The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

บทที่ 3 (ต่อ)เครื่องมือการสังเกตการสอน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by นายคำแสน สองแดน, 2020-08-06 10:51:57

บทที่ 3 (ต่อ)เครื่องมือการสังเกตการสอน

บทที่ 3 (ต่อ)เครื่องมือการสังเกตการสอน

196

บทที่ 3 (ตอ่ )
เครื่องมือการสังเกตการสอน

เม่ือผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศได้ร่วมกันเตรียมเคร่ืองมือการนิเทศต่าง ๆ อาทิ
โครงการพัฒนาการเรียนการสอน โครงการนิเทศ แผนการนิเทศ ปฏิทินการนิเทศ ซึ่งได้กล่าว
ไว้ในบทที่ผ่านมาแล้วน้ัน ล้วนแต่เป็นเคร่ืองมือเพื่อใช้เตรียมการก่อนที่จะนิเทศการสอนทั้งสิ้น
สำหรบั บทนี้ได้กล่าวถึงเครื่องมือการสังเกตการสอน ซึ่งเป็นเครื่องมือที่นำมาใช้สังเกตการสอน
ของผู้รับการนิเทศ ประกอบด้วย เคร่ืองมือสังเกตการสอนเชิงปริมาณ เชิงคุณภาพ และ
เคร่ืองมือสังเกตการสอนที่ผสมผสานระหว่างเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ การใช้เคร่ืองมือ
สังเกตการสอนอาจใช้มากกว่า 1 ชนิดก็ได้ขึ้นอยู่กับความชำนาญของผู้นิเทศ และเพื่อให้
เคร่ืองมือมีประสิทธิภาพสูงสุด ผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศจำเป็นต้องพูดคุยและปรึกษาหารือ
ร่วมกันก่อน แล้วจึงตัดสินใจเลือกใช้เคร่ืองมือที่เหมาะสมที่สุด ตัวอย่างเคร่ืองมือการสังเกต
การสอนแบบตา่ ง ๆ มีรายละเอียดดงั ต่อไปนี้

3.1 เครื่องมือสงั เกตการสอนเชิงปริมาณ
เคร่ืองมือสังเกตชนิดนี้ เป็นการบันทึกการสังเกตการสอนของครูและนักเรียนที่

ต้องการทราบว่าขณะสอนครูและนักเรียนแสดงพฤติกรรมใดบ้าง ลักษณะพฤติกรรมที่ครูและ
นักเรียนแสดงออกมาน้ันมีจำนวนความถี่เท่าใดหรือมากน้อยเพียงใด อย่างไรก็ตามเคร่ืองมือนี้
สะดวกสำหรับนำมาใช้สังเกตกระบวนการสอนท่ัว ๆ ไป โดยไม่ได้เฉพาะจงว่าเป็นเทคนิคการ
สอนใด และสามารถนำมาใช้ได้กับทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่ต้องการ ซึ่งผู้เขียนพัฒนามาจาก
วชั รา เล่าเรียนดี (2550 : 8) ดงั ตวั อยา่ งตอ่ ไปนี้

ตัวอย่าง 1 การสงั เกตและบันทึกการสอนแบบตรวจสอบรายการ (Check List)

ชือ่ ผนู้ ิเทศ คณุ ครสู งวนงาม ศรนี ิเทศ

ชื่อผู้รบั การนิเทศ คณุ ครูรักชาติ คณุ ราชภฏั

การนิเทศการสอนครงั้ ที่ 3 วนั ที่ 23 กรกฎาคม 2556

เวลาสังเกตการสอน 08.30 – 09.30 น. ระดับ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนฉัตรศรีรงุ้

เรอ่ื ง การเป่าสี สาระการเรียนรู้ ศลิ ปะ

197

การสังเกตกระบวนการสอน :
ครูมีการปฏิบตั ิตามรายการตอ่ ไปนีห้ รอื ไม่ หรอื มีเหตกุ ารณต์ อ่ ไปนีป้ รากฏหรือไม่
….…. 1. กระบวนการสอนเปน็ ไปตามลำดบั
….…. 2. ทบทวนความรเู้ ดิม/ทกั ษะเดิม
….…. 3. ให้นกั เรียนมีสว่ นรว่ มและฝกึ ปฏิบตั ิอยา่ งท่ัวถึง
….…. 4. สาธิตและทำแบบให้ดู
….…. 5. ตรวจสอบความเข้าใจ
….X…... 6. ถามคำถามนกั เรียนเพือ่ กระตุ้นการมสี ว่ นรว่ ม
….X..…. 7. ถามคำถามแบบเจาะลึก
….X…... 8. ถามคำถามที่ให้นักเรียนหลายคนได้ตอบ
….…. 9. ติดตามดแู ลการมีส่วนรว่ มในกิจกรรมของนกั เรียน
….X…. 10. สรุปบทเรียน
…... 11. วดั และประเมินผลการเรียนรู้

การสงั เกตการนำเสนอเนือ้ หาสาระ :
….…. 1. เชอ่ื มโยงความรู้เดิมกับความรใู้ หม่
….…. 2. ทบทวนความรเู้ ดิม
….…. 3. ให้ตัวอยา่ ง อธิบายความคิดรวบยอด คำสำคัญ
….…. 4. ระบุย้ำประเดน็ สำคัญตา่ งๆ
….X…... 5. สรปุ บทเรียน

การสังเกตการส่งเสริมกระต้นุ ให้นกั เรยี นมีสว่ นรว่ ม :
….…. 1. ถามคำถามนกั เรียน
….…. 2. รอคำตอบจากนักเรียน กระตนุ้ ให้ถาม
….…. 3. ให้โอกาสนักเรียนมสี ว่ นรว่ มในกิจกรรมและการตอบคำถาม

ผบู้ ันทึก.........................................
(คุณครสู งวนงาม ศรนี ิเทศ)
ผนู้ ิเทศการสอน
23 กรกฎาคม 2556

198

ตวั อย่าง 2 การสังเกตและบนั ทึกการสอนแบบตรวจสอบรายการ (Check List)
ตามกระบวนการสอนโดยยึดผูเ้ รยี นเป็นสำคญั
(พัฒนามาจาก สนทิ สัตโยภาส และคณะ, 2555 : 8)

ชื่อผู้นิเทศ คณุ ครกู ้าวหน้า พานเิ ทศนริ ันดร์

ชื่อผู้รบั การนิเทศ คณุ ครรู ักชาติ คุณราชภฏั

การนิเทศการสอนครัง้ ที่ 3 วันที่ 25 ธันวาคม 2556

เวลาสงั เกตการสอน 08.30 – 09.30 น. ระดับ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนฉัตรศรรี ุ้ง

เร่อื ง ธงโภชนาการ สาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี

การสังเกตกระบวนการสอนโดยยึดผู้เรยี นเป็นสำคัญ :

ครมู ีการปฏิบัติตามรายการตอ่ ไปนีห้ รอื ไม่ หรอื มีเหตกุ ารณต์ ่อไปนปี้ รากฏหรอื ไม่

ข้นั นำ

….…. 1. ครูสร้างความสนใจใหผ้ เู้ รียนเตรียมพร้อมที่จะเรียน

ข้นั จัดกิจกรรม โดยครูสง่ เสริมให้ผู้เรยี นปฏิบตั ิดังนี้

….…. 1. ให้ผู้เรยี นสร้างองค์ความรดู้ ้วยตนเอง

….…. 2. ให้ผู้เรยี นมีปฏิสัมพนั ธ์กันชว่ ยกนั เรียนรู้

….…. 3. ให้ผู้เรยี นมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอน

….…. 4. ให้ผู้เรยี นได้เรียนรกู้ ระบวนการไปพร้อมกบั การสรุปข้อความรแู้ ละได้ผลงาน

….…. 5. ให้ผู้เรยี นนำความรไู้ ปประยกุ ต์ใช้

ข้ันวิเคราะห์

….…. 1. ให้ผู้เรยี นร่วมกนั อภปิ รายจากการทำกิจกรรมทั้งที่เปน็ ผลงาน ขอ้ ความรู้และ

กระบวนการเรียนรู้

ขน้ั สรุป

….…. 1. ให้ผู้เรียนสรปุ ผล

….…. 2. ให้ผู้เรยี นประเมินผลการเรียนรู้ตามจดุ ประสงคท์ ี่ตั้งไว้

ผบู้ นั ทึก.........................................
(คุณครกู ้าวหน้า พานเิ ทศนริ นั ดร์)

ผนู้ ิเทศการสอน
25 ธนั วาคม 2556

199

ตวั อยา่ ง 3 แบบสงั เกตพฤติกรรมการสอนของครแู ละพฤติกรรมการเรียนของนกั เรยี น

ชือ่ ผ้นู ิเทศ คุณครแู ม้นมงคล สจั นเิ ทศ

ชื่อผรู้ บั การนิเทศ คุณครรู กั ชาติ คุณราชภัฏ

การนิเทศการสอนครั้งที่ 3 วันที่ 31 กรกฎาคม 2556

เวลาสงั เกตการสอน 13.30-14.30 น. ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนฉัตรศรีรงุ้

เรอ่ื ง My family สาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ

คำชี้แจง ให้ผสู้ ังเกตการสอนบันทึกความถี่พฤติกรรมการสอนของครู และพฤติกรรมการเรียน

ของนักเรียนในแตล่ ะข้ันตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้

พฤตกิ รรมการ

พฤตกิ รรมการสอนของครู เรียนของนกั เรียน

การ บันทึกเพิม่ เติม
คำชม คำตำหนิ แนะนำ คำถาม คำตอบ
คำถาม คำตอบ คำ
อธิบาย ส่ังงาน

|||| |||| |||| |||| || || |||| |||| -ครูควรยกตัวอย่าง

|||| |||| || |||| และอธิบายในเรื่องที่

ใกล้ตวั ผู้เรียน

-ก่อนถามคำถาม ครู

ควรตง้ั คำถามก่อน

ขานชอ่ื นักเรียน

-เม่อื นกั เรียนใชค้ ำพดู

ที่ไม่สภุ าพครูควร

ตกั เตอื นนักเรียนทันที

-นักเรียนปรบมอื

รวม เมอ่ื เพ่อื นตอบคำถาม
10 10 7 5 2 2 10 4 ได้ถกู ตอ้ ง พร้อมท้ังยก

น้วิ โป้ง (กดไลท์) และ

พดู วา่ “เย่ยี ม”

ผบู้ ันทึก................................................
(คณุ ครูแม้นมงคล สัจนเิ ทศ)
ผนู้ ิเทศการสอน
31 กรกฎาคม 2556

200

3.2 เครื่องมือสงั เกตการสอนเชิงคุณภาพ
เคร่ืองมือชนิดนี้เป็นการบันทึกการสังเกตการสอนที่ให้ข้อมูล ที่ละเอียดและ

ครบถ้วนในทุก ๆ ขั้นตอนของการสอน โดยการบันทึกนั้นต้องเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่ได้มีการแสดง
ความคิดเห็นส่วนตัว หลังจากนั้นผู้นิเทศสามารถนำข้อมูลที่ได้จากการบันทึกดังกล่าวมาใช้ใน
การวิเคราะห์ผลการสอนว่า พฤติกรรมในข้อใดที่ครูผู้รับการนิเทศปฏิบัติได้ดีแล้วและ
พฤติกรรมใดที่ครูควรต้องปรับปรุงและพัฒนาให้ดีขึ้น สำหรับเคร่ืองมือชนิดนี้จำเป็นต้องใช้
ความสามารถในการเรียบเรียงด้านภาษา ให้ผู้อ่านได้จินตนาการเห็นภาพขณะที่ครูสอนด้วย
เช่นกัน ซึ่งผู้บนั ทึกต้องฝึกฝนบ่อย ๆ จึงจะเกิดความชำนาญ เกี่ยวกบั เรื่องน้ี วชิรา เครอื คำอ้าย
(2552 : 440-441) ได้นำเสนอวิธีการบันทึกดังตัวอย่าง 1 และ 2 ซึ่งผู้เขียนได้พัฒนาผลการ
บนั ทึกการสงั เกต ดังตอ่ ไปนี้

ตัวอยา่ ง 1 การสงั เกตและบันทึกยอ่ ๆ การดำเนินการสอนของครู

ชื่อผนู้ ิเทศ คณุ ครแู ม้นมงคล สจั นเิ ทศ

ชือ่ ผูร้ ับการนิเทศ คุณครรู กั ชาติ คุณราชภัฏ

การนิเทศการสอนครง้ั ที่ 2 เรอ่ื ง สิง่ มีชีวติ , ระบบนิเวศ

วนั ที่ 20 กรกฎาคม 2556 เวลา 13.10 – 15.00 น.

บนั ทึกยอ่ ๆ การดำเนินการของครูตงั้ แตเ่ รม่ิ ตน้ -จนจบการสอนมีดังนี้

ครูแจกแบบทดสอบกอ่ นเรียนใหผ้ เู้ รียนทุกคนทำลงในสมดุ ข้อทดสอบก่อนเรียน 20

ข้อ ขณะผู้เรียนทำแบบทดสอบครูเตรียมเอกสารที่จะใช้ต่อไปพร้อมกับเดินดูผู้เรียนตามกลุ่ม

ต่าง ๆ และให้คำแนะนำ จากนั้นแจกภาพสิ่งแวดล้อมระบบนิเวศต่าง ๆ ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่ม

สังเกตรูปภาพ (โดยรูปภาพที่นำมาให้ผู้เรียนสังเกตได้ขยายลงในกระดาษ A4) และให้บันทึกใน

ประเด็นดังต่อไปนี้ 1.ในรูปมีอะไรที่เป็นสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิต 2.สถานที่ในภาพคือสถานที่ใด 3.

ความสัมพันธ์ในภาพสิ่งต่าง ๆ ที่ปรากฏมีความสัมพันธ์กันอย่างไรและครูสุ่มตัวแทนกลุ่ม

นำเสนอ (ข้อสังเกตภาพที่นำมาให้นักเรียนสังเกตเป็นภาพขยาย รายละเอียดของภาพจึงไม่

ชัดเจน) เมื่อสนทนาจากที่ผู้เรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอแล้วครู และผู้เรียนช่วยกันสรุปว่าเป็นภาพ

ระบบนิเวศในป่า ครูให้ผู้เรียนดูภาพระบบนิเวศในน้ำ (ทะเล) และให้บอกว่ามีสิ่งมีชีวิตและไม่มี

ชีวิตใดปรากฏบ้าง เป็นการอาศัยอยู่ร่วมกันแบบใด (แบบล่าเหยื่อ) อะไรเป็นผู้ล่า อะไรเป็น

เหยื่อ ต่อมาให้สังเกตรูปภาพตึกของบ้านที่อยู่ในเมือง ครูให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มศึกษาใบความรู้

เรื่อง สิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ (ระบบนิเวศคืออะไร โครงสร้างของระบบนิเวศ ประเภทของ

ระบบนิเวศ) ครูให้ผู้เรียนตอบคำถามโดยเขียนคำถามไว้บนกระดานดำ และให้จดลงในสมุด

201

(ผู้เรียนเริ่มพูดคุยกัน) โดยคำถามที่ให้ผู้เรียนจดบันทึกมีดังนี้ 1.ผู้เรียนทราบหรือไม่ว่าสิ่งมีชีวิต
ชนิดเดียวกันอาศัยอยู่ด้วยกันเวลาใดเวลาหนึ่งเรียกวา่ อะไร 2.ประชากรของส่ิงมีชีวิตที่มากกว่า
หนึ่งชนิดอาศัยอยู่รวมกันในบริเวณใดบริเวณหนึ่ง และมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันเรียกว่า
อะไร 3.บริเวณที่กลุ่มสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่เราเรียกว่าอะไร ครูให้ผู้เรียนอ่านคำถามพร้อมกันบน
กระดานและตอบคำถามโดยครูอธิบายคำถามเพิ่มเติม เช่น ทำไมผู้เรียนจึงคิดเช่นนั้น ให้
อธิบายเหตุผลประกอบ พร้อมทั้งยกตัวอย่างจากประสบการณ์ที่เคยได้พบเหน็ หรอื ได้ฟังโดยให้
เช่ือมโยงเร่ืองราวนั้นมาอธิบาย จากนั้นครูแบ่งกลุ่มให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มสำรวจบริเวณโรงเรียน
โดยมีการแบ่งเป็นกลุ่มต่าง ๆ ตามพื้นที่ที่รับผิดชอบ ครูให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มสรุปสิ่งที่พบเห็นที่
มากกว่ากันระหวา่ งสัตวห์ รอื พืช สังเกตลักษณะของส่งิ มีชีวิตและสิง่ ไม่มีชีวิตที่ปรากฏ บริเวณที่
พบมีลักษณะอย่างไรและให้แต่ละกลุ่มสรุป แล้วครูจึงสรุปรวมทั้งหมดพร้อมท้ังถามคำถาม
กระตุ้นผเู้ รียน และใหก้ ารบ้านโดยให้ผเู้ รียนวาดภาพระบบนิเวศในบริเวณบ้านของตนเองพร้อม
ทั้งเขียนแผนผังความคิดเรือ่ ง “สิ่งแวดล้อมกับสิ่งมีชีวติ ”

ผบู้ นั ทึกการสงั เกตการสอน........................................
(คณุ ครแู ม้นมงคล สจั นเิ ทศ)
20 กรกฎาคม 2556

202

ตวั อยา่ ง 2 การบันทกึ การสงั เกตการสอนแบบพรรณนาความ

ผสู้ อน/ ผู้รับการนิเทศ คณุ ครูขวัญข้าว นิยมนเิ ทศ
ผสู้ ังเกตการสอน/ ผนู้ ิเทศ คณุ ครแู ม้นมงคล สัจนเิ ทศ
เร่อื ง ระบบหายใจ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 5
วัน/เดือน/ปี 28 ม.ิ ย. 56 เวลาสงั เกตการสอน 14.10 น. -14.50 น.

ขั้นนำ ครูทักทายนักเรียนด้วยคำว่าสวัสดี แล้วให้นักเรียนน่ังหลับตาเป็นเวลา 1 นาที
หลังจากนั้นให้นักเรียนแสดงพฤติกรรมใดก็ได้ตามปกติ ครถู ามคำถามถึงอวัยวะของรา่ งกายที่
ดำเนินอยู่ในขณะที่นักเรียนน่ังหลับตา แล้วเชื่อมโยงเข้าสู่เร่ืองอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่ง
ประกอบด้วยหัวใจ จมูก และลมหายใจ (ใช้เวลาประมาณ 5 นาที)
ขั้นสอน ครูใหต้ ัวแทนนักเรียนจำนวน 6 คน มารว่ มกิจกรรมหนา้ ช้ันเรียนเพื่อฝึกกิจกรรมการ
หายใจส่วนที่เหลือให้น่ังสังเกตเพื่อนขณะที่ปฏิบัติกิจกรรมหน้าช้ันเรียน ครูใช้คำถามกระตุ้น
เกี่ยวกับการหายใจ นักเรียนตอบคำถามของครูจากผลการปฏิบัติจริง ครูอธิบายเพิ่มเติมถึง
ซี่โครงและกระบังลม มีนักเรียน 3 คนไม่รู้จักซี่โครงและกระบังลม ครูจึงให้นักเรียนจับกระบัง
ลมของตนเอง ให้ฝึกการหายใจและสังเกตการเปลี่ยนแปลงของอวัยวะภายในร่างกายขณะที่
หายใจด้วย นกั เรียนที่เป็นตวั แทนหน้าชั้นหวั เราะขณะที่ปฏิบัติจริง พร้อมกับตอบคำถามของครู
เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของอวัยวะในขณะที่หายใจ ครูให้คำชมและให้นักเรียนในชั้นปรบมือ
เม่ือเพื่อนนักเรียนตอบคำถามถูกต้อง นักเรียนยิ้มเม่ือได้รับคำชมดังกล่าว จากนั้นครูให้
นักเรียนจับคู่ พร้อมท้ังแจกอุปกรณก์ ารทดลองประกอบด้วย ถงุ พลาสติกและสารละลายให้กับ
นักเรียนทุกคน นักเรียนมองและดมสารละลายในถุงของตน ครูให้นักเรียนสังเกตสารละลาย
โดยบอกวิธีสังเกตด้วยการดม หลังจากนั้นแจกหลอดกาแฟและถามถึงตัวแปรต้นและให้
นกั เรียนมัดปากถงุ โดยไม่ตอ้ งกระทำการใดกบั สารละลาย ขณะน้ันครูได้อธิบายถึงตัวแปรต้นไป
ด้วย ส่วนอีกหนึ่งถุงครูให้นักเรียนเขย่าและเป่าสารละลายประมาณ 1 นาที โดยนักเรียนต่าง
สังเกตดูในถุงของตน บางคนดูถุงของเพื่อนขณะทดลอง เมื่อดำเนินการเรียบร้อยครใู หน้ ักเรียน
สังเกตถุงของเพื่อนกลุ่มอื่นและนำมาเปรียบเทียบกัน ครูกระตุ้นด้วยคำถามที่เกี่ยวกับก๊าซ
คาร์บอนไดออกไซด์ CO2 ด้วยการแสดงป้ายเขียนคำว่า CO2 พร้อมทั้งอธิบายถึงคราบหินปูนที่
เกิดจากการทดลอง มีนักเรียน 2 คนก้มมองที่ถุงของตนเองขณะครูอธิบาย บางคนมองป้ายที่
ครูแสดงให้ดูจากน้ันครูขอถุงจากการทดลองคืน ขณะเดียวกันมีนักเรียน 2 คนขอดูป้ายของครู
และพูดคุยกนั เกีย่ วกับป้ายดงั กลา่ ว (ใช้เวลาประมาณ 25 นาที)

203

ข้ันสรุป ครูให้นักเรียนร่วมกันอธิบายถึงผลการทดลองพร้อมทั้งถามถึงผลที่ได้รับจาก
กิจกรรม โดยมีตัวแทนนักเรียน 2 คนเป็นผู้สรุป นักเรียน 1 คน ถามคำถามครูเกี่ยวกับการ
เคลื่อนตัวของกระบังลม ครอู ธิบายเพิ่มเติมและบอกจุดประสงค์การเรียนรู้ด้วยการใช้เพาเวอร์
พอยท์ (Power Point) พร้อมทั้งให้นักเรียนดูสมการการหายใจ โครงสร้างของการหายใจที่
ประกอบด้วยกระบังลมกบั ซีโ่ ครง โดยให้ดูภาพกลไกการทำงานของระบบหายใจเข้าและหายใจ
ออก รวมถึงอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนก๊าซ ครูต้ังคำถามและนักเรียนช่วยกันตอบ
จากนั้นครูพูดถึงอาการที่เกี่ยวข้องกบั การหายใจ เชน่ การจาม การหาว การสะอึกและการไอ

ท้ายชั่วโมงครูถามคำถามนักเรียนถึงข้อสงสัยที่เกิดขึ้น มีนักเรียนชายหนึ่งคน
สอบถามครูถึงอาการเรอ ครูตอบคำถามและอธิบายให้นักเรียนฟงั (ใช้เวลาประมาณ 10 นาที)

ผบู้ นั ทึกการสังเกตการสอน........................................
(คณุ ครูแม้นมงคล สจั นเิ ทศ)
28 มิถนุ ายน 2556

204

ตัวอย่างต่อไปนี้ เป็นการถอดบทเรียนจากประสบการณ์ของผู้เขียน ที่ได้เข้าร่วม
การเป็นผู้ให้คำแนะนำ ปรึกษาสำหรับครูที่ฝึกจะเป็นผู้นิเทศ โดยเป็นการบันทึกการสังเกตการ
สอนแบบพรรณาความของครนู เิ ทศใหม่ ผลการบันทึกปรากฏดงั น้ี

ตัวอย่าง 3 แบบบนั ทึกการสงั เกตการสอนแบบพรรณนาความ

ชือ่ ผ้นู ิเทศ คุณครแู ม้นมงคล สัจนเิ ทศ

ชือ่ ผ้รู บั การนิเทศ คณุ ครูรักชาติ คณุ ราชภัฏ

การนิเทศการสอนครัง้ ที่ 1 วันที่ 24 มิถนุ ายน 2556

เวลาสังเกตการสอน 11.00 – 12.00 น. เร่อื ง การเดินทางของแสง

สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 4

ขั้นนำ ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียนโดยครูเขียนคำถามบนไวท์บอร์ด 2 ข้อ และให้

นักเรียนคดั ลอกและตอบคำถามลงในสมดุ ของนักเรียน (ใช้เวลาประมาณ 20 นาที)

ขั้นสอน ครูใช้คำถามกับนักเรียนว่า สิ่งที่ให้แสงสว่างแก่เรามีอะไรบ้าง ซึ่งนักเรียนก็แย่งกัน

ตอบจนได้คำตอบที่หลากหลาย เช่น ไฟฉาย ดวงอาทิตย์ ฯลฯ ครูสรุปว่านักเรียนเข้าใจเร่ือง

กำเนิดแสง จากน้ันให้นักเรียนทำการทดลองโดยแจกใบงานและให้นักเรียนทุกกลุ่มนำอปุ กรณ์

ทีเ่ ตรยี มขึ้นมา นกั เรียนบางกลุ่มบอกวา่ ไมม่ ีเทียนไข ครูจงึ หยิบเทียนไขที่เตรียมมาให้ ครูบอกให้

สมาชิกในกลุ่มอ่านใบงานให้เพื่อนฟัง บางกลุ่มก็อ่านบางกลุ่มก็ไม่อ่าน(อ่านคนเดียว) นักเรียน

บางกลุ่มก็เริ่มจับอุปกรณ์เริ่มทำการทดลองก่อนฟังเพื่อน ด.ญ.แน่งน้อย รายงานคุณครูว่า

ด.ช.เอก ด.ช.อนันต์ และด.ช.กฤติพงษ์ ไม่ช่วยทำการทดลอง ครูเดินไปดูการทดลองของ

นักเรียนแต่ละกลมุ่ นักเรียนสว่ นใหญส่ นใจในการทำการทดลอง (ใช้เวลาประมาณ 25 นาที)

ขัน้ สรุป ครูบอกใหน้ ักเรียนเก็บอปุ กรณแ์ ละให้นกั เรียนทำแบบทดสอบหลังเรยี น คำถามอยบู่ น

กระดานดำและย้ำให้นักเรียนเขียนคำว่า แบบทดสอบหลังเรียนและทำลงในสมุดอีกครั้งหนึ่ง

ครูบอกให้นักเรียนที่ทำแบบทดสอบเสร็จเรียบร้อยแล้วทำความสะอาดใต้โต๊ะ นักเรียนบางคน

ยงั เขียนไม่เสร็จทำให้เพือ่ น ๆ ต้องยืนคอย จนทุกคนเก็บอุปกรณ์การเรียนและส่งสมุดให้คุณครู

จงึ เลิกเรียนในคาบเรียนนี้ (ใช้เวลาประมาณ 15 นาที)

ผบู้ ันทึกการสงั เกตการสอน................................................
(คณุ ครูแมน้ มงคล สัจนเิ ทศ)
24 มิถนุ ายน 2556

205

จากผลการบันทึกการสังเกตการสอนของผู้ฝึกเป็นผู้นิเทศ พบว่ามีบางประเด็นที่
จำเป็นต้องให้ข้อเสนอเพิ่มเติม เพื่อเป็นแนวทางการบันทึกการสังเกตการสอนแบบพรรณนา
ความทีถ่ กู ต้องเพื่อให้เกิดประโยชนส์ ูงสดุ แก่ผรู้ ับการนเิ ทศ มีดงั นี้

ข้ันสอน มี 2 ประเด็นทีต่ อ้ งแก้ไข คือ
1. จากประโยคทีว่ ่านักเรียนแย่งกันตอบจนได้คำตอบที่หลากหลาย ซึ่งเป็นข้อความ

ทีแ่ สดงความคิดเห็น ควรแก้ไขเป็นนกั เรียนในชนั้ เรียนเสนอคำตอบประเดน็ ต่าง ๆ
2. จากประโยคที่ว่านักเรียนส่วนใหญ่สนใจในการทำการทดลอง ซึ่งเป็นข้อความที่

แสดงความคิดเห็นควรแก้ไขเป็น นักเรียนจำนวน 25 คน ปฏิบัติการทดลอง หรือมีนักเรียน
จำนวน 3 คน ได้แก่ ด.ช.เอก ด.ช.อนันต์ และด.ช.กฤติพงษ์ ไม่ปฏิบัติการทดลองร่วมกับเพื่อน
ในกลมุ่

ขั้นสรุป มีประเด็นที่ตอ้ งแก้ไข คือ นักเรียนบางคนยังเขียนไม่เสร็จทำให้เพื่อน ๆ ต้องยืนคอย
ซึ่งเป็นข้อความที่แสดงความคิดเห็นควรแก้ไขเป็น นักเรียนบางคนกำลังทำแบบทดสอบหลัง
เรียนขณะเดียวกนั มีนักเรียนอีกกล่มุ หนึ่งยืนอยู่ที่โต๊ะ และดเู พือ่ นทำแบบทดสอบ

นอกจากข้อเสนอแนะดังกล่าวแล้ว มีเป็นประเด็นที่น่าสนใจคือ ด้านการเรียบเรียง
ภาษาของผู้ฝึกเป็นผู้นิเทศเป็นภาษาพูด อาทิ แย่งกันตอบ ยังเขียนไม่เสร็จ เป็นต้น รวมถึงการ
แสดงความคิดเห็นส่วนตัวของผู้นิเทศจะทำให้ได้ข้อมูลที่เป็นการตัดสินคุณค่ าโดยผู้นิเทศเอง
ท้ังนี้หากผู้นิเทศได้รับการฝึกฝนบันทึกการสังเกตอย่างต่อเน่ืองและสม่ำเสมอ จะทำให้เกิด
ความชำนาญมากขึน้

ผูบ้ นั ทึก...........................................................
(คุณครูงามจติ สงวนนิเทศ)

ผดู้ ูแล กำกบั ตดิ ตามผลการบนั ทึกการสงั เกตการสอน
วัน/เดือน/ปี........................................

รบั ทราบผลการปรับปรงุ / แก้ไข ........................................
(คุณครูแม้นมงคล สัจนเิ ทศ)
ผนู้ ิเทศการสอน

วัน/เดือน/ปี........................................

206

3.3 เครื่องมือสังเกตการสอนผสมผสานระหว่างเชิงคณุ ภาพและเชิงปริมาณ
เคร่ืองมือชนิดนี้เป็นการบันทึกการสังเกตการสอนที่มีการบันทึกเชิงปริมาณใน

ลักษณะของความถี่ หรือจำนวนครั้งของพฤติกรรมที่ผู้รับการนิเทศแสดงออกมาในขณะที่
จัดการเรยี นรู้ ร่วมกันกบั การบนั ทึกข้อมลู ละเอียดเพิม่ เติมในประเด็นสำคัญ ดังตัวอยา่ งต่อไปนี้

ตัวอย่าง 1 แบบบนั ทึกการสังเกตการจัดการเรียนรู้
ด้วยเทคนิคการสอนแบบซิปปา (CIPPA)

ชือ่ ผนู้ ิเทศ คุณครแู ม้นมงคล สจั นเิ ทศ
ชื่อผู้รับการนิเทศ คุณครูรกั ชาติ คุณราชภัฏ

การนิเทศการสอนครงั้ ที่ 7 วนั ที่ 15 กรกฎาคม 2556
เวลาสงั เกตการสอน 08.30 – 09.30 น. เร่ือง โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
สาระการเรียนรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ระดบั ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2

คำชี้แจง ให้ผู้สังเกตการสอนบันทึกพฤติกรรมการสอนของผู้รับการนิเทศตามความเป็นจริง
โดยพิจารณาจากประเดน็ ทีก่ ำหนดไว้ในแตล่ ะข้อ

มี หมายถึง ปฏิบตั ิ/ ปรากฏพฤติกรรมตามตวั บง่ ช้ีในแบบสังเกตการสอน

ไมม่ ี หมายถึง ไมป่ ฏิบัติ/ ไมป่ รากฏพฤติกรรมตามตวั บ่งช้ีในแบบสังเกตการสอน

กิจกรรมการเรยี นรดู้ ว้ ยเทคนิค พฤติกรรม บนั ทึกพฤติกรรมทป่ี ฏิบตั ิ
CIPPA ทป่ี รากฏ
มี ไมม่ ี

1. ข้ันการสำรวจ/ทบทวนความรู้เดิม 1. ขั้นการสำรวจ/ ทบทวนความรู้
ของนักเรยี น
เดิมของนกั เรียน
1.1 แจ้งจุดประสงค์การเรยี นรู้  - กอ่ นนำเข้าสู่บทเรียนครคู วรแจ้ง
1.2 ทบทวนความรเู้ ดิม  จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ให้ผเู้ รียน
1.3 เร้าความสนใจ  ทราบถึงเป้าหมายปลายทางของการ

2. ขัน้ แสวงหาความรใู้ หม่ เรียนในคาบเรียนนี้
2.1 ระบุความรทู้ ีต่ อ้ งการแสวงหา
2.2 ให้นักเรียนอธิบาย 2. ขั้นแสวงหาความรู้

วิธีการแสวงหาข้อมลู - ครูควรใหน้ กั เรียนได้แสดงความ

 คิดเห็น 3-4 คน ก่อนที่จะเริ่มตน้
 อธิบาย หากใหน้ ักเรียนเพียง

คนเดียวทำให้ได้คำตอบทีไ่ ม่

207

กิจกรรมการเรยี นรู้ดว้ ยเทคนิค พฤติกรรม บันทึกพฤติกรรมท่ปี ฏิบัติ
CIPPA ท่ปี รากฏ
มี ไม่มี

2.3 ให้นกั เรียนเลือกวิธีการเก็บ  หลากหลาย
รวบรวมข้อมลู
 3. ครคู วรย้ำประเดน็ สำคญั ของ
3.ขน้ั ศึกษาทำความเขา้ ใจและสรา้ ง  ความรเู้ ดิมกับความรใู้ หม่ก่อนที่
ความรดู้ ้วยตนเอง จะกล่าวถึงลำดับถดั ไป

3.1 ให้นักเรียนทำความเข้าใจ 
ในข้อมลู

3.2 ใช้ทกั ษะการคิดตา่ ง ๆ 






(จำแนก/วิเคราะห์/ สังเคราะห์) 
3.3 เชือ่ มโยงความรใู้ หม่กับ

ความรเู้ ดิม  4. การแลกเปลีย่ นเรียนรู้
4.ขนั้ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ -ให้นกั เรียนทำงานเปน็ กลุม่

นักเรียนแลกเปลีย่ นความรู้ซึ่งกนั

และกัน  5. ข้ันสรปุ
5.ข้ันสรปุ และจัดระเบียบความรู้ -ให้นักเรียนรว่ มกนั สรปุ
-ครูและนกั เรียนอภปิ รายเพิม่ เติม
5.1 กระตุ้นนักเรียนสรปุ ความรู้ใหม่
ของตนเอง

5.2 กระตุ้นนกั เรียนจัดระเบียบ  6. ข้ันแสดงความรู้และผลงาน
ความรู้  -ให้ตัวแทนแต่ละกล่มุ นำเสนอหนา้
6.ขั้นแสดงความรู้และผลงาน ช้ันเรยี น
 7. แนะนำใหน้ กั เรียนนำความรู้ไปใช้
ให้นกั เรียนแสดงผลงานของตน/  โดยหลีกเลีย่ งสาเหตทุ ีท่ ำให้เกิด
ของกลมุ่ โรคติดตอ่ และใหน้ กั เรียนศึกษาหา
7.ขน้ั การนำความรไู้ ปประยกุ ตใ์ ช้ ความรเู้ พิ่มเติมถึงผลกระทบทีจ่ ะ
ตามมา
7.1 ครสู ่งเสริมให้นำความรไู้ ปใช้
7.2 ครกู ระตุ้นให้ศกึ ษาหาความรู้
เพิ่มเติม

ผบู้ ันทึกการสังเกตการสอน....................................

208

ตวั อย่าง 2 แบบบันทึกการสังเกตคำถามของครแู ละคำตอบของนักเรยี น

ชื่อผู้นิเทศ คุณครูแม้นมงคล สจั นเิ ทศ

ชือ่ ผ้รู ับการนิเทศ คุณครูรักชาติ คุณราชภฏั

การนิเทศการสอนครงั้ ที่ 5 เรอ่ื ง ความดนั อากาศ

วนั ที่ 21 สิงหาคม 2556 เวลา 13.30 – 14.30 น. ระดับชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 5

คำถามของครู คำตอบของนักเรยี น

1. นักเรียนเคยเหน็ ลูกโป่งไหม 1. เคย

2. ทำไมมันถึงลอยได้ มีก๊าซอะไรอยู่ 2. ออกซิเจน คาร์บอนไดออกไซด์ ไฮโดรเจน

3. ทำไมมันลอยได้ 3. มนั เบากวา่

4. เวลาปลอ่ ยยางรัดลูกโป่งจะมีอะไรออกมา 4. ลม แรงดัน ความดนั

5. วนั นีค้ รจู ะสอนด้วยเทคนิคการสอน 5. ไม่รู้ค่ะ/ ครบั

KWL ใครรจู้ ักบ้าง

6. นักเรียนเคยซื้อขนมถุงขึ้นไปบนดอยไหม 6. เคย ถงุ ขนมลอย

ถุงขนมเปน็ อย่างไร

7. ถุงขนมลอยเลยหรือ 7. ถงุ มันพองครบั

8. แล้วถ้าเรานำถุงขนมจากบนดอย 8. แฟบครับ/ค่ะ

ลงมาข้างลา่ งจะเป็นอยา่ งไร

9. นักเรียนเคยเหน็ เคร่อื งมือวัดความดันไหม 9. ไม่เคย

10. นกั เรียนเคยเห็นปมั๊ ไหมที่ใชเ้ ติม 10. เคย

ยางรถนะ่

11. แรงดันทำให้เครื่องบินเปน็ อยา่ งไร 11. ลอย นักเรียนถามต่อว่า ใบพัดทำไมถึงรับ

น้ำหนักเฮลิคอปเตอร์ได้ ครูตอบ ใบพัดไม่ได้

รับน้ำหนักแต่ใบพัดทำให้เกิดกระแสลมและ

ดันตัวเองขึน้ จากอากาศได้

12.ครูทดลองแก้วเล่นกลโดยนำแก้วน้ำมา 12. มนั ไม่มีอากาศ

ใส่น้ำแล้วปิดด้วยกระดาษ พร้อมกบั ยกแก้ว

ขึ้นแล้วคว่ำพร้อมกับถามนักเรียนว่า ทำไม

น้ำไมไ่ หล

209

คำถามของครู คำตอบของนกั เรยี น
13. ทำไมไม่มอี ากาศอยเู่ ตม็ 13. มีความดนั อากาศ
14. ทำไมน้ำไมไ่ หล 14. อากาศมันดัน น้ำไปแทนทีอ่ ากาศ
15. ทำให้เกิดอะไร 15. แรงดนั
16. นกั เรียนคิดวา่ เปน็ อยา่ งไร กระดาษ 16. ไหว
รบั ไหวไหม
17. ทำไมกระดาษมันตดิ กับแก้ว 17. มันดดู อากาศค่ะ
18. เราจะอธิบายทางวิทยาศาสตร์ได้ 18. อากาศขา้ งนอกมนั มากแล้วมันดนั ขนึ้
อยา่ งไร
19. ถ้าเอากระดาษปิดขา้ งบนมีความดนั 19. ไม่มี ไม่มีการดนั
อากาศไหม

ผบู้ นั ทึก................................................
(คุณครแู ม้นมงคล สจั นเิ ทศ)
21 สิงหาคม 2556

210

ผลการวิเคราะหค์ ำถามของครูจากแบบบันทกึ การสังเกตคำถามของครู

และคำตอบของนกั เรยี น

คำถาม ความร/ู้ ความ การ การ การ การ
ประเมนิ คา่
ความจำ เขา้ ใจ นำไปใช้ วิเคราะห์ สงั เคราะห์

1. นักเรียนเคยเห็น 
ลกู โปง่ ไหม

2. ทำไมมันถึงลอยได้ 
มกี ๊าซอะไรอยู่

3. ทำไมมันลอยได้ 
4. เวลาปล่อยยางรัด 
ลูกโป่งจะมีอะไร
ออกมา

5. วันนคี้ รูจะสอนด้วย

เทคนิคการสอน KWL 
ใครรู้จักบา้ ง

6. นักเรียนเคยซือ้ ขนมถุง

ขนึ้ ไปบนดอยไหม 
ถงุ ขนมเป็นอยา่ งไร

7. ถงุ ขนมลอยเลยหรือ  
8. แลว้ ถา้ เรานำถุงขนม

จากบนดอยลงมาข้างลา่ ง 
จะเปน็ อยา่ งไร

9. นกั เรียนเคยเหน็ 

เครอ่ื งมือวดั ความดนั ไหม 

10. นักเรียนเคยเห็นปมั๊ 
ไหมทีใ่ ชเ้ ตมิ ยางรถนะ่ 

11. แรงดันทำให้เคร่อื งบิน  
เป็นอย่างไร  

12. ครทู ดลองแก้วเล่นกล

โดยนำแก้วนำ้ มาใส่นำ้

แลว้ ปิดด้วยกระดาษ  
พร้อมกับยกแก้วข้นึ แลว้
ควำ่ พร้อมกับถามนกั เรียน

ว่าทำไมนำ้ ไมไ่ หล

211

คำถาม ความร/ู้ ความ การ การ การ การ
ความจำ
13. ทำไมไมม่ ีอากาศ เข้าใจ นำไปใช้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเมนิ คา่
14. ทำไมนำ้ ไม่ไหล 5
15. ทำให้เกิดอะไร 
16. นกั เรียนคิดวา่ เป็น 
อย่างไร กระดาษรบั
ไหวไหม 
17. ทำไมกระดาษมัน
ตดิ กับแก้ว 
18. เราจะอธิบายทาง 
วทิ ยาศาสตร์ได้อยา่ งไร
19. ถ้าเอากระดาษปิด   0
ข้างบน มีความดนั อากาศ  
ไหม 

รวม 13 0 70

ผบู้ ันทึก................................................
(คณุ ครูแม้นมงคล สจั นเิ ทศ)
21 สิงหาคม 2556

สรุปผลการวิเคราะหค์ ำถามของครู
เม่ือนำคำถามของครูมาวิเคราะห์ พบว่า ส่วนใหญ่ครูเน้นคำถามเกี่ยวกับความรู้
ความจำ ความเข้าใจ และการวิเคราะห์ แต่ไม่ได้เน้นถามคำถามเกี่ยวกับการนำไปใช้ การ
สงั เคราะห์และการประเมินค่า อย่างไรก็ตามครูควรนำจุดประสงค์การเรียนรู้มาพิจารณา หาก
พบว่าครูมุ่งพัฒนาเกี่ยวกับความเข้าใจและการวิเคราะห์ แสดงว่าคำถามของครูสามารถ
นำมาใช้ได้ แต่ถ้าจุดประสงค์มุ่งเน้นเรื่องการนำไปใช้ การสังเคราะห์และการประเมินค่า แสดง
ว่าครูต้องปรับปรุงการใช้คำถาม เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ตอบคำถามและแสดง
ความคิดเหน็ ใหส้ อดคล้องกบั วัตถุประสงค์ทีก่ ำหนดไว้นัน่ เอง
หลังจากที่ผู้นิเทศดำเนินการนิเทศและบันทึกการสังเกตการสอนลงในเคร่ืองมือ
ต่าง ๆ แล้ว จึงให้ข้อมูลย้อนกลับแก่ผู้รับการนิเทศเกี่ยวกับผลการสอน จากน้ันให้บันทึกหลัง
การสงั เกตการสอน ดงั แบบฟอร์มตอ่ ไปนี้

212

ตวั อยา่ ง 3 แบบสงั เกตพฤติกรรมการสอน (อารมณ์ ฉนวนจติ ร, 2556 : 192-194)
ชือ่ ผูส้ อน...................................................................................ชั้น........................................
กลุม่ / วิชา.........................................................................เรอ่ื ง.............................................
วันที.่ ..........เดือน..............................พ.ศ.........................เวลา..............................................
คำชี้แจง โปรดทำเครือ่ งหมาย  ในช่องพฤติกรรมการสอนตามรายการสังเกตการสอน

ตอ่ ไปนี้

รายการ พฤตกิ รรมการสอนของครู ไม่ปรากฏในแผน ข้อเสนอแนะ
ปฏิบตั ิ ไม่ปฏิบัติ การจดั การเรียนรู้ เพิ่มเติม
1. การเตรียมการสอน
1.1 จัดทำแผนการจดั การเรียนรู้ (บันทึก
การสอน) ตามขนั้ ตอนอยา่ งถูกตอ้ งและ
ตอ่ เน่อื ง
1.2 เตรียมส่อื การจดั การเรียนรู้ไว้
สอดคล้องกบั จดุ ประสงค์และเนอื้ หา
1.3 เตรียมแบบประเมินผลการเรียนไว้
สอดคล้องกับจุดประสงคแ์ ละเนอื้ หา
1.4 นกั เรียนมสี ่วนร่วมในการเตรียมการ
สอนแตล่ ะขน้ั ตอนตามความเหมาะสม

2. การจัดกิจกรรมการจดั การเรียนรู้
2.1 บอกจุดประสงคแ์ ละการจดั กิจกรรม
การจัดการเรียนรู้แกน่ ักเรียนกอ่ นสอน
2.2 จัดกจิ กรรมได้สอดคล้องกบั เน้ือหา
ในกล่มุ ประสบการณ์
2.3 จัดกิจกรรมตามลำดับขน้ั ตอนจาก
งา่ ยไปหายาก
2.4 เปิดโอกาสให้นกั เรียนมสี ว่ นรว่ มใน
กิจกรรมการเรียนรู้อยา่ งท่ัวถึง
2.5 มอบหมายงานให้นักเรียนทำตาม
ความสามารถ
2.6 ใชเ้ ทคนิคการสอนเหมาะสมกับ
จดุ ประสงค์ เน้อื หาและกจิ กรรม
2.7 ส่งเสริมให้นักเรียนทำงานโดยใช้
กระบวนการกลุ่ม

213

รายการ พฤตกิ รรมการสอนของครู ไมป่ รากฏในแผน ข้อเสนอแนะ
ปฏิบัติ ไมป่ ฏิบตั ิ การจัดการเรียนรู้ เพิ่มเติม
2.8 มกี ารชว่ ยเหลอื นักเรียนที่เรียนช้า
และส่งเสริมนกั เรียนที่เรียนดี
3. การใชส้ ่อื การจัดการเรียนรู้
3.1 ใชส้ ่อื ได้สอดคล้องกับจุดประสงค์
เน้อื หาและกิจกรรมการเรียนรู้
3.2 ส่อื ที่ใชช้ ดั เจนและเร้าความสนใจของ
นักเรียน
3.3 นกั เรียนมโี อกาสศกึ ษาและสมั ผสั สือ่
การจัดการเรียนรู้อย่างใกล้ชิดและทวั่ ถึง
4. การปกครองช้ันและการจัดบรรยากาศใน
ชนั้ เรียน
4.1 จัดบรรยากาศได้เหมาะสมและ
สอดคล้องกบั กจิ กรรมในกลุ่ม
ประสบการณ์
4.2 ให้ความสนใจแกน่ ักเรียนอย่างท่ัวถึง
4.3 ใชค้ ำพูดกับนกั เรียนอย่างเหมาะสม
4.4 มเี ทคนิควธิ ีควบคุมนกั เรียนให้สนใจ
การเรียนอย่างสม่ำเสมอ
4.5 ให้การเสริมแรงแกน่ กั เรียนอยา่ ง
เหมาะสม
5. การประเมินผล
5.1 มกี ารวัดความรู้ของนกั เรยี น
ก่อนเรียน
5.2 มกี ารตรวจสอบความเข้าใจของ
นักเรียนระหวา่ งเรียน
5.3 มกี ารทดสอบความรู้ของนักเรียน
หลงั การเรียน
5.4 ประเมินผลได้ตรงตามจุดประสงค์
การเรียนรู้และครอบคลมุ เน้ือหาท่ี
กำหนด

214

ตวั อย่าง 4 แบบบันทึกหลังการสังเกตการสอน

สำหรับผู้นิเทศปรึกษาหารือกับผู้รับการนิเทศ เพื่อบันทึกสาระสำคัญที่ได้จากการ
สังเกตการสอนในแต่ละประเด็น กรณีที่ท้ังสองฝ่ายมีความเหน็ สอดคล้องกัน และเมอ่ื ได้ลงนาม
ในแบบบันทึกเรียบร้อยแล้ว ให้สำเนาเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานทั้งสองฝ่าย ดังที่ นิพนธ์
ไทยพานิช (2535 : 148) ยกตวั อย่างแสดงตวั อยา่ งไว้ดังน้ี

โรงเรยี น..............................................................วิชา............................................................
ครูผ้สู อน..............................................................ชั้น.............................................................
ผู้สังเกต...............................................................วันเดือนปีท่สี อน........................................
ชว่ งเวลาทส่ี งั เกตการสอน.................น. ถงึ ...................น. สงั เกตครั้งท.ี่ ..............................

กระบวนการสอน บันทึกผลการปรึกษาหารือหลังการสงั เกตการสอน
1. การวางแผนการสอน
สิง่ ทีค่ วรยกยอ่ ง สิ่งทีค่ วรปรบั ปรงุ

2. การเลือกใช้เทคนิคการสอน
แบบตา่ ง ๆ

3. การจดั กิจกรรมใหส้ อดคล้อง
กบั จุดประสงคข์ องบทเรียน

4. การเลือกใช้สอ่ื / อุปกรณ์
การสอน

5. การคำนึงถึงความแตกต่าง
ของนกั เรียน

6. การแสดงถึงความรอบรู้ใน
เนือ้ หาวิชาที่สอน

7. การสร้างแรงจงู ใจเร้าความ
สนใจและเสริมแรงนักเรียน

215

3.4 แนวทางสู่การเป็นผูน้ ำทางการสอน
พฤติกรรมที่จะนำไปสู่การเป็นผู้นำทางการสอนหรือผู้นิเทศ ได้แก่ การฟัง การ

ชี้แจงให้กระจ่าง การให้กำลังใจ การสะท้อนกลับ การ นำเสนอ การแก้ปัญ หา การ
ประนีประนอม การส่งั การ การกำหนดมาตรฐาน และการเสริมแรง ซึ่งคาร์ล ดี กลิกแมน (Carl
D. Glickman, 2546 : 54-57) ได้เสนอแนวทางไว้ ดังน้ี

1. การฟัง (Listening) ผู้นิเทศนั่งฟังเงียบ ๆ มองผู้พูดและพยักหน้าเพื่อแสดงความ
เข้าใจ การผงกศีรษะ และการออกเสียงในลำคอ (“เออ” “อืมม”์ และอืน่ ๆ) ล้วนบ่งบอกถึงการ
ฟังทั้งสิน้

2. การชี้แจงให้กระจ่าง (Clarifying) ผู้นิเทศถามคำถามและพูดชี้แจงเพื่อขอให้ผู้พูด
อธิบายกระจ่างขึ้น เช่น “คุณหมายความเช่นนั้นใช่ไหม” “คุณจะอธิบายเพิ่มเติมหรือไม่” “ฉัน
ยังสบั สนเรื่องนีอ้ ยู่” “ฉนั ตามคณุ ไม่ทนั ...” “คณุ ตามฉันไม่ทัน...”

3. การให้กำลังใจ (Encouraging) ผู้นิเทศใช้คำพูดแสดงการตอบรับ ซึ่งช่วยให้ผู้พูด
ยงั คงอยู่ในสถานภาพที่จะอธิบายต่อไปได้ เช่น “ฉันกำลังฟังคุณอยู่” “พูดต่อไป” “ฉันเข้าใจสิ่ง
ที่คณุ พูด” “พดู ตอ่ ไปอีกซิ”

4. การสะท้อนกลับ (Reflecting) ผู้นิเทศให้แนวคิดของตนเกี่ยวกับประเด็นที่กำลัง
ถกเถียงกัน “เร่อื งน้ีฉนั เห็นว่า...” “สิ่งที่ควรทำคือ...” “ฉันอยากให้พวกเราพิจารณา..” “ฉันเช่ือ
วา่ ...”

5. การแก้ปัญหา (Problem Solving) โดยปกติหลังจากอภิปรายประเด็นปัญหาแรก
แล้ว ผู้นิเทศมักริเริ่มผลักดันทุกคนที่เกี่ยวข้องให้ทำรายการแก้ปัญหาที่เป็นไปได้ โดยทั่วไป
สามารถใช้ประโยคหรือข้อความ เช่น “ขอให้หยุดอภิปรายและแต่ละคนช่วยกันเขียนสิง่ ที่พอจะ
ทำได้” “เรามีแนวคิดอะไรบ้างที่จะนำมาแก้ปญั หานีไ้ ด้” “ขอให้ทุกคนคิดถึงแนวทางปฏิบัติทีเ่ รา
ทำได้ทั้งหมด”

6. การประนีประนอม (Negotiating) ผู้นิเทศเปลี่ยนการแก้ปัญหาจากแนวทางที่
เป็นไปได้มาเป็นอาจจะเป็นไปได้ โดยอภิปรายผลที่ตามมาของแนวทางปฏิบัติแต่ละข้อที่เสนอ
มา ด้วยวิธีสำรวจความขัดแย้งหรือลำดับความสำคัญของเร่ือง และทำให้ตัวเลือกลดลงด้วย
คำถามต่าง ๆ เหล่านี้ “เราเห็นด้วยตรงไหน” “เราจะเปลี่ยนการกระทำน้ันให้เป็นที่ยอมรับของ
ทุกคนได้อย่างไร” “เราจะหาข้อประนีประนอมที่ทำให้เราแต่ละคนเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่เรา
ต้องการได้หรอื ไม่”

7. การสั่งการ (Directing) ผู้นิเทศบอกผู้มีส่วนร่วมว่ามีทางเลือกอะไรบ้าง หรือมี
อะไรที่ต้องกระทำ การอธิบายทางเลือกน้ันผู้นิเทศอาจพูดในสิ่งต่อไปนี้ “ตามที่ฉันเข้าใจ

216

ต่อไปนี้คือทางเลือก : คุณอาจเลือกทำ ก, ข, หรือ ค ทางเลือกใดที่คุณคิดว่าน่าจะเหมาะสม
ที่สุด และคุณจะเลือกใช้ทางใด” ผู้นิเทศบอกผู้มีส่วนร่วมถึงสิ่งที่ต้องกระทำ เขาหรือเธออาจ
กล่าวดังน้ี “ฉันตัดสินใจว่าเราจะทำ...” “ฉันต้องการให้คุณทำ...” “นโยบายจะเป็น...” “นี่คือสิ่ง
ที่กำลงั จะเปน็ อย่างไร...” “เราจะดำเนนิ ตอ่ ไปดังน้ี...”

8. การกำหนดมาตรฐาน (Standardizing) ผู้นิเทศต้ังเกณฑ์ที่คาดหวังไว้ รวมทั้ง
กรอบเวลาเพื่อการตัดสินใจดำเนินการ ตั้งจุดประสงค์ของเป้าหมาย ความคาดหวังต่าง ๆ อาจ
สื่อได้ด้วยประโยคดังต่อไปนี้ “ภายในวันจันทร์หน้าเราอยากเห็น...” “ขอให้รายงานการ
เปลี่ยนแปลงนี้มาให้ฉันทราบโดย...” “ขอให้ดำเนินการสองกิจกรรมแรกต่อโดย...” “ฉันอยาก
ให้มีการปรับปรุงเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 ก่อนการประชุมคราวหน้า” “เราตกลงกันว่างานทั้งหมด
จะต้องเสรจ็ ก่อนการสงั เกตการณ์คราวหน้า”

9. การเสริมแรง (Reinforcing) ผู้นิเทศเสริมคำแนะนำและเกณฑ์ที่ต้องผ่านโดย
บอกถึงผลที่อาจตามมา ผลนั้นอาจเป็นในทางบวก เช่น ในรูปของการพูดยกย่องชมเชย “ฉันรู้
ว่าคุณทำได้” “ฉันเช่ือมั่นในความสามารถของคุณ” “ฉันอยากบอกคนอื่นให้รู้วา่ คุณทำอะไรไป
แล้ว” ผลการเสริมแรงนั้นอาจเป็นทางลบก็ได้ เช่น “ถ้าไม่ทำให้เสร็จตรงเวลา เราจะไม่ได้รับ
การสนับสนุน...” หรือ “ต้องเข้าใจนะ ว่าความล้มเหลวที่ทำงานนี้ไม่เสร็จตรงเวลา จะมีผล
เร่ือง...” พฤติกรรมการพูดคุยเหล่านี้อาจนำมาผสมผสานเข้าด้วยกันในวิธีต่าง ๆ ก่อให้เกิด
แนวทางและผลลัพธ์หลากหลายเพื่อการทำงานร่วมกับครู พฤติกรรมบางอย่างเพิ่มความ
รับผิดชอบให้ครูมากขึ้นในการตัดสินใจ ส่วนพฤติกรรมอื่นเพิ่มความรับผิดชอบให้ผู้นิเทศมาก
ขนึ้ ในการตดั สินใจ และยังบ่งชีค้ วามรับผิดชอบเพื่อการตัดสินใจร่วมกัน ดังตัวอย่างกรณีศึกษา
ของการนิเทศแบบร่วมคิด ร่วมทำ ดังน้ี

ตวั อย่าง 5 กรณศี ึกษาการนิเทศแบบรว่ มคดิ รว่ มทำ
คาร์ล ดี กลิกแมน (Carl D. Glickman, 2546 : 81-91) ได้ศึกษาการนิเทศแบบร่วม
คิดร่วมทำ ซึ่งแนวทางดังกล่าวประกอบด้วยพฤติกรรมการฟัง การทำให้กระจ่าง การนำเสนอ
การแก้ปัญหาและการต่อรองประนีประนอม ผลลัพธ์ท้ายสุดคือ ได้ข้อตกลงร่วมกันระหว่างผู้
นเิ ทศและครูผู้รับการนิเทศ ซึ่งจะกำหนดโครงสร้างกระบวนการและเกณฑ์เพื่อการพัฒนาการ
เรียนการสอนเป็นลำดับ ตัวอยา่ งต่อไปนี้แสดงให้เห็นภาพวิธีที่ผนู้ ำและครูนำไปใช้แยกแยะและ
แก้ปญั หาในชั้นเรียน ดังตัวอยา่ งตอ่ ไปนี้
ซูซาน วอลด็อก ครูสอนชั้นปีที่ 4 เป็นตัวอยา่ งของครูผเู้ ปี่ยมพลงั เธอเดินไปรอบ ๆ
ห้อง พูดคุย รับฟัง และสังเกตช้ันเรียนของเธอเต็มไปด้วยสื่อการเรียน มีหลายชิ้นที่สร้างสรรค์
โดยนักเรียนกับครู ชั้นเรียนเจ๊ียวจ๊าวด้วยเสียงปฏิบัติกิจกรรมในภาคเรียนฤดูใบไม้ร่วงนี้ เธอ

217

ร่วมโปรแกรมผสมผสานเรื่องเทคโนโลยีในการสอนการอ่านด้วย เดือนกุมภาพันธ์ ครูซูซาน ดู
ท่าทางเหน็ดเหน่ือย ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ เธออารมณ์เสียกับนักเรียนสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ในช่วง
พักเธอเกบ็ ตัวอย่ใู นชั้นเรยี นมากกวา่ เข้าร่วมกิจกรรมกับครอู ืน่ ๆ ในหอ้ งพักครู

จากกรณีศึกษาดังกล่าวผู้นิเทศแบบร่วมคิดร่วมทำควรเข้าไปพูดคุยกับครูซูซาน
อย่างเป็นกันเอง เพื่อสังเกตว่าเธอต้องการให้ช่วยหรือรอให้เธอเริ่มการสนทนาก่อน เฉพาะ
กรณีนี้ผู้นิเทศรู้สึกห่วงใยสุขภาพของครูซูซาน ผู้นิเทศตัดสินใจว่าสภาพครูผู้เหน่ือยล้ากับ
กิจกรรมในศูนย์เรียนรู้บอกถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ดังน้ันผู้นิเทศจึงตัดสินใจพบครูผู้นี้โดยมีขั้นตอน
ดังน้ี

1. การพูดคยุ ก่อนการประชมุ
การพูดคุยกำหนดไว้ในเวลาพักกลางวัน ซูซานกับจอนนำอาหารกลางวันมา
รับประทานรว่ มกันอย่างเปน็ กันเองในชน้ั เรียน
ซซู าน : เป็นอย่างไรบ้าง จอน
จอน : ก็ดี การศึกษาหลักสูตรและเทคโนโลยีดงึ เวลาผมไปหมดเลย แตก่ ็ก้าวหน้าไปเยอะ
แล้วคุณล่ะ เปน็ อย่างไรบ้าง
ซซู าน : ก็ดีนะ อยากใหป้ ิดเทอมภาคเรียนฤดูร้อนเรว็ ๆ แต่ช่วงน้ีกส็ บายดี
จอน : คุณดเู หนอ่ื ยนะ ผมเป็นหว่ งว่าคุณจะหมดพลังไปเสียกอ่ น
ซูซาน : อาจจะดเู หนื่อยบ้าง แตเ่ ดีย๋ วก็หาย
จอน : ทำอยา่ งไรจะเรียกพลงั คณุ กลบั มาได้ อะไรบ้างทีท่ ำให้คณุ เหนอื่ ย
ซซู าน : ฉนั เพิ่งย้ายเข้าไปอยูบ่ ้านใหม่ ยังไม่ได้ร้ือของ ยังไมไ่ ด้ทาสีผนงั ห้อง ลูก ๆ ยงั ปรับตัว
ไมไ่ ด้ แล้วยงั ตอ้ งจดั กิจกรรมในชั้นเรยี นอีก ฟังดมู ากไปหน่อยนะ ยงั มีแฟ้มสะสมงาน
นกั เรียนที่เสริมบทเรียน คอมพิวเตอร์ประจำสัปดาหเ์ พิ่มมาเรือ่ ย ๆ อีก
จอน : ผมช่วยคณุ จดั บ้านไมไ่ ด้ แตผ่ มอาจช่วยคณุ จัดช้ันเรยี นได้ บางทีคณุ อาจทำงานเกิน
กำลังอยู่นะ แค่โครงการสอนคณุ ก็หมดเวลาแล้ว ตอนน้ีคุณยงั มภี าระเรอ่ื งย้ายบ้าน
เข้ามาอีก ก็เลยดเู หมอื นวา่ คณุ ทำอะไรไม่ทันเหมอื นที่เคย
ซซู าน : ฉนั รู้สึกผดิ ทีส่ อนนกั เรียนได้นอ้ ยลงเพราะเรือ่ งส่วนตวั ฉนั ต้องทำให้ได้
จอน : ใช่ คณุ อาจจะทำได้ แต่อกี สามเดือนคณุ ตอ้ งไปนอนบ้านพกั ฟืน้ ผู้ปว่ ย คณุ จะวา่ อะไร
ไหมถ้าอกี 2-3 วนั ผมจะไปเยีย่ มชั้นเรยี นคุณ บางทีเราอาจปรึกษากันเกี่ยวกับ
วิธีการสอนนักเรียนโดยรบกวนเวลาคุณน้อยลง
ซซู าน : ด้วยความยินดีค่ะ แตอ่ ยา่ เพียงแค่สงั เกตเลย ถ้าเหน็ ว่ามีนักเรียนคนใดต้องการความ
ชว่ ยเหลอื ก็กรุณาช่วยด้วยนะคะ
จอน : ตกลง อาทิตยห์ นา้ ผมจะเป็นท้ังผู้สอนและผู้สังเกต

218

การเจรจาแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย ดำเนินไปตลอดช่วงการปรึกษาก่อนการสังเกต
เริม่ แรกผู้นิเทศต้องทำให้ครูเปิดใจ รับปัญหาของตนเองให้ได้ก่อน ถ้าครูปฏิเสธความชว่ ยเหลือ
ผู้นิเทศต้องตัดสินใจถอยออกมาแล้วพยายามต่อไปภายหลัง หรือพยายามกดดันด้วยคำพูดว่า
“ในฐานะผู้นิเทศ ผมเห็นใจและจำเป็นที่ผมต้องเกี่ยวข้อง คุณดูเหนื่อยและผมอยากช่วยคุณ”
ถ้าครูผู้น้ันยังปฏิเสธอยู่ ผู้นิเทศในฐานะที่เป็นผู้ประสานควรพยายามต่อรองด้วยข้อเสนอและ
มองหาข้อโต้แย้ง เช่น คำพูดว่า “ผมจะไปเยี่ยมช้ันเรียนคุณและสังเกตอย่างใกล้ชิดนะ คุณ
ต้องการให้ผมสังเกตอะไรและผมจะทำประโยชน์อะไรได้บ้าง” หากพบครูที่ไม่เต็มใจ ผู้นิเทศ
ต้องพยายามบังคับให้เห็นว่าการมีส่วนร่วมของผู้นิเทศเป็นเร่ืองจำเป็น แต่ขอให้ครูกำหนด
ขอบข่ายของการมีส่วนร่วม เม่ือมาถึงจุดนี้แล้วท้ังสองฝ่ายสามารถพิจารณาข้อเสนอของกัน
และกันและตกลงกันได้

2. การสังเกตช้นั เรยี น
สี่วันต่อมา จอนเข้าไปในช้ันเรียนของซูซานตามที่ตกลงกันไว้วันละ 2 ครั้ง คร้ังละ
20 นาที และคัดเลือกคาบเรียนไม่ให้ซ้ำกันระหว่างการสังเกตแต่ละครั้ง เขาถือสมุดบันทึกไป
ด้วยและเดินไปทั่วห้อง บันทึกวิธีการสอนของครู บันทึกกิจกรรมนักเรียน พูดคุยกับนักเรียน
เรื่องงานที่ได้รับมอบหมาย และช่วยนักเรียนที่มีปัญหาเกี่ยวกับกิจกรรมที่กำลังปฏิบัติอยู่เป็น
รายบุคคล เขาจดบันทึกไว้จนกระทั่งถึงเวลาออกจากช้ันเรียนและรีบเขียนข้อสังเกตโดยท่ัว ๆ
ไปทันที ดังตวั อยา่ งบันทึกการสงั เกตลำดบั ตอ่ ไปนี้

ตวั อย่าง แบบบนั ทกึ การสงั เกตการสอน
ครง้ั ที่ 3 วนั องั คารท่ี 15 กมุ ภาพนั ธ์ เวลา 10.00-12.00 น.

นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมที่ศูนย์การเรียน 3 ศูนย์ ซูซานอยู่ที่ศูนย์การอ่านและ
เทคโนโลยีกำลังพูดคุยกับนักเรียนเป็นรายบุคคลเกี่ยวกับหนังสือเล่มล่าสุดที่นักเรียนอ่าน เธอ
ใช้เวลา 2-3 นาที ซักถามเกี่ยวกับหนังสือและวิธีนำเสนอบทโฆษณาในเว็บไซด์จำลอง ศูนย์
คณิตศาสตร์มีนักเรียน 3 คน กำลังฟังเทปแล้วเติมตัวเลขลงในใบงานพีชคณิต อีก 2 คน กำลัง
คำนวณความสูงของอาคารเรียน พวกเขาขอให้ผมเดาคำตอบ เราคุยกันถึงวิธีการที่ทำให้
ประมาณค่าได้ถูกต้องในเชิงคณิตศาสตร์ ขณะพูดคุยกัน เราสังเกตเห็นนักเรียนบริเวณศูนย์
ก่อสร้างกำลังสร้างยานจำลองขนาดเล็กไปดวงจันทร์ เสียงทุบฆ้อนและโต้เถียงกันดังมาก
ซูซานต้องหยุดการพูดคุยถึง 3 คร้ัง เพื่อบอกให้กลุ่มก่อสร้างหยุด ในที่สุดเธอต้องบอกให้พวก
เขาออกจากบริเวณน้ัน

219

ความประทบั ใจท่วั ไป
แต่ละคืนซูซานต้องตรวจงานที่มอบหมายให้นักเรียน และเก็บบันทึกผลงานเป็น
จำนวนมาก มีตะกร้าสำหรับเก็บงานนักเรียนแต่ละวัน และดูเหมือนว่านักเรียนจะขาดสมาธิ
หากยังให้จดั กิจกรรมทีม่ เี สียงดงั อยู่ติดกับกิจกรรมทีไ่ มใ่ ชเ้ สียง
3. การวเิ คราะห์
หลังการสังเกตการสอน 4 วัน จอนอ่านบันทึกของเขาอีกครั้งหนึ่ง แล้วจดคำถาม
เพือ่ ถามซูซานในการสังเกตการสอน ดงั น้ี
3.1 คุณต้องตรวจงานนกั เรียนเองจำนวนเทา่ ใดในแตล่ ะวัน
3.2 คุณจะให้งานนักเรียนน้อยลงได้หรือไม่ หรือมีวิธีอื่นในการตรวจงานบ้าง
หรอื ไม่
3.3 เหตผุ ลสำคญั ของการมี 3 ศนู ยก์ ารเรียนคืออะไร
3.4 ทำไมต้องมีแผนสำหรบั นักเรียนเปน็ รายบคุ คลมากอยา่ งน้ัน
3.5 มีวธิ ีอื่นทีจ่ ะให้นักเรียนทราบผลการรายงานหนงั สืออ่านเทคโนโลยีหรอื ไม่
จากการวิเคราะห์ข้อสงั เกตที่ได้บันทึกไว้ จอนเช่ือว่าซูซานมีงานต้องตรวจและทำที่
โรงเรียนมากเกินไป ไม่นับรวมงานที่เธอต้องทำที่บ้านอีก เธอทำงานเพื่อนักเรียนมากเกินไป
และไมป่ ลอ่ ยให้พวกเขารับผิดชอบงานในชั้นเรียนบ้าง เขาตัดสินใจถามสิง่ ที่เขาบนั ทึกไว้ เพื่อฟัง
คำตอบของซูซาน ถามว่าเธอจะทำอะไรเพื่อแก้ปัญหา เสนอสิ่งที่เขาคิดว่าควรจะทำและหา
แนวทางแก้ปญั หารว่ มกันเพือ่ เขียนในแบบบันทึกสญั ญา
4. การพูดคุยหลังประชมุ
จอนตงั้ คำถามท้ังหมดแก่ซูซาน ในการพูดคยุ หลังสังเกตการสอน ซซู านตอบดงั นี้
4.1 ตามปกติตรวจงานนกั เรียนคนละ 3 ชิน้ ทุกวัน (รวมทั้งหมด 81 ชนิ้ )
4.2 ไม่แน่ใจว่าจะให้งานนักเรียนน้อยลงได้หรือไม่ เพราะเธอจำเป็นต้องตรวจสอบ
ความก้าวหน้าของนกั เรียน
4.3 พิจารณาว่าจะยุบศูนย์ก่อสร้าง แต่ยังต้องการให้ศูนย์ศิลปะและดนตรีมีอยู่
ต่อไป แม้จะมีเสียงดงั แต่ไม่กอ่ ปญั หา
4.4 ไม่เชื่อในการจัดกลุ่มตามความสามารถ ถ้าเป็นไปได้ต้องการให้งานเป็น
รายบุคคล
4.5 รู้สกึ อึดอัดใจกบั การหาวิธีประหยัดเวลาตรวจแฟ้มสะสมงานเทคโนโลยี
ผู้นิเทศจึงค่อย ๆ เริ่มแก้ปัญหาโดยพูดว่า “ผมคิดว่าเราควรหาเวลาพิจารณาว่า
คุณจะเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างเพื่อลดปริมาณงานของคณุ และปรบั ปรุงการปฏิบตั ิงานในช้ันเรียน
ให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น ผมชื่นชมความกระตือรือร้น และความสนใจที่คุณมีต่อช้ันเรียนของคุณ

220

อย่าทิ้งความรู้สึกน้ันนะ คืนนี้เราน่าจะเขียนรายการที่เปลี่ยนแปลงได้ทันทีสัก 2-3 ข้อ พรุ่งนี้
ก่อนโรงเรยี นเข้า คณุ จะมาพบผมเพือ่ นำรายการของเรามาดกู นั ได้ไหม สักเจ็ดโมงคร่งึ เปน็ ไง”

คืนนนั้ จอนเขียนแนวคิดต่อไปนี้
1. อนญุ าตใหน้ ักเรียนที่คดั สรรไว้ชว่ ยตรวจงานง่าย ๆ
2. จัดประชุมกลุ่มย่อยให้มากกว่ารายบุคคลร่วมกับนักเรียน เพื่อหาเกณฑ์การ
ประเมินงาน และแนวทางวเิ คราะห์งานของกันและกนั
ในเยน็ วันเดียวกันนั้น ซูซานจดแนวคิดตอ่ ไปนี้
1. ขอนักเรียนเก่ง ๆ ของครูสอนช้ันปีที่ 6 มาทำหน้าที่ตรวจกระดาษคำตอบและ
บันทึกผลได้หรือไม่ หรือดูว่าคุณแม่ของเฟลิกซ์อยากช่วยตรวจกระดาษคำตอบหรือไม่ เธอพูด
ไว้เม่อื ตอนตน้ ปีว่าเธอยินดีชว่ ย
2. ยุบศูนย์ก่อสร้างที่เคยจัดไว้ทุกวัน ไปจัดเป็นช่ัวโมงเรียนการก่อสร้างสำหรับทั้ง
ชั้นในตอนบ่ายวนั ศุกร์แทน
3. พักงานตกแต่งบ้านไว้จนปิดเทอมฤดูใบไม้ผลิ ตอนนี้ของที่ร้ือออกมาก็เพียงพอ
แล้วและเลิกบงั คบั ตัวเอง
เช้าวันต่อมา การพูดคุยหลังสังเกตการสอนยังคงดำเนินต่อไป โดยยึดจุดมุ่งหมาย
เดิมในการนำเสนอแนวคิดของกันและกัน ตามด้วยการปรับปรุงแก้ไข และเลือกกิจกรรมที่ทั้ง
ผู้นำและครูตกลงจะใช้แก้ปัญหา “ภาระงานเกินกำลังครู” ต่อไปนี้เรามาจับประเด็นจากบท
สนทนาระหวา่ งครแู ละผนู้ ิเทศ หลงั จากทีอ่ ่านข้อเสนอแนะของกนั และกัน
จอน : ผมไมท่ ราบเกีย่ วกบั การให้ผู้ปกครองอาสาสมัคร หรอื นกั เรียนช้ันสงู กว่าชว่ ยตรวจ
งาน ผมคิดวา่ นักเรียนสว่ นมากของคุณ ถ้าได้รับคำชีแ้ จงทีล่ ะเอียดชัดเจนและมี
ต้นฉบบั พวกเขาน่าจะตรวจงานการเขียนสะกดคำได้ คุณน่าจะให้พวกเขาลองทำ
หรอื ไม่ก็จดั การวจิ ารณ์งานนกั เรียนเปน็ กล่มุ จะดีไหม
ซูซาน : ลองทำสัก 1-2 อาทิตย์ ก็ดีนะคะ คุณจะกรุณาชว่ ยฉนั เริ่มโปรแกรมน้ี ด้วยการสร้าง
เกณฑ์ประเมนิ ผลงานด้วยตนเองเพื่อใช้ประเมินงานกลุ่มได้ไหม
จอน : ฟังดดู ีน่ี ผมจะช่วยโดยใหผ้ ตู้ รวจงานของคณุ เริม่ งานได้ แล้วเร่อื งการจัดกิจกรรมกลุ่ม
ย่อย กิจกรรมทีเ่ สียงดงั และกิจกรรมทีไ่ มใ่ ชเ้ สียง จะทำอย่างไร
ซซู าน : ไมเ่ ห็นดว้ ยค่ะ ดิฉนั ต้องการใหเ้ ขาเรียนรกู้ ารทำงานอย่างอิสระ และเมือ่ ดฉิ ันตรวจ
งานของแต่ละคน พวกเขาพัฒนาตวั เองได้เร็วมาก ดิฉนั ไม่อยากใหช้ ้ันเรยี นเดิมวุ่นวาย
ในตอนนี้ แต่ก็จะยุบศนู ยก์ อ่ สร้างทีม่ ที ุกวนั ไปจัดไว้วนั ศกุ รว์ นั เดียว
จอน : ถ้าคุณไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงแผนเดิมแทนทีค่ ุณจะยุบศูนยก์ อ่ สร้าง คุณนา่ จะ
ทบทวนเรื่องการให้ระเบียบของศูนย์ หากมีนักเรียนคนใดไม่เคารพกติกาก็ตดั สิทธิใ์ น

221

การใชศ้ นู ย์นี้
ซซู าน : วิธีนกี้ ็ไมไ่ ด้เปลี่ยนแปลงอะไรมากเลยนีค่ ะ
จอน : งน้ั กม็ าถึงขั้นทีไ่ ด้ข้อตกลงกันแล้ว มาลงมอื เขียนกนั เลย

จอนเขียนสิ่งที่เขาตกลงร่วมกัน ซูซานขอให้เขาเขียนสัญญาที่เธอมีต่อตวั เองรวมไป
ด้วยว่า เธอจะพักการแต่งบ้านไว้จนถึงปิดเทอมฤดูใบไม้ผลิ ผู้นิเทศเห็นด้วยและท้ังสองลงชื่อ
และวนั ที่ในข้อตกลงนน้ั ดงั ตวั อย่างสญั ญา (คารล์ ดี กลิกแมน, Carl D. Glickman, 2546 : 88)
ดังตอ่ ไปนี้

ตวั อยา่ ง สญั ญาการสอน

สัญญาการสอน
ระหว่าง

นางซูซาน วอลด็อก ครูผสู้ อน
นายจอน กอลลอป ผู้นิเทศ

18 มีนาคม ค.ศ. 2001

จดุ ประสงค์ : เพือ่ ลดปริมาณงานของครู
กิจกรรมครู :

1. ตรวจแฟ้มสะสมงานสัปดาห์เว้นสัปดาห์ ให้นักเรียนตรวจงานกลุ่มสลับสัปดาห์
กนั

2. เน้นการปฏิบัติตามกฎระเบียบของศนู ย์ก่อสร้างและลงโทษผฝู้ ่าฝนื
3. เลื่อนการจดั บ้านไปจนถึงฤดใู บไม้ผลิ
กิจกรรมผู้นเิ ทศ :
1. ช่วยสร้างเกณฑ์ประเมินตนเองในกลุ่ม ใช้ประเมินแฟ้มสะสมงานเทคโนโลยีของ
นกั เรียนแตล่ ะคน
2. เยี่ยมช้ันเรียนและพบนักเรียน เพื่อดูการใช้เกณฑ์การประเมิน 2 คร้ัง ก่อนการ
ประชมุ ครั้งตอ่ ไป
ติดตามผลการประชมุ วันที่ 3 เมษายน ค.ศ. 2001

ลงชื่อ................................................ครผู ู้สอน

ลงชื่อ................................................ผนู้ ิเทศ

222

5. วิจารณห์ ลงั การพูดคยุ
สัปดาห์ต่อมา ซูซานและจอนทบทวนกระบวนการนี้อีกคร้ังหนึ่ง ซูซานอธิบายว่า
วิธีการน้ีมีประโยชน์ เพราะเธอมีงานหลายด้านมากเกินไปจริง ๆ เธอพอใจที่ผู้นิเทศไม่ยืนกราน
ให้เธอใช้ข้อเสนอแนะของเขาในการจัดช้ันเรียนใหม่ เพราะเธอรู้สึกว่าชีวิตส่วนตัวกับชีวิตการ
ทำงานปรับเข้ากันได้ จอนรู้สึกพอใจแต่หวังว่าเธอคงเปิดใจรับการเปลี่ยนแปลงชั้นเรียนในครั้ง
ต่อไปอีก
6. อภิปรายแนวทางแบบร่วมคิดรว่ มทำ
ครแู ละผนู้ ิเทศปรึกษาหารือเกี่ยวกับแผนการปฏิบัติงานอย่างจริงจัง สดุ ท้ายครูและ
ผู้นิเทศใช้แผนปฏิบัติงานที่ผสมผสานความคิดของทั้งสองฝ่ายร่วมกัน ทั้งสองฝ่ายช่วยกัน
ทบทวน ปรับปรุง ตัดทิ้ง เสนอข้อคิดเห็น และเสนอข้อโต้แย้งจนได้ข้อตกลงร่วมกัน วิธีร่วมคิด
ร่วมทำแบบนี้ได้ข้อสรุปว่า แนวคิดในการพัฒนาการเรียนการสอนของผู้นิเทศหรือครูเพียงฝ่าย
เดียวไม่มีประสิทธิภาพเท่ากบั แนวคิดที่ได้จากการผสมผสานร่วมคิดร่วมทำของท้ังสองฝ่าย แต่
ละคนต้องหาเหตุผลโต้แย้งกันอย่างหนักเพื่อสนับสนุนความคิดเห็นของตนเอง และในที่สุดต้อง
ยอมรับการเปลีย่ นแปลงและปฏิบัติตามในเร่อื งที่จำเป็น ผู้ไมเ่ ห็นด้วยอาจถามวา่ จะทำอย่างไร
ถ้าผู้นิเทศและครูผู้สอนไม่สามารถตกลงกันได้ จริง ๆ แล้วในสถานการณ์แบบร่วมคิดร่วมทำ
อย่างแท้จริงน้ัน จะมีบุคคลที่สามซึ่งท้ังสองฝ่ายยอมรับมาเป็นผู้ไกล่เกลี่ย เช่น ผู้อำนวยการ
สถานศกึ ษา หรอื ทีป่ รึกษาจากสำนกั งานกลาง ใช้อำนาจในการ “ออกเสียงตดั สิน”
จากตัวอย่างที่ คาร์ล ดี กลิกแมน ได้นำเสนอเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของการนิเทศ
แบบร่วมคิดร่วม ซึ่งได้กล่าวถึงตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งสิ้นสุดกระบวนการของการนิเทศการ
เรียนการสอน ซึ่งผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติได้
อย่างไรก็ตาม การนิเทศจะประสบความสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อผู้รับการนิเทศนำข้อมูลที่ได้มาใช้ใน
การพฒั นาตนเองอย่างตอ่ เนื่องและสม่ำเสมอ

223

3.5 สรปุ ทา้ ยบท
จากการศึกษาพบว่า เคร่ืองมือการนิเทศการศึกษามีจำนวนมากและหลากหลาย

ชนิด โดยเฉพาะเคร่ืองมือที่นำมาใช้ในการสังเกตการสอนในชั้นเรียนที่นำมาใช้ระหว่างการ
ดำเนินการสอนของครู ซึ่งประกอบด้วยเคร่ืองมือสังเกตการสอนเชิงปริมาณ เชิงคุณภาพ และ
ผสมผสานระหว่างเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ ซึ่งผู้นิเทศเองควรทำความเข้าใจถึงวิธีการใช้
และวิธีการบันทึกผลการสังเกตดังกล่าวให้ถูกต้องและสมบูรณ์มากที่สุด สำหรับการเลือกใช้
เคร่ืองมือการนิเทศใดน้ัน ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้นิเทศว่าเคร่ืองมือชนิดใด ที่จะช่วยส่งเสริม
ประสิทธิภาพในการจัดการเรียนรู้ของผู้รับการนิเทศมากที่สุด อย่างไรก็ตามเคร่ืองมือสังเกต
การสอนย่อมมีลักษณะที่แตกต่างกัน เช่น เคร่ืองมือสังเกตการสอนเชิงปริมาณมักแสดงในรูป
ของตัวเลข จำนวน ความถี่ในประเด็นที่ต้องการสังเกต ส่วนเคร่ืองมือสังเกตการสอนเชิง
คุณภาพเป็นการเขียนบรรยาย หรือพรรณนาความข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นขณะที่ครู
สอน โดยไม่มีการเขียนแสดงความเห็นของผู้นิเทศ จากนั้นจึงนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์และให้
ข้อมูลย้อนกลับแก่ครูผู้รับการนิเทศ สำหรับเคร่ืองมือสังเกตการสอนที่ผสมผสานระหว่างเชิง
ปริมาณและเชิงคุณภาพนั้นเป็นการนำเสนอข้อมูลเชิงตัวเลข ความถี่ของพฤติกรรม ร่วมกับ
การเขียนบันทึกข้อมูลรายละเอียดในประเด็นที่สำคัญ อย่างไรก็ตามไม่มีเคร่ืองมือสังเกตการ
สอนใดที่ดีทีส่ ุด แต่ขึ้นอยู่กบั เป้าหมายในการนำไปใช้ว่าลักษณะเครื่องมือชนิดใดที่เหมาะสมกับ
การนิเทศการสอนในครั้งน้ันมากที่สุด ซึ่งผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศต้องพูดคุยและตกลงกันให้
ชัดเจนก่อนที่จะนำเคร่ืองมือมาใช้ทุกคร้ัง นอกจากนี้เคร่ืองมือการนิเทศการศึกษาทุกชนิดได้
แสดงถึงร่องรอยหลักฐานที่เป็นรูปธรรมและเปน็ ระบบ เมือ่ ใดกต็ ามที่ครูผรู้ ับการนิเทศต้องการ
ทราบผลการพฒั นาการสอนของตนเอง ก็สามารถย้อนกลับมาดูเอกสารดงั กล่าวได้ตลอดเวลา
สำหรับแนวทางสู่การเป็นผู้นิเทศแบบร่วมคิดร่วมทำเป็นสิ่งสำคัญ และพฤติกรรมที่จะนำไปสู่
การเป็นผู้นำทางการสอนหรือผู้นิเทศ ได้แก่ การฟัง การชี้แจงให้กระจ่าง การให้กำลังใจ การ
สะท้อนกลับ การนำเสนอ การแก้ปัญหา การประนีประนอม การส่ังการ การกำหนดมาตรฐาน
และการเสริมแรง ซึ่งผนู้ ิเทศควรหมั่นฝึกฝนและปฏิบัติอยา่ งสมำ่ เสมอ

224

3.6 คำถามทบทวน
1. เครือ่ งมือการสงั เกตการสอนมกี ีป่ ระเภท อะไรบ้าง
2. เหตุใดก่อนใช้เคร่ืองมือสังเกตการสอนทุกชนิด ผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศต้อง

พูดคุย ปรึกษาหารอื กันทกุ คร้ัง
3. เม่ือครูผู้รับการนิเทศต้องการทราบจำนวนความถี่ของพฤติกรรมที่ตนปฏิบัติ

บ่อยคร้ังและในขณะเดียวกันต้องการทราบข้อมูลรายละเอียดในประเด็นสำคัญ ๆ นั้นด้วย ผู้
นิเทศควรใช้เคร่อื งมอื สังเกตการสอนประเภทใด เพราะเหตใุ ด

4. มีผู้ที่กล่าวว่าเราสามารถใช้เคร่ืองมือการสอนแบบเดียวกันกับการสอนทุก
เทคนิคการสอน ท่านมคี วามคิดเห็นอย่างไร จงอธิบาย

5. พฤติกรรมที่จะนำไปสู่การเป็นผู้นำทางการสอนหรือผู้นิเทศมีพฤติกรรมใดบ้าง
ยกตวั อยา่ งมาอยา่ งน้อย 3 พฤติกรรม พร้อมทั้งอธิบาย

6. พฤติกรรมที่จะนำไปสู่ผู้นำการสอนข้อใดที่ท่านมีความเห็นว่า สามารถนำมาใช้
ปฏิบัติได้นอ้ ยและปฏิบัติได้ยาก เพราะเหตุใด

7. เคร่ืองมือการนิเทศการสอนเชิงปริมาณกับเชิงคุณภาพเคร่ืองมือชนิดใดดีกว่า
กนั เพราะเหตใุ ด

8. การบนั ทึกการสังเกตการสอนแบบพรรณนาความ มีขอ้ ควรระวังอยา่ งไรบ้าง
9. ท่านสนใจเครอ่ื งมอื การสงั เกตการสอนใดมากทีส่ ุด เพราะเหตุใด
10. จงออกแบบเคร่ืองมือการสังเกตการสอนเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพมาอย่าง
ละ 1 ชนิด เพือ่ เตรียมนำมาสงั เกตการสอนจรงิ ในชน้ั เรียน

225

เอกสารอ้างอิง

คาร์ล ดี, กลิกแมน. (2546). ภาวะผู้นำการเรียนรู้ ช่วยครูสู่ความสำเร็จ. (แปลจาก
Leadership for Learning How to Help Teachers Succeed โดยนักแปลเครือข่าย
ของกรมวิชาการ). กรุงเทพฯ : กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ.

วชั รา เลา่ เรียนด.ี (2550). เครื่องมือการนิเทศการสอน, (อดั สำเนา).
นิพนธ์ ไทยพานิช. (2535). เทคนิคการนิเทศการศึกษา. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์

มหาวิทยาลยั .
สนิท สัตโยภาสและคณะ. (2555). คู่มือการจัดการเรียนการสอนท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ

(ตามกรอบมาตรฐานคุณ วุฒิ ระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ ). เชียงใหม่ :
มหาวิทยาลยั ราชภัฏเชียงใหม่.
สามารถ ทิมนาค และคณะ. (2550). เอกสารเย็บเล่มรายงานการประเมินผลการนิเทศ
การสอนดว้ ยการนิเทศแบบรว่ มพัฒนาวชิ าชีพ โรงเรียนนาคประสิทธิ์ อำเภอ
สามพราน จงั หวดั นครปฐม.
_______. (2550). เอกสารเย็บเล่มรายงานการประเมินผลการนิเทศการสอนด้วยการ
นิเทศแบบคลินิก โรงเรยี นนาคประสิทธิ์ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม.
อารมณ์ ฉนวนจิตร. (2556). นวตั กรรมนิเทศการจดั การเรียนรู้. กรงุ เทพฯ : สำนักพิมพ์
มหาวิทยาลยั รามคำแหง.


Click to View FlipBook Version