The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

2565_ตัวเล่ม_โครงงานสมุนไพรไล่ยุง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by rachana.hong, 2024-05-30 04:50:30

2565_โครงงานสมุนไพรไล่ยุง

2565_ตัวเล่ม_โครงงานสมุนไพรไล่ยุง

Keywords: โครงงานสมุนไพรไล่ยุง

รายงานโครงงานโดยใช้กระบวนการวัฏจักรสืบเสาะ ของเด็กปฐมวัย เรื่อง สมุนไพรไล่ยุง ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนวัดคฤหบดี (จันทรสถิตย์) สำนักงานเขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร


คำนำ รายงานผลการดำเนินงานโครงงานวัฏจักรสืบเสาะเรื่อง “สมุนไพรไล่ยุง” ของนักเรียนชั้น อนุบาลศึกษาปีที่ 1 และ 2 โรงเรียนวัดคฤหบดี (จันทรสถิตย์) ปีการศึกษา 2565 ฉบับนี้ จัดทำขึ้น เพื่อสรุปและรายงานผลการดำเนินงานโครงงานวัฏจักรสืบเสาะตามแนวทางโครงการบ้าน นักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย เพื่อขอรับตราพระราชทาน “บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย” รายงานฉบับนี้ผู้จัดทำได้เขียนบรรยายลำดับขั้นตอนของการดำเนินโครงงาน วัฏจักรการสืบเสาะและรายละเอียดต่างๆ ในการดำเนินงานไว้เรียบร้อยตามรูปแบบที่กำหนด คณะผู้ดำเนินงานขอขอบคุณผู้ให้การอบรม ผู้อำนวยการสถานศึกษา นักเรียน ผู้ปกครอง และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านในการสนับสนุนให้การดำเนินงานสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี คณะผู้ดำเนินงาน โครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย โรงเรียนวัดคฤหบดี (จันทรสถิตย์) 1


สารบัญ ขั้นที่ 1 ตั้งคำถามเกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ คำถามที่ 1 ชีวิตยุงเป็นอย่างไร ยุงจะโตใช้เวลากี่วัน ลักษณะของยุงเป็นอย่างไร ขั้นที่ 1 ตั้งคำถามเกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ ขั้นที่ 2 รวบรวมความคิด และ ข้อสันนิษฐาน ขั้นที่ 3 ทดสอบและปฏิบัติการสืบเสาะ ขั้นที่ 4 สังเกตและบรรยาย ขั้นที่ 5 บันทึกข้อมูล ขั้นที่ 6 สรุปและอภิปรายผล ผลการพัฒนาความสามารถของเด็กปฐมวัย คำถามที่ 2 จะทำที่ไล่ยุงแบบไหน และ อย่างไร ขั้นที่ 1 ตั้งคำถามเกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ ขั้นที่ 2 รวบรวมความคิด และ ข้อสันนิษฐาน ขั้นที่ 3 ทดสอบและปฏิบัติการสืบเสาะ ขั้นที่ 4 สังเกตและบรรยาย ขั้นที่ 5 บันทึกข้อมูล ขั้นที่ 6 สรุปและอภิปรายผล คำถามเพิ่มเติม ในหัวข้อคำถามเดิมว่าจะ “จะทำที่ฉีดไล่ยุงอย่างไร” คำถามย่อย ครั้งที่ 1 : จะนำน้ำผักที่ทำไล่ยุงไปใช้งานได้จริงได้อย่างไร ขั้นที่ 1 ตั้งคำถาม ขั้นที่ 2 รวบรวมความคิดและข้อสันนิษฐาน ขั้นที่ 3 ทดสอบและปฏิบัติการสืบเสาะ ขั้นที่ 4 สังเกตและบรรยาย ขั้นที่ 5 บันทึกผล ขั้นที่ 6 สรุปและอภิปรายผล คำถามย่อยครั้งที่ 2 : จะทำที่ไล่ยุงแบบที่ปลอดภัยได้อย่างไร ขั้นที่ 1 ตั้งคำถาม ขั้นที่ 2 รวบรวมความคิด และ ข้อสันนิษฐาน ขั้นที่ 3 ทดสอบและปฏิบัติการสืบเสาะ ขั้นที่ 4 สังเกตและบรรยาย ขั้นที่ 5 บันทึกผล ขั้นที่ 6 สรุปและอภิปรายผล ผลการพัฒนาความสามารถของเด็กปฐมวัย ภาคผนวก 2


ชื่อโครงงาน โครงงานสมุนไพรไล่ยุง ผู้จัดทำโครงงาน นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 และ 2 โรงเรียนวัดคฤหบดี(จันทรสถิตย์) สำนักงานเขตบางพลัด ครูที่ปรึกษา นางสาวรัชนา หงส์วณิชย์กุล (ครูผู้ช่วย) ระยะเวลาในการทำโครงงาน วันที่ 1 มกราคม ถึง 10 กุมภาพันธ์ 2566 ที่มาของโครงงาน หลังจากหยุดยาวปีใหม่ เมื่อเปิดเรียนมาเด็กได้สังเกตว่ามีสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ว่ายไปมาอยู่ในโหลทรง สี่เหลี่ยมที่ครูใส่น้ำสีเขียวเอาไว้ให้เล่นทดลองเรื่องอากาศมีตัวตน ซึ่งครูไม่ได้เทน้ำออกเพียงแต่เอาแผ่นไม้ ปิดไว้ พี่ ๆ สงสัยว่ามันคือตัวอะไร และเข้าไปได้อย่างไรทั้งที่ครูเอาแผ่นไม้วางปิดไว้ด้านบน เด็กบางคน บอกเพื่อนว่า “มันคือลูกอ๊อด ลูกของกบ” ครูยังคงไม่เฉลย และชวนเด็ก ๆ พูดคุยตั้งคำถามที่สนใจและ อยากรู้ ขั้นที่ 1 ตั้งคำถามเกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ 1. เด็ก ๆ สังเกตเห็นฝุ่นผงมากมายลอยอยู่ในน้ำ และเหลือบไปเห็นว่ามีสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ว่ายไปมาอยู่ ในโหลทรงสี่เหลี่ยมที่ครูใส่น้ำสีเขียวไว้ เด็ก ๆ สนทนาร่วมกันเพื่อทบทวนประสบการณ์เดิมว่าสิ่งที่ เห็นมันคือตัวอะไร และทำไมมันถึงเข้าไปได้ทั้งที่ครูเอาแผ่นไม้วางปิดไว้ด้านบน วายุ: ลูกยุง บ้านวายุมี อยู่ในแก้ว หน้าบ้าน นะโม: หนอน เฟย์: ลูกยุง หนูเคยเห็น เปา: มันคือลูกอ๊อด ลูกกบตอนเด็ก จูเนียร์: มันน่าจะเป็นลูกยุง ไม่ใช่ลูกกบ มีลูกก็ต้องมีพ่อแม่สิ ไม่เคยเห็นกบในห้องครู ฮอล: ใช่ ยุงนั่นแหละ ที่บ้านเราก็มี น่าตาแบบนี้แหละ แต่มันเข้าไปได้ยังไง ครูก็ปิดไว้ ครู: เด็ก ๆ คิดว่าทำไมยุงถึงเข้าไปวางไข่ในน้ำ ลองช่วยกันสังเกตดู โปเต้: มันมีรู ครูดูสิ ตรงนี้ ยุงเลยเข้าไปได้ จูเนียร์: หนูอยากรู้ว่าพ่อกับแม่ยุงออกลูกยังไง แล้วเมื่อไรยุงจะโต ฮอล: เราไม่ให้มันโตหรอก เดี๋ยวมันกัดเอา เราจะฆ่ามันให้ตาย เอามาบี้ๆให้เละ โปเต้: แค่ไล่มันก็ได้ ครูเขามีสเปรย์ นี่ไงสเปรย์ กลิ่นมันเหม็น (ครูแนะนำว่ามันคือ สเปรย์ตะไคร้หอมไล่ยุง) 2. ครูชวนเด็ก ๆ พูดคุยและช่วยกันตั้งคำถามร่วมกันว่าเราอยากรู้อะไรเกี่ยวกับยุงบ้าง ครูบอกเด็ก ๆ ว่าลูกของยุง เราเรียกว่า “ลูกน้ำ” ไม่ใช่ “ลูกอ๊อด” ครูชี้แจงให้เด็ก ๆ ฟังว่าหากคำถามใดที่มีใครรู้ คำตอบก็สามารถบอกเพื่อน ๆ ได้เลย 3


เปา: ลูกน้ำจะโตเหมือนกบหรือเปล่า และเปาคาดเดาว่า “เหมือนกัน” (วงจรชีวิตยุง) จูเนียร์: ยุงบินได้อย่างไร เวลาบินเอาขาไว้ตรงไหน ยุงใช้เวลากี่วันถึงจะบินได้ จูเนียร์คาดเดาว่า “ยุงบินได้เพราะมีปีก ไม่รู้ขาอยู่ตรงไหน มันบินเร็วมาก” (ลักษณะของยุง ,วงจรชีวิตยุง) ฮอล: ยุงมีกี่ชนิด มันโตแล้วเป็นยังไง ผมมองในน้ำสีเขียวไม่เห็น ครูช่วยเปลี่ยนเป็นน้ำ สีขาวหน่อยได้ไหม (ลักษณะของยุง) โปเต้: ยุงกินอะไร จูเนียร์: ยุงกินเลือดคน เปา: บ้านยุงอยู่ที่ไหน วายุ: ที่มืด ๆ เพราะว่า ยุงเยอะ เฟย์: ในบ้าน นะโม: เจอตอนนั่งกินข้าว ฮอล: อ่างบัวที่สนามเด็กเล่น จูเนียร์: ไม่มีหรอก ตกน้ำไปปลาก็กิน ปลามันตัวใหญ่กว่า ลูกน้ำสู้ปลาไม่ได้ ฮอล: ก็ตรงต้นไม้ข้างๆ มันมียุงเยอะจริงๆ ตอนเช้าเราเห็น โปเต้: ไม่อยากให้มียุง รู้สึกแบบไม่ชอบยุง ยุงกัดแล้วคัน จูเนียร์: เรามาทำที่ฉีดไล่ยุงกันไหมคะ หนูอยากทำ จะได้เอามาไว้กันยุงกัด จากคำถามข้างต้น ครูพาเด็กรวบรวมความคิดและสรุปคำถามที่เด็กสนใจและสงสัยอยากหา คำตอบโดยเขียนลงในแผ่นชาร์ท ซึ่งสรุปรวมคำถามได้ 2 คำถาม ได้แก่ a. คำถามที่ 1 ชีวิตยุงเป็นอย่างไร ยุงจะโตใช้เวลากี่วัน ลักษณะของยุงเป็นอย่างไร (สำรวจ และ สืบค้น) b. คำถามที่ 2 จะทำที่ไล่ยุงแบบไหน และ อย่างไร (ทดลอง) 4


คำถามที่ 1 ชีวิตยุงเป็นอย่างไร ยุงจะโตใช้เวลากี่วัน ลักษณะของยุงเป็นอย่างไร จุดประสงค์ เพื่อศึกษาการเจริญเติบโตของยุง ขั้นที่ 1 ตั้งคำถามเกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ 1. เด็ก ๆ สังเกตเห็นฝุ่นผงมากมายลอยอยู่ในน้ำ และเหลือบไปเห็นว่ามีสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ว่ายไปมาอยู่ ในโหลทรงสี่เหลี่ยมที่ครูใส่น้ำสีเขียวไว้ เด็ก ๆ สนทนาร่วมกันเพื่อทบทวนประสบการณ์เดิมว่าสิ่งที่ เห็นมันคือตัวอะไร และทำไมมันถึงเข้าไปได้ทั้งที่ครูเอาแผ่นไม้วางปิดไว้ด้านบน วายุ: ลูกยุง บ้านวายุมี อยู่ในแก้ว หน้าบ้าน นะโม: หนอน เฟย์: ลูกยุง หนูเคยเห็น เปา: มันคือลูกอ๊อด ลูกกบตอนเด็ก จูเนียร์: มันน่าจะเป็นลูกยุง ไม่ใช่ลูกกบ มีลูกก็ต้องมีพ่อแม่สิ ไม่เคยเห็นกบในห้องครู ฮอล: ใช่ ยุงนั่นแหละ ที่บ้านเราก็มี น่าตาแบบนี้แหละ แต่มันเข้าไปได้ยังไง ครูก็ปิดไว้ ครู: เด็ก ๆ คิดว่าทำไมยุงถึงเข้าไปวางไข่ในน้ำ ลองช่วยกันสังเกตดู โปเต้: มันมีรู ครูดูสิ ตรงนี้ ยุงเลยเข้าไปได้ จูเนียร์: หนูอยากรู้ว่าพ่อกับแม่ยุงออกลูกยังไง แล้วเมื่อไรยุงจะโต ฮอล: เราไม่ให้มันโตหรอก เดี๋ยวมันกัดเอา เราจะฆ่ามันให้ตาย เอามาบี้ๆให้เละ โปเต้: แค่ไล่มันก็ได้ ครูเขามีสเปรย์ นี่ไงสเปรย์ กลิ่นมันเหม็น (ครูแนะนำว่ามันคือ สเปรย์ตะไคร้หอมไล่ยุง) 2. ครูชวนเด็ก ๆ พูดคุยและช่วยกันตั้งคำถามร่วมกันว่าเราอยากรู้อะไรเกี่ยวกับยุงบ้าง ครูบอกเด็ก ๆ ว่าลูกของยุง เราเรียกว่า “ลูกน้ำ” ไม่ใช่ “ลูกอ๊อด” ครูชี้แจงให้เด็ก ๆ ฟังว่าหากคำถามใดที่มีใครรู้ คำตอบก็สามารถบอกเพื่อน ๆ ได้เลย เปา: ลูกน้ำจะโตเหมือนกบหรือเปล่า และเปาคาดเดาว่า “เหมือนกัน” (วงจรชีวิตยุง) จูเนียร์: ยุงบินได้อย่างไร เวลาบินเอาขาไว้ตรงไหน ยุงใช้เวลากี่วันถึงจะบินได้ จูเนียร์คาดเดาว่า “ยุงบินได้เพราะมีปีก ไม่รู้ขาอยู่ตรงไหน มันบินเร็วมาก” (ลักษณะของยุง ,วงจรชีวิตยุง) ฮอล: ยุงมีกี่ชนิด มันโตแล้วเป็นยังไง ผมมองในน้ำสีเขียวไม่เห็น ครูช่วยเปลี่ยนเป็นน้ำ สีขาวหน่อยได้ไหม (ลักษณะของยุง) โปเต้: ยุงกินอะไร จูเนียร์: ยุงกินเลือดคน เปา: บ้านยุงอยู่ที่ไหน วายุ: ที่มืด ๆ เพราะว่า ยุงเยอะ เฟย์: ในบ้าน นะโม: เจอตอนนั่งกินข้าว ฮอล: อ่างบัวที่สนามเด็กเล่น จูเนียร์: ไม่มีหรอก ตกน้ำไปปลาก็กิน ปลามันตัวใหญ่กว่า ลูกน้ำสู้ปลาไม่ได้ 5


ฮอล: ก็ตรงต้นไม้ข้างๆ มันมียุงเยอะจริงๆ ตอนเช้าเราเห็น โปเต้: ไม่อยากให้มียุง รู้สึกแบบไม่ชอบยุง ยุงกัดแล้วคัน จูเนียร์: เรามาทำที่ฉีดไล่ยุงกันไหมคะ หนูอยากทำ จะได้เอามาไว้กันยุงกัด หมายเหตุ เนื่องจากลูกน้ำเริ่มโตแล้ว ครูจึงจะเทน้ำในโหลทิ้งก่อนจะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงในห้อง แต่พี่ อนุบาล 2 บอกว่าอยากดูอีกว่ามันจะโตเป็นอย่างไร จึงขอเอาตัวลูกน้ำมาใส่ขวดน้ำไว้ 3. จากคำถามข้างต้น ครูพาเด็กรวบรวมความคิดและสรุปคำถามที่เด็กสนใจและสงสัยอยากหา คำตอบโดยเขียนลงในแผ่นชาร์ท ซึ่งสรุปรวมคำถามได้ 2 คำถาม ดังที่ได้กล่าวไว้ในที่มาของโครง งาน ได้แก่ a. คำถามที่ 1 ชีวิตยุงเป็นอย่างไร ยุงจะโตใช้เวลากี่วัน ลักษณะของยุงเป็นอย่างไร (สำรวจ และ สืบค้น) b. คำถามที่ 2 จะทำที่ไล่ยุงแบบไหน และ อย่างไร (ทดลอง) ขั้นที่ 2 รวบรวมความคิด และ ข้อสันนิษฐาน ครูและเด็กร่วมกันวางแผนการสำรวจการเจริญเติบโตของยุงว่าเป็นอย่างไร ยุงจะโตใช้เวลากี่วัน ลักษณะของยุงแต่ละช่วงชีวิตเป็นอย่างไร โดยครูกระตุ้นให้เด็กคิดว่าเราจะทำการศึกษาชีวิตของยุง อย่างไร ใช้อุปกรณ์อะไรบ้าง และจะบันทึกข้อมูลอย่างไร ครู: เราจะทำการศึกษาชีวิตของยุงอย่างไร จะรู้ได้อย่างไรว่าชีวิตยุงเป็นอย่างไร ใช้เวลากี่วัน ถึงจะโต ลักษณะของยุงแต่ละช่วงชีวิตเป็นอย่างไร จูเนียร์: ดูในมือถือก็ได้นะคะ โปเต้: ในหนังสือที่ครูเคยเอาแมลงมาให้ดูก็มียุงนะ (สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน) 6


เปา: ดูยุงจริงๆในขวดครับ (ขวดน้ำสีเขียว) ฮอล: แต่ผมมองไม่ค่อยเห็น น้ำมันเขียว ทำใหม่ได้ไหม ครู: ได้ค่ะ แล้วจะทำอย่างไร จะใช้อุปกรณ์อะไรบ้าง ฮอล: ทำแบบที่ครูทำ ใส่ในขวดแต่เปลี่ยนเป็นน้ำสีขาว ณ ตอนนั้น เด็ก ๆ สังเกตเห็นยุงในแต่ละช่วงชีวิต มีลูกน้ำ ตัวโม่ง และ ยุงเต็มวัย ที่บินอยู่ในขวดน้ำ สีเขียว ซึ่งลูกน้ำเหล่านี้ได้ตักเอามาใส่ไว้ก่อนหน้าที่จะปิดฝาไว้ ยกเว้นตอนเป็นไข่ที่เด็ก ๆ ยังไม่เคยเห็น (ครูบอกว่าครูไม่ได้จับยุงที่บินได้นี้มาไว้ในขวดนะ มันโตแล้ว เด็ก ๆ รับรู้และเข้าใจ) แต่เด็ก ๆ ยังไม่รู้ว่ายุง ใช้เวลากี่วันจึงจะโตบินได้ ครู: เด็ก ๆ คิดว่ายุงใช้เวลานานเท่าไรถึงจะโตบินได้ วายุ: 20 เฟย์: 100 เปา: 500 วัน ครู: ครูก็ยังตอบไม่ได้ว่ายุงใช้เวลากี่วันถึงจะโต แต่เราจะบันทึกข้อมูลอย่างไรว่าตอนนี้ยุงโตไป ถึงไหนแล้ว ใช้เวลากี่วันแล้ว จูเนียร์: วาดรูปค่ะ ดูมันโตทุกวันว่าเป็นยังไง ครู: เพื่อน ๆ เห็นด้วยกับวิธีที่จูเนียร์เสนอหรือไม่ ทุกคน: เห็นด้วย ครู: ครูเสนอแนะว่าอยากจะให้เราแบ่งกลุ่มดู จะได้ช่วยกันสังเกตว่าแต่ละกลุ่มเหมือนกันไหม แล้วก็อยากให้แต่ละกลุ่มมีน้องเล็กด้วยเพราะว่าน้องอาจจะยังวาดและเขียนตัวอักษรไม่ได้ ทุกคนมีความ คิดเห็นว่าอย่างไรบ้าง ช่วยครูคิดหน่อยจะแบ่งกลุ่มอย่างไรดี โปเต้: ครูก็นับเลข 1, 2 สลับกันไปเหมือนที่เราเคยเล่นกัน ครู: ทุกคนมีความคิดเห็นอย่างไร เห็นด้วยกับความคิดโปเต้หรือเปล่า หรือมีใครมีความคิด อย่างอื่น บอกครูได้นะ ทุกคน: เห็นด้วย 7


ครูช่วยรวบรวมสรุปความคิดของเด็ก ดังต่อไปนี้ 1. แนวทางการหาคำตอบ ได้แก่ a. สำรวจ - ศึกษาและสังเกตลักษณะของยุงโดยวางขวดทดลองในห้อง รอยุงมา วางไข่และสังเกตต่อเนื่องพร้อมบันทึกผลการสังเกต b. สืบค้น - สำรวจตรวจสอบร่วมกันระหว่างครูผู้สอนกับเด็กในการสืบค้นข้อมูลใน ในหนังสือสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน เรื่อง แมลง บทความทางอินเทอร์เน็ต เกี่ยวกับยุง และ วีดิทัศน์วงจรชีวิตยุง 2. การบันทึกข้อมูลด้วยการเขียนภาพ เด็ก ๆ แบ่งกลุ่มและกำหนดบทบาทหน้าที่ โดยเล่น นับเลข 1 และ 2 จนครบทุกคน คนที่ได้เลขเดียวกันจะอยู่กลุ่มเดียวกันโดยแต่ละกลุ่มจะมี พี่โตอนุบาล 2 และอนุบาล 1 อยู่ด้วยกัน ได้ทั้งหมดจำนวน 2 กลุ่ม กลุ่มละ 4 คน และ 3 คน ทั้งนี้มีการกำหนดบทบาทหน้าที่ของแต่ละคนโดยพี่โตจะเป็นคนบันทึกข้อมูล น้องเล็ก จะมีส่วนร่วมช่วยสังเกตและวาดรูปตามความสามารถ ขั้นที่ 3 ทดสอบและปฏิบัติการสืบเสาะ 1. นำโหลแก้วไปวางไว้ในที่ที่คิดว่ายุงน่าจะมาวางไข่ ซึ่งร่วมกันคิดว่า วางไว้ในห้องเหมือน เดิม ตำแหน่งเดิมบนโต๊ะหน้าห้องเพราะยุงเคยมาวางไข่ (เริ่มวางภาชนะวันศุกร์ที่ 20 ม.ค. 66) 2. รอและสังเกตน้ำในภาชนะว่ามียุงมาวางไข่หรือไม่ เมื่อยุงมาวางไข่ให้ปิดฝา และสังเกต ชีวิตยุงในแต่ละช่วงวัย 3. ไปเดินสำรวจตามแหล่งน้ำต่าง ๆ ภายในโรงเรียนว่าพบลูกน้ำ หรือ ยุง ที่ไหนบ้าง เด็ก ๆ ไปสังเกตบริเวณบ่อปูนซีเมนต์ที่สนามเด็กเล่น บ่อปูนซีเมนต์ข้างครัว ถังน้ำ และแหล่งน้ำขัง ครูชวนพูดคุย ว่าสังเกตเห็นยุงหรือไม่ เห็นที่ไหนบ้าง ลักษณะน้ำที่มียุงอยู่เป็นอย่างไร ยุงที่เห็นมีลักษณะอย่างไร 8


4. หาความรู้เกี่ยวกับวงจรชีวิตยุง ชื่อยุงชนิดต่าง ๆ โรคที่มากับยุง และวิธีป้องกันยุง ใน หนังสือสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน (เล่มที่ 19 เรื่องที่ 5 แมลง) บทความทางอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับยุง และ วีดิทัศน์วงจรชีวิตยุง ขั้นที่ 4 สังเกตและบรรยาย 1. เด็กนับเวลาแต่ละช่วงวัยของยุงโดยบันทึกเป็นตารางนับวันใส่กระดาษ โดยแต่ละกลุ่ม ทำการนับวันที่เริ่มสังเกตเห็นลูกน้ำ ไว้ดังนี้ a. วางภาชนะวันศุกร์ที่ 20 ม.ค. 66 b. เริ่มสังเกตเห็นลูกน้ำ 2-3 ตัว ในวันอังคารที่ 24 ม.ค. 66 ไข่ ลูกน ➡️ ้ำ ใช้เวลาประมาณ 5 วัน c. มีลูกน้ำเริ่มกลายเป็นตัวโม่ง ในวันจันทร์ที่ 30 ม.ค. 66 ลูกน้ำ ตัวโม่ง ➡️ ใช้เวลาประมาณ 7 วัน d. มีตัวโม่งกลายเป็นยุง ในวันจันทร์ที่ 6 ก.พ. 66 ตัวโม่ง ยุง ➡️ สังเกตเห็นตัวแรก ใช้เวลาประมาณ 8 วัน e. สรุปยุงมีวงจรชีวิตจากลูกน้ำไปเป็นยุงเต็มวัยที่เด็กสังเกตตัวแรก จะใช้เวลา ประมาณ 20 วัน ทั้งนี้เด็กไม่ได้สังเกตในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ วันจึงอาจคลาดเคลื่อน (ได้ร่วมพูดคุยกับเด็ก เรื่องจำนวนวันที่อาจคลาดเคลื่อนไปแล้ว) 9


ขั้นที่ 5 บันทึกข้อมูล 1. เด็กสังเกตยุงแต่ละช่วงวัยว่ามีลักษณะรูปร่างอย่างไร พร้อมบันทึกข้อมูลในตารางบันทึก การเจริญเติบโตของยุง ภาพตารางบันทึกวงจรชีวิตจากลูกน้ำไปเป็นยุงเต็มวัย 10


2. เด็กช่วยกันวาดรูปยุงในแต่ละช่วงวัยและทำสรุปวงจรชีวิตยุง ไข่ ลูกน้ำ ตัวโม่ง ยุงโตเต็มวัย 11


ขั้นที่ 6 สรุปและอภิปรายผล จากข้อมูลที่ได้จากการสำรวจตรวจสอบ เด็กได้สนทนาร่วมกันถึงสิ่งที่ค้นพบมีอะไรบ้าง และ ข้อสันนิษฐานของเด็กเป็นไปตามที่คาดเดาไว้หรือไม่ อย่างไร จากนั้นครูได้นำร่องรอยการเรียนรู้ของเด็ก ทั้งหมดมาจัดแสดงภายในห้องเรียนเพื่อให้เด็กได้ทบทวนและสื่อสารสิ่งที่ได้เรียนรู้ให้กับบุคคลอื่น ๆ ที่มา เยี่ยมชมห้องเรียน คำถาม สรุปคำพูดเด็ก ข้อสันนิษฐาน ข้อค้นพบของเด็ก เรียนรู้เพิ่มเติม (คำพูดเด็ก) วงจรชีวิตยุงเป็นอย่างไร เปา: ลูกน้ำจะโตเหมือน กบหรือเปล่า เหมือนกัน ให้เด็กดูวงจรชีวิตกบ และ เปรียบเทียบกับยุง เปา: ลูกน้ำโตมาเป็นยุง ไม่ใช่กบ แต่มีชีวิตเหมือน กัน ยุงมีไข่ ลูกน้ำ ตัวโม่ง และ ยุงโต กบมีไข่ ลูกอ๊อด ลูกกบ และกบโต กบมีชีวิต 4 แบบ ได้แก่ ไข่ ลูกอ๊อด ลูกกบ และกบโต ยุงจะโต ใช้เวลากี่วัน ยุง ใช้เวลากี่วันถึงจะบินได้ จูเนียร์: ยุงบินได้ อย่างไร เวลาบินเอาขา ไว้ตรงไหน ยุงใช้เวลากี่ วันถึงจะบินได้ จูเนียร์: ยุงบินได้เพราะ มีปีก เด็ก ๆ ร่วมกันคาดเดา จำนวนของวัน เช่น 20 100 และ 500 วัน จูเนียร์: ยุงมีปีกเล็ก ๆ ทำให้มันบินได้ค่ะ ขายุงก็ อยู่ข้าง ๆ ตอนบิน หนูดูในรูปไข่ยุงมันจะ เป็นเม็ดดำๆ หนูไม่เห็น แม่มันออกไข่ หยุด โรงเรียนไป มาอีกทีก็เห็น ลูกน้ำแล้ว เปา: ลูกน้ำจะมีตัวยาว ๆ มีขนรอบ ๆ พอหัวมัน กลมก็จะเรียกว่าตัวโม่ง โปเต้: ตัวโม่งเป็นยุง ใช้ เวลานานหลายวัน 12


คำถาม สรุปคำพูดเด็ก ข้อสันนิษฐาน ข้อค้นพบของเด็ก เรียนรู้เพิ่มเติม (คำพูดเด็ก) ลักษณะของยุงเป็น อย่างไร ยุงมีกี่ชนิด ฮอล: ยุงมีกี่ชนิด มันโตแล้วเป็นยังไง ฮอล: ยุงเป็นแมลง มี ปีก บินได้ กินเลือดคน ไม่รู้ว่ามีกี่ชนิด ฮอล:ยุงเป็นแมลง มีปีก ยุงมี หัว หน้าอก และ ท้อง จูเนียร์: ยุงตัวเมียจะดูดเลือด เพราะต้องเอาไปเลี้ยงลูก ตัวผู้จะไม่ดูดเลือด ดูดน้ำ หวาน โปเต้: มียุงลาย ยุงเสือ เปา: ยุงก้นปล่อง จูเนียร์: ยุงรำคาญ เรียนรู้เรื่องโรคที่มากับยุง แต่ละชนิด และวิธี ป้องกันยุง ฮอล: ถูบ้านให้สะอาด จูเนียร์: เลี้ยงปลาในอ่าง จะได้ไม่มีลูกน้ำ เปา: ไม่ให้มีน้ำขัง โปเต้: เก็บบ้านให้สะอาด ฮอล: บ้านยุงอยู่ ที่ไหน วายุ: ที่มืด ๆ เพราะยุงเยอะ ฮอล: อ่างบัวที่ สนามเด็กเล่น จูเนียร์: ไม่มีหรอก ตก น้ำไปปลาก็กิน ปลา มันตัวใหญ่กว่า ลูกน้ำ สู้ปลาไม่ได้ ฮอล: อยู่ในน้ำขัง ครู: ลักษณะน้ำเป็นอย่างไร ฮอล: น้ำสกปรก น้ำนิ่ง จูเนียร์: ในอ่างบัวไม่มียุง เพราะมีปลาสอดสีส้ม ครู: ลักษณะน้ำเป็นอย่างไร จูเนียร์: น้ำใส มีใบบัว สาหร่าย มีปลาว่ายไปมา เปา: อยู่ในถ้วย ในห้องเรา ครับ ครู: ลักษณะน้ำเป็นอย่างไร เปา: น้ำสีขาว น้ำนิ่ง โปเต้: น้ำตรงที่รองกระถาง ต้นไม้ ครู: ลักษณะน้ำเป็นอย่างไร โปเต้: น้ำไม่เยอะ น้ำนิ่ง ผลการพัฒนาความสามารถของเด็กปฐมวัย 1. ผลการพัฒนาความสามารถพื้นฐาน 4 ด้าน ตามโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยประเทศไทย 1.1. ด้านการเรียนรู้ 1.1.1. รู้จักตั้งคำถามในสิ่งที่สนใจและสงสัยอยากรู้ โดยใช้ประโยคคำถามว่า “อะไร” “เมื่อไร” “อย่างไร” ในการค้นหาคำตอบ 13


1.1.2. เรียนรู้ที่จะคาดเดาเหตุการณ์ ผลของสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น หรือมีส่วนร่วมในการลง ความเห็นจากข้อมูลอย่างมีเหตุผล 1.1.3. ได้สังเกตจากของจริงและบันทึกข้อมูลอย่างเป็นลำดับขั้นตอนด้วยตนเอง 1.1.4. เรียนรู้คำศัพท์และความคิดรวบยอดเกี่ยวกับเรื่องของยุง 1.1.5. ได้เรียนรู้ต่อยอดในสิ่งที่ตนสงสัยจนเกิดเป็นการเรียนรู้เพิ่มเติม เช่น โรคที่มากับ ยุงแต่ละชนิด และวิธีป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากยุง 1.2. ด้านภาษา 1.2.1. สามารถพูดสื่อสารบอกสิ่งที่สังเกตเห็นและได้เรียนรู้จากการทดลองร่วมกับเพื่อน และครูได้ 1.2.2. สามารถพูดแสดงความคิดเห็น สนทนาโต้ตอบ บอกความคิด ความรู้สึก และ ความต้องการ บอกเล่าประสบการณ์ของตนเองให้ผู้อื่นเข้าใจ 1.2.3. สามารถวาดภาพบันทึกสิ่งที่สังเกตเห็น เขียนคำศัพท์ชื่อเรียกของยุงในแต่ละ ช่วงวัยโดยลอกแบบตัวอักษรของครูลงบนกระดาษได้ด้วยตนเอง 1.3. ด้านสังคม 1.3.1. เรียนรู้ที่จะทำงานร่วมมือกับเพื่อนอย่างมีเป้าหมาย ทำงานเป็นกลุ่ม มี ปฏิสัมพันธ์แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน แบ่งงานกันทำ ช่วยเหลือกัน แนะนำกัน 1.3.2. ปฏิบัติตนเป็นผู้นำและผู้ตามได้เหมาะสม 1.3.3. ร่วมแสดงความคิดเห็นและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น 1.4. ด้านการเคลื่อนไหว 1.4.1. ใช้มือ - ตาประสานสัมพันธ์กัน ในการหยิบ จับ อุปกรณ์ที่ใช้ในการทดลอง การเทน้ำ การเขียนตัวอักษร การเขียนรูป การใช้กรรไกรตัดกระดาษ ปะติดรูป 2. ผลการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 2.1. ทักษะการสังเกต 2.1.1. สังเกตการเปลี่ยนแปลงลักษณะของยุงในแต่ละช่วงวัย และสามารถบอกได้ว่ายุง มีลักษณะเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละช่วงเวลาเริ่มตั้งแต่ลูกน้ำเป็นตัวบินได้ เห็นการ เคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตในน้ำว่าเป็นอย่างไร 2.2. ทักษะการจำแนกประเภท 2.2.1. จำแนกประเภทของยุงจากเพศ ได้แก่ ยุงตัวผู้และตัวเมีย ยุงตัวเมียจะดูดเลือด เพราะต้องเอาไปเลี้ยงลูก ตัวผู้จะไม่ดูดเลือด ดูดน้ำหวาน 2.2.2. เรียนรู้วิธีการแบ่งกลุ่มเป็น 2 กลุ่ม จากการนับ 1 และ 2 โดยให้คนนับ 1 อยู่กลุ่มที่ 1 คนนับ 2 อยู่กลุ่มที่ 2 2.2.3. เปรียบเทียบและบอกความเหมือนและความแตกต่างระหว่างวงจรชีวิตของกบ และยุง 2.3. ทักษะการคำนวณ 2.3.1. การนับจำนวนวันในแต่ละช่วงวัยของยุง เริ่มตั้งแต่ ลูกน้ำ ตัวโม่ง และ ตัวเต็มวัย 2.4. ทักษะการจัดกระทำและสื่อความหมายข้อมูล 2.4.1. สามารถสรุปผลสิ่งที่สังเกตได้โดยการวาดภาพ และพูดสื่อสารสิ่งที่ได้เรียนรู้ให้ ผู้อื่นเข้าใจได้ 14


คำถามที่ 2 จะทำที่ไล่ยุงแบบไหน และ อย่างไร จุดประสงค์ 1. บอกวิธีดูแลตนเองให้ปลอดภัยจากยุงได้ 2. ทำที่ไล่ยุงอย่างง่ายจากสมุนไพรและพืชผักสวนครัว ขั้นที่ 1 ตั้งคำถามเกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ ครูกระตุ้นความสนใจของเด็กด้วยคำถามที่ว่า จะทำอย่างไรให้เราปลอดภัยจากยุง และป้องกันไม่ ให้ยุงมากัดเราได้ ครูรวบรวมคำตอบจากการสนทนา ฮอล: ทำความสะอาดบ้านให้สะอาด ปิดฝาโอ่งยุงจะได้ไม่เข้าไป เทน้ำออกให้หมด (เรียกครูให้ไปดูแผ่นข่าวสารที่ติดไว้หน้าประตูห้อง ตอนเรียนรู้เรื่องไข้เลือดออก) โปเต้: เลี้ยงปลาหางนกยูง ปลาทอง ปลาสอดสีส้มให้กินลูกน้ำเหมือนของลุงแสน เปา: ในห้องไม่มีน้ำขัง แต่มียุง ต้องใช้ยากันยุง จูเนียร์: เราต้องปิดฝาขวดและไม่เจาะรู จุดยากันยุง ทายากันยุงตะไคร้หอมเหมือนของ ครู ใช้มุ้งกันยุงตอนนอน ใช้พัดลมพัดยุง จูเนียร์: ครูคะ แล้วทำไมยุงถึงไม่ชอบกลิ่นตะไคร้หอม ครู: เป็นคำถามที่ดีมาก หนูคิดว่าทำไม จูเนียร์: หนูว่ามันมีกลิ่นที่ยุงไม่ชอบ ฮอล: ยุงมันเหม็น จูเนียร์: เมื่อไรเราจะได้ทำสเปรย์ไล่ยุงกันคะ หนูอยากทำ ครู: ทำจ้ะ แล้วเราจะเริ่มอย่างไรดี ฮอล: เราต้องหาอะไรที่ยุงไม่ชอบมาใส่ในสเปรย์ ครู: เด็ก ๆ คิดว่ามีอะไรบ้างที่ยุงน่าจะไม่ชอบ ครูให้เราช่วยกันคิดก่อนดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง ที่ยุงชอบและยุงไม่ชอบ 15


ขั้นที่ 2 รวบรวมความคิด และ ข้อสันนิษฐาน 1. ครูใช้คำถามเพื่อตรวจสอบความรู้และประสบการณ์เดิมของเด็กเกี่ยวกับอุปกรณ์หรือสิ่งที่ช่วย ป้องกันยุงไม่ให้มากัดได้ ดังนี้ ครู: ที่บ้านของเด็ก ๆ มีวิธีป้องกันยุงอย่างไร มีอุปกรณ์หรือสิ่งที่ช่วยป้องกันยุงหรือไม่ ฮอล: มีไม้ตียุง ให้ไฟช็อตยุง ถ้ามีเสียงเปรี๊ยะๆ แสดงว่าโดนแล้วยุงก็ตาย เฟย์: บ้านหนูก็มี ไม้ตียุง นะโม: ที่บ้านนะโมก็มี ไม้ตียุง หนูไม่ได้ใช้ แม่ใช้ ไม่เอากลัวโดนไฟช็อต โปเต้: ไม่มี มีแต่โดนกัดแล้วก็ทายา ไม่ให้คัน จูเนียร์: หนูมียากันยุงเป็นขวดที่ครูเคยให้ไปค่ะ ทาที่กางเกง เสื้อ เปา: ย่าจุดยากันยุง เป็นวงกลมๆ ครู: ที่บ้านเด็ก ๆ มีวิธีป้องกันและไล่ยุงที่หลากหลาย แต่คำถามอยู่ที่ว่า เราจะมาทำที่ฉีดไล่ยุงกัน เด็ก ๆ คิดว่าเราจะทำที่ไล่ยุงแบบไหน จะใช้อะไรบ้าง เพราะอะไร ครูขอให้เป็นของที่หาได้ง่าย อย่างเช่น หาได้ในโรงเรียนของเรา หรือ ที่บ้าน เป็นต้น จูเนียร์: เป็นผักได้ไหมคะ ครู: ได้ค่ะ แต่ต้องลองทดลองดู จูเนียร์: หนูเอาผักชีค่ะ ยุงน่าจะเหม็น และ พริก เพราะว่ายุงดมแล้วอาจจะแสบจมูก ครู: แสดงว่าจูเนียร์จะใช้กลิ่นของผักชีและพริกมาเป็นตัวไล่ยุง ถูกต้องไหมคะ จูเนียร์: ถูกต้องค่ะ กลิ่น ครู: คนอื่นคิดว่ามีอะไรอีกที่ยุงน่าจะไม่ชอบ วายุ: มะนาว มันเปรี้ยว ครู: วายุจะให้ยุงมาชิมมะนาวหรือคะ วายุ: ใช่ พอมันดูดน้ำไป อุ้ยเปรี้ยว ไม่ไหวไปดีกว่า เปา: ของวายุ ถ้าจะฉีดสเปรย์ก็ต้องให้เข้าปากของยุงนะ ฮอล: พริกไทย มันเผ็ด ครู: ของฮอล ยุงมันไม่ชอบอะไร กลิ่นหรือรสชาติ ฮอล: ทั้งหมดเลย ถ้ามันเผลอกินไปด้วยก็คงสำลักตาย โปเต้: ซอสแม็กกี้ มันเค็ม เปา: มะเขือเทศ เปรี้ยว ยุงไม่น่าชอบ 16


2. ครูและเด็กช่วยกันเขียนภาพตารางบันทึกข้อมูลเปรียบเทียบสิ่งที่ยุงชอบและไม่ชอบลงบนแผ่น ชาร์ท และสรุปสิ่งที่เด็กต้องการนำมาทดลอง 3. ครูให้เด็กร่วมกันลงคะแนนเลือกสิ่งที่จะนำมาทดลอง ขั้นที่ 3 ทดสอบและปฏิบัติการสืบเสาะ 1. เด็ก ๆ แต่ละคนเตรียมของกันมาจากที่บ้าน แต่เนื่องจาก บางคนไม่ได้นำมาและนำมาไม่ครบตาม จำนวนที่คิดไว้ ดังนั้นสิ่งของที่จะนำมาใช้ทดลองจึงได้แก่ มะเขือเทศ พริกแห้ง พริกสด มะนาว และ ซอสแม็กกี้ 2. ครูและเด็กร่วมกันออกแบบวิธีการใช้งานสิ่งที่จะนำมาใช้ไล่ยุง ต้องใช้อุปกรณ์อะไรบ้าง ใช้จำนวน เท่าไร จะบันทึกข้อมูลอย่างไร และกำหนดบทบาทหน้าที่ของแต่ละคนอย่างไร 17


a. เด็ก ๆ ช่วยกันออกแบบวิธีใช้งานตามตารางด้านล่าง และจำนวนที่จะใช้ b. อุปกรณ์ที่ใช้ ได้แก่ ภาชนะใส่น้ำและสิ่งที่ทดลอง มีดไว้หั่น ช้อน c. สิ่งของที่ทดลองและอุปกรณ์ เด็ก ๆ จะนำมาจากบ้าน บางคนว่าจะไปขอป้าเล็กแม่ครัวที่ โรงเรียน เช่น มีด เขียง เป็นต้น d. บันทึกข้อมูลด้วยการถ่ายภาพและการวาดภาพ e. บทบาทหน้าที่ เด็ก ๆ จะเลือกกลุ่มของทดลองตามที่สนใจ ทั้งนี้เด็ก ๆ ตัดสินใจจะให้ป้า เล็กเป็นคนช่วยหั่นผักเพราะกลัวมีดบาด 3. แบ่งกลุ่มตามของที่นำมาดังนี้ 18


a. กลุ่มที่ 1 พริกแห้ง - หัก สับ ให้ละเอียดด้วยมีด ใส่น้ำ เขย่า น้ำไม่ผสมสีเดี๋ยวมองไม่เห็น จำนวน 12 เม็ด b. กลุ่มที่ 2 พริกสด - สับให้เมล็ดออกมา ใส่น้ำ เขย่า จำนวน 10 เม็ด c. กลุ่มที่ 3 พริกสด - ใส่ทั้งเม็ด ไม่สับ ใส่น้ำ จำนวน 2 เม็ด d. กลุ่มที่ 4 มะนาว ผ่าครึ่ง ไม่เอาเปลือก ไม่ใช้เมล็ด บีบน้ำมะนาว ใส่น้ำ เขย่า จำนวน 1 ลูก e. กลุ่มที่ 5 มะเขือเทศ ผ่าครึ่งเหมือนกัน ใส่น้ำ เขย่า จำนวน 1 ลูก f. กลุ่มที่ 6 ซอสแม็กกี้ ใส่แม็กกี้ ใส่น้ำ 9 ช้อนโต๊ะ 4. เด็ก ๆ ไปหาป้าเล็กเพื่อให้ป้าเล็กช่วยหั่นพริก มะเขือเทศ และ มะนาว เด็ก ๆ ช่วยกันเตรียม วัตถุดิบสำหรับทำการทดลอง 19


5. เด็ก ๆ นำภาชนะไปวางในตำแหน่งที่คิดว่ามียุงเยอะ (10 ม.ค. 66) ขั้นที่ 4 สังเกตและบรรยาย หลังจากที่วางโหลดักยุงแล้ว เด็ก ๆ จะใช้เวลาทุกวันลงมาสังเกตภาชนะว่ามียุงมาวางไข่หรือไม่ วันอังคารที่ 10 ม.ค. 66 วางโหลดักยุง วันพฤหัสที่ 12 ม.ค. 66 เด็ก ๆ แต่ละกลุ่มเริ่มสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลง กลุ่มที่ สิ่งที่สังเกตพบเห็น / กลิ่น กลุ่มที่ 1 พริกแห้ง ใบไม้ แมลงตัวเล็ก ๆ ไม่มีลูกน้ำ ไม่มีกลิ่น กลุ่มที่ 2 พริกสด ดอกไม้สีเหลือง ตัวด้วงสีดำ แมลงตัวเล็ก ๆ ที่ตายแล้ว ไม่มีลูกน้ำ ไม่มีกลิ่น 20


กลุ่มที่ 3 พริกสด ใบไม้ ดอกไม้ ไม่มีแมลง ไม่มีลูกน้ำ ไม่มีกลิ่น กลุ่มที่ 4 มะนาว ไม่มีแมลง ไม่มีลูกน้ำ กลิ่นมะนาว กลุ่มที่ 5 มะเขือเทศ เศษใบไม้ ดอกไม้ แมลงตัวเล็ก ๆ ตกลงไป ตาย ขี้ฝุ่น ไม่มีลูกน้ำ ไม่มีกลิ่น กลุ่มที่ 6 ซอสแม็กกี้ มีเชื้อราขาว ๆ ลอยอยู่ ไม่มีลูกน้ำ กลิ่นแม็กกี้ หลังจากสังเกตเห็นน้ำที่เปลี่ยนไปและพบเจอสิ่งแปลกปลอมมากมาย เด็ก ๆ สังเกตเห็นว่ามีเพียง โหลของกลุ่มที่ 3 พริกสด (จูเนียร์) และ กลุ่มที่ 4 มะนาว (ฮอล,นะโม) ที่ไม่มีแมลงตกลงไป เด็ก ๆ ต้องการทดลองต่อยังไม่อยากเททิ้ง ครูจึงชวนพูดคุยว่าแล้วจะทำอย่างไรต่อในเมื่อเราเห็นแล้วว่ายุง ไม่มาวางไข่เลย แต่น้ำก็สกปรกแล้ว ฮอล: เอาน้ำเปล่าใส่ลงไป ครู: ถ้าใส่ลงไปเลยจะเกิดอะไรขึ้น 21


ฮอล: น้ำก็เยอะขึ้น แต่ก็ไปรวมกัน สกปรกเน่าจะอ้วกกว่าเดิม จูเนียร์: เอาขวดน้ำเปล่าใส่ลงไปตรงกลางเลยค่ะ ครู: ทุกคนเห็นว่าอย่างไร เด็ก ๆ บอกว่า “ก็ได้” ทุกคนจึงไปหาขวดเปล่าที่ถุงแยกขวดของป้าเล็กแล้วไปเติมน้ำเปล่า จากนั้น เอาไปวางไว้ในโหลของกลุ่มตนเอง และนำโหลกลับไปวางที่ตำแหน่งเดิมเพื่อเฝ้าดูต่อไป ขั้นที่ 5 บันทึกข้อมูล วันอังคารที่ 17 ม.ค. 66 เด็ก ๆ สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนมากขึ้น เด็ก ๆ วาดภาพ บันทึกสิ่งที่สังเกตเห็น กลุ่มที่ สิ่งที่สังเกตพบเห็น / ได้กลิ่น ภาพบันทึก กลุ่มที่ 1 พริกแห้ง (โปเต้) น้ำเปลี่ยนสี น้ำเป็นสีแดง มีดอกไม้สีเหลือง หล่นลงไป มีตัวด้วงสีดำตายแล้ว 2 ตัว มีแมลง ตัวเล็ก ๆที่ตายแล้ว มีหนอนเล็ก ๆ ว่ายไปมา ไม่มีลูกน้ำ กลิ่นเหม็นจะอ้วก 22


กลุ่มที่ 2 พริกสด (จูเนียร์, ปันปัน) หมายเหตุ กระป๋อง พลาสติกของกลุ่มพริกสด อีกกลุ่มล้มจึงไม่สามารถนำ มาตรวจสอบได้ จึงใช้ผลก ลุ่มพริกสดอีกกลุ่ม น้ำสีส้ม น้ำขุ่น ไม่มีลูกน้ำ กลิ่นเหม็น กลุ่มที่ 3 มะนาว (ฮอล,นะโม) ไม่มีแมลง มีดอกไม้สีเหลือง ไม่มีลูกน้ำ กลิ่น ไม่เหม็น กลุ่มที่ 4 มะเขือเทศ (เปา) น้ำขุ่น มีเศษใบไม้ ดอกไม้ แมลงตัวเล็ก ๆ ตกลงไปตาย มีขี้ฝุ่น เชื้อราขาว ๆ ไม่มีลูกน้ำ กลิ่นเหม็น กลุ่มที่ 5 ซอสแม็กกี้ (โป เต้,ปันปัน,วายุ) มีเชื้อราดำ ๆ ลอยเต็มไปหมด ไม่มีลูกน้ำ กลิ่น เหม็นมาก จะอ้วกไม่ไหวแล้ว 23


ขั้นที่ 6 สรุปและอภิปรายผล ครูชวนเด็ก ๆ พูดคุยถึงสิ่งที่สังเกตเห็น ผลการทดลองเป็นอย่างไร เหมาะสมหรือไม่กับการจะนำไปใช้ไล่ยุง ครู: จากที่เด็ก ๆ ได้เลือกสิ่งที่นำมาทดลองไล่ยุง จะพบว่า ทุกกลุ่มสามารถไล่ยุงไม่ให้มาวางไข่ได้ แต่ ก็ยังมีแมลงเล็ก ๆ ตกลงไปตาย อีกทั้งน้ำเปลี่ยนสี บางกลุ่มเกิดเชื้อราและส่งกลิ่นเหม็น เด็ก ๆ คิดว่าน้ำยาไล่ ยุงของกลุ่มตนเองเหมาะสมหรือไม่กับการจะนำไปใช้ไล่ยุงภายในบ้าน เด็ก ๆ แต่ละกลุ่มสรุปและลงความเห็นจากหลักฐานข้อมูลที่ได้จากการสังเกตผลการทดลองจริง กลุ่มที่ สิ่งที่สังเกตพบเห็น / กลิ่น ข้อสรุป กลุ่มที่ 1 มะเขือเทศ (เปา) น้ำขุ่น มีเศษใบไม้ ดอกไม้ แมลงตัวเล็ก ๆ ตกลงไปตาย มีขี้ฝุ่น เชื้อราขาว ๆ ไม่มีลูกน้ำ กลิ่นเหม็น ❌ไม่ใช้ เพราะถ้าเอาไปไว้ในบ้าน ต้องเหม็นมาก กลุ่มที่ 2 พริกแห้ง (โปเต้) น้ำเปลี่ยนสี น้ำเป็นสีแดง มีดอกไม้สีเหลือง หล่นลงไป มีตัวด้วงสีดำตายแล้ว 2 ตัว มี แมลงตัวเล็ก ๆที่ตายแล้ว มีหนอนเล็ก ๆ ว่ายไปมา ไม่มีลูกน้ำ กลิ่นเหม็น ❌ไม่ใช้ เพราะมีแมลงตาย เหม็น กลุ่มที่ 3 พริกสด (จูเนียร์) น้ำสีส้ม น้ำขุ่น ไม่มีลูกน้ำ กลิ่นเหม็นนิดนึง ✅ใช้ เพราะไม่มีหนอน กลุ่มที่ 4 มะนาว (ฮอล,นะโม) ไม่มีแมลง มีดอกไม้สีเหลือง ไม่มีลูกน้ำ กลิ่น ไม่เหม็น ✅ใช้ เพราะไม่มีหนอน ไม่มีกลิ่น เหม็น กลุ่มที่ 5 ซอสแม็กกี้ (โปเต้,ปันปัน,วายุ) มีเชื้อราดำ ๆ ลอยเต็มไปหมด ไม่มีลูกน้ำ กลิ่นเหม็นมาก จะอ้วกไม่ไหวแล้ว ❌ไม่ใช้ เพราะมีเชื้อราเยอะมาก กลิ่นก็เหม็นมากจะอ้วก จากข้อสรุปที่เด็ก ๆ ร่วมกันอภิปรายผลสิ่งที่ค้นพบ ทำให้นำไปสู่การตั้งคำถามเพิ่มเติมในหัวข้อ คำถามเดิมว่าจะ “จะทำที่ฉีดไล่ยุงอย่างไร” เพื่อจะได้นำน้ำผักที่ทำไล่ยุงไปใช้งานได้จริง ดังนี้ คำถามเพิ่มเติม ในหัวข้อคำถามเดิมว่าจะ “จะทำที่ฉีดไล่ยุงอย่างไร” คำถามย่อย ครั้งที่ 1 : จะนำน้ำผักที่ทำไล่ยุงไปใช้งานได้จริงได้อย่างไร ขั้นที่ 1 ตั้งคำถาม ครูและเด็กร่วมกันตั้งคำถามเกี่ยวกับการนำน้ำผักไล่ยุงไปใช้งานได้จริงได้อย่างไร 1. เราจะนำน้ำผักไล่ยุงของกลุ่มที่ 3 กลุ่มพริกสด และ กลุ่มที่ 4 มะนาว ไปใช้ได้อย่างไรจึงจะ ไม่มีแมลงตกลงไป 2. จะทำสูตรอย่างไร ปริมาณเท่าไร ต่อ 1 ขวด 3. จะใช้น้ำผักไล่ยุงนี้ที่ไหนได้บ้าง น้ำผักไล่ยุงนี้ใช้ได้ดีหรือไม่ 24


ขั้นที่ 2 รวบรวมความคิดและข้อสันนิษฐาน คำถามที่ 1: เราจะนำน้ำผักไล่ยุงของกลุ่มพริกสด และ กลุ่มมะนาว ไปใช้ได้อย่างไรจึงจะไม่มีแมลงตกลง ไป จูเนียร์: พอเราทำเสร็จแล้วก็รีบปิดเลย จะได้ไม่มีแมลงตกลงไป โปเต้: ก็ใช้ขวดสเปรย์แบบที่ครูฉีดไง ตะไคร้หอม ครู: เพื่อน ๆ ทุกคนเห็นว่าอย่างไร เด็ก ๆ ทุกคนตกลงว่าจะทำใส่ในขวดสเปรย์ โดยใช้ขวดสเปรย์ที่เหลือใช้ คำถามที่ 2: จะทำสูตรอย่างไร ปริมาณเท่าไร ต่อ 1 ขวด ครูชวนเด็ก ๆ พูดคุยและร่วมกันออกแบบสูตรทำน้ำไล่ยุงที่ใส่ในขวดเสปรย์ ทั้งนี้แบ่งเด็กเป็น 2 กลุ่ม โดยคละเด็ก อนุบาล 2 และ 1 ครู: แต่ละกลุ่มจะทำสูตรน้ำไล่ยุงอย่างไร ปริมาณเท่าไร เริ่มจากกลุ่มพริก ฮอล: หั่นพริกแล้วก็ใส่น้ำไป ครู: แล้วจะใส่ไปปริมาณเท่าไร ฮอล: ใส่พริก 3 ชิ้น แล้วก็ใส่น้ำ ครู: ใส่น้ำเท่าไรดี เด็ก ๆ ควรจะมีสิ่งที่ใช้ตวงน้ำนะเพื่อความสะดวกและได้มาตรฐานเดียวกัน จูเนียร์: ใช้ช้อนตักเอาค่ะ ครู: โอเค เอาน้ำกี่ช้อน จูเนียร์: 2 ช้อน ครู: แล้วกลุ่มมะนาวจะทำอย่างไร เปา: เอาน้ำมะนาวใส่ไปกับน้ำ ครู: แล้วจะใส่ไปปริมาณเท่าไร โปเต้: มะนาว 2 ช้อน น้ำเปล่า 5 ช้อน คำถามที่ 3: จะใช้น้ำผักไล่ยุงนี้ที่ไหนได้บ้าง น้ำผักไล่ยุงนี้ใช้ได้ดีหรือไม่ เด็ก ๆ ร่วมกันพูดคุยว่าจะไม่ฉีดที่ผิวหนัง จะฉีดที่เสื้อผ้าและฉีดในบ้าน กลุ่มที่ ภาพวาดสูตรน้ำไล่ยุง และวิธีการใช้งาน จะใช้น้ำผักไล่ยุงนี้อย่างไร กลุ่มที่ 1 พริกสด ● ไม่ฉีดที่ผิวหนัง ● ฉีดที่เสื้อผ้า ● ฉีดในบ้าน กลุ่มที่ 2 มะนาว ● ไม่ฉีดที่ผิวหนัง ● ฉีดที่เสื้อผ้า ● ฉีดในบ้าน 25


ขั้นที่ 3 ทดสอบและปฏิบัติการสืบเสาะ 1. เด็ก ๆ เตรียมวัตถุดิบในการทำน้ำผักไล่ยุงตามสูตรที่คิดไว้ด้วยตนเอง 2. นำน้ำไล่ยุงที่กลุ่มตนเองทำไปทดลองใช้ตามที่ต่าง ๆ 3. เด็กเอาภาชนะใส่น้ำไปวางตามจุดที่เด็ก ๆ ฉีดภายในห้องเรียน ส่วนคนที่ฉีดกับตัวเองก็ให้ สังเกตว่ามียุงมากัดตนหรือไม่ วันรุ่งขึ้นให้มาร่วมพูดคุยและช่วยกันสรุปร่วมกันว่าน้ำผัก กันยุงได้หรือไม่ 4. เด็ก ๆ สังเกตว่ายังไม่มียุงมาวางไข่ในภาชนะที่วางทิ้งไว้ หรือมียุงบินบริเวณห้อง และเด็ก ที่ฉีดกับเสื้อผ้าตนก็บอกว่ายุงไม่กัด 5. เด็ก ๆ ช่วยกันสรุปว่าน้ำผักที่แต่ละกลุ่มคิดน่าจะช่วยไล่ยุงได้ แต่ยังไม่แน่ใจ ครูจึงชวนพูด คุยว่าแบบนี้ลองเอาไปให้คนอื่นทดลองใช้ด้วยจะดีไหม เด็ก ๆ เห็นด้วย และสรุปร่วมกัน ว่าจะให้ ผอ. จิตติยา พี่ รปภ. ครูอาร์ม ครูมะนาว และ ครูยุ้ย ได้ร่วมทดลอง 6. เด็ก ๆ นำน้ำผักไล่ยุงไปให้คุณครูและบุคลากรในโรงเรียนทดลองใช้ a. เด็ก ๆ นำน้ำผักไล่ยุงที่ทำไว้แบ่งใส่ขวดสเปรย์และนำไปให้คุณครูและบุคลากรใน โรงเรียนได้ทดลองใช้ กลุ่มพริก จำนวน 5 คน กลุ่มมะนาว จำนวน 5 คน b. เด็ก ๆ แต่ละกลุ่มแนะนำน้ำผักไล่ยุงของตน ส่วนผสมของน้ำผักไล่ยุง วิธีการใช้ งานตามแผ่นภาพคู่มือการใช้งานที่เด็กวาด 26


c. เด็ก ๆ ทำการสอบถามคุณครูและบุคลากรในโรงเรียนว่าบริเวณใดที่มียุงเยอะ และแนะนำวิธีการใช้งาน 7. เด็ก ๆ ให้ผู้เข้าร่วมการทดลองนำน้ำผักไล่ยุงไปใช้ 1 วัน และจะมาฟังผลในวันต่อไป 27


8. ทำสมุดบันทึกผลความพึงพอใจหลังการใช้น้ำผักไล่ยุงสำหรับให้ผู้เข้าร่วมการทดลองให้ คะแนน 9. เด็ก ๆ กลับไปสอบถามผลการใช้งานและคำแนะนำจากผู้เข้าร่วมทดลอง จากนั้นให้ผู้เข้า ร่วมทดลองทำการให้คะแนนโดยใช้ตรายางปั๊มที่เด็ก ๆ เลือกเอง ทั้งนี้คะแนนที่จะให้นั้น เด็ก ๆ พูดคุยตกลงกันก่อนล่วงหน้าว่าคะแนนเต็มเท่ากับ 5 คะแนน ขั้นที่ 4 สังเกตและบรรยาย 1. เด็ก ๆ ทดลองกับตนเองและภายในบริเวณห้อง สังเกตว่ายังไม่มียุงมาวางไข่ในภาชนะที่วางทิ้งไว้ หรือมียุงบินบริเวณห้อง และเด็กที่ฉีดกับเสื้อผ้าตนบอกว่ายุงไม่กัด 2. เด็ก ๆ นำน้ำผักไล่ยุงไปให้คุณครูและบุคลากรในโรงเรียนได้ทดลองใช้ จากนั้นได้ไปติดตามผล โดยสอบถามความคิดเห็นที่มีต่อน้ำผักไล่ยุง ได้แก่ กลุ่มพริก และ กลุ่มมะนาว 3. ครูจดคำพูดเด็กบนกระดานเกี่ยวกับความคิดเห็นผู้ทดลองใช้ที่เด็กได้ไปสอบถามมา 28


ขั้นที่ 5 บันทึกผล ทำตารางบันทึกข้อมูลด้วยการให้ผู้เข้าร่วมการทดลองให้คะแนนความพึงพอใจเพื่อให้เด็กได้จดจำ ประสบการณ์ที่ได้รับและสะท้อนการเรียนรู้ของตนเอง กลุ่มมะนาว กลุ่มพริก ขั้นที่ 6 สรุปและอภิปรายผล คุณครูให้เด็กได้พูดคุยถึงผลที่ได้ไปสืบเสาะมา สร้างความเชื่อมโยงระหว่างผลตอบรับกับคำถามที่ ว่า “จะทำที่ไล่ยุงอย่างไร ใช้น้ำผักไล่ยุงนี้ที่ไหนได้บ้าง น้ำผักไล่ยุงนี้ใช้ได้ดีหรือไม่” เด็ก ๆ ได้ข้อค้นพบ ดังนี้ ผู้ร่วมการทดลอง ผลการใช้งาน กลุ่มน้ำผสมมะนาว กลุ่มน้ำผสมพริก 1 ผอ. จิตติยา ใช้ดี มีประโยชน์ ไล่ยุงได้ ใช้ดี แต่กลิ่นแรงไป ถ้ามีน้องเล็ก ต้องระวัง 2 พี่ รปภ. ใช้ดี ยุงไม่มากัด ใช้ดี กันได้ 3 ครูอาร์ม ใช้ดี มีประโยชน์ อยากลองทำ ใช้ดี แต่ระวังไปโดนเข้าตาคนอื่น จะ แสบตา ลองใช้ตะไคร้หอมดูไหม 4 ครูมะนาว ใช้ดี ไม่กล้าฉีดเสื้อ กลัวชื้น 5 ครูยุ้ย ไม่เจอคุณครู ไม่อยากฉีดที่ผ้า เพราะกลิ่นแรง ไม่ อยากฉีดเพราะแพ้พริก ครู: จากที่เด็ก ๆ ได้นำน้ำยาไล่ยุงไปให้คุณครูและพี่ รปภ ใช้ ผลเป็นอย่างไรบ้างคะ จูเนียร์: ครูอาร์มเขาบอกว่าใช้ดีค่ะ แต่ลองใช้ตะไคร้หอมดูไหม หนูก็ไม่รู้ทำยังไง ตะไคร้หอม เขา กลัวฉีดแล้วจะเข้าตา เพราะพริกมันแสบ ตอนฮอลไปฉีดก็เผลอฉีดเข้าตาไป รีบไปล้าง แทบไม่ทันที่ห้อง ผอ ค่ะ เปา, เฟย์: ผอ บอกว่าใช้ดี มีประโยชน์ แต่ไม่ชอบกลิ่น โปเต้, วายุ: ครูยุ้ยบอกว่าไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ครูยุ้ยไม่อยากฉีดที่เสื้อ กลัวเสื้อเสีย แล้วก็ไม่ชอบกลิ่น กลิ่นแรง กลิ่นพริกแรง ครูเขาบอกไม่อยากฉีดกลัวแสบผิว ผิวครูยุ้ยแพ้ง่าย ฮอล, นะโม: ครูมะนาวบอกว่าใช้ดี แต่ว่าฉีดที่เสื้อแล้วกลัวเปียกชื้น จูเนียร์: พี่ รปภ บอกว่าใช้ดี กันได้ ไม่ได้บอกอะไร บอกว่าใช้ได้ค่ะ 29


ครู: สรุปแล้วน้ำผักไล่ยุงของเราเหมาะกับการเอามาใช้ไหมคะ ทุกคนตอบว่า ใช้ได้ แต่ต้องระวัง ครู: ถ้าอยากนั้น เราลองมาทำที่ไล่ยุงแบบที่ปลอดภัยกว่านี้ดีไหมคะ จะทำอย่างไรดี จูเนียร์: ต้องหาตะไคร้หอมมาทำ ครูอาร์มบอก เราต้องหาความรู้แบบที่เขาทำกัน ครู: เราจะหาความรู้จากไหนดี ฮอล: ในอินเทอร์เน็ต คำถามย่อยครั้งที่ 2 : จะทำที่ไล่ยุงแบบที่ปลอดภัยได้อย่างไร ขั้นที่ 1 ตั้งคำถาม 1. เราจะทำที่ไล่ยุงแบบไหนถึงจะปลอดภัย จะทำสูตรอย่างไร วิธีใช้งานเป็นอย่างไร (สืบค้น) 2. ที่ไล่ยุงนี้ใช้ได้ดีหรือไม่ (ทดลอง) ขั้นที่ 2 รวบรวมความคิด และ ข้อสันนิษฐาน ครูและเด็กร่วมกันวางแผนการทำที่ไล่ยุงที่ปลอดภัย โดยครูใช้คำถามกระตุ้นคิดดังนี้ ครู: ถ้าเราจะทำที่ไล่ยุง แบบไหนถึงจะเรียกว่า “ปลอดภัย” จูเนียร์: ต้องไม่ทำให้เราเจ็บ ครู: ใช่ คำว่าปลอดภัย ใช้แล้วต้องไม่อันตรายกับเรา ไม่ทำให้เราเจ็บ ถ้าเกิดว่าเราใช้น้ำผักไล่ยุง แล้วแสบผิว ใช้แล้วโดนตาแสบตา ดมกลิ่นแล้วเหม็น แสบจมูก แบบนี้เรียกว่าปลอดภัยไหมคะ ทุกคน: ไม่ปลอดภัย ครู: ฉะนั้น เราจะมาลองหาวิธีทำที่ไล่ยุงที่ปลอดภัยกัน แต่ตอนนี้ครูก็ไม่รู้ทำอย่างไร เราจะต้องหา ความรู้แล้วหล่ะ ฮอล: ครูเปิดหาในมือถือดูเลย ครูพาเด็ก ๆ หาความรู้จากอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับวิธีการทำที่ไล่ยุงโดยยังคงใช้พืชผักหาง่ายในสวน ครัว ครูเปิดวิดิทัศน์ให้เด็กได้เรียนรู้วิธีการทำถุงหอมไล่ยุงจากสมุนไพรและพืชผักสวนครัวหาง่ายของกลุ่ม ผู้รู้อภัยภูเบศรสมุนไพรไทย ครู: เด็ก ๆ คิดว่าสูตรการทำถุงหอมไล่ยุงของพี่เขาปลอดภัยหรือไม่ และทำไมถึงคิดว่าปลอดภัย โปเต้: ปลอดภัย เพราะแค่ได้กลิ่น ไม่ต้องโดนตัวเรา จูเนียร์: ปลอดภัยค่ะ พี่เขาบอกว่าไม่เป็นอันตราย ใช้ได้ ฮอล: น่าจะปลอดภัย เขาใส่ถุงไว้ แล้วก็แค่เอาไปวาง ไม่โดนตัวเรา 30


เปา: มันไม่แสบตา วายุ: หอม เฟย์: ไม่แสบตา นะโม: ไม่แสบตา ครู: เด็ก ๆ ได้ยินชื่อส่วนผสมอะไรบ้างที่พี่เขาเอามาใส่ในถุงหอมไล่ยุง จูเนียร์: มีมะนาว ตะไคร้หอม ครู: พระเอกของถุงหอมไล่ยุง คือ ตะไคร้หอม เก่งมาก ฮอล: มะนาว ส้ม เด็ก ๆ ยังไม่ค่อยรู้จักชื่อเรียกพืชผัก จึงบอกได้เพียงส่วนผสมบางตัว ครูจึงช่วยบอกชื่อคำศัพท์ สมุนไพรที่นำมาใช้ทำถุงหอมไล่ยุง ได้แก่ ตะไคร้หอม เปลือกมะนาว เปลือกส้ม ใบมะกรูด ครู: เขาเอาส่วนผสมต่าง ๆ มาทำอย่างไร โปเต้: เขาเอามาใส่ถ้วยรวมกัน คนๆไปมา แล้วก็ใส่ถุง ครู: เราจะไปหาพวกตะไคร้หอม เปลือกมะนาว เปลือกส้ม ใบมะกรูดได้ที่ไหน จูเนียร์: ป้าเล็กน่าจะมีส้มนะคะ กินเสร็จแล้วครูก็เก็บไว้เลย เปา: บ้านเปาก็มีส้มนะ ฮอล: ที่บ้านไม่มีอะไรเลย โปเต้: เดี๋ยวเราเอามาเผื่อ เรามีมะนาว ครู: เยี่ยมมาก ครูให้เด็ก ๆ ลองไปหาของที่บ้านดูนะคะ บอกผู้ปกครองแล้วพรุ่งนี้เรามาทำกัน ครู: แล้วครั้งนี้จะให้คุณครูท่านอื่นได้ทดลองใช้ด้วยไหมคะ ทุกคนยินดีและเห็นด้วยที่จะให้คุณครูและบุคลากรในโรงเรียนได้ร่วมทดลองใช้ ขั้นที่ 3 ทดสอบและปฏิบัติการสืบเสาะ 1. เด็ก ๆ นำเปลือกมะนาว เปลือกส้ม ใบมะกรูดมาจากบ้าน ครูเตรียมตะไคร้หอมให้ และบางคนว่า จะไปขอเปลือกมะนาว เปลือกส้มกับป้าเล็กแม่ครัวที่โรงเรียน 2. ครูและเด็กนำส่วนผสมทั้งหมดที่จะทำถุงหอมไล่ยุงมา เด็ก ๆ ร่วมกันเตรียมส่วนผสม ฉีกเปลือก ส้ม เปลือกมะนาว เด็ดใบมะกรูด ยกเว้นตะไคร้หอมที่คุณครูเป็นคนเตรียมให้เนื่องจากแข็งและ ต้องใช้มีดหั่น 31


3. เด็ก ๆ ช่วยกันตรวจสอบส่วนผสมแต่ละชนิด และ ร่วมสนทนาเกี่ยวกับจุดเด่นของพืชผักแต่ละตัว จูเนียร์: กลิ่นตะไคร้หอมเหมือนในขวดสเปรย์คุณครูเลย กลิ่นเดียวกัน ไม่ผิดแน่ๆ ฮอล: ชอบกลิ่นส้ม หอมชื่นใจ โปเต้: ชอบมะนาว อยากกิน เปา: ชอบมะนาว อยากกิน เปาชอบน้ำมะนาว มันเปรี้ยวดี วายุ: มันหอมดีนะ หมดเลย เฟย์: หนูชอบมะนาว อยากกิน นะโม: ชอบส้ม ส้มปี๊ ด 4. เด็ก ๆ ช่วยกันกำหนดปริมาณส่วนผสมแต่ละชนิด จะใช้จำนวนเท่าไร จะบันทึกข้อมูลอย่างไร และกำหนดบทบาทหน้าที่ของแต่ละคนอย่างไร a. เด็ก ๆ ช่วยกันคิดหน่วยการวัดปริมาณโดยใช้ช้อนโต๊ะ โดยจะตักตะไคร้หอมใส่ถุงอย่างละ 3 ช้อนโต๊ะ ส่วนเปลือกส้มและเปลือกมะนาวใช้หยิบปริมาณตามความชอบ b. อุปกรณ์ที่ใช้ ได้แก่ ถุงใส่เครื่องหอม และ ช้อน c. บันทึกข้อมูลด้วยการถ่ายภาพ และวาดภาพ d. บทบาทหน้าที่ เด็ก ๆ ทุกคนใส่ส่วนผสมบรรจุใส่ถุงด้วยตนเอง 32


5. นำถุงหอมไล่ยุงไปวางตามจุดที่คิดว่ามียุงและนำไปให้คุณครูและบุคลากรในโรงเรียนได้ใช้ 6. เด็ก ๆ ทำการสอบถามความพึงพอใจจากผู้ร่วมทดลองว่าเป็นอย่างไร 33


ขั้นที่ 4 สังเกตและบรรยาย 1. เด็ก ๆ ทดลองกับตนเอง บางคนพกถุงหอมใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ บางคนวางถุงหอมในบริเวณ ห้องเรียน บางคนเอากลับบ้าน ครูชวนพูดคุยถึงการใช้งาน ความรู้สึก และผลการทดลองว่ากันยุง ไม่ให้มากัดได้หรือไม่ เปา: เปาเอาไว้ในกระเป๋าเสื้อ มันหอมมาก กลิ่นติดเลย ไม่เหม็น ยุงไม่มี โปเต้: หนูวางไว้ที่โต๊ะครู ครู: ครูเห็นแล้ว กลิ่นหอมสบาย ไม่มียุงเหมือนกัน ฮอล: ของหนูเอากลับบ้าน ให้ยายดม ยายบอกหอมดี แต่ไม่รู้กันยุงได้ไหม แต่ก็ไม่เห็นยุงนะ จูเนียร์: หนูเอากลับบ้าน หนูชอบมันหอมดี ยุงไม่มีนะคะ เฟย์: หนูชอบ หอม ไม่มียุง วายุ: หอมดี ไม่รู้เหมือนกัน (ไม่รู้ว่าป้องกันยุงได้หรือเปล่า) นะโม: กันยุงได้ หอม ชอบ 2. เด็ก ๆ นำถุงหอมไล่ยุงไปให้คุณครูและบุคลากรในโรงเรียนได้ทดลองใช้ จากนั้นได้ไปติดตามผล และสอบถามความคิดเห็น 3. ครูจดคำพูดเด็กเกี่ยวกับความคิดเห็นผู้ทดลองใช้ที่เด็กได้ไปสอบถามมา จูเนียร์: ครูอาร์มบอกว่าชอบมากเลย กลิ่นหอม ดีกว่าทำเป็นน้ำ เอาไปวางในห้องน้ำ กันยุงได้ แต่ ใช้ได้ 3 วัน กลิ่นก็ไม่มี ฮอล: ผอ. บอกว่าดี กลิ่นหอม วางไว้แล้วปลอดภัย โปเต้: ลุงตู่บอกว่า ชอบ หอมดี กันยุงได้ เปา: ครูมะนาวบอกว่าชอบ หอมดี เอาไปวางไว้ที่ไหนก็ได้ กันยุงได้ โปเต้: ครูยุ้ยบอกว่าแบบนี้ดีกว่าแบบน้ำ ครูยุ้ยขอซื้อเลย หอมมาก ครูยุ้ยชอบกลิ่นส้ม ชื่นใจ แล้วก็ กันยุงได้ ฮอล: ป้าเล็กบอกว่าก็หอมดีนะ ยุงตอนนี้ไม่มี น่าจะกันได้ ขั้นที่ 5 บันทึกผล เด็ก ๆ บันทึกผลการทดลอง และ สิ่งที่ได้เรียนรู้ด้วยการวาดภาพ ครูจดคำพูดเด็ก 34


ขั้นที่ 6 สรุปและอภิปรายผล 1. คุณครูให้เด็กได้พูดคุยถึงผลที่ได้ไปสืบเสาะมา สิ่งที่ได้เรียนรู้ และข้อสรุปเพื่อตอบคำถามที่ว่า “จะทำที่ไล่ยุงอย่างไร”และ“จะทำที่ไล่ยุงแบบที่ปลอดภัยได้อย่างไร” สิ่งที่เด็ก ๆ ได้ทำ ผลที่ได้ เหตุผล ใช้ได้ ปลอดภัย ไม่ควรใช้ ไม่ปลอดภัย 1.เอาพริกแห้ง พริกสด มะนาว มะเขือเทศ และซอสแม็กกี้มาใส่ใน กระป๋องพลาสติก เปิดฝาทิ้งไว้ ✔ สกปรก มีแมลงตกไปตาย มีด อกไม้ ใบไม้ แมลงตัวเล็ก กลิ่นเหม็น มีเชื้อรา 2.เอาน้ำผสมพริก น้ำผสมมะนาว มาใส่ขวดสเปรย์ ✔ ใช้ได้แต่กลิ่นแรง เป็น อันตรายกับน้องได้ถ้าเข้าตา เข้าตาจะแสบ ฉีดที่เสื้อมันจะ ชื้น โดนผิวก็จะแสบ 3. ทำถุงหอมไล่ยุง ✔ กลิ่นหอม เอาวางที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องโดนตัว ใช้ได้ 3 วัน 35


2. ครูและเด็กช่วยกันทบทวนสิ่งที่ได้เรียนรู้ นำภาพและคำพูดที่เด็ก ๆ บันทึกนำมาปะติดใส่แผ่น ชาร์ท 3. นำร่องรอยการเรียนรู้ทั้งหมดเกี่ยวกับโครงงานสมุนไพรไล่ยุง มาจัดแสดงภายในห้องเรียนเพื่อให้เด็กได้ ทบทวนและสื่อสารสิ่งที่ได้เรียนรู้ให้กับบุคคลอื่น ๆ 36


37


ผลการพัฒนาความสามารถของเด็กปฐมวัย 1. ผลการพัฒนาความสามารถพื้นฐาน 4 ด้าน ตามโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยประเทศไทย 1.1. ด้านการเรียนรู้ 1.1.1. รู้จักตั้งคำถามในสิ่งที่สนใจและสงสัยอยากรู้ โดยใช้ประโยคคำถามว่า “อะไร” “เมื่อไร” “อย่างไร” ในการค้นหาคำตอบ 1.1.2. เรียนรู้ที่จะคาดเดาเหตุการณ์ ผลของสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น หรือมีส่วนร่วมในการลง ความเห็นจากข้อมูลอย่างมีเหตุผล 1.1.3. ได้คิด ลงมือทำและทดลองด้วยตนเอง 1.1.4. ได้สังเกตจากของจริงและบันทึกข้อมูลอย่างเป็นลำดับขั้นตอนด้วยตนเอง 1.1.5. เรียนรู้คำศัพท์ใหม่เพื่อใช้ในการสื่อสาร 1.1.6. สามารถคิดรวบยอดเกี่ยวกับเรื่องที่เรียนรู้ บอกลักษณะ ส่วนประกอบ การเปลี่ยนแปลงหรือความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆจากการสังเกตโดยใช้ประสาท สัมผัส 1.1.7. สามารถตัดสินใจคิดแก้ปัญหาในเรื่องง่ายๆ ได้จากการทดลอง เช่น ใส่พริกลงใน ขวดสเปรย์ไม่ได้ เพราะว่าขนาดใหญ่เกินไป ต้องหั่นให้เล็กลงกว่านี้แล้วทดลองใส่ ใหม่ เป็นต้น 1.1.8. สามารถสรุปสิ่งที่ได้ไปสืบเสาะมาถ่ายทอดให้ผู้อื่นเข้าใจได้ 1.1.9. ได้เรียนรู้ต่อยอดในสิ่งที่ตนสงสัยจนเกิดเป็นการเรียนรู้เพิ่มเติม เช่น จะทำที่ไล่ยุง ให้ปลอดภัยต่อผู้ใช้งานได้อย่างไร 1.2. ด้านภาษา 1.2.1. สามารถพูดสื่อสารบอกสิ่งที่สังเกตเห็นและได้เรียนรู้จากการทดลองร่วมกับเพื่อน และครูได้ 1.2.2. สามารถพูดแสดงความคิดเห็น สนทนาโต้ตอบ บอกความคิด ความรู้สึก และ ความต้องการ บอกเล่าประสบการณ์ของตนเองให้ผู้อื่นเข้าใจได้ 1.2.3. สามารถอ่านภาพ เขียนภาพ สัญลักษณ์ และบันทึกสิ่งที่เรียนรู้ได้ 1.2.4. เขียนคำศัพท์โดยลอกแบบตัวอักษรของครูลงบนกระดาษได้ด้วยตนเอง 1.3. ด้านสังคม 1.3.1. เรียนรู้ที่จะทำงานร่วมมือกับเพื่อนอย่างมีเป้าหมาย ทำงานเป็นกลุ่ม แบ่งงานกันทำ ช่วยเหลือกัน และแนะนำกัน 1.3.2. มีปฏิสัมพันธ์แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันกับผู้อื่น 1.3.3. ร่วมแสดงความคิดเห็นและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นเพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไข ชิ้นงานให้ดีขึ้น 1.3.4. ปฏิบัติตนเป็นผู้นำและผู้ตามได้เหมาะสม 38


1.4. ด้านการเคลื่อนไหว 1.4.1. การใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ บริเวณ ลำตัว แขน ขา ในการเคลื่อนไหวร่างกาย ทรงตัวขณะทำกิจกรรม 1.4.2. กล้ามเนื้อมัดเล็ก การใช้มือ - ตาประสานสัมพันธ์กัน การออกแรงขณะหยิบ จับ อุปกรณ์ การใช้มีด การใช้กรรไกรตัดกระดาษ ปะติดรูป การเขียนตัวอักษร การเขียนรูป 2. ผลการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 2.1. ทักษะการสังเกต 2.1.1. การใช้ประสาทสัมผัสหลายอย่างเข้าร่วมกัน ได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น ผิวกาย เข้าไป เรียนรู้ ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำที่ไล่ยุงด้วยพืชผักสวนครัว 2.2. ทักษะการวัด 2.2.1. การเลือกใช้ช้อนมาเป็นเครื่องมือสำหรับตวงปริมาณส่วนผสมเพื่อให้ได้ปริมาณที่ แน่นอนเหมาะสม 2.3. ทักษะการจำแนกประเภท 2.3.1. การแบ่งประเภทกลิ่นที่ยุงชอบและกลิ่นที่ยุงไม่น่าจะชอบเพื่อนำมาเลือกใช้ทำน้ำ ผักไล่ยุง 2.3.2. การเปรียบเทียบประสิทธิภาพชนิดน้ำผักไล่ยุงระหว่างกลุ่มมะนาวและกลุ่มพริก 2.4. ทักษะการคำนวณ 2.4.1. การนับจำนวนสิ่งที่นำมาทดลอง เช่น กลุ่มกระป๋องที่หนึ่งใช้พริก 12 เม็ด กลุ่ม กระป๋องที่สองใช้ พริก 2 เม็ด กลุ่มกระป๋องที่ 1 ใช้พริกมากกว่ากระป๋องที่ 2 เป็นต้น 2.4.2. การนับคะแนนเสียงเพื่อร่วมลงคะแนนเลือกสิ่งที่จะนำมาทดลอง 2.5. ทักษะการทดลอง 2.5.1. ร่วมกันกำหนดขั้นตอนการทดลองได้ว่าจะทำการทดลองอย่างไร ใช้วัสดุ อุปกรณ์ อะไรบ้าง 2.5.2. สามารถปฏิบัติการทดลองตามขั้นตอนที่กำหนดได้ 2.5.3. สามารถบันทึกผลการทดลองได้ 2.6. ทักษะการจัดกระทำและสื่อความหมายข้อมูล 2.6.1. สามารถสรุปผลสิ่งที่สังเกตและทดลอง นำมาเขียนเป็นภาพ และสามารถเขียน คำง่ายๆ ลงบนผลงานได้ 2.6.2. บอกเล่าสิ่งที่ได้เรียนรู้ให้ผู้อื่นเข้าใจได้ ***************************** 39


ภาคผนวก 40


QR CODE โครงงานสมุนไพรไล่ยุง โรงเรียนวัดคฤหบดี (จันทรสถิตย์) สำนักงานเขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร 41


QR CODE รายงานสรุปการทดลอง 20 กิจกรรม โรงเรียนวัดคฤหบดี (จันทรสถิตย์) สำนักงานเขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร 42


43


44


45


Click to View FlipBook Version