มาตรฐานการจัดพน้ื ทส่ี ำหรบั ผปู้ ระสบภัย
ประเภทของพน้ื ทใ่ี ชส้ อย ปริมาณ/คน
พน้ื ทใ่ี ช้อาศยั พ้ืนท่สี ่วนตวั /ท่ีนอน 3.5 ตารางเมตรต่อคน
พื้นท่รี ะหวา่ งเต็นท์นอน เวน้ 2 เมตร เพอื่ เป็นแนวกนั ไฟ
พนื้ ท่ีใชส้ อย หอ้ งส้วม (ห่างจากพ้ืนที่อาศยั 6 เมตร 1 ห้อง ต่อ ผู้หญิง 20 คน
และจากแหลง่ น้ำอยา่ งน้อย 30 เมตร) 1 หอ้ งพร้อมโถปสั สาวะต่อผู้ชาย 35 คน
จุดให้บรกิ ารนำ้ ใช้ 1 จดุ นำ้ ประปาต่อผู้ประสบภัยอย่างน้อย 80 คน
ข้นึ อยู่กับการไหลของน้ำ
ทซี่ ักล้าง ซักผ้า ตากผา้ 1 จดุ ต่อ ผู้ประสบภัยอยา่ งน้อย 100 คน
ทที่ ้ิงขยะ (หา่ ง 100 เมตรจากที่พกั ) 2 จุดตอ่ ผู้ประสบภยั 80 คน
โรงครวั 1 จุด ตามกำลังการผลติ และจำนวนคน
พน้ื ทป่ี ฐมพยาบาล ตามความเหมาะสม อย่างน้อย 1 จดุ
พ้นื ทป่ี ระกอบกิจกรรมทางศาสนา 1 จุด ตามความเหมาะสม
การปดิ ศนู ย์พักพิงชัว่ คราว
สถานศึกษาควรใชเ้ ป็นศนู ยพ์ ักพงิ ช่ัวคราวในเวลาส้ัน ๆ เทา่ น้นั เพอื่ ให้สามารถกลบั ไปทำหน้าท่ีในการ
ให้การศึกษาโดยเร็วที่สุด การปิดการดำเนินการของศูนย์พักพิงช่ัวคราว จะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของ
กลุ่มเปราะบาง การคุ้มครองเด็ก และการดูแลคนพิการด้วย ในการปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว คณะกรรมการรี
ควรดำเนินการดงั ต่อไปน้ี
• บันทึกข้อมูลของผู้ประสบภัยว่าจะเดินทางต่อไปไหน หรือส่งกลับบ้านอย่างไร หากเป็นเด็กต้องมีการ
บันทึกชื่อ ที่อยู่ หมายเลขติดตอ่ ของผูป้ กครองทพ่ี าเด็กไปดว้ ย
• ประสานงานกับหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพ่ือจัดหาพาหนะสำหรับส่ง
ผู้ประสบภยั กลับบา้ น โดยเฉพาะกลมุ่ เปราะบาง หญงิ มีครรภ์ คนพิการ คนชรา
• ระดมอาสาสมัครจากชุมชนและนักเรียนในการทำความสะอาด
• ทำการสำรวจอาคารสถานทแี่ ละวสั ดอุ ุปกรณเ์ พื่อตรวจสอบว่ายังอยู่ในสภาพดหี รือครบถ้วนหรอื ไม่
• จัดทำรายการอาคารสถานท่ีและวัสดุอุปกรณ์ที่ต้องซ่อมแซมหรือจัดหาใหม่เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับ
การเปดิ เรยี น
จัดทำงบประมาณในการซ่อมแซมอาคาร ในบางกรณีอาจจะขอบรจิ าคอปุ กรณก์ ารเรียนการสอน
• รายการตรวจสอบอาคารสถานท่ีและสง่ิ อำนวยความสะดวกสำหรบั การปรับสถานศึกษาใหเ้ ปน็ ศูนย์
พกั พิงชวั่ คราวสำหรับผู้ประสบภยั
2.5 การจดั การเรียนการสอนต่อเนอื่ งในสถานการณภัยพิบัติ
เด็กมีสทิ ธิที่จะไดร้ ับการศึกษาในสถานที่ท่ีปลอดภยั มีการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนทเ่ี หมาะสมกับ
เด็ก เพื่อช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจเด็กให้กลับสู่ภาวะปกติ และจัดให้มีระบบการศึกษาท่ีต่อเนื่องสำหรับเด็กให้เร็ว
ท่ีสุดการช่วยเหลือให้เด็กสามารถกลับมาใช้ชีวิตให้เหมือนเดิมให้เร็วท่ีสุด จะช่วยรักษาภาวะความเครียดของ
เด็กไดด้ ีทสี่ ดุ สามารถทำไดด้ ังน้ี
• จัดให้มสี ถานทีท่ ีป่ ลอดภัยสำหรับการเรียนรู้และการเลน่ ของเด็ก เพอื่ ให้ใชช้ วี ิตคลา้ ยกับชีวิตปกติ
• จัดกิจกรรมการเรยี นรู้ การอ่านเขียนตามวยั
• จัดการเรียนรู้เร่ืองการดูแลสุขอนามัย ภัยที่เกิดขึ้น ความเส่ียง การป้องกันและการดูแลตัวเองให้
ปลอดภยั
• จัดกิจกรรมการเล่นสนุกสนานให้เด็ก นอกเหนือจากเวลาเรียน เพื่อฟ้ืนฟูสภาพจิตใจเด็ก ท้ังกีฬา
ดนตรี ศิลปะ ของเล่น หุ่นมือ และการเล่นรูปแบบอ่ืนๆ สามารถใช้ศิลปะกับเด็กเล็ก เพื่อให้เขาแสดง
ความรูส้ กึ ตา่ งๆออกมาได้ และปรบั ตัวใหเ้ ข้ากบั สถานการณท์ ่ีเกิดขึน้
ในช่วงเกิดเหตุภัยพิบัติจนทำให้การเรียนการสอนหยุดชะงัก ผู้บริหารสถานศึกษาและครูจะต้องวางแผน
ทางเลือกในการจัดการเรียนการสอน เช่น การเปล่ียนเวลาเรียน เปลี่ยนวิธีการเรียน หรือเปลี่ยนสถานท่ีเรยี น
เพอ่ื ใหเ้ ดก็ สามารถเรยี นไดท้ นั ตามทห่ี ลักสตู รกำหนด อาจทำได้ดังนี้
• จดั การเรยี นการสอนในวันหยดุ ราชการชดเชย
• ใช้วธิ กี ารเรยี นการสอนอื่นแทนการเขา้ ช้ันเรียน เช่น
o การเรยี นทบ่ี า้ น (home-schooling)
o การเรียนด้วยตนเอง และทำการบ้านทดแทน
o เพ่ือนสอนเพ่ือน หรือกลุ่มการเรียนการสอนทจ่ี ดั ร่วมกันโดยผู้ปกครอง ครูและชมุ ชน
o เร่งระยะเวลาการเรียน
o การเรยี นผา่ นสอ่ื วทิ ยุ ส่ืออินเทอรเ์ น็ต หรือส่ืออืน่ ๆ
วธิ ีการเหล่าน้ีต้องมีการตดิ ตามวิจยั และประเมินผลอย่างระมัดระวงั เพื่อดวู ่าเกิดผลกระทบตอ่ นักเรยี นอยา่ งไร
2.6 การคุ้มครองเด็กในสถานการณ์ภยั พิบัติ
เด็กทั้งชายและหญิงจำเป็นต้องได้รับการคุ้มครองเม่ือเกิดภัยพิบัติหรือสถานการณ์ฉุกเฉิน เนื่องจาก
ภาวะฉุกเฉินทำให้มีคนจำนวนมากมาอยู่รวมกัน เกิดความตึงเครียด สับสน ประกอบกับระบบความปลอดภัย
ในศูนย์พักพิงชั่วคราวอาจมีความหละหลวมและทำให้อาจจะเกิดความรุนแรงได้ เช่น การทำรา้ ยร่างกาย การ
บาดเจ็บเน่ืองจากต้องแย่งทรัพยากรที่จำกัด การละเมิดทางเพศ การลักพาตัว เป็นต้น กลไกคุ้มครองเด็กที่
สำคัญ คือ ครอบครัวและชุมชน โดยอาจดำเนนิ มาตรการดงั น้ี
• ค้นหาเด็กที่มีความเส่ียงสูง ได้แก่ เด็กที่มีความเครียดสูง เด็กท่ีมีการสูญเสียผู้ปกครอง เด็กพิการออทิ
สตคิ หรอื เด็กท่ีต้องการความชว่ ยเหลอื เพื่อฟื้นฟูจิตใจ
• วิเคราะห์ความสัมพันธ์ของเด็กกับครอบครัว ช่วยเหลือ และแก้ไขปัญหาของผู้ปกครองเพ่ือลดความ
เสี่ยงต่อการเลย้ี งดูทีไ่ ม่เหมาะสม เม่ือผู้ปกครองประสบปัญหาในการใชช้ วี ติ
• สนับสนุนให้เด็กและเยาวชนมีส่วนร่วมในการจัดการศูนย์พักพิงชั่วคราว ทั้งการวิเคราะห์ปัญหาและ
การแสดงความเห็นในการแกไ้ ขปัญหา เพ่ือสร้างความร้สู ึกที่ดีต่อการแก้ไขปัญหา ไม่ท้อถอยตอ่ ปญั หา
ทเ่ี กดิ ขน้ึ รวมทั้งความภมู ิใจในบทบาทของตน
ครูท่ีทำงานกับเด็กท่ีประสบภัย ควรได้รับการสนับสนุนและอบรมให้เข้าใจและสามารถตอบสนองต่อ
ประสบการณ์ การสูญเสีย และความรู้สึกต่าง ๆ ของเด็กและของตนเองได้ ครูควรทราบวิธีท่ีจะให้การ
สนบั สนนุ ดา้ นจิตใจให้แก่เดก็ และสอนใหค้ รอบครวั ทำดว้ ย
ตัวอย่างกรณศี ึกษา 1 พนื้ ทีส่ ร้างสรรคส์ ำหรับเด็กในภาวะน้ำท่วม
• ในช่วงที่ประเทศไทยถูกน้ำท่วมขังในหลายพ้ืนที่ มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก (มพด.) Save the
children (UK) หรือองค์กรช่วยเหลือเด็ก และ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสรา้ งเสริมสุขภาพ
(สสส.) จึงร่วมกันทำโมเดลการคุ้มครองเด็กในภาวะน้ำท่วม ผ่านรูปแบบพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับ
เด็ก ภายใต้โมเดล “พ้ืนที่ ปลอดภัย สุข สนุก เรียนรู้” โดยจัดทำกิ จกรรมท่ีศูนย์พักพิง
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศนู ย์พักพงิ จ.พระนครศรอี ยุธยา และศนู ยพ์ ักพงิ วดั ไร่ขงิ จ.นครปฐม
• ทมี งานจะทำการสำรวจขอ้ มลู เกย่ี วกบั เดก็ จัดทำระบบโครงสร้างตา่ งๆ เพอ่ื ให้มีความปลอดภยั สำหรับ
เด็ก เชน่ ห้องน้ำเด็กอ่อน ห้องอาบน้ำแยกหญิง-ชาย และเปิดรบั สมัครอาสาสมัครในพื้นท่ี ซ่ึงอาจเป็น
ผู้ปกครองหรอื นักศกึ ษาเขา้ ร่วมอบรมการคุ้มครองเดก็ ผา่ นพนื้ ที่สรา้ งสรรค์ในสภาวะภัยพบิ ตั ิ (นำ้ ท่วม)
• มูลนิธิเพ่ือการพัฒนาเด็กพบว่า กิจกรรมพ้ืนที่สร้างสรรค์สำหรับเด็ก ช่วยผ่อนคลายความเครียดให้
ผู้ปกครอง และเด็กๆ ท่ไี ด้รว่ มทำกิจกรรมจดจำความรทู้ ไ่ี ดน้ ำไปใช้ด้วย
• อาสาสมัครผู้มาเข้าร่วมกิจกรรม กล่าววา่ หลังจากได้อพยพครอบครัวมาอยู่ท่ีศูนย์พักพิง สภาพจิตใจ
เกิดความเครียดมาก เน่ืองจากห่วงบ้านและทรัพย์สิน เม่ือได้มาเป็นอาสาสมัครดูแลการอาบน้ำให้
เด็กๆ ทำตนมีความสุขขึ้น และกิจกรรมแบบนี้ช่วยให้เด็กได้ไม่ต้องไปเล่นซุกซนหรือไปเล่นน้ำซ่ึงจะ
เป็นอันตรายมาก
2.7. การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล หมายถึง การให้ความช่วยเหลือข้ันต้นท่ีกระทำในทันทีทันใดในสถานที่เกิดเหตุ
โด ย ใช้ เค ร่ื อ งมื อ เท่ า ท่ี ห าได้ เพ่ื อ ล ด อั น ต ร าย แ ล ะ ป้ อ ง กั น ค ว าม พิ ก า ร ข อ งผู้ บ าด เจ็ บ ก่ อ น จ ะ ส่ งต่ อ ไป ยั ง
สถานพยาบาลเพ่ือรบั การรักษาตอ่ ไป
ชุดปฐมพยาบาล (first aid kit) คืออุปกรณ์เบ้ืองต้นสำหรับช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ควรเก็บไว้ในกล่อง
พลาสตกิ ท่มี ฝี าปดิ หรอื อปุ กรณท์ ่ีกันนำ้ ตดิ หมายเลขโทรศพั ท์ฉกุ เฉนิ ของหน่วยงานต่าง ๆ ไว้
ตวั อยา่ ง ชุดปฐมพยาบาลเบ้ืองตน้
ชุดปฐมพยาบาล(First aid kit) ควรประกอบด้วย ชดุ อุปกรณท์ ำแผล และยารกั ษาโรคเบื้องต้น เชน่
• ถงุ มอื - สำหรับผู้ชว่ ยเหลอื เพอื่ ปอ้ งกนั มใิ หผ้ ู้ชว่ ยเหลอื สมั ผัสถกู เลือด อาเจยี น สารคัดหลง่ั ตา่ ง ๆ
• ยาลา้ งแผล เชน่ แอลกอฮอล์ ยาฆ่าเชอื้
• ผ้าทำแผล (ผ้ากอ๊ ซ) ขนาดต่าง ๆ โดยหากแผลมเี ลอื ดออกมากใหป้ ิดทับหลายๆแผ่นเพ่อื ห้ามเลือด
• พลาสเตอรเ์ ทปปิดแผลขนาดตา่ ง ๆ ใช้สำหรบั ปิดแผลหลงั จากล้างทำความสะอาดแลว้
• กรรไกร ใชต้ ดั ผา้ ก็อซหรือตัดผ้าหรอื ขากางเกงเชน่ เกดิ อุบตั ิเหตุบนท้องถนน
• เทปติดแผล
• ผา้ ปิดตา ใชส้ ำหรบั การบาดเจบ็ ท่ีนยั นต์ า เช่น กระจกตาถกู บาด ฝุน่ ละอองเขา้ ตา เปน็ ต้น
• เขม็ กลดั ใช้ติดผ้าสามเหล่ียม ผา้ คล้องคอ ผา้ ยืด
• สำลี ไม้พันสำลี ใชส้ ำหรับทายาลา้ งแผลรอบ ๆ แผล
• ผ้ายืด(อีลาสติกแบนเอด) ใช้สำหรับพันเม่ือเกิดการบาดเจ็บกล้ามเน้ือ ข้อ เพ่ือลดการบวม ลดการ
เคล่ือนไหว หรือใช้พันยึดกับอุปกรณ์อ่ืน ๆ เพ่ือดามกระดูก ผ้ายืดยังสามารถนำมาพันทับผ้าก๊อซ
หรือพลาสเตอร์ติดแผลเพื่อห้ามเลือด แต่ห้ามพันแน่นจนเกินไปเพราะทำให้อวัยวะสว่ นปลายเกิดการ
บวมและขาดเลือดมาเลยี้ งได้
• ผ้าสามเหลีย่ มคลอ้ งแขน ปัจจุบันใช้ผา้ คลอ้ งแขนแทนเพราะสะดวกและง่ายต่อการใชง้ าน
• ถงุ พลาสติก 1 ใบ สำหรับใสเ่ ศษขยะ เช่น ผ้าเป้ือนเลือด เป็นต้น
ยาฉุกเฉินสำหรบั รับประทาน โดยกลอ่ งบรรจุยานี้ต้องปดิ มิดชิดและมีข้อความระบุขา้ งกล่องชัดเจนว่า
เป็นยาสำหรับรับประทาน ควรมียาเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น อาทิ ยาลดไข้แก้ปวด ผงเกลือแร่สำหรับการ
บาดเจ็บที่มีการเสียเลือดมาก หรือบาดแผลพุพองจากความร้อนที่มีบริเวณกว้าง หรือผู้ที่มีอาการอาเจียนและ
ทอ้ งเสีย
วธิ ีชว่ ยเหลอื ปฐมพยาบาลเบื้องตน้ ในกรณีต่าง ๆ ผู้ท่รี บั ผิดชอบฝา่ ยนี้ ควรเป็นบคุ ลากรทม่ี คี วาม
เชีย่ วชาญ และได้รบั การฝกึ อบรมใหส้ ามารถรบั มือกับสถานการณ์การบาดเจ็บต่อไปน้ีได้
o การเข้าเฝือกชัว่ คราว
o การหา้ มเลอื ด
o การนวดหัวใจ
o การจมนำ้
2.8 การประเมนิ ผลตามแผนบรหิ ารจัดการภัยพบิ ตั ิ
ทุก ๆ ปี สถานศึกษาควรทบทวนและปรับปรุงแผนบริหารจัดการภัยพิบัติในสถานศึกษา และติดตาม
ความกา้ วหน้าในการดำเนนิ งานในประเด็นต่อไปน้ี
• ทบทวนและประเมนิ สถานการณค์ วามเสยี่ งของสถานศึกษา
• ปรบั ปรุงแผนทคี่ วามเสีย่ งและภัยหากจำเปน็
• ทบทวนมาตรการลดความเส่ียงและความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ วิเคราะห์ปัญหาอปุ สรรคทไี่ ม่สามารถ
ดำเนินการตามมาตรการได้
• ทบทวนแผนเตือนภัยและอพยพ ตรวจสอบสถานที่ปลอดภัย ตรวจสอบป้ายบอกเส้นทางหนีภัย ป้าย
จดุ รวมพล ไฟฉกุ เฉิน เส้นทางหนภี ัย ประตูหนภี ยั เปน็ ตน้
• ตรวจสอบปรับปรงุ หมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉนิ และผู้ประสานงานหน่วยงานภายนอกใหเ้ ปน็ ปัจจบุ ัน
• ตรวจสอบอุปกรณ์เตือนภัย อุปกรณ์กู้ภยั ช่วยชวี ิตและชดุ ปฐมพยาบาล (เช่น วิทยุสื่อสาร เครอื่ งขยาย
เสียง ไฟฉาย แบตเตอรี่ เชอื ก เส้ือชูชีพ เรอื ชดุ ปฐมพยาบาล ตลอดจนอปุ กรณด์ บั เพลิง)
• ทบทวนและประเมินผลการจัดซ้อมหนภี ยั และปรับปรงุ ขน้ั ตอนการปฏิบตั ิท่ีจำเป็น
• ทบทวนว่าแผนการจัดการศึกษาต่อเน่ือง (Education Continuity Plan) ตรวจสอบสถานท่ีเลือกเป็น
หอ้ งเรียนชั่วคราวยังเปน็ สถานที่ปลอดภัยอยู่หรือไม่สำรวจความเสยี หาย จดั ทำเรื่องขอความช่วยเหลือ
และงบประมาณเพือ่ รายงานไปยงั ต้นสงั กัด
หวั ข้อ : มาตรฐานการปฏิบัติเม่ือเกิดภยั ตา่ งๆ
3.1 มาตรฐานการปฏิบัตกิ รณีอทุ กภัย (Flood/Flash flood)
ลกั ษณะภัย มสี ายนำ้ ไหลมาอยา่ งรวดเร็วรุนแรง มีน้ำท่วมฉับพลนั อาจมีดินโคลนและท่อนซงุ ไหลมา
พรอ้ มกบั สายนำ้
ข้อควรจำ น้ำมาให้ขึน้ ท่สี ูง ตดั ไฟฟ้าเพ่ือป้องกนั ไฟฟ้าดูด
กอ่ นเกดิ น้ำท่วม ขณะเกดิ นำ้ ท่วม หลงั เกิดน้ำท่วม
ตรวจสอบกับชมุ ชนรอบสถานศกึ ษาดวู ่า หากจำเป็น ใหอ้ พยพไปอยูท่ ส่ี งู ท่ี ตรวจสอบพน้ื ผนัง และหลังคา ว่าอยใู่ นสภาพ
เคยเกิดนำ้ ทว่ มสูงที่สดุ แค่ไหน เพื่อหาพื้นทท่ี ่ี ปลอดภัยใหเ้ ร็วสุด ทปี่ ลอดภยั หากไม่แน่ใจใหต้ ามช่างมา
ปลอดภัย ตรวจสอบก่อน
ตรวจสอบว่ามวี ิธีการเตอื นภยั จากท่ไี หน และ ให้ปดิ ทอ่ น้ำทงิ้ ในหอ้ งนำ้ ทอ่ โถส้วมท่ี กำจดั น้ำและโคลนออกจากอาคาร
อยา่ งไรบ้าง เช่นการแจง้ จากชมุ ชน น้ำสามารถไหลเขา้ อาคารทัง้ หมด ทำความสะอาดห้องเรยี นท่ีน้ำทว่ ม
ยา้ ยสวทิ ซ์ ปล๊ักไฟ อปุ กรณ์ไฟฟ้า และ ปิดสะพานไฟฟ้า (คทั เอาท์) และแกซ๊ ไมจ่ บั หรือเสยี บปลกั๊ เคร่อื งใชไ้ ฟฟ้า และไมเ่ ปิด
สะพานไฟใหอ้ ยสู่ ูงกวา่ ระดับท่ีคาดวา่ นำ้ จะ ไฟ
ทว่ มถงึ จนกวา่ จะม่ันใจวา่ ปลอดภยั
ลอกทอ่ ระบายน้ำ ตรวจสอบรางนำ้ ไมใ่ หม้ สี ง่ิ ระมัดระวังเศษวสั ดุ ซากกิ่งไม้ ประเมินความเสียหายและของบประมาณ
อุดตันทที่ ำให้นำ้ ไหลไมส่ ะดวก เตรยี ม ของมีคม หรือสารเคมตี า่ งๆทอี่ าจจะ ซ่อมแซม
กระสอบทรายไวก้ นั้ นำ้ ไหลหรอื ปนเป้ือนมากบั กระแสน้ำ
จดั พืน้ ทเี พอ่ื ป้องกันความเสียหาย เชน่ ควร เคลื่อนย้ายอุปกรณ์ที่อาจจะเสยี หาย
ย้ายเอกสาร สมดุ หนงั สอื ไปไวช้ ้ันสอง จากนำ้ ท่วมข้ึนช้ันบน
สอนนักเรียนใหร้ ู้จกั ทกั ษะในการปอ้ งกันตวั ติดตามข่าวหรอื ประกาศเพอื่ ปฏบิ ตั ิ
เมอื่ เกดิ เหตุ ตามคำแนะนำ
ทำแผนและซ้อมแผนพอื่ ใหท้ ุกคนรูจ้ ัก
สัญญาณเตอื นภยั เสน้ ทางอพยพ ทปี่ ลอดภัย
ติดตามการประกาศเตอื นภัยจากสถานวี ทิ ยุ
ท้องถิ่น โทรทัศน์
3.2 มาตรฐานการปฏบิ ัติกรณวี าตภัย
ลักษณะภยั ลมแรง ฝนตกหนกั นำ้ ทว่ มฉับพลนั มีคลน่ื สูง และน้ำท่วมชายฝ่ัง
ขอ้ ควรจำ
• เมอ่ื มีการแจง้ เฝา้ ระวัง หมายถงึ พายจุ ะมาถงึ ภายใน 36 ช่ัวโมง
• เมื่อมีการแจง้ เตือนภยั หมายถงึ พายุจะมาถึง ภายใน 24 ชั่วโมง
• เมอ่ื เกิดพายุ จะมีฝนตกหนกั และอาจเกดิ นำ้ ทว่ มฉับพลนั
• เมอ่ื เกิดพายุแล้วแต่มีลมสงบฉับพลนั หมายถงึ เราอยใู่ นศูนย์กลางของพายุและจะมีพายตุ ามมาอีกคร้ัง
กอ่ นเกดิ พายุ ขณะเกดิ พายุ หลังเกิดพายุ
ซ่อมแซมอาคารให้แขง็ แรง ตดิ ตงั้ ปดิ ประตูหน้าตา่ งใหแ้ นน่ หนา พรอ้ มปดิ ตรวจสอบส่ิงทไี่ ดร้ ับความเสียหายและ
อปุ กรณเ์ สรมิ ความแข็งแรงของประตู เทปตามแนวประตูหนา้ ต่าง อาจจะหักโคน่ ลงมาได้ เชน่ หลังคาบ้าน
หน้าต่าง เชน่ ขอสับเพอื่ ป้องกนั ไมใ่ หล้ มพัด ตน้ ไม้ ปา้ ยโฆษณา เสาไฟฟา้ และ
กระแทกปิด ดำเนนิ การซอ่ มแซม
ยึดส่วนประกอบอาคาร เช่น หลงั คา ราง หลกี เลยี่ งการอย่นู อกอาคารหรอื ทโี่ ลง่ ตรวจสอบอาคารและส่วนประกอบ
นำ้ สายไฟให้แนน่ หนา เพราะอาจจะมเี ศษวัสดุ กง่ิ ไม้หักปลวิ มา อาคารว่ายังอยูใ่ นสภาพทแ่ี ขง็ แรงและ
ตามแรงลม ปลอดภัย
ประตูหนา้ ตา่ งทีเ่ ป็นบานกระจกควรมกี าร ออกห่างหนา้ ต่าง ประตูทม่ี บี านกระจกเพอ่ื
ตดิ ฟลิ ์มหรอื มกี ารปอ้ งกันไม่ใหก้ ระจกแตก ป้องกันไมใ่ หเ้ กดิ อันตรายหากกระจกแตก
กระจายจากแรงลม เพราะแรงลม
ปอ้ งกนั ระบบน้ำ ระบบไฟ ติดตั้งระบบตัด งดใชอ้ ุปกรณ์ไฟฟา้ คอมพิงเตอร์ และ
ไฟ อปุ กรณ์ป้องกนั ฟ้าผ่า โทรศัพท์ หรอื ถอดปล๊กั ออก
ตัดตน้ ไมส้ ูงไมใ่ หล้ ้มทบั อาคาร หลีกเลีย่ งทตี่ ำ่ ท่ีเกิดนำ้ ท่วมฉบั พลนั ได้
ก่อนเกดิ พายุ ขณะเกดิ พายุ หลงั เกิดพายุ
สอนนกั เรียนใหร้ จู้ กั ทักษะในการป้องกนั ออกห่างจากวัตถทุ ีเ่ ปน็ สอ่ื ไฟฟ้าทกุ ชนดิ
ตวั เมอื่ เกิดเหตุ และเสน้ ทางอพยพ จดุ รวม
พล
ติดตามข่าวสาร การพยากรณแ์ ละคำเตอื น อยา่ รบี ออกจากทก่ี ำบังจนกวา่ จะ แน่ใจ
จากทางราชการอย่างใกล้ชิด หรือไดร้ ับขอ้ มลู สถานการณ์ ปลอดภัย
3.3 มาตรฐานการปฏบิ ัตกิ รณีแผ่นดินไหว
ลักษณะภยั แผน่ ดนิ เกดิ การส่ันสะเทอื นอยา่ งรุนแรง โดยไม่มีสิง่ บอกเหตลุ ว่ งหนา้
ขอ้ ควรจำ เมื่อเกดิ แผ่นดนิ ไหวอยา่ งรุนแรง มกั มีแผ่นดนิ ไหว ตามมาอีกหลายคร้งั อาจเกดิ แผน่ ดิน
แยก แผ่นดนิ ถลม่ และอาคารอาจไม่พังทลายในทนั ทแี ต่อาจะพังทลายภายหลัง
กอ่ นเกิดแผ่นดินไหว ขณะเกดิ แผน่ ดินไหว หลงั เกิดแผน่ ดินไหว
ตรวจสอบอาคารเรยี น อาคารประกอบ อย่าตื่นตกใจ พยายามควบคุมสติ ตรวจสอบตวั เองและคนขา้ งเคียง
วา่ ได้รับบาดเจ็บหรือไม่
ระบบสาธารณูปโภค ใหอ้ ยใู่ นสภาพ หาท่หี ลบกำบงั ในบรเิ วณทีป่ ลอดภยั เช่น แล้วทำการปฐมพยาบาลขั้นตน้
มั่นคงแข็งแรง บริเวณอาคารทม่ี โี ครงสร้างแขง็ แรง
ตรวจสอบเครื่องมือดบั เพลงิ ให้พรอ้ มใช้ หมอบบรเิ วณใต้โต๊ะทใี่ ชม้ อื กำบังศีรษะและ เมือ่ แผน่ ดนิ ไหวหยดุ ลง ใหร้ บี ออกจาก
งานอยู่เสมอ ลำคอ อาคาร หา้ มใช้ลิฟต์ และบันไดหนไี ฟ
ตรจสอบให้รตู้ ำแหนง่ ของวาล์วปิดน้ำ หากอยใู่ นท่โี ล่งแจง้ ใหอ้ ยหู่ ่างจากเสาไฟฟ้า ปิดวาลว์ ถังแกส๊ ยกสะพานไฟ (สบั คัท
วาลว์ ปิดก๊าซ สะพานไฟ (คทั เอาท)์ และส่ิงห้อยแขวนตา่ งๆ เอาท์) อยา่ จดุ ไม้ขดี ไฟหรือก่อไฟจนกวา่ จะ
แน่ใจ วา่ ไมม่ ีแกส๊ รั่ว
ไม่วางสงิ่ ของหนกั บนชน้ั หรือห้งิ สงู ๆ อยู่หา่ งจากประตูหน้าต่างทเี่ ป็นกระจก ออกจากบรเิ วณทส่ี ายไฟขาด
ยึดตดิ อปุ กรณ์และเฟอร์นเิ จอรต์ ่างๆ กับ เม่ือออกจากอาคารแลว้ ไมใ่ หก้ ลับเขา้ ไปอีก ใสร่ องเท้าห้มุ ส้นเสมอ เพราะอาจมเี ศษแกว้
พน้ื หรอื ผนังอย่างแน่นหนา เพราะอาจเกดิ อาฟเตอรช์ อ็ คและอาคารถลม่ หรือวัสดแุ หลมคมอน่ื ๆ
ทหี่ กั พัง อาจทิม่ แทงได้
เตรยี มกระเปา๋ ฉุกเฉินทม่ี ยี า ถา่ นไฟฉาย หากกำลงั ขบั รถ ใหห้ ยุดรถในทโ่ี ลง่ ห้ามหยดุ สำรวจดคู วามเสียหายของอาคารเรียน
อปุ กรณป์ ฐมพยาบาล และรายชอ่ื รถใต้สะพาน ทางดว่ น ป้ายโฆษณา และ อาคารประกอบและระบบสาธารณปู โภค
นกั เรียนไวใ้ นหอ้ งเรยี น ต้นไมข้ นาดใหญ่
สอนนกั เรยี นใหร้ ้จู กั ทกั ษะในการป้องกนั อพยพไปยังจดุ ปลอดภยั และตรวจสอบ จดั พน้ื ท่สี ำหรับเปน็ ห้องเรยี นช่ัวคราวใน
ตวั เมือ่ เกิดเหตุ และเสน้ ทางอพยพ จดุ รายช่ือนกั เรียนที่บาดเจ็บ สูญหาย และแจ้ง กรณีที่ไม่แน่ใจในความปลอดภยั ของอาคาร
รวมพล เจา้ หนา้ ท่กี ภู้ ยั ค้นหา เรียน
3.4 มาตรฐานการปฏบิ ตั กิ รณีสึนามิ
ลักษณะภยั กลุ่มของคล่นื ขนาดใหญ่ท่สี ร้างความเสียหายรุนแรงต่อพืน้ ที่ บรเิ วณ
ชายฝั่ง และอาจเกดิ ขน้ึ ไดโ้ ดยไม่มีสง่ิ บอกเหตลุ ว่ งหน้า
ขอ้ ควรจำ
• คลนื่ สึนามิจะไม่เกิดเพียงระลอกเดียว เกดิ ขึน้ ได้หลายระลอก และคล่ืนลูกหลงั อาจใหญ่กว่าคลน่ื ลกู
แรก
• เม่อื นำ้ ทะเลลดลงหรือเพมิ่ ข้ึนอย่างรวดเร็วผดิ ปกติให้คาดว่าอาจเกิดสนึ ามิ
• สึนามิมกั เกิดหลงั แผน่ ดินไหวขนาดใหญใ่ นทะเล และหากอย่บู ริเวณชายฝง่ั จะเปน็ อนั ตราย
กอ่ นเกดิ สนึ ามิ ขณะเกิดสึนามิ หลังเกดิ สนึ ามิ
ตรวจสอบดวู า่ ที่อาคารเรียน ตดิ ตามขอ้ มูลทางวทิ ยุ โทรทัศน์ ถา้ กลบั สสู่ ถานศึกษา หรอื สง่ นกั เรยี น
อยใู่ นเขตพน้ื ทเ่ี ส่ียงภยั สนึ ามิหรือไม่ มีประกาศเกิดสนึ ามิให้อพยพทนั ที กลบั บ้านเมอ่ื มปี ระกาศจากทาง
ราชการว่าปลอดภยั เท่าน้ัน
จัดทำแผนเตือนภยั อพยพหนีภยั ตรวจสอบขอ้ มลู เพ่อื ระบุพื้นท่ี อพยพตามแผนท่ีวางไว้ และหาก สำรวจดคู วามเสยี หายของอาคาร
ปลอดภยั ทใี่ กล้ที่สุด ต้องหนีภยั ไปนอกสถานศกึ ษา ควร เรยี น อาคารประกอบและระบบ
เดินเท้าเพอื่ หลกี เล่ียง จราจรติดขดั สาธารณปู โภค
ซ้อมแผนและตรวจสอบความสามารถในการอพยพนักเรียนไปยงั ท่ี ดำเนนิ การซ่อมแซมอาคาร สง่ิ ของ
ปลอดภยั เครื่องมอื เครื่องใชแ้ ละอุปกรณ์
สอนนกั เรียนให้ทำความค้นุ เคยกับ
สัญญาณเตือนภยั สนึ ามิและปา้ ย
สอนทักษะในการสงั เกตสถานการณ์ การเอาตวั รอดเม่ือเกดิ เหตุ
กอ่ นเกดิ สนึ ามิ ขณะเกดิ สึนามิ หลงั เกิดสนึ ามิ
เตรียมกระเป๋าฉุกเฉินไว้ในห้องเรียน
แจง้ ผู้ปกครองใหท้ ราบถงึ แผนของสถานศึกษาและจดุ ปลอดภยั ท่ีจะ
ไปรับบตุ รหลาน
3.5 มาตรฐานการปฏิบตั กิ รณดี นิ ถล่ม
ลกั ษณะภยั หนิ ดิน ทราย โคลน ซง่ึ อย่บู นทล่ี าดชันสงู เล่ือนไถลมายงั ทีต่ ่ำ
ข้อควรจำ เม่อื เกดิ ฝนตกหนกั หรือเกดิ แผน่ ดินไหว มักเกิดดินถล่มตามม
ก่อนเกิดดินถล่ม ขณะเกดิ ดนิ ถล่ม หลังเกิดดินถล่ม
ศกึ ษาดปู ระวตั ิ สภาพดนิ และรอ่ งน้ำ เมอ่ื ไดร้ ับคำสงั่ ให้อพยพ อย่าลังเล ตดิ ตามฟังข่าวพยากรณ์อากาศ เพือ่
รอบพ้นื ทร่ี อบสถานศกึ ษา ให้พานักเรยี นไปยงั จุดปลอดภัย ทราบสภาพสถานการณ์ของภาวะ
วา่ เคยเกดิ เหตดุ นิ ถล่มหรือไม่ ฝนตกหนกั หรือน้ำปา่ ไหลหลาก
หลกี เลยี่ งการสร้างอาคารในบรเิ วณท่ี หากไมส่ ามารถอพยพได้ทัน ให้หา กลบั สสู่ ถานศกึ ษา หรือสง่ นักเรียน
เคยมเี หตุการณ์ดนิ ถล่ม พ้ืนที่แขง็ แรงปลอดภัยเพื่อหลบภยั กลบั บ้านเม่ือมปี ระกาศจากทาง
ในอาคาร ราชการว่าปลอดภัยเท่านั้น
เตรียมแผนอพยพ เส้นทางหนีภัย หากพลัดตกไปในกระแสน้ำ ห้าม สำรวจดคู วามเสยี หายของอาคาร
และซ้อมอพยพ ว่ายนำ้ หนีเปน็ อนั ขาด เพราะอาจ เรยี น อาคารประกอบและระบบ
โดนซากต้นไม้ และก้อนหนิ ที่ไหลมา สาธารณปู โภค
ปลกู พืชยึดหน้าดินบริเวณเชิงเขา กับโคลนกระแทก จนเปน็ อตั รายถงึ
ตายได้ ดำเนินการซ่อมแซมอาคาร ส่ิงของ
และพื้นทีล่ าดชนั เพ่ือลดความเสยี่ ง เครือ่ งมอื เครื่องใชแ้ ละอปุ กรณ์
ดินถล่ม
กอ่ นเกดิ ดนิ ถล่ม ขณะเกิดดนิ ถล่ม หลงั เกดิ ดินถล่ม
เขา้ รว่ มเครือข่ายเฝ้าระวงั หรือ
ประสานงานกบั ชุมชนใกล้เคียงทีม่ ี
ระบบการเฝ้าระวังเพื่อติดตาม
สถานการณ์
สอนนักเรียนให้รู้จกั การสงั เกต
กระแสน้ำ ดินโคลนถล่มและการเอา
ตัวรอดในสถานการณว์ กิ ฤติ
เตรยี มกระเปา๋ ฉุกเฉนิ และอุปกรณ์ยัง
ชพี ให้พร้อมอพยพ
3.6 มาตรฐานการปฏบิ ัตใิ นกรณเี กดิ ภยั แลง้
ลกั ษณะภัย สภาวะความแหง้ แลง้ ผิดปกติของอากาศเป็นเหตุใหค้ วามชน้ื ในอากาศ และในดนิ น้อยลง
ข้อควรจำ ภัยแล้งมผี ลตอ่ ปรมิ าณนำ้ เพื่ออุปโภค บริโภค และการเกษตรขาดแคลน ภัยแล้งมีโอกาส
เกิดไฟป่า
ก่อนเกิดภัยแล้ง ขณะเกิดภัยแล้ง หลงั เกิดภัยแลง้
เตรียมกกั เกบ็ นำ้ สะอาดเพื่อบรโิ ภค ตรวจสอบและแกไ้ ขท่อน้ำเพื่อลดการสูญเสีย ตรวจสอบและประเมินความ
ให้เพยี งพอ
โดยเปลา่ ประโยชน์ เสียหาย และความต้องการ
ในเบ้ืองตน้
สำรวจระบบนำ้ ทอ่ น้ำ ระบบกักเก็บน้ำ ให้ ลดการใชน้ ้ำทไี่ ม่สมควรและไมจ่ ำเป็น เตรียมหลกั ฐานเพื่อขอรับ
อยู่ในสภาพดี พร้อมใชง้ าน ความ ช่วยเหลอื และฟ้นื ฟู
ก่อนเกดิ ภัยแล้ง ขณะเกิดภยั แลง้ หลงั เกิดภัยแล้ง
วางแผนใชน้ ้ำอยา่ งประหยดั นำน้ำท่ีใช้ชำระร่างกายไปใช้ตอ่ ทาง
เพอ่ื ใหม้ นี ำ้ ใชต้ ลอดชว่ งหน้าแล้ง การเกษตร
สอนใหน้ ักเรยี นรจู้ ักการดูแลสุขภาวะ กำจดั วัสดเุ ช้ือเพลิงรอบสถานศกึ ษาและนอก
ในชว่ งฤดแู ลง้ เพื่อป้องกนั โรคระบาดท่ี ร้วั สถานศึกษาเพื่อป้องกันการเกดิ ไฟปา่ และ
อาจจะมากบั ภาวะน้ำแลง้ และน้ำปนเปอื้ น การลุกลาม
เตรียมหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน เม่ือพบเหน็ ไฟปา่ ให้แจง้ หน่วยรบั ผิดชอบ
เพอื่ การขอนำ้ บริโภค และการดับไฟป่า ดำเนินการดับไฟทันที
บทที่ 4 การจัดเรียนการสอน
1.วัตถุประสงค์
1.เพอื่ ใหเ้ ข้าใจเน้ือหาการจดั การเรียนร้ตู ามหลกั สูตรการลดความเส่ยี งภัยพบิ ัติและการปรับตวั เขา้ กับ
สภาพอากาศเปลยี่ นแปลง
2.เพือ่ ให้ครผู ู้สอนและครูผชู้ ่วยสามารถจดั กจิ กรรมเสรมิ หลักสูตรและพัฒนานกั เรยี น
3.เพอ่ื ใหเ้ ข้าใจกระบวนการพัฒนาสอ่ื การเรยี นการสอนและสอื่ รณรงค์
2.หัวข้อการเรยี นรู้
1. หลกั การจดั การเรียนรเู้ ร่ืองการลดความเสีย่ งภยั พบิ ัติ
2. การจดั การเรยี นการสอนเรื่องจัดการภยั พบิ ตั ิในหลักสูตรแกนกลางฯ
2.1 ระดบั ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1 - 3
2.2 ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 4-6
2.3 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3
2.4 ระดับชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 4-6
2.5 แหลง่ ขอ้ มูลและเน้ือหาเก่ียวกับภัยพบิ ตั ธิ รรมชาติ
2.6 การประเมินและวดั ผลการจัดการเรยี นการสอน
3. การจัดกจิ กรรมเสริมสูตรและพฒั นาผู้เรียน
3.1 ทักษะชวี ิต life skill good practice
3.2 แนวทางจัดกิจกรรมเสริมหลักสตู ร
3.3 ตวั อยา่ งกจิ กรรมเสรมิ หลักสูตร
4. บทบาทอาสาสมัครในสถานการณภ์ ัยพบิ ตั ิ
5. แนวทางการพฒั นาสอื่ การเรยี นการสอนและส่อื รณรงค์
หวั ข้อ : หลักการจดั การเรยี นรู้เรื่องการลดความเส่ียงภยั พิบตั ิ
หลักการจดั การเรียนร้เู ร่ืองการลดความเสย่ี งภัยพบิ ัติ
หลกั การจัดการเรยี นรเู้ รื่องการลดความเสยี่ งภัยพิบัติต้องมีองค์ประกอบ 5 มติ ิ ไดแ้ ก่
1. ความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์และกลไกการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ ท้ังการศึกษาจากตำรา วิชาการและ
การศึกษาจากสภาพแวดล้อมจรงิ นอกห้องเรียน
2. การเรียนรแู้ ละฝึกฝนทกั ษะและขัน้ ตอนการปฏบิ ัตเิ พื่อความปลอดภัยในบรบิ ทของภยั ต่าง ๆ
3. ความเขา้ ใจปจั จยั ผลักดนั ที่ทำใหเ้ กิดความเส่ยี งและกลไกทีท่ ำให้ภัยธรรมชาติกลายเป็นภยั พิบัติ
4. สรา้ งศกั ยภาพในการลดความเสี่ยง ไมว่ า่ จะเปน็ สถานศึกษา ชุมชน และกลมุ่ สังคมตา่ ง ๆ
5. สร้างวฒั นธรรมแห่งความปลอดภัย (culture of safety) และการรู้รบั ปรบั ตวั (resilience) ในสถานศึกษา
หัวข้อ : การจดั การเรยี นการสอนเรือ่ งจดั การภยั พิบัติในหลักสูตรแกนกลางฯ
การจดั การเรยี นการสอนเรื่องจัดการภัยพบิ ตั ิในหลักสตู รแกนกลางฯ
เพ่ือให้สถานศึกษามีการจัดการเรียนการสอนเร่ืองการลดความเส่ียงภัยพิบัติและการปรับตัวได้อย่าง
เหมาะสม ทั้งในและนอกหลักสูตร จึงได้มีการบรรจุเน้ือหาเร่อื งการจัดการภัยพิบัติไวใ้ นหลกั สตู รแกนกลางขั้น
พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ซ่ึงได้มีการปรับเนื้อหาตลอดจนบริบทให้สอดคล้องกับสภาพปัญหา ความต้องการ
ของชุมชนและภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยจัดเป็นรายวิชาพื้นฐาน มีการสอดแทรกเนื้อหาด้านการลดความเสี่ยงภัย
พิบัตแิ ละการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไว้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ สุขศึกษาและ
พลศึกษา สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม และสามารถบูรณาการข้ามกลุ่มสาระ และจัดเป็นรายวิชา
เพิ่มเติม โดยมีวัตถปุ ระสงคแ์ ละขอบเขตดงั น้ี
2.1 ระดบั ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 1 – 3
วัตถปุ ระสงค์การเรียนรู้ ไดแ้ ก่
• ให้นักเรยี นมีความรู้ และความเข้าใจถงึ อันตรายของภัยพบิ ัตแิ ละการรักษาชีวติ ของตนเอง
• ใหน้ ักเรียนเรียนรู้วธิ ีการแจง้ เหตุให้ครหู รอื ผู้ปกครองทราบ
• ให้นกั เรียนรูจ้ กั การสังเกตการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
• ให้นกั เรียนมสี ่วนรว่ มในการปรับสภาพแวดลอ้ มในทอ้ งถ่นิ
กลุม่ สาระการ ขอบเขตการเรยี นรู้ มาตรฐาน / ตัวชี้วดั
เรียนรู้
สขุ ศกึ ษา • พน้ื ฐานการป้องกนั และการหลีกเล่ียงจาก • ปฏบิ ัติตนตามกฎ กติกา ข้อตกลงและตาม
ภัย คำแนะนำ (พ 3.2 ป.1/2)
• การตระหนักรูส้ ิง่ ท่ีปลอดภัยและไม่ • ระบสุ ่งิ ท่ที ำใหเ้ กดิ อันตรายที่บ้าน โรงเรยี น
ปลอดภยั และการป้องกนั (พ 5.1 ป.1/1)
• การระมัดระวังตนจากสง่ิ ที่เป็นอันตราย • ปฏบิ ตั ติ นในการป้องกันอุบตั เิ หตทุ ี่อาจ
และสถานท่ีอนั ตราย เกิดข้นึ ทางนำ้ และทางบก(พ5.1 ป.2/1)
• การปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมทั้ง ในการ • ปฏิบัติตนตามสัญลักษณ์และปา้ ยเตือน
ซอ้ มอพยพ และเวลาเกิดเหตุการณ์ ของสิง่ ของหรือสถานทีท่ ่เี ป็นอันตราย (พ
ฉุกเฉนิ 5.1 ป.2/4)
• การขอความช่วยเหลือด้วยวิธกี ารต่างๆ • อธิบายสาเหตุอนั ตรายวธิ ปี ้องกัน อัคคีภยั
• การปฐมพยาบาลเบ้ืองตน้ และแสดงการหนีไฟ (พ 5.1 ป.2/5)
• ปฏบิ ัตติ นเพื่อความปลอดภัยจากอบุ ัตเิ หตุ
ในบา้ นโรงเรยี นและการเดินทาง(พ 5.1ป.
3/1)
• แสดงวิธขี อความชว่ ยเหลือ จากบุคคล
และแหลง่ ตา่ งๆเมื่อเกดิ เหตรุ า้ ยหรอื
อบุ ัติเหตุ (พ 5.1ป.3/2)
• แสดงวิธีปฐมพยาบาลเม่ือไดร้ ับบาดเจ็บ
(พ 5.1ป.3/3)
ภาษาไทย • การถา่ ยทอดเรื่องราว • พูดแสดงความคดิ เห็นและความรู้สึกจาก
เรอ่ื งท่ีฟังหรือดู(ท3.1 ป.1/3, ป.2/5, ป.
แสดงความคิดเหน็ และความรู้สึก 3/4)
ในเหตุการณ์ท่ีพบเห็น
• พูดสอ่ื สารไดช้ ัดเจนตามวตั ถุประสงค์ (ท
• การเรียนร้ปู า้ ยประกาศสญั ลักษณก์ าร 3.1ป.1/4,ป.2/6,ป.3/5)
เตอื นภยั อนั ตราย
• บอกความหมายของสญั ลักษณ์ทีพ่ บเหน็
ในชีวิตประจำวนั (ท 1.1ป.1/ 7)
กลมุ่ สาระการ ขอบเขตการเรยี นรู้ มาตรฐาน / ตวั ช้ีวัด
เรียนรู้
• ธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงของสภาพ • มีสว่ นร่วมในการจดั ระเบียบส่ิงแวดล้อมที่
สงั คมศึกษา ภูมอิ ากาศ บ้านและชั้นเรียน (ส 5.2ป.1/3)
• การวเิ คราะห์ปัญหาทเ่ี ป็นสาเหตุการเกิด • สงั เกตและบอกการเปลยี่ นแปลงของ
ภัยพิบัตธิ รรมชาตใิ นท้องถนิ่ สภาพอากาศในรอบวนั (ส 5.1ป.1/5)
• การทำกิจกรรมทำแผนท่เี ส่ียงภัย • แยกแยะสงิ่ ตา่ งๆรอบตวั ท่ีเกิดขึ้นเองตาม
• พน้ื ฐานการบำเพ็ญตนใหเ้ ปน็ ประโยชน์ตอ่ ธรรมชาตแิ ละท่มี นุษย์สร้างขึ้น (ส 5.1 ป.
1/1)
สังคม
• ความเข้าใจและการปฏบิ ตั ติ นเปน็ • บอกส่งิ ตา่ งๆทเ่ี กดิ ตามธรรมชาติ ท่สี ง่ ผล
ตอ่ ความเปน็ อยู่ของมนษุ ย์ (ส 5.2
พลเมอื งดี ป.1/2)
• ตระหนักถึงการเปลย่ี นแปลงของ
ส่ิงแวดลอ้ มในชมุ ชน (ส 5.2 ป.3/5)
• มีสว่ นร่วมในการฟน้ื ฟปู รับปรุงส่งิ แวดลอ้ ม
ในโรงเรียนและชุมชน ( ส 5.2 ป.2/4)
• ระบบุ ทบาทหนา้ ท่ีของคนในชุมชนในการ
มสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมต่างๆ
(ส 2.2 ป.3/1)
• เขยี นแผนผงั งา่ ยๆ เพือ่ แสดงตำแหนง่ ทีต่ ั้ง
ของสถานท่ีสำคญั ในบริเวณโรงเรียนและ
ชมุ ชน (ส 5.2 ป.3/2)
วทิ ยาศาสตร์ • การรณรงค์เรื่องการใช้ทรัพยากรใน • ระบกุ ารใช้ทรัพยากรธรรมชาติท่กี ่อให้เกิด
ทอ้ งถน่ิ ปัญหาสงิ่ แวดลอ้ มในทอ้ งถน่ิ (ว 2.2 ป.
3/2)
• กระบวนการเปลย่ี นแปลง สถานะของ
อุณหภมู ิโลกที่ก่อใหเ้ กดิ สภาวะโลกร้อน • ทดลองและอธิบายผลของการ
และปรากฏการณต์ า่ งๆ เชน่ การไหลของ เปลีย่ นแปลงทเี่ กดิ ขนึ้ กับวสั ดุเมอื่ ถูกแรง
กระแสนำ้ และความเสี่ยงภัยพิบัติ กระทำหรือทำใหร้ อ้ นขน้ึ หรอื เยน็ ลง (ว
3.2 ป.3/1)
2.2 ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4-6
วัตถุประสงค์การเรยี นรู้ ไดแ้ ก่
• ให้นกั เรยี นเรยี นมีการปฏบิ ัติตนได้อยา่ งเหมาะสม สามารถป้องกันตนเอง ดแู ลตนเองและผู้อ่ืนให้
ปลอดภยั ได้เม่ือเกดิ เหตุการณ์ฉุกเฉิน
• ให้นักเรยี นมีสว่ นร่วมรณรงค์ในการใช้ทรัพยากรเพอ่ื พทิ ักษ์สิ่งแวดลอ้ ม
• ให้นกั เรยี นศึกษาสาเหตุการเกิดภัยธรรมชาตแิ ละรู้จักการเตรียมพรอ้ ม
กลุ่มสาระการ ขอบเขตการเรียนรู้ มาตรฐาน / ตวั ช้ีวดั
เรียนรู้
• อธบิ ายการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดลอ้ มใน
สงั คมศึกษา • การวเิ คราะห์การเปลย่ี นแปลง ทอ้ งถิ่นและผลจากการเปลย่ี นแปลง (ส 5.2
สภาพแวดลอ้ ม ผลกระทบของการ ป. 4/2)
เปลี่ยนแปลง และการนำเสนอแนวคดิ
การอนรุ ักษ์ • มสี ่วนรว่ มในการอนรุ ักษ์สิ่งแวดล้อมในจงั หวดั
(ส 5.2 ป. 4/3)
• การมสี ่วนรว่ มในการอนุรกั ษ์
สง่ิ แวดล้อมในท้องถิ่น • นำเสนอตัวอยา่ งที่สะท้อนให้เหน็ ผลจากการ
รักษาและการทำลายสภาพแวดลอ้ มและเสนอ
• การวิเคราะห์สาเหตุการเกิดภัยพิบตั ิ แนวคดิ ในการรักษาสภาพแวดลอ้ มในภมู ภิ าค
ธรรมชาติในทอ้ งถ่นิ (ส 5.2 ป. 5/3)
• การขอความช่วยเหลือในขณะเกดิ ภยั • อธิบายโครงสรา้ ง อำนาจ หน้าท่ี และ
หรอื ภายหลงั เกิดภยั ความสำคญั ของการปกครองส่วนทอ้ งถิ่นใน
การช่วยเหลอื และฟืน้ ฟูสภาพภายภายหลังการ
• การทำแผนที่เสี่ยงภยั แสดงบริเวณที่ เกดิ ภัย (ส 2.2 ป. 5/1)
ปลอดภัยและไม่ปลอดภยั
• ใช้เครือ่ งมือทางภมู ิศาสตร์ เช่น แผนที่ ระบุ
• กจิ กรรมอาสาสมคั รในโรงเรียน ลักษณะสำคัญทางกายภาพและสังคมของ
ประเทศและอธิบายความสัมพนั ธ์ระหว่าง
ลกั ษณะทางกายภาพกบั ปรากฏการณ์ทาง
ธรรมชาตขิ องประเทศ (ส 5.1 ป. 6/1,2 )
กลมุ่ สาระการ ขอบเขตการเรยี นรู้ มาตรฐาน / ตวั ชี้วัด
เรยี นรู้
• อธบิ ายและจำแนกประเภทของหิน โดยใช้
วิทยาศาสตร์ • สาเหตกุ ารเกิดดินถลม่ ลักษณะของหิน สมบตั ขิ องหินเป็นเกณฑ์และ
• กระบวนการเปลย่ี นแปลงของผวิ โลก การเปล่ยี นแปลงของหนิ รวมทั้งนำความรู้ไปใช้
ประโยชน์ (ว 6.1ป. 6/1)
และภายในโลกทีเ่ ปน็ สาเหตุของธรณี
พบิ ัติ • สืบคน้ และอธบิ ายธรณีพิบตั ิที่มีผลตอ่ มนษุ ย์
• กระบวนการไหลของกระแสน้ำและ และสภาพแวดล้อมในท้องถิน่
ความเสยี่ งในการเกดิ อุทกภัย
(ว 6.1ป. 6/3)
• ทดลองและอธบิ ายการเกดิ วัฏจกั รน้ำ (ว 6./2
ป.5 /2)
สขุ ศกึ ษา • ทักษะในการปอ้ งกันตัวและเห็นคณุ ค่า • แสดงพฤติกรรมในการป้องกันและแก้ไข
ของความปลอดภยั ปญั หาส่งิ แวดล้อมท่มี ผี ลตอ่ สุขภาพ (พ 4.1ป.
6/1)
• การหลกี เลี่ยงปจั จัยเส่ียงที่ทำให้เกดิ
อนั ตราย • วิเคราะหผ์ ลกระทบจากความรุนแรงของภัย
ธรรมชาตแิ ละระบุวิธีปฏบิ ตั ติ นให้ปลอดภัย
จากภยั ธรรมชาติ (พ5.1ป. 6/1,2)
2.3 ระดับชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1-3
ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ต้องเพ่ิมรายละเอียดเน้ือหามากย่ิงข้ึน และรูปแบบการเรียนการสอน
ต้องมีความเป็นรูปธรรมมากขึ้น ในระดับนี้ควรมีเป้าหมายท่ีส่งเสริมให้ผู้เรียนมีการปฏิบัติตนในการช่วยเหลือ
สังคม เช่น กจิ กรรมอาสาสมคั ร กจิ กรรมพ่สี อนนอ้ ง การสร้างแบบจำลองภยั พิบัติ การเตรยี มความพร้อมรบั มือ
กับภยั อย่างเหมาะสม ทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องตน้
กลุ่มสาระการ ขอบเขตการเรียนรู้ มาตรฐาน / ตัวช้ีวัด
เรยี นรู้
สังคมศึกษา • การมสี ว่ นรว่ มและบทบาท • เหน็ คณุ คา่ ในการปฏบิ ัติตนตามสถานภาพ บทบาทหน้าท่ีใน
ในกจิ กรรมพัฒนาสงั คม ฐานะพลเมืองดตี ามวิถีประชาธิปไตย (ส 2.1 ม. 2 / 2)
• การวิเคราะห์และสรปุ • วิเคราะหเ์ ช่ือมโยงสาเหตุแนวทางปอ้ งกันภัยธรรมชาติและการ
เหตกุ ารณ์ภยั พบิ ัตโิ ดยใช้ ระวังภัยท่เี กิดขึน้ ในประเทศไทย ทวีปเอเชยี ฯลฯ (ส 5.1ม. 1
ขอ้ มลู สารสนเทศ / 3)
• ประวัตทิ างธรณีวิทยาและ • วเิ คราะหเ์ รอ่ื งราวเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ได้อย่าง
การเกดิ ภัยในอดตี มเี หตุผลตามวิธีการทางประวัตศิ าสตร์ (ส 4.1 ม. 3 /1)
วทิ ยาศาสตร์ • สาเหตุการเกิดการเกิดเปน็ • สังเกต วเิ คราะหแ์ ละอภิปรายการเกิดปรากฏการณ์ทางลมฟา้
ภยั พบิ ตั ิ ดินถลม่ หรอื หินพงั อากาศที่มีผลต่อ มนุษย์การเกิดเป็นภยั พบิ ัติ (ว 6. ม. 1 / 3)
• ทกั ษะในการสืบคน้ • ทดลองและอธบิ ายความสำพันธ์ระหว่างอุณหภูมิ ความชื้น
กระบวนการ และความกดอากาศทีม่ ผี ลต่อปรากฏการณ์ทางลมฟ้าอากาศ
(ว 6.1ม. 1 / 2)
ตา่ งๆ ทมี่ ีผลตอ่ การเปลี่ยนแปลง
ภูมิอากาศและภมู ิประเทศ • สืบค้น สรา้ งแบบจำลองและอธิบายกระบวนการผุพงั การ
กรอ่ น การพดั พาและผลของกระบวนการดังกล่าว (ว 6.1ม. 2
• การส่อื สารส่ิงท่เี รียนรแู้ ละ / 9,10)
การจัดทำสื่อการเรียนรู้
กล่มุ สาระการ ขอบเขตการเรียนรู้ มาตรฐาน / ตัวชี้วดั
เรยี นรู้
• ทักษะในการลดความเสี่ยง • อธบิ ายวิธีการหลกี เลีย่ งพฤติกรรมเสีย่ งและสถานการณเ์ สยี่ ง
สุขศกึ ษา จากภยั พบิ ัติ (พ 5.1 ม. 2 / 2)
• ทกั ษะการปฐมพยาบาล • แสดงวิธปี ฐมพยาบาลและเคลื่อนยา้ ยผู้ปว่ ยอย่างปลอดภัย (พ
เช่น วิธหี ้ามเลือด พนั แผล 5.1ม. 1 / 1)
และป๊มั หวั ใจ
• ใช้ทกั ษะชีวติ ในการป้องกนั ตนเองและหลีกเล่ยี งสถานการณ์
• ทักษะในการเตรยี มความ คับขนั ท่ีอาจนำไปสู่อันตราย (พ 5.1ม. 2 / 3)
พรอ้ มรบั มอื กบั ภัย
2.4 ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4-6
วัตถุประสงค์การเรยี นรู้ ได้แก่
• สง่ เสริมให้นกั เรียนมีส่วนรว่ มในกจิ กรรมเตรียมความพร้อมรับมอื กับภัยพิบัตโิ ดยใชท้ ักษะในเชิงเทคนคิ
เชน่ การกู้ภยั การแจ้งเตือน เป็นต้น
• การปฏบิ ตั ติ นเปน็ ส่วนหนงึ่ ของครอบครัว โรงเรยี นและชมุ ชนในการดูแลและเฝ้าระวังในความ
ปลอดภัย
กลุม่ สาระการ ขอบเขตการเรยี นรู้ มาตรฐาน / ตวั ชว้ี ัด
เรยี นรู้
• วเิ คราะห์อิทธพิ ลของสภาพภูมศิ าสตร์ทท่ี ำให้เกิด
สังคมศึกษา • ความรู้ด้านอุตุนิยมวิทยา ปญั หาทางกายภาพหรือภยั พิบตั ทิ างธรรมชาติใน
• การวิเคราะห์ประวัติการเกิดภัย ประเทศไทยและภูมภิ าคต่างๆ (ส 5.1ม.4 - 6 /2)
• การรณรงค์แก้ไขปญั หา
• ประเมินการเปล่ยี นแปลงของโลกว่าเปน็ ผลจากการ
สง่ิ แวดลอ้ ม กระทำของมนุษย์หรือธรรมชาติ (ส 5.1ม.4 - 6 /4)
• มสี ่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาและดำเนินชีวติ ตามแนว
ทางการอนุรักษ์ส่งิ แวดล้อม(ส 5.2ม.4 - 6 /5)
กลุ่มสาระการ ขอบเขตการเรียนรู้ มาตรฐาน / ตัวช้ีวัด
เรียนรู้
วทิ ยาศาสตร์ • เพอื่ ศกึ ษาสาเหตุการเกดิ ภยั พิบัติ • วิเคราะห์สาเหตขุ องปญั หาส่งิ แวดล้อมและ
• มีทกั ษะในการสืบคน้ และการทำ ทรพั ยากรธรรมชาติในระดับท้องถน่ิ ระดบั ประเทศ
และระดับโลก (ว 2.2 ม.4 - 6 /1)
โครงงานด้านการเปล่ยี นแปลงทาง
ธรณีวิทยา เพอ่ื สื่อสารส่งิ ที่เรียนรู้ • อภิปรายแนวทางในการป้องกันแก้ไขปญั หาปัญหา
ให้เห็นเป็นรปู ธรรม สิง่ แวดลอ้ ม(ว 2.2 ม.4 - 6 /2)
• วางแผนและดำเนินการเฝา้ ระวัง อนุรกั ษ์และพฒั นา
สิ่งแวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาต(ิ ว 2.2 ม.4 - 6
/3)
• สบื คน้ ทดลอง เลียนแบบ และอธิบายกระบวนการ
เปลย่ี นแปลงทางธรณภี าคของโลก (ว 6.1ม.4 - 6
/3,4)
สุขศกึ ษา • ทกั ษะในการจัดทำแผนลดความ • วางแผน กำหนดแนวทางลดอุบตั ภิ ยั และการสร้าง
เสย่ี งจากภัยพิบตั ิ เสรมิ ความปลอดภยั ในชุมชน (พ 5.1 ม.4 - 6 /4)
• ทักษะและความสามารถในการ • มีสว่ นรว่ มในการสรา้ งเสรมิ ความปลอดภยั ในชุมชน (พ
เผชิญกบั สถานการณภ์ ยั พิบตั ิ 5.1 ม.4 - 6 /5)
• ทกั ษะการปฐมพยาบาล เช่น วิธี • ใชท้ กั ษะชีวิตในการตัดสินใจแก้ปัญหาในสถานการณ์
หา้ มเลอื ด พันแผล และป๊มั หัวใจ เส่ียงและความรนุ แรง (พ 5.1ม.4 - 6 /6)
• แสดงวธิ ีการชว่ ยเหลือชีวิตคนอย่างถูกวธิ (ี พ 5.1ม.4 -
6 /7)
2.5 แหล่งขอ้ มลู และส่ือการสอนเกี่ยวกับภัยพิบัติธรรมชาติ
นอกเหนือจากเนอื้ หาในหลกั สตู รแกนกลางแล้ว ครูผู้สอนสามารถสืบคน้ เนอ้ื หาสาระเพ่มิ เตมิ ได้จาก
แหล่งข้อมูลต่อไปน้ี
หน่วยงาน
• กรมอุตนุ ิยมวิทยา https://www.tmd.go.th/
• TK Park สอื่ การเรียนรู้อเิ ลก็ ทรอนกิ สใ์ นรปู แบบ E-book Audio book และ Applica-
tion https://www.tkpark.or.th/tha/digital_content
• ศูนยเ์ ตือนภยั พิบัติแห่งชาติ คลังความรู้เพ่ือการเตอื นภยั http://www.ndwc.go.th/
• กรมทรัพยากรธรณี ส่ือเผยแพรค่ วามรู้ธรณีพิบตั ิ
ภยั http://www.dmr.go.th/ewt_news.php?nid=6816
• กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั หนังสอื ชุดเรียนร้สู าธารณภยั
(http://122.155.1.141/inner.PRDPM-6.53/cms/menu_1762/603.1/)
หนงั สอื อา้ งองิ
• หนงั สือแนวทางการจดั การเรียนรู้เรื่องการลดความเสยี่ งจากภยั พิบตั แิ ละการรบั มือกับความ
เปล่ียนแปลงสภาพภมู อิ ากาศ (อา่ นเพ่มิ เตมิ )
• หนังสือจากเวบไซต์ทักษะชีวติ ของ สพฐ.เรื่องภัยพิบัตธิ รรมชาติ
• สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน
ส่อื วิดีทัศน์
คลังสอ่ื การสอนของ สพฐ. (DLIT Resources) ซึ่งเปน็ วดิ โี อการสอนหวั ข้อท่ยี ากของ 5 กลุ่มสาระฯ ตอนละ
50 นาที สำหรบั หอ้ งเรยี นที่ขาดครูตรงกลุ่มสาระฯ และนกั เรียนท่ตี อ้ งการทบทวน
• หอ้ งเรยี นแห่งคณุ ภาพ (DLIT Classroom)
• สอื่ วดิ ีทัศนใ์ ห้ความรูเ้ กยี่ วกบั การรับมืออุทกภยั จากองคก์ รช่วยเหลอื เด็ก เรอื่ งตุ่นนอ้ ยตื่นตวั จาก
องค์กรช่วยเหลอื เด็ก
2.6 การประเมนิ และวดั ผลการจดั การเรยี นการสอน
ตามคมู่ ือการจัดหลักสูตรการเรียนการสอนเร่ืองภัยพบิ ตั แิ ละการเปลีย่ นแปลงสภาพภมู ิอากาศของ สพฐ
ได้กำหนดตวั ชว้ี ดั คุณภาพนักเรียนไว้ดังน้ี
1. ด้านความรู้ความเขา้ ใจ ประเมนิ ผลจากการตอบคำถามและการทำงานกลุ่ม
2. ด้านทักษะ ประเมินผลจากผลงาน กระบวนการหรือข้ันตอนการปฏิบัติ พฤติกรรมในการทำงานกลุ่ม
และการนำเสนอผลงาน โดยพิจารณาเนื้อหา ความถูกต้อง ความสอดคล้อง ความคิดสร้างสรรค์
ทักษะการนำเสนอ
3. ด้านเจตคติ ประเมินจากความรับผิดชอบ ความเสียสละ ความมีระเบียบ การตรงต่อเวลา การมีส่วน
รว่ มในกระบวนการกลมุ่
ตัวชีว้ ดั คุณภาพครทู ี่จดั การเรียนการสอนเร่ืองภยั พิบัติฯ มีดังนี้
1. ครมู คี วามรเู้ ก่ยี วกบั การลดความเสย่ี งจากภัยพิบตั แิ ละการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมอิ ากาศ
2. ครูใช้เทคนคิ ทห่ี ลากหลายในการจัดการเรียนรู้ โดยเฉพาะวิธกี ารทใี่ ห้เด็กเปน็ ศนู ยก์ ลางและมสี ่วนร่วม
3. ครูสามารถแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการจดั การเรียนร้กู ับสถานศึกษาอ่ืน ๆ
ตัวชี้วดั คณุ ภาพผบู้ ริหารในการบริหารจดั การความปลอดภยั รอบด้านในสถานศึกษา มีดงั นี้
1. ผู้บริหารมีวิสัยทัศน์ในการจัดการศึกษาเรื่องการการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติและการรับมือกับการ
เปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศ
2. ผู้บริหารมีความสามารถในการบรหิ ารจัดการภยั พิบตั ิภายใตส้ ภาวการณ์กดดนั อย่างมปี ระสิทธิภาพ
3. ผู้บริหารมีความสามารถในการประสานภาคีเครือข่ายเพื่อความร่วมมือในการจัดการเรียนรู้ (เช่น
สถานศกึ ษา องคก์ รเอกชน หน่วยงานราชการ ฯลฯ)
ผู้บรหิ ารมีความสามารถในการนเิ ทศติดตามผลการดำเนินงาน
หัวข้อ : การจัดกิจกรรมเสริมสตู รและพัฒนาผเู้ รียน
3.1 การสอนทักษะชวี ิต (life skill)
การศึกษาในศตวรรษที่ 21 เป็นการศึกษาท่ีมีจุดเน้นอยู่ตรงการสร้างให้เยาวชนมีทักษะชีวิต ทักษะการ
เรียนรู้และทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น เพ่ือท่ีว่าพวกเขาจะสามารถอยู่รอดปลอดภัยต่อไปได้ท่ามกลาง
วิกฤตการณ์ของโลก ทั้งท่ีเกิดจากปัญหาทางสังคมและภัยพิบัติทางธรรมชาติท่ีนับวันก็มีแต่จะทวีความรุนแรง
ย่ิงขึ้นทุกวัน การสร้างนวตกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะชีวิตจึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการสร้างเด็กและ
เยาวชนท่ีรู้เท่าทันภัยและอยู่รอดปลอดภัย ปัจจัยแห่งความสำเร็จนำนวัตกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกับภัยพิบัติไป
ใชส้ ำคญั 3 ประการ คือ
• ก่อนการนำไปใช้ ครูสอนต้องหาความรู้อย่างลึกซึ้งและละเอียด และหากเป็นไปได้ ผู้เรียนควรได้
เรียนรู้ประสบการณข์ องผปู้ ระสบภยั โดยตรง
• การออกแบบการเรียนรู้ต้องเป็นไปอย่างสนุกสนาน นักเรียนจะมีความยินดีในการเรียนรู้เร่ืองเดิมได้
บอ่ ยครัง้
• ส่ือประกอบการเรียนรู้ต้องออกแบบให้น่าสนใจและง่ายต่อการจดจำ
ตัวอย่างเช่น ผู้สอนสามารถสร้างการเรียนรู้ในหัวข้อผู้ประสบภัยใช้เทคนิคอะไรในการรับมือภัยพิบัติบ้าง
แล้วนำมาทำให้น่าสนใจโดยประมวลออกมาเป็นเกม ละครหรือกลายเป็นส่ือในการเรียนการสอนต่าง ๆ ท่ีจะ
ช่วยให้ผู้เรียนเกิดการสั่งสมความรู้เร่ืองการใช้ชีวิตระหว่างประสบภัยพิบัติก่อนท่ีจะได้เผชิญหน้ากับเหตุการณ์
จริง โดยโรงเรียนมีหน้าที่หลักในการเช่ือมโยงความรู้พ้ืนฐานเข้ากับความสามารถในการจัดการเมื่อเกิด
เหตุการณ์ภัยพิบัติ เช่น การนับจำนวนผู้บาดเจ็บ การทำแผนท่ีเส่ียงภัยของโรงเรียน การทำกราฟ การซ้อม
อพยพ เป็นต้น
3.2 แนวทางการจดั กจิ กรรมเสริมหลักสตู ร
ในการจัดกิจกรรมหลักและกิจกรรมเสริมเรื่องการลดความเสี่ยงภัยพิบัติและการรับมือกับการ
เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศควรเน้นการมีส่วนร่วมและการใช้ความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนในการสร้าง
กิจกรรม เน้นการใช้ความคิดเชิงวิเคราะห์เพ่ือจะทำให้เด็กและเยาวชนเกิดความตระหนักในประเด็นปัญหา
คิดค้นการแก้ไขปัญหาท่ีถูกต้องเพ่ือให้เกิดการเปล่ียนแปลง และสร้างภาวะผู้นำ กิจกรรมเสริมหลักสูตร เช่น
กจิ กรรมอาสาสมัครกส็ ามารถใช้เป็นสว่ นหน่ึงในการชว่ ยสร้างเครือขา่ ย ระดมทรัพยากร ความรู้ จากชุมชน มา
ชว่ ยในการลดความเสี่ยงภยั พิบัติ
สำหรับวิธีการจดั กิจกรรมนั้น อาจจะเป็นการนำประเด็นเรอื่ งภัยพิบัติเข้าไปสอดแทรกในกิจกรรมเดิม
ที่มีอยแู่ ลว้ เช่น ในงานกฬี าสี งานนิทรรศการ กจิ กรรมชมรม กลมุ่ อาสาสมัคร การทำโครงการระยะส้ัน การจัด
เวทีเผยแพร่ความรู้ในชว่ งพักกลางวัน การสอดแทรกทกั ษะการเอาตวั รอดในวชิ าลูกเสือเนตรนารี เป็นตน้ โดย
ครูมีหนา้ ท่ีช่วยช้ีให้เห็นถึงความสอดคลอ้ งของกิจกรรมนั้นๆกบั ประเด็นดา้ นการลดความเส่ยี งภัยพิบัติและการ
รบั มอื กบั การเปลย่ี นแปลงสภาพภมู ิอากาศ
ประเด็นทส่ี ามารถสอดแทรกไปในการเรียนการสอนและการทำกิจกรรมเสรมิ หลักสูตร ได้แก่
• การสำรวจชมุ ชนรอบสถานศึกษา เพ่ือความเขา้ ใจทางสังคมและการระบุประเด็นปญั หาความเส่ยี งภยั
• การช่วยกนั สอดสอ่ งค้นหาจุดเสี่ยงภยั เชน่ บ่อนำ้ ทางลาด ถนนทม่ี หี ลุมบ่อ ทางอับสายตา จุดท่ี
อาจจะเกิดเพลิงไหม้
• การทำโครงการขยะแลกส่ิงของ เชน่ ตน้ ไม้ ไขต่ ้ม ทำโครงการธนาคารรไี ซเคิล วัสดเุ หลอื ใช้
• การประหยดั น้ำ การช่วยกนั สอดสอ่ งดูแลก๊อกน้ำ ท่อน้ำ ท่อประปา ถังเกบ็ น้ำ
• การใชค้ วามคิดประดิษฐ์สิง่ ของตา่ งๆเพือ่ ชว่ ยประหยดั พลงั งาน
• การปลูกต้นไม้ พืชคลุมดิน เพื่อป้องกนั การเสียหายพังทลายของหน้าดนิ
• การทำสวนครวั ลอยนำ้ ในพ้นื ท่นี ้ำทว่ ม การปลูกพืชอาหารเพ่อื ใชเ้ ป็นแหล่งอาหารเวลาเกิดอุทกภัย
• การลดการใชส้ ารเคมี ถงุ พลาสติค
• การฝกึ ใหล้ ้างมืออยา่ งถูกต้องและมนี ิสยั รกั ความสะอาด มสี ุขอนามัยทด่ี ี
• การฝึกฝนขัน้ ตอนการปฏิบัติเม่อื เกิดเหตฉุ ุกเฉนิ ตามแผนจัดการภัยพิบัตขิ องสถานศกึ ษา
• การส่งเสริมความสามัคคี ช่วยเหลือผอู้ ่ืน เช่น วิธีการช่วยเหลอื คนพิการ การนำทางคนตาบอด
• การฝึกปฐมพยาบาล การฝกึ การเคลื่อนย้ายผบู้ าดเจบ็
• การจดั เตรียมกระเป๋าฉุกเฉนิ สำรองสำหรบั หอ้ งเรยี น
• การฝกึ ดับเพลิง
• การสำรวจเสน้ ทางอพยพและเกบ็ สง่ิ ของให้เปน็ ระเบยี บตามเส้นทางที่ใช้อพยพ
• การจราจรและการป้องกนั อุบัติเหตุ
• การจัดกจิ กรรมชว่ ยชีวติ การปรบั ตัวในวชิ าลกู เสือ เนตรนารี
3.3 ตวั อย่างการจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรการลดความสี่ยงภยั พิบตั ิ
ในการจัดกิจกรรมหลักและกิจกรรมเสริมเรื่องการลดความเสี่ยงภัยพิ บัติและการรับมือกั บการ
เปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศควรเน้นการมีส่วนร่วมและการใช้ความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนในการสร้าง
กิจกรรม เน้นการใช้ความคิดเชิงวิเคราะห์เพ่ือจะทำให้เด็กและเยาวชนเกิดความตระหนักในประเด็นปัญหา
คดิ ค้นการแก้ไขปัญหาท่ีถูกต้องเพ่ือให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และสร้างภาวะผู้นำ กิจกรรมเสริมหลักสูตร เช่น
กิจกรรมอาสาสมัครก็สามารถใช้เป็นส่วนหนึ่งในการชว่ ยสร้างเครอื ขา่ ย ระดมทรัพยากร ความรู้ จากชุมชน มา
ชว่ ยในการลดความเส่ียงภยั พิบตั ิ
สำหรับวิธีการจัดกิจกรรมนั้น อาจจะเป็นการนำประเด็นเร่อื งภัยพิบัติเข้าไปสอดแทรกในกิจกรรมเดิม
ท่มี อี ยู่แล้ว เช่น ในงานกีฬาสี งานนิทรรศการ กิจกรรมชมรม กลุ่มอาสาสมัคร การทำโครงการระยะสัน้ การจัด
เวทีเผยแพรค่ วามรู้ในช่วงพกั กลางวัน การสอดแทรกทักษะการเอาตัวรอดในวชิ าลกู เสือเนตรนารี เป็นตน้ โดย
ครูมีหนา้ ที่ช่วยชี้ให้เห็นถึงความสอดคล้องของกิจกรรมน้ันๆกับประเด็นด้านการลดความเส่ยี งภัยพิบัติและการ
รับมอื กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภมู ิอากาศ
ประเดน็ ท่สี ามารถสอดแทรกไปในการเรียนการสอนและการทำกจิ กรรมเสริมหลักสูตร ไดแ้ ก่
• การสำรวจชุมชนรอบสถานศึกษา เพื่อความเข้าใจทางสังคมและการระบุประเด็นปัญหาความเสี่ยงภัย
• การชว่ ยกนั สอดสอ่ งค้นหาจุดเสีย่ งภยั เช่น บอ่ น้ำ ทางลาด ถนนท่ีมหี ลุมบ่อ ทางอับสายตา จุดท่ี
อาจจะเกดิ เพลงิ ไหม้
• การทำโครงการขยะแลกส่งิ ของ เชน่ ต้นไม้ ไขต่ ้ม ทำโครงการธนาคารรีไซเคลิ วสั ดุเหลือใช้
• การประหยัดน้ำ การชว่ ยกันสอดสอ่ งดูแลก๊อกนำ้ ท่อนำ้ ท่อประปา ถังเกบ็ น้ำ
• การใช้ความคิดประดิษฐส์ ิ่งของตา่ ง ๆ เพ่ือช่วยประหยัดพลังงาน
• การปลกู ตน้ ไม้ พชื คลุมดิน เพ่ือป้องกันการเสยี หายพังทลายของหน้าดิน
• การทำสวนครวั ลอยน้ำในพ้ืนทนี่ ำ้ ท่วม การปลูกพชื อาหารเพอื่ ใช้เป็นแหลง่ อาหารเวลาเกิดอุทกภยั
• การลดการใช้สารเคมี ถงุ พลาสติค
• การฝึกให้ลา้ งมืออย่างถูกต้องและมีนิสัยรกั ความสะอาด มสี ุขอนามยั ที่ดี
• การฝึกฝนขน้ั ตอนการปฏิบัตเิ มื่อเกิดเหตุฉกุ เฉินตามแผนจดั การภยั พบิ ตั ิของสถานศึกษา
• การสง่ เสริมความสามัคคี ช่วยเหลอื ผอู้ ่ืน เชน่ วธิ ีการชว่ ยเหลือคนพิการ การนำทางคนตาบอด
• การฝึกปฐมพยาบาล การฝึกการเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ
• การจดั เตรยี มกระเปา๋ ฉกุ เฉนิ สำรองสำหรบั ห้องเรยี น
• การฝกึ ดับเพลงิ
• การสำรวจเส้นทางอพยพและเกบ็ ส่งิ ของให้เป็นระเบยี บตามเสน้ ทางที่ใช้อพยพ
• การจราจรและการป้องกันอุบัตเิ หตุ
• การจัดกจิ กรรมชว่ ยชวี ติ การปรบั ตัวในวิชาลกู เสอื เนตรนารี
3.3.1 การจัดทำหลักสตู รวทิ ยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
มกี จิ กรรมการประกวดโครงการวทิ ยาศาสตร์ของระดับปฐมวยั และมหี อ้ งเรียนวทิ ยาศาสตร์ เพือ่ จูงใจให้เด็ก
สนใจเรยี นและสนุกกับการเรียน ประกอบไปด้วย
ห้องดิน ให้ความรู้เกี่ยวกับภัยพิบัติที่เกิดข้ึนจากดิน เช่น ดินสไลด์ แผ่นดินไหว ประเภทและชนิดของ
ดิน ชั้นดินชนิดต่างๆ สาเหตุของภัยพิบัติที่เกิดจากดิน การตรวจสอบสภาพของดิน การอนุรักษ์ดิน และการ
ปอ้ งกันภยั พบิ ตั ิท่ีเกิดจากดนิ เป็นตน้
หอ้ งน้ำ ให้ความรู้เก่ียวกบั ภยั พิบตั ิที่เกิดจากนำ้ เช่น น้ำทว่ ม น้ำปา่ ไหลหลาก ฝนตก นำ้ เน่าเสีย ทาง
น้ำไหล ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ แหล่งกำเนิดของน้ำ การเฝ้าระวังสังเกตระดับน้ำ และให้ความรู้เร่ืองการ
ป้องกันภัยพิบัติจากน้ำ เช่น การทำฝาย การไม่ตัดต้นไม้ การปลูกต้นไม้ทดแทน เป็นต้น รวมถึงวิธีการเอาตัว
รอดเม่ือเกดิ ภัยพบิ ัตทิ างนำ้ ด้วย
หอ้ งลม ให้ความรู้เกี่ยวกบั ภัยพิบัติที่เกิดจากลม เช่นลมพายุ ลมประจำฤดู การสำรวจทิศทางของ
ลม ความเสียหายท่ีเกิดจากลม และการรบั มอื เมอ่ื เกิดภยั พบิ ตั ิจากลม
ห้องไฟ ให้ความรู้เก่ียวกับภัยธรรมชาติที่เกิดจากไป เช่น ไฟป่า ไฟที่เกิดจากฝีมือมนุษย์
ผลกระทบของไฟ และวธิ กี ารเอาตัวรอดเมือ่ เกิดไฟไหม้
3.3.2 กจิ กรรมเพอ่ื เสริมสรา้ งทักษะด้านความปลอดภัยในโรงเรยี น Red Bear Survival
เจแปนฟาวน์เดชั่น กรุงเทพฯ (The Japan Foundation, Bangkok) ร่วมกับกลุ่ม “รู้แล้วรอด” De-
sign for Disaster (D4D) และเอ็นพีโอ พลัส อาร์ต (NPO Plus Arts) ประเทศญ่ีปุ่น จัดกิจกรรม “Red Bear
Survival Camp in Thailand” เพ่ือให้ครู นักเรยี น และ อาสาสมคั รป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้เรยี นรู้
และสร้างเสริมประสบการณ์การเอาตัวรอดเม่ือเกิดภัยพิบัติแบบต่าง ๆ อาทิ น้ำท่วม แผ่นดินไหว ไฟไหม้ ดิน
โคลนถลม่ โดยมีกิจกรรมฐานการเรียนรทู้ ั้งหมด 13 ฐาน ซึ่งในแต่ละฐานจะมีกิจกรรมการเรยี นรู้ที่แตกต่างกัน
ออกไป แตล่ ะกจิ กรรมจะเป็นการเสริมสรา้ งสติปญั ญาทจี่ ะแก้ไขปัญหาในภาวะฉกุ เฉิน สรา้ งความสามัคคี และ
สามารถช่วยเหลือตนเองและผู้อื่น ในสถานการณ์ภัยพิบัติต่าง ๆ ท่ีอาจเกิดขึ้นได้ ท่ีมา: เจแปนฟาวน์เดช่ัน
กรงุ เทพฯ, 2557
3.3.3 การบรู ณาการสามเสาหลกั ในสถานศกึ ษา
• กรณศี ึกษา โรงเรยี นวัดถนน ตำบลโผงเผง อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง
“เรื่องภัยพิบัติถือว่าเป็นหน้าที่หลักของโรงเรยี นและครูอยู่แล้วในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ของนักเรียน อันหน่ึงถือว่าเป็นการปฏิบัติโดยหน้าท่ี และสองถือว่าเป็นการปฏิบัติโดยสามัญสำนึกของความ
เปน็ ครูทจี่ ะตอ้ งดูแลเรอื่ งเหลา่ น้ี” (นายวทิ ยา รัตนธารากร ผู้อำนวยการโรงเรยี นวัดถนน จ. อ่างทอง, 2560)
• กิจกรรมสอนว่ายน้ำ กิจกรรมสอนให้นักเรียนทุกคนว่ายน้ำ เม่ือปี 2538 มีเหตุการณ์น้ำท่วม
ใหญ่ เนื่องจากโรงเรียนและชุมชนเป็นพ้ืนที่ที่อยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาแต่เดิมเด็กทุกคนจะว่ายน้ำเป็น
เพราะบ้านอยู่ติดแม่น้ำ แต่เมื่อปี 2538 เหตุการณ์น้ำท่วมดังกล่าวทำให้มีเด็กจมน้ำเสียชีวิต ทำให้
ผูป้ กครองเด็กสว่ นใหญ่ไม่กล้าที่จะให้เด็กลงเล่นน้ำ ทำให้เด็กจำนวนมากว่ายน้ำไม่เป็นถึงแม้จะมีบ้าน
อยู่ติดริมแม่น้ำก็ตาม และเม่ือปี 2554 เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมหนักอีกครั้ง ทำให้ชาวบ้านจำนวนมาก
อพยพครอบครัวหนีน้ำโดยใช้เรือ ทำให้เกิดเหตุการณ์เร่ือล่มมีเด็กเสียชีวิต จึงทำให้เด็ก ๆ ในชุมชน
แห่งน้ีไม่กล้าท่ีจะลงเล่นน้ำส่งผลให้เด็กส่วนใหญ่มากถึง 70% ว่ายน้ำไม่เป็น ทางโรงเรียนจึงได้ทำ
กิจกรรมสอนให้เด็กนักเรียนว่ายน้ำเป็นโดยพาเด็กไปฝึกว่าน้ำท่ีสวนน้ำ จ. อยุธยา ทำให้เด็ก ๆ สนุก
และชอบกิจกรรมน้ีมาก และยังเป็นประโยชน์ต่อตัวเด็กเวลาเกิดภัยพิบัติน้ำท่วมก็จะสามารถเอาตัว
รอดได้
• การบูรณาการหลักสตู รการเรียนรู้เกย่ี วกับภยั พบิ ตั ิ
“ทางโรงเรียนได้บูรณาการการเรียนรู้เกี่ยวกับภัยพิบัติในรายวิชาท่ีเกี่ยวข้องและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน”
(ดร. ทองระยา้ นยั ชติ , 2560)
ความรู้เรื่องภัยพิบัติ มีการบูรณาการเข้ากับทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ เช่น วิชา คณิตศาสตร์ ภาษาไทย สังคม
สขุ ศกึ ษา เป็นต้น วิชาคณิตศาสตร์ ครูสอนโดยกำหนดโจทย์ปัญหาเกีย่ วกับภยั พบิ ัติ วิชาวิทยาศาสตรจ์ ะเรียนรู้
เกี่ยวกับกระบวนการเปลี่ยนแปลงของ โลกท่ีสง่ ผลกระทบทำให้เกิด ดินโคลนถล่ม น้ำท่วม ฯลฯ วชิ าสุขศึกษา
จะให้ความรู้เก่ียวกับชีวิตปลอดภัย การเอาตัวรอด เมื่อเกิดภัยพิบัติ วิชาภาษาต่างประเทศ ครูจะสอนคำศัพท์
ตา่ งๆ เก่ียวกับภัยพิบัติ วิชาการงานพื้นฐานอาชีพและเทคโนโลยีมีการสอนให้นักเรียน ทาเสื้อชูชีพจากขวดน้ำ
พลาสติกทีเ่ หลือใช้ รองเทา้ บทู ทำจากถุงดำ เป็นต้น
• การซอ่ มแซมอาคารสถานท่ีและสรา้ งแนวคนั ดนิ
เนอ่ื งจากทางโรงเรยี นมีพนื้ ท่ีติดกบั แม่นำ้ เวลามฝี นตกหนกั นำ้ ไหลหลากก็จะทำให้น้ำล้นตล่ิงเขา้ มาในโรงเรยี น
ทางโรงเรียนได้งบประมาณมาชว่ ยเหลอื จากองค์การบริหารสว่ นตำบลเรอื่ งภัยพบิ ัติอุทกภัย แตท่ างโรงเรียน
ไม่ไดน้ ำเงินไปสร้างอาคารสง่ิ กอ่ สร้าง แต่ไดน้ ำงบประมาณทไี่ ดม้ าสร้างคันดนิ เป็นแนวกันน้ำทว่ มตลอดแนวฝ่ัง
แมน่ ้ำทำให้มกี ารขยายผลสร้างคนั ดนิ กัน้ นำ้ ริมแมน่ ้ำตลอดสายทั้งชมุ ชน ทำให้สามารถแก้ไขปัญหานำ้ ท่วมของ
โรงเรียนและชุมชนได้เปน็ อย่างดี
• เสยี งสะท้อนจากนกั เรียน
จากการสมั ภาษณ์พบว่า นักเรียนมคี วามเข้าใจในแนวทางการเตรยี มความพร้อมกับภัยพิบตั ิที่อาจต้อง
เผชญิ ตวั อย่างความเห็นของนกั เรยี นเมือ่ ตอ้ งประสบภยั พิบัติ ดังนี้
“ถา้ เกิดน้ำท่วม ให้เก็บของขึ้นทสี่ งู จับราวบันไดอยา่ งช้าๆ ไมว่ ง่ิ เชค็ เพื่อนในห้องวา่ ครบมย้ั แล้วไปทจี่ ุดรวม
พล ครูโทรแจง้ ผู้ปกครอง”
“หากมีคนจมนำ้ ให้คนเห็นคนตกนำ้ ตะโกน “ชว่ ยด้วยๆ! มีคนจมน้ำ ไม่ตอ้ งตกใจ ตีขาไว้ เตะขาไว้ มคี นมา
ช่วยแล้ว” แลว้ ชว่ ยเหลอื ปฐมพยาบาลเบ้อื งต้น เช่น mount to mount โดยยกคางขน้ึ เลก็ น้อยให้หายใจ
สะดวกข้นึ เรยี กชื่อเรอ่ื ย ๆ จนกว่าจะฟื้น และรบี พาไปโรงพยาบาล ”
“ถา้ เกิดไฟไหม้ ให้ห้ิวนำ้ เปน็ ทอดๆแล้วคนสดุ ท้ายกเ็ อาน้ำมาสาดเพื่อดับไฟ”
3.3.4 โรงเรยี นต้นแบบด้านการจดั การภัยพบิ ัติสำหรบั เด็กชาวเขา
โรงเรยี นบา้ นผาเดอ่ื ตำบลแมส่ ลองใน อำเภอแม่ฟ้าหลวง จงั หวดั เชยี งราย
โรงเรียนบ้านผาเด่ือ ต้ังอยู่เลขที่ 111 หมู่ 6 ตำบลแม่สลองใน อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย มี
เนื้อท่ีประมาณ 15 ไร่ พื้นที่ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เป็นป่าอนุรักษ์ต้นน้ำ ลุ่มแม่น้ำจัน แต่เดิมเป็นศูนย์
พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน ของศูนย์พัฒนาชาวเขาจังหวัดเชียงราย มีนักเรียน 65 คน ปัจจุบันพัฒนามาเป็น
โรงเรียน และจัดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับปฐมวัย จนถึง ช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียนมากกว่า 100
คน เดก็ นักเรยี นทั้งหมดเป็นชาวเขา 100%
ชุมชนบ้านผาเด่ือเป็นชุมชนชาวเขาด้ังเดิม อาศัยอยู่ในสภาพภูมิประเทศเป็นท่ีราบสูง อดีตพ้ืนที่
บริเวณนี้เคยเป็นป่าอุดมสมบูรณ์ ปัจจุบันป่าไม้ได้ถูกทำลายไปเป็นจำนวนมาก แปรสภาพเป็นพื้นที่การเกษตร
ส่งผลให้เกิดปัญหาภัยพิบัติในพ้ืนท่ีต่าง ๆ มากมาย และปัญหาท่ีพบมากท่ีสุดได้แก่ ไฟป่า ดินถล่ม น้ำท่วมขัง
ปัญหาการใช้สารเคมี และปัญหาแผ่นดินไหวเพราะอยู่ช่วงรอยเลื่อนแม่จัน ปัญหาดังกล่าวในอดีตยังไม่มี
หน่วยงานใดเข้ามาให้ความรู้กับชาวบ้าน ซ่ึงทางโรงเรียนเป็นหน่วยงานแรกที่ตระหนักถึงความสำคัญของ
ปัญหาภัยพบิ ัติ
ทางโรงเรยี นจึงได้คดิ แผนปฏิบตั ิการเพื่อจดั การกับภัยพิบตั ิ โดยใชช้ ื่อแผนว่า Safe School เปน็ การ
จัดการเรียนการสอบแบบบูรณาการในหลักสูตร เฉพาะระดับปฐมวัยโดยเนน้ การสอดแทรกใหค้ วามรเู้ กีย่ วกับ
ภัยพบิ ัติ มกี ารจดั ทำหลักสตู รภาษาเย้า เน่ืองจากนักเรียนทงั้ หมดเปน็ ชาวเขาเผาเยา้ (อิวเม่ียน) และมี
ภาษาท่ีใช้สือ่ สารเปน็ ของตวั เอง ทำให้มีอปุ สรรคในการสื่อสารระหว่างผู้สอนและผเู้ รียน เน่อื งจากครูผสู้ อนใช้
ภาษากลางไมม่ ีความเขา้ ใจในภาษาเย้า และผปู้ กครองของเดก็ นักเรยี นทั้งหมดใช้ภาษาเย้าเปน็ ภาษาหลักใน
การสอ่ื สาร ไม่มีความเขา้ ในภาษากลางเชน่ กนั โดยคุณครูเมธญิ า ยะขาว ไดจ้ ัดทำหนงั สือภาพชุดภัยพิบัติใน
ชมุ ชนสำหรับเด็กปฐมวัยกลุ่มชาติพันธุ์ชนเผา่ เยา้ (อิวเมี่ยน) ซ่ึงภายในหนังสือจะมีภาษาคาราโอเกะเป็นภาษา
ชนเผา่ เย้า (อิวเมี่ยน) และมคี ำแปลเป็นภาษากลาง ซึ่งทำให้สามารถใชใ้ นการจัดการเรียนการสอนใหเ้ ด็กเขาใจ
ไดเ้ ป็นอย่างดี โดยเน้นคำศัพท์เกยี่ วกบั ภยั พบิ ัติ และประโยคสนทนาเก่ยี วกับภัยพบิ ตั ิ เพ่ือให้เป็นประโยชน์ตอ่
ผ้ปู กครองและเด็กที่ไมเ่ ข้าใจภาษากลางทำให้เข้าและสามารถส่ือสารกันเขา้ ใจง่ายมากยิ่งขนึ้ ถอื วา่ เป็นการชว่ ย
ชุมจดั การภยั พิบัติได้เป็นอยา่ งดี
(ที่มา รายงานการถอดบทเรียน โครงการการพฒั นาศักยภาพของหน่วยงานภาคการศึกษาและหน่วยงาน
เก่ียวข้องดา้ นการลดความเส่ียงจากภยั พบิ ัติในประเทศไทยเรอื่ งความปลอดภัยรอบด้านในโรงเรียนของ
องค์การช่วยเหลือเด็ก)
หัวข้อ : บทบาทอาสาสมคั รในสถานการณภ์ ัยพบิ ตั ิ
คมู่ อื อาสาสมคั รในสถานการณ์ภยั พบิ ตั ิ
คู่มอื อาสาสมัครในสถานการณ์ภัยพบิ ตั ิ
การมุ่งเน้นปลูกฝังให้เยาวชนมีจิตสาธารณะพร้อมท่ีจะช่วยเหลือสังคมน้ันสอดคล้องกับจุดมุ่งหมาย
ของการจัดการศึกษาขั้นพ้ืนฐานพุทธศักราช 2551 ในด้านการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน
ด้านจิตสาธารณะ การปลูกจิตสำนึกด้านจิตสาธารณะ ( Public Mind ) ให้มีความรับผิดชอบต่อตนเองและ
สงั คม เป็นการสร้างคุณธรรม จริยธรรมจากภายใน ใหบ้ คุ คลรู้จักเสยี สละ ร่วมแรงร่วมใจและ ร่วมมือในการทำ
กิจกรรมท่ีเป็นประโยชน์เพ่ือส่วนรวม การเป็นอาสาสมัครในสถานการณ์ภัยพิบัตินั้นมีหน้าที่รับผิดชอบที่
สามารถทำได้ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ระหว่างเกิดเหตุ และหลังจากเกิดเหตุไปแล้ว ครูจะต้องสอนให้นักเรียนมี
ทัศนคติที่ถูกต้อง มีการเตรียมพร้อมทั้งร่างกาย จิตใจ มีความรู้เก่ียวกับภัย และมีทักษะในการทำงานท่ีได้รับ
มอบหมาย เช่น
• รู้จกั ประเมนิ ขดี จำกัดของตัวเอง ทง้ั ในด้านพละกำลงั จิตใจ รวมไปถงึ ทักษะความเชยี่ วชาญ
• ทำความเข้าใจในงานกับเจา้ หนา้ ที่ก่อนปฏิบัติงาน และเข้าฝึกอบรมใหค้ รบตามข้อกำหนด
• แตง่ กายใหเ้ หมาะสมกับงาน และรู้จักใช้อุปกรณ์ทชี่ ว่ ยป้องกันหรอื รกั ษาความปลอดภยั อย่างเครง่ ครดั
• รบั ประทานอาหาร ดืม่ นำ้ และพักผอ่ นใหเ้ พียงพอ
• อยา่ นำพาตวั เองไปอย่ใู นสถานการณท์ สี่ มุ่ เสย่ี งหรอื อนั ตราย
• รับทราบและวางแผนถงึ ชอ่ งทางการตดิ ต่อขอความช่วยเหลือ หากเกิดกรณีฉกุ เฉิน
• ในกรณีที่ตอ้ งเผชิญเหตุการณ์อันตราย ควรรบั มืออย่างมีสติ
• รจู้ ักภัย ลกั ษณะการเกดิ และผลกระทบ
• หากตอ้ งใหค้ วามช่วยเหลือคนพกิ าร ใหส้ อบถามความต้องการของคนพิการหรอื ผู้ดูแลก่อนเสมอ
ไมส่ ร้างปญั หาใหม่ให้กบั ผ้ปู ระสบภัย หรอื ผู้ปฏบิ ัตงิ านในพ้ืนท่ี
หวั ข้อ : แนวทางการพัฒนาสอ่ื การเรยี นการสอนและสื่อรณรงค์
แนวทางการพัฒนาสือ่ การเรียนการสอนและสื่อรณรงค์
คู่มือ “พลังเด็กและเยาวชนลดความเส่ียงจากภัยพิบัติ ในโรงเรียนและชุมชน”จัดทำโดยองค์การ
ช่วยเหลือเด็ก(2008) มีข้ันตอนการจัดอบรมให้เด็กและเยาวชนจัดทำส่ือรณรงค์เพื่อลดความเส่ียงภัยพิบัติได้
โดยการสร้างความตระหนักในโรงเรียนและชุมชนสามารถทำได้หลายช่องทาง เช่น การจัดรณรงค์ การเดิน
วิทยุชุมชน การจัดนทิ รรศการ เป็นตน้
หลกั การเบ้ืองตน้ ในการจัดทำส่ือรณรงค์
• สื่อรณรงค์มีเป้าหมาย 3 ข้ันตอน คือ เพ่ือให้ความรู้ เปลี่ยนทัศนคติ เปล่ียนพฤติกรรมหรือทั้ง 3
อยา่ ง
• สื่อรณรงค์มีหลากหลายรูปแบบ เช่น ละคร รายการวิทยุ โปสเตอร์ แผ่นพบั ฯลฯ การรณรงคใ์ นเรือ่ ง
ใดเรื่องหนง่ึ สามารถเลอื กใช้ส่ือได้มากกว่า 1 ประเภท นอกจากนี้ยงั ต้องคำนึงถงึ การจัดทำส่อื รณรงค์
ท่ีเข้าถึงคนพิการทุกประเภท เช่น การใช้เทคโนโลยีเพ่ือช่วยเหลือการเรียนรู้สำหรับเด็กนักเรียนที่มี
ความพิการทางสายตา การใช้สอื่ ภาษามือท่ีถูกต้องสำหรับเด็กที่พิการทางการได้ยิน การใช้ล่ามภาษา
มือ การผลิตส่ือทางการเห็นคส์ ำหรับเด็กพิการทางการได้ยิน ตลอดจนการเลือกใช้ช่องทางการเรียนรู้
ที่เหมาะสมกับความพิการ
• การจัดทำส่ือรณรงค์ต้องมีกลุ่มเป้าหมายและวัตถุประสงค์ท่ีชัดเจน เพื่อให้เน้ือหาและรูปแบบของ
ส่ือชัดเจนและเหมาะสมกบั กลมุ่ เปา้ หมาย
o มงุ่ เน้นไปที่กลุ่มเป้าหมายหนึ่งโดยเฉพาะ เช่น ผู้หญิง แม่บ้าน เด็ก เดก็ พิการ ผู้ดูแลคนพิการ
ผูช้ าย ผชู้ ายวัยรุ่น เปน็ ต้น
o มีวัตถุประสงค์ท่ีชัดเจนว่าการรณรงค์นั้นเพื่อเปลี่ยนแปลงอะไร : ความรู้ ทัศนคติ หรือ
พฤตกิ รรม
การจดั ทำส่ือรณรงคเ์ พ่ือให้ความรเู้ กี่ยวกับภัยพิบัติ ต้องทำความเขา้ ใจในเรื่องต่อไปนี้
• สถานการณ์เดิมก่อนจัดทำสื่อรณรงค์ เช่น ชุมชนหนึ่งซึ่งมีความเสี่ยงต่อภัยน้ำท่วม ผู้ชายมักยืนยันจะ
อยบู่ ้าน ไมย่ อมอพยพหนี
• ความรู้ พฤติกรรม หรือทัศนคติของกลุ่มเป้าหมายที่นำไปสู่ความเสี่ยง เช่น เม่ือวิเคราะห์แล้ว พบว่า
พฤตกิ รรมที่ไมย่ อมอพยพออกจากทอ่ี ยู่อาศัยเม่ือเกิดนำ้ ท่วมอย่างรุนแรง นำไปสูค่ วามเสี่ยงต่าง ๆ เช่น
การบาดเจบ็ สญู เสยี ชีวติ เป็นตน้
ความเปลี่ยนแปลงที่อยากให้เกิดข้ึนหลังจากเผยแพร่สื่อรณรงค์ เช่น ต้ังเป้าหมายไว้ว่า เม่ือเผยแพร่
สอื่ รณรงคไ์ ปแล้ว กลมุ่ เป้าหมายมีความรู้มากข้ึน (วา่ การไมอ่ พยพหนีออกจากบ้านในช่วงน้ำท่วมอาจก่อให้เกิด
ความเสียหาย) ปรับเปลี่ยนทัศนคติ (ว่าชีวิตสำคัญกว่าทรัพย์สิน ควรหนีเอาตัวรอดก่อน) และนำไปสู่การ
ปรบั เปลยี่ นพฤตกิ รรม (จดั ทำแผนเตรยี มการเพอ่ื อพยพในกรณีทเี่ กิดน้ำทว่ ม) เปน็ ต้น
ขนั้ ตอนการจดั ทำสอื่ รณรงค์
ขนั้ 1 คือการวิเคราะห์ว่าชุมชนมีความเส่ียงต่อภัยชนิดใด ใครคือกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการจะส่ือสารด้วย
และสื่อสารวา่ อะไร
การประเมนิ
สถานการณ์
ขั้น 2 คือการจัดออกแบบกระบวนการรณรงค์ให้ความรู้เพ่ือให้เข้าถงึ กลุ่มเป้าหมายให้มากทีส่ ุด โดยประเมิน
ว่าใครเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก กลุ่มเป้าหมายรอง กำหนดวัตถุประสงค์ของการส่ือสาร กำหนดสาร
การวางแผนทำ หลกั เลือกสื่อทีเ่ หมาะสมสำหรบั ถา่ ยทอดสารและวางแผนปฏิบัตกิ ารรณรงคแ์ ละงบประมาณ
สอ่ื รณรงค์
ข้ัน 3 เปน็ ข้ันตอนการผลิตสื่อตามแผน โดยสือ่ รณรงค์ และสารทไ่ี ด้รับการออกแบบตอ้ งชัดเจน และเผยแพร่
ในช่องทางทเี่ หมาะสม
การผลิตสอื่
รณรงค์
ข้นั 4 คือการนำส่ือรณรงค์ที่ออกแบบไว้ไปขอความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญและกลุ่มเป้าหมายว่า ส่ือน้ันมีข้อมูล
ถูกตอ้ งหรือไม่ ชดั เจนหรือไม่ และนำเสนอสารตามที่ตอ้ งการหรือไม่
การทดสอบสื่อ
ขั้น 5 หาผลลัพธ์จากการเผยแพร่ส่ือเกิดขึ้นตรงตามวัตถุประสงค์ท่ีตั้งไว้หรือไม่ และช่วยให้เราแก้ไข
ขอ้ บกพรอ่ งและขอ้ ผิดพลาดทีเ่ กดิ ขน้ึ
การประเมินผล
สือ่ รณรงค์
การเผยแพรค่ วามรู้ ประสบการณ์ ทักษะ และอื่น ๆ แก่ผทู้ ่ีเก่ยี วข้อง คือ
1. การนำความรู้จาก หลักสูตร “การลดความเสี่ยงภัยพบิ ตั ิธรรมชาตแิ ละการปรบั ตัวรับการเปลี่ยนแปลง
สภาพภูมอิ ากาศ” รหัสหลกั สูตร 62037 ปีการศึกษา 2562 ซึง่ เปน็ หลักสตู รออนไลน์ ท่ีได้รบั มาถ่ายทอดให้
คณะครูระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 – ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 ทุกท่านนำไปใชใ้ นการพฒั นานักเรยี นในชั้นเรียน
ของตนเองตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ในระดับช้ันเรียนท่ีรบั ผิดชอบ
2. ใหค้ รูประจำช้ัน/ครูท่ปี รกึ ษาทำการประเมินนักเรียนในชนั้ เรยี นตามเทคนิคและวธิ กี ารตามความรู้
ท่ีไดร้ บั จากคลปิ วิดีโอ หลักสูตร “การลดความเส่ียงภัยพิบัติธรรมชาติและการปรับตัวรบั การเปลยี่ นแปลง
สภาพภูมอิ ากาศ” รหสั หลักสูตร 62037 ปีการศึกษา 2562 ซ่งึ เปน็ หลักสูตรออนไลน์ เพือ่ ฝ่ายวชิ าการจะนำ
ผลทไ่ี ดจ้ ากการประเมินไปสู่การเรียนรชู้ ุมชนการเรียนรูท้ างวชิ าชพี (PLC) เพื่อกำหนดแนวทางแกป้ ัญหาและ
นวตั กรรมทใี่ ช้ความรูจ้ าก หลักสตู ร “การลดความเสี่ยงภยั พบิ ตั ธิ รรมชาติและการปรบั ตัวรบั การเปล่ียนแปลง
สภาพภูมอิ ากาศ” รหสั หลักสตู ร 62037 ปกี ารศึกษา 2562 ซ่งึ เปน็ หลักสตู รออนไลน์ ไปประยกุ ต์ใช้ในการ
เรยี นการสอน
3. ให้ครูทุกท่านจดั เก็บรอ่ ยรอยหลกั ฐานการจัดกจิ กรรมต่างๆ ตามกลวิธีและเทคนคิ หลักสูตร “การ
ลดความเส่ยี งภยั พบิ ตั ธิ รรมชาติและการปรบั ตัวรบั การเปล่ยี นแปลงสภาพภูมิอากาศ” รหสั หลกั สตู ร 62037 ปี
การศกึ ษา 2562 ซึ่งเป็นหลกั สตู รออนไลน์ ระดับช้ันเรยี น เพ่ือเตรียมรองรบั การประเมินจากคณะกรรมการ
ประเมินในการขอมีหรือเลือ่ นวทิ ยฐานะต่อไป
4. การประชาสัมพันธ์คณะครูในโรงเรยี นใหพ้ ฒั นาผลงานทางวิชาการตาม หลักสตู ร “การลดความ
เส่ียงภยั พบิ ัตธิ รรมชาติและการปรับตัวรับการเปลีย่ นแปลงสภาพภูมอิ ากาศ” รหสั หลักสูตร 62037
ปีการศึกษา 2562 ซึ่งเปน็ หลกั สูตรออนไลน์ แล้วนำไปทดลองใช้กับนกั เรยี นของตนเอง เม่ือใชแ้ ลว้ เกดิ ผลดี
สามารถพัฒนา เร่ืองของ ““การลดความเสี่ยงภยั พิบตั ิธรรมชาติและการปรบั ตัวรับการเปลี่ยนแปลงสภาพ
ภูมอิ ากาศ”” ในระดับชั้นเรียนต่อไป
ขอ้ เสนอแนะให้โรงเรียน พจิ ารณาดำเนนิ การ คอื
ทางฝา่ ยบริหารควรกระตนุ้ ให้ครทู กุ คนในโรงเรียนคดิ ค้น พัฒนานวตั กรรมพัฒนากิจกรรมตามหลกั สูตร
หลกั สตู ร ““การลดความเสยี่ งภยั พิบัตธิ รรมชาตแิ ละการปรับตวั รบั การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมอิ ากาศ”” ซ่งึ
เป็นหลักสตู รออนไลน์ เพอ่ื ช่วยพฒั นานกั เรียนในโรงเรยี น และเพื่อจดั ทำเป็นผลงานทางวิชาการของตนเอง
และโรงเรียน
จงึ เรยี นมาเพื่อโปรดทราบ และพิจารณาดำเนนิ การต่อไป
ลงชอ่ื ................................................................................ผ้รู ายงาน
(นางเรณู โพธ์จิ ันทร์)
ตำแหนง่ ครูโรงเรียนวชั รวิทยา