การทำผ้ามัดย้อม
Making natural indigo dyed fabrics
จัดทำโดย
นางสาวกมลทิพย์ ชัยศิริตระกูล เลขที่ 3
เลขที่ 4
นางสาวกฤติยา ภูศรีฐาน เลขที่ 6
เลขที่ 20
นางสาวกัญญาวีร์ ชุมพล เลขที่ 21
นางสาวปนัดดา กลางนอก
นางสาวประภัสนันท์ คำพิลา
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
เสนอ
นางวนิดา บุญพิเชฐวงศ์
คุณครูที่ปรึกษาการศึกษาค้นคว้า
การศึกษานี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา การสื่อสารและการนำเสนอ (IS2) รหัสวิชา I30202
โรงเรียนสตรีราชินูทิศ
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุดรธานี
การทาผา้ มดั ยอ้ ม
Making natural indigo dyed fabrics
จัดทาโดย เลขที่ 3
นางสาวกมลทพิ ย์ ชัยศริ ิตระกูล เลขท่ี 4
นางสาวกฤติยา ภศู รีฐาน เลขท่ี 6
เลขท่ี 20
นางสาวกญั ญาวีร์ ชุมพล เลขท่ี 21
นางสาวปนัดดา กลางนอก
นางสาวประภสั นันท์ คาพลิ า
เสนอ
นางวนดิ า บุญพิเชฐวงศ์
คุณครทู ป่ี รึกษาการศึกษาค้นควา้
การศึกษาน้เี ป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา การสื่อสารและการนาเสนอ (IS2) รหัสวชิ า I30202
โรงเรยี นสตรรี าชินทู ิศ
ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษา 2564
สานักงานเขตพนื้ ทกี่ ารศึกษามัธยมศกึ ษาอุดรธานี
ชอ่ื เรือ่ ง การทาผา้ มัดยอ้ ม
ผ้ศู ึกษาค้นควา้
Making natural indigo dyed fabrics
ระดับการศกึ ษา
ครทู ่ปี รกึ ษา นางสาวกมลทิพย์ ชัยศริ ิตระกลู เลขที่ 3
รายวิชา
ชอ่ื โรงเรยี น นางสาวกฤตยิ า ภูศรฐี าน เลขท่ี 4
นางสาวกญั ญาวีร์ ชมุ พล เลขท่ี 6
นางสาวปนัดดา กลางนอก เลขท่ี 20
นางสาวประภัสนนั ท์ คาพลิ า เลขท่ี 21
ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 5/8
1. นางวนิดา บุญพิเชฐวงศ์
2. นายธงชยั บญุ พเิ ชฐวงศ์
สอื่ สารและการนาเสนอ ( Independent Study : IS2 )
โรงเรยี นสตรรี าชินทู ิศ ปกี ารศึกษาท่ีค้นคว้า 2564
ก
บทคัดยอ่
รายงานการศกึ ษา เร่อื ง ผ้ามดั ย้อม มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พื่อศกึ ษาวธิ เี กีย่ วกับการทาผา้
มัดยอ้ ม มีวิธีการศึกษาค้นคว้า ดงั นี้ 1.อนิ เทอร์เนต็ 2.สอบถามจากผู้เชี่ยวชาญ 3.ขอ้ มลู
จากหนังสือ กลุม่ ตัวอย่างเปน็ นักเรียนชั้นม.5/8 จานวน 43 คน ไดม้ าโดยเจาะจง
เครื่องมือที่ใชป้ ระกอบด้วยแบบสอบถาม จานวน1ตอน ตอนท1ี่ เรอื่ งความรู้เก่ียวกบั ผา้ มดั
ย้อม ซง่ึ วเิ คราะห์ขอ้ มลู โดยใช้สถิติหาค่าเฉล่ียได้ 44.60%และ ร้อยละได้ 65.25%
ผลการศึกษาพบว่าผจู้ ัดทำออกแบบลวดลำยได้สวยงำม ชนิ้ งำนมีควำมดงึ ดูดและน่ำสนใจ นำเสนอ
ผ้ำยอ้ มในรูปแบบใหม่ไดด้ ี อยู่ในระดับคุณภำพ
สารบัญ ข
เรอ่ื ง หน้า
บทคัดย่อ ก
สารบัญ ข
สารบญั ตาราง 1
บทท่ี 1
1
1 บทนา 1
ความเปน็ มาและความสาคญั ของปญั หา 1
จุดมุ่งหมายของการศกึ ษา 2
สมมุตฐิ านของการวจิ ัย 2
ขอบเขตของการวจิ ยั 2
ประโยชนทื คี่ าดว่าจะได้รบั 3
ข้อตกลงเบ้ืองต้น
นิยามศพั ท์ 3
2 เอกสารและงานวจิ ัยท่ีเกยี่ วข้อง 3
ประวัตคิ วามเป็นมา 3
ข้นั ตอนในการทาผ้ามัดย้อม
การเตรยี มผ้า
วิธีย้อมผ้า 4
ข้ันตอนการทาผา้ มดั ย้อม 4
5
3 วิธดี าเนนิ การ 5
ระเบยี บวธิ ีท่ใี ช้ในการศกึ ษา 5
5
ประชากรทใ่ี ช้ในการศกึ ษา 5
5
1.ประชากร 6
7
2.กลมุ่ ตัวอยา่ ง
3.ระยะเวลาทใ่ี ช้ในการศกึ ษา 7
วธิ ดี าเนินกาศกึ ษา 8
4 ผลการวิเคราะห์ข้อมลู 10
ตางรางท่ี1 แสดงระดบั ผลคะแนน 10
การประเมนิ การทาผ้ามัดย้อม 11
ระดับช้นั มัธยมศึกษาปีท5่ี /8 โรงเรยี นสตรีราชนิ ูทิศ 11
จานวน43 คน
ตารางท่ี2 แสดงผลการประเมนิ การทาผ้ามัดยอ้ ม
5 สรุปผล อภปิ รายผล และขอ้ เสนอแนะ
วัตถุประสงคข์ องการศกึ ษา
สมมตุ ิฐานของการศกึ ษา
ขอบเขตของการศึกษา
ประชากรทีใ่ ช้ในการศึกษา 11
กลุ่มตัวอย่างท่ีใชใ้ นการศึกษา 11
เครือ่ งมอื ท่ีใชในการศกึ ษา 11
การพจิ ารณาค่าเฉล่ีย จะใช้เกณฑด์ ังนี้ 12
การวิเคราะห์ขอ้ มลู 12
สรปุ ผลการศึกษา 12
การอภปิ รายผล 12
ขอ้ เสนอแนะในการศึกษาคร้ังนี้ 13
ภาคผนวก 14
ภาคผนวก ก 15
บรรณานุกรม 16
สารบัญตาราง
ตารางที่ หน้า
ตารางที่ 1 แสดงผลระดับคะแนนการประเมนิ การทาผ้ามดั ย้อม 7
ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปีที่5/8 โรงเรียนสตรรี าชินทู ิศ จานวน43คน
ตารางท่ี 2 แสดงผลการประเมนิ การทาผ้ามัดย้อม
1
บทท่ี 1
บทนา
ความเป็นมาของปัญหา
ในปจั จุบนั สิง่ ของตา่ งๆ มรี าคาแพง ในปจั จบุ ันผ้ปู กครองนักเรยี นต้องรับภาระเสยี คา่ ใช้จ่าย
ในครอบครวั สูงและเศรษฐกจิ ตกตา่ ทาให้รายได้ไม่พอกับการยงั ชีพ คณะผ้จู ดั ทาโครงงานเห็นวา่
นกั เรียนสามารถท่จี ะหารายได้ช่วยเหลือครอบครัวไดแ้ ละแบ่งเบาภาระค่าใชจ้ า่ ยในครอบครวั ได้จงึ มี
การจัดทาโครงงานสร้างเสรมิ ทักษะอาชีพให้นักเรียนได้มที ักษะความรู้ไปใชใ้ นการหารายได้เสรมิ
ระหวา่ งเรยี น โดยคดิ โครงงานผ้ามัดย้อม ซึ่งเป็นงานอาชพี ที่สามารถทาไดง้ านไมย่ งุ่ ยาก และเปน็ การ
น้อมหลกั เศรษฐกจิ พอเพียงมาประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจาวนั คณะผจู้ ดั ทาโครงงานจึงได้ปรึกษากับ
ครูผสู้ อนและจดั ทาโครงงานผ้ามดั ย้อมขึน้ มา
จุดมุ่งหมายของศึกษา
1. เพื่อศึกษาเกี่ยวกบั วิธีการทาผา้ มดั ยอม
2. เพอ่ื ใหน้ ักเรียนมีรายได้เสริมระหว่างเรยี น
3. เพื่อสามารถลงมือปฏิบัติทาผา้ มัดยอ้ มด้วยตนเอง
4. เพอื่ เรียนร้สู ที าทใี่ ช้ย้อมผา้
สมมุติฐานของการวิจัย
1. รวู้ ธิ กี ารทาผ้ามัดย้อม
2. มีรายไดเ้ สริมในการทาผ้ามัดย้อม
3. ทาผ้ามดั ย้อมไดด้ ้วยตนเอง
4. สียอ้ มผ้าทีไ่ ด้มีลวดลายทส่ี วยงาม
ขอบเขตของการวจิ ัย
1. เนื้อหาเก่ยี วการศึกษาวิธีทาผ้ามัดย้อม
2. นกั เรยี นช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 5/8 จานวน 43 คน
3. เดือนมิถนุ ายน 2564 – เดอื นมกราคม 2565
4. คน้ คว้าและรวบรวมจากอนิ เทอร์เน็ต และสอบถามข้อมลู การทา ศกึ ษาวธิ ีทาจากผทู้ า
ขาย
5. ตวั แปรท่ีต้องการศึกษาคือลวดลายของการยอ้ มผ้า และวธิ ีทาขาย
2
ประโยชนท์ คี่ าดวา่ จะไดร้ บั
1. นักเรียนสามารถเรยี นรวู้ ธิ กี ารผลิตผ้ามดั ย้อม
2. นักเรียนมีรายไดเ้ สริมระหว่างเรยี น
3. นกั เรยี นสามารถทาผ้ามดั ย้อมได้
4. สามารถไดเ้ รียนรู้กบั การผสมสี เพอื่ มาทาผ้ามดั ย้อม
ขอ้ ตกลงเบอ้ื งตน้
- นักเรยี นทุกคนตอบแบบสอบถามดว้ ยความเขา้ ใจและด้วยความจริงใจ
- การวจิ ัยในครงั้ น้ถี ือวา่ ความแตกตา่ งในเร่ืองเพศ อายุ เชื้อชาติ ฐานะทางเศรษฐกิจ ตลอดจน
อาชีพของบดิ ามารดาไมม่ ีผลกระทบต่อการเรียน
นยิ ามศพั ทเ์ ฉพาะ
ผ้ามดั ยอ้ ม หมายถึง กระบวนการทาให้ผ้าสขี าวเกิดลวดลายด้วยการมัดยอ้ มดว้ ยอุปกรณ์หรอื
วัสดุ เชน่ เชอื ก ยาง ไมไ้ อศกรมี โดยการสรา้ งลวดลาย เช่น การพบั การมัด การเยบ็ การขยา การ
หนบี การสรา้ ลวดลายเปน็ การสร้างออกมาจากจินตนาการ ลายผา้ มัดย้อมที่ได้กจ็ ะไม่เหมือนใคร
เพราะเป็นลายที่ผู้วิจัยไดส้ รา้ งข้นึ มาเอง ซ่งึ จะเปน็ เอกลกั ษณเ์ ฉพาะ
3
บทท่ี2
เอกสารและงานวจิ ัยทีเ่ ก่ยี วขอ้ ง
การศกึ ษาในคร้งั น้ี ผู้ศึกษาได้ศกึ ษาเอกสารและงานวจิ ยั ท่ีเก่ยี วข้อง โดยแบง่ เนอ้ื หาของ
เอกสารงานวิจยั ออกเปน็ หวั ข้อต่างๆ ดังน้ี
1.1 ประวตั คิ วามเปน็ มา
1.2 ขั้นตอนในการทาผา้ มัดย้อม
1.3 การเตรียมผา้
1.4 การเตรียมลายผา้ มดั ย้อม
1.5 วิธีย้อมผา้
1.6 ขนั้ ตอนการทาผา้ มัดยอ้ ม
ประวตั ิความเปน็ มา
มีการสันนิษฐานวา่ การย้อมผ้ามมี าแล้วกวา่ ๑๐ ปี สมัยก่อนไมม่ ีสีย้อมผ้าสงั เคราะห์เช่น
ปัจจบุ ัน คนสมยั กอ่ นจึงใช้ภมู ิปญั ญาโดยการใช้สจี ากวัสดธุ รรมชาตมิ ายอ้ มเคร่ืองนุง่ ห่มให้เกดิ สีสัน
สวยงาม โดยใช้ทั้งสว่ นที่เป็น ใบ และเปลือก มาสบั ให้เปน็ ชิ้นเลก็ จากนัน้ นาไปตม้ ใหเ้ กิดสี ก่อนนาผา้
ทอสขี าวมาย้อม ให้เกิดสตี ามต้องการเสนห่ ์ของผ้ามัดย้อมอยู่ทลี่ วดลายและโทนสีทเ่ี ป็นเอกลกั ษณ์
ตามธรรมชาติ ลวดลายและสีสันที่ปรากฏบนผา้ ขึ้นอยู่กบั ความคดิ สร้างสรรคข์ องผ้อู อกแบบ จึงมี
ความเป็นอิสระไมต่ ายตวั เป็นผลงานทเี่ ราสามารถคดิ และออกแบบไดด้ ว้ ยตัวแหล่งกาเนิดสียอ้ มผา้
จากวัสดธุ รรมชาติแต่ละชนิดให้สีท่แี ตกตา่ งกันไป โดยวสั ดธุ รรมชาตสิ ามารถให้สแี ตกต่างกนั ได้
ขัน้ ตอนในการทาผา้ มดั ย้อม
ผา้ ท่ใี ชท้ าผา้ มดั ย้อมควรเปน็ ผ้า cotton และตอ้ งเป็นสีขาวหรือสอี ่อนตามความต้องการ และ
ตอ้ งเป็นผ้าที่ตัดแตง่ มาก่อน เพ่อื ใหผ้ ้าแขง็ ตัวและเงาเรียบผู้ผลติ จะต้องแตง่ และอาบผา้ ด้วยสารเรชนิ
หรอื แปง้ ใชเ้ ป็นสว่ นมาก สารท่กี ลา่ วมาเป็นอุปสรรคต่อการแทรกซึมของนา้ สี ก่อนท่จี ะลงมอื ย้อมสี
ควรขจดั สิ่งเรานีอ้ อกใหห้ มด แตถ่ ้ามีสารอาบผิวใส่จานวนนอ้ ยอาจทาความสะอาดได้
การเตรยี มผ้า
4
ผูป้ ฏบิ ัติย่อมปรารถนาให้ลายผา้ ท่ีเกดิ ขนึ้ บนผ้านั้นไมซ่ ้ากับผอู้ ืน่ ดังนัน้ ผู้ปฏบิ ตั ิงานจึงต้องผกู
ผ้าดว้ ยตนเองได้อยา่ งอสิ ระ โดยใชค้ วามคดิ สร้างสรรค์ คิดออกแบบลายผา้ ด้วยตนเองการเตรียมนา้
สาหรับยอ้ มผา้ การทาผา้ มดั ย้อมสามารถยอมได้ตามวธิ กี รรมถงึ ส่วี ธิ ยี อมได้ในอณุ หภมู ิท่สี ูงและต่าได้
แต่ทั้งน้ีต้องคานึงถงึ ประเภทของผา้ และสีท่ีเราเลอื ก ภายหลังที่ได้ย้อมสแี รกเสร็จแลว้ ให้ทาเชน่ นี้
เรอ่ื ยไปจนกว่าจะได้สีและลายที่ต้องการ
วธิ ีย้อมผ้า
ต้มนา้ ให้เดือดในภาชนะท่ีใหญ่พอประมาณใสเ่ กลือลงไปเพื่อทจ่ี ะให้ได้สตี ดิ ทน นาวัตถุดบิ สีท่ี
เราเตรยี มมาสบั ใหเ้ ล็ก แล้วใสล่ งในถุงตาข่ายแล้วนาไปต้มน้าที่เดือดเพื่อสกัดเอาสารท่ีมีอยนู่ ้นั ออกมา
ถา้ สที ีอ่ อกมาเข้มให้นาผ้าทผ่ี ูกลายใสล่ งไปในหม้อต้มสี กลับดา้ นผ้าหรือกวนให้ตลอด เพื่อใหส้ ีดดู
สมา่ เสมอ ถ้าพอใจแล้วให้นาออกมาวางใหเ้ ย็นก่อนประมาณ 30 นาที ข้ึนอยู่กบั อณุ หภูมิของนา้ ท่ีเรา
ต้ม แลว้ คอ่ ยนาไปลา้ งขย้เี บาเบาในตวั ทาปฏิกริ ยิ าเพือ่ ใหเ้ กิดส่ิงใหม่
ข้นั ตอนการทาผ้ามัดย้อม
1. เตรียมวัสดุอปุ กรณ์
2. ละลายสีด้วยน้าอุ่น
3. ใส่น้าให้ครบตามจานวน
4. พักไว้
5. เตรียมผา้ ท่ีมัดใสล่ งไปในน้ายอ้ ม
6. กลบั ดา้ นผ้าหรอื กวนไปมา
7. แชท่ ้งิ ไว้ประมาณ 30 นาที
8. นาออกมาวางใหเ้ ยน็ ก่อนประมาณ 30 นาที
9. นาไปลา้ งในนา้ สะอาดและแกะเชือกออก
10. นาไปตากใหแ้ ห้ง และจะได้
5
บทท่ี 3
วธิ ดี าเนินการ
ในการศึกษาครงั้ นีผ้ ู้ศึกษาไดท้ าการศึกษา การทาผ้ามดั ย้อม ซ่งึ มวี ธิ กี ารดงั น้ี
ระเบียบวิธที ่ีใชใ้ นการศกึ ษา
ในการศึกษาใชร้ ูปแบบการสารวจ สืบค้นขอ้ มลู จากหนังสือ อินเตอรเ์ นต็ และตอบ
แบบสอบถาม
ประชากรทใี่ ช้ในการศึกษา
1. ประชากร
ประชากรทใี่ ชใ้ นการศึกษาครั้งนี้ เปน็ นักเรียนระดับชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5/8
โรงเรยี นสตรีราชนิ ทู ศิ ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 จานวน 1 ห้องเรียน เป็นนักเรยี น
ทั้งสนิ้ 43 คน
2. กลุม่ ตัวอยา่ ง
กลมุ่ ตัวอยา่ งท่ีใช้ในการศึกษาครั้งนไี้ ด้แก่นกั เรียนระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 5/8
โรงเรียนสตรรี าชนิ ูทศิ ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 เปน็ นักเรยี นทงั้ สิ้น 10 คน ไดม้ าโดย
สมุ่ อย่างงา่ ย จานวน 1 ห้องเรียน เพอื่ ตอบแบบสอบถามท่ีสรา้ งขนึ้
3. ระยะเวลาท่ใี ชใ้ นการศกึ ษา
ระยะเวลาท่ีใช้ในการศึกษา ในภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564
วธิ ดี าเนนิ การศกึ ษา
ผ้ศู กึ ษาได้ดาเนนิ การตามข้นั ตอนดงั นี้
1. กาหนดเรอื่ งทจ่ี ะศึกษา โดยสมาชิกทง้ั 5 คน ประชมุ รว่ มกัน และร่วมกันคิดและวางแผน
วา่ จะศกึ ษาเร่ืองใด
2. สารวจปญั หาทพี่ บในโรงเรียน ซง่ึ มที ง้ั ปัญหาด้านผู้เรียน ครูผู้สอน อาคาร
สถานที่ สง่ิ แวดล้อมในโรงเรียน ฯลฯ
3. เลือกเรื่องทจี่ ะศกึ ษา โดยเลือกเรอ่ื งท่ีสมาชกิ มีความสนใจมากที่สดุ เพื่อเปน็ แรงจงู ใจใน
การคน้ หาคาตอบ
4. ศกึ ษาแนวคดิ ในการแก้ปญั หา ( ในขอ้ นย้ี ังไม่สามารถดาเนนิ การได้เนื่องจาก การเรียน
รายวชิ า IS 2 เวลามีจากดั ผศู้ ึกษาจึงทาได้เฉพาะการสารวจความคดิ เห็นและสรา้ ง
เครอื่ งมือ (แบบสอบถาม) ศกึ ษาเพยี งเพ่ือใหม้ ีความรู้ ความเขา้ ใจ เร่ืองการทาผา้ มดั ย้อม
5. ตัง้ ชอื่ เรื่อง
6
6. สมาชิกทง้ั 5 คนของกลมุ่ พบครผู ู้สอนเพ่ือปรึกษา วางแผนและรับฟงั ความคิดเห็น
ปรบั ปรุงแก้ไข
7. เขยี นความสาคัญความเป็นมาของปัญหา วัตถปุ ระสงค์ สมมตุ ฐิ าน ขอบเขตการวจิ ยั
และประโยชนท์ ค่ี าดวา่ จะไดร้ ับ โดยศกึ ษาข้อมลู จากหนังสือ และสบื คน้ ข้อมลู จาก
อนิ เตอรเ์ น็ต และจดบนั ทึกในโครงร่างรายงานเชิงวชิ าการ
8. สร้างเครอื่ งมือ ทเี่ ป็นแบบสอบถาม จานวน 10 ข้อ
9. นาเคร่อื งมือทป่ี รบั ปรุงแล้วไปใชก้ บั กล่มุ ตวั อย่าง
10. รวบรวมขอ้ มลู
11. วิเคราะหข์ ้อมูล
12. สรุปการศึกษา
7
บทที่ 4
ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มูล
การวเิ คราะห์ขอ้ มลู การทาผ้าย้อมครามจากธรรมชาติ ระดับช้นั มัธยมศึกษาปที 5่ี /8 โรงเรียน
ไดผ้ ลดังน้ี
ตารางท่1ี แสดงผลระดบั คะแนนการประเมนิ การทาผา้ ยอ้ มครามจากธรรมชาตริ ะดับชั้น
มธั ยมศึกษาปีท่ี 5/8 โรงเรียนสตรีราชนิ ูทศิ จานวน 43 คน
รายการประเมนิ ระดับคะแนน
5 4321
1.โครงงานชิน้ นี้เป็นท่ีรจู้ กั ของนกั เรียน 65.25% 15.90% 10.45% 5.63% 2.77%
2. ผูจ้ ัดทาออกแบบลวดลายไดส้ วยงาม 30.50% 40.73% 20.25% 6.55% 1.97%
3. ช้นิ งานมคี วามดงึ ดดู และน่าสนใจ 32.54% 40.98% 21.48% 3.58% 1.42%
4.ทาให้นาเสอื้ ผา้ ที่ไม่ได้ใช้แล้วกลับมา 65.25% 13.25% 10.85% 2.34% 0.21%
ใช้ให้เกิดประโยชน์
5.นาเสนอผา้ ย้อมครามในรปู แบบใหม่ 31.87% 41.76% 15.38% 10.32% 0.67%
ไดด้ ี
6.ทาให้เสอื้ ผ้าไม่น่าเบ่ือ แปลกใหม่ 42.08% 38.89% 12.36% 5.32% 1.35%
7.ใช้ทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่า 53.27% 16.45% 11.89% 10.81% 7.58%
8.ยกระดบั ช้นิ งานได้ดี 8
53.27% 16.45% 11.89% 10.81% 7.58%
จากตารางท่ี 1 พบวา่ โครงงำนชน้ิ นเี้ ป็นท่รี จู้ ักของนกั เรียน ทำใหน้ ำเสอ้ื ผ้ำท่ีไม่ไดใ้ ช้แล้วกลบั มำใชใ้ ห้
เกดิ ประโยชน์ ทำใหเ้ ส้ือผำ้ ไม่น่ำเบ่ือ แปลกใหม่ และใช้ทรัพยำกรไดอ้ ย่ำงคุ้มค่ำ สูงสุดอยูใ่ นระดับ5
คดิ เปน็ รอ้ ยละ 65.25% 65.25% 42.08% และ53.27% ตำมลำดบั
ตารางที่ 2 แสดงผลการประเมินการทาผ้ายอ้ มครามจากธรรมชาติ
รายการประเมิน คา่ เฉล่ีย ระดับคณุ ภาพ
1.โครงงานชน้ิ น้เี ป็นทรี่ ู้จักของนกั เรยี น 65.25% 5
2.ผู้จัดทาออกแบบลวดลายได้สวยงาม 30.50% 4
3.ชนิ้ งานมคี วามดึงดูดและน่าสนใจ 32.54% 4
4.ทาใหน้ าเสื้อผ้าท่ีไม่ไดใ้ ชแ้ ล้วกลบั มาใชใ้ ห้เกดิ 65.25% 5
ประโยชน์ 31.87% 4
5.นาเสนอผ้าย้อมครามในรูปแบบใหม่ไดด้ ี
6.ทาให้เสือ้ ผ้าไม่นา่ เบื่อ แปลกใหม่ 42.08% 5
7.ใชท้ รพั ยากรได้อย่างคุ้มคา่ 53.27% 5
8.ยกระดบั ชน้ิ งานไดด้ ี 36.02% 4
รวมทง้ั ฉบบั 44.60% 5
8
จากตารางที่ 2 พบว่า โครงงำนช้ินน้เี ปน็ ทร่ี จู้ ักของนกั เรียน ทำให้นำเส้ือผำ้ ท่ีไม่ไดใ้ ช้แล้ว
กลบั มำใชใ้ ห้เกิดประโยชน์ ทำใหเ้ ส้อื ผำ้ ไม่น่ำเบือ่ แปลกใหม่ และใชท้ รพั ยำกรได้อย่ำงค้มุ คำ่ อยูใ่ น
ระดับคุณภำพมำกท่สี ดุ ผู้จัดทำออกแบบลวดลำยได้สวยงำม ช้ินงำนมคี วำมดึงดูดและนำ่ สนใจ
นำเสนอผ้ำยอ้ มในรูปแบบใหม่ไดด้ ี อยู่ในระดับคุณภำพมำก รวมทง้ั ฉบับคดิ เปน็ คำ่ เฉล่ีย44.60% อยู่
ในระดับคุณภำพมำกทส่ี ดุ
10
บทที่ 5
สรปุ ผล อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ
จากการศึกษาคร้งั นี้
1. เพื่อศึกษาเก่ียวกับวธิ ีการทาผา้ มัดย้อม
2. เพอ่ื ใหน้ ักเรียนมีรายไดเ้ สริมระหวา่ งเรียน
3. เพื่อสามารถลงมือปฏบิ ตั ิทาผา้ มัดยอ้ มด้วยตนเอง
4. เพอ่ื เรียนรสู้ ที ีใ่ ชท้ าย้อมผ้า โรงเรยี นสตรีราชนิ ูทิศ ในภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564 ซ่งึ
สามารถสรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะได้ ดงั น้ี
1. วัตถปุ ระสงคข์ องการศึกษา
2. สมมตุ ติฐานของการศึกษา
3. ขอบเขตของการศกึ ษา
4. เคร่อื งมือท่ีใชใ้ นการศึกษา
5. วเิ คราะห์ข้อมูล
6. สรุปผลการศึกษา
7. ขอ้ เสนอแนะ
วัตถปุ ระสงคข์ องการศึกษา
1. เพอ่ื ศึกษาเกยี่ วกบั วธิ ีการทาผา้ มัดย้อม
2. เพ่ือใหน้ ักเรยี นมรี ายได้เสริมระหว่างเรยี น
3. เพ่อื สามารถลงมือปฏบิ ัตทิ าผ้ามัดย้อมด้วยตนเอง
4. เพื่อเรยี นร้สู ีท่ใี ช้ทาย้อมผ้า
11
สมมตุ ติฐานของการศึกษา
1. ร้วู ิธีการทาผา้ มดั ย้อม
2. มีรายไดเ้ สรมิ ในการทาผา้ มัดยอ้ ม
3. ทาผา้ มัดย้อมได้ด้วยตนเอง
4. สีย้อมผา้ ที่ได้มีลวดลายทีส่ วยงาม
ขอบเขตของการศึกษา
สถานที่ โรงเรียนสตรีราชินทู ศิ 103 ศรสี ุข ตาบลบ้านเล่อื ม อาเภอเมืองอุดรธานี จงั หวัด
อดุ รธานี ระยะเวลา เดือนมิถุนายน 2564 – เดือนมกราคม 2565
1. ประชากรทใี่ ชใ้ นการศึกษา
ประชากรทใ่ี ช้ในการศึกษาคร้ังนี้ เปน็ นกั เรยี นระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5/8 โรงเรียนสตรีราชนิ ูทศิ
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จานวน 1 หอ้ งเรยี น เป็นนกั เรียนทัง้ ส้ิน 43 คน
2. กล่มุ ตัวอยา่ งทใี่ ชใ้ นการศึกษา
กลุม่ ตวั อย่างท่ใี ชใ้ นการศกึ ษาครงั้ นี้ ไดแ้ กน่ กั เรยี นระดับชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 5/8 โรงเรยี นสตรรี าชินทู ศิ
ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2564 เป็นนักเรียนทั้งสิน้ 10 คน ไดม้ าโดยสุม่ อย่างง่าย จานวน 1
หอ้ งเรยี น เพื่อตอบแบบสอบถามทส่ี ร้างขนึ้
เคร่ืองมอื ที่ใชใ้ นการศึกษา
1.ออกแบบสอบถาม เร่ืองการทาผา้ มัดยอ้ ม โดยขอคาแนะนาจาก คณุ ครูวนิดา บญุ พเิ ชฐวงศ์
โดยเตรยี มรา่ งข้อคาถาม มีลักษณะเปน็ ข้อคาถามจานวน 10 ขอ้ เป็นแบบมาตราสว่ นประมาณ 5
ระดับ คือ 5 หมายถึง เห็นด้วยมากท่ีสุด
4 หมายถงึ เห็นด้วยมาก
3 หมายถึง เห็นดว้ ยปานกลาง
2 หมายถึง เห็นดว้ ยน้อย
1 หมายถงึ เห็นดว้ ยน้อยท่สี ุด
12
การพิจารณาค่าเฉล่ยี จะใชเ้ กณฑ์ดงั นี้
ค่าเฉลย่ี 4.51 – 5.00 หมายถึง เหน็ ด้วยมากท่สี ุด
คา่ เฉลยี่ 3.51 – 4.50 หมายถึง เหน็ ดว้ ยมาก
ค่าเฉล่ีย 2.51 – 3.50 หมายถึง เห็นด้วยปานกลาง
ค่าเฉลีย่ 1.51 – 2.50 หมายถึง เหน็ ด้วยน้อย
คา่ เฉลย่ี 1.00– 1.50 หมายถึง เห็นด้วยน้อยท่ีสุด
2. สรา้ งแบบสอบถาม เร่อื งการทาผา้ มดั ย้อม โดยขอคาแนะนาจาก คุณครูวนิดา บญุ พิเชฐ
วงศ์ จากนนั้ นามาปรบั ปรุงแกไ้ ข แลว้ นาไปตรวจสอบความเหมาะสม
3. นาแบบสอบถามเร่อื ง การทาผ้ามัดยอ้ มทีแ่ กไ้ ข ปรบั ปรุงแลว้ ให้กลมุ่ ตัวอยา่ งประเมนิ
หลงั จากนน้ั นาผลทีไ่ ด้มาหาค่าเฉล่ีย
การวิเคราะห์ข้อมูล
ในการวเิ คราะห์ข้อมูล ผศู้ ึกษาไดว้ ิเคราะหข์ ้อมูลของนกั เรยี นทมี่ ีต่อการทาผ้ามัดยอ้ ม
1.นาแบบสอบถามทง้ั หมดท่ีตอบโดยนกั เรียนกลุ่มตัวอย่าง มาหาค่าคะแนนรวมได้ค่าเฉลี่ย
44.60%
2.นาผลรวมมาคดิ คา่ ร้อยละได้65.25%
สรุปผลการศึกษา
การทาโครงงานผา้ มัดย้อมตลอดระยะเวลาระหว่างปฏบิ ัติงาน ผลสาเรจ็ เป็นท่นี ่าพึงพอใจแก่
ผปู้ ฏบิ ัติงานเปน็ อย่างมาก เพราะนอกจากการทาโครงงานผ้ามดั ยอ้ มแล้วยงั ก่อใหเ้ กิดประโยชนใ์ นด้าน
อน่ื ๆอีกมากมายและยังไดร้ ู้จกั การใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์ เปน็ แบบอย่าใหบ้ ุคคลท่ีกาลงั ศกึ ษา
หรือสนใจได้เรียนรู้ตาม เพ่ือให้หารายไดเ้ สรมิ เพราะเปน็ การปฏิบตั งิ านที่ใช้ไดจ้ ริง
การอภปิ รายผล
จากการศึกษา การทาผา้ มัดย้อม ของนักเรียนระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 5 โรงเรียนสตรีราชนิ ู
ทศิ พบวา่ นกั เรยี นทุกคนมคี วามพงึ พอใจอยู่ในระดับเห็นดว้ ยมากท่ีสดุ คิดเปน็ ร้อยละ 65.25%
13
ขอ้ เสนอแนะในการศกึ ษาครัง้ น้ี
- การเลือกสีย้อมที่มคี วามเขม้ ข้น สีจะตดิ แน่นและจะทาใหล้ ายของเสื้อผา้ นั้นมีลายทชี่ ดั และมี
ความสวยงาม
14
ภาคผนวก
15
ภาคผนวก ก
การมัดผ้าเพ่อื ให้เกิดลวดลายของผา้ มัดย้อม
การยอ้ มสผี า้ เพ่อื ใหเ้ กิดสีสนั ทส่ี วยงาม
สสี ันและลวดลายทไี่ ด้ของผ้ามัดย้อม
16
บรรณานุกรม
การย้อมผ้าดว้ ยวสั ดธุ รรมชาติ.(2559). สืบคน้ จาก http://www.sptn.dss.go.th/2
จกั รพันธ์ นิราสิรา.(2562).การยอ้ มสผี า้ : แนวคิด ทฤษฎแี ละการประยกุ ต์ใช.้
พษิ ณุโลก: สานักพมิ พ์มหาวทิ ยาลัยนเรศวร. สืบค้นจาก https://www.ookbee.com
วนิ ยั วทิ ยาลยั ,สวุ ิทย์ บุญจิเรก.(2563). สิ่งประดิษฐ์กิจกรรมโครงงานวิทยาศาสตร์ สานกั พิมพ์ฟสิ กิ ส์
เซน็ เตอร์
กรุงเทพ. โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพรา้ ว
โครงงานการย้อมผา้ .(2562).สบื ค้นจาก http://tratedu.net/ssss2019/upload/docs