The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by piyachut.bk, 2022-01-17 09:24:37

ปิโตรเลียม

ปิโตเลียม

Keywords: ปิโตเลียม

บทที่4

ปิโตรเลียม

ปิโตรเลียมคืออะไร

ปิโตรเลียม เป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนอันสลับซับซ้อน
ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติในชั้นหินใต้พื้นผิวโลก มีธาตุที่เป็น

สอลงาค์ยปตัรวะขกอองบอิหนลทักรีคย์ืสอาไรฮจโำดนรวเน
จมนาแกลทะัคบาถรม์บกัอนนในไดห้ิจนาตกะกกาอรน

ภายใต้ความร้อนและความดันมหาศาล เมื่อนำมากลั่นจะได้
ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น ก๊าซหุงต้ม น้ำมันเบนซิน น้ำมันก๊าด
น้ำมันดีเซล น้ำมันเตา ยางมะตอย รวมทั้งเคมีภัณฑ์ต่าง ๆ

เช่น ปุ๋ยเคมี
ยาปราบศัตรูพืช พลาสติก และยางสังเคราะห์ เป็นต้น

ประเภทของปิโตรเลียม

1.น้ำมันดิบ (Crude Oil) คือ ปิโตรเลียมในสถานะของเหลว ซึ่ง
ประกอบด้วยสารประกอบไฮโดรคาร์บอนชนิดระเหยง่ายเป็นส่วน
ใหญ่ และโดยทั่ว น้ำมันดิบมักจะมีสีดำหรือสีน้ำตาล ภายหลัง
กระบวนการกลั่น เกิดเป็นผลิตภัณฑ์น้ำมันชนิดต่าง ๆ เช่น น้ำมัน
เชื้อเพลิงสำหรับเครื่องยนต์ น้ำมันก๊าด และยางมะตอย เป็นต้น
2.ก๊าซธรรมชาติ (Natural Gas) คือ ปิโตรเลียมในสถานะก๊าซ ซึ่ง
ประกอบด้วยสารประกอบไฮโดรคาร์บอนราวร้อยละ 95 โดยมีองค์
ประกอบหลัก คือ ก๊าซมีเทน (CH4) ซึ่งอาจมีไนโตรเจน (N) และ
คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ปะปนอยู่เล็กน้อย สามารถนำมาใช้เป็น
เชื้อเพลิงและนำมาเป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีต่าง ๆ

การกําเนิดและสะสมตัวของปิโตรเลียม

ปิโตรเลียมมีกําเนิดมาจากสิ่งที่มีชีวิตที่ดํารงชีวิตอยู่
เมื่อหลายร้อยล้านปีก่อน ซึ่ง อยู่กระจัดกระจายทั่วไป
ทั้งบนบก และในทะเล เมื่อสิ่งที่มีชีวิตเหล่านี้ตายลงจะ
เน่าเปื่อยผุพัง และย่อยสลายโดยมีบางส่วนสะสมรวม
ตัวอยู่กับตะกอนดินเลนในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
เมื่อผิวโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงในเวลาต่อมาส่วน
ของชั้นตะกอนนี้จะจมตัวลงเรื่อย ๆ พร้อม ๆ กับ การ
เปลี่ยนแปลงสารอินทรีย์ จากกรดฟุลวิค ไปเป็นฮิว

มิน เป็นคีโรเจน และเป็นปิโตรเลียมในท้ายที่สุด

หินที่มีปริมาณสารอินทรีย์ หรือคีโรเจน สะสมอยู่ใน
ปริมาณมากพอที่สามารถจะให้ กําเนิดปิโตรเลียมได้
เรียกว่า หินต้นกําเนิด (Source Rock) เมื่อหินต้น
กําเนิดได้รับ พลังงานความร้อน และความกดดัน
ภายใต้ชั้นหินที่จมตัวลงเรื่อย ๆ คีโรเจนจะแปรสภาพ
กลายเป็นน้ำมันดิบ ซึ่งหากยังคงได้รับความร้อน
และความกดดันต่อเนื่อง น้ำมันดิบจะ แตกตัวกลาย
เป็นก๊าซธรรมชาติ หรืออาจจะแปรสภาพกลายเป็น
ก๊าซเลยก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ ส่วนประกอบของคีโรเจน

การสะสมตัวของปิโตรเลียม

ปิโตรเลียมส่วนที่เป็นของเหลวและก๊าซจะไหลซึมออกมาจาก
ชั้นหินตะกอนต้น กําเนิดไปตามช่องแตก รอยแยก และรูพรุน
ของชั้นหิน ไปสะสมตัวกันอยู่ใน ชั้นหินกักเก็บ (Reservoir)
ซึ่งมีองค์ประกอบหลัก 2 ประการ คือ

1.ชั้นหินที่มีรูพรุน (Porous) เป็นที่กักเก็บของเหลวหรือก๊าซ

2.ชั้นหินที่มีความสามารถในการไหลซึมได้ (Permeable)

ในบริเวณที่มี โครงสร้างปิดกั้น (TRAP) และมีความกดดันต่ำกว่า
โดยบริเวณที่มีคุณสมบัติ ทั้งหมดนี้จะรวมเรียกว่าแหล่งกักเก็บและ
สะสมตัวของปิโตรเลียม (PETROLEUM FIELD)

ลักษณะโครงสร้างทางธรณีวิทยาของชั้นหินใต้พื้นผิวโลกที่เหมาะสม
จะเป็นแหล่งกักเก็บ และสะสมตัวของปิโตรเลียม โดยทั่วไปมักสํารวจ
พบในชั้นหินที่มีโครงสร้างรูปโค้งประทุนคว่า (ANTICLINE TRAP)
โครงสร้างรูปรอยเลื่อนของชั้นหิน (FAULT TRAP) โครงสร้างรูปโดม
(DOMAL TRAP) โครงสร้างรูประดับชั้น (STRATIGRAPHIC TRAP)
เป็นต้น

องค์ประกอบสําคัญที่จะก่อให้เกิดแหล่ง
กักเก็บและสะสมตัวของปิโตรเลียมได้

มี 3 ประการ คือ

ชั้นหินที่เป็นต้นกําเนิด ชั้นหินกักเก็บ ชั้นหินซึ่งเป็น
ของปิโตรเลียม ปิโตรเลียม โครงสร้างปิดกั้น
(Source Rock) (Reservior)
(Trap)

แหล่งกักเก็บและสะสมตัวของปิโตรเลียมจะเป็นแหล่งปิโตรเลียมได้ก็ต่อเมื่อมี
ปริมาณปิโตรเลียมมากเพียงพอต่อการลงทุนนําขึ้นมาใช้และให้ผลตอบแทนคุ้มค่า
ทาง เศรษฐกิจ ดังนั้นแหล่งปิโตรเลียมหนึ่ง ๆ อาจเป็นแหล่งกักเก็บขนาดใหญ่แหล่ง
เดียวหรืออาจ ประกอบด้วยแหล่งกักเก็บขนาดเล็กหลาย ๆ แหล่งซึ่งอยู่ใกล้เคียงกัน

แหล่งปิโตรเลียมที่สําคัญของโลก


แหล่งปิโตรเลียมที่ค้นพบแล้วในปัจจุบันมีประมาณ 30,000 แหล่ง อยู่

กระจัดกระจายทั่วโลก ทั้งบนพื้นดินและในทะเล แหล่งที่พบโดยทั่วไปมีขนาด
ความหนา ของชั้นปิโตรเลียมประมาณ 6 เมตร และครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 2
ตารางกิโลเมตร มีแหล่งใหญ่ ๆ เพียง 2 - 3 แหล่งเท่านั้นที่มีขนาดความหนา
ของชั้นปิโตรเลียม นับเป็น 100 เมตรขึ้นไป และครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 15
ตารางกิโลเมตร ในจํานวนแหล่งปิโตรเลียม ทั้งหมด 30,000 แหล่ง มีใหญ่ ๆ
เพียงประมาณ 300 แหล่งที่จะสามารถผลิตน้ำมันดิบ และ ก๊าซธรรมชาติได้

มากกว่าร้อยละ 75 ของการผลิตทั้งหมด ที่เหลือเป็นเพียงแหล่งเล็ก ๆ

อ้าง
อิง

www.scimath.org › lesson-
chemistry › item

https://dmf.go.th › public › list ›
data › index › menu

ตอ บ

คํ ถ า



1. คำว่า “ปิโตรเลียม” ไม่ครอบคลุมข้อใด ?

ก. น้ำมันดิบ

ข. ถ่านหิน 2. ในแหล่งกักเก็บปิโตรเลียมที่มีทั้ง

ค. ก๊าซหุงต้ม น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติและน้ำ เราจะ

ง. ก๊าซธรรมชาติ พบว่ามีการแยกชั้นกันอย่างไร เรียง

ลำดับจากบนลงล่าง ?

ก. ก๊าซ น้ำ น้ำมัน

ข. ก๊าซ น้ำมัน น้ำ

ค. น้ำมัน ก๊าซ น้ำ

ง. น้ำมัน น้ำ ก๊าซ

1. คำว่า “ปิโตรเลียม” ไม่ครอบคลุมข้อใด ?

ก. น้ำมันดิบ

ข. ถ่านหิน 2. ในแหล่งกักเก็บปิโตรเลียมที่มีทั้ง

ค. ก๊าซหุงต้ม น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติและน้ำ เราจะ

ง. ก๊าซธรรมชาติ พบว่ามีการแยกชั้นกันอย่างไร เรียง

ลำดับจากบนลงล่าง ?

ก. ก๊าซ น้ำ น้ำมัน

ข. ก๊าซ น้ำมัน น้ำ

ค. น้ำมัน ก๊าซ น้ำ

ง. น้ำมัน น้ำ ก๊าซ

3. หลังจากทำการสำรวจทางธรณีวิทยาแล้ว การสำรวจหา

แหล่งปิโตรเลียม จะต้องอาศัยวิธีการทางธรณีฟิสิกส์

ปัจจุบันอาศัยวิธีใด ?

ก. วัดค่าความสั่นสะเทือน 4. ข้อใดจัดเป็นผลิตภัณฑ์
ข. วัดค่าสนามแม่เหล็ก

ค. วัดค่าแรงดึงดูดของโลก ปิโตรเคมีจากเส้นใยสังเคราะห์?

ง. อาจใช้ทั้ง 3 วิธีร่วมกัน ก. กระเป๋าผ้าฝ้าย

ข. ขวดนมพลาสติก

ค. เชือกไนล่อน

ง. โฟม

3. หลังจากทำการสำรวจทางธรณีวิทยาแล้ว การสำรวจหา

แหล่งปิโตรเลียม จะต้องอาศัยวิธีการทางธรณีฟิสิกส์

ปัจจุบันอาศัยวิธีใด ?

ก. วัดค่าความสั่นสะเทือน 4. ข้อใดจัดเป็นผลิตภัณฑ์
ข. วัดค่าสนามแม่เหล็ก

ค. วัดค่าแรงดึงดูดของโลก ปิโตรเคมีจากเส้นใยสังเคราะห์?

ง. อาจใช้ทั้ง 3 วิธีร่วมกัน ก. กระเป๋าผ้าฝ้าย

ข. ขวดนมพลาสติก

ค. เชือกไนล่อน

ง. โฟม

5. ผลิตภัณฑ์ใดต่อไปนี้ ไม่จัดอยู่ในอุตสาหกรรมขึ้นรูปพลาสติก

ก. เครื่องนุ่งห่ม

ข. ฟิล์ม 6. แหล่งพลังงานทดแทนที่สามารถ
ค. ตู้โทรทัศน์ นำมาใช้ เพื่อประหยัดพลังงานจาก
ง. ท่อน้ำ ปิโตรเลียม คือข้อใด ?

ก. พลังงานลม

ข. ก๊าซชีวภาพ

ค. พลังชีวมวล

ง. ถูกทุกข้อ

5. ผลิตภัณฑ์ใดต่อไปนี้ ไม่จัดอยู่ในอุตสาหกรรมขึ้นรูปพลาสติก

ก. เครื่องนุ่งห่ม

ข. ฟิล์ม 6. แหล่งพลังงานทดแทนที่สามารถ
ค. ตู้โทรทัศน์ นำมาใช้ เพื่อประหยัดพลังงานจาก
ง. ท่อน้ำ ปิโตรเลียม คือข้อใด ?

ก. พลังงานลม

ข. ก๊าซชีวภาพ

ค. พลังชีวมวล

ง. ถูกทุกข้อ

7. ประเทศไทยได้ใช้พลังงานจากปิโตรเลียมในด้านใดมากที่สุด
ก. ผลิตไฟฟ้า
ข. การขนส่ง
ค. โรงงานและการก่อสร้าง
ง. ที่อยู่อาศัย 8. ก๊าซโซฮอล ( Gasohol ) หรือ เบนโซฮอล์

( Benzohol ) เป็นของเหลวผสมระหว่างสารใด
ก. เมทานอลกับน้ำมันดีเซล
ข. เมทานอลกับน้ำมันเบนซิน
ค. เอทานอลกับน้ำมันเบนซิน
ง. เอทานอลกับน้ำมันดีเซล

7. ประเทศไทยได้ใช้พลังงานจากปิโตรเลียมในด้านใดมากที่สุด
ก. ผลิตไฟฟ้า
ข. การขนส่ง
ค. โรงงานและการก่อสร้าง
ง. ที่อยู่อาศัย 8. ก๊าซโซฮอล ( Gasohol ) หรือ เบนโซฮอล์

( Benzohol ) เป็นของเหลวผสมระหว่างสารใด
ก. เมทานอลกับน้ำมันดีเซล
ข. เมทานอลกับน้ำมันเบนซิน
ค. เอทานอลกับน้ำมันเบนซิน
ง. เอทานอลกับน้ำมันดีเซล

9. จงเรียงลำดับผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการแยกน้ำมันดิบจากจุดสุด

ยอดของหอกลั่นลงมา ?

1. ก๊าซหุงต้ม 4. น้ำมันเบนซิน

2. น้ำมันก๊าด 5. น้ำมันดีเซล

3. น้ำมันเตา 6. ยางมะตอย

ก. 1 2 3 4 5 6 10. การใช้พลังงานของโลกในด้านใด

ข. 1 4 2 5 3 6 มากที่สุด ?

ค. 1 3 5 2 4 6 ก. อุตสาหกรรม

ง. 1 2 3 5 4 6 ข. ที่อยู่อาศัย

ค. การขนส่ง

ง. ด้านธุรกิจ

9. จงเรียงลำดับผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการแยกน้ำมันดิบจากจุดสุด

ยอดของหอกลั่นลงมา ?

1. ก๊าซหุงต้ม 4. น้ำมันเบนซิน

2. น้ำมันก๊าด 5. น้ำมันดีเซล

3. น้ำมันเตา 6. ยางมะตอย

ก. 1 2 3 4 5 6 10. การใช้พลังงานของโลกในด้านใด

ข. 1 4 2 5 3 6 มากที่สุด ?

ค. 1 3 5 2 4 6 ก. อุตสาหกรรม

ง. 1 2 3 5 4 6 ข. ที่อยู่อาศัย

ค. การขนส่ง

ง. ด้านธุรกิจ

จัดทำโดย

น.ส.อารยา แสงทอง น.ส.อภิชญา อภัย
ม.5/12 เลขที่20 ม.5/12 เลขที่41

ขอจบการนำเสนอเพี ยงเท่านี้

ขอบคุณค่ะ


Click to View FlipBook Version