แผนพัฒนาตนเองปี62

แผนพฒั นาตนเองรายบคุ คล

(Individual Development Plan: ID PLAN)

ปกี ารศกึ ษา 2562

นางเรณู โพธจ์ิ นั ทร์
โรงเรยี นวัชรวิทยา

สำนกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษามธั ยมศึกษา เขต 41
สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

คำนำ

กระทรวงศึกษาธิการ มุ่งเน้นให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา พัฒนาตนเองโดยยึดหลักการประเมิน
สมรรถนะ (Competency Based Approach) จะทำให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถรู้จุดเด่น จุดด้อยของ
ความสามารถในการปฏิบัติงานของตน และสามารถพัฒนาตนเองใหส้ อดคล้องกับความต้องการจำเป็น ของ
ของหน่วยงาน และของตนเองอยา่ งแทจ้ ริง

ท้ังน้ี ครูจึงต้องมีการวางแผนการพัฒนาตนเองในการจัดห้องเรียนท่ีมีคุณภาพ (Individual
Development Planning : IDP) เพื่อเป็นการพัฒนาท่ีสนองตอบความต้องการแต่ละบุคคล สนองความ
สนใจในรูปแบบวิธกี ารพฒั นา กจ็ ะสง่ ผลต่อสมรรถนะในการปฏิบตั หิ นา้ ท่ีที่มปี ระสิทธิภาพต่อไป และ เป็นการ
พัฒนาที่ต่อเน่ืองจนทำให้การปฏิบัติหน้าที่มีความสมบูรณ์ มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล ในการ
ปฏิบัติงาน อันนำไปสู่การพัฒนาตนเองให้เป็นครูมืออาชีพท่ีมีมาตรฐานในการปฏิบัติงานอย่างแท้จริงสามารถ
ตรวจสอบได้ และพฒั นาสูค่ วามเปน็ วิชาชีพต่อไป

เรณู โพธจ์ิ ันทร์

สารบญั

เรอ่ื ง หน้า

สว่ นที่ 1 ขอ้ มูลส่วนตัว
ผลงานดา้ นการจัดการเรยี นการสอน.......................................................................... 1

ส่วนที่ 2 การวิเคราะหส์ มรรถนะและจดั ลำดับความสำคัญ
ดา้ นสมรรถนะหลัก ................................................................................................. 5
ด้านสมรรถนะประจำสายงาน ................................................................................... 9

ส่วนที่ 3 รายละเอยี ดการพัฒนาตนเอง
ด้านสมรรถนะหลัก .................................................................................................. 17
ด้านสมรรถนะประจำสายงาน ................................................................................ 21

แผนการพฒั นาตนเอง ( ID Plan )

สว่ นที่ 1 ข้อมูลส่วนตัว

ชือ่ นางเรณู โพธิจ์ นั ทร์ ตำแหน่ง ครู

อายกุ ารทำงาน 2 ปี

วุฒิการศกึ ษา ปรญิ ญาตรี บรหิ ารธรุ กิจบัณฑติ เอกวชิ าการบัญชี วทิ ยาลัยราชภัฎกำแพงเพชร

อัตราเงนิ เดือนปจั จบุ ัน 17,490 บาท

ที่อยูท่ ส่ี ามารถตดิ ต่อได้ 400/417 หมู่ 6 ตำบลหนองปลิง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร

รหัสไปรษณยี ์ 62000 มือถือ 082-6554939

สถานทที่ ำงาน สงั กดั จังหวดั
สถานศึกษา/ หน่วยงาน สำนักงานเขตพน้ื ที่การศึกษามัธยมศกึ ษา เขต 41 กำแพงเพชร

พ.ศ. โรงเรียน
2562 วัชรวิทยา

1. งานในหน้าท่ีท่ีรบั ผดิ ชอบ

ภาคเรียน วิชา/สาขา/กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ชนั้ /ระดับ จำนวนชัว่ โมงสอน
(ชว่ั โมง/สัปดาห์)

1/ 2562 การงานอาชีพ ม.5/1-5/6 6
การงานอาชีพ
กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน ม.2/5,2/9 5
ชุมนุมการงานสู่อาชพี
กจิ กรรมสาธารณะประโยชน์ ม.1-3 1
กิจกรรมลดเวลาเรยี น
กจิ กรรมโรงเรียนสุจริต ม.1-3 1
กิจกรรมห้องเรยี นสีขาว
ม.2 1

ม.2 2

ม.2 1

ม.2 1

รวม 18 คาบ/สัปดาห์ คิดเป็น 15 ชัว่ โมง/สัปดาห์

ภาคเรียน วิชา/สาขา/กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ช้นั /ระดบั จำนวนชว่ั โมงสอน
2/2562 (ช่วั โมง/สปั ดาห์)

การงานอาชีพ ม.5/1-5/6 6

การงานอาชีพ ม.2/5,2/9 5

การบญั ชี 2 ม.4 2

กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน ม.1-3 1

ชุมนมุ การงานสู่อาชีพ ม.1-3 1

กจิ กรรมสาธารณะประโยชน์ ม.2 1

กิจกรรมลดเวลาเรียน ม.2 1

กิจกรรมโรงเรยี นสุจริต ม.2 2

รวม 20 คาบ/สัปดาห์ คิดเปน็ 16.67 ช่ัวโมง/สปั ดาห์

2.งานกิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน
2.1กจิ กรรมแนะแนวชั้นมัธยมศกึ ษาปที 2ี่ /4
2.2 กิจกรรมนกั เรียน
2.2.1 กจิ กรรมลูกเสอื / เนตรนารี ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2
2.2.2 กิจกรรมชมุ นุม/ชมรม ชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้
2.2.3 กจิ กรรมลดเวลาเรยี นเพิ่มเวลารู้ ชั้นมธั ยมศึกษาตอนต้น
2.3 กจิ กรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 รวม 15 ชั่วโมง

3. งานระบบดแู ลชว่ ยเหลือนกั เรยี น
3.1ทำหนา้ ท่ีครูที่ปรกึ ษาชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2/2 จำนวนนักเรียน 40 คน
(นกั เรยี นชาย 23 คน นักเรียนหญิง 17 คน)
3.2 กิจกรรมโฮมรูมสนั้ สถานท่ีจดั กิจกรรม ห้อง 324
3.3 กจิ กรรมโฮมรูมยาว สถานทห่ี ้องเรียน หอ้ ง 324
3.4 หนา้ ทคี่ รเู วรประจำวันวันหรอื หนา้ ที่ครูเวรประจำสปั ดาห์ ชุดท่ี 3
3.5 หน้าที่ประชุมนกั เรียน ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2

4. งานพเิ ศษ (งานอน่ื ท่ีได้รับมอบหมาย)
4.1 ปฏบิ ัติหน้าที่หวั หน้างานการเงินและบญั ชี

4.2 ปฏิบตั หิ น้าทป่ี รบั ปรงุ และพัฒนาหลักสตู รสถานศกึ ษากลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชพี

4.3 ปฏิบัตหิ นา้ ท่ีรบั ผดิ ชอบโครงการส่งเสรมิ พฒั นาศักยภาพผู้เรียนวิชกาการงานอาชพี

4.4 ปฏบิ ัตหิ น้าท่รี บั ผิดชอบโครงการพัฒนาระบบงานการเงินและบัญชี

4.5 ครทู ี่ปรกึ ษาช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ที่ 2/2

4.6 กิจกรรมจิตสาธารณะและบำเพ็ญประโยชนเ์ พ่ือสงั คม

4.7 งานอื่นๆที่ไดร้ ับมอบหมาย

ผลงานดา้ นการจดั การเรยี นการสอนท่ีเกดิ จากการปฏบิ ัติหนา้ ที่ในตำแหน่งปจั จบุ นั
( ย้อนหลงั ไม่เกิน 2 ปี )

1. ผลทีเ่ กิดจากการจัดการเรยี นรู้
ตามทีข่ ้าพเจา้ ไดร้ บั มอบหมายใหร้ ับผิดชอบและปฏบิ ัติการสอนกล่มุ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี

รายวิชาการงานอาชีพ รหสั วิชา ง22101 ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ,รายวิชาการงานอาชพี รหัสวิชา ง32101 ช้ัน
มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 ,และสอนวิชาการบญั ชี 1 รหสั วชิ า ง30211 ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 4/4 ข้าพเจ้าไดน้ ำความรูจ้ าก
การศึกษา ค้นคว้า การอบรม ประชมุ สมั มนา ประชมุ เชิงปฏิบัตกิ ารทจี่ ัดข้ึนทั้งภายในกลุ่มโรงเรยี นและระดับเขต
พน้ื ทกี่ ารศกึ ษา นำมาประยุกต์ใชใ้ นการจดั การเรียนการสอน ดงั น้ี

1.1 การวางแผนการสอน

ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ . 2542 หลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช 2551
ไดก้ ำหนดไว้อยา่ งชดั เจนว่า การจดั การศึกษาต้องยดึ หลักวา่ ผู้เรยี นทกุ คนมีความสามารถเรยี นรู้ และพัฒนาตนเอง
ไดถ้ ือว่าผเู้ รียนมีความสำคัญที่สุดและในหมวด 4 มาตรา 30 ใหส้ ถานศกึ ษาพฒั นากระบวนการเรยี นการสอนที่มี
ประสทิ ธภิ าพ รวมทงั้ การส่งเสริมให้ผ้สู อนสามารถวจิ ยั เพื่อพัฒนาการเรยี นรู้ท่เี หมาะสมกบั ผู้เรียนในแตล่ ะระดับ
การศึกษา จากสาระในพระราชบญั ญตั ิดังกล่าว ข้าพเจ้าในฐานะผู้สอน การท่ีจะทำให้การจัดกิจกรรมการเรียนการ
สอนบรรลุเปา้ หมายของหลักสตู รหรอื ไมเ่ พยี งใดนน้ั ข้ึนอยู่กบั การวางแผนการจดั การเรยี นรูใ้ ห้กบั ผ้เู รียนโดย
การศึกษาวิเคราะหอ์ งค์ประกอบและปัจจยั ต่าง ๆ ทีเ่ กย่ี วข้องกับการจดั การเรียนรู้ เช่น การกำหนดขน้ั ตอนในการ
ดำเนินการสอน หากมกี ารกำหนดขั้นตอนต่าง ๆ ของการสอนไวอ้ ย่างรอบคอบ มีการเตรียมการเปน็ อย่างดี และ

ดำเนินการสอนตามข้นั ตอนที่ไดก้ ำหนดไวน้ ั้นจะทำใหก้ ารสอนประสบผลสำเรจ็ บรรลุเป้าหมายทีก่ ำหนด ในการ
วางแผนการจดั การเรียนการสอน ข้าพเจ้าได้พิจารณาถงึ ส่ิงสำคญั 4 ประการก่อนที่จะดำเนนิ การวางแผนการ
จดั การเรียนรู้ คือ

1. การวิเคราะห์มาตรฐานการเรยี นรูเ้ พ่ือกำหนด ผลการเรียนรทู้ ่ีคาดหวงั ในรายวิชา
2. กำหนดขอบขา่ ยเน้ือหาสาระการเรยี นรู้ทจ่ี ะใชใ้ นการสอน
3. กำหนดการสอนและแผนการจดั การการเรียนรู้ การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
4. การวัดและประเมนิ ผล

จากการท่ีขา้ พเจา้ พิจารณาสิ่งสำคญั 4 ประการดังกล่าว ข้าพเจ้าไดน้ ำมาใช้เปน็ แนวทางในการวางแผนการ
สอนดังน้ี

ขนั้ ท่ี 1 ศกึ ษาและวเิ คราะห์ คำอธิบายรายวิชา

ขัน้ ท่ี 2 จัดทำตารางวิเคราะห์ คำอธบิ ายรายวิชา เพื่อกำหนดขอบขา่ ยเนื้อหา

ขัน้ ที่ 3 จดั ทำกำหนดการสอน

ขั้นที่ 4 เขยี นแผนการจัดการเรียนรู้

ข้ันท่ี 5 ศึกษาวธิ ีทำสื่อและผลิตส่ือประกอบการสอน

1.2 การวจิ ยั หรอื การแก้ปญั หาในชัน้ เรยี น
เพอื่ ให้การปฏิบัติหนา้ ท่ีการจัดการเรียนการสอนเป็นไปอย่างมีประสิทธภิ าพ และบรรลุผลตาม

แนวปฏิรูปการศึกษา ขา้ พเจ้าไดม้ ีการพัฒนาตนเองโดยการศึกษาเอกสาร เข้ารบั การพัฒนาโดยการอบรมสมั มนา
เชิงปฏบิ ัติการ และแลกเปลยี่ นเรียนรกู้ บั คณะครูในโรงเรียนในเรอ่ื งการวจิ ัยหรอื การแก้ปัญหาในช้ันเรียนทำให้มี
ความรู้ ความเขา้ ใจและได้รบั ประสบการณ์ในเรื่องการวิจยั หรือการแกป้ ญั หาในชนั้ เรียนในระดบั ดี

1.3 การวดั ประเมินผล และการรายงานผลการเรียนรู้
จากการปฏบิ ัตหิ น้าที่ในการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน นอกจากจะออกแบบการสอนอยา่ ง

เหมาะสมกบั ผู้เรียนแล้ว เพือ่ ใหเ้ กดิ ประสิทธภิ าพสงู สุดในการปฏิบัตงิ านสอน ประเมินเพอ่ื ตัดสินผลการเรียน ซ่ึง
ในการประเมินได้ใชว้ ธิ ีการประเมินอย่างหลากหลาย คือ การสงั เกต การสมั ภาษณ์ การทดสอบ การตรวจ
ผลงาน โดยเน้นการประเมนิ สภาพจริง และได้ใช้เคร่ืองมือประเมินท่มี ีคณุ ภาพอย่างหลากหลาย เช่น
แบบทดสอบ แบบสังเกตพฤติกรรม แบบสัมภาษณ์ แบบบันทกึ การตรวจผลงาน ฯลฯ สามารถวัดและ
ประเมินผลการจัดการเรยี นรู้อยา่ งต่อเนื่อง มกี ารรายงานผลการเรียนใหผ้ ้เู กยี่ วข้องทราบทุกปี โดยจดั ทำเป็น
เอกสารรายงานผลการปฏบิ ัติงานประจำทุกปี และได้จัดทำสรุปผลสัมฤทธทิ์ างการเรียน รายงานที่ใหผ้ ูบ้ รหิ าร
นกั เรยี น คณะกรรมการสถานศึกษา และผู้ปกครองนักเรียนทราบทุกปี

2. ผลท่ีเกิดจากการพฒั นาวิชาการ
2.1 การพัฒนาสื่อ นวตั กรรมในการจัดการเรยี นรู้
ข้าพเจ้ายังได้พฒั นาส่อื นวัตกรรมมาใช้ประกอบการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน ซง่ึ ส่อื

นวัตกรรม การเรียนการสอนท่ีผลติ ข้นึ ไดเ้ น้นส่ือท่ีมีประโยชน์ ประหยัดและมปี ระสิทธิภาพ ใน ปที ผ่ี ่านมา ได้ผลติ
ส่ือนวตั กรรมประกอบการสอนหลายรายการ ได้แก่

1. เว็บไซด์ หอ้ งเรยี นออนไลน์
2. ส่ือการสอน ได้แก่ใบความรู้ ใบงาน ใบกจิ กรรม แบบฝกึ ทักษะ
3. การจดั คลิปวีดโี อการสอน ส่ือเทคโนโลยสี ารสนเทศ DLIT/DLTV
4 แผ่นพับตา่ งๆ

จากการนำสื่อนวตั กรรมที่ผลิต และพัฒนาข้ึนมาใช้ประกอบการจัดการเรยี นการสอนช่วยให้
นกั เรยี นไดเ้ รยี นรู้อยา่ งมีความสขุ มผี ลสัมฤทธท์ิ างการเรยี นรู้สงู ขึ้นถงึ เกณฑ์ทโี่ รงเรียนกำหนด

3. ผลท่เี กิดกับผเู้ รียน
จากการพัฒนานักเรียนโดยใช้กระบวนการจัดการเรียนการสอนทย่ี ึดผู้เรียนเปน็ สำคญั ตามแนวปฏริ ปู

การศกึ ษาทีน่ ำเสนอดังกลา่ ว ส่งผลให้ สามารถพฒั นานกั เรียนในความรบั ผิดชอบ ไดร้ ับการพัฒนาทุกดา้ น ดังนี้
3.1 ด้านผู้เรียนเป็นคนดี
• ผเู้ รียนมีการพัฒนาคณุ ลกั ษณะ ด้านคุณธรรม จริยธรรมท่ีพึงประสงคใ์ นด้านความมุ่งมั่น
ขยันหมน่ั เพยี ร ประหยดั อดออมและซ่ือสัตย์ต่อตนเองและผู้อน่ื
• ผู้เรยี นมรี ะเบยี บวินยั

• ผู้เรียนมีพัฒนาการ การเหน็ คุณคา่ และความภูมิใจในภูมิปัญญาไทย ศิลปะและ
วฒั นธรรมท่ดี ีงามของไทย

• ผู้เรยี นมคี วามเคารพในสิทธิหน้าที่ และศักดิ์ศรีความเป็นมนษุ ย์

• ผเู้ รียนมีสว่ นร่วมในการรกั ษาผลประโยชน์ส่วนรวม
• ผู้เรยี นมีสว่ นร่วมในการอนุรกั ษ์และพฒั นาสิ่งแวดลอ้ ม
• ผเู้ รยี นมีความรกั สถานศกึ ษา ทอ้ งถิน่ และประเทศชาติ
1.3.2 ผู้เรยี นเปน็ คนเก่ง
• ผู้เรียนมผี ลสัมฤทธิท์ างเรียนดี

• ผเู้ รียนเป็นผใู้ ฝร่ ูใ้ ฝเ่ รยี น
• ผู้เรียนมีทักษะในการคดิ การจัดการ การแกป้ ัญหา

• ผเู้ รียนมีทักษะและนสิ ัยรักการทำงาน
• ผเู้ รียนมีพัฒนาการดา้ นทักษะในการส่อื สารและการใชภ้ าษาไทย
1.3.3 ผเู้ รยี นมีความสขุ
• ผู้เรยี นมีสขุ ภาพจติ ดี
• ผเู้ รียนเรยี นรอู้ ย่างมีความสุข

• ผูเ้ รยี นมสี ขุ ภาพกายและสุขนิสัยทด่ี ี
• ผเู้ รียนมีบุคลกิ ภาพทดี่ ผี ู้เรยี นอยู่ในสังคมไดอ้ ย่างมีความสขุ
การจดั กิจกรรมการการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรยี นเป็นสำคัญ มีการใหน้ ักเรยี นได้ฝกึ การ ปฏิบัติจรงิ
เพ่ือให้นกั เรียนไดม้ ที ักษะตา่ งๆ ตลอดจนสอดแทรกคณุ ธรรมจริยธรรมที่ดงี าม ความมีวนิ ัยในตนเอง ส่งผลให้
ผูเ้ รยี นมคี ุณธรรมจริยธรรม มีวินัยในตนเอง มสี มั มาคารวะมีมารยาทตามวฒั นธรรมไทย มคี วามสามารถในการใช้
ภาษาในการส่ือสาร และการมีจนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ ซึ่งเป็นสิง่ ทีผ่ เู้ รยี นสามารถนำความรคู้ วามเขา้ ใจ
และทกั ษะไปบูรณาการและประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจำวนั เป็นการเพ่ิมพนู สมรรถนะตนเองให้มากขน้ึ และส่งผลให้
การใชช้ ีวติ ภายหน้า บนพ้ืนฐานคุณธรรม นำความรู้ และเศรษฐกิจพอเพยี ง ตลอดจนการอยูร่ ่วมกันในสังคมได้
อยา่ งมีความสุข

3.2 นกั เรียนมีผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นตามมาตรฐานทส่ี ถานศกึ ษากำหนด ดังน้ี
ตารางที่ 1 ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนกลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี ประจำปกี ารศกึ ษา 2561

วชิ า ผลการเรยี น
รหัสวิชา
ช้ัน นกั เรีย 4 3.5 3 2.5 2 1.5 1 0 ร,มส รอ้ ย
น ละ

การบัญชี ม.4/4 39 24 8 6 1 97.44

การงานอาชพี ม.5 222 184 16 9 4 8 94.14

รวม 261 208 24 15 6 8 2 2 0

คิดเป็นรอ้ ยละ 100 79.6 9.19 5.75 2.70 3.41 3.60 3.30 0 0.00 95.7
9 9

จำนวนนกั เรียนทผ่ี า่ นเกณฑ์รอ้ ยะ 100 นวนนักเรียนที่ไม่ผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ 0

จากตารางพบว่าผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรยี นกลุ่มสาระการงานอาชีพ ในปีการศึกษา 2561 นกั เรียนอยู่ใน
ระดบั ดี รอ้ ยละ 95.79 มีการนำการวจิ ยั ในชั้นเรยี นใชใ้ นการแก้ปญั หา ทำใหผ้ ลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นสูงขึ้น

4. ผลทเ่ี กดิ กับสถานศึกษา
จากการที่สถานศึกษามีการวางแผนปฏิบัติราชการในการพัฒนา มีเป้าหมาย มีทิศทางในการดำเนินงาน

เพ่อื พัฒนาสถานศกึ ษา นักเรยี น โดยมกี ารจัดกิจกรรม โครงการตา่ งๆอย่างเป็นรูปธรรม ซง่ึ นักเรียนและครมู ีสว่ น
รว่ มในการปฏิบตั ิกิจกรรม ทำให้ผลการดำเนนิ งานเปน็ ท่ียอมรับของผู้ปกครอง ชมุ ชน ทอ้ งถ่ิน ดังมีผลงานเป็นที่
ปรากฏ สถานศึกษาได้รับคัดเลือกให้เป็นโรงเรียนที่มีการแข่งขันสูง ของกระทรวงศึกษาธิการ นอกจากนั้น
สถานศึกษายังได้รับการยอมรับจากผู้ปกครองและชุมชนในด้านการดูแลเอาใจใส่ของครูที่มีต่อ นักเรียนในด้านการ
จัดกิจกรรมการเรียนการสอน การดูแลดา้ นพฤติกรรม คุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ดา้ นกริ ิยา มารยาท ความมีวินัย
ในตนเอง ความรบั ผดิ ชอบ

5. ผลท่ีเกิดกับชุมชน
สถานศึกษามีส่วนร่วมกับชุมชน ในกิจกรรมต่างๆตลอดปีการศึกษา โดยเฉพาะกิจกรรมที่เกี่ยวกับวัฒนธรรม
ประเพณี และพิธกี รรมทางศาสนา เช่น ประเพณีงานกล้วยไข่ ประเพณีงานนพพระเล่นเพลง ประเพณีแห่เทียน
เข้าพรรษา ประเพณีลอยกระทง ประเพณีสงกรานต์ การทอดผ้าป่า ทอดกฐิน เป็นต้น ตลอดจนกิจกรรมท่ีเป็น
ประโยชน์ กจิ กรรมวันสำคัญ ไดแ้ ก่ กิจกรรมวนั แม่ กิจกรรมส่งเสริมภมู ิปัญญาทอ้ งถิ่น จนทำให้เกดิ ความร่วมมือ
ความเข้าใจที่ดีต่อกัน เกิดความรักและความภาคภูมิใจในโรงเรียนและท้องถ่ิน นอกจากน้ีโรงเรียนยังได้จัด
กิจกรรมการประชุมผู้ปกครอง ประชุมคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐานในแต่ละภาคเรียนเพื่อชี้แจงนโยบาย
ของโรงเรียนและเพ่ือหาแนวทางในการร่วมพัฒนาโรงเรียนทั้งพัฒนาอาคารสถานที่และพัฒนาทางวิชาการให้
เปน็ ไปในทางทิศทางเดยี วกัน

ส่วนที่ 2 การวิเคราะห์สมรรถนะและจดั ลำดับความสำคัญ

ที่ สมรรถนะท่ีจะพฒั นา ตัวบง่ ชี้

สมรรถนะหลกั 1.1 ความสามารถในการวางแผนการกำหนดเป

1 การมุ่งผลสัมฤทธ์ิ การวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ภารกิจงาน

ในการปฏิบตั ิงาน

(Working Achievement

Motivation)

1.2 ความมุง่ มัน่ ในการปฏิบตั ิหน้าทใ่ี หม้ ีคุณภา

ถกู ต้อง ครบถว้ นสมบรู ณ์

1.3 ความสามารถในการติดตามประเมินผล
การปฏิบตั งิ าน

1.4 ความสามารถในการพฒั นาการปฏบิ ัติงาน
ประสิทธภิ าพอย่างต่อเน่ืองเพ่ือให้งานประ
ความสำเรจ็

รายการพฤตกิ รรม ลำดบั
ความสำคัญ
ปา้ หมาย 1. วเิ คราะหภ์ ารกิจงานเพอื่ วางแผนการแก้ปัญหา
าพ อยา่ งเปน็ ระบบ 4

2. กำหนดเปา้ หมายในการปฏบิ ตั ิงานทุกภาคเรยี น
3. กำหนดแผนการปฏบิ ตั ิงานและการจดั การเรียนรู้

อยา่ งเป็นข้ันตอน

1. ใฝ่เรียนรูเ้ ก่ยี วกบั การจดั การเรียนรู้
2. ริเริ่มสรา้ งสรรคใ์ นการพัฒนาการจัดการเรยี นรู้
3. แสวงหาความร้ทู เ่ี กี่ยวกับวิชาชีพใหม่ ๆ

เพอื่ การพัฒนาตนเอง

1. ประเมินผลการปฏิบตั งิ านของตนเอง

นให้มี 1. ใช้ผลการประเมินการปฏิบัติงานมาปรับปรุง/
ะสบ พฒั นาการทางานใหด้ ียิง่ ข้ึน

2. พัฒนาการปฏบิ ัตงิ านเพื่อตอบสนอง
ความต้องการของผูเ้ รยี น ผ้ปู กครอง และชมุ ชน

ท่ี สมรรถนะท่ีจะพฒั นา ตวั บง่ ชี้
2.1 ความต้ังใจและเตม็ ใจในการใหบ้ ริการ
2 การบริการท่ดี ี
(Service Mind) 2.2 การปรับปรงุ ระบบบริการให้มปี ระสทิ ธภิ าพ

3 การพฒั นาตนเอง 3.1 การศกึ ษาคน้ คว้าหาความรู้ ตดิ ตาม
(Self- Development) องคค์ วามรูใ้ หม่ๆ ทางวิชาการและวิชาชีพ

3.2 การสรา้ งองคค์ วามรู้และนวัตกรรมในการ
พฒั นาองค์กรและวิชาชีพ

3.3 การแลกเปล่ยี นความคดิ เหน็ และ
สรา้ งเครือขา่ ย

รายการพฤติกรรม ลำดับ
ความสำคญั
1. ทำกจิ กรรมตา่ งๆ เพื่อประโยชน์ส่วนรวมเมือ่ มีโอกาส
2. เต็มใจ ภาคภูมิใจ และมีความสขุ ในการให้บรกิ าร 9

แก่ผู้รบั บริการ 5
พ 1. ศกึ ษาความต้องการของผรู้ ับบรกิ าร และนำขอ้ มลู ไปใช้

ในการปรับปรงุ
2. ปรบั ปรงุ และพัฒนาระบบการให้บรกิ ารให้มีประสิทธิภาพ
1. ศึกษาคน้ คว้าหาความรู้ มุ่งมั่นและแสวงหาโอกาสพัฒนา
ตนเองด้วยวิธีการ ท่หี ลากหลาย เช่น การเข้าร่วมประชุม/
สมั มนา การศกึ ษาดูงาน การค้นควา้ ด้วยตนเอง
1. รวบรวม สงั เคราะหข์ ้อมลู ความรู้ จัดเป็นหมวดหมู่ และ
ปรับปรุงให้ทนั สมยั
2. สรา้ งองคค์ วามรู้และนวตั กรรมเพอ่ื พฒั นาการจดั การเรยี นรู้
องคก์ รและวิชาชพี
1. แลกเปลยี่ นเรียนรกู้ บั ผอู้ ืน่ เพอื่ พัฒนาตนเอง และพฒั นางาน
2.ใหค้ ำปรกึ ษา แนะนำนิเทศ และถ่ายทอดความรู้
ประสบการณท์ างวชิ าชีพ แกผ่ ู้อนื่
3. มีการขยายผลโดยสร้างเครือขา่ ยการเรียนรู้

ที่ สมรรถนะท่ีจะพัฒนา ตวั บง่ ช้ี

4 การทำงานเปน็ ทีม 4.1 การใหค้ วามรว่ มมอื ช่วยเหลอื และ
(Team Work) สนับสนนุ เพ่ือนร่วมงาน

4.2 การเสริมแรงให้กำลังใจเพือ่ นร่วมงาน

4.3 การปรบั ตัวเขา้ กับกลมุ่ คนหรอื สถานการณ
ท่หี ลากหลาย

4.4 การแสดงบทบาทผูน้ ำหรือผตู้ าม

4.5 การเข้าไปมสี ว่ นร่วมกับผู้อ่ืนในการพฒั นา
การจดั การศึกษาให้บรรลุผลสำเร็จ
ตามเป้าหมาย

รายการพฤติกรรม ลำดบั
ความสำคญั
1. สรา้ งสัมพนั ธภาพท่ีดใี นการทำงานร่วมกับผู้อน่ื
2. ทำงานรว่ มกับผอู้ ื่นตามบทบาทหนา้ ท่ที ี่ไดร้ ับมอบหมาย 7
3. ชว่ ยเหลือ สนบั สนุน เพ่ือนรว่ มงานเพื่อสเู่ ปา้ หมาย

ความสำเรจ็ ร่วมกัน
1. ใหเ้ กยี รติ ยกยอ่ งชมเชย ให้กำลงั ใจแก่เพ่ือนรว่ มงาน

ในโอกาสทีเ่ หมาะสม
ณ์ 1. มีทักษะในการทำงานร่วมกับบุคคล/กลุ่มบุคคลได้อย่างมี

ประสิทธภิ าพทงั้ ภายในและภายนอกสถานศึกษา และ
ในสถานการณ์ตา่ งๆ
1. แสดงบทบาทผ้นู ำหรอื ผตู้ ามในการทำงานรว่ มกบั ผู้อ่ืน
ได้อยา่ งเหมาะสมตามโอกาส
1. แลกเปล่ียน/รบั ฟังความคิดเห็นและประสบการณ์
ภายในทีมงาน
2. แลกเปลย่ี นเรียนรู้/รบั ฟงั ความคดิ เห็นและประสบการณ์
ระหว่างเครอื ข่ายและทีมงาน
3. ร่วมกับเพือ่ นร่วมงานในการสรา้ งวัฒนธรรมการทำงาน
เป็นทีมให้เกิดข้ึนในสถานศึกษา

ท่ี สมรรถนะทจ่ี ะพฒั นา ตัวบง่ ชี้

5 จริยธรรม และจรรยาบรรณ 1. ความรกั และศรทั ธา 1. สนับสนุน และ

วชิ าชีพครู ในวิชาชพี 2. เสยี สละ อทุ ิศ

(Teacher’s Ethics and 3. ยกยอ่ ง ช่นื ชม

Integrity) 4. ยึดมัน่ ในอุดมก

2. มวี นิ ัย และ 1. ซ่ือสตั ย์ต่อตน

ความรับผดิ ชอบ อยา่ งประหยดั

ในวิชาชีพ 2. ปฏิบัตติ นตาม

3. ปฏิบตั ติ นตาม

4. ยอมรบั ผลอัน

อุปสรรค

3. การดำรงชีวติ 1. ปฏิบัติตน/ดา

อย่างเหมาะสม สถานะของตน

2. รกั ษาสิทธิประ

3. เอื้อเฟือ้ เผ่ือแผ

4. การประพฤติปฏบิ ตั ิตน 1. ปฏิบัติตนไดเ้ ห

เป็นแบบอยา่ งทดี่ ี 2. มีความเปน็ กัล

3. ปฏบิ ัติตนตาม

ผลสำเรจ็

4. เป็นแบบอย่าง

จรรยาบรรณว

รายการพฤติกรรม ลำดบั
ความสำคญั
ะเข้ารว่ มกจิ กรรมการพฒั นาจรรยาบรรณวิชาชพี
ศตนเพอื่ ประโยชนต์ อ่ วิชาชพี และเป็นสมาชิกที่ดีขององค์กรวิชาชีพ 8
มบคุ คลท่ีประสบความสำเรจ็ ในวิชาชีพ
การณ์ของวิชาชพี ปกป้องเกียรติและศักดิศ์ รีของวิชาชีพ
นเอง ตรงต่อเวลา วางแผนการใชจ้ า่ ย และใชท้ รัพยากร
ด
มกฎ ระเบยี บ ข้อบงั คับ และวฒั นธรรมที่ดีขององค์กร
มบทบาทหน้าท่ี และมงุ่ มน่ั พฒั นาการประกอบวิชาชีพให้ก้าวหน้า
นเกิดจากการปฏบิ ตั ิหน้าทข่ี องตนเอง และหาแนวทางแก้ไขปัญหา

าเนินชีวติ ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไดเ้ หมาะสมกับ
น
ะโยชน์ของตนเอง และไมล่ ะเมิดสิทธขิ องผู้อ่ืน
ผ่ ช่วยเหลอื และไม่เบียดเบยี นผอู้ ่นื

หมาะสมกับบทบาทหนา้ ที่ และสถานการณ์
ลยาณมติ รต่อผเู้ รียน เพอ่ื นร่วมงาน และผู้รบั บรกิ าร
มหลกั การครองตน ครองคน ครองงานเพ่อื ใหก้ ารปฏิบตั ิงานบรรลุ

งที่ดใี นการส่งเสรมิ ผอู้ นื่ ใหป้ ฏิบัตติ นตามหลักจรยิ ธรรม
วชิ าชพี ครู และพัฒนาจนเป็นที่ยอมรบั

ท่ี สมรรถนะทจี่ ะพฒั นา ตัวบง่ ช้ี

6 สมรรถนะประจำสายงาน 1. การสรา้ งและพฒั นา 1. สรา้ ง/พัฒนาห
การบริหารหลักสูตร หลกั สูตร และทอ้ งถนิ่

และการจัดการเรียนรู้ 2. ประเมนิ การใช

(Curriculum and 2. ความรู้ ความสามารถ 1. กำหนดผลการ

Learning Management) ในการออกแบบ รเิ ริม่ เหมาะส

การเรยี นรู้ เป็นรายบคุ คล

2. ออกแบบกจิ ก

ความต้องการข

3. เปดิ โอกาสให้ผ

การประเมินผ

4. จัดทำแผนการ

เชอื่ มโยงกนั

5. มกี ารนำผลกา

ตามสถานการ

6. ประเมนิ ผลกา

รายการพฤตกิ รรม ลำดับ
ความสำคญั
หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ที่สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลาง
1
ชห้ ลักสตู รและนำผลการประเมนิ ไปใชใ้ นการพัฒนาหลักสูตร
รเรยี นรขู้ องผู้เรียนทเี่ น้นการวิเคราะห์ สงั เคราะห์ ประยกุ ต์
สมกบั สาระการเรยี นรู้ ความแตกต่างและธรรมชาตขิ องผู้เรยี น
ล
กรรมการเรยี นรู้อยา่ งหลากหลายเหมาะสมสอดคล้องกบั วัย และ
ของผเู้ รียน และชุมชน
ผู้เรยี นมีส่วนร่วมในการออกแบบการเรยี นรู้ การจัดกิจกรรมและ
ผลการเรยี นรู้
รจัดการเรยี นรู้อยา่ งเปน็ ระบบโดยบูรณาการอยา่ งสอดคล้อง

ารออกแบบการเรียนรไู้ ปใชใ้ นการจัดการเรียนรู้ และปรบั ใช้
รณ์ อย่างเหมาะสมและเกิดผลกับผู้เรยี นตามทคี่ าดหวัง
ารออกแบบการเรยี นรูเ้ พ่ือนาไปใช้ปรบั ปรงุ /พฒั นา

ท่ี สมรรถนะท่จี ะพฒั นา ตัวบ่งช้ี

3. การจัดการเรยี นรู้ทเ่ี น้น 1. จดั ทำฐานขอ้ ม
ผูเ้ รียนเป็นสำคญั 2. ใช้รูปแบบ/เท

4. การใชแ้ ละพัฒนาส่ือ เตม็ ตามศกั ยภ
นวัตกรรมเทคโนโลยเี พ่ือ 3. จดั กจิ กรรมกา
การจดั การเรยี นรู้
5. การวัดและประเมนิ ผล ของผู้เรียน
การเรียนรู้ 4. ใช้หลักจิตวทิ ย

พัฒนาอย่างเต
5.ใชแ้ หล่งเรียนร
6. พัฒนาเครอื ข่า

1. ใชส้ อื่ นวตั กร
กบั เน้ือหาและ

2. สืบค้นขอ้ มูลผ
3. ใช้เทคโนโลยีค

1. ออกแบบวธิ กี า
กจิ กรรมการเร

2. สรา้ งและนำเค
3. วัดและประเม
4. นำผลการประ

รายการพฤติกรรม ลำดับ
ความสำคัญ
มลู เพื่ออกแบบการเรียนร้ทู เ่ี นน้ ผู้เรยี นเปน็ สำคญั
ทคนิควธิ ีการสอนอยา่ งหลากหลายเพ่ือใหผ้ ู้เรียนพฒั นา
ภาพ
ารเรียนรู้ที่ปลูกฝงั /สง่ เสรมิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์และสมรรถนะ

ยาในการจัดการเรียนรใู้ หผ้ เู้ รียนเกดิ การเรียนรูอ้ ยา่ งมีความสขุ และ
ต็มศักยภาพ
ร้แู ละภูมิปญั ญาทอ้ งถ่นิ ในชมุ ชนในการจดั การเรียนรู้
ายการเรียนรรู้ ะหว่างโรงเรียนกับผูป้ กครอง และชมุ ชน

รรมและเทคโนโลยีในการจัดการเรยี นรู้อย่างหลากหลาย เหมาะสม
ะกิจกรรมการเรยี นรู้
ผ่านเครือข่ายอินเตอรเ์ น็ตเพ่ือพัฒนาการจดั การเรียนรู้
คอมพิวเตอรใ์ นการผลิตสอ่ื /นวัตกรรมที่ใช้ในการจดั การเรยี นรู้

ารวัดและประเมนิ ผลอยา่ งหลากหลาย เหมาะสมกับเนือ้ หา
รยี นรู้ และผเู้ รียน
คร่ืองมือวดั และประเมินผลไปใชอ้ ย่างถกู ต้องเหมาะสม
มินผลผ้เู รยี นตามสภาพจรงิ
ะเมินการเรยี นรมู้ าใช้ในการพัฒนาการจดั การเรียนรู้

ที่ สมรรถนะทจ่ี ะพฒั นา ตวั บง่ ชี้

7 การพฒั นาผ้เู รียน 2.1 การปลกู ฝงั คุณธรรม 1. สอดแทรกคุณ
(Student Development) จริยธรรมให้แก่ผ้เู รียน 2. จัดกจิ กรรมส่ง

2.2 การพฒั นาทกั ษะชีวิต กิจกรรม
และสขุ ภาพกาย และ 3. จดั ทำโครงการ
สขุ ภาพจิตผู้เรียน 1. จดั กิจกรรมเพ
2.3 การปลกู ฝงั ความเป็น
ประชาธิปไตย การทำงานการ
ความภูมิใจในความ
เปน็ ไทยให้กับผู้เรียน 1. สอดแทรกควา
2.4 การจัดระบบดูแล 2. จดั ทำโครงการ
ชว่ ยเหลอื นกั เรียน
ในความเปน็ ไ

1. ใหผ้ ้เู รยี น คณ
รายบุคคล

2. นำข้อมลู นักเร
ปรบั พฤตกิ รร

3. จัดกิจกรรมเพ
อย่างทว่ั ถงึ

4. สง่ เสริมให้ผูเ้ ร
5. ดแู ล ชว่ ยเหล

รายการพฤติกรรม ลำดับ
ความสำคญั
ณธรรม จรยิ ธรรมแกผ่ ูเ้ รยี นในการจัดการเรียนรู้ในช้ันเรยี น
งเสรมิ คุณธรรม จริยธรรมโดยใหผ้ เู้ รียนมีส่วนรว่ มในการวางแผน 2

ร/กิจกรรมท่ีสง่ เสริมคุณธรรมจรยิ ธรรมให้แก่ผ้เู รยี น

พ่ือพฒั นาผู้เรียนด้านการดูแลตนเอง มีทกั ษะในการเรยี นรู้
รอยรู่ ว่ มกันในสังคมอยา่ งมีความสขุ และรู้เท่าทนั การเปลีย่ นแปลง

ามเป็นประชาธปิ ไตย ความภมู ใิ จในความเปน็ ไทย ให้แก่ผู้เรยี น
ร/กจิ กรรมสง่ เสริมความเปน็ ประชาธปิ ไตย ความภูมิใจ
ไทย

ณะครผู ู้สอน และผปู้ กครองมสี ว่ นรว่ มในดแู ลชว่ ยเหลอื นักเรยี น

รยี นไปใชช้ ว่ ยเหลือ/พฒั นาผู้เรียนทั้งด้านการเรียนรู้ และ
รมเป็นรายบุคคล
พื่อป้องกนั แก้ไขปัญหา และสง่ เสริมพัฒนาผู้เรยี นใหแ้ ก่นักเรยี น

รยี นปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมกับค่านิยมทีด่ ีงาม
ลือ ผู้เรียนทกุ คนอย่างทั่วถงึ ทันการณ์

ที่ สมรรถนะท่จี ะพฒั นา ตัวบง่ ช้ี

8 การบริหารจดั การชั้นเรียน 1. จัดบรรยากาศทสี่ ่งเสริม 1. จดั สภาพแวดล
(Classroom
Management) การเรียนรู้ ความสุข และ 2. สง่ เสริมการมปี

ความปลอดภยั ของ 3. ตรวจสอบสง่ิ อ

ผูเ้ รียน

2. จัดทำข้อมูลสารสนเทศ 1. จดั ทำข้อมูลสา

และเอกสารประจำช้ัน อย่างถูกต้อง ค

เรียน/ประจำวชิ า 2. นำขอ้ มลู สารส

3. กำกับดูแลชั้นเรยี น 1. ใหผ้ ู้เรียนมสี ว่

รายชนั้ /รายวิชา 2. แก้ปญั หา/พัฒ

3. ประเมนิ การก

และพัฒนา

รายการพฤตกิ รรม ลำดับ
ความสำคญั
ลอ้ มภายในห้องเรยี น และภายนอกห้องเรียนท่เี อื้อต่อการเรียนรู้
ปฏสิ ัมพันธ์ท่ีดรี ะหว่างครกู บั ผเู้ รยี น และผู้เรยี นกบั ผู้เรียน 3
อำนวยความสะดวกในหอ้ งเรยี นให้พรอ้ มใชแ้ ละปลอดภยั อยูเ่ สมอ

ารสนเทศของนักเรยี นเป็นรายบุคคลและเอกสารประจำชน้ั เรียน
ครบถ้วน เปน็ ปัจจบุ ัน
สนเทศไปใช้ในการพฒั นาผู้เรยี นได้เตม็ ตามศักยภาพ

วนรว่ มในการกำหนดกฎ กติกา ข้อตกลงในชนั้ เรียน
ฒนานักเรยี นดา้ นระเบียบวนิ ยั โดยการสรา้ งวินยั เชิงบวกในชั้นเรียน
กำกบั ดแู ลชัน้ เรยี น และนำผลการประเมินไปใชใ้ นการปรบั ปรงุ

ท่ี สมรรถนะที่จะพฒั นา ตวั บง่ ชี้

9 การวเิ คราะห์ สังเคราะห์ 1. การวเิ คราะห์ 1. สำรวจปัญหาเ
และการวิจยั เพื่อพฒั นา พัฒนาผู้เรยี น
ผูเ้ รียน
(Analysis & Synthesis & 2. วเิ คราะห์สาเห
Classroom Research) ทางเลอื กในกา

2. การสงั เคราะห์ 3. มกี ารวเิ คราะห
เพอื่ แก้ไขปัญห
3. การวจิ ยั เพ่ือพฒั นา
ผเู้ รียน 1. รวบรวม จำแน
วิธีการแก้ไขปัญ

2. มีการประมวล
ในชน้ั เรยี นโดย

1. จดั ทำแผนการ
ดำเนนิ การวิจยั

2. ตรวจสอบควา
3. มีการนำผลกา

ที่คลา้ ยคลงึ กัน

รายการพฤตกิ รรม ลำดับ
ความสำคญั
เกยี่ วกับนักเรียนท่ีเกิดข้นึ ในช้ันเรยี นเพื่อวางแผนการวจิ ัยเพื่อ
6
หตขุ องปัญหาเก่ียวกับนักเรยี นท่ีเกิดขึ้นในช้ันเรียนเพื่อกำหนด
ารแก้ไขปัญหาระบุสภาพปจั จุบนั
ห์จดุ เด่น จุดด้อย อุปสรรคและโอกาสความสำเร็จของการวิจยั
หาท่เี กดิ ข้ึนในชั้นเรียน
นกและจดั กลุ่มของสภาพปญั หาของผู้เรยี น แนวคดิ ทฤษฎี และ
ญหาเพื่อสะดวกตอ่ การนำไปใช้
ลผลหรือสรปุ ข้อมลู สารสนเทศที่เป็นประโยชน์ตอ่ การแก้ไขปัญหา
ยใช้ขอ้ มลู รอบด้าน
รวิจัย และดำเนินกระบวนการวิจัย อย่างเป็นระบบตามแผน
ยทีก่ ำหนดไว้
ามถูกต้องและความน่าเช่ือถือของผลการวิจัยอยา่ งเป็นระบบ
ารวิจัยไปประยกุ ตใ์ ช้ในกรณศี กึ ษาอน่ื ๆ ท่ีมีบริบทของปญั หา
น

ที่ สมรรถนะที่จะพัฒนา ตัวบ่งชี้

10 ภาวะผูน้ ำครู 1. วุฒภิ าวะความเปน็ 1. พิจารณาทบท
(Teacher Leadership) ผู้ใหญ่ ทเี่ หมาะสมกับ ผอู้ นื่ และมคี ว
ความเปน็ ครู
(Adult Development) 2. เหน็ คุณคา่ ให
3. กระตนุ้ จูงใจ ป
2. การสนทนาอยา่ ง
สร้างสรรค์ มงุ่ มน่ั ต่อเปา้ ห
(Dialogue)
1. มปี ฏสิ ัมพันธใ์
3. การเปน็ บุคคลแหง่ สร้างสรรค์กับ
การเปลยี่ นแปลง
(Change Agency) 2. มที กั ษะการฟ
ทหี่ ลากหลายข

3. สบื เสาะขอ้ มลู
อยา่ งสรา้ งสรร

1. ใหค้ วามสนใจ
วสิ ยั ทศั นซ์ ่ึงเช

2. รเิ ร่ิมการปฏบิ
3. กระตนุ้ ผูอ้ ื่นให

สถานศกึ ษา แ
4. ปฏิบัติงานรว่ ม

รายการพฤตกิ รรม ลำดบั
ความสำคญั
ทวน ประเมนิ ตนเองเกย่ี วกับพฤติกรรมท่ีแสดงออกต่อผู้เรียน และ
วามรับผดิ ชอบต่อตนเองและส่วนรวม 10
ห้ความสำคญั ในความคดิ เห็นหรือผลงาน และใหเ้ กียรติแกผ่ ู้อน่ื
ปรับเปลยี่ นความคิดและการกระทำของผู้อ่ืนใหม้ คี วามผูกพัน และ
หมายในการทำงานร่วมกนั
ในการสนทนา มบี ทบาท และมสี ่วนร่วมในการสนทนาอย่าง
บผ้อู ื่น โดยม่งุ เนน้ ไปทกี่ ารเรียนรู้ของผเู้ รยี นและการพฒั นาวชิ าชีพ
ฟงั การพูด และการตง้ั คำถาม เปดิ ใจกวา้ ง ยดื หยุ่น ยอมรับทัศนะ
ของผู้อน่ื เพื่อเปน็ แนวทางใหม่ ๆ ในการปฏิบตั ิงาน
ล ความรู้ทางวชิ าชพี ใหม่ๆ ทส่ี ร้างความทา้ ทายในการสนทนา
รคก์ ับผู้อ่ืน
จตอ่ สถานการณ์ต่างๆ ท่ีเปน็ ปจั จบุ ัน โดยมีการวางแผนอย่างมี
ชอื่ มโยงกบั วสิ ัยทัศน์ เป้าหมาย และพันธกจิ ของโรงเรียนร่วมกบั ผู้อื่น
บตั ทิ ีน่ ำไปสู่การเปลี่ยนแปลงและการพฒั นานวัตกรรม
ห้มกี ารเรียนรู้และความรว่ มมือในวงกว้างเพื่อพฒั นาผู้เรยี น
และวชิ าชพี
มกับผอู้ น่ื ภายใตร้ ะบบ/ขนั้ ตอนทเ่ี ปลีย่ นแปลงไปจากเดิมได้

ท่ี สมรรถนะท่จี ะพฒั นา ตวั บ่งชี้

4. การปฏบิ ตั ิงานอย่าง 1. พิจารณาไตร่ต
ไตร่ตรอง การจดั การเรีย
(Reflective Practice)
2. สนับสนุนควา
5. การมงุ่ พัฒนา มสี ว่ นร่วมในก
ผลสมั ฤทธิ์ผู้เรียน
(Concern for 3. ใช้เทคนคิ วธิ กี
improving pupil และผลการดำ
achievement)
1. กำหนดเปา้ หม
ตามสภาพจรงิ

2. ให้ข้อมลู และข
อย่างเปน็ ระบบ

3. ยอมรับข้อมูล
จากผู้ปกครอง

4. ปรบั เปลยี่ นบท
ผเู้ รยี น

5. ตรวจสอบข้อม
องคค์ วามรู้ ต่า

รายการพฤตกิ รรม ลำดับ
ความสำคัญ
ตรองความสอดคล้องระหวา่ งการเรียนรู้ของนกั เรียน และ
ยนรู้
ามคิดริเริม่ ซึ่งเกิดจากการพจิ ารณาไตร่ตรองของเพอื่ นร่วมงาน และ
การพัฒนานวตั กรรมตา่ งๆ
การหลากหลายในการตรวจสอบ ประเมนิ การปฏบิ ัติงานของตนเอง
ำเนินงานสถานศึกษา
มายและมาตรฐานการเรียนรทู้ ่ที า้ ทายความสามารถของตนเอง
ง และปฏิบัติให้บรรลผุ ลสำเร็จได้
ข้อคดิ เหน็ รอบดา้ นของผ้เู รียนต่อผ้ปู กครองและผูเ้ รียน
บ
ลป้อนกลับเก่ยี วกบั ความคาดหวังด้านการเรียนรูข้ องผูเ้ รยี น
ง
ทบาทและการปฏบิ ตั ิงานของตนเองให้เอ้ือต่อการพฒั นาผลสัมฤทธ์ิ

มูลการประเมินผเู้ รียนอย่างรอบด้าน รวมไปถึงผลการวจิ ยั หรอื
างๆ และนำไปใชใ้ นการพัฒนาผลสัมฤทธ์ิผเู้ รยี นอย่างเปน็ ระบบ

ท่ี สมรรถนะท่จี ะพัฒนา ตัวบง่ ช้ี

11 การสร้างความสัมพนั ธ์ 1. การสรา้ งความสัมพนั ธ์ 1. กำหนดแนวท
และความร่วมมอื กับชมุ ชน และความร่วมมือกบั ชุมชน 2. ประสานให้ชุม
เพือ่ การจดั การเรียนรู้ เพือ่ การจดั การเรยี นรู้ 3. ให้ความร่วมม
(Relationship &
Collaborative for 4. จดั กิจกรรมทเี่
Learning) และองค์กรอนื่

2. การสรา้ งเครอื ข่าย 1. สรา้ งเครือขา่ ย
ความรว่ มมอื เพื่อการจัด ทง้ั ภาครัฐและ
การเรยี นรู้

รายการพฤติกรรม ลำดับ
ความสำคัญ
ทางในการสร้างความสัมพนั ธท์ ี่ดี และความร่วมมือกบั ชมุ ชน
มชนเขา้ มามีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ของสถานศกึ ษา 11
มือในกิจกรรมตา่ งๆ ของชุมชน
เสรมิ สรา้ ง ความสมั พนั ธ์และความรว่ มมือกับผู้ปกครอง ชุมชน
นๆ ท้งั ภาครัฐและเอกชนเพื่อการจดั การเรียนรู้
ยความรว่ มมือระหว่างครู ผ้ปู กครอง ชมุ ชน และองค์กรอ่นื ๆ
ะ เอกชน เพื่อสนบั สนุนสง่ เสรมิ การจัดการเรียนรู้

ส่วนท่ี 3 รายละเอยี ดการพัฒนาตนเอง อันดับ
ความสำคัญ วิธกี าร / รูปแบบ
ท่ี สมรรถนะท่จี ะพัฒนา
- จัดกิจกรร
สมรรถนะหลัก 4 ทเี่ น้นผู้เรยี
1 การม่งุ ผลสัมฤทธ์ิ
สำคัญ
1.1 ความสามารถในการวางแผนการ - จัดกิจกรร
ปฏิบตั งิ าน
ท่เี น้นให้ผ
1.2 ความสามารถในการปฏิบัติงาน ปฏิบตั ิจรงิ
1.3 ผลการปฏิบตั งิ าน - จัดกจิ กรร
โดยใชส้ ่ือ
ทน่ี า่ สนใจ
เทคโนโลย
เรียนรู้

บการพัฒนา ระยะเวลาในการ การขอรับ ประโยชน์ทคี่ าดว่าจะได้รับ
พัฒนา งบประมาณ
สนบั สนุนจาก
เริ่มตน้ ส้ินสดุ หน่วยงาน

รมการเรียนรู้ 16 พ.ค. 31 มี.ค. โรงเรียน - ผู้เรียนให้สนใจ ตั้งใจ มีความ
ยนเปน็ 2563 2564 กระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ มี
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนท่ีดขี ึ้น มี
รมการเรยี นรู้ ทักษะในการปฏิบัติกิจกรรมตาม
ผูเ้ รียนได้ ศักยภาพของแตล่ ะบุคคล
ง
รมการเรยี นรู้

นวตั กรรม
จทงั้ ทาง
ยีและแหล่ง

อันดับ
ที่ สมรรถนะท่ีจะพฒั นา ความสำคญั วิธีการ / รปู แบบ

2 การบริการทดี่ ี 9 ไดใ้ ห้บรกิ ารทางวชิ
และบุคลากรทางก
3 การพัฒนาตนเอง ในโรงเรียนและนอ
3.1 ความสามารถในการวเิ คราะห์ตนเอง เพ่อื เปน็ การเผยแพ
3.2 ความสามารถในการใชภ้ าษาไทยเพ่ือ วิชาการ
การส่อื สาร
3.3 ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ 5 - เขา้ รับการ
เพื่อการแสวงหาความรู้ สมั มนาทีห่
3.4 ความสามารถในการตดิ ตามความ สังกดั หน
เคลือ่ นไหวทางวิชาการและวิชาชีพ จดั ขึน้
3.5 ความสามารถในการประมวลความรู้
และการนำความรู้ไปใช้ - ศกึ ษาดงู า
ตน้ แบบ
ต้นแบบเพ
พฒั นาตน

- แลกเปลีย่
บุคลากรใ

บการพฒั นา ระยะเวลาในการ การขอรับ ประโยชน์ทคี่ าดว่าจะไดร้ ับ
พฒั นา งบประมาณ
ชาการแก่ครู สนบั สนุนจาก เกดิ ผลดีต่อเพื่อนร่วมงานใน
การศึกษาท้ัง เริ่มต้น ส้นิ สุด หนว่ ยงาน โรงเรียนและต่างโรงเรียน เพื่อ
อกโรงเรียน นำมาพฒั นาการเรยี นการสอน
พร่ผลงาน ตลอดปี ตลอดปี โรงเรยี น
การศกึ ษา การศกึ ษา

รอบรม ตลอดปี ตลอดปี โรงเรยี น ตนเองเป็นผู้มีคุณภาพ ได้รบั การ
หนว่ ยงานตน้ การศึกษา การศกึ ษา พฒั นาไปในทศิ ทางที่ดีขน้ึ สง่ ผล
นว่ ยงานอน่ื ๆ และเกดิ ประโยชน์ตอ่ ผเู้ รียน
โรงเรียน
านโรงเรยี น
บคุ ลากร

พื่อนำมา
นเอง
ยนเรียนรู้กบั
ในโรงเรยี น

อนั ดบั
ท่ี สมรรถนะท่จี ะพฒั นา ความสำคัญ วธิ กี าร / รูปแบบ

4 การทำงานเป็นทมี 7 - ศกึ ษาเอก
4.1 ความสามารถในการวางแผนเพื่อการ ทางวชิ าก
ปฏบิ ตั ิงานเปน็ ทมี วารสาร
4.2 ความสามารถในการปฏบิ ัตงิ านรว่ มกนั
- สืบคน้ ควา
อินเตอรเ์ น

- รว่ มกจิ กร
ทำงานเป็น

- ยอมรับฟัง
คดิ เหน็ ขอ
รว่ มงาน
เปน็ ผู้ให้แ

- มคี วามสา
คณะ

บการพัฒนา ระยะเวลาในการ การขอรบั ประโยชน์ทค่ี าดว่าจะไดร้ ับ
พัฒนา งบประมาณ
กสาร ผลงาน สนบั สนุนจาก
การจากตำรา เร่ิมตน้ สิ้นสุด หน่วยงาน

ามร้ทู าง
นต

รรมทเี่ น้นการ ตลอดปี ตลอดปี โรงเรียน เกดิ ความสามัคคีในหมคู่ ณะ
นทีม การศกึ ษา การศกึ ษา ส่งผลใหก้ ารดำเนินงานต่างๆ
บรรลุผลสำเรจ็ ตลอดจนการมี
งความ ความสุขในการปฏิบตั งิ าน
องเพ่ือน
โดยรจู้ ักการ
และผู้รบั ท่ดี ี

ามัคคีในหมู่

อนั ดับ
ท่ี สมรรถนะท่ีจะพฒั นา ความสำคัญ วธิ ีการ / รปู แบบ

5 จรยิ ธรรม และจรรยาบรรณวชิ าชีพครู 8 - เข้ารับการ
5.1 การมีวนิ ยั
5.2 การประพฤตปิ ฏิบัติตนเป็นแบบอยา่ ง พฒั นาดา้
ท่ดี ี จริยธรรม
5.3 การดำรงชีวิตอย่างเหมาะสม ละ 1 คร
5.4 ความรักและศรทั ธาในวิชาชีพ - ประพฤตปิ
5.5 ความรบั ผดิ ชอบในวชิ าชพี การดำรงช
หลักปรชั ญ
พอเพยี ง
- ประพฤติป
วชิ าชพี โด
ศรัทธาใน
ตนเอง
ตนเอง
-

บการพัฒนา ระยะเวลาในการ การขอรับ ประโยชน์ทค่ี าดว่าจะไดร้ ับ
พฒั นา งบประมาณ
สนับสนนุ จาก
เร่ิมต้น สิ้นสุด หนว่ ยงาน

รอบรม ตลอดปี ตลอดปี โรงเรยี น ตนเองเป็นผ้ทู ี่มีคุณธรรม
านคุณธรรม การศึกษา การศึกษา จรยิ ธรรม มีวนิ ัย มคี วาม
มอยา่ งนอ้ ยปี รบั ผดิ ชอบ มีความก้าวหน้าใน
รง้ั วชิ าชีพท่ีสูงยิ่งๆข้ึน

ปฏิบตั ิตนใน
ชีวติ โดยยดึ
ญาเศรษฐกจิ

ปฏิบตั ติ นใน
ดยรักและ
นวชิ าชีพของ
โดยมวี ินยั ใน

อันดบั
ที่ สมรรถนะทีจ่ ะพัฒนา ความสำคญั วธิ ีการ / รูปแบบ

สมรรถนะประจำสายงาน 1 - เขา้ รบั การ
6 การจดั การเรยี นรู้ สัมมนา
ศึกษาเอก
6.1 ความสามารถในการสรา้ งและพัฒนา หลักสตู ร
หลกั สูตร ออกแบบ
6.2 ความสามารถในเนื้อหาสาระที่สอน การเขียน
6.3 ความสามารถในการจัดกระบวนการ ประสบกา
วดั ผลประ
เรยี นร้ทู เี่ นน้ ผ้เู รยี นเป็นสำคัญ พัฒนาตน
6.4 ความสามารถในการใช้และพัฒนา
- เขา้ รับการ
นวัตกรรม เทคโนโลยสี ารสนเทศ เพื่อ เกีย่ วกับก
จดั การเรยี นรู้ การใชส้ อ่ื
6.5 ความสามารถในการวัดและประเมนิ ผล ท่ีหน่วยงา
การเรยี นรู้ ทกุ ๆคร้ัง

บการพฒั นา ระยะเวลาในการ การขอรบั ประโยชนท์ คี่ าดวา่ จะได้รับ
พัฒนา งบประมาณ
สนบั สนนุ จาก
เรม่ิ ต้น ส้ินสุด หน่วยงาน

รอบรม ตลอดปี ตลอดปี โรงเรยี น ตนเองมีความสามารถในการจัด
ศึกษาดูงาน การศึกษา การศึกษา กจิ กรรมการเรยี นรู้ โดยมีความรู้
กสารเก่ียวกับ เร่อื งการเขยี นแผนการจดั
ประสบการณ์ การวัดผล
การ ประเมินผล ตลอดจนการผลติ
บการเรียนรู้ ส่อื การใช้ส่อื ประเภท ICT
นแผนการจัด สง่ ผลต่อการจดั กิจกรรมให้กบั
ารณ์ การ ผเู้ รียนอย่างสูงสดุ
ะเมินผลเพือ่
นเอง

รอบรม
การผลติ สอ่ื
อประเภท ICT
านจดั ขึ้น

อนั ดับ
ที่ สมรรถนะท่ีจะพฒั นา ความสำคญั วธิ ีการ / รปู แบบ

7 การพฒั นาผู้เรยี น 2 - จัดกจิ กรร
7.1การปลกู ฝงั คุณธรรมจรยิ ธรรมแกผ่ เู้ รียน ปลูกฝังคณุ
7.2การสง่ เสรมิ กิจกรรมความคิด วเิ คราะห์ จรยิ ธรรม
ผเู้ รยี น ผู้เรยี นอย
7.3การส่งเสรมิ ทักษะและกระบวนการ การอบรม
กิจกรรมโ
กจิ กรรมส
การเลา่ นทิ
คุณธรรม

- ส่งเสรมิ ผ
ความถนดั
รถแตล่ ะบ

บการพัฒนา ระยะเวลาในการ การขอรบั ประโยชน์ทคี่ าดวา่ จะได้รับ
พฒั นา งบประมาณ
สนบั สนุนจาก
เร่มิ ต้น สิน้ สดุ หน่วยงาน

รมส่งเสริม ตลอดปี ตลอดปี โรงเรยี น ผเู้ รียนมีคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและ
ณธรรม การศึกษา การศึกษา คุณลักษณะทพี่ ึงประสงค์ มี
มทีด่ งี ามให้กบั ทกั ษะชีวติ เปน็ ทีย่ อมรับของ
ยเู่ สมอโดย สังคม
มหน้าเสาธง
โฮมรูม
สุดสัปดาห์
ทานส่งเสรมิ

ผู้เรยี นตาม
ด ความส่ามา
บุคคล

ที่ สมรรถนะทจี่ ะพฒั นา อันดบั
8. การบรหิ ารจดั การช้ันเรียน ความสำคญั วิธีการ / รูปแบบ

3 -จัดบรรยากาศ
ให้เอือ้ ต่อการเ
-จัดมุมประสบ
เพื่อใหเ้ ปน็ แห
-จดั ป้ายนิเทศ
ขอ้ มลู ข่าวสา
เรียนรู้
-จัดทำเอกสาร
ในชน้ั เรยี นให้เ
-จัดระบบการ
ชว่ ยเหลอื ผู้เรีย
ข้อมูลไปใช้ใน
ผู้เรียน

ระยะเวลาในการ การขอรับ

พัฒนา งบประมาณ

บการพัฒนา เรม่ิ ต้น ส้นิ สุด สนบั สนุนจาก ประโยชน์ท่ีคาดวา่ จะไดร้ ับ
หนว่ ยงาน

ศในชน้ั เรยี น ตลอดปี ตลอดปี ห้องเรียนมบี รรยากาศทเ่ี อ้ือต่อ

เรยี นรู้ การศกึ ษา การศกึ ษา โรงเรียน การเรยี นรู้ ผเู้ รยี นมีความสขุ ใน

บการณ์ต่างๆ การเรียนรู้ ครมู ขี ้อมูลต่างๆ

หลง่ เรียนรู้ อยา่ งเป็นปัจจบุ นั ทส่ี ามารถเป็น

ศเพ่ือเป็น แบบอยา่ งได้

ารสำหรับการ

รงานธุรการ
เปน็ ปจั จุบนั
รดแู ล
ยนและนำ
นการพัฒนา

อนั ดบั
ที่ สมรรถนะทจ่ี ะพัฒนา ความสำคัญ วิธีการ / รูปแบบ

9. การวิเคราะห์ สังเคราะหแ์ ละการวิจัยใน 6 -เข้ารับการอบ
ชนั้ เรียน พัฒนาการจัด
9.1ความสามารถในการวเิ คราะห์ เรยี นรู้
9.2 ความสามารถในการสงั เคราะห์ เรียนรู้ เพ่อื พ
9.3ความสามารถในการเขยี นเอกสารทาง ของครูและผู้เร
วชิ าการ -ศกึ ษาเอกสาร
9.4ความสามารถในการวิจัย การจัดทำเอก
วชิ าการ
-ศกึ ษาผลงาน
การทำผลงาน
-ดำเนินการวิจ
เพือ่ แก้ปญั หา
พฒั นาผเู้ รยี น

บการพัฒนา ระยะเวลาในการ การขอรบั ประโยชนท์ ่ีคาดวา่ จะไดร้ บั
พัฒนา งบประมาณ
สนับสนนุ จาก
เร่ิมตน้ ส้นิ สุด หนว่ ยงาน

บรม ตลอดปี ตลอดปี โรงเรยี น - ครูมคี วามรู้
ดกิจกรรมการ การศึกษา การศึกษา ความสามารถในการ
จดั ทำสือ่ การ เขียนผลงานทาง
พฒั นาคณุ ภาพ
รียน วชิ าการและวิจัยในชั้น
ร ตำราใน เรยี นแบบง่ายได้
กสารทาง - ผ้เู รยี นไดร้ บั การ
แกป้ ัญหาที่ถกู วธิ โี ดยครู
นตวั อยา่ งใน ทำการวิจยั ในชัน้ เรียน
นทางวิชาการ - ครูมีการทำวิจัยในชัน้
จัยในชัน้ เรยี น เรยี นอยา่ งต่อเน่ือง
าตลอดจน

อนั ดับ

ท่ี สมรรถนะที่จะพัฒนา ความสำคญั วิธีการ / รูปแบบ

10. ภาวะผ้นู ำครู (Teacher Leadership) - พจิ ารณาทบทว
1. วฒุ ภิ าวะความเป็นผู้ใหญ่ ท่เี หมาะสม 10 ตนเองเกีย่ วกบั พฤ
กับความเปน็ ครู
2. การสนทนาอยา่ งสร้างสรรค์ แสดงออกต่อผู้เรีย
3. การเปน็ บคุ คลแห่งการเปลี่ยนแปลง ผู้อื่น และมีความร
4. การปฏบิ ตั ิงานอย่างไตร่ตรอง ตนเองและส่วนรว
5. การมุง่ พฒั นาผลสัมฤทธิ์ผูเ้ รยี น - เห็นคุณคา่ ใหค้
ความคิดเห็นหรือผ
ใหเ้ กยี รติแกผ่ ้อู น่ื
- กระตนุ้ จงู ใจ ปร
ความคดิ และการก
ผู้อื่นให้มคี วามผูกพ
- ให้ข้อมลู และขอ้
ดา้ นของผเู้ รยี นต่อ
และผูเ้ รยี นอย่างเป

ระยะเวลาในการ การขอรับ

พฒั นา งบประมาณ

บการพฒั นา เร่ิมตน้ สนิ้ สุด สนบั สนุนจาก ประโยชนท์ ่ีคาดวา่ จะได้รบั
หน่วยงาน

วน ประเมิน

ฤติกรรมที่

ยน และ ตลอดปี ตลอดปี โรงเรียน ตนเองเปน็ ผูท้ ี่มีคณุ ธรรม

รบั ผิดชอบต่อ การศกึ ษา การศึกษา จรยิ ธรรม มวี ินัย มีความ

วม รับผดิ ชอบ มีความก้าวหน้าใน

ความสำคญั ใน วชิ าชีพทส่ี งู ย่งิ ๆขึ้น

ผลงาน และ

รบั เปลี่ยน
กระทำของ
พนั และ
อคดิ เห็นรอบ
อผู้ปกครอง
ป็นระบบ