดิ หรอื ความคิดสร้างสรรค์ที่มงุ่ สรา้ งผลงานโดยมี
จดุ ม่งุ หมายอย่างใดอยา่ งหน่ึง

– ประดษิ ฐเ์ พ่ือเป็นของเลน่
– ประดษิ ฐเ์ พ่ือเป็นของใช้
– ประดิษฐ์ของตกแตง่ บา้ น

ประโยชนข์ องงานประดิษฐ์

1. งานประดษิ ฐ์มีความสัมพนั ธเ์ กยี่ วข้องกับชีวิตประจำวนั ของไทย
2. งานประดิษฐ์มีความสัมพันธเ์ กีย่ วข้องขนบธรรมเนยี มและประเพณที างศาสนา
3. งานประดษิ ฐช์ ่วยใหเ้ กดิ ความรัก ความสามคั คใี นหมคู่ ณะ
4. งานประดษิ ฐ์ชว่ ยให้การทำงานของสมองและประสาทสมั ผัสประสานสัมพนั ธ์กัน

7

5. ใชเ้ ป็นเคร่ืองประดับตกแต่ง ของเล่น ของขวัญทีร่ ะลึก
6. รจู้ กั ใช้เวลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์
7. เปน็ การฝึกลักษณะนิสัยในการทำงานใหม้ ีความอดทน

2.3 ประวตั ไิ มไ้ อติม

เลา่ กนั ว่า"ไอตมิ "มีตน้ กำเนดิ มาจากดนิ แดนในตา่ งประเทศ ท้งั นไ้ี ด้แพรก่ ระจายเขา้ มาในประเทศ
ไทยเมื่อสมยั รชั กาลท่ี 5 ในสมัยนั้นสว่ นใหญจ่ ะใช้รบั ประทานกันแต่ภายในวังเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจาก
ไอศกรีมเป็นอาหารหวานที่ทันสมัยหรืออาจจะเรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมให้มาก็ว่าได้ ใครได้ลอง
รบั ประทานไอศกรมี ในสมัยน้ันกถ็ ือว่า เป็นคนท่ีก้าวลำ้ นำสมยั ไปโดยปรยิ าย

สบื สาวต้นกำเนิดไอศกรมี ยุคโบราณ

จุดเริ่มต้นของไอศกรมี ในระดับสากล นายโทมัส อาร์ควินน่ี เล่าว่า การรับประทานไอศกรมี
น่าจะเริ่มต้นกันมาตั้งแต่สมัยจักรพรรดิเนโรห์ แห่งอนาจักรโรมันที่ได้พระราชทานเลี้ยงไอศกรีมแก่
เหลา่ ทหารหาญที่อยใู่ นกองทพั ของพระองค์ แตใ่ นขณะนนั้ ไอศกรมี เกิดจากเป็นการนำหิมะมาผสมเข้า
กับน้ำผึ้งและผลไม้ ต่อมาเรียกไอศกรีมประเภทนีว้ ่า เชอร์เบ็ท(Sherbet)นั่นเอง แต่ตำนานนี้ก็หาได้
เปน็ แคต่ ำนานเดียวทเ่ี ลา่ สืบตอ่ กนั มาถึงตน้ กำเนิดของไอศกรมี ไม่ หากแต่บางกระแสกร็ ะบุวา่ บรรพชน
ของคนจีนค้นพบไอศกรีมเป็นครั้งแรก เมื่อประมาณ 4,000 ปีที่ผ่านมา ซึ่งลักษณะของไอศกรีมใน
ประเทศจีนทำมาจากข้าวบดผสมกับนมสดที่เย็นจนเป็นนำแข็ง และได้มีการสอนให้ทำไอศกรีมให้กบั
คนอนิ เดยี และชาวเปอรเ์ ชียอีกด้วย การก่อกำเนดิ ไอศกรีมตามตำนานประเทศจนี ระบวุ ่า เปน็ เรือ่ งของ
ความบังเอญิ แทๆ้ ทั้งนีเ้ ป็นทีท่ ราบกันดวี า่ ประเทศจนี ในสมัยนน้ั เพิ่งจะมกี ารรู้จกั รดี นมจากสัตว์เล้ียงที่
อยู่ในฟารม์ เมอื่ รดี ออกมาจำนวนมากก็บริโภคไมห่ มด ประกอบกับนำ้ นมเป็นสินค้าท่มี ีราคาแพงมากๆ
คนชั้นสูงเห็นท่าไม่ดจี งึ เกิดแนวคิดนำนำ้ นมไปหมกซอ่ นไว้ในหิมะนัยว่าเพื่อ

ต้องการที่จะถนอมน้ำนมเอาไว้รับประทานได้นานๆ เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญแท้ๆ จนกระทั่ง
น้ำนมทีน่ ำไปหมกไว้ในหิมะกลายเป็นนมแช่แข็งข้ึนมาในบัดดล จากนั้นก็มีการพัฒนารูปแบบจากนม
แช่แข็งที่แสนจะสุดธรรมดาให้กลายเป็นน้ำผลไม้แช่แข็ง ในส่วนของราชวงศ์โมกุลได้นำเอานมต้มมา
ผสมกับถั่วพิสตาซิโอจนเกิดเป็นของหวานแช่แข็งเรียกกันว่า Kulfi ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นแบบแผนของ
ไอศกรีมในยุคโบราณ จนปลายศตวรรษท่ี 13 มาร์โคโปโล เดินทางไปจีน และชื่นชอบ จึงนำสูตร
กลับไป อิตาลีขณะเดินทางมกี ารเติมนมลงไป กลายเป็นสูตร ของเขาโดยเฉพาะ และแพร่หลายไปใน
อิตาลี ฝรั่งเศสและขา้ มไปองั กฤษ

คนอิตาลีถือว่าตนเองเป็นต้นตำรับไอศกรีมแบบที่นำมาปั่นให้เย็นจนแข็ง เรียกว่าเจลาติ
(Gelati) ประเทศอิตาลีและมีการพัฒนาไปมากจนทำให้อิตาลีได้ชื่อว่าเป็นแหล่งไอศกรีมเลิศรสเลย

8

ทีเดียว ขณะเดียวกันคนอิตาลีมกั จะทึกทักเอาวา่ บรรพชนของตนเป็นคนค้นพบไอศกรีมเป็นคร้งั แรก
เสมอมาแถบยโุ รปประมาณ ค.ศ.1670 ฟรานเอสโก ไดน้ ำไอศกรมี ไปจำหนา่ ยภายในร้านกาแฟของเขา
เพื่อใหบ้ รกิ ารลูกค้าของเขาปรากฏว่าได้รับความสนใจกนั อย่างกวา้ งขวางมากทีเดยี วไอศกรีมได้รับการ
พัฒนากระบวนการผลติ ขึ้น

เรอื่ ยๆ จนกระทง่ั ค.ศ.1846 นางแนนซี่ จอหน์ สนั ก็สามารถสร้างเครื่องผลติ ไอศกรีมขนึ้ มาได้เป็นครั้ง
แรก และนับเปน็ จดุ ทีท่ ำให้ไอศกรมี เผยแพร่เข้าไปท่ัวโลกกว็ ่าได้

เส้นทางการแพร่หลายของเจ้าไอติม ที่น่าสนใจก็คือเมื่อประมาณศตวรรษที่ 14 ไอศกรีมได้
แพร่หลายเข้าไปในประเทศเทศอิตาลีและฝรั่งเศส ซึ่งในประวัติศาสตร์ ของไอศกรีมช่วงนี้ระบวุ ่า ใน
งานฉลองอภิเษกสมรสระหว่างแคเธอรีน เดอ เมดิซี แห่งเวนิชกับกษัตริย์เฮนรี่ที่ 2 ของฝรั่งเศสได้มี
การนำ ของหวานกึ่งแช่แขง็ มาเสรฟิ แขกเหรอื ท่ีมารว่ มงาน สำหรบั รปู ร่างหนา้ ตาเหมือนกับไอศกรีมไม่
มีผิดเพย้ี น และนกี้ เ็ ป็นอกี จุดหน่งึ ทำให้ ไอศกรีมกลายเป็นของหวานของคนค่อนโลกไปโดยปริยาย

เล่ากันว่าในชว่ งแรกๆที่มีไอศกรีมตอ้ งผ่านการผลิตทีค่ ่อนข้างจะยุ่งยากเนื่องจากต้องใช้เวลา
และต้องลงแรงตามสมควร เมื่อได้ผลิตผลจากการลงแรงท่ีเป็นไอศกรีมเยน็ เฉยี บแล้ว ก็ต้องเกณฑ์คน
มาช่วยกันรับประทานให้หมดมิเช่นนั้นแล้วไอศกรีมก็จะละลายกลายเป็นน้ำไปในเวลาอันรวดเร็ว
กลายเปน็ การลงทนุ ท่ีสูญเปล่าในที่สุด การแพรห่ ลายของไอศกรมี จากฝรงั่ เศสเขา้ ไปอเมริกา ในช่วง
ต้นศตวรรษที่ 17 จนไอศกรีมกลายเป็นของหวานที่ผู้คนชื่นชอบกันมากในช่วงนี้ ตำนานไอศกรีมใน
สหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะ "ไอศกรีมซันเดย์" ได้ถือกำเนิดขึ้นท่ามกลางความอึมครึมเนื่องจากยังไม่มี
ขอ้ สรปุ ท่ีแนช่ ดั วา่ เกิดข้ึนในรัฐไหนกนั แน่ แตท่ ่แี นๆ่ ในราวๆปี พ.ศ. 2435 ไอศกรีมซันเดย์ได้ถือกำเนิด
ขึน้ ท่ามกลางความต่ืนเตน้ ของอเมริกันชนสมัยนัน้ อยา่ งถ้วน

ความรเู้ กย่ี วกบั ไอศกรีมชนิดตา่ งๆ

ไอศกรีม เป็นของหวานแช่แข็ง มีส่วนประกอบสำคัญ คือ นม ไขมัน น้ำตาล ผสมกับ
เครือ่ งปรุงรสอื่นๆไอศกรีมมีหลายชนดิ สามารถแบง่ ตามชนิดตา่ งๆ ได้ดงั น้ี

1. ไอศกรีม ( lce Cream ) มีส่วนผสมของนม น้ำตาล ไขมันและเครื่องปรุงรส อื่นๆเช่น
ชอ็ กโกแลตวานลิ ลากาแฟหรือผลไม้เชน่ สตรอเบอร์รี่ขา้ วโพดเผอื กเปน็ ส่วนประกอบไอศกรีมพรีเม่ียม
มีส่วนผสมของไขมันมากที่สุด ในประเภทของ ไอศกรีมทุกชนิด การบริโภคไอศกรีมทั่วโลกคิด
เปน็ 70%ของบรมิ าณของหวาน แชแ่ ขง็ ท้ังหมด

2. ไอศกรีมหวานเย็นผสมนม (Milk lce or lce Milk) มีปริมาณไขมันน้อยกว่า ไอศกรมี มี
ส่วนผสมของนม น้ำตาลและเครื่องปรุงรสอื่นๆ สามารถผลิต ไอศกรีม ชนิดนี้ใด้ทั้งแบบเนื้อนุ่มและ
แบบเน้ือแขง็

9

3. เชอร์เบท (Sherbet) ไม่มีไขมัน มีส่วนผสมสำคัญคือน้ำผลไม้และน้ำตาล มีนมเป็น
สว่ นประกอบเพียงเลก็ น้อยรสชาติออกเปร้ียวและหวาน เนอ้ื ไอศกรมี เชอรเ์ บทเหนียว เนียนละเอียด
สีสวยสดใส

4. ซอร์เบท์ (Sorbet) ไม่มีไขมัน มีสว่ นผสมสำคัญ คอื ผลไม้ (นำ้ ผลไมัหรอื ช้ิน เน้ือผลไม้
บด) และน้ำตาล ซอรเ์ บท์มีปรมิ าณนำ้ ตาลมากท่ีสุดเน้ือไอศกรมี มี ลกั ษณะเป็นเกล็ดละเอยี ด น่มุ ได้
รสชาติผลไม้เข้มข้น

5. ไอศกรีมหวานเย็น (Water Ice) ไอศกรีมหวานเย็น มีส่วนผสมหลัก คือ น้ำตาล น้ำ
เครื่องปรุงรสและกลิ่น ไม่มีส่วนผสมของไขมันมีปริมาณน้ำมากที่สุด สีและรส เป็นส่วนผสมสำคัญ
เพือ่ ใหผ้ ลิตภัณฑม์ สี สี นั และรสชาตทิ ตี่ อ้ งการสว่ นใหญ่มี ลักษณะ เปน็ แท่ง

6. ไอศกรีมโยเกิร์ต (Y๐hGurt Ice Cream) มีส่วนผสมหลักคือไอศกรีมและโยเกริ ์ต ซี่งจะ
ให้รสชาติหวานกลมกล่อมแบบไอศกรีม และเปร้ียวเล็กนอยแบบโยเกริ ์ต สามารถผลิตไอศกรีมโยเกิร์ต
ได้หลากหลายรสชาติเหมือนไอศกรมี ท่วั ไปแต่โดย สว่ นใหญ่จะใช้รสชาติผลไมเ้ ปน็ หลกั

10

บทที่ 3
วธิ ีดำเนนิ การ

สำรวจบริเวณโรงเรยี นหาข้อสรุปลงมือทำกรอบรูปจากไมไ้ อติมท่ีนำไม้ไอติมมาทำเปน็ กรอบ
รูปต้นไม้เลก็ ๆ

3.1 วสั ดุอุปกรณ์ 5.กรรไกร
6. คัดเตอร์
1.ไม้ไอตมิ 7.เชอื ก
2.กาวยิง 8.รปู ภาพ
3.ริบบิน้
4.ส่ิงของตกแต่ง

3.2 ข้ันตอนการประดษิ ฐ์กล่องใสก่ ระดาษโนต๊ ไมไ้ อศกรมี

1.เ รียงไมไ้ อตมิ ใหเ้ ปน็ ระเบียบ 2. จัดเรียงไมด้ ังรูป

4. ติดด้านหลังแบบนี้ 3.ไดร้ ปู ดงั นี้ ทำรูปนี้สองชิน้ แล้ว
นำมาประกอบกัน

11
5. รูปสำเรจ็

12

บทที่ 4

ผลของการดำเนินโครงงาน

ในการทำโครงงานวิชา IS เรื่อง “กรอบรูปจากไม้ไอติม” และได้รับผลของการดำเนินโครงงาน
ดงั ต่อไปนี้

4.1 ผลการทำโครงงานกระถางตน้ ไม้จากไม้ไอติม

วชิ า IS เรอ่ื ง “กรอบรปู จากไม้ไอติม” ทำให้ไดร้ บั ความร้ใู นเรื่องกรรมวิธีวัสดอุ ปุ กรณ์ในการทำ“กรอบ
รูปจากไม้ไอติม” ครั้งนี้ รวมไปจนถึงวิธีการสร้าง การแก้ปัญหาซึ่งนำมาซึ่งการศึกษาเพื่อนำไปใช้ใน
ชีวติ ประจำวันไดเ้ ปน็ อย่างดี

เรื่อง “กรอบรูปจากไม้ไอติม” เหมาะสำหรับเผยแพร่ให้กบั ผู้ที่สนใจ โดยในโครงงานเล่มนี้ มีเนื้อหา
ครอบคลุม ทั้งวัสดุคุณลักษณะของวัสดุ อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ใน“กรอบรูปจากไม้ไอติม” ไว้พอสมควร
คณะผู้จดั ทำหวงั เปน็ อยา่ งยิ่งวา่ จะเปน็ ประโยชน์แกผ่ สู้ นใจไม่มากกน็ ้อย

4.2 ผลการนำไปใชง้ าน

เผยแพร่ให้กับผู้ที่สนใจ ทั้งในห้องเรียน ครอบครัว บุคลคลภายนอกในบริเวณที่ทำการนำเสนอ ใน
รูปแบบเอกสาร บัวชัวร์(แผ่นพับ) การพูดโฆษณาให้ความรู้ เชิญชวนให้ทดลองใช้“กรอบรูปจากไม้ไอติม”
รวมทั้งสอบถามขอ้ มูลการทดลองใชง้ าน“กรอบรูปจากไมไ้ อตมิ ” เพอ่ื เก็บขอ้ มลู ในการปรับปรุงโครงงานในคร้ัง
ตอ่ ไป จากการแพรแ่ พร่ไดร้ บั ผลการตอบรบั เป็นอยา่ งดี

13

บทท่ี 5

สรปุ การดำเนินโครงงาน

5.1 สรุปผลการดำเนินโครงการ
5.1.1 ได้ศึกษาเรื่อง “กรอบรูปจากไม้ไอตมิ ” ซึ่งเป็นเรื่องที่กลุ่มสนใจไดอ้ ย่างละเอียดลึกซึ้งมากขน้ึ

ทำให้มคี วามเข้าใจมากข้นึ
5.1.2 ไดพ้ ฒั นาการทำผ้าไหมชาวกูย เรือ่ ง “กรอบรปู จากไม้ไอติม” ได้เผยแพรค่ วามรู้เรือ่ ง “โครงงาน

กรอบรูปจากไม้ไอตมิ ” ใหผ้ ูท้ ส่ี นใจไดศ้ ึกษา โดยสามารถศึกษาไดใ้ นโครงงานเลม่ นี้
5.1.4 ไดน้ ำความรู้โครงงานเล่มนแ้ี ละสามารถนำไปต่อยอดในชีวติ ประจำวันได้

5.2 ปัญหาและอปุ สรรคในการทดลอง
คณะผ้จู ดั ทำโครงงานครัง้ น้ียงั ไม่มีความชำนาญและความรใู้ นการจดั ซอื้ วตั ถุดิบวัสดุและอปุ กรณ์ที่ใช้ใน

การจดั ทำโครงงาน จึงทำใหโ้ ครงงานน้ลี ้าช้าออกไป แตก่ ารดำเนนิ งานครงั้ นก้ี ส็ ำเรจ็ ลงไดด้ ว้ ยดี ดว้ ยไดร้ ับความ
ร่วมมือจากสมาชกิ ในคณะ และคณุ ครทู ีป่ รกึ ษาเปน็ อยา่ งดี

5.3 ขอ้ เสนอแนะและแนวทางในการพัฒนา
เนื่องจากหัวข้อที่ใช้ทำโครงงานนีเ้ ปน็ หัวข้อตามที่กลุ่มสนใจ ซึ่งบางครั้งอาจไม่เป็นหัวข้อทางวิชาการ

มากนกั ควรนำหวั ขอ้ ทางวชิ าการมาจัดทำเปน็ โครงงานเพอ่ื ประโยชนต์ ่อการศึกษา



บรรณานกุ รม

ลดั ดา พวงชบา. ความหมายของกระบุกออมสิน. แหลง่ ทม่ี า:
https://www.gotoknow.org/posts/225503 สบื คน เมือ่ วันท่ี 5 ธันวาคม 2564.

บูรนิ บตุ เต๋า. ความหมายของไม้ไผ่. แหล่งท่ีมา: http://knowledge-phai.blogspot.com/.
สืบคน เมอื่ วันท่ี 5 ธันวาคม 2564..

อนนั ต์ สุภตู ัง. วธิ ีทำกระบุกออมสินจากไมไ้ ผ่. แหล่งที่มา:
https://souvenirbuu.wordpress.com. สบื คน เมื่อวนั ที่ 5 ธันวาคม 2564..

เฉลมิ พล สายหอม. วธิ ีทำกระบุกออมสินจากไม้ไผ่. แหล่งทม่ี า:
https://sites.google.com/site/patcharin1010. สบื คน เม่อื วันที่ 5 ธนั วาคม 2564..

พนิดา บญุ โรจน์และคณะ. วธิ ีทำกระบุกออมสินจากไม้ไผ่. แหลง่ ที่มา:
http://ping36o.blogspot.com//blog-post.html. สบื คนเมือ่ วันที่ 5 ธันวาคม 2564..

+

ภาคผนวก


Click to View FlipBook Version